ตอนที่ 11
รเมศไม่ใช่คนเดียวที่ถูกรุกหนัก อภิชาติก็ถูกเป็ดกับหนูดีหลอกไปเสิร์ฟอาหารถึงห้องพัก และเกือบเสียทีชายใจสาวทั้งสองแล้ว ถ้าจินตนาจะไม่บุกไปช่วยและหลุดปากสารภาพรัก!
อภิชาติตะลึง ตั้งตัวไม่ถูกและตัดสินใจปฏิเสธความรักของเพื่อนสาว จินตนาช้ำใจมาก กานดากับพิมพ์ลภัสต้องช่วยปลอบให้ทำใจและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง...สักวันต้องเจอคนดีๆ
ภาพบาดตาบาดใจระหว่างรเมศกับมาธวีทำให้พิมพ์ลภัสหงุดหงิด เช้าวันต่อมาเลยตะบึงตะบอนใส่เขาตอนเอาเสื้อสูทไปคืน รเมศมองมางงๆ ตั้งท่าจะซักไซ้ให้หายสงสัย มาธวีก็โผล่มาขัดจังหวะ
“ขอโทษที่เสียมารยาทนะคะ แต่เรื่องของพนักงานเสิร์ฟคงไม่สำคัญเท่าเรื่องแขกวีไอพีหรอกใช่ไหมคะ”
พิมพ์ลภัสสะบัดหน้าออกไปแล้ว รเมศมองตามอึ้งๆ ก่อนจะพูดกับมาธวีเสียงเข้ม “ที่เชียงรายจารวี ไม่ว่าจะตำแหน่งไหน หากมีเรื่องอะไร ทุกคนก็สำคัญเท่ากันหมดครับ ไม่มีใครมากกว่าน้อยกว่า คุณวีเข้าใจใหม่ด้วยนะครับ”
มาธวีหน้าม้านแต่ไม่สำนึก เสพูดเรื่องตัวเองหน้าตาเฉย “ขอโทษค่ะ แต่วีร้อนใจจริงๆ วีอยากจะมาขอโทษ คุณเมศน่ะค่ะ เมื่อคืนวีเมามาก อาจจะทำอะไรไม่ดีไม่งามไปโดยไม่รู้ตัว คุณเมศอย่าถือสาเลยนะคะ”
“ผมไม่ถือสาหรอก แต่คุณไม่ควรเมาจนขาดสติแบบนั้นอีก เพราะถ้าไม่ใช่ผม คุณอาจจะเสียใจยิ่งกว่านี้”
คำตอบของรเมศทำให้มาธวีหน้าเจื่อน ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเคืองจัดที่เขาไม่สนใจเธอ พาลแค้นไปถึงพิมพ์ลภัส ศัตรูหัวใจตั้งแต่รุ่นพ่อจนถึงเจ้าของโรงแรมหนุ่มเป้าหมายใหม่ แต่เพียงไม่นานม่ายสาวเจ้าของห้องเสื้อก็ได้ยิ้มออก เมื่อสมานเสี่ยจอมหื่นโทร.แจ้งข่าวว่าพร้อมมารับตัวพิมพ์ลภัสแล้ว...
สมานบินมาเชียงรายในวันเดียวกันทันเจอพิมพ์– ลภัสที่มารับหน้าที่เสิร์ฟแบบไม่เต็มใจนัก และท่าทางกะลิ้มกะเหลี่ยของเขาก็ทำให้อดีตนางแบบสะอิดสะเอียนมาก ตั้งท่าจะผละไป พัชรีที่จับตาอยู่แล้ว กลัวพิมพ์ลภัสจะมีเรื่องกับแขกเลยออกมารับหน้าแทน
“คุณคนนี้เขาไม่ได้มากินอาหารค่ะ แต่เขามาตื๊อให้ฉันเลิกทำอาชีพเสิร์ฟอาหาร แล้วไปนั่งกินนอนกินให้เขาเลี้ยง คุณพัชรีสนใจไหมคะ ถ้าสนใจก็เจรจากันเลย”
เสี่ยจอมหื่นหน้าชา ลูกค้าคนอื่นๆในห้องอาหารได้ยินก็พากันหันมอง พัชรีเลยต้องปรามเสียงดุ
“พูดจาต่อหน้าแขกแบบนี้ได้ยังไง”
“ทำไมจะพูดไม่ได้ล่ะคะ...ก็ฉันพูดความจริง ถ้าไม่เชื่อก็ถามคุณสมาน...อ้อ...เขาชอบให้ใครๆเรียกว่าเฮีย ถามเฮียดูสิคะว่าจริงรึเปล่า แก่ขนาดนี้จริงๆน่าจะอยู่บ้านเลี้ยงหลาน ไม่น่าตะกายขึ้นเหนือมาให้คนถอนหงอกเลย”
สมานลุกพรึ่บ! โกรธจนลมออกหู ลืมหมดว่าต้องเก็บอาการเป็นเสี่ยใหญ่ใจดี
“หนูพิมพ์! หนูไม่น่าฉีกหน้าเฮียยังงี้เลย คอยดู... สักวันหนูจะต้องเสียใจแล้วคลานซมซานกลับมาง้อเฮีย!”
ooooooo
พัชรีถึงกับพูดไม่ออก ประจักษ์ด้วยตาและหูตัวเองว่าเสี่ยใหญ่ลูกค้าของพิมพ์ลภัสต้องการอะไร แต่กระนั้นก็อดบ่นไม่ได้ เพราะตั้งแต่อดีตนางแบบเข้ามาทำงานก็หาเรื่องให้ปวดหัวไม่หยุดไม่หย่อน
พิมพ์ลภัสเซ็งมาก เบื่อที่ต้องรับมือกับเรื่องที่ตัวไม่ได้ก่อ แล้วก็ได้หัวเสียกว่าเดิม เมื่อดันเห็นรเมศยืนคุยกับนาราอย่างสนิทสนม กานดาเห็นเพื่อนหายจากห้องอาหารก็มาตาม ทันได้เห็นภาพเดียวกัน เลยจะอธิบายว่านาราจะแต่งงานกับสีหนาทหุ้นส่วนอีกครึ่งของโรงแรม แต่พิมพ์ลภัสก็เดินหนีไปก่อน
กานดาเลยเดินกลับห้องอาหารตามลำพัง เจอพัชรียืนหน้าบอกบุญไม่รับด้านหน้ารออยู่แล้ว พร้อมบ่นเรื่องท่าทางเหม่อลอยของเหล่าพนักงานเสิร์ฟ ทั้งอภิชาติกับพิมพ์ลภัส...ทำท่าเหมือนพวกอกหักไม่มีผิด!
สมานเจ็บใจมากที่ถูกพิมพ์ลภัสฉีกหน้ากลางห้องอาหาร เลยบุกไปเอาเรื่องมาธวี
“วีทำเฮียอายจนไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนแล้ว ไหนบอกเฮียว่าพิมพ์อ่อนลงแล้วไง ที่ไหนได้...ขนาดตกอับจนมาทำงานเสิร์ฟงกๆ ยังฉีกหน้าเฮียซะไม่มีดี”
“ใจเย็นๆก่อนสิคะเสี่ย แล้วนี่เสี่ยไปเจอลูกเลี้ยงวีที่ไหนคะ”
“ก็ห้องอาหารที่เขาทำงานอยู่น่ะสิ เฮียขอเลี้ยงดูเขาดีๆมีอะไรจะประเคนให้เขาทุกอย่าง แต่พิมพ์ลภัสเขาไม่เห็นความจริงใจของเฮียเลย มันน่าเจ็บใจจริงๆ”
“โธ่เอ๊ย! ก็เสี่ยไปรุกเขาต่อหน้าธารกำนัลแบบนั้น ต่อให้เขาอยากรับไมตรีจากเสี่ย เขาจะกล้าบอกเหรอคะ”
“อ้าว...เฮียก็ใจร้อนไปหน่อย งั้นเฮียต้องทำยังไง วีช่วยเฮียนะ เฮียจะสมนาคุณให้วีอย่างงามเลย เฮียชอบเขาจริงๆ ถ้าเป็นคนอื่นเฮียไม่เอาแล้วเนี่ย”
“เห็นแก่ที่เสี่ยจริงใจแล้วก็มั่นคงกับพิมพ์ลภัสขนาดนี้ วีจะช่วยเต็มที่ค่ะ ข้อแรกที่วีอยากแนะนำนะคะ เสี่ยต้องเจรจากับเขาสองต่อสอง แล้วถ้าเขาไม่ยอมก็หาทางรวบหัวรวบหางซะเลย”
“เอางั้นเลยเหรอ เกิดเขาไปแจ้งความขึ้นมาก็แย่สิ ถ้าเรื่องนี้รู้ถึงหูเมียเฮีย เฮียตายสถานเดียวเลยนะวี”
“พิมพ์ลภัสไม่กล้าแจ้งความหรอกค่ะ วีรู้จักลูกเลี้ยงวีดี รายนี้เขาหน้าบางเหมือนพ่อ ไม่กล้าขึ้นโรงขึ้นศาลให้เป็นเรื่องอื้อฉาวหรอก วีคิดวิธีจะพาเขามาเจอเสี่ยสองต่อสองไว้แล้ว ทีนี้ก็ขึ้นอยู่กับเสี่ยล่ะค่ะว่าจะเอาเขาอยู่หมัดรึเปล่า”
สมานยิ้มรับอย่างมีความหวังจะเผด็จศึกพิมพ์ลภัส ต่างจากอภิชาติที่หน้าจ๋อยตลอดวันเพราะไม่เห็นหน้าจินตนา กานดารำคาญมาก ไม่เข้าใจว่าเพื่อนหนุ่มจะทำท่าซังกะตายทำไม ทั้งที่เป็นคนหักอกจินตนา พิมพ์ลภัสเห็นเพื่อนงอนกันก็อดไม่ได้จะไกล่เกลี่ย กานดาเลยยอมบอกว่าแอบชอบจินตนามานานแล้ว แต่ไม่อยากบอกให้เสียเพื่อน
ด้านรเมศ...เห็นเสื้อสูทในห้องก็คิดถึงพิมพ์ลภัส ท่าทางหงุดหงิดของเธอทำให้เขาคาใจจนต้องโทร.หา แต่อดีตนางแบบก็ไม่ยอมคุยด้วย และพาลงุ่นง่านจนกานดาต้องลากตัวมาคุย
พิมพ์ลภัสไม่บอกว่าเพราะรเมศ เฉไฉว่าเพราะสมานที่บุกซื้อตัวเธอถึงห้องอาหาร กานดาพลอยเป็นเดือดเป็นแค้น เหมารวมว่าผู้ชายชั่ว ทั้งพ่อและญาติผู้ชายของเธอชอบส่งผู้หญิงไปขายตัวหาเลี้ยง อดีตนางแบบนิ่งฟัง ก่อนบอกว่ากานดาอาจคิดว่าตัวเองชอบผู้หญิงเพราะพฤติกรรมผู้ชายที่บ้าน แต่ความจริงอาจชอบผู้ชายแต่ยังไม่เจอผู้ชายดีๆ
ooooooo
แผนชั่วของมาธวีกับสมานเริ่มต้นเช้าวันต่อมา เสี่ยจอมหื่นรับหน้าที่ซื้อตั๋วเครื่องบิน ทั้งของเขาและพิมพ์ลภัส และไปรอในห้องของมาธวีเพื่อเผด็จศึก ส่วนมาธวีรับหน้าที่สำคัญคือพาตัวอดีตลูกเลี้ยงสาวไปประเคน!
รเมศนิ่วหน้าเมื่อเห็นว่ามาธวีมาขอพบเพราะธุระสำคัญ เจ้าของโรงแรมหนุ่มเตรียมตั้งรับเต็มที่ เผื่อเธอรุกหนักอีก แต่กลายเป็นว่าม่ายสาวเจ้าของห้องเสื้อจะกลับกรุงเทพฯ และอยากขอปรับความเข้าใจกับพิมพ์ลภัสก่อนกลับ
“คุณเมศอาจจะเห็นว่าเราสองคนเป็นไม้เบื่อไม้เมากัน แต่วีเป็นคนโกรธง่ายหายเร็ว ถึงพิมพ์จะเคยสร้างปัญหาให้วีก็เยอะ แต่ในใจวีไม่มีอะไรกับพิมพ์จริงๆ นะคะ ขอโทษแล้วก็แล้วกัน”
รเมศอึ้งไปอึดใจ ลังเลจะเชื่อหรือไม่ และมาธวีก็รู้ทัน โกหกหน้าตายว่ารู้สึกผิดเรื่องที่ผ่านมาและอยากไถ่โทษด้วยการช่วยใช้หนี้ของอดีตลูกเลี้ยงสาว
“ผมว่าคุณควรคุยกับพิมพ์เอง ทั้งเรื่องใช้หนี้แล้วก็เรื่องปรับความเข้าใจ”
“ดีค่ะ...คุณเมศพอจะนัดให้เขามาหาวีที่ห้องตอนบ่ายสองได้ไหมคะ วีจะคุยกับเขาเอง...นะคะคุณเมศ ช่วยวีหน่อย อย่างน้อยวีจะได้กลับกรุงเทพฯอย่างสบายใจว่าได้ช่วยเหลือลูกสาวคุณตรัยแล้ว”
“ผมจะนัดเขาให้แล้วกันนะครับ ถ้าเขาตกลง ผมจะบอกคุณ”
“ขอบคุณมากค่ะ...แต่อย่าหาว่ายังงั้นยังงี้เลยนะคะ คุณเมศอย่าเพิ่งบอกพิมพ์นะว่าวีเป็นคนนัด วีกลัวเขาจะเกลียดวีจนไม่เปิดโอกาสให้วีได้พูด”
รเมศหนักใจมากแต่ก็ยอมรับปาก พิมพ์ลภัสเลยถูกเรียกตัวไปพบตามนัดหมาย มาธวีได้ยินดังนั้นก็สะใจมาก ก่อนจะอดไม่ได้บอกหนูดีกับเป็ดอย่างย่ามใจที่อดีตลูกเลี้ยงจะลงนรกในไม่ช้า!
เป็ดกับหนูดีไม่สบายใจ คิดว่าแผนของเจ้านายสาวรุนแรงเกินไป เลยคิดจะบอกรเมศ แต่มาธวีที่ออกไปนัดแนะกับสมานถึงแผนการทั้งหมดก็โผล่กลับมาก่อน สองผู้ช่วยใจสาวเลยต้องวางสายจากบวรทัตดื้อๆ
ด้านพิมพ์ลภัส...ไม่ชอบใจนักที่ถูกรเมศเรียกตัวมาพบในห้องพัก แล้วก็ถึงกับผงะเมื่อเห็นสมานรออยู่
“เฮียดีใจจังที่ได้เจอหนูอีก เฮียรักหนูมากนะ รักจนอกจะระเบิดอยู่แล้ว”
“นี่มันเรื่องอะไรกัน! ถอยไปนะ ฉันจะกลับไปทำงาน”
“หนูพิมพ์จะทำงานให้เหนื่อยทำไม มาอยู่กับเฮียดีกว่า เฮียจะให้หนูทุกอย่าง บ้าน รถ เครื่องเพชร เงินเดือน”
“ทำอะไรไม่นึกสงสารลูกหลานบ้าง แก่จนจะลงโลงอยู่แล้ว แทนที่จะหัดเข้าวัดเข้าวา นี่ถ้าลูกหลานรู้เข้าคงขายหน้ากันน่าดูที่มีพ่อมีปู่ทำอะไรน่าสังเวชแบบนี้”
“คำก็แก่ สองคำก็แก่ งั้นมาพิสูจน์เลยละกันว่าเฮียแก่จริงรึเปล่า!”
พูดจบก็พุ่งตัวหา พิมพ์ลภัสวิ่งหนีและดิ้นรนราวกับคนบ้า เกือบจะเสียทีแล้ว ถ้าจะไม่คว้าโทรศัพท์ห้องมาทุ่มใส่หัวเสี่ยจอมหื่น กระแทกเข่ากลางจุดยุทธศาสตร์เตะซ้ำกลางตัวไม่ยั้งและแหวทิ้งท้ายเสียงกร้าว
“ถ้าคราวหน้าฉันเจอแกอีก ไม่ใช่แค่เตะนะ แต่ฉันจะเฉือนของสงวนแกมาสับ!”
ooooooo
หลังจัดการสมานจนแทบลุกไม่ขึ้น พิมพ์ลภัสก็หอบร่างกระเซอะกระเซิงกลับห้องอาหาร พัชรีตกใจมาก รีบมาดู อดีตนางแบบเลยปล่อยโฮและโถมตัวหาอย่างเสียขวัญ
เรื่องราวเกือบถูกข่มขืนคาห้องพักถูกถ่ายทอดอย่างเดือดจัด กานดากับพัชรีอ้าปากค้าง โดยเฉพาะข้อกล่าวหาของพิมพ์ลภัสที่ว่าไม่ใช่แค่สมานที่เป็นตัวการสำคัญ รเมศก็มีส่วนด้วย
“เดี๋ยวๆใจเย็นๆก่อนพิมพ์ลภัส อย่าเพิ่งสรุปอะไรง่ายๆ มันต้องมีอะไรผิดพลาดแน่ คุณเมศไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ก็คุณเป็นคนบอกว่าเขาตามฉันไปที่ห้องสามศูนย์ห้าไง แล้วฉันก็เจอไอ้เฒ่าหัวงูไล่ปล้ำจนเกือบเอาตัวไม่รอด!”
พัชรีถึงกับเถียงไม่ออก และพิมพ์ลภัสก็ไม่อยู่รอฟังคำแก้ตัว ผลุนผลันไปเอาเรื่องรเมศถึงห้องทำงาน
“ไอ้เสี่ยตัณหากลับมันจ่ายคุณเท่าไหร่ หรือมันสัญญาว่าจะให้อะไร ทำไมคุณถึงทำกับฉันแบบนี้!”
“เดี๋ยว...พิมพ์ นี่มันเรื่องอะไร”
“ใจเย็นๆครับคุณพิมพ์ ค่อยๆเล่าว่ามันเกิดอะไรขึ้น” บวรทัตพยายามไกล่เกลี่ย
“ก็คุณเรียกให้ฉันขึ้นไปห้องยัยมาธวีไงคะ แทนที่ฉันจะเจอคุณกับแม่นั่น ฉันกลับเจอไอ้เสี่ยสมาน มันลากฉันขึ้นเตียงจนฉันเกือบจะเสียท่ามันอยู่แล้ว ดีนะว่าฉันมีสติแล้วซัดมันกลับจนน่วม”
รเมศกับบวรทัตนิ่วหน้า มองหน้ากันงงๆ ไม่รู้ว่าสมานคือใคร แต่พิมพ์ลภัสก็ไม่สนใจ แหวลั่น
“อย่าทำไก๋ ถามจริง...โรงแรมคุณใกล้เจ๊งรึไง ถึงต้องทำข้อตกลงอะไรกับไอ้คนพรรค์นั้นโดยเอาตัวฉันเข้าแลก”
“จะบ้าเหรอพิมพ์! ผมไม่มีวันทำอย่างนั้นแน่”
“แล้วคุณสั่งให้ฉันขึ้นไปสังเวยไอ้แก่นั่นบนห้องทำไม!”
“ผมยอมรับว่าสั่งคุณขึ้นไปพบ เพราะคุณมาธวีเขาอยากปรับความเข้าใจกับคุณ แล้วก็อยากใช้หนี้ให้คุณด้วย”
พิมพ์ลภัสชะงัก ก่อนจะเอ่ยเสียงเย็น “คุณเชื่อมาธวี...แม่นั่นน่ะเหรอจะใช้หนี้ให้ฉัน! ใช่สิ...ฉันลืมไปคุณสนิทสนมรู้อกรู้ใจ...รู้ลึกไปถึงไหนต่อไหนกับเขาแล้วนี่...ถึงได้เชื่อเขา!”
“คุณพูดบ้าอะไรพิมพ์ ผมไม่ได้สนิทกับเขาเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน”
“เพื่อนร่วมงานบ้านเมืองไหนเขาจูบกันคะ”
ถึงคราวรเมศผงะบ้าง แก้ตัวเสียงเครียด “ถ้าคืนนั้นคุณเห็นผมอยู่กับเขา คุณก็คงไม่ได้เห็นตั้งแต่ต้นจนจบว่ามันเกิดอะไรขึ้น...ผมไม่ได้จูบเขา ไม่ได้ทำอะไรที่เป็นการทรยศคุณ!”
พิมพ์ลภัสยักไหล่ หัวเราะเย้ยหยัน “ช่างมันเถอะ... คืนนั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่เกี่ยวกับฉัน ฉันสนอย่างเดียวคือ...คุณก็โง่เหมือนกันนั่นแหละที่ถูกมาธวีหลอกใช้ ไม่ใช่มีแต่ฉันคนเดียวที่โง่ถูกนายกิตติชัยหลอก!”
ข้อกล่าวหาของพิมพ์ลภัสทำให้รเมศโกรธจัด ผละไปหามาธวีถึงห้องพักทันทีเพื่อเคลียร์ให้รู้เรื่อง ม่ายสาวเจ้าของห้องเสื้อทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เป็ดกับหนูดีอึดอัดมาก อยากบอกความจริงใจแทบขาด แต่ยังเกรงสายตาบีบบังคับของเจ้านายสาว แต่ก็ไม่ต้องรอนานเลย เมื่อรเมศดันเห็นสายโทรศัพท์ที่หลุดลุ่ยจากผนัง
“บอกผมมาตามตรงดีกว่าครับว่ามันเกิดอะไรขึ้นที่นี่ ทำไมโทรศัพท์ถูกกระชากออกมาแบบนี้”
มาธวียังปากแข็ง เฉไฉว่าเพราะสาเหตุอื่น แต่เป็ดกับหนูดีไม่อยากติดร่างแหด้วยเลยตัดสินใจหยิบดอกกล้วยไม้ติดผมสำหรับพนักงานเสิร์ฟในถังขยะไปให้รเมศ
“กล้วยไม้ติดผมพนักงานเสิร์ฟ...ผมจำได้ ยังมีอะไรจะแก้ตัวอีกไหมครับ”
แววตาคาดคั้นของรเมศทำให้มาธวีหวาดกลัวไม่น้อย แต่ก็ยังแสร้งไม่กลัว
“วียอมรับก็ได้ค่ะ พิมพ์ขึ้นมาจริงๆ เราสองคนมีปากเสียงกันนิดหน่อย”
“เลิกโกหกซะทีเถอะครับ ผมน่าจะเชื่อพิมพ์แต่แรกว่าคุณเป็นคนปากอย่างใจอย่าง แล้วก็ใจดำที่สุด คุณแกล้งพิมพ์มาตลอดใช่ไหม ซุปนั่นก็ฝีมือคุณทำตัวเองสิท่า แล้วคุณยังใช้ผมไปหลอกพิมพ์มาเป็นเหยื่อไอ้เสี่ยตัณหากลับอีก!”
“อย่ามาใส่ความกันนะคะ วีไม่รู้เรื่องจริงๆ วีหวังดีกับพิมพ์มาตลอด มีแต่พิมพ์นั่นแหละที่โกหกปลิ้นปล้อน แล้วก็ชอบปั่นหัวผู้ชาย!”
ooooooo
สมานกลัวความผิด กลับไปเก็บกระเป๋าเตรียม หนีที่ห้องพัก แต่ก็ถูกสุริยนต์ดักจับตัวไว้ได้ตามคำสั่งของรเมศเสียก่อน มาธวีถึงกับอ้าปากค้างเพราะไม่เคยเห็นภาคนี้ของเขา แต่รเมศก็ไม่ยี่หระ ชกเสี่ยจอมหื่นจนหน้าคว่ำ!
“จำไว้! พิมพ์ลภัสเป็นผู้หญิงของฉัน!”
ประกาศจบก็จะต่อยซ้ำ สุริยนต์ต้องรั้งไว้ บวรทัตเลยรับหน้าที่เรียกค่าเสียหายให้ คราแรกเสี่ยใหญ่จะไม่ยอม แต่เมื่อถูกขู่จะแจ้งความก็กลัวเรื่องถึงหูเมียหลวง เลยยอมจ่ายค่าเสียหายแต่โดยดี
มาธวีเห็นรเมศจัดการเสี่ยจอมหื่นแล้วกลัวมาก พยายามแก้ตัวอีกรอบ แถมโบ้ยความผิดให้สองผู้ช่วยใจสาว เป็ดกับหนูดีรีบบอกว่าช่วยเคลียร์พื้นที่เกิดเหตุเท่านั้น แต่เรื่องแผนการเป็นของมาธวีกับสมานล้วนๆ
พิมพ์ลภัสถูกกักตัวในห้องประชุมหงุดหงิดมาก ตั้งท่าจะออกไปข้างนอก แต่ก็ถูกพัชรีรั้งไว้เพราะเป็นคำสั่งรเมศ
“ฉันไม่จำเป็นต้องทำตามที่เขาสั่ง ลืมแล้วเหรอคะว่าคำสั่งเขาเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อนนี้ทำให้ฉันเกือบเอาตัวไม่รอด”
“คุณเมศไม่ได้ตั้งใจ เขาคงไม่รู้ว่าอดีตแม่เลี้ยงของเธอเป็นคนยังไง”
“ฉันบอกเขาอยู่ตลอด แต่เขาไม่เชื่อฉัน คุณก็เหมือนกัน!”
“ฉันขอโทษนะพิมพ์ลภัส ฉันไม่รู้จริงๆว่าเขาเป็นคนยังไง ก็เห็นเขาพูดจาดีท่าทางน่าเชื่อถือ นี่ถ้าคุณมาธวีทำกับเธอขนาดนี้ได้ เรื่องซุปนั่นก็คงไม่ต่างกัน ฉันเสียใจจริงๆที่ตอนนั้นฉันไม่เชื่อเธอ นั่งลงรอคุณเมศก่อนเถอะ”
“ไม่ค่ะ...ฉันอยากไปจากที่นี่ ฉันจะไม่อยู่ให้ใครเหยียบย่ำความรู้สึกอีกแล้ว”
“เธอจะไปได้ยังไงในเมื่อเธอยังติด...”
“ฉันไม่ลืมค่ะว่ายังติดหนี้เขาอยู่ แต่ตอนนี้ฉันยอมทำทุกอย่าง...จะได้ไปจากที่นี่ให้เร็วที่สุด!”
ขาดคำก็จะผละไป แต่รเมศก็มาขวางพร้อมกับมาธวี พิมพ์ลภัสเลือดขึ้นหน้า ถลาจะตบสั่งสอนอดีตแม่เลี้ยงที่ทำให้เธอเกือบเสียท่าสมาน รเมศกับพัชรีต้องเข้าไปห้าม ก่อนความจริงจะเผยว่ารเมศเอาคืนสมานให้แล้ว
“ทีนี้อารมณ์ดีพอจะคุยกันได้รึยัง เรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้ถ้าคุณอยากแจ้งความ...”
มาธวีไม่ยอม โพล่งขัดขึ้น “ถ้าแจ้ง...คุณก็ต้องติด ร่างแหด้วย อย่าลืมนะว่าคุณเป็นคนเรียกพิมพ์ลภัสไปที่ห้องฉัน ฉันไม่รู้เรื่องอะไรด้วย...จะมากล่าวหากันพล่อยๆไม่ได้”
รเมศหันมาเอ่ยเสียงเครียด แววตาจริงจังจนมาธวีสัมผัสได้ “ถ้าผมรู้ว่าคุณเป็นคนแบบนี้ อย่าว่าแต่เชิญมาทำงานเลย แผ่นดินจารวีเชียงรายแม้แต่ตารางนิ้วเดียว ผมก็ไม่ให้คุณมาเหยียบ!”
แต่ถึงจะกลัว มาธวีก็ไม่ถอย “เอาสิพิมพ์...เป็นทีเธอแล้ว อยากแจ้งความให้เรื่องฉาวโฉ่ก็ตามใจ แต่บอกก่อนว่าฉันไม่ใช่หมูให้เธอต้มยำทำแกงง่ายๆแน่ แจ้งเลย! ฉันจะปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แล้วจะบอกว่าเธอกับนายรเมศร่วมมือกันกลั่นแกล้งฉัน ข่าวอดีตนางแบบที่ตกอับมาเป็นสาวเสิร์ฟอย่างเธอจะได้ถูกแชร์ไปทั่วโซเชียลไง”
พิมพ์ลภัสลังเล ทั้งไม่อยากเป็นข่าวฉาวและเป็นห่วงภาพลักษณ์รเมศ แต่สุดท้ายก็ตัดสินใจได้
“ฉันไม่แจ้งความก็ได้ แต่เธอจะต้องขอโทษฉัน”
“ก็ได้...ถ้าเธอพอใจแบบนั้น...ขอโทษ!”
อาการไม่สำนึกของมาธวีทำให้รเมศคิดแผนดัดหลัง “ไม่ใช่ขอโทษตรงนี้ครับ...แต่ต่อหน้าทุกคน คราวก่อนคุณสั่งให้พิมพ์ขอโทษคุณที่ห้องอาหาร วันนี้ผมก็เห็นว่ายุติธรรมดีถ้าคุณจะขอโทษพิมพ์ที่นั่น”
ooooooo
มาธวีจำต้องเข้าไปในห้องอาหารจารวีแบบไม่เต็มใจ ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของเหล่าพนักงาน และเมื่อได้เวลา รเมศก็บอกให้เธอขอโทษพิมพ์ลภัสต่อหน้าทุกคน
“ฉันไม่คิดจริงๆว่าตาแก่นั่นจะหน้ามืดทำกับเธอแบบนั้น เอาเป็นว่าฉันขอโทษก็แล้วกันที่อยากช่วยให้เธอสบาย ขอโทษที่เข้าไปยุ่งกับชีวิตเธอมากไป...หวังดีกับเธอมากไป”
คำขอโทษแบบขอไปทีของมาธวีทำให้พิมพ์ลภัสโกรธจัด แหวเสียงเขียว
“แบบนี้เรียกขอโทษที่ไหน ใครไม่รู้คงคิดว่าเธอทวงบุญคุณฉันอีก เอาใหม่...เมื่อกี้ไม่นับ อย่าขอโทษแต่ปาก”
หนูดีกับเป็ดที่ตามมาเป็นพยานเสนอให้กราบเหมือน ที่พิมพ์ลภัสเคยโดน มาธวีเลยส่งสายตาพิฆาตไปให้ แต่ก็ต้องหน้าเสีย เมื่อรเมศเห็นดีเห็นงาม เช่นเดียวกับพิมพ์ลภัสที่เหยียดยิ้มท้าทาย
“ถ้าไม่กราบก็ไปโรงพัก ฉันกลัวเป็นข่าวก็จริง แต่คิดว่าคนอย่างเธอก็ไม่อยากจะเป็นข่าวเหมือนกัน อย่าลืมนะว่าโรงแรมมีกล้องวงจรปิด คิดเหรอว่ามันจะไม่มีกล้องสักตัวที่จับภาพเธอกับเสี่ยสมานนัดแนะกันได้”
จบคำก็ขอร้องให้บวรทัตช่วยตั้งกล้องเตรียมถ่ายคลิป มาธวีอับอายมาก ต้องยอมคุกเข่าพนมมือขอโทษ แต่ไม่ทันก้มถึงพื้น พิมพ์ลภัสก็สั่งให้หยุด
“ทีนี้คงรู้แล้วสินะว่าการถูกบังคับให้กราบโดยที่ไม่เต็มใจมันเป็นยังไง วันนั้นเธอไม่ได้ต้องการคำขอโทษ แต่ต้องการประจานให้ฉันอับอายขายหน้า เธอได้กำไรนะมาธวี เพราะฉันไม่ใช่แค่อาย แต่ฉันเจ็บ...เจ็บเพราะฉันถูกบังคับให้กราบเธอทั้งที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด!”
“ไม่ต้องพล่าม จะให้ฉันกราบได้รึยัง”
“เธอไม่ต้องกราบฉันหรอก เพราะกราบไปก็ไม่ได้อะไร ฉันแค่อยากบอกให้เธอรู้ว่าการบังคับให้คนอื่นกราบตัวเองทั้งที่เจ้าตัวไม่เต็มใจ มันไม่ใช่แค่การเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของคน แต่มันยังแสดงถึงอีคิวที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินของคนสั่งด้วย!”
ทุกคนในห้องอาหาร โดยเฉพาะรเมศทึ่งในคำพูดเผ็ดร้อนของพิมพ์ลภัสมาก มาธวีก็เจ็บแทบกระอักที่ถูกด่าประจานต่อหน้าทุกคน แต่ไม่ทันสวน อดีตลูกเลี้ยงสาวก็เอ่ยไล่
“เธอจะไปไหนก็ไปซะ หวังว่านี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เราได้เจอกัน”
พิมพ์ลภัสผละไปแล้ว ทิ้งมาธวีให้มองตาม พึมพำอาฆาตไล่หลัง
“แกชนะพิมพ์ลภัส แต่อย่าย่ามใจไปนะ ฉันไม่ลืมเรื่องวันนี้แน่!”
หลังจัดการเรื่องมาธวีให้เตรียมเก็บของและกลับกรุงเทพฯในเช้าวันต่อมา รเมศก็คว้าซองใส่เงินค่าเสียหายจำนวนห้าแสนบาทจากสมานเอาไปให้พิมพ์ลภัส แต่เมื่อเจอหน้าเธอกลับไม่อยากยื่นให้
“พิมพ์...ผมขอโทษ ผมเสียใจที่ไม่เชื่อคำพูดคุณ แล้วก็เสียใจที่ผมกลายเป็นเครื่องมือให้คนที่อยากทำลายคุณ”
“คืนนี้ฝนคงตกหนัก...อยู่ๆผู้หญิงจอมลวงโลกอย่างฉันก็มีคนมาขอโทษตั้งหลายคน เอาเป็นว่าฉันอโหสิให้ทั้งไอ้เสี่ยตัณหากลับ ทั้งยัยแม่มดสองหน้า แล้วก็...คุณ”
“ขอบคุณ...แต่ผมยืนยันนะพิมพ์ว่าผมเสียใจที่สุดกับเรื่องที่เกิดขึ้นวันนี้”
“แต่ฉันไม่เสียใจค่ะ อย่างน้อยเรื่องแย่ๆนี่ก็พิสูจน์ให้ใครหลายคนเห็นว่าฉันไม่ใช่คนโกหก แล้วก็คงทำให้คุณรู้ซะทีว่าใครๆก็มีสิทธิ์โง่ได้ทั้งนั้น คนบางคนไม่ได้อยากทำเลว แต่เพราะตกเป็นเหยื่อให้คนอื่นหลอกใช้ต่างหาก”
คำพูดยอกย้อนของเธอทำให้รเมศอึ้งไปอึดใจ สำนึกผิดที่เคยต่อว่าเธอแรงๆ และวันนี้เขาก็ลำบากใจมาก ไม่อยากให้เธอจากไป แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไร นอกจากพยายามยื้อไว้ด้วยการยังไม่ให้เงินค่าเสียหายจากสมาน
“ผมอยากให้คุณเชื่อใจผมสองเรื่อง เรื่องแรก...คืนนั้นผมกับมาธวีไม่มีอะไรกันจริงๆ ส่วนเรื่องที่สอง...ไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น ขอให้คุณรู้ว่าผมหวังดีกับคุณเสมอและจะทำทุกอย่างเพื่อคุณ”
ooooooo










