ตอนที่ 16
เห็นอินตราแน่นิ่งไป มนชญาได้ยินเสียงภูมินทร์ร้องเรียกจึงแกล้งทำเป็นสลบอยู่ในน้ำ ภูมินทร์ นพดล และยุวดีวิ่งมา นพดลชี้บอกเมื่อเห็นร่างมนชญาลอยอยู่ ภูมินทร์โดดลงไปอุ้มเธอขึ้นมา เขย่าร่างเรียก “อินตรา ...อินตรา...”
มนชญาค่อยๆปรือตาขึ้นด้วยท่าทางอ่อนระโหย พอเห็นหน้าภูมินทร์ก็โผกอดร้องว่า
“พี่ภูช่วยมนด้วย พี่อินเขาจะฆ่ามน”
“มน...” ทั้งภูมินทร์ ยุวดี และนพดลมองหน้ากันอย่างแปลกใจ
“ค่ะ นี่มนเอง ทำไมเหรอคะ หรือว่า...” มนชญาทำหน้าใสซื่อ จับหน้าและร่างกายตัวเองทำท่าดีใจ “มนกลับร่างเดิมได้แล้ว พี่ภู นพ ยุ มนดีใจที่สุดเลย”
ทั้งสามแสดงความยินดีกับมนชญา นพดลนึกได้ถามหาอินตรา มนชญารีบบอกว่า “ไม่รู้สิ เท่าที่จำได้ พี่อินเขาจะฆ่ามน พยายามจะจับมนกดน้ำ แล้วมนก็สลบไป บางทีพี่อินอาจจะรู้ตัวว่ากลับคืนร่างเดิม แล้วทำใจไม่ได้ รีบหนีไปก็ได้นะคะ”
นพดลเห็นรองเท้าอินตราลอยอยู่จึงบอกทุกคน “อินตราคงจะยังอยู่แถวนี้แหละครับ”
ภูมินทร์ให้ช่วยกันค้นหา และให้ยุวดีพามนชญาไปที่รถก่อน ไม่นานทั้งสองก็พบร่างอินตราแผลเหวอะหวะเลือดอาบหน้า นอนสลบอยู่ริมน้ำ นพดลรีบเอามืออังจมูกพบว่าอินตราเสียชีวิตแล้ว...วิญญาณมนชญาล่องลอยมา ณ ที่แห่งหนึ่ง เคว้งคว้างอยู่ตามลำพัง พลันมีแสงสีทองสว่างจ้าขึ้น แม่ชีจันปรากฏตัว มนชญาไหว้แล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นที่ตนต้องตาย แม่ชียิ้มแล้วบอกว่าเรื่องราวยังไม่จบแค่นี้ พลันเกิด
แสงสว่างขึ้นเหนือหัวมนชญา
“อินตรายังไม่ตาย” นพดลเห็นอินตราขยับเปลือกตารีบบอกภูมินทร์
“พี่ภู นพ มนกลับมาแล้วจริงๆใช่ไหม” อินตราเห็นภูมินทร์กับนพดลเบลอๆ
สองคนมองหน้ากันงงๆภูมินทร์รีบถาม “มน...นี่มนจริงๆเหรอ”
“ทำไมพี่ภูถามแบบนั้นล่ะคะ แล้วพี่ภูกับนพตามมาที่นี่กันได้ยังไงคะ หรือว่าคุณพ่อบอก”
“ผมว่าเราโดนหลอกแล้วล่ะคุณภู” นพดลสังหรณ์ใจมองภูมินทร์ที่พยักหน้าเห็นด้วย...
ยุวดีประคองมนชญาให้นั่งในรถ แล้วไปค้นหาผ้าท้ายรถจะเอามาคลุมตัวให้หายหนาว ทันใด มีไม้ฟาดลงมาที่ศีรษะ ยุวดีสลบอยู่ข้างรถ...ผ้าเช็ดตัวถูกยื่นมาให้มนชญา แต่ปรากฏว่าคนที่ยื่นคือกิ่งกาญจน์ มนชญาตกใจ กิ่งกาญจน์เอาผ้ากดลงบนหน้ามนชญา เธอดิ้นรนต่อสู้ผลักกิ่งกาญจน์กระเด็น แล้ววิ่งหนี กิ่งกาญจน์โมโหชักปืนออกมา
“ถ้าวันนี้ฉันทำอะไรแกไม่ได้ ฉันยอมตาย” กิ่งกาญจน์ยิงใส่มนชญา
มนชญาหลบได้ทัน เสียงปืนทำให้ภูมินทร์ นพดล และ อินตราตกใจ ภูมินทร์ให้อินตรารออยู่ตรงนี้ เขากับนพดลจะไปดูก่อน อินตรารู้สึกเจ็บปวดบนใบหน้า เอามือคลำดูจึงรู้ว่าใบหน้ามีแผลเหวอะหวะ
มนชญายังคงหนีการไล่ล่าของกิ่งกาญจน์ ภูมินทร์กับนพดลมาถึงรถเห็นยุวดีนอนหมดสติอยู่ก็เข้ามาเขย่าเรียกให้รู้สึกตัว ยุวดียังงงๆว่าเกิดอะไรขึ้น...สองสาวยังวิ่งไล่ตามกัน กิ่งกาญจน์ ยิงโดนแขนมนชญาล้มลง ภูมินทร์ นพดล และยุวดีได้ยิน เสียงปืนตกใจ อินตราได้ยินเช่นกันก็รีบพยุงตัวเองตามไป
กิ่งกาญจน์กำลังย่างสามขุมเข้ามาใกล้มนชญาด้วยสีหน้าสะใจ “เข้าใจความรู้สึกตอนถูกไล่ฆ่าแล้วสินะ นังมน ทีนี้ฉันจะให้แกได้รับรู้ความรู้สึกถึงความตายอย่างที่แกทำกับวายุ”
อินตรามาเห็นกิ่งกาญจน์เล็งปืนใส่มนชญา จึงรีบวิ่งเข้าไป เอาตัวบังร่างมนชญารับกระสุนแทน...สิ้นเสียงปืนที่ดังปัง ร่างมนชญาและอินตรากระตุกแล้วทรุดลงกองกับพื้นทั้งคู่ กิ่งกาญจน์ยืนอึ้งคาดไม่ถึงว่าอินตราจะมาบังร่างมนชญา ภูมินทร์ ยุวดี และนพดลวิ่งมาถึง กิ่งกาญจน์ตกใจวิ่งหนีสติแตกออกไปกลางถนน รถที่แล่นมาอย่างรวดเร็วเบรกไม่ทัน ชนเข้าอย่างจัง กิ่งกาญจน์ล้มกลิ้งไปกับพื้นสิ้นใจตายทันที
ooooooo
ทั้งมนชญาและอินตราถูกส่งเข้าห้องฉุกเฉิน ทั้งสองอาการสาหัสกระสุนเจาะทะลุร่างอินตราไปยังมนชญา หมอ และพยาบาลช่วยกันปั๊มหัวใจแต่ทั้งสองทนพิษบาดแผลไม่ไหว สิ้นใจคาห้องพยาบาล หมอออกมาบอกทุกคน ยุวดีร้องไห้โฮ ภูมินทร์เข้าไปกอดร่างอินตราคร่ำครวญว่าอย่าทิ้งเขาไปแบบนี้
วิญญาณมนชญากับอินตราล่องลอยไปที่แห่งหนึ่ง อินตราหวาดกลัว ตะโกนว่ามีใครอยู่แถวนี้บ้าง มนชญาจึงบอกว่า “เราตายแล้วพี่อิน...”
“ตายแล้ว ไม่จริง...ฉันยังไม่ตาย แกโกหกฉันใช่ไหม” อินตราจับไหล่มนชญาเขย่า
“มนไม่ได้โกหก เราตายแล้วจริงๆ”
“ไม่จริง ฉันไม่เชื่อๆๆ ฉันยังไม่อยากตาย ฉันต้องไม่ตาย” อินตราโวยวาย
“ทำใจเสียเถอะ ไม่มีใครหนีพ้นความตายไปได้หรอก” แม่ชีจันปรากฏตัวขึ้น
อินตราตกใจกลัว แม่ชีจันยิ้มให้อย่างอ่อนโยนพร้อมกับกล่าวว่า “ไม่ต้องกลัวแม่ชีหรอกนะ แม่ชีอโหสิกรรมให้กับหนูแล้ว”
มนชญามองอินตราเมื่อรู้ว่าเป็นคนฆ่าแม่ชีจัน อินตรายังไม่สำนึกผิด ถามแม่ชีว่าตนยังไม่ตายใช่ไหม แม่ชีจันตอบว่า “ครั้งนี้จะมีคนตายแค่คนเดียวเท่านั้น”
“แล้วใครล่ะที่ตาย แม่ชีบอกมาสิว่าใครตาย” อินตราคาดคั้น
“แม่ชีคะ ถ้าจะมีใครสักคนต้องตาย มนจะขอเป็นคนที่ต้องตายเองค่ะ เพื่อให้พี่อินได้มีชีวิตอยู่ต่อไป แล้วเราสองคนจะได้หมดเวรหมดกรรมต่อกันเสียที” มนชญาตัดสินใจเสียสละ
อินตราดีใจ “จริงนะมน มนยอมตายแทนพี่จริงๆนะ พี่ขอบใจมาก งั้นอะไรที่เราติดค้างต่อกัน พี่อโหสิกรรมให้มนเป็นการตอบแทนก็แล้วกันนะ”
“ขอบคุณค่ะพี่อิน ขอให้พี่อินมีชีวิตอย่างมีความสุข ตามที่พี่อินหวังนะคะ”
อินตราพยักหน้ารับอย่างดีใจ พลันเกิดแสงสว่างขึ้นด้านหนึ่ง แม่ชีจันบอกให้ไปตามแสงนั้นก่อนที่จะสายเกินไป อินตราดีใจรีบวิ่งไปที่แสงนั้น มนชญาร้องไห้คุกเข่าลงกราบแม่ชี
“หนูจงไปได้แล้ว...” แม่ชีจันบอกมนชญา เธอมองหน้าแม่ชีด้วยความแปลกใจ...
จู่ๆชีพจรของอินตราและมนชญาก็ขยับ หมอและพยาบาลแปลกใจช่วยกันปั๊มหัวใจอีกครั้ง ภูมินทร์ ยุวดี และนพดลตื่นเต้นดีใจออกมารอหน้าห้อง วารีกับดุสิตมาถึง เห็นกัลยาณีจูงไกรสรค่อยๆเดินมาก็ตกใจ กัลยาณีรีบบอกว่าอย่าเพิ่งถาม แล้วจะเล่าให้ฟังแต่ตอนนี้ไปดูอาการหลานๆก่อน
“ภู มนกับอินเป็นยังไงบ้าง” ไกรสรรีบถามภูมินทร์เมื่อมาถึงหน้าห้องฉุกเฉิน
“คุณหมอกำลังปั๊มหัวใจให้อยู่ครับ แต่ยังไม่ออกมาจากห้องเลย”
พอดีหมอออกมา ไกรสรปรี่เข้าไปถามอาการ หมอตอบว่า
“ตอนนี้ทั้งสองพ้นขีดอันตรายแล้วครับ เดี๋ยวหมอจะย้ายคนไข้ชื่ออินตราไปห้องพักก่อน แต่คุณมนชญา หมอคงต้องขอรอดูอาการอีกสักพักนะครับ”
ทุกคนดีใจ กัลยาณีถามขึ้นว่า “แล้วตกลงว่าตอนนี้ใครอยู่ร่างใครคะเนี่ย”
“ผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกันครับ คงต้องรอจนกว่าทั้งสองคนจะฟื้นขึ้นมาก่อน เราถึงจะรู้ว่าใครอยู่ร่างใคร”
นพดลแปลกใจที่กัลยาณีรู้เรื่อง ไกรสรบอกว่าเขาเล่าให้ฟังเอง วารียิ่งงงว่าเรื่องอะไรกัน กัลยาณีเข้าไปจูงมือวารี “เอาเป็นว่าเดี๋ยวณีเล่าให้คุณพี่ฟังทีหลังเองค่ะ แต่ตอนนี้เราขึ้นไปดูอินตรากันก่อนดีกว่าค่ะ”
ทุกคนเห็นด้วย...พอเข้ามาเห็นสภาพอินตรามีผ้าก๊อซแปะหน้านอนสลบอยู่บนเตียง เผอิญอินตรารู้สึกตัวลืมตาขึ้นมา พอเห็นหน้าภูมินทร์ก็ยิ้มร้องเรียกเขา กัลยาณีกระซิบถามยุวดีว่าคนนี้ใคร อินตราได้ยินรีบตอบเอง
“มนไงคะคุณอา” แต่พอเห็นไกรสรก็ตกใจ “คุณพ่อฟื้นตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”
ทำให้ภูมินทร์รู้ทันทีว่าอินตรากลับร่างเดิมแล้วจึงบอกว่า “คุณกลับร่างเดิมแล้วนะอินตรา”
อินตราตกใจเอามือจับหน้าตัวเอง “ไม่จริง ฉันต้องไม่กลับร่างเดิม ไม่...ฉันจะเป็นมนชญา ไม่ใช่อินตรา”
“อิน...ยอมรับความจริงซะเถอะนะลูก ไม่ว่าอินจะเคยทำเรื่องเลวร้ายมาขนาดไหน แต่พ่อก็ยังรักอินไม่เปลี่ยนแปลง พ่อพร้อมจะให้อภัยอินทุกอย่าง กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีซะเถอะนะอินนะ”
อินตราคุ้มคลั่งโวยวายว่าตนเป็นมนชญา มือไม้ปัดไปมาโดนผ้าปิดหน้าหลุดออก เผยให้ทุกคนเห็นใบหน้าถึงกับผงะ อินตราแปลกใจวิ่งไปมองตัวเองในกระจก พอเห็นหน้าตัวเองก็ร้องกรี๊ดจนสติสัมปชัญญะหลุดลอย...อินตรากลายเป็นคนไข้ที่เสียสติโวยวายว่าเห็นป้านวล เห็นแม่ชีจัน เธอพร่ำพูดว่าไม่ได้ทำ ทั้งสองทำตัวเองเพราะอยากมายุ่งเรื่องของเธอ
แต่แล้ววันหนึ่ง อินตราก็ถูกวิญญาณวายุกับกิ่งกาญจน์หลอกหลอน จนวิ่งหนีขึ้นไปบนดาดฟ้าแล้วพลัดตก โชคดีที่ภูมินทร์ตามขึ้นไปจับมือไว้ได้ทัน...พยาบาลและหมอช่วยกันจับอินตรามัดและฉีดยาให้สงบลง ภูมินทร์ ยุวดี และนพดลยืนมองด้วยความสลดใจ
“ถึงยุจะไม่ชอบพี่อิน แต่คิดไปแล้วก็ใจหายนะคะ คนเคยเห็นกันมาตั้งแต่เด็ก สุดท้ายต้องกลายมาเป็นอย่างนี้”
“มันเป็นกรรมที่อินตราทำไว้ ไม่ต้องรอให้ถึงชาติหน้า ชาตินี้กรรมก็ตามสนองทันแล้ว”
“ใช่ครับ ส่วนคุณมน คุณมนเป็นคนดี ทำแต่ความดีมาทั้งชีวิต ผมเชื่อว่าคนดีๆอย่างคุณมนต้องหายและกลับมาหาพวกเราอย่างแน่นอน” นพดลมั่นใจ
ooooooo
ในขณะที่วิญญาณมนชญายังล่องลอย ร้องไห้ไม่รู้จะไปทางไหน เห็นเหล่าวิญญาณเดินมุ่งหน้าไปทางหนึ่งจึงตามไป ถามใครก็ไม่มีใครตอบ จึงร้องไห้รำพัน “คุณพ่อขา คุณแม่ขา ช่วยมนด้วยค่ะ มนกลัว...หรือว่า เราจะตายไปแล้วจริงๆ คุณพ่อ พี่ภู มนลาก่อนนะคะ”
ทันใด มีเสียงภูมินทร์ดังขึ้น “มน มนกลับมาหาพี่นะจ๊ะ พี่คอยมนอยู่”
มนชญาชะงักหันมองหา เห็นแสงสว่างอยู่ทางหนึ่งจึงวิ่งไปตามแสงนั้น...เสียงภูมินทร์ยังดังก้อง “มน เมื่อไหร่มนจะกลับมาหาพี่ล่ะจ๊ะ พี่คอยมนอยู่นะ”
ภูมินทร์จับมือมนชญาขึ้นมาจูบเบาๆสัมผัสนั้นทำให้มนชญารู้สึกได้ เธอค่อยๆลืมตาขึ้น ภูมินทร์ดีใจดึงเธอขึ้นมากอด “มนกลับมาหาพี่แล้ว...”
“พี่ภู...” มนชญากอดตอบด้วยความดีใจ
“พี่ละกลัวแทบแย่ว่ามนจะกลับคืนร่างเดิมไม่ได้ซะอีก”
“ก่อนที่มนจะฟื้นมาเนี่ย แม่ชีจันบอกมนว่า การที่มนกลับคืนร่างเดิมได้ก็เพราะมนยอมสละชีวิตตัวเอง ยอมตายแทนพี่อิน ทำให้พี่อินยอมอโหสิกรรมทุกอย่างให้มน เวรกรรมที่เคยผูกพันกันมาในอดีตชาติจึงหมดไป” มนชญาเล่าแล้วนึกขึ้นได้ ถามหาอินตราเป็นอย่างไรบ้าง
ภูมินทร์ไม่รู้จะตอบอย่างไร จึงพาไปดูด้วยตาตัวเอง พออินตราเห็นมนชญาก็คุ้มคลั่งจะทำร้าย ภูมินทร์ขวาง พยาบาลช่วยกันจับอินตราไว้ ภูมินทร์ประคองมนชญาที่ร้องไห้เสียใจกลับออกมา
“พี่ภู มนสงสารพี่อิน”
“พี่เข้าใจความรู้สึกของมน แต่นี่คือผลกรรมที่อินตราเขาได้ก่อเอาไว้ ถ้าอินตรารู้จักพอใจในสิ่งที่ตัวเองเป็น พอใจในสิ่งที่ตัวเองมี เขาก็คงไม่ต้องพบจุดจบแบบนี้”
มนชญาพยักหน้าเข้าใจ แต่น้ำตายังไหลรินด้วยความสงสารอินตราจับใจ
ooooooo
รถภูมินทร์ขับพามนชญากลับจากโรงพยาบาล มาจอดหน้าตึก กัลยาณีจูงไกรสรยืนรอต้อนรับ ยุวดี กับนพดลลงมาเปิดประตูรถให้มนชญา กัลยาณีเข้าไปกอดหลานสาว มนชญาไหว้ขอบคุณ กัลยาณียิ้มปลื้ม
“อย่างนี้สิ ค่อยเป็นหลานสาวของอาตัวจริงหน่อย...หนูมน อาขอโทษนะ ที่อาทำไม่ดีกับหนูตอนที่หนูอยู่ในร่างของอินตรา”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ มนเข้าใจ”
“ฉันต้องขอโทษนพด้วยนะที่เข้าใจผิด ยังไงก็กลับมาอยู่ที่นี่เหมือนเดิมนะ”
นพดลรับปาก กัลยาณีซึ้งใจ “แล้วฉันก็ต้องขอบคุณนพและทุกคนมากที่คอยช่วยเหลือหลานสาวของฉันมาตลอด ฉันซะอีกที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ปล่อยให้ความเกลียดชังที่มีต่ออินตรามาปิดหูปิดตา ทำให้มองไม่เห็นความจริงว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลานสาวตัวเอง”
“ถ้าอย่างงั้น ต่อไปนี้คุณอาเลิกโกรธเลิกเกลียดพี่อินได้ไหมคะ อโหสิกรรมให้พี่อินนะคะ จะได้ไม่ต้องมีเวรกรรมผูกพันต่อกันไปในชาติหน้า”
“ตกลงจ้ะ ต่อไปนี้อาจะไม่โกรธ ไม่เกลียดอินตรา
อาจะอโหสิกรรมทุกอย่างให้อินตราขอให้เขามีความสุขอย่างที่เขาต้องการ...”
ทุกคนสีหน้ามีความสุข...คืนนั้น ไกรสรได้ทำพินัย– กรรมขึ้นมาใหม่ มนชญาเข้ามาหา
“คุณพ่อทำอะไรอยู่เหรอคะ”
“พ่อกำลังดูพินัยกรรมที่ทำใหม่อยู่น่ะลูก พ่อแบ่งสมบัติของพ่อให้อินตราเขามากขึ้น มนไม่ว่าอะไรใช่มั้ยลูก”
“ไม่ว่าหรอกค่ะ มนกลับเห็นด้วยเสียอีก พี่อินจะได้ไม่น้อยใจว่าคุณพ่อไม่รักเขาอีก”
“พ่อดีใจนะที่มนไม่คิดแค้นอินตรา ทั้งๆที่เขาทำกับมนไว้มากเหลือเกิน”
“เพราะว่าคุณพ่อสอนมนให้รู้จักให้อภัยไงล่ะคะ แล้วถ้าเราคิดดีทำดี แล้วความดีก็จะเป็นเกราะคุ้มภัยให้ตัวเรา”
ไกรสรกอดลูกสาวด้วยความรักใคร่ ทันใด มนชญาก็สะดุ้ง ไกรสรถาม “มีอะไรเหรอลูก”
“มนเห็นป้านวลยืนอยู่ตรงนั้นค่ะ ป้านวลยิ้มให้มนด้วยค่ะคุณพ่อ”
“สงสัยนวลคงมาแสดงความยินดีที่เรื่องร้ายๆผ่านพ้นไปแล้วละมั้งลูก”...มนชญายิ้มรับ
ooooooo
คืนเดียวกัน อินตรานั่งกอดเข่าเพ้ออยู่ในห้องพักโรงพยาบาล ว่าตนไม่ใช่ลูกโจร ตนเป็นมนชญา ทำไมไม่มีใครรักตนเลย ทำไมไม่มีใครรักอินตรา มีแต่คนรักมนชญา จู่ๆก็มีมือมาลูบหัว อินตราหันไปมอง เห็นป้านวลกำลังลูบหัวและปลอบว่า
“ถึงไม่มีใครรักอิน แต่ป้าก็รักอินนะลูก”
อินตราดีใจโผกอดป้านวลรำพัน ว่าทิ้งตนไปไหน ไม่มีใครอยู่ข้างตนเลย “....หรือป้านวลโกรธที่อินพูดไม่ดีกับป้า อินขอโทษนะจ๊ะ ต่อไปนี้อินจะไม่ว่าป้านวลอีกแล้ว ป้านวลอย่าทิ้งอินไปอีกนะ อินไม่เหลือใครแล้ว”
“ถ้างั้นอินไปอยู่กับป้าไหมล่ะลูก เราจะได้ไปมีความสุขกันสองคนป้าหลาน”
“อินไปอยู่กับป้านวลได้จริงๆเหรอจ๊ะ” อินตรากอดป้านวลดีใจ...
และแล้ว เช้าวันรุ่งขึ้น มนชญาก็ได้รับโทรศัพท์จากทางโรงพยาบาล มนชญาพาไกรสรและกัลยาณีไปที่นั่นทันที ภูมินทร์ ยุวดี และนพดลตามไป ทุกคนตกตะลึงเมื่อเห็นสภาพอินตราผูกคอตายในห้องพักคนไข้
งานศพอินตราผ่านพ้นไปด้วยดี นพดลยืนมองควันไฟอย่างเศร้าสร้อย ยุวดีเข้ามาทัก
“ท่าทางนายจะเสียใจมากเลยนะที่พี่อินจากไป”
นพดลพยักหน้า “ถึงอินตราจะนิสัยไม่ดียังไง แต่ผมก็รู้จักเธอมาตั้งแต่เด็ก เราเป็นลูกกำพร้าเหมือนกัน ผมสงสารที่เธอมักจะถูกอาณีต่อว่าเป็นประจำ ตอนนี้เธอตายจากไปก็อดใจหายไม่ได้”
“ถ้าวิญญาณพี่อินรับรู้ได้ว่านายมีแต่ความหวังดีให้อย่างนี้ พี่อินคงดีใจ” ยุวดีปั้นหน้ากลบเกลื่อนความสะเทือนใจ แล้วบอกว่าที่มาเพื่อจะบอกว่าตนจะกลับแล้ว
“อย่าเพิ่งกลับสิครับ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ”
“เรื่องอะไร...” ยุวดีแปลกใจ
นพดลขยับเข้าใกล้ “ไหนๆตอนนี้เรื่องร้ายๆก็ผ่านพ้นไปแล้ว คุณยุคิดว่าถึงเวลาหรือยัง”
“เวลาอะไร...”
“เวลาที่เราสองคนจะเรียนรู้กัน ทำความรู้จักกันให้
มากขึ้นกว่านี้” พอเห็นยุวดีนิ่งอึ้ง จึงถามย้ำว่า “ว่าไงครับ”
ยุวดียิ้มเขินอาย พยักหน้าหงึกๆ นพดลรวบตัวเธอมากอด ยุวดีรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก
ooooooo
แล้วงานแต่งงานของภูมินทร์กับมนชญาก็เกิดขึ้น บรรยากาศเต็มไปด้วยความสุข ทั้งแขกที่มาอวยพรในงานก็เต็มไปด้วยความจริงใจ ทุกคนดูสีหน้าเบิกบานเปี่ยมไปด้วยความยินดี
บ่าวสาวถูกส่งตัวเข้าหอ มนชญายืนมองออกไปนอกหน้าต่างห้อง ภูมินทร์เข้ามาโอบกอดอย่างรักใคร่ “คิดอะไรอยู่เหรอจ๊ะมน”
“กำลังคิดถึงพี่อินอยู่น่ะค่ะ มนสงสารพี่อิน มนขออโหสิกรรมให้พี่อินในทุกๆเรื่อง และขอให้พี่อินไปสู่ชาติภพใหม่ที่ดีอย่างที่เธอหวังค่ะ”
“ถ้าอินตรามีญาณวิถีใดๆที่จะรับรู้ได้ว่า มนของพี่ปรารถนาดีกับเขาอย่างจริงใจอย่างนี้ อินตราก็คงจะพอใจและมีความสุขล่ะจ้ะ”
มนชญาพยักหน้ารับ ภูมินทร์กระชับอ้อมกอด เป็นครั้งแรกที่มนชญาซุกหน้ากับอ้อมอกของเขาอย่างมีความสุข หลังจากเรื่องร้ายๆทั้งหลายได้ผ่านพ้นไป
ooooooo
-อวสาน-










