สมาชิก

ค่าของคน

ตอนที่ 16

ลักษมณ์คิดจะไปดูงานที่อเมริกาสักสองสามเดือน ถึงตอนนั้นเขาอาจจะสบายใจขึ้น คุณแขใจหาย ถามลักษมณ์ทำไมไม่ตามรจเรขกลับมา ลักษมณ์เศร้าเพราะรู้ว่ารจเรขกำลังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่กับเจษฎา...

ขณะเดียวกัน รจเรขเอาพวงมาลัยมาไหว้โกศของพ่อแม่ในห้องพระบอกให้ท่านรู้ว่า เธอกำลังจะมีหลาน รจเรขเอามือลูบท้องรำพึง

"ลูกจ๋า ถึงหนูจะเกิดมาไม่มีพ่อแม่พร้อมหน้าเหมือนใครๆ แต่ขอให้หนูรู้ไว้นะจ๊ะ ว่าหนูเกิดมาจากความรัก ถึงพ่อเค้าจะไม่รักแม่ แต่แม่ก็รักเค้า แม่รักพ่อของหนูนะจ๊ะ"

ด้านนอกประตู ไก่ยืนมองรจเรขอย่างสงสาร และโกรธตัวเองที่เป็นต้นเหตุ พอรจเรขออกจากห้องพระไป เขาก็เข้ามานั่งตรงหน้าโกศ บอกพ่อกับแม่ว่า เพราะเขาที่ทำให้รจเรขต้องเป็นแบบนี้ ถ้าไม่มีลักษมณ์ รจเรขก็คงจะลืมและหันมามี

ชีวิตใหม่กับเจษฎาได้ ไก่เปิดกล่องไม้หยิบปืนรุ่นเก่าออกมาอย่างตัดสินใจเด็ดขาด

เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่ป้าเขียนกับอ่วมกำลังยกเสื่อมาตากแดด เผอิญชนกับไก่ที่รีบร้อนจะออกไป กระเป๋าเป้ตก ปืนกระเด็นออกมา ป้าเขียนเห็นแล้วตกใจ ไก่รีบเก็บปืนแล้ววิ่งออกไป ป้าเขียนได้สติวิ่งเข้าบ้านร้องเรียกคุณยายเพื่อบอกเรื่องที่เห็น

"อะไรนะ ปืนอะไร แม่เขียน ตาฝาดหรือเปล่า" คุณยายตกใจเมื่อฟังป้าเขียนเล่า

"ไม่ฝาดค่ะ ปืนเก่าของคุณพ่อที่เก็บไว้ในห้องพระน่ะค่ะ เขียนจำได้"

รจเรขกังวลใจพยายามโทร.หาไก่แต่เขาไม่รับสาย คุณยายเป็นห่วงกลัวไก่ไปก่อเรื่องอะไรอีก รจเรขนึกห่วงลักษมณ์ คว้ากระเป๋าจะออกไป

"กล้วยขอออกไปตามพี่ไก่ก่อนนะคะคุณยาย ได้เรื่อง ยังไงแล้วกล้วยจะโทร.มาบอก"

"แม่กล้วยระวังตัวนะลูก นี่จะไปตามพี่เค้าที่ไหน เอ๊ะ นี่มีเรื่องอะไรกันเนี่ยนังเขียน..."

ooooooo

รจเรขโทร.บอกเจษฎา เขาตกใจ "ว่าไงนะ กล้วยว่าไก่เอาปืนไปยิงคุณลักษมณ์งั้นเหรอ"

"กล้วยก็ไม่แน่ใจค่ะ แต่ตอนนี้พี่ไก่ก็ไม่ได้โกรธแค้นกับใครนี่คะ นอกจากเขา"

เจษฎาจึงบอกให้รจเรขโทร.เตือนลักษมณ์ แต่ให้บอกอ้อมๆเพราะไม่อยากให้เรื่องถึงตำรวจ ส่วนเขาจะไปห้ามไก่เอง... รจเรขจึงโทร.หาลักษมณ์ พอดีเขากำลังอาบน้ำอยู่ มือถือดัง เจนจิราหยิบมาดูเห็นเป็นชื่อรจเรขจึงตัดสายทิ้งอย่างไม่พอใจ รจเรขแปลกใจลองโทร.ใหม่อีกครั้ง คราวนี้เจนจิราปิดเครื่อง ไปเลย รจเรขไม่รู้จะทำอย่างไร นึกได้โทร.เข้าบ้าน เผอิญชื่นกำลังยกหูโทรศัพท์ทำความสะอาดอยู่ เจนจิราเดินมาถึงสั่งชื่นไปชงกาแฟมาให้  แล้วนั่งรอเพราะรู้ว่ารจเรขจะต้องโทร.เข้ามา ไม่ทันไรโทรศัพท์ก็ดังขึ้น เจนจิรายิ้มเยาะ รับสาย รจเรขรีบถามว่าใครพูด เจนจิราตอบไปว่า

"ฉันเอง เจนจิรา..."

"คุณเจนจิราคะ ฉันมีเรื่องด่วนต้องพูดกับคุณลักษมณ์ เดี๋ยวนี้"

"ทำไม  เงินหมดแล้วจะมาขายตัวอีกหรือไง  เมินซะเถอะย่ะ ลักษมณ์เขาไม่สนใจเธอแล้ว ตอนนี้เขาเป็นของฉัน อย่าโทร.มาวุ่นวายกับเขาอีกเป็นอันขาด  แค่นี้นะ"  เจนจิรากระแทกกระทั้นวางสายทันที

รจเรขกลุ้มใจจะทำอย่างไรดี ตัดสินใจไปที่บ้านลักษมณ์ แต่ช้าไป เพราะลักษมณ์ขับรถออกจากบ้านและไก่ได้ขี่รถสะกดรอยตามไปแล้ว รจเรขเจอกับเจษฎาที่เพิ่งมาถึงเช่นกัน ต่างแปลกใจที่ไม่เห็นไก่ รจเรขจึงไปกดกริ่งหน้าบ้าน พุฒมาเปิดประตู ดีใจที่เห็นรจเรขมา

"ฉันมาหาคุณลักษมณ์น่ะจ้ะ"

"คุณลักษมณ์ไม่อยู่ครับ เพิ่งออกไป"

เจษฎารีบถามว่าไปไหน พุฒตอบว่าไม่ทราบ เสียงเจนจิราแหวออกมา

"ฉันรู้...แต่มันธุระกงการอะไรของพวกคุณไม่ทราบ เขาไม่รับโทรศัพท์แล้วยังไม่เลิก มาตามตื๊อถึงบ้านเลยเหรอ"

"ฉันมีเรื่องสำคัญมาก ต้องคุยกับคุณลักษมณ์ให้ได้ มันเกี่ยวกับความปลอดภัยของเขา"

"ฉันไม่เชื่อ อย่ามาเขี่ยถ่านไฟเก่าให้ยากเลย อย่างเธอมันถ่านหมดอายุ มันไม่คุแล้วล่ะย่ะ กลับไป" เจนจิราตวาดไล่

เจษฎารีบบอกว่านี่มันเรื่องคอขาดบาดตายให้บอกมาว่าลักษมณ์ไปไหน เจนจิราไม่สนใจ ยักไหล่เดินหนีเข้าบ้านไป รจเรขกับเจษฎามองหน้ากันอย่างหนักใจ...

ooooooo

รจเรขโทร.หาวีรวัฒน์เพื่อถามว่าลักษมณ์ไปไหน จึงรู้ว่าอาจจะไปนิคมอุตสาหกรรม เจษฎาจึงรีบขับรถพารจเรขไปที่นั่น...

ลักษมณ์มาสำรวจโกดังที่นิคมอุตสาหกรรม ไก่ตามติดหาโอกาสเหมาะ แล้วเผยตัวออกมาประจันหน้ากับลักษมณ์

"ฉันเป็นพี่ชายของกล้วย"

"คุณตามผมมาที่นี่ทำไม ต้องการอะไร"

"ฉันอยากให้แกตาย" ไก่ชักปืนออกมา

ลักษมณ์ตกใจกระโจนถีบตู้คอนเทนเนอร์ที่ไก่ยืนอยู่ ทำให้ไก่เซปืนหลุดจากมือ ทั้งสองต่อสู้กัน ลักษมณ์ถามว่าเขาไปทำอะไรให้ถึงจะมาฆ่าเขา

"มึงตาย กล้วยจะได้มีแต่ความสุข..."

"คุณกล้วยอยากให้ผมตายงั้นเหรอ" ลักษมณ์ตะลึงจึงพลาดถูกไก่ผลักล้มลงหัวแตก

เจษฎากับรจเรขมาถึง ยามข้างหน้าบอกว่าลักษมณ์เข้าไป ข้างในคนเดียว ทั้งสองรีบตามเข้าไป...

ลักษมณ์เห็นไก่ยืนถือปืนเล็งมาที่เขา รีบถาม "เดี๋ยว... ก่อนฉันจะตาย บอกฉันได้ไหมว่าทำไมรจเรขอยากให้ฉันตาย"

"เพราะแกเป็นผู้ชายเลว บัดซบ ที่ทำให้น้องสาวฉันเสียใจน่ะสิ ถ้าแกตาย สิ่งที่แกทำเอาไว้กับน้องสาวฉัน ก็จะไม่มีใครรื้อฟื้นไม่มีเยื่อใยต้องผูกพันกันอีก กล้วยจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่"

"แกหมายถึงอะไร..." ลักษมณ์ฟังแล้วเอะใจ

"ไม่ต้องถามมาก...ตายซะเถอะ"

เจษฎากระโจนเข้าชาร์จไก่จากด้านหลัง ไก่เซไปแล้วหันมาโวย ลักษมณ์ลุกขึ้นยืนเลือดยังไหลที่หัว รจเรขเข้ามาถามว่า ทำแบบนี้ทำไม ไก่ว่าลักษมณ์ทำลายชีวิตเธอ รจเรขรีบบอกว่าลักษมณ์ไม่ได้ทำอะไรเธอ เจษฎาพยายามพูดให้ไก่ใจเย็นลง แต่ไก่ไม่ฟังเสียง กลับบอกว่า

"แกเป็นคนดีเจษ กล้วยมีแกคอยดูแล ฉันก็ตายตาหลับแล้ว" ว่าแล้วไก่ก็ยิงใส่ลักษมณ์

รจเรขตกใจผวาเข้าบังตัวลักษมณ์ ลักษมณ์มีสติพอพลิกตัวกลับ กระสุนเจาะเข้าที่หลังเขาล้มทับรจเรข เธอตกใจร้องลั่น

"คุณลักษมณ์...อย่าเป็นอะไรนะคะ..."

ทั้งเจษฎาและไก่ตะลึง นึกไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะห่วงกันขนาดรับกระสุนแทนกันได้   วีรวัฒน์ตามเข้ามาตกใจ  รจเรขรีบขอให้พาลักษมณ์ไปโรงพยาบาลก่อน เจษฎาเข้ามาช่วยอุ้มลักษมณ์ รจเรขจะลุกตามรู้สึกปวดท้องจนร้องโอ๊ย... พอลุกขึ้นมีเลือดไหลออกมาตามขา ทุกคนหันมามอง ลักษมณ์ ปรือตามองอย่างห่วงใยก่อนจะหมดสติไป เจษฎาบอกให้ไก่พากล้วยไปโรงพยาบาลด่วน

ในขณะที่เจนจิราถือวิสาสะจัดปาร์ตี้รื่นเริงกับเพื่อนนางแบบสามสี่คน ที่ริมสระน้ำในบ้านของลักษมณ์ แย้ม ชื่น และพุฒไม่พอใจที่ถูกจิกใช้ จึงแกล้งใส่แมลงสาบในอาหารมากมาย จนวิ่งหนีกันกระเจิง ส่งเสียงดัง คุณแขออกมาเอ็ด

"เธอเป็นแขกมาพักบ้านคนอื่น น่าจะเกรงใจเจ้าของบ้านบ้าง แค่จัดงานเลี้ยงก็มากเกินไปแล้ว แต่นี่อะไร เปิดเพลงเสียงดัง ส่งเสียงกรี๊ดกร๊าด เอะอะไปจนถึงบ้านฉัน ไม่มีมารยาท"

"เอ๊ะ เข้าใจผิดหรือเปล่าคะ ระหว่างแม่เลี้ยงกับภรรยา ของลักษมณ์ ใครเป็นเจ้าของบ้าน ใครเป็นคนอาศัยกันแน่" เจนจิราโต้เพราะอายเพื่อนๆ

"ถ้าคุณลักษมณ์เขาแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับใคร ฉันคงต้องยกให้เขาเป็นเจ้าของบ้าน แต่เธอ...คงไม่ใช่ พุฒ ชื่น เก็บของพวกนี้ออกไปให้หมด งานเลิกแล้ว ขอเชิญทุกคนกลับไปได้" คุณแขสั่งเสียงเฉียบ

เจนจิราโกรธจนตัวสั่น ยังไม่ทันตอบโต้ จิตวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอกเรื่องที่ลักษมณ์โดนยิง   ทุกคนตกใจ   คุณแขรีบออกไป เจนจิราบอกจอยให้ไปกับเธอด่วน

ooooooo

มาถึงโรงพยาบาล คุณแขปรี่เข้าไปถามวีรวัฒน์ ถึงอาการของลักษมณ์ วีรวัฒน์บอกว่าหมอผ่าเอากระสุนออกแล้ว แต่ลักษมณ์เสียเลือดมากต้องรอดูอาการในห้องฉุกเฉินก่อน พิมานรีบถามว่ามีเรื่องอะไร ใครเป็นคนยิง วีรวัฒน์ตอบว่า เขาไม่รู้ว่าเรื่องอะไร แต่ไก่เป็นคนยิง พิมานไม่อยากเชื่อ รีบถามถึงรจเรข...

หมอบอกว่ารจเรขกับลูกในท้องปลอดภัย แต่ย้ำเตือนว่าอย่าให้กระทบกระเทือนแรงๆแบบนี้อีก พอหมอออกไปรจเรขรีบถามถึงลักษมณ์ เจษฎาต่อว่าทันทีที่เอาตัวมาบังกระสุน ทำไมไม่ห่วงลูก ไก่ยืนหน้าเครียดมองรจเรขอย่างเสียใจ

"นี่รักมันมาก จนทำได้ทุกอย่างเลยเหรอ"

"กล้วยรักพี่ไก่ต่างหาก กล้วยไม่อยากให้พี่ไก่เป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย คนอย่างคุณลักษมณ์ถ้าเขาเป็นอะไรไป พี่น้องเขาคงเอาเรื่องพี่ไก่ถึงตาย"

ไก่เมินหน้าหนี เจษฎาเห็นด้วยและเตือนไก่อย่าหุนหันพลันแล่นอีก ไม่ทันขาดคำวีรวัฒน์พาตำรวจเข้ามาควบคุมตัวไก่ เจษฎาขอเป็นทนายให้ไก่ จึงตามไปโรงพักด้วย...

พอเสร็จเรื่องโรงพัก ไก่ถูกควบคุมตัวไว้ เจษฎาพารจเรขกลับบ้านสวน รจเรขตัดสินใจกราบขอโทษคุณยายและสารภาพความจริงทั้งหมดรวมถึงที่เธอท้อง ไก่ถึงได้โกรธและไปทำร้ายลักษมณ์ คุณยายตกใจมาก น้ำตาไหลพรากขอตัวไปไหว้พระ คุณยายร้องไห้รำพึงหน้าโกศพ่อแม่รจเรข

"พ่อเรือง แม่ปราง แม่คงจะทำอะไรผิดไป ลูกของเธอสองคนถึงได้โตมาเป็นแบบนี้ แม่เสียใจจริงๆนะ"

รจเรขกับเจษฎายืนอยู่หน้าประตูห้องพระ รจเรขสะเทือนใจคลานเข้าไปกอดคุณยาย

"คุณยายขา คุณยายเลี้ยงกล้วยกับพี่ไก่มาดีที่สุดแล้วค่ะ เราสองคนผิดเอง ที่ทำอะไรไม่คิด กล้วยขอโทษที่ทำให้คุณยายเสียใจ กล้วยขอโทษที่ทำให้คุณยายต้องเดือดร้อน"

"ยายแก่แล้ว อีกไม่นานก็ไป แต่กล้วยกับไก่ล่ะลูก คนหนึ่งก็ท้องไม่มีพ่อ อีกคนก็จะติดคุกข้อหาฆ่าคนตาย หลานสองคนจะอยู่ต่อไปยังไง" คุณยายดึงรจเรขมากอดร้องไห้

เจษฎาตัดสินใจเข้าไปกราบขอเป็นคนดูแลรจเรขกับลูก คุณยายตกใจอีกครั้ง พอตั้งสติได้บอกว่ายอมไม่ได้ จะเป็นการเอาเปรียบ แต่เจษฎายืนยันว่าเขาเต็มใจเพราะเขารักรจเรข คุณยายซาบซึ้งใจหันไปถามรจเรข "แล้วเราล่ะ แม่กล้วย..."

รจเรขไม่อาจทำให้คุณยายและเจษฎาผิดหวังได้อีกจึงตอบไปว่า เธอไม่มีปัญหา คุณยายจึงขอให้รักกันมากๆ และฝากเจษฎาดูแลรจเรขด้วย เจษฎาก้มกราบคุณยายด้วยความดีใจ...

ooooooo

ที่โรงพยาบาล ลักษมณ์สะดุ้งตื่นขึ้นมาเรียกหารจเรข คุณแขกับพิมานผวาเข้าไปหา ดีใจที่ลักษมณ์ฟื้น ลักษมณ์กลับถามว่ารจเรขเป็นอย่างไรบ้าง พิมานแปลกใจเพราะไม่เห็นรจเรขเป็นอะไร

"แต่ก่อนที่ฉันจะหมดสติไป ฉันเห็นเขาล้ม..."

"พี่ลักษมณ์อย่าเพิ่งกังวลเลย คงไม่มีอะไรหรอก กังวลเรื่องตัวเองก่อนดีกว่า ตำรวจรออยู่หน้าห้องแน่ะครับ ถ้าพี่ลักษมณ์พอไหว เขาอยากขอสอบปากคำ"

ลักษมณ์พยักหน้าอนุญาต ตำรวจเข้ามากำลังจะสอบปากคำ เจนจิรากับจอยโผล่พรวดเข้ามา พอเห็นตำรวจก็รีบแจ้งให้จับคนร้ายมาเอาผิดให้ได้ ตำรวจทำหน้าสงสัยแล้วถามว่าสองคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับลักษมณ์ คุณแขตอบแทนว่า ไม่ได้เกี่ยวดองอะไรเลย และให้พิมานกันสองคนออกไป เจนจิราตาขวางไม่พอใจแต่ขัดขืนไม่ได้ จำต้องออกไป

ตำรวจซักถามลักษมณ์เชิงว่า เขากับรจเรขมีปัญหาเรื่องทรัพย์สินตอนหย่าขาดกันหรือเปล่า ลักษมณ์รีบบอกว่า

"ไม่มีทางครับ ตอนก่อนแต่งงาน ผมร่างสัญญาเอาไว้ ชัดเจน ว่ารจเรขไม่สามารถจะเรียกร้องอะไรจากผมได้ หลังจากการหย่าร้าง"

"ถ้าอย่างนั้น คุณคิดว่าน่าจะมีมูลเหตุแรงจูงใจอะไรครับ ที่ทำให้คุณรุจิรัตน์ พี่ชายของคุณรจเรขต้องการจะฆ่าคุณ"

ลักษมณ์หวนคิดถึงคำพูดของไก่ที่ว่า "ถ้าแกตาย สิ่งที่แกทำเอาไว้กับน้องสาวฉัน ก็จะไม่มีใครรื้อฟื้น ไม่มีเยื่อใยต้องผูกพันอะไรกันอีก กล้วยจะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่"...และคำพูดของเจษฎาที่เข้ามาห้ามไก่ "ไก่ฟังฉันนะ สิ่งที่เกิดขึ้นกับกล้วยฉันก็โกรธและเสียใจไม่น้อยไปกว่าแก แต่แกทำแบบนี้ไม่ได้ มันผิดเข้าใจมั้ย"

ลักษมณ์เล่าให้ตำรวจฟัง "ก่อนที่เขาจะยิงผม เขาพูดเหมือนกับว่า ผมทำให้คุณรจเรขเป็นอะไรซักอย่าง แต่ผมไม่เข้าใจจริงๆว่าเขาหมายถึงอะไร"

ในขณะที่ไก่ให้การตำรวจว่า เขาไม่ชอบหน้าลักษมณ์ถึงยิง เจษฎาพาคุณยายมาพบไก่ ตำรวจพาตัวไก่ออกมา พอเห็นคุณยาย ไก่ตะลึง คุณยายโผกอดไก่ร้องไห้ต่อว่าทำไมทำอะไรไม่คิด ไก่บอกคุณยาย

"คุณยายไม่เข้าใจ คุณยายไม่รู้ ว่ามันทำอะไรกับยัยกล้วย"

"ยายรู้ ยัยกล้วยกับพ่อเจษเขาบอกยายหมดแล้ว ไก่ทำไป เพราะรักน้อง เจ็บแค้นแทนน้อง แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกับยัยกล้วย ยังไงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ต่อให้ฆ่าคุณลักษมณ์ตาย มันก็แก้ไขอะไรไม่ได้นะลูก"

พลันตำรวจพาลักษมณ์ในชุดคนไข้เข้ามา ลักษมณ์ตั้งคำถาม "สิ่งนั้นมันคืออะไรล่ะครับ ใครช่วยบอกผมหน่อยได้ไหม"

ทุกคนหันไปมอง รจเรขโผเข้าถามด้วยความห่วงใย

"คุณลักษมณ์ คุณเป็นยังไงบ้างคะ"

"ผมไม่เป็นไรครับ คุณกล้วย กระสุนไกลหัวใจเยอะ แต่ผมไม่เข้าใจ คุณคิดฆ่าผมทำไม"

เจษฎาเกรงลักษมณ์จะรู้ว่ารจเรขท้อง จึงขอให้เขากลับไปก่อน แต่ลักษมณ์ไม่ยอม เขาต้องการรู้ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับรจเรข คืออะไร ทำไมถึงต้องเอาชีวิตเขาเป็นการชดใช้

"นี่คุณลักษมณ์เขาไม่รู้เหรอ แม่กล้วย" คุณยายมองรจเรขอย่างสงสัย

ลักษมณ์รีบถามว่าเรื่องอะไร รจเรขขอร้องคุณยายอย่าพูดอะไร เจษฎาเห็นท่าไม่ดี ขอให้ตำรวจพาลักษมณ์กลับไป และเขาจะพาคุณยายกับรจเรขกลับ ลัก

ษมณ์ไม่ยอมสะบัดตัวพุ่งเข้าหารจเรข

"ไม่ คุณปิดบังอะไรผมอยู่คุณกล้วย ผมทำอะไรลงไป คุณบอกผมมาดีกว่า"

"ไม่ค่ะ ไม่มีอะไร"

"ไม่จริง บอกผมมา ผมพร้อมจะรับผิดชอบ ถ้าผมทำอะไรผิดไป"

"ไม่ต้อง ไม่มีใครต้องการให้แกมารับผิดชอบชีวิตของน้องฉัน ทุกอย่างที่เป็นของน้องฉัน แกไม่มีวันจะได้แตะต้อง แกไม่ต้องมายุ่ง" ไก่ทนไม่ไหวระเบิดออกมา

"คุณพูดแบบนี้ ผมยิ่งต้องรู้ให้ได้ บอกมาคุณกล้วย สิ่งที่พวกคุณปกปิดกันอยู่มันคืออะไร" ลักษมณ์เข้ามาคาดคั้นอย่างมีอารมณ์

ไก่โมโหเข้าไปผลักลักษมณ์เซไปชนผนัง เลือดทะลักออกจากแผล ลักษมณ์ร้องโอ๊ย มือกุมท้อง ตำรวจรวบตัวไก่กลับไปห้องคุมขัง รจเรขจะผวาเข้าไปดูลักษมณ์แต่พอเห็นสายตาเจษฎาก็ชะงัก ลักษมณ์ค่อยๆยันกายลุกขึ้น พอดีวีระวัฒน์วิ่งเข้ามา รีบเข้าประคอง

"คุณลักษมณ์ ผมนึกแล้วว่าต้องมาที่นี่ คุณยังไม่หายเลย หนีออกจากโรงพยาบาลมาทำไมครับ"

ลักษมณ์ไม่พูดอะไร ได้แต่มองจ้องรจเรขที่ยืนข้างเจษฎาอย่างน้อยใจ เจษฎาขอโทษแทนไก่ วีระวัฒน์ประคองลักษมณ์ ให้กลับ รจเรขมองตามหลังด้วยสายตาห่วงสุดๆ เจษฎาเห็นแล้วเศร้า เขาบอกให้รจเรขพาคุณยายไปรอที่รถก่อน เขามีเรื่องจะคุยกับไก่ แล้วจะตามไป...

ooooooo

ตำรวจเอาตัวไก่มานั่งสงบสติอารมณ์ในห้องสอบสวน เจษฎาตามเข้ามาตำหนิไก่

"ถ้าแกยังขืนใช้อารมณ์อยู่อย่างนี้ ฉันจะช่วยแกได้ยังไง"

"ยังไงฉันก็ติดคุกอยู่แล้ว" ไก่พาล

"ฉันกำลังทำเรื่องขอประกันตัวแก เราจะสู้คดี"

"สู้ยังไงก็แพ้ แกพูดเองว่ามันมีทั้งหลักฐาน ทั้งพยาน ฉันทำใจแล้วเจษ ฉันอาจจะต้องติดคุกเป็นสิบปี แต่ฉันเต็มใจ เพื่อแลกกับความสุขทั้งชีวิตของยัยกล้วย"

"กล้วยจะมีความสุขได้ยังไง ถ้าแกต้องอยู่ในนี้"

"ได้สิ ฉันเชื่อ ยัยกล้วยจะมีความสุขถ้าได้อยู่กับแก ไม่ใช่อยู่กับไอ้หมอนั่น...แต่มันเริ่มสงสัยเราแล้ว แกต้องรีบแต่งงานกับกล้วยให้เร็วที่สุดนะไอ้เจษ ก่อนที่ไอ้ลักษมณ์มันจะรู้ว่ายัยกล้วยตั้งท้องลูกของมัน" ไก่พูดด้วยความกังวลโดยไม่รู้เลยว่า เจนจิรากับจอยยืนฟังอยู่หน้าห้อง

จอยจะร้องกรี๊ด เจนจิรารีบปิดปากจอยลากตัวออกมา เจนจิราโกรธมาก บอกกับจอยว่า

"ลักษมณ์ต้องไม่รู้ ฉันกำจัดนังรจเรขให้พ้นทางได้แล้ว ฉันไม่มีทางยอมแพ้เพราะไอ้มารหัวขนตัวเดียว"

"แล้วแกจะทำยังไง"

"ถ้ากำจัดลูกในท้องไปได้ นังรจเรขกับลักษมณ์ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกแล้ว จริงมั้ย"

จอยตกตะลึง ไม่คิดว่าเจนจิราจะโหดขนาดนี้...

ooooooo

พยาบาลฉีดยาและทำแผลให้ลักษมณ์ คุณแขตำหนิลักษมณ์ที่หนีออกไป ดีที่วีระวัฒน์ตามไปทัน ลักษมณ์บ่นว่าเขาทนไม่ไหวที่จะอยู่เฉยๆโดยมีเรื่องคาใจแบบนี้ และยิ่งทุกคนช่วยกันปิด เขายิ่งเชื่อว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญมาก คุณแขเอ็ดว่า สำคัญแค่ไหนก็ไม่สำคัญเท่าความปลอดภัยของลักษมณ์ เธอขอให้หายดีก่อนค่อยออกไปสืบไปถามอะไร

พิมานมาเยี่ยม เข็นรถพาลักษมณ์ออกมาในสวนโรงพยาบาล พิมานบอกลักษมณ์ว่า คุณแขให้เขามารับหน้าที่นักสืบแทน ลักษมณ์ดีใจ

"พี่ลักษมณ์จะให้ผมเริ่มที่ไหน"

"คุณกล้วย...ฉันปะติดปะต่อเรื่องราวดูแล้ว คุณกล้วยจะต้องมีปัญหาเดือดร้อนอะไรซักอย่าง ที่ทุกคนคิดว่าฉันเป็นคนทำ แต่ไม่ยอมบอกฉัน...นายต้องเริ่มสืบที่คุณกล้วย"...

คืนนั้น รจเรขนั่งมองดวงจันทร์เศร้าๆที่นอกชาน คุณยายเข้ามาถามว่าคิดถึงลักษมณ์ใช่ไหม รจเรขตอบว่าห่วงทั้งไก่และลักษมณ์ เพราะไก่เป็นคนทำร้ายลักษมณ์

"กล้วยรักเขา ยายดูออกนะ"

"ค่ะ...คุณยาย"

"แล้วทำไมไม่บอกเขาเรื่องท้อง ยังไงซะ ลูกในท้องก็เป็นลูกของเขา ดูท่าคุณลักษมณ์ไม่ใช่คนไม่รับผิดชอบ"

"ค่ะ ถ้ากล้วยบอกเขา เขาอาจจะรับผิดชอบ ยอมรับเป็นพ่อของลูกในท้องกล้วย แต่กล้วยไม่ต้องการค่ะคุณยาย เขากับกล้วยแต่งงานกันครั้งแรก เพราะความจำเป็น ถ้าหากเขาจะแต่งงานกับกล้วยอีกครั้ง กล้วยอยากให้เป็นเพราะความรัก ไม่ใช่เพราะอย่างอื่นค่ะคุณยาย"

"ก็ตามใจ ถ้าเราคิดจะตัดใจจากคุณลักษมณ์ก็ต้องตัดให้ขาด อย่าให้เหลือเยื่อใย พ่อเจษเป็นคนดี แล้วก็มีบุญคุณกับเรามาก ยายไม่อยากให้กล้วยทำร้ายน้ำใจเขา"

รจเรขนิ่งไปสักพักก่อนจะรับคำเศร้าๆ "ค่ะ...คุณยาย"

ในคืนเดียวกัน เจนจิรากับจอยกลับมาที่โรงพยาบาล ทั้งที่หมดเวลาเยี่ยมแล้ว เจนจิราขอร้องพยาบาลว่าเธอขอเข้าไปเอากุญแจบ้าน เพราะลืมไว้ในห้องลักษมณ์

"แน่ใจเหรอคะ ว่าลืมไว้ในห้องคนไข้"

"แน่ใจค่ะ คุณพยาบาลขา ขอเราเข้าไปแป๊บเดียว รับรองไม่รบกวนคนไข้แน่ๆค่ะ"

พยาบาลยอมให้ทั้งสองเข้าไป เจนจิราย่องเข้าไปขโมยมือถือของลักษมณ์ซึ่งวางอยู่ข้างโต๊ะเล็กใกล้ที่พุฒนอนอยู่ออกมาส่งข้อความหารจเรข สวมรอยเป็นลักษมณ์ว่ามีเรื่องสำคัญที่จะบอกให้ใครรู้ไม่ได้ พรุ่งนี้เวลาสิบโมงเช้า และขอให้เธอมาคนเดียว รจเรขอ่านแล้วกังวลใจว่าเรื่องอะไร...จอยเห็นเจนจิรายิ้มร้ายน่ากลัว ชักจะหวาดๆว่าเจนจิราจะทำอะไร

ooooooo

วันต่อมาคุณหญิงศรีสวัสดิ์เห็นข่าวในหน้าหนังสือพิมพ์ ว่าลักษมณ์ถูกยิงนอนพักฟื้นอยู่โรงพยาบาล ท่านนพพรนึกได้ มิน่าพิมานถึงลาพักเพราะมีเรื่องที่บ้านนี่เอง คุณหญิงศรีสวัสดิ์บ่นว่าลักษมณ์คงทำผู้หญิงไว้มาก โชคดีที่ณัฏฐาถอนหมั้นออกมาได้ ไม่อย่างนั้นคงต้องวิ่งเต้นเดือดร้อนไปกับเขาด้วย แต่ณัฏฐากลับเป็นห่วงพิมาน

กลับมาบ้านสวน เจษฎาให้คุณยายเซ็นเอกสารมอบฉันทะให้เขาเอาโฉนดบ้านสวนกับเงินสดไปเป็นหลักทรัพย์ประกันตัวไก่ คุณยายมองเจษฎาอย่างตื้นตันที่เป็นเรี่ยวเป็นแรงช่วยเหลือครอบครัวทุกอย่าง

"ถ้าไม่มีพ่อเจษเสียคน ยายกับยัยกล้วยคงไม่รู้จะทำยังไง ขอบใจนะ"

รจเรขแต่งตัวเหมือนจะออกไปข้างนอก เดินเข้ามา เจษฎาเห็นหน้าซีดๆ จึงบอกให้นอนพักเสีย เรื่องไก่เขาจะไปจัดการเอง แต่รจเรขไม่ยอม เจษฎาจึงประคองเธอเดินออกไป ป้าเขียนเห็นแล้วอดปลื้มใจถึงกับเอ่ยคำกลอนออกมาว่า

"แหม...เห็นผัวเมียเขารักกันมาหนัก จะเหมือนพ่อรักพิมหามีไม่...คุณเจษแกรักหลานสาวคุณยายจริงๆนะคะ เห็นแล้วชื่นใจ"

"ฮื่อ...ว่าแต่คนของเราเถอะ รักเขาบ้างหรือเปล่า ฉันล่ะกลุ้มใจ" คุณยายอดถอนใจไม่ได้...

ขณะที่เจษฎาจัดการเรื่องประกันตัวไก่อยู่ที่สถานีตำรวจ รจเรขนั่งรอ ได้รับข้อความจากลักษมณ์ซึ่งเจนจิราเป็นคนส่งมาสำทับอีกว่า เขามารอที่คลับเฮ้าส์สนามกอล์ฟแล้ว...รจเรขออกมาเดินนอกห้องกระวนกระวายว่าควรไปหรือไม่ควรไปดี พลันสะดุ้งเมื่อพิมานเข้ามาทัก

"คุณพิมาน ทำไมคะ" รจเรขแปลกใจ

"ผมมาดักเจอคุณกล้วยนี่แหละ ผมมีเรื่องอยากถามพี่ลักษมณ์เขาทำอะไรคุณกล้วยกันแน่ ทำไมพวกคุณไม่ยอมบอกพี่ลักษมณ์"

"ไม่มีค่ะ"

"อย่าปิดผมเลยครับคุณกล้วย ที่ผ่านมาพี่ลักษมณ์ทำกับคุณสารพัด ผมไม่เห็นพี่ชายคุณจะมาวุ่นวาย แต่นี่ถึงกับจะฆ่ากัน แปลว่ามันต้องเป็นเรื่องใหญ่มาก ชนิดที่ให้อภัยกันไม่ได้"

ท่าทางรจเรขอึกอัก พิมานจึงรุกต่อ "บอกมาเถอะครับ ผมเป็นเพื่อนคุณนะครับ ผมไม่เข้าข้างพี่ลักษมณ์อยู่แล้ว ถ้าผมรู้ว่าพี่ลักษมณ์ทำผิดอะไรลงไป ผมอาจจะช่วยให้การ ให้ศาลเห็นใจ ยอมลดโทษให้พี่ชายของคุณกล้วยก็ได้"

รจเรขอึดอัดใจไม่รู้จะเลี่ยงหนีอย่างไร พอดีเจษฎาออกมา "ขอบคุณนะครับคุณพิมาน แต่กล้วยไม่มีอะไรจะบอกคุณจริงๆ เข้าไปข้างในเถอะกล้วย"

เจษฎาประคองรจเรขกลับเข้าไปในห้อง พิมานมองอย่างขัดใจ...รจเรขเห็นไก่เดินมาก็โผกอดด้วยความดีใจที่ได้รับการปล่อยตัว ไก่ขอให้รีบพาเขากลับไปกราบคุณยาย พอเดินมาที่รถเมสเสจของรจเรขก็ดังขึ้นอีก "คุณอยู่ที่ไหน ผมจะรออยู่ที่นี่จนกว่าคุณจะมา" รจเรขลำบากใจมาก ตัดสินใจบอกเจษฎากับไก่ให้กลับไปก่อน เธอขอตัวไปทำธุระ

"ธุระอะไรที่ไหนจ๊ะ...เราไปด้วยกันก็ได้นี่" เจษฎารีบบอก

"นั่นสิ กล้วยยิ่งไม่แข็งแรงอยู่ ไปด้วยกันดีกว่า"

"อย่า...เลยค่ะ คุณยายคงอยากเจอพี่ไก่มากที่สุด รีบกลับไปหาคุณยายดีกว่า กล้วยไปทำธุระไม่รู้จะเสร็จกี่โมงนะคะ"

เจษฎาเห็นท่าทางรจเรขไม่ยอมแน่ จึงตามใจแต่ขอให้ โทร.มาบอกด้วยจะได้รอรับปากทางเข้าสวน รจเรขรับปากแล้วเดินแยกไป พิมานจอดรถดักรออยู่ เห็นรจเรขเดินคนเดียวก็ดีใจ แต่แล้วเห็นเธอเดินไปเรียกแท็กซี่ขึ้นไป เขาจึงขับรถตาม

ooooooo

จอยรออยู่นานจนเบื่อ บ่นกับเจนจิราว่ารจเรขคงไม่มาแล้ว เพราะเลยเวลาไปสองชั่วโมง จอยจะกลับ เจนจิรารั้งไว้ พอดีแท็กซี่ที่รจเรขนั่งแล่นเข้ามา ทั้งสองดีใจรีบหลบ พิมานซึ่งขับรถตามมาแปลกใจว่ารจเรขมาที่นี่ทำไมทั้งที่ไม่เคยเล่นกอล์ฟ พลันเห็นเจนจิรากับจอยลับๆล่อๆอยู่ เขาจึงเดินตามสองสาวไปห่างๆ ระหว่างเดินก็กดโทรศัพท์หาลักษมณ์ เจนจิราสะดุ้งเพราะมือถือลักษมณ์ดัง

"เฮ้ย...คุณพิมานโทร.มา"

พิมานเห็นเจนจิรากับจอยท่าทางแปลกๆวุ่นวายกับโทรศัพท์ในมือ พิมานกดโทร.หาลักษมณ์อีกครั้ง สองสาวท่าทางแปลกๆอีก พิมานยิ่งสงสัยเดินตามเข้าไปใกล้อีกนิด...

ระหว่างนั้น ลักษมณ์ให้พุฒค้นหามือถือของเขาทั่วห้อง พุฒมั่นใจว่าเขาวางไว้ให้บนโต๊ะเล็กนี่ แต่มันหายไปได้อย่างไร พอดีพิมานโทร.เข้าโทรศัพท์ในห้อง จึงได้รู้กันว่า มือถือลักษมณ์ หายไป พิมานเริ่มเข้าใจ

"ผมว่าแล้ว...ถ้าผมเข้าใจไม่ผิด โทรศัพท์ของพี่น่าจะ อยู่กับคุณเจนจิรา"

"อะไรนะ นายรู้ได้ยังไง"

"ผมตามคุณกล้วยมาครับ แล้วมาเจอคุณเจนจิราที่นี่ ตอนนี้เธอกำลังเดินตามคุณกล้วยอยู่"

"นายคอยจับตาดูไว้นะ พิมาน ฉันว่าต้องมีอะไร ไม่ชอบมาพากลแน่" ลักษมณ์ไม่สบายใจ

พุฒเข้ามารายงาน "คุณลักษมณ์ครับ ผมไปถามมาแล้ว พยาบาลบอกว่า เมื่อคืนนี้ คุณเจนจิราเข้ามาในห้องนี้เป็นคนสุดท้ายครับ เธออ้างว่าลืมกุญแจคอนโดฯเอาไว้ในห้องคุณลักษมณ์"

"เจนขโมยโทรศัพท์ไปจริงๆด้วย จะเอาไปทำอะไร...คุณกล้วย" ลักษมณ์นึกเป็นห่วงรจเรขอย่างมาก...

ooooooo

ในคลับเฮ้าส์ รจเรขนั่งพักที่ส่วนรับรอง มองหาลักษมณ์ เจนจิรากับจอยซุ่มดูอยู่ โดยไม่รู้ว่าพิมาน แอบมองพวกเธออยู่เช่นกัน เจนจิราสะกิดจอยให้เข้าไปจัดการกับรจเรข จอยถามว่าจะทำอะไร เจนจิราตอบว่า ให้รจเรขแท้งลูก จอยตกใจ รีบปฏิเสธ

"เฮ้ย...บาปนะแก ฉันไม่เอาด้วยหรอก"

"นี่ นังจอย อย่ามาทำขี้ขลาด"

"เออ แกมันคนกล้า แกทำไปคนเดียวเหอะ ฉันดูต้นทางให้" เห็นเจนจิราเดินขัดใจออกไป จอยส่ายหน้าบ่นก่อนเดินหนีไป "บ้า ชักจะบ้าไปกันใหญ่ ฉันไม่เอาด้วยแล้ว"

รจเรขรออยู่สักพักคิดว่าลักษมณ์คงไม่อยู่แล้ว เพราะเลยเวลานัดมาสองชั่วโมงกว่า จึงลุกจะกลับ พอหันมาเจอเจนจิรายืนประชิดอยู่ก็ตกใจ เจนจิรายิ้มน่ากลัวถามว่ามารอลักษมณ์ ใช่ไหม รจเรขคิดได้ทันที

"คุณหลอกฉัน คุณต้องการอะไร..."

พิมานยืนมองอย่างกังวลว่าสองสาวคุยอะไรกันอยู่ พอดีเห็นจอยเดินออกมาจึงรวบตัวจะซักถาม จอยหน้าซีดตกใจกลัว ยิ่งพิมานขู่ว่าจะเรียกตำรวจจอยจึงสารภาพหมดเปลือก...

ในขณะที่รจเรขกำลังปฏิเสธเจนจิรา "คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่ได้ท้องกับคุณลักษมณ์ แล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องอะไรของคุณ"

รจเรขจะกลับเจนจิราคว้าแขนไว้ "อย่าโกหกเลย ฉันรู้ว่าแกท้องกับลักษมณ์ และฉันไม่มีทางยอมให้ลูกในท้องแกมาเป็นอุปสรรคของฉัน แกจะเก็บมันไว้ไม่ได้"

เจนจิราหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าออกมาจะจี้ท้องรจเรข รจเรขตกใจสะบัดตัวหนี ผลักเจนจิราไปกระแทกรถเข็น ทำให้ เครื่องช็อตไฟฟ้าหลุดมือ รจเรขวิ่งหนีลงบันได เจนจิราโกรธคว้ารถเข็นผลักสุดแรงตามรจเรขลงไป รจเรขเบี่ยงตัวหลบแต่ เสียหลักพลาดตกบันไดลื่นไถล พิมานวิ่งเข้ามารับตัวรจเรขไว้ได้ ทั้งสองทรุดนั่งกับพื้น เจนจิราตกใจรีบหลบ

"คุณพิมาน...โผล่มาจากไหนเนี่ย บ้าชะมัดเลย"

พิมานประคองรจเรขลุกขึ้นยืน "ไม่เป็นอะไรนะครับคุณกล้วย"

"ไม่ค่ะ...คุณพิมานมาที่นี่ได้ยังไงคะ"

"ผมต้องถามคุณมากกว่ามาได้ยังไง"

พลันรถเข็นซึ่งคาอยู่ที่บันไดก็ไหลเลื่อนตกลงมาอย่างเร็ว กระแทกหลังรจเรขอย่างจัง เธอเอามือกุมท้องร้องโอ๊ย...ที่ขามีเลือดไหลออกมาเป็นทาง พิมานตกใจ เจนจิราเข้าใจว่ารจเรขคงแท้งแล้วจึงยิ้มสะใจรีบหนีกลับไป โดยมีจอยนั่งรอในรถหน้าตาเป็นกังวล

"ในที่สุดฉันก็จัดการลูกในท้องนังรจเรขได้" เจนจิราบอกจอยด้วยความสะใจ

"แล้วถ้าเขาไปแจ้งความล่ะ ว่าแกฆ่าลูกเขา" จอยถามอย่างกังวล

"มีหลักฐานอะไรล่ะ...ถึงคุณพิมานจะเห็นว่าเรามาที่นี่ ถึงคุณพิมานจะเห็นว่าฉันกับนังรจเรขทะเลาะกัน แต่ฉันก็ไม่ได้ทำอะไรมัน ส่วนไอ้รถเข็นนั่นมันไหลลงไปได้ยังไงก็ไม่มีใครเห็น จะมาโทษฉันได้ยังไง"

เจนจิราพูดอย่างมั่นใจ แล้วจู่ๆก็จอดรถพรืด...โยนโทรศัพท์ลักษมณ์ทิ้งขยะข้างทางเป็นการทำลายหลักฐาน..

พอลักษมณ์รู้เรื่องรจเรข   เขาเดินกึ่งวิ่งมาที่หน้าห้องฉุกเฉิน เจอพิมานก็รีบถามอาการเธอ พิมานบอกว่ารจเรขโดนรถเข็นกระแทกทำให้มีเลือดไหล

ออกมาท่าทางน่าเป็นห่วง พอหมอเดินออกมา สองหนุ่มปรี่เข้าไปหา

"ภรรยาผมเป็นอะไรครับ หมอ"

"เธอได้รับความกระทบกระเทือนครับ เลยมีเลือดออก แต่ หมอตรวจอัลตราซาวนด์ดูแล้วโชคยังดีที่ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก"

"อะไรนะครับ..." สองหนุ่มตกตะลึง

"ตะกี๊หมอพูดว่า...ปลอดภัยทั้งแม่ ทั้งลูก" ลักษมณ์ละล่ำละลักถาม

"ครับ คนไข้ตั้งครรภ์ได้เกือบสองเดือนแล้ว"

"คุณกล้วยท้อง...พิมานได้ยินไหม คุณกล้วยท้อง"

หมอเห็นท่าทางลักษมณ์ ยิ้มอย่างเอ็นดูแล้วบอกว่าตอนนี้หมอให้ยาคนไข้ไว้เพราะเกรงจะกระทบกระเทือนอีก คงจะนอนหลับอีกสักสองชั่วโมง

"ได้ยินมั้ยพิมาน คุณกล้วยท้อง พี่จะมีลูก พิมาน พี่กำลังจะมีลูก" ลักษมณ์ยังตื่นเต้นดีใจ

พอได้เข้าเยี่ยม ลักษมณ์มองรจเรขซึ่งยังหลับอยู่อย่างรักใคร่และห่วงใย เขารำพึง

"คุณกล้วย นี่ใช่ไหมความลับที่คุณไม่ยอมบอกผม ทำไมใจร้ายอย่างนี้ เรามีลูกด้วยกันแล้วนะ...ลูกของเรา...ขอบคุณนะครับที่รัก..." ลักษมณ์ก้มลงจูบหน้าผากรจเรขอย่างแสนรัก...

สองคน เจษฎาและไก่กลับมาบ้านสวนโดยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับรจเรข ไก่โผเข้ากราบขอโทษคุณยาย

"ไก่ขอโทษนะครับคุณยาย ไก่ขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนครั้งแล้วครั้งเล่า  คุณยายน่าจะปล่อยให้ไก่ใช้กรรมอยู่ในตะราง ไม่น่าเสียเงินไปประกันตัวไก่เลย"

"เงินทองเป็นของนอกกาย ไม่มีก็ไม่ตาย แต่ถ้าไก่ลำบาก ยายจะมีความสุขอยู่ได้ยังไง"

ป้าเขียนปลาบปลื้มไปด้วย เตือนไก่ต่อไปจะทำอะไรให้คิดถึงคุณยายมากๆ ไก่รับปาก

"ผมได้คิดแล้วครับ ป้าเขียน ตอนที่ผมติดตะราง ผมเห็นคุณยายกับกล้วยร้องไห้ ผมถึงได้คิดว่าผมทำผิดไป ผมคิดทำร้ายคนอื่น แต่คนที่เจ็บที่สุดกลับเป็นคนที่ผมรัก"

คุณยายดีใจที่ไก่คิดได้ เตือนว่าที่พลาดไปขอให้เป็นบทเรียน แล้วนึกได้ถามถึงรจเรข เจษฎาบอกว่า เธอขอตัวไปทำธุระ เขาไม่กล้าเซ้าซี้จึงปล่อยให้ไป คุณยายถอนใจ...

ooooooo

พิมานเอามือถือรจเรขมาเปิดให้ลักษมณ์ดูว่าได้รับข้อความนัดหมายจากลักษมณ์

"พี่ไม่นึกจริงๆว่าเจนจิราจะกล้าทำร้ายคุณกล้วย ทำร้ายลูกของพี่ เลวจริงๆ"

พลันมือถือรจเรขดังขึ้น ลักษมณ์เห็นชื่อเจษฎาโทร.มา เขากดรับ เจษฎาแปลกใจที่เป็นลักษมณ์มารับสายแทนรจเรขได้อย่างไร

"ใจเย็นๆก่อนครับ บังเอิญเกิดเรื่องนิดหน่อย ตอนนี้คุณกล้วยอยู่ที่โรงพยาบาล"

"โรงพยาบาล...กล้วยเป็นอะไร" เจษฎาตกใจ

"หกล้มน่ะครับ บาดเจ็บนิดหน่อย ไม่มีอะไรมาก คุณหมอตรวจแล้วบอกว่าปลอดภัย ทั้งแม่ทั้งลูก" ลักษมณ์เน้นประโยคหลัง

คุณยายกับไก่รุมถามเจษฎาว่ารจเรขเป็นอะไร เจษฎาหน้าเสียบอกสองคนว่ารจเรขหกล้ม บาดเจ็บนิดหน่อย ไก่เห็นสีหน้าเพื่อน

แปลกๆถามว่ามีอะไร เจษฎาตอบว่าลักษมณ์รู้แล้วว่ารจเรขท้อง ทั้งสามมองหน้ากัน หวั่นเกรงเรื่องวุ่นวายที่จะตามมา...

ooooooo

ในงานแฟชั่นโชว์ของห้างห้างหนึ่ง เจนจิรากำลังเดินแบบบนเวทีต้องชะงักเมื่อเห็นลักษมณ์เดินหน้าเครียดเข้ามาที่ขอบเวที พอเธอเดินเข้าไปหลังเวที เขาก็ตามเข้าไปพร้อมตำรวจ  เจนจิราตกใจ  คิดจะหนี ลักษมณ์วิ่งตาม จอยวิ่งมาขวางหน้าเจนจิราไว้

"ยัยเจน จะไปไหน"

"จอย...ตกใจหมดเลย คุณลักษมณ์เขาพาตำรวจมาที่นี่ คงต้องมาสอบสวนฉันเรื่องนังรจเรขแน่ๆ"

"แบบนี้แกไม่รอดแล้ว"

"ใครจะมาทำอะไรฉัน คุณพิมานอาจจะเห็นว่าฉันอยู่ที่นั่นก็จริง แต่ไม่มีใครเห็นว่าฉันเป็นคนผลักรถเข็นลงไป"

"แล้วแกจะหนีทำไม"

"ฉันก็หนีไปตั้งหลักก่อนซิยะ"

"อย่าเพิ่งไป...ไม่ทันแล้วล่ะแก" จอยดึงแขนเจนจิราไว้ สีหน้ามีเลศนัย

พิมานและตำรวจเดินเข้ามา ลักษมณ์ตรงเข้าต่อว่าเจนจิรา ไม่คิดว่าจะเลวได้ถึงขนาดนี้

"ลักษมณ์เอาอะไรมาพูดคะ เจนไม่ได้ทำอะไร" เจนจิรา ยังดื้อแพ่ง

"คุณหลอกคุณกล้วยไปทำร้าย หวังจะให้แท้งลูก"

"ไม่จริงนะคะ เจนเจอเขาโดยบังเอิญ เราทะเลาะกันก็จริง  แต่เจนไม่ได้ทำอะไรมัน  นังรจเรขมันเกลียดเจนค่ะ  มันใส่ร้ายเจน เพราะมันอยากให้เราเลิกกัน"

พิมานโวย "โกหก คุณใช้โทรศัพท์ของพี่ลักษมณ์หลอกคุณกล้วยไปที่นั่น ผมมีทั้งหลักฐาน และพยานบุคคลที่จะยืนยัน"

เจนจิราเห็นมือถือลักษมณ์ที่พิมานชูให้ดูและมองจอยที่ก้มหน้าหลบตาจึงรู้ว่าเพื่อนทรยศ

"โทษทีนะแก คุณลักษมณ์เขาว่าถ้าฉันให้การที่เป็นประโยชน์ กับรูปคดี เขาจะไม่เอาผิดฉัน" จอยเอาตัวรอดหน้าตาเฉย

เจนจิราร้องกรี๊ดโผนเข้าบีบคอจอย ตำรวจเข้าไปแยกแล้วล็อกตัวเจนจิราไว้ ลักษมณ์บอกตำรวจให้เอาตัวไป เขาจะเอาเรื่องคนที่ทำร้ายเมียกับลูกเขาให้ถึงที่สุด

"ไม่ ไม่จริง ลักษมณ์คะ เจนไม่ได้ทำร้ายคุณ เด็กในท้องนังรจเรขไม่ใช่ลูกคุณ มันบอกเจนเอง เชื่อเจนสิคะ เชื่อเจนสิคะ"

ลักษมณ์ไม่สนคำแก้ตัวของเจนจิรา เขาแค้นใจที่เชื่อใจเธอมากเกินไป จนไม่คิดว่าจะมาทำร้ายคนที่เขารักถึงขนาดนี้...

ooooooo

ในเย็นวันนั้น รจเรขตื่นขึ้นมา พยาบาลกำลังวัดความดันและบอกว่าไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง พรุ่งนี้ คุณหมอคงให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ไม่ทันไร มีคนเอาดอกไม้มาส่งในห้องมากมายหลายแจกัน จนรจเรขแปลกใจ

"เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณคะ นี่มันของใครกันบ้าง"

"ของผมเองครับ ผมสั่งมาให้คุณกับลูก" ลักษมณ์เดินยิ้มเข้ามา

พยาบาลอมยิ้มเดินเลี่ยงออกไป ลักษมณ์เข้ามากุมมือรจเรขพูดน้ำเสียงอ่อนหวาน

"คนดี...ท้องแล้วทำไมไม่ระวังตัวเลย วิ่งไปทำโน่นทำนี่สารพัด ถ้าลูกของเราเป็นอะไรไปแล้วจะทำยังไงครับ"

"คุณลักษมณ์คะ ฉัน..." รจเรขจะค้าน

ลักษมณ์เอานิ้วแตะปากรจเรขไม่ให้พูด "ผมไม่ได้ว่าคุณ ที่พูดเพราะเป็นห่วง โชคดีที่ลูกของเราปลอดภัย ต่อจากนี้ไป เราจะช่วยกันดูแลเขาให้ดีที่สุดนะครับ"

สีหน้าลักษมณ์ดูมีความสุขมาก จนทำให้รจเรขพูดอะไรไม่ออก ลักษมณ์พร่ำรำพัน

"คุณกล้วยรู้ไหม ตอนที่รู้ว่าคุณกล้วยท้อง หัวใจผมแทบหยุดเต้น ใครจะไปนึกว่าผมจะได้เป็นพ่อคนแล้ว ขอบคุณนะครับคุณกล้วย"

เจษฎากับไก่พรวดพราดเข้ามา รจเรขสะดุ้งรีบดึงมือออกจากลักษมณ์ สองหนุ่มมองรอบห้องเห็นดอกไม้เต็มไปหมด และเห็นสีหน้าลักษมณ์ที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม จึงรู้ว่าเรื่องใหญ่แน่

"คุณไก่...ผมรู้แล้วว่าทำไมคุณถึงโกรธผม คุณคงคิดว่าผมทอดทิ้ง ไม่รับผิดชอบคุณกล้วย ผมสาบานได้นะครับว่าผมไม่รู้จริงๆว่าเขาท้อง แต่ต่อจากนี้ไป ผมรับรอง จะดูแลคุณกล้วยกับลูกให้ดีที่สุด"

"คุณว่าอะไรนะ...จะดูแลกล้วยกับลูก งั้นเหรอ" ไก่ตกใจ

ลักษมณ์รับว่าใช่ เจษฎามองหน้ารจเรขเชิงถามว่าเธอต้องการอย่างนั้นหรือ รจเรขสงสารเจษฎาและยังโกรธลักษมณ์ จึงพยายามบิดเบือนความจริง

"ไม่ค่ะ คุณลักษมณ์คะ ฉันไม่ต้องการให้คุณมารับผิดชอบ หรือยุ่งเกี่ยวอะไรกับลูกของฉัน"

"มันจะได้ยังไงล่ะครับ ลูกของคุณมันก็ลูกของผมเหมือนกัน"

"ไม่ใช่ค่ะ เขาไม่ใช่ลูกของคุณ" รจเรขสวนทันควัน

"คุณกล้วย...คุณเป็นเมียผม คุณอยู่กับผม เด็กในท้องคุณ ถ้าไม่ใช่ลูกผมแล้วเขาจะเป็นลูกใคร"

"เขาเป็นลูกพี่เจษค่ะ" รจเรขตัดสินใจพูดออกไปทำให้ลักษมณ์ถึงกับช็อก

เจษฎาปรี่เข้าจับมือรจเรข รับรองหนักแน่น "มันเป็นเรื่องจริงครับ ลูกในท้องกล้วยคือลูกของผม ทุกคนในบ้านทราบเรื่องนี้ดี เราถึงต้องการให้กล้วยหย่าจากคุณให้เร็วที่สุด"

"ไม่...ไม่จริง..." ลักษมณ์ยังไม่ยอมเชื่อ รจเรขจึงย้ำอีกครั้ง

"เสียใจด้วยนะคะ คุณลักษมณ์ ที่ทำให้คุณผิดหวัง แต่มันเป็นความจริง"

ลักษมณ์มองมือรจเรขกับเจษฎาที่กุมกัน เสียใจจนทำอะไรไม่ถูก ผลุนผลันออกจากห้องทันที รจเรขหมดแรงจะฝืน ทำเข้มแข็งต่อ

ไป ร้องไห้สะอึกสะอื้นออกมา ไก่เข้ามากอดปลอบน้องสาวด้วยความสงสารและเห็นใจ

ooooooo

ทุกคนในบ้านนฤนารถไมตรีตั้งขบวนรอรับ แต่ ลักษมณ์กลับลงจากรถมาคนเดียว ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด มองทุกคนอย่างเหวี่ยงๆ  เดินปึงปังเข้าบ้านไป แย้มหันมาถามพุฒว่ามันเป็นอย่างไรกันแน่ พุฒส่ายหน้าไม่รู้เช่นกัน

ค่าของคน

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด