ตอนที่ 14
เจ้าหน้าที่ห้องฉุกเฉินบอกรจเรขกับเจษฎาว่าไก่จะต้องผ่าตัดด่วนเพราะเสียเลือดมาก ไก่ได้สติขึ้นมาเห็นรจเรขกับเจษฎา เขากุมมือรจเรขมาจับกับมือเจษฎาและพูดว่า "ฝากกล้วยกับคุณยายด้วย ฉันรู้แกรักน้องฉัน กล้วย...แต่งงานกับไอ้เจษนะ"
รจเรขอึ้ง ไก่รบเร้าให้สัญญา เธอตัดสินใจรับปากไปก่อนเพราะไม่อยากให้ไก่พูดมาก ดูท่าทางอ่อนเพลีย เมื่อไก่ถูกเข็นไป รจเรขก็ทรุดฮวบหมดสติในอ้อมแขนเจษฎา...
มือของลักษมณ์มีผ้าพันแผลเพราะชกต้นไม้ระบายอารมณ์ เขามานั่งดื่มอยู่ที่ผับ เจนจิรามาเจอปรี่เข้าถามว่ามีเรื่องอะไรไม่สบายใจ พอเห็นแผลที่มือก็ตกใจว่าโดนอะไรมา ลักษมณ์ดึงมือออก "มันเป็นแผลที่เกิดจากความโง่ของผมเอง อย่าไปสนใจเลย"
พลันมือถือลักษมณ์ดังขึ้น เขาไม่สนใจที่จะรับสาย เจนจิราเห็นหน้าจอขึ้นว่าที่บ้าน จึงถามเขาว่าจะรับไหม เห็นลักษมณ์ นิ่งเธอจึงรับแทน แย้มไม่อยากพูดด้วยแต่ต้องตัดใจบอกไปว่า
"คุณมาร์กี้ไม่สบายมาก ฉันต้องพูดกับคุณลักษมณ์เดี๋ยวนี้"
"ตายจริง...ป้าแย้มบอกว่ามาร์กี้ไม่สบายมากค่ะ" เจนจิราหันไปบอกลักษมณ์
ลักษมณ์ร้อนรนถามว่ามาร์กี้เป็นอย่างไรบ้าง แย้มรีบรายงานว่าไข้ขึ้นสูง เช็ดตัวเท่าไหร่ไข้ก็ไม่ลด รจเรขก็ไม่อยู่ ลักษมณ์โกรธ "อะไรนะ รจเรขไม่อยู่เหรอ ไปไหน...ผมต้องกลับบ้าน"
ลักษมณ์บอกเจนจิราแล้วผลุนผลันออกไป เจนจิรา
วิ่งตามขอไปด้วย...มาถึงบ้าน เห็นมาร์กี้ร้องโยเยจะหารจเรข ลักษมณ์ยิ่งหงุดหงิดเพราะไม่มีใครรู้ว่าเธอไปไหน พุฒอึกอักๆกว่าจะพูด
"เอ่อ ผมเห็น นั่งรถออกไปกับคุณเจษฎาครับ"
เจนจิราได้โอกาสช่วยพูดให้ลักษมณ์โกรธมากขึ้น "มาร์กี้ป่วยหนัก กลับหนีออกไปเที่ยวกับผู้ชาย นี่น่ะเหรอคะที่บอกว่ารักนักรักหนา"
"มาร์กี้เป็นลูกผม ไม่ใช่ลูกเขา จะเป็นจะตายเขาก็คงไม่สนใจ ไอ้พุฒ...แกไปเปิดประตูฉันจะพาคุณมาร์กี้ไปหาหมอ" ลักษมณ์อุ้มมาร์กี้ออกไป
พิมานกับคุณแขตามมาที่โรงพยาบาล เห็นเจนจิรานั่งเกาะลักษมณ์อยู่ที่โซฟาในห้องพักคนไข้ ก็รีบถามอาการ ลักษมณ์ตอบเครียดๆว่ารอผลตรวจเลือดอยู่ ไม่ทันไรหมอวิชิตเดินเข้ามา ทุกคนกรูเข้าหา หมอวิชิตสีหน้าไม่ดี เอ่ย "ติดเชื้อทางกระแสเลือดครับ มาร์กี้มีแผลถลอกที่หัวเข่าคาดว่าเชื้อน่าจะเข้าไปทางบาดแผล เรากำลังให้ยาอยู่"
พิมานรู้สึกผิดเพราะเขาเป็นคนทำมาร์กี้หกล้ม หมออธิบายว่า "มาร์กี้ไม่มีเม็ดเลือดขาวที่จะจัดการกับเชื้อโรค แผลเพียงนิดเดียวก็อาจจะทำแกทรุดหนักได้ แกถึงต้องการการดูแลเป็นพิเศษไงครับ"
เจนจิราทำเป็นเศร้าพูดว่ามาร์กี้น่าสงสาร คุณแขนึกได้ถามหารจเรข ลักษมณ์ขมวดคิ้วแววตาเจ็บแค้น...ขณะเดียวกัน รจเรขฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงคนไข้ เธอรีบลุกขึ้นจะไปดูไก่ หมอเข้าประคองแล้วบอกให้ใจเย็นๆ
"หมอมีข่าวดีจะบอก อย่างแรก คุณหมอทำการผ่าตัดช่วยชีวิตคุณรุจิรัตน์พี่ชายของคุณเอาไว้ได้ ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วค่ะ"
รจเรขยิ้มโล่งอก "ขอบคุณมากค่ะ ตอนนี้พี่ไก่อยู่ที่ ไหนคะ ฉันอยากไปเยี่ยมพี่ไก่"
"เดี๋ยวก่อนค่ะ ยังมีข่าวดีอีกเรื่องนึงค่ะ...หมอเห็นคุณ เป็นลมหมดสติ เลยพยายามตรวจหาสาเหตุว่าคุณเป็นอะไร ยินดีด้วยนะคะ คุณกำลังตั้งครรภ์" หมอยิ้มแสดงความยินดี
แต่รจเรขกลับตกใจนิ่งอึ้งอยู่นาน จนเจษฎาเข้ามาเห็นเธอนิ่งเฉยจึงเขย่าแขนเรียก รจเรขสะดุ้ง เจษฎาถามอีกครั้ง รจเรขรีบตอบ หมอบอกว่าเธอเป็นโรคโลหิตจาง เลยเป็นลมบ่อย เจษฎาชวนให้กลับบ้านไปพักผ่อน แล้วพรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมไก่ รจเรขเห็นด้วยเพราะอยากกลับไปบอกลักษมณ์แต่ก็หวั่นใจนิดๆ...
กลับถึงบ้าน รจเรขเห็นบ้านเงียบก็แปลกใจ เจอแย้มจึงรู้ว่ามาร์กี้อยู่โรงพยาบาล เธอตกใจมากรีบตามไปที่โรงพยาบาล... ขณะนั้น มาร์กี้นอนให้ออกซิเจนอยู่ ยังไม่ได้สติ เสียงสัญญาณเตือนที่หัวเตียง ทุกคนที่เฝ้าอยู่พากันตกใจ ลักษมณ์กับพิมานลุกขึ้นวิ่งชนกันจะไปตามหมอ พอดีหมอวิชิตกับพยาบาลวิ่งเข้ามา หมอสั่ง "หัวใจเต้นอ่อนมาก ให้ยากระตุ้นหัวใจเร็ว"
หมอวิชิตกับพยาบาลเร่งรีบช่วยมาร์กี้จนการเต้นของหัวใจกลับเป็นปกติ ลักษมณ์ถามว่าทำไมอาการทรุดลงแบบนี้ หมอวิชิตตอบว่า "ที่อาการมาร์กี้ทรุดลง เพราะภูมิต้านทานในตัวแกต่ำมาก โรคลูคีเมียทำให้คนไข้อ่อนแอ แต่ที่เป็นอันตรายจริงๆคือโรคแทรกซ้อน เดี๋ยวพี่จะลองเปลี่ยนยา เผื่อจะช่วยให้ แกดีขึ้น แต่พี่ก็อยากให้แกเผื่อใจเอาไว้บ้าง..."
ทุกคนเศร้าเสียใจ รจเรขมาถึงพอดี หน้าตาตื่นเข้ามาถามอาการมาร์กี้ ลักษมณ์มองเธออย่างผิดหวัง พูดประชด "ยังไม่ตาย แกไข้ขึ้นสูงมาก ดีว่าคุณแย้มโทร.มาบอกผม เราพาแกมาโรงพยาบาลได้ทัน แต่ถ้าทิ้งไว้นานกว่านี้ ก็ไม่แน่"
รจเรขรู้ว่าลักษมณ์โกรธที่เธอทิ้งมาร์กี้ไป จะอธิบายเหตุผล แต่ลักษมณ์ตะคอกสวน "ไม่ต้องพูด...ผมรู้ว่าคุณออกไปกับนายเจษฎา ผมอนุญาตให้คุณออกไปพลอดรักกันได้ก็จริง แต่ไม่ใช่ทิ้งให้ลูกผมนอนป่วยปางตายแบบนี้"
คุณแขปรามให้ลักษมณ์ใจเย็น เจนจิราเข้ามาเกาะแขนยุแหย่ "นั่นสิคะ ลักษมณ์ขา จะไปว่าคุณรจเรขก็ไม่ถูกหรอกค่ะ ระหว่างลูกติดสามีเก่ากับว่าที่สามีใหม่ คุณรจเรขก็ต้องสนใจอย่างหลังมากกว่า"
"เรื่องของดิฉัน ไม่เกี่ยวกับคุณ คุณอย่ายุ่งดีกว่า" รจเรขไม่พอใจ
"ทำไม เจนเค้าพูดแทงใจดำหรือยังไง คุณทิ้งมาร์กี้ไปหาไอ้เจษฎา มาร์กี้รักคุณ เพ้อหาแต่คุณ แต่คุณไม่รักแกเลย ไม่สนใจเลยว่าแกจะเป็นยังไง" ลักษมณ์เข้าข้างเจนจิรา
รจเรขจะบอกความจริงแต่ลักษมณ์ขาดสติไม่ฟังอะไร กลับพูดว่าเธออย่างรุนแรง หาว่าเพราะเธอเกลียดเขาแล้วไปลงกับมาร์กี้ แถมเขย่าตัวเธอถามว่า ถ้าเป็นลูกของเธอกับเจษฎา คงไม่ทำแบบนี้ รจเรขทั้งเจ็บและเป็นห่วงลูกในท้อง ร้องให้เขาปล่อยเธอ พิมานเข้ามาช่วย ลักษมณ์โมโหผลักรจเรขไปกระแทกผนัง เธอทรุดลงไปกองกับพื้น พิมานเข้าประคอง คุณแขตกใจ ลักษมณ์ได้สติเสียใจ ส่วนเจนจิราแอบยิ้มสะใจ
พิมานยืนมองรจเรขที่นอนหลับน้ำตาไหลอยู่บนเตียงคนไข้ เขาแตะมือเธอเบาๆ เธอเมินหน้าหนีไม่ลืมตา พิมานจึงปลอบใจว่าอย่าโกรธลักษมณ์เลย เพราะเวลาโกรธก็พาลแบบนี้ รจเรขหันกลับมาน้ำตาไหลพราก "ฉันรักมาร์กี้ ฉันไม่ได้ทิ้งแก ฉันไม่เคยคิดอยากให้มาร์กี้เป็นอะไร"
"ผมทราบ แต่พี่ลักษมณ์เองก็รักมาร์กี้มาก รักมาก ห่วงมาก จนทำให้ลืมตัวไป"
รจเรขไม่ตอบแต่นิ่งคิดว่า ทำไมเธอจะไม่เข้าใจ ในเมื่อเธอก็รักลูกของเธอ แล้วหวนคิดภาพที่เจนจิราเกาะแขนลักษมณ์ จึงคิดในใจว่า "เขามีคนใหม่แล้ว เขาจะมาสนใจอะไร เขาอาจจะไม่เชื่อด้วยซ้ำว่าเด็กในท้องเราเป็นลูกของเขา"
รจเรขเอามือลูบท้อง ตัดสินใจเด็ดเดี่ยวว่าจะไม่เอาลูกไปผูกมัดลักษมณ์...
ooooooo
วันต่อมา พิมาน คุณแขไปทำบุญกับณัฏฐาและคุณหญิงศรีสวัสดิ์ที่วัด หลวงพ่อเทศน์ให้ฟังว่า การเกิด เจ็บ ตาย เป็นเรื่องธรรมดาของโลก ถือเป็นการหลุดพ้น บางทีจะได้เกิดใหม่มีชีวิตที่ดีกว่าที่เป็นอยู่ พิมานยิ่งเศร้ารู้สึกผิด จนณัฏฐาสังเกตได้...พิมานหลบมานั่งร้องไห้ใต้ต้นไม้ ณัฏฐาตามมาได้ยินเขาบ่นว่าเป็นคนทำให้ชีวิตมาร์กี้เป็นแบบนี้ จึงเข้ามาถาม
"ทำไมคุณพิมานพูดอย่างนั้นล่ะคะ"
พิมานสะดุ้ง รีบเช็ดน้ำตา ณัฏฐาขอโทษและบอกว่าคุณแขให้เธอมาตามไม่ได้ตั้งใจมาแอบฟัง แล้วเลยถามว่าทำไมเขาถึงคิดอย่างนั้น พิมานคร่ำครวญ "ผมผิดที่ทอดทิ้งแก ถ้าผมรักแล้วก็ดูแลแกอย่างที่ผมควรจะทำ เราคงจะรู้ว่าแกไม่สบาย เราอาจจะรักษาแกได้ทัน"
ณัฏฐาฟังแล้วสะกิดใจ พิมานยังคร่ำครวญ
"มาร์กี้เกิดมาอาภัพ แม่แท้ๆก็ไม่ใส่ใจ พ่อแท้ๆก็ไม่เคยเลี้ยงดู ถ้าย้อนเวลากลับไปได้ ผมจะไม่ให้มันเป็นแบบนี้เลย..."
อาการแพ้ท้องของรจเรขหนักขึ้น เธออาเจียนโอ้กอ้าก อยู่ในห้อง ขณะที่ลักษมณ์เก็บของจำเป็นของมาร์กี้อยู่อีกห้องจะเอาไปให้ที่โรงพยาบาล ชื่นเข้ามาตามรจเรข เห็นเธอหน้าซีดมากก็ตกใจ รจเรขโกหกว่าเธอคงเพลียมากไป ให้ไปบอกลักษมณ์ว่าเธอขออาบน้ำสักหน่อย ชื่นมารายงาน ลักษมณ์หาว่ารจเรขคงไปกับเจษฎาจนเพลีย...
ไม่ทันไร รจเรขเดินลงมา
"ฉันเสร็จแล้วค่ะ ไปกันเลยไหมคะ"
แย้มเข้ามาชวนให้ทั้งสองคนทานข้าวกลางวันก่อน แย้มทำข้าวคลุกกะปิที่ลักษมณ์ชอบ รจเรขได้กลิ่นแล้วพะอืดพะอม ลักษมณ์เห็นก็หาว่าชักสีหน้าไม่อยากร่วมโต๊ะกับเขา รจเรขลุกเดินหนีเพราะเกรงลักษมณ์จะจับได้ ลักษมณ์ไม่พอใจบ่นกับแย้ม
"ดู เดี๋ยวนี้แตะนิดแตะหน่อยไม่ได้เลย คงเห็นว่าลูกเราต้องง้อเขาล่ะมั้ง"
แย้มอ่อนใจ แต่ชื่นมองตามรจเรขอย่างเป็นห่วง ตามไปดูได้ยินเสียงเธออาเจียนอย่างหนัก จึงเข้ามาช่วยลูบหลังแล้วประคองให้นั่ง รจเรขรีบบอกว่าเธอเป็นโรคกระเพาะเท่านั้น ให้ชื่นมาบอกลักษมณ์ซึ่งยืนรออยู่ที่รถว่า เธอจะตามไปทีหลัง ลักษมณ์โกรธตะโกนเสียงดัง
"เป็นอะไร เดี๋ยวนี้นั่งรถคันเดียวกันไม่ได้แล้วเหรอกลัวแฟนใหม่จะหึงหรือยังไง"
"คุณผู้หญิงท่าทางไม่ค่อยสบายน่ะค่ะ อาจจะอยากพัก" ชื่นตอบเบาๆอย่างกลัวๆ
"อยากพักหรือไม่อยากไปกันแน่ ที่จริงไม่เต็มใจก็น่าจะบอกตรงๆ มาร์กี้เป็นลูกฉันไม่ใช่ลูกเขา ไม่อยากไปเยี่ยมก็ไม่มีใครบังคับอยู่แล้ว" ลักษมณ์ขึ้นรถปิดประตูโครมขับออกไป
แย้มงงไปหมด ถามชื่นว่ามันเรื่องอะไรกัน ชื่นอึดอัดใจไม่เข้าใจว่าทำไมรจเรขไม่ให้บอกลักษมณ์ว่าไม่สบายเป็นโรคกระเพาะ...รจเรขนอนซมอยู่บนห้อง เจษฎาโทร.เข้ามือถือมาบอกว่าไก่รู้สึกตัวแล้ว รจเรขดีใจถามอาการ แต่เจษฎากลับบอกว่า "เรื่องบาดแผลไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่มันมีเรื่องอื่น... เรื่องสำคัญ มันอยากเจอเราสองคนด่วน"
"กล้วยจะไปเดี๋ยวนี้ค่ะ ไม่ต้องมารับค่ะ อ้อมไปอ้อมมาเปล่าๆ ไปเจอกันที่โรงพยาบาลเลยเร็วกว่า...ค่ะ เดี๋ยวเจอกัน"...
รจเรขกับเจษฎามายืนข้างเตียงไก่ ฟังหมอพูดถึงอาการที่ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง สองสามวันกลับบ้านได้ แต่ที่เป็นเรื่องคือ ไก่โดนลอบยิง ตำรวจต้องเข้ามาสอบปากคำ ไก่รู้ว่าเป็นฝีมือเสี่ยโอภาส แต่ไม่อยากให้เป็นเรื่องอีกจึงบอกตำรวจว่าเขาไม่เห็นหน้าคนยิง เจษฎารู้ว่าไก่โกหก ไก่จึงบอกว่า เขาไม่อยากให้เดือดร้อนไปถึงคุณยายและรจเรข...เจษฎานึกได้ว่า รจเรขไม่ค่อยสบาย จึงแนะว่ามาถึงโรงพยาบาลแล้วให้ไปให้หมอตรวจ เธอจึงขอไปเองคนเดียว เจษฎามองตามรจเรขที่ดูลุกลี้ลุกลนชอบกล
ผลออกมาว่า รจเรขท้องได้เจ็ดสัปดาห์แล้ว หมอให้รีบฝากท้องเพื่อความปลอดภัยของเด็ก แต่รจเรขขอเวลาอีกหน่อย
ooooooo
มาร์กี้นอนหลับอยู่ พิมานมายืนมองเศร้าๆ เอามือลูบหัวเบาๆ มาร์กี้ลืมตามองร้องเรียกแด้ดดี้ แต่พอกะพริบตาเห็นว่าเป็นพิมานยืนยิ้มดีใจ "หนูเรียกอะไรนะ เรียกใหม่สิลูก"
"มาร์กี้เรียกคุณอาว่าแด้ดดี้ มาร์กี้เรียกผิดค่ะ"
"ไม่เป็นไรจ้ะ มาร์กี้เรียกอาว่าแด้ดดี้ก็ได้"
มาร์กี้ส่ายหน้า พอดีลักษมณ์เดินมา จึงชี้ที่อกลักษมณ์
"ไม่ได้ค่ะ มาร์กี้มีแด้ดดี้คนนี้คนเดียว...แด้ดดี้ไปไหน
มาคะ มาร์กี้ตื่นมาเจอแต่คุณอาพิมาน นึกว่าแด้ดดี้กลับไปแล้วซะอีก"
มาร์กี้คุยจ้อกับลักษมณ์ ทำให้พิมานรู้สึกกลายเป็นคนนอก ต้องถอยออกมาอย่างเศร้าๆ...ลักษมณ์เดินตามมาเจอพิมานนั่งเสียใจอยู่ในสวนของโรงพยาบาล จึงถามว่าคิดจะทำอะไร พิมานตัดสินใจขอลักษมณ์บอกความจริงมาร์กี้ว่า เขาเป็นพ่อ เขาอยากได้ยินมาร์กี้เรียกเขาว่าพ่อสักครั้ง แต่ลักษมณ์ไม่ยอม "แกเลือกที่จะปฏิเสธมาร์กี้ตั้งแต่เกิด แกจะมาเปลี่ยนใจตอนนี้ไม่ได้"
"แต่พี่ลักษมณ์ครับ มาร์กี้เป็นลูกผม เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของผม"
"มาร์กี้เป็นเลือดที่แกตัดทิ้ง ตั้งแต่วันแรกที่ลืมตาดูโลก และฉันไม่มีวันยอมให้แกทำร้ายจิตใจมาร์กี้ด้วยการบอกความจริงเรื่องนี้ อย่าบังอาจแม้แต่จะคิด พิมาน" ลักษมณ์พูดด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด ทำให้พิมานร้องไห้เสียใจ...
เห็นรจเรขหายไปนาน เจษฎาเดินหามาเจอเธออยู่ข้างตู้กดน้ำ กำลังทานยา เขาเรียกเธอทำให้เธอสะดุ้งรีบเก็บยาใส่ถุงกลัวเจษฎาเห็นว่าเป็นยาแก้แพ้ท้อง เจษฎาชวนรจเรขกลับบ้าน เพราะไก่หลับไปแล้ว และถามว่าตกลงเป็นโรคอะไร รจเรขตอบว่า โรคกระเพาะ เจษฎาพยักหน้ารับรู้ แต่เหลียวมองป้ายแผนกสูตินรีเวช รู้สึกสะกิดใจนิดๆ...
บ่ายแก่ๆลักษมณ์กลับมาบ้าน แย้มแปลกใจที่รจเรขทำไมไม่กลับมาด้วย ลักษมณ์จึงถามว่ารจเรขไม่อยู่บ้านหรือ เพราะที่โรงพยาบาลก็ไม่ได้ไป ลักษมณ์โกรธเข้าใจว่าเธอไม่สนใจมาร์กี้ แต่ความจริง รจเรขกลับจากไก่ก็ไปหามาร์กี้เลย เธอบอกมาร์กี้ว่าเธอไปธุระจึงมาช้า มาร์กี้ฟ้องว่าลักษมณ์หน้างอทั้งวัน รจเรขกอดมาร์กี้รู้สึกว่าตัวร้อน จึงรีบเรียกพยาบาลและหมอ
ลักษมณ์กับคุณแขรีบมาที่โรงพยาบาล เห็นรจเรขกระสับกระส่ายอยู่หน้าวอร์ด คุณแขถามว่ามาร์กี้อยู่ไหน รจเรขตอบว่า หมอวิชิตกำลังตรวจ เพราะไข้ขึ้นสูงท่าทางไม่ค่อยดี หมอวิชิตเดินมาหน้าตาเคร่งเครียด ทุกคนกรูเข้าไปหา
"ลักษมณ์ มาร์กี้เริ่มมีจุดแดงขึ้นตามตัวแล้ว มีเลือดออกตามไรฟันด้วย แกโลหิตเป็นพิษ เราต้องถ่ายเลือดด่วนที่สุด"
"จัดการเลยครับพี่หมอ ทำยังไงก็ได้ขอให้ลูกผมหาย"
หมอวิชิตรับปากอย่างหนักใจ พยาบาลเข้ามาบอกว่า เลือดกรุ๊ป AB มีไม่พอ ทางธนาคารเลือดจะส่งมาให้แต่คงเป็นชั่วโมงๆ หมอวิชิตว่ารอนานขนาดนั้นไม่ได้ รจเรขรีบบอกลักษมณ์ให้ให้เลือดมาร์กี้เพราะเป็นพ่อ แต่ลักษมณ์กลับบอกว่า เขาจะตามพิมานมาให้เลือดมาร์กี้ ทุกคนแปลกใจที่พิมานมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับมาร์กี้ แทนที่จะเป็นลักษมณ์
ท่าทางทุกคนเป็นห่วงมาร์กี้ รจเรขสะท้อนใจ "ถึงมาร์กี้จะเป็นลูกนอกสมรส แต่แกยังโชคดีที่มีพ่อ มีแม่ครบถ้วน มีญาติพี่น้องห่วงใยดูแล แต่เด็กบางคนไม่มีใครรับรู้ ไม่มีใครสนใจ ไม่มีเลยซักคน" รจเรขเอามือลูบท้องรำพันกับตัวเองอย่างอ่อนล้า...
พิมานให้เลือดไม่ยอมหยุด จนหมอวิชิตขอให้พอเพราะมันอันตราย แต่พิมานเกรงไม่พอ ไม่ทันไรเขาก็หมดสติ ไป...รจเรขซบหลับอยู่ที่โซฟา ลักษมณ์เข้ามามองด้วยแววตายังรักใคร่ เอามือเขี่ยผมที่ปรกหน้าเธอ รจเรขรู้สึกตัวรีบถามอาการมาร์กี้ ลักษมณ์ตอบว่าเลือดที่พิมานให้ไม่พอ ต้องรอเลือดจากธนาคารเลือดเพิ่ม รจเรขลุกขึ้นจะไปดูมาร์กี้
"ไม่ได้ ตอนนี้พี่หมอดูแลอยู่ เราทำได้แค่รอฟังข่าวอยู่ข้างนอก ท่าทางคุณเพลียมาก กลับบ้านไปก่อนก็ได้"
"ฉันอยากอยู่ตอนที่แกรู้สึกตัว"
"เราไม่รู้ว่าแกจะฟื้นเมื่อไหร่ คุณกลับไปบ้านก่อนเถอะ ผมให้พุฒเอารถมารับคุณแข คุณกลับไปพร้อมคุณแขดีกว่า ถ้าแกฟื้น ผมจะรีบโทร.ไปตาม"
รจเรขยอมกลับไป...ในขณะที่พิมานตื่นขึ้นมา พบณัฏฐานั่งเฝ้าอยู่ข้างเตียง เขารีบลุกจะไปดูมาร์กี้ แต่หน้ามืดเซ ณัฏฐารีบประคองพาไป เห็นลักษมณ์ยืนมองหมอกับพยาบาลกำลังวิ่งวุ่นจึงถามว่าเกิดอะไรขึ้น ลักษมณ์ตอบว่า "มาร์กี้อาการแทรกซ้อน แกทำใจดีๆไว้นะ"
"แกเป็นอะไรครับ พี่หมอ มาร์กี้เป็นอะไร" พิมานเห็นหมอวิชิตเดินมา
"ไตวายเฉียบพลัน เรากำลังจะฟอกไตให้แก พี่ขอตัวก่อน" หมอวิชิตพูดจบสั่งพยาบาลเข็นมาร์กี้ไปห้องไอซียู
ลักษมณ์กับพิมานจับมือมาร์กี้ไว้คนละข้าง ปลอบใจให้เธอเข้มแข็ง มาร์กี้พึมพำว่าเธอรักแด้ดดี้ พิมานมือตกน้ำตาไหลพราก ณัฏฐาปลอบพิมานว่ามาร์กี้ต้องปลอดภัย
ooooooo
ขณะนั้น รจเรขนอนหลับอยู่ที่บ้าน เธอฝันว่ามาร์กี้ในชุดกระโปรงขาวสวยเหมือนนางฟ้าเอาดอกมะลิมาแหย่จมูกเธอจนเธอตื่น และบอกว่าจะขอกลับมาอยู่ด้วย รจเรขลุกขึ้นกอดมาร์กี้ ทันใดร่างมาร์กี้ก็ เลือนหายไป รจเรขสะดุ้งตื่นเปิดไฟดูนาฬิกาเห็นว่าเป็นตีสาม ก็โล่งอกที่ฝันไป
หน้าห้องไอซียู ลักษมณ์ พิมาน และณัฏฐานั่งเศร้าอยู่ พิมานคร่ำครวญ "ผมผิดเอง มาร์กี้ต้องมาเป็นอย่างนี้เพราะผม ถ้ามาร์กี้เป็นอะไรไป ผมจะไม่ให้อภัยตัวเองเลย"
"คุณทำดีที่สุดแล้วค่ะ คุณให้เลือดกับมาร์กี้ไปจนเกือบหมดตัว หมอก็ถ่ายเลือดให้แกอย่างเร็วที่สุดแล้ว" ณัฏฐาปลอบใจ
แต่พิมานว่าเธอไม่เข้าใจ ลักษมณ์บอกให้พิมานหยุดคร่ำครวญ เรื่องมันเลยมาถึงขนาดนี้แล้ว พลันหมอวิชิตเดินออกมา ลักษมณ์พุ่งเข้าไปถามว่ามาร์กี้ปลอดภัยแล้วใช่ไหม แต่หมอวิชิตกลับบอกว่า เขาพยายามแล้วแต่ไม่สำเร็จ พิมานร้องไห้วิ่งเข้าไปดูมาร์กี้ ณัฏฐาวิ่งตามไป พิมานร้องไห้โฮ
กอดร่างมาร์กี้ ลักษมณ์เดินเข้ามาอย่างสงบดึงพิมานให้ปล่อยมาร์กี้ แล้วเขาเข้ามาลูบหน้าลูบตามาร์กี้น้ำตาไหลพราก "ไปดีนะลูก ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้มาเกิดมีครบทั้งพ่อและแม่ อย่าอาภัพเหมือนชาตินี้เลย"
ณัฏฐาพลอยเศร้าขอให้มาร์กี้หลับให้สบาย พิมานร้องไม่...โผเข้ากอดมาร์กี้ร้องไห้ "มาร์กี้...มาร์กี้ลูกพ่อ ยกโทษให้พ่อด้วย พ่อขอโทษ..."
ลักษมณ์กลับมาบ้าน เคาะประตูแล้วเข้ามาในห้องรจเรข "ขอโทษที่มารบกวน แต่นี่คงเป็นการรบกวนครั้งสุดท้ายแล้ว"
"คุณลักษมณ์ คุณร้องไห้ มาร์กี้เป็นยังไงบ้างคะ"
"มาร์กี้...มาร์กี้ตายแล้ว" ลักษมณ์พูดอย่างยากลำบาก
รจเรขตกใจพูดไม่ออก ลักษมณ์จึงบอกให้อาบน้ำ แล้วไปจัดการเรื่องศพกัน จะสวดสามวันแล้วเผาเลย "ผมคงจะรบกวนให้คุณทำหน้าที่แม่เลี้ยงของแกเป็นครั้งสุดท้าย แล้วผมจะไม่รบกวนคุณอีกเลย"
พูดจบ ลักษมณ์เดินออกไป ปล่อยให้รจเรขน้ำตาไหลพราก ทั้งสะเทือนใจทั้งเสียใจ...พอลักษมณ์โทร.บอกเจนจิรา เธอแสดงความเสียใจ แต่พอวางสายก็หันมาหัวเราะดีใจกับจอย และเตรียมแต่งตัวให้สวยเริ่ดไปงานศพ เพราะงานนี้ญาติพี่น้องลักษมณ์คงมามาก
คุณแขถามหาพวงมาลัยที่จะวางหน้าศพ ชื่นรายงานว่ารจเรขขอร้อยเอง ลักษมณ์เห็นรจเรขหน้าซีดก็พูดว่า เขาคงรบกวนเธอมากเกินไป แต่ก็ขอบคุณแทนมาร์กี้ด้วย รจเรขสะเทือนใจ ในขณะที่พิมานยืนดูลักษมณ์ทำอะไรต่ออะไรให้มาร์กี้ด้วยสายตาเจ็บปวด เพราะมันควรจะเป็นเขาที่เป็นคนทำ...คุณหญิงศรีสวัสดิ์กับณัฏฐาถือพวงหรีดเข้ามาแสดงความเสียใจ พิมานยิ่งช้ำใจที่เห็นใครๆปลอบลักษมณ์ทั้งๆที่ควรจะเป็นเขา
รจเรขดูแลข้าวต้มในโรงครัว เธอบอกแย้มว่ามันกะทันหันคงมีคนมาไม่มาก แต่แย้มเห็นว่าพวกคุณหญิงคุณนายคงจะมามาก ลักษมณ์เดินเข้ามาบอกแย้มว่า เขาไม่ได้บอกใครเท่าไหร่ เพราะไม่มีใครรู้จักมาร์กี้ แล้วหันมาชวนรจเรขออกไปรับแขก ...ไม่ทันไร เจนจิรากับจอยเดินเข้ามาด้วยชุดสุดเริ่ด พร้อมพวงหรีดอันใหญ่ เจนจิราเข้ามาแทรกกลางระหว่างลักษมณ์กับรจเรข
"คุณลักษมณ์มีคนช่วยแล้ว ดิฉันขอตัวไปดูข้าวต้มก่อนนะคะ" รจเรขเลี่ยงออกไป
จอยสั่งพุฒให้มารับพวงหรีดไป พุฒรับมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจ แล้ววางไว้หลังเพราะมันใหญ่มาก จอยโวยวายให้เอามาไว้ข้างหน้า คุณแขเดินมาจัดการ "มันจะมากไปแล้วมั้ง คุณเป็นแค่แขกที่มาร่วมงาน ให้มันรู้จักมารยาทบ้างค่ะ เจ้าของงานเขาบอกให้ทำอะไร ก็ควรจะทำตามนั้น"
"แต่เจนจิราเพื่อนดิฉัน..." จอยจะแย้ง
"ถ้าเป็นงานศพของแม่เจนจิรา เธออยากจะวางพวงหรีดให้เด่นขนาดไหนฉันไม่ว่า แต่ถ้าขืนมาวุ่นวายที่นี่ ฉันจะให้ พุฒเอาไปโยนทิ้งจริงๆด้วย"
จอยไม่กล้าโวยเพราะเกรงใจที่คุณแขเป็นแม่ ถึงจะแค่แม่เลี้ยงก็เถอะ...ท่านนพพรมาถึงแปลกใจว่าเจนจิราเป็นใครมายืนคู่กับลักษมณ์ เจนจิรารีบเชื้อเชิญให้เข้าไปในงาน คุณแขเดินมาขวาง "เธอเป็นแขกไม่ใช่เจ้าภาพ ไปนั่งพักเถอะเจนจิรา ฉันจะรับแขกเอง"
เจนจิราหน้าตึงมองคุณแขที่พาท่านนพพรเข้าไปในงาน แล้วยักไหล่ไม่สนใจกลับมายืนคู่ลักษมณ์ต่อ ลักษมณ์ ได้แต่อ่อนใจ...ณัฏฐาแปลกใจที่พิมานหายไป จึงเดินหา พอดีกระดาษภาพวาดที่มาร์กี้วาดให้พิมานปลิวมา จึงเก็บไปส่งให้พิมาน แล้วถามด้วยความสงสัยว่าระหว่างเขากับมาร์กี้มีอะไรกันแน่ พิมานสะดุ้งย้อนถามทำไมถามแบบนี้
"ตั้งแต่มาร์กี้ไม่สบาย คุณก็ดูเป็นห่วงเป็นใยแกมาก แล้วพอคุณรู้ว่าแกจะต้องไปคุณก็เสียใจมาก คุณเอาแต่พูดว่าคุณทำผิดต่อแก คุณทำร้ายแก คุณทำอะไรลงไปคะ บอกฉันได้ไหม"
พิมานพูดไม่ออก "คุณ...อย่ารู้เลยครับ มันเลวร้ายกว่าที่คุณคิดมาก"
ณัฏฐาบอกว่ามันคงเลวร้ายมาก ยิ่งเขาเก็บมันเอาไว้ก็ยิ่งทรมานใจ พิมานครุ่นคิดตัดสินใจจะบอก เผอิญจิตวิ่งมาตามให้กลับเข้าไปในงาน พิมานถอนใจ...ณัฏฐาเข้ามาช่วยรจเรขในโรงครัว เจนจิราเข้ามายิ้มเยาะวางท่าสั่งให้รจเรขชงกาแฟให้ แย้มไม่ยอมให้รจเรขทำ สั่งชื่นกับพุฒจัดการทำให้
เจนจิรากับจอย สองคนจึงแกล้งใส่เกลือแทนน้ำตาลให้ สองสาวร้องลั่นขอน้ำ ชื่นส่งแก้วน้ำผสมน้ำส้มสายชูให้ดื่ม สองสาวดื่มแล้วต้องวิ่งไปอาเจียนร้องโวยวาย
รจเรขเริ่มพะอืดพะอมจะอาเจียนไปด้วย ณัฏฐาเห็นอาการก็เป็นห่วงเข้าประคองพัดวี รจเรขให้ชื่นไปเอากระเป๋าบนศาลา พิมานพาเจษฎามานั่งจึงถามชื่นว่ารจเรขอยู่ไหน พอรู้ว่าไม่สบายก็รีบมาดู เจษฎาเอาน้ำให้รจเรขทานยา และพาไปนั่งที่โปร่งๆ เขาชักสงสัยจึงพูดเป็นนัยๆ
"กล้วยต้องพักผ่อนบ้าง พี่รู้ว่ากล้วยรักมาร์กี้ แต่กล้วยก็ต้องรักตัวเองด้วย กล้วยไม่ได้มีตัวคนเดียวเหมือนเมื่อก่อนแล้วนะ"
รจเรขสะดุ้งสุดตัว "พี่...เจษ...ว่าอะไรนะคะ"
"เดี๋ยวนี้กล้วยมีพี่อีกคนไง พี่รักกล้วย ถ้ากล้วยไม่สบาย พี่ก็พลอยไม่สบายไปด้วยจริงมั้ย"
รจเรขโล่งอก...ลักษมณ์มาเห็นไม่พอใจ เข้ามาบอกให้ เธอขึ้นไปสวดศพ รจเรขเดินตามเขาไปอย่างโรยๆ ลักษมณ์บอกเธอว่าสวดจบแล้วให้พักผ่อนไม่ต้องทำอะไรอีก รจเรขบอกว่า
เธอไม่ได้เป็นอะไร เธอเต็มใจช่วย ลักษมณ์เหลือบมองเจษฎาแล้วพูดเปรยๆให้ได้ยิน
"ขอบคุณ ครั้งนี้จะเป็นการทำหน้าที่ครั้งสุดท้าย หวังว่าคุณคงเข้าใจ..."
เจนจิราไม่พอใจที่คุณแขจัดให้รจเรขนั่งแถวหน้าคู่กับลักษมณ์ ส่วนเธอต้องอยู่แถวหลังๆ จอยบ่นว่า นึกว่าหมดก้างขวางคอ ยังมีแม่เลี้ยงมาเป็นมารอีก...ลักษมณ์กระซิบกับรจเรขว่าท่าทางเจษฎาจะเป็นห่วงเธอมาก รจเรขไม่รู้ว่าลักษมณ์จะมาไม้ไหน จึงตอบกลางๆว่าเจษฎาดีกับ
เธอมาก ลักษมณ์ทำเป็นแสดงความยินดีด้วยที่เธอจะได้มีความสุขเสียที "เขาคงดูแลคุณได้ดีกว่าคนอย่างผม คุณโชคดีแล้วนะ"
"เหรอคะ..." รจเรขมองลักษมณ์ด้วยความน้อยใจก่อนจะกล่าวขอบคุณ
ooooooo










