สมาชิก

สวรรค์สร้าง

ตอนที่ 14

เช้าวันรุ่งขึ้น พอนักคิดรู้สึกตัวเขาถามนิมมานว่าตนเป็นอะไร นิมมานบอกว่านักรบส่งคนมาทำร้ายเขา นักคิดจึงนึกได้พึมพำ "ไอ้นักรบ!"

แต่พอเขาจะขยับตัว ปรากฏว่าขยับเท้าไม่ได้จับดูก็ไม่รู้สึกอะไรเลย นักคิดโวยวายลั่นห้อง

"แม่...ผมไม่รู้สึกอะไรเลย ทำไมมันเป็นแบบนี้...ทำไม!"

สอง แม่ลูกต่างรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับขาของนักคิดเจ้าตัวโวยวายอย่างรับไม่ได้กำ หมัดแน่น นิมมานร้องไห้โฮแล้วหันไปโวยวายใส่หมอว่าจะไม่ยอมให้ลูกตนพิการเด็ดขาด หมอต้องรักษาลูกตนให้หาย

"ทางเราจะรักษาสุดความสามารถครับ หมอคาดว่าการทำกายภาพบำบัดน่าจะทำให้คนไข้กลับมาขยับขาได้บ้าง" หมอชี้แจง

"ฉัน ไม่ต้องการแค่ขยับ แต่ฉันต้องการให้ลูกฉันกลับมาเป็นเหมือนเดิม!" นิมมานร้องไห้โฮๆ ทรุดลงที่เตียงของนักคิด จนหมอกับพยาบาลไม่รู้จะทำอย่างไรจึงพากันเดินออกไป

"แม่อย่าร้องไห้" นักคิดกำมือแน่นด้วยความโกรธแค้น "ถึงผมจะเป็นแบบนี้แต่ผมไม่มีทางยอมแพ้ไอ้นักรบเด็ดขาด!"

นิมมาน และนักคิดต่างนึกถึงความแค้นในอดีตที่มีต่อนักรบ เวลานั้นทั้งสองอยู่ในวัยเด็ก นักคิดชอบเล่นหุ่นยนต์ แต่นักรบหมกมุ่นอยู่กับการท่องศัพท์ภาษาอังกฤษ นักคิดตื่นเต้นเมื่อเห็นสมุดจดคำศัพท์ของนักรบถามว่าท่องได้หมดนี่เลยหรือ เก่งจัง

"แน่นอนอยู่แล้ว" นักรบตอบอย่างผยอง นักคิดมอง พี่ชายอย่างชื่นชมบอกว่าจะเอามาอ่านบ้างดีกว่าเผื่อจะเก่งเหมือนพี่  นักรบปรามาสว่า  "อย่าพยายามเลย  เราไม่มีทางเก่งได้เท่าพี่หรอก เพราะ...พี่เก่งที่สุด"

นิมมานยืนดูและฟังการสนทนาของสองพี่น้อง มองนักรบอย่างไม่พอใจ พึมพำอย่างหมายมาด

"สักวัน ลูกชายฉันจะเก่งกว่าแกให้ได้นักรบ!"

ครั้น โตขึ้นกว่านั้น เมื่อนายิกาพานักรบไปที่ไทเกอร์คิงสองแม่ลูกได้รับการต้อนรับอย่างนอบน้อม พินอบพิเทาจากบรรดาพนักงาน แต่พอนิมมานจูงนักคิดเดินตามไป กลับไม่ได้รับความสนใจจากพนักงานเท่าไรนัก

นายิกาพานักรบไปชี้ให้ดู ห้องหนึ่งบอกว่า ต่อไปห้องนี้จะเป็นห้องทำงานของลูก นักรบถามอย่างกระตือรือร้นว่าตนจะได้เข้ามาทำงานที่ไทเกอร์คิงเมื่อไร

"ทันทีที่ลูกเรียนจบปริญญาโทและเมื่อลูกพร้อมแม่จะให้ลูกขึ้นเป็นประธานบริษัทไทเกอร์คิงทันที"

นักรบถามว่าคนทั่วไปเขาเรียนจบกันตอนอายุเท่าไร เลขาของนายิกาบอกว่าถ้าปริญญาโทก็อายุประมาณ 26-27 ปี

"ช้า เกินไป!" นักรบโพล่งออกมาแล้วมองหน้านายิกา "ผมไม่มีทางใช้เวลานานขนาดนั้น ผมจะต้องได้เป็นประธานบริษัทที่อายุน้อยที่สุดให้ได้" นักรบแววตามุ่งมั่นเด็ดเดี่ยวเกินวัย

พนักงานที่ได้ยินต่างพากันทึ่ง แต่นายิกากลับยิ้มพอใจในความเด็ดเดี่ยวของลูกและเชื่อว่าลูกทำได้!

ตลอดเวลาที่โตมาด้วยกัน นักคิดชื่นชมนักรบว่าเก่งถามแม่ว่าทำอย่างไรตนจะเก่งได้เหมือนพี่นักรบ นิมมานปลูกฝังความคิดให้ลูกตลอดมาว่า

"เลิกคิดได้แล้วว่าอยากเก่งเหมือนมัน ลูกแม่ต้องเก่งกว่ามัน!! สัญญากับแม่ว่าลูกจะต้องชนะไอ้นักรบให้ได้"

คำ พูดของนิมมานทำให้นักคิดสัญญาว่าจะต้องชนะนักรบให้ได้ เมื่อนิมมานสั่งนักคิดให้เลิกเรียกนักรบว่าพี่ เขาก็ทำตามทันที นิมมานดึงลูกเข้าไปกอดที่สั่งลูกได้ดั่งใจ คิดแค้นอย่างอาฆาตว่า

"สักวัน พวกแกจะต้องเจ็บปวดอย่างที่ฉันเคยเจอ!"

มาวันนี้สองแม่ลูกยิ่งแค้นใจ นิมมานบอกนักคิดว่าจะทำทุกอย่างให้นายิกากับนักรบล่มจม  เราจะจัดการพวกนี้ให้สิ้นซาก!

"แม่ไม่ต้องห่วง ไอ้นักรบมันทำให้ผมเป็นแบบนี้ มันจะต้องชดใช้คืนให้ผมเป็นร้อยเท่า"

สองแม่ลูกจับมือให้กำลังใจกัน ที่จะแก้แค้นให้ได้

ooooooo

ทอง ทิวปวดหัวมากที่เจ้าอบอุ่นไม่ยอมกินอะไรเลย ทั้งที่เขาซื้ออาหารมาวางเต็มโต๊ะให้เลือกกินมันกลับนอนขดมองตาปริบๆ   จนเมื่อใกล้เวลาทำงาน

ทองทิวตัดสินใจจับเจ้าอบอุ่นขึ้นพาดบ่าเอาไปให้ดอกจันเลี้ยงแทน

เป็นเวลาที่จอมทัพกำลังทดสอบพิสูจน์ตัวเองให้อุ่นใจเห็นว่าเขาทำได้ทุกอย่างตามที่เธอต้องการ วันนี้จึงจับค้อนซ่อมโต๊ะเก้าอี้ในบ้าน

จอมทัพ จับค้อนเก้ๆกังๆ ตอกตะปูถูกบ้างผิดบ้างจนตะปูงอ ดอกจันต้องมาสอนให้ถอนตะปูตัวงอ แล้วแนะวิธีตอกตะปูให้ใหม่ แม้เขาจะพยายามทำตามให้ถูกต้องที่สุด แต่ก็พลาดจนได้ ตอกเอามือตัวเองเข้าเต็มเปาจนร้องลั่น


"ตายแล้ว เป็นอะไรรึเปล่าคะ เดี๋ยวฉันไปเอายาเอาน้ำแข็งมาประคบให้" อุ่นใจรีบมาดู

ดอกจันมาจับมือจอมทัพดูเห็นเล็บห้อเลือด เธอบอกว่าดีที่ไม่ออกแรงเต็มเหนี่ยวไม่งั้นนิ้วแตกแน่ ทองทิวมาเห็นดอกจันจับมือจอมทัพพอดี เขาปราดเข้าไปกระชากดอกจันออกมา ถามอย่างไม่พอใจ

"ยายดอกไม้จัน...เธอทำแบบนี้ได้ยังไง!"

ทั้งจอมทัพและดอกจันต่างมองกันงงๆ ต่อมาจึงรู้ว่าทองทิวหึงที่เธอไปอยู่ใกล้ชิดจอมทัพ เขาตำหนิเธอว่าทำน่าเกลียดไปเกาะแกะตีสนิทกับผู้ชาย ดอกจันถามฉุนๆว่าแล้วมันเกี่ยวอะไรกับเขาไม่ทราบ

"ก็ฉันไม่ชอบ...ฉันไม่ชอบขี้หน้าคุณจอมทัพ เขาเป็นคู่แข่งของไทเกอร์คิง" ทองทิวพาล แล้วสั่งดอกจันว่า "วันนี้เธอต้องดูแลอบอุ่นให้ฉัน ห้ามไปยุ่งวุ่นวายกับคนอื่นอีก โดยเฉพาะผู้ชาย เข้าใจไหม"

ดอกจันงงถามว่าทำไมต้องเป็นผู้ชายด้วย ทองทิวตัดบทว่าเพราะเจ้าอบอุ่นไม่ชอบ แล้วมอบอาหารและอุปกรณ์ทั้งชาม น้ำ ของเล่นของเจ้าอบอุ่นให้ดอกจัน จากนั้นควักกุญแจห้องให้สั่งเข้ม

"นี่กุญแจห้องฉัน เธอพาอบอุ่นกลับไปเลี้ยงที่ห้องฉันแล้วกัน อยู่รอจนกว่าฉันจะเลิกงาน ตกลงตามนี้นะ ฉันต้องไปทำงานแล้ว" พูดจบทองทิวเดินไปเลย ไม่อยู่ให้ดอกจันถามอะไรอีก พอดีเจ้าอบอุ่นครางเบาๆขึ้นมา ดอกจันเลยหันมาสนใจอบอุ่น ทองทิวหันมองเห็นอบอุ่นกำลังคลอเคลียดอกจันก็พึมพำพอใจ

"มีแต่เธอเท่านั้นแหละที่ฉันจะฝากอบอุ่นไว้ได้"

ooooooo

ด้วยความที่มีใจรักเจ้าอบอุ่นเหมือนกัน ทำให้ทั้งดอกจันและทองทิวต่างช่วยกันดูแลเจ้าอบอุ่น  ทองทิวเห็นถึงความมีน้ำใจใสบริสุทธิ์ของดอกจันจนกลายเป็นความรัก

คืนนี้ดอกจันพาเจ้าอบอุ่นไปรอทองทิวที่บ้าน เธอให้เจ้าอบอุ่นนอนบนโซฟาแต่ตัวเองกลับฟุบหลับอยู่ข้างๆเมื่อทองทิวมาเห็นจึงอุ้มเธอไปนอนบนเตียง เห็นความใสซื่อของดอกจันเลยอดใจไม่ได้แอบหอมไปฟอดหนึ่ง

พอดอกจันรู้สึกตัวรู้ว่าถูกขโมยหอมแก้มก็โกรธวิ่งหนีออกจากบ้านไป ทองทิวนึกว่าเธอหนีไปหาทองใบ ตามไปที่นั่นทองใบเลยรู้ว่าลูกชายแอบหอมแก้มดอกจัน เลยแกล้งให้ทองทิวตะโกนซ้ำๆว่า "ผมชอบดอกจัน" เพียงเท่านี้ ทองใบก็พอใจแล้ว เพราะตัวเองก็ลุ้นให้ทั้งสองรักกันอยู่แล้ว
เจ้าอบอุ่นยังนอนหง่าวอยู่ ไม่รู้ตัวเลยว่าได้กลายเป็นสื่อรักของทองทิวกับดอกจันไปแล้ว

ooooooo

เพื่อทำลายไทเกอร์คิงให้ได้ นิมมานยอมจ่ายเงินจำนวนหนึ่งให้เจ้าหน้าที่ไอทีของบริษัทเพื่อแลกกับไฟล์ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ของนักรบ

ครู่เดียวเจ้าหน้าที่ก็บอกว่าได้ไฟล์ในคอมพิวเตอร์ของนักรบแล้ว นิมมานสั่งทันทีว่า

"ฉันต้องการไฟล์ราคางานประมูล..."

ต่อมาข้อมูลทั้งหมดก็ตกอยู่ในมือจอมภพ เขาโทร.บอกนิมมานว่าถ้ามีอะไรเปลี่ยนแปลงให้ส่งมาอีกก็แล้วกัน จอมภพยิ้มอย่างมั่นใจพึมพำ "แกต้องพลาด...ไอ้นักรบ"

ครู่หนึ่งพิมมาเคาะประตูบอกจอมภพว่าติดต่อจอมทัพไม่ได้ ตอนบ่ายต้องมีประชุมเรื่องงานประมูล

"ไม่เป็นไร ประชุมไป ไม่ต้องรอจอมทัพ" จอมภพตัดสินใจ พิมท้วงติงว่าการประมูลครั้งนี้สำคัญมาก จอมภพ

ย้ำเสียงเข้มว่า "ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ต้องรอจอมทัพ! เพราะตอนนี้ฉันมีข้อมูลสำคัญที่จะทำให้เราชนะการประมูลแล้ว!"

จนเย็นจอมทัพเพิ่งจะทดสอบพิสูจน์ตัวเองกับอุ่นใจเสร็จ อุ่นใจขอบคุณที่วันนี้มาช่วยทั้งวัน บอกเขาว่า ที่จริงไม่จำเป็นต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้ เพราะตอนนี้ตนยังไม่พร้อมจะเปิดใจรับใครเข้ามาในชีวิต

"ผมรู้ว่าตอนนี้คุณยังไม่พร้อม...แต่ผมรอได้ผมรอคุณได้จริงๆนะอุ่นใจ ผมสัญญา ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ผมก็จะรอ" จอมทัพสัญญาอย่างจริงจัง หนักแน่นจนอุ่นใจนิ่งไป

แต่พอจอมทัพไปแล้ว อุ่นใจนั่งคิดถึงเรื่องที่ผ่านมากับนักรบที่ติดอยู่บนเกาะร้างด้วยกัน เธอก็ส่ายหน้าพูดอย่างเจ็บปวดจดจำว่า

"พอกันทีอุ่นใจ...ต่อไปนี้อย่าไปหลงเชื่อคำสัญญาของใครง่ายๆ โดยเฉพาะของผู้ชายที่ชื่อนักรบ"

ooooooo

เพื่อชัยชนะในการประมูลครั้งนี้ นักรบทุ่มเทเอาใจดารารายเต็มที่ เธอชวนเขาไปทานอาหารร้านที่อุ่นใจทำงานอยู่ เจาะจงให้อุ่นใจมาบริการ แต่อุ่นใจลาพัก เธอหยั่งเชิงนักรบว่า

"เสียดายจังเลยนะคะ ไม่งั้นเราคงได้รับการดูแลเป็นพิเศษจากอุ่นใจ"

"งั้นก็สั่งอาหารเถอะจะได้ไม่เสียเวลา" นักรบไม่รู้สึกเสียดายอะไรเพราะในสมองของเขาไม่มีคนชื่ออุ่นใจเหมือนนักรบอีกคน...

หลังทานอาหาร ดารารายชวนแวะไปดื่มไวน์ที่บ้านตนต่อ นักรบรับคำทันทีบอกว่าอยากคุยเรื่องงานประมูลอยู่พอดี

"ถ้าจะคุยกับคุณพ่อคงไม่ได้นะคะ เพราะท่านไม่อยู่ไปดูงานที่ญี่ปุ่น" ดารารายลองเชิง

"ถ้างั้นผมคงต้องคุยกับคุณแทน" นักรบตอบอย่างรู้ทัน เธอยิ้มยั่วอย่างเชิญชวน นักรบดึงเธอเข้าไปกอดซุกไซ้ด้วยอารมณ์ปรารถนารุนแรง

แต่ขณะอารมณ์กำลังเตลิดอยู่นั้น ดารารายกระซิบบอกเขาอย่างเย้ายวนว่า

"ใจเย็นๆสิคะ ดาวไม่ได้ไปไหนซะหน่อย คืนนี้จะอยู่กับคุณทั้งคืนแน่ค่ะ"

หลังจากนั้นพากันไปนั่งจิบไวน์ที่ริมสระน้ำ นักรบยังอารมณ์ค้างซุกไซ้ดารารายกระซิบถาม

"การประมูลครั้งหน้าผมคงได้รับความร่วมมือจากคุณเหมือนเดิมไหม"

"อยู่ที่คุณแล้วล่ะค่ะ ว่าจะทำให้ดาวพอใจมากแค่ไหน"

"เรื่องนั้นไม่มีปัญหา เพราะผม...ทำให้คุณพอใจมาตลอด"

นักรบเปิดฉากรุกดารารายอย่างร้อนแรง แต่พริบตาเดียวเขาก็ชะงักเมื่ออยู่ๆภาพที่นักรบอีกคนที่กอดจูบอุ่นใจในลิฟต์ก็กระแทกเข้ามา ทำให้เขาชะงักผละจากดารารายทันที หญิงสาวอึ้งถามว่าเป็นอะไร

นักรบหลบตาตอบไม่เต็มเสียงว่าไม่มีอะไร แต่ดารารายเชื่อว่าเขานึกถึงอุ่นใจ อารมณ์หึงพลุ่งพล่านทันทีถามว่าเขาคิดถึงผู้หญิงคนนั้นมากกว่าตนใช่ไหม นักรบพยายามชี้แจง ถูกเธอตัดบทว่า

"พอแล้วค่ะ ดาวไม่อยากฟังคำแก้ตัวของคุณแล้ว การประมูลครั้งนี้ ดาวรับรองได้เลยว่าไทเกอร์คิงต้องมีปัญหาแน่"  ย้ำว่า  "ถ้าคุณสนใจแต่ดาวคนเดียวไม่ได้  ไทเกอร์คิงมีปัญหาแน่นอน"

"ผมจะทำให้คุณเห็นว่า ผมไม่ได้สนใจผู้หญิงคนนั้น" นักรบท้าพิสูจน์ ดารารายถามว่าเขาจะทำอย่างไร นักรบตอบอย่างเด็ดเดี่ยวมั่นใจว่า "ไทเกอร์คิงได้งานประมูลครั้งนี้เมื่อไหร่ ผมจะประกาศแต่งงานกับคุณทันที"

ooooooo

ยังไม่ทันข้ามวัน นักรบก็รู้แล้วว่ามีคนมาทำอะไรกับคอมพิวเตอร์ของตน เพราะระบบป้องกันข้อมูลแจ้งว่ามีคนมาเปิดดูไฟล์ในเครื่อง

นายิกาตกใจถามว่าใครขโมยข้อมูล ข้อมูลอะไร นักรบบอกอย่างไม่หายอึ้งว่า

"ราคางานประมูล"

แม่บ้านที่เอากาแฟมาเสิร์ฟนักรบทำตัวเป็นหนอนบ่อนไส้ รีบเลี่ยงออกไปแอบโทร.บอกนิมมานทันที นิมมานพึมพำอย่างคาดไม่ถึงว่า "ไอ้นักรบ รอบคอบจริงๆ" แล้วรีบกดโทรศัพท์ถึงจอมภพ

"จอมภพ ไอ้นักรบรู้เรื่องราคาประมูลที่หายไปแล้ว มันน่าจะแก้ไขราคา แล้วฉันจะหาไปให้ใหม่"

บอกจอมภพแล้วนิมมานเดินกลับเข้ามาที่ห้องพักคนป่วยที่นักคิดนอนพักอยู่  ก็ได้รับข่าวดีว่านักคิดเริ่มเดินได้แล้ว  พอดีพยาบาลเข้ามาบอกว่า

"คุณหมออนุญาตให้คนไข้กลับบ้านได้นะคะ"

"ไม่ต้องห่วงครับแม่ ผมจะรีบหายให้เร็วที่สุด เราจะช่วยกันจัดการไอ้นักรบให้สิ้นซาก!"

นักคิดแค้นคุทั้งที่ยังเดินได้ไม่ดีนัก

ooooooo

ทองทิวถูกทองใบให้ทดสอบตัวเอง ทำตัวติดดินเพื่อให้เขาเป็นที่รักของดอกจัน จับทองทิวให้มาขุดดินทำสวนผัก ให้เปลี่ยนจากใส่สูทมาเป็นใส่เสื้อยืดกางเกงขาสั้นจับจอบพรวนดิน

ทองทิวยอมทำตาม แต่มือพรวนดิน เก็บผัก ตากลับมองดอกจัน จนทองใบเตือนจึงก้มหน้าก้มตาทำ อึดใจเดียว พอเห็นดอกจันเดินเข้าไปในบ้าน ก็ทำท่าจะลุกตาม

"จะไปไหน! ห้ามเลิกกลางคันเด็ดขาด ต้องทำให้หนูดอกจันเห็นว่าแกทำตัวติดดินได้ เข้าใจไหม!"

ทองทิวเลยจำต้องก้มหน้าเก็บผักในแปลงต่อไป แม้จะเก้ๆกังๆแต่ก็ตั้งใจทำ

จนสุดท้าย ทองทิวเพิ่งรู้ว่า ดอกจันรู้แล้วว่าเขาชอบเธอ เพราะตอนที่ทองใบหลอกให้เขาตะโกนว่า "ผมชอบดอกจัน" นั้น ดอกจันฟังอยู่ในห้อง แต่เพื่อให้ดอกจันมั่นใจจึงหลอกให้ทองทิวพิสูจน์ตัวเอง และเขาก็สอบผ่านได้อย่างทุลักทุเล

เมื่อเลิกงาน ปรากฏว่ามือทองทิวจับจอบจนเป็นแผล เลยเป็นธุระของดอกจันต้องทำแผลให้ แต่ก็ถูกเธอแกล้งเทน้ำเกลือใส่แผลจนเขาแสบร้องจ๊าก

เมื่อต่างรู้ใจกันแล้ว หนุ่มสาวก็หยอกล้อตะบึงตะบอนกันประสาคนรัก ทองใบแอบดูพูดอย่างกระหยิ่มยิ้มย่องว่า

"มันต้องอย่างนี้...ไม่นานได้หลานแน่เว้ยไอ้ทองใบ ฮ่าๆๆ"

ooooooo

ที่บ้านดอกจัน อุ่นใจอยู่กับโอ๋ วันนี้สองอาหลานช่วยกันหาสมุดพกของโอ๋ ค้นจนทั่วก็ไม่เจอ จนดอกจันกลับมาถามว่าลืมไว้ที่ไหนรึเปล่า ทบทวนให้ฟังว่า

"ตอนอยู่ที่หัวหินยังเอาสมุดพกมาอวดเกรด 4 ลุงทองใบอยู่เลย"

ทั้งอุ่นใจและโอ๋จึงนึกได้ว่าคงจะทิ้งไว้ที่ห้องนอนโอ๋ แน่ๆ จำเป็นต้องกลับไปเอา

"จะกลับไปที่นั่น แล้วแกโอเคเหรอ? ให้ฉันไปเป็นเพื่อนไหม" ดอกจันถาม

หลังจากชะงักไปนิดหนึ่ง อุ่นใจบอกว่าไม่เป็นไรเพราะพรุ่งนี้ดอกจันมีเรียนให้ไปเรียนดีกว่า

กระนั้น ดอกจันยังไม่สบายใจ โอ๋ปลอบใจว่า "อาดอกจันไม่ต้องห่วงครับ ถ้าเจอคุณนักรบขึ้นมาจริงๆโอ๋จะจัดการเอง"

อุ่นใจลูบหัวโอ๋อย่างเอ็นดู แต่ลึกๆแล้วก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ พูดปลอบใจทั้งหลานและตัวเองว่า

"เราคงไม่โชคร้ายเจอคุณนักรบที่นั่นหรอกครับ"

ooooooo

เช้ามืดวันรุ่งขึ้น ขณะนักรบนอนหลับอยู่บนเตียง เขานอนกระสับกระส่ายเหงื่อท่วมตัว ในจิตใต้สำนึกเกิดความขัดแย้งระหว่างนักรบคนเดิมกับนักรบคนใหม่ ภาพของนักรบทั้งสองคนแทรกซ้อนสลับกันไปมา

พลันนักรบก็สะดุ้งตื่นเพราะเสียงนาฬิกาปลุก เขาลุกขึ้นมึนๆกับฝันของตัวเอง ลุกเดินไปห้องน้ำ

ขณะยืนล้างหน้าอยู่หน้ากระจก พอเงยหน้าขึ้นมองตัวเองในกระจก เห็นใบหน้าและแววตาอ่อนโยนของนักรบคนดี เขาหยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดหน้า ส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจตัวเอง บ่นงึมงำ

"เรากลับมาอยู่ที่บ้านตั้งแต่เมื่อไหร่?"

และเมื่อเข้าห้องนอน เขามองหาไปรอบห้อง ร้องเรียก

"อบอุ่น...อบอุ่นอยู่ไหน เช้าแล้วนะ มากินนมได้แล้วนะ" พลางเดินไปเปิดลิ้นชักที่เคยเก็บของเล่นของอบอุ่น แต่ในลิ้นชักว่างเปล่า เขาบ่นงงๆ "ของเล่นของอบอุ่นหายไปไหน?"

เช้านี้...ทุกอย่างรอบตัวดูจะสร้างความงุนงงให้นักรบ

ไปหมด จนเมื่อลงมาที่ห้องรับแขกเห็นแม่บ้านกำลังเตรียมตั้งโต๊ะอาหารอยู่ น้อยที่เป็นแม่บ้านเห็นนักรบก็ตกใจ รีบบอกว่า

"คุณนักรบตื่นแล้วเหรอคะ รอน้ำส้มคั้นสักครู่นะคะ พอดีเพิ่งให้เด็กออกไปซื้อมาค่ะ"

"ไม่เป็นไรครับ ว่าแต่มีใครเห็นเจ้าอบอุ่นบ้าง ผมหาทั่วแล้วไม่เจอเลย"

คราวนี้เลยกลายเป็นแม่บ้านงุนงงกับท่าทีที่แปลกไปของนักรบ แต่ก็ยังกลัวๆกล้าๆอึ้งๆ

นักรบมองหาเจ้าอบอุ่น ร้องเรียกก้มเรียกจนไม่ทันระวังหัวโขกกับโต๊ะอย่างแรง พอดีทองทิวเข้ามาเห็นร้องบอกไม่ทัน นักรบเอามือจับหัวตัวเองคลึงเบาๆ บอกทองทิวให้ช่วยดูหน่อยว่าโนไหม

ทองทิวเริ่มงงกับท่าทีที่เปลี่ยนไปของนักรบ ถามอย่างไม่แน่ใจว่า

"คุณนักรบครับ คุณนักรบโอเครึเปล่าครับ"

"ไม่โอเค...ผมงงมากเลยว่าผมกลับมาที่บ้านได้ยังไง ตอนนี้ผมควรจะอยู่ที่หัวหินกับอุ่นใจแล้วก็โอ๋สิ" พูดแล้วนึกทบทวนเรื่องของตัวเอง คิดได้ว่า "ผมติดอยู่ในลิฟต์กับอุ่นใจ แล้วผมก็เป็นลมไปใช่ไหม นี่คุณพาผมมาหาหมอใช่ไหม แต่ผมไม่เป็นอะไรแล้ว กลับไปหาอุ่นใจดีกว่า"

นักรบดึงมือทองทิวเดินออกไป แต่นึกอะไรได้หันมาบอกแม่บ้าน "ฝากตามอบอุ่นด้วยนะครับ"

ooooooo

นักรบลากทองทิวไปขึ้นรถสั่งให้พาตนไปที่หัวหินทันที ทองทิวมองนักรบอึ้งๆงงๆ เห็นเขานั่งเล่นเกมในไอแพดอย่างสนุกสนาน พักหนึ่งก็ถามว่า

"แล้วที่ผมเป็นลมไป หมอเขาว่ายังไงบ้าง ไม่ได้เป็นอะไรรุนแรงใช่ไหม แล้วทำไมต้องพาผมกลับมาหาหมอที่กรุงเทพฯ ด้วย" ทองทิวอึกอักไม่ทันชี้แจงนักรบก็พูดต่อเสียก่อน "อ๋อ... รู้แล้ว กลัวว่าถ้าเข้าโรงพยาบาลที่หัวหินแล้วแม่ผมจะรู้เรื่องใช่ไหม รอบคอบจริงๆเลย"

"นี่คุณนักรบจำเหตุการณ์หลังจากที่เป็นลมในลิฟต์ ไม่ได้เลยเหรอครับ"ทองทิวทำใจกล้าถาม

"ก็...รู้ตัวอีกทีก็เมื่อเช้านั่นแหละ ทำไม ผมหมดสติไปหลายวันเหรอ" ทองทิวพยักหน้า นักรบนิ่งเครียดๆ แล้วชะโงกหน้าบอกคนขับรถ "ไม่ต้องแวะร้านเค้กแล้วนะ รีบขับไปให้ถึงหัวหินเร็วที่สุด ป่านนี้อุ่นใจคงเป็นห่วงผมแย่"

ทองทิวดูอาการของนักรบแล้วส่ายหน้าอย่างหนักใจ ไม่รู้จะพูดอย่างไรดี

ooooooo

อุ่นใจกับโอ๋ไปถึงบ้านพักในคอนโดฯที่หัวหินแล้ว ทั้งสองรีบลงมือค้นหาสมุดพกเพื่อจะรีบกลับ โอ๋วิ่งเข้าไปในส่วนของห้องนอน ส่วนอุ่นใจเดินไปที่ระเบียงมองออกไปเศร้าๆ เมื่อนึกถึงตอนที่นักรบให้สัญญาว่าจะดูแลเธอไปตลอดชีวิต เธอพยายามฝืนตัวเองไม่ให้ ร้องไห้กับเรื่องเศร้านี้ บอกตัวเองว่า "อย่าไปเสียน้ำตาให้เขาอีก อุ่นใจ"

ทันใดนั้นมีมือโอบกอดมาจากข้างหลังจนอุ่นใจสะดุ้ง เสียงถามคุ้นหู อ่อนโยนว่า

"ร้องไห้เป็นห่วงผมเหรอ"

อุ่นใจตกใจสะบัดตัวออกจากนักรบทันที นักรบเห็นท่าทางอุ่นใจก็รู้ว่าเธอตกใจที่เห็นตนถามว่า

"เป็นอะไรครับ...โกรธที่ผมหายไปหลายวันเหรอ"

กลายเป็นพูดกันคนละเรื่อง อุ่นใจถามว่าเขาเป็นบ้าอะไร นักรบถามว่าเธอโกรธอะไรตน อุ่นใจรับไม่ได้กับท่าทีที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาของนักรบ คิดว่าเขาเจ้าเล่ห์ เธอถามว่าเขาต้องการอะไรจากตนอีก พลางถอยหนี นักรบรั้งไว้ พอดีโอ๋วิ่งออกจากห้องมาเห็นนักรบจับตัวอุ่นใจไว้ก็พุ่งเข้าไปทุบตะโกนลั่น

"ปล่อยอาอุ่นเดี๋ยวนี้! อย่ามายุ่งกับอาอุ่นนะ"

นักรบถูกโอ๋ทุบก็ปล่อยอุ่นใจหันมาจับโอ๋ไว้ ทองทิวตามมายืนดูอยู่ตรงประตูห้อง อุ่นใจถามทองทิวว่าเจ้านายเขาต้องการอะไรจากตนอีก ทองทิวอึกอักไม่อาจอธิบายได้ บอกเธอว่า

"คือว่า...เรื่องมันซับซ้อนมากเลยอุ่นใจ คุณนักรบเขาจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อ 2-3 วันนี้ไม่ได้"

อุ่นใจหาว่าทองทิวแก้ตัวแทนเจ้านาย นักรบยืนยันว่าเขาจำไม่ได้จริงๆ จำไม่ได้ว่าทำอะไรลงไปบ้างจนทำให้เธอโกรธเขาถึงขนาดนี้

"จำไม่ได้ใช่ไหม" อุ่นใจเสียงเข้มแล้วหันไปคว้าแจกัน เอาดอกไม้ทิ้งบอกเขาว่า "ฉันจะทวนความจำให้คุณเอง" ว่าแล้วก็เทน้ำในแจกันราดหัวเขาทันที ถามว่า "ทีนี้คุณจำได้รึยังว่าทำอะไรกับฉันไว้!"

อุ่นใจวางแจกันดอกไม้แล้วจูงมือโอ๋เดินออกไปทันที

ooooooo

นักรบไม่ยอมวิ่งตามไปคว้าเธอไว้บอกมาคุยกันให้รู้เรื่องก่อน พลางหันไปร้องบอกทองทิวให้ดูโอ๋ไว้ด้วย ทองทิวจึงวิ่งมาจับตัวโอ๋ไว้ นักรบล็อกตัวอุ่นใจไว้ถามว่า

"คุณลืมไปแล้วเหรอว่าผมสัญญาต่อหน้าพี่ชายคุณว่าผมจะดูแลคุณไปตลอดชีวิต แล้วคุณเป็นแบบนี้ผมจะปล่อยไปได้ยังไง...ผมทำอะไรให้คุณโกรธ คุณบอกมาสิ"

พอได้ยินเขาเอ่ยถึงเอื้อ อุ่นใจก็ยิ่งแค้นดิ้นสุดแรงจนดันตัวเองออกมาได้ พูดทั้งน้ำตา

"ฉันต่างหากที่ต้องถามว่า ฉันไปทำอะไรให้คุณ! คุณถึงต้องตามทำร้ายฉันขนาดนี้...คุณเห็นฉันเป็นตัวอะไร เห็นฉันเป็นหุ่นยนต์ที่ไร้หัวใจไร้ความรู้สึกอย่างคุณเหรอ...ถ้าเกลียดฉันมากนักก็ฆ่าฉันเลยสิมาทรมานฉันแบบนี้ทำไม"

อุ่นใจร้องไห้โฮออกมาอย่างสุดกลั้น โอ๋วิ่งเข้าไปกอดอาไว้ นักรบมองภาพตรงหน้าอึ้งๆงงๆว่าตัวเองไปทำร้ายอะไรเธอ พอเขาขยับจะเข้าไปปลอบ ทองทิวก็มาจับไว้ส่ายหน้าไม่ให้เข้าไป

ooooooo

เมื่อพากันมานั่งที่ชายหาด ทองทิวถามนักรบว่าเขาจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆหรือ พอนักรบย้อนถามว่าถ้าจำได้แล้วจะถามเขาทำไม ทองทิวส่ายหน้าเครียดๆก่อนบอกเขาว่า

"ไม่ดีเลยคุณนักรบ...คุณเป็นแบบนี้ไม่ดีเลย อาการป่วยของคุณ เลือดที่มันคั่งในสมองคุณ มันคงทำให้คุณเป็นแบบนี้"

นักรบถามว่าแบบนี้คือจำอะไรไม่ได้ใช่ไหม ทองทิวบอกว่าไม่ใช่ แต่ก็ไม่รู้จะอธิบายอย่างไรเลยพูดแค่ว่า "คุณนักรบคนเดิมกลับมาแล้ว"

ทองทิวย้อนเล่าเหตุการณ์ที่เขาเป็นลมในลิฟต์ให้ฟังว่า ตนพาเขาไปหาหมอพอเขาฟื้นขึ้นมาก็กลายเป็น นักรบ พยัคฆ์ราชาคนเดิมที่ทุกคนเกรงกลัว และเขาก็ทำให้อุ่นใจเกลียดในตอนนั้นด้วย

"ไม่จริง เป็นไปไม่ได้ ผมสัญญากับอุ่นใจแล้วว่าจะดูแลเขา จะไม่ทำให้เขาเสียใจ..." พูดไม่ทันจบ ก็เกิดเสียงวี้ดขึ้นในหูจนเขาปวดหัวรุนแรงร้องลั่น "โอ๊ย..." เสียงวี้ดยิ่งดังจนเหมือนหัวจะระเบิดเขาร้องสุดเสียง "อ๊ากกก!!" แล้วหมดสติล้มลงไปกองกับพื้นทราย

"คุณนักรบ..." ทองทิวตกใจมาก รีบพาเขาไปหาหมอที่โรงพยาบาลอีกครั้ง ระหว่างวิ่งตามเตียงที่เข็นนักรบไป ทองทิวยังแว่วเสียงของหมอเทพที่บอกว่า

"คนเป็นโรคสองบุคลิกก็เป็นแบบนี้แหละครับ  มักจะจำเหตุการณ์ในช่วงของอีกบุคลิกนึงไม่ได้ คนที่ป่วยจะเหมือนมีโลกของตัวเองอยู่สองใบ ใบหนึ่งคือโลกของตัวตนจริงๆของเขา ส่วนอีกโลกหนึ่งคือบุคลิกภาพใหม่ที่สมองเขาสร้างขึ้นมา"

"แล้วจะเป็นอันตรายมากไหมครับ" ทองทิวถาม

"ถ้าปล่อยไว้นานๆไม่ยอมรักษา ผู้ป่วยก็จะมีอาการหนักขึ้น อาจจะทำให้คนไข้มีอาการช็อกไปแบบวันนี้"

"แล้วเราจะรู้ได้ยังไงครับว่าเมื่อไหร่เขาจะเป็นคนดีเมื่อไหร่จะเป็นคนร้าย"

หมอบอกว่าเรื่องนี้หมอเองก็ตอบไม่ได้ ทองทิวเลยสรุปว่าตนต้องวัดดวงทายเอาเองใช่ไหม หมอเห็นด้วยว่า ก็คงทำนองนั้น

เมื่อคนคนเดียวกันแต่มีสองบุคลิก ทองทิวคิดหาทางแยกนักรบคนเก่ากับคนใหม่จนคิดได้

เพื่อความแน่ใจ ทองทิววัดดวงด้วยการซื้อน้ำส้มคั้นสดกับน้ำส้มกล่องมาให้นักรบเลือก ปรากฏว่าถูกนักรบหงุดหงิดใส่ ถามว่าจำไม่ได้หรือว่าตนไม่ดื่มน้ำส้มกล่องพวกนี้ แล้วบอกทองทิวว่าอยากกลับบ้าน

ทองทิวกลุ้มใจมากไม่รู้จะบอกนักรบอย่างไรดีว่าเขากำลังป่วยเป็นโรคทางประสาท

หลังจากดารารายให้ซูซี่เช็กจนรู้ว่าพรุ่งนี้นักคิดจะออกจากโรงพยาบาล เธอสั่งซูซี่ให้ยกเลิกงานและนัดทั้งหมดของวันพรุ่งนี้    เพราะตนจะไปหานักคิดที่โรงพยาบาล

ดารารายไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้นักคิดบอกว่าเป็นการทำเพื่อขอโทษจากตนแทนนักรบ  แล้วขอไปส่งที่บ้าน

แต่ พอไปถึงบ้านพบว่าข้าวของถูกรื้อค้นกระจุยกระจาย พอเข้าไปก็ถูกนักเลงสามคนโผล่ออกมาล็อกตัวดารารายกับนิมมานไว้ นักคิดจำคนร้ายได้ถามว่านักรบส่งพวกแกมาอีกใช่ไหม หนึ่งในนั้นตอบว่าใช่ นักรบส่งพวกตนมา

ดารารายถูกล็อกตัว  เธอทำเป็นขอร้องนักเลงว่าอย่าบอกนักรบว่าตนมาที่นี่ นักคิดตะโกนให้มันปล่อยตัวดาราราย มันหันมาขู่นิมมานแทนว่า

"ถ้าไม่อยากให้ลูกแกเจ็บตัวมากกว่านี้ก็อย่าให้มันไปยุ่งกับของของคุณนักรบอีก!"

พวก มันส่วนหนึ่งลากดารารายออกไป อีกส่วนหนึ่งก็รุมยำนักคิดก่อนเดินตามกันออกไป นิมมานเข้าประคองนักคิดเขาคำรามว่า   "เห็นทีแกจะอยู่ร่วมโลกกับฉันไม่ได้แล้วไอ้นักรบ!!"

แต่พอดารารายถูกลากออกมายัดเข้าไปในรถแล้วพวกนักเลงก็ขับพาเธอออกไป

พอพ้นจากตรงนั้น ดารารายถามว่าได้ไฟล์วีดิโอมารึเปล่า คนหนึ่งบอกว่าเอามาทั้งกล้องเลย

เมื่อ เอากลับไปเปิดดูที่บ้าน ดารารายเห็นภาพตัวเองนอนเปลือยอยู่กับนักคิดบนเตียงเมื่อครั้งที่ถูกซูซี่ วางยา เธอคำรามอย่างอาฆาตแค้นว่า

"ใครที่มันคิดทำลายฉันมันต้องเจ็บ ปวดมากกว่าฉันเป็นร้อยเท่า!"  จากนั้นกดโทรศัพท์ถึงใครบางคน  สั่งเหี้ยม "จัดการกับนังซูซี่ได้เลย" แล้วเธอก็เอากล้องวีดิโอของนักคิดที่ฉกมาเผาทิ้งที่หลังบ้าน

ooooooo

หลัง คำสั่งของดารารายไม่นาน   ซูซี่อยู่ที่บ้านก็ถูกนักเลงสองคนเข้าไปทำร้ายทั้งกรีดเสื้อผ้าและกล้อนผม จนใบหน้าเธอถูกกรีดไปหลายแผล เมื่อทำซูซี่จนขวัญหนีดีฝ่อแล้ว ดารารายก็เข้าไปช่วยพาเธอออกมาและพาไปอยู่ที่บ้าน ป้ายสีว่าเป็นฝีมือของนักรบ แต่ต่อไปไม่ต้องกลัวแล้วมาอยู่ที่บ้านตนไม่มีใครทำอะไรเธอได้อีก


"นี่ฝีมือคุณนักรบเหรอคะ"  ซูซี่ถามร้องไห้โฮออกมา

"ใช่ นักรบเขารู้เรื่องที่ฉันโดนนักคิดแบล็กเมล์ นักรบโกรธมากหาว่าเธอรวมหัวกับนักคิดมาทำร้ายฉัน ฉันพยายามบอกแล้วว่าเธอโดนบังคับ แต่นักรบก็ไม่เชื่อ ฉันรู้ว่าเขาโกรธเธอมาก แต่ฉันไม่คิดว่าเขาจะทำได้ขนาดนี้" พูดแล้วยังขอโทษซูซี่ที่มาช่วยเธอช้าไป

ซูซี่ทั้งแค้นใจนักรบและซึ้งใจดาราราย โผเข้ากอดเธอร้องไห้โฮ แต่พอออกจากห้องซูซี่แล้ว ดารารายพูดพึมพำอย่างสะใจว่า

"แกทำให้ฉันเจ็บ แกก็ต้องอยู่เป็นทาสรับใช้ฉันไปตลอดชีวิตนังซูซี่!"

ooooooo

แม้ จะเครียดกับงานที่ทำกับนักรบ แต่ทองทิวก็ยังมีมุมส่วนตัวที่น่ารัก เขายังพยายามใกล้ชิดดอกจันหลังจากบอกรักและขอแต่งงานแต่ยังไม่สำเร็จ วันนี้เขาช่วยเธอไปเข็นของส่งพ่อค้าแม่ค้าในตลาด ปรากฏว่าดอกจันถูกพวกนั้นดุด่าว่ากล่าวที่ทำของเสีย ทองทิวทนไม่ได้เลยจ่ายค่าเสียหายให้แล้วให้ดอกจันเลิกทำงานนั้น

พอก ลับถึงบ้านเธอ เขาก็อ้างว่าบ้านทรุดโทรมและน่ากลัวบอกให้ย้ายไปอยู่เสียด้วยกัน ดอกจันไม่ยอมไปเขาก็จับขึ้นบ่าแบกไป  ดอกจันดิ้นกระแด่วอยู่บนบ่าเขาแต่ช่วยตัวเอง ไม่ได้เลย สุดท้ายเลยหัวเราะขำๆกัน

แต่เมื่อถึงเวลาที่ทำงานกับนักรบ ทองทิวก็เป็นอีกบุคลิกหนึ่งที่ต้องคอยสังเกตอารมณ์ของนักรบ

วัน นี้เมื่อหมอเทพแวะมาเยี่ยม นักรบบอกว่าไม่ได้นัดและตนสบายดี ทองทิวพูดกล้าๆกลัวๆว่าให้หมอตรวจสักหน่อยก็ดี ก็ถูกตวาดว่า "ฉันไม่ได้เป็นอะไร" จนหมอต้องช่วยพูดว่า

"คุณน่าจะมีอาการปวดหัวอยู่ ก็แค่พูดคุยกันธรรมดาไม่ใช่การรักษาครับ"

สุดท้าย นักรบก็ยอมทำตามที่หมอเทพบอกเหมือนเป็นการสะกดจิต โดยให้เขาหลับตาแล้วคิดถึงภาพที่ถูกจิตใต้สำนึกกดทับไว้ ค้นหาภาพที่ขาดหายไปจากความทรงจำให้เจอ

เมื่อทำตามหมอ นักรบก็ได้เห็นภาพที่สถูปพ่อ ได้เห็นแม่ที่เคี่ยวเข็ญให้เขาเข้มแข็งสมกับเป็นทายาทพยัคฆ์ราชา เมื่อเขาร้องไห้ไม่ยอม ถูกนายิกาเวลานั้นตวาดไม่ให้อ่อนแอ!

เรื่องราวต่างๆที่บีบคั้นความรู้สึกที่ถูกกดไว้ใต้จิตสำนึกปรากฏขึ้นทีละเรื่อง...ทีละเรื่อง

จนเมื่อหมอดีดนิ้วเรียกสติเขากลับคืนมา เขามีท่าทีอ่อนลง หมอบอกเขาว่า

"จิตใต้สำนึกของคุณกำลังต่อต้านพฤติกรรมปัจจุบัน ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของอาการสองบุคลิกของคุณ"

"นี่ ไม่ใช่การพูดคุยธรรมดา แต่เป็นส่วนหนึ่งของการรักษา" นักรบนึกรู้ พอทองทิวถามว่าให้ตนนัดหมออาทิตย์หน้าไหม เขาตอบโดยไม่ลังเลว่า "จัดเวลามาแล้วกัน"

แต่หลังจากนั้นนักรบก็ยังถูกภาพที่เขาสอนโอ๋ต้ม ไข่ และเขาอยู่กับอุ่นใจและโอ๋ที่เกาะผุดพรายในความคิด ภาพเหล่านั้นสลับไปมาอย่างรวดเร็วจนเขาปวดหัวมาก แต่เมื่อนั่งพักครู่หนึ่งรู้สึกดีขึ้น เขาถามตัวเองว่า

"ทำไมภาพพวกนี้เข้ามาอยู่ในความคิดฉันตลอดเวลา..."

ooooooo

สวรรค์สร้าง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด