ตอนที่ 12
สร้อยฟ้าอาละวาดกระถินใหญ่ในเช้าวันถัดมาที่ปล่อยให้วีระวิทย์หายไปทั้งคืนโดยไม่รู้ว่าไปไหนสาวใช้ก้มหน้ารับการทุบตีจากสะใภ้สามเซ็งๆ แต่ไม่รู้จะเถียงยังไง สร้อยฟ้าหัวเสียคนเดียวตลอดเช้า กลุ้มใจที่ลูกชายลูกสาวหายหน้าทั้งคู่ ถึงขั้นสังหรณ์ลึกๆ ว่าอาจเกิดเรื่องไม่ดี...โธ่เอ๊ยลูก ไม่รู้หรือไงว่าแม่เป็นห่วง!
ฟากดำรงตัดสินใจเรียกร้อยดาวมาถามตรงๆเรื่องตัวตนแท้จริงของเธอ หญิงสาวจากเมืองผู้ดีอ้าปากค้าง แต่จำต้องสารภาพอย่างไม่มีทางเลือก สิบทิศอยู่เคียงข้างเธอตลอดและพาไปเดินเล่นในสวนหลังจากนั้น เมดาในคราบร้อยดาวถอนหายใจด้วยความโล่งอกที่มีคนช่วยรับแรงกดดัน เธอตั้งใจจะนำอัฐิของดิลกกับจันทร์ฉายไปไว้ที่วัดแถวบ้าน สิบทิศอาสาจะพาไปรักษาดวงตาที่กรุงเทพฯ เมดาซาบซึ้งใจมาก ย้อนถามเสียงอ่อน
“แล้วถ้าตาของดิฉันไม่มีทางรักษาหายล่ะคะ”
“ฉันก็จะคอยเป็นดวงตาให้เธอเอง...ฉันสัญญา”
สองหนุ่มสาวคู่หมั้นหมาดๆ เกี่ยวก้อยสัญญากันดิบดี เมดาอดปลื้มไม่ได้ที่เขาทำดีด้วย ส่วนสิบทิศผ่อนคลายขึ้นมากและเริ่มทำตามความรู้สึกของตัวเอง หวังสุดใจจะใช้ช่วงเวลานี้ชนะใจเธอให้ได้
ฝ่ายเต็มเดือนอารมณ์ดีเป็นพิเศษเพราะข้อความในพินัยกรรมของดำรงระบุจะยกบ้านบดินทร์ธรให้จงจิตรลอบมองด้วยความสงสัย แต่หลอกถามเท่าไหร่สะใภ้เอกก็ไม่ยอมบอกว่าอารมณ์ดีเรื่องอะไร ส่วนสร้อยฟ้ามาปรับทุกข์เรื่องลูกชายกับลูกสาวหายตัวจากบ้าน พร้อมความระแวงว่าผีเวียงแก้วอาจกลับมาแผลงฤทธิ์อีกครั้ง เต็มเดือนหุบยิ้มทันทีและหันขวับไปเอาเรื่อง...ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าห้ามเอ่ยชื่อนี้ให้ได้ยินอีก!
เวลาเดียวกันที่ห้องลับใต้เวียงร้อยดาว...วีระวิทย์สะบัดหน้าเรียกสติแล้วต้องตกใจหน้าเสียเมื่อพบว่าตัวเองเลอะดินเต็มไปหมด แถมถูกมัดหันหลังชนกับดาราเรศ สองพี่น้องตะโกนขอความช่วยเหลือและดิ้นรนหาทางหนีออกจากห้องลับสุดกำลัง แต่เหมือนจะไร้ผลเพราะผีเวียงแก้วใช้อาถรรพณ์บังตาไว้ ดาราเรศกับวีระวิทย์เปลี่ยนมาอ้อนวอนผีร้ายให้ปล่อยตัว ผีเวียงแก้วปรากฏตัวขึ้น หัวเราะเยาะลั่นและยื่นข้อเสนอด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์
“ข้าเจ้าจะปล่อยแค่คนเดียวเท่านั้น ส่วนอีกคนต้องอยู่เป็นผีเฝ้าเวียงร้อยดาวกับข้าเจ้าที่นี่”
สองพี่น้องตาเหลือก มองหน้ากันเลิ่กลั่ก เข้าใจความนัยของผีร้ายดีว่าใครสักคนต้องตายเพื่อออกจากที่นี่ ผีเวียงแก้วโยนมีดปลายแหลมไปตรงหน้า ปลดเชือกที่รัดสองร่างและประกาศให้ตัดสินกันเองว่าใครจะเป็นผู้รอดชีวิต!
ด้านเมดากับสิบทิศ...ตามไปสืบเรื่องสถานที่ฝังศพของเวียงแก้วจากบังหนั่น แต่ไม่ได้เรื่องนักเพราะแขกยามมัวแต่อึกๆอักๆ เมดาในคราบร้อยดาวร้อนใจมากจะซักต่อแต่ต้องกุมหัวด้วยความทรมาน เห็นภาพวีระวิทย์กับดาราเรศในหัว แย่งชิงมีดปลายแหลมกันอุตลุดในห้องลับใต้เวียงร้อยดาว หญิงสาวทำท่าจะทรุดกับพื้นแต่ยังฝืนจะไปช่วยสองพี่น้อง สิบทิศประคองแทบไม่ทัน ไม่เข้าใจว่าทำไมคู่หมั้นสาวต้องจริงจังขนาดนี้
ooooooo
สองพี่น้องยื้อแย่งมีดกันอยู่นาน วีระวิทย์ใช้พละกำลังผู้ชายที่ได้เปรียบคว้ามีดได้สำเร็จ ดาราเรศถอยกรูดติดผนัง ยกมือไหว้ขอชีวิตตัวสั่น วีระวิทย์ลังเล ใจไม่แข็งพอจะฆ่าน้องในไส้ ผีเวียงแก้วมองมาด้วยแววตาเย้ยหยัน ถากถางถึงกำพืดเดิมของสร้อยฟ้าว่าเป็นผู้หญิงหากินแถวสำเพ็งมาก่อน
“แกสองคนเป็นพี่ร่วมท้อง น้องร่วมไส้กันเสียเมื่อไหร่ ก็แค่อาศัยท้องนังสร้อยฟ้ามาเกิด ผู้ชายที่ไหนไข่ทิ้งไว้ให้แม่แกก็ไม่รู้ จะมัวลังเลอะไรอีกเล่า ทางเดียวเท่านั้นที่แกจะมีชีวิตรอด...ฆ่ามันซะ”
ดาราเรศกรีดร้องโหยหวน พร่ำบอกพี่ชายว่ากำลังถูกผีเวียงแก้วหลอก แต่วีระวิทย์เหมือนไม่ได้ยินอะไร ย่างสามขุมหาน้องสาวหวังฆ่าให้ตายคามือ ขณะเดียวกันที่หน้าเวียงร้อยดาว...สิบทิศประคองเมดาเข้ามา หญิงสาวคลำหาทางจนเจอช่องที่จำได้ว่าเป็นทางเข้าห้องลับและหาทางเปิดให้วุ่น สิบทิศทนดูดายไม่ไหวต้องช่วยอย่างเสียไม่ได้
ฝั่งวีระวิทย์ละล้าละลัง ส่วนดาราเรศยังร้องโวยวายจนน่าเวียนหัว ผีเวียงแก้วทนรำคาญไม่ไหวเลยแหวลั่น
“รักกันมากนักใช่ไหม ดี...ฉันจะช่วยสงเคราะห์ให้พวกแกไปอยู่ในนรกด้วยกันทั้งสองพี่น้อง เริ่มจากแกก่อน...”
ผีเวียงแก้วบีบคอวีระวิทย์จนขาลอย มีดเจ้าปัญหาหลุดลงพื้น ดาราเรศตาโต รีบคว้าไปแทงพี่ชายทันที
“ฉันฆ่าพี่วิทย์แล้ว แกต้องไว้ชีวิตฉันนะ ฉันยังไม่อยากตาย ปล่อยฉันเถอะนะ”
วีระวิทย์ถูกผีเวียงแก้วปล่อยลงพื้น อาการสาหัสแต่ยังไม่ตาย เขาจ้องมองน้องสาวด้วยแววตาเคียดแค้นผีเวียงแก้วเอื้อมมือไปลูบแก้มดาราเรศเบาๆ ชมว่าใจเด็ดสมเป็นหลานสาวแห่งบ้านบดินทร์ธร
“ข้าเจ้าจะไว้ชีวิตและพาคุณหนูกลับตามคำสัญญา แล้วคุณหนูจะรู้ซึ้งว่าอยู่กับตายอย่างไหนทรมานกว่ากัน”
ผีเวียงแก้วแสยะยิ้มร้าย รับรู้ได้ด้วยสัมผัสพิเศษว่าร้อยดาวมาถึงห้องลับจึงไปเตรียมต้อนรับ ทันได้ยินลูกสาวเถียงกับคู่หมั้นหนุ่มเรื่องที่เขาไม่เห็นใครที่นี่สักคน เมดาในคราบร้อยดาวจะเถียงแต่เขาไม่ฟัง
“อย่าเพ้อไปหน่อยเลย ตาเธอบอดอยู่จะเห็นได้ อย่างไร นอกจากเธอจะเห็นภาพหลอนแล้วคิดว่าเป็นเรื่องจริง”
“ดิฉันไม่รู้จะอธิบายสิ่งที่ฉันเห็นให้คุณชายเข้าใจได้ยังไง อาจจะฟังดูเหลวไหลแต่ดิฉันเห็นสิ่งที่คนอื่นไม่เห็น”
สิบทิศเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ไม่เคยคิดว่าวิญญาณมีอยู่จริงบนโลกนี้ เมดาในคราบร้อยดาวพยักหน้าพลางอธิบาย
“คุณชายยังจำผู้หญิงชุดขาวที่เคยเห็นในฝันได้ไหมคะ ผู้หญิงคนนั้นคือคุณแม่เวียงแก้วของดิฉันเอง”
สิบทิศอึ้งไปอึดใจ ไม่ทันขยับก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นผีเวียงแก้วปรากฏตรงหน้า และปราดไปดึงแขนร้อยดาวสู่อีกมิติเพื่อต่อว่าที่กล้ามาขัดขวางแผนการล้างแค้น เมดาในคราบร้อยดาวถามถึงวีระวิทย์กับดาราเรศทันทีเพราะไม่อยากให้แม่ทำร้ายคนอื่นให้เป็นบาปกรรมติดตัว เธอคาดคั้นอย่างร้อนใจเพราะกลัวแม่จะฆ่าทั้งสองไปแล้ว
“เปล่า...ฉันไม่ได้ฆ่า คนที่อ่อนแอก็ต้องตกเป็นเหยื่อของคนที่แกร่งกว่า เป็นธรรมดาของสัตว์โลก”
“นี่ไม่ใช่การไล่ล่าตามวัฏจักร แต่คุณแม่กำลังฝืนกฎธรรมชาติ คุณแม่ไม่มีสิทธิ์ชี้เป็นชี้ตายให้ใครทั้งนั้น”
“แล้วทีพวกมันหยิบยื่นโทษตายให้ฉันล่ะ มีใครหน้าไหนออกมากางปีกปกป้องฉันบ้าง”
“ทุกอย่างล้วนเป็นไปตามกรรมที่แต่ละคนเคยทำไว้”
“ฉะนั้นสิ่งที่พวกมันทุกคนได้รับก็สาสมแล้วกับกรรมที่พวกมันเคยก่อ!”
ผีเวียงแก้วหายวับไปแล้ว เมดารู้สึกตัวอีกครั้งในห้องของปกรณ์บนตึกใหญ่ โดยมีสิบทิศดูแลไม่ห่างเหมือนเคย เธอขอบคุณที่ช่วยพากลับมาอย่างปลอดภัย ราชนิกุลหนุ่มพยักหน้ารับแกนๆ แล้วบอกว่าเชื่อในสิ่งลึกลับที่เธอบอกเพราะได้เห็นวิญญาณของผีเวียงแก้วแล้ว แถมขอให้เธอเล่าเรื่องทั้งหมดอีกต่างหากว่าเหตุใดถึงต้องอาฆาตแค้นกันขนาดนี้
ooooooo
หลังการตายของคนงานทั้งหกที่รุมข่มขืน เวียงแก้ว พ่อปู่จอมขมังเวทและปกรณ์ซึ่งหายสาบสูญเมื่อหลายวันก่อนทำให้รอยกากบาทปริศนาเลือนหายจนเหลือสี่รอย สร้อยฟ้าเฝ้ามองด้วยท่าทางครุ่นคิดเป็นห่วงลูกสาวกับลูกชายจับใจที่หายหน้าหายตาจากบ้านโดยไม่มีคนรู้เห็น เมื่อดาราเรศกลับมาช่วงดึกของคืนนั้นก็ถึงกับผวากอดน้ำตาคลอ
ดาราเรศรู้สึกผิดที่ฆ่าพี่ชายตัวเองจนไม่กล้ากอดตอบ ผละขึ้นห้องและอ้างว่าอ่อนเพลียอยากนอน เมื่อได้อยู่ตามลำพัง ดาราเรศก็เกิดภาวะจิตหลอน ภาพตอนฆ่าพี่ชายวิ่งวนในหัวจนต้องเพ้อออกมาไม่หยุด
“เรศแค่ป้องกันตัว พี่จะฆ่าเรศก่อน ถ้าเรศไม่ฆ่าพี่พี่ก็ต้องฆ่าเรศ หรือไม่เราก็ถูกผีนังนั่นฆ่าให้ตายทั้งคู่อยู่ดีเรศไม่มีทางเลือก เรศยังไม่อยากตาย อโหสิให้เรศด้วยเถอะนะ”
ผีวีระวิทย์ปรากฏตัวตรงหน้าและด่าลั่น “กูไม่มีวันอโหสิกรรมให้มึง อีน้องสารเลว...กูจะมาเอามึงไปอยู่ด้วย”
ดาราเรศสติแตก นั่งก้มหน้าซุกตัวกับพื้นอย่างน่าสมเพช กลัวผีพี่ชายจะมาเอาชีวิตไปจริงๆ...
ฟากจงจิตรไม่สนใจเรื่องของสร้อยฟ้ากับลูกๆ รวมหัวกับเต็มเดือนวางยาพิษในซุปให้ดำรงทานในเช้าวันถัดมา แต่ดาหลาซึ่งตามจับสังเกตสะใภ้ทั้งสามตลอดดันเห็นหลักฐานเป็นห่อยาเสียก่อน แต่โชคร้ายถูกจงจิตรกับเต็มเดือนซ้อนแผน โยนความผิดให้พยาบาลสาวว่าเป็นคนวางยาเสียเอง ดำรงรู้ทันแต่ต้องทำเป็นตามน้ำไล่ดาหลาออกจากบ้าน
“ฉันจะเห็นแก่ที่หล่อนเคยปรนนิบัติรับใช้ฉันไม่แจ้งตำรวจ แต่หล่อนต้องไปให้พ้น แล้วอย่ากลับมาอีก!”
ดาหลาน้ำตานองหน้า จำต้องเก็บกระเป๋าออกจากบ้านโดยไม่มีปากเสียง แต่เหมือนโชคร้ายจะไม่จบแค่นั้น เพราะเต็มเดือนส่งคนขับรถตามไปฆ่าเธอจนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ดำรงซึ่งระแวงอยู่แล้ว ส่งปรมัตถ์ไปช่วยไว้ได้ทันเวลาและพาเธอไปพักในที่ปลอดภัย ส่วนตัวเองกลับไปบอกทุกคนที่บดินทร์ธรว่าดาหลาตายแล้ว
สามสะใภ้สะใจมาก ยินดีที่ตัวหารสมบัติของตระกูลลดลงอีกราย ดำรงสวมบทไม่รู้เรื่องได้แนบเนียนและได้แต่ปลงไปตามบทเพื่อจับสังเกตผู้ต้องสงสัย ส่วนร้อยดาวติดใจเรื่องการตายของดาหลาจนต้องถามจากปรมัตถ์
“คุณดาหลาอาจจะไปสบายแล้วก็ได้ อยู่ที่นี่ก็มีแต่ภัยอันตรายรอบตัว คนบางคนรู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ”
“การตายของดาหลาดูมีเงื่อนงำ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนฉันตั้งตัวไม่ติด บางทีนี่อาจไม่ใช่คดีคนร้ายฆ่าชิงทรัพย์”
“คุณท่านเพิ่งจะปรารภกับผมเรื่องตามคุณพ่อมาร่างพินัยกรรมไม่ทันไร คุณดาหลาก็มาด่วนเสียชีวิตเท่ากับหมดสิทธิ์ในกองมรดกของคุณท่านไปโดยปริยาย”
“ถ้าเรื่องนี้เกี่ยวพันกับมรดกของคุณปู่ ก็คงมีใครสักคนในบดินทร์ธรอยากให้ดาหลาต้องพบจุดจบแบบนี้”
เมดาในคราบร้อยดาวเก็บเรื่องความสงสัยจากการตายของดาหลาไปปรึกษาคู่หมั้นหนุ่มซึ่งมาเยี่ยมเหมือนเคย พร้อมบอกข้อสันนิษฐานว่าอาจเป็นสร้อยฟ้าหรือจงจิตรที่วางแผนฆ่า สิบทิศเลยแกล้งถามถึงเต็มเดือนว่ามีท่าทีเช่นไร เมดาไม่คิดถึงสะใภ้เอกเลยเพราะเชื่อว่าเป็นคนดี ราชนิกุลหนุ่มจึงถือโอกาสเตือนสติ
“ผู้หญิงยิ่งสวยก็ยิ่งอันตราย เหมือนดอกยี่โถ...ถึงกลิ่นจะดีสีสวยแต่มีพิษร้ายแรงถึงขั้นทำให้ตาย คุณเต็ม–เดือนยังเข้าข่ายผู้ต้องสงสัยเช่นเดียวกับวิญญาณคุณแม่เวียงแก้วของเธอ”
“เป้าหมายของคุณแม่เวียงแก้วไม่ได้อยู่ที่ดาหลา น่าจะเป็นคนอื่น แต่ไม่ว่าจะเป็นใครดิฉันต้องหยุดให้ได้”
“เธอจะหยุดสิ่งที่มีอำนาจเร้นลับเหนือธรรมชาติได้อย่างไร ฉันยังมองไม่เห็นทาง”
“ทุกสิ่งในโลกล้วนอยู่ภายใต้เงื่อนไขกฎเกณฑ์ของธรรมชาติ ไม่มีใครมีอำนาจฝ่าฝืนได้ ดิฉันต้องรีบหาศพคุณแม่เวียงแก้วให้พบแล้วปลดปล่อยให้ท่านไปตามทางเสียที”
ผีเวียงแก้วไปดักรอสร้อยฟ้ากลางดึกคืนเดียวกันนั้นเอง เยาะเย้ยถากถางเรื่องการหายตัวไปของวีระวิทย์จนสะใภ้สามนั่งไม่ติด ต้องข่มความกลัวและคาดคั้นถามหาลูกชายคนเดียว ผีเวียงแก้วปรายตามองพร้อมแสยะยิ้มร้าย
“จะเป็นห่วงเป็นใยอะไรกันนักหนา กะอีแค่ลูกชู้ของไอ้ปู่หมอเสน่ห์ น่าสมเพช หวังจะมัดใจผัวด้วยการลงทองเข้าของลับ เลยถูกไอ้แก่ตัณหากลับเสกลูกเข้าท้อง ถ้าอาคมไม่ขลังจริง ทำไม่ได้หรอกนะเจ้า”
สร้อยฟ้าเดือดจัด ลืมความกลัวถลาไปเอาเรื่อง แต่ผีร้ายกลับหายวับไป ทิ้งไว้เพียงเสียงหัวเราะเยาะเย้ยลอยมาตามลมบอกว่าวีระวิทย์คงจะกลับมาในอีกไม่ช้า...อดใจรออีกนิดนะคะคุณสร้อยฟ้าขา!
ooooooo
ผีวีระวิทย์กลับมาที่ตึกใหญ่กลางดึกคืนเดียวกัน ตรงไปเสพสมกับกระถินอย่างเร่าร้อนและหลับสนิทถึงเช้าวันถัดมา แต่ที่ทำให้สมาชิกทุกคนในบ้านแตกตื่น คือเสียงกรีดร้องของกระถินซึ่งตื่นมาเห็นผัวถูกมีดแทงกลางหลัง นอนตายคาเตียงที่ใช้ร่วมกันเมื่อคืนก่อน สร้อยฟ้าตบหน้าสาวใช้ไม่ยั้ง ส่วนดาราเรศหน้าซีดไม่คิดว่าจะเจอพี่ชายอีก
สร้อยฟ้าอาละวาดตบตีกระถินจนดำรงต้องเข้ามาห้ามและไต่สวนเรื่องราว สิบทิศซึ่งมาดูเหตุการณ์พร้อมกับเมดา ถือวิสาสะไปตรวจสภาพศพของวีระวิทย์แล้วต้องนิ่วหน้าด้วยความสงสัย
“ผลการชันสูตรเบื้องต้น คาดว่าวีระวิทย์น่าจะเสียชีวิตมาไม่น้อยกว่ายี่สิบสี่ชั่วโมงแล้ว แต่เธอบอกว่าเมื่อคืนนี้ได้ร่วมหลับนอนกับผู้ตาย มันจะเป็นไปได้อย่างไร”
ดาราเรศเริ่มนั่งไม่ติดกลัวถูกจับได้ อยากกลับไปที่ห้องใจแทบขาดแต่กลัวผีพี่ชายตามมาอาละวาดเหมือนเมื่อคืนก่อน กระถินนั่งก้มหน้าร้องไห้กระซิกๆ คร่ำครวญราวกับจะตายตาม
“ดิฉันไม่ได้ฆ่าคุณวีระวิทย์จริงๆ คุณวีระวิทย์เป็นพ่อของเด็กที่อยู่ในท้อง ดิฉันจะทำอย่างนั้นไปทำไม”
ทุกคนในบ้านอ้าปากค้าง ไม่อยากเชื่อว่าวีระวิทย์จะมีสัมพันธ์กับกระถินจนมีลูกด้วยกัน สร้อยฟ้าโกรธจัด โบ้ยความรับผิดชอบและบอกไม่เชื่อว่าเป็นลูกวีระวิทย์จริงๆ ดำรงเบื่อจะฟังสามสะใภ้เถียงกันเลยสั่งให้ปรมัตถ์นำตัวกระถินไปสอบสวนที่สถานีตำรวจ แต่ไม่ทันขยับ ท้องของกระถินก็โตขึ้นเรื่อยๆ จนน้ำคร่ำแตกนองพื้น สิบทิศเห็นท่าไม่ดีเลยจะพาส่งโรงพยาบาลแทน แต่ไม่ทันการณ์เพราะกระถินคลอดทารกหน้าตาเหมือนปีศาจออกมาเสียก่อน!
สภาพของกระถินทำให้ทุกคนต้องยกมือปิดปาก สิบทิศกับปรมัตถ์สติดีกว่าเพื่อน รีบพยุงร่างอ่อนเปลี้ยของกระถินส่งโรงพยาบาล สร้อยฟ้าสั่งให้เด็กในบ้านเก็บซากศพของทารกหน้าตาน่าเกลียด แต่ไม่มีใครกล้าเลยต้องลงมือเอง แต่เมื่อจะฝังศพที่ท่าน้ำหลังบ้าน กลับต้องตาเหลือกเมื่อทารกผีดันอาละวาดหลอกหลอนจนเธอแทบบ้า
สร้อยฟ้าวิ่งหนีกระเซอะกระเซิงกลับขึ้นห้อง แต่ต้องเผชิญหน้ากับทารกผีที่ตามระรานไม่หยุด ผีเวียงแก้วปรากฏตัวตรงหน้า หัวเราะขำขันที่เห็นท่าทางสะใภ้สามจะเป็นจะตายที่ถูกทารกผีคลานเข้าหา
“อย่ารังเกียจเดียดฉันท์ไปเลย ถึงอย่างไรก็ได้ชื่อว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขคุณวีระวิทย์ลูกชายผู้ล่วงลับ หลานคุณสร้อยฟ้าออกจะน่าเกลียดน่าชัง จูบรับขวัญหลานเสียหน่อยสิเจ้า”
“ย่าจ๋า...หนูหนาว หนูขอกลับเข้าไปอยู่ในท้องย่านะจ๊ะ”
ทารกผีไม่รอช้า กระโจนเข้าไปในท้องของสร้อยฟ้า สะใภ้สามหน้าซีด ทุบท้องอย่างเจ็บแค้นจะไม่ยอมให้อยู่ แต่เหมือนไม่ได้ผลเพราะทารกผีหายวับไปแล้ว ผีเวียงแก้วหัวเราะลั่น...ตายแน่คุณสร้อยฟ้าขา
สิบทิศมารายงานดำรงเช้าวันถัดมาว่ากระถินเสียเลือดมากจากการคลอดกะทันหันและขาดใจตายที่โรงพยาบาล ประมุขใหญ่แห่งบ้านบดินทร์ธรส่ายหน้าเหนื่อยใจ อดรำพึงไม่ได้ว่าแก่จนจะเข้าโลงแต่ต้องมาเจอเรื่องหดหู่แบบนี้ ราชนิกุลหนุ่มเห็นใจมาก เปลี่ยนเรื่องคุยด้วยการขออนุญาตพาร้อยดาวไปหาหมอที่โรงพยาบาลในกรุงเทพฯ ดำรงไม่ขัด แถมฝากฝังให้ดูแลหลานสาวอย่างดี สิบทิศรับปากด้วยความเต็มใจ...ผมก็ตั้งใจไว้อย่างนั้นอยู่แล้ว
หลังแยกจากสิบทิศ ดำรงกลับไปครุ่นคิดคนเดียวถึงภาพความทรงจำครั้งล่าสุดที่ผีเวียงแก้วมาขอร้องไม่ให้เผาศพของเธอ แต่ให้ฝังที่เวียงร้อยดาวแทน เขายังจำได้ว่าแปลกใจจนต้องถามเสียงเครียด
“ทำไมถึงห้ามไม่ให้ฉันเอาศพหล่อนมาทำพิธีให้ถูกต้องตามประเพณี หล่อนไม่อยากไปผุดไปเกิดกับเขาหรือไง”
“ข้าเจ้าจะไปผุดไปเกิดได้ยังไง ในเมื่อถูกคนใจร้ายกระทำย่ำยีเสียยิ่งกว่าสัตว์”
สีหน้าผีเวียงแก้วดูน่ากลัวอย่างเห็นได้ชัด ดำรงเลยถามว่าใครเป็นคนทำให้เธอเจ็บแค้นนักหนา
“หากคุณท่านอยากทราบ ก็อย่าเพิ่งใจร้อนเอาศพข้าเจ้าไปเผา ขอให้ฝังที่เวียงร้อยดาวสักระยะ แล้วสิ่งที่คุณท่านเคลือบแคลงสงสัยมาเนิ่นนานก็จะกระจ่างขึ้นมาเสียที”
เพราะความอยากรู้แท้ๆ ทำให้ดำรงตกปากรับคำและสั่งการให้บังหนั่นหาที่ทางบริเวณเวียงร้อยดาวเพื่อฝังศพเวียงแก้ว จัดแจงเผาโลงหลอกสายตาคนทั้งบดินทร์ธรและให้เก็บทุกอย่างเป็นความลับ บังหนั่นทำตามอย่างไม่มีเงื่อนไข แต่อดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดประมุขใหญ่แห่งบ้านบดินทร์ธรต้องทำให้เรื่องยุ่งยากขนาดนี้
ดำรงดึงตัวเองออกจากภวังค์ความคิด สะบัดหน้าเบาๆ เรียกสติตัวเอง อดรำพึงไม่ได้
“ฉันคิดผิดหรือถูกกันแน่ที่หลงเชื่อและยอมทำตามที่เธอขอร้อง...แม่เวียงแก้ว”
ooooooo
มาร์คตื๊อขอร้อยดาวไปกรุงเทพฯ ด้วย น่านฟ้าขัดขวางเต็มกำลัง ไม่อยากให้เขาเป็นก้างขวางคอพี่ชายกับว่าที่พี่สะใภ้ เมดาในคราบร้อยดาวไม่สนใจเรื่องเถียงกันแต่ผลุนผลันไปคาดคั้นบังหนั่นเรื่องสถานที่ฝังศพเวียงแก้ว น่านฟ้ากับมาร์คตามไปด้วย บังหนั่นจะไม่ยอมพูด ราชนิกุลสาวเลยยื่นกระดาษให้เขียนแทน
มาร์คลงมือขุดดินหาหลุมศพของเวียงแก้วตามคำขอของร้อยดาว โดยมีน่านฟ้ายืนลุ้นข้างๆ แต่ขุดอยู่นานก็ไม่พบอะไรนอกจากโลงเปล่าๆ สองหนุ่มสาวหน้าเสีย ตั้งท่าจะถามต้นเรื่องแต่ร้อยดาวหายไปจากตรงนั้นเสียแล้ว!
เมดาในคราบร้อยดาวถูกผีเวียงแก้วลักพาตัวไปขังในโลงศพแคบๆ ใต้เวียงร้อยดาว หญิงสาวพยายามเคาะและตะโกนขอความช่วยเหลือแต่ไม่มีใครได้ยิน มีเพียงเสียงหัวเราะเย้ยหยันของผีเวียงแก้ว
“ลูกดื้อ...แม่ต้องสั่งสอนเสียบ้างจะได้หลาบจำ ไม่กล้าขัดคำสั่งฉันอีก”
“ถึงอย่างไรหนูจะต้องหาศพคุณแม่ให้พบและปลดปล่อยคุณแม่ให้ได้”
“ก็เอาสิ...ลองเล่นซ่อนหาดูกันสักตั้ง ดูซิว่าลูกกับแม่ใครจะแน่กว่ากัน แกคงอยากรู้สินะว่าศพฉันหายไปได้อย่างไร ฉันจะบอกให้เอาบุญก็ได้”
ผีเวียงแก้วแสยะยิ้มร้าย บอกว่าสะกดจิตวีระวิทย์ในคืนที่ลักพาตัวมาอยู่กับดาราเรศให้ขุดหลุมเอาศพไปซ่อนที่อื่น เมดาในคราบร้อยดาวอึ้งไปอึดใจ ไม่อยากเชื่อว่าผีร้ายจะวางแผนลึกลับซับซ้อนขนาดนี้
“พอเสียทีเถอะนะคะ การแก้แค้นยิ่งทำให้คนอื่นทวีความแค้น มีแต่การให้อภัยเท่านั้นที่จะทำให้คนอื่นสำนึกได้”
“หุบปากนะนังตัวดี เลือดต้องล้างด้วยเลือด ถ้าแกไม่ช่วยก็อย่าขวาง ถ้าห้ามแล้วไม่ฟังก็อย่าหาว่าฉันใจร้าย”
“ตราบใดที่ยังมีชีวิต หนูจะคอยขัดขวางทุกวิถีทาง ไม่ยอมให้คุณแม่ก่อกรรมทำเข็ญกับคนอื่นอีกต่อไป”
“ยังอวดดีไม่หาย ก็จงตายทั้งเป็นในโลงนี่แหละ!”
ด้านสิบทิศ...ตามหาเมดาให้ทั่วเพราะนัดว่าจะมารับไปหาหมอที่กรุงเทพฯ จนไปเจอกับบังหนั่นที่บอกว่าคู่หมั้นสาวของเขาไปขุดหาศพเวียงแก้วที่เวียงร้อยดาวกับมาร์คและน่านฟ้า ราชนิกุลหนุ่มตามจนเจอมาร์คกับน่านฟ้าซึ่งกำลังผจญอิทธิฤทธิ์ของผีเวียงแก้วบนเวียงร้อยดาว
ฟากเมดาในคราบร้อยดาวเริ่มอ่อนแรงจากการทุบฝาโลงขอความช่วยเหลือ แต่ฉับพลันนั้น...ก็เห็นแสงสว่างริบหรี่แยงตา พร้อมแว่วเสียงคล้ายคนกล่าวขออุปสมบทจากที่แห่งหนึ่ง เมดากะพริบตาเบาๆ เห็นภาพปกรณ์ห่มผ้าเหลืองกลายเป็นพระ ดูมีสง่าราศีจับตาจนเธอแสบตาไปหมด หญิงสาวจากเมืองผู้ดีหลับตาปี๋ สติค่อยๆเลือนหายพร้อมกับเสียงเรียกและสัมผัสแผ่วเบาของสิบทิศที่มาช่วยเธอออกจากโลงได้ทันเวลา!
ooooooo
เมดาในคราบร้อยดาวได้ยินเสียงแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวรแว่วจากที่ไกลๆ ก่อนจะรู้สึกตัวในห้องปกรณ์บนตึกใหญ่ โดยมีสิบทิศเฝ้าดูอาการของเธอด้วยความเป็นห่วง ราชนิกุลหนุ่มโล่งใจมากที่เธอฟื้น แต่แกล้งทำดุกลบเกลื่อนความรู้สึกอ่อนโยนในใจ เมดาลุกพรวดจะไปขุดหาศพแม่ต่อ สิบทิศต้องห้ามเสียงเข้ม
“ฉันไม่ให้เธอไป เธอกำลังตกอยู่ในอันตรายจากสิ่งที่มองไม่เห็น”
“อย่าห้ามดิฉันเลยค่ะ ดิฉันเป็นผู้ปลดปล่อยให้วิญญาณคุณแม่เวียงแก้วออกมา ทำให้คนหลายคนในบดินทร์ธรต้องตายศพแล้วศพเล่า ดิฉันต้องรับผิดชอบ แม้ต้องแลกด้วยชีวิตดิฉันก็ยอม”
เมดาในคราบร้อยดาวร้อนใจเรื่องแม่จนลืมสำรวจตัวเองว่ากลับมามองเห็นอีกครั้ง เมื่อสิบทิศยื่นไม้เท้าให้เพราะคร้านจะห้ามจึงรู้สึกตัวและยกมือแตะตาตัวเองให้แน่ใจ น้ำตาค่อยๆรื้นและโผกอดสิบทิศด้วยความดีใจ ราชนิกุลหนุ่มกอดตอบแผ่วเบา ยินดีกับเธอด้วยที่มองเห็นอีกครั้ง
ในขณะที่มาร์คกับน่านฟ้าขนลุกไม่หายที่เจอฤทธิ์ผีเวียงแก้วที่เวียงร้อยดาว ดำรงกับรัตนากรมาร่วมแสดงความยินดีกับร้อยดาวที่มองเห็นได้อีกครั้ง โดยเฉพาะราชนิกุลสาวใหญ่จะจัดงานฉลองที่เวฬุมาศเพื่อประกาศความยินดีต่อหน้าญาติสนิทมิตรสหาย เมดาในคราบร้อยดาวเกรงใจปฏิเสธเสียงอ่อน
“อย่าต้องให้สิ้นเปลืองเลยเพคะ ตาของหม่อมฉันหายดีกลับมามองเห็นอีกครั้งก็นับว่าเป็นเรื่องน่ายินดีอยู่แล้ว หม่อมฉันขอประทานอนุญาตทำบุญเลี้ยงพระที่วัด อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรแทนการจัดงานเลี้ยงฉลองจะดีกว่า”
“ฉันมองคนไว้ไม่ผิด เห็นทีคงต้องรีบอุ้มสมให้สิบทิศกับหลานตัวร่วมเรียงเคียงหมอนกันให้ไวเสียกระมัง ขืนมัวแต่มะงุมมะงาหรา หนุ่มที่ไหนฉวยคว้าไป ฉันคงเสียดายแย่”
สิบทิศกับเมดามองหน้ากันด้วยความกระอักกระอ่วน ส่วนดำรงพยายามทัดทานรัตนากรให้สองหนุ่มสาวดูกันไปก่อน ราชนิกุลสาวใหญ่ไม่สนยืนกรานตามความตั้งใจเดิมจะให้แต่งงานโดยเร็วเพราะอยากอุ้มหลานเต็มแก่
“ไม่ทันไรก็กลืนน้ำลายตัวเองเสียแล้ว ใครนะที่เคยสัญญาว่าหากไม่ได้เป็นเนื้อคู่ตุนาหงันกันในชาตินี้ อย่างน้อยก็ขอให้มีลูกหลานได้เกี่ยวดองเป็นทองแผ่นเดียวกัน ขอเพียงแค่เราตรัส ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะไม่ขัดทั้งนั้น”
“ไหนฝ่าบาททรงห้ามกระหม่อมไม่ให้รื้อฟื้นเรื่องแล้วไปแล้ว”
“แต่เรื่องนี้จำเป็นต้องรื้อฟื้น แก่แล้วยังทำตัวเป็นพ่อปลาไหลอีก”
ดำรงกลืนน้ำลายด้วยความยากเย็น รัตนากรจึงถือโอกาสถามเรื่องในอดีตว่าเหตุใดถึงสะบั้นรักกับเธอไปแต่งงานกับคนอื่น ประมุขใหญ่แห่งบดินทร์ธรตอบเสียงอ่อยว่าไม่อาจเอื้อมดอกฟ้า รัตนากรส่ายหน้าอ่อนใจ
“ความรักไม่มีพรมแดนหรอกนะ ไม่มีชาติ ไม่มีชั้น ไม่มีวรรณะศักดินา ถ้าคิดจะรักใครก็ต้องลืมเงื่อนไขต่างๆให้หมด แล้วจงซื่อสัตย์ต่อหัวใจตัวเอง อย่าปล่อยให้ร้อยดาวต้องทรมานใจกับการเฝ้ารอใครสักคนเหมือนที่เรารอเลยนะ”
ฝ่ายสิบทิศตรวจดูอาการตาของเมดาให้แน่ใจว่าไม่มีความผิดปกติจริงๆ เขาสันนิษฐานว่าผีเวียงแก้วอาจให้อภัยเธอแล้วจึงดลบันดาลให้มองเห็นอีกครั้ง เมดาไม่เชื่อเพราะมั่นใจว่าผีเวียงแก้วคงไม่มีทางยอมให้อภัยเธอง่ายๆ เหมือนกับที่ฝังใจแค้นคนคิดร้ายกับเธอในอดีต สิบทิศถอนใจยาวแล้วเตือนสติ
“ถ้าอย่างนั้นก็ล้มเลิกความตั้งใจซะ ถึงอย่างไรเธอก็หยุดความอาฆาตพยาบาทของคุณเวียงแก้วไม่ได้อยู่ดี”
“จะให้ฉันนิ่งดูดาย รอดูผู้คนในบดินทร์ธรล้มตายตรงหน้าอย่างนั้นหรือคะ ดิฉันทำไม่ได้”
“แต่สิ่งที่เธอกำลังสู้ด้วยไม่ใช่คน เชื่อฉัน...ลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นที่นี่ซะ แล้วกลับไปใช้ชีวิตที่อังกฤษตามเดิม”
“ดูเหมือนคุณชายอยากผลักไสไล่ส่งดิฉันเหลือเกิน ไม่ต้องห่วงค่ะ ภารกิจของดิฉันเสร็จสิ้นเมื่อไหร่ ดิฉันไปแน่”
เมดาผละออกไปแล้วด้วยความน้อยใจ ทิ้งสิบทิศให้มองตามด้วยรู้สึกผิดที่ไม่กล้าพูดความในใจออกไป
ooooooo
ข่าวดีของร้อยดาวที่มองเห็นอีกครั้งสร้างความริษยาและหมั่นไส้ให้แก่สามสะใภ้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะจงจิตรกับสร้อยฟ้าที่เดือดเนื้อร้อนใจเพราะลูกสาวของเวียงแก้วได้ดีเกินหน้า ส่วนเต็มเดือนซ่อนความเจ็บแค้นไว้ภายใต้ใบหน้านิ่งเฉยอย่างแนบเนียน ทั้งที่โกรธจัดไม่อยากให้ร้อยดาวหายดีและมีส่วนในสมบัติของบดินทร์ธร
จงจิตรได้ยินสร้อยฟ้าบ่นเรื่องผีเวียงแก้วคืนชีพและกลับมาอาละวาดก็อดกลุ้มใจไม่ได้ สะใภ้สองไปรื้อหาเบี้ยแก้ของพ่อปู่ที่ปั้นเคยให้ไว้มาสวมคออย่างเร่งรีบ ฉับพลันนั้นจึงคิดถึงดารกาที่ไม่เห็นหน้าค่าตาหลายวัน กลัวผีเวียงแก้วจะไปลงกับลูกสาว เหมือนที่วีระวิทย์กับดาราเรศโดนก่อนหน้านี้ สะใภ้สองตามหาลูกทั่วบ้าน จนเจอที่บ่อน้ำร้างท้ายสวน ดารกาได้แต่ทำหน้างงท่าทีกราดเกรี้ยวของแม่ที่ห้ามขาดไม่ให้ไปไหนมาไหนคนเดียวอย่างไม่เคยมาก่อน
ฝ่ายเมดาในคราบร้อยดาวยืนมองรอยกากบาทปริศนาที่เหลือสี่รอยด้วยสายตาครุ่นคิด กังวลใจเหลือเกินเพราะไม่รู้จะห้ามแม่ยังไงไม่ให้จองเวรกับคนในบ้านบดินทร์ธร ผีเวียงแก้วรับรู้ด้วยญาณพิเศษ ปรากฏตัวให้เห็นและส่งเสียงเย้ยหยันว่าการล้างแค้นของเธอใกล้สิ้นสุดแล้ว หญิงสาวจากเมืองผู้ดีส่ายหน้าเหนื่อยใจพร้อมเตือนสติ
“ผลกรรมที่คุณแม่ทำจะส่งผลข้ามภพข้ามชาติ ผลัดกันเป็นเจ้ากรรมนายเวร ตอบโต้กันอย่างนี้ไม่จบไม่สิ้น”
“ตาหายก็ปากกล้าขึ้นเชียว ถ้าไม่เห็นว่าแกมีสายสัมพันธ์กับฉัน ฉันฆ่าแกที่กล้าตบตาฉันนานแล้วแม่ร้อยดาว”
เมดาสะดุ้งเฮือก สังหรณ์ว่าผีเวียงแก้วจะรู้ความลับ แต่ยังทำใจดีสู้เสือนิ่งเฉยไม่ตอบโต้ให้มีพิรุธ ผีเวียงแก้วปรายตามองลูกสาวกำมะลอด้วยแววตาเข้มขึ้น โพล่งออกไปด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบถึงความแค้นสุมอก
“รอยกากบาททั้งเจ็ดรอยนั่นเป็นตราบาปที่พวกมันต้องชดใช้ รอยแรกสำหรับไอ้สัตว์นรกทั้งหกที่รุมข่มขืนฉัน รอยที่สองเป็นของไอ้หมอผีชั่วที่สะกดวิญญาณฉัน ไม่ให้ผุดไม่ให้เกิด ส่วนรอยที่สามจะเป็นของใครไม่ได้นอกจากคนหูเบา โง่เขลาและเห็นแก่ตัวอย่างพ่อแก”
“แล้วอีกสี่รอยที่เหลือล่ะคะ คุณสร้อยฟ้า แล้วใครอีก”
“เฉลยตอนนี้ก็หมดสนุกน่ะสิ รอดูสิ่งที่ฉันตอบแทนนังแพศยากาลีกับลูกๆของมันดีกว่าว่าจะสาสมแค่ไหน”
ผีเวียงแก้วหายวับไปแล้ว เมดาร้อนใจมาก รีบไปชวนนมแสงไปหาดาราเรศด้วยกัน และสามารถช่วยลูกสาวคนเล็กของสร้อยฟ้าไว้ได้ก่อนจะถูกผีวีระวิทย์อำและบังตาจนขาดใจตายคาห้อง
เวลาเดียวกันที่ห้องสร้อยฟ้า...เจ้าของห้องสาวใหญ่ปวดท้องอย่างรุนแรงเพราะผีเวียงแก้วดลบันดาลให้ทารกผีในท้องแผลงฤทธิ์ สะใภ้สามโอดครวญด้วยความเจ็บปวด ตาเหลือกเมื่อเห็นภาพหลอนเป็นเลือดสดๆทะลักจากหว่างขา ผีเวียงแก้วหัวเราะสะใจแล้วปรากฏร่างให้เห็น เยาะเย้ยถากถางและบอกว่าสร้อยฟ้าจะต้องได้รับผลกรรมเหมือนที่เคยทำกับเธอในอดีต ตอนที่เธอท้องแก่ใกล้คลอด
สร้อยฟ้าตาเหลือก ภาพความทรงจำในอดีตที่เคยบุกขึ้นไปหาเวียงแก้วบนเวียงร้อยดาวกลางดึกของคืนหนึ่งแล่นเข้ามาในหัว เวลานั้นสะใภ้สี่แห่งบ้านบดินทร์ธรท้องแก่ใกล้คลอด แต่เธอยังใจไม้ไส้ระกำพอจะไปขย่มท้องอย่างแรงหมายทำให้แท้งด้วยแรงริษยา เวียงแก้วร้องขอให้หยุดแต่สะใภ้สามไม่รามือ ออกแรงกดหนักขึ้นจนสะใภ้สี่เกิดภาวะเลือดซึม นมแสงเข้ามาพอดีเพราะได้ยินเสียงร้องโวยวาย เวียงแก้วเลยรอดตัวไปได้อย่างหวุดหวิด!
สร้อยฟ้าดึงตัวเองออกจากอดีต รู้ในบัดนั้นว่าผีเวียงแก้วคิดจะทำอะไรกับตน ผีร้ายหัวเราะลั่นประกาศกร้าว
“คุณสร้อยฟ้าคงผิดหวังมากสินะเจ้า ที่คืนนั้นร้อยดาวลูกข้าเจ้าดวงแข็งไม่แท้งออกมาเสียก่อน คืนนี้เป็นทีของข้าเจ้าบ้าง อยากจะรู้นัก...ไอ้ที่อยู่ในท้องคุณสร้อยฟ้า มันลูกหมาหรือผีห่าซาตานที่ไหนชิงมาเกิด”
ขาดคำผีเวียงแก้วก็ลงมือขย่มท้องของสร้อยฟ้าอย่างแรง ทันใดนั้นทารกผีก็หลุดออกมาจากท้องสะใภ้สาม
“ดูสิเจ้า...หลานคุณสร้อยฟ้าหน้าตาเหมือนย่าไม่มีผิด!”
ทารกผีส่งยิ้มหวานพร้อมเสียงหัวเราะเอิ้กอ้ากแต่ฟังน่ากลัวในสายตาสร้อยฟ้า ผีเวียงแก้วมองมาด้วยแววตาสะใจที่ความแค้นได้รับการชำระ สะใภ้สามกรีดร้องเสียงหลงแล้วเป็นลมหมดสติที่พื้นหน้าห้องนั่นเอง
เมดาในคราบร้อยดาวพาดาราเรศไปพักผ่อนในห้องปกรณ์เพราะกลัวผีเวียงแก้วตามอาละวาดอีก ส่วนตัวเอง ขอตัวไปดูสร้อยฟ้าเพราะสังหรณ์ใจว่าผีร้ายไปหลอกหลอนจนเกิดเรื่อง และก็จริงดังคาดเพราะสะใภ้สามนอนสลบไสลไม่ได้สติหน้าห้องตัวเอง เมื่อถูกปลุกขึ้นมาก็ร้องโวยวายและหนีเข้าห้องไปด้วยความหวาดระแวง
ooooooo
เต็มเดือนเดินหน้าวางยาดำรงเต็มกำลังในเช้าวันถัดมา ถึงขั้นบุกไปป้อนให้ถึงปาก ประมุขใหญ่พยายามเลี่ยงแต่เหมือนไม่ค่อยได้ผลเพราะสะใภ้เอกยืนกรานให้ดื่มท่าเดียว และคนที่ขี่ม้าขาวมาช่วยคือปรมัตถ์ที่เข้ามาหาตามคำสั่งของดำรงก่อนหน้านี้ เต็มเดือนเคืองมากแต่ต้องข่มความไม่พอใจไว้
“คุณพ่อคงมีธุระสำคัญมากสินะคะ ถึงได้เรียกปรมัตถ์มาพบแต่เช้า”
“ใช่...สำคัญมาก เป็นเรื่องส่วนตัวที่ต้องคุยตามลำพังเท่านั้น”
เต็มเดือนหน้าม้าน จำต้องออกไปอย่างเสียไม่ได้ แต่ไม่วายแอบฟังหน้าประตู แล้วก็ต้องแสยะยิ้มด้วยความพอใจ เมื่อได้ยินว่าดำรงจะให้ทวีปมาเปิดพินัยกรรมของดิลกในอีกเจ็ดวันข้างหน้า
เต็มเดือนอารมณ์ดีเป็นพิเศษ เชื่อว่าสมบัติพัสถานทุกอย่างของบดินทร์ธรต้องเป็นของตน จงจิตรกับสร้อย–ฟ้ามองมาด้วยความสงสัย เมื่อสอบถามจึงได้ความว่าดำรงจะเปิดพินัยกรรมของดิลกในอีกไม่กี่วัน
“ดิลกกับจันทร์ฉายไม่มีลูกไว้สืบสกุลสักคน สมบัติพัสถานที่มีอยู่จะยกให้ใครถ้าไม่ใช่พ่อตัวเอง”
จงจิตรตาโตเพราะเชื่อว่าหากดิลกรักหรือชอบใครเป็นพิเศษ คนคนนั้นจะได้รับมรดกส่วนของเขา แต่สร้อยฟ้าไม่คิดอย่างนั้น เพราะไม่เชื่อว่าร้อยดาวซึ่งเป็นหลานอยู่ด้วยกันที่อังกฤษจะไม่ได้อะไรเลย เต็มเดือนยิ้มร้ายแล้วพูดเสียงเย็นถึงแผนการที่คิดไว้ก่อนหน้า...คนตายน่ะ ไม่มีสิทธิ์ได้รับมรดกหรอกนะแม่สร้อยฟ้า
ด้านปรมัตถ์...เดินคุยกับร้อยดาวเรื่องพินัยกรรมของดิลกและสาเหตุที่ทวีปรู้ความเคลื่อนไหวครอบครัวเธอตลอด
“ก่อนที่คุณดิลกจะเดินทางไปอังกฤษ ได้มอบหมายให้คุณพ่อดูแลผลประโยชน์ทั้งค่าเช่าที่ดินและตึกแถวทั้งหมดที่กรุงเทพฯ แล้วโอนเข้าบัญชีเงินฝากของคุณดิลกที่โน่นทุกเดือน”
“ฉันไม่เคยรู้เรื่องมาก่อนว่าคุณพ่อดิลกติดต่อกับคุณลุงทวีปมาตลอด ไม่เคยรู้สักเรื่องที่เกิดขึ้นในบดินทร์ธร”
“คุณดิลกคงเกรงว่าคุณหนูจะอยากกลับมาที่นี่ จึงปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับ”
“ถ้าคุณลุงทวีปไม่ส่งจดหมายตามให้ฉันบินมาเปิดพินัยกรรมของคุณพ่อปกรณ์ในฐานะทายาทคนหนึ่งของบดินทร์ธร ฉันคงไม่มีวันรู้เรื่องในอดีตที่เก็บงำอำพรางมาถึงยี่สิบห้าปี ฉันต้องสะสางมันให้จบก่อนจะบินกลับ”
“จะกลับอังกฤษ...แล้วเรื่องงานแต่งงานระหว่างคุณหนูกับคุณชายสิบทิศล่ะครับ”
เมดาในคราบร้อยดาวหน้าเสีย...คิดไม่ตกเหมือนกันว่าจะเอาอย่างไรเรื่องความสัมพันธ์อันคลุมเครือกับสิบทิศ
เวลาเดียวกันที่ห้องปกรณ์...ดาราเรศยังนอนหลับๆ ตื่นๆเพราะความระแวง กลัวผีวีระวิทย์กับผีเวียงแก้วมาหลอกหลอนจนขยับไม่ได้เหมือนเมื่อคืนก่อน ฉับพลันนั้นก็รู้สึกเหมือนมีคนนอนข้างๆ เมื่อเหลือบตาดูจึงเห็นผีพี่ชายส่งสายตาโหดเหี้ยมมาให้ ดาราเรศถอยกรูดติดผนังและวิ่งไปเปิดประตูด้วยท่าทางสติแตก ผีวีระวิทย์ลุกตามถามเสียงซื่อ
“จะไปไหน อยู่กับพี่นี่แหละ เราเป็นพี่น้องกัน จะทิ้งกันได้อย่างไร”
“อย่าเข้ามา เรศกลัวแล้ว เรศไม่ได้อยากฆ่าพี่ แต่นังผีร้ายมันสั่งให้ฆ่า”
“ผีร้ายไหนๆที่ว่าน่ากลัว มันก็ไม่เหมือนผีชั่วที่อยู่ในใจแกหรอก”
“พี่อยากได้อะไรก็ว่ามา เรศจะทำบุญกรวดน้ำไปให้”
“คนตายแล้วยังจะอยากได้อะไร พี่ไม่ต้องการอะไรทั้งนั้นนอกจาก...ไปอยู่กับพี่เถอะ”
ดาราเรศกระถดตัวจนชิดหน้าต่างที่เป็นกระจก ความกลัวจับจิตทำให้ขาดสติและกระโจนหนีทางหน้าต่าง ไม่รู้เลยว่าจะเป็นการกระทำสุดท้ายของชีวิต ก่อนจะร่วงไปนอนไร้ลมหายใจต่อหน้าต่อตาสามสะใภ้ที่กำลังตั้งวงน้ำชาในสวน สร้อยฟ้ากรีดร้องโหยหวน ปวดใจมาก ที่
ลูกสาวต้องจากไปอีกคน เมดาในคราบร้อยดาววิ่งตามเสียงเอะอะมาพร้อมกับปรมัตถ์ ยกมือปิดปากแน่นด้วยความสยอง ไม่อยากจะเชื่อว่าผีเวียงแก้วจะโหดร้ายถึงเพียงนี้!
ooooooo










