ตอนที่ 10
เมื่อรู้จากต้นไทรและสนฉัตรว่าเมื่อวานมีการวางระเบิดที่แก่งจงอาง โมกข์เป็นห่วงชะเอม พร้อมๆกับนึกไปถึงวสันต์ที่น่าจะเป็นตัวการเรื่องนี้ โมกข์ร้อนใจมากรีบไปพบวสันต์ถึงบ้าน โดยมีลูกๆทั้งสองติดตามไปด้วย
"ท่าจะไม่ใช่เรื่องเล็กๆ ถึงได้ยกโขยงมาหาผมทั้งบ้าน"
"คุณเป็นคนวางระเบิดที่แก่งจงอางใช่มั้ย"
"จะใช่หรือไม่ใช่มันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ"
"แต่ถ้ามีคนตายมันจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ และทุกอย่างก็จะถูกสาวออกมาว่าห้องเครื่องที่ธารารินทร์เคยเกิดระเบิด มันไม่ใช่อุบัติเหตุเพราะความสะเพร่าหรือเลินเล่อของปฐพี แต่มันเกิดจากการวางแผนของคุณ"
สนฉัตรกับต้นไทรตะลึงตาค้าง ที่ผ่านมารู้แค่ว่าต้องไปเอาความลับมาให้พ่อทำลายธารารินทร์ แต่ไม่เคยรู้ลึกขนาดนี้
"คุณคงจำเรื่องราววันนั้นได้นะ" โมกข์เสียงกร้าว แล้วค่อยๆลำดับเหตุการณ์เมื่อสองปีก่อนที่ตนเองแอบได้ยินวสันต์วางแผนส่งเจนกิจเข้าไปวางระเบิดในธารารินทร์ ซึ่งเป็นจังหวะที่ปฐพีกำลังให้คนติดแผงโซลาร์เซลเพื่อผลิตไฟฟ้าใช้ในรีสอร์ต แล้วเจนกิจก็ทำสำเร็จ มีคนล้มตายเพราะแรงระเบิด แต่เจนกิจเองก็บาดเจ็บอาการปางตาย ต้องไปนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลจนถึงปัจจุบัน โดยปฐพีที่เข้าใจว่าเกิดเหตุร้ายเพราะความผิดพลาดของพวกตนให้การดูแลเจนกิจเป็นอย่างดี
วสันต์โกรธมากที่โมกข์ขุดคุ้ยเรื่องนี้ขึ้นมา ระแวงว่าโมกข์คิดจะตลบหลัง แต่วสันต์ก็บอกกับตัวเองหลังจากสามคนพ่อลูกกลับไปแล้วว่า แกไม่มีวันทำอย่างนั้นได้แน่!
โมกข์กลับมานั่งเครียดเพราะเป็นห่วงชะเอมที่อาจจะติดร่างแหและกลายเป็นแพะ เขามั่นใจว่าปฐพีต้องสงสัยชะเอมแน่ เพราะชะเอมไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุกอย่าง สนฉัตรกับต้นไทรจากที่เคยรังเกียจชะเอม ถึงเวลานี้ทั้งคู่ก็อดเป็นห่วงน้องสาวต่างมารดาไม่ได้เหมือนกัน
เวลานั้น ปฐพีไม่ยอมไปแจ้งความแต่พาชะเอมมาที่บ้านพักของตน แล้วถามหยั่งเชิงจะให้ชะเอมยอมรับว่าโมกข์เป็นคนผิด เป็นคนบงการให้ชะเอมเข้ามาทำลายธารารินทร์รีสอร์ต แต่ชะเอมก็ยืนยันว่าโมกข์ไม่ได้ทำ เธอคิดเองทำเองทั้งนั้น
"เธอปกป้องเขาทำไม" ปฐพีเริ่มโมโห
"เพราะหน้าที่มั้งคะ หน้าที่ของคนเป็นลูก ถึงแม้ว่าลูกคนนี้พ่อจะไม่ต้องการ"
"งั้นหน้าที่ของหัวใจ ฉันก็คงจับเธอส่งตำรวจไม่ได้ เพราะฉันรักเธอ"
"คุณปฐพี..." ชะเอมร้องไห้โฮเดินมากอดปฐพีแน่น "เอมขอโทษ...เอมไม่น่ายอมทำเรื่องโง่ๆแบบนั้นเลย"
"ฉันเชื่อว่าไม่มีใครโง่หรอก เพราะทุกคนล้วนมีเหตุผลในการกระทำของตัวเองทั้งนั้น รวมทั้งฉันด้วย ฉันยอมให้ทุกคนตราหน้าว่าเป็นคนโง่ ตาบอดเพราะความรัก แต่ฉันทำร้ายเธอไม่ได้จริงๆ อยู่ที่นี่นะฉันจะไปทำธุระที่ออฟฟิศเดี๋ยว จำเอาไว้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ฉันก็รักเธอ"
ปฐพีผละออกไปด้วยความรู้สึกทั้งรักและเห็นใจชะเอม แล้วไปกระซิบบอกพุทราที่หน้าห้องให้จับตามองชะเอมเอาไว้ให้ดี ถึงเขาจะแน่ใจว่าชะเอมไม่ใช่คนร้าย แต่เขาก็อยากลองใจเธออยู่ดี และที่สำคัญ ขบวนการล่อเสือออกจากถ้ำของเขายังไม่เสร็จ...
รุ่งยังวนเวียนป้วนเปี้ยนอยู่ที่ออฟฟิศธารารินทร์เพราะอยากรู้ข่าวคราวของนที แต่จนแล้วจนรอดตลอดทั้งวันก็ไม่มีข่าวคืบหน้าอะไรเลย ค่ำลงรุ่งจึงต้องตัดใจยอมกลับบ้าน แต่ระหว่างทางไม่คาดคิดว่าจะพบนทีนั่งสะลึมสะลืออยู่ในรถ รุ่งเห็นท่าไม่ดีจะพาเขาไปหาหมอ แต่นทีบอกว่าเขาอยากกลับบ้านมากกว่า
รุ่งตามใจ ขับรถพาเขากลับมาที่บ้านพักหลังเดิม แล้วปรนนิบัติดูแลเขาเป็นอย่างดี เพราะลึกๆรุ่งแอบมีใจให้เขามานานแล้ว ขณะเดียวกันนทีก็ถูกใจในความแก่นเซี้ยวไม่เหมือนใครของรุ่ง เมื่อได้อยู่ใกล้ชิดกันตามลำพังในช่วงเวลาแบบนี้ ทั้งคู่จึงบอกรักกันและกันอย่างเขินๆอายๆ
ด้านชะเอมที่ยังปักหลักอยู่ในบ้านพักปฐพี โดยไม่รู้ว่าตัวเองถูกปฐพีจับตามองตลอดเวลาจากกล้องวงจรปิด ชะเอมครุ่นคิดกลุ้มใจกลัวโมกข์จะยังคิดเล่นงานปฐพีอีก คิดไปคิดมาชะเอมลุกไปเปิดคอมพิวเตอร์แล้วลบข้อมูลเหตุการณ์ไฟไหม้ทิ้ง โดยเข้าใจว่าเป็นเหตุการณ์วันเกิดระเบิดที่โมกข์พยายามจะเอามาให้ได้
ปฐพีเห็นดังนั้นก็รีบต่อสายถึงพุทรา เพียงไม่กี่อึดใจพุทราก็มาเคาะประตูเรียกชะเอม บอกว่าคุณปฐพีให้มาเอาคอมพิวเตอร์ แต่พุทราแปลกใจทำไมเครื่องถึงร้อนเหมือนเพิ่งมีคนใช้งาน ชะเอมแก้ตัวทันทีว่า
"ในห้องอากาศคงร้อนมั้งคะ คุณพุดดิ้งรีบเอาไปให้คุณปฐพีเถอะค่ะ" ครั้นพุทราหรือพุดดิ้งหิ้วคอมพิวเตอร์ออกไปแล้ว ชะเอมผ่อนลมหายใจยาว ก่อนบอกตัวเองอย่างโล่งใจว่า "เสร็จสิ้นภาระของเธอแล้วชะเอม และต่อไปก็จะไม่มีหลักฐานอะไรที่จะทำลายธารารินทร์รีสอร์ตได้อีก"
ขณะที่ชะเอมโล่งใจ แต่ปฐพีกลับไม่เข้าใจ ทำไมชะเอมต้องลบทิ้งข้อมูลนั้น เธอมีจุดประสงค์อะไรกันแน่?
เมื่อคืนเพิ่งจะโล่งใจว่าโมกข์ไม่มีทางทำลายธารารินทร์รีสอร์ตได้อีกแล้ว แต่เช้าขึ้นชะเอมกลับต้องเดือดเนื้อร้อนใจแทนปฐพีขึ้นมาอีก เมื่อหนังสือพิมพ์ลงข่าวประท้วงรางวัลสุดยอดรีสอร์ตที่ธารารินทร์ได้มา แถมยังมีภาพความวุ่นวายที่เจอระเบิดในวันล่องแก่ง ชะเอมมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือวสันต์อย่างแน่นอน และโมกข์ก็อาจจะร่วมมือกับวสันต์ด้วย
ชะเอมร้อนใจเป็นอย่างมาก ตัดสินใจว่าเธอจะต้องทำอะไรสักอย่าง แต่แค่เธอก้าวขาจะออกจากบ้านก็หมดสิทธิ์ ปฐพีไม่ยอมให้เธอไปไหน และไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ตอนนี้เขาไม่ไว้ใจเธออีกต่อไปแล้ว ขณะเดียวกันนั้น มะลิกำลังกระวนกระวายใจ เป็นห่วงชะเอมที่หายไปตั้งแต่เมื่อวาน บ้านช่องไม่กลับ โทร.หาก็ไม่รับ จนเมื่อบัวลอยมาส่งข่าวว่าชะเอมตกเป็นผู้ต้องสงสัยเรื่องวางระเบิดที่แก่งจงอาง ตอนนี้ถูกปฐพีคุมตัวไว้ เพื่อรอเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัวไป มะลิตกใจหน้าซีดเผือด แล้วไปโวยวายต่อว่าโมกข์เป็นการใหญ่ หาว่าเขาเป็นคนผลักดันหลอกลวงให้ชะเอมหลงผิดเป็นชอบ
โมกข์ตกใจไม่น้อย เช่นเดียวกับสนฉัตรและต้นไทรที่รู้ดีว่าชะเอมไม่ได้ทำ แล้วอีกครู่ต่อมาโมกข์ก็โทร.ไปนัดพบปฐพี โดยที่มะลิไม่รู้เรื่อง ยังเฝ้าแต่รำพึงรำพันกับบัวลอยด้วยความเสียใจและแค้นใจ
"ฉันเกลียดตัวเองจริงๆเลยพี่บัวลอย เกลียดตัวเองที่ไปรักคนไม่มีหัวใจ ดูซิขนาดลูกกำลังเดือดร้อน แต่เขากลับทำเป็นทองไม่รู้ร้อน ไม่ห่วงชะเอมเลย"
"ใจเย็นนะมะลิ"
"ฉันเย็นไม่ไหวแล้วพี่ จริงสิ คุณโมกข์เขาไม่เคยเห็นว่าชะเอมเป็นลูกของเขาอยู่แล้ว เขาเลยไม่ดูดำดูดี หนำซ้ำยังใช้ให้ชะเอมไปทำเรื่องบ้าๆอีก พี่บัวลอยต้องช่วยฉันนะ ชะเอมไม่ได้เป็นคนร้าย แล้วชะเอมก็ไม่ได้คิดร้ายต่อคุณปฐพี แต่เป็นเพราะชะเอมถูกหลอกลวง ชะเอมถูกคนเป็นพ่อหลอกใช้"
"โอ๊ย...พอแล้ว มะลิ ไม่ต้องมาร้องห่มร้องไห้ดราม่า นี่พี่ถามจริงๆเถอะ เธอคิดว่าคุณปฐพีเป็นคนโง่เหรอ เธอคิดว่าคนอย่างคุณปฐพีจะดูไม่ออกเหรอว่าอะไรเป็นอะไร"
"หมายความว่ายังไงพี่"
"ฟังพี่นะ คุณปฐพีรู้มาตั้งนานแล้วว่าชะเอมเป็นลูกของเธอกับคุณโมกข์ อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไปก่อนไข้ ตั้งสติแล้วคิดดูให้ดีๆ ถ้าคุณปฐพีคิดว่าคุณโมกข์เป็นศัตรู เป็นคนร้าย เขาจะกล้ารับลูกของศัตรูมาทำงานด้วยเหรอ สิ่งที่คุณปฐพีทำ พี่ว่าคนอย่างเราๆคิดไม่ถึงหรอก เชื่อพี่สิ"
คำพูดของบัวลอยทำเอามะลิตะลึงเงียบงันไปทันที ส่วนโมกข์ที่นัดปฐพีออกมาเจอ เขายืนยันหนักแน่นว่าชะเอมไม่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องกับทุกเรื่อง ปฐพีตอบกลับทันทีว่า
"ครับ...ผมเชื่อ เพราะสุวรรณสารภาพกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหมดแล้วว่าผู้บงการเรื่องระเบิดก็คือ วสันต์ ตอนนี้ทางตำรวจกันสุวรรณไว้เป็นพยาน และกำลังรวบรวมหลักฐานทุกอย่างเพื่อออกหมายจับคุณวสันต์กับนายคมเดชอยู่"
"แล้วคุณจะจับชะเอมเข้าคุกทำไม ในเมื่อเรื่องนี้มันไม่เกี่ยวอะไรกับชะเอม"
"เกี่ยวสิครับ เพราะในฐานะของคนเป็นพ่อ ไม่น่าจะอยู่เฉยๆได้แน่ ถ้ารู้ว่าคนเป็นลูกกำลังเดือดร้อน คุณโมกข์ก็คงเหมือนกัน"
โมกข์นิ่งไปนิดก่อนบอกเสียงเครือ "ครับ...ผมกังวล แล้วก็เป็นห่วงชะเอมมาก ที่มานี่ก็อยากบอกคุณเท่านั้น ถ้าจะเอาผิด ขอให้เอาผิดกับผม เพราะทุกอย่างเป็นความผิดของผมที่กดดันให้ชะเอมต้องทำอะไรที่มันเลวร้าย"
"ชะเอมไม่เคยทำอะไรที่เลวร้าย ถึงแม้เธอจะเคยตั้งใจก็ตาม แต่เอาเข้าจริง ชะเอมก็ไม่เคยทำได้"
"เพราะมะลิ...มะลิสอนลูกมาดี ถึงจะเคยหวั่นไหวไปบ้าง แต่เอาเข้าจริง มะลิรู้ถึงความผิดชอบชั่วดี ถูกผิด แต่ผมต่างหากที่ผิด เป็นพ่อแท้ๆแต่ยังใจดำที่จะโยนลูกเข้ากองไฟ"
"แต่ตอนนี้คุณโมกข์เลิกล้มความตั้งใจแบบเดิมๆแล้วไม่ใช่หรือครับ"
"ครับ...เพราะคุณเป็นคนดี และที่สำคัญ ผมสงสารชะเอม ขอบคุณมากนะคุณปฐพี ที่คุณทำให้ผมยอมเปิดประตูใจทุกอย่าง จนผมรู้ใจตัวเองว่าจริงๆแล้วผมรักและห่วงชะเอมมากแค่ไหน"
"ผมว่าคุณโมกข์เก็บความรู้สึกแบบนี้ไปบอกชะเอมดีกว่าครับ เธอคงอยากฟัง"
"ครับ...ผมจะบอกกับชะเอม และร่วมมือกับคุณเอาคนผิดมาลงโทษให้ได้ ขอโทษอีกครั้งสำหรับเรื่องทุกอย่างที่ผมเคยทำลงไป"
"เล็กน้อยครับ เพราะผมว่ามิตรภาพที่เรามีให้กันในวันนี้มีค่าแล้วก็ยิ่งใหญ่กว่าเรื่องพวกนั้นเยอะเลย"
หลังจากเข้าใจกันดีแล้ว ปฐพีพาโมกข์ไปเยี่ยมเจนกิจที่โรงพยาบาล เจนกิจสำนึกผิดต่อหน้าคนทั้งคู่ และไม่คิดจะปกป้องคนเลวอย่างวสันต์อีกแล้ว เพราะตลอดเวลาที่ตัวเองนอนเจ็บอยู่ที่นี่ วสันต์ไม่เคยเหลียวแล มีแต่มาข่มขู่ ตรงข้ามกับปฐพีที่เอาใจใส่ดูแลเป็นอย่างดี
ไม่ทันที่ทั้งคู่จะกลับออกจากห้องเจนกิจ ปฐพีก็ได้รับการติดต่อจากคนที่ออฟฟิศว่าชะเอมหนีออกจากบ้านไปแล้ว ชะเอมอาศัยจังหวะที่นิตาเอาข้าวไปให้แล้ววิ่งพรวดหนีออกมาเพราะความรักและเป็นห่วงที่มีต่อโมกข์นั่นเอง
หนีออกมาได้แล้ว ชะเอมรีบโทร.ไปแจ้ง 191 ก่อนที่ตัวเองจะมุ่งหน้าไปยังป่าฝนรีสอร์ตของนายวสันต์ โมกข์เดาใจชะเอมได้ถูกเผง ชะเอมต้องคิดว่าเขามีส่วนเกี่ยวข้องรู้เห็นกับระเบิดที่แก่งจงอางแน่ๆ ถึงได้พยายามจะปกป้องเขาแบบนี้
ชะเอมแฝงตัวเข้าไปที่ป่าฝน และได้ยินวสันต์กับคมเดช คุยกันเรื่องที่พยายามทำลายธารารินทร์รีสอร์ตของปฐพี ทั้งเรื่องใหม่และเรื่องในอดีตที่วสันต์ส่งเจนกิจเข้าไประเบิดห้องเครื่อง ชะเอมแอบบันทึกเสียงไว้ทั้งหมด แล้วจู่ๆชะเอมก็ต้องตื่นตระหนกตกใจสุดๆ เมื่อรู้เห็นว่า วสันต์โหดเหี้ยมร้ายกาจกว่าที่คิด เขาตั้งใจจะฆ่าคมเดชปิดปาก เพราะคมเดชรู้ความลับของเขามากเกินไป
คมเดชหวาดกลัวกระเสือกกระสนหนีตาย พร้อมกับร้องขอชีวิต แต่วสันต์ไม่สนใจเล็งปืนเตรียมยิง แต่แล้วเสียงร้องของผู้หญิงก็ทำให้วสันต์หยุดชะงัก ก่อนหันไปมองตามเสียง คมเดชจึงฉวยโอกาสนี้วิ่งหนีอย่างไม่คิดชีวิต วสันต์เหลียวมาเห็น แต่ก็เลือกที่จะเดินกลับมายังต้นเสียงของผู้หญิง
ชะเอมเจองูตัวใหญ่ ตกใจถึงกับกรีดร้องจนเป็นเหตุให้วสันต์รู้ตัว และตามมาเจอกันจังๆจนได้ ชะเอมกลัววสันต์เนื้อตัวสั่น พยายามเอาตัวรอดด้วยการบอกเขาว่าเธอได้ข้อมูลหลักฐานที่จะทำลายธารารินทร์มาแล้ว วสันต์ยิ้มพอใจ บอกให้ชะเอมตามเขามา เราคงต้องคุยกันยาว
คมเดชวิ่งหนีออกไปเจอคณะของปฐพีที่มาพร้อมโมกข์ นทีและพุดดิ้ง ปฐพีสั่งพุดดิ้งจับตัวคมเดชไว้ ส่วนพวกเขาจะเข้าไปจัดการกับวสันต์เอง พร้อมกันนี้รุ่งก็โทร.แจ้งนักข่าวให้มาเป็นพยานในการจับกุมคนชั่วเข้าคุกด้วย โดยได้รับความร่วมมือจากสาโรจน์ที่คอยประสานงานให้
แท้จริงแล้ว วสันต์ไม่ได้เชื่อถือในคำพูดของชะเอมสักนิด แต่ที่ต้องเออออคล้อยตามก็เพราะต้องการจัดการกับชะเอมให้อยู่หมัด แต่โชคไม่เข้าข้างคนเลว พวกปฐพีตามเข้ามาช่วยชะเอมทันเวลา แต่วสันต์ฤทธิ์เยอะฮึดสู้และจะยิงชะเอมให้ได้ แต่กระสุนพลาดเป้าถูกโมกข์ที่กระโดดเข้ามารับแทนชะเอม
ตำรวจที่ ชะเอมโทร.แจ้งมาถึงพอดี วสันต์ถูกจับอย่างหมดทางหนี ซ้ำยังโดนหลายข้อหา ทั้งเรื่องแผนการร้ายๆที่ทำลายธารารินทร์ และในรีสอร์ตของวสันต์ก็มีกรงสัตว์ป่าจำนวนมาก ซึ่งมันเป็นหลักฐานสำคัญที่มัดตัวเขาจนดิ้นไม่หลุด ต้องติดคุกหัวโตแน่ๆ
โมกข์ถูกยิงบาดเจ็บแต่กระสุนไม่ถูกจุดสำคัญ ลูกชายและลูกสาวพากันมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล รวมทั้งชะเอมกับมะลิด้วย และจากเหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ทุกคนปรับความเข้าใจกันได้ สนฉัตรกับต้นไทรยอมรับชะเอมเป็นน้องอีกคนหนึ่ง และยินดีที่จะให้ทั้งชะเอมและมะลิเข้ามาอยู่ร่วมชายคาเดียวกัน ยังความปลาบปลื้มแก่โมกข์เป็นอย่างมาก ชะเอมเองก็ดีใจสุดๆ เพราะเธอรอคอยวันนี้มานานแล้ว
แต่พอทุกคนเปิดเผยว่าปฐพีวางแผนสร้างเรื่องจะจับชะเอมเข้าคุกเพื่อให้โมกข์ยอมรับและออกมาปกป้องชะเอมในฐานะลูกสาว รวมทั้งนทีอีกคนที่แกล้งลาออกจากธารารินทร์เพื่อให้เหตุการณ์สมจริง ชะเอมก็อดเคืองปฐพีขึ้นมาไม่ได้ ขณะที่รุ่งพอรู้ว่าตัวเองถูกนทีหลอกซะสนิทก็หมั่นไส้นทีขึ้นมาเหมือนกัน
รุ่ง พรวดพราดเข้ามาชกหน้านทีถึงในออฟฟิศ บอกว่าเป็นรางวัลสำหรับคนหลอกลวง พูดจบรุ่งก็ผลุนผลันกลับออกไปทันที ทิ้งให้นที ปฐพี และคนอื่นๆมองตามไปอย่างงงงวย แต่พอตั้งสติได้นทีก็วิ่งตามออกไปดึงรั้งรุ่งไว้ รุ่งยิ่งโมโหเงื้อหมัดขู่ฟ่อ จะชกเขาให้ตาเขียวอีกข้างเลย
"ถามหน่อยเถอะ ถ้าผมจะปราบคุณจริงๆ คุณคิดว่าคุณจะทำร้ายผมได้หรือ"
"ได้ไม่ได้ก็จะสู้ยิบตา"
"ทำไมถึงต้องใช้กำลัง ผมว่ามีเรื่องอะไรเราน่าจะคุยกันดีๆมากกว่า"
"ก็ใครล่ะที่ทำร้ายกันก่อน"
"เรื่องอะไรที่ผมทำร้ายคุณ ที่ผ่านมาผมยังเป็นสุภาพบุรุษไม่พออีกเหรอ"
"ใช่ คุณเป็นสุภาพบุรุษ สุภาพบุรุษเกินกว่าจะออกปากไล่คนอย่างฉัน คุณเลยทำร้ายฉันด้วยการโกหกหลอกลวง"
"ผมโกหกหลอกลวงอะไรคุณ"
"แล้วเรื่องที่คุณกับคุณปฐพีวางแผนว่าทะเลาะกันจนคุณต้องลาออก มันหมายความว่าอะไรคะ"
"ตอนนี้ทุกอย่างมันจบลงไปหมดแล้ว เพราะฉะนั้นคุณก็น่าจะรู้ว่าสิ่งที่ผมกับคุณปฐพีทำคืออะไร...ฟังนะรุ่งอรุณ ผมไม่ใช่ผู้ชายที่วันๆเอาแต่ป้อ ง้องอนผู้หญิง คนที่ผมต้องการให้มายืนเคียงข้าง เธอต้องเข้าใจผม ให้กำลังใจผม ไม่ใช่เอาแต่อารมณ์ หวาดระแวงผม แต่ถ้าคุณไม่พร้อมที่จะเป็นคนคนนั้น ผมก็เสียใจ...ลาก่อน"
นทีเดินจากไปทันที รุ่งหน้าซีดใจเสีย ก้าวตามไปง้อเขาเสียงอ่อยๆ
"จริงๆ ฉันก็รู้นะคะว่าคุณทำทุกอย่างเพื่ออะไร แต่อารมณ์ของผู้หญิงมันก็มีงอนๆ อยากให้คนมาง้อบ้าง อะไรบ้าง โดยเฉพาะเราเพิ่งคบกัน ฉันก็อยากให้คุณเอาใจ ตามใจ ใส่ใจบ้างคุณเข้าใจมั้ยคะ"
รุ่งไม่พูดเปล่า เอนศีรษะมาพิงไหล่นทีอย่างประจบ นทีอมยิ้มแต่พูดเสียงดุๆ
"นอกจากเป็นคอลัมนิสต์ คุณคิดจะเป็นนักเขียนบทละครเพิ่มอีกรึเปล่า ถึงได้เพ้อเจ้อขนาดนี้"
"ขอโทษค่ะที่ฉันเพ้อเจ้อ ความใฝ่ฝันของฉันไม่ใช่คนเขียนบทละครหรอกค่ะ ฉันอยากเป็นนางเอกละครที่มีพระเอกมาง้อ มาเอาใจ และพระเอกคนนั้น ฉันก็อยากให้เป็นคุณน่ะค่ะ"
"งั้นข้อนี้เราเหมือนกัน เพราะผมอยากเป็นพระเอกละครที่มีนางเอกมางอนง้อ ผมก็เลยแกล้งงอนลองใจคุณดู"
"อ้าว...เฮ้ย! คุณนี่เจ้าแผนการไม่แพ้คุณปฐพีเลยจริงๆ"
"อ้าว ถ้าผมไม่ใช่คนแบบนี้ แล้วจะเอาชนะใจคุณได้เหรอ แต่สิ่งที่ผมบอกคุณเป็นเรื่องจริงนะ ผมไม่ใช่คนโรแมนติกที่มีแต่ความเพ้อฝัน ชีวิตของผมมีแต่การทำงาน เพราะฉะนั้นผู้หญิงที่จะมายืนเคียงข้างผม เธอต้องเข้าใจผม ให้กำลังใจผมพอควร คุณพร้อมจะเป็นผู้หญิงคนนั้นอยู่ใช่มั้ย"
"คงงั้นมั้ง เพราะเวลาคุณพูดซึ้งๆ ก็เหมือนพระเอกอยู่เหมือนกัน"
"งั้นคุณเป็นนางเอกให้ผมนะ"
"ไม่ใช่แค่เรื่องเดียวนะ แต่ฉันจะเป็นนางเอกตลอดชีวิตคุณ"
"ยินดีครับผม" นทียิ้มกว้าง ดึงรุ่งมากอด
"ฉันขอโทษที่เคยทำไม่ดีกับคุณ แต่ฉันพร้อมจะไปทุกหนทุกแห่งกับคุณค่ะ"
"ขอบคุณมาก ไม่แน่นะ วันหนึ่งเราอาจจะมีรีสอร์ตของเราชื่อ รุ่งอรุณที่ริมนที"
หนุ่มสาวยิ้มแย้มให้กันอย่างมีความสุข แต่ในขณะเดียวกัน ปฐพีกำลังกลุ้มใจเพราะเขาตามไปหาชะเอมถึงบ้าน แต่ชะเอมไม่ยอมเปิดประตูรับ แม้เขาจะตะโกนบอกรัก เธอก็ยังเงียบกริบอยู่ข้างใน ปฐพีเลยจนใจได้แต่ล่าถอยกลับไปปรึกษาหารือพ่อแม่และน้องๆ วายุภัคหนุ่มหล่อเสน่ห์แรงแห่งบ้านเลยอาสาจะจัดการเรื่องนี้ให้เอง
แล้วแผนการของวายุภัคก็บังเกิดผล เมื่อจู่ๆวันรุ่งขึ้นชะเอมหอบเอกสารเข้ามาสมัครงานในธารารินทร์โดยผ่านพวก บัวลอย ปฐพีไม่ทันดูข้อมูลเพราะกำลังเครียดกับเรื่องหัวใจตัวเอง ไม่มีกะจิตกะใจจะคิดเรื่องอื่น จนกระทั่งชะเอมกลับออกไปแล้ว ปฐพีเพิ่งเห็นเอกสาร ชายหนุ่มแตกตื่นวิ่งออกจากห้องทำงานผ่านกลุ่มบัวลอยไปอย่างรวดเร็ว
ชะเอมหน้าจ๋อยหงอยเหงาเดินบ่นกับตัวเองมาตามทางในรีสอร์ต
"กะจะมาเอาคืนเขา ถูกเขาเอาคืนเฉยเลย คุณปฐพีใจร้าย ไม่ปล่อยให้เราเล่นตัวเลย ทำยังกับโปรโมชั่นหมดแล้วหมดเลย"
ปฐพี วิ่งกระหืดกระหอบตามมาเรียก ชะเอมหันขวับไปมองด้วยความดีใจ ก่อนจะพูดคุยปรับความเข้าใจกันได้ด้วยดี แต่ชะเอมยังอดรู้สึกแย่ๆไม่ได้ที่ตัวเองคิดทำร้ายคนดีๆอย่างเขา
"เอม ขอบคุณคุณจริงๆค่ะ และเอมอยากบอกคุณอีกครั้งว่าขอบคุณผืนดินที่แข็งแรงมั่นคงที่ทำให้วัชพืชที่ไร้หลักยึดอย่างเอมเติบโตขึ้นมาได้ค่ะ"
"ใครบอกว่าคุณเป็นวัชพืช"
"รุ่ง"
"คุณไม่ได้ไร้ประโยชน์ถึงขนาดนั้นหรอก คุณแค่ขยันสร้างเรื่องเท่านั้นเอง ว่าแต่หลักฐานที่ขนมาสมัครงานวันนี้ของจริงหรือเปล่า"
"จริงสิคะ จริงทั้งตัวและหัวใจ"
ปฐพี ยิ้มเจ้าเล่ห์ ท้วงว่าเกรดแย่ขนาดนี้คงรับไม่ได้หรอก ชะเอมขอร้องเขารับเอาไว้เถอะ เธออยากอยู่ที่นี่ จะให้เธอเช็ดรองเท้า ขัดส้วม เธอทำได้ทั้งนั้น ปฐพียิ้มขำ แล้วมอบตำแหน่งภรรยาเจ้าของรีสอร์ตให้ไปเลย หวังว่าเธอคงทำได้ ชะเอมยืนยันทำได้ล้านเปอร์เซ็นต์ พร้อมกับซุกหน้าลงกับอกเขา
"ขอบคุณผืนดินที่มั่นคงผืนนี้นะคะ ที่เป็นหลักยึดให้หัวใจที่ไร้ทิศทางของเอม ขอบคุณจริงๆค่ะ"
"ฉันก็ต้องขอบคุณวัชพืชอย่างเธอ ที่ยอมเปลี่ยนตัวเองเป็นดอกรักบานในหัวใจของฉัน ขอบคุณจริงๆชะเอม"
เขาและเธอโอบกอดกันแน่น โดยมีวายุภัคนั่งยิ้มมองมาจากในรถด้วยความชื่นใจ
-อวสาน-










