สมาชิก

มงกุฎดอกส้ม

ตอนที่ 15

เช้านี้ กิมลั้งออกจากบ้านบอกน้อยคนสวนที่ถามว่าจะไปไหนว่า จะไปหาซื้อขนมอร่อยๆในซอยกินหน่อย แต่เดินไปยังไม่ทันซื้อขนมก็เจอกับทรงชัยขับรถมาจอดเทียบบอกกิมลั้งว่า วานอะไรหน่อยซิ

กิมลั้งรับคำด้วยความเต็มใจ จากนั้นวิ่งย้อนกลับไปที่บ้าน วิ่งขึ้นบันไดโครมครามจนอาเง็กโผล่หน้ามาบอกว่าวิ่งโครมครามแบบนี้เดี๋ยวก็โดนคุณนายใหญ่ด่าเอาหรอก กิมลั้งลอยหน้าตอบอย่างอวดดีว่าไม่กลัว อาเง็กแกล้งทำเป็นมองลงไปที่ชั้นสองพูดราวกับเห็นว่า "อ้าว! มาพอดี"

เท่านั้นเอง กิมลั้งก็เอาซองสีชมพูในมือซ่อนไว้ข้างหลัง พอมองไปไม่เห็นอะไรก็ต่อว่าอาเง็กว่าทีหลังอย่าเล่นแบบนี้ ใจหายหมด อาเง็กหัวเราะชอบใจถามว่าจดหมายใครที่ซ่อนอยู่ข้างหลัง กิมลั้งไม่บอกแต่เดินลอยหน้าขึ้นไปชั้นบน ส่วนอาเง็กเดินลงไปชั้นล่าง

พอได้รับจดหมายของทรงชัย โรสพับใส่ซองวางไว้บนโต๊ะ ตกรางวัลให้กิมลั้งหนึ่งร้อยบาท กิมลั้งรับหมับขอบคุณ แต่ก็ทักท้วงว่าเจ้าสัวไม่ให้คุณนายไปดูงิ้วไม่ใช่หรือ แล้วคุณนายจะไปได้ยังไง

"อากิมลั้ง ลื้อต้องเชื่อคนที่ชื่อว่าโรสนะ อีไม่มีทางจนมุมหรอก เพราะอีเป็งคนฉลาด" พูดแล้วก็หัวเราะอย่างย่ามใจ กิมลั้งหัวเราะเอาใจไปด้วย แต่อาจูยืนดูยืนฟังแล้วไม่สบายใจ โรสยังบอกกิมลั้งว่า "ลื้อคอยลูว่าอั๊วจาไปล่ายยังไง"

คืนนี้เอง อาจูก็ไปเคาะประตูห้องคำแก้วยืนคอยใจคอไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ครู่หนึ่งเจ้าสัวเปิดประตูออกมามองอาจูอย่างรู้ทัน อาจูก็หน้าจ๋อยอย่างรู้สึกผิด

"เฮ้อ! ลื้อทำอาลายซะอย่างซี่อาจู...ทีหลังทำอาไลซะอย่างซี้!" เจ้าสัวตำหนิอย่างหงุดหงิด

ooooooo

ถึงจะตำหนิอาจูแต่เจ้าสัวก็ไปหาโรสที่ห้องด้วยสีหน้ารำคาญๆ เข้าห้องไม่เห็นโรสที่เตียงหาที่ไหนก็ไม่เจอเลยร้องถามว่า "อาเหม่เกว่...ไหนลื้อบอกว่าไม่ซาบายไง...ลื้อลวดลายอีกเลี้ยวนะอาเหม่เกว่"

เดินหา ร้องเรียก ก็ไม่มีเสียงตอบ เจ้าสัวบ่นๆว่าโรสบทบาทมากไปแล้วอย่าลืมว่าตัวเองเลิกเล่นงิ้วมานานแล้ว

บ่นไม่ทันขาดคำ ประตูห้องน้ำก็เปิดออก โรสยืนอยู่หลังมู่ลี่ไม้ไผ่สีแดง ร้องงิ้วเพลง "เพลงแห่งความสุข" เสียงหวานเจื้อยแจ้ว เจ้าสัวบ่นอย่างอ่อนใจว่านึกแล้วไม่มีผิดว่าโรสต้องมาแบบนี้

แต่ถึงจะรู้ทัน ทั้งยังหลับตาบอกว่าไม่อยากเห็นเลย พอโรสแหวกม่านออกมายั่วยวนโลมเล้าทำเสียงครวญครางในลำคออย่างกระสัน เจ้าสัวก็ยังทำท่ารำคาญลุกขึ้นบอกว่าเบื่อเต็มทนแล้วพลางจะออกจากห้อง

"นาย..." เสียงโรสโหยหาเว้าวอนยั่วยวนจนเจ้าสัวชะงักหันมอง แล้วในที่สุดก็ถูกโรสประคองไปที่เตียงตามเคย

หลังจากปรนเปรอจนเจ้าสัวติดลมแล้ว โรสถามอ้อนว่าเจ้าสัวเบื่อตนแค่ไหนหรือ แล้วซุกไซ้จนเจ้าสัวเคลิ้มไปตามอารมณ์...

ooooooo

เช้าวันใหม่จนแดดเริ่มกล้าแล้ว โรสกับเจ้าสัวยังนอนอยู่ พอลืมตาขึ้นโรสอ้อนเจ้าสัวให้นอนกอดกันก่อนไม่ยอมให้กลับไป พอเจ้าสัวบอกว่าสว่างโร่แล้ว โรสก็อ้อนให้เจ้าสัวฉุดตนลุกขึ้น พอลุกได้ก็กอดเอวแน่น เจ้าสัวรู้ทันถามว่าทำแบบนี้ต้องการอะไร

โรสยังไม่ตอบทันทีแต่ถามว่าเมื่อคืนมีความสุขไหม พอเจ้าสัวบอกว่ามีความสุขที่สุด โรสคุยอวดว่าถ้าเจ้าสัวมีตนคนเดียวจะมีความสุขมากกว่านี้ เสียดายแทนที่เจ้าสัวมีแล้วตั้งสี่คน จากนั้นก็อ้อนขอไปเล่นงิ้วการกุศล เจ้าสัวชะงักไปทันที พอโรสเซ้าซี้ต่อ เจ้าสัวตัดบทว่า

"อั๊วเคยบอกลื้อไปเลี้ยวไงว่าไม่ให้ไป ถ้าให้ไปก็เท่ากับอั๊วกลืนน้ำลายตัวเอง"

โรสยังตื๊อต่อบอกเจ้าสัวว่า นายเป็นประมุขของบ้าน ทำอะไรก็ไม่น่าเกลียดหรอก

"ไม่ล่าย...บอกว่าไม่ล่าย!" เจ้าสัวเสียงแข็ง โรสเลยเสียงดังขึ้นมาทันทีว่า ไม่ได้ตนก็จะไป พอเจ้าสัวยืนยันว่าพูดดีๆ แล้วว่าไม่ให้ไปก็ไม่ให้ไป โรสก็กรี๊ดขึ้นมา ทุบเจ้าสัวไปมาปากก็พร่ำ

"ใจล้าย...นายใจลำเหมืองอีกา อั๊วเกียกนาย...เกียกนาย..." เจ้าสัวยังคงยืนนิ่ง ครู่หนึ่งโรสยื่นหน้าเข้าไปพูดที่ข้างหูเจ้าสัวอย่างถือดี "ถ้าไม่ให้อั๊วไปเล่งงิ้ว...อั๊วก็ไม่ให้นายเข้าห้อง"
เห็นท่าทางจริงจังของโรส เจ้าสัวก็นิ่งอึ้ง

ooooooo

คืนนี้โรสแต่งตัวเฉิดฉายเตรียมออกไปข้างนอก ถามอาจูที่ยืนมองหน้าเศร้าว่า  เป็นอะไร  เพราะเรื่องอาโชคตนก็บอกแล้วว่าไม่ต้องห่วง   ทุกอย่างสบายถ้าอาจูไม่เชื่อตนแล้วจะไปเชื่อใครอีก

แต่พอโรสเดินมาถึงชั้นสองก็ต้องชะงักเมื่อเยนหลิงเปิดประตูออกมาด้วยสีหน้ายิ้มกริ่ม โรสเดินร้องเพลงงิ้วเยื้องย่างไปอย่างอิ่มเอมเปรมสุข อาจูเดินตามไปด้วยสีหน้าไม่สบายใจ
พอจะผ่านหน้าห้องเม่งฮวย ประตูห้องเปิดออก เม่งฮวยโผล่หน้าบอกบุญไม่รับออกมามองโรสอย่างไม่พอใจ โรสหยุดยิ้มนิดหนึ่งแล้วแผดเสียงร้องงิ้วดังกว่าเก่าอย่างกวนประสาทเม่งฮวย พอไปอีกอึดใจเดียวก็หยุดร้องเพลง หันมาบอกเยนหลิงกับเม่งฮวยอย่างเย้ยหยันว่า

"อั๊วจาออกไปลูงิ้ว นายไม่อานุยาดหรอก แต่อั๊วจะหนีไป" พูดจบก็กรีดกรายไปพร้อมกับแผดเสียงร้องเพลงอย่างไม่เกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น

เยนหลิงกับเม่งฮวยมองตามโรสไปทั้งหมั่นไส้ทั้งงงว่า โรสช่างกล้าท้าทายเจ้าสัว...

พอไปถึงโรงแรมที่ทรงชัยเปิดห้องรออยู่ โรสผวาเข้าซุกในอกทรงชัยอย่างโหยหา ต่างกอดกันแน่น ทรงชัยพร่ำบอกว่าคิดถึงเธอเหลือเกิน โรสซบอกทรงชัยร้องไห้กระซิกๆ จนเขาตกใจถามว่าร้องไห้ทำไม โรสพยายามกลั้นสะอื้นบอกว่าตนรักเขาเหลือเกิน รักจนทำได้ทุกอย่างไม่กลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น

"เฮียรู้แล้ว เฮียก็รักโรสเหมือนกัน" ทรงชัยกอดกระชับ โรสถามว่าก่อนออกมาตนต้องฝ่าอะไรมาบ้างรู้ไหม ทรงชัยจูงมือโรสไปที่เตียงจับให้นั่งบนตักกอดไว้แน่น "ถึงเฮียจะไม่รู้ แต่เฮียก็พอจะนึกออก ว่าโรสต้องฝ่าฟันอุปสรรคมากขนาดไหน"

โรสถามว่ารู้ไหมว่าถ้าตนถูกจับได้จะเป็นยังไง ทรงชัยให้สัญญาว่าจะปกป้องดูแลเธอและไม่มีวันทิ้งเธอไปเด็ดขาด โรสน้ำตารินอย่างตื้นตันใจในอ้อมกอดของทรงชัย

ooooooo

คืนเดียวกันนี้ ก้องเกียรติออกมานั่งเป่าขลุ่ยเพลงรักหวานเศร้าที่ศาลาสนามหลังตึก อาอึ้มออกมายืนฟังอย่างชื่นชม ครู่หนึ่งจึงหันหลังเดินกลับไปที่ตึกใหญ่ตรงไปที่ห้องคำแก้ว
คำแก้วยืนฟังเพลงขลุ่ยอยู่ที่โต๊ะน้ำชาในห้อง ครู่หนึ่งทนไม่ได้จะไปฟังใกล้ๆเปิดประตูออกมาอย่างเร็ว พลันก็ต้องชะงักเมื่อเจอกิมลั้งกำลังจะเคาะประตูพอดี ต่างมองกันชะงัก คำแก้วเป็นฝ่ายถามขึ้นว่ามีอะไร กิมลั้งบอกว่าจะมาเอาเสื้อผ้าไปซัก

"ไม่ต้อง พรุ่งนี้ค่อยมาเอา" คำแก้วสั่ง กิมลั้งยังถามอีกว่าทำไม ถามห้วนเสียจนคำแก้วปรามว่าเวลาพูดกับตนให้มีหางเสียง สั่งให้พูดใหม่ พอกิมลั้งพูดใหม่ พูดมีหางเสียงอย่างฝืนใจว่า

"ทำไมล่ะ...คะ"

"ฉันไม่จำเป็นต้องตอบคำถามแก แล้วแกก็มีหน้าที่ทำตามที่ฉันสั่งเท่านั้น ไปได้แล้ว"

กิมลั้งสะบัดหน้าเดินกลับไปสวนกับอาอึ้มที่กำลังขึ้นมาพอดี คำแก้วปิดประตูแล้วเดินลงไป อาอึ้มถามว่าจะไปไหน คำแก้วอึกอักนิดหนึ่งก่อนบอกว่าไปข้างล่างหน่อย

อาอึ้มรู้ใจพยายามหว่านล้อมว่าอย่าไปเลย แม้จะถูกคำแก้วย้อนถามอย่างไม่พอใจว่าเป็นแม่ตนหรือ อาอึ้มก็ยังใจเย็นขอร้องให้กลับเข้าห้องเสีย คำแก้วไม่ตอบแต่เบี่ยงตัวเดินผ่านอาอึ้มลงไป อาอึ้มมองตามอย่างไม่สบายใจเพราะรู้ว่าคำแก้วจะไปไหน

ooooooo

คำแก้วไปยืนฟังเพลงขลุ่ยหวานเศร้าของก้อง-เกียรติอยู่แถวระเบียงหลังตึก พอก้องเกียรติเป่าจบเพลงก็เก็บขลุ่ยใส่ซอง พลันสายตาก็เหลือบเห็นคำแก้ว ต่างชะงักมองกันอึ้ง  ก้องเกียรติตัดสินใจเดินไปหาถามอย่างเป็นห่วงว่า  ทำไมมายืนแถวนี้ยุงเยอะมาก

"ไม่เป็นไรค่ะ ให้ยุงมันกัดแก้วให้ตายไปเลย คุณชายใหญ่อย่าสนใจแก้วเลยค่ะ แก้วไม่เป็นอะไรง่ายๆหรอกค่ะ" คำแก้วตอบกึ่งประชดกึ่งน้อยใจ ชายหนุ่มมองเธออย่างลำบากใจที่จะพูด สุดท้ายบอกเธอว่า

"คำแก้ว ฉันคงต้องถือโอกาสลาเธอเสียวันนี้"

คำแก้วตกใจถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าจะไปเมืองจีน ไปเรื่องงาน และครั้งนี้คงไปนาน

"ทำไมคุณชายใหญ่ต้องไปด้วยล่ะคะ   ไปนาน... คุณชายใหญ่จะหนีแก้วหรือคะ" น้ำเสียงน้อยใจมาก

ก้องเกียรติบอกเธอให้ดูแลตัวเอง ทำใจให้สบาย อย่าคิดมาก อย่าเครียด คำแก้วก็ยังย้ำถามอีกว่าเขาจะหนีตนไปใช่ไหม แม้เขาจะชี้แจงว่าไม่ได้หนี เธอก็ไม่เชื่อ หาว่าเขาหนี เขาเกลียดตน ทวงถามว่า

"ไหนคุณชายใหญ่บอกว่าอยากให้แก้วมีความสุขไง อยากให้แก้วมีความสุข   คุณชายใหญ่ก็ต้องอยู่ที่นี่   อยู่ที่นี่นะคะ คุณชายใหญ่..." ก้องเกียรติเรียกเธอเพื่อเตือนสติ แต่เธอก็เอาแต่ ร้องไห้พร่ำถาม "ถ้าคุณชายใหญ่ไปแล้วแก้วจะอยู่ยังไง แก้วอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีคุณชายใหญ่ คุณชายใหญ่อย่าไปนะคะ..."

"คำแก้ว...คำแก้วฟังฉันก่อนนะ ฉันจำเป็นต้องไป เพราะว่าบริษัทเราจะไปเปิดสาขาที่ต่างประเทศ ฉันต้องไปหาสินค้าจากเมืองจีนไปขาย เรื่องนี้สำคัญมากนะคำแก้ว ฉันจึงต้องเดินทางไปเอง คำแก้ว...เธอเข้าใจฉันใช่ไหม ฉันรู้ว่าเรื่องสำคัญอย่างนี้ เธอเข้าใจได้ดีเสมอ"

คำแก้วเอาแต่ร้องไห้ มองหน้าก้องเกียรติด้วยแววตาชอกช้ำ...สิ้นหวัง

"แต่สิ่งที่ฉันหวังจะเป็นจริงไม่ได้ ถ้าคำแก้วยังมัวแต่โศกเศร้าเสียใจอยู่อย่างนี้ คำแก้ว....เธอต้องเตรียมตัวเป็นแม่คนนะ การที่ได้เป็นแม่คนน่ะ มันคือสิ่งที่สวยงามที่สุดของผู้หญิงแล้วนะคำแก้ว..."

คำแก้วยังเอาแต่ร้องไห้ จนเขาปลอบว่าไม่มีอะไรน่ากลัวอย่างที่เธอคิดหรอก เธอกลับบอกว่าตนไม่ได้กลัวอะไร ก้องเกียรติยิ้มดีใจที่เธอเข้มแข็ง บอกว่าช่วงที่ตนไม่อยู่ มีปัญหาหรือร้อนใจอะไรก็ปรึกษากับคุณนายคนอื่นๆได้"

"พอได้แล้วค่ะคุณชาย แก้วไม่อยากฟัง" คำแก้วตัดบทอย่างสุดที่จะทนฟังต่อไปได้ แล้วอวยพร "แก้วก็ขอให้คุณชายใหญ่มีความสุขเหมือนกันค่ะ เรื่องการเป็นแม่คนดูเหมือนคุณชายใหญ่จะเข้าใจได้เป็นอย่างดี คุณชายใหญ่เก็บคำแนะนำเอาไว้พูดกับภรรยาของคุณชายใหญ่ก็แล้วกันนะคะ" พูดจบก็ผละจากตรงนั้นเดินเข้าตัวตึกไปอย่างเร็ว

ชายหนุ่มได้แต่ถอนใจยาวด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก และไม่ไกลจากตรงนั้นนัก อาอึ้มได้ยินและได้เห็นทุกอย่างตั้งแต่ต้น...

ooooooo

เมื่อก้องเกียรติเดินกลับตึกเล็กก็เจอกับอาอึ้มที่มาดักรออยู่ อาอึ้มรู้ถึงจิตใจของหนุ่มสาว ได้แต่พยายามเตือนสติด้วยความรัก ห่วงใย และปรารถนาดี

แม้อาอึ้มจะไม่พูดอะไรตรงๆ แต่ก้องเกียรติก็เข้าใจความหมาย ถามว่าอาอึ้มห่วงตนถึงขนาดนี้เลยหรือ อาอึ้มรำพึงรำพันว่า ตนมาอยู่ที่ตระกูลนี้ตั้งแต่อายุสิบสองขวบ เหมือนกับตระกูลเชงได้ให้ชีวิตแก่ตน เวลานี้คุณชายใหญ่เป็นคนที่สำคัญที่สุดของตระกูล เมื่อเขาบอกว่าตระหนักในสิ่งเหล่านี้เช่นกัน อาอึ้มเตือนว่า
"อาคุงชายใหญ่เป็งคนใจอ่อง เป็งคนใจลี แล้วก็เป็งคงขี้สงสารคงล่วย อาอึ้มเลยรู้สึกเป็งห่วง"

ก้องเกียรติยิ้มน้อยให้อาอึ้ม จับมืออาอึ้มไปตบหลังมือเบาๆ พูดเบาๆ แต่หนักแน่นว่า

"อาอึ้มเลิกเป็นห่วงได้แล้ว อาอึ้มอยู่คอยเลี้ยงน้องชายของฉัน ให้เหมือนกับที่อาอึ้มเคยเลี้ยงฉันมานะ" น้ำเสียง สีหน้า แววตาของก้องเกียรติบอกถึงความหนักแน่นมั่นใจที่จะไม่ทำเรื่องที่เสื่อมเสียแก่วงตระกูลเด็ดขาด

ooooooo

ก่อนจากกันคืนนี้ โรสกับทรงชัยต่างอาลัยอาวรณ์ กันแทบจะขาดใจ โรสเสนอว่าถ้าเขากล้าให้พาตนหนี ไปด้วยกัน ทรงชัยชมว่าเธอเป็นผู้หญิงที่กล้าหาญที่สุดเท่าที่ตนเคยพบ โชคดีจริงๆ ที่ได้พบเธอ บอกเธอว่า เราจะหนีไปด้วยกัน หนีไปให้ไกลแสนไกล ที่นายของโรสจะไม่มีวันตามหาเราเจอ แต่ทุกอย่างเราต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะเจ้าสัวเชงสือเกียงเป็นคนที่มีอิทธิพลกว้างขวางมาก

"ฉันไม่กลัวอาไลทั้งนั้น ขอเพียงแค่ให้เราได้อยู่ด้วยกัน ถึงฉันต้องตายฉันก็ยอม" โรสเด็ดเดี่ยวมาก ทรงชัยมองเธออย่างซึ้งใจในความเสียสละเพื่อความรักของเธอ ต่างโผเข้ากอดกันอย่างซาบซึ้งใจ

โรสกลับเข้าห้องอาบน้ำจนสะอาดหมดจดอารมณ์ เบิกบาน สีหน้าแจ่มใส ดวงตาเป็นประกายดุจดวงดาวที่สุกปลั่ง พอเข้านอนอาจูมาห่มผ้าให้ชมว่าเวลาที่โรสไม่แต่งหน้าเยอะดูสวยกว่าแต่งอีก

"อาจู...ถ้าอั๊วเป็งเมียของใครก็ล่ายที่รักอั๊ว มีอั๊วเป็งเมียคงเลียว เลี้ยวมีเวลาอยู่กะอั๊วตลอดเวลา อั๊วจาเป็งเมียที่ลี เป็งแม่บ้าน ทำกับข้าว เลี้ยงลูก อั๊วจาไม่แต่งหน้าเยอะๆ เลยนะ อาจู ลื้อจำที่อั๊วพูกไว้นะ"

อาจูพยักหน้ารับรู้แล้วสีหน้าก็เปลี่ยนเป็นเศร้าเครียดขึ้นมาอีก โรสปลอบใจว่าไม่ต้องวิตกเรื่องอาโชค อาจูบอกว่าตนกลัวคุณนายที่สอง

"ลื้อไม่ต้องกลัว เพราะอั๊วนี่แหละจะเป็งคนปราบอีเอง!" โรสพูดอย่างมั่นใจมาก

ooooooo

บ่ายวันรุ่งขึ้น ขณะที่เยนหลิงกับโรสมารอรับลูก ตัวเองกลับจากโรงเรียนนั้น โรสพาลหาเรื่องด้วยการชน เยนหลิงขณะเดินผ่าน พอโดนเยนหลิงว่าโรสก็พาลหา เรื่องทะเลาะ ครั้นโดนเยนหลิงทำคอแข็งด่าด้วยภาษาผู้ดี โรสก็เยาะเย้ยว่าวันหลังถ้าจะด่าตนก็กรุณาด่าเป็นภาษา คนหน่อยตนจะได้ฟังรู้เรื่อง ลอยหน้าลอยตาบอกว่า

"ที่ลื้อพูกมาทั้งหมกเมื่อตะกี้ อั๊วไม่เข้าใจ ลื้อช่วยแป ให้ฟังหน่อยล่ายม้ายล่ะ"

เยนหลิงแปลให้ฟังว่า "เธอน่ะทุเรศมาก" โรสสวนไป ทันทีว่าเยนหลิงทุเรศกว่า เยนหลิงยิ้มเยือกเย็นย้อนไปว่า ไม่พูดด้วยแล้ว ที่พูดไปเมื่อกี้ก็เพราะเข้าใจว่าเธอฟังรู้เรื่อง ไม่รู้ว่าพูดกับเธอต้องพูดภาษาที่คนเขาไม่พูดกัน

"ลื้อว่าอั๊วเป็งหมาเหรอ" โรสสรุปเองจ้องเยนหลิงตาแทบลุกเป็นไฟ

ทั้งสองทะเลาะกันดุเดือดจนอาจูกับอาเง็กที่ยืนฟังอยู่พากันอกสั่นขวัญแขวน เยนหลิงด่าโรสว่าเป็นผู้หญิงไร้ค่า ไร้ศักดิ์ศรี ไม่มีใครเขาอยากจะสนใจเธอหรอก โรสก็ด่าสวนไปว่าเยนหลิงแก่ตัวไปต้องอยู่คนเดียวไม่มีใครอยากอยู่ด้วย เพราะคนอย่างเธอนั้นหน้าไหว้หลังหลอก ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง

เยนหลิงสวนไปว่ายังดีกว่าคนที่เลวทั้งต่อหน้าและลับหลัง โรสโมเมว่าถ้าเยนหลิงดีจริงอาเง็กจะเอาไปนินทาหรือ ทำเอาอาเง็กที่ยืนอกสั่นขวัญหายอยู่แทบช็อก ร้องไอ๊หยา! ปฏิเสธว่า ตนเปล่าไม่ได้นินทา

อาจูที่แสนซื่อรับรองว่าอาเง็กไม่เคยเอาคุณนายไปนินทา ไม่เชื่อถามคนในครัวดูก็ได้ เยนหลิงชมอาจูว่านิสัยดีไม่เหมือนนายของตัวเอง เป็นคนดีแบบนี้น่าจะไปรับใช้เจ้านายที่ดีๆเปลี่ยน ให้มารับใช้ตนเอาไหมตนยินดีรับ อาจูรีบปฏิเสธปากคอสั่นว่า ไม่เอา ตนอยากอยู่กับคุณนายสามเหมือนเดิม

พอดีพวกเด็กๆกลับมาถึง เยนหลิงเลยรีบไปรับลูกของ ตัวเองพาไปหาขนมกินกันเพราะเด็กๆบอกว่าหิว

ส่วนโรสก็ถามตี๋เล็กว่าหิวไหม แล้วสั่งอาจูให้เอาขนมไปให้เจี๊ยะที่ห้อง พูดกระแทกเข้าหูเยนหลิงว่า "อาม้าต้องเลี้ยงลื้อลีๆ เพราะลื้อเป็งถึงคุงชายเล็กของตระกูลเชง"

เยนหลิงเลยหันมาพูดเย้ยว่าจะเป็นคุณชายเล็กของตระกูลเชง แต่ได้นิสัยเลวๆต่ำๆจากแม่ โรสเลยหันหลังมาทะเลาะกันอีกรอบ

เสียงทะเลาะกันดังเข้าไปในบ้านจนเม่งฮวยทนไม่ได้เดินหน้าบึ้งออกมาตวาด

"หยุกนะนังกาหลี่"

โรสโกรธมากถามเม่งฮวยว่าทำไมมาเรียกตนอย่างนี้ เยนหลิงหัวเราะชอบใจบอกว่าคุณนายใหญ่เรียกได้ถูกแล้ว โรสขู่ว่าตนจะฟ้องนายแล้วปึงปังเข้าตึกไป

ooooooo

ที่ห้องรับแขก เจ้าสัว เม่งฮวย เยนหลิง โรส และคำแก้วมานั่งกันพร้อมหน้า เจ้าสัวถามเม่งฮวยว่าทำไมถึงไปเรียกอาเหม่เกว่ว่าอากาหลี่   เม่งฮวยเถียงว่าตนพูดแค่นี้มันเสียหายตรงไหน   โรสสวนไปว่า   ตนเรียกคุณนายใหญ่อย่างนี้บ้างไหมล่ะ

"ถ้าอั๊วเหมืองก็เรียกล่าย ไม่เห็นแปก" โรสเถียงว่าตนก็ไม่เหมือน เม่งฮวยยืนยันว่า "ทำไมจาไม่เหมือง ลื้อน่ะเหมืองยิ่งฝ่าอาไลทั้งหมก กาหลี่ล่ายน้ำ"

โรสเถียงว่าคุณนายใหญ่ไม่ได้พูดแบบนี้ พูดแค่ว่ากะหลี่เฉยๆ เยนหลิงเลยไกล่เกลี่ยว่าถ้าเธอไม่ได้เป็นก็ไม่เห็นต้องเดือดร้อนเลย อีกอย่างเธอก็ควรจะรู้ว่าที่คุณนายใหญ่พูดนั้นหมายถึงกระดี่ได้น้ำ

แล้วเยนหลิงก็ลากเรื่องเข้าสู่เป้าหมายของตนจนได้ หันไปสั่งอาเง็กให้พาเจ้าโชคเข้ามา เจ้าสัวถามว่าโชคเกี่ยวอะไรด้วย พาเข้ามาทำไม เยนหลิงพูดอย่างมั่นใจในฐานะที่เป็นต่อว่า

"เจ้าโชคจะมาเป็นพยานว่าสิ่งที่ฉันพูดทั้งหมดในวันนั้นเป็นความจริง คืนวันที่คุณนายสามหายออกไปจากบ้านทั้งคืน เจ้าโชคเป็นคนเห็นว่าอาจูนั่งคอยคุณนายสามอยู่ที่ข้างตึกทั้งคืนจนเช้า แต่พอนายจับได้อาจูก็รีบโทรศัพท์ไปนัดแนะกับนายของมัน แล้วมาโกหกนายว่าเพิ่งจะออกไปตอนเช้า"

เจ้าสัวหันขวับถามโชคว่าจริงไหม โชคตอบเต็มปากเต็มคำว่า "ผมไม่เห็นครับ"

เยนหลิงแทบช็อกหันไปตวาดโชค "แกโกหก แกบอกกับฉันว่าแกเห็นไง" โชคก็ยังยืนกรานว่าตนไม่เห็น เจ้าสัวเลยบอกให้โชคออกไป เยนหลิงไม่ยอมหาว่าโชคโกหก

"มังอาจจาจิงอย่างที่ลื้อพูด แต่เราไม่ล่ายยินที่อาโชคอีบอกกะลื้อ เพราะฉะนั้นเราพูดอะไรมากไม่ล่าย"

เมื่อเอาผิดเรื่องนี้ไม่ได้ เยนหลิงมีข้อหาสำรองงัดออกมาฟ้องว่า

"ยังมีอีกเรื่องค่ะนาย ครั้งนี้คุณนายใหญ่เป็นพยานได้ โรสเขาประกาศก้องกับทุกคนว่าเขาจะหนีออกไปดูงิ้วอีก ทั้งๆ ที่นายไม่อนุญาตให้ไป"

เม่งฮวยสนับสนุนทันที ส่วนคำแก้วโพล่งขึ้นว่าน่าเบื่อ เจ้าสัวเองก็ทำท่าเบื่อหน่ายมาก เม่งฮวยรีบยืนยันว่าจริงยุเจ้าสัวให้ทำโทษโรส

"แต่แก้วว่ามันเป็นเรื่องที่ซ้ำซากค่ะ โรสเขาออกไปดูงิ้วตั้งหลายหนแล้วยังจะไปหาเรื่องเขาอยู่ได้"

เม่งฮวยตวาดคำแก้วว่าอย่ามาสอดไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เจ้าสัวตัดบทให้เลิกเถียงกันได้แล้ว เม่งฮวยถามอย่างรับไม่ได้ว่าเฮียไม่ว่าอะไรอีเลยหรือ เจ้าสัวถามว่าแล้วจะให้ว่าอะไร

เม่งฮวยบอกว่าให้ว่าเรื่องโรสหนีไปดูงิ้วเฮียห้ามก็ไม่ฟังหนีไปดูงิ้วไม่พอยังมาประกาศให้คนรู้อีกด้วย

"อาเหม่เกว่อีไม่ล่ายหนีไปหรอก อั๊วอนุญาตให้อีไปเอง" เจ้าสัวพูดต่อหน้าทุกคนอย่างชัดเจน ทำเอาเม่งฮวยกับเยนหลิงตะลึง เสียหน้ามาก ยิ่งเมื่อถูกคำแก้วหัวเราะกิ๊กออกมา เม่งฮวยเลยตวาด

"อย่ามาดัดจริตหัวเราะเยาะนะนังคำแก้ว ลื้อเองก็เหมืองกัง เจ้าเล่ห์...เจ้ามารยา ลื้อน่ะมังมาจากนรก!"

คำแก้วหยุดกึกจ้องหน้าเม่งฮวยอย่างไม่พอใจ ปัดสิงโตหยกที่วางอยู่บนโต๊ะกระเด็นหักเป็นสองท่อนแล้วลุกยืนพรวดเดินออกไปจากห้อง

"อาคำแก้ว!" เจ้าสัวตวาดลั่น

ooooooo

บ่ายนี้เอง คำแก้วก็ต้องไปกราบขอโทษเม่งฮวยที่ห้อง เธอคุกเข่าลงกราบที่เก้าอี้โยก เม่งฮวยสั่งอาฮุ้งให้ไปบอกเจ้าสัวว่าคำแก้วมากราบขอโทษแล้ว ไม่ได้ กราบที่เท้าแต่กราบที่เก้าอี้ คำแก้วจำต้องหันมากราบอีกที คราวนี้เม่งฮวยพอใจ สะใจ

คำแก้วกราบที่เท้าเม่งฮวยแล้วลุกขึ้น อาฮุ้งเปิดประตูให้ คำแก้วออกไปอย่างเร็วด้วยความขมขื่นกดดันอย่างสุดขีด

ออกจากห้องเม่งฮวยแล้วคำแก้วตรงไปซบหน้ากับขอบบ่อเก่า นัยน์ตาแห้งผากไม่มีน้ำตาแม้แต่หยดเดียวทั้งที่สะอื้นในอกจนตัวสะเทือน

ooooooo

เยนหลิงกลับมาที่ห้องตัวเองอย่างแค้นใจที่ทำอะไรโรสไม่ได้ ครู่หนึ่งอาเง็กเข้ามาบอกว่ามีคนมารออยู่ที่หน้าประตูรั้ว   เยนหลิงสังหรณ์ใจว่าจะ

เป็นอาโกว

อาโกวจริงๆด้วย คราวนี้พอเยนหลิงด่าถามว่าบอกแล้วว่าไม่ให้มาแล้วมาทำไมอีก อาโกวอ้างว่ามาตามคำสั่งเสียของอาเตียลื้อให้มาเอาเงินค่าเลี้ยงดูหลานสองคนที่เป็นลูกของพี่ชายลื้อ

เยนหลิงไม่รับรู้ไม่รับผิดชอบอะไร บอกอาโกวว่าไม่เชื่อ อาโกวจึงเอารูปของเยนหลิงที่ถ่ายกับอาเตียตอนเธออายุได้ 7 ขวบในชุดที่เก่าขาดๆ บอกว่าจะเอารูปนี้มาให้เจ้าสัวดู เยนหลิงกระชากรูปนั้นมาฉีกทิ้งแล้วจะเดินเข้าบ้าน อาโกวตะโกนตามหลังมาด้วยน้ำเสียงเย้ยหยันว่า

"ฉีกล่ายฉีกไป อั๊วยังมีอีกเยอะ" อาโกวมองตามเยนหลิงอย่างไม่พอใจที่ไม่ยอมให้เงิน

พอเยนหลิงกลับถึงห้องก็อาละวาดด่าว่าอาเง็กอย่างลืมมารยาทผู้ดี เธอสับสนแค้นใจที่วันนี้มีเรื่องมาทำให้เสียอารมณ์รุนแรงถึงสองเรื่อง ทั้งเรื่องทำอะไรโรสไม่ได้และเรื่อง

อาโกวจะมาเอาเงินอีก

ส่วนโรสร่าเริงเบิกบานใจมากที่ทำให้เยนหลิงกับคุณนายใหญ่เสียหน้าได้ พอกลับห้องก็สั่งอาจูว่า คืนนี้ต้องไปดูหนังกับอาโชค อาจูตกใจไม่ยอมไปก็ถูกด่าว่า "ไม่ล่าย หลั่งใจเลย" ไล่ออกไปให้พ้น

แต่พอเห็นอาจูตกใจหน้าเสีย โรสก็ใช้ไม้อ่อนอ้อน "นะอาจูนะ อาจูคงลีไปหน่อยนะ...น้า..."

อาจูฟังแล้วอึ้ง พูดอะไรไม่ออก

ooooooo

คำแก้วยังอยู่ที่บ่อเก่า ก้องเกียรติเดินมาหา พอคำแก้วเงยหน้าขึ้นเขาเห็นสีหน้าแววตาที่ซีดเซียวเศร้าหมองของคำแก้ว ความสงสารก็ทำให้เขาไม่อาจปิดบัง ความรู้สึกในใจได้ปล่อยความรู้สึกทั้งหมดออกมา คำแก้วเองก็น้ำตาพรูออกมาทันทีที่เห็นหน้าชายหนุ่ม

ความน้อยใจเสียใจชอกช้ำใจทำให้คำแก้วบอกเขาว่าอย่ามาพูดกับตนเลย เดี๋ยวตนพูดอะไรไม่ถูกออกไปจะโดนนายบังคับให้ไปกราบเท้าอีก

ก้องเกียรติสงสัยพยายามถามแต่คำแก้วก็ไม่พูด เธอบอกเขาว่าอยากกลับบ้าน เขาบอกให้ไปขอนายแล้วให้อาจิว พาไป เธอบอกว่าไม่กล้าขอเพราะนายบอกว่าให้ถือว่าบ้านนี้เป็นบ้านของตัวเอง ก้องเกียรติย้ำว่า ที่นี่ก็คือบ้านของเธอจริงๆ

"ค่ะแก้วทราบ แก้วพยายามที่จะรู้สึกและคิดอย่างนั้น แต่แก้วก็ทำไม่ได้"

"เธอต้องทำให้ได้นะคำแก้ว แล้วเธอจะรู้สึกสบายใจขึ้น"

"แก้วก็อยากจะให้มันเป็นอย่างนั้นเหมือนกัน แก้วไม่อยากที่จะต้องมาทุกข์ใจอย่างนี้เลย"

"สุขทุกข์อยู่ที่ใจของเธอเองนะคำแก้ว" ก้องเกียรติให้กำลังใจ

คำแก้วไม่อยากพูดถึงเรื่องที่ไม่สบายใจอีกแล้ว ถามเขาว่าจะไปเมืองจีนเมื่อไร

"คงต้องใช้เวลาหน่อย เพราะมันไม่ง่ายนัก ทางเราเพิ่งจะเริ่มเปิดความสัมพันธ์กับทางเมืองจีน ฉันกลับมา เธอคงจะใกล้คลอดเต็มที หรืออาจจะคลอดแล้วก็ได้ ฉันอยากจะเห็นน้องของฉันเร็วๆจังเลย"

พอก้องเกียรติพูดเรื่องนี้คำแก้วก็ไม่อาจทนฟังได้สีหน้าแววตาชอกช้ำขึ้นมาจนก้องเกียรติถามว่าเธอไม่ดีใจหรือที่จะมีลูก คำแก้วไม่ตอบแต่เดินหนีไปทันที ก้องเกียรติแปลกใจเดินตามไปจนถึงสนามหลังตึก เจ้าสัวยืนอยู่ที่ระเบียงเห็นภาพทั้งหมดแล้วจึงหันหลังเดินกลับเข้าห้องของคำแก้ว

เมื่อคำแก้วกลับเข้าห้อง เจ้าสัวถามว่าคุยอะไรกับอาใหญ่ ตนไม่ชอบให้เธอไปคุยกับอาใหญ่สองต่อสอง อย่าทำอย่างนี้อีก คำแก้วย้อนถามอย่างน้อยใจว่าจะไม่ให้ตนมีเพื่อนเลยหรือ

"ลื้อมีเพื่องล่าย แต่ไม่ใช่อาใหญ่" เสียงเจ้าสัวเข้มอย่างไม่พอใจ คำแก้วเองก็ไม่พอใจสวนไปทันทีว่าพูดอย่างนี้หมายความว่ายังไง "ลื้ออย่ามาหาฟามหมายเลย ทำตามที่นายบอกก็เลี้ยวกัง ไหน...อาคำแก้ว ลื้อมานี่สิ ขอนายจับท้องลูหน่อยว่าโตขึ้นแค่ไหนเลี้ยว"

เจอแบบนี้เข้าอีกแล้ว คำแก้วหน้าเครียดทันทีไม่ยอมให้เจ้าสัวจับท้อง เจ้าสัวไม่พอใจสั่งให้เข้ามาหา คำแก้วพูดอย่างหาทางเอาตัวรอดแกมตัดพ้อว่า

"ไม่ต้องจับหรอกค่ะ ท้องมันไม่โตขึ้นหรอก ในเมื่อแม่ไม่สบายใจอย่างนี้ ลูกจะโตขึ้นได้ยังไง"

"อาคำแก้ว ลื้อกลับมานี่ มาอาบน้ำนองล่ายเลี้ยว..." คำแก้วยังยืนเฉย เจ้าสัวเดินมาจับต้นแขนจะพาเข้าห้องนอน คำแก้วไม่ยอมสะบัดหลุด "อาคำแก้ว...หมู่นี้ลื้อเป็งอาไลไปหา ทำไมลื้อทำตัวไม่น่ารักเหมืองตองที่ท้องใหม่ๆเลย จำล่ายไหม ลื้อให้นายรักลื้อทุกวัง...ทุกวัง..."

กิมลั้งจะมาเอาผ้าไปซักได้ยินเสียงเจ้าสัวดังจากในห้องคำแก้วก็หูผึ่งแอบฟัง

เจ้าสัวถามว่าตอนนี้ท้องได้กี่เดือนแล้ว คำแก้วบอกว่าไม่ทราบไม่ได้นับ เจ้าสัวบอกว่าไม่เป็นไรแล้วเดินไปปิดประตูห้องพาคำแก้วเดินเข้าห้องนอน

พอในห้องเงียบเสียงลง  กิมลั้งก็วิ่งหย่งๆไปเคาะประตูห้องโรสทันที

ooooooo

กิมลั้งแจ้นไปบอกโรสว่าคำแก้วไม่ได้ท้องอย่างที่ตนเคยบอกไว้จริงๆ โรสบอกว่าไม่สนใจถ้าไม่ได้ ท้องก็ดีเสียอีกเจ้าสัวจะได้ไปนอนกับคำแก้วไม่ต้องมายุ่งกับตน

"อ๋อ! ที่คุณนายไม่เดือดร้อนเพราะว่าตัวเองจะได้หนีออกไปเที่ยวสบายใจใช่ไหมล่ะคะ"

โรสฉุนขาดตวาดว่าบังอาจกำเริบเสิบสานมาพูดกับตนอย่างนี้ กิมลั้งยังปากกล้าบอกว่าตนพูดความจริงเลยถูกโรสตวาดและไสหัวออกไปจากห้องนี้ เมื่อกิมลั้งดื้อแพ่งโรสสั่งอาจูให้จับโยนออกไป กิมลั้งเลยสะบัดเดินปึงปังไปที่ประตู ถูกโรสปรามก็เถียง เลยโดนของที่วางอยู่โต๊ะเครื่องแป้งปาใส่หัวอย่างจัง ปรามว่าต่อไปจะได้ไม่มากำเริบเสิบสานอีก ก่อนกิมลั้งจะออกไปโรสยังขู่ว่า

"อั๊วจาเตืองลื้อไว้นะอากิมลั้ง ลื้ออย่าปากลีเอาเรื่องของอั๊วไปเล่าให้คงอื่นฟังล่ะเพราะไม่มีใครเชื่อลื้อหรอก

แต่ถ้าลื้ออยากจะลองลีกะอั๊วก็เอาเลย เลี้ยวลื้อจาล่ายรู้ว่านรกมังเป็งยังไง"

กิมลั้งเดินกระแทกกระทั้นลงไปถึงโถงบันไดชั้นสองหน้าห้องเยนหลิง ทันใดนั้นประตูห้องเปิดออก เยนหลิงเรียกกิมลั้งไว้บอกให้เข้าไปคุยกันในห้องก่อน พอกิมลั้งเข้าไปนั่งหน้าหงิก เยนหลิงถามว่า

"แกแค้นคุณนายของแกมากใช่ไหมกิมลั้ง แกเคยอยากให้มันตายไม่ใช่เหรอ...อย่าถามว่าทำไมฉันถึงรู้ แกรู้ไว้แค่นี้ว่า ฉันรู้และฉันช่วยแกได้"

กิมลั้งถามว่าทำไมถึงเกลียดคำแก้วเห็นชอบทำดีกับอีอยู่เรื่อยๆ เยนหลิงบอกว่าไม่ต้องถามเหตุผล เพราะจุดประสงค์ของกิมลั้งต้องการให้คำแก้วตายใช่ไหม กิมลั้งยอมรับแต่ไม่กล้าทำ

"แล้วทำไมคราวก่อนแกถึงกล้าทำล่ะ" เยนหลิงถามจ้องเขม็ง "คราวก่อนแกร่วมมือกับคุณนายใหญ่ไง"

พอกิมลั้งรู้ว่าเยนหลิงรู้เรื่องนี้ก็ตกใจรีบปฏิเสธพัลวัน

"แกจะให้ฉันบอกเรื่องทั้งหมดกับเจ้าสัวไหม"  เยนหลิงถามอย่างเป็นต่อ พอกิมลั้งอ้อนวอนไม่ให้บอกเจ้าสัวและอย่าบอกคุณนายใหญ่ด้วย เยนหลิงบอกว่า "ฉันจะบอกทั้งสองคนนั่นแหละ ว่าฉันรู้..."

กิมลั้งอ้อนวอนยกมือไหว้ขอว่าอย่าบอกเลย เยนหลิงยืนยันว่าจะบอก กิมลั้งเลยต้องก้มกราบ "อย่าบอกเลยนะคะ

จะให้หนูทำอะไรหนูยอมทุกอย่าง หนูยอมค่ะ...คุณนายจะให้หนูทำอะไรล่ะคะ"

เยนหลิงยิ้มเหี้ยมสีหน้าแววตาเจ้าเล่ห์จนดูน่ากลัวมาก...

ooooooo

กิมลั้งไปนั่งร้องไห้ที่ศาลาท่าน้ำ ผินถามว่าเป็นอะไร พอกิมลั้งบอกว่าคุณนายที่สองขู่ตน เรื่องที่ตนเล่นของกับคุณนายที่สี่ ผินตกใจถามว่าคุณนายที่สองรู้ได้ไง คุยกันไปมาเลยเดาว่าคุณนายที่สี่คงเล่าให้คุณนายที่สองฟัง แต่แล้วก็ฉุกคิดได้อีกว่าคุณนายที่สองขู่กิมลั้งทำไมเพราะไม่เคยมีเรื่องกัน

ส่วนเยนหลิงก็ดักคอเม่งฮวยขณะเจอกันที่โถงบันไดชั้น 2 เยนหลิงยิ้มแย้มถามว่าคุณนายใหญ่จะไปไหน เม่งฮวยไม่ตอบซ้ำยังมองเยนหลิงแต่หัวจดเท้า เยนหลิงเลยถามว่าคุณนายใหญ่ไม่ชอบตนเรื่องอะไร เม่งฮวยบอกว่าไม่ชอบแต่ ไม่บอกว่าเรื่องอะไร

เยนหลิงถามว่าเคยอยากให้ตนตายไหม เคยทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ตนตายไหม เม่งฮวยฟังแล้วงงถามว่าพล่ามอะไร เมื่อเยนหลิงคาดคั้นจะเอาคำตอบว่าเคยอยากให้ตนตายไหม เม่งฮวยตอบทันทีว่าทำไมจะไม่อยาก อยากให้เยนหลิงตายมากกว่าใครๆเสียอีก ตายคนเดียวก็พอแผ่นดินนี้ จะได้สูงขึ้น คนอื่นไม่ต้องตายก็ได้
"คอยดูแล้วกัน คอยดูกันไป" เยนหลิงโกรธจนหน้ามืด พูดอาฆาตแล้วเดินคอแข็งลงไป

เม่งฮวยตะโกนตามหลังไปว่าไม่ต้องคอยได้ไหมตนใจร้อน แล้วหันถามอาฮุ้งว่าเป็นยังไง

"อั๊วงงฮ่ะอาคุงนายใหญ่ ทำไมอาคุงนายสองอีถามอย่างนั้นฮะ"

ทั้งอาฮุ้งและเม่งฮวยต่างงงพอกัน

เยนหลิงเดินไปที่หน้าตึกเจอโชคก็ปรี่เข้าข่มขู่เล่นงานถามว่าโรสให้เงินเท่าไหร่ถึงได้ยอมโกหก ตะคอกให้ บอกมา โชคตกใจยกมือไหว้ปลกๆส่ายหน้าไปมา เยนหลิงถามว่ารู้ไหมว่าทำให้ตนเสียหน้าแค่ไหน ไม่บอกก็ไม่เป็นไร แต่ต่อไประวังตัวให้ดี ใครมีเรื่องกับตนไม่ตายดีหรอก

พูดแล้วเยนหลิงผลักหัวโชคเต็มแรงแล้วสะบัดเดินไป โชคตกใจมากวิ่งหนีไปทางหลังตึก  ไปบอกน้อยว่าตนกลัว ไม่อยากอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว  อยากหนีไปให้ไกลๆทั้งที่ไม่รู้จะหนีไปไหนเหมือนกัน

"แต่ไปแล้วข้าคงคิดถึงอาจูมาก ข้ารักอาจูจริงๆ" โชคคร่ำครวญ พอน้อยถามว่าแล้วอาจูรักเขาหรือเปล่า โชคส่ายหน้า เศร้าๆ "ไม่รู้ แต่คุณนายที่สามบอกว่าอาจูจะไปดูหนังกะข้า"

"แล้วเขาไปรึเปล่าล่ะ" น้อยมองลุ้น โชคส่ายหน้าตอบอย่างหมดหวังว่า

"ข้ารอเป็นชั่วโมง ไม่เห็นหน้าอาจูเลย"

ooooooo

กิมลั้งเข้ามาในห้องคำแก้ว เห็นคำแก้วยัง นอนคว่ำหน้าซุกหมอนอยู่จึงย่องเข้าไป คำแก้วถามว่ามีอะไรหรือ กิมลั้งบอกว่าอาจิวถามหาแล้วจะเดินออกไป คำแก้วเรียกไว้สั่งให้ไปล้างห้องน้ำเดี๋ยวนี้ กิมลั้งเกี่ยงว่าเพิ่งล้างไปเมื่อวานเอง

"ล้างอีก ต่อไปนี้แกต้องล้างทุกวัน...ไปสิ" คำแก้วสั่งอย่างวางอำนาจ กิมลั้งฝืนใจเดินปึงปังไปทางห้องน้ำ คำแก้วจึงลุกจากเตียงเดินออกไป

เมื่อเจออาจิวที่โถงบันไดชั้นล่าง อาจิวบอกว่าเจ้าสัวให้ตนพาคำแก้วไปฝากท้อง คำแก้วใจเสียเกี่ยงว่าตนเพิ่งท้องไม่กี่เดือนเองยังไม่ต้องฝากหรอก พออาจิวอ้างเจ้าสัวคำแก้วก็เลี่ยงว่าตนยังไม่พร้อม

อาจิวไม่สบายใจถามว่าแล้วจะพร้อมเมื่อไหร่ เธอบอกว่าพร้อมแล้วจะบอกเอง ถามอาจิวว่าปกติเขาฝากท้องกันตอนกี่เดือน อาจิวก็ไม่รู้เหมือนกัน

พอดีเจ้าสัวร้องเรียก อาจิวจึงขอไปพบเจ้าสัวก่อน ทักคำแก้วว่าหน้าซีดมากให้ดูแลสุขภาพด้วยเพื่อคุณชายน้อย

คำแก้วยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น ส่วนที่หัวบันไดชั้น 3 หน้าห้อง คำแก้วนั้น กิมลั้งยืนชะโงกลงมาดูและแอบฟัง พอจับความได้ ก็ยิ่งมั่นใจว่าคำแก้วไม่ได้ท้องแน่ๆ

ooooooo

อาจิวเข้าไปอึดใจเดียวก็ออกมาบอกคำแก้วว่าเจ้าสัวให้พาคำแก้วไปฝากท้องวันนี้เลย ขอร้องคำแก้วว่าไปตรวจเดี๋ยวเดียวก็เสร็จ พอจะเดินไปก็หันมาย้ำเตือนคำแก้วว่า

"อ้อ...อาคุงนาย อย่าวิ่งขึ้นบันไดนะครับ อั๊วเคยเห็นคนท้องตกบันไดแท้งเลย เลือดไหลเต็มไปหมดน่ากลัวจริงๆ"

คำแก้วฟังแล้วมองบันไดใจอยากจะตกให้แท้งรู้แล้วรู้รอดไป คิดแล้วสะดุดที่อาจิวบอกว่าเห็นเลือดเต็มไปหมด ทำให้คำแก้วฉุกคิดถึงเลือดขึ้นมา...แล้วหันเดินกลับขึ้นไปที่ชั้น 3 ตรงเข้าห้องตัวเอง

กิมลั้งกำลังรื้อค้นตู้เสื้อผ้าดูกล่องผ้าอนามัยแล้วซุกไว้ตามเดิม แต่คำแก้วก็เห็นแล้วถามว่าดูอะไร กิมลั้งแก้เกี้ยวว่าจะขอโกเต็กซ์ คุณนายไม่ใช้แล้วขอตนเถอะ

"ฉันรู้แกจะหมายความว่ายังไง ล้างห้องน้ำเสร็จแล้วเหรอ" คำแก้วถามอย่างต้องการหาเรื่อง พอกิมลั้งยิ้มแหยๆคำแก้วชะโงกดูในห้องน้ำยังไม่ได้ทำอะไรเลย  "ล้างห้องน้ำยังไม่เสร็จ สาระแนไปค้นตู้ฉัน คราวนี้ฉันไม่เอาแกไว้แน่" คำแก้วด่าและตรงเข้าไปหา

"ไม่เอาหนู เพราะหนูรู้ว่าคุณนายไม่ได้ท้องจริงใช่ไหม" กิมลั้งถามอย่างท้าทาย เลยโดนตบเพียะหนึ่ง พอกิมลั้งหันหน้ามาก็โดนไปอีกเพียะ กิมลั้งเงื้อมือจะสู้ ก็พอดีเจ้าสัวเข้ามาเห็น สั่งเสียงเข้ม

"หยุดนะกิมลั้ง! ลื้อจะตบอาคำแก้วเหรอ ลื้อนี่เฮงซวยใหญ่แล้ว"

กิมลั้งฟ้องว่าตนโดนตบไปสองทีทำเหมือนตนไม่ใช่คน ตนทำงานมากี่ปีรองมือรองตีนดุด่าว่าตลอด  จะขอเปลี่ยนก็ไม่ให้เปลี่ยน  เกลียดตนก็เปลี่ยนเสียจะเอาไว้ทารุณทำไม กิมลั้งพูดไปร้องไห้ไป พอคำแก้วกล่าวโทษว่ากิมลั้งทำงานชุ่ยมากอย่างนี้ วันนี้ห้องน้ำยังล้างไม่เสร็จก็ออกมาค้นตู้เสื้อผ้าตน จะไม่ให้ดุได้ไง

ในที่สุดเจ้าสัวบอกคำแก้วว่าถ้าไม่ไหวจริงๆก็จะเปลี่ยน ให้ ถ้าตนพูดคุณนายใหญ่ต้องยอม กิมลั้งหยุดร้องไห้ ไหว้ ขอบคุณเจ้าสัว คำแก้วก็ไล่กิมลั้งไปให้พ้นทันที แต่กิมลั้งยังไม่ทันไปเจ้าสัวก็ถามขึ้นว่า

"เออ...กิมลั้ง แล้วลื้อไปค้นตู้เสื้อผ้าของคำแก้วเขาทำไม"

กิมลั้งหันมาช้าๆแววตาเอาเรื่อง คำแก้วใจหายวาบจะเป็นลมเสียให้ได้  เจ้าสัวถามย้ำ  พอกิมลั้งอ้าปากจะเล่า

คำแก้วก็พรวดเข้าไปฉุดแขนแล้วลากไปโยนออกนอกห้องปิดประตูปัง!

เจ้าสัวเดินเข้ามาพูดกับคำแก้วด้วยน้ำเสียงอ่อนลงว่าสงสารกิมลั้งเถอะเพราะพ่อแม่ไม่มีมาตั้งแต่เล็ก คำแก้วย้อนถามว่า  "มันจะตบแก้ว  จะให้แก้วสงสารมันเหรอนาย"

"เอาน่า แล้วนายจะเปลี่ยนให้แล้วกัน เอ้า...แก้วไปแต่งตัวเถอะนายจะพาไปฝากท้องเอง"

คำแก้วใจคอไม่ดีบอกให้เจ้าสัวลงไปรอข้างล่างก่อน เจ้าสัวจะคอยที่นี่และขอจับท้องดูว่าโตขึ้นแค่ไหนแล้ว คำแก้วบ่ายเบี่ยงบอกว่าปวดท้องมากเหมือนท้องเสีย แล้วรีบเข้าห้องน้ำไปเลย

ooooooo

อารามรีบเข้าห้องน้ำ เหยียบพื้นที่เปียกลื่นทำให้คำแก้วเกือบหกล้มดีที่มือยันถังน้ำสังกะสีได้ทัน แต่ก็ถูกหูถังที่มีคมบาดมือ เลือดซึมออกมา พอเห็นเลือดคำแก้วก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ ตาวาววามอย่างตัดสินใจเด็ดขาดแล้วที่จะทำอะไรบางอย่าง

ครู่หนึ่งมีเสียงดังโครมครามในห้องน้ำ เจ้าสัวตกใจร้องเรียกให้เปิดประตู  คำแก้วไม่เปิด  จึงตัดสินใจผลักประตูเข้าไปเห็นคำแก้วฟุบกับพื้น เลือดแดงเต็มพื้นไปหมด เจ้าสัวถลาเข้าประคองไว้

คำแก้วร้องไห้เสียงดังอย่างเสียใจมาก โทษว่ากิมลั้งล้างห้องน้ำทำให้ตนลื่นหกล้ม แล้วหวีดร้องชี้ให้เจ้าสัวดูเลือดที่พื้น พูดอย่างขวัญเสีย...

"นาย...ลูก...ลูกแก้ว..."

"เฮ้ย ใครอยู่แถวนี้ ไปตามกิมลั้งมาเดี๋ยวนี้" เจ้าสัวโกรธจัดตะโกนลั่น

ครู่หนึ่งคำแก้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามานอนหน้าซีดบนเตียงมีผ้าคลุมร่างไว้อย่างดี เจ้าสัวนั่งที่เก้าอี้ข้างเตียงเฝ้าอยู่อย่างห่วงใย

ที่หน้าห้อง อาเง็ก อาจู อาฮุ้ง คนรับใช้ประจำตัวของคุณนายที่สอง ที่สาม และที่หนึ่ง มายืนชะเง้อเงี่ยหูฟังอยู่ที่ประตูอย่างอยากรู้อยากเห็นมาก

มงกุฎดอกส้ม

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด