ตอนที่ 1
พุทธศักราช 2301 สมัยกรุงศรีอยุธยา...
ท่านทัดกับบัวกราบพระพุทธรูปองค์ใหญ่ในพระอุโบสถทั้งสองเอาดอกบัววางใส่พานเพื่อถวายพระ ก่อนจะหันมายิ้มสบตาให้กัน ท่านทัดชวนบัวมาทำบุญวันหลังอีก เพื่อจะได้เกิดมาคู่กันทุกชาติ บัวยิ้มเขินอาย ในขณะที่เอี่ยมซึ่งนั่งอยู่ข้างหลังบัว เม้มปากแน่น แววตามีแต่ความอิจฉาริษยา แกล้งกระแทกถาดที่ใส่ขันเงินลงกับพื้นอย่างแรง จนท่านทัดกับบัวสะดุ้งหันมอง เอี่ยมยิ้มเจื่อนๆแก้ตัวว่าทำหลุดมือ ท่านทัดกับบัวไม่ติดใจพากันเดินออกไป เอี่ยมมองตามด้วยความแค้นใจ หันไปคว้าดอกบัวที่ท่านทัดกับบัววางถวายพระมาหักทิ้งแล้ววางกระแทกใส่พานตามเดิม ก่อนจะตามสองคนออกไป
บัวเป็นลูกสาวคนเดียวของเจ้าคุณสุรสีห์ แต่เอี่ยมเป็นเพียงลูกทาสในเรือนเบี้ยที่เจ้าคุณรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรม... เอี่ยมมีแต่ความอิจฉาริษยาบัว ประกอบกับได้ยินชาวบ้านนินทาเปรียบเทียบตัวเองกับบัวมาตลอด ยิ่งสร้างความเจ็บแค้นให้เอี่ยม จนวันที่กลับจากวัด ท่านทัดพายเรือพาบัวกับเอี่ยมมาตามแม่น้ำ เกิดพายุฝนเทลงมา เอี่ยมร้องด้วยความหวาดกลัว แต่ท่านทัดกลับห่วงใยแต่บัว
"บัวจับเรือให้มั่นนะ"
"คุณบัวว่ายน้ำแข็งออก ไม่เห็นต้องห่วงเลยเจ้าค่ะ แต่อิฉันต่างหากที่ว่ายน้ำก็ไม่เป็น ถ้าเรือล่มไปมีหวังอิฉันได้ตายเป็นผีเฝ้าคลองเป็นแน่"
"พี่เอี่ยมอย่าพูดเยี่ยงนั้น ถ้าเกิดสิ่งใดขึ้น น้องจักเป็นคนช่วยพี่เอี่ยมเองค่ะ"
ทันใดเกิดฟ้าผ่าเปรี้ยง ลมกระโชกแรง เรือพลิกคว่ำโครม ท่านทัดโผล่จากน้ำขึ้นมาร้องเรียกหาบัว เอี่ยมซึ่งคว้ากอสวะไว้ได้ร้องให้ท่านทัดช่วย ท่านทัดกำลังจะว่ายน้ำเข้าไปหา พอดีเห็นบัวกำลังตะเกียกตะกายเพราะโดนรากต้นไม้พันขาเอาไว้ จึงโผไปหาบัว เป็นจังหวะเดียวกับเอี่ยมหลุดมือจากกอสวะ ตาเหลือกลานด้วยความกลัวเพราะว่ายน้ำไม่เป็น ผลุบๆโผล่ๆสำลักน้ำ เห็นท่านทัดดำลงไปช่วยบัว สร้างความอาฆาตแค้นให้กับเธอ
"เพราะมึงคนเดียวอีบัว มึงเป็นมารชีวิตกู กูขอแช่งมึง ถ้าชาติหน้ามีจริง ขอให้กูกับมึงกลับมาเกิดร่วมชาติกันอีก แต่ขอให้มึงฉิบหายแทนกู ขอให้มึงต้องทรมานจนตายอย่างที่กูเป็น"
สุดท้ายท่านทัดก็ช่วยบัวไว้ไม่ได้ บัวสิ้นใจในอ้อมแขน ท่านทัดร้องไห้ปิ่มจะขาดใจ...
ooooooo
เข้าสู่สมัยกรุงเทพมหานคร...รถหรูคันหนึ่งแล่นเข้ามาจอดหน้าคฤหาสน์ของไกรสร ภูมินทร์ หนุ่มหล่อทายาทนักธุรกิจส่งออก ลงจากรถมาเปิดประตูให้มนชญาคู่หมั้นสาวสวย
"ขอบคุณพี่ภูจริงๆเลยค่ะที่อุตส่าห์พามนไปทำบุญมาทั้งวันเลย"
"ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พี่ดีใจซะอีกที่ได้ทำบุญร่วมกับมน เพราะเราสองคนจะได้เกิดมาเป็นคู่รักกันอย่างนี้ไปตลอดทุกชาติๆเลยไงจ๊ะ"
"ถ้าวันหนึ่งพี่ภูเบื่อมนขึ้นมาแล้วหนีมนไม่พ้น มนก็ช่วยไม่ได้นะคะ"
"ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะทำให้พี่เบื่อมนหรือเปลี่ยนใจไปจากมนได้" ภูมินทร์กุมมือมนชญา มองตาด้วยความรัก
พลัน มะปรางวิ่งหน้าตื่นออกมา "คุณมนขา...คุณมน... คุณผู้ชายค่ะ..."
มนชญาตกใจเป็นห่วงพ่อรีบวิ่งเข้าไปในบ้าน พอเปิดประตูเข้าในบ้านมืดก็แปลกใจ ทันใด...ไฟสว่างพึ่บขึ้น เห็น ไกรสร ยุวดีเพื่อนสนิทและยังเป็นน้องสาวภูมินทร์ กัลยาณีซึ่งเป็นอา ดุสิตกับวารีพ่อแม่ของภูมินทร์ นพดลหนุ่มกำพร้าที่ไกรสรอุปการะไว้ และกุ๊กไก่หลานสาวของภูมินทร์กับยุวดี ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่กลางห้องรับแขก ทุกคนร้องว่า "เซอร์ไพรส์..."
ภูมินทร์เดินตามเข้ามากล่าว "ขอแสดงความยินดีกับมหาบัณฑิตเกรดเฉลี่ย 3.8 ด้วยนะจ๊ะ"
"โธ่...มนตกใจแทบแย่เลยค่ะ"
"เห็นมั้ยคะว่ายุรู้ใจเพื่อนแค่ไหน ยุบอกแล้วว่าวิธีนี้ต้องได้ผล"
ทุกคนหัวเราะ...วารีเข้ามามอบของขวัญให้มนชญาและแสดงความยินดีที่เรียนจบปริญญาโททั้งที่อายุยังน้อย มนชญาขอบคุณทุกคน แล้วนึกได้ถามหาอินตราพี่สาวบุญธรรม กัลยาณีชักสีหน้าไม่พอใจ
"ทำไมต้องไปถามถึงมันด้วยมน วันนี้เราจัดงานกันเองเฉพาะคนในครอบครัว คนอื่นไม่เกี่ยวซะหน่อย"
"ณี...ทำไมพูดอย่างนั้น อินก็เป็นลูกสาวพี่คนหนึ่งนะ" ไกรสรเอ็ดทันที
"ลูกสงลูกสาวอะไรคะ มันก็เป็นแค่หลานของป้านวลที่พ่อแม่ตาย พี่ไกรถึงเอามาเลี้ยง แล้วมันก็ไม่เคยทำตัวให้ดีสมกับที่พี่ไกรเลี้ยงดูมันมาอย่างดีเลย แล้วณีก็ขอหมายหัวเอาไว้เลยนะคะว่านังอินมันต้องสร้างความเดือดร้อนให้
พี่ไกรไม่มีวันจบสิ้น..." มนชญากับไกรสรมองหน้ากันอย่างเหนื่อยใจ...
ขณะเดียวกัน อินตรากำลังเต้นรำสุดเหวี่ยงอยู่ท่ามกลางนักท่องราตรี ในสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แล้วเธอได้เห็นวายุแฟนหนุ่มหยอกล้อกับสาวสวยนักเที่ยว ก็โกรธเลือดขึ้นหน้า เข้าไปกระชากสาวคนนั้นมาตบคว่ำ วายุตกใจเข้าไปดึงอินตราออก ทันใดนั้นมีเสียงคนตะโกนขึ้นว่าตำรวจมา วายุปล่อยอินตราแล้ววิ่งหนีหายไปกับผู้คน อินตราโดนตำรวจรวบตัว เธอโวยวายจนถึงโรงพักว่าไม่รู้หรือว่าเธอเป็นลูกใคร ทำให้ตำรวจเอือมระอา
ในขณะที่วารีและกัลยาณีพูดคุยกันเรื่องให้มนชญาตบแต่งกับภูมินทร์เสียที แต่มนชญาขอเวลาให้เธอได้ทำงานช่วยพ่อที่บริษัทสักพักก่อน...มะปรางหน้าตื่นเข้ามารายงานเรื่องอินตรา ไกรสรตกใจจะไปประกันตัวลูก แต่กัลยาณีขอไว้ให้นพดลไปจัดการแทน
อินตราวางท่าใส่ตำรวจเมื่อได้ประกันตัว แต่พอเห็นว่าเป็นนพดลเดินเข้ามาไม่ใช่ไกรสร สีหน้าผิดหวังอย่างแรง โวยวายใส่นพดลทำไมพ่อไม่มา
"คุณท่านไม่ว่างต้องอยู่คอยต้อนรับแขกงานเลี้ยงฉลองของคุณมน"
"อ้อ...ฉันลืมไป ลูกกาฝากอย่างฉันมันจะไปสำคัญเท่ากับลูกที่แท้จริงได้ยังไง"
"เมื่อไหร่จะเลิกคิดอย่างนี้สักที ถึงคุณจะไม่ใช่ลูกสาวที่แท้จริงของคุณท่าน แต่คุณท่านก็รักคุณไม่น้อยไปกว่าคุณมนหรอก แล้วคุณก็ควรจะทำตัวให้มันดีกว่านี้ เพื่อเป็นการตอบแทนบุญคุณข้าวแดงแกงร้อนที่คุณท่านเลี้ยงคุณมาอย่างดี"
"ทำไมฉันต้องเชื่อนายด้วยล่ะ" อินตราสูดปากที่เจ็บจากการตบตีกัน
นพดลห่วงใยจะพาไปหาหมอ อินตราหัวเราะเยาะ "นี่นายยังไม่เลิกชอบฉันอีกเหรอ..."
นพดลหน้าเจื่อน อินตราพูดอย่างเหยียดหยามว่าอย่ามาหวังสูง เพราะเธอไม่มีวันเอาลูกคนขับรถกระจอกๆมาเป็นแฟน ว่าแล้วก็เดินไปที่รถ นพดลถามว่าจะไปไหน ไกรสรสั่งให้
กลับบ้าน แต่อินตราไม่สนใจ ขึ้นรถขับผ่านนพดลไปหน้าตาเฉย
นพดลกลับมารายงานไกรสรว่าอินตราไม่ยอมกลับบ้าน กัลยาณีแขวะว่าคงกลัวความผิด ไกรสรเป็นห่วงถามไถ่ข้อหาที่โดนจับ นพดลตอบว่า ทะเลาะวิวาทเหมือนเคย แต่ครั้งนี้รุนแรงถึงขั้นจะเอาของมีคมทำร้ายคู่กรณี
"ต๊าย...เลวเหมือนพ่อเหมือนแม่ไม่มีผิด" กัลยาณีร้องแว้ดขึ้น
"ณี...พ่อแม่เขาตายไปแล้ว จะไปโทษเขาทำไม"
กัลยาณีไม่พอใจที่ไกรสรออกรับแทนอินตราเสมอ ทั้งที่อินตราสร้างความเดือดร้อนให้ตลอดเวลา และเชื่อว่ามีเลือดชั่วอยู่เต็มตัว เลี้ยงให้ดีอย่างไรก็ไม่มีวันดีได้ ไกรสรได้แต่ถอนใจ
อินตรามาที่คอนโดฯของวายุ ต่อว่าที่ทิ้งให้เธอถูกจับ คนเดียว วายุอ้างว่า เขารู้ว่าต้องมีคนไปประกันตัวเธอออกมา แล้วโอบกอดเอาใจ อินตรายังติดใจเรื่องผู้หญิงคนนั้น วายุแก้ตัวว่าแค่คุยกันยังไม่มีอะไรเกินเลย เขารักเธอคนเดียว อินตรางอน วายุเข้ามากอดไซ้ซอกคอขอชวนเธอค้างกับเขาคืนนี้ อินตราตอบว่าแน่นอนอยู่แล้วเพราะคืนนี้เธอไม่อยากกลับบ้าน วายุ รู้ว่าอินตราไม่อยากกลับไปเห็นงานเลี้ยงของน้องสาว
อินตรามองตัวเองในกระจกห้องน้ำ แววตาโกรธแค้นคิดถึงอดีตวัยเด็ก ที่กัลยาณีมักจะตอกย้ำว่าตนเป็นกาฝาก อย่ามาทำตัวเทียบเท่ามนชญาหลานเขา ความแค้นฝังใจถึงกับสาบาน
"อย่าให้อีกาฝากตัวนี้มีโอกาสบ้างก็แล้วกัน ฉันจะแย่งทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของของแกมาเป็นของฉันให้หมด รวมทั้งผู้ชายของแกด้วย นังมนชญา..."
ooooooo
วันรุ่งขึ้น ภูมินทร์รีบออกจากบ้านแต่เช้า เอากุหลาบขาวช่อโตไปให้มนชญาหน้าบ้านก่อนเธอจะไปทำงานวันแรก และอาสาไปส่งที่บริษัท มนชญาขอให้เขาพาไปที่ที่หนึ่งก่อน
หน้าเจดีย์บรรจุกระดูกมัทนา มนชญามาไหว้เพื่อบอกว่าเธอกำลังจะไปช่วยงานพ่อ ขอให้วิญญาณแม่เป็นกำลังใจให้เธอด้วย พอไหว้เสร็จ ภูมินทร์พยุงมนชญาลุกขึ้น พอหันมาพบแม่ชีจันยืนมองด้วยท่าทางสงบ ทั้งสองยกมือไหว้ มนชญาถามว่าแม่ชีเพิ่งมาอยู่หรือ เธอไม่เคยเห็นมาก่อนเลย แม่ชีจันพยักหน้า
"แม่ชีคะ วันนี้มนเริ่มงานเป็นวันแรก แม่ชีอวยพรเพื่อเป็นสิริมงคลให้มนหน่อยนะคะ"
"คำอวยพรของใครก็ไม่มีค่าเท่ากับการกระทำของตัวเราเองหรอกนะหนู ถ้าเราทำดีเราก็จะได้ดี แม้ว่าต่อไปหนูจะเจอเรื่องร้ายแรงแค่ไหน ก็จงยึดมั่นในการกระทำดีเข้าไว้ เพราะความดีจะเป็นเกราะปกป้องภัยอันตรายให้หนูได้"
มนชญาแปลกใจ รู้สึกเหมือนเป็นคำเตือน...พอเดินมา
ที่รถจึงถามภูมินทร์ว่าเหมือนแม่ชีจะเตือนว่าเธอกำลังจะเจอปัญหาใหญ่ ภูมินทร์ปลอบว่าอย่าคิดมากไปเลย เตรียมใจไปเริ่มงานใหม่จะดีกว่า มนชญาพยักหน้าแต่ในใจยังกังวลในสิ่งที่แม่ชีพูดอยู่...
ตอนกลางวัน อินตรากลับมาบ้าน นิดสาวใช้แจ้นมารายงานกัลยาณี พออินตราเดินเข้ามากัลยาณีก็แขวะทันที "ไง...เมื่อคืนทำผิดจนไม่กล้ามานอนบ้านเลยหรอ ไปนอนค้างกับสามีคนที่เท่าไหร่มาล่ะ"
"คนที่เท่าไหร่อินก็นับไม่ถูกเหมือนกันค่ะ อินไม่ใช่ คุณอานี่คะ ที่ไม่มีผู้ชายคนไหนหลงเข้ามาให้นับสักคน คุณอาถึงต้องนอนแห้งอยู่บนคานอย่างงี้ไงคะ"
"แก...นังอินตรา แกนี่มันทำตัวเลวสมกับเป็นลูกโจรจริงๆ" กัลยาณีโกรธจนตัวสั่น
อินตราเดินยิ้มสะใจมาเจอป้านวลดักรออยู่ ป้านวลตำหนิอินตราที่ก้าวร้าวกับกัลยาณี ถึงอย่างไรก็เป็นผู้มีพระคุณ อินตรายักไหล่ไม่อยากฟัง และย้อนป้านวลว่าอย่ามายุ่งเรื่องของเธอ นิดตามมาได้ยิน เตือนป้านวลว่าอินตราไม่เคยเห็นป้าเป็นป้าเลยสักนิด ยังจะรักอยู่ได้ ป้านวลตอบเศร้าๆว่า เธอมีอินตราเป็นหลานอยู่คนเดียว จะไม่รักได้อย่างไร
ooooooo
นพดลเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงช่วยงานบริษัทได้มาก เขาได้รับหน้าที่จากไกรสรเป็นคนสอนงานให้มนชญา นพดลรายงานไกรสรว่า มนชญาหัวดีเรียนรู้งานได้เร็ว ไม่นานคงช่วยผ่อนแรงไกรสรได้มาก
กลางวันวันนั้น ภูมินทร์นัดมนชญามาที่บริษัทของเขา กิ่งกาญจน์ เลขาฯของภูมินทร์ เป็นสาวเปรี้ยวที่หมายมั่นจะจับเจ้านายเพื่อเลื่อนฐานะ จึงไม่ค่อยชอบมนชญาเท่าไหร่ พอเห็นมนชญามาก็ไม่พอใจ แอบบ่น "ผู้หญิงอะไร้จืดชืดน่าเบื่อจะตาย คอยดูเถอะ สักวันฉันจะแย่งคุณภูมาจากหล่อนให้ได้ นังมนชญา"
ระหว่างทานอาหารด้วยกัน ภูมินทร์ชวนมนชญาไปพบเพื่อนของเขาที่เพิ่งมาจากอเมริกา แต่มนชญาไม่อยากไปเพราะเกรงภูมินทร์จะอึดอัด แทนที่จะได้คุยกับเพื่อนอย่างสนุก
"แล้วมนไม่กลัวว่าพี่จะเถลไถลไปกับสาวๆคนอื่นเหรอจ๊ะ" ภูมินทร์ถามเล่นๆ
"ไม่กลัวหรอกค่ะ มนไว้ใจพี่ภู"
"งั้นพี่ก็จะบอกว่า...มนไว้ใจถูกคนแล้วล่ะจ้ะ เพราะสำหรับพี่ ผู้หญิงในโลกนี้ไม่มีใครจะดีเท่ามนของพี่อีกแล้ว" ภูมินทร์กุมมือมนชญาอย่างรักใคร่
มนชญายิ้มปลื้ม...กลับมาบ้าน เจอไกรสรก็เข้ามาอ้อนเหมือนเด็กๆ ไกรสรไล่ให้ไปอาบน้ำแล้วลงมาทานข้าวด้วยกัน เขามองตามลูกสาวด้วยความรัก...
คืนนั้นอินตรามาเที่ยวผับตามปกติ เห็นวายุกำลังขายยาให้วัยรุ่นก็แซวว่ากิจการดูรุ่งเรือง วายุกลับบอกว่าตอนนี้ตำรวจกำลังกวาดล้าง ทำให้เขาต้องระวังตัวแจ ค้าขายลดน้อยลง จึงขอยืมเงินจากอินตราสองแสน อินตรารับปาก พอดีเหลือบไปเห็นภูมินทร์ออกมาจากผับข้างๆ อินตราดีใจรีบแยกตัวจากวายุ เดินตามภูมินทร์ไป...สบโอกาส อินตราแกล้งเดินชนภูมินทร์ แก้วไวน์ในมือหกราดเสื้อผ้า แล้วบ่นว่าแย่เลย เธอต้องไปงานเลี้ยงต่อ
"งั้นกลับบ้านไปเปลี่ยนชุดก่อนดีไหม เดี๋ยวผมไปส่ง"
"กว่าจะย้อนไปย้อนมาก็คงไม่ทันหรอกค่ะ ฉันว่าฉันเปิดห้องของโรงแรมนี้ แล้วเอาชุดไปให้โรงแรมซักรีดให้ดีกว่า คุณภูล่ะคะ จะต้องไปไหนต่อหรือเปล่าคะ"
ภูมินทร์ตอบว่าเขากำลังจะกลับบ้าน อินตราทำเป็นขาแพลงเดินไม่ไหว ทำให้ภูมินทร์ต้องประคองขึ้นไปส่ง อินตรา แอบยิ้ม...พอเข้ามาในห้อง อินตรารีบถอดชุดออกเหลือซับในทำท่ายั่วยวน ภูมินทร์ขมวดคิ้ว
"อย่าทำแบบนี้เลยอินตรา มันไม่ได้ผลหรอก" ภูมินทร์ จะเดินออกไป
"ทำไมคะคุณภู ทำไมคุณถึงได้รังเกียจฉันนักหนา ฉันรักคุณนะคะภู" อินตรารั้งแขนไว้
"แต่ผมรักมนชญา และผมก็ไม่มีวันเลิกรักเธอด้วย"
อินตราโผกอดดันภูมินทร์ไปชนผนัง ไม่ยอมให้เขาไป พอเห็นเขานิ่งก็รุกต่อ "อยู่กับฉันต่อเถอะนะคะคุณภู ฉันสัญญาค่ะ ว่าเรื่องระหว่างเรา ฉันจะไม่บอกให้มนรู้เลย"
ภูมินทร์มองอินตรานิ่งๆ แล้วจู่ๆก็อุ้มเธอเดินไปที่เตียง อินตรายิ้มกริ่ม กอดกระชับคอเขา รับรองว่าคืนนี้เธอจะทำให้ เขามีความสุข แต่แล้วภูมินทร์กลับโยนเธอลงบนเตียง อินตราร้องลั่น
"จำเอาไว้นะอินตราว่าผมรักมนชญาและผมจะไม่มีวันหักหลังเธอทั้งต่อหน้าและลับหลัง เพราะฉะนั้น ไม่ว่าคุณกำลังจะพยายามทำอะไร ผมขอให้คุณหยุด เพราะผมไม่มีวันรักผู้หญิงอย่างคุณ" พูดจบ ภูมินทร์เดินออกไปทันที ปล่อยให้อินตราร้องกรี๊ดๆดึงทึ้งผ้าห่มบนเตียงอย่างเจ็บใจ
บนโต๊ะอาหาร ซึ่งมีไกรสร กัลยาณี นพดล และมนชญานั่งทานอาหารกันอยู่ ไกรสรก็เอ่ยขึ้นว่าเขาปรึกษากับนพดลแล้วว่าจะให้มนชญาขึ้นเป็นรองประธานบริษัท เธอตกใจเกรงจะถูกคนค่อนขอดว่าได้ตำแหน่งเพราะเป็นลูก ไกรสรปลอบว่าไม่ต้องกังวลเพราะเขามั่นใจว่าเธอจะทำหน้าที่ได้สมกับตำแหน่ง กัลยาณีเห็นด้วย อินตรากลับมาได้ยินเข้า
พอดี ยิ่งสร้างความเจ็บแค้นเพิ่มขึ้น
คืนนั้น มนชญาโทร.ไปเล่าให้ภูมินทร์ฟัง เขายินดีด้วย "เห็นมั้ย เป็นอย่างที่แม่ชีบอกเลยว่าถ้ามนทำดี มนก็จะต้องได้ดี"
"มนจะตั้งใจทำงานให้เต็มที่ค่ะ จะได้ไม่ให้คุณพ่อผิดหวังที่อุตส่าห์ให้ความไว้วางใจกับมน ถ้าอย่างงั้นแค่นี้ก่อนนะคะพี่ภู มนง่วงแล้ว ฝันดีนะคะ" มนชญาวางโทรศัพท์ มือปัดโดนรูปบนโต๊ะหัวเตียงตกมาแตก มนชญาหยิบขึ้นมาดูเห็นกระจกแตกตรงหน้าไกรสรพอดี เธอรู้สึกใจคอไม่ดี...
และในห้องทำงานของไกรสร อินตรากำลังต่อว่าด้วยอารมณ์อันเดือดดาล "คุณพ่อไม่ยุติธรรม ไหนว่าคุณพ่อรักมนกับอินเท่ากัน แต่ทำไมคุณพ่อไม่ยกตำแหน่งใหญ่โตให้อินเหมือนที่ยกให้มนบ้าง"
"ก็อินยังเรียนไม่จบ ทำอะไรก็ไม่เป็นสักอย่าง ถ้าอินอยากได้ตำแหน่ง อินต้องไปเรียนต่อให้จบ แล้วพ่อจะให้ตำแหน่งอิน"
"ไม่ค่ะ อินจะเอาตำแหน่งเดี๋ยวนี้ ถ้าคุณพ่อไม่ให้อิน อินจะหนีออกจากบ้าน แล้วไม่กลับมาให้คุณพ่อเห็นหน้าอีกเลย" ว่าแล้วอินตราก็วิ่งออกไป
ไกรสรวิ่งตามเรียกด้วยความเป็นห่วง ดึงรั้งแขนอินตราไว้ขอร้องให้เข้าใจตนบ้าง แต่อินตราไม่ยอมฟัง หาว่าเพราะเธอเป็นแค่ลูกบุญธรรม เป็นกาฝาก ไกรสรจะกอดปลอบแต่อินตราผลักเขาเซไปชนตู้อย่างแรงล้มลงกับพื้น แจกันบนหลังตู้กลิ้งหล่นมา ไกรสรเงยหน้าไปเห็นตกใจยกมือป้อง แจกันหล่นมาใส่ศีรษะเขาอย่างแรง นอนหมดสติเลือดอาบเสียงแตกเพล้งของแจกัน ทำให้ทุกคนในบ้านตกใจวิ่งออกมา หลังจากอินตราได้สติ
ก็วิ่งหนีออกไปจากบ้านด้วยความกลัว...พอมนชญาเห็นสภาพของพ่อก็รีบพาส่งโรงพยาบาล ภูมินทร์กับยุวดีตามมาดูแลถามว่าเกิดอะไรขึ้น
"นังอินตรา..." กัลยาณีกัดฟันกรอด
"อะไรนะคะ พี่อินเป็นคนทำคุณอาเหรอคะ" ยุวดีตกใจ
"ค่ะ ต้องเป็นมันแน่ๆเพราะก่อนที่คุณพี่จะล้ม คุณพี่ทะเลาะกับมัน แล้วอาก็เห็นนังอินตรามันวิ่งออกไป ก็ถ้าไม่ใช่ฝีมือมันแล้วจะเป็นใคร"
"แต่คุณอาคะ เรื่องที่เกิดขึ้นกับคุณพ่อมันอาจจะเป็นอุบัติเหตุก็ได้นะคะ มนว่าเราอย่าเพิ่งโทษพี่อินเลยนะคะ มันไม่ยุติธรรมกับเขา"
"หนูมนเลิกปกป้องมันสักทีได้ไหม นังงูเห่าตัวนี้ ไม่ต้องไปมีความยุติธรรมอะไรให้มันหรอก แล้วคอยดูนะ ถ้าพี่ไกรสรเป็นอะไรขึ้นมาล่ะก็ อาจะไม่ปล่อยมันไว้แน่" กัลยาณีกัดปากแน่นอย่างโกรธจัด ส่วนคนอื่นๆต่างมีสีหน้าไม่สบายใจ
ooooooo
ทำผิดแล้วไม่มีที่จะไป อินตราหลบมานั่งซดเหล้าอยู่ที่คอนโดฯของวายุ แต่ไม่มีทีท่าจะสำนึกผิด กลับคิดว่าเพราะไกรสรลำเอียง ตายเสียได้ก็ดี วายุเข้ามานัวเนียถามถึงเงินที่เขาขอ อินตราผลักเขาออกอย่างหงุดหงิดแล้วเดินหนี วายุมองตาม สะกดกลั้นอารมณ์โกรธตัวเองไว้
เมื่อไกรสรได้รับการปฐมพยาบาลจนปลอดภัยแล้ว หมอออกมาบอกมนชญาว่า
ไกรสรถูกของแข็งกระทบอย่างแรงที่ศีรษะทำให้กระเทือนถึงเส้นประสาท อาจจะเป็นอัมพาตได้ มนชญาแทบล้มทั้งยืน ร้องไห้โฮ ภูมินทร์ประคองเธอไว้ กัลยาณีโกรธแค้นโทษอินตราทำให้ไกรสรเป็นแบบนี้...
วันต่อมา อินตรากลับมาบ้าน พบข้าวของเสื้อผ้าของเธอกองอยู่กลางบ้าน ไม่ทันไร กัลยาณีโยนเสื้อผ้ามาใส่หน้าเธออีก และไล่ออกจากบ้าน
"อยู่ดีๆก็มาไล่กันอย่างนี้ มันไม่มากไปหน่อยเหรอคะคุณอา"
"ก็แค่นี้มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ กับสิ่งที่แกทำกับครอบครัวของฉัน และต่อไปนี้ฉันจะไม่ยอมให้แกมาลอยหน้าสร้างความเดือดร้อนในครอบครัวของฉันอีกแล้ว ไสหัวออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้"
"อินไม่ไป อินเป็นลูกสาวของคุณพ่อ อินมีสิทธิ์ที่จะอยู่ในบ้านหลังนี้ คุณอาณีนั่นแหละที่จะต้องออกไป เพราะคุณอาณีเป็นแค่คนอาศัยเท่านั้น"
"ใช่ ฉันเป็นแค่คนอาศัย ฉันคงไม่มีสิทธิ์ไล่แก แต่นี่เป็นคำสั่งของหนูมน ลูกสาวและเจ้าของบ้านที่แท้จริง ไม่ใช่กาฝากอย่างแก"
อินตราอึ้งไปไม่อยากเชื่อ กัลยาณีย้ำว่า ใช่ และมนชญายังสั่งว่า ถ้าไม่ยอมไป จะลากคอเข้าตะรางโทษฐานพยายามฆ่า อินตราจะไปถามมนชญา กัลยาณีเรียกศักดิ์กับนิดมาจับตัวอินตราไว้แล้วบอกว่า
"หนูมนไม่อยู่ เพราะตอนนี้หนูมนไปดูแลคุณพี่ ที่กำลังจะเป็นอัมพาตเพราะฝีมือแก"
อินตราได้ยินตกตะลึงยืนอึ้ง กัลยาณีเข้ามาดึงกระเป๋าสะพายของอินตรามา เปิดหยิบบัตรเครดิตทุกใบและกุญแจรถออกมา
"หนูมนสั่งให้ยึดทุกอย่างที่คุณพี่ให้แกคืน แกไปได้แต่ตัวเท่านั้น และนี่ก็ดอกเบี้ยเล็กๆน้อยๆที่แกทำไว้กับหนูมนและครอบครัวของฉัน" กัลยาณีตบหน้าอินตราอย่างแรง
ป้านวลซึ่งแอบดูอยู่ตกใจวิ่งออกมาห้าม กัลยาณีหันมาชี้หน้าให้อยู่เฉยๆถ้าไม่อยากโดนไล่ออกไปอีกคน แล้วสั่งศักดิ์กับนิดโยนอินตราออกจากบ้าน และโยนข้าวของตามออกไปด้วยทำให้อินตราอาฆาตแค้นมนชญามากยิ่งขึ้น
ระหว่างที่มนชญาเป็นทุกข์เรื่องไกรสร ภูมินทร์คอยปลอบไม่ห่างและเป็นกำลังใจให้เธอเข้มแข็งต่อสู้เพื่อไกรสร...เวลาผ่านไป ภูมินทร์กับนพดลช่วยกันอุ้มไกรสรวางลงบนเตียง มนชญาจับมือไกรสรมาแนบแก้มตน รับปากว่าเธอจะดูแลเขาเอง ไกรสรน้ำตาไหลเป็นทาง กัลยาณีเห็นแล้วทนไม่ไหวอยากปล่อยโฮ ต้องเอามือปิดปากวิ่งออกไปร้องไห้นอกห้อง ป้านวลได้โอกาส เข้ามาหามนชญา
"คุณมนขา ป้ามีเรื่องจะคุยด้วยค่ะ"
มนชญากับนพดลมองหน้ากันก่อนจะเดินตามป้านวลออกมาจากห้องไกรสร ป้านวลบอกมนชญาเรื่องกัลยาณีไล่อินตราออกจากบ้าน มนชญาตกใจเป็นห่วงว่าป่านนี้อินตราจะไปอยู่ที่ไหน เธอจะออกตามหา นพดลบอกให้มนชญาอยู่ดูแลไกรสร เขาจะจัดการตามหาอินตราเอง
"ขอบใจมากนะ นพ แล้วถ้านพเจอพี่อิน ฝากบอกพี่อินให้เข้าใจด้วยนะว่าฉันไม่ได้คิดว่าเขาเป็นคนทำให้คุณพ่อเป็นแบบนี้เลย แล้วฉันก็ไม่ได้ไล่พี่อินออกจากบ้านด้วย"
"ครับคุณมน แล้วถ้ามีข่าวอินตราคืบหน้ายังไง ผมจะรีบส่งข่าวให้คุณมนรู้นะครับ"
นพดลเดินออกไป มนชญากับป้านวลมองหน้ากันอย่างไม่สบายใจ...ในขณะที่นพดลตามหาอินตราตามบ้านเพื่อนไม่เจอ อินตรากำลังอาละวาดปาข้าวของใส่วายุด้วยความเบื่อที่ไม่มีเงินจะออกไปไหนก็ไม่ได้
"คุณจะบ่นไปทำไม ก็ออกไปหางานทำซะสิ ผู้หญิงสาวๆสวยๆอย่างคุณน่ะ งานง่ายๆ เงินสบาย หาง่ายจะตาย"
"หุบปากไปเลยนะ คุณนั่นแหละตัวดี ฉันคนเดียวคุณก็ไม่มีปัญญาเลี้ยง ทีจะเอาเงินจากฉันไปน่ะ เอาจังเลยนะ"
"ก็ผมบอกไปแล้วไงว่าช่วงนี้กิจการของผมมันไม่ค่อยดี เงินมันก็ฝืดๆสิ แล้วนี่คุณจะอยู่ที่นี่อีกนานแค่ไหน"
"ทำไม..."
"อ้าว...ก็เกิดน้องสาวคุณเอาตำรวจมาลากคอคุณ ผมก็จะซวยไปด้วยน่ะสิ"
"นี่แกคิดจะทิ้งฉันอีกแล้วเหรอ ตอนสบายล่ะก็รักฉันนักหนา แต่พอฉันลำบากล่ะก็ จะผลักไสไล่ส่งกันเลยนะ" อินตรากระหน่ำตีวายุ
วายุปัดป้องจนโมโหผลักอินตรากระเด็น "พอได้แล้ว...คุณจะไปสงบสติอารมณ์ที่ไหนก็ไปเลยไป ผมรำคาญ"
อินตรามองวายุด้วยความโกรธ ลุกพรวดพราดออกไปจากห้องทันที ลงมาถึงชั้นล่าง
อินตราเดินบ่นว่าเป็นเพราะมนชญาที่ทำให้วายุกล้าทำกับตนแบบนี้ พลัน อินตรารู้สึกมีคนมองแล้วซุบซิบในมือมีหนังสือพิมพ์อยู่ "ฉันว่าใช่นะแก ต๊าย...เป็นลูกโจรหรอกเหรอ"
อินตราเดินเข้าไปกระชากหนังสือพิมพ์จากมือผู้หญิงสองคนที่กำลังนินทาตน สองสาวตกใจลนลานเดินหนีไป อินตราอ่านคอลัมน์ซุบซิบ "ใครจะรู้ว่าสาวสวยลูกสาวคนโตของคุณไกรสร นักธุรกิจร้อยล้าน จะเป็นแค่ลูกโจรที่คุณไกรสรเก็บมาชุบเลี้ยง ลูกสาวที่แท้จริงของคุณไกรสรมีเพียงคุณมนชญาคนเดียวเท่านั้น"
"แกกล้าทำกับฉันอย่างนี้เหรอมนชญา" อินตราอ่านแล้วโกรธ ขยำหนังสือพิมพ์ปาทิ้งร้องกรี๊ดๆ
ooooooo
พอมนชญาเห็นข่าวก็ถามกัลยาณีว่าเป็นคนให้ข่าวนี้ใช่ไหม กัลยาณียอมรับแต่โดยดี มนชญาติงว่า ไกรสรเคยสั่งให้เก็บอดีตของอินตราไว้เป็นความลับไม่ใช่หรือ ทำแบบนี้แล้วอินตราจะรู้สึกอย่างไร
"อาไม่สนใจ อารู้อย่างเดียวว่าอาต้องการจะให้มันอับอาย เอาชนิดที่เรียกว่าไปไหนไม่ได้เลย จะได้สาสมกับสิ่งที่มันทำกับคุณพี่"
มนชญาถอนใจ ยุวดีหน้าตื่นเข้ามาถามมนชญาเห็นข่าวหรือยัง มนชญาทำหน้าเหนื่อยใจ สองสาวเดินออกมาคุยกันที่สนามหน้าบ้าน มนชญากลุ้มใจที่กัลยาณีทำกับอินตรารุนแรงขนาดนี้ ยุวดีบอกว่าไม่แปลกเลย เป็นใครเจอเรื่องแบบนี้ก็ต้อง โกรธอินตรา
"ก็พี่อินน่าสงสาร พ่อแม่ตายหมด ไม่มีญาติที่ไหนเลยนอกจากป้านวล เฮ้อ...ไม่รู้ป่านนี้พี่อินจะเป็นยังไงบ้าง นพออกไปตามหาก็ไม่เจอเลย"
"เธอไม่ต้องห่วงหรอก คนอย่างพี่อินน่ะ เอาตัวรอดได้อยู่แล้วล่ะ"
"แต่ยังไงฉันก็ยังอดห่วงพี่อินไม่ได้หรอกยุ และฉันก็เชื่อว่าถ้าคุณพ่อรู้เรื่อง คุณพ่อก็ต้องเป็นห่วงพี่อินเหมือนกัน" ขาดคำ มือถือมนชญาดังขึ้น "สวัสดีค่ะ มนพูดค่ะ"
"นี่ฉันเองนะ..." เสียงอินตรากรอกมาตามสาย
มนชญาดีใจรีบถามว่าอินตราอยู่ที่ไหนตนเป็นห่วงมาก อินตราหมั่นไส้ นัดมนชญาออกมาพบเพียงลำพัง มีเรื่องจะคุยด้วย มนชญารับปากทันทีว่าจะไปตามนัด ยุวดีเป็นห่วงขอไปด้วยแต่มนชญาเกรงอินตราไม่พอใจ
"ไม่ต้องหรอกยุ พี่อินคงไม่ใจร้ายพอที่จะทำอะไรฉันหรอก เพราะยังไงๆเราก็โตมาด้วยกัน ฉันไปนะ" มนชญาเดินออกไป
ยุวดีกลุ้มใจ คิดว่าจะทำอย่างไรดี โทร.หาภูมินทร์ก็ไม่รับเพราะติดประชุมอยู่ พอภูมินทร์ประชุมเสร็จก็โทร.กลับมาหายุวดี ถามว่ามีอะไรนักหนาโทร.หาตนเป็นสิบๆครั้ง ยุวดีบอกว่ามีเรื่องด่วน มนชญาไปหาอินตราตามลำพัง ภูมินทร์รีบออกไปรับยุวดีแล้วตามไปที่นัดหมาย เขาโทร.หามนชญา พูดได้สองสามคำแบตมือถือของมนชญาหมด สาย
ตัดไป
ตรงจุดนัดหมาย อินตรานั่งอยู่ในรถเก่าๆที่เช่ามา จอดซุ่มดูอยู่ใต้ต้นไม้ ใกล้สะพานข้ามแม่น้ำ พอมนชญามาถึง จอดรถเดินไปบนสะพาน กวาดตามองหาอินตรา แผนที่ในมือปลิวหล่นเธอก้มลงเก็บ พอเงยหน้ามา เห็นรถที่อินตราขับพุ่งเข้าใส่เธออย่างรวดเร็ว มนชญาตัดสินใจวิ่งหนี รถภูมินทร์แล่นมาถึงเห็นเหตุการณ์พอดี จังหวะนั้น มนชญา
สะดุดรากไม้ล้ม
อินตราได้โอกาสพุ่งรถเข้าใส่ มนชญากัดฟันกลิ้งตัวหลบจนพลัดตกน้ำ ภูมินทร์วิ่งตัดถนนมาตรงที่มนชญาตกลงไป อินตราตกใจ เพราะรถเธอจะชนภูมินทร์จึงหักหลบ รถเสียหลักพุ่งตกสะพานไปอีกคน ภูมินทร์ไม่สนใจอินตรา เขาร้องเรียกมนชญาแล้วโดดลงไปตรงจุดที่เธอตกน้ำ...ร่างมนชญาดำดิ่งลงพื้นล่าง วิญญาณหลุดออกจากร่าง เธอมา
รู้สึกตัวว่าอยู่ในสถานที่ที่มีหมอกขาว
"ที่นี่ที่ไหน...คุณพ่อ พี่ภู ยุ มีใครอยู่แถวนี้บ้างมั้ยคะ...
ทุกคนหายไปไหนกันหมด"
ไม่มีเสียงตอบ มนชญาใจคอไม่ดี ทันใดนั้น มีแสงสว่างจากด้านบนปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเธอ พอแหงนหน้าขึ้นมอง แสงนั้นก็ส่องมายังร่างและดูดวิญญาณเธอขึ้นไป...
ooooooo
วันต่อมา ในห้องพักโรงพยาบาล มนชญารู้สึกตัวลืมตาขึ้นมา เห็นภูมินทร์ ยุวดี และกัลยาณี ยืนรายล้อมรอบเตียง ทุกคนดีใจที่เธอฟื้น มนชญารู้สึกปวดหัวมากขอเข้าห้องน้ำ ภูมินทร์จึงประคองพาไปส่ง ขณะที่มนชญาล้างหน้าแล้วเงยหน้ามองกระจก เห็นเงาตัวเองก็ตกตะลึง ยกมือแตะไปตามใบหน้าตัวเอง แทบช็อก
"ไม่จริง...เป็นไปได้ยังไง ทำไมฉันถึงเข้ามาอยู่ในร่างของมนชญา"
ภูมินทร์เห็นมนชญาเข้าห้องน้ำนานก็เป็นห่วงมาเคาะเรียก "มน...เป็นอะไรรึเปล่าจ๊ะ"
มนชญาตัดสินใจเปิดประตูออกมา ภูมินทร์จับมืออย่างห่วงใย มนชญาส่ายหน้าอย่างงงๆเดินมานั่งบนเตียง นพดลเปิดประตูเข้ามา กัลยาณีรีบถาม
"เรื่องนังอินตราได้เรื่องยังไงบ้างนพ ตามหามันเจอหรือยัง ฉันจะได้ลากคอมันเข้าคุก"
"ยังตามหาร่างอินตราไม่เจอเลยครับ พบแต่ซากรถอยู่ใต้น้ำ"
อินตราซึ่งอยู่ในร่างมนชญา รู้สึกสับสนกับเรื่องที่เกิดขึ้น ไม่กล้าพูดอะไรออกมา จนกัลยาณีกับนพดลกลับไป ภูมินทร์เห็นว่าดึกแล้วเขาจึงบอกเธอว่า
"มนจ๋า วันนี้พี่กลับก่อนนะจ๊ะ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้ พี่จะมาเยี่ยมมนแต่เช้าเลย"
"คุณ...เอ่อ พี่ภูอยู่เฝ้ามนที่นี่เถอะนะคะ มนไม่อยากอยู่คนเดียว มนกลัว"
"ใครว่าเธออยู่คนเดียวมน ฉันนี่ไงจะอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง" ยุวดียิ้มให้มนชญา
แต่มนชญากลับมองยุวดีด้วยสายตาไม่เป็นมิตร เกาะแขนภูมินทร์แน่น "ไหนพี่ภูบอกว่ารักมน พี่ภูก็ต้องอยู่เป็นเพื่อนมนสิคะ จะให้คนอื่นอยู่ทำไม"
ยุวดีหน้าเหวอ ภูมินทร์จึงบอกว่าเพราะเขารักเธอถึงไม่อยากทำให้เสื่อมเสีย คนจะเอาไปนินทา มนชญาจำใจยอม แต่ขอให้ภูมินทร์สัญญาว่าพรุ่งนี้จะมาแต่เช้า ภูมินทร์สัญญาแล้วหันไปฝากยุวดีให้ดูแลมนชญาด้วย
"ไม่ต้องหรอกค่ะ ถ้าไม่มีพี่ภู มนว่ามนอยู่คนเดียวดีกว่า เธอกลับไปพักผ่อนที่บ้านเถอะยุ"
"แน่ใจเหรอมน..." ยุวดีแปลกใจ
"แน่สิ กู๊ดไนต์นะคะพี่ภู" มนชญาหอมแก้มภูมินทร์แล้วเอียงแก้มให้เขาหอมบ้าง
ภูมินทร์มองยุวดีอย่างเกรงใจ ยุวดีจึงเสมองไปทางอื่น ภูมินทร์หอมแก้มมนชญาแล้วบอกว่าเขาไปนะ มนชญายิ้มรับ พอภูมินทร์กับยุวดีออกไป มนชญาก็ลุกขึ้นไปมองตัวเองในกระจก หัวเราะชอบใจ
"เป็นแกแล้วมันมีความสุขอย่างนี้นี่เอง ฮืม...ตอนนี้ ฉันได้เป็นแกแล้ว นังมนชญา เพราะฉะนั้นฉันก็จะทำทุกอย่างเพื่อครอบครองทุกสิ่งที่เป็นของแก"
ooooooo
วันต่อมา ที่โรงพยาบาลต่างจังหวัด พยาบาลสองคนกำลังคุยกันถึงเรื่องแปลกที่เกิดขึ้น
"ญาติคนไข้ห้องนั้นมาหรือยัง"
"ยังเลย แต่ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าเขาจะรอดชีวิตมาได้น่ะ เพราะหยุดหายใจไปนาน แต่ก็ฟื้นกลับมาใหม่ได้ สงสัยคงทำบุญมามาก เลยยังรอด" สองพยาบาลพยักหน้าให้กัน
คนไข้ที่พยาบาลพูดถึงคือมนชญาที่อยู่ในร่างอินตรา เธอฟื้นขึ้นมาพบว่าตัวเองอยู่ในห้องที่ไม่เคยเห็น รู้สึกปวดหัวมาก จึงพยุงกายไปเข้าห้องน้ำ ยืนมึนๆสักพักแล้วหันไปล้างหน้าที่อ่าง พอเงยหน้ามองกระจกก็ต้องตกตะลึงเช่นกัน เมื่อพบว่าเงาในกระจกไม่ใช่ตัวเอง แต่เป็นอินตรา
ooooooo










