ตอนที่ 13
เยนหลิงเดินจ้ำร้องไห้กลับตึก เจอคำแก้วที่มุมตึก พอดี คำแก้วตกใจถามว่าคุณพี่ร้องไห้ทำไม เยนหลิงปรับสีหน้าทันทีบอกว่าแค่ผงเข้าตาแล้วแสดงความยินดี ที่คำแก้วกำลังจะมีลูก อวยพรให้ได้ลูกผู้ชายด้วย
พูดแล้วเยนหลิงรีบเดินผละไป คำแก้วยังติดใจเป็นห่วง เดินตามไปถามอีกว่าคุณพี่เป็นอะไรรึเปล่า คราวนี้เลยถูก เยนหลิงหันขวับมาพูดเกือบเป็นตวาดว่าตนแสดงความยินดีกับเธอแล้วตามธรรมเนียม อย่าเพิ่งมายุ่งกับตนตอนนี้ได้ไหม
"แต่แก้วเป็นห่วงคุณพี่นี่คะ" เยนหลิงสีหน้าเย็นชาขึ้นมาทันที มองคำแก้วตาคมกริบ คำแก้วใจไม่ดีพูดต่อเบาๆ "เพราะว่า..." แต่ไม่ทันพูดต่อก็ถูกเยนหลิงสวนไปทันทีว่าให้ห่วงตัวเองก่อนเถอะ
"ห่วงตัวเอง..." คำแก้วทวนคำใจไม่ดี ยกมือทาบที่ท้องตัวเองแล้วเครียดขึ้นมาทันที เพราะจนป่านนี้ยังไม่มีวี่แววว่าจะท้องเลย
ooooooo
คืนนี้เจ้าสัวมานอนที่ห้องคำแก้วอีก ถามไถ่ อย่างละเอียดว่าวันนี้อ้วกกี่หน เมื่อวานกี่ครั้ง พอฟังคำแก้วบอกแล้วเจ้าสัวพยักหน้าอย่างพอใจบอกว่าดีน้อยลง บอกคำแก้วว่า
"นายสั่งให้อาจิวไปซื้อยาจีนมาให้แก้วเจี๊ยะบำรุงล่วยนะ"
"ขอบคุณค่ะ" คำแก้วยิ้มแย้มเข้าคลอเคลียเจ้าสัวอย่างเย้ายวนลีลาเก้งก้างอย่างไร้เดียงสาแล้วพาเจ้าสัวไปที่เตียงนอน
เจ้าสัวมีความสุขมาก แต่คำแก้วกลับร้องไห้สะอื้นเบาๆ เจ้าสัวถามว่าเป็นอะไร เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นคงว่า "แก้วรู้สึกว่าตัวเองมีความสุขค่ะ แก้วมีความสุขมากๆค่ะนาย"
ฟังแล้วเจ้าสัวหัวเราะอย่างผู้มีชัยชนะ...มีอำนาจเหลือล้น...
ooooooo
เช้านี้ คำแก้วตื่นแล้วแต่ยังนอนครุ่นคิดอยู่บนเตียง สีหน้าแววตาอัดอั้น กดดัน ทุกข์ใจ แต่ครู่ต่อมาสีหน้าแววตาเธอก็เปลี่ยนเป็นมุ่งมั่น เด็ดเดี่ยว ลุกจาก เตียงอย่างเร็ว ตรงไปเปิดตู้เสื้อผ้าหยิบดอกเบญจมาศที่เหี่ยวเฉาขึ้นดูอย่างพินิจพิจารณา พูดกับเบญจมาศเสียงสั่นสะท้าน
"สิ้นสุดกันที ฉันจะไม่มีวันทำผิด...และจะไม่ยอมให้ใครต้องทำผิดด้วย"
ดอกเบญจมาศเฉาๆถูกกำแน่น พลันเธอเดินออกจากห้อง ไปอย่างเร็ว ตรงไปที่บริเวณบ่อเก่าที่เรียกกันเองว่า "บ่อนรก" ตรงไปโยนดอกเบญจมาศลงในบ่อ ตัดสินใจว่าจะตัดใจจากก้องเกียรติให้ได้เด็ดขาด แล้วหันหลังเดินกลับ
ขณะนั้นเอง มีเบญจมาศกิ่งหนึ่งลอยคว้างมา แล้วร่อน ค้างที่ปากบ่อ แม้จะมีลมพัดมาจนสั่นไหว แต่เบญจมาศกิ่งนั้น ก็ไม่ร่วงหล่นจากปากบ่อ...
ooooooo
วันนี้ ก้องเกียรติเรียกประชุมผู้บริหารของบริษัท เชงพาณิชย์ บอกแก่ที่ประชุมว่ามีแผนจะเปิดบริษัทสาขาที่นิวซีแลนด์ สินค้าที่จะเอาไปขายมีสามตัวคือชาจีนกับเหล้าจีน ส่วนอีกตัวคือข้าวไทย โดยจะวาง จุดหนักไว้ที่เมืองใหญ่ๆที่มีคนจีนอาศัยอยู่มากๆ
จากนั้นเขาบอกว่าอยากได้คนทำงานด้านต่างประเทศอีกคนหนึ่ง ผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ หลงจู๊รับปากว่าจะลองประกาศรับสมัครทางหนังสือพิมพ์ให้
พอประชุมเสร็จ อาจิวก็มาถึงพอดี ก้องเกียรติถามว่าอาจิวมาคนเดียวหรือ
"ครับ ผมเพิ่งไปซื้อยาให้ท่านเจ้าสัวที่แถวถนนเจริญกรุง มา ท่านเจ้าสัวสั่งว่าซื้อยาเสร็จให้มาหาอาคุงชายใหญ่" อาจิวพูดด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ก้องเกียรติถามว่าซื้อยาอะไรหรือ "ยาบำรุงให้อาคุงนายสี่ครับ" อาจิวพูดแค่นั้น
ก้องเกียรติเอะใจถามว่าคุณนายสี่เป็นอะไร คราวนี้อาจิวยิ้มกว้างบอกว่า
"อ๋อ...อาคุงนายสี่กำลังจะมีอาคุงชายเล็กๆครับ"
ก้องเกียรติอึ้งสนิท! อาจิววางถุงกระดาษลงแล้วหยิบแฟ้มเปิดเอาเอกสารเลยไม่ได้เห็นสีหน้าของก้องเกียรติ เมื่อส่งเอกสารให้แล้วอาจิวขอตัวกลับเพราะเจ้าสัวรออยู่
ก้องเกียรติรับเอกสารยืนอึ้งจนอาจิวเดินออกไปแล้ว เขาก็ยังยืนซึมอยู่ตรงนั้น...
เมื่อเดินกลับเข้าห้องทำงานก็ได้รับโทรศัพท์จากโจ หนึ่งในเพื่อนสนิทที่ชวนกันไปที่บ้านบ่อยๆ พอโจฟังเสียงเพื่อนรักก็เอะใจถามว่าเป็นอะไร ไม่สบายหรือเปล่าทำไมเสียงฟังดูแย่มาก
"ฉันไม่เป็นอะไรหรอก คงจะเครียดๆเรื่องงานน่ะ เออ...นายโทร.มาก็ดีแล้ว ฉันจะชวนนายไปบ้านภาษีเจริญ ตอนนี้คุณนายที่สี่มีข่าวดี ฉันต้องไปแสดงความยินดีกับเธอ"
เมื่อโจรับคำบอกว่าเดี๋ยวจะมาหาที่บริษัท ก้องเกียรติวางสายแล้วก็ยังนั่งซึม
ooooooo
ตกเย็น เรืองยศเดินเข้ามาถามก้องเกียรติด้วยน้ำเสียงเรียบๆว่าไหนเคยบอกว่าจะไม่กลับไปที่บ้านภาษีเจริญอีก ลืมที่พูดไปแล้วรึไง ก้องเกียรติตอบห้วนๆ ว่าสามเดือนแล้วที่ไม่ได้ไป
เรืองยศถามว่าแล้วตอนนี้? ก้องเกียรติตอบสั้นๆว่าต้องไปตามธรรมเนียมเพราะคำแก้วท้อง
"งั้นเหรอ" เรืองยศตะลึงอึ้ง ก้องเกียรติบอกว่าเรืองยศ เองก็ควรต้องไป เรืองยศถามว่าทำไม ก้องเกียรติตอบแบบประชดว่าเขาน่าจะเป็นคนที่ยินดีมากกว่าคนอื่น ถูกสวนมา ทันทีว่า "อ๋อ นั่นมันแน่นอนอยู่แล้ว นายเองก็น่าจะรู้ดีว่าทำไมฉันถึงต้องรู้สึกยินดีมากกว่าคนอื่นๆ"
ก้องเกียรติตอบประชดว่าตนรู้เพราะเรืองยศเป็นคนหวังดีกับตนมากที่สุด ทำให้เรืองยศฉุกกึกถามรัวเป็นชุดว่าถ้าตนคิดอย่างนั้นผิดด้วยหรือ ผิดแค่ไหน ผิดมากไหม
"ไม่ผิด ไม่มีใครว่านายผิด แล้วฉันก็ยังไม่ได้ว่าอะไรนายด้วย นายอย่ามาทำเป็นร้อนตัวไปหน่อยเลย"
"อย่าหาเรื่องกันเลยก้องเกียรติ ตลอดระยะเวลาสามเดือนมานี้ จะให้ฉันพูดไหมล่ะ ว่านายเปลี่ยนไปยังไงบ้าง นายอารมณ์เสียบ่อย หงุดหงิดง่ายเหมือนผู้หญิงที่ยังไม่หมดประจำเดือน"
"นายน่ะสิ ที่เหมือนผู้หญิงที่ยังไม่หมดประจำเดือน" ก้องเกียรติสวนไปเสียงดังขึ้นทุกที
แล้วทุกอย่างก็เงียบสนิท มีแต่สองหนุ่มที่ยืนจ้องหน้ากันด้วยอารมณ์ที่ร้อนรุ่มอยู่ภายใน
แล้วโจก็เข้ามาทำลายความเงียบที่น่าอึดอัดนั้น ร้องบอกมาตั้งแต่ประตูห้องว่า
"มาแล้ว...มาแล้ว นี่ฉันไปลากนายเต้มันมาด้วย อ้าว..." โจหยุดกึกเมื่อเห็นบรรยากาศตึงเครียดที่สองหนุ่มยืนจ้องกันอย่างไม่สนใจการมาของตน เต้หันไปกระซิบถามโจว่าสองคนมีอะไรกันหรือเปล่า โจดุเบาๆว่า "จะไปมีอะไร...ถามบ้าๆ นายเต้" แล้วโจก็ชวนเสียงดัง
"เฮ้ย...ยศ...เรารีบไปกันเถอะ เผื่อจะได้ไปทันเวลาอาหารเย็น ไป...นายใหญ่"
แล้วทั้งหมดก็พากันเดินออกจากห้องไปเงียบๆ
ooooooo
ที่โต๊ะอาหารมื้อเย็นที่บ้านเจ้าสัว เย็นนี้มีแค่ เม่งฮวย เยนหลิง และโรสเท่านั้นที่นั่งเจี๊ยะกันเงียบๆ แล้วจู่ๆเม่งฮวยก็กระแทกตะเกียบลง พูดหน้าตึง
"หมั่งไส้...ทำเป็งดักจาหลิก"
โรสกำลังจะพุ้ยข้าวเข้าปากหยุดชะงัก กินปูนร้อนท้องหาว่าเม่งฮวยด่าตน ถามว่ามาด่าตนเรื่องอะไร ถูกเม่งฮวยด่าสวนมาว่าอย่ายื่นจมูกมายุ่ง
โรสบ่นว่าเรื่องอะไรจะปล่อยให้มาด่าฟรีๆ ตนยังไม่ได้ไปทำอะไรให้คุณนายใหญ่เลยแล้วคุณนายใหญ่จะมาด่าว่าตนดัดจริตยังไง พานแขวะเยนหลิงว่า "เพราะคงที่มังดักจาหลิกกว่าอั๊วก็มี"
ได้เรื่องทันที เยนหลิงปรามว่าอย่ามาพูดจาก้าวก่ายตน ตัวเองมีตั้งหลายเรื่องระวังตนจะเอาเรื่องขึ้นมาบ้าง โรสเหมือนวัวสันหลังหวะเลยเฉไฉเรียกอาย้งให้มาเติมน้ำให้ แต่ยังไม่วายพูดแขวะเยนหลิงว่าดัดจริตทำตัวเป็นผู้ดี
ทั้งสามพูดแขวะกันไปมา ทะเลาะสลับกันสามคนสามขั้วไม่มีใครยอมใคร จนสุดท้ายเยนหลิงขอตัวลุกไปก่อน ต่อมาโรสไปบ้าง เม่งฮวยมองโรสอย่างหมั่นไส้แล้วบอกว่าเมื่อกี้ตนไม่ได้ด่าโรสแต่ด่าคำแก้ว แล้วด่าต่อว่า
"นังคำแก้วมังทำเป็งดักจาหลิก เจี๊ยะข้าวข้างล่างไม่ล่าย ต้องยกขึ้นไปเจี๊ยะบงห้อง"
โรสบอกว่าโทษคำแก้วไม่ได้ต้องโทษนาย เพราะนายเป็นคนสั่ง เม่งฮวยก็ยังโทษว่าเพราะคำแก้วออเซาะนายจึงสั่ง ไม่อย่างนั้นก็ลงมาเจี๊ยะกับเราทุกวัน โรสได้ทีเลยยั่วว่า
"แหม...ไม่ใช่แค่เท่านั้นนะฮ้าอาคุงนายใหญ่ อาคำแก้วน่ะ อีจามีลูกชายตัวน้อยๆให้นายล่วย"
เท่านั้นเอง เม่งฮวยก็ไล่โรสไปให้พ้นหน้าเดี๋ยวนี้เลย จากนั้นเรียกอาฮุ้งมาให้โทรศัพท์หาก้องเกียรติ พอปลายสายรับบอกว่าก้องเกียรติไม่อยู่ เม่งฮวยก็เป็นกังวลขึ้นมาพึมพำ "อาตั่วตี๋ไปหนาย..."
"ผมอยู่นี่ครับอาม้า" ก้องเกียรติเดินเข้ามาสีหน้าแจ่มใส เม่งฮวยดีใจมากโผเข้ากอดลูกชายแล้วหันไปทักเรืองยศ โจ และเต้ ถามว่ากินข้าวกันมาหรือยัง จะให้เจ็กหลียกมาให้เจี๊ยะกันที่นี่
"ไม่เป็นไรครับอาม้า เดี๋ยวผมไปทานที่ตึกเล็กก็ได้ครับ พอทานเสร็จ ผมจะรีบกลับมาหาอาม้านะครับ" ก้องเกียรติบอกเม่งฮวยแล้วชวนเพื่อนๆเดินออกจากห้องไป
ooooooo
ระหว่างทาง ก้องเกียรติเดินรั้งท้าย เชือกรองเท้าหลุดเลยหยุดผูก อดไม่ได้ที่จะเงยหน้ามองขึ้นไปที่ชั้น 3
คำแก้วยืนดูอยู่ก่อนแล้ว ตกใจไม่คิดว่าก้องเกียรติจะมองขึ้นมา ทั้งคู่ต่างมองกันตะลึงนิ่งนาน คำแก้วน้ำตาเอ่อท้น ในขณะที่ก้องเกียรติหน้านิ่งสนิท แล้วครู่หนึ่งเขาก็ตัดสินใจเดินตามเพื่อนๆไปที่ตึกเล็ก
คำแก้วยกมือปาดน้ำตา หันเดินกลับเข้าห้อง ไปบอกเจ้าสัวว่าก้องเกียรติกับเพื่อนๆมา เจ้าสัวพูดอย่างอารมณ์ดีว่าก้องเกียรติรู้ว่าเธอท้องจึงต้องมาแสดงความยินดีตามธรรมเนียม
ฟังเจ้าสัวแล้วคำแก้วอึ้งสนิทที่เรื่องตนท้องแพร่กระจาย ไปอย่างเร็ว คิดแล้วเครียดขึ้นมาอีก
ooooooo
อาบน้ำเปลี่ยนเป็นชุดลำลองแล้ว ก้องเกียรติไปหาเม่งฮวยที่ห้อง เม่งฮวยถามว่าเจี๊ยะปึ่งเรียบร้อยแล้วหรือ พลางเข้ากอดลูกชายอย่างคิดถึง เม่งฮวยสูดกลิ่นจากก้องเกียรติถามว่าใส่น้ำหอมอะไรหอมดี เขาไม่ตอบแต่ถามว่าอาม้าสบายดีนะครับ
เม่งฮวยโอดครวญว่ายังปวดขาอยู่ยิ่งเวลาอากาศเย็นๆจะปวดมาก แต่พอเขาเสนอจะพาไปหาหมอ เม่งฮวยบอกว่าไม่ต้องเพราะตอนนี้กินยาจีนที่อาจิวไปซื้อให้อยู่ ก้องเกียรติประคองแม่ไปนั่งแล้วนวดขาให้ เม่งฮวยมองหน้าลูกชาย สะอื้นเป็นระลอกขึ้นมา ปรารภว่า
"อาตั่วตี๋ อาม้าอยากให้ลื้อมีเมียซะที เพราะลื้อเองก็อายุมากแล้ว แต่ความจริงอาม้าเองก็กลัวๆเหมือนกัง กลัวว่าถ้าลื้อมีเมียเลี้ยว เมียของลื้อไม่ให้มารักอาม้า อาม้าต้องชีช้ำแน่ๆเลย"
พูดแล้วร้องไห้ออกมาอย่างหวาดวิตก ก้องเกียรติได้แต่นั่งมองแม่ด้วยความสงสารจับใจ
ooooooo
ที่ห้องคำแก้ว...เจ้าสัว คำแก้ว และอาอึ้มอยู่ในห้องเจ้าสัวคุยอย่างมีความสุขว่าตนจะไม่ให้อาอึ้มอุ้มลูกคำแก้ว เพราะแก่แล้วเดี๋ยวทำลูกตก อาอึ้มอุทานอย่างผิดหวัง แล้วสาธยายยาวเหยียดว่า ตนอุ้มคุณหนูทุกคนมาหมดแล้ว
อาอึ้มเล่าถึงก้องเกียรติตอนนั้นว่าเป็นคนที่น่ารักที่สุด นอนนิ่งๆอยู่กับอกตนแล้วก็ยิ้มชมว่า "อียิ้มหวาง...หวางจิงๆ" ชมว่าก้องเกียรติยิ้มหวานแล้วตัวเองก็ยิ้มไปด้วย
นอกจากนี้ ยังชมว่าก้องเกียรตินั้น "อีเรียบร้อย ใจลี ขี้สงสางคนล่วย สมกะที่เป็งถึงคุงชายใหญ่แซ่เชง อานายรู้ไหม ว่าใครๆก็อิจฉาอานายท่างกันทั้งนั้น ที่อานายท่างมีลูกชายคนโตทั้งฉลาด หน้าตาลี ทำงานก็เก่ง เก่งจิงๆเลย"
ระหว่างฟังอาอึ้มชื่นชมก้องเกียรตินั้น คำแก้วคิดถึงรอยยิ้มที่เขาเคยยิ้มให้ตัวเอง เป็นรอยยิ้มที่อ่อนโยน หวาน และอบอุ่น แล้วคำแก้วก็สะดุ้งอึ้ง เมื่อได้ยินอาอึ้มถามเจ้าสัวว่า
"อั๊วจาลออุ้มลูกของอาคุงชายใหญ่ เมื่อหล่ายอานายท่าง จะหาเมียให้อีซะที"
เจ้าสัวลุกขึ้นพูดยิ้มๆว่าพูดไปพูดมาทำไมวกมาเรื่องนี้ได้ บอกว่าจะไปอาบน้ำแล้ว ลุกจากเก้าอี้โยกพลางบอกคำแก้วว่าถ้าง่วงก็นอนก่อนเลย
พอเจ้าสัวลุกออกไป ความคิดของคำแก้วก็ยิ่งเตลิดไปถึงก้องเกียรติ ออกไปยืนพิงประตูระเบียงน้ำตาท้นจนต้องแหงนหน้ากลืนน้ำลายลงในอก ครู่หนึ่งก็ตัดสินใจเดินออกจากห้อง
ooooooo
คำแก้วในชุดนอนเดินไปที่บริเวณบ่อเก่า จ้องมองลงในบ่อ พึมพำแผ่วเบา
"เง็กท้อ...เง็กท้อ...ช่วยฉันด้วย...ฉันไม่อยากเป็นเหมือนเธอ แต่มันทรมาน ฉันรู้สึกทรมานเหลือเกิน เง็กท้อ...เธออยู่ไหน"
ก้องเกียรติในชุดลำลองมองจากอีกมุมหนึ่ง เห็นคำแก้วทำท่าชะโงกเหมือนกับจะกระโดดลงไปในบ่อ เขาวิ่งพรวดเข้ามาจับตัวไว้ร้องเสียงตกใจ "อย่าคำแก้ว"
พอหันมาเห็นก้องเกียรติ คำแก้วก็หมดความยับยั้งชั่งใจกอดเขาไว้แน่นร้องไห้จนพูดฟังแทบไม่ได้ศัพท์ รำพึงรำพันความคิดถึงที่มีต่อเขา ถามว่าหายไปไหนทำไมไม่มาหาตนเลย คร่ำครวญว่า
"รู้บ้างไหมว่าแก้วคอย...แก้วคอยคุณชายใหญ่ทุกวัน..."
คำแก้วกอดและซบในอกของก้องเกียรติคร่ำครวญ สะอื้นไห้ ในขณะที่ก้องเกียรติต้องสะกดกลั้นตั้งจิตให้มั่นคง มือสองข้างปล่อยอยู่ข้างกาย จนคำแก้วถามว่าเกลียดตนหรือ แต่ตนรั...
คำแก้วยังไม่ทันพูดคำนั้นออกมา ก้องเกียรติก็จับร่างเธอออกห่าง เอาผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาให้อย่างอ่อนโยน ยิ้มปลอบ พอเห็นรอยยิ้มของชายหนุ่ม คำแก้วก็ทนไม่ได้ระดมจูบเขาไปทั่วหน้าอย่างไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้
ก้องเกียรติยังคงสะกดกลั้นความรู้สึกของตัวเองไว้ได้ อย่างเข้มแข็ง เขายืนสงบนิ่ง จนคำแก้วรู้สึกตัวพึมพำ "คุณชายใหญ่ แก้วขอโทษ...แก้วไม่ได้ตั้งใจ แก้วไม่ได้ตั้งใจจริงๆ" พลางก็ยกมือไหว้และถอยห่างออกมา
ooooooo
เมื่อคำแก้วเดินกลับมาถึงโถงบันไดชั้น 3 เจอ
อาอึ้มถามว่าหายไปไหนมาเจ้าสัวรออยู่ เธอปดว่าไปเก็บดอกไม้ แต่พออาอึ้มมองแล้วถามว่าไม่เห็นมีดอกไม้
"ไม่มี...ไม่มีดอกไม้สักดอก" คำแก้วตอบเสียงเครือจนอาอึ้มแปลกใจ
ส่วนก้องเกียรติเดินมาแถวต้นพุดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง จะเดินกลับไปตึกเล็กก็เจอเต้ยืนกอดอกอยู่ เต้มองหน้าก้องเกียรติด้วยสายตาที่บอกให้รู้ว่าเห็นทุกอย่างเมื่อครู่นี้หมดแล้ว แต่พูดให้ก้องเกียรติสบายใจว่าตนร้อนเลยออกมาเดินรับลม เห็นสายตาก้องเกียรติที่มองอย่างกังวล เต้บอกว่า
"ใหญ่...ฉันพร้อมที่จะลืม ฉันจะทำเหมือนว่าไม่ได้เห็นอะไรทั้งนั้น"
"เต้...ฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง...ฉันไม่รู้ที่มาของ..."
"แต่นายต้องรู้ที่ไป...ว่านายจะไปต่อไม่ได้"
"นายไม่ต้องย้ำหรอกเต้ ฉันรู้ รู้อยู่เต็มอก นายเชื่อฉันไหมว่าฉันไม่เคยคิดที่จะให้เป็นอะไรมากไปกว่านี้"
"ฉันเชื่อ แล้วฉันก็ไม่เคยคิดที่จะสงสัยอะไรที่เกี่ยวกับตัวนายเลยจริงๆนะใหญ่ ตั้งแต่พวกเราคบกันมา...ฉันไม่เคยคิดที่จะสงสัยอะไรนายเลย เพราะฉันรู้จักนิสัยของนายดี ฉันรู้ว่านายไม่มีวันทำเรื่องอะไรที่มันเสื่อมเสีย และไม่มีวันทำเรื่องที่มันผิดศีลธรรมอย่างเด็ดขาด"
"ขอบใจนายมากเต้...เหมือนอยู่ในสนามรบแฮะ" ก้องเกียรติพูดประโยคหลังขำๆ
"มันไม่เหมือนหรอกใหญ่ เพราะนายไม่ได้อยู่ในสนามรบ แล้วนายก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปรบด้วย"
ก้องเกียรติพยักหน้าให้เต้เนือยๆด้วยสีหน้าเศร้าหมองมาก...
ooooooo
คืนนี้ แม้จะนอนอยู่กับเจ้าสัว แต่หัวใจของคำแก้วนั้นคิดถึงก้องเกียรติ จนเมื่อหลับไปฝันว่าไปคว้าดาวมาได้ดวงหนึ่ง ก็ยังประคองในอุ้งมือเอาไปให้ก้องเกียรติ แต่เขากลับส่ายหน้าแล้วถอยห่าง แม้เธอจะพยายามยื่นให้ เขาก็ถอยจนหายไปจากสายตา
แต่พอหันมา คำแก้วก็ตกใจเมื่อเจอเจ้าสัวยืนจ้องอยู่ เจ้าสัวตรงเข้ากระชากดาวจากมือคำแก้วแล้วเดินลับหายไป คำแก้วตะโกนอย่างตระหนก "ไม่นะ...เอาของแก้วคืนมา..."
ครั้นสะดุ้งตื่น คำแก้วหันมองเจ้าสัวเห็นนอนกรนอยู่ เธอมองไปรอบห้อง รู้ว่าตัวเองฝันไปร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดกับความฝันที่โหดร้ายนั้น...
จนรุ่งเช้า คำแก้วออกไปยืนที่ศาลาท่าน้ำริมคลอง เจอก้องเกียรติเข้ามาทักว่าเช้านี้อากาศเย็น เตือนเธอว่า
"อากาศเย็นๆอย่างนี้เธอไม่ควรจะออกมาเดินเล่นข้างนอก เพราะมันจะทำให้เธอไม่สบาย ฉันอยากให้เธอระวังสุขภาพไว้บ้าง เพราะมันจะเป็นอันตรายกับลูกในท้องของเธอ"
พูดแล้วก้องเกียรติมองหน้าเธอนิ่ง ต่างมองกันอย่างพยายามสะกดเก็บอารมณ์ลึกๆของตัวเอง ครู่หนึ่งเขาก็หันหลังเดินกลับไป คำแก้วน้ำตาคลอ หันวิ่งกลับไปทันที
ooooooo
หลายวันต่อมา คำแก้วไปนั่งมองลงไปในบ่อเก่าอีก สีหน้าเธอเศร้าหมองจนเหมือนร้องไห้ โรสเดินเข้ามาทัก ถามว่าเป็นอะไร พอคำแก้วบอกว่าเปล่า โรสดักคอว่า
"สองสามวังมาเนี่ย อั๊วเห็นลื้ออยู่ตรงนี้ทั้งวัง ลื้อจากาโดดลงไปในบ่อเหรอ" คำแก้วฟังแล้วตกใจถามว่าทำไมพูดอย่างนี้ โรสพูดอย่างท้าทายว่า "จาพูก...ลื้อก็ท้องเลี้ยว แต่ ทำไมทำท่าเหมืองไม่ล่ายท้อง ลื้อท้องจิงรึเปล่าหาอาคำแก้ว"
คำถามนี้ทำให้คำแก้วตกใจ อึ้งแต่พยายามเก็บอาการไม่ให้โรสจับได้
และแล้วคำแก้วก็ยิ่งเครียดหนักเมื่อพบว่าตัวเองมีระดู เธอคิดหนัก หยิบผ้าอนามัยมาจะใช้โยนไปที่เก้าอี้โยกสองชิ้น ครู่หนึ่งหยิบชิ้นหนึ่งเดินเข้าห้องน้ำเพื่อเอาไปใช้
ออกจากห้องน้ำมานั่งที่โซฟาด้วยความรู้สึกสับสนมืดมนกับเรื่องที่ไม่เป็นไปอย่างที่คิด ครู่หนึ่งมีเสียงเคาะประตู คำแก้วนึกว่าเป็นเจ้าสัว รีบเอาตะกร้าผ้าอนามัยไปเก็บในตู้เสื้อผ้าจนไม่เห็นอีกชิ้นหนึ่งที่ตกอยู่ที่โซฟา
กิมลั้งเปิดประตูเข้ามาพร้อมหมอนสามใบบอกว่า เอาหมอนไปตากตามคำสั่งแล้ว พลางเอาสองใบไปไว้ที่เตียงและอีกใบจะไปวางที่เก้าอี้โยก คำแก้วเหลือบเห็นผ้าอนามัยที่เก็บไม่หมดตกใจรีบเรียกกิมลั้งสั่งให้ไปขัดห้องน้ำพลางแย่งหมอนในมือกิมลั้งเอาไปวางที่เก้าอี้โยกทับผ้าอนามัยชิ้นนั้นไว้
กิมลั้งรับไม่ได้กับความเกรี้ยวกราดข่มเหงของคำแก้ว ทั้งคู่เกิดโต้เถียงกันจนกิมลั้งจะออกจากห้อง คำแก้วไม่ยอมให้ออก คำแก้วยกมือจะตบถูกกิมลั้งจับไว้ พอเธอสะบัดอย่างแรงจนหลุดก็เสียหลักเซไปปะทะโต๊ะน้ำชาทรุดฮวบลงไปนั่งกับพื้น
เจ้าสัวมาเห็นพอดีตกใจมากรีบประคองถามว่าเป็นอะไรไหม พอคำแก้วบอกว่าไม่เป็นอะไร เจ้าสัวก็ดุกิมลั้งว่าทำไมคุณนายถึงหกล้ม
กิมลั้งเล่าตามความจริง คำแก้วถามเจ้าสัวว่าทำไมไม่ถามว่าก่อนจะตบกันมีเรื่องอะไร แล้วตะคอกใส่กิมลั้งว่าพูดออกมาให้หมดว่าตัวเองจองหองกับตนยังไง
กิมลั้งรู้ตัวว่าเถียงอย่างไรก็ไม่ชนะคำแก้ว เลยร้องไห้ สะอึกสะอื้นท้าให้คำแก้วเอาให้ตนตายไปเลยจะได้สาสมแก่ใจ
คำแก้วตวาดไล่กิมลั้งจนเจ้าสัวขอร้องว่ากำลังท้องต้องทำใจให้สบายๆ เธอจึงเดินไปกอดอ้อนเจ้าสัว เจ้าสัวถามว่าวันนี้อ้วกกี่ครั้ง คำแก้วหลับตาลงอย่างเบื่อหน่ายกับเรื่องราวที่ตามมามากมาย
ooooooo
กิมลั้งแค้นใจมากไปพบเจ้าสัวในห้องส่วนตัว ขอไม่เป็นคนรับใช้คำแก้วเพราะโดนหาเรื่องทุกวัน อ้อนวอนว่าขืนตนอยู่รับใช้คำแก้วต่อไป สักวันคงถูกไล่ออกจากบ้าน กอดขาเจ้าสัววิงวอนให้ช่วยตนด้วย เพื่อให้เจ้าสัวใจอ่อนกิมลั้งอ้างถึงพ่อแม่ว่า
"นายท่านช่วยหนูด้วยนะคะ อย่างน้อยวิญญาณอาเตียกะอาม้าหนูจะได้หมดห่วงนอนตายตาหลับ อาเตียกับอาม้าหนูฝากหนูไว้กับนายท่านนะคะ หนูเป็นทาสของนายท่านนะคะ"
เจ้าสัวหัวเราะขำๆแตะแก้มกิมลั้งเบาๆถามว่าเป็นทาสแล้วทำอะไรได้บ้าง กิมลั้งตอบทันทีว่าท่านอยากให้ทำอะไรตนทำให้นายท่านได้ทุกอย่าง เจ้าสัวใช้หลังมือไล้แก้มกิมลั้งเบาๆเลื่อนเรื่อยไปจนถึงคอ...บีบไหล่ แต่พอกิมลั้งมองอย่างยอมตามความต้องการของเจ้าสัวทุกอย่าง เจ้าสัวกลับถามว่า แล้วกิมลั้งจะเอาอย่างไร
"หนูไม่อยากรับใช้คุณนายที่สี่ค่ะ นะคะนายท่าน" กิมลั้งอ้อน พอเจ้าสัวบอกว่าแล้วจะคุยกับคุณนายที่สี่ให้ กิมลั้งก็เสนอทันทีว่า "ให้หนูไปรับใช้คุณนายสามแทนนะคะนายท่าน นะคะ...ช่วยหนูด้วย"
"ฮื่อ" เจ้าสัวรับคำสีหน้าเคลิ้มกับการกอดออดอ้อนของกิมลั้ง
พอกิมลั้งออกจากห้องเจ้าสัวเจอผินก็คุยโวโอ้อวดว่าตนจะได้ไปรับใช้คุณนายที่สามแทนคุณนายที่สี่แล้วโดยเจ้าสัวจะเป็นคนพูดกับคุณนายทั้งสองให้ ทำเอาผินอุทานว่า แสดงว่าเจ้าสัวรักกิมลั้งมากเลยนะ กิมลั้งฟังแล้วยิ้มพรายอย่างมีความสุข
ooooooo
เจ้าสัวเตรียมตัวจะออกไปข้างนอก บอกอาจิวให้รอสักครู่ ตนจะไปพูดกับคุณนายสามหน่อยไม่นานหรอก พอดีเห็นอาจูกำลังเดินลงบันไดมาเลยถามว่า "อาจู...คุงนายลื้ออยู่ห้องรึป่าว"
อาจูตกใจรีบขึ้นไปบอกโรสที่กำลังจะออกข้างนอกเหมือนกัน โรสให้อาจูโกหกเจ้าสัวว่าตนไม่อยู่ อาจูหน้าเจื่อนบอกว่าตนบอกไปแล้วว่าอยู่ โรสโกรธมากตบหน้าอาจูเบาๆด่า "อีโง่ ลื้อมังไม่ล่ายหลั่งใจเลย" บ่นๆด่าๆว่ารู้อยู่แล้วว่าตนจะออกข้างนอกยังบอกว่าอยู่อีก ไล่ไปให้พ้นต่อไปไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีก
พอดีมีเสียงเคาะประตูโรสชักสีหน้าไม่พอใจ ตะคอกอาจูให้ไปเปิดประตู พอเจ้าสัวเดินเข้ามาโรสก็เปลี่ยนเป็นยิ้มแย้มฉอเลาะถามว่ามีอะไรหรือ
"อั๊วมีเรื่องจามาพูกกะพวกลื้อสองคง เรื่องที่อั๊วจาพูกลื้อจายอมก็ล่ายไม่ยอมก็ล่าย คืออากิมลั้งน่ะอีมาขออั๊วว่าอยากจะมารับใช้ลื้อ เลี้ยวให้อาจูไปรับใช้อาคำแก้วอีแทง"
อาจูตกใจแทบช็อก แต่โรสวี้ดว้ายร้องเสียงแหลมว่าดีจัง ตนกำลังเบื่ออาจูพอดีเอาไปเลย
ส่วนกิมลั้งเข้าไปคุยกับโรสเรื่องตนจะได้มาเป็นคนรับใช้โรส ถูกโรสไล่ให้ไปเอาคำตอบจากคำแก้วก่อนว่าพอใจหรือเปล่าตนไม่ชอบบังคับใคร กิมลั้งรับคำอย่างมั่นใจเพราะเชื่อว่าเจ้าสัวถือหางตนอยู่
ooooooo
เจ้าสัวกำลังอยู่กับคำแก้ว ลูบคลำท้องคำแก้วพึมพำว่าท้องยังแบน ที่คนพูดกันว่าท้องสาวบางทีตั้งหกเดือนแล้วก็ยังไม่เห็นนั้นท่าจะจริงเพราะตอนนี้ดูเหมือนไม่ได้ท้องเลย
ทันใดนั้นมีเสียงเคาะประตู เจ้าสัวยังไม่ทันตั้งตัวกิมลั้งก็ผลักประตูเข้ามาแล้ว คำแก้วแสดงความไม่พอใจ เจ้าสัวถามว่าใครเรียก กิมลั้งบอกว่าไม่มีใครเรียก แต่ที่นายท่านว่าจะให้ตนเปลี่ยนไปรับใช้คุณนายที่สามนั้น ตอนนี้คุณนายที่สามยอมแล้ว แต่ไม่รู้ว่าคุณนายที่สี่จะว่าอย่างไร
คำแก้วไม่พอใจไล่กิมลั้งให้ออกไปรอหน้าห้องก่อนกิมลั้งออกไปรอหน้าห้องอย่างคับแค้นใจ ทั้งทำหน้าลิงหลอกเจ้าทั้งบ่น แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเสียงคำแก้วดังออกมาจากในห้องว่า
"แกด่าไปเถอะถ้าอยู่ลับหลังฉันน่ะ แต่อย่ามาสะเออะด่าต่อหน้าก็แล้วกัน"
เจ้าสัวติงว่าคำแก้วเป็นคุณนายไปยุ่งกับกิมลั้งทำไม
คำแก้วสวนไปทันทีว่านายยุ่งได้คนเดียวใช่ไหม ทำให้เจ้าสัวโมโหดุว่าคำแก้วซี้ซั้วพูดมากไปแล้ว
เลยขัดใจกันกับเจ้าสัวเมื่อคำแก้วหาว่าเจ้าสัวปิดปากตนไม่ให้พูด เจ้าสัวบอกว่าเธอเป็นเมีย คำแก้วเถียงอีกว่าเมียไม่ใช่คนหรือ เลยถูกเจ้าสัวปรามว่าถึงคำแก้วจะเก่งมาจากไหนแต่อยู่ที่นี่จะเก่งกว่าผัวไม่ได้ ผู้ชายจะมีเมียกี่คนก็ได้ คำแก้วโต้เถียงจนเจ้าสัวโมโห คำแก้วเลยทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อน พูดเสียงอ่อนลงว่า
"เอาอย่างนี้ เป็นอันว่าเป็นนิสัยผู้ชายก็แล้วกันนะคะ จะเป็นชาติไหนก็เถอะชอบมีเมียเยอะๆทั้งนั้น อย่างนาย นายว่าคุณนายใหญ่เนื้อหนังหย่อนยานตัวเหลวเป๋ว งั้นอย่างนี้แก้วก็ว่านายเนื้อหนังหย่อนยานได้เหมือนกันใช่ไหมคะเพราะว่านายแก่กว่าคุณนายใหญ่เสียอีก"
"เช้าฉุ่ย! ลื้อนี่ปากเหม็งจิงๆ"
พอถูกดุถูกด่าคำแก้วก็ยิ้มแย้มพูดเอาใจว่านายแข็งแรงจะตายไม่งั้นจะทำให้ตนท้องได้หรือ คราวนี้เลยทำให้เจ้าสัวอารมณ์ดีจนยิ้มออกมาได้
กิมลั้งยังนั่งหน้าหงิกงอรออยู่หน้าห้องคำแก้ว
พอเจ้าสัวออกจากห้องคำแก้ว กิมลั้งก็ปรี่เข้ามาถามว่าคุณนายที่สี่ว่ายังไงบ้าง เจ้าสัวบอกว่าอียอมให้เปลี่ยนแล้วให้กิมลั้งไปรับใช้คุณนายที่สามได้ กิมลั้งระริกระรี้ไหว้เจ้าสัวแบบจีนแล้วพูดพลางเดินตามเจ้าสัวว่า "หนูนึกแล้วถ้านายสั่งละก็...ใครก็ขัดไม่ได้" เจ้าสัวหัวเราะอารมณ์ดีเดินลงไป
ooooooo
ที่โต๊ะอาหารกลางวันวันนี้ ทุกคนรวมทั้งก้อง-เกียรติและเพื่อนๆ มานั่งโต๊ะกันหมดแล้ว โรสเพิ่งจะมาทำเป็นขอโทษทุกคนที่มาช้า พอมากันครบ เจ้าสัวขอบใจก้องเกียรติและเพื่อนๆ ที่มาแสดงความยินดีที่คำแก้วท้อง แล้วเล่าถึงประเพณีจีนว่าต้องมีลูกเยอะๆ อย่างตนนี่มีเมียสี่คนแต่มีลูกแค่ห้าคนถือว่ายังน้อย ตนอยากมีลูกเยอะๆ
โรสขัดขึ้นว่าพูดอย่างนี้ตนมีลูกคนเดียวก็แย่ซี่ ที่เป็นอย่างนี้ต้องโทษนาย เจ้าสัวฉุนขึ้นมาถามว่าจะโทษตนได้ไงเพราะโรสเองนั่นแหละ เยนหลิงเสริมทันทีว่าเรื่องอย่างนี้ต้องทั้งสองฝ่ายมากกว่า แล้วพูดแขวะๆว่าพวกเราต้องประพฤติตัวดีๆ ทำจิตใจให้บริสุทธิ์ ไม่วอกแวกไปทางโน้นทางนี้ ถ้ามัวแต่เอาใจไปอยู่กับไอ้โน่นไอ้นี่แล้วละก็...
โรสร้อนตัวขัดขึ้นว่าเยนหลิงพูดอะไรไม่รู้เรื่อง เยนหลิงจ้องจิกชี้ว่าเรื่องนี้เกี่ยวกับโรสฉะนั้นโรสต้องฟัง ทั้งสองเริ่มเสียงดังใส่กัน จนเม่งฮวยพูดดังๆว่ารำคาญเต็มทีเถียงกันเหมือนตลาดหนวกหู
เยนหลิงหันไปตำหนิเม่งฮวยที่มาว่าตนเป็นพวกตลาด ทำเชิดบอกว่าตนไม่คุ้นเคยกับพวกนั้น เลยถูกเม่งฮวยถามว่าถ้าไม่คุ้นเคยกับตลาดแล้วรู้ได้ยังไงว่าตลาดใช้กับตัวเองไม่ได้
เยนหลิงทำคอแข็งไม่พูดด้วย ลุกเดินออกจากโต๊ะไปเลย เจ้าสัวเลยชวนทุกคนเจี๊ยะๆ ทุกคนจึงลงมือกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อยหลังจากพวกคุณนายทั้งหลายสาดคำด่าใส่กันจนแสบแก้วหูแล้ว
ooooooo
กินอาหารเสร็จ มีเรื่องปวดหัวอีกจนได้ เมื่อเม่งฮวยรู้ว่าเจ้าสัวเปลี่ยนคนใช้ให้กิมลั้งไปรับใช้โรสและให้อาจูมารับใช้คำแก้ว เพราะถือว่าเรื่องในบ้านต้องเป็นหน้าที่ของตนคนเดียว
เจ้าสัวพยายามขอให้เม่งฮวยใจเย็นๆ เม่งฮวยไม่ยอมหยุดโรสก็โต้เม่งฮวยว่าเรื่องเล็กๆแค่นี้อย่าทำให้ปวดหัวกันเลยเดี๋ยวสมองแตก เจ้าสัวเองก็บ่นอย่างหงุดหงิดว่าพวกผู้หญิงนี่เรื่องมากจริงๆ
สุดท้ายเม่งฮวยสั่งเด็ดขาดว่าตนไม่ยอมให้เปลี่ยนให้กิมลั้งกับอาจูอยู่กันไปตามเดิม คำแก้วถามว่าทำไม เม่งฮวยบอกว่าไม่ทำไม ตนไม่ให้เปลี่ยน ทันใดนั้น โรสก็เสียงแปร๋นขึ้นมาว่า
"ไม่ยอม...อั๊วไม่ยอมนะนาย!"










