ตอนที่ 14
ชาดาพาคณะของหินมาพักที่บ้านหลังใหญ่ของป้าในกรุงเทพฯ ทุกคนรับรู้เรื่องแผนการที่สมเกียรติหลบหนีไปว่าเป็นละครฉากใหญ่เพื่อล้วงความลับของพวกปลัดชัย
ทิมไม่ค่อยพอใจสารวัตรชัชที่ให้เกดไปทำงานเสี่ยงๆ เขาแอบบ่นกับหินและลมเพราะเป็นห่วงคนรักของตน แต่ลมแย้งว่าไม่เห็นเสี่ยงตรงไหน แค่ไปสังเกตการณ์
“คนอย่างเกดคงไม่ใช่แค่สังเกตการณ์หรอก”
“มันก็จริงนะ หมวดเกดนิสัยมุทะลุ แต่คงไม่บุกเข้าไปเดี่ยวๆหรอก” หินเข้าข้างลม ทำให้ทิมน้อยใจ
“พวกแกนี่มันเข้ากันดีจริงๆ ใช่สิ แฟนแกอยู่พร้อมหน้านี่ ส่วนแฟนฉันกำลังเสี่ยงตาย”
“โห...น้อยใจ” ลมแซว แต่ทิมไม่เล่นด้วย สีหน้าจริงจังคิดจะตามไปช่วยเกด
เวลานั้นที่ค่ายนายพลเก้ายอด...สมเกียรติอยู่ในห้องพักที่มีความเป็นส่วนตัว เขากวาดตาสำรวจเพื่อค้นหาเครื่องมือสื่อสารแต่ไม่พบ พลันได้ยินเสียงเคาะประตู เขาถามว่าใคร?
“ผมเอาชุดเครื่องนอนมาเพิ่มให้ครับ”
สมเกียรติเปิดประตู อาโปในชุดทหารนำเครื่องนอนเข้ามาแต่ยังไม่ยอมออกไป จนกระทั่งสมเกียรติต้องออกปากไล่ “เสร็จแล้วก็ออกไปสิ”
“เกรงว่าจะยังไม่ได้ครับท่าน”
ขาดคำ สมเกียรติชักปืนทันที อาโปตกใจพูดปากคอสั่นแต่เสียงแผ่ว
“ใจเย็นๆครับท่าน ผมชื่ออาโป เป็นพลทหารใหม่ สารวัตรชัชส่งผมแทรกซึมเข้ามา”
สมเกียรติโล่งอก บอกว่าตนกำลังต้องการเจอตัวอยู่พอดี...อีกมุมหนึ่งในค่าย ผู้กำกับพงษ์กำลังชักชวนเคร่งไปตามล่าพวกหินเพื่อแก้แค้นให้เมียรัก โดยมีคนของเขารออยู่ที่กรุงเทพฯ เคร่งรอวันนี้อยู่แล้ว ตอบตกลงทันที
ด้านสารวัตรชัชกับตำรวจตระเวนชายแดนจำนวนหนึ่ง พวกเขากางเต็นท์ใหญ่ที่สะดวกสบายกลางป่าเพื่อเป็นฐานย่อยๆสำหรับปฏิบัติภารกิจ
หมวดเกดมาสมทบ แทบไม่เชื่อว่าที่นี่จะมีอุปกรณ์ดำรงชีพครบครัน
“มองมาจากข้างนอกไม่รู้เลยว่าเป็นเต็นท์ นึกว่ากอไม้ พุ่มไม้”
“กว่าผมจะของบได้เล่นเอาเหนื่อย”
จังหวะนี้อาโปส่งข่าวมาพอดี ตำรวจรับสารมาส่งให้สารวัตรชัช เกดเห็นกระดาษนั้นแล้วสงสัย ถามว่าเดี๋ยวนี้ยังใช้รหัสมอสอีกหรือ
“สูงสุดคืนสู่สามัญ ตอนนี้ใครๆก็แฮ็กเข้าระบบได้ง่ายๆ แต่จะมีกี่คนที่อ่านรหัสมอสได้ นอกจากคนโบราณอย่างผม”
“เขาว่ายังไงคะ ฉันมันคนสมัยใหม่ค่ะ” เกดพูดยิ้มๆ
“เขาเจอและแนะนำตัวกับเสี่ยสมเกียรติแล้วตอนนี้ยังสืบอยู่ว่ามันกำลังทำอะไรกันแน่”
ooooooo
ค่ำนั้น ลมกับชาดาช่วยกันทำอาหารให้ทุกคนกินอย่างมีความสุข โดยไม่รู้ว่าภัยกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างเงียบเชียบ
ทิมกับประดับออกจากบ้านไปก่อนหน้านี้ ส่วนหินกับฝนเดินเล่นคุยกันที่สนามอย่างผ่อนคลาย สองคนคาดหวังว่าเรื่องราวร้ายๆกำลังจะจบ
“จะว่าไป...ความจริงมันไม่เกี่ยวกับเราเลย”
“แต่ผมว่าอะไรที่เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศชาติ มันก็เกี่ยวข้องกับเราทุกคนนั่นแหละ ถ้าทุกคนคิดนิ่งดูดาย สนใจแต่เรื่องตัวเอง ประเทศชาติจะอยู่ยังไง”
“นายนี่น่าจะไปเป็นทหารมากกว่าไปบวชเป็นมหาอีก”
“ผมชอบสันโดษ ไม่อยากยุ่งกับใคร ที่ผ่านมาครอบครัวผมก็ทรมานกันทุกคนแล้ว”
“ฉันก็เหมือนกัน ขาดพ่อมันก็เหมือนขาดทุกสิ่ง”
“คุณยังมีเจ้าลม”
“ใช่ ฉันยังมีพี่ลม และเธอก็ยังมีฉัน เรามาสร้างครอบครัวกันใหม่ก็ได้นี่”
ฝนพูดอย่างนั้น หินดีใจถึงกับยิ้มหน้าบาน...
แต่ขณะเดียวกันทิมกำลังหน้าตูมเพราะขออนุญาตผู้บังคับบัญชาไปสมทบกับเกดไม่ได้ ทิมเล่าให้ประดับฟังอย่างเซ็งๆ
“ท่านบอกว่าพวกนั้นไม่ค่อยให้เราก้าวก่ายงานเขา”
“หมายถึงสารวัตรชัชเหรอ”
“ทั้งหน่วยเขานั่นแหละ ท่านบอกว่าทำไปก็ไม่มีความชอบ”
“พวกผู้ใหญ่ก็คิดกันแบบนี้ เห็นแก่หน้าตัวเอง เห็นแก่เก้าอี้ แล้วผู้กองจะเอายังไงล่ะ”
“ฉันคิดว่าฉันอาจจะลาออก” คำตอบของทิมเล่นเอาประดับตกใจแทบตกเก้าอี้
ooooooo










