ตอนที่ 1
งานวิวาห์ที่จัดขึ้นบริเวณสนามหญ้าริมแม่น้ำอย่างสวยงาม ประดับประดาด้วยซุ้มดอกไม้สำหรับถ่ายรูปคู่กับบ่าวสาว และภาพบ่าวสาว นลกับรมณี แขกเหรื่อทยอยกันมา ในขณะที่ญาติผู้ใหญ่ฝ่ายชาย กนกวรรณ นิยา และยายชื่นชะเง้อมองด้วยท่าทางร้อนใจเพราะคู่บ่าวสาวหายไป
ริมน้ำ ห่างจากบริเวณงาน นลกับรมณีในชุดเจ้าบ่าวเจ้าสาวยืนมองตากันด้วยความซึมเศร้า รมณีขอเลิกกับนล โดยไม่บอกสาเหตุ นลพยายามถามว่าโกรธอะไรเขาและขอร้องอย่าทิ้งเขาไป แต่รมณีไม่ตอบหันหลังเดินจากเขาไป เขาตะโกนถามตามหลังว่ายังรักเขาอยู่บ้างไหม แต่ก็ไม่มีคำตอบ นลถึงกับทรุดลงอย่างคนหัวใจสลาย
แขกในงานเริ่มระส่ำซุบซิบกันที่บ่าว สาวหายไป ศักดิ์ชัยเพื่อนของนลซึ่งเป็นพิธีกร พยายามพูดคุยถ่วงเวลาเบนความสนใจ พลันเห็นนลเดินเข้ามา ศักดิ์ชัยรีบพูดใส่ไมโครโฟน
"เอาล่ะครับ ผมมองเห็นพระเอกของงานแล้ว ถ้างั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ขอเชิญผู้มีเกียรติทุกท่านพบกับเจ้าบ่าว คุณนล รัศมิมาน"
กนก วรรณ นิยา และยายชื่นโล่งใจช่วยกันปรบมือ นลซดเหล้าจากถาดของบริกรพรวดๆ ก่อนจะเดินขึ้นเวทีเพื่อประกาศ ยกเลิกงานแต่งงานในคืนนี้ ท่ามกลางความตกตะลึงของทุกคน... แขกเหรื่อพากันกลับ นลนั่งดื่มเหล้าอยู่บนพื้นเวที ศักดิ์ชัยกอดคอ ปลอบใจเพื่อน
"ฉันไม่เข้าใจเลยว่ะชัย ทำไมณีถึงทิ้งฉันไปโดยไม่บอกเหตุผลอะไรสักคำ ทำไมเค้าถึงทำกับฉันแบบนี้" นลเริ่มสะอื้น
"ฉัน ก็ไม่เข้าใจ ยัยณีเปลี่ยนไปอย่างงี้ได้ไง เราสามคนก็เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัย ที่ผ่านมาจะดีจะร้ายเราก็พูดกัน ไม่เคยปิดบังกัน"
"ใช่...ฉันเคยคิดว่าฉันรู้จักณีดี แต่ตอนนี้...ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นไอ้โง่คนนึง"
ศักดิ์ ชัยตบไหล่เบาๆปลอบนลอย่างเห็นอกเห็นใจ... แต่ไม่มีใครรู้ ในคืนนั้นศักดิ์ชัยไปหารมณีที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ ทั้งสองเก็บของหนีไปอยู่ด้วยกัน...
ooooooo
สามเดือนต่อ มา...เรืองริน สาวสวยในชุดราตรีหรูเริด ยืนมองตัวเองในกระจกห้องแต่งตัวของโรงแรม แล้วเริ่มปลดชุดหรูออก เช็ดเครื่องสำอางบนใบหน้าออก ยีผมที่เซตมาอย่างดีให้กระเซิง แล้วเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวเป็นแบบเสื้อยืดกางเกงปอนๆ ยืนยิ้มอย่างพอใจกับกระจก
ห้องแถลงข่าวการหาทุนก่อตั้งกองทุน สวัสดิภาพเพื่อคนรับใช้ มีสื่อมวลชนและช่างภาพคอยฟังมากมาย นิยาประคองยายชื่นมานั่งบนโซฟาซึ่งจัดไว้สำหรับประธาน...ผู้ที่ได้รับเชิญมา อธิบายรายละเอียดของการก่อตั้งกองทุนนี้คือ... เรืองริน นิยาได้ยินชื่อแล้วสะดุดหู พอเห็Sนตัวบนโต๊ะแถลงข่าวก็ดีใจ "ยัยริน...ยัยรินจริงๆด้วย"
"รู้จักสาวใช้คนนี้ด้วยเหรอ?" ยายชื่นถามอย่างแปลกใจ
"สาวใช้อะไรคะคุณยาย ยัยรินเนี่ยจบปริญญาตรีด้านจิตวิทยามา สมัยก่อนซี้กันมาก แต่ยัยรินไปเรียนที่เชียงใหม่ก็เลยไม่ค่อยได้เจอกัน"
ยาย ชื่นฟังเรืองรินพูดถึงการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือสาวใช้อย่างชื่นชม และให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างเห็นด้วยและจะสนับสนุนกองทุนนี้ นิยารีบไปทักทายเรืองรินและพามาแนะนำกับยายชื่น
"เก่งนะจ๊ะ คนที่จบทางด้านนี้มาน่าจะเข้าใจเรื่องอารมณ์ เรื่องพฤติกรรมของมนุษย์ได้อย่างลึกซึ้งเลยSทีเดียว" ยายชื่น ชมเรืองรินต่อหน้า
เรืองรินถ่อมตนว่าเธอพอมีความรู้อยู่บ้างเท่านั้น นิยารีบยืนยันกับยายชื่นว่าเธอได้ยินว่าเรืองรินไปทำงานเป็นอาสาฯดูแลผู้ ป่วยทางสุขภาพจิตมาเป็นปี แถมจบเกียรตินิยมอันดับหนึ่งของคณะด้วย ยายชื่นยิ่งพอใจคิดจะให้เรืองรินช่วยอะไรบางอย่าง จึงชวนไปทานข้าวด้วยกัน
ระหว่าง ทานอาหาร ยายชื่นก็เริ่มเรื่อง "หนูจะขัดข้องมั้ย ถ้ายายจะทาบทามว่าจ้างหนูไปช่วยดูแลคนคนนึงที่บ้านยาย คือตั้งแต่เค้าเจอเรื่องเสียใจ ก็เอาแต่เมาหยำเป งานการไม่ทำ"
S
"อ๋อ...คุณ ยายหมายถึงพี่นล พี่ชายฉันเอง แกยังไม่เคยเจอหรอก แต่คุณยายขา อย่างพี่นลเนี่ยนะคะจะยอมให้นักจิตวิทยาเข้าไปปรับพฤติกรรม เดี๋ยวก็ได้เจอเหวี่ยงกระเจิงออกมา"
"ยายรู้...ก็นี่ไง ยายถึงสนใจจะว่าจ้างหนูริน เพราะยายกำลังคิดว่า ถ้าหนูรินจะเข้าไปปรับพฤติกรรมตานล โดยปลอมตัวเป็นคนใช้ล่ะ"
เรือง รินกับนิยาตาเหลือก สักพักก็หัวเราะออกมาเพราะคิดว่ายายชื่นล้อเล่น แต่ยายชื่นกลับมีสีหน้าจริงจังและให้เรืองรินเรียกร้องค่าจ้างมา เรืองรินตั้งตัวไม่ทันรีบปฏิเสธและขอตัวลากลับ แต่ยายชื่นยังมีความหวังว่าเรืองรินจะกลับมา เพราะเธอถูกชะตากับเรืองรินอย่างมาก...
แต่มีเหตุให้ชีวิตเรืองริน ต้องพลิกผัน เพราะร้านซักรีดของเรืองยศ พี่ชายคนเดียวของเธอ ถูกเกสรผู้จัดการร้าน โกงเงินแถมโยกย้ายลูกค้าไปร้านที่เปิดใหม่อย่างหน้าด้านๆ เรืองยศโกรธและเสียใจมากถึงขนาดจะไปทำร้ายเกสร เรืองรินกลับมาทันเข้าห้ามและให้สติพี่ชาย ว่าเธอจะช่วยดูแลร้านเอง ให้เขาไปขอยืมเงินพ่อแม่มาปรับปรุงร้าน แต่กลับแย่ลงกว่าเดิมเมื่อได้รับรู้ว่าร้านซักรีดของพ่อกับแม่ที่
ระยอง กำลังจะถูกยึดเพราะไม่มีลูกค้า เนื่องจากมีร้านใหญ่มาเปิดแข่ง เรืองรินทนเห็นความล้มเหลวของทุกคนในครอบครัวไม่ได้ จึงตัดสินใจกลับไปหายายชื่น
เรืองรินนัดนิยาให้พายายชื่นมาพบที่ร้าน อาหารของคิตตี้ เรืองรินเริ่มเรื่อง "คือว่าหนู...มีความจำเป็นต้องหาเงินใช้หนี้ให้ที่บ้านภายในสามเดือนนี้ หนูก็เลยอยากจะถามว่า ที่คุณยายอยากจะจ้างหนูให้ดูแลคุณนลเนี่ย คุณยายยังไม่เปลี่ยนใจใช่ไหมคะ"
"ไม่เปลี่ยนจ้ะ งั้นตกลงเลยนะ หนูรับปากยายแล้วนะ"
นิ ยาเตือนให้ตกลงเรื่องค่าจ้างกันก่อน ยายชื่นไม่สนใจยินดีจะใช้หนี้ที่บ้านเรืองรินให้ และให้เธอทำงานนี้เป็นเวลาสามเดือน แต่พอเรืองรินบอกจำนวนเงินที่เป็นหนี้ถึงสี่ล้านบาท ยายชื่นถึงกับสำลักน้ำอ้าปากค้าง เรืองรินเริ่มผิดหวังเพราะรู้ว่ามันมากเกินไป
"เปล่า...เปล่า ฉันไม่ได้ว่าอะไร สี่ล้านก็สี่ล้าน ยังไงก็คุ้มถ้าทำให้ตานลกลับมาดูแลกิจการห้างดราก้อน มอลล์ให้ดีเหมือนเดิม แค่สี่ล้านนี่ถือว่าจิ๊บๆ"
นิยาแสดงความยินดีกับเพื่อน และพาเรืองรินมาที่บ้านทันที แถมบอกคุณสมบัติของนลว่าทั้งหล่อ หน้าใส ใจดี และเป็นคนไนซ์ไม่มีพิษมีภัยกับใคร...แต่พอเรืองรินเคาะประตูห้องนลเห็นว่าเงียบไม่มีเสียงตอบ จึงถือวิสาสะเปิดประตูเข้าไปในห้องค่อนข้างสลัว เรืองรินถือถาดเหยือกน้ำกับแก้วเข้าไปอย่างใจตุ๊มๆต้อมๆ นลนั่งอยู่บนเก้าอี้อาร์มแชร์อย่างซังกะตาย พอได้ยินเสียงคนเข้ามาจึงหมุนตัวมามอง เรืองรินเห็นใบหน้านลเต็มไปด้วยหนวดเครารกครึ้ม เสื้อผ้ายับเยินโทรมๆเหมือนคนติดเกาะมาเป็นปี ผิดกับที่ได้ฟังมา บนโต๊ะมีแต่ขวดเหล้าที่ล้มเกลื่อนกลาด
"เนี่ยนะ หล่อ...ใส...สวัสดีค่ะคุณนล ชื่อรินค่ะ รินเป็นคนใช้คนใหม่ที่คุณยายชื่นรับมา"
"ฉันถามเธอเหรอ..." นลสวนด้วยน้ำเสียงไม่เป็นมิตร ผิดกับที่นิยาบอกว่านลใจดี
เรืองรินวางถาดน้ำแล้วไปเปิดม่านให้ห้องสว่างขึ้น นลโกรธมากตวาดเสียงดังและปัดเหยือกน้ำบนโต๊ะตกกระจาย เรืองรินตกใจรีบปิดม่านแล้วทำใจเย็น ถามนลว่ามื้อกลางวันจะทานอะไร กลับถูกนลไล่แถมขว้างปาข้าวของใส่วิ่งหนีออกมาแทบไม่ทัน...เรืองรินมือไม้สั่นด้วยความกลัว เดินจ้ำพรวดๆจะออกจากบ้านไม่เหลียวหลัง ยายชื่นกับนิยารีบตามมาพูดปลอบใจให้ใจเย็นๆค่อยๆพูดจากัน ไม่ทันไรกนกวรรณกลับมาเดินเข้ามาถาม
"มีอะไรเหรอ แล้วนั่นใครน่ะ?"
ยายชื่นสะดุ้งบอกลูกสาวว่า "สาวใช้คนใหม่น่ะ ฉันเป็นคนพามาเอง"
"อ้าว...เหรอแม่ ชื่ออะไรล่ะแก ไม่คิดจะไหว้ฉันหน่อยเลยเหรอ"
นิยาแอบสะกิดเรืองรินให้ยกมือไหว้ กนกวรรณหมั่นไส้ ยายชื่นกระซิบนิยาให้พาเรืองรินออกไปตั้งหลักที่ร้านของคิตตี้ ก่อน อย่าให้หนีไปไหน...พอเคลียร์กับลูกสาวเสร็จ ยายชื่นจึงตามไปคุยกับเรืองริน เธอเสนอโอนเงินให้หนึ่งล้านบาทก่อน เพื่อให้เรืองรินทำตามภารกิจที่เธอจะมอบให้ "ต่อไปนี้ยายจะมอบภารกิจให้หนูรินเอง เริ่มต้นจากภารกิจแรกก็คือ...ทำให้ ตานลยอมกินข้าวกินปลาให้ครบ 3 มื้อกับเค้าซะที..."
ในครัว ป้าบัวซึ่งเป็นแม่บ้านจัดแจงเตรียมอาหารใส่ถาดให้อ่อนยกไปให้นลที่ห้อง อ่อนขยาดไม่อยากไปเพราะรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น เรืองรินจึงอาสายกไปให้เอง ทั้งสองมองหน้ากันดีใจ เรืองรินจับถ้วยแกงเห็นว่าเย็นจึงคิดจะอุ่นให้ร้อน ทั้งป้าบัวและอ่อนปรามพร้อมกัน เรืองรินแปลกใจ อ่อนรีบบอกว่า "อย่าเสิร์ฟแกงจืดร้อนๆเป็นอันขาด"
เรืองรินยกถาดอาหารไปอย่างงงๆ ป้าบัวกับอ่อนมองตามหลังเรืองรินอย่างเป็นห่วงว่าจะรอดไหม เรืองรินยกถาด
มาถึงหน้าห้องของนล สูดลมหายใจเข้าลึกๆพูดเตือนสติตัวเอง
"ใจเย็นๆ ตามหลักจิตวิทยา การโน้มน้าวจิตใจเราควรจะเริ่มด้วยการสร้างความรู้สึกว่าเรารักเค้า เราเป็นพวกเดียวกับเค้า...เรารักเค้า...เราเป็นพวกเดียวกับเค้า...เรารักเค้า..."
แต่พอแง้มประตูเข้าไป เห็นนลนั่งคอตกอยู่ที่เก้าอี้ตัวเดิมหนวดเครายังรุงรัง เรืองรินฝืนฉีกยิ้มคุยกับนลว่าอาหารกลางวันฝีมือป้าบัวหอมน่าทาน นลพูดสวนเบาๆให้ยกออกไป เรืองรินย้อนถามว่าอะไรนะ เท่านั้น นลก็ตวาดเสียงดัง "ยกออกไป ฉันไม่กิน..."
เรืองรินทำใจดีสู้เสือเตือนให้ทานอะไรรองท้องบ้าง นลจึงสั่งให้ไปเอาเหล้ากับกับแกล้มมาให้ เรืองรินรีบสาธยายว่าร่างกายคนเราต้องการอาหารที่มีประโยชน์ไม่อย่างนั้นจะไม่มีแรง เรืองรินทำท่าจะป้อน นลฉุนตวาดกลับ "ทำไมต้อง
ให้เธอป้อน เห็นฉันเป็นเด็กปัญญาอ่อนรึไง เป็นแค่คนใช้ หน้าที่ก็คือทำตามที่ฉันบอก ไม่ต้องมาเสนอแนะ น่ารำคาญ"
เรืองรินกัดฟันฝืนยิ้ม "เอางี้ ทานซักสองสามคำก็ยังดี ไม่งั้นโรคกระเพาะจะถามหานะคะ ดูสิแกงจืดนี่น้ำซุปหอมน่าทานมากๆเลย"
"น่าทานมากใช่มั้ย งั้นเธอเอาไป แกงจืดถ้วยนี้...ฉันยกให้" ขาดคำ นลก็คว้าถ้วยแกงเทราดหัวเรืองริน...
ป้าบัวกับอ่อนอ้าปากค้างเมื่อเห็นสภาพเรืองรินยกถาดสำรับกลับมา เรืองรินเข้าใจแล้วว่าทำไมถึงไม่ให้อุ่นแกงร้อนๆ แต่เธอยังไม่ยอมแพ้ บอกให้ป้าบัวเตรียมอาหารอีกชุด เอาร้อนๆ ควันฉุยๆ เธอไปล้างตัวแล้วจะกลับมายกไปให้นลอีกครั้ง... คราวนี้เรืองรินแกล้งนลด้วยการยกสำรับมานั่งทานยั่ว จนท้องนลร้องเสียงดังออกมาถึงสองครั้ง นลทนไม่ไหวสั่งเรืองรินไปจัดอาหารมาอีกสำรับให้เขา แต่เรืองรินแกล้งบอกให้เขาไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร เธอทำความสะอาดห้องแล้วจะยกไปเสิร์ฟ นลขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอย่างหงุดหงิด แต่ก็ต้องทำตาม
ระหว่างนั้น ยายชื่นกับกนกวรรณเดินคุยกันมาเรื่องที่กนกวรรณไม่อยากให้เรืองรินอยู่ในบ้านต่อไป แต่ยายชื่นหวังจะให้เรืองรินเปลี่ยนแปลงนลให้ได้ ทันใด กนกวรรณต้องตะลึง
"ม...แม่ดูนั่นสิคะ" กนกวรรณชี้ให้ยายชื่นดูนลนั่งทานอาหารอย่างเอร็ดอร่อยที่โต๊ะอาหาร
"สงสัยงานนี้คงไม่ต้องลำบากหาคนใช้ใหม่ให้แล้วล่ะ ยัยรินนี่ดูแล้วมีแววรุ่งเลยทีเดียว"
ยายชื่นยิ้มอย่างภูมิใจ ดึงกนกวรรณหลบไม่ให้นลเห็น
ooooooo
ในคืนนั้นอ่อนหาผ้าเช็ดตัวให้เรืองรินไปอาบน้ำ เรืองรินพันผ้าเช็ดตัวกระโจมอกเดินหาห้องน้ำไปตามทางเดินซึ่งไฟค่อนข้างสลัว บ่นว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน พลันมีเสียงตอบว่า
"ตรงไปแล้วเลี้ยวซ้าย"
"อืม...โอเค ซ้ายนี่ใช่มะ...ว้าย!..." เรืองรินหันขวับไปมอง เห็นนลนั่งมองตนอยู่ "คุณนล! คุณนั่งอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่คะเนี่ย"
"ก็นั่งอยู่นานพอที่จะเห็นว่าเธอนี่ก็หุ่นดีเหมือนกันนะ" นลใช้สายตามองเรือนร่างเรืองริน
เรืองรินนึกได้รีบเอามือปิดเนินอก อีกมือปิดขาอ่อน นลหัวเราะ "นี่ๆจะมาปิดอะไรป่านนี้ไม่ทันแล้วละ ฉันเห็นหมดแล้ว"
เรืองรินโกรธขยับปากจะด่าแต่แล้วนึกได้ว่าตัวเองอยู่ในฐานะคนรับใช้จึงหยุด นลไม่วายพูดยั่วว่าเธอเดินเหมือนบ้านเขาเป็นแคตวอล์ก เรืองรินโกรธ "ใครโชว์ ใครยั่วคุณนลเหรอคะ รินแค่จะเดินไปอาบน้ำ แต่ก็เข้าใจค่ะ คนบางคนจิตใจหมกมุ่นก็เลยคิดแต่เรื่องพรรค์นั้น"
"อู้ว...มีย้อนด้วยแฮะ ไม่เบานี่เรา"
"เบาไม่เบา แม่ก็อุ้มไม่ไหวแล้วน่ะค่ะ"
"หึ...ยอกย้อนจริงนะ ก็ได้ ไหนๆเธอก็ว่าฉันเป็นพวกหมกมุ่นคิดแต่เรื่องพรรค์นั้น ถ้างั้นฉันก็จะเป็นคนแบบที่เธอพูดแล้วกัน" นลลุกเดินเข้าหาเรืองริน
เรืองรินตกใจถอยกรูดร้องถามว่าเขาจะทำอะไร นลตอบว่าเขาแค่อยากจะรู้ว่าถ้าดึงผ้าขนหนูออกเธอจะเป็นอย่างไร เรืองรินตาเหลือกร้องลั่นเผ่นหนีกลับห้อง นลมองตามหัวเราะสะใจ...กลับมาห้องต้องตกใจอีกครั้งเมื่อเจอนายเป็ดนุ่งกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวอยู่ในห้อง เรืองรินร้องกรี๊ดปาข้าวของใส่ ป้าบัวโผล่เข้ามาเอ็ดแล้วบอกว่าเป็ดเป็นคนขับรถในบ้าน แถมเป็นกะเทย
วันรุ่งขึ้น เรืองรินแอบย่องออกจากบ้านแต่เช้า นิยาเห็นจึงพาออกไปเอง ทั้งสองไปเก็บเสื้อผ้าที่ห้องเรืองริน แต่แล้ว... นิยาเห็นว่าเสื้อผ้าเรืองรินมีแต่แบรนด์เนมไม่เหมาะที่คนรับใช้ จะใส่ จึงพากันไปซื้อเสื้อผ้าถูกๆธรรมดาๆ ระหว่างที่เลือก นิยาเหลือบไปเห็นหนุ่มหล่อตรงสเปกยืนยิ้มมองมา จึงรีบสะกิดบอกเรืองริน แต่แล้วต้องสลดเมื่อชายคนนั้นคือดนุ แฟนของเรืองริน
ดนุนัดเรืองรินดินเนอร์ เขาจะไปรับทุ่มตรงที่คอนโดฯ เรืองรินหนักใจเพราะต้องหลบหนีออกมา...ในวันนั้น คงเดชหรือที่ใครๆเรียกว่าอาจารย์คงกับลูกสาวชื่อกิ่งกานต์ มาหา
กนกวรรณที่บ้าน อาจารย์คงหวังจีบกนกวรรณและกิ่งกานต์จ้องจะจับนล โดยให้พ่อทำนายดวงกนกวรรณว่าควรได้เธอเป็นลูกสะใภ้ ระหว่างที่อาจารย์คงตรวจลายมือกนกวรรณ กิ่งกานต์ ก็จัดข้าวเหนียวมะม่วงไปให้นลบนห้อง และยั่วยวนเขาสารพัด เผอิญเรืองรินเข้ามา นลดันกิ่งกานต์ออกอย่างเก้อเขิน กิ่งกานต์ ไม่พอใจที่โดนขัดจังหวะจึงด่าทอเรืองริน นลตัดบทให้เรืองรินเอาจานข้าวเหนียวมะม่วงออกไปแบ่งกันทาน กิ่งกานต์เสียดายยื้อแย่งจนพลาดโปะหน้าตัวเอง นลตกใจให้เรืองรินขอโทษ แต่เธอไม่ผิดจึงเฉยเมย ร้อนถึงกนกวรรณไม่พอใจจะไล่เรืองรินออก
ยายชื่นหน้าเครียดเข้ามาประกาศว่าเรืองรินเป็นคนของเธอ ไม่มีใครมีสิทธิ์มาไล่ทั้งนั้น ทุกคนหน้าม้าน สร้างความ ไม่พอใจให้กนกวรรณมากขึ้น...ยายชื่นตามมาที่ห้องเรืองรินเพื่อตำหนิ "อย่าลืมว่าเราตกลงกันไว้ยังไง เธอต้องอยู่ในฐานะคนใช้ ครั้งนี้ฉันยกโทษให้ แต่ถ้ามีครั้งต่อไป ฉันจะยกเลิกสัญญา เธอก็อย่ามาว่าฉันใจร้ายแล้วกัน"
เรืองรินสำนึกผิด ยายชื่นจึงมอบหมายภารกิจต่อไปให้ "...ทำให้ตานลโกนหนวดเคราทิ้ง"
"ได้ค่ะ...เย้ย! แล้วหนูจะไปทำได้ยังไงล่ะคะคุณยายขา มันหน้าเขานะคะ"
"ไม่รู้ละ เป็นหน้าที่ของหนู อีกไม่กี่วันจะมีการประชุมผู้ถือหุ้นของห้าง ยายอยากเห็นตานลกลับมาเป็นผู้เป็นคน และเข้าประชุมในวันนั้น ยายฝากด้วยนะ"
เรืองรินจำต้องรับปากทั้งที่หนักใจสุดๆ...คืนนั้น เรืองรินจัดชุดนอนมาให้นลซึ่งสวมเสื้อคลุมรออยู่ นลถอดเสื้อคลุมโดยไม่สนใจว่าเธออยู่ในห้อง เรืองรินรีบเอามือปิดตา
"เอ่อ...บอกให้รินหันหลังก่อนก็ได้นะคะ"
นลเห็นสายตาเรืองรินลอดช่องนิ้วจึงแกล้งว่า "อยากมองก็มอง ไม่ต้องทำโรคจิตถ้ำมอง"
"รินไม่ได้อยากมองขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่ก็คิดว่าคุณนล น่าจะดูดีดูหล่อกว่านี้ ถ้าโกนหนวดโกนเคราทิ้งซะน่ะค่ะ"
"หนวดเคราฉันมันก็ขึ้นอยู่บนหน้าฉัน เธอยุ่งอะไรฉันไปไว้บนหน้าผากเธอหรือไง"
เรืองรินสะอึกคิดสักพักก่อนจะเสนอว่าเธอจะโกนให้ นลตวาดกลับไม่ต้องมาเสนอ เรืองรินหุบปากนิ่ง นลใช้ให้เธอนวดหลังให้เขา เธอนวดได้สักพักเห็นนาฬิกาเป็นเวลาหนึ่งทุ่มก็นึกได้ว่ามีนัดรีบหาทางชิ่งหนีจากนล "เอ่อ...คือรินติดไว้ก่อนได้มั้ยคะ เดี๋ยวพรุ่งนี้มาชดเชยให้"
"เธอจะบ้าเหรอ ฉันเมื่อยวันนี้ แต่เธอจะยกยอดไปนวดพรุ่งนี้เนี่ยนะ"
เรืองรินแกล้งบอกว่าเธอท้องเสียขอไปเข้าห้องน้ำแล้วจะกลับมานวดใหม่ เธอรับรองจะล้างมือให้สะอาด นลสะอิด สะเอียนจึงไล่ให้เธอรีบไปพ้นๆ เรืองรินรีบหลบออกจากบ้านนั่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างซิ่งกลับคอนโดฯ...พบดนุมานั่งรออยู่ก่อนแล้ว ดนุแปลกใจเสื้อผ้าที่เรืองรินใส่ เรืองรินแก้ตัวว่าไปช่วยเพื่อนย้ายบ้านจึงแต่งตัวง่ายๆ
เรืองรินรีบอาบน้ำแต่งตัวสวยหรู ดนุชมไม่ขาดปากเรืองรินเขิน "เลิกปากหวานกับรินได้แล้ว คุณชมรินอย่างนี้มาตั้งแต่วันแรกจนวันนี้ครบห้าปีแล้วนะคะ"
"นี่คุณยังจำได้...ว่าวันนี้เป็นวันครบรอบของเรา" ดนุยิ้มปลื้ม
"จำได้สิคะ รินรู้ว่าคืนนี้เป็นนัดสำคัญก็เลยแต่งตัวนานนิดนึง"
ดนุยิ้มอย่างมีความสุขพาเรืองรินไปขึ้นรถขับพาไปร้านอาหารหรูที่จองไว้ หลังทานอาหารเสร็จ ดนุก็พูดเรื่องสำคัญ "เวลาห้าปีที่เราคบกัน ความสัมพันธ์ของเราไม่ได้พัฒนาก้าวหน้าไปสักนิด บางครั้งรินก็เอาแต่สนใจงาน ไม่ค่อยมีเวลาให้ผม ผมว่าจะพูดคำนี้มานานแล้วก็เพิ่งมีโอกาสวันนี้...ผม...ผมอยากจะบอกรินว่า...เราเลิกกันเถอะ"
เหมือนฟ้าฟาดลงกลางใจ เรืองรินหน้าซีดช็อก ดนุพูดอีกว่า "เราเลิกเป็นแฟนกัน แล้วมาเป็นคู่หมั้นกันดีกว่านะครับ"
เรืองรินค่อยๆยิ้มออกมาได้ บริกรเอาช่อดอกไม้มาให้ ดนุมอบช่อดอกไม้ให้เรืองรินพร้อมแหวนหมั้น นักดนตรีออกมาสีไวโอลินเพลงรักหวานชวนโรแมนติก เรืองรินยิ้มหวานแต่จำต้องพูดว่า "รินว่าอย่าเพิ่งเลยค่ะ...นะคะ รินไม่ได้ปฏิเสธ แต่แค่ขอผลัดไปก่อนน่ะค่ะ"
ดนุนั่งซึม เรืองรินอธิบายว่าเธอมีงานสำคัญต้องทำ ขอเวลาเธอสามเดือน เธอคงต้องหายหน้าไปด้วย ดนุถามว่างานอะไร เรืองรินอ้างว่า เธอต้องเดินสายแนะนำเรื่องสุขภาพจิตชาวบ้านทั่วประเทศ ดนุถามเธอคำถามหนึ่งว่าเธอรักเขาน้อยลงหรือเปล่า เรืองรินจับมือเขาขอเวลาเธอสะสางเรื่องทางบ้านให้เสร็จ เธอยังรู้สึกกับเขาเหมือนเดิม ดนุใจชื้นขึ้นแม้จะผิดหวังอยู่ไม่น้อย
ooooooo










