ตอนที่ 8
ประเทศปารวัตร...
ชาดุลกับซาเมียร์เร่งดำเนินการเรื่องเซ็นสัญญากับจีน ญี่ปุ่น และอเมริกาที่สนใจเข้ามาทำสัมปทานเหมืองเพชร เพื่อประโยชน์ของตัวเอง แต่อ้างว่าเพื่อประชาชน โดยให้เจ้าชายภูวเนศตัวปลอมนำเสนอในที่ประชุมแทนท่านพ่อ รัฐมนตรีอื่นๆที่ไม่เห็นด้วยจึงไม่กล้าคัดค้าน
พร้อมๆกันนี้ชาดุลยังสั่งการซาเมียร์เรื่องติดตามค้นหาศพของเจ้าชายตัวจริง ที่เมืองไทย เพราะถ้าไม่เจอ ก็จะถือว่าเขายังไม่ตาย โดยให้ส่งคนไปสืบเสาะให้ทั่ว ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลใหญ่หรือเล็ก อย่าให้พลาดแม้แต่ที่เดียว
ทางวรุณกับราจีฟรู้ทันความคิดชาดุลทุกอย่าง แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากรอให้เจ้าชายตัวจริงกลับมา ซึ่งจะช้าไม่ได้ เจ้าชายต้องกลับมาก่อนที่ชาดุลจะชักใยให้เจ้าชายตัวปลอมอนุมัติเรื่องการ เปิดสัมปทานกับต่างชาติ
ooooooo
เช้านี้ที่ไร่อดิศวร หลังจากเมื่อคืนสามหนุ่มดื่มฉลองความสำเร็จที่กำจัดหมอณภัทรออกไปจากชีวิต น้องสาวได้ พวกเขายังนอนหลับสบายไร้กังวล ขนาดพ่อกับแม่มาเรียกจะวานพวกเขาขับรถให้ ทุกคนก็ยังหลับสนิทไม่หือไม่อือ จนพ่อกับแม่ต้องล่าถอยออกไปเอง แล้วให้เสียมกับศักดิ์มาขับแทน โดยมนตรีจะไปทำธุระที่เชียงใหม่ ส่วนสุพรรษาไปงานเลี้ยงรุ่นที่กรุงเทพฯ
หลังสั่งเสียงานการและเรื่องลูกๆเรียบร้อยแล้ว สองสามีภรรยาก็ขึ้นรถคนละคันแยกกันไป กันยาที่ออกมาส่งเจ้านายยังไม่ทันจะกลับเข้าบ้าน ฝนก็ตกซู่ลงมาอย่างไม่มีปี่ มีขลุ่ย และอีกครู่อินทร์ซึ่งเป็นคนงานในไร่ก็ขับมอเตอร์ไซค์ เก่าๆมาจอด บอกกล่าวกันยาว่าเมียของตนกำลังจะคลอด แต่ฝนตกหนักถนนหนทางไม่ดีพาไปหาหมอไม่ได้ เลยต้องมาขอความช่วยเหลือจากหมอน้ำ
ทิพย์ธาราแตกตื่นไม่น้อยแต่ก็ยินดีช่วยเต็มที่ เธอรีบสั่งการกันยาให้ไปบอกศักดิ์เตรียมรถให้ด้วย จากนั้นเธอก็วิ่งผลุบเข้าห้องไปเตรียมอุปกรณ์ กันยาเลยไม่ทันบอกเรื่องศักดิ์ไม่อยู่ จึงไปวานนายปูเป็นมาขับให้ อารามรีบร้อนทิพย์ธาราไม่ทันสังเกต จนกระทั่งภูวเนศออกรถตามมอเตอร์ไซค์ ของอินทร์ที่ขี่นำหน้าไปได้สักพัก ทิพย์ธาราถึงรู้ตัว บอกให้ จอดและไล่เขาลง แต่แล้วด้วยเหตุผลของเขาที่ตั้งใจช่วยคนคลอดลูก และเธอเองก็ช้าไม่ได้ จึงต้องยอมให้เขาขับต่อไป
พอถึงถนนที่น้ำท่วม มอเตอร์ไซค์ของอินทร์ไปต่อไม่ได้ อินทร์จึงต้องขึ้นรถไปกับทิพย์ธารา พอถึงบ้านที่กระถินเมียของอินทร์นอนร้องโอยโอด ทิพย์ธาราไม่ยอมให้ภูวเนศเข้ามาในห้อง แต่ให้คอยฟังว่าเธอจะเรียกใช้อะไร
ผ่านไปสักพัก ทิพย์ธาราทำคลอดให้กระถินสำเร็จ ปลอดภัยทั้งแม่และลูก ภูวเนศรู้สึกทึ่งและประทับใจฝีมือทิพย์ธารามากๆ แล้วก็ยินดีไปกับอินทร์ที่กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจสุดๆที่ได้ลูกชาย
เย็นวันเดียวกัน ที่โรงพยาบาลปากช่อง ปรียานุชนำคิวนัดจากหมอวิทย์มาให้ณภัทรที่ยังซึมเศร้าไม่คลาย หลังถูกสามแฝดพี่ชายของทิพย์ธาราป่วนจนคิดว่าตัวเองเป็นเกย์
"แป๋มว่าคุณหมอจะเป็นเกย์ หรือไม่เป็นเกย์ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่นะคะ เพราะเดี๋ยวนี้ใครๆเขาก็เป็นกันทั้งนั้น ถ้าคุณหมอจะเป็นเพิ่มอีกคน ดัชนีความสุขของคนทั้งประเทศมันคงไม่น้อยลงไปกว่านี้หรอกค่ะ อย่างมากก็แค่มีผู้หญิงได้ แต่งงานน้อยลงไปอีกหนึ่งคน แป๋มก็จะมีเพื่อนขึ้นคานเพิ่มอีกหนึ่งคน ดีออกค่ะ"
ณภัทรฟังคำปลอบโยนของปรียานุชแล้วก็ยิ้มขำๆ เอ่ยชมว่าเธอมองโลกในแง่ดีจริงๆ ปรียานุชเขินนิดๆ แต่ยังพูดติดตลกให้เขายิ้มได้อีก ณภัทรรู้สึกดีขึ้นมาก กล่าวขอบคุณ และบอกว่าตนจะพยายามมองโลกในแง่ดีเหมือนอย่างเธอบ้าง จะได้ไม่เครียด
แยกจากณภัทรมาแล้ว ปรียานุชเห็นชายสองคนยืนคุยกับเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล โดยมีเพื่อนพยาบาลคนหนึ่งของเธอยืนฟังอยู่ห่างๆ ปรียานุชขยับเข้าไปถามเพื่อนด้วยความแปลกใจ ซึ่งเพื่อนเล่าว่าสองคนนั้นเป็นชาวต่างชาติ แต่ไม่รู้ว่าชาติอะไร เขามาตามหาญาติที่มาเที่ยวประเทศไทยแล้วหายไป เลยสงสัยว่าอาจจะโดนทำร้ายแล้วถูกส่งตัวมารักษาที่นี่
ฟังแล้วปรียานุชฉุกใจคิด นึกถึงนายปูเป็นขึ้นมาทันที!
ooooooo
ด้วยฟ้าฝนที่ยังเป็นอุปสรรคในการเดินทางกลับ บวกกับความมืดของยามค่ำคืน ทำให้ทิพย์ธารากับภูวเนศต้องพักค้างคืนที่หมู่บ้านตามคำเชิญชวนของอินทร์ที่ เป็นห่วงทิพย์ธารามาก เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไป หรือได้รับอันตรายระหว่างการเดินทาง อินทร์กลัวจะโดนทั้งพ่อแม่และพี่ๆของเธอเล่นงาน โดยอินทร์ให้ ทิพย์ธารานอนในห้อง ส่วนภูวเนศหรือนายปูเป็น แม่ ของอินทร์จะกางมุ้งให้ที่นอกชาน
เมื่ออยู่กันตามลำพังบนบ้าน ภูวเนศถือโอกาสจะพูดคุยกับทิพย์ธาราเรื่องที่เธอรับไม่ได้เกี่ยวกับ ธรรมเนียมประเพณีการครองคู่ของกษัตริย์แห่งปารวัตร แต่ทิพย์ธาราปฏิเสธทันควันว่าไม่มีอะไรต้องคุย เพราะเรื่องที่อยากคุย เธอได้พูดไปหมดแล้ว
"ใช่ คุณพูดแล้ว แต่ผมอยากให้คุณเข้าใจผมด้วย ผมไม่ได้อยากมีผู้หญิงอื่น หรือมีภรรยาอื่นนอกจากคุณ แต่มันเป็นธรรมเนียมของประเทศผม"
"ฉันเข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติของประเทศคุณเป็นอย่างดี ฉันจึงไม่เรียกร้องให้คุณต้องเปลี่ยนแปลง แต่คุณก็ต้องเข้าใจในธรรมเนียมของประเทศฉันเหมือนกัน ประเทศเราสั่งสอนให้ รักเดียวใจเดียว มีผัวเดียว เมียเดียว"
"แต่ผมเห็นคนไทยคนอื่นก็มีเมียตั้งหลายคน แล้วยังพวกที่มีกิ๊ก มีชู้ มีเมียน้อยอีกตั้งมากมาย ไม่เห็นเขาจะซีเรียสเลย"
"นั่นมันคนอื่น พวกเขาอาจจะแหกคอกนอกประเพณี ไม่มีความเชื่อความศรัทธาในสถาบันครอบครัว แต่สำหรับฉัน... ไม่! ฉันต้องการอยู่กับผู้ชายที่มีฉันเพียงคนเดียวเท่านั้น ฉันไม่เคยก้าวก่ายต่อธรรมเนียมของคุณ คุณเองก็ไม่มีสิทธิ์มาเปลี่ยนแปลงความคิดฉันเหมือนกัน"
พูดแค่นั้น ทิพย์ธาราก็รีบหนีเข้าห้องปิดประตูทันที ทิ้งภูวเนศยืนหน้าเศร้า หนักใจเหลือเกิน อีกครู่อินทร์ยกอาหารมาให้หมอน้ำ ส่วนปูเป็นให้ตามไปกินที่บ้านของอินทร์ซึ่งมีการฉลองที่อินทร์ได้ลูกคนแรก
พออินทร์ลงจากบ้านไปแล้ว ภูวเนศก็เคาะประตูห้องเรียกทิพย์ธารา
"คุณน้ำ...ผมเข้าใจในสิ่งที่คุณพูด แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่เราจะทำทุกอย่างตามใจเรา โดยเฉพาะในตำแหน่งที่ผมยืนอยู่ มันไม่ง่ายเลยจริงๆ ถ้าผมเป็นคนธรรมดา ผมพร้อมเสมอที่จะมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น...อาหารเย็นวางไว้ที่โต๊ะ ผมจะไปร่วมวงกับชาวบ้าน เผื่อว่าคุณจะอยากทานข้าวโดยไม่ต้องเห็นหน้าผม"
ทิพย์ธาราแอบสะอึก ใจก็อยากจะแย้งออกไป แต่อีกใจก็ห้ามตัวเองให้นิ่งเอาไว้...ความเงียบทำให้ภูวเนศท้อใจ หันหลังเดินลงจากบ้านไป พอสิ้นเสียงฝีเท้าของเขา ทิพย์ธาราค่อยๆเปิดประตูออกมาชะเง้อมองตามไปด้วยความเป็นห่วง
ด้านกันยาที่บ้านไร่ เธอกำลังชะเง้อคอรอคอยการกลับมาของทิพย์ธาราอยู่หน้าบ้าน หลังจากเธอพยายามไปปลุกสามแฝดพี่ชายของทิพย์ธาราแล้วพวกเขาไม่ยอมตื่น และเรียกนากรี มาวานให้โทร.เข้ามือถือของทิพย์ธาราก็ไม่สามารถติดต่อได้
ภูวเนศไปฉลองกับอินทร์และเพื่อนบ้านชายอีกสี่ห้าคน เขาถูกคะยั้นคะยอให้ดื่มเหล้าขาวจนเมาแอ๋แทบเดินกลับบ้านไม่ไหว เดือดร้อนทิพย์ธาราต้องมาช่วยพยุงและผลัดเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปียกชื้นให้ เพราะกลัวเขาจะเป็นปอดบวม และจากความใกล้ชิดกันนี่เอง ทำให้ทั้งเขาและเธอที่ต่างก็รักกันหักห้ามใจตัวเองไม่อยู่ ตกเป็นของกันและกันท่ามกลางบรรยากาศที่เป็นใจ
เช้าขึ้นสามแฝดแตกตื่น เมื่อรู้จากกันยาว่าทิพย์ธารายังไม่กลับบ้าน หลังออกไปทำคลอดให้ชาวบ้านบนเขาตั้งแต่เมื่อวานตอนเย็น สามแฝดเป็นห่วงน้องสาวรีบร้อนเดินทางไปยังหมู่บ้าน แต่หนทางยากลำบากเพราะถนนขาด จึงต้องใช้ความพยายามอย่างมากกว่าจะผ่านไปได้
ส่วนทิพย์ธารากับภูวเนศที่บ้านแม่ของอินทร์ ภูวเนศลืมตามาเห็นทิพย์ธาราร้องไห้ก็ตกใจ ถามเธออย่างอ่อนโยนว่าเป็นอะไร ร้องไห้ทำไม
"ฉันร้องไห้ให้กับความอ่อนแอของตัวเอง ฉันผิดเอง ฉันไม่ควรปล่อยให้เหตุการณ์เมื่อคืนมันเกิดขึ้น"
"ทำไมพูดอย่างนั้น เรื่องเมื่อคืนไม่มีใครผิดทั้งนั้น เราสองคนรักกัน สิ่งที่เกิดขึ้นก็เกิดจากความรัก"
"แต่มันผิดจารีตประเพณีของคนไทย ผู้หญิงที่ดีจะต้องมอบความบริสุทธิ์ให้สามีในวันแต่งงานเท่านั้น"
"โธ่เอ๊ย นึกว่าเรื่องอะไร คุณไม่ต้องห่วง คุณยังเป็นผู้หญิงที่ดีสำหรับผม และไม่ว่าคุณจะมอบความบริสุทธิ์ให้ผมเวลาไหน ผมถือว่ามันเป็นสิ่งที่มีค่ามากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นเมื่อคืน หรือในคืนวันแต่งงานของเรา"
"แต่ฉันไม่เคยคิดจะแต่งงานกับคุณ"
"อ้าว ทำไมคุณพูดแบบนี้ หรือว่า...คุณจะบอกว่าคุณไม่ได้รักผม"
"เรื่องความรักกับการแต่งงานมันคนละเรื่องกัน ถึงฉันจะรักคุณแต่ฉันแต่งงานกับคุณไม่ได้ ฉันทนเห็นคุณมีนางสนมอื่นๆอีกมากมายไม่ได้จริงๆ"
"แต่คุณน้ำ..."
"เมื่อคืนฉันผิดเองที่ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจตัวเอง และมันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีก ฉันจะพยายามลืมทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น คุณเองก็เหมือนกัน กลับประเทศปารวัตรไปซะ ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบอะไรทั้งนั้น คิดซะว่าเมื่อคืนนี้ไม่มีอะไรเกิดขึ้น"
ทิพย์ธาราพูดจบก็เดินดิ่งตรงไปที่ห้องนอนแล้วปิดประตูล็อกทันที ภูวเนศที่ยังมึนด้วยฤทธิ์เหล้าไม่หาย ยิ่งเครียดไปกันใหญ่ ไม่รู้จะทำอย่างไรต่อไปดี เมื่อพี่ชายทั้งสามคนของทิพย์ธารามาถึงหมู่บ้านด้วยความเกรี้ยวกราด และไม่พอใจที่น้องสาวอยู่กับคนงานในไร่ตามลำพังสองต่อสอง ถึงแม้มันจะเป็นใบ้และความจำเสื่อมก็ตาม แต่ทิพย์ธารายังยืนยันว่าไม่มีอะไร มีเพียงวายุภัคเท่านั้นที่สังเกตเห็นความผิดปกติของน้องสาว แต่ก็ตัดสินใจไม่บอกคนอื่น เก็บความสงสัยไว้เพียงลำพังก่อน จนกระทั่งพากันกลับไปถึงบ้านที่ไร่อดิศวร วายุภัคก็แอบซักถามทิพย์ธาราจนรู้ความจริงทั้งหมด
ส่วนมนตรีกับสุพรรษาที่เพิ่งกลับจากธุระในตอนเย็น พอรู้จากสาวใช้ว่าลูกชายทั้งสามนอนหลับข้ามวันข้ามคืน สุพรรษาโวยวายเป็นการใหญ่ที่ลูกชายนอนกินบ้านกินเมืองเป็นเยี่ยงอย่างไม่ดี แก่ลูกจ้าง ซ้ำเธอยังเผลอพูดเลยเถิดเรื่องหมอณัฐเป็นเกย์ขึ้นมาด้วย ทำเอาทั้งสาวใช้และคนงานที่รายล้อมเธออยู่ต่างก็ตาพองหูผึ่งกันเป็นแถว
ข้างฝ่ายหมอณัฐหรือณภัทร หลังจากปรึกษากับจิตแพทย์ เขาเริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้นว่าไม่ได้เป็นเกย์ตามที่โดนใส่ร้าย พร้อมๆกับความรู้สึกแปลกๆที่มีต่อปรียานุชก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัว และปรียานุชเองก็เริ่มเห็นความน่ารักของหมอณัฐ ต่างคนเลยต่างเขิน เมื่อมีการพบเจอกันในครั้งต่อๆไป
ตกเย็น ปรียานุชนำข่าวหมอณัฐไม่ได้เป็นเกย์ไปบอกทิพย์ธาราถึงบ้าน จากสีหน้าและท่าทีดีอกดีใจของปรียานุชทำให้ทิพย์ธาราเอะใจ ต้อนไปต้อนมาจนปรียานุชเขินจัดพูดแทบไม่เป็นภาษา
"นี่...ฉันฟังไม่รู้เรื่อง หยุดเขินแล้วเล่ามาก่อน สรุปว่าเธอกับหมอณัฐกำลังกุ๊กกิ๊กกันอยู่ใช่ไหม"
"มันก็ยังไม่ถึงขนาดนั้น ฉันก็แค่คิดว่าหมอณัฐเขาก็น่ารักดี แล้วเขาก็บอกว่าฉัน...น่ารักดี"
"แป๋ม ฉันไม่เคยเห็นเธอเป็นแบบนี้มาก่อนเลยนะเนี่ย สงสัยจะเจอของจริงแล้วเพื่อนฉัน"
"แต่...แกโอเคเปล่า...เรื่องหมอณัฐ"
"ฉันบอกแล้วไง ว่าฉันกับพี่ณัฐ เราไม่เคยคิดอย่างอื่นนอกจากความเป็นพี่น้อง ไม่ต้องกังวลอะไรทั้งนั้น...ลุย!"
ปรียานุชยิ้มโล่งอก แล้วก็นึกขึ้นมาได้ "เออ น้ำ ฉันลืมบอกแกไปอย่างนึง วันก่อนมีคนต่างชาติมาตามหานายปูเป็นที่โรงพยาบาล"
ทิพย์ธาราตกใจรีบถามด้วยความเป็นห่วง "แล้วบอกเขาไปว่ายังไง"
"ฉันก็บอกไปว่า นายปูเป็นออกไปจากโรงพยาบาลตั้งนานแล้ว"
"แล้วบอกเขาไปว่ายังไงอีก แล้วคนพวกนั้นลักษณะเป็นยังไง แล้วบอกเขาไปหรือเปล่าว่านายปูเป็นอยู่ที่นี่"
"น้ำ...มีอะไรหรือเปล่า ทำไมอยู่ๆถึงได้ซีเรียสขึ้นมาซะงั้น"
ทิพย์ธาราชะงักไปอย่างครุ่นคิด ที่สุดเธอก็ตัดสินใจเล่าความจริงเกี่ยวกับภูวเนศให้เพื่อนรักฟัง...ปรียานุช ถึงกับช็อกอึ้งไปชั่วขณะ กว่าจะตั้งสติขึ้นมาใหม่ได้
"ตอนนี้เขากำลังถูกพวกกบฏตามล่า เจ้าชายที่แกเห็นทุกวันนี้เป็นตัวปลอม พวกกบฏใช้คนหน้าคล้ายไปทำศัลยกรรมให้เหมือนเจ้าชายแล้วก็เอามาสวมรอย ตอนนี้พวกนั้นอาจจะระแคะระคายว่าเจ้าชายยังไม่ตาย เลยส่งคนมาตามหา"
"ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้จริงๆว่านายปูเป็น เอ๊ย ท่านปูเป็น จะเป็นเจ้าชายภูวเนศจริงๆ แต่แกแน่ใจนะว่าไม่ได้โดนหลอก"
"ฉันพิสูจน์มาหมดแล้ว ใช่แน่ๆ"
"แกพิสูจน์ยังไง"
"ฉันรู้ก็แล้วกัน...แป๋ม รีบไปบอกคนในโรงพยาบาลที่รู้ว่าเจ้าชายอยู่ที่นี่ ห้ามเขาบอกคนอื่นเด็ดขาด และเธอเองก็ห้ามบอกคนอื่นด้วยว่านายปูเป็นคือเจ้าชายภูวเนศ"
"ชัวร์ ขืนฉันพูดคนอื่นจะได้คิดว่าฉันบ้า ฉันไม่อยากเชื่อเลย นี่เจ้าชายภูวเนศอยู่ใกล้กับฉันแค่เอื้อม โอ้ววววว...น้ำ ขอฉันเข้าเฝ้าเจ้าชายหน่อยได้ไหม...อ้าว ทำไมเงียบ แบบนี้อย่าบอกว่านะแกหวงเจ้าชาย ไม่อยากให้เจอฉัน เอ๊ะ หรือว่ามันจะมากกว่าหวง อย่าบอกนะว่าหึง"
ทิพย์ธาราถูกเพื่อนต้อนซะจนหน้าแดง ใจเต้นโครมคราม ปรียานุชเลยฟันธงได้ทันทีว่า
"ไอ้น้ำ แกเจอของจริงแล้ว!"
จากนั้นปรียานุชก็รุกหนัก อยากรู้ว่าเพื่อนรักกับเจ้าชายไปถึงไหนกันแล้ว ยิ่งเห็นท่าทีเพื่อนรักเอียงอายหน้าแดงซ่าน ก็เลยยิงคำถามลักไก่ว่า
"แกกับเจ้าชายได้เสียกันแล้วใช่มั้ย"
ทิพย์ธาราผงะ พูดโพล่งอย่างลืมตัว "แกรู้ได้ยังไง"
เท่านั้นเอง ปรียานุชถึงร้องกรี๊ด "ไอ้น้ำ ฉันแค่ถามเล่นๆ แต่นี่แกจุดจุดจุดกับเจ้าชายแล้วจริงๆ น้ำ...แกแรงมาก นี่เห็นติ๋มๆ หงิมๆ ไวไฟนะยะ"
"นี่ มันไม่ใช่เรื่องที่น่าภูมิใจเลยนะ เลิกแซวได้แล้ว"
"เจ้าชายภูวเนศนี่รวดเร็วว่องไวสมกับเป็นชายชาตรีจริงๆ"
"จะไปชื่นชมเขาทำไม ผู้ชายฉวยโอกาสแบบนั้น"
"เอาน่า ไหนๆก็มาถึงขนาดนี้แล้ว ทำไมแกไม่ทำให้มันเป็นเรื่องเป็นราว แต่งกันไปเลย"
"แต่งเพื่อจะไปเป็นเมียน้อยเขา หรือแต่งเพื่อให้เขาไปมีเมียน้อย ฉันไม่แต่งหรอก เธอก็รู้เรื่องที่กษัตริย์ที่โน่นมีภรรยากี่คนก็ได้ไม่ใช่เหรอ แล้วจะให้ไปแต่งด้วยได้ยังไง"
"คิดมาก มัวแต่ห่วงเรื่องนี้ เดี๋ยวก็เสียตัวฟรี ไหนๆตอนนี้เขาก็ไม่มีใคร ทำไมไม่ทำให้มันถูกต้องไปเลย แล้วค่อยไปว่ากันทีหลัง"
"ฉันว่าเรื่องระหว่างฉันกับเขาน่ะ เอาไว้ทีหลัง เพราะตอนนี้ฉันเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยของเขามากกว่า ฉันว่าอันดับแรกต้องพาไปซ่อนก่อน อยู่ที่นี่อาจจะไม่ปลอดภัย"
"แล้วแกจะพาเจ้าชายภูวเนศไปซ่อนที่ไหน"
ทิพย์ธารานิ่งคิด...แล้วอีกครู่ต่อมา เธอก็ไปโผล่ที่บ้านพักคนงาน ตรงไปเคาะประตูห้องเรียกภูวเนศที่กำลังนอนก่ายหน้าผากคิดไม่ตก บอกให้เขาใส่เสื้อแล้วตามเธอมา เรามีเรื่องต้องคุยกัน...
ขณะเดินตามกันไปนอกบ้าน ภูวเนศกำลังจะอ้าปากถามทิพย์ธารา ทันใดนั้นวายุภัคก็โผล่ออกมาจากหลังต้นไม้ ตรงเข้าไปชกหน้าภูวเนศเต็มเหนี่ยว
"นี่สำหรับสิ่งที่แกทำกับน้องสาวฉันเมื่อคืน"
ภูวเนศแปลกใจ หันไปมองทิพย์ธาราที่ยืนอึ้งตกใจกับการกระทำของพี่ชาย
"ฉัน...เล่าเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับคุณให้ลมฟังหมดแล้ว"
"ทั้งเรื่องเมื่อคืน เรื่องที่แกไม่ได้เป็นใบ้ ไม่ได้ความจำเสื่อม แล้วก็ไม่ได้เป็นคนธรรมดา"
"ฉันบอกลมเรื่องที่คุณเป็นเชื้อพระวงศ์ของปารวัตรและกำลังโดนพวกกบฏตามล่า"
"ผมดีใจที่คุณรู้เรื่องเพราะตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อคืน ผมก็ไม่อยากปิดบังอีกต่อไป ผมอยากให้คุณรู้ว่าผมจริงใจกับน้องสาวคุณ ผมยินดีรับผิดชอบกับทุกอย่างที่เกิดขึ้น"
"ลองแกไม่รับสิ ฉันฆ่าแกหมกขี้วัวแน่"
"น้ำว่าเราอย่าเพิ่งคุยเรื่องนี้กันเลย ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่าที่ต้องรีบจัดการ แป๋มบอกว่ามีคนต่างชาติมาถามหาคุณที่โรงพยาบาล และคนพวกนั้นอาจจะรู้แล้วว่าคุณเข้ามาทำงานอยู่ที่นี่ คุณควรจะหลบไปอยู่ที่อื่น ลมยินดีให้คุณไปพักที่บ้านส่วนตัวในไร่องุ่น แต่คุณต้องอยู่อย่างเงียบๆ ระวังอย่าให้คนอื่นเห็น แล้วฉันจะบอกกับทุกคนว่าความจำของคุณกลับมา และคุณก็กลับบ้านไปแล้ว ลมจะช่วยปิดบังเรื่องนี้ด้วย"
"ผมต้องขอบคุณคุณลมมากที่ให้ความช่วยเหลือ"
"ฉันทำเพื่อน้องสาวฉัน ถ้าเขาไม่มาขอร้องและยอมสารภาพความจริงทั้งหมด อย่าหวังเลยว่าฉันจะช่วย"
ภูวเนศมองหน้าทิพย์ธาราส่งสายตาหวานฉ่ำด้วยความซาบซึ้ง วายุภัคเห็นแล้วหมั่นไส้รีบขัดขึ้น
"ไม่ต้องมามองตาเชื่อมกันแถวนี้เลย รีบไปเก็บเสื้อผ้า และไปเจอกับฉันที่หน้าไร่องุ่น ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจ...น้ำ มานี่"
วายุภัคลากทิพย์ธาราออกไป...จากนั้นไม่นานทั้งสามคนก็ไปเผชิญหน้ากันอีก ครั้งที่บ้านพักส่วนตัวของวายุภัคในไร่องุ่น วายุภัคให้ภูวเนศอยู่ที่นี่ ส่วนเขาจะไปนอนที่บ้านใหญ่ แล้วจะไม่ให้นากรีเข้ามาทำความสะอาด แต่จะให้น้ำมาดูแลเขาเอง สำหรับคอมพิวเตอร์ก็ปล่อยสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้แล้ว ใช้ติดต่อกับองครักษ์ได้ตามสบาย แล้วพรุ่งนี้จะให้น้ำเอาอาหารเช้ามาให้
วายุภัคใส่เป็นชุดจนทิพย์ธาราแย้งไม่ทัน แถมเธอยังถูกพี่ชายดึงมือออกไปอย่างรวดเร็วจนภูวเนศเองก็หมดโอกาสแม้แต่จะขอบคุณทั้งคู่
ขณะเดินกลับบ้านใหญ่ ทิพย์ธาราโวยวายวายุภัคว่าทำไมต้องให้เธอไปคอยดูแลเขาด้วย
"น้ำ ไหนๆมันก็มาถึงขนาดนี้แล้ว พี่รู้ว่าน้ำรับไม่ได้ที่ต้องยอมให้นายภูวเนศมีเมียหลายคน แต่เล่นตัวไปมันก็ไม่มีประโยชน์ ดูหน้าภูวเนศถึงจะร้าย แต่ดูท่าทางกลัวน้ำยังกะอะไรดี พี่ว่ากระฟัดกระเฟียดไปมีแต่จะทำให้ผู้ชายเซ็ง บั่นทอนความรักความเกรงใจกันเปล่าๆ แทนที่จะปั้นปึ่งใส่กัน น้ำควรจะปราบให้อยู่หมัด"
"ปราบให้อยู่หมัดเนี่ยนะ"
"ใช่ ถ้าน้ำทำได้ เดี๋ยวเขาก็เลิกความคิดที่จะมีคนอื่นไปเอง คราวนี้น้ำก็จะได้ทุกอย่างที่น้ำต้องการ"
"แล้วถ้าน้ำทำไม่ได้ล่ะ"
"พี่ขอถามแค่ข้อเดียว น้ำรักเขาหรือเปล่า" เธอเขินอายเงียบไปอย่างยอมรับ "ถ้ารัก...พยายามทำให้ดีที่สุด อย่าลังเล และไม่กลัว ตอนนี้เราถือไพ่เหนือกว่า แต่ถ้าปล่อยให้เนิ่นนานไป เกมมันอาจจะพลิก และผลลัพธ์ที่ได้มันอาจจะไม่ใช่คำตอบที่ดีสำหรับเรา"
ทิพย์ธาราคล้อยตามคำแนะนำของพี่ชาย แต่ยังคิดหนักว่าจะมัดใจเจ้าชายรูปหล่อคนนี้ยังไงดี
ooooooo










