สมาชิก

มงกุฎดอกส้ม

ตอนที่ 10

เมื่อคำแก้วไปหาเม่งฮวยที่ศาลาสนามหลังตึกปรากฏว่ากิมลั้งไปยืนกระซิบ กระซาบอะไรอยู่ก่อนแล้ว พอคำแก้วเข้าไปเอ่ยเรียกคุณนายใหญ่เท่านั้น เม่งฮวยก็ถามตัดบทว่าตบกิมลั้งไปสองทีจะเอายังไงอีก

คำแก้วขอให้ คุณนายใหญ่สั่งสอนและลงโทษก็ถูกปฏิเสธ บอกว่าตนอยากเปลี่ยนคนใช้ไม่อยากได้กิมลั้ง คุณนายใหญ่ก็สั่งกิมลั้งให้พาตนไปที่ห้องสั่งอาฮุ้งที่จะเข้ามาประคองว่าไม่ ต้อง

พอลุกขึ้นเดินไปไม่กี่ก้าว คุณนายใหญ่ก็พูดกับกิมลั้งเสียงดังจงใจให้คำแก้วได้ยินว่า

"อา กิมลั้งวังไหนที่ลื้อเบื่ออยากเปี่ยนไปลับใช้คุณนางคงอื่นก็บอกอั๊วนะ อั๊วจาเปี่ยนให้ลื้อทังทีเลย แต่ถ้าคงอื่นอยากเปี่ยนอั๊วไม่ให้เปลี่ยน"

คำแก้วโกรธแค้นใจนักที่นอกจากทำอะไรกิมลั้งไม่ได้แล้วยังถูกเย้ยหยันอีกด้วย

เมื่อ ไปเล่าให้เยนหลิงฟัง เยนหลิงยุว่าอย่ายอมเราต้องมีศักดิ์ศรีของคุณนายที่สี่แห่งตระกูลเชง เมื่อคำแก้วถามว่าตนจะไปสู้คุณนายใหญ่ได้หรือ เยนหลิงยุว่าตัวเธอเองอาจสู้ไม่ได้แต่มีคนที่สู้ได้ นั่นคือคุณชายใหญ่

ก้อง เกียรติไปประชุมกับพรรคพวกในแวดวงการค้าที่ภัตตาคารจีน คำแก้วจึงไปดักรอที่ข้างตึกหวังว่าจะได้รับความช่วยเหลือเรื่องกิมลั้ง อาเง็กมาเห็นเข้าแจ้นกลับไปรายงานเยนหลิง เยนหลิงทำเป็นบ่นว่า ตนเตือนแล้วห้ามแล้วแต่คำแก้วไม่เชื่อ แม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยงไปคุยกันสองต่อสองเรื่อยๆ ที่เกิดเรื่องก็เพราะอย่างนี้ ครั้นอาเง็กขอให้เยนหลิงไปเตือน ก็ถูกตวัดสายตามองอย่างไม่พอใจ พูดเยาะว่า

"ลื้ออยากให้มีใครขวางอี ไว้ลื้อก็ลงไปขวางอีไว้เองสินังเง็ก นังหน้าโง่" พออาเง็กหน้าเจื่อนเยนหลิงพูดอย่างคาดหมายว่า "คุณชายใหญ่อีเป็นคนดี อั๊วมั่นใจว่าคนอย่างคุณชายใหญ่ไม่ทำเรื่องอะไรที่มันผิดศีลธรรมหรอก" ปากพูดสิ่งดีๆแต่แววตาเยนหลิงนั้นเจ้าเล่ห์ล้ำลึกนัก!

ooooooo

คำ แก้วดักจนเจอก้องเกียรติ หลังจากคุยกันแล้วเขาบอกเธอว่า เสียใจจริงๆตนไม่อยากก้าวก่ายเพราะมันเป็นเรื่องของอาม้า พูดแล้วเห็นคำแก้วหน้าเสียเขาปลอบใจว่า

"ฉันเห็นใจคำแก้วมาก ขอให้อดทนนะ" เมื่อคำแก้วเอ่ยปากขอให้ช่วยพูดอีก เขาถอนใจบอกว่าอาม้าก็ไม่ฟังตนเหมือนกัน คำแก้วแย้งว่าคุณนายใหญ่รักเขามาก ก้องเกียรติตัดบทว่า "แต่เรื่องอย่างนี้ฉันพูดไม่ได้"

คำแก้วผิดหวังเสียใจมาก เอามือปาดน้ำตาทิ้งแรงๆ พูดกับก้องเกียรติอย่างมีอารมณ์ว่า อาม้าของเขาใจร้าย ไม่ยุติธรรมกับตน เสียแรง...พูดแค่นั้นแล้วก็นิ่งไปอย่างคับแค้นใจ เมื่อก้องเกียรติถามว่าเสียแรงอะไร เธอจึงบอกว่า "เสียแรงที่แก้ว

ตั้งใจทำดีด้วย แล้วแก้วจะจำไว้ว่าคุณชายใหญ่ไม่ช่วยแก้วคุณชายใหญ่เป็นที่พึ่งสุดท้ายที่แก้วมี แต่คุณชายใหญ่ก็ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือแก้ว" พูดแล้วหันหลังจะเดินเข้าตึก

"คำแก้ว" ก้องเกียรติเรียกไว้ เธอหันมา เขาเห็นน้ำตาเธอพรั่งพรูออกมา เขาขยับเข้าใกล้อย่างลืมตัวเอื้อมมือจะเช็ดน้ำตาให้ แต่ก็ต้องชะงัก บอกเธอว่า "คำแก้ว รู้ไว้นะว่าฉันอยากให้เธอมีความสุขเสมอ"

คำแก้วสะบัดมือเขาออกแล้ววิ่งกลับเข้าตัวตึกไปทันที ก้องเกียรติยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่งจึงขับรถกลับไปที่ตึกเล็ก พอขึ้นไปเจอเรืองยศยังนอนพิงพนักเตียงรอเขาอยู่ เรืองยศสีหน้าไม่ดีนักถามว่าทำไมกลับช้าจัง

ก้องเกียรติบอกว่าไปคุยกับอาเฮียอากู๋เขาก็น่าจะรู้ว่าไม่ใช่จะกลับได้ง่าย บอกเรืองยศให้นอนก่อนตนจะตรวจงานอีกสักครู่ เพราะพรุ่งนี้จะต้องเอาไปเข้าที่ประชุมแต่เช้า

เรืองยศไม่พูดอะไร แต่มองก้องเกียรติอย่างไม่พอใจแกมงอนๆ

จนกระทั่งเช้า เรืองยศทักก้องเกียรติว่าไม่ได้นอนทั้งคืนเลยใช่ไหม มีอะไรนักหนาถึงได้เป็นขนาดนี้ ก้องเกียรติตัดบทว่าตนจะไปกินข้าวให้ตามไปเร็วๆเดี๋ยวจะสาย

"เมื่อคืนฉันเห็นนายไปยืนชมวิวที่ระเบียงตั้งชั่วโมงสองชั่วโมง" เรืองยศโพล่งออกไป พอก้องเกียรติดักคอว่าไม่หลับหรือถึงได้รู้ เรืองยศไม่ตอบ แต่กลับเตือนด้วยน้ำเสียงจริงจังตึงเครียดว่า "ก้องเกียรติ ฉันเตือนนายจริงๆนะ อย่าทำผิดศีลธรรมกับเมียของพ่อตัวเอง"

ก้องเกียรติกระแทกกระเป๋าเอกสารอย่างแรงหันจ้องหน้าเรืองยศ พอเรืองยศเห็นสายตาเขาก็หลบมองไปทางอื่น แต่ก้องเกียรติก็ยังมองหน้าเรืองยศอย่างไม่พอใจอยู่อย่างนั้น

ooooooo

ที่ตึกหลังเล็กอันเป็นที่อยู่ของลูกๆเจ้าสัว เช้านี้เด็กๆทั้งยี่ฮุยหรือกองแก้ว ยี่หรงหรือกรรณิการ์ และตี๋เล็ก นั่งกินอาหารเช้ากันอยู่ โดยมีพี่เลี้ยงสองคนคอยดูแล

เด็กๆมักทะเลาะกันบ่อยๆ เช้านี้ที่โต๊ะอาหารก็มีแกล้ง กันจนกระทั่งทะเลาะกัน อาฮุ้งที่มาดูแลอยู่ห้ามก็ไม่ฟัง ซ้ำตี๋เล็กยังเงื้อช้อนจะขว้างใส่อาฮุ้งด้วย

"ตี๋เล็ก" ก้องเกียรติมาเห็นเข้าเรียกปราม ตี๋เล็กเลยเงื้อช้อนค้างกลางอากาศ ก้องเกียรติเข้าไปถามไถ่และสั่งสอนน้องๆให้สามัคคีกัน แม้เด็กๆจะนิ่งฟังด้วยความเกรงพี่ชายใหญ่ แต่ก็ใช่ว่าจะสำนึก

ระหว่างที่ก้องเกียรติอยู่กับน้องๆนั้น รถของเขาจอดอยู่หน้าตึกเล็ก คำแก้วลงจากบันไดตึกใหญ่เหลือบมองเห็น เธอนึกน้อยใจเจ้าของรถขึ้นมาตงิดๆ

ครู่หนึ่งเรืองยศแต่งตัวเสร็จลงมาที่โต๊ะอาหาร เขาเข้าไปหาก้องเกียรติมองลึกเข้าไปในดวงตาของเพื่อนรักแล้วบอกเสียงเรียบเย็นว่า

"ก้องเกียรติ แม่เลี้ยงสาวของนายยืนอยู่ที่หน้าตึกใหญ่ โน่นแน่ะยืนคอยใครก็ไม่รู้" บอกก้องเกียรติแล้วเรืองยศก็นั่งลงกินข้าวทำไม่รู้ไม่ชี้ ในขณะที่ก้องเกียรติอึ้งไปครู่หนึ่ง

ooooooo

กินอาหารเช้าเสร็จออกมาที่รถ ก้องเกียรติมองไปเห็นคำแก้วยืนอยู่ พอดีรถของเจ้าสัวแล่นเข้ามาจอดเพื่อรอรับเจ้าสัวออกไปข้างนอก คำแก้วจึงเดินอ้อมท้ายรถแต่ตาไม่วายมองไปทางตึกเล็ก

ก้องเกียรติทำท่าจะเดินไปหาคำแก้วถูกเรืองยศจับแขนบีบอย่างเตือนสติเขาจึงตัดใจ แต่แล้วก็ทำใจไม่ได้เมื่อเห็นสีหน้าคำแก้วที่เศร้าสร้อยมาก จึงเดินไปหาเธอที่หน้าตึกใหญ่

เขาบอกคำแก้วว่าจะไปทำงานเย็นนี้จะรีบกลับมาเราจะได้คุยกันต่อ คำแก้วตอบอย่างน้อยใจว่าตนไม่มีอะไรจะคุย

"แต่ฉันมี...มีมากด้วย เพราะว่าฉันเป็นห่วงเธอนะคำแก้ว"

คำแก้วพูดประชดว่าจะห่วงตนเรื่องอะไรตนมีความสุขจะตาย จะมีก็แค่เรื่องของคนใช้มารบกวนจิตใจนิดหน่อยเท่านั้น บอกเขาว่า

"ถ้าจะให้แก้วคุย แก้วก็จะคุยว่า ต่อไปนี้จะมีคนที่ไม่มีวันจะได้มีความสุขอีกต่อไป มันก็คืออีนังกิมลั้ง คุณชายใหญ่คอยดูแล้วกันว่าแก้วจะทำยังไงกับมัน"

ก้องเกียรติฟังแล้วไม่สบายใจถามว่าไม่ได้หมายความอย่างที่เธอพูดใช่ไหม คำแก้วไม่เพียงยืนยันว่าหมายความว่าอย่างนั้นเท่านั้น ทั้งยังสาบานด้วยว่าจะทำอย่างที่พูดด้วย

เจ้าสัวลงมาพอดีถามว่าคุยอะไรกัน ก้องเกียรติตอบด้วยสีหน้าปกติว่าตนจะไปหาอาม้า พบคำแก้วเลยถามไถ่ทุกข์สุขกันธรรมดา บอกเจ้าสัวว่าคำแก้วไม่สบายใจเรื่องกิมลั้ง

เท่านั้นเองเจ้าสัวโวยวายขึ้นมาว่าเรื่องไม่เป็นเรื่องจบไปแล้วก็ไม่จบเสียที แล้วสั่งคำแก้วให้ออกไป ไปดูตนรำมวยที่บ้านเถ้าแก่หยง ส่วนก้องเกียรติ เจ้าสัวสั่งว่า

"อาใหญ่ ลื้อขึ้นไปหาอาม้า ไปลาเฉยๆไม่ต้องพูดอาไลให้อาม้าอีกุ้มใจอีก เข้าใจไหม จบเสียที ไปอาคำแก้ว"

พูดแล้วเจ้าสัวพาคำแก้วไปขึ้นรถ ส่วนก้องเกียรติยืนอึ้งอยู่ตรงนั้น

ooooooo

คืนนี้  โรสแต่งตัวสวยจะออกข้างนอกอีก  อาจูทั้งเป็นห่วงและกลุ้มใจเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็ร้องไห้ โรสกอดปลอบอาจูว่า รู้แล้วว่าอาจูรักตน ถอนใจเบาๆแล้วคว้ากระเป๋าออกไปอย่างเริงร่า

โรสไม่ได้ไปที่โรงงิ้ว หากแต่ไปที่ห้องพักของหมอทรงชัย ทั้งคู่สัมพันธ์ลึกซึ้งกันมากขึ้นทุกที หลังจากมีความสุขอย่างลืมโลกกันไปแล้ว ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีก็ทำให้โรสนอนน้ำตาไหล ทรงชัยเช็ดน้ำตาให้โรสอย่างอ่อนโยน

และรุ่งเช้า โรสก็ร้องเพลงงิ้วและร่ายรำอย่างเริงร่าสดใสที่บริเวณรกร้างแถวบ่อเก่า

เมื่อกลับมาที่ตึกเห็นคำแก้วนั่งเศร้าอยู่ระเบียงตึก โรสเข้าไปเรียกใกล้ๆจนคำแก้วตกใจ โรสพูดอย่างเดาใจว่าตนรู้เรื่องกิมลั้งแล้ว เลิกคิดเสียเถิดเพราะยังมีเวลาจัดการกับมันอีกเยอะ แล้วชวนคำแก้วไปหาสิ่งเบิกบานสำราญใจกันดีกว่า

โรสพาคำแก้วไปแถวร้านขายผ้าที่พาหุรัด เลือกซื้อผ้าของตัวเองและเผื่อคำแก้วด้วย จากนั้นพาไปภัตตาคารจีนกินอาหารเหลากันอย่างเอร็ดอร่อย อิ่มแล้วไปช็อปปิ้งกันต่อ พาไปร้านขายเครื่องประดับและนาฬิกา ยุให้คำแก้วซื้อโน่นซื้อนี่

และเมื่อพากันกลับถึงบ้าน โรสก็ตรงไปโทรศัพท์ถึงทรงชัย ไม่นานนักทรงชัยก็หิ้วกระเป๋าหมอขึ้นไปที่ห้องโรส ที่นั่นอาจิวมานั่งรออยู่แล้ว ส่วนคำแก้วโรสก็ไปฉุดมาจากห้องพามาเล่นไพ่เพื่อให้ครบขา แม้คำแก้วจะไม่อยากเล่นแต่ทนการรบเร้าและฉุดลากของโรสไม่ได้ ในที่สุดก็เข้าไปในวงไพ่

ooooooo

คำแก้วเล่นอยู่พักใหญ่บังเอิญทำไพ่ตกจึงก้มลงเก็บ เห็นขาของทรงชัยกับโรสรีบแยกจากกัน คำแก้วตกใจรีบปรับสีหน้าขึ้นมาเล่นไพ่ต่อ

แต่เล่นได้ไม่นานคำแก้วก็ขอเลิกอ้างว่ารู้สึกไม่สบาย โรสโกรธเป็นฟืนเป็นไฟสั่งไม่ให้เลิก คำแก้วทนไม่ได้ลุกเดินออกมา โรสตามมาอาละวาดขู่ว่าถ้าเลิกตนโกรธจริงๆด้วย

"โรส แก้วจะไม่เล่นไพ่กับโรสอีกต่อไป" คำแก้วตัดสินใจบอก พอโรสถามว่าทำไม เธอบอกว่า "โรสรู้อยู่แล้วนี่"

โรสโกรธจัดกระชากผ้าพันคอของคำแก้วโยนลงพื้นแล้วเหยียบขยี้กระทืบอย่างโกรธจัด ด่าคำแก้วว่าอย่ามาอวดดี อย่ามาสอดรู้สอดเห็นเรื่องของตน ถ้าตนจับได้ว่าคำแก้วเอาเรื่องของตนไปพูดให้ใครฟังจะตบไม่เลี้ยง ไม่เกรงใจใครทั้งนั้น

กลายเป็นปมแตกหักระหว่างโรสกับคำแก้ว โรสเผยความรู้สึกลึกๆของตนที่เห็นคำแก้วเป็นคู่แข่ง มองเธอเป็นศัตรูที่คอยแทงข้างหลังตนตลอดมา กระทั่งคิดว่าคำแก้วคิดจะโค่นตน ท้าว่า

"ลื้ออย่าฝันว่าจะโค่นคนอย่างอั๊วล่าย เก่งนักก็ลองลู จะได้รู้ดีรู้ชั่วซะที"

ด่าๆๆแล้วโรสก็กระแทกเท้าขึ้นไปที่ระเบียงชั้น 2 เยนหลิงที่กำลังมองคำแก้วอยู่รีบหมุนตัวกลับเข้าห้อง อึดใจเดียวก็เปิดประตูห้องออกมายืนดักโรส พอโรสขึ้นมาถึงก็ออกไปยืนขวาง โรสตวาดให้หลีกไป เยนหลิงด่าว่า

"เดินขึ้นบันไดเสียงดังโครมครามไม่รู้จักเกรงใจนายบ้างเลย ทั้งๆที่นายพักผ่อนอยู่ที่ชั้นล่างแท้ๆ"

โรสกำลังเลือดขึ้นหน้าตวาดเยนหลิงให้หลีกไปไม่ใช่เรื่องของตัวเอง เยนหลิงตั้งใจมามีเรื่องอยู่แล้ว ตำหนิโรสว่าควรรักษาหน้าของคนในตระกูลเชงไว้บ้าง ไม่ใช่เอากิริยานางงิ้วมาใช้ในชีวิตจริง

ระหว่างนั้น อาเง็กโผล่หน้าจากห้องเยนหลิงมาดูเหตุการณ์ อาจูโผล่จากห้องโรสที่ชั้น 3 มาดู และกิมลั้งตัวแสบที่เดินมาจากชั้นบนก็มาหยุดยืนดูเหตุการณ์อีกคน

โรสเห็นกิมลั้งก็เรียกให้มาช่วยไล่เยนหลิงให้หลีกทาง ยุให้กิมลั้งผลักเยนหลิงให้ตกกระไดไปเลย แต่กิมลั้งไม่กล้าเมื่อถูกเยนหลิงขู่ว่าถ้าทำก็เตรียมขนของออกจากบ้านนี้ไปได้เลย

ครู่หนึ่งเม่งฮวยเปิดประตูออกจากห้องมาตะโกนถามว่ามีเรื่องอะไรกันเอ็ดตะโรลั่นไปหมด แต่ก็ยังหยุดโรสกับเยนหลิงไม่ได้ จนกระทั่งเจ้าสัวออกมายืนตรงเชิงบันไดชั้นล่างแหงนมองร้องถาม

"เสียงดังใครทะเลาะกันวะ"

ทุกคนจึงหยุดนิ่ง เสียงทะเลาะก็เงียบลงไป

ooooooo

ขณะที่ในตึกใหญ่กำลังคุกรุ่นนั้น คำแก้วหลบไป นั่งเศร้าที่ศาลาท่าน้ำ ในมือถือผ้าพันคอที่ถูกโรสเหยียบย่ำ คำแก้วนั่งทอดสายตาไปที่สายน้ำเบื้องหน้า สีหน้าแววตา หม่นหมองเหมือนจมอยู่ในความทุกข์

ส่วนที่ตึกใหญ่ ในห้องรับแขก เจ้าสัวเรียกคู่กรณีทั้งหมดมาชำระความกันโดยเจ้าสัวนั่งเป็นประธานอยู่ภายในห้อง สามเมียกับสามคนใช้และกิมลั้งยืนอยู่ในห้องด้วย

พอเปิดฉาก เยนหลิงกับโรสก็แย่งกันฟ้อง เจ้าสัวสั่งให้หยุดแล้วให้เยนหลิงเล่าก่อน

เยนหลิงเล่าว่าเห็นโรสกระชากผ้าพันคอของคำแก้วไปเหยียบขยี้กระทืบอย่างหยาบคาย ถ้าใครมาเห็นคุณนายที่สาม ของตระกูลเชงยืนกระทืบของอยู่ นายจะเอาหน้าไปไว้ ที่ไหน

"ก็ไว้บงคอนี่แหละจาให้ไว้ที่หนาย" เจ้าสัวพึมพำอย่างรำคาญเต็มที

เยนหลิงยังสาธยายความหยาบคายของโรสว่าถ้าใครรู้คนที่ร่วมใช้ผัวเดียวกันกับโรสก็จะอายไปด้วย เม่งฮวยนั่งฟังอยู่เงียบๆจนสุดท้ายทนไม่ได้ลุกพรวดขึ้นพูดเสียงดัง

"ลำคางจะตายอยู่เลี้ยว!"

โรสลุกพรวดขึ้นบ้าง ด่าเยนหลิงแล้วขอเอาเหงื่อผู้ดีมาทาตัวหน่อยเผื่อจะได้เป็นผู้ดีกับเขามั่ง ไม่พูดเปล่ายังลุกไปเผชิญหน้าเยนหลิง ต่างจ้องกันอย่างไม่มีใครหลบตาใคร สุดท้ายเยนหลิงไล่โรสว่าอย่ามายุ่งกับตน ไปให้พ้น โรสยิ่งได้ใจพรวดเข้าไปข้างหลังเยนหลิงร้อง "ขอทีเถอะวะ"

เยนหลิงหันขวับเงื้อมือจะตบ พริบตานั้นเองฉากตบตีกันก็วุ่นวายขึ้นตรงหน้าเจ้าสัวนั่นเอง

เม่งฮวยหันไปร้องเรียกเจ้าสัวให้ไปจัดการให้สองคนหยุดกัดกันเสียที  เจ้าสัวยังคงนั่งเฉย เม่งฮวยร้องเรียกอีก  คราวนี้เลยถูกเจ้าสัวตวาดเสียเอง ไล่ไปให้พ้นไม่ต้องมาสั่ง

เม่งฮวยตกใจเสียใจน้ำตาไหลพรากแล้วลุกเดินออกไปจากห้อง อาฮุ้งรีบตามไป จากนั้นอาเง็ก อาจู และกิมลั้งต่างก็พากันค่อยๆหายไปทีละคน...ทีละคน

ส่วนเยนหลิงกับโรสตกใจเสียงตวาดของเจ้าสัวต่างชะงักมอง เจ้าสัวลุกยืนช้าๆสั่งเข้ม

"เอาซี่ ตีกันให้ตายไปข้างนึงเลย หยุดทำไมล่ะ" โรสกับเยนหลิงต่างยืนจ๋อย เจ้าสัวด่าต่อ "อาเหม่เกว่ลื้อน่ะมันเสียงดัง ดื้อด้าน เกเรไม่เป็นผู้ลีอย่างที่อาเยนหลิงอีว่าทุกอย่าง"

เยนหลิงมองเย้ยโรสที่ถูกเจ้าสัวด่า ส่วนโรสก็ร้องเสียงสูงอย่างไม่พอใจ

"โอ้ย! อั๊วไม่เห็นอยากจะเป็นเลยผู้ลีน่ะ อั๊วไม่เป็งผู้ลีอั๊วก็เป็งเมียล่าย"

"ลื้อมันก็เป็นซะอย่างนี้ ไม่พอใจอะไรก็เอาแต่ส่งเสียงร้องโหวกเหวกโวยวายน่าเบื่อ"

"เบื่อ...นายเบื่ออั๊วเหรอ" โรสเสียงสั่นทำหน้าจะร้องไห้เมื่อถูกเจ้าสัวพูดว่าเบื่อตน

ooooooo

ที่ศาลาท่าน้ำริมคลอง คำแก้วยังนั่งอยู่ที่นั่น อาอึ้มตามไปคุยด้วยถามว่ามีเรื่องอะไรกัน คำแก้วเล่าว่าตนมีเรื่องกับคุณนายที่สาม ถามอาอึ้มว่าคุณนายที่สามมีนิสัยยังไงกันแน่

"อาคุงนายสามอีเป็นคงเจ้าอารมณ์ ถ้าอีไม่พอใจอาไล ไม่พอใจใคร อีก็จาล้องโวยวายเสียงลังลั่นบ้าน หรือถ้าเกิดวังไหนอีอารมณ์ลีขึ้นมา อีก็จาล้องเพลงงิ้วเสียงลั่นบ้านอีกเหมือนกัน เพราะอีเคยเป็งนางลาคองเก่า ในชีวิตจิงอีก็เลยเล่งลาคองอยู่ตาหลอดเวลา"

"แล้วคุณนายที่สองล่ะอาอึ้ม" คำแก้วถามต่อ รู้จากอาอึ้มว่าคุณนายที่สองเป็นหลานของท่านทูตเป็นผู้ดี คำแก้วบอกว่านายเคยเล่าให้ฟังเหมือนกันถามว่าพวกทูตนี่เป็นผู้ดีกันทุกคนเลยหรือ อาอึ้มนิ่งไปอย่างไม่แน่ใจเหมือนกัน

ครู่หนึ่งอาอึ้มชวนคำแก้วกลับตึกดีกว่าเพราะมาอยู่ตรงนี้ นานแล้ว  แต่คำแก้วก็ยังสงสัยถามอีกว่าทำไมคุณนายที่สองถึงพูดไทยชัดมาก เธอไม่ใช่คนจีนใช่ไหม

อาอึ้มบอกว่าเยนหลิงอยู่เมืองไทยตั้งแต่เด็กๆ อาเตียของเธอเป็นทูตใหญ่โตอยู่เมืองไทยเพราะอยู่เมืองไทยนานเลยพูดไทยชัด

ooooooo

ขณะนั้นเอง คนสวนมาบอกเยนหลิงที่หน้าตึกว่ามีคนมาขอพบคอยอยู่หน้าประตู เยนหลิงใจร้อนผ่าวเพราะรู้ว่าคนที่มาพบเป็นใคร

ที่แท้คืออาโกวพี่สาวแท้ๆ ของพ่อเยนหลิงนั่นเอง อาโกวคนนี้เป็นคนพาเยนหลิงไปจากครอบครัวที่บางลำภูตอนที่เธออายุเพียง 5 ขวบเพื่อไปอยู่กับตนที่เป็นแม่บ้านของทูตสิงคโปร์ ประจำประเทศไทย

อาโกวมาเพื่อขอเงิน เยนหลิงตึงเครียดมากต่อว่าอาโกว ว่าไปเล่นไพ่เล่นหวยเสียหมดใช่ไหมถึงได้มาขอเงินตนอีก ครั้นอาโกวขอความเห็นใจ ก็ถูกเยนหลิงตวาดเบาๆว่าต่อไปอย่าพูดอย่างนี้อีก ถ้ายังพูดอีกต่อไปก็ไม่ต้องมาเหยียบที่นี่ เธอปรามอาโกวเพราะไม่ต้องการให้ใครรู้กำพืดของตัวเอง

คุยกับอาโกวอย่างลับๆล่อๆแล้วเยนหลิงรีบจ้ำอ้าวกลับมาเพื่อเอาเงินให้อาโกวจะได้ไปให้พ้นๆเสีย อารามรีบทำให้เธอลืมมาดผู้ดีไปหมด จ้ำเป็นม้าดีดกะโหลกเข้ามา พอนึกได้ก็ทำท่ากรีดกรายเหมือนเดิม รีบหาเงินห่ออย่างดีเอาแอบๆไว้แล้วรีบออกจากห้องไปอย่างเร็ว

แต่พอเดินลงมาถึงที่พักบันไดล่างจะเลี้ยวลงบันไดก็ต้องชะงักเมื่อเห็นคำแก้วเดินคุยมากับอาอึ้ม คำแก้วตั้งอกตั้งใจฟังอาอึ้มที่ก้มหน้าก้มตาเดินพลางก็เล่าเรื่องที่คำแก้วถาม

อาอึ้มบอกคำแก้วว่าคนที่เป็นทูตต้องพูดให้คนดีกัน รักกันไม่ใช่พูดให้คนทะเลาะกันโกรธกัน พวกทูตถึงได้ยิ้มอยู่ตลอดเวลา ยกตัวอย่างเช่นคุณนายที่สองเป็นคนที่พูดยิ้มแย้มตลอดจนเราไม่รู้ใจว่าคิดอะไรอยู่ อาอึ้มย้ำว่า "คงอย่างนี้บางทีเลาก็ต้องลาวังตัว"

แต่พออาอึ้มพูดเสร็จเงยหน้าขึ้นก็แทบช็อกเมื่อเห็นเยนหลิงยืนฟังอยู่

ทั้งอาอึ้มและคำแก้วต่างตกใจมาก เยนหลิงมองทั้งสองอย่างไม่พอใจ พูดประชดคำแก้วว่า

"อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง อั๊วสงสัยอยู่ว่าทำไมเดี๋ยวนี้คำแก้วถึงเก่งนัก" พูดแล้วเดินเชิดไปทางหน้าตึกเลย

ทั้งคำแก้วและอาอึ้มแทบอยากจะกลั้นใจตายตรงนั้น คำแก้วถามอาอึ้มว่าเราจะทำยังไงดี อาอึ้มได้แต่คร่ำครวญว่า "อาอึ้มซี้แหง ซี้แหงๆคาวนี้"

ooooooo

เยนหลิงเอาเงินไปให้อาโกว สั่งอาโกวเบาๆแต่ ขึงขังว่าให้เอาเงินนี่ไปใช้ให้เป็นประโยชน์ ถ้าอาโกว เอาเงินไปเล่นการพนันตนขอแช่งให้เสียจนหมดตัว แล้วถ้ามาขออีกก็จะไม่ได้แม้แต่แดงเดียว

อาโกวรีบรับคำแล้วถามว่าจะไม่ไปเยี่ยมอาเตี่ยบ้างหรือเพราะอาเตี่ยไม่ค่อยสบาย เยนหลิงขึงตาใส่ไม่ให้อาโกวพูด บอกอาโกวว่าเงินที่ให้ไปก็มากพอที่จะไปรักษาอาเตี่ยแล้ว อย่าหาว่าตนใจดำเลยเพราะตนไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว

"อาโกวกลับไปได้แล้ว แล้วต่อไปถ้าเดือดร้อนจริงๆและไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับการพนันอาโกวมาเอาเงินอีกได้ แต่ต้องโทรศัพท์มาบอกก่อน แล้วอั๊วจะเอาเงินออกมาให้ แล้วอาโกวต้องรออยู่นอกบ้านเท่านั้น ห้ามเข้าไปข้างใน"

อาโกวมองเยนหลิงเห็นใส่ทองเต็มตัวก็คิดว่าคงอยู่สุขสบายดี เยนหลิงตัดบทว่าตนจะเข้าบ้านแล้ว อาโกวก็ยังอุตส่าห์ถามให้อารมณ์เสียอีกว่า

"เอ่อ! อาหลิงท่างเจ้าสัวอีลู้ไหมว่าลื้อน่ะที่แท้เป็งคนไทยไม่ใช่คนจีน"

"หยุดนะ! โง่หรือฉลาดเนี่ย" เยนหลิงตวาดอย่างฉุนเฉียวจนอาโกวตกใจรีบหลบตาก้มหน้านิ่ง ส่วนเยนหลิงก็รีบเดินกลับเข้าบ้าน อาโกวมองตามพึมพำด้วยสายตาขุ่นมัว

"ลืมตัว...คงอย่างนี้ไม่จาเลิงหรอก"

ooooooo

เยนหลิงเดินกลับมายังเจออาอึ้มกับคำแก้วตกใจอยู่ที่โถงบันไดชั้นล่าง อาอึ้มจะไปครัวก็พอดีเยนหลิงมาเรียกไว้ บอกอาอึ้มว่าตนจะบอกนายว่าอาอึ้มนินทาลับหลัง อาอึ้มใจเสียรีบขอโทษ เยนหลิงชมว่าดี แต่ตนจะบอกนายทุกอย่าง และจะบอกด้วยว่าอาอึ้มขอโทษแล้วไม่ต้องห่วง

อาอึ้มอ้อนวอนอย่างไรก็ไม่ได้ผล คำแก้วช่วยพูดอีกคนเลยถูกเยนหลิงคาดโทษว่าตัวเองก็ยังมีความผิดอยู่ที่ตัดหูตนคำแก้วสาบานว่าตนไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

"ลื้อจะสาบานที่ไหนยังไงอั๊วก็ไม่เชื่อ ก่อนที่ลื้อจะหนีบกรรไกรลง ลื้อก็ต้องเห็นแล้วสิว่ามันอยู่กับหูของอั๊ว" เยนหลิงพูดเสียจนคำแก้วพูดไม่ออก จากนั้นเดินเร็วๆขึ้นบันไดไป

คำแก้ววิ่งตามขึ้นไปขอร้องอีก แต่เยนหลิงวิ่งขึ้นไปเข้าห้องตัวเองปิดประตูปังเสียแล้ว คำแก้วตามไปร้องไห้อยู่หน้า ประตูขอร้องให้ฟังตนก่อน สุดท้ายก็ต้องเดินคอตกลงบันไดไป

อาอึ้มเป็นห่วงคำแก้ว ส่วนตัวเองนั้นไม่เป็นไรเพราะเป็นคนใช้โดนดุด่าจนชินแล้ว

"เอาเถอะอาอึ้ม แก้วจะหาวิธีพูดกับคุณนายที่สองเอง" คำแก้วปลอบใจ อาอึ้มขอบใจแล้วจะเดินไปทางครัว นึกได้หันมาบอกคำแก้วด้วยสีหน้าเป็นห่วงว่า

"อาคุงนายอย่าไปนั่งเล่นที่บ่อน้ำอีกเลี้ยวกังนะ"

คำแก้วรับรู้ถึงความหมายที่อาอึ้มเตือน พออาอึ้มไปคำแก้วก็วิ่งขึ้นบันไดไปอย่างเร็ว พอเข้าห้องก็ออกไปที่ระเบียงชะเง้อมองไปที่บ่อเก่า ครู่หนึ่งก็หมุนตัวหันหลังยืนพิงระเบียงด้วยสีหน้าที่หวาดหวั่น

ooooooo

นับวัน เจ้าสัวก็เหนื่อยใจกับเรื่องราววุ่นวายของคุณนายทั้งสี่ เหนื่อยกายกับวัยที่โรยราแม้แต่โคมแดงที่เคยใช้ประจำก็เริ่มว่างเว้นห่างหายไป

วันนี้ก่อนไปเจียะเต๊กับสหายที่เยาวราช เจ้าสัวก็เอาห่อยาให้อาจิวไปให้เจ็กหลีจัดการให้ มันคือโสมคนที่มีสรรพคุณบำรุงทุกอย่าง สั่งอาจิวว่าต้มแล้วให้อาอึ้มเอาไปให้เม่งฮวยด้วย ไม่รู้ป่านนี้หายโกรธตนหรือยัง

เมื่ออาจิวต้มเสร็จก็ให้อาอึ้มเอาไปให้เม่งฮวย อาอึ้มบอกเม่งฮวยว่าเจ้าสัวให้คุณนายใหญ่เจี๊ยะคนเดียวไม่ได้ให้คนอื่นเลย ทำเอาเม่งฮวยน้ำตารื้นด้วยความตื้นตัน

เม่งฮวยถามถึงก้องเกียรติว่ามาหรือยัง เดี๋ยวตนจะไปหาอาตั่วตี๋หน่อยแล้วลุกเดินไปโดยมีอาฮุ้งเดินตามไปด้วย

เจ้าสัวเจียะเต๊กับสหายเก่ากลับมาเจอเม่งฮวยพอดีถามว่าจะไปไหน เม่งฮวยบอกว่าจะไปดูอาตั่วตี๋หน่อย เจ้าสัวบอกว่าอย่าไปเลยกลับห้องเถอะ พลางแตะแขนเบาๆ เม่งฮวยตื่นเต้นตื้นตันใจจนลืมอาตั่วตี๋ไปเลย เดินเคียงคู่กับเจ้าสัวกลับห้องนอนโดยมีอาฮุ้งรีบไปเป”ดประตูคอยอย่างรู้งาน

แต่พอถึงประตูเจ้าสัวส่งเม่งฮวยแล้วทำท่าจะกลับ เม่งฮวยมองอย่างผิดหวังขอร้องเจ้าสัวให้อยู่กับตนสักคืนจนเจ้าสัวใจอ่อนยอมเดินเข้าไปในห้อง เม่งฮวยส่งสายตาให้อาฮุ้ง

อย่างรู้กัน อาฮุ้งรีบลงบันไดไปเคาะประตูเรียกป้าพุ่ม

ป้าพุ่มกับเป้าถามอย่างไม่อยากเชื่อว่าสามทุ่มแล้วนะ อาฮุ้งยืนยัน ป้าพุ่มจึงถือโคมแดงไปแขวนหน้าห้องเม่งฮวยและเป้าก็ถืออ่างกับผ้าขนหนูเตรียมเข้าไปนวดเท้าให้เม่งฮวยตามหน้าที่

อาฮุ้งเตรียมชุดนอนให้เจ้าสัวไปอาบน้ำ ส่วนเป้านวดเท้าให้เม่งฮวยเสร็จก็ออกไปพร้อมป้าพุ่ม เม่งฮวยนั่งอิงที่เก้าอี้โยกคอยเจ้าสัว กว่าเจ้าสัวจะออกจากห้องน้ำเม่งฮวยก็หลับไปแล้ว เมื่อเจ้าสัวมาแตะไหล่เบาๆ เม่งฮวยสะดุ้งตื่นลุกขึ้นโค้งนอบน้อมแบบหญิงจีนโบราณแล้วพากันไปที่เตียง

เม่งฮวยนวดให้เจ้าสัว เจ้าสัวพูดอย่างอ่อนโยนว่าเม่งฮวยก็เหนื่อยเหมือนกันไม่ใช่หรือ

"ฮ่อๆ งั้นเฮียนอนนะ นอนให้ซาบาย" เม่งฮวยบอกด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนห่วงใย เจ้าสัวพยักหน้า ยกมือลูบผมเม่งฮวยเบาๆ มองอย่างสงสาร เม่งฮวยได้รับสัมผัสอบอุ่นนั้นถึงกับน้ำตาล้นทะลักออกมา เจ้าสัวปลอบว่าไม่ต้องร้อง นิ่งเสีย นอน...นอน...

เม่งฮวยยิ้มทั้งน้ำตาแล้วล้มตัวลงนอน เจ้าสัวห่มผ้าให้

แล้วดับไฟหัวเตียง นอนลงอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่เม่งฮวยยังไม่หลับลืมตามองเจ้าสัวแล้วยิ้มทั้งน้ำตาด้วยความตื้นตันใจ...

ooooooo

เยนหลิงยังไม่หลับแต่ไม่ได้เป”ดไฟ เธอนั่งครุ่นคิดถึงเรื่องที่อาโกวบอกว่าพ่อไม่สบายอย่างไม่สบายใจ

นั่งซึมอยู่ในความมืดภายในห้อง

กิมลั้งสาระแนไม่มีสิ้นสุด แม้จะดึกแล้วแต่ยังกระดี๊

กระด๊าไปเคาะประตูห้องโรสบอกข่าวเรื่องโคมแดงไปแขวนอยู่ห้องเม่งฮวยหมายจะให้โรสไม่พอใจ แต่กลับทำให้โรสยิ้มอย่างพอใจกับข่าวนี้

จนรุ่งเช้าเยนหลิงเป”ดประตูออกมาอย่างระโหยโรยแรงเพราะไม่ได้นอนทั้งคืน แต่พอเห็นโคมแดงแขวนอยู่หน้าห้องเม่งฮวยเท่านั้นก็ชะงักอึ้งตัวชา แววตาที่ซึมเศร้ากลายเป“นวาววามด้วยแรงริษยาทันที

เยนหลิงจะไปดูลูกๆที่ตึกเล็ก แต่พอเห็นคำแก้วเดินวนเวียนอยู่ที่สนามหน้าตึกก็ชะงักหลบไปแอบดูอย่างจับผิด เห็นคำแก้วมองไปที่ตึกเล็ก ถอนใจแล้วก้มหน้ามองที่พื้นสนาม เยนหลิงมองอย่างสงสัยว่าคำแก้วมาคอยใคร

จนครู่หนึ่งก้องเกียรติออกจากห้องนอนมาที่ระเบียงเห็นคำแก้วที่สนามหน้าตึกใหญ่ คำแก้วมองมาพอดีต่างมองกันนิ่ง ฉับพลันนั้นก้องเกียรติหันหลังกลับเดินลิ่วไปที่สนามหน้าตึกใหญ่ทิ้งให้เรืองยศนอนหลับอยู่ในห้อง แต่พอออกจากตึกเล็ก ก้องเกียรติก็ทำทีว่าเดินสบายๆแบบมาเดินเล่น แต่ใจร้อนผ่าวอยากไปหาคำแก้วเร็วๆ เช่นเดียวกัน คำแก้วเห็นก้องเกียรติเดินมาก็ทำทีหันหลังเดินเข้าตึกใหญ่ทั้งที่ใจเต้นแรงรอคอยการมาทักทายจากชายหนุ่ม

ต่างฝ่ายต่างมีมาดของตัวเอง ทำเหมือนไม่สนใจกันทั้งที่หัวใจโลดแล่นหากันอย่างร้อนรุ่มอยู่ภายใน

ooooooo

เยนหลิงออกจากที่ซ่อนมายืนขวางคำแก้วมองคำแก้วด้วยสีหน้าเรียบเฉย คำแก้วถามว่าจะไปไหน มาเดินเล่นหรือ ก็ได้รับคำตอบสั้นๆห้วนๆว่า "เปล่า"

"คุณพี่คะ เมื่อวานเรื่องที่อาอึ้มพูด แก้วต้องขอโทษแทนอาอึ้มด้วย อาอึ้มแกก็พูดเตือนแก้วไปตามประสาคนแก่ แกก็พูดเตือนโน่นเตือนนี่ไปเรื่อยๆ แต่แก้วก็ไม่เคยเลิกนับถือเลิกเคารพคุณพี่เลยนะคะ เพราะคุณพี่เป“นคนนึงที่ดีกับแก้วมาตลอด เป“นคนที่ยิ้มให้แก้ว และไม่เคยว่าอะไรแก้วเลย"

คำแก้วพยายามญาติดีด้วยแต่เยนหลิงเมินไปทางอื่นยืนฟังเฉย จนคำแก้วคุกเข่าพนมมือเงยหน้ามองเยนหลิง พลางเอ่ย

"คุณพี่คะ ให้แก้วก้มลงกราบขอโทษคุณพี่ก็ได้ แต่แก้วขอให้คุณพี่อย่าโกรธอย่าเกลียดแก้วเลยนะคะ"

เยนหลิงมองนิ่งอย่างรอให้คำแก้วกราบ คำแก้วจึงก้มกราบแทบเท้า พอดีก้องเกียรติมาเห็น เยนหลิงรู้แล้วว่าก้องเกียรติเห็น แต่เธอกลับทำเป“นมองไม่เห็นเขา ปั้นหน้าประหนึ่งนักบุญ ย่อตัวลงพูดกับคำแก้วอย่างอ่อนโยนว่า

"อะไรกันคำแก้ว ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้หรอก เร็วลุกขึ้น...

ลุกขึ้น" ครั้นคำแก้วถามว่าหายโกรธตนแล้วจริงๆหรือ เยนหลิงรีบตอบ "หายแล้ว ลุกขึ้นมาเถอะ อย่าทำอีกแล้วกัน นี่เพราะว่าพี่รักแก้วหรอกนะถึงได้เตือน" พูดเสร็จก็ทำเป“นเพิ่งเห็นก้องเกียรติ ร้องทัก "อ้าว...คุณชายใหญ่"

ก้องเกียรติค้อมศีรษะอย่างนอบน้อมถามว่าคุณนายที่สองกำลังสนทนาอยู่หรือ ต้องขอโทษด้วยที่เข้ามาขัดจังหวะ เขายิ้มให้เยนหลิงแล้วทักคำแก้วว่าสบายดีหรือ คำแก้วตอบเบาๆ ว่าสบายดี แต่ทั้งหมดนี้ถูกเยนหลิงจ้องอย่างจับผิดตลอดเวลา

ก้องเกียรติรู้ดีว่าถูกเยนหลิงจ้องจับผิดอยู่ จึงเอ่ยขอตัวไปหาอาม้า บอกเยนหลิงว่าแล้วเดี๋ยวจะมาทานมื้อเช้าด้วย พูดเสร็จก็หันเดินขึ้นบันไดไปชั้นบนทันที

ทั้งคำแก้วและเยนหลิงมองตามก้องเกียรติไป แล้วเยนหลิงก็พูดลองเชิงว่า

"คุณชายใหญ่เธอเป“นคนดีมาก อายุก็ปาเข้าไปสามสิบแล้วแต่ยังไม่ยอมคิดที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนสักที" คำแก้วได้แต่ยิ้มๆอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี เยนหลิงพูดต่ออารมณ์ดีว่า "นี่ถ้าพี่ยังสาวๆนะคงจะต้องตกหลุมรักคุณชายใหญ่เป“นแน่"

คำแก้วได้ยินเยนหลิงพูดประโยคสุดท้ายก็สีหน้าผิดปกติขึ้นมาทันที

ooooooo

มงกุฎดอกส้ม

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด