สมาชิก

เสือสั่งฟ้า2 พยัคฆ์ผยอง

ตอนที่ 11

คะนึงนิจพากล้าไปพักที่อพาร์ตเมนต์ของตน บอกเขาว่าพักที่นี่สักระยะหนึ่งน่าจะปลอดภัยเพราะเป็นห้องพักเก่าของตนคาด ว่าภูมินทร์คงคิดไม่ถึง

“พี่ขอบใจนิจมากที่เสี่ยงไปช่วยพี่ แต่ทำไม...ทั้งๆที่...”

“ทั้งๆ ที่นิจเป็นน้องพี่ภู...นิจมีคำถาม ขอให้พี่กล้าตอบมาตรงๆ เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องครูเริง  เรื่องดวงใจ แล้วก็เรื่องฉุดวดีไป...พี่กล้าทำหรือเปล่า?” เธอจ้องตากล้ารอคำตอบ

กล้า บอกว่าถึงตนพูดไปเธอก็คงไม่เชื่ออยู่ดี คะนึงนิจยืนยันว่าตนพร้อมจะรับฟัง เพราะตนก็สงสัยหลายอย่างในตัวพี่ชาย ถามว่า “เขาขังพี่กล้า ทรมานพี่กล้าไว้แบบนี้ เขามีส่วนในเรื่องที่เกิดขึ้นใช่ไหมคะ พี่กล้า?”

กล้า ไม่อยากตอบคำถามนี้ จนคะนึงนิจคาดคั้น “ใช่ไหมคะพี่กล้า บอกนิจมาเถอะ” เขาจึงพยักหน้า คะนึงนิจร้องไห้โฮออกมาจนกล้าตกใจถามว่าเกิดอะไรขึ้นหรือ

คะนึงนิจร้องไห้เสียใจมาก คิดถึงตอนที่พ่อกับแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต เธอกับภูมินทร์กอดกันร้องไห้ เธอเล่าปนสะอื้นว่า

“ตั้งแต่ พ่อกับแม่เสียเพราะอุบัติเหตุ เราก็เหลือกันอยู่สองคนพี่น้อง พี่ภูสัญญาว่าจะดูแลนิจ ดูแลปางไม้แทนพ่อกับแม่...เราสองคนอยู่ในปางไม้อย่างมีความสุขตามประสาพี่ น้อง ถึงพี่ภูจะทำงานหนักไปบ้าง แต่เขาก็ดูแลนิจเป็นอย่างดี นิจทั้งรักแล้วก็ภูมิใจมาก ที่มีพี่ชายอย่างพี่ภู...”

สีหน้าคะนึงนิจ เศร้าหมองเมื่อเล่าว่า...จนกระทั่งวันหนึ่ง ที่โรงเก็บไม้ เธอได้ยินเสียงปืนลั่นขึ้นนัดหนึ่ง เธอตกใจมาก แอบดูเห็นภูมินทร์เป็นคนยิงปืนลูกซองใส่ร่างโชคที่ถูกซ้อมปางตายล้มลง เมียของโชคคลานเข้ามาอ้อนวอนขอชีวิต

ภูมินทร์จับมือเมียโชคมาพิมพ์ลายนิ้วมือบนสัญญาซื้อขาย เขายิ้มเหี้ยมก่อนยิงเมียโชคตายไปอีกคน!

คะนึง นิจช็อก รูปภูมินทร์ที่เธอวาดลงสีไว้อย่างสวยงามเพื่อมอบเป็นของขวัญวันเกิดพี่ชาย หลุดจากมือตกกระทบถังเหล็กเสียงดัง ภูมินทร์หันขวับมาตามเสียง!

สองพี่น้องกลับไปคุยกันที่บ้าน คะนึงนิจถามพี่ชายอย่างรับไม่ได้ว่า “แค่เขาไม่ยอมขายที่ให้ ทำไมต้องฆ่าเขาด้วย”

“เธอไม่เข้าใจเรื่องธุรกิจหรอก”

“ธุรกิจสกปรกน่ะซิ!” ผลคือ เธอถูกภูมินทร์ตบหน้าฉาดใหญ่ คะนึงนิจน้ำตาร่วงจ้องหน้าพี่ชายอย่างผิดหวังมาก

กล้า ฟังคะนึงนิจเล่าแล้วถามว่า เธอเลยหนีเข้ากรุงเทพฯ? เธอตำหนิตัวเองว่าโง่เองที่คิดว่าพี่ชายกลับตัวได้แล้วจริงๆ จนกระทั่งได้เจอศรีแพรจึงรู้ความจริง ไม่อย่างนั้นก็คงจะโง่ไปอีกนาน

จาก การเล่าสู่กันฟัง ทำให้กล้ารู้ว่าศรีแพรอยู่ที่บ้านเขากับกระเต็น เธอขอร้องกล้าให้ช่วยเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังได้ไหม ว่าพี่ชายตนทำอะไร ยังไงบ้าง เธอสัญญาว่าจะเป็นพยานให้เขาเอง

ooooooo

ที่ห้องลับตำหนักอาจารย์ยอด สุพจน์สั่งการให้ตำรวจช่วยกันขนวัตถุโบราณในห้องลับออกมา เขาบอกกระเต็นว่า

“วัตถุ โบราณกับของล้ำค่าพวกนี้ ถูกปล้นมาทั้งนั้น เสี่ยไพบูลย์มันคงคิดจะเอาไปปล่อยให้ต่างชาติ พวกหนักแผ่นดิน!” กระเต็นถามว่าหาทั่วแล้วหรือ กล้าไม่ได้อยู่ที่นี่ใช่ไหม “ไม่มีแล้วครับ กล้าไม่ได้อยู่ที่นี่แน่”

“ไม่เป็นไร พวกลูกน้องมันต้องรู้ว่ากล้าอยู่ที่ไหน” หาญเชื่อเช่นนั้น แล้วเดินตรงไปหาเหล็งถามว่า “พวกแกขังกล้าไว้ที่ไหน” เหล็งปากแข็งว่าไม่รู้เพราะพวกตนเป็นแค่ลูกน้องปลายแถว

“ถ้าแกยอมให้ความ ร่วมมือ โทษหนักก็จะเป็นเบา ฉันจะกันแกเป็นพยาน แกจะซื่อสัตย์กับมันไปทำไม ในเมื่อมันเอาตัวรอดแล้วทิ้งพวกแกให้รับโทษ”

“ตกลง ฉันบอกก็ได้ ไอ้กล้าถูกขังไว้ที่...อ๊าก!!!” เหล็งแผดร้องสุดเสียง ลงไปดิ้นทุรนทุรายมีเลือดพุ่งออกจากปากทะลักออกจากตาและจมูก กระเต็นตกใจถามว่าเป็นอะไรจะเข้าไปดู ถูกหาญดึงไว้

พริบตานั้น พวกที่เหลือก็เกิดอาการเดียวกับเหล็ง ดิ้นทุรนทุรายได้อึดใจเดียวก็ขาดใจตาย

“พวกมันโดนยาสั่ง ไอ้ยอดมันอำมหิตนัก” หาญบอกทุกคนหน้าเครียด

ooooooo

คะนึงนิจคิดมากจนฝันร้ายว่ากล้าไปขัดขวางงานแต่งงานของราชาวดีกับภูมินทร์ ราชาวดีบอกว่าตนรู้ความจริงเรื่องกล้าถูกใส่ร้ายหมดแล้ว ขอให้เขาช่วยตนด้วย

กล้าชักปืนออกมาจะยิงภูมินทร์ ราชาวดีถูกภูมินทร์ดึงตัวไปเป็นเป้ากระสุนแทนทำให้กล้าชะงัก สั่งให้ปล่อยราชาวดี ภูมินทร์ท้าว่า “แน่จริงก็ยิงสิวะ!”

“ปล่อยวดีเถอะ พี่ภูทำชั่วมาพอแล้ว ถ้ามอบตัวตอนนี้โทษหนักจะได้เป็นเบา นิจสัญญา ไม่ว่ายังไงนิจก็จะไม่ทิ้งพี่ภู...นิจขอร้อง เชื่อนิจพูดนะ อย่างน้อยก็เห็นแก่วิญญาณพ่อแม่ของเรา” คะนึงนิจขอร้องทั้งน้ำตา

“พี่คงทำให้นิจเสียใจมาก พี่ขอโทษ ตกลง...พี่จะยอมมอบตัวเพื่อนิจ” ภูมินทร์แกล้งตีหน้าเศร้า แต่พริบตานั้นเขาผลักราชาวดีใส่กล้าแล้วพุ่งเข้าไปแย่งปืน ระหว่างนั้นปืนลั่นเปรี้ยง ภูมินทร์สะดุ้งเฮือกหน้าหงาย เขาถูกยิงเข้าแสกหน้าจังๆ!

“พี่ภู...ไม่...” คะนึงนิจร้องสุดเสียง ตกใจเสียงตัวเองเลยตื่นขึ้นมาเหงื่อแตกพลั่ก ร้องไห้อย่างตระหนก

กล้าเข้ามาถามว่าเกิดอะไรขึ้น เธอบอกว่าฝันร้าย กล้าเช็ดน้ำตาให้ด้วยความสงสาร คะนึงนิจมองกล้าอย่างซึ้งใจ แต่พอนึกได้ก็ขยับถอยออกมา ขอร้อง...

“พี่กล้า...นิจรู้ว่าพี่ภูทำผิดไว้มาก แต่...ให้เขาชดใช้ความผิดตามกฎหมายได้ไหม อย่า...อย่าถึงกับต้องฆ่าแกงกันเลย...นิจเหลือพี่ชายอยู่แค่คนเดียว ถ้าเขาเป็นอะไรไป นิจคง...” ก้อนสะอื้นแล่นขึ้นแน่นจนพูดไม่ออก

“พี่จะทำให้ดีที่สุดแล้วกันนะนิจ พี่อยากให้นิจรู้ไว้ นิจไม่ได้มีพี่ชายแค่คนเดียวนะ พี่เองก็รักนิจเหมือนน้องสาวคนนึงเหมือนกัน ให้พี่เป็นพี่ชายอีกคนดีไหม”
คะนึงนิจพยักหน้าฝืนยิ้มให้ กล้าลูบผมเธอเหมือนน้องสาวคนหนึ่ง...

ooooooo

กระเต็นพาหาญกลับมาที่ห้องพระที่บ้าน หาญเอาตะกรุดสามกษัตริย์วางไว้บนพาน แล้วบริกรรมคาถาจนเหงื่อผุดเต็มหน้า ปากเริ่มซีดเพราะเสียเลือดมาก แผลที่ถูกดำแทงวัดใจกันเลือดยังซึมออกมา หาญมองแผลตัวเองอย่างแปลกใจ

กระเต็นเอาสมุนไพรตามที่หาญบอกและผ้าพันแผลเข้ามา บอกให้เปลี่ยนผ้าพันแผลใหม่เสีย พึมพำอย่างแปลกใจว่าทำไมแผลถึงไม่หาย หาญบอกว่าตนเสียพลังไปมาก กำลังอาคมจึงไม่แกร่งพอจะรักษาตัวเอง

“เพราะจะช่วยกล้า พ่อหาญเลยต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงแบบนี้ หนูขอบพระคุณมากนะคะ”

“กล้ามันก็หลานข้าเหมือนกัน ที่จริงต้นธารของเรื่องก็คือตัวข้า เมื่อข้าเป็นคนผูก ข้าก็ต้องเป็นคนแก้ ถ้าไม่พิสูจน์ความจริงใจให้ไอ้ดำเห็น มันก็คงไม่ยอมเปิดปาก”

กระเต็นกังวลว่าถึงเราจะเล่นงานอาจารย์ยอดได้แต่เราก็ยังไม่เจอตัวกล้าอยู่ดี หาญปลอบใจไม่ต้องกังวลเพราะตนตรวจดูแล้ว ชะตากล้ายังไม่ถึงฆาต ระหว่างนั้นศรีแพรมาด้อมๆ มองๆ บอกว่า

“ข้าไปค้นในครัวเห็นว่ามีพิมเสนอยู่ ที่หมู่บ้านข้า เราใช้พิมเสนใส่แผลห้ามเลือด” หาญขอบใจ ถามอย่างเดาใจได้ว่าศรีแพรคงไม่ได้มาหาตนด้วยเรื่องนี้เรื่องเดียว ศรีแพรจึงถาม “เจอพ่อของข้าไหม”

“เราสองคนหัวอกเดียวกัน ฉันเข้าใจความรู้สึกของเธอดี ไม่ต้องกังวลนะ พวกเราต้องเค้นคำตอบจากพ่อเลี้ยงภูมินทร์ได้แน่” กระเต็นปลอบใจ ทำให้ศรีแพรสบายใจขึ้น

ooooooo

แม้ภูมินทร์จะถูกจับได้ แต่ตำรวจก็ไม่มีพยานที่จะเอาผิดกับเขาได้เพราะลูกน้องเสี่ยไพบูลย์ตายหมด จึงต้องปล่อยตัวไป แต่อาจารย์ยอดกับเสี่ยก็ถูกออกหมายจับแล้ว

กระเต็นผิดหวังมากที่ภูมินทร์ลอยนวลไปได้ ทำให้เธอยิ่งเป็นห่วงกล้ามาก ระหว่างนั้นภูมินทร์ที่ได้รับการปล่อยตัวเดินผ่านมา  เขาพูดเยาะเย้ยหาญกับกระเต็นว่า

“คราวหลัง ถ้าคิดจะใส่ร้ายฉัน ช่วยเตรียมหลักฐานกับพยานให้พร้อมกว่านี้หน่อยนะ มันเสียเวลา”

“เวลาของทุกคนอาจไม่เท่ากัน แต่เราต่างมีกรรมเป็นของตัวเองอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าจะยากดีมีจน ชั่วหรือดี ไม่มีใครหนีกรรมที่ตัวเองทำไว้ได้หรอก” หาญสวนไป

“หึ...เก็บเอาไว้สอนลูกหลานตัวเองเถอะ เผื่อมันจะใฝ่ดี เลิกเป็นโจรขึ้นมาบ้าง”

“ลูกฉันไม่ใช่โจร แกก็รู้ดี แกเป็นคนจัดฉากทั้งหมด” กระเต็นโต้อย่างแค้นใจ

“พูดไปใครเขาจะเชื่อ ไหนล่ะหลักฐาน ไหนล่ะพยาน พูดจาพล่อยๆ สงสัยตระกูลนี้เชื้อโจรมันแรงตั้งแต่ปู่ยันหลาน ฮ่าๆๆ” ภูมินทร์หัวเราะเยาะเดินกร่างออกไปพร้อมทนาย กระเต็นได้แต่จิกตาตามอย่างแค้นใจ

เพียงลงจากโรงพัก ภูมินทร์ก็ถามลูกน้องที่รออยู่ว่าคมหายไปไหนไม่เห็นหน้าตั้งแต่เมื่อวาน จึงรู้ว่าคมออกตามหากล้ากับคะนึงนิจที่หนีหายไป ตั้งแต่เมื่อวาน
คมตามหาจนทั่วก็ไม่เจอ คมบอกลูกน้องว่า ทั้งสองน่าจะหนีไปไหนไม่ได้ไกล ฉุกคิดถึงคะนึงนิจขึ้นมาก็ตาวาว

ไวเท่าความคิด คมนำลูกน้องตรงไปที่อพาร์ตเมนต์ที่คะนึงนิจเช่าอยู่ ไปดูในห้องเห็นห้องน้ำยังเปียกอยู่ ยิ่งมั่นใจว่าทั้งสองเพิ่งออกไป

ที่แท้คะนึงนิจกับกล้าอยู่ที่ห้องผู้จัดการ กำลังพยายามจะโทรศัพท์ติดต่อกระเต็น แต่คมพาลูกน้องลงมาพอดีเลยต้องรีบหลบ คมเข้ามาในห้องเห็นโทรศัพท์ห้อยอยู่ก็ทำทีเดินออกไป แต่พอกล้ากับคะนึงนิจโผล่มาก็ถูกคมตลบหลังทันที

กล้ากับคะนึงนิจหนีออกไปที่ลานจอดรถ คว้ามอเตอร์ไซค์ที่จอดอยู่บิดหนีไป คมกับลูกน้องขึ้นรถขับตามไปติดๆ แต่มอเตอร์ไซค์กล้าก็แฉลบล้มเมื่อหลบรถที่ออกมาจากซอย ทั้งสองจึงต้องพากันวิ่งเข้าป่าข้างทางไป เมื่อรถของคมกับลูกน้องตามมาถึงก็ไม่เห็นทั้งสองแล้ว

คมนึกถึงโทรศัพท์ในห้องผู้จัดการอพาร์ตเมนต์ที่ห้อยอยู่ ก็เดาใจกล้าได้ บอกลูกน้องอย่างมั่นใจว่า

“ไม่ต้องห่วง ฉันพอรู้แล้วว่าพวกมันจะทำอะไร”

ooooooo

ศรีแพรถูกกักบริเวณอยู่ในห้องโดยให้รักยมเฝ้าอย่างเข้มงวด เธอพยายามหาทางหนีออกไปอีก ขณะนั้นเองมีเสียงโทร.เข้า รักยมจึงให้ศรีแพรไปรับสายอ้างว่าเผื่อมีข่าวจากปู่หาญ

“แม่...แม่ใช่ไหมครับ” เสียงกล้าทักมาอย่างตื่นเต้น

“แม่อะไร ที่นี่ไม่มี ที่นี่บ้านน้ากระเต็น” ศรีแพรตอบไปอย่างหงุดหงิด กล้าถามว่าเธอเป็นใคร ศรีแพรถามว่าจะถามทำไมแล้วเอาโทรศัพท์ออกห่างบ่น  “โอ๊ย...
พวกคนเมืองนี่บ้าชัดๆ อะไรก็ไม่รู้”

“ไอ้คนเมือง...” กล้าพึมพำรู้ทันทีว่าเธอคือศรีแพร ถามว่า “นั่นศรีแพรใช่ไหม ศรีแพร...ฉันเอง...กล้า...”

“ไอ้คนเมือง เจ้าอยู่ที่ไหน รู้ไหมว่าตอนนี้แม่เจ้ากำลังไปตามหาเจ้าอยู่”

“ศรีแพร ฟังฉันให้ดีๆนะ” กล้าฝากความถึงกระเต็น บอกเธอให้รักษาตัวดีๆ แล้วรีบออกจากตู้โทรศัพท์สาธารณะเมื่อเห็นตำรวจสายตรวจผ่านมา

กล้ารีบกลับไปที่บ้านร้างที่ให้คะนึงนิจรออยู่ เขาบอกข่าวดีว่าติดต่อไปที่บ้านเจอศรีแพรและได้ฝากเรื่องไว้แล้ว คะนึงนิจบอกว่ายังมีอีกเรื่องที่จะบอกเขาคือ ราชาวดีจะแต่งงาน ตนอยากให้เขาทำใจ แต่ก็ปลอบใจให้กำลังใจว่า

“พี่กล้าไม่ต้องห่วงนะ ถ้าทุกอย่างคลี่คลายแล้ว นิจจะอธิบายเรื่องทั้งหมดให้วดีเข้าใจเอง”

“กว่าจะถึงวันนั้น พี่กลัวว่ามันจะสายเกินไป นิจเราต้องรีบทำให้เรื่องทุกอย่างจบโดยเร็วที่สุด พี่ยอมให้วดีตกเป็นของไอ้...เอ่อ...พี่ชายของนิจไม่ได้จริงๆ” พูดแล้วเห็นคะนึงนิจอึ้ง กล้าชี้แจง “ถ้านิจได้พบใครสักคนแล้วรู้สึกรักเขาตั้งแต่แรกเห็น นิจก็คงจะเข้าใจพี่”

เป็นคำชี้แจงความรู้สึกของตัวเอง แต่ทำให้คะนึงนิจถึงกับน้ำตาคลอโดยไม่รู้ตัว พอกล้าถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เธอรีบบอกว่าไม่มีอะไร ตนแค่ดีใจกับราชาวดี คนดีอย่างนี้ใครๆก็รักทั้งนั้น แล้วฝืนยิ้มกลบเกลื่อนแต่แววตานั้นแสนเศร้า

กล้าบอกเธออย่างมุ่งมั่นจริงจังว่าตนจะต้องหยุดทุกอย่างก่อนที่จะมีงานแต่งงานให้ได้

ooooooo

ที่บ้านภูมินทร์ เขาได้รับโทรศัพท์จากคม บอกว่ากำลังตามล่าตัวกล้ากับคะนึงนิจอยู่ ไม่ต้องห่วงตนจะเอาตัวทั้งคู่กลับไปให้ได้

วางสายแล้ว ราชาวดีที่ฟังอยู่ด้วยถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง ภูมินทร์ใส่ไฟกล้าทันทีว่า

“พี่ประมาทเอง ไม่คิดเลยว่ากล้ามันจะบ้าระห่ำได้ขนาดนี้ มันคงแค้นพี่มากจริงๆ นิจเลยรับเคราะห์ไปด้วย”

ราชาวดียิ่งไม่พอใจกล้า ถามว่าแล้วตำรวจว่าอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าตนเพิ่งถูกตำรวจปล่อยตัวมาเพราะถูกลูกน้องกล้าใส่ร้ายว่าตนมีส่วนรู้เห็นกับการปล้นด้วย ฉะนั้นตนคิดว่าคงพึ่งพาตำรวจไม่ได้ ตอนนี้ตนได้แต่ส่งคนออกตามหาเท่านั้น

ภูมินทร์ปั้นหน้าเศร้า ใส่ไฟกล้าแล้วดราม่าว่า

“นิจจะเป็นตายร้ายดียังไงก็ไม่รู้ แบบนี้ถ้าพี่ตายไป พี่จะสู้หน้าพ่อกับแม่ได้ยังไงกัน”

“อย่าพูดแบบนี้สิคะ พี่ภูรักนิจมากวดีรู้ วดีว่าท่านทั้งสองก็ต้องรับรู้ได้เหมือนกัน เชื่อวดีนะคะ นิจเป็นคนดี นิจต้องกลับมาหาเราได้อย่างปลอดภัย”

“ขอบใจนะวดี ขอบใจที่ให้กำลังใจพี่” ภูมินทร์กุมมือเธอไว้ มองซึ้ง

ooooooo

คมนำลูกน้องไปที่บ้านกระเต็น ยมวิ่งไปบอกศรีแพรว่ามีคนบุกรุก ศรีแพรเดินออกไปดู เจอคมกับลูกน้องสองคนถือปืนจ่ออยู่ คมพูดอย่างสะใจว่า

“ดี ออกมาให้จับกันง่ายๆแบบนี้ไม่ต้องเสียเวลา” หันไปสั่งลูกน้อง “เฮ้ย...อย่าให้ถึงตาย เราต้องใช้ตัวมัน”

แต่ปรากฏว่าพวกมันบุกเข้าไปไม่ได้ เพราะถูกวงมนต์ครอบคุ้มกันตัวบ้านอยู่ แต่คมก็ใช้มีดหมอของอาจารย์ยอดปักลงที่วงมนต์จนร้าวแตกกระจาย แม้ศรีแพรจะใช้คชกุศต่อสู้แต่ก็ถูกทำร้ายจนคชกุศหลุดจากมือ รักยมก็ถูกมีดหมอฟันบาดเจ็บ ศรีแพรถูกคมชกท้องหมดสติแล้วเอาตัวไป โดยที่ไม่ทันได้บอกกระเต็นเรื่องที่กล้าฝากไว้

หาญกับกระเต็นอยู่ที่หน้ากองบังคับการปราบปราม กระเต็นร้อนใจไม่รู้จะไปตามหากล้าที่ไหน ชวนไปตามดูที่ภูมินทร์ดีไหม หาญเห็นด้วย พลันหาญก็หน้าเครียดเมื่อวงมนต์ที่ครอบบ้านไว้แตกกระจายวาบเข้ามา หาญบอกกระเต็น

“แย่แล้ว เกิดเรื่องที่บ้าน”

หาญย่นระยะทางแหวกช่องอากาศออกมา รู้สึกเจ็บที่สะบักเพราะใช้พลัง มาถึงสวนบ้านกระเต็น หาญเห็นคชกุศของศรีแพรหล่นอยู่ รีบไปหยิบมาว่าคาถา เห็นภาพศรีแพรฟันกับคม รักยมถูกฟันจนร่างสลายไปส่วนศรีแพรถูกชกท้องจุกแล้วเอาตัวไป

กระเต็นกับสุพจน์มาถึงหน้าบ้าน หาญบอกว่าตนมาช้าไป พวกภูมินทร์เอาตัวศรีแพรไปแล้ว และตนก็ตามหาไม่สำเร็จเพราะเสียพลังไปมาก

“แต่ผมว่าพวกมันคงยังไม่ได้ไปไกลนัก ถ้าเรารีบออกตามหาอาจจะทัน” สุพจน์เสนอ แล้วทั้งสามก็รีบขึ้นรถพุ่งไปอย่างเร็ว

ooooooo

คะนึงนิจกับกล้าเข้าไปในศาลเจ้าร้าง ทั้งสองรู้สึกเหมือนมีสายตาใครจับจ้องอยู่ คะนึงนิจถามกล้าว่าทำไมเงียบอย่างนี้ หรือว่าศรีแพรยังไม่ได้บอกกระเต็นตามที่กล้าฝากความไว้ กล้าบอกให้ใจเย็นๆเดี๋ยวพวกเขาก็คงมากัน

พลันทั้งสองก็ชะงักอึ้ง เมื่อเห็นศรีแพรยืนทื่อเป็นหุ่นยนต์อยู่มุมหนึ่ง แต่พอเข้าใกล้ กล้าดึงคะนึงนิจไว้บอกว่า “ศรีแพรโดนคาถานะจังงัง!”

ที่แท้คมใช้ศรีแพรล่อกล้ากับคะนึงนิจออกมา

แล้วลอบยิง แต่กล้าหลบพ้น พวกคมปรากฏตัวออกมาล้อมทั้งสองไว้ คมบอกว่าเพราะศรีแพรไม่ยอมบอกว่ากล้าอยู่ที่ไหนตนจึงต้องใช้อาคมสะกดให้พูด เยาะเย้ยกล้าว่าคราวนี้เขาไม่รอดแน่

“ถ้าพวกแกจะยิงเขา ก็ยิงฉันด้วยเลยสิ!” คะนึงนิจก้าวออกไปยืนเคียงคู่กล้า

“คงไม่ดีมั้งนิจ” ภูมินทร์ก้าวออกมาจากด้านหลังศรีแพร กระชากแขนศรีแพรไปเอาปืนจี้ไว้ขู่ว่า “ถ้านิจไม่เชื่อฟังพี่ รู้ใช่ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น มาหาพี่เร็ว!”

คะนึงนิจต่อรองให้ปล่อยศรีแพรหรือไม่ก็ยิงตนเลยจะได้ตายกันที่นี่ให้หมด บอกกล้าว่า

“นิจยอมตาย พี่กล้า” แล้วบอกพี่ชาย “รู้ใช่ไหมว่านิจพูดจริง เร็วสิพี่ภู เลือกเอา!”

เมื่อภูมินทร์ทำทีตกลง เธอบอกให้พี่ชายสั่งลูกน้องทุกคนวางปืนรวมทั้งตัวเขาด้วย ระหว่างนั้นเธอแอบส่งสายตาให้สัญญาณกับกล้า

ระหว่างที่ภูมินทร์ปล่อยศรีแพรเดินทื่อออกมา

สวนกับคะนึงนิจกลางทางนั่นเอง คะนึงนิจพุ่งเข้าหยิบปืนของภูมินทร์โยนให้กล้า ภูมินทร์ตะโกน “ฆ่ามัน!” แต่กล้าไวกว่ายิงกราดลูกน้องภูมินทร์ร่วง คมกับลูกน้องยิงกล้า แต่ศรีแพรที่ตัวแข็งทื่อเพราะถูกนะจังงังถลันออกไปขวาง ถูกกระสุนเข้าที่ไหล่ล้มหัวกระแทกพื้นสลบไป

ขณะต่อสู้กันชุลมุนนั้น คมกับลูกน้องจะเข้าจับตัวกล้า คะนึงนิจกัดแขนภูมินทร์ที่จับตนอยู่ ถลันออกไปขวางพวกคม ตะโกนให้พวกมันถอยไป และร้องบอกกล้าให้รีบหนีไปเร็ว!”

ภูมินทร์วิ่งเข้ามา คะนึงนิจหันปืนใส่ เขาท้าให้ยิงเลย เมื่อน้องสาวไม่ยิง เขาตะโกนสั่งลูกน้องอย่างบ้าคลั่ง

“ตามไปเอาศพพวกมันมาให้ฉันดูให้ได้!”

ooooooo

กระเต็น สุพจน์ และหาญออกตามหากล้าและศรีแพรจนไม่รู้จะไปหาที่ไหนอีก หาญจึงเพ่งจิตตามหาศรีแพร

หาญใช้พลังมากจนกระอักเลือดออกมาเล็กน้อย กระเต็นถามว่าไหวไหม

“ข้าไม่เป็นไร ข้าเห็นศรีแพรนอนอยู่ น่าจะเป็นศาลเจ้าร้างสักแห่ง”

“ศาลเจ้าร้าง...ผมรู้แล้วว่าเป็นที่ไหน” สุพจน์เจ้าของท้องที่นึกออก รีบพากันไป แต่เมื่อไปถึงพบศรีแพรนอนสลบอยู่ หาญรีบเข้าไปดู บอกทั้งสองว่าศรีแพรถูกยิง

ศรีแพรถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล หมอบอกว่าโชคดีที่กระสุนแค่ถากแขนไป แต่อาการช้ำในน่าเป็นห่วง ทั้งสามเฝ้าอยู่จนศรีแพรรู้สึกตัว หาญรีบบอกว่า

“เอ็งปลอดภัยแล้วนะศรีแพร”

“ไอ้คนเมืองล่ะ ไอ้คนเมืองอยู่ไหน”

กระเต็นกับหาญรีบถามว่าเธอเจอกล้าหรือ? กล้าอยู่ไหน? เป็นอย่างไร?!

“ข้าเจอที่...โอ๊ย...” ศรีแพรเจ็บหัวจนสลบไปอีก กระเต็นร้อนใจถามสุพจน์ว่าทำอะไรภูมินทร์ไม่ได้เลยหรือ

“ลำบากครับคุณเต็น เราไม่เห็นหน้าพวกมัน จะไปจับไอ้ภูมินทร์มันก็คงหาทางดิ้นจนได้ นอกจากรอศรีแพรฟื้นแล้วให้เป็นพยานให้เรา หรือไม่ก็ต้องล่าตัวไอ้ยอดกับเสี่ยไพบูลย์ให้เจอ”

กระเต็นถามว่าเป็นไปได้ไหมที่พวกนั้นจะหนีไปซ่อนตัวกับพวกขุนโชติ หาญเชื่อว่าเป็นไปได้ คาดว่าดำอาจจะรู้ที่กบดานของพวกนั้น บอกกระเต็นให้อยู่ที่นี่พวกตนจะลองไปถามดำดู แล้วหาญกับสุพจน์ก็เดินออกไป

ระหว่างนั้นหาญเซทำท่าจะล้ม กระเต็นถามว่าแผลยังไม่หายพักก่อนดีไหม สุพจน์เสนอไปให้หมอดูก่อนดีกว่า

“ข้าไม่เป็นไร แค่นี้เล็กน้อย ข้าใช้อาคมสมานแผลรักษาตัวเองได้ ตามล่าพวกไอ้ขุนโชติสำคัญกว่า”

กระเต็นกับสุพจน์มองหน้ากันแบบรู้ว่าห้ามหาญไม่ได้แน่ สุพจน์กับหาญจึงพากันไปหาดำที่กองปราบปราม

ดำถามว่าพวกหาญบุกไปตำหนักอาจารย์ยอดมาแล้วหรือ แล้วขุนโชติกับเสือไทเป็นเยี่ยงไร หาญบอกว่าไม่เจอขุนโชติ คาดว่าคงหลบไปกบดานที่ไหนสักแห่ง ปะทะกันคราวก่อนขุนโชติคงบาดเจ็บเพราะอานุภาพของตะกรุดสามกษัตริย์ไม่ใช่น้อย หาญบอกดำว่าสมุนที่ตำหนักถูกอาจารย์ยอดใช้ยาสั่งฆ่าปิดปากหมดแล้ว

“มันถึงกับฆ่าบริวารเพื่อให้ตัวเองรอด ขลาดเขลายิ่งนัก แต่พี่โชติข้าไม่ใช่คนเยี่ยงนั้นแน่” สุพจน์ติงว่าดูท่าดำจะเชื่อมั่นลูกพี่เขามาก “พี่โชติไม่ใช่คนกลัวตาย หายไปคงเพราะรักษาตัว พวกเอ็งไม่ต้องตามหาดอก ถึงรู้ว่าอยู่ที่ใด ก็ใช่ว่าทุกคนจะไปถึง”

“เอ็งหมายถึงถ้ำวังพยัคฆ์” หาญเดาออกทันที

ooooooo

ขุนโชติกำลังร่ายมนต์อยู่ที่ถ้ำวังพยัคฆ์อย่างเร่งรีบ จริงจัง ท่ามกลางเสียงคาถาภาษาขอมที่ดังกังวานนั้น เลือดสีดำไหลออกจากซอกหิน พื้น เพดานถ้ำมารวมกันอยู่ในอักขระขอม และเรืองแสง อักขระพุ่งเข้า หาขุนโชติจนร้องลั่น

“อ๊ากกก...” พลันรอยสักยันต์รูปจระเข้ที่แขนก็เรืองแสงขึ้น ขุนโชติรับพลังอันมหาศาลจากมนต์ดำ ร่างกลายเป็นเกล็ดจระเข้ พุ่งกระโจนลงน้ำเบื้องหน้าทันที

ร่างขุนโชติกลายเป็นจระเข้ยักษ์แหวกว่ายอยู่ใต้น้ำจนจระเข้ตัวอื่นพากันว่ายหลบด้วยความหวาดกลัว

เสือไทที่ถืออาวุธคอยตรวจตราอยู่รอบๆ ได้ยินเสียงจากในถ้ำชะโงกดู ถูกแสงเรืองสาดเข้าปะทะหน้าเต็มๆ

“พี่โชตินั่นคือวิชากระไรรึ ข้าไม่เคยเห็นมาก่อน” เสือไทถามทึ่ง

“ภุมภีร์พิฆาต เป็นมนต์โบราณที่ปลุกวิญญาณของเหล่าจระเข้ให้มารวมในตัวข้า ตอนนี้ข้ามีพลังแกร่งกล้ากว่าเดิมยิ่งนัก” เสือไทพูดอย่างผยองว่าต่อไปเราก็ไม่ต้องเกรงหน้าอินทร์หน้าพรมที่ไหนอีก “ถึงเวลาที่ข้าจักมอบความตายเป็นบรรณาการแก่พวกมัน ไอ้หลวงณรงค์!” ขุนโชติแววตาเหี้ยมอำมหิต

ooooooo

คะนึงนิจยอมให้ตัวเองถูกภูมินทร์จับไว้เพื่อให้กล้าหนีไปได้ ถูกภูมินทร์พามาที่บ้าน เธอดิ้นสุดแรงร้องบอกให้พี่ชายปล่อยตน บอกว่าตนรู้เรื่องหมดแล้วว่าเขาทำอะไรไว้บ้าง ทำไมต้องทำกับกล้าถึงเพียงนี้

ภูมินทร์อ้างว่ากล้าเป็นฆาตกรหนีคุก คะนึงนิจตอบโต้อย่างผิดหวัง เสียใจว่า

“คนที่เป็นฆาตกรคือพี่ต่างหาก พอทีสำหรับเรื่องโกหก นิจไม่โง่เชื่อพี่ภูอีกแล้ว นิจเสียดายจริงๆที่หลงคิดว่าพี่ภูจะเปลี่ยนแปลงได้ แต่เปล่าเลย พี่ภูยังเป็นคนใจร้ายเห็นแก่ตัว ทำชั่วได้ทุกอย่างเพื่อตัวเองอย่างไม่ละอายต่อบาป”

ภูมินทร์ตบหน้าน้องสาวฉาดใหญ่ คะนึงนิจท้าอย่างไม่สะทกสะท้านว่า

“เอาซิ ฆ่านิจเลย พี่ภูทำได้อยู่แล้ว นิจยินดีตายเพื่อจบทุกอย่าง แต่ขอให้พี่ปล่อยพี่กล้าไปเสีย” ทั้งยังขู่ว่าตนจะบอกเรื่องทั้งหมดให้ราชาวดีรู้ให้ได้ ภูมินทร์หัวเราะเยาะบอกว่ารู้อยู่แล้วว่าเธอจะต้องทำอย่างนั้น สั่งคมให้พาคะนึงนิจไปที่ปางไม้ ถึงเมื่อไรให้โทร.บอกด้วย

คมติงว่าพ่อเลี้ยงน่าจะไปด้วย เกรงว่าพวกเสี่ยกับอาจารย์ยอดถูกจับ เขาจะพลอยเดือดร้อนไปด้วย ซ้ำยังมีศรีแพรอีกคน ถูกภูมินทร์ตวาดว่า ขืนตนหนีไปตอนนี้ก็เท่ากับยอมรับว่ารู้เห็นด้วย ที่สำคัญตอนนี้ราชาวดีเชื่อใจตนแล้ว ตนไม่ต้องการให้เธอกลับมาสงสัยอีก กระนั้น คมยังทำใจกล้าเตือนสติว่า

“แต่พ่อเลี้ยงครับ กับผู้หญิงคนเดียวมันจะไม่คุ้มนะครับ ตอนนี้พวกเราตกเป็นผู้ต้องสงสัยอยู่ด้วย น่าจะหยุดเรื่องงานแต่งงาน...”

“เงียบไปเลยไอ้คม! ที่ปล่อยไอ้กล้าหลุดไปได้ฉันยังไม่ได้จัดการกับแกเลยนะ...เอาล่ะๆ เอาเป็นว่าหลังงานแต่ง ฉันจะพาวดีไปฮันนีมูนที่ปางไม้ ถ้าเกิดอะไรขึ้นก็หนีข้ามชายแดนกันไปเลย”

“ครับนาย” คมฝืนใจรับคำเซ็งๆ

“ฉันทำมาถึงขนาดนี้แล้ว ยังไงวดีก็ต้องเป็นของฉัน!” ภูมินทร์จิกตาอย่างมุ่งมั่นที่จะได้ราชาวดีเป็นของตนเร็วขึ้น

ooooooo

หาญกลับมาปลุกชีพให้รักยมขึ้นมาอีกครั้ง รักยมขอบคุณ หาญบอกว่าตนต่างหากที่ต้องขอบใจที่รักยมเอาวิญญาณเข้าแลกเพื่อปกป้องศรีแพร

พอดีกระเต็นกลับมา หาญบอกให้รักยมไปทำหน้าที่เสีย ตนก็จะรักษาตัวเองบ้าง พอรักยมออกไป หาญก็ทรุดนั่งลงอย่างหมดพลัง

กระเต็นเอ็ดศรีแพรว่า เอะอะอะไรก็จะหนีกลับทั้งที่ควรจะอยู่โรงพยาบาลต่ออีกสักพัก บ่นว่าทำไมถึงดื้ออย่างนี้

“ไม่เอา ที่นั่นอึดอัด กลับมาอยู่ที่นี่สบายใจกว่า ข้าพักสักสองสามวันแข็งแรงแล้วจะได้ออกไปตามหากล้า” กระเต็นขอร้องอย่าทำเลย แค่นี้ยังเดือดร้อนไม่พออีกหรือ

“เพราะข้าทำให้น้าไม่เจอลูกชาย ข้าสมควรรับผิดชอบ”

แต่พอกระเต็นถามว่า แล้วจะไปตามหากล้าได้ที่ไหน ศรีแพรกลับบอกว่าไม่รู้ เพราะโดนอาคมแล้วจำอะไรไม่ได้เลย “แต่...แต่ยังไงข้าก็ต้องตามหาจนเจอให้ได้ มันต้องมีสักที่สิ ที่ไอ้คนเมืองจะไป” ศรีแพรพูดอย่างมั่นใจ ทำให้กระเต็นฉุกคิดได้ เรียกรักยมมาถามว่า ปู่หาญอยู่ไหน พอรู้ว่ากำลังทำพิธีรักษาตัวอยู่ กระเต็นกำชับรักยมว่า

“แม่จะออกไปธุระข้างนอก เฝ้าบ้านไว้ ส่วนเธอก็อยู่ในห้อง นอนพักเสีย ห้ามออกไปข้างนอก เธอต้องให้การเป็นพยานกับตำรวจว่า ไอ้ภูมินทร์กับลูกน้องจับเธอไป เข้าใจไหม”

แต่พอกระเต็นจะไป ศรีแพรเรียกไว้ถามว่า พิธีย้อนอายุมีจริงหรือ ปู่หาญนั้นเป็นปู่ของเจ้าคนเมืองจริงหรือ...

“พ่อหาญรักษาสัจจะเท่าชีวิต ท่านจะไม่โกหกถ้าไม่จำเป็น แต่ต่อหน้าคนอื่น ฉันขอให้เธอเรียกท่านว่านายสิงห์เหมือนกับที่ฉันเรียก” กระเต็นตัดบท กำชับ แล้วเดินไป ศรีแพรมองขึ้นข้างบนอย่างครุ่นคิด...

ooooooo

กระเต็นตรงลิ่วไปที่บ้านราชาวดีทันที ถามว่า กล้ามาหาเธอหรือเปล่า ราชาวดีชักสีหน้าแต่ยังข่ม อารมณ์บอกว่า ถ้ามาถามเรื่องนี้ก็กลับไปเสียเถิด เพราะตนไม่เกี่ยวข้องกันแล้วจริงๆ

“ราชาวดี ฉันรู้เรื่องคดีที่เธอแจ้งความไว้แล้ว มันไม่ใช่กล้าแน่ที่ฉุดเธอไป เรื่องที่เกิดขึ้น ทุกอย่างเป็นเพราะกล้าถูกใส่ร้าย เธอต้องเชื่อฉัน”

“วดีเองก็อยากจะเชื่อคำคุณน้า แต่มันเป็นไปไม่ได้ ในเมื่อวดีเจอเขาเองกับตัว”

กระเต็นยืนยันว่า นั่นคือกล้าตัวปลอม แต่เห็นท่าราชาวดีจะไม่เชื่อ จึงขอให้เข้าใจหัวอกของคนเป็นแม่ ถ้ากล้ามาหาหรือติดต่อมาขอให้บอกตนด้วย

“คุณน้าคะ แต่ตอนนี้พี่กล้าลักพาตัวนิจไป เขาคงจะไม่มาหาวดีแน่ วดีเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเขาพานิจไปอยู่ที่ไหน” กระเต็นเอะใจถามว่า ใครบอกเรื่องนี้กับเธอ “พ่อเลี้ยงค่ะ พี่กล้าขู่ว่าจะทำร้ายนิจถ้าทางเราแจ้งตำรวจ”

กระเต็นมองออกทันที บอกราชาวดีว่าเธอถูกหลอกแล้ว เพราะที่คะนึงนิจหายไปไม่ใช่เพราะกล้าลักพาตัว ราชาวดีเริ่มสับสนถามว่า “คุณป้ารู้เรื่องนิจ?”

“เธอยังอ่อนต่อโลกมาก ราชาวดี สิ่งที่เธอคิดว่าจริง บางทีมันอาจเป็นแค่เรื่องหลอกลวงก็ได้”

ขณะนั้นเอง ภูมินทร์ขับรถเข้ามา พอเห็นกระเต็นก็รีบลงจากรถตรงไปถามราชาวดีว่ากระเต็นมาทำอะไรหรือเปล่า

“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไร”

“ใช่ ไม่มีอะไร ฉันก็แค่แม่คนหนึ่งที่ลูกถูกทำร้ายอย่างไม่เป็นธรรม หวังว่าเธอจะคิดอะไรได้บ้างนะ วดี”

ภูมินทร์ตัดบทบอกให้กระเต็นกลับไปดีกว่า จงใจพูดให้รู้ว่า “ตอนนี้วดีไม่จำเป็นต้องคิดอะไรอีก นอกจากเตรียมตัวเป็นเจ้าสาวของผมเท่านั้น เชิญ!”

“อย่างนี้นี่เอง...ฉันกลับแน่ แต่จำไว้อย่าง เวรกรรมน่ะมีจริง ไม่ช้าก็เร็ว มันจะต้องกลับมาสนองแกแน่!”

กระเต็นขึ้นรถขับออกไปแล้ว ภูมินทร์ลอบมองราชาวดีที่ยืนหน้าเสียอยู่อย่างจับสังเกต จากนั้นก็เลียบเคียงถามอีกว่า กระเต็นมาพูดอะไรให้เธอต้องเสียใจอีกแล้วใช่ไหม ราชาวดีที่กำลังสับสนบอกว่าไม่มีอะไรจริงๆแล้วถามว่าตามตัวคะนึงนิจเจอแล้วหรือยัง ภูมินทร์ยิ้มพลางยื่นจดหมายให้บอกให้เปิดอ่านดู

ราชาวดีถามว่าเป็นจดหมายจากคะนึงนิจหรือ ภูมินทร์จึงปั้นเรื่องอีกว่า

“จ้ะ...ลูกน้องพี่ตามจนเจอตัวนิจอยู่ที่ศาลเจ้าร้าง นิจแอบหนีไอ้กล้ามาได้ ตอนนี้ปลอดภัยไม่มีอะไรแล้ว และเพื่อความปลอดภัยพี่ขอให้นิจไปหลบอยู่ที่ปางไม้ก่อน”
แล้วภูมินทร์ก็ตะล่อมตามแผนของตน บอกว่าตนเป็นห่วงที่เธอฝันร้ายทุกคืน

“พี่อาจจะถูกกล้ามันบุกมาฆ่าไม่วันใดก็วันหนึ่ง พี่ไม่อยากจากวดีอีกแล้ว เราเลื่อนวันแต่งงานเข้ามาอีกเถอะนะ เรื่องงานไม่ต้องห่วง พี่จะจัดการเองทุกอย่าง หมั้นเช้าแต่งบ่ายไปเลย พี่จะได้ดูแลวดีอย่างเต็มที่เสียที”

ราชาวดีนิ่งคิดอย่างตัดสินใจ

ooooooo

หาญยังรักษาตัวอยู่ในห้องพระบ้านกระเต็น ขณะอาการเริ่มดีขึ้นนั่นเอง รักยมก็พากันมาบอกว่าศรีแพรแย่แล้ว

ศรีแพรถูกพิษตะขาบไฟเล่นงานจนสีหน้าหมองคล้ำ ปากซีดเซียว นั่งพิงผนังอย่างหมดแรง หาญเห็นอาการและดูแผลที่เนินอก ซึ่งกลายเป็นสีดำเข้มแผ่ขยายเป็นวงกว้างคล้ายตัวตะขาบ

“พิษตะขาบไฟกำเริบ” หาญตกใจแล้วอุ้มศรีแพรไปวางที่เตียงลงมือรักษา หาญกรีดฝ่ามือศรีแพรตรงที่เป็นรอยไหม้ ให้เลือดพิษสีดำไหลออกมา แล้วกรีดที่ฝ่ามือตัวเอง

“ปู่หาญ ปู่จะทำอะไรจ๊ะ” รักยมที่จ้องเขม็งอยู่ถาม

“พิษมันลามไปทั่วกระแสเลือดแล้ว ข้าจะใช้เลือดของข้าขับเลือดพิษจากตัวศรีแพรมาไว้ในตัวข้า วิธีนี้แค่ช่วยทุเลาพิษลงเท่านั้น” ยมถามว่าทำไมไม่รักษาให้หายขาด

“พิษสัตว์ร้ายบางอย่าง อาคมหรือของขลังก็รักษาไม่ได้ วิธีรักษาพิษตะขาบไฟที่ข้ารู้มามีเพียงวิธีเดียว...แต่ข้าทำไม่ได้”

รักอาสาจะช่วย หาญพูดอย่างลำบากใจว่า

“พวกเอ็งยังเด็ก ยังไม่เข้าใจหรอก ข้าต้องใช้สมาธิ พวกเอ็งออกไปเฝ้าหน้าบ้านไว้ อย่าให้ใครเข้ามาเด็ดขาด”

เมื่อรักยมไปแล้ว หาญเริ่มวิธีการรักษาศรีแพรต่อ เลือดพิษในร่างศรีแพรไหลมาสู่ตัวหาญและเลือดดีในตัวหาญก็ไหลสู่ร่างศรีแพร ทำให้หาญได้รับพิษแทน ศรีแพรอาการดีขึ้น แต่หาญกลับหน้าซีดเหงื่อแตกเต็มหน้า

อาการทั้งหมดที่ศรีแพรเคยเป็นกลับมาเป็นที่ตัวหาญ เจ็บปวดจนดิ้นทุรนทุราย กระอักเลือด ร่ายคาถาก็เพียงทำให้อาการทุเลาลงเท่านั้น หาญตระหนักว่า ตัวเองโดนพิษตะขาบไฟแล้ว...

ooooooo

เมื่อคะนึงนิจถูกภูมินทร์จับตัวไปแล้ว กล้าจึงไปหาจ่าลุยที่อู่ จ่าต้องนั่งรถเข็นอยู่ลำพังคนเดียว เพราะนับแต่บาดเจ็บต้องเข้าโรงพยาบาล คนงานก็พากันหายไปหมด
จ่าลุยดีใจมากที่กล้ามาหา เล่าว่ากระเต็นเพิ่งโทร.มาเล่าความคืบหน้าให้ฟัง ตนก็เป็นห่วงอยู่ว่ากล้าจะหนีไปอยู่ที่ไหน กล้าเล่าว่าพอตนหนีพวกนั้นพ้นก็รีบไปตามหาศรีแพร พอรู้ว่าศรีแพรเจอแม่แล้วก็โล่งอก

“จะโทร.บอกคุณนายก่อนไหม”

“อย่าเพิ่งดีกว่าครับ ผมมีเรื่องที่ยังต้องสะสาง อีกอย่างไม่รู้ว่าที่พวกไอ้ภูมินทร์มันตามผมเจอจะเพราะสะกดรอยตามแม่อยู่หรือเปล่า” จ่าลุยชวนให้พักด้วยกัน
ที่อู่ “ผมกำลังจะขอลุงจ่าอยู่พอดีเลยครับ แต่คิดไปคิดมามันจะทำให้ลุงจ่ากับนุเดือดร้อนก็ได้”

“คุณกล้าอย่าคิดแบบนั้นเด็ดขาด ตั้งแต่เกิดเรื่อง คุณนายก็ไม่เคยทิ้งลุงเลย โทร.มาหาตลอด ค่าใช้จ่ายอะไรคุณนายก็ออกให้หมด ลุงจะไปทิ้งคุณกล้าได้ยังไง”
กล้าถามถึงนุกูล จ่าลุยบอกว่าไม่รู้หายหัวไปไหน ลูกคนนี้พึ่งอะไรไม่ได้เลย

หารู้ไม่...ที่ป่าหลังอู่นั่นเอง นุกูลกับเพื่อนร่วมก๊วน ทั้งป๋อง โป้ง และเปี๊ยก กำลังสุมหัวกันปลุกกะโหลกผี โดยนุกูลเป็นคนสวดคาถา นุกูลทำได้สำเร็จเมื่อกะโหลกในพานมีแสงแดงเรืองขึ้นวูบหนึ่ง นุกูลรีบขอ

“ท่านผีตายโหง ท่านจงช่วยเราจัดการไอ้พ่อเลี้ยงภูมินทร์แล้วเราจะตอบแทนท่าน”

ทันใดนั้น ควันสีดำลอยจากกะโหลกช้าๆเพื่อนๆพากันมองตะลึงกระซิบกันอย่างทึ่งว่า “มันทำได้เว้ย มันทำได้”

แต่แล้วทุกคนก็ตกใจเมื่อควันดำพุ่งเข้าหาตัวนุกูล ตาเขากลายเป็นสีดำน่ากลัว แล้วนุกูลก็เดินทื่อเข้าหาเพื่อนๆจับป๋องบิดแขนแล้วเหวี่ยงไปด้วยพลังมหาศาล เปี๊ยกกับโป้งตั้งท่าสู้ โป้งถูกนุกูลผลักกระเด็นแล้วเข้าบีบคอเปี๊ยกจนตาเหลือก

โชคดีที่กล้ามาเจอ สั่งนุกูลให้หยุด โป้งกับป๋องดีใจมากวิ่งมาบอกกล้าว่านุกูลถูกผีเข้า กล้าเข้าไปหานุกูลก็ถูกจับบีบคอ กล้าหลับตานึกถึงพระ “หากลูกยังไม่ถึงที่ตาย ขอบารมีของพระพุทธองค์ช่วยทำให้เพื่อนลูกพ้นจากมนต์ดำด้วยเถิด”

ทันใดนั้น ที่หน้าผากกล้าปรากฏภาพพระพุทธรูปเรืองแสงวาบเข้าปะทะนุกูลกระเด็นไปดิ้นพราดๆมีควันดำลอยออกจากร่าง กล้ารีบเข้าประคองเรียกเพื่อนให้รู้สึกตัว แต่นุกูลหมดสติไปแล้ว

ooooooo

หาญพาศรีแพรไปนอนที่ห้องเดิมของกล้าแล้วไปเอายา กลับมาเห็นศรีแพรรู้สึกตัวแล้วและกำลังดิ้นกระสับกระส่ายบ่นว่าร้อนจนทนไม่ไหวแล้ว หาญให้กำลังใจว่าต้องสู้กับพิษภายใน อย่ายอมแพ้

ศรีแพรถูกพิษตะขาบไฟทำร้ายจนขาดสติ กระชากเสื้อขาดคร่ำครวญโหยหา “ร้อน...ร้อน...ข้าต้องการเจ้า...”

หาญเตือนสติศรีแพร แต่ทันใดตัวเองก็ปวดแขนตรงที่มีรอยไหม้ มือสั่น กำแน่น หลับตาแผดเสียง “อ๊ากกก...” พอลืมตาขึ้นแววตาหาญก็เปลี่ยนไป จ้องศรีแพรอย่างเสน่หา ต่างปรารถนารุนแรง...

ขณะโลมไล้เรือนร่างศรีแพรนั้น หาญชะงักเมื่อนึกถึงคำเตือนของพ่อปู่บุญทาขณะทำพิธีย้อนอายุให้...

“เจ้าจงจำให้มั่น ผู้ผ่านอมฤตเทวาต้องครองเพศพรหมจรรย์และห้ามเสพเมถุนโดยเด็ดขาด มิเช่นนั้น เจ้าเองที่ต้องรับเคราะห์”

“ข้าขอให้คำสัตย์ จะเคร่งครัดในศีล ชาตินี้ข้าจะไม่ขอล่วงละเมิดอิสตรีอย่างแน่นอน”

“เจ้าไม่ต้องให้สัตย์สาบาน กาลเบื้องหน้ายังไม่รู้จะมีสิ่งใดเกิดขึ้นบ้าง เมื่อกลับไปสู่โลกียะ ยังมีอุปสรรคอีกมากที่เจ้าต้องเผชิญ ใช้สติและปัญญาของเจ้าพิจารณาถูกและผิด เมื่อเลือกทางใดทางหนึ่งแล้ว ก็ต้องพร้อมรับผลที่จะตามมา”

คิดถึงคำเตือนของพ่อปู่บุญทาแล้ว หาญได้สติลุกเดินออกไปยืนหน้าห้อง พึมพำขอโทษศรีวรรณแม่ของศรีแพรว่า

“ศรีวรรณ ข้าขอโทษ ข้าไม่อาจละเมิดพรหมจรรย์ ข้าช่วยชีวิตลูกเอ็งไม่ได้”

หาญตัดสินใจเดินไป แต่ต้องชะงักเมื่อนึกถึงศรีวรรณที่เคยเสี่ยงชีวิตช่วยตนไว้ พลันก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของศรีแพรจากในห้อง หาญตัดสินใจวิ่งกลับผลักประตูพรวดเข้าไป!

“พ่อ...แม่...ช่วยข้าด้วย...ช่วยด้วย...ทรมานเหลือเกิน...” ศรีแพรหายใจรวยรินอยู่บนเตียง ทั้งตัวปรากฏเส้นเลือดสีดำปูดโปนจนแทบแตกออกมา หาญทนไม่ได้ ตัดสินใจบอก

“ศรีแพร...ข้าขอโทษ...แต่...แต่ข้าปล่อยให้เอ็งตายไปต่อหน้าไม่ได้” หาญถอดเสื้อปลดเครื่องรางของขลังออกจากตัว ยอมเสียสละเพื่อช่วยชีวิตศรีแพร...

จนกลางคืน เมื่อกระเต็นกลับมาเจอหาญออกจากห้องศรีแพรในสภาพเสื้อไม่ติดกระดุมและเหงื่อท่วมตัว หาญชะงักไปนิดหนึ่ง กระเต็นถามว่าศรีแพรเป็นอย่างไรบ้าง หาญตอบไม่เต็มเสียงนักว่า “หลับไปแล้ว”

หาญถามว่าไปไหนมา กระเต็นเล่าว่าตนไปตามหา กล้าที่บ้านราชาวดี เจอภูมินทร์ที่นั่น พวกเขากำลังเตรียมจะแต่งงานกัน หาญจึงบอกให้ไปพักเสีย ตนก็อยากจะสวดมนต์เหมือนกัน กระเต็นสะดุดตาผมหงอกของหาญปอยหนึ่ง พอทักหาญบอกว่า

“เป็นเพราะข้าบาดเจ็บและใช้พลังไปเยอะ ถ้าได้ทำสมาธิ พักฟื้น ก็คงจะเป็นปกติ ไม่ต้องห่วงหรอก” พูดแล้วแยกไป กระเต็นมองตามอย่างสงสัย

ooooooo

เมื่อนุกูลได้สติขึ้นมาเขาดีใจมากที่เจอกล้า แต่ถูกกล้าถามอย่างตำหนิว่ารู้ตัวหรือเปล่าว่าทำอะไรอยู่ บอกว่าถ้าตนมาไม่ทัน เขาก็เกือบฆ่าเปี๊ยกไปแล้ว

นุกูลจำอะไรไม่ได้ กล้าบ่นเพื่อนๆ ที่ไม่ห้ามปรามนุกูล จึงได้รับคำชี้แจงจากนุกูลว่า อย่าตำหนิเพื่อนเลยตนอยากแก้แค้นภูมินทร์ที่ทำให้พ่อพิการและใส่ร้ายกล้าทุกอย่าง คิดเอาเองว่า...

“ถ้ามันใช้อาคมใส่ร้ายพี่ได้ ผมก็จะใช้อาคมทำมันคืนบ้าง”

“แล้วแกไปได้วิชาพวกนี้มาจากไหน” กล้าถาม พอนุกูลบอกว่าอ่านจากหนังสือ ก็ถูกจ่าลุยด่าว่าใครสั่งใครสอนให้เล่นเดรัจฉานวิชาพวกนี้ กล้าขัดขึ้นว่า“พอเถอะครับ นุมันทำเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ผมผิดเองที่เป็นต้นเหตุให้เรื่องบานปลายแบบนี้ ผมเป็นคนต้องรับผิดชอบเรื่องทั้งหมด ผมจะมอบตัวเพื่อสู้คดี”

“คุณกล้า ไอ้พวกนั้นไม่ปล่อยคุณไว้หรอก มันอาจจะส่งคนไปฆ่าคุณกล้าในคุกก็ได้” จ่าลุยทักท้วง

“นั่นซิพี่ คิดให้ดีก่อนนะ” เปี๊ยกเห็นด้วย

กล้าฟังทั้งจ่าลุยและเปี๊ยกแล้ว คิดเครียด...

ooooooo

เสือสั่งฟ้า2 พยัคฆ์ผยอง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด