ตอนที่ 17
เมื่อเข้าไปในห้องเม่งฮวย กิมลั้งหน้าซีดปากสั่นยืนก้มหน้าไม่กล้าสบตาเม่งฮวย พอเม่งฮวยถามว่าเป็นอะไร กิมลั้งก็ผวาถอยหลังก้มหน้าเงียบกริบ เม่งฮวยใช้จิตวิทยาหว่านล้อมว่า
"อั๊วไม่ใช่อีนังคำแก้วนะ ลื้อถึงต้องกลัวขนาดนี้ อั๊วรู้ว่าอีนังคำแก้วน่ะมังร้ายกาจกะลื้อขนาดไหน มันทำกับลื้อเกินไป"
กิมลั้งหลงกลตอบทันทีว่า "ใช่ค่ะคุณนายใหญ่ หนูไม่รู้เรื่องอะไรเลย อีบังคับให้หนูกินของสกปรกค่ะ" เม่งฮวยชะงักพึมพำกับตัวเอง...
"ของสกกาปก...ไหนลื้อเล่าให้หมด นังคำแก้วมันเล่าให้อั๊วฟังเลี้ยว แต่อั๊วไม่อยากฟังอีข้างเดียว"
แค่นั้นเอง กิมลั้งตัดสินใจเล่าเรื่องทั้งหมดอย่างละเอียด เพราะเชื่อว่าเม่งฮวยรู้แล้วหวังจะได้รับความเมตตา
เยนหลิงออกไปยืนตรงหน้าต่างระเบียงลอบมองไปที่ห้องเม่งฮวยด้วยสีหน้าที่วิตกกังวลอย่างมาก เห็นกิมลั้งพูดอยู่คนเดียวก็ยิ่งตกใจกลัวกิมลั้งจะพาดพิงมาถึงตน
เวลาเดียวกัน โรสยืนอยู่ตรงเชิงบันไดชั้น 2 แอบดูเยนหลิงอยู่อย่างสงสัยมากขึ้นทุกที
ooooooo
พอกิมลั้งกลับไปแล้ว เม่งฮวยเดินอ้าวไปหาเจ้าสัวที่ห้องพักส่วนตัว บอกอาจิวว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย เมื่อเข้าไปในห้องเจ้าสัวแล้ว เม่งฮวยเปิดฉากเล่าอย่างมีอารมณ์
"เฮีย คุงนายเมืองเหนือของเฮีย บังคับให้อากิมลั้งอีกินผ้าชุบน้ำเหลืองผี!"
เจ้าสัวตกใจนิ่งอึ้ง เม่งฮวยสะกิดให้รู้สึกตัวบอกว่า
"เฮีย...นังคำแก้วมันยังไม่เป็นฆาตกรหรอก เพราะอากิมลั้งอีไม่ได้ตาย เฮียไม่ต้องตกใจขนาดนั้น"
เจ้าสัวไม่พอใจที่ถูกเม่งอวยพูดประชดลุกได้ก็เดินอ้าวออกจากห้องไปทันที ตรงไปที่ห้องคำแก้ว ถามคำแก้วว่าเอาผ้าชุบน้ำเหลืองผีมาจากไหน
คำแก้วลุกยืนช้าๆอย่างเยือกเย็นถามเจ้าสัวว่าคนที่ไปฟ้องนายไม่ได้บอกหรือว่าเอามาจากไหน เจ้าสัวบอกว่าไม่ได้บอก ขณะนั้นเองเยนหลิงเดินมาที่ประตูระเบียงหลังแอบฟังเจ้าสัวกับคำแก้วคุยกันจนหูผึ่ง
"ทำไมนังกิมลั้งมันไม่บอก ในเมื่อมันเป็นคนไปเอา มาเอง มันเอาของมาซุกไว้ใต้เตียงเพราะอยากให้แก้วตาย" พูดแล้วคำแก้วจะออกจากห้อง ไปจิกหัวกิมลั้งมาให้มาพูดเอง เจ้าสัวบอกไม่ต้องไป
"แก้วจะไป แก้วจะให้นายฟังกับหูเลยว่านังกิมลั้งมันร่วมมือกับใครทำของใส่แก้ว" พูดจบก็เดินออกไปทันที
เยนหลิงแอบฟังอยู่หนาวเยือกไปทั้งตัว...
ooooooo
อาอึ้มเฝ้าดูแลกิมลั้งด้วยความเวทนา หายาให้กิน กิมลั้งบอกอาอึ้มว่าตนกลัวคุณนายใหญ่
เอายาให้กิมลั้งกินแล้ว อาอึ้มถอดปลอกหมอนกับผ้าปูที่นอนจะเอาไปซัก คำแก้วเปิดประตูผลัวะเข้ามาถามว่า กิมลั้งอยู่ไหน อาอึ้มไม่รู้ ถามอีกว่าแล้วอาอึ้มมาทำอะไรในนี้
อาอึ้มบอกว่าจะเอาผ้าห่มกับหมอนไปตากแดดให้หายเหม็น คำแก้วโกรธมากบอกอาอึ้มว่าตัวเองมีหน้าที่ทำงานให้ตนไม่ใช่ให้กิมลั้ง อาอึ้มยังเฉยเตรียมเอาผ้าห่มไปตาก คำแก้วไม่ให้ทำสั่งให้ออกไปได้แล้ว
"อาคุงนายให้อาอึ้มออกไปตองนี้ เหลียวอาอึ้มก็ต้องกลับมาทำให้อีอยู่ลี สงสารอีไม่ซาบายมั่ก"
คำแก้วตะลึงอึ้งไปเมื่อรู้ว่ากิมลั้งไม่สบายมาก แต่ไม่พูดอะไรหันหลังเดินกลับไปอย่างเร็ว อาอึ้มได้แต่มองตามแล้วถอนใจยาว...
ส่วนโรสซึ่งไม่มีส่วนเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็เตรียมตัวจะออกไปข้างนอกอีก อาจูขอร้องว่าช่วงนี้บ้านเรากำลังมีเรื่องอย่าเพิ่งออกไปเลย
"มีเรื่องก็มีไปไม่เกี่ยวกะอั๊ว เป็นเรื่องของนังแมงป่องกับนังกิมลั้ง ให้มันตีกันให้ตายไปเลย จำไว้นะอาจู ไม่มีอาไรจามาห้ามอั๊วล่าย!"
โรสแต่งตัวเสร็จคว้ากระเป๋าเดินออกไป เจอเจ้าสัวเปิดประตูเข้ามาพอดี โรสชะงักกึกมองเจ้าสัวอย่างหงุดหงิดที่มาขวางความสุขของตน
ooooooo
เจ้าสัวเดินเข้าไปนอนหลับตาที่เตียง โรสไปนั่งข้างเตียง อ้อนเจ้าสัวขอให้ตนไปเถิด พูดแล้วลุกจะไปเลย เจ้าสัวลืมตาถามว่าจะไปแล้วหรือ โรสอ้อนว่าจะไปแล้วนายเหนื่อยนายนองไปก่อนก็แล้วกัน
"อืมม์..." เจ้าสัวทำเสียงในลำคอพลางพยักหน้า แต่พอโรสย่องจะออกไปกลับถูกเรียกไว้ ขอว่า "วังนี้ไม่ไปซ้อมเล่นงิ้ววังนึงล่ายไหม อั๊วอยากนอนพักผ่อนที่ห้องลื้อ ไม่ค่อยซาบายใจ"
โรสแทบจะกรี๊ดออกมา พยายามระงับอารมณ์แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้ กรี๊ดเสียงแหลมบาดแก้วหูจนเจ้าสัวเชื่อว่าโรสไม่ยอมแน่ เลยบอกว่าอยากไปก็ไปตนจะกลับห้อง
"นายใจลีจิงๆ" โรสโผเข้ากอดเจ้าสัวจูบซ้ายขวา
"ไม่ใช่ใจลีหรอก ขี้เกียจมีเรื่องกะลื้อต่างหาก อั๊วยอมแพ้ลื้อ อาไลกังนักหนาฮึอาเหม่เกว่ลื้อติดงิ้วเหมืองติดฝิ่น"
โรสอ้อนว่าตนเป็นนางเอกงิ้วมาก่อนนี่นา พอเจ้าสัวเดินออกจากห้อง โรสก็แทบกระโดดด้วยความดีใจที่จะได้ออกไปสมใจหมาย
ที่โรงงิ้ว โรสไปซ้อมงิ้วจริงๆ แต่มีทรงชัยมาเฝ้ามองตาเยิ้มอยู่ข้างเวที เสร็จแล้วพากันไปที่ห้องพักของทรงชัย โรสอ้อนทรงชัยว่าตนสงสารนางเอกในเรื่องที่ไม่สมหวังในรักนางจึงต้องตาย
ทรงชัยบอกว่านางเป็นหญิงที่บูชาความรัก โรสบอกว่าตนไม่อยากเป็นอย่างนั้น ตนอยากรักแต่ไม่อยากตาย พูดแล้วน้ำตาไหลอย่างอัดอั้นกับความจริงของตัวเอง
ทรงชัยถามโรสว่าทำไมวันนี้มาช้า เธอบอกว่าช่วงนี้ที่บ้านมีเรื่องนิดหน่อยแต่ไม่เกี่ยวกับตน
"ใครล่ะ" ทรงชัยถามอย่างอยากรู้
"คุงนายสองก็ใช่ คุงนายสี่ก็ใช่ ลี...ให้พวกอีทำผิดกันเยอะๆ ฉันจาล่ายไม่เป็นคนเดียวที่ทำผิด" โรสพูดเหมือนพยายามปลอบใจตัวเอง
ooooooo
กิมลั้งแอบไปหาหมอคุณไสยคนเดิมขอให้หมอช่วยแก้ให้ตนด้วย เพราะถูกคำแก้วบังคับให้กินผ้าคุณไสยผืนนั้นเข้าไป
หมอคุณไสยยิ้มร้ายเมื่อรู้ว่ากิมลั้งเป็นคนสุดท้ายที่มาในวันนี้ เมื่อกิมลั้งเข้าไปในห้อง หมอคุณไสยล็อกประตูบอกว่าจะแก้คุณไสยให้
กิมลั้งเห็นท่าทางหื่นของหมอก็ตกใจกลัว และในที่สุดก็ถูกหมออ้างว่าแก้คุณไสย บังคับข่มขืนกิมลั้งในห้องทำพิธีนั่นเอง!
เมื่อกิมลั้งกลับมาที่เรือนคนใช้อีกที จึงอยู่ในสภาพที่บอบช้ำทั้งกายและใจ ร้องไห้น้ำตาไหลพราก ตัวสั่นเทาเพราะพิษไข้
คนที่เป็นทุกข์เป็นร้อนกระวนกระวายใจอยู่เงียบๆคือเยนหลิง เฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของคำแก้วและกิมลั้ง
อย่างใจจดจ่อ
เมื่อกิมลั้งหายตัวไป เยนหลิงจึงมาดักคำแก้วเมื่อเห็นเธอไปเดินบริเวณรกร้างริมบ่อเก่า จึงพยายามถามว่ามีเรื่องอะไรกัน คำแก้วยังไม่ขอเล่าแต่ขอจัดการกับกิมลั้งก่อน เสร็จแล้วจะเล่าให้ฟัง
เมื่อคำแก้วไม่เล่า เยนหลิงเปลี่ยนเป็นถามว่าทำไมคำแก้วจึงบังคับให้กิมลั้งกินของสกปรกเข้าไป ทำเอาคำแก้วอึ้งแต่ไม่ตอบ เยนหลิงยังรบเร้า คำแก้วจึงบอกว่า
"เพราะกิมลั้งเป็นคนสกปรกนะสิคะ คุณพี่ไม่ทราบหรือ"
"พี่จะไปรู้ได้ยังไง แล้วกิมลั้งทำอะไรหรือ ที่ว่าสกปรก น่ะ" เยนหลิงตีหน้าซื่อ
เมื่อคำแก้วยังไม่ยอมพูดอะไรมาก เยนหลิงยิ่งร้อนใจ พยายามเลียบเคียงถามเพื่อให้รู้ว่าคำแก้วสงสัยว่าใครเกี่ยวข้องบ้าง ถามหยั่งเชิงว่ากิมลั้งทำคนเดียวหรือมีคนอื่นร่วมด้วย
"นังนี่มันไม่ทำคนเดียวหรอกค่ะ มันมีคนหนุนหลังอยู่"
เยนหลิงเบนเป้าหมายทันทีร้องอ๋อ ทำเป็นจำได้ว่าเหมือนคราวก่อนใช่ไหมคุณนายใหญ่น่ะ
"ไม่ใช่คุณนายใหญ่" คำแก้วตอบทันทีทำให้เยนหลิงชะงักกึก พยายามควบคุมน้ำเสียงถามว่าแล้วใครทำหรือ
"แก้วยังไม่ทราบ แต่แก้วจะจิกหัวนังกิมลั้งมาถามเอาความจริงให้ได้ บ้านนี้มันทุเรศจริงๆ บ้านตึกใหญ่โตสวยงาม แต่จิตใจคนกลับเลวทรามต่ำช้า เกลียดชังอะไรนักหนาถึงต้องใช้ของอุบาทว์ฟาดฟันกันขนาดนี้...แต่ที่แน่ๆแก้วรู้ค่ะว่าไม่ใช่ คุณนายใหญ่"
เยนหลิงหวาดหวั่นอย่างหนัก กลัวเรื่องจะสาวมาถึงตัวเอง
ooooooo
หลังจากกิมลั้งถูกบังคับให้กลืนผ้าคุณไสยเข้าไป 23 วันแล้ว อาการก็ยิ่งทรุดหนักลง อาอึ้มเอายาให้กินก็ไม่ทุเลา ปวดท้องจนแทบไม่มีแรงเดินเข้าห้องน้ำ อาอึ้มอุตส่าห์หากระโถนมาให้ใช้แล้วเอาไปเทให้อย่างไม่รังเกียจ ทำให้กิมลั้งซึ้งใจจนนอนน้ำตาไหล
หวังจะให้ทุกคนได้รู้ความจริงจากปากกิมลั้งเอง คำแก้วเดินลิ่วไปที่เรือนคนใช้ เจออาอึ้มถือกระโถนที่เอาไปเทกลับมาพอดี อาอึ้มใจไม่ดีเมื่อเห็นคำแก้วมาที่นี่อีก พอคำแก้วถามว่ากิมลั้งเดินไหวไหม อาอึ้มรีบบอกว่าไม่ไหวเพราะไม่สบายมาก
ฟังอาอึ้มแล้วคำแก้วเดินพรวดเข้าไปในห้อง อาอึ้ม
พยายามบอกว่ากิมลั้งไม่สบายมากก็ไม่อาจหยุดคำแก้วได้ เธอเข้าไปสั่งกิมลั้งต้องไปกับตนเดี๋ยวนี้
เยนหลิงร้อนตัวร้อนใจจนทนไม่ได้เดินออกไปขวางคำแก้ว พยายามพูดดีหว่านล้อมว่ากิมลั้งไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรือ คำแก้วมองอย่างรู้ทันบอกให้หลีกทาง
"ไม่! พี่ไม่หลีก ทรมานคนไม่สบายอย่างนี้ พี่เห็น
จะทนไม่ได้" เยนหลิงทำตัวเป็นผู้มีเมตตาสูง เลยถูกคำแก้วแฉว่าคนอย่างเยนหลิงไม่สนใจหรอกว่าใครจะป่วยถ้าได้
ประโยชน์ เยนหลิงฉุนขึ้นมาตวาดถาม "เอ๊ะ! คำแก้ว ทำไมพูดจาล่วงเกินพี่อย่างนี้"
คำแก้วขอโทษ อ้างว่านี่เป็นเรื่องระหว่างตนกับกิมลั้งให้เยนหลิงหลีกทางไปเสีย เมื่อเยนหลิงไม่ยอมหลบ คำแก้ว
จึงลากกิมลั้งไปเข้าทางประตูห้องรับแขก
เมื่อกันคำแก้วไว้ไม่สำเร็จ เยนหลิงหันไปเอ็ดอาอึ้มว่า
ยืนเฉยอยู่ได้ทำไมไม่ช่วยกันห้าม อาอึ้มบอกว่าห้ามแล้วแต่อีไม่ฟัง เยนหลิงรีบเดินไปทางประตูห้องโถงบันไดไปดักหน้าคำแก้วอีก อาอึ้มรีบตาม
ooooooo
แต่เยนหลิงไปไม่ทันถึง เม่งฮวยก็ออกมาสกัดคำแก้วสั่งให้หยุด ถามว่าจะทำอะไรกิมลั้งอีก ระหว่างนั้น โรสกับอาจู อาเง็ก ผิน และอ่อนเดินลงบันไดมายืนมอง เหตุการณ์กันเงียบกริบ
เม่งฮวยด่าคำแก้วว่าเป็นตัวซวย เข้ามาอยู่บ้านนี้ก็มีแต่เรื่องซวยๆ คำแก้วฮึดเถียงว่า
"คุณนายใหญ่ดีนักเหรอคะ คุณนายใหญ่เองก็เคยร่วมมือกับนังกิมลั้งทำตุ๊กตาคุณไสยสาปแช่งแก้วเพื่อให้แก้วตาย"
เม่งฮวยงงมาก ในขณะที่กิมลั้งยิ่งสิ้นหวังกับชีวิตที่ความผิดกำลังจะถูกแฉออกมาอีกเรื่องหนึ่ง
"แล้วครั้งนี้ล่ะ นังกิมลั้งมันเอาผ้ายันต์ชุบน้ำเหลืองผี ไปใส่ไว้ในห้องแก้ว ใช่ฝีมือคุณนายใหญ่อีกหรือเปล่าคะ"
คำแก้วพูดต่ออย่างคับแค้นใจ เม่งฮวยพึมพำว่าพูดเรื่องอะไร คำแก้วสวนไปว่า "เดี๋ยวคุณนายใหญ่ก็รู้เอง ไปกิมลั้ง ไปหานายกับฉัน" คำแก้วฉุดมือกิมลั้งจะพาไปที่ห้องเจ้าสัว
"เอะอะเสียงดังอีกเลี้ยว มีเรื่องอะไรกันเหรอ" เจ้าสัวเปิดประตูผางออกมาอย่างไม่พอใจ อาจิวรีบตามออกมาด้วย
ooooooo
เมื่อมีปัญหา ทุกคนจึงต้องเข้าไปนั่งในห้องรับแขกเพื่อเคลียร์กัน คำแก้วฟ้องก่อนว่า
"นังกิมลั้งมันทำของใส่แก้วค่ะนาย ครั้งแรกทำตุ๊กตาคุณไสยเขียนชื่อแก้ว ครั้งที่สองมันเอาผ้ายันต์ชุบน้ำเหลืองผี ไปไว้ใต้เตียงแก้ว ครั้งแรกนังกิมลั้งมันบอกว่าคุณนายใหญ่ ใช้ให้มันทำ"
"ไอ้หยา! อากิมลั้ง ลื้อใส่ร้ายอั๊วเหรอ" เม่งฮวยลุกพรวดขึ้นปากคอสั่น
"นังกิมลั้ง ครั้งที่สองใครใช้ให้แกทำ" คำแก้วถาม กิมลั้งตกใจกลัวจนแทบหมดสติไม่กล้าตอบ พอคำแก้วคาดคั้นจึงพูดอึกอักว่าคุณนายที่สอง
เยนหลิงตาแทบถลน พวกสาวใช้ที่มาแอบฟังอยู่ต่างหันขวับมองหน้าเยนหลิง อึดใจเดียวเยนหลิงก็ตั้งหลักได้หันไปแหวใส่กิมลั้ง
"อะไรนะ นี่แกใส่ร้ายคุณนายใหญ่คนเดียวไม่พอ ยังใส่ร้ายฉันอีกรึ คุณนายใหญ่เอาเลยค่ะลงโทษมันให้หนัก นังกิมลั้งมันกำเริบจริงๆ" เยนหลิงยุหมายยืมมือเม่งฮวยมาปิดปากกิมลั้ง
"ลื้อไม่ต้องมาสั่งอั๊ว" เม่งฮวยตวาด แล้วหันไปทางเจ้าสัว "เฮีย นังคำแก้วเมียหยำฉ่าของเฮียอีพูดจาดูถูกอั๊ว นังกิมลั้งอียังไม่ล่ายพูดอะไรถึงอั๊วเลย มีแต่อีคนเลียวที่ตั้งใจใส่ร้ายอั๊ว ทุกคนได้ยิน ลื้อคิดจะล้มอั๊วเหรอหา! นังตัวซวย" แม่งฮวยชี้หน้าคำแก้วนิ้วสั่นระริก
คำแก้วให้กิมลั้งพูดเอง ถามกิมลั้งว่าคุณนายใหญ่กับคุณนายที่สองสั่งให้ทำของใส่ตนใช่ไหม กิมลั้งพยักหน้าตอบเสียงแหบแห้งว่า "ใช่..."
เม่งฮวยปราดเข้าตบหน้ากิมลั้งเต็มแรง ด่าว่าอย่างเกรี้ยว กราด แล้วบอกเจ้าสัวว่าถ้าเชื่อกิมลั้งตนก็จะไม่อยู่กับเฮียอีกต่อไปแล้ว เยนหลิงได้ทีลุกขึ้นอย่างผู้ดียื่นคำขาดเดียวกับเม่งฮวย
"พอ...พอ..." เจ้าสัวตวาดแล้วหันไปถามกิมลั้ง "อากิมลั้ง ลื้อทำผิดแล้วทำไมถึงต้องพูดจาใส่ร้ายพวกคุณนายเขา ไม่มีใครเชื่อลื้อหรอก อย่างคุณนายที่สองใครเขาก็เห็นว่ารักและเมตตาอาคำแก้วแค่ไหน"
กิมลั้งมองเจ้าสัวอย่างสิ้นหวัง หันไปมองเยนหลิง พอเยนหลิงเห็นกิมลั้งมองมาก็เสมองไปทางคำแก้วยิ้มให้อย่างเป็นมิตร คำแก้วไม่ยิ้มด้วยแววตาที่มองเยนหลิงเต็มไปด้วยความคลางแคลงใจ
"อาอึ้ม" เยนหลิงตีหน้าซื่อพูดกับอาอึ้มแทน "ช่วยดูแลรักษากิมลั้งมันด้วย มีอะไรให้ฉันช่วยก็บอกนะ ฉันดูอาการมันแล้วคงจะหนักอยู่ ถูกบังคับให้กินของสกปรกเข้าไปอย่างนี้ น่ากลัวเหลือเกิน" พูดแล้วเดินอย่างสง่าออกไปจากห้อง อาเง็กรีบตามสีหน้ากังวล
พอเยนหลิงออกไปแล้ว เจ้าสัวถามกิมลั้งเสียงเข้มว่า
"อากิมลั้ง ลื้อทำผิดเอง แล้วทำไมต้องโกหกว่าพวกคุงนายใช้ให้ลื้อทำ"
โรสลุกขึ้นหลังจากที่นั่งเงียบๆมานาน พูดเสียงใสแหลม
"นาย...ขออั๊วพูดอะไรอย่างหนึ่งล่ายไหม" พอทุกคนสนใจฟัง โรสพูดสั้นๆว่า "อากิมลั้งอีเจ็บหนักขนาดนี้ อีไม่
โกหกหรอก"
ฟังโรสแล้ว เจ้าสัวนิ่งไป แววตาตรึกตรอง...
ooooooo
เมื่อออกจากห้องรับแขกแล้ว โรสพูดกับอาจูว่าเชื่อไหมว่ากิมลั้งไม่โกหก ตนดูตากิมลั้งก็รู้ อาจูนิ่งไปเพราะเชื่อว่ากิมลั้งไม่โกหก โรสพูดหน้าเศร้าเครียดว่า
"อั๊วไม่รู้เหมือนกันว่า อั๊วอยู่ในบ้านที่มีแต่คนใจร้ายอย่างนี้ได้ยังไง...เฮ้อ..." แล้วสั่ง "อาจู อั๊วอยากเจออาโซ้ยตี๋ ไปพาอีมาหาอั๊วหน่อยสิ"
เมื่อโซ้ยตี๋มาหาที่ห้อง โรสกอดลูกชายไว้เต็มแขน พึมพำเบาๆ "จวนแล้ว...จวนแล้วลูก" โซ้ยตี๋ถามว่าจวนอะไร โรสพยายามฝืนยิ้มปลอบใจลูกว่า "จวนที่เรา...อาม้า โซ้ยตี๋ กับ...จะมีความสุขด้วยกัน" พูดแล้วกอดลูกชายโยกไปมาเหมือนตัดสินใจแล้วที่จะไปตายเอาดาบหน้า...
ooooooo
อาอึ้มทนดูไม่ได้ที่เห็นกิมลั้งอาการหนักขึ้นทุกวัน นอกจากปวดท้องแล้วยังปวดหัวรุนแรงจนต้องทุบหัวตัวเองไปมา เลยไปบอกอาจิวให้ช่วยตามหมอมาดูอาการ
หมอมาตรวจ แล้วบอกว่ากิมลั้งมีเชื้อเพราะกินของสกปรกเข้าไป ป้าพุ่มถามว่าเชื้ออะไร อาจิวตอบแทนว่าเชื้อไทฟอยด์
ข่าวนี้รู้ไปถึงเม่งฮวย ถึงกับอุทาน "ไอ้หย่า!" แล้วสาธยายถึงอาการของโรคให้อาฮุ้งฟังอย่างน่ากลัวซึ่งทุกอย่างก็เป็นอย่างที่กิมลั้งเป็นอยู่ ฟังแล้วอาฮุ้งบอกว่า "อั๊วสงสารอากิมลั้งอีจริงๆ"
"ลื้อไปด่าอีนังตัวซวยคำแก้วสิอาฮุ้ง อีเป็นคนบังคับให้อากิมลั้งกินผ้าชุบน้ำเหลืองผีเข้าไป" เม่งฮวยไม่วายโทษคำแก้วอยู่ดี
ส่วนคำแก้วไปนั่งพิงบ่อเก่าอย่างหมดอาลัยตายอยาก ด้วยความรู้สึกผิดและคับแค้นใจจนร้องไห้ออกมา
อาการของกิมลั้งวันนี้คือ ปวดหัวรุนแรงจนร้องไห้ดิ้นอย่างทุรนทุรายโดยมีอาอึ้มเฝ้าดูแลและปลอบโยนให้อดทนไว้...อดทนไว้...
กิมลั้งในวันนี้ หน้าตาซูบซีด ผอมแห้ง และหัวเกือบโกร๋นแล้ว...
ผินได้ยินเสียงร้องอย่างโหยหวนของกิมลั้ง ก็วิ่งแจ้นไปบอกคนที่หน้าครัวว่ากิมลั้งจะตายแล้ว พอเจ๊กหลีได้ยินก็ วิ่งไปทางเรือนคนใช้อย่างร้อนใจ
ในห้องพักของกิมลั้ง พวกคนใช้พากันมายืนดูด้วยความสงสารเป็นห่วง อาอึ้มเฝ้าปลอบโยนและเอายาให้กิน กิมลั้งยื่นมือผอมเกร็งมาจับอาอึ้มไว้ อาอึ้มถามว่าจะเอาอะไร
กิมลั้งตาลอยไขว่คว้ามืออาอึ้มไปกอดไว้แน่น สั่นเทิ้มไปทั้งตัว อาอึ้มถามว่าหนาวหรือ
กิมลั้งกอดมืออาอึ้มไว้เหมือนจะดึงให้เข้าไปฟังตนพูดพออาอึ้มเอนตัวเข้าใกล้ กิมลั้งพูดเบาหวิว "อาอึ้ม...อั๊วไม่ผิดนะ"
"อั๊วรู้...บ่อเซียงกัง...บ่อเซียงกังน่ะ..." อาอึ้มปลอบโยน
"คนทำ...อีให้อั๊วทำ..." กิมลั้งรวบรวมแรงดึงอาอึ้มเข้าไปกระซิบ "คุณนายที่สอง...เป็นคนสั่งให้อั๊วทำ" พูดขาดคำกิมลั้งก็คอพับแขนตก ลมตีขึ้นจนหายใจไม่ออกแล้วแน่นิ่งไป
"อากิมลั้ง..." อาอึ้มช็อกกับสิ่งที่กิมลั้งบอก มองกิมลั้งน้ำตาไหลริน ทุกคนที่มาเฝ้าดูกิมลั้งต่างพากันร้องไห้อาลัย สงสาร การจากไปของกิมลั้ง โดยเฉพาะป้าพุ่มร้องไห้โฮออกมา...
ooooooo
การตายของกิมลั้งยังความพอใจ สมใจของเยน-หลิงที่เรื่องทั้งหมดจะได้เป็นความลับต่อไป แต่ก็ยังทำเป็นพูดกับอาเง็กว่า "น่าสงสาร อายุมันยังน้อยอยู่เลย"
ส่วนโรสทำท่าจะร้องไห้จนอาจูต้องปลอบว่าอย่าคิดมาก กิมลั้งไปสบายแล้ว โรสถามว่าแล้วคุณนายใหญ่ว่ายังไงมั่งเพราะมีส่วนทำให้กิมลั้งตาย
"จูว่าอาคุงนายใหญ่ไม่ล่ายใช้กิมลั้งไปทำเรื่องสกกาปกแบบนี้หรอกฮ่ะ อีเป็งคงกลัวบาปกรรม กลัวตกนรกจะตาย" อาจูพูดอย่างมั่นใจ โรสนิ่งไปอย่างคิดตาม
ฝ่ายเม่งฮวย ไปที่มุมไหว้พระ ปักธูป 3 ดอกลงในกระถาง มองหน้าเจ้าแม่กวนอิมพึมพำ
"เจ๊กอั้ก...บาปกรรม บาปกรรมจริงๆ" แล้วหันไปบอกอาฮุ้ง "อาฮุ้ง เรื่องกิมลั้งบอกว่าอั๊วใช้ให้อีทำของ ใครจะเชื่อหรือไม่เชื่ออั๊วไม่รู้ แต่อั๊วไม่เคยให้อีทำจริงๆ ลื้อต้องเชื่ออั๊วนะ... แต่อั๊วอโหสิให้อีแล้ว"
เจ้าสัวอยู่ที่ห้องส่วนตัว นั่งหน้าเศร้า มีอาอึ้มยืนน้ำตาซึมอยู่ใกล้ๆ ครู่หนึ่งเจ้าสัวลุกขึ้นเอ่ย
"นึกถึงเตี่ยอี เตี่ยอีเป็นคนลี อาม้าอีก็อยู่กะอาม้าอั๊วตั้งแต่เด็กๆ อาม้าอั๊วรักมาก เสียดายทั้งคู่อายุสั้น"
อาอึ้มพึมพำว่าน่าสงสาร ไม่น่าอายุสั้นกันทั้งบ้าน เจ้าสัวบ่นคิดถึงอาฮวดเตี่ยของกิมลั้ง อาอึ้มบอกว่าอาฮวดคงได้พบกับลูกสาวแล้ว เจ้าสัวนั่งลงตามเดิมด้วยสีหน้าสะเทือนใจ
มีเสียงเคาะประตู อาจิวเข้ามาบอกว่าติดต่อวัดเรียบร้อยแล้ว เดี๋ยววัดจะมารับศพไปเลยบอกให้อาอึ้มแต่งตัวกิมลั้งให้เรียบร้อยด้วย อาอึ้มจึงรีบไป
อาอึ้มเอาผ้าชุบน้ำมนต์เช็ดหน้าให้กิมลั้ง ทั้งยังเอาหยอดใส่ปากด้วยความหวังว่ากิมลั้งอาจจะฟื้นขึ้นมาได้ แต่งตัวให้กิมลั้งแล้วอาอึ้มนั่งมองหน้าบอกกับร่างของกิมลั้งว่า
"กิมลั้ง ที่ผ่านมา อาอึ้มเคยว่าลื้อ ลื้ออย่าโกรธอั๊วนะ" พลางพนมมือไหว้แบบจีน "อาอึ้มขอโทษลื้อล่วย เดี๋ยวอาอึ้มจะพาลื้อไปอยู่ที่วัดนะ อาอึ้มเอาเสื้อผ้าให้ลื้อไป 3 ชุดตามธรรมเนียมนะกิมลั้ง ลื้อจะได้มีใส่"
อาอึ้มส่งถุงผ้าให้อาจูแล้วเดินออกไป อาจูดึงผ้าแพรขึ้นคลุมหน้ากิมลั้งพลางบอกกับร่างนั้นว่า
"อากิมลั้ง ลื้อนอนหลับให้สบายนะ" พูดแล้วร้องไห้ด้วยความสงสาร
ooooooo
เมื่อคำแก้วรู้จากอาอึ้มว่ากิมลั้งตายไปแล้วเมื่อเช้านี้ เธอเห็นสายตาอาอึ้มแล้วถามว่าทำไมมองหน้าตนอย่างนี้ คิดว่าตนเป็นคนฆ่ากิมลั้งหรือ อาอึ้มบอกว่าฟ้าลิขิตไว้แล้วไม่มีใครว่าคำแก้วผิดหรอก
คำแก้วทำคอแข็งพูดอย่างไม่แยแสว่า ใครจะว่าตนก็ได้แต่ตนไม่ได้ผิดอยากว่าก็ว่าไปแล้วปรามอาอึ้มว่า ต่อไปอย่ามามองตนด้วยสายตาแบบนี้ ให้มองกิมลั้งแบบนี้เพราะกิมลั้งเป็นคนผิด เป็นคนทำตนก่อน เห็นอาอึ้มนิ่งฟัง คำแก้วพูดอย่างไม่หายแค้นว่า
"สิ่งที่มันทำกับแก้ว มันเลวร้ายที่สุดแก้วจะบอกให้ ทีแรกแก้วสู้อุตส่าห์ไม่พูด ไม่สืบสาวราวเรื่องไปถึงใครแล้วนะ" อาอึ้มถามว่าเพราะอะไร "เพราะแก้วรู้ว่าสืบสาวไปก็ไม่มีประโยชน์ คนที่ "สั่ง" กิมลั้งทำไม่มีวันจะแสดงตัวออกมา และกิมลั้งก็ไม่มีวันที่จะซัดทอดใครได้ เพราะมันเป็นแค่นังกิมลั้ง"
"แล้วทำไมถึง..."
"เพราะว่ากิมลั้งไปเล่าให้คุณนายใหญ่ฟังก่อนน่ะสิ มันไปเล่าทำไมในเมื่อมันเป็นคนผิด แก้วโดนนายว่าจะให้แก้วอยู่เฉยๆเหรอ ไม่มีวันหรอก"
อาอึ้มก้มหน้านิ่งแล้วหันจะเดินออกไป คำแก้วถามว่าศพกิมลั้งล่ะ พออาอึ้มบอกว่ากำลังจะเอาไปไว้ที่วัด คำแก้วก็พูดอย่างชอกช้ำใจว่า
"อาอึ้ม ชีวิตมีความทุกข์ ตายเสียหมดเวรหมดกรรม มนุษย์บางคนตายเสียยังดีกว่าต้องทนอยู่"
"ใครฮะ..."
"แก้วนี่ไง ตายเสียก็คงดี"
อาอึ้มนิ่งงันไป ไม่กล้าถามต่อ
ooooooo
เย็นนี้เอง ศพกิมลั้งก็ถูกเคลื่อนออกจากเรือนพัก คนใช้ผ่านตึกเพื่อจะไปไว้ที่วัด บรรดาคนรับใช้พากัน มาส่งศพ ต่างร้องไห้ด้วยความสงสารอาลัยกิมลั้ง
คำแก้วยืนดูอยู่บนระเบียงชั้น 3 ขณะศพเคลื่อนผ่านไปนั้น ลมพัดมาวูบหนึ่งทำให้ผ้าแพรที่คลุมหน้ากิมลั้งเปิดออก คำแก้วเห็นใบหน้ากิมลั้งที่นอนหลับตา เหลือผมเป็นหย่อมๆ ปากแห้งซีด ขอบตาคล้ำ หน้าซีดจนเขียว คำแก้วตกใจผงะ
ขบวนหยุดเดิน อาจูเอื้อมมือมาดึงผ้าแพรขึ้นคลุมหน้ากิมลั้งตามเดิม ขบวนจึงเดินต่อไปทางหน้าตึก
คำแก้วเอามือปิดปาก หันหลังกลับพยายามไม่กรีดร้องวิ่งไปที่ห้องโถง แต่สุดท้ายก็ทนไม่ได้ กรีดร้องออกมาสุดเสียง ทรุดนั่งร้องไห้กับพื้นคร่ำครวญด้วยความรู้สึกผิดที่ตัวเองมีส่วนทำให้กิมลั้งต้องตาย...
กลางวันวันรุ่งขึ้น อาจิวมาตามคำแก้วให้ไปพบ เจ้าสัว คำแก้วเดินตามอาจิวไปด้วยความกังวล ถามอาจิว ว่าเจ้าสัวเรียกตนไปทำไมหรือ จะด่าตนใช่ไหม พออาจิว บอกว่าคงไม่ใช่ คำแก้วก็เถียงว่าต้องใช่แน่ๆ ตนรู้
"อาคุงนายสี่" อาจิวหันมาพูดด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยนว่า "ทุกคนมีเหตุผลเวลาจะทำอะไร อากิมลั้งอีก็มี แต่เผอิญเหตุผลนั้นมันผิด อากิมลั้งก็ต้องรับผลที่เกิดขึ้น"
คำแก้วถามว่า อาจิวจะบอกอะไรตนหรือ อาจิวรีบปฏิเสธว่าตนไม่กล้า เพียงแต่ตัวเองคิดเสมอว่า "ถ้ามีเหตุผลว่าจะทำอะไร พอทำไปแล้ว อะไรเกิดขึ้นก็รับได้" แล้วขออนุญาตพูดอะไรอีกอย่าง พอคำแก้วอนุญาต อาจิวพูดทิ้งท้ายว่า "สำคัญตอนเราคิดเหตุผลนั้นน่ะสิ เราต้องคิดให้ดี"
คำแก้วฟังแล้วอึ้ง ก็พอดีมาถึงหน้าห้องเจ้าสัว อาจิว เปิดประตูเชิญคำแก้วเข้าไป แล้วตัวเองก็ยืนมองด้วยสีหน้าหนักใจอยู่หน้าห้อง
ooooooo
เจ้าสัวยืนมองไปนอกหน้าต่าง สีหน้าเคร่งเครียด คำแก้วเดินเข้าไปหาด้วยความวิตก ทุกข์ใจอย่างหนัก ถามเบาๆ "นายเรียกแก้วมาทำไม มีอะไรเหรอ"
"กิมลั้งตายสมใจแล้วใช่ไหม" เจ้าสัวหันมาเสียงเข้มจ้องหน้าคำแก้ว "ลื้อทำอีจนตาย ลื้อใจร้ายมาก"
คำแก้วอ้างว่า กิมลั้งทำของใส่จะให้ตนตาย แล้วยังทำให้ตนแท้งลูก ถามว่านายไม่เดือดร้อนเลยหรือ เจ้าสัวเสียงดัง กว่าเก่าบอกว่า "ลื้อต้องมาบอกอั๊วสิ ทำไมต้องตัดสินเอง"
คำแก้วย้อนถามอย่างน้อยใจว่า ตกลงตนเป็นคนผิดใช่ไหม เจ้าสัวบอกว่ากิมลั้งก็ผิด แต่ต้องลงโทษถึงตายเลยหรือ จะมากไปหรือเปล่า
"ถ้ามันไม่ตาย แก้วก็ต้องตาย"
เจ้าสัวหาว่าคำแก้วเถียงซี้ซั้ว ไล่ให้ออกไปได้แล้วไม่อยากพูดด้วย คำแก้วสวนไปว่า นายนั่นแหละเถียงซี้ซั้ว เพราะเอาแต่คิดเข้าข้างกิมลั้ง เอาแต่โทษตน กิมลั้งอาจตายเพราะติดโรคมาจากที่ไหนก็ได้
"อีตายเพราะลื้อบังคับให้อีกินของสกกาปกนั่นแหละ" เจ้าสัวเสียงดังจนแทบจะเป็นตวาด คำแก้วย้อนอีกว่า ถ้าตนไม่ให้กินตนก็ตายเอง นายจะเอาอย่างนั้นใช่ไหม เจ้าสัวโมโหจัดบอกว่า พูดกันทั้งวันก็ไม่จบ ไล่คำแก้วให้ออกไปได้แล้ว เธอฮึดตัดสินใจเป็นไงเป็นกัน แฉต่อ
"ไม่ใช่แค่กิมลั้งคนเดียว ยังมีคุณนายใหญ่กับคุณนายที่สองที่เป็นคนสั่งให้กิมลั้งไปทำของใส่แก้ว นายก็เห็นว่าไม่ผิดใช่ไหม"
เจ้าสัวบอกว่า ทั้งสองคนไม่ได้ทำ คำแก้วถามว่า กิมลั้งเป็นคนบอกเอง นายก็ได้ยินกับหูทำไมยังไม่เชื่ออีก
"ลื้อไม่ต้องถามว่าทำไม อั๊วไม่เชื่อ ไม่มีใครอยากให้ใครตาย มีแต่ลื้อนั่นแหละ ลื้อคนเดียวที่มีเรื่องกับเขาหมด"
"นาย ตกลงแก้วผิดคนเดียวเหรอคะ" คำแก้วเสียงแหลมด้วยอารมณ์ที่ขึ้นถึงขีดสุด
"ใช่! ลื้อผิดคนเดียว ลื้อมันไม่มีหัวสมอง ทำอะไรไม่คิด ตั้งแต่เดินไม่ดีจนแท้งลูก ลื้อโกรธอากิมลั้งที่เป็นต้นเหตุ ทำให้ลูกลื้อตาย ลื้อก็เลยให้อีตายตามลูกลื้อไป"
คำแก้วกรี๊ดสุดเสียงพุ่งเข้าไปทุบตีเจ้าสัวไปมา เจ้าสัวโกรธจัดตวาดให้หยุดก็ไม่หยุด ในที่สุดเจ้าสัวสะบัดคำแก้วเหวี่ยงเต็มแรงกระเด็นไปกระแทกเก้าอี้ลงไปกองกับพื้น เจ้าสัวตวาดไล่อีก
"ไปให้พ้น! แล้วต่อไปอย่าบังคับให้คนของอั๊วกินของสกกาปกอีก!"
คำแก้วมองเจ้าสัวน้ำตาพรูด้วยความแค้น เสียใจ พอลุกได้ก็ออกไปปิดประตูปัง!
ooooooo
คำแก้วออกจากห้องเจ้าสัวอย่างหมดอาลัยตายอยากซ้ำมาเจอเม่งฮวยดักด่าจะเอาผิดเรื่องที่คำแก้วหาว่าตนเป็นคนทำของใส่อีกจนคำแก้วแผดเสียงกรี๊ดสุดแรงเกิดแล้วเดินหนีเข้าห้อง เม่งฮวยได้แต่พึมพำ "บาปกรรม... บาปกรรมจริงๆ"
คำแก้วรู้สึกเหมือนตกนรกทั้งเป็น ถูกทั้งเจ้าสัว เม่งฮวยและเยนหลิง รุมกันรังเกียจเดียดฉันท์จนรู้สึกไม่มีทางออก
หลับกลางวันก็ฝันถูกผีกิมลั้งหลอกหลอนจนผวาตื่นลุกขึ้นมองไปรอบห้องอย่างตระหนกอกสั่นพึมพำเหมือนพูดกับกิมลั้ง
"กิมลั้ง...แกทำฉันก่อนทำไม แกอยากให้ฉันตาย แกถึงมาทำฉัน กรรมเวรมันตอบสนองแกถึงตาย...กิมลั้ง แกตายเพราะตัวแกเอง" ประโยคสุดท้ายเธอตะโกนเหมือนจะทำให้กลบความกลัวของตัวเอง
ตกกลางคืนคำแก้วปิดไฟนอนขดตัวบนเตียง พอผล็อยหลับไปก็ฝันเห็นผีกิมลั้งมาทำร้ายอีก เอาปิ่นแทงเธอจนเลือดออก เธอตกใจเสียงหวีดร้องของตัวเองลุกขึ้นนั่งกอดตัวเองอย่างหวาดกลัว
จนกระทั่งตัดสินใจเปิดไฟแล้วลงไปนั่งซุกตัวอยู่มุมห้องร้องไห้ออกมาอย่างน่าเวทนา
เป็นอยู่อย่างนี้จนเช้าวันหนึ่งคำแก้วในชุดนอนนั่งพิงหัวเตียงหลับเอาตอนสว่าง ไฟในห้องเปิดไว้ทุกดวง เธอสะดุ้งตื่นเมื่อมีเสียงเคาะประตูเบาๆสะดุ้งขึ้นมาพึมพำ "นาย..." แล้วผวาไปเปิดประตู
ปรากฏว่าเป็นอาฮุ้งมาบอกว่าเม่งฮวยสั่งให้มาบอกว่าอย่าเปิดไฟนอน แม้คำแก้วจะรู้สึกกดดันอย่างยิ่งแต่ก็ไม่แสดงกิริยาใดๆออกมา
ooooooo
ส่วนโรสยังไปซ้อมงิ้วการกุศลอยู่และเมื่อซ้อมเสร็จก็ไปนอนกับทรงชัยที่ห้องพักของเขาในโรงแรม โรสบอกทรงชัยว่าตนตัดสินใจจะเอาลูกชายไปอยู่กับเราด้วย ทรงชัยดีใจบอกว่านึกว่าเธอจะกลัวเสียอีก โรสถามว่ากลัวอะไร
"กลัวว่าลูกชายของโรสจะไม่ได้เป็นลูกชายเจ้าสัว" ทรงชัยพูดตามตรงโรสยอมรับว่ากลัว ทรงชัยมองหน้าถามว่า "แล้วทำไม"
โรสชี้แจงว่า "เป็นลูกชายเจ้าสัวอีจะได้ของดีเลิศประเสริฐศรีทุกอย่าง แต่อีจะไม่ได้อย่างเดียวคือความรัก แต่ถ้าอยู่กับเราก็จะได้ความรักจากพ่อกับแม่ใช่ไหม"
"ใช่..." ทรงชัยตอบหนักแน่น "เฮียจะรักเขาเหมือนเขาเป็นลูกชายแท้ๆของเฮีย"
โรสถามว่าตนไม่ต้องมีลูกกับเฮียได้ไหม ทรงชัยนิ่งโรสถามว่าอยากมีลูกหรือ เขาตอบนิ่มนวลว่า
"โรส...เฮียรักโรส เฮียก็พร้อมจะรักลูกชายของโรสด้วย แล้วเฮียจะต้องมีลูกอีกทำไม"
โรสฟังแล้วตื้นตันใจจนน้ำตาคลอ โผเข้ากอดพร่ำบอก
"เฮีย ฉันรักเฮีย รักที่สุด ฉันอยากเจอเฮียเป็นคนแรกของฉัน แต่ในเมื่อมันไม่ใช่ ฉันจะขอเจอเฮียเป็นคนสุดท้าย..."
ทั้งสองกอดกันอย่างซาบซึ้งใจในกันและกัน
ooooooo
เยนหลิงพยายามทุกวิถีทางที่จะยุแหย่งัดรอยร้าวระหว่างเม่งฮวยกับคำแก้ว แต่ทั้งคำแก้วและเม่งฮวยต่างรู้เช่นเห็นชาติเยนหลิง ไม่มีใครตกหลุมพราง
ส่วนกับโรสนั้นเป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เมื่อเห็นโรสเฉิดฉายอย่างไม่มีกังวลกับเรื่องใดๆในบ้าน เยนหลิงคิดหาทางกำจัดโรสเพราะสืบเสาะจนรู้ความลับของโรสทั้งเรื่องหนีไปดูงิ้วและเรื่องความสัมพันธ์กับทรงชัยที่พากันมาเล่นไพ่ที่ห้อง ถามซอกแซกจากอาจู อาจูก็ไม่ยอมบอก
โรสเห็นคำแก้วเศร้าเหงามากจึงเข้าไปชวนมาเล่นไพ่แก้เหงาบอกว่าจะให้หมอทรงชัยมาเล่นด้วย คำแก้วไม่เล่นอ้างว่าปวดหัวอยากนอน ชวนไปช็อปปิ้ง คำแก้วก็ไม่ไป
เยนหลิงแอบฟังอยู่ มายืนดักหาเรื่องโรสที่หน้าห้อง คำแก้ว โรสออกมาเจอก็บ่นเบาๆกับตัวเองว่า "เฮ้อ...เบื่อนังแมงป่อง"
เยนหลิงไม่สนใจถามว่ามาชวนคำแก้วเล่นไพ่นกกระจอกหรือ เขาเล่นไม่เป็นจะทำให้เขาเสียคนเปล่าๆ
พูดกันไม่กี่คำก็ทะเลาะกันเพราะต่างก็กุมความลับของอีกฝ่ายได้ โรสด่าเยนหลิงว่าวันๆคิดแต่เรื่องชั่วๆ เยนหลิงย้อนว่าตัวเองก็คิดทำแต่เรื่องชั่วๆ อย่านึกว่าตนไม่รู้
เยนหลิงปรามว่า ปากดีนักระวังตัวให้ดี โรสสวนไปทันทีว่าระวังตัวหรือระวังปาก
"ระวังทั้งปากทั้งตัว...ทั้งชีวิตด้วย" เยนหลิงตะคอกโรสชะงักหน้าถอดสี เยนหลิงเยาะเย้ย "โถ...แม่ดอกกุหลาบกลิ่นจัด...ตกใจจนตะลึงเลยเหรอเนี่ย" พูดพลางแตะแก้มโรสเบาๆอย่างยั่วโทสะ
"อีแมงป่องสารพัดพิษ" โรสด่าจนเยนหลิงถอยกรูด เงื้อมือจะตบ ถูกโรสตบเข้าก่อนทีหนึ่งแล้ววิ่งหนี เยนหลิงไล่ตามอย่างจะเอาคืน
ทั้งคู่ไปตบตีกันหน้าห้องเม่งฮวย เยนหลิงอึดกัดฟันไม่ยอมส่งเสียง ในขณะที่โรสร้องเป็นงิ้วหลงโรงเสียงแหลมบาดหู
อาฮุ้งถามเม่งฮวยที่ฟังอยู่ในห้องว่าไม่ไปห้ามหรือ เม่งฮวยตอบยิ้มหยันสะใจว่า
"ห้ามทำไม ปล่อยให้พวกอีตีกันให้ตายไปข้างหนึ่งเลย"
ooooooo
หลังจากนั้น เยนหลิงเรียกโชคมาพบให้เงิน 500 บาท ให้สะกดรอยตามโรสไปที่โรงงิ้ว
แต่ต้องผิดหวัง เพราะวันนี้เจ้าสัวให้สร้อยขับรถไปส่งและให้รอรับโรสกลับด้วย โชคจึงกลับมาก่อน บอกเยนหลิงว่าเจ้าสัวสั่งให้สร้อยรอรับโรสกลับอยู่แล้วตนอยู่ไปก็ไม่มีประโยชน์
ooooooo
โรสอึดอัดขัดใจมากที่ถูกสร้อยตามติดตลอดเวลา บอกให้กลับก่อนก็ไม่ยอมกลัวขัดคำสั่งเจ้าสัว โรสจึง พยายามส่งสายตาบอกทรงชัยที่มานั่งดูการซ้อมอยู่ว่าวันนี้ไปด้วยไม่ได้ ทรงชัยไม่เข้าใจได้แต่มองโรสอย่างแปลกใจในท่าทีที่เปลี่ยนไปของเธอ
โรสหาจังหวะเหมาะเลี่ยงจากเวทีไปบอกทรงชัยว่า วันนี้ไปด้วยไม่ได้เพราะนายสั่งให้คนรถมารอรับกลับด้วย
"ไม่เป็นไรโรส อดทนอีกหน่อยน่ะ อีก 2 อาทิตย์เราก็จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไปแล้ว" พอเห็นโรสทำหน้างง ทรงชัย บอกว่า "วันแสดงจริงพาตี๋เล็กมาด้วย แสดงเสร็จเฮียจะพาโรสกับลูกหนีไปเลย"
พูดจบทรงชัยเดินไปทันที โรสยังยืนตะลึงอึ้งเมื่อรู้วันหนีที่ทรงชัยกำหนดไว้แล้ว
ooooooo
วันนี้ อาฮุ้งปรารภขณะนั่งนวดขาให้เม่งฮวยว่าหมู่นี้บ้านเงียบมากเพราะพวกคุณนายไม่พูดกัน เม่งฮวยพูดอย่างเยือกเย็นว่ารู้อยู่แล้วว่าวันหนึ่งต้องเป็นแบบนี้ ถามอาฮุ้งว่า คิดว่าผู้ชายมีเมีย 4 คนอยู่ในบ้านเดียวกันมันจะเป็นสวรรค์ได้หรือ อาฮุ้งแย้งว่านายท่านมีเงิน
"ลื้อว่าเงินสำคัญที่สุดหรืออาฮุ้ง...ของทุกอย่างมันต้องพอดี อะไรมากไปก็ไม่ดี มีเงินมากไปมันก็ไม่ดีหรอก เพราะคนมีเงินเยอะก็จะทำอะไรๆไม่พอดี คนเราทำอะไรมันต้องพอดี คนรวยมันทำเยอะไป"
"อะไรเยอะมั่งฮะอาคุงนายใหญ่" อาฮุ้งช่างซัก
"นี่ไง...มันอยู่กันเยอะไป คนรวยก็จะมีบ้านใหญ่โต ต้องกินเยอะ ใช้ของเยอะ มีเมียเยอะ แล้วถ้าอีเป็นคนไม่ดี อีก็ทำให้เมียเยอะๆพวกนั้นไม่มีความสุข คนจนที่ไม่มีเงิน แต่อีมีเมียได้คนเดียว เมียที่ไม่มีความสุข ก็มีแค่คนเดียว"
พูดแล้วเม่งฮวยน้ำตารื้นอย่างเก็บกด อาฮุ้งจับข้อเท้าปลอบโยนมองด้วยแววตาซื่อสัตย์ เม่งฮวยแหงนหน้ามองเพดานกะพริบตากลืนน้ำตาลงในอก จนฮาฮุ้งน้ำตาคลอด้วยความสงสารเสียเอง...
ooooooo
คำแก้วกลัดกลุ้มหาทางออกไม่ได้ไม่มีใครที่เข้าใจตน คิดถึงก้องเกียรติก็อยู่ไกลถึงเมืองจีน เธอจึงเอาเหล้าที่ห้องอาหารมากินจนเมา อาอึ้มขอร้องว่าอย่ากินเลยมันไม่ดี คำแก้วเถียงเสียงอ้อแอ้ว่าทำไมจะไม่ดี กินแล้วลืมความทุกข์ หลับสบาย
ก้องเกียรติเดินทางกลับมาแล้ว เขากลับก่อนกำหนดหนึ่งวัน เขาได้ยินผินกับอ่อนที่ถูบันไดอยู่คุยกันว่าคำแก้วเมาทุกวัน อ่อนพูดกับผินว่า "น่าสงสารคุณนายที่สี่นะผิน"
"สงสารทำไม ผู้หญิงที่ผัวเบื่อคนไหนคนนั้น ถ้าไม่มีชู้ ก็ออกเที่ยว ไม่ออกเที่ยวก็เล่นไพ่ ไม่เล่นไพ่ก็กินเหล้าเหมือนคุณนายที่สี่นี่แหละ"
ก้องเกียรติตกใจ ตกตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน มองขวับขึ้นไปที่ห้องคำแก้วทันที
คำแก้วเมาเหล้าฟุบอยู่ที่โต๊ะในห้อง น้ำตาไหลแล้วค่อยๆร้องไห้ดังขึ้น...ดังขึ้นจนร้องไห้หนักอย่างน่าสงสาร
ก้องเกียรติเข้ามายืนมองอยู่อย่างเจ็บปวดสงสารจับใจ คำแก้วเงยหน้าขึ้นเห็นชายหนุ่มเต็มตาเธอดีใจมาก ต่างสบตากันอย่างไม่อาจปิดบังความรู้สึกที่มีต่อกันได้
คำแก้วลุกวิ่งโลดแล่นเข้ากอดชายหนุ่มโถมเข้าไปทั้งตัว กอดเขาแน่น น้ำตาไหลพรากด้วยความคิดถึง
ก้องเกียรติยืนระงับความรู้สึกที่รุนแรงของชายหนุ่ม สุดท้ายห้ามใจตัวเองไม่ไหวสองแขนกอดคำแก้วไว้แน่น คำแก้วเงยหน้ามองสายตาละห้อย น้ำตาฉ่ำดวงตา
ต่างตกอยู่ในภวังค์ ค่อยๆโน้มหน้าเข้าหากันอย่างลืมตัว...
ooooooo
เมื่อได้สติความรู้สึกผิดชอบชั่วดีกลับมา ก้อง-เกียรติดันร่างคำแก้วออกห่าง คำแก้วมองหน้าเขาอย่างรู้สึกละอายใจ ถามแก้เกี้ยวว่ากลับมาตั้งแต่เมื่อไร ทำไมกลับมาเงียบๆ
ก้องเกียรติตอบผ่านๆว่ามาเมื่อวานก่อนกำหนดหนึ่งวัน แล้วถามเป็นการเป็นงานว่าเธอกินเหล้าด้วยหรือทำไมถึงกิน คำแก้วย้อนถามอย่างตัดพ้อว่าแล้วจะให้ตนนั่งบื้อใบ้เป็นนางห้องงั้นหรือ
"ถ้าจะให้แนะนำก็อยากให้อ่านหนังสือ ซึ่งเธอก็ไม่ชอบอ่านอีก แต่ก็ยังดีกว่ากินเหล้า"
"คุณชายใหญ่ไม่ใช่แก้ว คุณชายใหญ่ไม่รู้หรอกว่าชีวิตแก้วมันมืดมนขนาดไหน"
"ชีวิตคนเราไม่ว่าจะมืดแค่ไหนก็มีวันสว่างนะคำแก้ว แต่ถ้ากินเหล้าดับกลุ้มชีวิตจะมืดตลอดไปไม่มีวันสว่างเลย"
คำแก้วมองหน้าก้องเกียรติด้วยแววตาที่เปิดเผยถึงความประทับใจอย่างลึกซึ้ง
ที่หน้าห้องโรส อาจูเปิดประตูออกมาแล้วชะงักเมื่อเห็นก้องเกียรติอยู่ในห้องกับคำแก้ว รีบปิดประตูกลับเข้าห้อง โรสถามอย่างรู้ดีว่า "พวกอีทำอะไรกันอยู่" ทำเอาอาจูงงถามว่าใคร
โรสจึงบอกว่าตนเห็นก้องเกียรติเดินมาที่ห้องคำแก้วเมื่อครู่นี้ ถามย้ำว่าพวกเขาทำอะไรกันอยู่ อาจูอึกอักแล้วบอกว่าไม่รู้แล้วเลี่ยงไปจัดชุดน้ำชาเพราะไม่อยากยุ่งเรื่องของเจ้านาย
"อาจู...ลื้อนี่มังไม่ล่ายหลั่งใจ...ไม่ล่ายหลั่งใจจริงๆ" โรสบ่นแต่ยิ้มขำๆความซื่อของอาจู
ooooooo
ก้องเกียรติยังพยายามหว่านล้อมให้คำแก้วเลิกกินเหล้า แต่ทันใดนั้นเม่งฮวยก็ผลักประตูโครมเข้ามาสั่งลูกชายให้กลับไปกับตนเดี๋ยวนี้ แม้จะรู้สึกอึดอัดใจมากแต่เขาก็เดินตามเม่งฮวยกลับไป
พอเข้าห้องเม่งฮวย ก้องเกียรติก็ถูกอาม้าตำหนิต่อว่ามากมายที่กลับจากเมืองจีนแทนที่จะรีบมาหาอาม้ากลับไปหาคุณนายที่สี่ สั่งเป็นครั้งสุดท้าย ห้ามคุยกับคำแก้วอีกต่อไป ครั้นก้องเกียรติพยายามชี้แจงว่าตนไม่ได้ทำอะไรเสียหาย ไม่ได้แอบคุย และไม่ได้คุยเรื่องไม่ดี แล้วอาม้ามีเหตุผลอะไรมาห้ามตนคุย
"เหตุผลคืออั๊วสั่ง อาม้าของลื้อสั่ง ล่ายยินไหม!"
ความอดกลั้นของก้องเกียรติถึงขีดสุดแล้ว พูดกับอาม้าหน้าเครียดว่า
"อาม้าครับ ตั้งแต่เล็กจนโต ผมได้รับแต่คำสั่ง อาเตียสั่ง อาม้าสั่ง ว่าลูกชายคนโตของเจ้าสัวเชงสือเกียง ต้องทำตัวเป็นตั่วเสี่ยของตระกูล ต้องเก่ง ต้องขยัน ต้องงามสง่า ไปเรียนหนังสือก็ต้องเรียนเก่ง ทำงานก็ต้องขยัน ต้องเก่ง ต้องแต่งตัวเรียบร้อย ต้องคบแต่เพื่อนดีๆที่เป็นลูกเจ้าสัวด้วยกัน ต้องเชื่อฟังอาเตีย"
"ต้อง...ต้อง...ต้องทุกอย่าง" เม่งฮวยย้ำขึ้นกลางคันด้วยเสียงที่ดังขึ้นทุกที
"ชีวิตผมทำอะไรตามคำสั่งตลอดเวลา ไม่เคยได้ทำอะไรตามใจคิด เกิดมาก็อยู่ใต้อำนาจของอาเตียกับอาม้า ต้องทำทุกอย่างที่อาเตียกับอาม้าพอใจ ห้ามคิด ห้ามโกรธ ห้ามมีอารมณ์"
เม่งฮวยเริ่มนิ่งงันเพราะอาตั่วตี๋ไม่เคยเถียง แต่วันนี้เสียงดัง
"ในชีวิตผมไม่เคยสั่งใครได้เลย ผมไม่เคยมีอำนาจเหนือใครเลย ผมตกเป็นเครื่องมือของอาเตียของอาม้าที่ต้องทำให้ตระกูลเชงยิ่งใหญ่สวยงามเพราะมีลูกชายดี"
"อาตั่วตี๋ ต่อไปนี้ลื้อจะทำอะไรลื้อทำไป ทำได้ทุกอย่าง ยกเว้นอย่างเดียว ห้ามลื้อคุยกับอีนังนรกคำแก้วอีก ห้ามเด็ดขาด"
ก้องเกียรติโต้เถียงอย่างหมดความอดกลั้นว่าอาม้าห้ามไม่ได้เพราะเราเป็นคนไม่ใช่สัตว์ เม่งฮวยยืนกระต่ายขาเดียวว่าถึงยังไงก็ห้ามเด็ดขาด ครั้นก้องเกียรติบอกว่าตนไม่เคยคิดจะทำอะไรที่เสื่อมเสีย เม่งฮวยก็อ้างว่าที่ห้ามเพราะว่ามันไม่ดี แต่พอถามว่าไม่ดีตรงไหนก็ไม่มีเหตุผลอีก
จนเมื่อก้องเกียรติค่อยสงบสติอารมณ์ลง เขาเข้าไปไหว้ ขอโทษอาม้า เม่งฮวยเองก็รู้สึกเสียใจลึกๆ ที่พูดจาไม่ดีกับลูก จนเมื่อชายใหญ่ลุกเดินออกไปแล้ว เม่งฮวยก็ยังนั่งหน้าเครียดอยู่ที่เดิม
คำแก้วมาแอบดูอยู่ที่ราวบันไดหน้าห้องตัวเอง เธอน้ำตาคลอด้วยความอัดอั้นและเข้าใจชายหนุ่มมาก ส่วนก้องเกียรติเองก็หันมองมาที่ชั้น 3 เห็นคำแก้วความรู้สึกก็ยิ่งกดดัน แต่ในที่สุดเขาก็ตัดใจเดินกลับไปยังตึกเล็ก
เม่งฮวยนั่งสงบสติอารมณ์ จนอาฮุ้งมารินน้ำชาให้พูดเหมือนจะปลอบใจว่า ตนเชื่อว่าก้องเกียรติไม่ทำอะไรผิดแน่ เม่งฮวยฟังแล้วจึงบ่นอย่างเปิดใจกับอาฮุ้งว่า
"อาตั่วตี๋อีไม่เคยมีผู้หญิง อั๊วถึงกลัว นังคำแก้วมันยิ่งเป็นคนเจ้ามารยาอยู่ด้วย..."
ส่วนเยนหลิงเห็นอาเง็กหายไปนาน พอกลับมาก็ถามว่าไปไหนมา อาเง็กอึกอักก่อนจะตัดสินใจบอกว่ามัวแต่ฟัง อาผินเล่าเรื่องคุณชายใหญ่ว่า พอคุณชายใหญ่มาถึงก็ตรงขึ้นไปที่ห้องคุณนายที่สี่เลย
"จริงหรืออาเง็ก" เยนหลิงตื่นเต้นตาโตถาม พออาเง็กยืนยัน เยนหลิงยิ้มร้ายแววตาวาวอย่างมีแผน ลุกเดินไปอย่างเร็ว ตรงไปหาเจ้าสัวที่ห้องส่วนตัว ราวกับมีผลงานชิ้นโบแดงมารายงาน
แต่ปรากฏว่า พอเข้าไปฟ้องเรื่องก้องเกียรติไปหาคำแก้ว ถึงที่ห้องเท่านั้น แม้เจ้าสัวจะชะงักไปนิดหนึ่ง อึดใจเดียวก็ด่าเสียงดัง
"ลื้อซี้ซั้วต่า กลับห้องลื้อไป" เยนหลิงพยายามชี้แจงแต่เจ้าสัวตวาดเสียงดังกว่าเก่า "อั๊วไม่ได้ถาม ลื้อออกไปได้แล้ว!"
เยนหลิงชักสีหน้าใส่แล้วลุกเดินออกไปอย่างไม่พอใจมากจนอาจิวที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าห้องมองงงๆ
ooooooo










