ตอนที่ 16
อาจิวไปตามกิมลั้งมาทันที เจ้าสัวถามอย่างเอาผิดว่าเมื่อเช้าล้างห้องน้ำเสร็จหรือยัง กิมลั้งบอกว่ายังไม่เสร็จ ฟ้องว่าถูกคำแก้วมาหาเรื่องเสียก่อนแล้วไล่ออกจากห้อง เจ้าสัวจึงให้ไปดูห้องน้ำ พอกิมลั้งเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปดูก็ร้อง "ไอ้หยา..."
เจ้าสัวกล่าวโทษว่าคำแก้วหกล้มเลือดออกมาเต็ม
อย่างนั้นแปลว่าอะไร กิมลั้งตาแข็งขึ้นมา กำลังจะเถียงว่าคำแก้ว ไม่ได้ท้อง ก็ได้ยินเสียงคำแก้วร้องไห้พูดพลางเดินมาหาเจ้าสัว คร่ำครวญว่า
"นาย...นายคะ แก้วไม่มีลูกแล้วใช่ไหม"
เจ้าสัวประคองคำแก้วกลับไปที่เตียง ส่วนพวกอาฮุ้ง อาเง็ก และอาจูที่มาสอดแนมต่างพาหันหลบแอบฟังกันหูผึ่ง
เจ้าสัวด่ากิมลั้งว่าทำงานอย่างนี้ไม่ต้องอยู่แล้ว ไล่ให้ ออกไปเลย กิมลั้งพยายามจะบอกสิ่งที่ตัวเองเชื่ออีก พอเจ้าสัวนิ่งไปนิดหนึ่ง กิมลั้งก็โพล่งออกมาว่า
"หนูคิดว่าคุณนายที่สี่ไม่ได้ท้องจริงหรอกค่ะ"
ขณะเจ้าสัวตะลึงไปอึดใจนั้น คำแก้วก็ด่ากิมลั้งและเจ้าสัวก็ไล่ตะเพิดกิมลั้งออกไปให้พ้น พอกิมลั้งนิ่งไปอย่างผิดหวัง เจ้าสัวก็ประคองคำแก้วให้เข้าไปนอนพัก แล้วให้อาจิวรีบไปตามหมอมาดู
กิมลั้งสะบัดออกไปจากห้องอย่างเร็ว สีหน้าแววตาเต็มไปด้วยความเสียใจ แค้นใจ
บรรดานักสอดแนมทั้งสามกลับไปรายงานเจ้านายของตน เม่งฮวยถึงกับอุทาน
"เจ๊กอั้ก บาปกรรม บาปกรรมจริงๆ"
เยนหลิงฟังอาเง็กแล้วตีหน้าเศร้ารำพึง "น่าสงสารจริงๆ คำแก้วคงเสียใจมาก นายเองคงผิดหวังมากด้วย คนท้องคนไส้ น่าจะระวังให้มากๆ" แล้วสั่งอาเง็กให้รินน้ำชาให้สักถ้วย พออาเง็กผละไปรินน้ำชา เยนหลิงก็ค่อยๆยิ้มออกมา ยิ้มมากขึ้น... มากขึ้น จนกลายเป็นหัวเราะเบาๆอย่างสมใจ
ส่วนอาจูไปเล่าให้โรสฟัง โรสสงสารคำแก้วมาก ทั้งเชื่อว่าคำแก้วท้องจริงๆ แต่กิมลั้งโกหกว่าคำแก้วแกล้งท้อง บอกอาจูว่าจะไปเยี่ยมคำแก้วหน่อย พลางลุกเดินไป
โรสห่วงใยคำแก้วจริงๆ ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ปวดท้องไหม หมอมารึยัง บ่นว่าช้าจังน่าจะไปโรงพยาบาลดีกว่า
คำแก้วส่ายหน้าอย่างอึดอัดกังวล ถามโรสว่าคนแท้งแล้วหมอเขายังจะมาทำยังไงอีกหรือ โรสบอกว่าเผื่อมีเลือดตกค้าง เพราะคำแก้วบอกว่ายังปวดท้องมากก็แสดงว่ายังมีอะไรตกค้างอยู่ หมอต้องมาขูดออก แล้วลุกขึ้นอย่างร้อนใจจะไปถามนายให้ว่าตามหมอมาถึงไหนแล้ว
พอโรสลุกจากเก้าอี้คำแก้วก็รีบจับแขนไว้ โรสเริ่มเอะใจบอกว่ามีอะไรก็พูดมาเถอะไม่ต้องเกรงใจ คำแก้วก็ยังพูดแค่ว่ากลัวเจ็บไม่อยากให้หมอตรวจ กระทั่งบอกว่าอาย
แต่คนเจนโลกอย่างโรสเห็นท่าทีกังวลและพยายามปฏิเสธหมอของคำแก้วก็มองหน้าอย่างค้นหา อึดใจเดียวก็พยักหน้า บอกคำแก้วว่า
"อั๊วเข้าใจแล้ว เอาล่ะ อั๊วจะไปบอกนายว่าลื้อหายแล้ว ไม่ต้องให้หมอมาดูก็ได้"
"ขอบใจมากโรส...ขอบใจจริงๆ" คำแก้วซึ้งใจเหมือนโรสช่วยให้รอดตาย
ooooooo
โรสออกไปเจออาจิวเดินนำหมอมาพอดี โรสรีบบอกว่าคำแก้วสบายดีแล้ว ตนดูแลจนหลับไปแล้ว หมอขอขึ้นไปดู โรสเชิญอย่างไร้พิรุธ พอพาเข้าห้องก็พูดเบาๆว่า เห็นไหมว่าคุณนายที่สี่หลับไปแล้ว หลับสนิทเลย
หมอยังพยายามจะตรวจ โรสกีดกันเต็มที่บอกว่ากว่าคุณนายที่สี่จะหลับก็ยากเย็น หลับแล้วก็ไม่อยากให้รบกวน ถ้าหมออยากรู้อะไรถามจากตนได้ ทั้งยังรับปากหมอว่าถ้าคำแก้วตื่นตนจะพาไปหาหมอไปโรงพยาบาล ทั้งยังบอกอาจิวว่าตนจะรับผิดชอบพาคำแก้วไปหาหมอเอง
อาจิวยังอยากให้พาไปเดี๋ยวนี้หรือให้หมอตรวจเดี๋ยวนี้ กลัวเจ้าสัวรู้แล้วจะโกรธ โรสเลยทำเป็นโกรธขึ้นมาถามอาจิวว่าคนกำลังนอนหลับสบายๆ จะปลุกขึ้นมาลากไปให้เจ็บทำไมอีก
อาจิวเห็นโรสโกรธก็ตกใจบอกหมอว่างั้นกลับไปก่อนก็แล้วกัน แล้วทั้งสองก็เดินไปไม่เหลียวหลัง โรสตามมาป”ดประตูลงกลอนทันที จากนั้นไปหาคำแก้วบอกว่าไปกันหมดแล้ว ถามคำแก้วว่าทำไมถึงแกล้งท้อง
"ก็โรสเป็นคนบอกให้แก้วมีลูก" คำแก้วบอกซื่อๆ โรสทำหน้าสมเพชบ่นว่าตนให้ท้องจริงๆ ไม่ใช่ปลอมๆแบบนี้ คำแก้วบอกเสียงอ่อยว่า "ก็...มันไม่มีสักที แก้วก็เลย..."
โรสเตือนว่าถ้านายรู้....นึกออกใช่ไหมว่าจะโดนนายทำอะไรบ้าง พอคำแก้วบอกว่ารู้ โรสบ่นอีก
"โง่จริงๆ นังกิมลั้งน่ะมันรู้แล้วด้วย ถ้าไม่เกิดเรื่องก่อน อั๊วรับรองนังกิมลั้งมันแฉลื้อแน่ แล้วลื้อก็จะตายทั้งเป็น เพราะนายจะไม่มาหาลื้ออีกเลย นายไม่มาหา ลื้อก็ท้องไม่ล่าย ท้องไม่ล่าย ลูกก็ไม่มี ลูกไม่มี ลื้อก็ต้องอยู่อย่างเหี่ยวแห้งเหมือนผ้าขี้ริ้วที่เขาไม่ใช่ด้วยซ้ำ"
ฟังแล้วคำแก้วหวาดหวั่นมาก โรสสอนอีกว่า
"ฟังให้ดีๆอาคำแก้ว ลื้อยอมมาอยู่ที่นี่เป็นเมียนาย ถ้าจะอยู่ไปอีกนานๆ อย่าหลอกนาย เรื่องอะไรๆก็อย่าหลอก เพราะถ้านายจับได้ ลื้อก็อยู่ไม่ได้ ยังไงก็ต้องยั่วนายจนท้องให้ได้"
"ยั่วแล้ว" คำแก้วตอบเสียงแผ่วแทบไม่ได้ยิน โรสถามว่าถ้างั้นคำแก้วเป็นหมันหรือนายบ่อลัด คำแก้วไม่ตอบ แต่กลับถามโรสว่าแล้วทุกวันนี้โรสไม่ได้หลอกนายหรือ ทำให้โรสลุกพรวดขึ้น ยืนสงบอารมณ์ ครู่หนึ่งจึงนั่งลงอย่างเดิม พูดเป็นการเป็นงาน
"จำคำพูดอั๊วไว้ ถ้าลื้อจะอยู่นานๆ อย่าหลอกนาย ถ้าอยู่ไม่นาน...หลอกล่าย" พูดแล้วเห็นคำแก้วทำหน้างงก็ดุเบาๆ "ทำหน้าโง่อีกแล้ว คิดสิ...คิดตาม"
คำแก้วนึกได้ถามว่าโรสจะไม่อยู่แล้วหรือ ทำไมถึงไม่อยากอยู่ที่นี่ล่ะ
"ใครๆก็อยากมีความสุข....ความสุขที่อยู่กับคนที่เรารัก" โรสพูดแววตาฝันอย่างมีความสุข เมื่อคิดถึงวันที่จะได้ไปอยู่กับทรงชัย...คนที่ตัวเองรัก
แม้จะผ่านไปหลายวันแล้ว แต่คำพูดของโรสที่ว่า "ใครๆก็อยากมีความสุข ความสุขที่อยู่กับคนที่เรารัก" ยังวนเวียนอยู่ในความนึกคิดของคำแก้ว...วันนี้เธอไปซบหน้ากับบ่อเก่าน้ำตาพร่างพรายร้องไห้จนตัวโยนกับความระทมขมขื่นของตัวเอง...
ooooooo
เย็นวันนี้ ก้องเกียรติ เรืองยศ โจ และเต้มาที่บ้านภาษีเจริญอีก โจบอกว่าครั้งนี้ก้องเกียรติต้องอยู่ นานๆเพราะจะไม่ได้มาอีกแล้ว ถูกเรืองยศติงหน้าตึงๆว่าพูดแบบนี้ได้ยังไง เพราะก้องเกียรติจะไปแค่ 23 เดือนเท่านั้น
พอดีสาวใช้เอาน้ำมาเสิร์ฟ ก้องเกียรติถามว่าอาอึ้ม
อยู่ไหนรู้ไหม พอสาวใช้บอกว่าอยู่กับคำแก้วเพราะเธอไม่สบายมาก
แค่รู้ว่าคำแก้วไม่สบาย ก้องเกียรติก็ตกใจแล้วยิ่งเมื่อรู้ว่าเธอแท้ง ก้องเกียรติก็ถึงกับอึ้งสนิท ทุกคนมองหน้ากันนิ่งเงียบ เรืองยศชำเลืองมองก้องเกียรติอย่างจับพิรุธ โจเสนอให้ไปเยี่ยมคุณนายที่สี่ เรืองยศขัดขึ้นทันทีว่าไม่จำเป็น พอโจถามว่าทำไม เรืองยศตอบด้วยสีหน้าเครียดขรึมว่า
"เพราะผู้หญิงคนนี้ไม่มีค่าอะไรที่ต้องไปเยี่ยม"
"พูดชอบกลนายยศ เขาเป็นเมียคุณเตี่ย เป็นแม่เลี้ยงไอ้ใหญ่นะแก" เต้แย้ง
"ก็ตามใจแก ไปกันสิ แต่อย่าเอาใครติดมือไปแล้วกัน ฉันจะขึ้นไปอาบน้ำ เหนียวตัว"
พูดแล้วเรืองยศพรวดพราดออกไป โจกับเต้พากันงงมาก ส่วนก้องเกียรตินั่งหน้านิ่งสนิทแล้วลุกขึ้น บอกเพื่อนทั้งสองว่า "เดี๋ยวฉันจะไปบอกนายยศว่าควรจะไปเยี่ยมคุณนายที่สี่ด้วยกัน"
แต่พอขึ้นไปชวนเรืองยศ กลับถูกถามว่าไม่กลัวบาปเหรอ ก้องเกียรติตอบอย่างหนักแน่นว่าตนรู้ตัวดีว่ากำลังทำอะไร เท่านั้นเองเรืองยศผุดลุกขึ้นเสียงดังหน้าตึงตาแข็งพูดใส่หน้าว่า
"ฉันว่านายไม่รู้หรอกว่ากำลังจะแย่งเมียพ่อ"
ก้องเกียรติเดินพรวดเข้าไปตบแก้มเรืองยศเบาๆ แต่
ฝ่ายนั้นร้องในคอเหมือนเจ็บปวด ก้องเกียรติปรามว่า "ปากพล่อย ถ้าปากพล่อยอีก จะโดนอีก" พูดแล้วเดินออกไปทันที
เรืองยศจับแก้มที่ถูกตบเบาๆ ยืนอึ้งสนิท
ooooooo
เม่งฮวยอยู่ในห้องกับอาฮุ้ง ถามอาฮุ้งว่าอาตั่วตี๋มาใช่ไหม ตนกลัวอาตั่วตี๋จะมาหาคำแก้ว ถ้ารู้ว่าอีแท้งลูก
ก้องเกียรติไปถึงแล้ว อาอึ้มถามว่ามาทำไม เขาบอกว่ามาเยี่ยมคุณนายที่สี่
"อีสบายดีแล้วฮ่ะคุงชายใหญ่ เพราะอียังท้องแค่ 2 เดือน วันแรกเลือดออกเยอะ แต่ตอนนี้อีไม่เป็นอะไรเลี้ยว" อาอึ้มพยายามพูดไม่ให้เขากังวลและลึกๆแล้วพูดกันไม่ให้เขาไปเยี่ยมคำแก้ว
แต่สุดท้ายก้องเกียรติก็ขอตรงๆว่าจะไปถามอาการคุณนายที่สี่เองได้ไหม อาอึ้มตอบอย่างไม่สบายใจว่าได้ แล้วหลีกทางให้เขาเดินเข้าไปทางห้องนอนของคำแก้ว
ชายหนุ่มไปนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงคำแก้ว ส่วนอาอึ้มนั่งเมียงๆมองๆอยู่ที่โต๊ะน้ำชา
ก้องเกียรติแสดงความเสียใจห่วงใย ให้กำลังใจคำแก้วว่าอย่าเพิ่งหมดหวัง เชื่อว่าไม่ช้าเธอก็ต้องมีลูกให้พวกเราแซ่เชง มีน้องให้ตนได้อีก ขอให้หมั่นบำรุงรักษาตัวให้แข็งแรง ทางครัวเขาก็พร้อมจะทำอาหารที่เธออยากทานเพียงแต่บอกเขาเท่านั้น
"ค่ะ แก้วพร้อมจะถูกขุนอยู่แล้ว"
คำตอบประชดประชันของคำแก้วทำเอาชายหนุ่มอึ้งไปนิดหนึ่ง ก่อนพูดให้กำลังใจเธอว่า
"คำแก้ว...อย่าพูดอะไรที่จะทำให้จิตใจเศร้าหมองอย่างนั้น จำไว้ว่ามีคนอีกหลายคนที่อยากให้เธอมีความสุข" คำแก้วถามว่าความสุขของตนเป็นอย่างไรตนไม่รู้เลย "ความสุขของคนคนหนึ่ง บางครั้งไม่อาจวัดได้จากตัวเองเพียงคนเดียว ความสุขของคนบางคนอยู่ที่เห็นคนอื่นมีความสุข"
"แก้วไม่เข้าใจค่ะ...อย่างที่คุณชายใหญ่กำลังทำอยู่
ขณะนี้ใช่ไหมคะ" ถามและมองหน้าไม่วางตา
"บางครั้งนะคำแก้ว คนอื่นของเราก็ไม่ใช่ "คน" เสมอไป" คำแก้วถามว่าถ้าอย่างนั้นคืออะไร ชายหนุ่มตอบอย่างอ่อนโยนว่า "คือความสงบ คือบรรยากาศ คือสิ่งแวดล้อมของที่ที่เธออาศัยอยู่"
"คุณชายใหญ่พูดอย่างนี้ คนก็กลายเป็นสัตว์ เป็นสิ่งของที่ไม่มีหัวใจ"
"ไม่ใช่เลย คำแก้วเข้าใจผิด การที่เราคำนึงถึงความสงบสุข บรรยากาศ และสิ่งแวดล้อมของสถานที่เพราะมันมีผลกระทบโดยตรงต่อคนกับความสุขของคน นั่นไม่ใช่เพราะว่าเราเห็นคนสำคัญที่สุดดอกหรือ"
คำแก้วเครียดขึ้นทันที พูดตัดบทว่า "คุณชายใหญ่ไม่ต้องมาพูดจาหว่านล้อมแก้วหรอกค่ะ แก้วรู้ว่าแก้วทำผิด แก้วไม่ระวังตัว แก้วทำให้ทุกคนเสียใจที่สูญเสียลูกของตระกูลเชง แต่ใครก็ไม่รู้ถึงจิตใจแก้วหรอก ไม่มีใครรู้เลยจริงๆ... แม้แต่คุณชายใหญ่เอง"
ทั้งคู่ประสานสายตากันนิ่ง ลึก แล้วก้องเกียรติก็ขยับลุกขึ้น คำแก้วลุกจากที่นอนแต่ทรงตัวไม่ดีเซๆจะล้มก้องเกียรติจึงประคองไว้ พอเธอทรงตัวได้เขารีบปล่อยมือ เตือนว่า
"เวลานอนมากๆอย่าลุกเร็วนะคำแก้วจะเวียนหัว" แล้วจงใจพูดดังๆให้อาอึ้มได้ยินว่า "ฉันว่าเธอไปนั่งพักที่ห้องโถงดีกว่านะ"
อาอึ้มรู้หน้าที่รีบมาประคองคำแก้วออกไปนั่งที่โซฟาหวาย พอคำแก้วนั่งแล้วอาอึ้มถามก้องเกียรติว่า "อาคุงชายใหญ่ จะไปเมืองจีนเมื่อไหร่ฮะ"
ก้องเกียรติมองหน้าอาอึ้มอย่างรู้ทันจนอาอึ้มต้องหลบตา เขามองคำแก้วเชิงบอกว่าต้องไปแล้ว...
ooooooo
คืนนี้ เจ้าสัวนอนกับคำแก้ว เธอฝันร้ายจนเพ้อเรียก "นาย..." เจ้าสัวปลอบให้นอนเสียอย่าคิดมาก แต่พอหลับความฝันนั้นก็กลับมาอีก...ฝันว่าก้องเกียรติประคองตัวเองนั่งที่ม้านั่งสีขาว จูบที่เปลือกตา ปลอบว่า "หลับเสียคนดี แล้วเธอจะไม่เห็นอะไรที่เลวร้ายอีกเลย"
ในฝัน คำแก้วระทวยอยู่ในอ้อมแขนของชายใหญ่ แต่ในความเป“นจริงเธออยู่ในอ้อมกอดของเจ้าสัว เธอนอนหลับพริ้มฝันดีทั้งคืน...
รุ่งเช้า คำแก้วยืนเศร้าอยู่ที่สนามหน้าตึก เจ้าสัวถามว่าคิดอะไรอยู่หรือ เธอบอกว่าอยากกลับบ้าน เจ้าสัวบอกว่าจะพาไปเอาไหมพลางจับหัวเธอโยกไปมาอย่างเอ็นดู
เยนหลิงมองจากข้างบนเห็นภาพนั้นเต็มตา ไฟริษยาลุกโชนทันที จากนั้นเรียกกิมลั้งมาพบถามว่าพร้อมจะทำงานให้ตนหรือยัง
กิมลั้งทั้งกลัวทั้งอัดอั้นกดดัน แต่เมื่อนึกถึงที่ตัวเอง อ้อนวอนเยนหลิงไม่ให้ฟ้องนายใหญ่ว่าตนทำของใส่คำแก้วโดยยอมที่จะรับใช้เยนหลิงทุกอย่างแล้ว คำขู่ของเยนหลิงครั้งนั้นก็คุกคามขึ้นในความนึกคิดอีก
"ฉันจะบอกท่านเจ้าสัวว่าแกกับคุณนายใหญ่ทำของใส่คำแก้ว แกจะต้องถูกไล่ออกจากบ้าน แกจะไปอยู่ที่ไหน แกก็อยู่ไม่ได้ เพราะแกไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน ทำมาหากินอะไรก็ไม่เป“น แกจะต้องอดตาย!"
กิมลั้งร้องไห้เสียงดัง กอดเข่าฟุบหน้ากับเข่าร้องไห้จนตัวสะเทือน...
ooooooo
แล้วก็ถึงเวลาที่ก้องเกียรติจะต้องเดินทางไป เมืองจีน เม่งฮวยบอกตั่วตี๋ว่าให้ห้อยพระไปด้วย ทุกคน ตื่นเต้นยินดีกับการเดินทางไปติดต่อธุรกิจของก้องเกียรติ มีแต่เรืองยศที่นั่งนิ่งอย่างไร้อารมณ์ จนเจ้าสัวถามว่าเป“นอะไรโกรธใครมาหรือ เรืองยศบอกว่าโกรธก้องเกียรติ เจ้าสัวถามว่ามีเรื่องอะไรกันหรือ
"ผมอยากไปเมืองจีนด้วย แต่ใหญ่ไม่ให้ไปครับ"
ก้องเกียรติบอกเหมือนฟ้อง เม่งฮวยพูดขำๆ บอกว่าก็ไปคนเดียวแล้วไปเจอกันที่นั่น แต่เรืองยศไม่ขำด้วยบอกว่า "ผมตั้งใจจะได้ไปช่วยงานใหญ่เขา"
เม่งฮวยสนับสนุน เรืองยศยกชาดื่มอย่างดีใจที่มีคนเห็นด้วย แต่พอฟังประโยคหลังของอาม้าที่ว่า "เสร็จงานเร็วๆอาตั่วตี๋จะได้รีบกลับมาแต่งานเสียที"
เรืองยศก็หน้าหุบทันที เจ้าสัวตัดบทว่างานที่เมืองจีนไม่ต้องมีใครช่วยหรอก ก้องเกียรติทำคนเดียวก็ได้ เรืองยศเลยยิ่งหน้าเสียอย่างหมดหวัง
เจ้าสัวเสนอเม่งฮวยว่าจะให้อาอึ้มไปรับใช้คำแก้ว เม่งฮวยไม่ยอมเพราะอาอึ้มเป“นผู้ช่วยตนอยู่แล้ว ครั้นเจ้าสัวให้หาคนอื่นให้ เม่งฮวยก็ตัดบทว่ากิมลั้งก็ดีอยู่แล้ว
"อาเม่งฮวย...ลื้อจะให้คนที่ทำให้ลูกของลื้อตาย มาอยู่ใกล้ๆรับใช้ลื้อไหม ลื้อยอมไหม"
"แต่อั๊วไม่มีลูกตายเหมือนอี" เม่งฮวยเถียงอย่างหมดความอดทน พอเจ้าสัวเดินออกไปก้องเกียรติก็ปลอบใจอาม้าว่าให้ใจเย็นๆ เม่งฮวยสะอื้นในอกลูกชายบอกย้ำว่า "อาตั่วตี๋ ลื้อต้องเกลียดมัน...ต้องเกลียดมันนะ"
ก้องเกียรติและเพื่อนทั้งสามที่อยู่ในบรรยากาศนี้ต่างเครียดไปตามกัน
ooooooo
เยนหลิงให้กิมลั้งทำของใส่คำแก้ว เคี่ยวเข็ญบังคับจนกิมลั้งต้องยอมสารภาพความจริงว่า ที่จริงเม่งฮวยไม่รู้เรื่องนั้นด้วยเลย ทั้งหมดตนทำคนเดียว หมายจะให้เยนหลิงสงสารและไม่ใช้ให้ตนทำของใส่คำแก้ว แต่คำสารภาพนั้นกลับกลายเป“นดาบสองคมที่กลับมาเชือดเฉือนทิ่มแทงกิมลั้ง โดยเยนหลิงขู่ว่า
"ฉันต้องการคนทำงานให้ฉัน และนั่นก็คือแก ถ้าแกไม่ทำ และคุณนายใหญ่รู้ว่าแกซัดทอดเขา แกตายแน่!" กิมลั้งตกใจถามว่าจะบอกคุณนายใหญ่หรือ "ฉันบอกแน่นอน ทำไมฉันต้องปกป้องแกล่ะ"
กิมลั้งมองเยนหลิงอย่างผิดหวัง เยนหลิงถามว่าเขาจะทำพิธีให้เมื่อไหร่ กิมลั้งบอกว่าพรุ่งนี้เขาคิดห้าร้อยบาท เยนหลิงจึงไปหยิบเงินมาให้ บอกให้รับไปเสีย พูดให้กิมลั้งทำงานให้ตนโดยยุว่า
"คุณนายที่สี่เขาไม่มีวันดีกะแก ได้โอกาสเขาก็ทำลายแกเหมือนกัน ไปได้แล้ว" พอกิมลั้งเดินออกไป เยนหลิงก็แสยะยิ้มหัวเราะในลำคอพึมพำ "แกมันโง่สิ้นดี นังกิมลั้ง"
ooooooo
คืนนี้ กิมลั้งกำเงิน 500 บาทไว้แน่น นั่งจมอยู่ในความทุกข์ท่ามกลางความมืดภายในห้องทั้งกลัวทั้งเครียด ได้แต่ร้องไห้อย่างอัดอั้นกับสิ่งที่ไม่อยากทำเลย
รุ่งขึ้น กิมลั้งเดินใจลอยจากครัวไปทางประตูรั้วใหญ่ ผ่านทางห้องข้างตึกติดกับห้องโทรศัพท์เห็นอ่อนกับป้าพุ่มเดินมา กิมลั้งมองเมิน แต่อ่อนร้องทักถามว่ากิมลั้งจะไปไหน กิมลั้งไม่ตอบเดินดุ่มต่อไป
ป้าพุ่มสงสัยว่ากิมลั้งจะไปตลาดจะได้ฝากซื้อของ บ่นกับอ่อนว่าหมู่นี้ท่าทางกิมลั้งดูชอบกล อ่อนเห็นด้วยว่าเหมือนผีเข้า แล้วบอกป้าพุ่มว่าจะตามไปคุยด้วยเดี๋ยวมา
อ่อนวิ่งตามกิมลั้งไปทันแถวหน้าประตูรั้วติดถนน ตรงไปจับมือกิมลั้งบีบให้กำลังใจว่าอย่าคิดมากเรื่องคุณนายที่สี่แท้ง ไม่มีใครคิดว่ากิมลั้งตั้งใจทำ ปลอบใจว่ามีอะไรคุย กับพวกเราอย่าเก็บไว้คนเดียว
"ขอบใจ..." กิมลั้งเสียงเครือแผ่ว น้ำตาคลอ
วันต่อมากิมลั้งก็ถือห่อผ้าดิบสีมอๆ ม้วนแบบตะกรุดมีด้ายมัดตราสังผูกอยู่วางบนพื้น นั่งคุกเข่าตรงหน้าเยนหลิงที่นั่งอยู่บนโต๊ะน้ำชา เยนหลิงพอใจชมว่าดีมาก บอกกิมลั้งว่าตอนนี้คำแก้วอยู่แถวบ่อน้ำให้รีบเอาไปจัดการเลย กิมลั้งลังเลหน้าเสีย จนเยนหลิงเสียงเข้ม "ไปซี่!" กิมลั้งจึงหยิบม้วนผ้ากำในมือลุกเดินไป
เยนหลิงมองตามยิ้มร้ายคิดในใจ
"ตายแน่...นังคำแก้ว!!"
ooooooo
พอออกจากห้องเยนหลิง กิมลั้งเหลือบมองไปที่ชั้น 3 ตรงห้องคำแก้ว ค่อยๆเดินขึ้นไปด้วยใบหน้าที่เหมือนใส่หน้ากาก ตรงไปเปิดประตูห้องคำแก้วผลุบเข้าไปแล้วล็อกกลอนประตู
ก้าวพรวดๆไปถึงโต๊ะน้ำชา กิมลั้งก็เอาม้วนผ้า แตะ...แตะ...แตะที่โต๊ะน้ำชา โซฟาหวาย เก้าอี้โยก ตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง แล้วตรงเข้าไปในห้องนอน
ในห้องนอน กิมลั้งเอาม้วนผ้าแตะที่โต๊ะ ที่หัวเตียง ที่หมอนหนุนของคำแก้ว ที่นอนตรงคำแก้วนอน และสุดท้ายยกม้วนผ้าขึ้นมองดูนิ่งด้วยสายตาที่ทุกข์ใจแสนสาหัส
เสร็จแล้วกิมลั้งเปิดประตูห้องออกมาเจออาจูเข้าพอดี กิมลั้งสะดุ้งโหยงก้าวขาไม่ออก อาจูเดินเร็วๆเข้ามาหา ถามว่าเข้าไปในห้องคุณนายที่สี่ทำไมอีก เดี๋ยวก็เกิดเรื่องหรอก
กิมลั้งโกหกอึกๆอักๆว่าลืมของเลยมาเอา ครั้นอาจูถามว่าลืมอะไร อยู่ไหน กิมลั้งบอกว่าเป็นของสำคัญแต่หาไม่เจอ อาจูจิตใจดีจะเข้าไปช่วยหาเอาไหม
"ช่างมันเถอะเจ๊จู" กิมลั้งพยายามที่จะไปให้พ้นจากตรงนั้น
"กิมลั้ง ไม่เป็นไรนะเรื่องนั้นน่ะ ท่านเจ้าสัวไม่ได้ไล่ลื้อจริงๆหรอก ลื้อทำตัวดีๆเงียบๆ สักพักหนึ่งเดี๋ยวท่านเจ้าสัวก็ลืม" พอกิมลั้งพยักหน้า อาจูพูดให้กำลังใจว่า "มีอะไรอย่าเก็บไว้คนเดียวนะอากิมลั้ง บอกเจ๊ เจ๊จะช่วยคิด"
ความอัดอั้นระเบิดทันที กิมลั้งร้องไห้โฮ ทรุดตัวลงกอดเอวอาจูซบหน้ากับตัวอาจู จนอาจูตกใจถามว่าร้องไห้ทำไม เป็นอะไร กิมลั้งไม่ตอบประสานมือไหว้อาจู 1 ที แล้วลุกขึ้นลงชั้นล่างไปเลย อาจูได้แต่มองตามด้วยความแปลกใจมาก
ooooooo
โรสวางแผนให้อาจูไปดูหนังกับโชคแลกกับให้ โชคปิดปากเรื่องตนออกไปเที่ยวและค้างคืนข้างนอก แต่จนแล้วจนรอดอาจูก็ไม่ยอมไป กระทั่งโรสบอกว่าถ้าโชคพูดความลับนั้นออกมาตนตายแน่ อาจูก็ยังบอกว่า
"อาคุงนายไม่เคยตายเพราะเรื่องนี้สักที อาคุงนายเก่งออก อาคุงนายทำอะไรๆได้ตั้งเยอะแยะ ไม่ต้องให้จูไปดูหนังกะอาโชคหรอก เพราะจูจะไม่ไปเด็ดขาด"
โรสหาว่าอาจูแข็งข้อ บ่นว่าไม่ล่ายหลั่งใจเลย กระนั้นอาจูก็ยังตอบอย่างเด็ดเดี่ยวหนักแน่นว่าตนไม่ไป ดังนั้น โรสจึงหยิบเงิน 100 บาทเดินไปหาโชคที่แต่งตัวหล่อเตรียมควงอาจูไปดูหนัง ส่งเงินให้แล้วบอกว่า
"อาจูอีงานเยอะ แล้วนัดกันใหม่นะอาโชค"
โชคไม่ต้องการเงิน มองหน้าโรสแล้วหันหลังเดินไปทางหน้าตึก โรสโกรธแทบจะปาเงินใส่ แต่เปลี่ยนใจเสียก่อนรีบเดินกลับขึ้นตึกทางระเบียงหลัง
ปรากฏว่าเยนหลิงยืนดูเหตุการณ์ทั้งหมดอยู่ข้างบน ดักรอจนโรสขึ้นมา ถามว่ามีอะไรกับโชคหรือ โรสชะงักจ้องเยนหลิงอย่างชิงชัง ด่า "อีแมงป่องสารพัดพิษ"
"แล้วลื้อล่ะตัวอะไร" เยนหลิงหัวเราะกวนประสาท โรสสะบัดหน้าบอกว่าพูดด้วยเสียปากแล้วเดินต่อ "แต่ถ้าลื้อไม่พูดกับอั๊ว ลื้อจะเสียหมดตัวนะเหม่เกว่"
โรสหันขวับจ้องจิกเยนหลิงตาเขียวปั้ด เยนหลิงสู้ตาอย่างเยาะหยัน
ooooooo
พอกลับเข้าห้องโรสกระแทกประตูปิดอย่างแรงแล้วตรงรี่มาหาอาจูที่กำลังเช็ดโต๊ะอยู่ กระชากผ้าจากมือปาใส่อาจูเต็มแรง อาจูยืนนิ่ง สีหน้าเรียบเฉย แล้วก้มเก็บผ้าขึ้นมาจะเช็ดโต๊ะต่อ
"เพราะลื้อ ลื้อมันม่ายล่ายหลั่งใจ อีนังแมงป่องมันถึงทำท่าเยาะเย้ยอั๊ว เพราะลื้อคนเดียวอาจู อั๊วเกลียดลื้อแล้ว ไปไหนก็ไป ไม่อยากเห็นหน้า!"
"ฮ่ะ อาคุงนาย" อาจูหมุนตัวจะออกจากห้อง โรสรีบคว้าไว้บอกอย่างหวาดหวั่นว่าตนกลัวอาโชค อาจูปลอบใจ ว่าไม่ต้องกลัวเพราะอาโชคทำอะไรคุณนายไม่ได้หรอก
"ไม่ใช่มันทำ แต่เป็นนังเยนหลิงนังแมงป่องสารพัดพิษ"
"ถ้างั้นทำไมจูต้องไปดูหนังกะอาโชคล่ะ" อาจูถามซื่อๆ ถูกโรสผลักกระเด็น ทั้งด่าทั้งสบถทั้งไล่ไปให้พ้นอย่ามา ในห้องนี้อีก ไม่อยากพูดด้วยสองตาก็จะไม่แลแล้ว
พออาจูจะเดินออกไป นึกขึ้นได้หันมาบอกว่า คืนนี้ เจ้าสัวบอกว่าจะมานอนที่ห้องนี้
"ออกไป..." โรสไล่ คว้าของใกล้มือปากระจุยกระจาย หงุดหงิดที่อะไรๆก็ไม่ล่ายหลั่งใจเลยสักอย่าง
ooooooo
คำแก้วนั่งพิงขอบบ่อเก่า เคลิ้มฝันไปว่าเง็กท้อ เดินมาหาที่ม้าหินที่ตัวเองนั่งอยู่ คำแก้วอุทานเรียก มองตะลึงในความงามของเง็กท้อ ชมว่าสวยจัง เพิ่งเห็นหน้าชัดๆวันนี้เอง
"ความสวยที่เป็นอันตราย ฉันสวยแต่โง่ ไม่มีสมอง ฉันคิดน้อย ฉันเลยต้องตาย" เง็กท้อเสียงเศร้านัยน์ตาโศก
คำแก้วถามว่าใครทำเธอ เง็กท้อบอกว่าตนทำตัวเอง คำแก้วงงๆ ถามว่าเง็กท้อมีอะไรจะบอกตนหรือ เง็กท้อกลับบอกว่าไม่มี ทุกคนมีหนทางของตัวเอง
"หนทางของฉันเป็นยังไง บอกฉันหน่อยสิ"
แทนคำตอบ เง็กท้อกลับหัวเราะแผ่วเบา เสียงหัวเราะก้องกังวานในสายลมแล้วก็หมุนตัวเดินไปทางบ่อเก่าหายวับไป คำแก้วมองตะลึงร้องเรียก "เง็กท้อ..."
พลันคำแก้วก็สะดุ้งตื่นกับเสียงเรียกเง็กท้อของตัวเอง แล้วก็ชะงักเมื่อเห็นก้องเกียรติมายืนอยู่ อุทานเรียกแผ่วหวิว...
"คุณชายใหญ่..." พอก้องเกียรติถามว่าเธอเป็นอะไรหรือ เธอบอกว่าแค่เผลอหลับไป
"เธอไม่ควรมาอยู่ที่นี่บ่อยนัก เพราะว่ามันรก แล้วก็ อาจมีสัตว์พิษทำร้ายเธอได้"
คำแก้วดีใจในความห่วงใยของชายหนุ่ม ตอบรับ ถามว่า มาหาตนหรือ ก้องเกียรติบอกว่ามาลาเธอเพราะพรุ่งนี้จะเดินทาง ไปเมืองจีนแล้ว คืนนี้จะกลับไปนอนที่บ้านสาทร ฟังแล้วคำแก้ว ต้องพยายามกลั้นน้ำตา
"คำแก้ว...ขอให้เธอระวังรักษาสุขภาพทั้งกายทั้งใจทานอาหารเยอะๆ พักผ่อนมากๆ อาเตียของฉันหวังว่าเธอจะมีลูกให้ท่านได้อีก"
คำแก้วจ้องหน้าก้องเกียรตินิ่งถามว่าห่วงใยสุขภาพแล้วใจของตนล่ะจะให้ทำอย่างไร
"เธอมีจิตใจที่อ่อนโยนอยู่แล้ว ฉันไม่ต้องบอกเธอหรอก ทำใจให้เหมือนที่เธอเป็นอยู่ทุกวันนี้ ดีกับคนที่อยู่ล้อมรอบ ตัวเธอ...รักคนที่รักเธอ ส่วนคนที่ไม่รักเธอ เธอก็..."
"ใครคะที่รักแก้ว"
คำถามนี้ทำให้ก้องเกียรติอึ้งไปนิดหนึ่งแล้วพูดต่อแต่ไม่ตอบคำถามของคำแก้วว่า
"ส่วนคนที่ไม่รักเธอ เธอก็ต้องไม่โกรธเขานะคำแก้ว คิดถึงเขาในทางที่ดี คนที่เกลียดโกรธคนอยู่เสมอเป็นคนที่ไม่มีความสุขอยู่แล้ว แผ่เมตตาให้เขา อย่าโกรธตาม เขาก็อาจ..."
"ใครที่รักแก้วคะ คุณชายใหญ่ยังไม่ได้ตอบแก้วเลย" คำแก้วย้ำถาม
"มีหลายคนในบ้านนี้ อาอึ้ม ป้าพุ่ม อ่อน เป้า อาหลี อาย้ง อาจู คุณนายที่สาม คนสำคัญที่สุดคืออาเตียของฉัน ท่านรักเธอมากนะคำแก้ว"
"แล้วคุณชายใหญ่ล่ะคะ" ถามแล้วมองหน้าใจจดจ่อรอคำตอบ แต่เขากลับเลี่ยงว่าตนต้องไปแล้วขอให้คำแก้วจำ
คำเตือนของตนไว้ให้ดี คำแก้วถามเสียงพร่า "คุณชายใหญ่รักแก้วรึเปล่าคะ"
"ฉันหวังดีต่อเธอเสมอ อย่างที่ฉันเคยบอกว่าสิ่งที่สำคัญ สำหรับฉันคือความสุขของเธอ ฉันลานะ คำแก้ว..."
คำแก้วทนไม่ได้ ผวาจะเข้าหา เขารีบห้าม
"อย่า...คำแก้ว...ความรักไม่ผิด ความรักสวยงาม รักได้ แต่ถ้ารักนั้นไม่ถูกต้อง ต้องเก็บไว้แสดงออกไม่ได้"
"คุณชายใหญ่รักแก้วรึเปล่าคะ" คำแก้วถามอีกมองอย่างเว้าวอน
"ลาก่อน คำแก้ว"
"บอกแก้วก่อน...รักแก้วบ้างไหมคะ" เสียงคำแก้วแผ่วจนกลายเป็นกระซิบ
ก้องเกียรติยิ้มอ่อนโยน ถอยออกมาแล้วเดินตัวตรงกลับไปยังตึกใหญ่ ด้วยสีหน้าของบุรุษผู้ชนะใจตนเอง แม้จะรู้สึกเจ็บ...เศร้าลึกในใจ
คำแก้วเซซวนไปชนขอบบ่อ สองมือยันขอบบ่อไว้ จ้องตามก้องเกียรติไปจนลับตาท่ามกลางบรรยากาศที่เงียบเหงา นิ่งสนิทราวกับไร้สิ่งมีชีวิตอยู่บริเวณนั้น...
ooooooo
เดินกลับมาถึงสนามหลังตึกใกล้ศาลาขาว กำลัง จะเลี้ยวเข้าไปหน้าตึก ก้องเกียรติชะงักเมื่อเห็นอาอึ้ม ยืนดักอยู่ อาอึ้มมองเขาด้วยสีหน้าแววตาเชิงตัดพ้อต่อว่า อย่างรู้ว่าเขาไปไหนมา ก้องเกียรติบอกโดยไม่ต้อง ฟังคำถามว่า
"ฉันแค่ไปลาเท่านั้น"
อาอึ้มพยักหน้าอย่างพยายามเข้าใจ อวยพรให้เขาโชคดี เดินทางปลอดภัย ย้ำว่า "อาอึ้มคิดถึงนะฮะ" ก้องเกียรติขอบใจ และฝากอาอึ้มดูแลคำแก้วด้วย
"คุณนายที่สี่เป็นแม่เลี้ยงคุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่ห่วง อาอึ้มเข้าใจ"
"ฉันห่วงเพราะคำแก้วเป็นเมียที่อ่อนแอที่สุดของอาเตีย อายุเธอยังน้อยเกินไปที่จะมาอยู่ในบ้านที่มีทั้งดีทั้งไม่ดีอย่างบ้านนี้ เป็นเมียคนหนึ่งของท่านเจ้าสัวเชง ต้องเก่งแค่ไหน อาอึ้มก็รู้"
"ฮ่ะ...อาอึ้มรู้ รู้ใจคุณชายใหญ่แล้วฮ่ะ คุณชายใหญ่ของอาอึ้มช่างเป็นคนดีจริงๆ ไม่เสียแรงที่อาอึ้มเลี้ยงมา"
ก้องเกียรติกุมมืออาอึ้มทั้งสองข้างขึ้นมา ยิ้มอ่อนโยน เอ่ยลาเสียงนิ่มนวล
"ฉันไปก่อนนะ อาอึ้ม"
อาอึ้มกอดก้องเกียรติไว้อย่างแสนรัก แต่พอถอนตัวออกมาอาอึ้มก็ชะงักมองอึ้ง ก้องเกียรติมองตามจึงเห็นคำแก้วที่เดินมาจากบ่อเก่าหยุดมองอยู่ ทั้งสองสบตากันนิ่ง แล้วคำแก้ว ก็พนมมือไหว้ลา จากนั้นเดินเร็วๆเลี่ยงเข้าตึกทางระเบียงหลัง ก้องเกียรติมองตาม อาอึ้มขัดขึ้นว่า
"อาอึ้มไปดูอาคุงนายที่สี่ก่อนนะ คุณชายใหญ่" พูดแล้ว ก็เดินเร็วๆตามคำแก้วไป
ก้องเกียรติยืนมองอึดใจหนึ่งแล้วตัดสินใจเดินไปทางหน้าตึก
ooooooo
ที่หน้าตึก เจ้าสัวกับเม่งฮวยยืนรอส่งลูกชายอยู่ รถของก้องเกียรติจอดอยู่หน้าตึก เพื่อนๆยืนรออยู่ที่ท้ายรถ พอมาถึงก้องเกียรติมองหน้าเรืองยศแวบหนึ่งเห็นสีหน้าเขาขุ่นมัวมาก
ก้องเกียรติเข้าไปลาเจ้าสัว ลาอาม้า ขอให้ท่านรักษาสุขภาพให้ดี เจ้าสัวอวยพรให้โชคดี ส่วนเม่งฮวยงอแงจะไม่ให้ไป เจ้าสัวตัดบทว่าให้ก้องเกียรติรีบไปเสียเพราะพรุ่งนี้จะต้องเดินทางแต่เช้า
"โชคดี...โชคดี กลับมาเร็วๆนาอาตั่วตี๋ อาม้าคิดถึง" เม่งฮวยยืนโบกมือลาลูกชายคู่กับเจ้าสัวจนรถเคลื่อนออกไป
รถยังอยู่บนถนนในบ้าน คำแก้วยืนอยู่ที่หน้าต่างห้องนอนตัวเอง ยืนมองรถที่ขับออกไปช้าๆ อย่างแสนเศร้า
จังหวะหนึ่งก้องเกียรติมองขึ้นไปที่ห้องคำแก้ว ทั้งสอง สบตากัน ต่างรับรู้ถึงความเศร้าหมองของกันและกัน จนกระทั่ง รถออกจากประตูรั้วไป
คำแก้วหมุนตัวกลับด้วยความรู้สึกเหมือนเหลือตัวคนเดียวในโลก เจออาอึ้มยืนมองอยู่ เธอเข้าไปอ้อนถามว่า อาอึ้มรักแก้วไหม พออาอึ้มบอกว่ารัก เธอบอกอย่างรู้กันว่า
"แก้วมีความสุขแค่นี้ แค่นี้จริงๆ ไม่หวังอะไรมากกว่านี้ อาอึ้มให้แก้วเถอะนะ อย่าโกรธแก้วเลย"
อาอึ้มพยักหน้าช้าๆ บอกให้คำแก้วนอนพักเสีย พลางจะกางมุ้งให้ คำแก้วบอกว่ายังไม่ต้อง เดี๋ยวตนทำเองบอกให้อาอึ้มไปพักผ่อนเสีย
พออาอึ้มออกไป คำแก้วยืนคว้างอยู่กลางห้อง ความเหงาเศร้าเกาะกุมหัวใจจนทรุดนั่งลงบนเก้าอี้ นิ่งเฉยเหมือนหุ่น อยู่อย่างนั้น
คืนนี้เกือบทั้งคืน คำแก้วกระสับกระส่าย กระวน กระวายใจ จนไม่อาจหลับลงได้ จนกระทั่งไปนั่งที่เก้าอี้นั่งเล่น มือหนึ่งวางบนตักอีกมือจับแหวนหยกที่นิ้วหมุนไปมาอย่างไร้ เป้าหมาย
คำแก้วหมุนแหวนอยู่อย่างนั้น จนแหวนหลุดจากนิ้วตกกลิ้งไปใต้เตียง เธอลุกขึ้นหาของมาเขี่ยจนได้ด้ามไม้กวาดจึงเอามาเขี่ยแหวนหยกวงนั้นจากใต้เตียง
แหวนออกมาพร้อมๆกับม้วนผ้ามีสีมอๆที่ผูกด้วยด้าย คำแก้วมองตะลึงรู้ทันทีว่าเป็นผ้าคุณไสย ความอยากรู้จึงเอาตะเกียบมาคู่หนึ่ง ข้างหนึ่งกดห่อผ้าไว้ อีกข้างค่อยๆเขี่ยปม ที่ผูกจนคลายออก จากนั้นเขี่ยผ้าคลี่ออกดู
ด้านในเป็นผ้าสีขาวเก่าๆ มีคราบเปรอะเปื้อนเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง มีตัวหนังสืออักขระเขียนด้วยเลือดสีแดงเข้มเต็มผืนผ้า!
คำแก้วผงะตกใจ ผละออกมาเอามือปิดจมูกกับกลิ่นเหม็นรุนแรงที่โชยมา เธอพุ่งเป้าไปที่กิมลั้งทันที!
ooooooo
รุ่งเช้า ประตูห้องพักของกิมลั้งถูกเปิดผางออก กิมลั้งนอนคว่ำหน้าอยู่บนที่นอน ผวาเฮือกลุกขึ้น อุทาน อย่างตกใจสุดขีด
"คุณนายที่สี่!"
"นี่อะไร" คำแก้วเหวี่ยงก้อนผ้าคุณไสยนั้นไปที่กิมลั้ง ตวาดถาม "ฝีมือแกอีกแล้วใช่ไหม"
แม้จะตกใจแทบตายแต่กิมลั้งก็ปฏิเสธเสียงแข็งว่าไม่ใช่ ตนไม่รู้เรื่อง คำแก้วบังคับให้กิมลั้งเปิดออกดู พอคลี่ผ้า ออก กิมลั้งเองก็ต้องเอามือปิดจมูกกับกลิ่นโสโครกนั้น
"นังกิมลั้ง แกทำของสกปรกใส่ฉันอีกใช่ไหม"
กิมลั้งยังปากแข็ง คำแก้วบอกว่าไม่เชื่อ เพราะเคยทำเรื่องเลวๆ อย่างนี้มาหนหนึ่งแล้ว ปรามว่า "ฉันอุตส่าห์ยกโทษ ให้แก คราวนี้คุณนายคนไหนร่วมมือกับแก บอกมาเดี๋ยวนี้ คนไหน คุณนายใหญ่เหมือนเดิมใช่ไหม" กิมลั้งสาบานว่าไม่ใช่
"งั้นใคร ถ้าไม่บอกฉันจะเอาไปให้นายดู แกรู้ใช่ไหมว่านายเกลียดของสกปรกแบบนี้อย่างกับอะไรดี"
"อย่านะคะ อย่าให้ท่านเจ้าสัวดู" กิมลั้งละล่ำละลัก
"นังกิมลั้ง แกทำความเลว เลวไม่รู้จะเปรียบกับอะไร แกทำร้ายฉันมากี่หนแล้ว แกคิดจะฆ่าฉันใช่ไหม แล้วแกจะได้เป็นคุณนายเมียเจ้าสัวแทนฉัน"
กิมลั้งปฏิเสธร้องไห้สะอึกสะอื้น คำแก้วสั่งให้หยิบผ้า ขึ้นมาเดี๋ยวนี้ กิมลั้งใช้สองนิ้วคีบขึ้นมาอย่างขยะแขยงเดินไปที่หน้าต่าง คำแก้วถามว่าจะเอาไปไหน กิมลั้งบอกว่าเอาไปทิ้ง
"ใครอนุญาตให้แกทิ้ง!" คำแก้วตวาดสุดเสียง กิมลั้งถามว่าจะเอาไว้ทำไมของสกปรกเหม็นด้วย "รู้เหมือนกันนะว่าสกปรก เอาล่ะ ฉันมีทางเลือกให้แก 2 ทาง ทางแรก ถ้าแกอยากให้ฉันฟ้องนาย ฉันก็จะเอาหลักฐานสกปรกนี้ไปให้นายดู นายก็คงจะไล่แกออกไปเป็นหมากลางถนน"
"ไม่นะคะคุณนาย หนูต้องตายแน่ๆ"
"งั้นก็เหลือทางสุดท้าย ที่แกจะไม่ตาย" กิมลั้งมองหน้า คำแก้วอย่างมีความหวัง คำแก้วยิ้มเย็นเยียบบอกว่า "ฉันจะลงโทษแกเป็นส่วนตัว โดยทำลายหลักฐานเสีย"
"ทำยังไงคะคุณนาย" กิมลั้งใจชื้นขึ้นมาเป็นกอง
"เฮอะ...ทำยังไง แกจะนึกไม่ถึงเลยล่ะ!" คำแก้วยิ้มน่ากลัว จนกิมลั้งเสียววาบขึ้นมาอีก
ooooooo
อ่อนไปสอดแนมกลับมาเล่าให้ป้าพุ่มฟังได้แค่ว่าเห็นคุณนายที่สี่ลากตัวกิมลั้งเข้าไปในห้องแล้วกิมลั้งร้องไห้อย่างหนักแต่เรื่องอะไรไม่รู้ ป้าพุ่มเป็นห่วงถามว่าอาอึ้มไปไหน ผินบอกว่าไปข้างนอกกับอาจิว ทุกคนเลยกระวนกระวายใจว่าเกิดอะไรขึ้น ป้าพุ่มได้แต่ถอนใจ คิดว่ากิมลั้งคงทำอะไรผิดมาก แต่ตนก็เห็นใจเพราะเป็น ลูกกำพร้าไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอน
ส่วนในห้องคำแก้ว พอเอาตัวกิมลั้งเข้ามาและกิมลั้งเลือกทางที่สองที่จะไม่ต้องฟ้องเจ้าสัว คำแก้วยิ้มเหี้ยมสั่งกิมลั้งให้กินผ้าคุณไสยผืนนั้นลงไปเพื่อทำลายหลักฐาน
ทีแรกกิมลั้งขยะแขยงจะไม่ยอมกิน ถูกคำแก้วขู่ว่าถ้าอย่างนั้นก็ไปพบเจ้าสัวด้วยกันเลย ทำให้กิมลั้งตัดสินใจกล้ำกลืนกินผ้าคุณไสยที่ทั้งสกปรกทั้งเหม็นจนน่าขยะแขยงเข้าไปอย่างยากลำบาก กลืนเสร็จก็ฟุบลงกับพื้นร้องไห้สะอึกสะอื้น
คำแก้วเองก็ทนไม่ไหวลุกไปสูดอากาศที่ประตูระเบียงหน้าต่างท้องไส้ปั่นป่วนไปหมด
หลังจากนั้นกิมลั้งไปฟุบหน้าที่โต๊ะกลมหน้าครัวไทยครัวจีนร้องไห้สะอึกสะอื้น พวกคนใช้พากันมุงดูถามกันเบาๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น กิมลั้งเป็นอะไร
จนกระทั่งอาอึ้มกลับมาก็แหวกพวกคนใช้ไล่ให้หลีกไปมามุงกันอยู่ได้ พวกนั้นแตกฮือ อาอึ้มเดินเข้ามาหากิมลั้งโดยมีป้าพุ่มยืนฟังอยู่ห่างๆ
อาอึ้มถามกิมลั้งว่ามีเรื่องอะไร คุณนายที่สี่ว่าอะไรหรือถูกกิมลั้งตวาดไล่ไปให้พ้น ถามว่าสมใจแล้วใช่ไหม อาอึ้มถามว่าสมใจอะไร กิมลั้งเงยหน้าขึ้นพูดไปร้องไห้ไปว่า
"วันนั้นด่าอั๊ว นี่ไง อั๊วมันสันดานไม่ดี อั๊วจะตายแล้วเห็นไหม อั๊วจะตายแล้ว!!"
"ทำไมล่ะอากิมลั้ง ทำไมลื้อถึงจะตาย" อาอึ้มถามทั้งตกใจทั้งเป็นห่วง
กิมลั้งมองหน้าอาอึ้มร้องไห้เป็นวักเป็นเวนพูดไม่ได้ว่าตนกลืนอะไรเข้าไป มีแต่สีหน้าและสายตาที่อัดอั้นคับแค้นใจสุดท้ายก็ลุกเดินกลับเข้าห้องตัวเอง อาอึ้มมองตามไปด้วยความสงสาร เห็นใจ
ooooooo
ด้วยความสงสารกิมลั้งและกังวลใจไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น อาอึ้มจึงไปถามคำแก้วว่ามีเรื่องอะไรกันหรือคำแก้วตอบอย่างตัดบทว่าตนยังไม่อยากพูดอะไรตอนนี้
"ทำไมล่ะฮะอาคุงนาย มันเรื่องอะไรใหญ่โตนักหนา กิมลั้งมันบอกว่ามันกำลังจะตาย"
คำแก้วลุกพรวดเดินหนีไปยืนห่างออกไป พออาอึ้มตามไปถามอีก เธอเสียงแหลมใส่อย่างระงับใจตัวเองไม่ได้ว่า "แก้วไม่อยากพูดได้ยินไหม บอกว่าไม่อยากพูด" พูดแล้วก็สะอื้นเฮือกในอก
อาอึ้มยิ่งงงนิ่งงันไปอย่างหนักใจ
ส่วนอาเง็กก็แรดไปรายงานเยนหลิง คุณนายที่สองว่ากิมลั้งโดนคุณนายที่สี่ด่าเอ็ดตะโรจนร้องไห้เสียงดังลั่นบ้านใครๆตกใจหมด พูดอ่อยไว้แค่นั้นแล้วทำเฉย จนเยนหลิงที่วางมาดคุณนายผู้ดีทนไม่ได้ถามว่าไม่ได้ยินหรือว่าเรื่องอะไร
"กลัวไม่เป็นผู้ดีฮ่ะ เลยไม่ได้ไปแอบฟัง" อาเง็กประชดพอถูกเยนหลิงมองขวับด้วยสายตาเย็นเฉียบ อาเง็กก็ทำเมินมองไปทางอื่น แสดงอาการกระด้างกระเดื่องเล็กน้อย
"ไปตามกิมลั้งให้ไปพบฉันที่ศาลาท่าน้ำ...เดี๋ยวนี้!" เยนหลิงสั่งเฉียบขาด
พอกิมลั้งไปพบเยนหลิงที่ศาลาท่าน้ำบอกว่าคำแก้วเจอของที่ทำคุณไสย เยนหลิงตกใจตะคอกเบาๆว่าไม่ได้ซ่อนให้ดีรึไง ถามอย่างหวาดระแวงว่าแล้วกิมลั้งเอ่ยชื่อตนหรือเปล่า
"ยัง" กิมลั้งตอบสั้นๆ เยนหลิงระแวงถามว่ายังหมายความว่าจะบอกหรือว่าตนให้ทำ "ก็คุณนายให้ทำจริงๆนี่คะ" กิมลั้งยืนยันตามจริง
"แกจะบอกอย่างนั้นไม่ได้!" เยนหลิงเสียงเข้มมาก กิมลั้งถามว่าทำไมหรือ เยนหลิงขู่ว่า "เพราะถ้าแกเอ่ยถึงฉัน แกจะลำบากมากขึ้น เพราะท่านเจ้าสัวจะไม่มีวันเชื่อแกหรอกแล้วท่านเจ้าสัวจะเอาแกตาย"
ขู่แล้วเห็นกิมลั้งตาเหลือกตกใจ เยนหลิงได้ทีขู่หนักขึ้นไปอีกว่า
"แล้วยิ่งกว่านั้น ฉันจะบอกว่าแท้ที่จริงคุณนายใหญ่เป็นคนทำ ฉันจะอ้างคุณนายที่สี่ตั้งแต่เรื่องคราวก่อน คุณนายใหญ่
เอาแกตายแน่ เพราะเขาไม่ได้ทำทั้งสองครั้ง"
กิมลั้งนั่งแหมะลงกับพื้นอย่างหมดแรง ถามเสียงสะท้านว่าทำไมคุณนายถึงใจร้ายอย่างนี้
"ฉันเคยบอกแกแล้ว ทุกคนต้องทำเพื่อตัวเองให้ตัวเองอยู่รอดได้"
"แต่งานนี้หนูทำตามคำสั่งคุณนายนะคะ"
"ไม่ใช่ กิมลั้ง แกเข้าใจผิด แกทำเพื่อตัวแกเอง แกไม่ชอบคุณนายที่สี่ แกเกลียดเขา เขาดุ เขาด่า เขาโขกสับแก แกทนไม่ไหวและที่สำคัญแกหวังสูงกว่านั้น แกหวังว่าถ้าคุณนายที่สี่เป็นอะไรไป แกอาจจะได้แทนที่ แกมั่นใจความสาว ความสดของแก!"
"หนูเปล่า...หนู..." กิมลั้งละล่ำละลักถูกเยนหลิงชี้หน้าปรามว่า
"อย่า...อย่าพูดเสียให้ยาก ฉันรู้ทุกอย่าง ฉันพูดไม่ผิดหรอก เพราะฉะนั้นแกทำตามที่ฉันสั่งแล้วฉันจะช่วยแก"
กิมลั้งน้ำตาไหลพรากด้วยความอัดอั้นคับแค้นจนสะอึกลมหายใจตัวเอง
ooooooo
โรสยังขัดใจที่อาจูไม่ยอมไปดูหนังกับโชค ถามว่าไม่อยากมีผัวหรือ ถ้ากระแดะเหมือนกิมลั้งมีผัวแล้วจะรู้ว่าดียังไง จะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียว อาจูตอบซื่อๆว่าตนไม่ได้อยู่คนเดียวแต่อยู่กับคุณนาย
"อาจู ลื้อนี่ม่ายล่ายหลั่งใจเล้ย" โรสบ่นอย่างอ่อนใจแต่ก็เมตตาในความซื่อสัตย์ของอาจู ถามว่าถ้าวันหนึ่งตนไม่อยู่ที่นี่ อาจูจะไปด้วยไหม อาจูตอบทันทีว่าไป โรสตบแก้มอาจูเบาๆอย่างรักใคร่ถามว่าไม่ได้หลอกตนใช่ไหม
"แหม...ใครจะหลอกคุณนายที่สามได้ล่ะฮะ"
"อั๊วเองไง อั๊วหลอกตัวอั๊วเอง ไม่มีใครรู้หรอก" เสียงโรสเย็นเยียบจนน่ากลัว พออาจูถามว่าทำไมคุณนายพูดอย่างนั้น โรสก็ลอยหน้าพูด "อาจู...ของบางอย่างน่ะภายนอกมันดูสวย ดูดี แต่พอเห็นข้างในจริงๆกำลังเน่าเฟะหนอนขึ้นยั้วเยี้ย ลื้ออย่าเชื่อแค่ลูกกะตาลื้อเห็นเท่านั้นเข้าใจไหม" พูดจบโรสเดินออกจากห้องไป อาจูยังงงๆแต่รีบเดินตามไปติดๆ
โรสจะลงบันไดไปชั้นล่างเห็นกิมลั้งวิ่งร้องไห้สะอึก สะอื้นขึ้นบันไดมาที่ชั้นบน พอเห็นโรสกิมลั้งคุกเข่าอ้อนวอนให้ช่วยตนด้วย ช่วยรับตนเป็นคนใช้ประจำตัวด้วย
"แหมอากิมลั้ง ลื้อพูดซี้ซั้ว มังเป็นไปไม่ล่ายหรอก" โรสปรามกิมลั้งว่าอย่าพูดให้คุณนายใหญ่ได้ยินทีเดียว อีไม่ให้ ย้ายหรอก บอกกิมลั้งว่า "เรื่องนี้อั๊วช่วยลื้อม่ายล่ายจริงๆ"
กิมลั้งร้องไห้อย่างตระหนกหันหลังกลับวิ่งลงบันไดไปอย่างเร็ว อาจูรู้สึกสงสารเห็นใจกิมลั้งมาก ส่วนโรสเห็นอาจูทำหน้าเศร้าก็เข้าไปตบไหล่ปลอบใจเบาๆว่า
"อากิมลั้งอีทำตัวเองแท้ๆ...ไปอาจู" ว่าแล้วเดินลงบันไดไปชั้นล่าง อาจูรีบเดินตามไป
ooooooo
แต่พอเดินลงมาถึงโถงบันไดชั้น 2 ผ่านหน้าห้องเม่งฮวยก็ถูกเม่งฮวยเปิดประตูผัวะออกมาในมือยังถือสร้อยประคำอยู่ถามว่าเมื่อกี้ใครวิ่งโครมครามตนกำลังสวดมนต์ทำให้ตกใจหมด
โรสทำลอยหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เม่งฮวยถามอาจูอีกว่าใครทำเสียงดัง ระหว่างนั้นเยนหลิงโผล่หน้าออกมายืนมองเงี่ยหูฟัง
อาจูจำต้องบอกว่ากิมลั้ง เม่งฮวยสั่งให้ไปตามกิมลั้งมาหาตนเดี๋ยวนี้
เยนหลิงได้ยินว่าเม่งฮวยให้ตามตัวกิมลั้งก็ร้อนตัวกลัวเรื่องจะพัวพันมาถึงตัวเอง รีบปิดประตูจะลงไป เจอโรสกำลังจ้องอย่างสงสัยอยู่ เยนหลิงรีบเก็บอาการเดินคอแข็งหลังตรงในมาดผู้ดีผ่านโรสไป
โรสเริ่มเชื่อว่าเรื่องราวต้องมีอะไรเกี่ยวกับเยนหลิงแน่ๆเลย ลงบันไดตามเยนหลิงไป
ส่วนกิมลั้งนั่งกอดเข่าเจ่าจุกอยู่ที่เรือนคนใช้ พออาจูมาบอกว่าคุณนายใหญ่เรียกให้ไปพบเดี๋ยวนี้ กิมลั้งตกใจแทบช็อกระแวงว่าคุณนายใหญ่คงรู้เรื่องตัวเองซัดทอดเมื่อคราวก่อนแล้ว
กิมลั้งไปยังไม่ทันถึงห้องเม่งฮวยก็ถูกเยนหลิงดักไว้ที่ห้องรับแขก พอเห็นเยนหลิงกิมลั้งโผเข้าหาขอความช่วยเหลือพร่ำบอกน้ำตานองว่า "หนูกลัว...หนูกลัว..."
เยนหลิงปลอบว่าไม่ต้องร้อง คุณนายใหญ่คงยังไม่รู้อะไรให้ทำใจดีๆไว้
ที่หน้าต่างห้องรับแขกนั่นเอง โรสเงี่ยหูฟัง แต่ไม่ได้ยินเพราะเยนหลิงกระซิบกระซาบกับกิมลั้งอย่างระมัดระวังเต็มที่ เยนหลิงถามกิมลั้งว่ากลัวอะไร
"เรื่องที่หนูซัดทอดคุณนายใหญ่คราวที่แล้วน่ะค่ะ คุณนายใหญ่รู้หรือยังก็ไม่รู้"
"อ๋อ...เรื่องนั้น...ถ้าคุณนายใหญ่ยังไม่รู้ ฉันจะเป็นคนบอกเอง" เยนหลิงพูดอย่างเลือดเย็น กิมลั้งช็อกมองค้าง "ฉันบอกแน่ถ้าแกเอ่ยชื่อฉันแม้แต่คำเดียวรับรองคุณนายใหญ่เอาแกตายแน่ เพราะแกซัดทอดเขาเสียขนาดนั้น แต่เรื่องคราวนี้ เขาอาจจะดีใจก็ได้แกทำอีคำแก้ว เพราะคุณนายใหญ่เองก็เกลียดนังนี่จะตาย"
กิมลั้งยิ่งตกอยู่ในความหวาดผวาไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใคร เยนหลิงเห็นดังนั้นหัวเราะเยาะสำทับว่า
"จำไว้ อย่าเอ่ยชื่อฉันเป็นอันขาด ไปได้แล้ว!"
กิมลั้งปาดน้ำตาเดินขึ้นชั้นบนไปอย่างหมดแรง เยนหลิงยังยืนมองกิมลั้งอยู่ที่เชิงบันได แต่ที่หน้าต่างโรสแอบมองเยนหลิงอยู่อย่างสงสัยมาก แต่ยังไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกัน...
ooooooo










