ตอนที่ 8
โรสไปจูงมือคำแก้วมาที่ห้อง แนะนำให้รู้จักกับหมอทรงชัย คำแก้วยกมือไหว้ โรสแนะนำต่อ "คุงนายคำแก้วเป็นคุงนายที่สี่ค่ะคุงหมอ"
"ครับ ยินดีที่ได้รู้จักนะครับคุณนายที่สี่ ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง" ทรงชัยเอ่ยสุภาพ
"อาจู...ไปตามอาจิวมาสิ" โรสสั่ง อาจูเดินออกจากห้องไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจมาก
เมื่อมากันครบขาแล้ว ก็ลงมือเล่นไพ่นกกระจอกกัน ปรากฏว่าโรสเล่นได้ หมอทรงชัยเล่นได้ แต่แก้วเสียไปจนเกือบหมด ยิ่งเล่นก็ยิ่งรู้สึกไม่สบายใจ ไม่สนุก สุดท้ายคำแก้วหาข้ออ้างขอตัวเลิกเล่น บอกว่าปวดหัวขอไปพักก่อน
อาจิวยุว่าไม่เป็นไรหรอกเสียเงินนิดๆหน่อยๆเอง ส่วนโรสพูดพาดพิงไปถึงเรื่องอื่นบอกคำแก้วว่าถือว่าทำบุญก็แล้วกันเพราะเยนหลิงเหี่ยวแห้งมานาน ให้ยืมนายไปสักคืนจะได้ได้บุญ เสียไพ่เท่าไหร่ก็ไปบอกเยนหลิงยังได้
"โรสเก๊งเก่ง เข้าใจสรรหาเรื่องตลกๆมาคุย" คำแก้วประชดเสียงอ่อนหวาน โรสหัวเราะคิกคักแล้วชวนเล่นต่อ
อาจิวรีบทำไพ่ต่อ โรสหันไปยิ้มหวานกับทรงชัย ทรงชัยยิ้มรับนัยน์ตาเป็นประกาย คำแก้วลอบมองทั้งสองอย่างสงสัยขึ้นมาตงิดๆ
ooooooo
วันต่อมา ขณะคำแก้วนั่งหลับตานิ่งๆอยู่ที่ห้องโถงตัวเองนั้น เยนหลิงเคาะประตูแล้วเข้ามาทักคำแก้วว่าเป็นอะไร ถามหยอกว่าเดี๋ยวนี้เล่นไพ่ทุกวันเลย ได้ หรือเสียล่ะ
"เสียทุกวันเลยค่ะ วันนี้แก้วไม่ค่อยสบายเลยเลิกก่อน"
เยนหลิงเข้าไปฉุดมือคำแก้วให้ลุกขึ้น บอกว่าขืนทำหมดเรี่ยวแรงอย่างนี้เดี๋ยวได้ป่วยจริงๆ แล้วให้คำแก้วไปตัดผมให้ ตนหน่อย คำแก้วไม่กล้าเพราะไม่เคยตัดให้ใครนอกจากพวกเด็กๆน้องๆเท่านั้น
เยนหลิงเคี่ยวเข็ญจนคำแก้วจับกรรไกร จับหวีตั้งท่าอยู่นานจนมือที่จับกรรไกรสั่น
"ลงมือเลยคำแก้ว" เยนหลิงร้องบอก ถามว่ามัวแต่กลัวอะไรอยู่ จนคำแก้วทำใจกล้าตัดผมเยนหลิงทีละปอย...ทีละปอย พอปอยที่สามอยู่ใกล้หู ปลายกรรไกรหนีบถูกติ่งหูเยนหลิงเข้า
เยนหลิงร้องกรี๊ดสุดเสียง ยกมือกุมหู พอเอามือออกเห็นเลือดที่ฝ่ามือก็แผดเสียงกรี๊ดลั่นยาวเหยียด คำแก้วตกใจยืนตะลึง
เสียงกรีดร้องของเยนหลิงดังไปถึงห้องโรส ทั้งโรสและอาจูพากันวิ่งมาที่ห้องเยนหลิงผลักประตูเข้าไป เห็นเยนหลิงยังร้องกรี๊ดๆอยู่มือเปรอะไปด้วยเลือด โรสถลาเข้าไปถามว่าเป็นอะไร
"หู...หูฉัน...." เยนหลิงสะอึกสะอื้น พอโรสเดินเข้าไปดูก็ร้อง "ไอ๊หยา!" เยนหลิงหันไปตะคอกถามคำแก้วว่าทำยังไงให้ตัดผมทำไมมาตัดหู ว่าแล้วก็ร้องไห้ฟูมฟาย คำแก้วยิ่งลนลานจนสั่นไปหมด
"ขอโทษค่ะ...แก้วไม่ได้ตั้งใจเลย"
เยนหลิงร้องไห้เสียงดังให้อาเง็กช่วยดูแผลให้ว่าเป็นยังไง พออาเง็กบอกว่าแหว่งเลยล่ะเท่านั้น เยนหลิงก็คลั่งขึ้น มาตวาดไล่คำแก้ว "อีบ้า...ออกไป๊" พลางผลักคำแก้วเต็มแรงจนกระเด็นไป
ไม่ว่าคำแก้วจะขอโทษและยืนยันว่าตนไม่ได้แกล้งอย่างไร เยนหลิงก็ไม่เชื่อ ด่าว่าอย่างรุนแรง แม้แต่โรสที่ช่วยพูดว่าคำแก้วจะแกล้งทำไมก็ถูกไล่ตะเพิด จนโรสฉุนขึ้นมาด่าว่าเหมือนหมาบ้า เลยถูกเยนหลิงคว้าแจกันใกล้มือจะขว้างใส่ อาเง็กรีบห้ามไว้
โรสกับคำแก้วตกใจความบ้าคลั่งของเยนหลิงพากันวิ่งออกจากห้อง เจอพวกคนใช้ ทั้งอาจู ผิน อ่อน ที่พากันมาขืนขวางประตูดูเหตุการณ์อยู่ คำแก้วด่ากราด
"อีพวกบ้า ยืนมุงกันอยู่ได้ ไปตามหมอมาดูคุณนายที่สองเร็วสิ"
พวกคนใช้วิ่งกระเจิงกันไป คำแก้วกับโรสวิ่งขึ้นชั้น 3
ooooooo
ขึ้นมาถึงชั้น 3 คำแก้ววิ่งเข้าห้องตัวเอง โรสวิ่งตามเข้าไป คำแก้วยังตกใจกลัวบอกโรสว่าตนไม่ได้ ตั้งใจจริงๆ เพราะไม่ค่อยสบายมือก็เลยสั่นไปหนีบเอาติ่งหูเยนหลิงเข้า
โรสหัวเราะลั่นบอกคำแก้วว่าถ้าตนเกลียดใครจะไม่แค่ ตัดติ่งหูเท่านั้น แต่จะตัดมันทั้งใบหูเลย คำแก้วยิ่งตกใจเพราะเหมือนโรสเชื่อว่าตนจงใจแกล้งเยนหลิง โรสหรี่ตาพูดเป็นนัยว่า
"แหม ใครจาไปลู้ นอกจากซาหวัน เฮอะสมน้ำหน้านังเยนหลิง เจอลีเข้าจงล่าย" โรสพูดอย่างสะใจว่า ให้รู้ฤทธิ์เสียบ้าง ตัวเองดีแต่วางแผนชั่วทำลายคนนั้นคนนี้ ใจแคบใจดำเหมือนอีกา ยุคำแก้วว่าตั้งแต่นี้ต่อไปคำแก้วจะต้องเอาชนะเยนหลิงให้ได้
ยิ่งฟังคำแก้วก็ยิ่งงงถามว่าจะให้ตนทำอะไร โรสพูดเรื่องอะไร
โรสพูดด้วยแววตาแค้นไม่หายว่า อยากรู้เรื่องตอนตนกับเยนหลิงมีลูกไหมจะเล่าให้ฟัง แล้วโรสก็เล่าว่า ตนกับเยนหลิงท้องพร้อมๆกัน พอท้องสามเดือนเยนหลิงก็แอบเอาสลอดมาใส่อาหาร ตนลงท้องหน้าเขียวหน้าเหลือง แต่ไม่แท้ง เรียกว่าบุญยังดีกว่าเยนหลิง
คำแก้วนิ่งอึ้งอย่างคิดไม่ถึงกับเรื่องร้ายกาจในอดีต โรสยังเล่าต่ออย่างสะใจว่า
"คลอดก็คลอดพร้อมกัน มันลงทุนจ้างหมอฝาหรั่งให้มาฉีดยาเร่งให้ลูกเกิดก่อน ยอมเสียเงินให้หมอเอาเครื่องมือดึงจนอย่างว่าฉีกขาดไม่มีชิ้นดี แต่วาสนาอั๊วดีกว่ามันเลยแพ้ลูกอั๊วคลอดก่อนแถมยังเป็นผู้ชาย มันล่ายลูกสาวนังกองแก้วนี่ไง เกิดหลังลูกชายอั๊วตั้งสามชั่วโมง" เล่าแล้วโรสหัวเราะสะใจ
คำแก้วถามว่าจริงหรือ? เยนหลิงถึงขนาดนั้นเลยหรือ? โรสสาบานว่าจริงทุกอย่างไม่เชื่อคอยดูต่อไปก็แล้วกัน
"แต่วันนี้แก้วไม่ได้ตั้งใจจริงๆเชื่อแก้วนะโรส แก้วไม่เคยคิดทำอะไรไม่ดีอย่างนั้น"
"คอยดูมันเอาคืนจากลื้อก็แล้วกัน"
ฟังโรสแล้วคำแก้วเครียด กังวล ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรตามมาอีก
ooooooo
เพราะเม่งฮวยโทร.ตามก้องเกียรติ เย็นนี้เขาจึงมากับเรืองยศ แต่พอจอดรถเท่านั้น คำแก้วก็เดินอ้าวออกไปแอบดูตัดสินใจว่าจะออกไปหาเขาดีหรือไม่ดี แต่เหมือนมีลางสังหรณ์ ก้องเกียรติหันมองมา ตาต่อตาประสานกันพอดี ก้องเกียรติดูออกว่าคำแก้วมีเรื่องร้อนใจเป็นทุกข์ จึงเดินเข้าไปหา เรืองยศที่กำลังลงจากรถหันมองขวับทันที
พอก้องเกียรติถามคำแก้วว่ามีเรื่องอะไรหรือเปล่าเท่านั้น เธอก็พรั่งพรูความร้อนใจออกมาอ้อนวอนให้เขาช่วยด้วย จนก้องเกียรติต้องปลอบให้ใจเย็นๆค่อยๆเล่า
ขณะทั้งสองยืนคุยกันนั้น เรืองยศจ้องมองมาอย่างไม่พอใจมาก
คำแก้วเล่าเรื่องให้ฟังอย่างละเอียด แล้วบอกก้องเกียรติด้วยน้ำเสียงเป็นทุกข์หนักว่า
"คุณชายคะ แก้วทำอะไรไม่ถูก ใครจะเชื่อว่าแก้วไม่ได้ตั้งใจ ใครได้ยินเข้าก็ต้องคิดว่าแก้วจงใจแกล้งคุณพี่เยนหลิง ทั้งๆที่..."
"เดี๋ยว...คำแก้วเรียกคุณนายที่สองว่าคุณพี่เยนหลิงหรือ แสดงว่าความสัมพันธ์ของเธอกับคุณนายที่สองเป็นไปด้วยดี ไม่เหมือนกับคุณนายที่สามหรือกับอาม้าของฉัน"
ก้องเกียรติตั้งข้อสังเกต แล้วแนะเธอว่า
"เธอลองถามใครก็ตามที่สงสัยว่าเธอจงใจทำร้ายคุณนายสองว่า เมื่อความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดี เธอจะทำร้ายคุณนายสองเพื่อประโยชน์อะไร เธอยิ่งจะต้องดีกับคุณนายสอง เพราะเป็นคนหนึ่งในจำนวนไม่กี่คนที่ดีต่อเธอ"
คำแก้วเห็นทางแก้ปัญหา เธอมองก้องเกียรติอย่างซาบซึ้งใจในคำแนะนำ
ooooooo
เมื่อเรื่องถึงเจ้าสัว ทุกคนถูกเรียกมาที่ห้องรับแขก ชั้นล่าง เมื่อเจ้าสัวถามคำแก้วว่าจะว่ายังไง คำแก้วชี้แจง ซื่อๆตามคำแนะนำของก้องเกียรติว่า
"นายคะ แก้วจะทำร้ายคุณพี่เยนหลิงเพื่อประโยชน์อะไรคะ ในเมื่อเราสองคนมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน แก้วเคารพนับถือคุณพี่เสมอ แก้วยิ่งจะต้องดีกับคุณพี่ เพราะคุณพี่เป็นคนหนึ่งที่ดีต่อแก้ว คนที่ดีต่อแก้วในบ้านหลังนี้มีไม่กี่คนหรอกค่ะ"
เจ้าสัวฟังแล้วนิ่งคิด หันไปถามเยนหลิงว่าติดใจอะไรอีกไหม เยนหลิงก้มหน้าไม่ตอบ แต่สีหน้ายังแสดงความไม่พอใจ ในที่สุดเจ้าสัวตัดสิน
"เอ้า...อาคำแก้ว ลื้อมาขอโทกพี่เขาเสีย"
คำแก้วเข้าไปคุกเข่าไหว้ลงที่ตักของเยนหลิง เงยหน้ามองด้วยแววตาใสซื่อเอ่ยเบาๆ
"คุณพี่คะ เชื่อแก้วนะคะ แก้วไม่มีเจตนาจริงๆค่ะ มือมันสั่นก็เลยพลาดไป"
เยนหลิงโบกมือบอกว่าเชื่อแล้ว จะพูดมากไปทำไมอีก
คำแก้วดีใจรีบขอบคุณแล้วลุกขึ้นจะออกไป เจ้าสัวเรียกไว้บอกให้รอด้วย ถามว่าจะไปไหน คำแก้วกระซิบว่ายังไม่ได้อาบน้ำเลย เจ้าสัวเร่งให้รีบไปอาบเสียแล้วทำท่าจะเดินตามคำแก้วไป
เยนหลินเรียกเจ้าสัวไว้ บอกว่าเดี๋ยวยี่ฮุยกับยี่หรงจะมา ให้พบคุณเตี่ยหน่อย เจ้าสัวชะงัก พอดีอาเง็กพาสองพี่น้องเข้ามา เจ้าสัวจึงบอกคำแก้วให้ไปก่อน
คำแก้วโล่งใจ ดีใจ วิ่งเริงร่าขึ้นชั้นบนจะไปห้องตัวเอง
"หยุดเหลียวนี้!" เสียงเม่งฮวยประกาศิต ทำเอาคำแก้วชะงักค้างกลางอากาศ ค่อยๆหันมองไปสบตาก้องเกียรติที่ยืนอยู่ข้างหลังเม่งฮวยเข้าพอดี...
ooooooo
เม่งฮวยโวยวายใส่คำแก้วว่าบอกกี่หนแล้วว่าไม่ให้วิ่ง ไม่มีกะโหลกไว้จำรึไงหรือมีเอาไว้เขียนหน้าสวยๆอย่างเดียว คำแก้วทำท่าไหว้ขอโทษแบบจีนแล้วเงยหน้าทำสงบเสงี่ยมเจี๋ยมเจี้ยม ก้องเกียรติอยู่ข้างหลังเม่งฮวยเขาจ้องมองคำแก้วนิ่ง
เม่งฮวยยังด่าว่าคำแก้วไม่เลิก คำแก้วทำเป็นก้มหน้าแต่แอบมองก้องเกียรติยิ้มให้นิดๆอย่างรวดเร็ว เร็วจนเม่งฮวย มองไม่ทัน ยังคงด่าต่อพอเห็นคำแก้วยิ้มก็ถามอย่างหาเรื่องว่ายิ้มอะไร
"ค่ะ ต่อไปจะไม่ยิ้มแล้วค่ะ" คำแก้วไหว้ขอโทษแบบคนจีนอีกครั้งแล้ววิ่งโหย่งๆตัวขึ้นไป ยังถูกเม่งฮวยตะโกนด่าตามหลังไปว่า
"ยังวิ่งอีก ติงต๊อง บ้าๆบอๆ"
ก้องเกียรติถอยเข้าห้องไปนานแล้ว เลยไม่เห็นอาม้าจิกตามองคำแก้วไปอย่างฉุนจัด
ooooooo
ที่ห้องคำแก้ว อาอึ้มมารอพบคำแก้วอยู่ กิมลั้งเอาเสื้อผ้าซักและรีดแล้วของคำแก้วมาแขวนใส่ตู้ กิมลั้งทำกระแทกกระทั้นจนอาอึ้มบ่นว่ากระแทกแบบนี้เดี๋ยวก็ต้องจัดใหม่ ถูกกิมลั้งด่าว่าอย่ายุ่ง แก่อยู่ส่วนแก่
"ฮ่อๆลีๆ แก่อยู่ส่วงแก่ สาวอยู่ส่วงสาว นายอยู่ส่วงนาย คนใช้อยู่ส่วงคนใช้"อาอึ้มพูดย้ำประโยคหลังหมายให้กระทุ้งความคิดของกิมลั้งบ้างแต่ไม่มีประโยชน์ อาอึ้มเลยทำเป็นไม่สนใจ
กิมลั้งแขวนเสื้อตัวสุดท้ายแล้วกระแทกประตูตู้ปิดดังปัง! คำแก้วเข้ามาพอดีถามว่าทำไมต้องกระแทกฝาตู้ กิมลั้งเถียงว่ามันฝืด คำแก้วลองเปิดฝาตู้ดูก็ไม่เห็นมันฝืดตรงไหน เลยปรามกิมลั้งว่า
"จำไว้ ทีหลังอย่าทำอย่างนี้ อย่ากระแทกของของฉัน" พูดแล้วเห็นกิมลั้งอ้าปากจะเถียง คำแก้วสั่ง "หยุด! ไม่ต้องเถียง ฉันรู้นะว่าแกจะเถียงว่าหนูไม่ได้กระแทกนี่คะ หนูทำค่อยๆมันกระแทกเอง ใช่ไหม"
"ใช่" กิมลั้งตอบอย่างท้าทายเชิดหน้าใส่
คำแก้วฉุนขึ้นมาปรามกิมลั้งว่าถือดียังไงมากำเริบกับตน กิมลั้งเถียงอีก อาอึ้มเลยบอกให้กิมลั้งออกไปเสีย กิมลั้งลุกพรืดสะบัดหน้ากระแทกเท้าออกจากห้อง ผลักประตูดังปัง!
อาอึ้มเห็นฤทธิ์กิมลั้งแล้วเดินมาตบแขนคำแก้วเบาๆเชิงปลอบใจ
ออกจากห้องแล้ว กิมลั้งยังแอบฟังเสียงข้างในอยู่หน้าห้อง พอเห็นเงียบก็กระแทกเท้าลงบันไดไป
ooooooo
คำแก้วได้ยินเสียงวิ่งตึงตังของกิมลั้ง หันมาบอกอาอึ้มว่า "มันสอดจมูกเรื่องชาวบ้านที่สุดยืนฟังอยู่ตั้งนานเพิ่งไป" อาอึ้มได้แต่ส่ายหน้าบ่นๆว่า สาวๆเลือดร้อนจริงๆ
คำแก้วถามอาอึ้มว่ามานี่มีอะไรหรือเปล่า อาอึ้มจึงนึกได้บอกคำแก้วว่า
"วังนี้ใครๆก็เห็งว่าอาคุณนายคุยอยู่กับอาคุงชายใหญ่" คำแก้วถามว่าใครพูดว่าอะไรหรือ "อาคุงนายต้องเข้าใจนา อาคุงนายยังเป็งสาวๆอายุน้อยกว่าอาคุงชายใหญ่หลายปี หนุ่มๆสาวๆคุยกังมังม่ายลี"
"อ๋อ...กลัวจะเป็นชู้กันงั้นหรือ นึกว่าฉันจะเหมือนคุณนายเง็กท้องั้นสิ"
อาอึ้มรีบบอกว่าตนไม่ได้หมายความอย่างนั้นอย่าเพิ่งโกรธ อาอึ้มบ่นว่าคำแก้วเอาแต่โกรธ ตนกลัวไม่พูดดีกว่า พอคำแก้วอ้อน อาอึ้มพูดเหมือนเตือนสติว่า
"แม่เลี้ยงลูกเลี้ยงหนุ่มสาว...คนชอบเพ่งเล็ง ถึงอาคุงนายกับอาคุงชายใหญ่จาไม่คิดอาไล แต่คนช่างคิดมันมี ไม่ใช่แค่คิด มังพูกมากล่วย"
คำแก้วนิ่งคิดบอกอาอึ้มว่าตนไม่มีอะไรกับคุณชายใหญ่จริงๆ แค่คุยกันสองหนเอง อาอึ้มจึงชี้แจงอย่างละเอียดว่า ก้องเกียรตินั้นหน้าตาสวยดาราหนังยังสู้ไม่ได้ อายุสามสิบกว่ายังไม่สนใจจะแต่งงาน ธรรมเนียมคนจีนต้องรีบมีลูกมีหลานสืบตระกูลเยอะๆ ถึงหาเมียแต่งถูกใจยังไม่ได้ก็น่าจะมีเด็กๆเลี้ยงไว้ในบ้านบ้างจะได้มีลูกมีเต้า
คำแก้วย้อนถามว่าผู้หญิงดีๆที่ไหนจะยอมมาเป็นเด็กๆให้เพื่อช่วยทำพันธุ์เท่านั้น
"มีซี่" อาอึ้มยืนยันเพราะลูกชายคนดีๆมีเงินมีแซ่ดีๆหาได้ไม่ง่าย ทั้งยังชี้ให้เห็นว่า ผู้ชายต้องรีบมีเมียจะได้ช่วยทำงาน ดูแลอาเตียอาม้า มีลูกเร็วๆโตทันใช้
"อาอึ้มนั่นพูดถึงคนรึเปล่า ฟังแล้วเหมือนไม่ใช่คน เป็นโรงงานทำลูกรึไง พอแก่ก็ถูกปลดเกษียณกลายเป็นยายแก่ เฝ้าบ้าน ทำหน้าที่รับใช้ลูกต่อไป แล้วยังต้องทำหน้าที่หาเมียสาวๆให้ผัว ฉันฟังดูเหมือนไม่ใช่คนนะอาอึ้ม"
ฟังแล้วอาอึ้มเห็นถึงความหัวแข็งของคำแก้ว แต่ยังพยายามหว่านล้อม มองคำแก้วอยู่นาน ชมว่า
"อาคุงนายไม่สวยเหมือนเตียวเสี้ยนหรือไซซี แต่อาคุงนายก็สวย และที่สำคัญโหงวเฮ้งคุงนายลี น้ำเสียงลี ผิวก็ลี ผิวอย่างนี้เป็งคนสมบูรณ์ อนามัยลี"
คำแก้วยิ้มเบิกบานแจ่มใสให้อาอึ้ม แต่พอฟังอาอึ้มพูดประโยคต่อไปก็หน้านิ่ง อึ้งสนิท
"แต่อาคุงนายต้องลาวังตัว อย่าไปทำเลื่องม่ายลี"
ooooooo
แม้เยนหลิงจะมีแต่ลูกสาวสองคนให้เจ้าสัว แต่ เธอก็พยายามให้ยี่ฮุยกับยี่หรงใกล้ชิดเอาใจเจ้าสัวเพื่อไม่ให้น้อยหน้ากว่าคุณชายใหญ่และตี๋เล็กของโรส วันนี้ก็พาลูกมาคลอเคลียเอาใจเจ้าสัวที่ห้อง
เจ้าสัวเล่นกับยี่ฮุย ยี่หรงครู่เดียวก็บอกให้ไปอยู่กับอาม้าแล้วจะลุกออกจากห้อง เยนหลิงรีบเรียกไว้ ถามอ้อนๆว่า "คืนนี้นายไม่นอนที่นี่เหรอคะ"
"ลื้อไม่ซาบาย หูก็เจ็บ อั๊วไม่รบกวนลื้อหรอก" เจ้าสัวมีเหตุผลที่น่าฟัง พูดแล้วหันหลังเดินออกจากห้องไปเลย เยนหลิงโกรธจี๊ดขึ้นมา จนเมื่อยี่ฮุยมากระตุกกระโปรงก็ยังปัดมือยี่ฮุยทิ้งจนหนูน้อยถอยกรูดไปยืนมองตาปริบๆด้วยความหวาดกลัว แต่พอรู้สึกตัวเยนหลิงก็กอดลูกทั้งสองไว้ร้องไห้สะอึกสะอื้นยิ่งร้องก็ยิ่งดัง จนเสียงสะท้อนในห้อง ยี่หรงกับยี่ฮุยปล่อยให้ แม่กอดด้วยสีหน้าสงสัยแกมตกใจ
ก้องเกียรติดูแลเม่งฮวยอย่างใกล้ชิด อบอุ่น คืนนี้ก็พามาเดินเล่นที่สนามหน้าตึก เม่งฮวยมีความสุขมาก อ้อนลูกชายว่าอาม้าคิดถึงจริงๆคราวนี้ให้อยู่หลายๆวันนะ พลางกอดลูกชายไว้แน่น
เยนหลิงอีกแล้ว เธอยืนมองจากหน้าต่าง เห็นแม่ลูกกอดและเดินคุยกันอย่างมีความสุข ก็ริษยาขึ้นหน้า ทำปากขมุบขมิบจ้องจิกสองแม่ลูกราวกับจะให้ละลายไปกับสายตาริษยาคู่นั้น
ooooooo
อาหารเย็นวันนี้ มีน้ำพริกอ่องขึ้นโต๊ะเป็นอาหาร พิเศษ เจ้าสัวบอกให้คำแก้วกินเยอะๆผอมแล้วดูไม่สวย เม่งฮวยหน้าตึงขึ้นมาทันที เยนหลิงเก็บอาการได้อย่างมาดผู้ดีตามเคยแต่ภายใต้สีหน้าที่นิ่งสงบนั้น ภายในร้ายกาจนัก!
โรสยิ้มแย้มแจ่มใสชะโงกดูแล้วชมว่าน่ากินจังแต่ท่าทางคงเผ็ด คำแก้วชวนให้ลองชิมดู พอโรสชิมก็ชมว่าอร่อยดี ชวนคุณนายใหญ่กับคุณนายที่สองลองเจี๊ยะดูบ้าง
"ม่ายต้องเลียก ม่ายเจี๊ยะ!" เม่งฮวยตอบหน้าตึง
โรสชวนคุณนายที่สอง เยนหลิงส่ายหน้าทำคอแข็ง โรสเลยชวนคำแก้วเราเจี๊ยะกันสองคนก็แล้วกัน
"ขอลองชิมหน่อยซิ" ก้องเกียรติอยากลองบ้าง เม่งฮวยห้ามทันทีบอกว่าไม่เคยเจี๊ยะเดี๋ยวท้องเสีย ก้องเกียรติชะงัก เจ้าสัวพูดขึ้นว่า
"อาใหญ่ลื้อฟังที่อาม้าพูด ไม่ต้องเจี๊ยะ"
"ครับ" ก้องเกียรติรับคำแล้วก้มหน้าก้มตากินข้าวไปเงียบๆแต่คอยเอาใจใส่ตักกับข้าวให้เม่งฮวย ชวนกินโน่นกินนี่ แต่ที่สำคัญบางครั้งเขาแอบสบตาคำแก้ว พอประสานสายตากันก้องเกียรติยิ้มให้น้อยๆพอเป็นมารยาท
เยนหลิงจับสังเกตอยู่แล้ว เห็นทุกกิริยาของหนุ่มสาว แผนบางอย่างผุดขึ้นในสมองทันที เอ่ยเชิญชวนก้องเกียรติว่า
"คุณชายใหญ่คะ คืนนี้ขอฟังเพลงขลุ่ยนะคะ"
"ได้ครับ" ก้องเกียรติตอบรับอย่างมารยาทดี
ooooooo
หลังอาหาร กลับถึงตึกเล็กเจอเรืองยศ ก้องเกียรติถามว่ากินข้าวแล้วหรือ เรืองยศพยักหน้าแทนคำตอบ เขาจึงขอเรืองยศว่า "นายเป่าขลุ่ยเก่งกว่าฉัน คืนนี้ช่วยเป่าให้..."
"ไม่!" เรืองยศตัดบททั้งที่ยังฟังไม่จบ ก้องเกียรติพยายามชี้แจงว่าตนรับปาก...ก็ถูกขัดขึ้นอีกว่า "ไม่!"
ก้องเกียรติพยายามระงับอารมณ์บอกเรืองยศด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่าไม่เป็นไรแล้วเดินไปจะไปอาบน้ำ
อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ก้องเกียรติมานั่งที่หน้าตึก ตรงมุมสวย บรรยากาศโรแมนติก เขาเริ่มเป่าขลุ่ยเพลงหวานปนเศร้า ท่าเป่าขลุ่ยของเขานั้นดูสง่างามยิ่งนัก
เม่งฮวยแว่วเสียงขลุ่ยเข้ามาในห้องก็ลุกไปยืนมอง มีอาฮุ้งเดินตามไปด้วย พอเห็นก้องเกียรตินั่งเป่าขลุ่ยอยู่ เม่งฮวยชม "อาตั่วตี๋อีเป่าขลุ่ยเลี้ยว อาฮุ้ง ไปฟังกัน" ว่าแล้วเดินนำไปอย่างเร็ว อาฮุ้งรีบตามไป
เม่งฮวยไปนั่งฟังก้องเกียรติเป่าขลุ่ยอยู่ที่โถงบันได ชั้นล่างหน้าตึกอย่างเพลิดเพลินมีความสุข แล้วจู่ๆเจ้าสัวก็ออกจากห้องส่วนตัว เม่งฮวยเห็นร้องทัก "อาเฮีย..."
เจ้าสัวสีหน้าอ่อนโยนเดินมายืนใกล้ๆเม่งฮวย แตะหลังเม่งฮวยเบาๆเป็นสัมผัสที่เม่งฮวยอบอุ่น ตื่นเต้น จนบอกไม่ถูก แหงนมองหน้าเจ้าสัวแล้วร้องไห้ออกมาด้วยอารมณ์ปีติตื้นตัน เจ้าสัวหัวเราะเบาๆกับอาการของเม่งฮวย ยกมือกอดไหล่ ให้เม่งฮวยเอนหัวพิงซบที่ตัวเอง ทำให้เม่งฮวยยิ่งเต็มตื้นจนเช็ดน้ำตาป้อยๆ...
ooooooo
เยนหลิงอาบน้ำเปลี่ยนชุดนอนแล้ว พอได้ยินเสียงเป่าขลุ่ยก็รู้ว่าได้เวลาดำเนินแผนต่อแล้วลุกเดินไปที่ห้องคำแก้ว เปิดประตูเข้าไปเงียบกริบเหมือนจงใจอยากเห็นอารมณ์ส่วนตัวของคำแก้ว
ได้เห็นจริงๆ เยนหลิงเห็นคำแก้วยืนฟังเสียงขลุ่ยอย่างซาบซึ้งเคลิบเคลิ้ม เพียงเห็นอาการนี้ของคำแก้ว เยนหลิงก็ยิ่งเชื่อว่าคำแก้วกับก้องเกียรติต้องมีความรู้สึกบางอย่างต่อกันอยู่
เยนหลิงเข้าไปเรียกคำแก้วใกล้ๆจนคำแก้วสะดุ้งตกใจ เยนหลิงตะล่อมถามว่าเพลงขลุ่ยของก้องเกียรติเพราะไหม คำแก้วบอกว่าเพราะจริงๆ เพราะมาก
"ตรงนี้ไม่ค่อยได้ยิน ต้องไปฟังใกล้ๆได้ยินชัดๆพี่แทบจะร้องไห้เลยล่ะ" เยนหลิงอ่อยแล้วรบเร้าคำแก้วให้ไปฟังใกล้ๆจะยิ่งได้อารมณ์ ทำให้คำแก้วเริ่มใจอ่อนชวนเยนหลิง ไปด้วยกัน
"โอ๊ย! ฟังบ่อยๆเบื่อแล้ว เมื่อก่อนพอคุณชายใหญ่เป่าขลุ่ยทีไร พี่ก็เดินไปฟังถึงตึกโน้นทุกทีเลย" เยนหลิงเล่าอย่างร่าเริง พอคำแก้วถามว่าไปได้หรือ เยนหลิงตอบอย่างเป็นเรื่องปกติว่า "ได้...ทำไมจะไม่ได้ล่ะ"
คำแก้วฟังแล้วดีใจเพราะอยากไปฟังเสียงเพลงขลุ่ยที่ตึกเล็กอยู่แล้ว
ooooooo
พอเยนหลิงกลับห้องก็บ่นเปรยๆอย่างไม่พอใจให้อาเง็กได้ยินว่า "บอกไม่ให้ไปก็ไปจนได้" ยั่วให้อาเง็ก ถาม พออาเง็กหลงกลถาม เยนหลิงก็ฉอดๆอย่างมีอารมณ์ว่า
"จะใคร คุณนายที่สี่น่ะสิ พอเสียงขลุ่ยดังก็พรวดพราดไปเลย อั๊วห้ามว่าอย่าไปก็ไม่เชื่อ ตึกคุณชายใหญ่ใครเขาไปกันล่ะใช่ไหมเง็ก"
อาเง็กไม่รู้เรื่องรู้ราว รับปากไปตามประสา จนเยนหลิงด่าคำแก้วว่ามักมากจริงๆ บอกอาเง็กว่า "ลื้อคอยดูต่อไปก็แล้วกัน แต่อั๊วน่ะรู้แล้ว รู้ดีเชียวล่ะ" พูดแล้วเยนหลิงยิ้มในหน้าอย่างมีเลศนัย แววตาล้ำลึก
ooooooo
คำแก้วไปยืนฟังเพลงขลุ่ยอย่างเคลิ้มในอารมณ์
ก้องเกียรติเป่าไปอีก พักหนึ่งก็หยุดเป่า
เจ้าสัวปลุกเม่งฮวยที่ซบตัวเจ้าสัวหลับอยู่บอกว่าไปนอนได้แล้วเพลงจบแล้วและตั่วตี๋คงไปนอนแล้วพลางประคองเม่งฮวยขึ้นบันได
เมื่อหยุดเป่าขลุ่ยแล้ว ก้องเกียรติหันหลังจะเดินเข้าตึกเล็ก และคำแก้วก็ค่อยๆเลี่ยงไปที่ตึกใหญ่ แต่เหยียบถูกกิ่งไม้หักดังเป๊าะ ทำให้ก้องเกียรติหันมอง พอเห็นคำแก้วเขารีบเดินมาหา คำแก้วเขินอยากจะวิ่งหนีแต่ขาแข็งจนก้าวไม่ออก
ก้องเกียรติทักถามคำแก้วว่าสบายดีหรือ เธอพูดเหมือนประชดว่าเขาน่าจะรู้ว่าคนที่อยู่อย่างนี้สบายหรือไม่ ก้องเกียรติพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
"ฉันคิดว่า...ฉันรู้ คำแก้ว เธอต้องหาความสบายใจจากชีวิตที่นี่ให้ได้ มิฉะนั้นมันจะกดดันเธอ ขอให้คิดว่าเธอทำไปเพราะความเต็มใจ"
"ค่ะ ฉันเต็มใจ" เป็นคำตอบที่หนักแน่นแล้วจะเดินกลับตึกใหญ่ แต่ถูกชายหนุ่มเรียกไว้อีก คำแก้วอ้างว่า "แก้วจะรีบกลับห้องเดี๋ยวนายจะเรียกหา นายชอบเรียกหาแก้วอยู่เสมอๆค่ะ คุณชายไม่รู้หรือ"
ก้องเกียรติถามว่าเธอทำความเข้าใจกับคุณนายที่สองแล้วหรือยัง ตนเป็นห่วง ถ้ายังจะให้ตนช่วยพูดให้ก็ได้ แต่พอคำแก้วบอกว่าคุยแล้ว เขายิ้มแสดงความยินดีด้วย คำแก้วยกมือไหว้ขอบคุณแล้วเดินไป
ก้องเกียรติมองตามคำแก้วไปด้วยความรู้สึกห่วงใยและเห็นใจ
ooooooo
แต่พอเขากลับไปที่ตึกเล็ก เจอเรืองยศเก็บของใส่กระเป๋าหิ้วออกมาพอดี เขาถามว่าจะไปไหน แทนที่เรืองยศจะตอบกลับบอกเขาว่าตนเห็นทุกอย่าง ก้องเกียรติหัวเราะถามว่าเห็นอะไรหรือ
"ฉันเป็นห่วงนาย นายเป็นเพื่อนฉัน เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็กๆ ฉันไม่อยากเห็นนายทำผิดศีลธรรมเข้าใจไหม"
พอก้องเกียรติบอกว่าตนยังไม่ได้ทำอะไรเลย เรืองยศปรามว่าจวนแล้วล่ะ พอเห็นก้องเกียรตินิ่งก็เหมาเอาว่าตนพูดแทงใจดำถึงได้เงียบไป
ก้องเกียรติคร้านที่จะต่อล้อต่อเถียงถามว่าจะกลับใช่ไหม เดี๋ยวจะตามสร้อยให้ขับรถไปส่ง พูดแล้วเดินออกจากห้องจะไปตามสร้อย ทำเอาเรืองยศอึ้ง เพราะคิดว่าก้องเกียรติจะห้ามปรามและขอให้อยู่ ขัดใจนักก็กระแทกกระเป๋าปัง นั่งหน้าบอกบุญไม่รับ
ครู่หนึ่งก้องเกียรติเดินกลับมา ตรงไปหยิบกระเป๋าของเรืองยศเอาไปเก็บ เปลี่ยนเรื่องคุยด้วยน้ำเสียงปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นว่า
"ยศ ตั้งแต่มาเนี่ย นายยังไม่ได้ไปทักทายคุณเตี่ยเลยนะ"
เรืองยศไม่พูดอะไร กระแทกตัวลงนั่งสะบัดหน้าเชิดไปอีกทางอย่างงอนๆ
ooooooo
วันรุ่งขึ้น คำแก้วไปบริเวณที่รกร้างแถวบ่อเก่า เธอมองพวงชมพูที่ห้อยระย้าสวยงามคิดถึงชื่อภาษาอังกฤษที่ซิสเตอร์บอกว่า ชื่อว่าดอกสร้อยหัวใจ เธอเอามือประคองช่อดอกที่ห้อยลงมาอย่างมีความสุข
จู่ๆคำแก้วก็นึกถึงเรื่องเง็กท้อขึ้นมา จึงเดินไปที่บ่อน้ำ ชะโงกมองลงไปในบ่อเหมือนอยากมองให้ทะลุลงไปถึงก้นบ่อว่ามีอะไร
เห็นแต่หน้าตัวเองที่สะท้อนอยู่ที่ผิวน้ำ แล้วก็มีเสียงครางแผ่วเหมือนเสียงสะอื้นแว่วมาว่า..."ช่วยด้วย...ช่วยด้วย..."
คำแก้วมองจ้องเขม็ง หันไปหยิบใบพวงชมพูที่หล่นอยู่ข้างๆโยนลงไป พริบตานั้นน้ำกระเพื่อมแรงจนไม่น่าเชื่อว่าใบไม้ใบเดียวจะกระเพื่อมได้ถึงขนาดนั้น
ไม่นานนัก น้ำที่กระเพื่อมไหวก็ค่อยๆปรากฏใบหน้าของโรสที่ขาวซีด และอีกคนที่หันข้างให้มองไม่ชัด แต่พอคนนั้นหันมาก็กลายเป็นใบหน้าของคำแก้วที่ซีดขาว!
คำแก้วตกใจสุดขีดผงะถอยแล้ววิ่งเตลิดจากบ่อน้ำไปสุดแรงเกิด
ooooooo
คำแก้ววิ่งเตลิดเข้ามาชนก้องเกียรติที่พาเรืองยศมาไหว้เจ้าสัวและกำลังจะพากันกลับเข้าอย่างจัง ก้อง-เกียรติจับแขนคำแก้วถามว่าเกิดอะไรขึ้น คำแก้วไม่ตอบเอาแต่ส่ายหน้าแล้ววิ่งขึ้นบันไดไป
ก้องเกียรติขยับจะตามไป ถูกเรืองยศคว้าแขนไว้ มือเรืองยศที่จับแขนก้องเกียรตินั้นบีบแน่นเหมือนเป็นการเตือนสติ ทำให้ก้องเกียรติได้คิด หน้าสลดลง
พอคำแก้ววิ่งไปถึงชั้นสอง เสียงตึงตังทำให้เม่งฮวยโผล่หน้ามาอย่างโกรธจัดตะคอก
"ใครวิ่ง ลื้ออีกเลี้ยว หยุด! หยุดเหลียวนี้" เม่งฮวยทั้งตะคอก ตวาด และตะโกน แต่คำแก้วไม่ฟังเสียงวิ่งอ้าวเข้าห้องตัวเอง เม่งฮวยได้แต่ยืนโกรธตัวสั่นอยู่ตรงประตูห้อง
คำแก้วขวัญกระเจิงมาจากบ่อน้ำ เข้าห้องเจอกิมลั้งเข้าอีกเลยสติแตก ตะโกนไล่ให้ออกไป เมื่อกิมลั้งออกไปไม่ทันใจก็ผลักอย่างแรงแล้วปิดประตูปัง
"เป็นอะไร บ้ารึเปล่า" กิมลั้งด่าพึมพำ
พอปิดประตูแน่นหนาแล้ว คำแก้ววิ่งเข้าห้องนอนโถมตัวลงบนที่นอนภาพหลอนที่บ่อน้ำยังตามมาเขย่าขวัญจนคำแก้วยกมือปัดป้องตะโกนไล่ "ไม่...ไป๊...ไป..."
ไม่ว่าจะทำอย่างไรภาพหลอนเหล่านั้นก็ยังตามรังควานตลอดเวลา สุดท้ายคำแก้วเปิดไฟสว่างไสวไปทั้งห้องเพื่อปลอบใจตัวเอง
ก้องเกียรติในชุดนอนยืนมองจากหน้าต่างมายังห้องคำแก้วที่เปิดไฟสว่างไสว เรืองยศผงกหัวขึ้นมองก้องเกียรติอย่างไม่พอใจ
คำแก้วหลับไปท่ามกลางแสงไฟสว่างจ้าทั้งคืน...
ooooooo
รุ่งขึ้น คำแก้วถูกเม่งฮวยเรียกไปพบ พอคำแก้วไปถึงเม่งฮวยให้กิมลั้งพูดอย่างที่มาฟ้องตน กิมลั้ง ไม่กล้าพูด เม่งฮวยบอกว่าไม่ต้องกลัวให้พูดอย่างที่เล่าให้ตนฟัง กิมลั้งเลยโพล่งไปว่า
"คุณนายสี่เปิดไฟนอนค่ะ"
"เตืองอีกที ถ้าม่ายทำตามละก็ ลู้ถึงหูนายเลย ลาวังตัวไว้ให้ลี!"
"เชิญค่ะ ขี่ม้าสามศอกไปฟ้องนายเลย" คำแก้วท้า
"อี..." เม่งฮวยโกรธจนตัวสั่น ชี้หน้าจะด่าแต่ด่าไม่ออกเพราะโกรธจัด
ในที่สุดเม่งฮวยไปฟ้องเจ้าสัว บอกเจ้าสัวต้องจัดการคำแก้วพูดจาท้าทายไม่เกรงกลัว ตนไม่ยอม "ถ้าเฮียไม่ให้มันนอนปิดไฟอั๊วจะไม่อยู่" เม่งฮวยยื่นคำขาด
"คำแก้ว ลื้อต้องเชื่อฟังคุงนายใหญ่ทุกอย่าง" เจ้าสัวเสียงเข้มกับคำแก้ว เธอได้แต่ก้มหน้าด้วยแววตาเก็บกด
ooooooo










