ตอนที่ 10
สิบทิศตัดสินใจยอมตามคำขอสุดท้ายของรัตนากร และไปเจรจาสู่ขอกับดำรงอย่างเป็นทางการบ่ายวันเดียวกัน เมื่อร้อยดาวทราบเรื่องก็ถึงกับตะลึง ไม่คาดคิดว่าจะถูกทาบทามโดยไม่มีวี่แววเช่นนี้
ดาราเรศกับสร้อยฟ้าอยากกรี๊ดดังๆระบายความคับแค้นใจ แต่ดำรงไม่สนใจและถามความสมัครใจของหลานสาว ร้อยดาวอึ้งไปครู่ใหญ่แล้วตอบรับเบาๆ สิบทิศแอบดีใจแต่พยายามเก็บอาการ ไม่อยากให้ใครรู้ความในใจ
เมื่อได้อยู่ตามลำพัง ร้อยดาวจึงถือโอกาสถามเรื่องแต่งงานสายฟ้าแลบ สิบทิศทำหน้ายียวนกวนประสาทบอกว่าไม่อยากแต่งงานเหมือนกัน แต่ต้องตกกระไดพลอยโจนเพราะมีเหตุผลจำเป็น
“ฟังให้ดีนะร้อยดาว...ที่ฉันยอมบากหน้ามาขอเธอแต่งงานถึงบดินทร์ธร ไม่ใช่เพราะความรักหรือความเสน่หาหรอกนะ แต่ฉันต้องทำตามหน้าที่ของหลานให้ท่านป้าสบายพระทัยเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น”
ร้อยดาวพูดไม่ออก สิบทิศพอจะเข้าใจความรู้สึกและตัดสินใจเล่าถึงอาการป่วยของรัตนากรให้ฟัง...
เวลาเดียวกันที่ห้องสร้อยฟ้า...ดาราเรศอาละวาดยกใหญ่ที่ถูกร้อยดาวแย่งสิบทิศไปต่อหน้าต่อตา สร้อยฟ้าผสมโรงด่าไปด้วย โดยเฉพาะรัตนากรที่เจ้ากี้เจ้าการเป็นธุระสู่ขอร้อยดาวจากดำรง ดาราเรศยิ้มร้ายประกาศกร้าว
“คนอย่างเรศ ไม่มียอมแพ้อะไรง่ายๆ ในเมื่อนังร้อยดาวมันแย่งทุกอย่างไปจากเรา เรศก็จะใช้วิธีของเรศ”
แววตาโหดเหี้ยมของลูกสาว ทำให้สร้อยฟ้า อดกลัวไม่ได้ แต่จะห้ามก็ปากหนัก...อย่าทำอะไรร้ายๆก็แล้วกัน!
ฟากน่านฟ้าถึงกับหน้าถอดสีเมื่อทราบจากร้อยดาวว่ารัตนากรไม่สบายมากและอาจมีชีวิตอยู่ไม่นาน ส่วนมาร์คช้ำใจหนักเมื่อรู้ว่าเพื่อนสาวที่ตัวเองแอบมีใจจะเป็นเจ้าสาวของสิบทิศ แต่เมื่อเห็นราชนิกุลสาวนั่งร้องไห้คนเดียวก็สงสารจับใจ และตัดสินใจไปปลอบให้คลายความทุกข์ตามประสาเพื่อนที่คุ้นเคยกันมาพักใหญ่
“น้ำตาไม่ได้หมายถึงความอ่อนแอ แต่บางทีอะไรที่มันมากเกินกว่าจะรับไหวก็จำเป็นต้องระบายออกมาบ้าง อย่าปิดกั้นความรู้สึกข้างในของตัวเองเลย ถ้าอยากร้องไห้ก็ร้องเถอะ ร้องออกมาให้พอ”
“ตั้งแต่ท่านพ่อกับท่านแม่สิ้น ฉันกับพี่ชายก็มีกันสองคนพี่น้อง จะมีก็แต่ท่านป้าเท่านั้นที่ยอมรับพวกเราไปดูแล ท่านยอมสละชีวิตสมรส ปฏิเสธยศฐาบรรดาศักดิ์ด้วยเหตุผลเพียงเพื่อจะเลี้ยงหลานทั้งสองให้ดีที่สุดเท่านั้น”
มาร์คอึ้งไปอึดใจ เห็นใจเธอไม่น้อยที่ต้องเจอเรื่องเศร้า จึงพยายามพูดให้กำลังใจว่าฟ้าหลังฝนมักจะมาพร้อมเรื่องดีๆเสมอ น่านฟ้ายิ้มทั้งน้ำตา ประทับใจในน้ำใจของเขามากขึ้นโดยไม่รู้ตัว
ooooooo
โชคร้ายของวีระวิทย์ไม่หมดแค่ถูกผีลักไปซ่อน แต่ยังถูกผีเวียงแก้วเข้าสิงเพื่อรักษาบาดแผลจากหวายอาคมด้วย เมื่อสร้อยฟ้าทราบเรื่องจากกระถินที่แอบเห็นเขากินเนื้อสดในครัว จึงคว้าตะกรุดไปสวมให้ลูก ผีเวียงแก้วกรีดร้องด้วยความเจ็บปวดและออกจากร่างวีระวิทย์ในที่สุด
สร้อยฟ้าร้อนใจมาก รีบพาร่างสลบไสลของลูกชายไปหาพ่อปู่ที่เรือนรับรอง จอมขมังเวททำพิธีขับไล่ให้แน่ใจว่าผีเวียงแก้วจะไม่เข้าสิงอีก แต่ที่ทำให้พูดไม่ออกคือความจริงจากโหงพรายผีข้าทาสของเขาที่มากระซิบว่าหลานชายคนเดียวแห่งบ้านบดินทร์ธรเป็นลูกชายแท้ๆ เมื่อซักไซ้หนักเข้า สร้อยฟ้าจึงสารภาพว่าวีระวิทย์เป็นลูกของเธอกับเขาจริงๆตั้งแต่ตอนที่เธอมาขอให้เขาช่วยทำพิธีเสกลูกเข้าท้องเพราะอิจฉาเวียงแก้ว
พ่อปู่มองร่างหายใจรวยรินของลูกชายด้วยความรัก แค้นใจผีร้ายเต็มกำลังที่บังอาจสิงสู่...เจอกูแน่อีเวียงแก้ว!
ขณะที่พ่อปู่กับสร้อยฟ้าวางแผนจัดการผีเวียงแก้ว ...ลูกสาวเพียงคนเดียวของผีร้ายก็เครียดหนักไม่แพ้กันเมื่อคิดถึงการแต่งงานของตัวเองที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ แต่ที่สับสนสุดคือเงื่อนไขการแต่งงานของสิบทิศ
“เราแค่แต่งงานกันเพียงในนามเท่านั้น ฉันหมายถึง...แค่แต่งงานหลอกๆ ไม่มีพันธะอะไรมากไปกว่านั้น เมื่อถึงเวลาเราจะหย่าขาดแยกทางกัน เธอจะมีชีวิตของเธอ ส่วนฉันก็มีชีวิตของฉัน...เข้าใจไหม”
ร้อยดาวถอนหายใจหนักหน่วง คิดไม่ตกว่าควรวางตัวอย่างไรกับเรื่องนี้ ปรมัตถ์ผ่านมาเห็นเธอเลยเข้ามาคุยด้วยและแสดงความยินดีกับงานมงคล เขาอยากบอกความรู้สึกแท้จริงแทบแย่ แต่กลัวเธอจะลำบากใจเลยได้แต่บอกว่าจะเดินทางไปเรียนต่อต่างประเทศหลังจัดการเรื่องพินัยกรรมของดิลกแล้ว
แต่จนแล้วจนรอดปรมัตถ์ก็ไม่กล้าบอก ทั้งความรู้สึกของตัวเองและความตั้งใจแท้จริงว่าไม่อยากไปเรียนที่อังกฤษเพราะไม่อยากเจอหน้าร้อยดาวให้ช้ำใจ ดาหลายกน้ำชาและของว่างมาให้ เห็นท่าทางเซื่องซึมของเขาก็พอเดาได้ว่าคงสะเทือนใจเรื่องข่าวมงคลของร้อยดาวกับสิบทิศ จึงอยู่เป็นเพื่อนคุยด้วยเพราะอยากให้เขาสบายใจ ปรมัตถ์ยิ้มรับบางๆ ตัดสินใจถามความเห็นของเธอว่าคิดอย่างไรกับการแอบรักใครสักคนแต่ไม่กล้าบอกความในใจ
ดาหลาพูดจากใจเพราะเจอปัญหาเดียวกัน “บางครั้งการได้ฝันคนเดียวก็ดีกว่าการได้รู้ความจริงที่เจ็บปวด คนส่วนใหญ่เลยเลือกแอบรักใครสักคนมากกว่าเปิดเผยความในใจแล้วต้องรับรู้ความจริงว่าเราไม่เคยอยู่ในสายตาเขาเลย”
“ถึงแม้ว่าในที่สุดเราจะต้องสูญเสียเขาไปน่ะเหรอ”
“ค่ะ...เพราะการแอบรักใครสักคน ไม่ต้องใช้ความพยายามแต่การตัดใจต่างหากที่ต้องใช้อย่างมาก ลองชั่งใจดูสิคะ ระหว่างความสุขยามที่คุณได้สบตาเขากับความทุกข์ยามที่ต้องคอยหลบตา อย่างไหนมันหนักกว่ากัน”
สองหนุ่มสาวสบตากันซึ้ง ดาหลาหน้าแดงด้วยความเขิน ส่วนปรมัตถ์ประทับใจมากในมุมมองความรักของเธอ
ฝ่ายร้อยดาวต้องรับหน้าเต็มเดือนด้วยแววตาแตกตื่น เมื่อเห็นสะใภ้เอกถือวิสาสะเข้าห้องนอนของปกรณ์และหยิบกระเป๋าหนังสุดหวงของเธอขึ้นดู เต็มเดือนลอบมองท่าทางตระหนกนั้นด้วยความสะใจ แม้จะไม่เจออะไรน่าสงสัยแต่คิดว่าคงมีของสำคัญซ่อนไว้ที่อื่นแน่ๆ
ร้อยดาวถอนใจโล่งอกที่สมุดบันทึกของดิลกไม่อยู่ในนั้น แต่ถึงกระนั้นก็กลุ้มใจไม่น้อยที่หาบันทึกไม่เจอตั้งแต่วันที่ถูกผลักลงบ่อร้าง เธอตัดสินใจไปเดินหา แต่ดันเจอกับจงจิตรที่จ้องจับผิดเธอตลอดเวลา
“เป็นกาฝากมาอาศัยบ้านคนอื่นเขายังไม่พอ พ่อแม่หล่อนไม่เคยสอนหรือไงถึงได้ซอกแซกสอดรู้ไร้สมบัติผู้ดี”
“เรื่องส่วนตัวของใคร ดิฉันก็ไม่สนหรอกค่ะ แต่ความปลอดภัยของคุณท่าน คงห้ามดิฉันให้อยู่เฉยๆไม่ได้”
จงจิตรจ้องมาตาเขียว โกรธจัดเหมือนงูถูกตีขนดหาง...ไอ้พวกรู้ดี มักไม่ค่อยตายดีนักหรอก!
ooooooo
วีระวิทย์นอนผวาไปหลายวันเพราะกลัวผีเวียงแก้ว ร้อนถึงพ่อปู่ต้องหาวิธีเอาคืนอย่างสาสมด้วยการทำพิธีปลุกเสกเชือกปะกำไว้สะกดวิญญาณผีร้าย ส่วนร้อยดาวประกาศกร้าวจะไม่ยอมย้ายออกจากบดินทร์ธร แม้จะแต่งงานแล้วเพราะอยากจัดการเรื่องพิธีทางศาสนาของเวียงแก้วให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
เต็มเดือนร้อนตัวขึ้นทันที อยากให้เลิกล้มการขุดคุ้ยเรื่องเวียงแก้ว แต่เหมือนดำรงจะไม่คิดแบบนั้น เขาเห็นด้วยกับร้อยดาวไม่น้อยที่จะจัดการหาคนมางมหาศพเวียงแก้วในบึงบัวใหญ่หลังบ้าน
ฟากนมแสงคาใจเรื่องศพของเวียงแก้ว เพราะได้ยินจากเต็มเดือนมาตลอดว่าทำพิธีฌาปนกิจศพแล้วตั้งแต่ยี่สิบห้าปีก่อน ร้อยดาวถอนใจเบาๆ ลำบากใจจะเล่าว่าความจริงที่เธอรับรู้ไม่ใช่แบบนั้น
“เรื่องบางเรื่องฉันก็ไม่รู้จะอธิบายเป็นคำพูดยังไง จะด้วยสัมผัสที่หก ลางบอกเหตุหรืออำนาจลึกลับอะไรก็แล้วแต่ ทำให้ฉันรู้ฉันเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่รู้ไม่เห็น จนทุกวันนี้ใครๆก็มองฉันไม่ต่างจากตัวตลก”
นมแสงอึ้งไปอึดใจ ถามเสียงเบาว่าเคยเจอผีเวียงแก้วหรือไม่ ร้อยดาวพยักหน้ารับ...ยิ่งกว่าเจอก็โดนมาแล้ว!
ด้านพ่อปู่...ไปตั้งพิธีปราบผีที่เวียงร้อยดาวในคืนเดียวกัน ผีเวียงแก้วออกมาต้อนรับในสภาพของสร้อยฟ้า พยายามยั่วยวนเต็มกำลังหวังให้เขาเผลอไผลจะได้จัดการขั้นเด็ดขาด แต่จอมขมังเวทไม่หลงกลง่ายๆ ด่ากราดให้ยอมจำนนเพราะไม่มีทางชนะ แต่ผีเวียงแก้วไม่สะทกสะท้าน กลับคืนร่างเดิมแล้วโต้กลับเสียงเครียด
“กรรมที่มึงเคยใช้เดรัจฉานวิชาทำให้คนอื่นต้องเดือดร้อนวิบัติ จะต้องตามสนองมึงในอีกไม่ช้า”
“หุบปากเดี๋ยวนี้ อีร้อยแปดแพศยา...เดี๋ยวก็รู้ ระหว่างมึงกับกู กรรมจะตามสนองใครก่อน”
ผีเวียงแก้วตั้งท่าจะเผด็จศึก แต่พ่อปู่ไม่กลัวหยิบเชือกปะกำมาบริกรรมคาถาและเหวี่ยงใส่ผีร้ายทันที ไฟอาคมลุกพรึบ...ผีเวียงแก้วร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ต้องส่งกระแสจิตไปขอความช่วยเหลือจากร้อยดาวซึ่งผละมาช่วยทันทีพร้อมกับนมแสง แต่ไม่ทันได้ยินจอมขมังเวทตะโกนใส่หน้าผีเวียงแก้วที่กรีดร้องโหยหวน
“เชือกปะกำสะกดวิญญาณมึง พันธนาการให้มึงสิงสู่อยู่ในเสาเอกต้นนี้ตลอดไป ยังไม่พอ...กูจะทรมานมึงยิ่งกว่านั้นอีเวียงแก้ว ทรมานให้สมกับที่มึงทำกับเลือดเนื้อ เชื้อไขของกู”
ผีเวียงแก้วตกใจ ยิ่งเห็นเขาคว้าผ้ายันต์ผืนใหญ่ออกมาพร้อมถังน้ำมันเบนซินเสกมาเตรียมทำพิธีก็ยิ่งร้อนรน
“กูจะเอาน้ำมันเสกเผาทำลายดวงวิญญาณมึงให้มอดไหม้ กลายเป็นจุณไปพร้อมกับซากผุๆของเวียงร้างโกโรโกโสนี้ ไม่ต้องไปผุดไปเกิดกันล่ะมึงคราวนี้”
ร้อยดาวตามมาช่วยแม่ทันเวลา แต่ไม่ทันขยับไปไหนก็ถูกพ่อปู่ล็อกคอจากด้านหลังกะจะเผาให้ตายไปด้วยกัน ผีเวียงแก้วตกใจมาก ตะโกนโหวกเหวกให้ปล่อยตัวลูกสาวคนเดียว แต่จอมขมังเวทไม่ยอม
“ทีมึงยังทำชั่วกับลูกกูได้ แล้วทำไมกูจะทำกับลูกมึงไม่ได้ กูจะสงเคราะห์ให้ไปลงนรกพร้อมๆกับมึงไม่ดีหรือไง”
ร้อยดาวดิ้นรนขัดขืน จนพ่อปู่รำคาญต่อยที่ท้องจนจุกไปกองกับพื้น แถมเหวี่ยงกระเด็นไปกระแทกกำแพงและร่วงลงไปที่ห้องลับใต้ดิน จอมขมังเวทหัวเราะเยาะสะใจ ส่วนผีเวียงแก้วกัดฟันแน่นด้วยความแค้นที่เจียนระเบิด
“มึงทำกับกูยังไม่แค้นเท่ามึงทำกับลูกกู ในเมื่อกูจะต้องแตกดับ กูขอจองเวรส่งมึงลงนรกด้วยน้ำมือกูเอง!”
ผีเวียงแก้วรวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย เผาร่างพ่อปู่ให้ตายทั้งเป็นในเวียงร้อยดาว ส่วนหญิงสาวจากเมืองผู้ดีหอบร่างสะบักสะบอมหาทางออกจากห้องมืดใต้ดิน เจอกับร่างไร้สติของปกรณ์นอนคว่ำหน้าอยู่ เธอตกใจมากและพยายามลากเขาพาหนีด้วยความทุลักทุเลจนหนีออกไปได้ในที่สุด
ooooooo
เปลวไฟโชติช่วงจากเวียงร้อยดาวทำให้คนงานแตกตื่น วิ่งวุ่นดับไฟกันให้อลหม่าน ผีเวียงแก้วเห็นปกรณ์หนีไปกับร้อยดาวก็โกรธมาก ตามไปขัดขวางและอาละวาดจนปกรณ์บาดเจ็บมีแผลฉกรรจ์ที่ขา คนงานแห่กันตามมาและเอะอะโวยวายจะจับตัวปกรณ์จนเขาต้องหนีกระเจิง ร้อยดาวร้องห้ามแต่ไม่ทันขยับตัวก็ต้องปวดตาจนก้าวขาไม่ออก!
ฝ่ายปกรณ์หนีกระเซอะกระเซิงไปทางด้านหลังของเวียงร้อยดาว คนงานตามติดหมายจะจับตัว แต่ช้ากว่าผีเวียงแก้วที่ตามหลอกหลอนจนเขาพลาดตกลงแม่น้ำซึ่งมีกระแสเชี่ยวกราก ส่วนร้อยดาวได้รับการช่วยเหลือจากนมแสงกับสิบทิศซึ่งวิ่งมาดูเพราะเห็นเปลวไฟลิบๆจากวังเวฬุมาศและเสียงเอะอะของเหล่าคนงาน
เหตุการณ์ไฟไหม้เวียงร้อยดาวทำให้สมาชิกในบ้านแตกตื่น โดยเฉพาะสามสะใภ้ที่เดากันต่างๆนานาว่าคงมีพวกไม่หวังดีลอบวางเพลิง ดำรงไม่อยากเชื่อใครนัก แต่เมื่อฟังผลการสืบสวนจากปรมัตถ์ซึ่งประสานงานกับทางตำรวจก็ได้แต่นิ่วหน้า ยิ่งได้ฟังจากบังหนั่นว่ามีชายท่าทางประหลาดวิ่งออกจากเวียงร้อยดาวก็ยิ่งข้องใจหนัก แต่ไม่ทันที่ทุกคนจะพูดอะไรมาก รอยกากบาทอีกรอยบนเพดานโถงใหญ่ก็หายวับไปราวกับไม่เคยมีมาก่อน
เรื่องวุ่นวายเมื่อคืนทำให้ดำรงเครียดหนัก ครุ่นคิดตลอดเวลาว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ที่เวียงร้อยดาว ดาหลากับปรมัตถ์รับหน้าที่พาประมุขใหญ่แห่งบ้านบดินทร์ธรมาเดินเล่น พยาบาลสาวสงสัยไม่แพ้ดำรงเลยถือโอกาสถามซื่อๆ
“หรือว่ารอยกากบาทลึกลับนั่นเป็นลางบอกเหตุร้ายที่เกิดขึ้นในบดินทร์ธรเหมือนอย่างที่คุณหนูร้อยดาวเคยบอก”
“ถึงอย่างไร ผมก็เชื่อในคำอธิบายที่วิทยาศาสตร์พิสูจน์ได้มากกว่า” ปรมัตถ์แย้ง
ดำรงกระแทกไม้เท้า พูดแทรกเสียงเข้ม “แกมันกบในกะลาเจ้าปรมัตถ์ ยังมีเรื่องลี้ลับอีกตั้งมากมายบนโลกใบนี้ที่ยังหาข้อพิสูจน์ไม่ได้ทางวิทยาศาสตร์ แล้วนี่แม่ม้าดีดกะโหลกเป็นอย่างไรบ้าง”
ดาหลาบอกว่าสิบทิศคอยดูแลตั้งแต่เช้า ปรมัตถ์ทนฟังไม่ไหวเพราะแสลงใจจึงขอตัวจากไปดื้อๆ พยาบาลสาวมองตามเศร้าๆ ดำรงเฝ้ามองทั้งสองจนพอจะเข้าใจสถานการณ์ว่าคงเป็นรักสามเส้า...
เวลาเดียวกันที่ห้องนอนของปกรณ์...สิบทิศตรวจดวงตาร้อยดาวอย่างละเอียดแต่ไม่เห็นความผิดปกติใดๆ เขาสันนิษฐานว่าอาจเป็นอาการชั่วคราวเพราะเพิ่งผ่านเหตุการณ์ร้ายแรง แต่ร้อยดาวไม่คิดเช่นนั้น
“ดิฉันเตรียมใจไว้นานแล้ว ถ้าตาทั้งสองข้างต้องบอดสนิทจริง ดิฉันก็ไม่เสียใจ ที่มองเห็นได้จนถึงวันนี้ก็นับว่าโชคดีที่สุด อย่างน้อย...ดิฉันก็ได้กลับมาเห็นเวียงร้อยดาวด้วยดวงตาคู่นี้”
สิบทิศสงสาร สัญญาเสียงอ่อน “ฉันจะพยายามทุกวิธีให้เธอกลับมามองเห็นอีกครั้งให้ได้ร้อยดาว”
กระถินแอบได้ยินว่าร้อยดาวมีอาการเหมือนคนตาบอด จึงรีบมารายงานสามสะใภ้ เต็มเดือนนิ่งเฉยเหมือนไม่รับรู้ใดๆ ต่างจากอีกสองสะใภ้ที่สะใจมากเพราะเสี้ยนหนามคนสำคัญโชคร้าย แต่ทั้งสองก็ไม่วายทะเลาะกันเสียงดังเมื่อถกเรื่องสิบทิศว่าจะเลือกลูกสาวใครเป็นคู่หมั้นแทนร้อยดาว กระถินมองทั้งสองตบตีด้วยแววตาตื่นๆ เต็มเดือนเลยยุให้เอาน้ำสาด การณ์เลยกลับกลายเป็นว่ากระถินถูกสองสะใภ้ตบตีจนน่วมแทน
ooooooo
อาการตาบอดอย่างหาสาเหตุไม่ได้ของร้อยดาวทำให้ดำรงเป็นกังวล ความรู้สึกผิดในใจผุดขึ้นเรื่อยๆที่ละเลยหลานสาวคนนี้จนเกิดเรื่องร้ายแรง เมื่อทนไม่ไหวเลยตัดสินใจมอบหมายให้ดาหลาตามดูแลอย่างใกล้ชิด พยาบาลสาวไม่รังเกียจจะรับหน้าที่แต่เป็นห่วงเขามากกว่าจะไม่มีใครดูแลเหมือนเคย แต่ดำรงไม่สนใจ
“แม่ร้อยดาวตาบอดมองอะไรไม่เห็น ฉันเป็นปู่ จะให้เฉยเป็นทองไม่รู้ร้อนได้อย่างไร ตั้งแต่เล็กจนโต ฉันทอดทิ้งหลานสาวคนนี้ไม่เคยดูดำดูดี ฉันอยากจะทำอะไรให้เขาบ้าง ช่วยดูแลแม่ม้าดีดกะโหลกแทนฉันทีเถอะนะแม่ดาหลา”
ด้านสิบทิศ...ยืนยันไม่ยอมเลื่อนวันหมั้นกับร้อยดาว รัตนากรอดแปลกใจไม่ได้เพราะคิดว่าเขาอาจฉวยเป็นข้ออ้างไม่ยอมเข้าพิธี ราชนิกุลหนุ่มไม่ทันเก็บอาการและแสดงออกนอกหน้าว่าเป็นห่วงว่าที่คู่หมั้นมาก ถึงขั้นตามไปดูแลถึงห้องส่วนตัวของเธอในบ่ายวันเดียวกัน สภาพร้อยดาวที่ช่วยตัวเองลำบากทำให้เขาสงสารจับใจ พยายามช่วยเหลือโดยไม่แสดงตัวแต่เธอก็จับได้ เขาเลยต้องแกล้งแขวะกลบเกลื่อนความรู้สึกแท้จริง
“เธอนี่สมเป็นม้าดีดกะโหลกเหมือนที่คุณท่านว่าไม่มีผิด เห็นทีฉันคงต้องคอยดูแลเธออย่างใกล้ชิด”
“คุณชายเข้ามาในห้องดิฉันได้อย่างไรคะ”
“แล้วทำไมฉันถึงจะเข้ามาในนี้ไม่ได้ คุณปู่ของเธออนุญาตให้ฉันเข้าออกบดินทร์ธรได้ทุกเมื่อที่ฉันต้องการ”
“แต่ดิฉันเป็นผู้หญิง อยู่กับคุณชายในที่ลับตาตามลำพังสองต่อสอง ใครเห็นเข้าจะไม่ดี”
“เธออยู่ในฐานะว่าที่คู่หมั้นของฉัน ฉันมาดูแลเธอไม่ดีตรงไหน”
ร้อยดาวพยายามปฏิเสธ ไม่อยากให้เขาต้องขลุกกับเธอ เดี๋ยวโรคประจำตัวจะกำเริบ สิบทิศกลั้นหัวเราะแทบตายเมื่อได้ยินเหตุผล เกือบลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเคยหลอกเธอไว้...ไม่เป็นไรหรอกน่า อาการฉันมันเป็นๆหายๆ!
เวลาเดียวกันอีกฟากของบ้านบดินทร์ธร...วีระวิทย์ นอนผิวปากสบายอารมณ์ในห้องพักส่วนตัว กระถินแอบเข้ามาหาและยั่วยวนด้วยความเสน่หา วีระวิทย์พยายามบ่ายเบี่ยง แต่สุดท้ายก็ทนไม่ไหวยอมให้เธอโอ้โลมปฏิโลมอย่างเร่าร้อน ตะกรุดที่คอถูกถอดไปพร้อมกับเสื้อ พร้อมผ้าถุงของกระถินที่ถูกโยนตามมา สองหนุ่มสาวนัวเนียกันบนเตียง ไม่รู้เลยว่าได้ทำให้ตะกรุดเสื่อม หมดความศักดิ์สิทธิ์และคุ้มครองใครไม่ได้อีกต่อไป
ฟากสิบทิศดูแลปรนนิบัติร้อยดาวไม่ห่าง ทั้งป้อนข้าวและยาจนหญิงสาวรู้สึกแปลกๆ มาร์คก้าวพรวดมาขัดจังหวะ โวยวายใหญ่โตที่เพื่อนสาวต้องตาบอดโดยหาสาเหตุไม่ได้ แถมคุณชายหมอว่าที่คู่หมั้นยังช่วยอะไรไม่ได้สักอย่าง สิบทิศชักฉุนโต้ว่าทำทุกอย่างเต็มที่แล้ว แต่มาร์คไม่สนจะพาร้อยดาวกลับอังกฤษท่าเดียว สิบทิศไม่ยอม ประกาศกร้าวว่าเธอเป็นคนไข้ในความดูแลของเขา แถมยังอยู่ในฐานะพิเศษ
“ร้อยดาวเป็นคู่หมั้นของผม ผมมีหน้าที่ต้องดูแลเธอ ไม่ใช่คนอื่น”
“เคยถามเพื่อนไอบ้างไหม ว่าเต็มใจเป็นคู่หมั้นยูหรือว่าถูกบังคับ”
มาร์คโต้กลับเสียงแข็ง สิบทิศเลยโบ้ยไปทางร้อยดาวให้เธอตัดสินใจ แล้วเขาก็ไม่ผิดหวัง
“มาร์ค....ไอไม่ไปไหนทั้งนั้น ไอจะอยู่ที่นี่ ส่วนตาของไอจะกลับมามองเห็นอีกครั้งหรือไม่ ก็สุดแท้แต่โชคชะตา”
กว่าวีระวิทย์กับกระถินจะผละจากกันก็บ่ายจัด แต่ต้องวิ่งใส่เสื้อผ้ากันให้วุ่นเมื่อสร้อยฟ้ามาเคาะประตู กระถินกระโจนเข้าตู้เสื้อผ้า ส่วนวีระวิทย์คว้าเสื้อมาสวมลวกๆพร้อมตะกรุดที่เขาคิดว่ายังศักดิ์สิทธิ์ แต่โชคก็ไม่เข้าข้างกระถินเมื่อสร้อยฟ้าเห็นชายผ้าถุงแลบจากตู้เสื้อผ้า ยิ่งเมื่อเห็นว่าเป็นสาวใช้คนสนิทเลยด่าไม่ยั้ง
“กินบนเรือน ขี้รดบนหลังคา ร่านอยากได้ลูกกูเป็นผัวจนตัวสั่นริกๆ ผู้หญิงอย่างมึงมันก็แค่ดอกไม้ริมทาง ลูกกูไม่สิ้นคิดเอามาเสียบใส่แจกันให้เป็นเสนียดหรอก เพราะอะไรน่ะเหรอ...เพราะผู้หญิงอย่างมึงมันดอกไม้สีทองไง!”
วีระวิทย์ถลาไปห้ามแม่ กลัวคู่ขาจะตายคามือ แต่กระถินไม่กลัว ยื่นหน้าพร้อมเย้ยด้วยน้ำเสียงเป็นต่อ
“ก็เอาสิ...เอาเลย ตบให้ตาย...ตายไปซะพร้อมๆกับสายเลือดบดินทร์ธรที่อยู่ในท้องนี่แหละ”
กระถินลอยหน้าลอยตาอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า สร้อยฟ้าได้แต่พูดไม่ออก อยากตบให้ตายแต่ต้องยั้งไว้แล้วค่อยหาทางจัดการทีหลัง...อย่าหวังเลยว่าแกจะได้ชูคอเป็นคุณนายในบ้านบดินทร์ธร!
ooooooo
ร้อยดาวไม่ปักใจเชื่อว่าปกรณ์จะตายจริงอย่างที่ผีเวียงแก้วบอกเมื่อคืน เธอพยายามซักถามจากคนรอบตัวว่ามีใครเห็นชายแปลกหน้าท่าทางมอซอป้วนเปี้ยนระหว่างเหตุเพลิงไหม้ที่เวียงร้อยดาวหรือไม่ น่านฟ้ายืนยันว่าจมน้ำตายไปแล้ว แต่ร้อยดาวไม่เชื่อจนปรมัตถ์ต้องเอาใบมรณบัตรมาให้ดู
ร้อยดาวหน้าเสีย ไม่อยากเชื่อเพราะมีอะไรขัดกันหลายอย่าง ปรมัตถ์ยืนกรานว่าตามกฎหมายปกรณ์ถือเป็นบุคคลสาบสูญเพราะไม่มีใครหาร่างเขาเจอหลายปี ดังนั้น มรดกทุกชิ้นจึงตกทอดแก่ทายาทที่มีสิทธิ์ตามพินัยกรรม
น่านฟ้าสนับสนุนเต็มที่เพราะหากปกรณ์ยังมีชีวิตจริงก็น่าจะกลับบ้านแล้ว ร้อยดาวเลยต้องบอกความจริงในคืนเกิดเหตุ
“คืนที่เกิดไฟไหม้ ดิฉันเป็นคนช่วยคุณพ่อปกรณ์ให้หนีออกมาจากคุกใต้ดินที่เวียงร้อยดาว”
ทุกคนอ้าปากค้าง และพากันไปสอบถามเรื่องราวจากบังหนั่นซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ตลอด แต่คนเฝ้าประตูเก่าแก่ยืนยันไม่รู้ไม่เห็น เพราะถ้าเป็นปกรณ์จริงเขาคงหนีป่าราบแล้ว ร้อยดาวนิ่วหน้า เหตุผลเขาหนักแน่นไม่น้อย บังหนั่นมองคุณหนูคนเล็กแห่งบ้านบดินทร์ธรด้วยสีหน้าแปลกใจ ไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีห้องลับใต้ดินที่เวียงร้อยดาว
ร้อยดาวเก็บความสงสัยไปคิดจนดึก และผล็อยหลับในเวลาไม่นานเพราะเหนื่อยติดต่อกันหลายวัน ผีเวียงแก้วโผล่มาหาลูกสาวกลางดึกคืนนั้น พร้อมคำต่อว่ามากมายที่เธอริอ่านปล่อยตัวปกรณ์ ร้อยดาวจะอธิบายแต่ผีร้ายไม่ฟัง
“ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่ แกทำฉันเจ็บแสบมากนังร้อยดาว ฉันอุตส่าห์ไว้เนื้อเชื่อใจแก เพราะอย่างน้อยแกก็มีสายเลือดของฉันอยู่บ้าง ไม่นึกเลยว่าแกจะกล้าปล่อยศัตรูตัวฉกาจของฉัน...นังทรยศ!”
“ผู้ชายคนนั้นคือคุณพ่อปกรณ์ใช่ไหมคะ คุณพ่อยังไม่ตายแต่ทำไมถึงถูกขังในห้องใต้ดินในเวียงร้อยดาวได้”
“ฉันนี่แหละเป็นคนจับมันมาขังเอาไว้เอง”
ร้อยดาวอ้าปากค้าง และจมไปกับเรื่องในอดีตที่ผีเวียงแก้วทำให้เห็น ตั้งแต่วันที่ปกรณ์ประสบอุบัติเหตุรถยนต์เมื่อหลายปีก่อนจนกลายเป็นบุคคลสาบสูญ แต่ใครจะรู้ความจริงว่าเขาถูกผีเวียงแก้วที่หลอกหลอนจนรถเสียหลักร่วงตกสะพาน เมื่อรู้สึกตัวและพยุงร่างสะบักสะบอมไปตามถนนจึงพบผีเวียงแก้วที่ดักรอและพาเขาไปขังในห้องลับใต้เวียงร้อยดาว ทรมานต่างๆนานาจนเขาแทบขาดใจ ต้องอ้อนวอนให้ปล่อยตัวด้วยความเวทนา แต่ผีเวียงแก้วก็ไม่ยี่หระ
“นี่ยังน้อยไปหากเทียบกับความทุกข์ทรมานที่ข้าเจ้าได้รับ ข้าเจ้าถูกกระทำย่ำยีอย่างโหดเหี้ยมไม่ต่างจากสัตว์ ไอ้หกคนนั่นมันผลัดกันขืนใจข้าเจ้าคนแล้วคนเล่า ไม่รู้จักพอ พวกมันเสพสุข ส่วนข้าเจ้าทุกข์ทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น แทนที่คุณพี่จะช่วยน้อง กลับหูเบาเชื่อคำยุยงหาว่าข้าเจ้าเป็นหญิงแพศยากาลี...ร่านชู้!”
“ฉันผิดไปแล้ว ยกโทษให้ฉันเถอะนะเวียงแก้ว”
“ยกโทษหรือ ไม่มีวัน...คนอย่างข้าเจ้าเจ็บแล้วรู้จักจำ ข้าเจ้าจะทวงหนี้แค้นกับไอ้อีทุกคนที่ทำกับข้าเจ้าไว้ ให้มันตายทีละคนอย่างทุกข์ทรมาน ไม่ต้องกลัวนะเจ้า...ในฐานะที่คุณพี่เป็นสามี ข้าเจ้าจะไม่ทำอะไรจนกว่าจะฆ่าทุกคนครบ”
ร้อยดาวดึงตัวเองออกจากภาพในอดีต ไม่คิดว่าแม่จะอาฆาตพยาบาทรุนแรงขนาดนี้ ผีเวียงแก้วปรายตามองลูกสาวเคืองๆ ต่อว่าด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราดที่เธอบังอาจทำให้แผนล้างแค้นต้องล้มไม่เป็นท่า ร้อยดาวไม่หวั่นโต้กลับ
“แต่ในที่สุดคุณพ่อก็ตายด้วยน้ำมือคุณแม่อยู่ดี คุณแม่ฆ่าคุณพ่อปกรณ์ทำไมคะ”
“แกไม่รู้จริงๆหรือว่าแกแกล้งโง่กันแน่ ฉันทำให้แกเห็นในสิ่งที่คนอื่นไม่มีสิทธิ์เห็นด้วยดวงตาคู่นี้ แต่แกกลับมาถามโง่ๆว่าฉันฆ่ามันทำไม เลือดชั่วๆของพ่อในตัวแกมันคงข้นกว่าเลือดในอกฉันสินะ”
“คุณแม่คะ...เลิกอาฆาตพยาบาทจองเวรคนอื่นเสียทีเถอะนะคะ ดวงวิญญาณของคุณแม่จะได้ไปสู่สุคติ”
“หุบปาก...ไม่ต้องมาสั่งสอนฉัน นังลูกชั่ว...ในเมื่อแกยังหลงผิดเข้าข้างไอ้พวกต่ำช้าสาระยำ ไม่รู้ดีรู้ชั่ว ก็สาสมแล้วที่ดวงตาแกจะมืดบอดอย่างนี้ รอให้ตาสว่างเมื่อไหร่ ฉันจะทำให้แกกลับมามองเห็นอีกครั้ง”
ผีเวียงแก้วหายวับไป และพุ่งไปสิงร่างวีระวิทย์เพื่อรักษาตัวให้มีพละกำลังมากขึ้น ไม่มีใครผิดสังเกตเพราะคิดว่าตะกรุดอาคมของพ่อปู่ยังใช้ได้ผล ส่วนดาราเรศผูกใจเจ็บร้อยดาวมากที่ได้หมั้นหมายกับสิบทิศ จึงตัดสินใจบุกถึงห้องเพื่อฆ่าให้หายแค้น ร้อยดาวเกือบจะเสียท่าเพราะถูกจับมัดมือมัดเท้า แต่จู่ๆดาราเรศก็หายตัวไปเสียก่อนเพราะถูกใครบางคนลากตัวไป หญิงสาวจากเมืองผู้ดีคิดว่าคงต้องนอนท่านั้นจนเช้า ถ้าดาหลาไม่ผ่านมาพบเสียก่อน
ooooooo
บุคคลลึกลับที่จับตัวดาราเรศไป แท้จริงก็คือวีระวิทย์ซึ่งถูกผีเวียงแก้วเข้าสิง เขาไม่รู้ตัวและจัดแจงลากน้องสาวคนเดียวไปขังที่ห้องลับใต้เวียงร้อยดาว ส่วนดาหลาตกใจมากเมื่อทราบเรื่องจากร้อยดาวว่าถูกดาราเรศดักทำร้าย เช้าวันต่อมาจึงรีบรายงานให้ดำรงทราบ แต่เหมือนจะไม่ค่อยมีคนเชื่อ โดยเฉพาะสามสะใภ้แห่งบ้านบดินทร์ธร
สร้อยฟ้าปกป้องลูกสาวสุดกำลัง ยืนยันหัวชนฝาว่าดาราเรศไม่มีทางทำเรื่องแบบนั้นแน่เพราะออกไปเที่ยวตั้งแต่เมื่อคืนและยังไม่กลับ ร้อยดาวพยายามแย้งแต่เหมือนสามสะใภ้จะไม่เปิดโอกาส ดาหลาจึงต้องเสนอตัวเป็นพยานแต่เหมือนไม่ค่อยมีน้ำหนักนัก ดำรงเลยตัดปัญหาไล่ทุกคนออกจากห้อง แต่ไม่วายสั่งให้ดาหลากับนมแสงดูแลร้อยดาวมากกว่าเดิม ไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบนี้อีก อดเป็นห่วงร้อยดาวไม่ได้ที่ต้องตาบอดและเจอเรื่องแย่ๆแบบนี้
ฟากน่านฟ้าตาโตด้วยความตื่นเต้นเมื่อทราบเรื่องที่เกิดขึ้นกับร้อยดาวเมื่อคืนก่อน ตั้งท่าจะซักไซ้ถึงเหตุการณ์สุดระทึกและตั้งข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับคนร้าย แต่ความคิดที่ว่าต้องพังราบไม่เป็นท่าเมื่อสิบทิศซึ่งมาดูอาการร้อยดาวมาเห็นเธอเสียก่อนและต่อว่าด้วยความโกรธจัดที่หนีออกจากวังจนทำให้ทุกคนเป็นห่วงจนแทบบ้าตาย
“พี่ชายไม่เคยสนใจหญิงหรอก พี่ชายมองเห็นแต่ตัวเอง คอยบงการชีวิตหญิงให้เป็นอย่างที่พี่ชายต้องการ รู้ไหมว่าที่ผ่านมาหญิงอึดอัดแค่ไหน ทำไมพี่ชายถึงไม่ยอมปล่อยให้หญิงตัดสินใจเลือกทางเดินชีวิตของตัวเองบ้าง”
“พี่อาบน้ำร้อนมาก่อน ย่อมรู้ดีว่าอะไรเป็นอะไร”
“บางทีการที่ผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนมาก่อน อาจทำให้ลืมว่าการอาบน้ำเย็นเมื่อตอนเด็กๆก็ชื่นใจดีไม่ใช่หรือคะ”
สิบทิศอึ้งไปเมื่อเจอกับเหตุผลน้องสาว แต่เพราะทิฐิจึงยังใจแข็งไม่อ่อนข้อและสั่งเด็ดขาดให้เก็บกระเป๋ากลับวัง ร้อยดาวทนไม่ไหวจะช่วยพูด แต่เขาไม่ฟังแถมยังโต้กลับเคืองๆ
“น่านฟ้าจะต้องเรียนรู้การใช้ชีวิต ไม่ใช่เล่นเหลวไหลไร้สาระไปวันๆ”
“ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ก็เรียนการใช้ชีวิตได้ทั้งนั้น ไม่เห็นจำเป็นต้องส่งคุณหญิงไปอยู่กรุงเทพฯเลยนี่คะ”
“อยู่ที่นี่มีท่านป้าคอยให้ท้ายจนน่านฟ้ากลายเป็นเด็กหัวดื้อ เอาแต่ใจตัวเอง ไม่รู้จักโตเป็นผู้ใหญ่เสียที”
“ทำไมคุณชายไม่คิดบ้างล่ะคะว่าสาเหตุที่ทำให้ท่านหญิงรัตนากรมีกำลังใจต่อสู้กับโรคมะเร็งร้ายได้จนทุกวันนี้ เป็นเพราะมีหลานสาวน่ารักอย่างคุณหญิงน่านฟ้า เป็นความสุขที่หล่อเลี้ยงพระทัยให้มีความหวังคืนมาอีกครั้ง”
เหตุผลของร้อยดาวทำให้สิบทิศคิดหนัก ใจอ่อนยวบเมื่อคิดถึงอาการเจ็บป่วยของรัตนากร น่านฟ้าเดินหน้ามุ่ยมาพร้อมกระเป๋าเดินทาง ราชนิกุลหนุ่มมองมาด้วยแววตานิ่งเฉยและสั่งให้กลับวัง น่านฟ้าประชดประชันต่างๆนานาเพราะคิดว่าเขาจะให้เตรียมตัวไปกรุงเทพฯ แต่ต้องยิ้มกว้างเมื่อเขาบอกสั้นๆว่าจะให้กลับวังไปดูแลรัตนากรต่างหาก!
น่านฟ้าดีใจมาก เมื่อกลับถึงวังก็ตรงไปกราบหม่อมป้าและขอโทษเสียงอ่อนที่หนีออกจากวัง ทำให้ต้องเป็นห่วงกันทั้งบ้าน สิบทิศบ่นกระปอดกระแปดถึงความดื้อรั้นของน้องสาว และพาลถึงร้อยดาวซึ่งจงใจปกปิดเขาเรื่องแอบให้ที่ซ่อนตัวกับน่านฟ้า แต่ที่ทำให้เขาโกรธกว่าเดิมคือรัตนากรสารภาพหน้าตายว่ารู้อยู่แล้วว่าน่านฟ้าอยู่กับร้อยดาว
“หนูร้อยดาวเป็นคนบอกป้าเองว่าน่านฟ้าพักอยู่กับเขา และรับปากว่าจะดูแลหญิงให้ป้าถึงเบาใจ”
สิบทิศหัวเสียมากเมื่อรู้ว่าถูกหลอกมาตลอด น่านฟ้าต้องขอโทษอยู่นานและแกล้งถามถึงร้อยดาว
“พี่ควรโมโหไหมล่ะ ร้อยดาวไม่เคยบอกให้พี่รู้สักนิดว่าหญิงไปอยู่ด้วย ปล่อยให้พี่เป็นห่วงแทบบ้า”
น่านฟ้าหน้าเสีย รู้สึกผิดไม่น้อยที่ทำให้เขาเป็นห่วง แต่สิบทิศไม่สนและโทษแต่ร้อยดาวว่าเป็นตัวการใหญ่!
ooooooo
สร้อยฟ้าเจ็บใจกระถินไม่หายที่บังอาจลักลอบสมสู่กับลูกชายคนเดียวจนตั้งท้อง จึงคิดแผนชั่วหลอกล่อให้สาวใช้ว่าที่ลูกสะใภ้ตายใจและไม่ปริปากเรื่องท้องกับคนในบดินทร์ธร กระถินตามไม่ทันและตาโตเมื่อสร้อยฟ้ายื่นกำไลข้อเท้าทองสำหรับเด็กไว้รับขวัญหลาน แถมแกล้งพูดว่ายอมรับในตัวเธอแต่ยังมีอุปสรรคสำคัญอีกอย่าง
“ไม่รู้ว่าคนแก่หัวโบราณคร่ำครึอย่างคุณพ่อ ถ้ารู้ว่าตาวิทย์ชิงสุกก่อนห่าม ทำผู้หญิงท้องตั้งแต่ก่อนเรียนจบ จะรับได้เหมือนฉันหรือเปล่า ดีไม่ดีจะถูกเขี่ยออกจากกองมรดก คราวนี้...ทั้งแกทั้งลูกจะพลอยชวดสมบัติไปด้วย”
“ถึงอย่างไรเด็กในท้องก็ได้ชื่อว่าเป็นบดินทร์ธร ใครจะยอมให้ตัดง่ายๆ เราจะทำอย่างไรกันดีคะคุณสร้อยฟ้า”
“อยู่เฉยๆ อย่าเพิ่งให้ใครรู้เรื่องแกท้อง โดยเฉพาะนังเต็มเดือนกับนังจงจิตร ที่เหลือ...ปล่อยเป็นหน้าที่ฉันเอง”
ฝ่ายเต็มเดือนกับจงจิตรเอาอกเอาใจดำรงสารพัดด้วยการทำอาหารและชาร้อนๆผสมสมุนไพรพิษไปให้ แต่ประมุขใหญ่แห่งบ้านบดินทร์ธรรู้ทันปฏิเสธเสียงเรียบและถามถึงดาราเรศ จงจิตรอดไม่ได้ค่อนแคะหลานสาวว่าคงไม่กลับถ้าไม่ส่งคนไปตาม ดำรงไม่ชอบใจนักเลยถามถึงดารกาแทนว่าหมู่นี้หายหน้าหายตาไปไหน สะใภ้สองหน้าเจื่อนตอบเสียงเบาว่าลูกสาวอ่านหนังสือในห้อง เต็มเดือนเบ้หน้า รู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับดารกา...เป็นบ้าไปแล้วมั้ง!
เวลาเดียวกัน...คนที่ทุกคนกำลังพูดถึงนั่งเขียนชื่อร้อยดาวด้วยปากกาหมึกแดงบนกระดาษ แสยะยิ้มเหมือนคนเสียสติและแช่งให้อีกฝ่ายตายตกนรกหมกไหม้เร็วๆ ผีเวียงแก้วได้ยินทุกอย่างและหาเรื่องหลอกหลอนจนดารกาแทบคลั่ง จงจิตรเข้ามาเห็นลูกโวยวายเหมือนคนบ้าจึงไปปลอบขวัญด้วยความเวทนา ผีเวียงแก้วยิ้มเยาะ...สะใจจริงๆ
ฟากร้อยดาวมองอะไรไม่เห็นแต่ไม่ใจเสีย พยายามดูแลตัวเองเต็มกำลังแต่เหมือนไม่ค่อยได้เรื่องนัก สิบทิศมาดูแลเหมือนเคยและมองเศษแก้วน้ำบนพื้นด้วยความอ่อนใจ แกล้งดุเสียงเข้มแต่ก็ส่งแก้วใบใหม่ให้ ร้อยดาวหน้าขรึมลงเล็กน้อย นึกเคืองปนน้อยใจที่เขาต่อว่าเธอให้เสียอารมณ์
“ดิฉันก็แค่อยากช่วยเหลือตัวเองบ้าง ไม่ได้ต้องการสร้างปัญหาให้ใคร ถ้าดิฉันทำให้คุณชายต้องลำบาก ต่อไปนี้ก็จะไม่ขอเป็นภาระรบกวนคุณชายให้เดือดร้อนรำคาญอีก”
“อย่าอวดดี...ฉันยังไม่ได้คิดบัญชีที่เธอปกปิดฉัน ให้น่านฟ้ามาพักที่นี่โดยพลการ ปล่อยให้ฉันตามหาตั้งนาน”
“พี่ชายจอมเผด็จการชอบบังคับขู่เข็ญน้องสาวให้ทำโน่นนี่ตามอำเภอใจ ได้รับบทเรียนบ้างก็สมควรแล้วนี่คะ”
“ถ้าอย่างนั้น ฉันจะให้บทเรียนกับคนอวดดีอย่างเธอ ฉันจะปราบม้าดีดกะโหลกอย่างเธอให้พยศ!”
สิบทิศแกล้งยื่นหน้าไปใกล้จะหอมแก้ม ร้อยดาวเบือนหน้าหนี ยกมือผลักอกเขาท่าทางหวาดกลัว พลางตะโกนเรียกนมแสงกับดาหลา แต่เมื่อทั้งสองเข้ามาจริงๆ กลับพูดไม่ออก กระดากจะแก้ตัวว่ากลัวถูกสิบทิศปราบพยศ ราชนิกุลหนุ่มเฝ้ามองอากัปกิริยาของว่าที่คู่หมั้นสาวด้วยความเอ็นดู ดีใจที่เธอมีท่าทางเขินอายเหมือนจะมีใจกับเขาบ้าง
นมแสงคอยดูแลร้อยดาวหลังจากนั้นไม่ห่าง ส่วนสิบทิศตรวจดูอาการของเธอจนแน่ใจว่าไม่มีอะไรผิดปกติ หญิงชราคนงานเก่าแก่ของบ้านบดินทร์ธรตัดสินใจถามตรงๆเรื่องพิธีหมั้นว่าจะเลื่อนออกไปหรือไม่เพราะร้อยดาวยังมองไม่เห็น สิบทิศยืนยันตามกำหนดการเดิมแต่เฉไฉไม่ยอมบอกเหตุผลที่แท้จริง
“ฝากเรียนคุณท่านด้วยว่าทางเวฬุมาศไม่ต้องการเลื่อนงานออกไป เพราะถึงช้าหรือเร็วก็ต้องแต่งกันอยู่ดี”
นมแสงพอจะดูออกว่าคุณชายหมอมีใจให้คุณหนูแห่งบ้านบดินทร์ธรไม่น้อย ส่วนร้อยดาวย้อนถามให้แน่ใจว่าเป็นความต้องการของเขาจริงๆ สิบทิศมองมาด้วยสายตาบางอย่าง แต่กลบเกลื่อนทำเป็นไม่แยแส
“ฉันไม่สนใจว่าจะต้องหมั้นกับใครหรอกนะ ฉันสนใจแค่ว่าจะหมั้นเพื่ออะไรต่างหาก”
ขาดคำสิบทิศก็เดินออกจากห้อง ทิ้งร้อยดาวให้ นั่งอึ้ง...น้อยใจที่เขาแต่งงานเพราะหน้าที่ไม่ใช่เพราะรัก
ฝั่งดาหลากับปรมัตถ์เดินคุยกันเรื่องร้อยดาวถูกทำร้ายเมื่อคืน พยาบาลสาวมั่นใจว่าเป็นคนในบ้านบดินทร์ธรเพราะบุกถึงห้องนอนอย่างอุกอาจ ปรมัตถ์ยังคาใจเพราะไม่คิดว่าคนครอบครัวเดียวกันจะกล้าทำขนาดนี้ ดาหลายิ้มบางๆแล้วเล่าเรื่องในอดีตว่าเคยคิดอยากมาอยู่คฤหาสน์ใหญ่โตโอ่อ่านี้ตั้งแต่แรกเห็นเพราะคิดว่าคงอยู่สบาย ปรมัตถ์บอกว่าเธอโชคดีกว่าใครที่มีโอกาสใช้ชีวิตและเติบโตในบ้านสวยงามหลังนี้ แต่เธอกลับย้อนเสียงอ่อน
“การได้ขึ้นไปอยู่บนนั้น ทำให้ฉันรู้ว่าตึกใหญ่หรูหรา แท้จริงแล้วมีแต่ความเงียบเหงา อาจเป็นเพราะความรู้สึกอ้างว้างและโดดเดี่ยว ทุกคนจึงเกิดความระแวงในกันและกัน พยายามแก่งแย่งเพื่อครอบครองทรัพย์สมบัติทั้งหมด ทำให้ติดบ่วงของกิเลสตัณหาและหลงระเริงไปกับมัน ถึงขนาดทำร้ายกันเองก็ไม่กลัว”
แววตาโศกเศร้าของดาหลาทำให้ปรมัตถ์ใจอ่อนยวบ ยิ่งได้ยินเธอบอกว่าดำรงสั่งให้ดูแลร้อยดาวไม่ให้คลาดสายตายิ่งเป็นห่วง ความรู้สึกหวั่นไหวในใจผลักให้เขาเผลอถามอย่างที่ใจคิด
“แล้วคุณล่ะครับคุณดาหลา มีคนคอยดูแลแล้วหรือยัง”
ดาหลาอึ้งไปอึดใจไม่กล้าสบตาด้วยความเขิน แต่ปรมัตถ์เข้าใจท่าทางนั้นผิดคิดว่าเธอไม่ได้มีใจ เลยเฉไฉแก้เกี้ยวว่าเธอคงต้องดูแลตัวเองเพราะเป็นวิธีดีที่สุด ดาหลาก้มหน้ารับคำ ปิดบังความรู้สึกเสียใจที่เขาไม่สนใจไยดีเธอเลย
ooooooo
ร้อยดาวครุ่นคิดเรื่องแม่จนดึกดื่น เหตุการณ์เลวร้ายที่ผ่านมาทำให้รู้สึกแย่และอยากจะจบเรื่องราวเหล่านี้โดยเร็ว ด้วยการหาวิธีส่งวิญญาณของแม่ไปสู่สุคติ ผีเวียงแก้วได้ยินความคิดลูกสาวจึงปรากฏตัวให้เห็นและประกาศกร้าวไม่ยอมไปไหนจนกว่าจะล้างแค้นหมด ร้อยดาวพยายามกล่อมให้เลิกอาฆาตพยาบาทแต่ผีร้ายไม่ฟัง
“การแก้แค้นของฉันกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม ตราบใดที่คนชั่วมันยังลอยนวล วิญญาณของฉันก็ไม่มีวันสงบ”
“จะต้องมีคนตายอีกกี่ศพคะ คุณแม่ถึงจะหายแค้น”
“อย่ามาขึ้นเสียงกับฉันนะนังลูกไม่รักดี ฉันจะบอกให้ก็ได้ เหยื่อรายต่อไปของฉันก็คือนังสร้อยฟ้าไงล่ะ”
ร้อยดาวหายใจไม่ทั่วท้อง ไม่อยากให้แม่ทำบาปอีก ส่วนผีเวียงแก้วหัวเราะลั่นและหายวับไปโผล่ในความฝันของสร้อยฟ้า หลอกหลอนต่างๆนานาจนสะใภ้สามต้องตื่นมาสวดมนต์ยกใหญ่ แต่ผีร้ายไม่กลัวแถมข่มขวัญด้วยการควักลูกตาอีกฝ่ายจนเลือดทะลัก สร้อยฟ้าสติแตกกรีดร้องเสียงดังจนสะดุ้งตื่นและพบว่าเป็นแค่ฝันร้าย แต่ถึงกระนั้นผีเวียงแก้วก็จัดแจงทำให้กรอบรูปของดาราเรศหล่นแตกกระจายบนพื้น สะใภ้สามหน้าเสีย กลัวจะเกิดอะไรขึ้นกับลูก
เวลาเดียวกันที่ห้องลับใต้เวียงร้อยดาว...ดาราเรศถูกผีเวียงแก้วจับไปขังเหมือนกับที่ทำกับปกรณ์ แถมทรมานให้เจอกับความน่ากลัวมากมายจนแทบคลั่ง ผีเวียงแก้วเฝ้ามองด้วยความสะใจและจัดแจงโยนหัวเน่าเฟะของปั้นเป็นของขวัญ ดาราเรศกรี๊ดลั่น จ้องมองซากน่ารังเกียจของอดีตคนขับรถประจำบ้านด้วยแววตาหวาดกลัวสุดขีด
เสียงร้องโหยหวนของดาราเรศทำให้ดำรงสะดุ้งตื่น แต่กลับพบว่าตัวเองนอนอยู่ริมบึงบัวใหญ่ ผีเวียงแก้วนั่นเองที่ดลบันดาลให้เขาเห็นภาพในฝัน และเล่นละครตบตาร้องห่มร้องไห้ขอให้งมศพเธอขึ้นจากน้ำ ดำรงผ่านเรื่องเลวร้ายมามากและอยากรู้ความจริงจึงรับปากเป็นมั่นเหมาะจะรีบจัดการให้ในวันรุ่งขึ้น
ดำรงทำตามที่สัญญากับผีเวียงแก้วจริงๆในเช้าวันต่อมา สามสะใภ้ถึงกับนั่งไม่ติดเพราะกลัวความลับ เปิดเผย ต่างจากร้อยดาว ถอนหายใจด้วยความโล่งใจที่ศพแม่จะได้ประกอบพิธีทางศาสนา นมแสงคอยดูแลไม่ห่างและตัดสินใจถามตรงๆว่าเหตุใดร้อยดาวถึงปักใจว่าศพของเวียงแก้วอยู่ใต้น้ำในบึงบัว
“หากดวงตาคุณหนูมีอำนาจลี้ลับ เห็นในสิ่งที่คนอื่นมองไม่เห็น แล้วตอนนี้วิญญาณคุณเวียงแก้วอยู่ที่ไหนคะ”
“คงวนเวียนอยู่ที่ไหนสักแห่งในบดินทร์ธร รอการแก้แค้นคนที่เคยทำกับท่านเอาไว้”
“หกคนนั่นก็ตายไปแล้ว คุณเวียงแก้วเธอแค้นใครนักหนา ถึงได้ทนทุกขเวทนาเวียนว่ายไม่ยอมไปผุดไปเกิด”
ร้อยดาวจะอธิบายแต่ถูกสร้อยฟ้าซึ่งเดินผ่านมาถลาเข้าชนอย่างหาเรื่อง นมแสงประคองแทบไม่ทัน แต่ถึงกระนั้นร้อยดาวกลับไม่รู้สึกโกรธ กังวลแทนสะใภ้สามมากกว่าว่าอาจถูกผีเวียงแก้วเอาชีวิตจริงๆ สร้อยฟ้า เบ้หน้า ไม่กลัวและไม่สนคำเตือนของร้อยดาวแม้แต่น้อย... คนอย่างฉันไม่เสียท่าใครง่ายๆ ไม่ว่าคนหรือผี จำใส่กบาลเอาไว้!
ดำรงทำพิธีขออนุญาตและอ้อนวอนสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้การงมศพเวียงแก้วผ่านพ้นด้วยดี อย่าได้มีเรื่องเลวร้ายเหมือนที่แล้วมา และทุกคนก็ได้แต่ตะลึงตาค้าง เมื่อเห็นโลงศพหลังใหญ่พร้อมกับโครงกระดูกของเวียงแก้วถูกยกขึ้นมา นมแสงหน้าซีดเผือด ร้องบอกดำรงว่าจำกำไลข้อเท้าของเวียงแก้วได้ สามสะใภ้พูดไม่ออก ไม่อยากคิดว่าจะเกิดอะไรตามมา ส่วนร้อยดาวดีใจจะได้ส่งแม่สู่สุคติ ต่างจากสิบทิศที่ตามมาสบทบดูการงมศพ
“เลือดเย็นจริงๆ แม้แต่คนตายก็ไม่เว้น บดินทร์ธรมีแต่เรื่องน่าอัปยศอดสู เธอยังทนอยู่เข้าไปได้อย่างไร”
ร้อยดาวเข้าใจเขาดี แต่คิดว่าเป็นเรื่องต้องยอมรับมากกว่าโวยวาย แต่คนร้อนรนที่สุดกลายเป็นสามสะใภ้เพราะถูกดำรงต่อว่าและสอบสวนอย่างหนัก ข้อหาปกปิดความจริงเรื่องศพของเวียงแก้ว ทั้งสามพยายามแก้ตัวต่างๆนานา แต่ถูกดำรงสวนกลับอย่างไม่ไว้หน้าว่าเขาคงโง่ดักดานต่อไปถ้าเชื่อคำพูดของพวกเธอ
ร้อยดาวขอร้องให้เผาศพเวียงแก้วเพื่อส่งวิญญาณสู่สุคติ ดำรงเห็นด้วยแต่ผีเวียงแก้วกลับมาหากลางดึกคืนนั้นและอ้อนวอนให้ฝังร่างเธอใต้เวียงร้อยดาวแทน เพราะอยากสิงสถิตที่นั่นซึ่งถือเป็นสถานที่แห่งความรักของเธอกับปกรณ์ ดำรงคิดหนักเพราะใจหนึ่งก็อยากทำอย่างที่หลานขอ แต่ก็เห็นใจผีเวียงแก้วไม่น้อย
ส่วนผีเวียงแก้วโกรธลูกสาวมากที่อยากเผาศพเธอ ร้อยดาวไม่เข้าใจเพราะเป็นสิ่งที่ควรทำเลยถูกต่อว่า
“ในเมื่อแกไม่อยากเห็น ฉันก็ช่วยให้ไม่ต้องเห็น ไม่ช่วยฉันกำจัดศัตรูแล้วยังจะขวางฉันอีก อย่าหวังเลย ว่าชาตินี้ดวงตาแกจะกลับมามองเห็นอีกครั้งนังลูกชั่ว”
ร้อยดาวน้ำตาไหลพราก ผิดหวังในตัวแม่ แต่ผีเวียงแก้วไม่สน มั่นใจว่ากำลังทวงความยุติธรรมให้ตนเอง
“แกยังรู้จักฉันน้อยไป ฉันร้ายได้มากกว่านี้ รอให้กลุ่มดาวนายพรานเจิดจรัสบนฟากฟ้าเมื่อไหร่ แล้วแกจะได้เห็นความร้ายกาจที่แท้จริงของฉัน!”
ooooooo










