สมาชิก

ปฐพีเล่ห์รัก

ตอนที่ 4

มะลิกลับมาเจอโมกข์อยู่ในบ้านของตนก็แปลกใจ เธอแสดงท่าทีเย็นชาใส่ และไม่ค่อยอยากตอบคำถามของเขา

"ไปธารารินทร์รีสอร์ตมาเหรอ? เธอคงยิ่งเกลียดฉันมาก"

"มะลิแค่ไม่อยากให้ลูกถูกใช้เป็นเครื่องมือ"

"ยิ่งพูดก็เหมือนกับฉันยิ่งเป็นคนเลว เอาเถอะ เธอจะคิดยังไงก็ช่าง แต่สำหรับคนเป็นพ่อ อยากทำให้ลูกทุกอย่าง"

"แล้วทำไมคุณโมกข์ต้องส่งชะเอมไปทำลายธารารินทร์ ด้วยคะ"

"ก็ถ้าแมกไม้วัลเล่ย์ของฉันได้เป็นสุดยอดรีสอร์ตของ ททท. เม็ดเงินก็จะไหลมาเทมา แล้วถ้าฉันเป็นอะไรไป แมกไม้ วัลเล่ย์ก็ต้องตกเป็นของทายาทฉัน"

"ซึ่งก็คือคุณสนฉัตรกับคุณต้นไทร แต่ยังไงก็ไม่ใช่ ชะเอมอยู่ดี...ไม่ใช่ว่ามะลิต้องการมรดกทรัพย์สมบัติของคุณหรอกนะคะ สตางค์แดงเดียวมะลิก็ไม่อยากได้ มะลิแค่อยากให้คุณรู้ถึงความถูกต้อง ชะเอมไม่ควรถูกใช้เป็นเครื่องมือ โดยเฉพาะทำลายคุณปฐพี คนที่เขามีบุญคุณกับมะลิ"

มะลิเน้นย้ำเสียงเขียว โมกข์นิ่งงันไป แล้วพอขับรถออกจากบ้านมะลิมา โมกข์ตัดสินใจโทร.หาคมเดช สั่งการว่าอย่าเพิ่งเขียนข่าวโจมตีธารารินทร์รีสอร์ต ไว้ตนหาข้อมูลเพิ่มเติมแล้วค่อยเขียนทีเดียวเลย

ด้านปฐพีที่ระแวงอยู่เหมือนกันว่าสนฉัตรกับต้นไทรจะมาล้วงความลับ แล้วยังชะเอมอีกคนที่เขายังไม่มั่นใจว่าเป็นอะไรกับโมกข์กันแน่ ทั้งสามคนน่าจะต้องการอะไรบางอย่าง ถึงได้พยายามเข้ามาที่นี่กันนัก ปฐพีจึงค่อนข้างระวังตัว และเก็บซ่อนหลักฐานเรื่องไฟไหม้รีสอร์ตไว้เป็นอย่างดี แม้จะยังไม่แน่ใจก็ตามว่าพวกเขาต้องการอะไรกันแน่?

ooooooo

ชะเอมกับรุ่งมาจ๊ะเอ๋กันที่หน้าโรงพยาบาล ต่างคนต่างหิ้วของเยี่ยมคนป่วยมาเต็มสองมือ แต่ขณะนั้นในห้องคนป่วย ระรินกับพุทรากำลังกินส้มตำยั่วน้ำลายบัวลอยที่นอนหยอดน้ำเกลือบนเตียง ขณะที่นทีอีกเตียงก็เริ่มจะรำคาญทุกคนแล้ว

เมื่อรุ่งกับชะเอมเยี่ยมหน้าเข้ามา นทียังเคืองรุ่งไม่หาย เห็นรุ่งซื้อของบำรุงร่างกายมาให้เยอะแยะ แทนที่จะขอบคุณ เขากลับต่อว่าเธอเป็นกระบุง จนรุ่งหมั่นไส้ อุตส่าห์ซื้อของดีๆ แพงๆมาให้กิน แต่กลับไม่ถูกใจ อยากจะกินพวกสมุนไพรถูกๆซะงั้น...

ปฐพีกำลังจะไปโรงพยาบาล ระหว่างทางรถเกิดเฉี่ยวชนกับคมเดชที่มัวแต่คุยโทรศัพท์กับวสันต์เรื่องข่าวโจมตีธารารินทร์รีสอร์ต คมเดชเป็นฝ่ายผิดแต่กลับเป็นฝ่ายลงมาโวยวายวางอำนาจใส่ปฐพี

"ขับรถยังไงคุณ รู้ไหมว่าผมน่ะเป็นใคร"

"คุณยังไม่รู้จักตัวเอง แล้วผมจะรู้จักคุณได้ยังไง อีกอย่างท่าทางคุณก็ไม่ได้บ้าจนจำตัวเองไม่ได้นี่"

"นี่คุณ...รู้เอาไว้ ผมน่ะนักข่าว"

"นักข่าวแล้วยังไง ขับรถชนคนไม่ผิดเหรอ...ก็ไม่ใช่"

"ใคร...ใครขับรถชนใคร คุณต่างหากที่ขับรถชนผม"

"ถ้าผมชนคุณจริงๆ รถคุณเละไปแล้ว ไม่ปล่อยให้มันเป็นแค่นี้หรอก"

ปฐพีชี้มือไปที่รถ คมเดชหันมองก็เห็นรถของตัวเองเป็นฝ่ายชนจังๆ เลยกลับลำว่า

"ไม่ต้องห่วง รถผมมีประกันชั้นหนึ่งด้วย"

"งั้นก็รีบจัดการตามประกันชั้นหนึ่งของคุณด่วนเลย ผมรีบ"

คมเดชฮึดฮัดกระชากประตูรถ เปิดคอนโซลจะหยิบเอกสารประกันแต่มือไปปัดซองสีน้ำตาลที่วางอยู่บนเบาะตกลงมาแทบเท้าปฐพี คมเดชรีบฉวยมันขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพราะในซองเป็นข่าวที่เขียนโจมตีธารารินทร์รีสอร์ตของปฐพี

เสร็จเรื่องแล้ว คมเดชบึ่งรถไปหาวสันต์ที่ป่าฝนรีสอร์ต เล่าเรื่องที่เจอปฐพีให้เขาฟังด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก

"แล้วตกลงไอ้ปฐพีมันเห็นเอกสารหรือเปล่า" วสันต์ถามอย่างระแวง

"ผมคิดว่าไม่นะครับ ท่าทางของมันก็ไม่ได้สงสัยอะไร แต่ถึงจะเห็นก็ไม่แปลก ผมเป็นนักข่าว ผมสามารถจะเขียนอะไรก็ได้อยู่แล้ว รวมทั้งความห่วย ความไม่ได้เรื่องของธารารินทร์รีสอร์ต"

"แต่ถ้ามันเห็น มันก็จะไหวตัวทัน ดีไม่ดีมันเกิดฟ้องขึ้นมาว่าคุณเต้าข่าวเขียนทำลายมัน แล้วจะยุ่ง"

"อยากเสียเวลาขึ้นศาลก็ให้มันฟ้องไปสิครับ อีกอย่างผมเป็นนักข่าวผมมีสิทธิ์วิจารณ์ได้ตามความคิดเห็นของผม มันจะฟ้องได้ยังไง"

"ได้สิ ถ้ามันรู้ว่าผมจ้างให้คุณเขียนข่าวทำลายมัน ไอ้เจนกิจมันทำพลาดไปครั้งแล้ว ผมไม่อยากให้คุณพลาดอีก" วสันต์กล่าวด้วยสีหน้าเป็นกังวล...

ขณะเดียวกันนั้น ปฐพีถึงโรงพยาบาลแล้ว แต่เขายังไม่ได้ไปเยี่ยมนทีกับบัวลอย เขาแวะไปดูเจนกิจที่นอนนิ่งอยู่ ในสภาพถูกพันด้วยผ้าทั้งร่าง มีท่อออกซิเจนและสายระโยงระยางเต็มไปหมด

"อาการคนเจ็บยังน่าห่วงอยู่มาก เพราะถึงจะพ้นขีดอันตรายแล้วแต่ร่างกายก็ถูกเบิร์นไปมาก" หมอรายงาน

"ศัลยกรรมช่วยได้ไหมครับ" ปฐพีถามอย่างร้อนใจ

"ได้ครับ แต่ยังไงก็คงไม่เหมือนเดิม"

"เขาเป็นคนของผม หมอช่วยเขาให้ดีที่สุดเลยนะครับ เรื่องค่าใช้จ่ายไม่ต้องห่วง ผมดูแลเขาเต็มที่"

"เขาเป็นคนไข้ของหมอ หมอก็มีหน้าที่ต้องดูแลเขาอย่างเต็มที่เหมือนกัน คุณปฐพีสบายใจได้"

หมอให้กำลังใจแล้วกลับออกไป ทิ้งให้ปฐพีได้อยู่กับคนป่วยตามลำพัง ปฐพีมองเจนกิจหน้าเศร้า ทั้งสงสารและเห็นใจ

"ขอโทษนะ ที่ฉันให้ใครรู้เรื่องของนายไม่ได้ โดยเฉพาะคนของแมกไม้วัลเล่ย์ และชะเอม"

ปฐพีพูดพึมพำก่อนผละออกมาจากห้อง แล้วตรงไปยังห้องที่นทีกับบัวลอยนอนรักษาตัวอยู่ ชะเอมกำลังคะยั้นคะยอบัวลอยให้กินของที่ซื้อมาเยี่ยม ส่วนรุ่งเข็นรถพานทีออกไปสูดอากาศข้างนอกได้สักพักแล้ว

ปฐพีแอบมองอยู่หน้าห้อง เห็นชะเอมอ้อนวอนคะยั้นคะยอบัวลอยจนอ่อนใจ กว่าบัวลอยจะยอมชิมแกงหวาย แต่แค่คำเดียวก็บอกไม่เอาแล้ว ไม่เห็นอร่อยเหมือนวันนั้นเลย ชะเอมจึงบอกว่าวันนั้นแม่ทำ แต่วันนี้เธอซื้อมา ถ้าคุณบัวลอยอยากกิน วันหลังเธอจะให้แม่ทำให้

บัวลอยชะงักไปอย่างงงๆ แต่ปฐพีเข้าใจดีเพราะรู้แล้วว่ามะลิคือแม่ของชะเอม ซึ่งมะลิสนิทกับบัวลอย สองคนนี้รักใคร่กลมเกลียวกันมากขณะทำงานอยู่ในรีสอร์ตของเขา

ปฐพีถอยกลับออกไปอย่างเงียบกริบโดยที่ทุกคนในห้องไม่รู้ แล้วไปเจอนทีกับรุ่งกำลังแหย่เย้ากระเง้ากระงอดกันด้วยเรื่องสัพเพเหระ เมื่อรุ่งเห็นปฐพีเดินตรงมา เธอจึงบอกลานทีก่อนเลี่ยงออกมาทันที

รุ่งกลับเข้ามาในห้อง อารามรีบร้อนเธอเปิดประตูผลัวะเข้ามากระแทกพุทราอย่างแรง พุทราทั้งเจ็บทั้งตกใจร้องจ๊ากสุดเสียง ต่อว่าหน้าตาเหยเก

"นี่ใจคอพวกเธอสองคนจะให้พวกเรานอนโรงพยาบาลกันให้ได้ทุกคนเลยใช่มั้ย"

"รุ่งขอโทษค่ะ รุ่งไม่ทันระวัง...กลับเถอะเอม"

"อีกตั้งสิบห้านาที จะรีบกลับทำไม"

"เถอะน่า กลับเถอะ...เร็ว" รุ่งลุกลี้ลุกลนจนชะเอมแปลกใจ

"กลับเถอะ ฉันไม่อยากจะเป็นรายต่อไป" ระรินตวัดเสียงใส่

"งั้นเอมกลับก่อนนะคะ วันหลังเอมจะมาเยี่ยมใหม่"

"ไม่ต้องๆ พรุ่งนี้คุณบัวลอยก็จะกลับแล้ว"

"งั้นเอมจะให้แม่แกงหวายมาให้คุณบัวลอยนะคะ"

รุ่งไม่รอช้า ดึงชะเอมออกไปนอกห้อง อาการร้อนรนของรุ่งทำให้ชะเอมสงสัย ถามว่าจะรีบไปตามแมวที่ไหน ทำไมเร่งนักล่ะ

"ไม่เร่งได้ยังไง คุณปฐพีมาที่นี่"

"ก็ไม่เห็นแปลกนี่ คนของเขาเจ็บ เขาก็ต้องมาเยี่ยมเป็นเรื่องธรรมดา"

"แต่รุ่งว่าเขามองรุ่งแปลกๆ เหมือนจะจับผิดอะไรน่ะสิ"

ชะเอมหน้านิ่วขึ้นมาทันที แล้วรุ่งก็พาชะเอมมาแอบดูปฐพีกับนทีคุยกัน

"คุณไพน์ทำถึงขนาดนั้นเลยเหรอครับ"

"อืม...แต่เรื่องวีดิโอพรีเซนต์ผมไม่ได้ห่วง ที่ผมห่วงก็คือ นับวันพวกแมกไม้วัลเล่ย์ยิ่งเข้าใกล้เราทุกวัน ชะเอมก็มาป้วนๆเปี้ยนๆ แล้วยังเพื่อนของชะเอมอีก รุ่งอรุณอะไรนั่นน่ะ"

"มันก็ใช่ครับ เพราะจริงๆแล้วยัยจุ้นนั่นไม่น่าจะมีน้ำใจมาเยี่ยมผมขนาดนี้"

"งานนี้ผมว่ามันคงไม่ใช่เรื่องคัดเลือกสุดยอดรีสอร์ตแล้วล่ะ แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในรีสอร์ตเราเมื่อสองปีก่อน"

แม้สองสาวจะไม่ได้ยินว่าเขาคุยอะไรกัน แต่สีหน้าท่าทางของสองหนุ่มก็ดูมีเลศนัยชวนให้สงสัย...

ooooooo

ค่ำนี้ สนฉัตรกับต้นไทรพยายามเซิร์ชหาข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับธารารินทร์รีสอร์ต แต่น่าแปลกที่ไม่มีข้อมูลที่พวกเขาสงสัย คาดว่าปฐพีต้องสั่งปิดข่าวแน่ๆ

"อย่างว่า เรื่องมันเกิดในรีสอร์ตของเขา ไม่มีใครรู้ ไม่มีใครเห็น เขาจะทำยังไงก็ได้"

"แล้วตอนที่เกิดเรื่อง คุณปฐพีก็แก้ปัญหาได้ดีมาก ไม่มีใครซักคนที่รีสอร์ตปริปากพูดเรื่องนี้แม้แต่คนเดียว แม้แต่ผู้เสียหายก็ไม่มีไปแจ้งความด้วยซ้ำ"

"เป็นไปได้ยังไง"

"ที่คนเขาว่าชาวบ้านแถวนี้รักคุณปฐพีมากเห็นจะเป็นเรื่องจริง เราสองคนคงต้องทำงานหนักขึ้นแล้วล่ะ"

"เสียดายวันนี้ยัยมะลิไม่น่าเข้าไปจุ้นเลย" 

โมกข์เดินเข้ามาได้ยินประโยคสุดท้ายนี้พอดี เขาซักลูกๆว่ามะลิเข้าไปจุ้นอะไร สองพี่น้องชักสีหน้าไม่พอใจ...ต้นไทรแกล้งตอบยียวนว่า

"ขัดขวางตอนที่พี่ไพน์กำลังจะได้ความลับของธารารินทร์น่ะสิครับ"

"แล้วเป็นยังไง นายปฐพีจับได้หรือเปล่า" น้ำเสียงโมกข์ ร้อนรนจนลูกๆมองอย่างจับผิด

"ตกลงพ่ออยากได้ความลับของธารารินทร์หรือห่วงยัยมะลิกันแน่คะ"

โมกข์ชะงัก แล้วกลบเกลื่อนว่า "ก็ถ้าตอนนี้มันวุ่นวาย เพราะนายปฐพีมันกำลังจ้องจับผิด พ่อว่าเราน่าจะชะลอไปก่อน อย่าเพิ่งไปขุดคุ้ยอะไรเลย"

"ที่พ่อเปลี่ยนใจ เพราะชะเอมกับยัยมะลิใช่ไหมคะ ...ตอนแรกไพน์ก็ไม่ได้อยากยุ่งอะไรมากกับคุณปฐพี แต่ยิ่งพ่อแสดงให้เห็นว่าพ่อแคร์สองแม่ลูกนั่น ไพน์จะลุยงานนี้เอง และถ้างานสำเร็จ สตางค์แดงเดียวก็อย่าหวังเลยว่าไพน์จะแบ่งให้ชะเอม"

"พ่ออยากเห็นลูกคนใช้ดีกว่าลูกในไส้ก็เชิญเลยครับ แต่ผมกับพี่ไพน์ไม่มีทางยอมรับยัยเด็กนั่นเด็ดขาด"

ว่าแล้วสองพี่น้องก็สะบัดหน้าเดินตามกันออกไป ทิ้งให้คนเป็นพ่อยืนหน้าเครียดอยู่คนเดียว

ooooooo

ฝ่ายชะเอมกับรุ่งกลับเข้าบ้านมาก็สุมหัวกระซิบกระซาบเรื่องปฐพีที่ดูมีลับลมคมใน เหมือนจะสงสัยเราสองคน แต่ยังไงชะเอมก็ย้ำกับรุ่งว่าเราต้องทำเนียนเข้าไว้ ตราบใดที่เขายังไม่ชี้หน้าด่า ก็ถือว่าเราสองคนเป็นผู้บริสุทธิ์

"เฮ่ย ต้องรอให้เขาชี้หน้าด่าเลยเหรอ"

"ฮื่อ...เพราะถ้ารู้แล้วอยู่เฉยๆ แสดงว่าเขายังไม่รู้ลึกรู้จริงว่าเราจะทำอะไร แล้วเราจะหยุดทำไม ใช่เปล่า มันต้องเอาให้เด็ดขาด แตกเป็นแตก หักเป็นหัก"

รุ่งหน้าจ๋อยเป็นกังวล ชะเอมมองสงสัย

"หรือรุ่งไม่อยากแตกหัก...ว่าไง วันนี้ก็ขลุกอยู่กับ คุณนทีทั้งวันเลยนี่"

"ขลุกอะไร ก็ไปเยี่ยมเขาแค่นั้นเอง หรือเอมอยากเห็นรุ่งเป็นคนไร้น้ำใจ"

"เปล่า...เพียงแต่สงสัย ไม่เคยเห็นรุ่งอรุณกรุ่นกาแฟมีน้ำใจกับใครเขาขนาดนี้นี่"

"แหงสิ ไม่งั้นจะยอมล่มหัวจมท้ายกับเอมทำอะไรแผลงๆแบบนี้เหรอ ทั้งๆที่มันไม่ใช่เรื่องของรุ่งซักหน่อย"

"ขอบใจนะรุ่ง ขอบใจที่ยอมเป็นเพื่อนเอม"

"ก็บอกแล้วไงว่าเอมเป็นเพื่อนรักของรุ่ง...รุ่งรักเอม"

สองเพื่อนรักยิ้มแย้มกอดคอกัน แล้วต้องสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงมะลิถามอยู่ข้างหลังว่า

"ทำไมกลับมาบ้านพร้อมกันได้ล่ะเอม...รุ่ง"

สองสาวยิ้มแหะๆ ค่อยๆลุกตามมะลิไปที่โต๊ะอาหาร แล้วรุ่งก็อ้อมแอ้มตอบคำถามว่า พอดีรุ่งแวะไปหาเอมที่ทำงาน มะลิไม่เชื่อ พูดจับผิดว่า

"รุ่งรู้จักที่ทำงานเอมแล้ว วันหลังพาน้าไปหาเอมบ้างนะ"

สองสาวชะงักกึก ทำหน้าปูเลี่ยนๆ มะลิยิ่งมองสงสัย แต่ทันใดชะเอมก็รีบเปลี่ยนเรื่องกลบเกลื่อนไปว่า

"แม่คะ พอดีเพื่อนที่ออฟฟิศเอมไม่สบาย เขาอยากกินแกงหวาย แม่ช่วยทำให้เขาหน่อยได้มั้ย"

"อะไรกัน เด็กวัยรุ่นสมัยนี้กินแกงหวายแกงโบราณแบบนี้เป็นด้วยเหรอ  เอาเป็นว่าพรุ่งนี้แม่เอาไปให้เขาเองแล้วกัน แต่เอ...รุ่งกับเอมนี่เหมือนกันหลายอย่างเนอะ วันนี้ เพื่อนรุ่งเข้าโรงพยาบาล  มาตอนนี้พี่ที่ออฟฟิศของเอมก็อยู่โรงพยาบาลอีก อย่างกับเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกัน"

มะลิทิ้งท้ายก่อนเดินเข้าไปในครัว สองสาวหน้าจืดสนิท พอหลังอาหารก็รีบเข้าห้องปรึกษาหารือกันเคร่งเครียด

"น้ามะลิพูดแปลกๆ อย่างกับรู้ว่าเอมทำงานอยู่ไหน อะไร กับใครงั้นแหละ แล้วก็ยังจ้องจับผิดเราด้วย"

"เอมไม่ยอมให้แม่จับผิดง่ายๆหรอก   แต่รุ่งต้องช่วยเอมเหมือนเดิมนะ"

"โอ๊ย...เอาอีกแล้วเหรอ"

"ก็งั้นสิ เราสองคนเป็นเพื่อนรักเพื่อนตายกันไม่ใช่เหรอ"

"ฮื่อ...และตอนนี้รุ่งก็อยากตายจริงๆแล้วล่ะ เอมใช้ตลอดเลย" รุ่งบ่น...แต่มองหน้าชะเอมยิ้มๆ ทอดสายตาไปที่ดวงจันทร์   แต่ดวงจันทร์กลับกลายเป็นหน้านที   รุ่งสะดุ้งเฮือก หุบยิ้มทันทีทันใด...

ปฐพีตัดสินใจรับนทีและบัวลอยกลับรีสอร์ตในคืนนี้เลย   นทียังคงเดินกะเผลกเล็กน้อย   แต่ใจนั้นเต็มร้อย  บอกกับปฐพีขณะลงจากรถว่า

"คุณปฐพีไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะจับตามองรุ่งอรุณเอง และถ้าไม่มีธุระจำเป็น ผมจะไม่ให้เขาเข้ามาในนี้เด็ดขาด"

"ไม่เป็นไร คิดซะว่าเขาเป็นแขก แต่ถ้ามีอะไรผิดสังเกต ผมอนุญาตให้คุณจัดการในฐานะเจ้าของรีสอร์ตได้ทันที"

นทีอึ้งไปนิดก่อนรับคำ จากนั้นปฐพีก็ให้ทุกคนแยกย้ายไปพักผ่อน พรุ่งนี้จะได้ตื่นมาทำงานกันแต่เช้า

"เอ่อ...บัวลอยยังไม่ค่อยไหว ขอพักก่อนนะคะ แต่ยังไง บัวลอยจะไปให้กำลังใจคุณระรินกับคุณพุทราที่ออฟฟิศค่ะ"

ปฐพีพยักหน้าก่อนเดินออกไปกับนที ระรินกับพุทราหันขวับมามองหน้าบัวลอยอย่างรู้ทันว่าบัวลอยตั้งใจอู้งาน แต่บัวลอยก็ยักไหล่อย่างไม่แคร์

นทีกำลังจะเข้าบ้านพัก เหลือบเห็นเสื้อของรุ่งที่ซักตากเอาไว้ จึงหยิบติดมือเข้ามาด้วย แล้วทรุดนั่งลงบนเตียงที่รุ่งเคยนอนเมื่อวันก่อน รู้สึกคิดถึงเธอขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

"รุ่งอรุณ...คุณอย่าเป็นคนร้ายเลยนะ" ชายหนุ่มรำพึงออกมาอย่างไม่มั่นใจ...

ooooooo

ปฐพีเล่ห์รัก

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด