สมาชิก

ดวงใจพิสุทธิ์

ตอนที่ 8

ลูกหมีวิ่งจูงหัฏฐ์กลับเข้ามาในบ้าน บอกชนนีกับชินานางว่าตนมีคนช่วยดูแลแล้ว หัฏฐ์ยิ้มเผล่อาสาไปดูแลลูกหมีให้ อ้างปุ๊กกี้จะได้ไปสนุกสนานด้วยคน ชินานางบอกตนไม่มีปัญหา ดีเสียอีกจะได้ฝากเลี้ยงนายตัวยุ่ง ชนนียินดีจะไปเตรียมขนมให้ หัฏฐ์ขอจัดการเอง ลูกหมีร้องเย้ๆ

เสนีย์อ่านเอกสารคดีของหัฏฐ์แล้วตกใจเมื่อเห็นนามสกุลพัฒน์พงศ์บวร จึงรีบโทร.ไปถามหัฏฐ์ พอรู้ว่าลดามณีเป็นน้องสาวิตรก็อึ้งไปทันที หัฏฐ์ถามเป็นอะไรรู้จักกันหรือ เสนีย์ปัดไว้พร้อมแล้วจะเล่าให้ฟัง ขอตั้งสติก่อน หัฏฐ์สงสัยต้องเป็นเรื่องส่วนตัวแน่ๆ

ด้านลดามณีกลับเข้าบ้านด้วยความเบื่อหน่ายที่มีแต่เพื่อนกิน มาอาศัยกินฟรีที่โรงแรม พอรู้ว่าตนได้เป็นเจ้าของ ชลีกรสะใจแต่ทำทีปลอบว่าคนเราก็แบบนี้ เข้าหาเราเพื่อผลประโยชน์ ไม่จริงใจเหมือนคนในครอบครัว ลดามณีบ่นปวดหัวกับงานเอกสารที่ต้องอ่านแล้วเซ็น ไม่ถนัดเอาเสียเลย ชลีกรได้ทีอาสาทำให้ ลดามณีหลงชื่นชมช่างน่ารักไม่ระแวงสักนิดว่ากำลังจะโดนฮุบ...

ชินานางขับรถพาหัฏฐ์ ลูกหมีและปุ๊กกี้มาที่สวนดอกไม้ วิวสวยงามอากาศบริสุทธิ์ หมายมั่นจะวาดภาพให้เต็มที่ จิรัชกับจูนพาเด็กๆบ้านพักพิงเข้ามาหา จูนทักทายชินานาง เธอทักตอบ

“สวัสดีค่ะคุณจูน อ้อยหวานพูดถึงคุณให้ฟังตลอดเลยค่ะ”

จูนค้อนจิรัชแล้วหันมาเห็นหัฏฐ์ก็ทักด้วยความแปลกใจ จิรัชมองหัฏฐ์และชินานางอย่างสงสัย หัฏฐ์เย้าจูนกับจิรัชสนิทกันแล้วหรือ จูนรีบออกตัวว่าจิรัชตามไปเป็นครูอาสาที่บ้านพักพิง จิรัชแก้ตัวว่าไม่ได้ตาม บังเอิญมากกว่า จูนแนะนำชินานางกับเด็กๆว่าเป็นนักวาดภาพมืออาชีพ จะมาช่วยสอนน้องๆ ชินานางมองจิรัชงงๆ จูนหันไปชวนหัฏฐ์ให้เดินไป

เมื่อโดนมัดมือชก ชินานางจึงต้องสอนเด็กๆให้วาดภาพดอกไม้ตามจินตนาการของแต่ละคน เป็นการ์ตูนตลกๆ เด็กๆชอบใจ จิรัชยิ้มให้ ชินานางสบถไม่ต้องมายิ้ม คราวหน้าจะไม่เชื่ออะไรอีก จิรัชปลอบ

“ไม่เอาน่า สนุกดีออกได้วาดรูปท่ามกลางธรรมชาติสวยงาม เห็นเด็กๆตั้งใจทำงานศิลปะ เธอเป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอว่าเด็กๆควรได้รับการปลูกฝังเรื่องนี้”

ชินานางมองเด็กๆด้วยรอยยิ้ม จูนเปรยกับหัฏฐ์ว่าสองคนดูสนิทกันดี หัฏฐ์บอกก็ทั้งสองเป็นเพื่อนสนิทกัน จูนกระซิบถามชินานางเป็นแฟนเขาหรือ หัฏฐ์ปฏิเสธแล้วถามกลับว่าเธอกับจิรัชล่ะเป็นแฟนกันหรือเปล่า จูนส่ายหน้า เราแค่ชอบทำงานอาสาเหมือนกัน

ลูกหมีเข้ามาขอพาปุ๊กกี้ไปดูเขาวาดรูปกัน จูนมองปุ๊กกี้อย่างสงสารที่ดูเศร้า จึงชวนหัฏฐ์ไปร่วมกับเด็กๆ

ลูกหมีจูงปุ๊กกี้มายืนข้างจิรัช เห็นเด็กๆสนุกสนานกันดีก็เอ่ยถามว่าเด็กๆพวกนี้ไม่มีพ่อแม่จริงหรือ จิรัชตอบว่าจริง เด็กบางคนถูกเลี้ยงดูโดยคนใจร้ายจึงต้องให้ความช่วยเหลือ

“ปุ๊กกี้กำพร้าพ่อแม่และย่าตายหมด” ลูกหมีบอก จิรัชถามจริงหรือ ปุ๊กกี้พยักหน้าเศร้าๆ

“แสดงว่าปุ๊กกี้ก็ยังโชคดี เพราะหนูยังมีน้าที่รักหนู มีบ้านอยู่ มีคนอีกมากมายที่รักหนู แต่เพื่อนๆพวกนี้ เขาไม่มีแม้กระทั่งบ้านหรือใครเลย เขาเป็นเด็กที่มีคนเอามาทิ้งตั้งแต่แรกเกิด”

ลูกหมีหันมาพูดกับปุ๊กกี้ว่าพวกเขาน่าสงสาร

ปุ๊กกี้พยักหน้า จูนเดินเข้ามากับหัฏฐ์ช่วยอธิบายเพิ่ม

“แต่น้องๆเขาก็โตขึ้นมาอย่างมีความสุขได้ ไม่ใช่เพราะเขาได้รับความสงสาร แต่เพราะพวกเขาได้รับความรักจากคนอื่นๆที่มอบให้ เช่นอาอ้อยหวาน อาจูนและมีคนอีกมากมายที่ห่วงใยพวกเขา เข้าใจรึยังคะ”

ปุ๊กกี้ยิ้มออกมาด้วยความสบายใจขึ้น ลูกหมีบอกจะเป็นเพื่อนกับเด็กเหล่านี้ ชินานางถามปุ๊กกี้ล่ะ หนูน้อยพยักหน้ายิ้มนิดๆ หัฏฐ์ปลาบปลื้มที่เห็นหลานรักคลายความเครียดลงบ้าง จิรัชชวนเด็กทั้งสองไปร่วมวาดภาพ ชินานางหันมาชวนหัฏฐ์ด้วย ไม่พูดพล่ามดึงเขาไปร่วมวง

จากนั้นจิรัชกับชินานางก็ได้ลงมือวาดภาพของตัวเอง จิรัชเอ่ยถาม ทำไมวันนี้ถึงพาลูกหมีกับหัฏฐ์มาด้วย ชินานางบอกลูกหมีร้องตาม ถ้าไม่มีคนมาช่วยดูแลก็คงไม่เป็นอันได้วาดรูปแน่

“แค่นั้นจริงๆนะ” จิรัชยิ้มเจ้าเล่ห์

“แกจะหมายถึงอะไร”

“แกกับคุณหัฏฐ์นี่ไม่ได้มีอะไรมากไปกว่านี้ใช่ไหม”

“แกจะบ้าเหรอ เขาเป็นเพื่อนบ้านฉัน เป็นเพื่อนบ้านกันช่วยเหลือกันแปลกตรงไหน” จิรัชยอมเชื่อ ชินานางย้อนถามแล้วเขากับจูน เขาทำหน้างง “ก็นายไปต่างจังหวัดอยู่กับสาวสองต่อสองไม่คิดอะไรเลยเหรอ”

“ไม่ได้คิด โห...วันหลังมีอะไรไม่เล่าให้ฟังแล้ว อย่าให้เขาได้ยินเชียวนะ ยิ่งหาว่าฉันไปตามจีบเขาอยู่”

ชินานางกระเซ้าว่าชอบก็ยอมรับ จิรัชบ่ายเบี่ยงเอาพู่กันเคาะหัว เธอเคาะกลับ ทั้งสองหยอกล้อกอดคอกันจนหัฏฐ์กับจูนมองแปลกๆ ชินานางไม่รู้สึกตัวหันมาส่งยิ้มให้หัฏฐ์ จิรัชเห็นฉายแววตาเศร้าๆออกมา จูนมองด้วยความสงสัย

เสร็จงานวันนั้น จิรัชกลับบ้าน ยืนมองภาพที่มีผ้าคลุมเศร้าๆ ค่อยๆดึงผ้าออกเป็นรูปที่เขาวาดขึ้นเพื่อชินานางโดยเฉพาะ

ooooooo

อีกสองวันจะถึงวันที่ศาลนัดไกล่เกลี่ย ชลีกรบอกสาวิตรอย่าลืมคำพูดที่ซักซ้อม แต่เขาไม่อยากให้เป็นเรื่อง เธอจึงบอกว่าจะเสนอเงินก้อนใหญ่ให้ฝ่ายหัฏฐ์ ถ้าไม่เอาก็ต้องพังกันไปข้าง

ด้านหัฏฐ์คุยกับหทัยว่าถ้าทางนั้นยื่นข้อเสนออะไรมา ตนก็จะไม่ยอมให้เขาเอาปุ๊กกี้ไปได้ ทั้งสองสะดุ้งเมื่อหันมาเห็นปุ๊กกี้ยืนกอดดวงใจสีหน้าหวาดกลัว หทัยรีบถามว่าได้ยินที่คุยกันใช่ไหม หนูน้อยพยักหน้าเศร้าๆหัฏฐ์เข้าปลอบ

“ไม่ต้องกลัวนะคะปุ๊กกี้ น้าหัฏฐ์สัญญาว่าปุ๊กกี้จะไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ปุ๊กกี้จะต้องได้อยู่ที่นี่ต่อไป”

หทัยถามอยากอยู่ที่นี่กับป้าไหม ปุ๊กกี้พยักหน้า เธอดึงหลานเข้ามากอดด้วยความรัก หัฏฐ์ใจชื้นขึ้นที่หลานยอมรับ

ถึงวันไปศาล เสนีย์เดินออกจากห้องไกล่เกลี่ยด้วยสีหน้าไม่ดี หัฏฐ์กับหทัยคอตกในขณะที่ชลีกรและทนายยิ่งยศเดินออกมาอย่างมาดมั่น สาวิตรตามออกมาก้มหัวให้หัฏฐ์กับหทัยแทนการขอโทษ เสนีย์ให้กลับไปวางแผนที่บ้าน และว่าชลีกรไม่ธรรมดาจริงๆ แล้วถามถึงทนายของตระกูลที่ชื่อสุวัฒน์ หัฏฐ์ให้เบอร์โทร.เพื่อติดต่อกันเอง...เสนีย์โทร.ขอให้สุวัฒน์เตรียมเอกสารบางอย่างให้ เขายินดีช่วยเต็มที่...

ชินานางรับเด็กๆกลับจากโรงเรียน ชนนีเตรียมขนมให้ทานแล้วให้ทำการบ้าน หัฏฐ์เดินเข้ามาสีหน้าบอกบุญไม่รับ หทัยเองก็เครียดจึงขอปรึกษาทั้งชนนีและชินานาง เรื่องชลีกรยื่นคัดค้าน ทางเรากำลังรวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์แต่ติดเรื่องพยานที่ต้องส่งรายชื่อให้ศาล รบกวนทั้งสองให้ช่วยเป็นพยาน

ชินานางกับชนนียินดีเต็มที่ ลูกหมีโผล่มาบอกว่าตนก็ยินดีช่วยเต็มที่

หทัยหัวเราะ “ขอบใจจ้ะลูกหมี แต่ลูกหมียังเด็กไปขึ้นโรงขึ้นศาล ป้าว่าไม่เหมาะนะจ๊ะ”

ลูกหมียืนกรานว่าตนสามารถเล่าเรื่องปุ๊กกี้ได้ดีกว่าชินานาง ทุกคนขำ ชินานางเอ็ด “ศาลไม่ใช่สนามเด็กเล่นนะลูกหมี อย่ายุ่งกับธุระของผู้ใหญ่หน่อยเลยนะเรา”

ลูกหมีงอนบอกทีหลังอย่ามาขอให้ช่วยก็แล้วกัน ชินานางบอกใครอยากให้ตัวยุ่งอย่างเราช่วย แล้วเลิกแอบฟังผู้ใหญ่คุยกันด้วย ลูกหมีย้อนว่าเธอพูดเสียงดังเอง ชนนีปรามลูกและหลานให้เลิกเถียงกัน แล้วหันมาคุยต่อว่าจะให้ไปเมื่อไหร่ หัฏฐ์บอกอีกสองเดือน ทนายของตนจะมาซักซ้อมให้ก่อน สองพี่น้องกราบขอบคุณชนนี

ooooooo

ขณะที่ชลีกรทำผมอยู่ในร้าน ลูกน้องเอาซองใส่เงินค่าเช่าตึกมาส่งให้ ช่างแย็บน่าอิจฉาที่นั่งเฉยๆก็มีคนเอาเงินมากองให้คงจะหลายหมื่น ชลีกรโอ่ว่าเป็นล้าน ช่างตาโพลงเตือนให้เก็บดีๆน่าเป็นห่วง ชลีกรท้าใครจะกล้ามาขโมยเงินตน และคนในสงขลาใครบ้างที่กล้ามีเรื่องกับตน

เสร็จจากทำผม ชลีกรถือกระเป๋าและซองเงินออกจากร้านตรงไปยังลานจอดรถ ทันใดก็มีมอเตอร์ไซค์ขี่เข้ามากระชากซองเงินไปจากเธอ ชลีกรร้องลั่นให้คนช่วยแต่ไม่มีใครกล้าเข้าช่วย

ชลีกรกลับบ้านฟูมฟาย สาวิตรกับลดามณีอ่อนใจบอกใครให้ถือเงินมากมายเดินเพ่นพ่านแบบนั้น ชลีกรโวยอย่าซ้ำเติม ตนเหนื่อยมากต้องตะโกนเสียงแหบแห้งแล้วยังต้องวิ่งวุ่นไปแจ้งความอีก เงินเป็นล้านหายไปจะทำอย่างไร ลดามณีแนะ “พี่ลีก็ไม่น่ารับเงินสด เก็บเป็นเช็คหรือให้พวกเขาโอนเข้าบัญชีเหมือนที่นายแม่เคยทำ ก็ไม่มีปัญหาแล้ว”

ชลีกรโอดครวญอย่าซ้ำเติมกันอีกเลย ลดามณีบอกแค่แนะนำ สาวิตรตัดบท เสียแล้วก็เสียไป แต่ชลีกรฟูมฟายว่าทำใจไม่ได้...พอลับหลังทั้งสองคน ชลีกรก็ยิ้มเหยียดเปิดกระเป๋าหยิบซองเงินออกมากอดหัวเราะเบาๆอย่างมีความสุข...

ในคืนนั้นชินานางเห็นหัฏฐ์นั่งเครียดที่หลังบ้าน จึงเข้าไปชวนคุย เขาบอกว่าเสนีย์จะเข้ามาคุยกับเธอและแม่อาทิตย์หน้า ชินานางถามแล้วเขาไม่สบายใจเรื่องอะไร หัฏฐ์ถอนใจยาว

“ทนายสุวัฒน์ที่สงขลาโทร.มาคุยกับผม เขาเล่าให้ฟังว่าคุณชลีกรเตรียมพยานมาให้การในศาลเต็มที่ ถึงขนาดไปขอให้ครูประจำชั้นคนเก่าของปุ๊กกี้ขึ้นมาให้การ โดยทางเขาจะออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด แถมเงินติดกระเป๋าก้อนใหญ่ เพื่อให้พูดว่าเขาเลี้ยงหลานได้ดีกว่าผม”

ชินานางเสนอให้เอาครูประจำชั้นที่นี่มาคานน้ำหนักกันบ้าง แต่หัฏฐ์ไม่ยอม ไม่ต้องการให้มาพูดว่าหลานตนมีปัญหาทางจิต ตนรับไม่ได้

วันต่อมาชลีกรปรี่เข้าไปหาลดามณี ปรึกษาเรื่องที่ดินที่ภาวนายกให้ทั้งสามคนว่ามีนักพัฒนาที่ดินอยากทำเป็นศูนย์การค้าครบวงจรขนาดใหญ่ ลดามณีว่าศูนย์ การค้างอกเป็นดอกเห็ดสร้างอีกแล้วจะคุ้มหรือ ชลีกรบอกไม่คุ้มก็ช่างเขา เราได้เงินก็พอ เธอจึงถามให้ราคาเท่าไหร่ ชลีกรบอกว่าร้อยล้าน ลดามณีเบ้ปากมันน่าจะสักสองร้อยล้าน ชลีกรโน้มน้าว

“ตอนนี้เศรษฐกิจมันแย่ลงทุกวัน ราคาที่เขาเสนอมาพี่ว่ามันก็สมควรแล้วนะ”

“หารสามก็เหลือคนละสามสิบกว่าล้าน ไหนจะค่านายหน้า ค่าโอนอะไรอีก”

ชลีกรบอกได้สามสิบล้านก็ยังดี เอาฝากธนาคารกินดอกเบี้ยก็เกือบล้านต่อปี ต่อไปถ้าเกิดไม่มีคนซื้อยกแปลงจะชวดเปล่าๆ ลดามณียักไหล่อยากทำอะไรก็ทำไป แต่คดีผู้ปกครองยังไม่เรียบร้อยจะเอาทรัพย์ออกมาขายได้หรือ ชลีกรกล่อม

“เรื่องศาลไม่ต้องห่วง ทนายความของพี่มีทางวิ่งเต้นขอเป็นกรณีพิเศษได้ แค่ยื่นเรื่องไปว่าเราต้องการเงินมาช่วยในกิจการบริษัทอย่างเร่งด่วนจริงๆ และจำเป็นต้องขายที่ทั้งผืน ส่วนของปุ๊กกี้พอได้มาแล้ว เราก็จะแบ่งเข้าธนาคารให้ เท่านี้ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะเราไม่ได้คดโกงสมบัติของหลานใช่ไหมคะ แต่ทีนี้ปัญหามันอยู่ที่คุณหัฏฐ์กับพี่สาว เขาจะคัดค้านเรื่องนี้รึเปล่า”

ลดามณีถามจะทำอย่างไร ชลีกรให้เธอไปเจรจากับหัฏฐ์ เธอดีใจที่จะมีเรื่องไปหาเขา ชลีกรจะจองตั๋วเครื่องบินให้พรุ่งนี้เลย แล้วตนจะตามไปอีกวันรอดูท่าทีทางนั้นก่อน ลดามณีพยักหน้าเดินยิ้มกระหยิ่มใจ ในขณะที่ชลีกรตาวาวจะได้เงินเป็นร้อยล้านมาอีกฟรีๆ

ooooooo

บ่ายวันใหม่ หัฏฐ์เดินมารับปุ๊กกี้ที่บ้านชนนี ไม่ทันไรลดามณีวิ่งตามมาเรียกเสียงอ่อนเสียงหวาน ส้มวิ่งตามมาบอกว่าคุณคนนี้มาหาเขา ลดามณีมองชินานางเหยียดๆ

“ดีจังเลยนะคะพี่หัฏฐ์ มีที่รับเลี้ยงเด็กอยู่ติดบ้าน”

“คุณลดาเข้าใจผิดแล้วครับ ผมฝากคุณช้างรับปุ๊กกี้กลับบ้านหลังเลิกเรียนครับ”

“มันก็เหมือนกันแหละค่ะ ก็รับค่าจ้างดูแลเด็กเหมือนกัน”

ชินานางเริ่มโมโหแกล้งเย้ย ตนไม่ได้รับค่าจ้างแต่เรามีสัญญาบางอย่างแลกเปลี่ยนกัน ลดามณีข้องใจ หัฏฐ์รู้ว่าชินานางกวน ปุ๊กกี้เดินมาเห็นลดามณีก็ชะงักยกมือไหว้ เธอหันมาทัก

“ปุ๊กกี้ แม่เศรษฐีตัวน้อยของอา เป็นไงจ๊ะคิดถึงอาไหม...แล้วนี่ยังอุ้มตุ๊กตาสกปรกตัวนี้อยู่อีกเหรอ น่าจะทิ้งลงถังขยะไปได้แล้วนะจ๊ะ อาลดาซื้อตัวใหม่มาฝากอยู่ในรถ ดีใจไหมจ๊ะ”

ปุ๊กกี้ไม่ตอบแต่ถอยหนีไปหาชนนี ลูกหมีกินขนมคาปากเดินตามออกมา หัฏฐ์แนะนำให้รู้จักชนนี ลดามณีไม่ยกมือไหว้กล่าวลอยๆ “สวัสดีค่ะ ต๊าย...เด็กอะไรมอมจัง”

ลูกหมีสวน “ผู้หญิงอะไรเสียงสูงปรี๊ดเหมือน...” ชินานางรีบปิดปากหลานส่งเสียงอู้อี้

ชนนีถามแก้เก้อว่ามาเยี่ยมหลานหรือ ลดามณีบอกมาคุยธุระกับหัฏฐ์และเยี่ยมปุ๊กกี้ด้วย ชลีกรก็จะตามมา ปุ๊กกี้ได้ยินชื่อเกาะชนนีแน่นด้วยความหวาดกลัว ลดามณีชวนหัฏฐ์กลับไปคุยที่บ้าน ปล่อยปุ๊กกี้เล่นที่นี่ไปก่อน ชนนีพยักหน้าไม่เป็นไร ลูกหมีสะกิดชินานางให้ปล่อย

“ว๊าย!โทษที แต่ทีหลังจำไว้นะ ห้ามว่าผู้ใหญ่ต่อหน้าแบบนี้ มันไม่ดี” ลูกหมีถามลับหลังว่าได้หรือ

ชินานางเอ็ด “ไม่ได้...เป็นเด็กห้ามนินทาผู้ใหญ่มันไม่ดีทั้งนั้น”

“แล้วผู้ใหญ่ที่ว่าเด็กล่ะครับอาช้าง” ลูกหมียังข้องใจ

ชินานางบอกไม่ดีทั้งสองอย่าง ชนนีส่ายหน้าขำๆ ...ด้านหัฏฐ์พอได้ฟังธุระของลดามณีก็บอกว่าควรจะรอให้เรื่องที่ศาลสิ้นสุดก่อน เธอตอบตามที่ชลีกรเสี้ยมมาว่าไม่ทันการณ์ บริษัทต้องการเงินหมุนเวียน ถ้าบริษัทมีปัญหาปุ๊กกี้ถือหุ้นหนึ่งในสามจะเสียประโยชน์ไปด้วย หัฏฐ์จำได้ว่าตอนสุวัฒน์อ่านพินัยกรรม ในธนาคารมีเงินสดอีกสามร้อยกว่าล้านบาท จึงอ้างไปว่าขอเวลาปรึกษาทนายก่อน ไม่อยากให้มีผลต่อการร้องขอหญิงสาวว่าไม่น่าจะเกี่ยวกัน

“เกี่ยวสิครับ ในช่วงที่เป็นความกันอยู่ ผมว่าเราไม่ควรเข้าไปจัดการหรือตัดสินในเรื่องทรัพย์สินของปุ๊กกี้ ควรรอให้ใครได้อำนาจการปกครองไปก่อนให้เรียบร้อย”

“ลดาก็ไม่รู้จริงๆว่าทำไมพี่หัฏฐ์กับพี่ลีถึงต้องแย่งกันเป็นผู้ปกครองปุ๊กกี้ถึงกับต้องขึ้นศาลกันแบบนี้ เป็นญาติกันแท้ๆน่าจะตกลงกันได้ อุ๊ย!จะหกโมงเย็นละมิน่าลดาถึงหิว ออกไปหาอะไรทานกันนะคะ นะๆๆคราวนี้ห้ามปฏิเสธลดานะคะ เราจะได้คุยเรื่องนี้กันต่อด้วยน่ะค่ะ”

หัฏฐ์อ่อนใจที่ลดามณีรวบรัด จำต้องเดินออกมาที่รถ ลดามณียิ้มกริ่มรอให้เขาเปิดประตูรถให้ หัฏฐ์แค่กล่าวว่าเชิญ แล้วเดินไปขึ้นด้านคนขับ หญิงสาวหน้าเจื่อนเปิดประตูเข้าไปนั่งเอง

พอรถหัฏฐ์แล่นออกไป ชลีกรก็ลงจากรถแท็กซี่ที่จอดรออยู่หน้าบ้าน ถือวิสาสะเดินเข้าบ้าน มองหา ปุ๊กกี้ แล้วก็เห็นหนูน้อยนั่งเล่นอยู่ ชลีกรส่งเสียงเรียก ปุ๊กกี้สะดุ้งสุดตัวถอยหนี แต่เธอตวาดให้หยุด ลากตัวหนูน้อยมาขู่ “แกไม่มีวันหนีฉันพ้นหรอกนังปุ๊กกี้ นังตัวดี...”

ปุ๊กกี้ร้องไห้ด้วยความกลัว ชลีกรตวาดให้เงียบ หนูน้อยยกมือไหว้กลัวๆ แล้วเปล่งเสียงช่วยด้วยออกมา ชลีกรโกรธเงื้อมือจะฟาด ลูกหมีโผล่มาถาม “ใครน่ะป้าปุ๊กกี้เหรอ คนนี้ใช่ไหม”

ชลีกรชะงักหันมาเอ็ด “เด็กบ้าไปให้พ้นนะ ป้าหลานเขาจะคุยกัน...ร้องดีนักนะแกนังปุ๊กกี้ คอยดูนะถ้าฉันได้ตัวแกกลับไปสงขลา ฉันจะตีให้น่องลายเลย อย่านึกนะว่าแกจะหนีฉันพ้น”

ลูกหมีเข้าไปดึงปุ๊กกี้แล้วร้องช่วยด้วยๆ ชลีกรตกใจหน้าเสีย หยิกแขนลูกหมีให้ปล่อยปุ๊กกี้ ลูกหมีร้องดังขึ้น ชนนีและชินานางวิ่งมา “นั่นคุณทำอะไรน่ะ หยุดนะปล่อยปุ๊กกี้เดี๋ยวนี้ ไม่เห็นเหรอว่าดึงแบบนั้นเด็กเจ็บ ปล่อยนะ...ไม่งั้นฉันแจ้งความจริงๆด้วย”

ชลีกรปล่อยปุ๊กกี้ ปรับน้ำเสียงอ่อนลงว่าเป็นการเข้าใจผิด ตนเป็นป้าสะใภ้มาเยี่ยมปุ๊กกี้ ชินานางดึงปุ๊กกี้ที่ตัวสั่นมากอด บอกตนจะเชื่อได้อย่างไรและทำไมเด็กถึงร้องไห้ ชลีกรอ้างว่าไม่รู้เด็กกลัวอะไรแล้วขอคุยกับหลาน ชินานางให้รอหัฏฐ์กลับมาก่อนค่อยคุย ชลีกรเจ็บใจ

แต่ฝืนยิ้มบอกวันเสาร์จะมาใหม่ ส่งเสียงหวานกับปุ๊กกี้ว่า ไว้เจอกัน ก่อนจะสะบัดหน้าออกไป...เจอชมพูนุชที่ชะเง้อสอดรู้สอดเห็นอยู่ ปรี่เข้าไปเสนอตัวจะแฉกำพืดคนบ้านนี้ให้ฟัง ชลีกรตาวาว

ooooooo

หัฏฐ์กลับมารู้เรื่องจากชินานางและเห็นรอยช้ำที่แขนปุ๊กกี้และรอยหยิกที่แขนลูกหมีก็โกรธมากจะไปแจ้งความ ชินานางปรามถ้าทำอย่างนั้นเขาจะโดนหาว่าใส่ความได้ เพราะไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ ลูกหมียืนยันว่าตนเห็น แต่ชินานางว่าคำพูดของเด็กมันเบาไป

“ผมต้องปล่อยให้เขามาทำร้ายหลานผมไปเรื่อยๆหรือครับ”

ชนนีปลอบว่าต่อไปตนกับคนบ้านนี้จะช่วยดูแลไม่ให้ปุ๊กกี้อยู่ลำพังอีก หัฏฐ์ขอบคุณอย่างซาบซึ้ง...ในขณะที่ชลีกรพาชมพูนุชมาทานร้านอาหารแพงๆ และฟังเธอเล่าเรื่องของหัฏฐ์กับชินานาง และยังพร้อมจะไปเป็นพยานในศาลให้ แลกกับอาหารกลับบ้านอีกมากมาย

วันต่อมาชลีกรทิ้งลูกๆให้อยู่กับสาวิตรเพื่อขึ้นมาบ้านหัฏฐ์ที่กรุงเทพฯกับลดามณี ปุ๊กกี้ตัวสั่นซุกหน้าอยู่บนตักหทัย หัฏฐ์มองหลานแล้วมองชลีกรอย่างโกรธๆ ชลีกรทำหน้าไม่รู้เรื่อง

“จะให้พี่พูดยังไงคุณหัฏฐ์ถึงจะเข้าใจ เมื่อวานปุ๊กกี้ร้องไห้จะตามพี่กลับไปด้วย พี่ก็ต้องปลอบอธิบายให้ฟังไงคะ”

“คุณจะพูดแก้ตัวยังไงก็ได้ แต่ผมจะเชื่อรึเปล่าก็อีกเรื่อง ครั้งนี้ผมจะปล่อยผ่านไป แต่ครั้งหน้าผมไม่ยอมแน่” ชลีกรอึ้งแก้ตัวว่าเขาไม่ฟังเหตุผล แล้วหันไปเอ็ดปุ๊กกี้เล่าอะไรให้หัฏฐ์ฟัง ปุ๊กกี้สะดุ้งกลัวมากขึ้น หัฏฐ์ปราม “คุณไม่ต้องดึงเด็กเข้ามา ต่อไปนี้ผมไม่อนุญาตให้คุณมาเยี่ยมหลานผมในเวลาที่ผมไม่อยู่เด็ดขาด”

ชลีกรโวยจะมากเกินไป หัฏฐ์บอกไม่มากถ้าเทียบกับสิ่งที่ตนได้ยินมา ชลีกรชักหวาด เขารู้อะไรมาบ้าง ลดามณีหาว่าชินานางใส่ความเป่าหูเขา หัฏฐ์บอกตนดูจากอาการและรอยช้ำที่เนื้อตัวปุ๊กกี้ เธองงอาการอะไร หทัยตัดบท เรื่องนี้จบไปแล้วถามชลีกรมีเรื่องอื่นอีกไหม ชลีกรส่งสายตา ลดามณีจึงเอ่ย “ลดาก็จะมาเอาคำตอบเรื่องขายที่ดินนั่นแหละค่ะ”

หทัยบอกปรึกษากับหัฏฐ์แล้วขอให้เรื่องคดีเรียบร้อยก่อน ชลีกรตาเขียว หัฏฐ์แทรก “พูดกันตรงๆนะครับ วันเปิดพินัยกรรม ผมจำได้ว่ามีตัวเลขเงินในธนาคารอยู่ถึง 368.54ล้านบาท”

ลดามณีทึ่งที่หัฏฐ์จำได้ละเอียด หัฏฐ์ให้ดึงเงินนั้นมาจะง่ายกว่า ชลีกรอ้าปากค้างเถียงไม่ออกได้แต่ฮึดฮัดที่ลดามณีไปเห็นดีเห็นงามกับหัฏฐ์ หทัยโล่งอก

ชินานางเห็นลูกหมีเกาะรั้วแอบดูจึงมาดึงตัวให้กลับ เผอิญชลีกรเดินเชิดออกมาตามด้วยลดามณี สองอาหลานจึงถอยหลบหงายหลังล้มไม่กล้าร้อง ลดามณียังชื่นชมว่าหัฏฐ์เก่งขอมาเรียนรู้กฎหมายจากเขา หัฏฐ์นิ่งไม่ตอบ ชลีกรแค้นใจกล่าวห้วนๆ

“ลาก่อนนะคะคุณหัฏฐ์ ไว้เจอกันในศาล”

หัฏฐ์รับคำไม่หวั่น ลดามณีเกรงจะปะทะอารมณ์กันอีกจึงรีบลาและดึงชลีกรกลับ...หัฏฐ์หมุนตัวกลับจะเข้าบ้าน เห็นชินานางกับลูกหมีหงายเก๋งอยู่กับพื้นก็ขำออกมา แกล้งเอ่ยถาม

“ลูกหมีถามอาช้างให้หน่อยสิครับ ว่าหลบอยู่ตั้งนานร้อนไหม...คงต้องถูกทำโทษกันหน่อยแล้วที่มาแอบฟังคนอื่น”

ชินานางแก้ตัวว่ามาตามลูกหมี หัฏฐ์บอกมีเหตุผลควรพาไปเลี้ยงไอศกรีม ลูกหมีดีใจรีบไปขออนุญาตชนนี หัฏฐ์หันมาแหย่ชินานางว่าล้มหรือตั้งใจนอน เธอค้อนขวับใครจะตั้งใจนอนแอบฟัง เขาหัวเราะที่เธอยอมรับออกมาแล้วขอบคุณที่เธอเป็นห่วง เธอหน้าเสียบอกมันบังเอิญ

ระหว่างขับรถกลับ ลดามณียังชื่นชมหัฏฐ์ ชลีกรเคืองบอกตนจะต้องขอเป็นผู้ปกครองปุ๊กกี้ให้ได้ ให้เธอช่วยเป็นพยานด้วย ลดามณีปฏิเสธเกรงผิดใจกับหัฏฐ์แล้วถามชลีกรตีหลานจริงหรือเปล่า ชลีกรโบ้ยความผิดให้ ชินานางว่ายุยงหัฏฐ์ ตนรักและเอ็นดูปุ๊กกี้มากจะทำได้ อย่างไร

ชินานางพาลูกหมีไปกับหัฏฐ์และปุ๊กกี้จึงไม่ทันได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่จิรัชโทร.มา ทำให้จิรัชรู้สึกกังวลกับความสนิทสนมของเธอกับหัฏฐ์มากขึ้น จูนเห็นจิรัชซึมไปจึงมาดักรอหลังสอนเสร็จถามว่าเขาเป็นอะไร เขากลับไม่ตอบและเลี่ยงขอตัว ทำให้จูนแปลกใจเขามีปัญหาอะไร

ด้านเสนีย์คุยกับสุวัฒน์แล้วตัดสินใจลงไปสงขลาเพื่อหาแหล่งข้อมูล สุวัฒน์พาไปดูตึกแถวและตลาดที่เป็นของภาวนาและตอนนี้ชลีกรมาดูแลเก็บค่าเช่าเอง มีเพียงโรงแรมที่เป็นของลดามณีคนเดียว เธอจึงแตะต้องไม่ได้ เสนีย์สะท้อนใจเมื่อได้ยินชื่อลดามณี

กลับจากทานไอศกรีม หัฏฐ์ทำงานต่อให้ลูกหมีเล่นกับปุ๊กกี้ที่บ้านตน ชินานางเอาไอศกรีมไปฝากชนนี แล้วนั่งทานขนมอย่างเอร็ดอร่อยไม่มีหลานมาแย่ง...เวลาผ่านไปพักใหญ่ ชินานางถือเฟรมและขาตั้งออกมาวาดรูปที่สนาม หัฏฐ์เดินมาเกาะรั้วถามว่าลูกหมีกับปุ๊กกี้ไปเล่นที่บ้านหรือเปล่า เธอส่ายหน้าตกใจนิดๆ หัฏฐ์บอกตนทำงานเพลินไป รู้ตัวอีกทีไม่เห็นเด็กทั้งสอง หาทั่วบ้านก็ไม่เจอ ชินานางให้ใจเย็นแล้วชวนให้ช่วยกันหาอีกที

ชินานางหาตามจุดที่ตนเคยเข้าไปซ่อนตอนเด็กคือตู้ต่างๆ เมื่อไม่มีก็เดินมองและคิด เห็นว่าหมอนอิงที่โซฟาหายไป จึงเดินไปเลิกผ้าคลุมโต๊ะขึ้น แล้วก็เห็นเด็กทั้งสองนอนหลับกันอยู่

“เด็กๆเล่นสร้างบ้านกันไงคะ สมมติว่าโต๊ะคือบ้าน ผ้าคลุมก็คือรั้ว บ้านเล็กๆแต่อบอุ่นและปลอดภัย ตอนเด็กๆ ฉันกับพี่ชายเล่นกันบ่อยๆ”

“ผมไม่เคยเล่นแบบนี้เลย ที่จริงคือไม่เคยได้เล่นมากกว่า ยิ่งเล่นกับพี่สาวยิ่งแทบไม่เคย”

ชินานางถามไม่มีเพื่อนเล่นแบบนี้เลยหรือ หัฏฐ์ส่ายหน้าบอกถ้ามีเวลาตนจะอ่านหนังสือกับพ่อ หรือไม่ ก็นั่งดูแม่ทำอาหาร ชินานางว่าเขาซีเรียสแต่เด็ก หัฏฐ์ขอโทษที่ตื่นตูมเกินไป แล้วชวนเธอทานกาแฟสักถ้วย ชินานางถามถึงเรื่องนัดสืบพยาน หัฏฐ์ถอนใจที่เสนีย์โทร.มาบอกว่าในรายชื่อพยานฝ่ายนั้นมีชมพูนุชอยู่ด้วย ชินานางตกใจตายแน่ๆ หัฏฐ์บอกไม่ถึงตายแค่เซ็งมาก

“ตอนที่ฉันเจอคุณใหม่ๆ ฉันคิดว่าคุณเป็นอาจารย์ที่ควบคุมอารมณ์ได้ทุกสถานการณ์ ท่าทางเหมือนคนวิชาการจัด เฉยชาไม่สนใจคนอื่น” หัฏฐ์แทรกว่าเหมือนหุ่นยนต์ “เกือบใช่...”

หัฏฐ์ถามตอนนี้เธอมองเขาอย่างไร ชินานางบอกเขาก็เป็นคนธรรมดาแถมอารมณ์ยังรุนแรง เวลาเฉยก็เฉยเป็นหิน แต่เวลาโกรธตาเขาลุกเป็นไฟ แต่ที่สำคัญเป็นคนมีน้ำใจที่ขี้งอน เขามองขำๆ ชินานางถามเขามองตนอย่างไร หัฏฐ์บอกเหมือนงิ้วโรงเล็ก เสียงดัง ออกอากาศได้ทุกคืนไม่เว้นวันหยุด ช่วงแรกตนแทบบ้า ชินานางแทรกมิน่าเขาถึงเรียกตนว่าพังแป้นกับช้างน้ำ แล้วอธิบายถึงสาเหตุที่ต้องเสียงดัง เพราะถ้าไม่เอาเสียงเข้าข่ม ก็ไม่มีทางเอาลูกหมีอยู่ หัฏฐ์ยิ้ม

“คุณเป็นคนมีชีวิตชีวา ยิ้มง่ายหัวเราะง่าย แล้วก็โกรธง่าย แต่ข้อดีคือคุณไม่ใช่คนหยุมหยิม และไม่ปรู๊ดปร๊าดไร้สาระเหมือนผู้หญิงทั่วไป และบางครั้งก็มีเหตุผลทีเดียว อ้อที่สำคัญ ลืมบอกว่าคุณขี้งอน และนั่นคือสิ่งที่เราเหมือนกัน”

ชินานางกำลังจะงอนจึงขำออกมา ลูกหมีขยับตัวลืมตาสะกิดปุ๊กกี้ถามได้ยินผู้ใหญ่คุยกันไหม ปุ๊กกี้พยักหน้า ลูกหมีสรุปขี้งอนทั้งคู่ สองหนูน้อยหัวเราะเบาๆ

ooooooo

สาวิตรรู้สึกว่าช่วงนี้ชลีกรทิ้งลูกๆ จึงตำหนิ เธอไม่พอใจบอกเพราะตนเป็นห่วงลูกถึงจัดการทำทุกอย่างให้ได้สมบัติกลับคืนมาเป็นของพวกเขา

ด้านลดามณีไม่มีความสามารถในการดูแลโรงแรมเลย ได้แต่บ่นว่าแม่บ้านที่ทำงานไม่เรียบร้อย...มีแต่เพื่อนๆ มากินฟรีจนเธอต้องสั่งหัวหน้าฝ่ายห้องอาหารไม่ให้ใครมาอ้างกินฟรีอีก

เสนีย์มาซักซ้อมสืบพยานชนนีกับชินานาง และขอซักซ้อมปุ๊กกี้ด้วยเป็นการค่อยเป็นค่อยไปจนกว่าจะถึงวันที่หนูน้อยต้องขึ้นศาล จะได้ไม่ตื่นตกใจ

ในขณะที่ปุ๊กกี้ถูกนิดหน่อยกับน้อยหน่าลูกๆชมพูนุชกลั่นแกล้งที่โรงเรียน ลูกหมีมาช่วยผลักทั้งสองล้มวิ่งโร่ไปฟ้อง ครู คุณครูต้องไกล่เกลี่ยถามอะไรปุ๊กกี้ก็ไม่ตอบ จึงให้ขอโทษกัน และกันและกำชับลูกหมีเป็นผู้ชายไม่ควรทำร้ายผู้หญิง...

ปุ๊กกี้ยิ่งมีความหวาดระแวงและหวาดกลัวอยู่ตลอด พอเสนีย์มาซักซ้อมสืบพยาน ทำให้หนูน้อยทำหน้าจะร้องไห้ก้มหน้าไม่ยอมตอบอะไร ลูกหมียกมือขอตอบเอง เสนีย์เริ่มกังวลใจ

“สำหรับคุณช้างกับคุณน้าชนนีไม่มีปัญหา แต่ก็ยังลำบากเหมือนกันว่ะ พยานทางฝ่ายนู้นค่อนข้างแน่น ข้อได้เปรียบก็มีมากกว่าหลายด้าน เขามีความพร้อมเรื่องการเป็นครอบครัว”

“แค่แต่งงานมีลูกก็เรียกว่าพร้อมแล้วเหรอ”

“มันก็ดูเหมาะกว่าคนโสดทั้งคู่อย่างแกกับพี่หทัย อีกอย่างทรัพย์สินส่วนใหญ่นับว่ามีความเกี่ยวข้องกับทางเขามากกว่าแก”

“จุดนี้แหละที่เขาจะเอาหลานกลับไป ทั้งที่เขาไม่ได้สนใจแกสักนิด”

“ฉันเข้าใจแต่บอกตรงๆว่าฉันห่วงหลานแกว่ะ ถ้าถามอะไรไม่ตอบแบบนี้ทางเราลำบากแน่ พยานปากเอก ไม่ยอมพูด”

หัฏฐ์กลุ้มใจจะพยายามคุยกับปุ๊กกี้อีกที ถ้าต้องหาพยานเพิ่มอีกตนก็จะทำ...พรุ่งนี้จะถึงวันไปขึ้นศาล ชนนีกับหทัยกำชับบัวและส้มให้รับลูกหมีกับปุ๊กี้ กลับจากโรงเรียนแล้วดูแลให้ดี ห้ามออกไปเล่นนอกบ้าน ชนนีกอดปุ๊กกี้และบอกว่าพวกเราทุกคนรักหนู ชินานางสบตาหัฏฐ์ยิ้มให้กำลังใจ เขารู้สึกมีกำลังใจมากขึ้น

รุ่งเช้า ทุกคนเดินทางมาศาล เสนีย์บอกหัฏฐ์กับหทัยว่าฝ่ายผู้ค้านมากันครบแล้ว ชลีกรเห็นพวกหัฏฐ์ก็มองและเหยียดปากดูหมิ่นที่มีพยานเพียงน้อยนิด ต่างจากตนที่มาเป็นสิบ หัฏฐ์ไม่สนใจเข้าไปทักทายสาวิตร เขาบอกอยากจะแวะเยี่ยมปุ๊กกี้แต่มัวยุ่งหลายเรื่อง หัฏฐ์จึงชวนว่าเสร็จจากศาลเชิญไปที่บ้าน ปุ๊กกี้คงดีใจที่ลุงมาเยี่ยม ชลีกรไม่พอใจเข้ามาดึงสาวิตรออกไป

ผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์ ทุกคนลุกยืนเคารพหทัยดูกระวนกระวายอย่างเห็นได้ชัด ชนนีกุมมือให้กำลังใจ ในขณะที่หัฏฐ์ขึ้นสืบพยานคนแรก เสนีย์ซักถาม ถึงสาเหตุที่อยากเป็นผู้ปกครองเด็กหญิงหวันยี่หวา เขาตอบว่าตนและพี่สาวมีความมั่นคงในหน้าที่การงาน และปุ๊กกี้ก็เป็นลูกของพี่สาวที่เสียชีวิต เด็กควรออกมาจากสิ่งแวดล้อมที่สะเทือนใจ...ยิ่งยศขึ้นซักค้าน

ก่อนหน้าที่หรรษาแม่ของปุ๊กกี้จะเสีย ตัวหัฏฐ์เคยพบเด็กเกินสามครั้งหรือไม่ หัฏฐ์ตอบว่าช่วงปุ๊กกี้เกิดตนเรียนอยู่ต่างประเทศ ยิ่งยศเน้นว่าตอบไม่ตรงคำถาม เขาจึงต้องยอมรับ ยิ่งยศซักต่ออีกว่า “คุณให้การว่าจะเลี้ยงหลานด้วยความรักและเอาใจใส่ แต่สมุดบันทึกเวรของโรงเรียนบอกว่าคุณไปรับเด็กช้าเกิน 18 นาฬิกาติดๆกันถึง 4 ครั้งในหนึ่งสัปดาห์ ใช่หรือไม่”

หัฏฐ์ตอบว่าแค่ช่วงแรกๆ ยิ่งยศพยายามจี้ประเด็นที่เขาทิ้งเด็กวัย 7 ขวบให้รอหลายชั่วโมง

ดวงใจพิสุทธิ์

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด