ตอนที่ 4
มัสยาถือกระเป๋ารีบออกจากห้องน้ำ ชนเข้ากับสิงหาที่ออกจากห้องน้ำชายอย่างจังจนกระเป๋าหลุดมือ สิงหาคว้าไว้ได้ มัสยาจะดึงกลับต่างมองหน้ากันอึ้ง อัยราออกมาพอดีถามว่ามีอะไรกันหรือ พลางสบตากับมัสยา พริบตานั้นมัสยาคว้ากระเป๋าคืนจากสิงหาแล้วเดินไป
อัยรายิ้มให้สิงหาแล้วเดินเลยไป สิงหามองมัสยาเหมือนติดใจอะไรแต่นึกไม่ออก
ในงาน ปฐวีไม่เห็นสิงหา ถามจีระวุธว่าสิงหาไปไหน เขาบอกว่าตนสลับให้สิงหาไปดูแลด้านนอกและให้อยุตต์มาทำหน้าที่แทน อยุตต์รีบเข้ามารายงานตัวขอให้ท่านไว้ใจ ตนจะปกป้องท่านด้วยชีวิต
ปฐวีพยักหน้า พอดีดนตรีบรรเลงขึ้น การแสดงเริ่มขึ้นแล้ว
มัสยาหาจังหวะที่จะเข้าใกล้นายกฯเพื่อปฏิบัติการได้ แม่นยำ แต่พอเธอเดินเข้าใกล้ปฐวีเท่านั้น ก็ถูก รปภ.กันให้ ออกไป ทำให้มัสยาจำต้องถอยออกไปอย่างหัวเสีย
ที่หน้างาน ธาวีเอากาแฟมาให้สิงหาบอกว่าอีกครึ่งชั่วโมงงานก็เลิกแล้ว หมวดเม่นพูดอย่างสบายใจว่าในที่สุดพวกสมิงสาก็ไม่มา
"อย่าเพิ่งวางใจ งานเราจะเสร็จก็ต่อเมื่อส่งท่านนายกฯถึงบ้านอย่างปลอดภัย"
หมวดเม่นพูดอย่างครึ้มใจว่านางระบำรัสเซียสวยจริงๆ ธาวีเบ้ปากว่ารัสเซียจริงรึเปล่าก็ไม่รู้ หรือมาจากแถวซอยนานา เห็นสั่งส้มตำไก่ย่างมากินในห้องแต่งตัว
คำพูดของธาวีสะกิดใจสิงหา เขานึกถึงตอนที่อัยราเดินเข้ามา นึกถึงตอนที่มัสยา เขมิกา และนัทมนเดินเข้ามา เอะใจว่าต้องมีเรื่องไม่ปกติแน่ๆ บอกผู้กองธาวีกับหมวดเม่นให้เฝ้าตรงนี้แทนตน
ธาวีถามว่าสารวัตรจะไปไหน สิงหาพูดพลางเดินพลางบอกว่าจะเข้าไปดูนางระบำหน่อย
"แหม...พอบอกว่าสวยเข้าหน่อย สารวัตรไปดูเลยนะ" หมวดเม่นแซวตามหลัง
ooooooo
ความสังหรณ์ใจของสิงหาเป็นจริง เพราะเมื่อการแสดงจบบรรดานางโชว์เดินเข้าไปรับดอกไม้จากนายกรัฐมนตรี สิงหาเดินเข้ามาอย่างเร่งร้อน เห็นภาพนั้นเข้าพอดี เขาพุ่งเข้าไป แต่ช้าไปแล้ว เพราะทันทีที่เข้าใกล้นายกรัฐมนตรี มัสยาก็ชักปืนออกมาจะยิง
ปฐวีทิ้งดอกไม้จับมือมัสยาที่ถือปืนไว้ ยื้อยุดกันไปมาสุดแรงจนปืนลั่นเฉียดศีรษะนายกฯไปเส้นยาแดงเดียว มัสยายื้อสุดแรงยกมือสับคอนายกฯ นายกฯยกมือรับ จังหวะนั้นปืนลั่นเข้าท้องนายกฯ อยุตต์เห็นดังนั้นยกปืนจะยิงมัสยา แต่เขมิกา ชักปืนยิงเข้าหน้าอกอยุตต์ก่อน ส่วนนัทมนก็ยิงสะกัด รปภ. ไม่ให้เข้ามาช่วย
นายกฯถูกยิงที่ท้องเซจะล้ม มัสยาจะตามซ้ำให้ตาย นายกฯยกมือปิดหน้าร้อง "อย่า..."
ขณะที่มัสยาจะลั่นไกนั่นเอง สิงหาพังโต๊ะล้มพุ่งเข้าช่วยนายกฯ มัสยาเห็นดังนั้นหันมายิงใส่สิงหา ทั้งคู่ยิงตอบโต้กันโดยมีโต๊ะคั่นกลาง
แขกที่มาในงานแตกฮือ นราธิปพุ่งเข้าโอบพาอัยราหลบไปอีกทางหนึ่ง
ธาวีกับหมวดเม่นวิ่งเข้ามาประคองนายกฯพาหลบไป ธาวีสั่งหมวดเม่นให้ยิงคุ้มกันนายกฯ หมวดจึงหันไปยิงใส่นัทมน
มัสยาประเมินสถานการณ์แล้วตะโกน "ถอย" พลางวิ่งออกไป สิงหาสั่งให้หยุด มัสยาหันมาจะยิงใส่เลยถูกสิงหายิงเข้าที่ท้อง แต่มัสยาก็ยิงสวนและหนีรอดไปได้ สิงหาวิ่งตามไป แต่ไม่ทันเห็นแต่รอยเลือดที่หยดตามทาง
สิงหา ว.ถามธาวีว่านายกฯเป็นอย่างไรบ้าง พอรู้ว่าปลอดภัย ก็เบาใจ กวาดตามองหามัสยาอีกทีเมื่อไม่พบอะไรก็กลับไปอย่างหัวเสีย
เมื่อตามไปที่โรงพยาบาลเจอนภาลัยกำลังตำหนิตำรวจที่รักษาความปลอดภัยอย่างรุนแรง พอเห็นสิงหาก็ถามว่าหายหัว ไปไหนทำไมไม่อยู่ติดนายกฯ
"แม่ครับ เขามีการเปลี่ยนแผนกัน ผู้การเขาให้สิงไปดูแลด้านนอก" นราธิปช่วยชี้แจง
นภาลัยหันไปไล่เบี้ยจีระวุธว่าเขาต้องรับผิดชอบ ตนจะให้ผู้บัญชาการเล่นงานให้หนัก
พอดีหมอออกจากห้องไอซียู นภาลัยรีบเข้าไปถามว่าอาการนายกฯเป็นอย่างไรบ้าง
"ตอนนี้ท่านปลอดภัยดีแล้วครับ โชคดีที่กระสุนถากไป คงต้องอยู่โรงพยาบาลสักสองสามวันครับ"
คุณหญิงรีบเข้าไปดูอาการ ผู้การจีระวุธกับอยุตต์ตามเข้าไปด้วย นราธิปจึงหันมาถามสิงหาว่า
"แกคิดว่าไงวะ นี่มันพวกมือปืนต่างประเทศหรือ"
"ไม่ใช่ ฉันว่ามันเป็นมือปืนชุดเดียวกับที่ลอบยิงนายกฯ ครั้งที่แล้ว"
นราธิปถามว่าหมายถึงพวกสมิงสาหรือ สิงหาคาดว่าใช่ ก็พอดีอยุตต์ออกมาบอกสิงหาว่านายกฯอยากคุยด้วย เขาจึงเดินเข้าไป
ooooooo
เขมิกากับนัทมนกลับไปถึงบ้านพักมัสยาแล้ว ชานนท์โกรธมากถามว่าทำไมถึงทิ้งมัสยามา ทั้งสองชี้แจงว่าตอนนั้นชุลมุนมากเราสองคนก็ต้องหาทางหนีมา
ชานนท์ถามว่ามัสยาโดนยิงหรือถูกจับ เขมิกาบอกว่าก่อนที่พวกตนจะออกมาเห็นมัสยายิงสู้กับสารวัตรสิงหา ทันใดนั้นอัยราเดินเข้ามา ชานนท์ถามว่าได้ข่าวมัสยาไหม
"ยังไม่ได้ข่าวเลยค่ะ แต่ที่แน่ๆไม่ได้ถูกจับ เห็นตำรวจพูดกันว่ามัสยาถูกยิงแต่เขาหาตัวไม่เจอ"
นัทมนเสนอให้เช็กไปตามโรงพยาบาล ชานนท์เชื่อว่ามัสยาไม่ไปโรงพยาบาลแน่ ตอนนี้เธอต้องอยู่ที่ไหนสักแห่งมากกว่า
ที่ที่มัสยาไปคือที่ร้านของรุ่งรวี เธอไปทรุดหมดสติอยู่หน้าร้าน รุ่งรวีพาเข้าไปปฐมพยาบาลขั้นต้นแล้วจะพาไปโรงพยาบาล มัสยาปฏิเสธ บอกว่าตนไปไม่ได้ ร้องขอความช่วยเหลืออย่างอ่อนแรงแล้วหมดสติไปอีกครั้ง
รุ่งรวีพยายามทำแผลให้ เปิดเจอสัญลักษณ์ดาวสมิงสาที่สะโพกของมัสยา เธอตะลึงอุทานอย่างตกใจ "หา...นี่เธอเป็นพวกสมิงสาหรือ!"
ooooooo
หลังจากกลับมานั่งทบทวนเหตุการณ์แล้ว สิงหาติดใจที่อัยราบอกนราธิปว่าเราควรจะไปถามลูกสาว ท่านรัฐมนตรี นราธิปปกป้องอัยราถามว่ามันเกี่ยวอะไร กับอัยรา อะไรทำให้สิงหาคิดไปอย่างนั้น
"ฉันว่าเขาน่าจะรู้จักกับมือปืน ฉันเห็นเขาสบตาไอ้มือปืนตอนที่ฉันชนมันหน้าห้องน้ำ"
"ฉันว่าเธอไม่รู้เรื่องด้วยหรอก" นราธิปแย้ง
"จะรู้หรือไม่รู้ เราก็ควรจะคุยกับเธอหน่อย" สิงหายืนยัน
ดังนั้น นราธิปจึงโทร.ถึงอัยราบอกเธอว่าเพื่อนที่เป็นตำรวจของคุณพ่อมีเรื่องอยากคุยกับเธอหน่อย อัยราถามอย่างระแวงว่าจะคุยเรื่องอะไรไม่ทราบ
นราธิปจึงส่งโทรศัพท์ให้สิงหาคุยเอง พอสิงหาแนะนำตัวเองว่าเป็นสารวัตรสิงหาเท่านั้น อัยราก็ระวังตัวทันที แต่ก็ยังคุยกันอย่างไร้พิรุธ สิงหานัดขอเจอกันเพื่อคุยรายละเอียดถามว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน
"ตอนนี้ฉันอยู่ข้างนอกค่ะ" อัยราโกหก สิงหาถามว่าเธอสะดวกที่จะพบที่ไหน อัยราจึงนัดที่ร้านกาแฟแถวทองหล่อ
เมื่อไปเจอกันที่ร้านกาแฟตามนัด อัยราบอกว่าตนไม่รู้จักพวกนั้นเลย สิงหาบอกว่าเห็นเธอกับมือปืนทำท่าเหมือนรู้จักกัน
"ฉันก็นึกว่าเขาเป็นคนรัสเซียด้วยกันก็เลยทักทาย ผิดด้วยหรือคะ" อัยราทำเสียงขุ่น
สิงหามองหน้าอัยรานิ่ง บอกว่าตนก็แค่ทำตามหน้าที่เท่านั้น นราธิปตัดบทว่าหมดเรื่องแล้วใช่ไหม สิงหาพยักหน้า อัยรารีบขอตัว
"ขอโทษนะครับคุณอัยรา ผมอยากจะขอที่อยู่คุณได้ไหม เผื่อมีอะไรเพิ่มเติมผมจะได้ติดต่อคุณ"
พอสิงหาพูดจบ อัยราตอบอย่างไม่อยากคุยด้วยว่าติดต่อที่เบอร์โทรศัพท์ก็ได้ แล้วลุกเดินไปเลย นราธิปรีบลุกตาม หันมาบอกสิงหาว่า "เดี๋ยวมานะ"
นราธิปตามไปขอนัดทานข้าวกับเธอเย็นนี้ อัยราบอก ว่าวันนี้คงไม่ได้ ครั้นขอเป็นพรุ่งนี้ เธออึกอัก
"อย่าปฏิเสธผมเลยครับ เพราะผมต้องทานข้าวกับคุณให้ได้สักวัน"
"ก็ได้ค่ะ งั้นพรุ่งนี้คุณโทร.อีกทีนะคะ" พูดแล้วก็เดินไปเลย นราธิปมองตามยิ้มอย่างมีความหวัง
ooooooo
นราธิปกลับมานั่งคุยกับสิงหาต่อ สิงหาปรารภว่ารู้สึกว่าผู้หญิงคนนี้มีอะไรปิดบังเราอยู่ นราธิปกำลังจะจิบกาแฟชะงักกึก ถามว่า สิงหากำลังสงสัยว่าอัยราเป็นพวกมือปืนอย่างนั้นหรือ
"ฉันยังตอบไม่ได้ แต่เท่าที่คุยเมื่อกี้ ฉันว่าเธอไม่ได้ตอบความจริงกับเรา"
นราธิปแย้งว่าเธอเป็นลูกรัฐมนตรีเชียวนะ จะมาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้ยังไง สิงหาติงว่าก็แค่เป็นลูกบุญธรรม บางทีอาจจะมีเรื่องอะไรที่ลึกลับซับซ้อนมากกว่านั้นก็ได้
"เอาอย่างนี้ พรุ่งนี้ฉันนัดกินข้าวเย็นกับเธอ ฉันจะลองสืบเธอดู" นราธิปอาสา สิงหาเห็นด้วย
เวลาเดียวกันนั้น มัสยารักษาตัวอยู่ที่ห้องของรุ่งรวี แม้เธอจะยังเจ็บแผลอยู่แต่โชคดีที่แผลไม่ติดเชื้อ มัสยาขอบคุณรุ่งรวีที่ช่วยตน ไม่อย่างนั้นตนคงตายไปแล้ว
รุ่งรวีตัดสินใจถามว่ามัสยาเป็นพวกสมิงสาหรือ มัสยาคว้าคัตเตอร์ที่อยู่ใกล้มือทันที จนรุ่งรวีต้องบอกให้เธอใจเย็นๆ บอกความจริงว่าตนก็เคยเป็นพวกสมิงสาเหมือนกัน มัสยาชะงักมองอย่างตื่นเต้นถามว่าจริงหรือ แทนคำพูดรุ่งรวีเปิดให้ดูสัญลักษณ์ของสมิงสาที่เอว มัสยาตะลึงอึ้ง จนรุ่งรวีเล่าว่า
"ที่ฉันออกเพราะว่ามีเรื่องส่วนตัว"
มัสยาบอกว่าเท่าที่รู้คนที่ออกจากสมิงสาจะต้องตายทุกคน รุ่งรวีบอกแค่ว่าสำหรับตนเป็นกรณีพิเศษ แต่ไม่อธิบายรายละเอียด บอกมัสยาว่าเธอรู้แค่นี้พอแล้ว ถามว่าแล้วเธอจะเอาอย่างไรต่อไป จะอยู่ที่นี่ก่อนหรือจะให้พาไปส่งที่ไหน
"ไม่เป็นไรค่ะ เดี๋ยวมัสจะโทร.ให้เพื่อนมารับ" รุ่งรวีบอกว่าถ้าอย่างนั้นก็นอนพักเสียแล้วเดินออกไป มัสยามองตาม พึมพำอย่างไม่อยากเชื่อว่า "ไม่น่าเชื่อ พี่รุ่งก็เคยเป็นพวกสมิงสา"
ooooooo
นายกฯปฐวีกลับมาพักที่บ้านแล้ว วันนี้เขานั่งดูสัญลักษณ์ของสมิงสาในห้องทำงาน นึกถึงเหตุการณ์ ตอนที่ตัวเองถูกมัสยายิง นึกสงสัยว่าทำไมสมิงสาถึงต้องการฆ่าตน
นภาลัยเอาชาร้อนเข้ามาให้ถามว่าตำรวจรู้หรือยังว่าพวกสมิงสาต้องการฆ่าเขาเพื่ออะไร หรือรับจ้างฝ่ายค้านให้มาล้มเขา
ปฐวีเชื่อว่าไม่ใช่เรื่องการเมือง นภาลัยถามว่าแล้วเรื่องอะไร หรือว่าเขาเคยมีเรื่องอะไรกับพวกสมิงสา ปฐวีคิดไม่ออก แต่ก็ฉุกคิดถึงเรื่องหนึ่งในอดีต...
เมื่อ 20 ปีก่อน...
ปฐวีและศตายุเป็นตำรวจด้วยกัน แต่ปฐวีเป็นผู้บังคับ บัญชาของศตายุ วันหนึ่ง ศตายุเข้ามาบอกว่ามีเรื่องสำคัญจะเรียนให้ทราบ พอปฐวีถามว่าเรื่องอะไร ศตายุพูดตรงๆว่า
"คุณพ่อของท่านเป็นผู้อยู่เบื้องหลังองค์กรสมิงสาครับ"
"คุณพูดอะไร พ่อผมเป็นนายกรัฐมนตรีนะ จะไปอยู่ เบื้องหลังไอ้พวกโจรนั่นได้ไง" ปฐวีเสียงดัง
"เป็นเรื่องจริงครับ เรามีหลักฐานว่าท่านนายกฯรับเงินจากองค์กรสมิงสา" ศตายุยืนยัน ส่งเอกสารปึกหนึ่งให้ ปฐวีหยิบไปดูแล้วโยนโครมลงบนโต๊ะ ประกาศิตเสียงเข้ม
"ลืมเรื่องนี้ซะ ฉันจะถือว่าเราไม่เคยคุยเรื่องนี้กัน"
พูดแล้วปฐวีเดินออกไปเลย ศตายุเดินตามพยายามบอกว่าเรากำลังทำผิด ถูกปฐวีหันมาพูดเสียงกร้าวว่า
"ถึงพ่อฉันจะทำจริง ฉันก็จะไม่มีวันจับพ่อตัวเอง และฉันก็จะไม่ยอมให้ใครมาทำลายชื่อเสียงพ่อฉันด้วย"
ปฐวีหันเดินออกไปแล้ว ศตายุทรุดนั่งมึนไปทั้งสมอง...
หลังจากนั้น วันหนึ่งขณะศตายุขับรถในชุดนอกเครื่องแบบอยู่ที่ถนนเปลี่ยวแห่งหนึ่ง เขาเห็นมอเตอร์ไซค์ขี่ตามมาแล้วขึ้นตีขนาบ พริบตานั้นคนซ้อนท้ายมอเตอร์ไซค์ยกปืนยิงทะลุกระจก รถของศตายุเสียหลักพุ่งชนต้นไม้ มือปืนลงมาจะยิงซ้ำ ถูกศตายุยิงสวนไป มันหลบแล้วยิงสวนกลับ ศตายุถูกกระสุนเลือดทะลัก มือปืนโดดขึ้นมอเตอร์ไซค์ ศตายุพยายามยกปืนจะยิงแต่หมดแรงสิ้นสติไปเสียก่อน...
หลังจากนั้นลูกน้องของปฐวีเข้ามารายงานเขาในห้องทำงานว่าทุกอย่างเรียบร้อย ตายสนิท
"ดี" ปฐวีชมแล้วเลื่อนซองเงินให้ ลูกน้องรับแล้วเดินออกไป ปฐวีถอนใจอย่างโล่งอก...
คิดถึงอดีตเมื่อ 20 ปีก่อนแล้ว ปฐวี นายกรัฐมนตรีวันนี้ พึมพำกับตัวเองอย่างสงสัยว่า
"มันจะมีเรื่องอะไรอีก ในเมื่อศตายุมันก็ตายไปแล้ว"
ooooooo
มัสยากลับมาถึงค่ายสมิงสาในสภาพต้องนั่งรถเข็น คำแรกที่เธอได้ยินจากปากศตายุคือ
"มันน่าจะยิงแกให้ตาย!"
มัสยาน้ำตาไหลทันทีเอ่ยขอโทษเสียงสั่นเครือ อัยรากับเขมิกาช่วยกันพูดว่างานนี้ยากมาก ตนทั้งสองคนก็เกือบเอาชีวิตไม่รอดเหมือนกัน แต่มัสยากลับพูดว่า
"หนูยอมรับผิดค่ะและหนูก็คิดว่าหนูไม่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไป" พูดแล้วตบแผลตัวเองจนเลือดทะลักออกมาจากแผล เธอจะตบซ้ำอีก ชานนท์รีบมาจับมือไว้ขอให้พอเถอะ "ปล่อย ในเมื่อฉันทำงานไม่สำเร็จ ฉันไม่ควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไป"
ศตายุสั่งให้หยุด บอกว่าเธอยังตายไม่ได้เพราะยังฆ่าปฐวีไม่สำเร็จ ชานนท์อาสาขอทำแทน นัทมนก็ขอให้พวกตนช่วยมัสยาเถิด ศตายุจ้องหน้าทุกคนอย่างดุดันตอบอย่างเฉียบขาดแข็งกร้าวว่า
"ไม่ได้ ไอ้ปฐวีมันต้องตายด้วยน้ำมือของมัสยา!"
มัสยาฟังแล้วน้ำตาไหลพราก ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องเป็นตนคนเดียว
เมื่ออยู่กันตามลำพัง ทั้งเขมิกา อัยรา และนัทมนต่างวิพากษ์วิจารณ์กันว่าทำไมหัวหน้าต้องเจาะจงมัสยาคนเดียว เขมิกาพูดทีเล่นทีจริงว่าอย่าบอกนะว่าเหมือนหนังจีนที่เอาลูกเขามาเลี้ยงเพื่อให้ฆ่าพ่อ
"หมายความว่าพ่อฉันเป็นนายกฯงั้นหรือ" มัสยาถาม อัยราบอกว่าก็ไม่แน่ ไม่อย่างนั้นหัวหน้าไม่เจาะจงที่เธอคนเดียวหรอก "บ้า...พวกแกก็พูดเลอะเทอะ ฉันจะเป็นลูกนายกฯได้ยังไง" มัสยาบ่นเพื่อนๆ
"เออ สมมติถ้าเป็นเรื่องจริงขึ้นมา แกจะกล้าฆ่าพ่อตัวเองไหม" นัทมนนึกสนุกขึ้นมา
เพื่อนทั้งสามคุยกันจนเป็นเรื่องเป็นราวตามจินตนาการของตัวเองแล้วถามมัสยาว่าถ้าเป็นจริงอย่างนั้นเธอจะเลือกใครระหว่างพ่อที่แท้จริงกับผู้มีพระคุณ
"พวกแกเลิกพูดเพ้อเจ้อได้แล้ว มันไม่มีทางเป็นไปได้ หรอก" มัสยาตัดบทอย่างรำคาญใจ
ooooooo
ที่ค่ายสมิงสายังมีการฝึกเด็กๆอย่างหนัก เด็กสองสามคนที่กำลังรับการฝึก ร้องไห้กระจองอแง บ้างจะหาพ่อ บ้างคิดถึงพ่อ บ้างถามหาพ่อแม่ของตัวเอง
แต่ทั้งน้ำตาและเสียงร่ำร้องของเด็กๆเหล่านั้น แทนที่จะทำให้ครูฝึกสงสารเห็นใจกลับตวาดอย่างเกรี้ยวกราดว่า
"ไม่ได้! พวกแกจำไว้ พวกแกไม่มีพ่อไม่มีแม่ มีแต่ องค์กรสมิงสาเท่านั้นที่เลี้ยงดูพวกแก พวกแกต้องฟังคำสั่งขององค์กรสมิงสาเท่านั้นเข้าใจรึเปล่า"
มัสยาดูเด็กๆและครูฝึกอยู่เงียบๆอดคิดถึงตัวเองไม่ได้ สมัยที่เธออยู่ในวัยเดียวกับเด็กพวกนี้ เธอเคยถามศตายุว่า รู้จักพ่อแม่จริงๆของตนไหม คำตอบคือ "พ่อแม่เธอตายหมดแล้ว"
"ตั้งแต่หนูเกิดเลยหรือคะ"
"ใช่ ก่อนตายพ่อแม่เธอเขาฝากเธอไว้กับฉัน"
เพียงแต่มัสยาบอกว่าตนอยากเห็นหน้าพ่อแม่เท่านั้น ก็ถูกศตายุถามอย่างไม่พอใจว่า
"ฉันก็เหมือนเป็นพ่อเธอ เพราะฉันเลี้ยงดูเธอเหมือนลูกสาวยังไม่พออีกหรือ"
คำถาม น้ำเสียง และท่าทีที่ไม่พอใจของศตายุ ทำให้ มัสยารีบแก้ตัวว่าไม่ใช่อย่างนั้น เพราะทุกวันนี้ตนก็คิดว่าเขาเป็นพ่ออยู่แล้ว เธอคุกเข่าลงขอโทษ ศตายุยิ้มอย่างพอใจ
นึกถึงอดีตของตัวเองและนึกถึงคำแซวของเพื่อนสาวทั้งสามแล้ว มัสยาพึมพำกับตัวเองว่า
"ใช่...เราไม่มีวันเป็นลูกนายกฯได้หรอก"
ooooooo
เพราะเคยเจอมัสยาที่สวนสาธารณะขณะไปวิ่งออกกำลังกาย เช้านี้สิงหาไปวิ่งตามปกติ เห็นหญิงสาวคนหนึ่งวิ่งอยู่ข้างหน้าดูเหมือนมัสยามากเขาเร่งฝีเท้าขึ้นไป ร้องทักอย่างดีใจ แต่พอหญิงสาวคนนั้นหันมา กลายเป็นทักคนผิด ต้องรีบขอโทษแล้วแยกกันไป
สิงหาแยกมานั่งคิดถึงมัสยา คิดถึงตอนที่ได้ขโมยหอมแก้มเธอฟอดหนึ่ง คิดแล้วความรู้สึกเวลานั้นยังกรุ่นๆอยู่ในอารมณ์จนอดยิ้มออกมาไม่ได้
เวลาเดียวกัน มัสยาทำแผลให้ตัวเองอยู่ ทาแอลกอฮอล์แสบจนร้องโอ๊ย คิดแล้วเจ็บใจ นึกถึงตอนที่ตัวเองถูกสิงหายิง ยิ่งคิดก็ยิ่งแค้น พึมพำอย่างอาฆาต
"แกกับฉันต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!"
ทั้งสิงหาและมัสยา ต่างคิดถึงอีกฝ่ายด้วยอารมณ์ที่ต่างกันคนละขั้ว...
ooooooo
เย็นนี้ นราธิปนัดทานอาหารกับอัยรา เธอมาถึงหลังเขาไม่นาน นราธิปถามว่าเธอจะดื่มอะไร อัยรามองของนราธิปถามว่าเขาดื่มอะไร พอเขาบอกว่าโฟลตรสเปรี้ยวๆ เธอเอาด้วย ร้องสั่งพนักงานให้เอาแบบนี้อีกที่หนึ่ง
นราธิปนั่งมองอัยราอย่างมีความสุข แต่อดบ่นๆแกมต่อว่านิดๆไม่ได้ว่ากว่าจะนัดเธอมาทานข้าวได้ต้องใช้เวลาหลายวันเลย เธอย้อนถามหวานๆว่าแล้วเป็นยังไงบ้าง หลังจากทานแล้วผิดหวังไหม
"สมหวังมากกว่าครับ" นราธิปยิ้มปลื้มแล้วถามว่า "คุณไอซ์อยู่รัสเซียกี่ปีครับ"
อัยราบอกว่าไปๆมาๆเกือบสิบปี ส่วนครอบครัวทางนี้ เธอบอกว่าไม่มี เขาถามว่าแล้วเธอมาอยู่กับใคร เธอเลี่ยงไม่ตอบ ย้อนถามว่าเพื่อนใช้ให้มาสืบตนรึเปล่า
"เออะ...เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้น ผมแค่อยากรู้เรื่องส่วนตัวของคุณบ้าง"
"เอาเป็นว่าคุณรู้แค่ชั้นอยู่คนเดียว หัวใจยังว่าง พอใจไหมคะ"
"แล้วถ้าผมจะส่งใบสมัครเข้าไปอยู่ในหัวใจคุณ จะได้ ไหมครับ" นราธิปกะลิ้มกะเหลี่ย
"ก็ลองส่งเมล์เข้ามาดูก่อนสิคะ" อัยราอ่อยยิ้มให้อย่างท้าทาย
แต่พอออกจากร้านอาหาร นราธิปกับอัยราก็เดินแยกกันไปคนละทางราวกับกลัวใครจะมาเห็น เดินไปอึดใจเดียว สิงหาก็โทร.เข้ามือถือของนราธิปถามว่าเขาซื้อรูปสาวรัสเซียจากร้านไหน นราธิปถามว่าทำไม สิงหาบอกว่าแค่อยากรู้เท่านั้น เขาจึงบอกว่า "รุ่งรวี แอนทีค"
"ขอบใจ" สิงหาตอบสั้นๆ นราธิปรีบถามว่าจะไปซื้ออะไร "ฉันก็จะไปหารูปผู้หญิงสวยๆแบบแกบ้างน่ะสิ" สิงหาตอบทีเล่นทีจริงแล้วบ่ายหน้าไปที่ร้านรุ่งรวี แอนทีค ทันที
ooooooo
สิงหาตรงไปที่ร้านรุ่งรวี แอนทีค เจอเจ้าของร้านพอดี เขาบอกรุ่งรวีว่าเพิ่งกลับจากเมืองนอกขอที่อยู่ของคุณเอ็มแอนเดอร์สันเพราะ เป็นเพื่อนกัน รุ่งรวีชะงักไปนิดหนึ่งก่อนจะบอกว่าตนไม่มีที่อยู่หรือเบอร์ ติดต่อเลย สองสามอาทิตย์หรือเดือนหนึ่งเธอก็จะเอางานมาฝากขายทีหนึ่ง
"ถ้างั้นผมฝากเบอร์ไว้ได้ไหมครับ ถ้าเธอมาช่วยโทร.บอกผมหน่อย"
แต่พอรุ่งรวีรับเบอร์โทร.ของสิงหามาเท่านั้น มัสยาก็เดินเข้ามาพอดี รุ่งรวีบอกว่าเธอมาแล้ว บอกมัสยาว่า "โชคดีจังคุณเอ็ม เพื่อนคุณเขามาตามหาคุณ"
มัสยามองสิงหาเขม็งที่มาอ้างว่าเป็นเพื่อน ถามว่ามีอะไรหรือ สิงหาบอกว่ามีเรื่องอยากจะถามเธอ มัสยาปฏิเสธทันทีว่าตนไม่ว่าง ส่งรูปให้รุ่งรวีแล้วหันหลังจะกลับไป
"เดี๋ยวครับ ผมเป็นตำรวจ" สิงหาใช้แผนใหม่ มัสยาชะงักเหลือบมองรุ่งรวีที่ยืนอึ้ง สิงหาบอกว่า "ผมมีเรื่องจะขอข้อมูลคุณหน่อย"
"มีอะไรก็ว่ามา" มัสยายอมคุยด้วย ทั้งสองจึงไปนั่งคุยกันที่ร้านกาแฟ
สิงหาเริ่มถามว่ารู้จักผู้หญิงในรูปที่เธอวาดขายไหม มัสยาทำไก๋บอกว่าตนวาดตั้งเยอะแยะ สิงหาจึงบอกว่าชื่ออัยรา มัสยาไม่ตอบว่ารู้จักหรือไม่ แต่ย้อนถามว่าเขาจะทำอะไรหรือ
"เรากำลังสงสัยว่าเขาอาจจะรู้จักกับมือปืนที่ลอบฆ่านายกฯ"
มัสยาตกใจแต่ยังควบคุมสีหน้าได้เป็นปกติถามว่าจริงหรือ สิงหาบอกว่าแค่สันนิษฐาน มัสยาบอกว่าก็แค่เป็นเพื่อนเที่ยวกัน เห็นหน้าตาสวยดีเลยเอามาเป็นแบบ สิงหามองอย่างจับพิรุธบอกว่าตนเห็นอัยราสบตากับมือปืน มัสยาถามว่าแล้วเขาจำมือปืนได้ไหม
สิงหาบอกว่าจำไม่ได้แต่รู้ว่าเป็นสาวรัสเซีย มัสยาถามหยั่งเชิงว่าทำไมเห็นหน้ากันใกล้ๆยังจำไม่ได้อีกหรือ สิงหาชะงักย้อนถามว่าทำไมเธอถึงรู้ว่าตนเห็นกันใกล้ๆ
"ก็เมื่อกี้คุณบอกว่าเห็นเขากับอัยราสบตากัน มันก็ต้องใกล้มากสิคะ"
"คุณนี่ฉลาดจริงๆ" สิงหามองอย่างชื่นชม ทำเอามัสยาประหม่าจนต้องหลบสายตาคู่นั้น
มัสยาลุกขึ้นจะเดินเลยชนกับพนักงานที่เลี้ยวมาพอดีเธอเซจะล้ม สิงหารีบคว้าเอวไว้ ทันใดนั้นเธอร้องอย่างเจ็บปวด สิงหาตกใจถามว่าเป็นอะไรหรือ มัสยาพยายามข่มความเจ็บบอกว่าไม่เป็นไร
"คุณมีแผลที่เอวหรือครับ"
"เปล่าค่ะ พอดีช่วงนี้ฉันเต้นแอโรบิกมากไปหน่อย เลยทำให้กล้ามเนื้ออักเสบค่ะ ขอตัวนะคะ" มัสยาตัดบทแล้วรีบผละไป สิงหามองตามพึมพำอย่างแปลกใจ
"กล้ามเนื้ออักเสบร้องยังกับถูกยิง"
สิงหาฉุกคิดถึงเรื่องที่ยิงต่อสู้กันในงานเลี้ยง จำได้ว่าเขายิงมือปืนที่เอวข้างซ้าย นึกได้รีบวิ่งตามออกไปร้องเรียก "คุณเอ็ม ครับ...คุณเอ็ม"
ร้องเรียกแล้วกวาดตามองหาไม่เห็นใครแล้ว เลยถอนใจบ่นตัวเองว่า "นี่เราเป็นอะไร สงสัยคนไปหมด"
ที่แท้มัสยาหลบอยู่หลังเสาเอามือกดแผลที่เอวเบาๆ เห็นเลือดซึมออกมาเปื้อนเสื้อ สบถอย่างหงุดหงิด
"บ้าจริงๆ เกือบไปแล้ว"
ooooooo
เมื่อสิงหากับนราธิปไปนั่งคุยกันที่ผับ สองหนุ่มมีความเห็นต่างกัน นราธิปเชื่อว่าอัยราเป็นคนดีน่ารักขาวสะอาดบริสุทธิ์ แต่สิงหากลับมีข้อสงสัยมากมายส่งกระดาษข้อมูลของตัวเองให้นราธิปอ่าน
"อยู่เมืองไทยมาสิบปี ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ไม่มีงานทำ แต่มีเงินในบัญชีธนาคารสิบล้าน" นราธิปอ่านข้อมูลแล้วบอกสิงหาว่า "ไม่เห็นแปลกเลย เขาอาจจะมีมรดกพ่อแม่ก็ได้"
สิงหาพูดประชดว่าหรือไม่ก็เป็นเมียเก็บเศรษฐี กระนั้นนราธิปก็ยังไม่เชื่อว่าเธอจะเป็นคนใฝ่ต่ำอย่างนั้น พูดแล้วรวบรัดตัดบทว่า "เป็นอันว่าเราตัดเธอออกจากบัญชีผู้ต้องสงสัยนะ"
"ยัง ให้ฉันแน่ใจว่าเธอสะอาดจริงก่อน" สิงหาแย้ง นราธิปพูดอย่างหงุดหงิดว่าตนชอบอัยราจะเอายังไงอีก สิงหาย้อนถามขึงขังว่า "ถ้าเขาเป็นโจรฆ่าพ่อแก แกยังจะชอบเขา
อีกหรือ"
"ยังไงฉันก็ไม่เชื่อแกว่าเขาจะเป็นโจร" นราธิปส่ายหน้ามองตาสิงหาอย่างมั่นใจตัวเอง
ooooooo
ผู้การจีระวุธฉวยโอกาสที่ในวันงานมีปัญหาลอบสังหารนายกฯและเกิดเรื่อง วุ่นวายขึ้น เสนอปฐวีสั่งปลดสิงหาฐานละเลยหน้าที่ ปล่อยให้คนร้ายเข้ามาในงาน
ปฐวีถามว่าให้โอกาสสิงหาอีกสักครั้งไม่ได้หรือ ผู้การจีระวุธตอบอย่างไม่ลังเลว่าไม่ได้เพราะนี่เป็นคำสั่งจากท่านผู้ บัญชาการตำรวจแห่งชาติ บอกนายกฯว่าไม่ต้องห่วง ระหว่างนี้ตนได้แต่งตั้งให้สารวัตรอยุตต์เข้ามาทำหน้าที่แทนสิงหาแล้ว
"ก็แล้วแต่คุณ" นายกฯตอบเนือยๆ พอผู้การจีระวุธเดินออกไป ปฐวีก็ถอนใจเฮือกใหญ่
ต่อมาธาวีก็ถือกระดาษคำสั่งมาให้สิงหาอ่านที่ห้องทำงานของเขา พูดอย่างไม่พอใจว่า
"มาลงที่เราได้ยังไงครับ ในเมื่อผู้การเป็นคนวางมาตรการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดไม่ใช่เรา" หมวดเม่นเห็นด้วยเพราะยังสับเปลี่ยนหน้าที่ของสารวัตรสิงหากะทันหันด้วย
"พูดไปก็ไม่มีประโยชน์หรอก เขาถือว่าเราหละหลวม ปล่อยให้มือสังหารผ่านเข้าไปได้" สิงหาตัดบทแล้วหันไปเก็บข้าวของส่วนตัว ในขณะที่ผู้กองธาวียังบ่นอย่างไม่พอใจอยู่ งึมงำ...งึมงำ
ทันใดนั้น อยุตต์เข้ามาพร้อมลูกน้อง เร่งให้สิงหาเก็บข้าวของออกไปเสีย ตนจะได้ใช้ห้องทำงานเสียที ยืนมอง
สิงหาเก็บของจนเสร็จ เห็นปากกาเหลืออยู่ด้ามหนึ่งก็หยิบขึ้นมาเรียกสิงหาแล้วโยนให้
"ขอบใจ หวังว่าแกจะสนุกกับการทำงานนะ" สิงหาอวยพร
"แน่นอน" อยุตต์ตอบอย่างผยอง มองห้องทำงานอย่างกระหยิ่ม
ระหว่างเดินออกมาด้วยกันนั้น ธาวีและหมวดเม่นต่างพูดแสดงความไม่พอใจสารวัตรอยุตต์ที่วางมาดอวดเบ่งจนอยาก จะซัดให้สักหมัดถ้าไม่ถือว่าเป็นผู้บังคับบัญชา
"สารวัตรคะ ท่านนายกฯให้เข้าไปพบค่ะ" เลขาฯนายกฯเข้ามาบอกสิงหา เขาจึงเดินไปทางห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี
ปรากฏว่า นายกฯปฐวีบอกว่าจะขอตัวเขามาช่วยงานที่สำนักนายกฯ เพื่อให้เขาตามคดีสมิงสาต่อ สิงหาขอบคุณที่ท่านเมตตาบอกว่าตนกำลังตามอัยราลูกสาวบุญธรรมของท่านรัฐมนตรี รัสเซียอยู่ เพราะสงสัยว่าเธอน่าจะรู้จักกับมือปืน
ปฐวีแย้งว่าไม่น่าเป็นไปได้ สิงหาขอเวลาให้เรื่องชัดกว่านี้แล้วจะเรียนให้ทราบ
"ยังไงก็ระวังหน่อยนะ ผมไม่อยากให้กระทบกระเทือนความสัมพันธ์ระหว่างเรากับรัฐมนตรีวลาดิเมียร์"
"ครับ" สิงหารับคำ
ooooooo
เย็นนี้ ปฐวีต้องไปงานสถานทูต อยุตต์ถามว่าจะแวะเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนไหม ท่านเห็นด้วยจึงพากันกลับไปที่บ้าน ปฐวีให้อยุตต์คอยสักครู่แล้วขึ้นไปเปลี่ยนชุด
นิรดาโผล่มาเห็นหลังอยุตต์นึกว่าเป็นสิงหา รีบเดินเข้าไปหาโผเข้ากอดจากข้างหลัง ทำเอาอยุตต์ตกใจรีบหันกลับมาบอกว่าตนสารวัตรอยุตต์
นิรดาตกใจแล้วกลายเป็นโกรธ ด่าว่าทำไมไม่บอก ปล่อยให้กอดอยู่ตั้งนาน อยุตต์พูดยิ้มๆว่าอยากบอกแต่หาจังหวะบอกไม่ได้
"ขอโทษที่ทักผิด แล้วนี่พี่สิงไปไหนทำไมไม่มากับพ่อ"
"สิงหาถูกย้ายออกไปแล้วครับ" อยุตต์บอก แต่พอนิรดาถามว่าย้ายไปไหน เขาบอกว่า "เรื่องนี้ผมไม่ทราบนะครับ ต้องถามท่านนายกฯ"
นิรดามองอยุตต์อย่างไม่พอใจ ขยับจะไปแต่นึกได้หันมาย้ำว่า "อ้อ หวังว่าคุณคงไม่บอกพ่อนะที่ฉันกอดคุณน่ะ"
"ครับ..." อยุตต์รับคำมองตามนิรดาหัวเราะในลำคอพึมพำขำๆ "หึๆไอ้สิงแกนี่เสน่ห์แรงจริงๆ"
ooooooo
คืนนี้ เนติยาซื้อแชมเปญและอาหารไปหาสิงหาที่อพาร์ตเมนต์ชวนฉลองที่ไม่ต้องทำงานเป็นบอดี้การ์ด นายกฯจะได้มีเวลาว่างพบกันบ่อยๆ
สิงหาบอกว่าตนไม่มีเวลาว่างอยู่ดีเพราะท่านนายกฯขอตัวไปช่วยงานด้านอื่น เนติยาบ่นเซ็งๆว่าตำรวจมีตั้งเยอะตั้งแยะ ทำไมต้องมาใช้เขาคนเดียว แล้วชวนดื่มแชมเปญแก้เซ็งกันดีกว่า
แล้วเนติยาก็เซ็งหนักขึ้นไปอีก เมื่อสิงหาขอตัวบอกว่าคืนนี้มีนัดสำคัญกับลูกน้อง เธอถามว่าจะไปเที่ยวกันหรือ ขอตามไปด้วยคน พอสิงหาบอกว่าเรื่องงาน เธอบ่นต่อ
"พี่สิงเนี่ยมีแต่งานๆๆเมื่อไหร่จะมีเนๆๆบ้างคะ เนเคยบอกพี่สิงรึยังคะว่าพี่สิงคือผู้ชายคนแรกที่เนรัก แล้วก็จะรักพี่สิงคนเดียวด้วย" พูดแล้วจู่โจมจูบฟอดหนึ่งจนสิงหาตั้งหลักไม่ทัน
เสียงออดหน้าห้องดังขึ้น สิงหาบอกว่าลูกน้องคงมาแล้ว ขอตัวเดินไปเปิดประตู
ผู้กองธาวีนั่นเอง เขาทักทายเนติยา เธอตอบอย่างไม่พอใจแล้วบอกสิงหาว่า "ไปนะคะ"
"แล้วเจอกันครับ" สิงหาตอบยิ้มอ่อนโยน พลันก็ถูกเนติยาจะจู่โจมหอมแก้มอีกทีหนึ่ง เห็นธาวีกับหมวดเม่น มองอยู่ก็ตวาดถามว่ามองอะไร ตำรวจทั้งสองเลยต้องหันหน้าไปทางอื่น เนติยาจึงหอมแก้มสิงหาแล้วเดินกระแทกกระทั้นผ่านธาวีกับหมวดเม่นไป
"ท่าทางคุณเนจะโกรธพวกเรานะครับ" หมวดเม่นเปรยๆ
"แต่ฉันต้องขอบใจนายสองคนที่มาช่วยชีวิตฉันไว้อีกหน" พูดแล้วเดินนำลูกน้องเข้าห้อง ธาวีบ่นแซวๆว่าอยากเป็นสารวัตรบ้างจัง สิงหาเลยบอกว่า "งั้นแกก็จีบเขาเลยสิ"
"ถ้าเขาชอบผมก็ดีสิ สวยก็สวย รวยก็รวย" ธาวีพูดสนุกๆไปอย่างนั้นเอง แล้วเปิดคอมพิวเตอร์ให้ดูเล่าว่า "ผมให้ฝ่ายพิสูจน์หลักฐานเขาสเกตช์ภาพมือปืน นี่ครับ"
ภาพที่จอคอมพิวเตอร์เป็นภาพสเกตช์หน้ามัสยาใส่หน้ากากกับหน้าเธอใส่ชุดนาง ระบำ ธาวีชี้ให้ดูว่า สองรูปนี้มีส่วนที่เหมือนกันคือปากกับจมูก สิงหามองอย่างพินิจพิจารณาเห็นว่ามีโครงหน้าคล้ายมัสยาแต่รูปตาไม่เหมือน พูดแล้วบอกธาวีว่า "แสดงว่ามือปืนที่ลอบฆ่านายกฯทั้งสองงานคือคนคนเดียวกัน"
ooooooo
นราธิปยังหมั่นโทร.ไปนัดอัยรามาพบปะทานข้าวด้วยกัน เธอบอกว่าเย็นนี้ไม่ว่าง ครั้นเขาขอเป็นพรุ่งนี้ เธอก็บอกว่าไม่ว่างอีกเพราะช่วงนี้งานยุ่งๆอยู่ นราธิปจึงเปลี่ยนว่าอาทิตย์หน้าจะโทร.มาใหม่
อัยราวางสายบ่นว่าเสียดายเขาไม่น่าเป็นลูกนายกฯเลย ทำให้ตนหมดโอกาสมีกิ๊ก นัทมนถามว่าชอบเขาเข้าแล้วหรือ อัยราชมว่าดูๆไปเขาก็หล่อดี ท่าทางจะชอบตนจริงๆเสียด้วย
"ฉันว่าแกอยู่ห่างๆเขาดีกว่า ฉันไม่เชื่อหรอกว่าเขาจะชอบแกจริง" มัสยาขัดจังหวะขึ้น ครั้นเขมิกาถามว่าทำไมคิดอย่างนั้น มัสยาชี้แจงว่า "ตอนนี้สารวัตรสิงหาเขากำลังสงสัยว่าไอซ์รู้จักกับพวกมือปืน"
"ก็แค่สงสัย แต่เขาไม่มีหลักฐานอะไรที่จะเชื่อมโยงมาจับพวกเรา" นัทมนแย้ง
"ยังไงฉันก็ไม่อยากให้พวกเราวางใจ โดยเฉพาะแกไอซ์ พยายามตัดขาดจากลูกนายกฯซะ ถ้าเขาโทร.มาอีกก็บอกว่าแกจะกลับไปรัสเซีย" มัสยาแนะ เขมิกาเสริมว่าหรือไม่ก็บอกว่ามีแฟนแล้ว
อัยราตัดบทว่าตนเข้าใจแล้วว่าพวกเราไม่มีสิทธิ์รักใครแล้วเดินออกไปเซ็งๆ
ขณะนั้นเอง ชานนท์โทร.เข้ามือถือของมัสยาบอกว่าหัวหน้าเรียกให้เข้าพบ มัสยานัดว่าพรุ่งนี้จะไป ชานนท์พยายามจะมารับเธอบอกไม่ต้อง เขายังตื๊อว่าถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้คุยงาน กับหัวหน้าเสร็จไปกินข้าวกัน
"ดูก่อนแล้วกันค่ะ" พูดแล้วมัสยาปิดโทรศัพท์บ่นกับเขมิกากับนัทมนว่า "รำคาญพี่นนท์จริงๆเซ้าซี้อยู่ได้...เออนี่แกสองคนไม่มีใครสนใจพี่นนท์บ้าง หรือ"
ทั้งเขมิกาและนัทมนต่างสะดุ้งแต่ก็พูดเลี่ยงเป็นเสียงเดียวกันว่าถึงสนก็ทำ อะไรไม่ได้เพราะองค์กรเรามีกฎห้ามอยู่ไม่ใช่หรือ ท่าทีและคำตอบของสองสาวทำให้มัสยาเอะใจ มองนัทมนที่เดินออกไปแล้วหันมองเขมิกาฝ่ายนี้ก็เดินเลี่ยงไปอีกทาง ทำให้มัสยายิ่งสงสัยมาก
ooooooo
วันรุ่งขึ้น เมื่อมัสยาไปหาศตายุที่ค่ายสมิงสาตามนัด ศตายุมอบหมายหน้าที่ใหม่ให้ว่า
"ตอนนี้เรากำจัดไอ้สิงหาให้ออกห่างจากตัวนายกฯไปแล้ว เป็นโอกาสของแกอีกครั้งที่จะจัดการกับไอ้ปฐวี อาทิตย์นี้ไอ้ปฐวีจะจัดงานวันเกิดให้ลูกสาวที่บ้าน"
"จะให้หนูเข้าไปฆ่าในบ้านเลยหรือคะ" มัสยามองอึ้ง
"ใช่ เพราะผู้การจีระวุธซึ่งเป็นคนของเราจะเปิดทางให้แก" ครั้นมัสยาถามว่าตนจะเข้าไปได้ยังไง ศตายุตอบอย่างตัดบทว่า "นั่นเป็นเรื่องของแกที่จะต้องหาทางเข้าไปให้ถึงตัวไอ้ปฐวีแล้วฆ่ามันซะ"
เมื่อกลับมาที่บ้าน มัสยาปรึกษากับเพื่อนสาวทั้งสามต่างช่วยกันคิดว่ามัสยาจะเข้าไปในงานได้ยัง ไง นัทมนเสนอว่าหรือเราจะแกล้งเป็นแขกเอาของไปให้ลูกสาวเขา
มัสยาเลยฉุกคิดได้ว่าอัยรารู้จักลูกสาวทั้งสองของปฐวี ไม่ใช่หรือ นัทมนนึกได้พูดอย่างตื่นเต้นว่าที่สำคัญอัยรารู้จักกับนราธิปด้วย อัยราถามว่าตนจะเข้าไปได้ยังไงในเมื่อไม่มีใครเชิญ
"ถ้างั้นแกก็มีหน้าที่ทำให้เขาเชิญแกให้ได้" มัสยาส่งโทรศัพท์ให้อัยรา พยักหน้าให้โทร.
อัยราจึงทำทีโทร.ถามนราธิปว่าวันก่อนชวนตนไปทานข้าวด้วยใช่ไหม อาทิตย์นี้ตนว่าง นราธิปบอกว่าเผอิญอาทิตย์นี้เป็นวันเกิดน้องสาว คุณพ่อจัดงานเลี้ยงให้น้องที่บ้าน
เข้าทางอัยราทันที เธอทำท่านึกสนุกกับงานนี้ นราธิปจึงชวนมาทานข้าวที่บ้านด้วยกันในวันนั้น อัยราหันมายักคิ้วกับเพื่อนๆที่คอยลุ้นอยู่แต่ทำเป็นพูดอิดออดเกรงใจ จนนราธิปบอกว่า
"คุณไอซ์ก็รู้จักกับยัยเนนี่ครับ มาเถอะครับ"
"ก็ได้ค่ะ อ้อ ไอซ์ชวนเพื่อนไปสักคนได้ไหมคะกันเขินน่ะค่ะ"
"ได้ครับ กี่คนก็ได้" นราธิปตอบด้วยความยินดี ดีใจ
พอวางสายจากนราธิป อัยราหันมาบอกมัสยาว่าเตรียมตัวให้พร้อมไว้ได้เลย
มัสยาตาเป็นประกายกับงานใหญ่ที่เธอจะต้องทดสอบตัวเองให้ได้
วันรุ่งขึ้น มัสยาก็เอาโทรศัพท์มาต่อกับระเบิดตรวจสอบว่าเรียบร้อยแล้วก็เอาใส่กล่องผูก โบเป็นของขวัญวันเกิด พึมพำอย่างสาแก่ใจว่า "คราวนี้แกไม่รอดแน่ นายกฯปฐวี"
ooooooo
ก่อนวันงาน คุณหญิงนภาลัยนึกถึงเนติยาในวัยเด็ก เอาอัลบั้มสมัยก่อนมาดู ปฐวีเข้ามาถามว่าดูอะไรอยู่ นภาลัยยื่นอัลบั้มให้ดูบอกว่า
"ดูรูปยัยเนตอนที่เพิ่งคลอดน่ะค่ะ แล้วนี่ก็เด็กอีกคนที่คลอดพร้อมกัน"
"เออใช่...ตอนระหว่างรอคุณคลอดผมกับพ่อเขายังเดินชนกันหน้าห้องเลย"
"ไม่รู้ป่านนี้ลูกเขาโตแล้วหน้าตาเป็นยังไง" นภาลัยพึมพำ ปฐวีถามว่าผู้หญิงหรือผู้ชาย "ผู้หญิงเหมือนยัยเน แต่ น่าสงสารเขานะคะ ที่ต้องเสียลูกไป ฉันยังเคยคิดว่าถ้าวันนั้นเป็นลูกเราฉันคงต้องตายแน่"
"โชคดีจริงๆที่ขโมยมันไม่เลือกเอาลูกเราไป" ปฐวีพูดพลางดูรูปเนติยาในวัยทารกอย่างเอ็นดู
ooooooo
วันนี้เป็นวันจัดงานฉลองวันเกิดของเนติยาแล้ว
ที่ค่ายสมิงสา ศตายุโทร.มาเช็กกับมัสยาว่าทุกอย่างเรียบร้อยไหม เมื่อเธอบอกว่าเตรียมพร้อมแล้ว เขากำชับว่า
"หวังว่าคราวนี้แกจะไม่ทำพลาดนะ"
"ค่ะ วันนี้จะเป็นวันสุดท้ายของนายกฯปฐวี" มัสยาตอบอย่างมั่นใจ ส่วนศตายุฟังแล้วแสยะยิ้ม
เวลาเดียวกัน ที่บ้านนายกฯปฐวี วันนี้ทั้งนายกฯและคุณหญิงอวยพรลูกสาวด้วยของขวัญที่เลือกสรรมาให้ถูกใจ ลูกสาวที่สุดนั่นคือ นาฬิกาปาเต๊ะรุ่นล่าสุดที่ต้องสั่งจองจึงจะได้ใช้
"ขอบคุณพ่อกับแม่มากค่ะ" เนติยาดีใจมาก เข้าไปกอดพ่อกับแม่อ้อนๆ
นิรดาเดินเข้ามาพอดี นภาลัยถามว่าไหนของขวัญที่จะเอามาให้พี่เขาล่ะ นิรดาเชิดหน้าพูดอย่างยโสว่า
"พี่เนเขามีทุกอย่างแล้ว เขาไม่อยากได้อะไรของหนูหรอก"
ปฐวีติงว่าทำไมพูดอย่างนั้น เนติยาบอกว่าไม่เป็นไร ส่วนนภาลัยบ่นว่า
"แกนี่ทำเหมือนไม่ใช่พี่น้องกัน"
"ก็ใช่สิ แม่รักพี่เนมากกว่าหนู บางทีหนูยังคิดว่าแม่ขอหนูมาเลี้ยงด้วยซ้ำ" พูดแล้วนิรดาเดินงอนๆออกไป นภาลัยมองตามพูดอย่างอ่อนใจว่า
"นี่ถ้าฉันไม่เบ่งมันออกมา ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะเป็นลูกเหมือนกัน เด็กอะไรขี้อิจฉาจริงๆ"
ooooooo










