สมาชิก

ธาราหิมาลัย

ตอนที่ 11

กว่าวายร้ายชาดุลจะเอะใจสงสัยก็ตอนที่ภูวเนศขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ยืนหยัดความ เป็นเอกราช และไม่ยอมให้ต่างชาติเข้ามากอบโกยผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่อุดม สมบูรณ์ของปารวัตร พร้อมกันนี้ชาดุลก็ได้รับการติดต่อจากซาเมียร์ที่โทร.เข้ามารายงานว่าจับ หญิงสาวชาวไทยที่เดินทางมากับภูวเนศได้แล้ว แต่เธอไม่ยอมบอกว่าภูวเนศอยู่ที่ไหน

"รีบพาตัวมันมาที่นี่เดี๋ยวนี้" ชาดุลสั่งเฉียบ

"ครับ...ว่าแต่เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่าครับ"

ชาดุลกวาดสายตามองไปรอบๆ เริ่มเห็นความผิดปกติ มีทหารแทรกซึมเข้ามาอยู่ในงานเพิ่มมากขึ้น

"ตอนนี้สถานการณ์ไม่ค่อยดี ฉันสงสัยว่าพวกมันจะรู้ตัวแล้ว และภูวเนศที่แกฆ่าตายมันเป็นตัวปลอม!"

"ตัวปลอม? แล้วคนที่อยู่ในงาน..." ซาเมียร์อึ้ง เหมือนสมองหยุดทำงานไปชั่วขณะ ทิพย์ธาราที่ถูกคุมตัวก็อึ้งพอกัน ความเป็นห่วงภูวเนศแล่นวาบมาที่สมองทันที...

"พาตัวผู้หญิงคนนั้นมาที่นี่โดยเร็วที่สุด ฉันจะใช้มันเป็นโล่กำบัง บอกตำรวจที่เป็นพวกเราคอยอารักขาฉัน แล้วรีบส่ง ฮ.มารับที่ด้านหลังเหมืองด่วน"

ชาดุลวางสาย มองซ้ายมองขวาอย่างระแวดระวัง สักครู่ก็มีตำรวจของฝ่ายซาเมียร์เคลื่อนกำลังเข้ามาคุ้มกัน จึงสะดวกต่อการหลบหนีออกไปจากงาน โดยที่ภูวเนศและพวกราจีฟไม่รู้ตัว

จนกระทั่งภูวเนศกล่าวประโยคสุดท้ายต่อนักธุรกิจชาวต่างชาติว่า

"ขอบคุณทุกท่านที่ให้ความสนใจ ถ้าทางเราพร้อมจะยื่นข้อเสนอใหม่เมื่อไหร่ จะรีบแจ้งให้ทราบทันที"

นักธุรกิจในงานมองหน้ากันเลิ่กลั่ก จับกลุ่มวิพากษ์วิจารณ์ด้วยความงุนงง ภูวเนศพยักหน้าให้กับราจีฟที่ยืนคุมเชิงอยู่ ราจีฟรับทราบและและพยักหน้าต่อไปยังเจ้าหน้าที่อีกกลุ่มที่รอฟังคำสั่ง ทุกคนจึงกระจายกำลังไปยังกลุ่มนักธุรกิจชาวต่างชาติ

"ทางรัฐบาลได้จัดห้องพักไว้ด้านใน ขอเชิญทุกท่านเข้าไปพักผ่อนก่อนนะครับ แล้วเราจะรีบเปิดแถลงข่าวชี้แจงอีกครั้ง เชิญครับ"

นักธุรกิจไม่ค่อยพอใจ แต่ไม่กล้าทำอะไร นอกจากตามน้ำไปก่อน แต่สายตาก็ยังแลหาชาดุลตลอดเวลา

"คณะทูตและนักลงทุนต่างชาติถูกเชิญไปอีกห้อง ที่เหลือจะมีแต่ข้าราชการชั้นสูง และตำรวจกบฏบางคน" ราจีฟ เข้ามารายงานภูวเนศ

"เราพร้อมแล้ว เริ่มแผนขั้นต่อไปได้เลย" ภูวเนศสั่งการ พลางกวาดสายตามองหาชาดุล แต่ไม่พบเห็น รีบเรียกราจีฟเอาไว้ "เดี๋ยว...ชาดุลหายไปไหน"

เวลานั้น ชาดุลมาถึงบริเวณหน้างาน พร้อมด้วยตำรวจอารักขาสี่ห้าคน ทันใดนั้นเอง วรุณเดินเข้ามาขวางทาง ถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะหยามอยู่ในที

"จะไปไหนไม่ทราบ ท่านนายกฯ"

"ฉันจะไปไหน ไม่จำเป็นต้องตอบ"

"เมื่อก่อนใช่ แต่ตอนนี้สถานการณ์มันเปลี่ยนไปแล้ว"

พูดขาดคำ วรุณก็พยักหน้าให้สัญญาณทีมทหารของตนที่รายล้อม พอเห็นทหารแสดงตัวพร้อมอาวุธครบมือ ชาดุลถึงกับหน้าซีด ทั้งๆที่ตำรวจอารักขาก็พร้อมตั้งรับอย่างเต็มที่ แต่ ตำรวจในงานเริ่มมองซ้ายขวาเลิ่กลั่ก   ไม่รู้ว่าฝ่ายไหนเป็นฝ่ายไหน รวมทั้งข้าราชการและแขกเหรื่ออีกจำนวนหนึ่งด้วยจนเมื่อชาดุลถูกล้อมกรอบหนีออกไปไม่ได้ จำต้องยืนฟังการแถลงของภูวเนศที่ดังกระหึ่มขึ้นได้ยินกันทั่ว

"ขอให้ทุกคนอยู่ในความสงบ และฟังข้าพเจ้า"

ภูวเนศยืนอยู่กลางเวที มีทหารยืนอารักขาอยู่ด้านหลัง และราจีฟประกบอยู่ด้านข้าง

"เกือบสี่เดือนที่ผ่านมา ข้าพเจ้าเดินทางไปเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ที่นั่น...ข้าพเจ้าถูกลอบทำร้ายจนเกือบเสียชีวิต แต่โชคยังดีที่มีกลุ่มคนซึ่งจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ล่วงรู้ถึงแผนการร้าย และยื่นมือเข้ามาช่วยจนข้าพเจ้ารอดชีวิตกลับมาได้ ข้าพเจ้ารักษาตัวจนหายเป็นปกติ และหลบเข้ามาในประเทศปารวัตรอีกครั้ง เมื่อมาถึงก็ทราบว่าเสด็จพ่อได้ทรงถูกลอบวางยาพิษเพื่อให้พระทัยของท่านทำงานหนักจนต้องเข้าโรงพยาบาล แต่โชคดีที่เราไหวตัวทัน   ติดตั้งกล้องวงจรปิดไว้   เพื่อเก็บภาพผู้ลอบปลงพระชนม์"

ชาดุลหน้าซีดเผือด กำมือแน่น หันมองภาพจากกล้องวงจรปิด ที่เจ้าชายภูวเนศตัวปลอมแอบใส่ยาพิษลงในอาหาร... ผู้คนในงานส่งเสียงฮือฮา บางคนถึงกับเอามือทาบอกด้วยความตกใจ

"ชายผู้นี้ไม่ใช่ข้าพเจ้า แต่ได้รับการผ่าตัดจนเหมือนข้าพเจ้า และเวลานี้เขาได้รับกรรมของเขาอย่างสาสม ท่านชาดุลคงจะรู้เรื่องนี้ดี เพราะชายผู้นี้เป็นคนของท่าน"

สายตาทุกคู่เพ่งเล็งไปยังชาดุลโดยพร้อมเพรียง แต่ชาดุล ยังคงนิ่งทั้งที่ในใจนั้นเดือดดาล โกรธแค้นอกแทบระเบิด

"นี่คือภาพก่อนและหลังผ่าตัดจากศัลยแพทย์ต่างชาติ ทำได้แนบเนียนเหมือนกับข้าพเจ้าไม่ผิดเพี้ยน ท่านชาดุลอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ทุกอย่าง รวมไปถึงยาที่ใช้ในการลอบปลงพระชนม์"

"ไม่จริง! กระหม่อมไม่เคยทราบเรื่องนี้มาก่อน กระหม่อม ไม่เคยคิดจะล้มล้างราชบัลลังก์ กระหม่อมจงรักภักดีมาโดยตลอด กระหม่อมโดนใส่ร้าย" ชาดุลตะโกนตอบโต้...ผู้คนเริ่มลังเล ส่งเสียงฮือฮากันอีกครั้ง

"แล้วเราจะได้รู้กัน ว่าคนอย่างท่านจงรักภักดีจริงๆหรือเปล่า" สิ้นเสียงมาดมั่นของภูวเนศ ราจีฟหันไปสั่งเจ้าหน้าที่เครื่องเสียง อีกพริบตาเดียวเสียงชาดุลกับนักลงทุนชาวต่างชาติคนหนึ่งกำลังเจรจาต่อรองธุรกิจก็ดังขึ้นมาอย่างชัดเจน

"ผมต้องการราคาสูงกว่าที่คุณเสนอมาอีกสองเท่า เพราะงานของผมเสี่ยงมาก ผมจะต้องได้มากพอกับการเสี่ยงในครั้งนี้"

"แต่บริษัทเราก็ยังสงสัยว่าเราจะมีอำนาจคุมการทำสัมปทานเหมืองเพชรได้เบ็ดเสร็จหรือเปล่า เราจะแน่ใจได้ยังไงว่าคนของรัฐจะไม่มายุ่งตลอดระยะเวลาสิบปี"

"แน่นอน คุณจะได้ทุกอย่างที่ต้องการ ถ้าผมได้ราคาที่ต้องการ อีกไม่นานทุกอย่างในปารวัตรจะต้องอยู่ในกำมือของผม ไม่ว่าจะเป็นอำนาจในการปกครอง ประชาชนหรือแม้แต่กษัตริย์วาสุเทพ และเจ้าชายภูวเนศ อยู่ในกำมือผมทั้งสิ้น"

ชาดุลผงะ เหงื่อกาฬผุดเต็มหน้า ภูวเนศรีบสรุปทันทีที่เสียงเทปหยุด

"เสียงนี้ไม่จำเป็นต้องนำคลื่นเสียงมาเทียบให้เสียเวลา ทุกคนก็ทราบอยู่แล้วว่าเป็นเสียงของใคร"

คนในงานต่างหันกลับไปทางชาดุลด้วยแววตาเกลียดชัง ชาดุลถึงกับสะท้านเยือก กัดฟันกรอดอย่างเจ็บใจ

"ในเมื่อทุกอย่างถูกเปิดเผยออกมาอย่างชัดเจนแล้วว่าใครคือศัตรูของประเทศ ขอให้พี่น้องชาวปารวัตรให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ในการจับกุมตัวผู้นำการกบฏแต่โดยดี อย่าให้มีการเสียเลือดเสียเนื้อ"

"ยอมแพ้เถอะท่านอดีตนายกฯ" วรุณโพล่งขึ้นมา... ชาดุลหันขวับไปจ้อง แวววตาเคียดแค้นสุดจะบรรยาย ประกาศกร้าวอย่างไม่ยอม

"คนอย่างฉัน...ไม่เคยแพ้!"

ทันใดนั้นเอง ซาเมียร์กระชากลากถูทิพย์ธาราในสภาพถูกมัดมือมัดปากเข้ามา พร้อมประกาศปกป้องนายใหญ่ของตนอย่างเด็ดเดี่ยว

"ห้ามแตะต้องท่านชาดุลเด็ดขาด ไม่งั้นผู้หญิงคนนี้ต้องตาย"

ซาเมียร์จ่อปืนเข้าที่ศีรษะทิพย์ธารา ภูวเนศอึ้ง ใจหายวาบเป็นห่วงหญิงที่ตนรัก จึงไม่กล้าผลีผลามสั่งการใดๆกับคนของตน  นอกจากร้องบอกซาเมียร์ให้ปล่อยเธอ  เธอไม่เกี่ยวกับเรื่องนี้

"ไม่เกี่ยวได้ยังไง ในเมื่อผู้หญิงคนนี้ยอมตายแทนเจ้าชายได้ แสดงว่าเธอต้องไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา"

"ซาเมียร์...ปล่อยเธอ แล้วโทษหนักจะกลายเป็นเบา คุณแค่ทำตามคำสั่งของเจ้านาย โทษไม่ได้หนักหนา"

"อย่าไปเชื่อมัน ถ้าพวกแกถูกจับเมื่อไหร่ โทษกบฏ คือประหารชีวิตสถานเดียว" ชาดุลสวนทันควัน

"ศาลพิจารณาความผิดเป็นตัวบุคคล เมื่อคุณทำตามคำสั่งของเจ้านาย โทษก็ไม่รุนแรงถึงขั้นนั้น และถ้าให้ความร่วมมือกับเรา โทษก็จะลดลง" วรุณรีบโน้มน้าว...ภูวเนศเสริมต่อทันที

"ตำรวจทุกคนก็เช่นกัน พวกท่านคงเห็นแล้วว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นในประเทศของเรา เราไม่โทษพวกท่านที่ต้องทำตามคำสั่งผู้บังคับบัญชา แต่ขอให้ทุกท่านใช้เลือดของคน ปารวัตร หัวใจของคนปารวัตรที่อยู่ในตัวท่านตัดสินสิ่งที่ท่านกำลังทำ และสิ่งที่ท่านจะทำต่อไป ควรหรือที่เราจะต้องมาเข่นฆ่ากันเอง ควรหรือที่เราจะต้องห้ำหั่นกันเอง ขอให้วางอาวุธ แต่โดยดี อย่าให้เลือดของพี่น้องปารวัตรต้องนองแผ่นดิน เพราะความโลภของชายผู้นั้นเพียงคนเดียว"

"อย่าไปฟังมันพูด มันไม่ปล่อยให้ใครรอดไปได้หรอก ไอ้พวกโง่" ชาดุลสบถ แล้วหันไปคว้าตัวทิพย์ธารามาจากซาเมียร์ ทั้งเอาปืนจ่อเธอตลอดเวลา ภูวเนศแตกตื่นตะโกนห้ามชาดุลเสียงเครียด

"ชาดุล อย่าทำอะไรเธอนะ"

"จะทำหรือไม่ทำ ฉันเป็นคนตัดสินใจ แกไม่มีสิทธิ์มาสั่ง" ชาดุลตะโกนก้องราวกับคนสติหลุด ความบ้าคลั่งเข้าครอบงำจิตใจ "ทุกคนฟังฉันให้ดีๆ ถ้าแกอยู่ที่นี่ก็ติดคุก ถ้าแก อยู่ข้างฉัน ช่วยฉัน พวกแกก็จะได้อยู่อย่างสบาย"

"คนเห็นแก่ตัวอย่างท่าน มีแต่คำว่าผลประโยชน์ ผู้ชายคนนี้บงการสังหารผู้บริสุทธิ์ ลอบวางยากษัตริย์ผู้เสียสละ ปลุกปั่นให้พวกเราต้องมาฆ่ากัน และวันนี้ยังใช้ผู้หญิงเป็นโล่กำบังตัวเอง ท่านจะฝากชีวิตไว้กับคนแบบนี้ได้ยังไง วางอาวุธ อย่าปกป้องคนผิดอีกเลย ผู้ชายคนนี้ไม่มีค่าพอสำหรับชีวิตและอนาคตของพวกท่าน ขนาดประเทศของตัวเอง แผ่นดินเกิดของตัวเอง เขายังทรยศได้ กับลูกน้องอย่างท่านเขาจะซื่อสัตย์ ได้ยังไง"

ตำรวจบางคนเริ่มได้คิด ค่อยๆวางปืนลงแต่โดยดี ชาดุล มองรอบตัวด้วยความหวาดหวั่น แล้วผันเปลี่ยนเป็นความโกรธ อย่างรวดเร็ว

"ไอ้พวกโง่ ไอ้พวกไม่มีสมอง พอได้ยินมันเกลี้ยกล่อมเข้าหน่อยก็เชื่อมันไปหมด คนโง่อย่างพวกแกอยู่ให้มันจับไป ก็แล้วกัน แต่ฉันไม่!"

ชาดุลสติแตกกระชากผ้าออกจากปากทิพย์ธารา พร้อมกับกระชับปืนจ่อแน่นเข้าที่ใต้คางของเธอ

"บอกมันสิ บอกมันให้เปิดทางให้ฉัน"

ทิพย์ธาราไม่ยอมพูด ชาดุลกระชากผมจนเธอหน้าหงาย ร้องโอ๊ย...ภูวเนศผวา ร้องสั่งให้ชาดุลปล่อยเธอเดี๋ยวนี้

"ฉันจะปล่อยก็ต่อเมื่อแกปล่อยให้ฉันขึ้น ฮ. ออกไปอย่างปลอดภัย...กว่าฉันจะมาถึงจุดนี้ได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ฉันมาจากการเลือกตั้ง ฉันมาจากความรักและความศรัทธาของประชาชน"

"แต่ท่านก็ทำลายความรักและความศรัทธานั้น ด้วยความโลภของตัวเอง"

"ไม่จริง ประชาชนชาวปารวัตรต้องการให้ฉันเป็นผู้นำประเทศ ฉันจะต้องเป็นคนที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ฉันจะไม่มีวันยอมแพ้ และไม่มีวันยอมตาย จนกว่าจะได้เป็นที่หนึ่งบนแผ่นดินนี้"

สิ้นคำของชาดุล พลแม่นปืนที่ราจีฟสั่งการไว้ก็ลั่นไกใส่ร่างชาดุลเต็มๆ ชาดุลแทบล้มทั้งยืน ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดแสนสาหัส ซาเมียร์ตกใจจะเข้ามาช่วย แต่ถูกวรุณขัดขวางเอาไว้

"ถ้าฉันไม่ได้สิ่งที่ฉันต้องการ พวกแกก็ต้องไม่ได้!" ชาดุลตะโกนลั่น พร้อมกับเล็งปืนไปที่ภูวเนศ ราจีฟร้องเตือนเจ้าชาย แต่ก็ช้ากว่าทิพย์ธาราที่พุ่งตัวเข้ามาขวางกระสุนปืน

"คุณน้ำ..." ภูวเนศตกใจสุดขีด ประคองร่างทิพย์ธาราที่กำลังจะทรุดลงกับพื้น

พร้อมๆกันนั้น เสียงปืนก็รัวใส่ร่างชาดุลอีกนับสิบ ชาดุล ทรุดฮวบเลือดท่วมกายขาดใจตายตาเบิกโพลง ซาเมียร์และลูกน้องถึงกับหน้าถอดสี ยกมือขึ้นเหนือศีรษะอย่างขลาดกลัว ยอมให้วรุณและราจีฟเข้าจับกุมโดยดุษณี

ทิพย์ธาราถูกส่งตัวไปยังโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน โดยมีภูวเนศเกาะติดสถานการณ์ด้วยความเป็นห่วงเธอจับใจ ส่วนท่านวาสุเทพที่วัง รับทราบว่าชาดุลตายแล้ว อดตกใจไม่ได้ พร้อมกันนี้ก็แปลกใจที่มีผู้หญิงชื่อทิพย์ธาราเข้ามาเกี่ยวข้อง ที่สำคัญเธอคนนี้ได้ช่วยชีวิตภูวเนศเอาไว้...อยากรู้เหลือเกินว่าเธอเป็นใคร?

ooooooo

ปรียานุชและณภัทรแวะมาเยี่ยมเยียนพ่อแม่ของทิพย์ธาราตามปกติ แต่วันนี้ยังไม่ทันจะเข้าบ้านพบพวกท่าน ปรียานุชก็ได้รับการติดต่อจากปฐพีที่ปารวัตร

หลังฟังเรื่องราวที่เกิดขึ้นทั้งหมด ปรียานุชกับณภัทรก็ร้อนรนรีบเข้ามาบอกกล่าวแก่สุพรรษาและมนตรี พอรู้ว่าลูกสาวถูกยิงได้รับบาดเจ็บรักษาตัวอยู่โรงพยาบาล สุพรรษาถึงกับเป็นลมหมดสติไปทันที

ทางด้าน ปฐพี วายุภัค อัคนี ทุกคนมารวมตัวกันที่โรงพยาบาลที่ทิพย์ธารารักษาตัว พวกเขาอยากจะเล่นงานภูวเนศนัก แต่ด้วยความเป็นเจ้าชายทำให้พวกเขาไม่กล้า ทำได้ก็แค่คิด

ทิพย์ธารายังอยู่ในห้องผ่าตัด โชคดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ แต่ถึงกระนั้นเธอก็เสียเลือดมาก ภูวเนศซึ่งมีเลือดกรุ๊ปเดียวกับเธอจึงพร้อมให้เลือดแก่เธอก่อนหน้าที่พี่ๆของเธอจะมาถึง

การผ่าตัดผ่านไปด้วยดี ทิพย์ธาราปลอดภัยและถูกส่งตัวไปยังห้องพักฟื้น ทั้งภูวเนศและสามแฝดรีบตามไปเป็นพรวน แล้วก็แย่งกันพูดเซ็งแซ่ไปหมด

"คุณน้ำ...คุณน้ำเป็นยังไงบ้าง ผมอยู่ที่นี่นะ คุณได้ยินผมหรือเปล่า"

"น้ำ...ลืมตาได้หรือเปล่า มองเห็นพี่มั้ย"

"น้ำ...พี่มาแล้ว น้ำเป็นยังไงบ้าง เจ็บรึเปล่า"

"เฮ้ย จะแย่งกันพูดทำไมวะ ไอ้น้ำมันฟังไม่รู้เรื่องหรอก" วายุภัคโวยขึ้นมา แต่ก็มิได้นำพา คนอื่นๆยังห้อมล้อมเตียงทิพย์ธาราและส่งเสียงกันอื้ออึง

จนกระทั่งราจีฟต้องมาสยบพวกพี่ๆของทิพย์ธาราอย่างนุ่มนวล แต่น่าเกรงขามอยู่ในที ทำให้สามแฝดไม่กล้าหือ ยอมถอยออกจากห้องแต่โดยดี

ทิพย์ธารายังเบลอๆเพราะฤทธิ์ยา ลืมตาเห็นภูวเนศนั่งข้างเตียง ถามเขาว่า

"เจ้าชาย...ที่นี่ที่ไหน"

"ตอนนี้คุณอยู่โรงพยาบาล คุณปลอดภัยดีแล้ว ผมต้องขอบคุณคุณมากที่ช่วยผมไว้ คุณช่วยชีวิตผมไว้อีกครั้ง"

"ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้คิดว่าคุณติดค้างอะไรฉัน"

"ไม่ได้ ผมคิดแบบนั้นไม่ได้ คุณช่วยผมไว้มากมายเหลือเกิน ผมอยากตอบแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำให้ผม ผมจะรีบเข้าไปเฝ้าเสด็จพ่อ เพื่อทูลขอในสิ่งที่คุณต้องการ พักผ่อนให้มากๆ ตอนนี้พี่ๆคุณอยู่ที่นี่แล้ว ผมจะรีบกลับมาพร้อมกับข่าวดี"

ภูวเนศจูบหลังมือเธอเบาๆ ก่อนลุกออกไปบอกราจีฟ ว่าตนจะกลับวัง เท่านั้นเอง สามแฝดก็พุ่งพรวดเข้าไปในห้อง แย่งกันพูดแย่งกันถามด้วยความเป็นห่วง จนทิพย์ธาราตอบแทบไม่ทัน

หลังจากนั้นสักพัก ปรียานุชก็ได้รับการติดต่อจากปฐพีอีกครั้งว่าเวลานี้ทิพย์ธาราปลอดภัยแล้ว สุพรรษาที่ยังนอนดมยาตื่นตัวทันที ขอคุยกับปฐพีเอง

"ดิน นี่มันเกิดอะไรขึ้นฮึ ทำไมน้องถึงโดนยิง แล้วใครเป็นคนยิง แล้วตอนนี้มันอยู่ไหน แล้วตอนที่มันยิงน้อง พวกเราหายไปอยู่ที่ไหนกัน อุตส่าห์ไปกันตั้งสามคน ดันดูแลน้องคนเดียวไม่ได้ ไม่ได้เรื่อง"

"แม่ครับ...คือ..."

"ไม่ต้องมาแก้ตัวเลย"

"อ้าว..."

"ไม่ต้องมาอ้าว รีบพาน้องกลับมาบ้านโดยเร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นแม่จะไปพาน้องกลับมาเอง"

สุพรรษากดตัดสายฉับ ปฐพีอึ้งกิมกี่ แทบไม่ได้พูดอะไรเลย...หันมาบอกคนอื่นๆว่า แม่ให้พาน้ำกลับบ้านด่วน ทิพย์ธาราบอกพี่ๆทันทีว่าตนยังกลับไม่ได้ ต้องรอฟังข่าวดีจากเจ้าชายก่อน สามหนุ่มถึงกับขมวดคิ้วสงสัยว่า ข่าวดีอะไร?

ทันทีที่กลับถึงวัง ภูวเนศรีบเข้ามาพบท่านพ่อ วรุณที่ถูกเรียกเข้ามาก่อนหน้านี้ จึงต้องถอยออกไป เมื่อได้ยินเจ้าชายบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะปรึกษาท่านพ่อ

"พ่อดีใจที่ลูกปลอดภัย ลูกพ่อไม่เคยทำให้พ่อผิดหวังจริงๆ แล้วเมื่อกี้ลูกบอกว่ามีเรื่องจะปรึกษา เรื่องอะไรเหรอลูก"

"เรื่องของผู้หญิงไทยที่ชื่อทิพย์ธารา ผู้หญิงคนนี้คือคนที่ลูกประสงค์จะแต่งงานด้วย"

วาสุเทพมิได้มีท่าทีแปลกใจ ยังคงพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบเช่นเดิม

"พ่อดีใจที่ลูกตัดสินใจแต่งงานเสียที แต่ลูกก็รู้ดีว่าปารวัตรไม่เคยมีพระชายาเป็นชาวต่างชาติ พ่อคิดว่าลูกควรจะรู้ว่าเธอเหมาะสมกับตำแหน่งอะไร"

"ลูกประสงค์ให้เธอเป็นชายา และเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวของลูก ลูกไม่ต้องการมีสนมอื่นอีก"

"ทำไมถึงพูดอย่างนั้น ลูกน่าจะรู้ประเพณีของเราดี"

"ลูกรู้ดี แต่ลูกประสงค์คู่ชีวิตเพียงคนเดียวคือทิพย์ธารา"

"พ่อรู้ว่าผู้หญิงคนนี้มีความสำคัญกับลูกมาก พ่อเรียกวรุณมาถามหมดแล้ว เธอช่วยชีวิตลูกไว้หลายครั้ง รวมทั้งในวันนี้ ไม่ใช่เรื่องแปลกที่ลูกจะรักเธอมาก แต่ในฐานะองค์รัชทายาท ลูกต้องมองให้กว้างมากกว่าคำว่ารัก หากผู้หญิงคนนี้รักลูกจริง เธอจะเข้าใจในตัวตนที่แท้จริงของลูกเอง การเป็นเจ้าชายไม่ใช่เรื่องง่าย และเป็นพระชายาก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน ลูกควรใจเย็นๆ อย่าเพิ่งด่วนตัดสินใจอะไร พ่ออยากให้ลูกไปหาท่านแม่ เปลี่ยนเสื้อผ้า พักผ่อนให้เต็มที่และเตรียมตัวสำหรับการแถลงข่าวต่อคณะทูตสำหรับเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้น ส่วนเรื่องทิพย์ธารา พ่อจะขอคุยกับเธอเอง"

ภูวเนศนิ่งเงียบไป แต่แววตาที่มองท่านพ่อนั้น เหมือนฝากความหวังไว้เต็มเปี่ยม

ooooooo

ธาราหิมาลัย

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด