ตอนที่ 22
เช้าวันถัดมา พวกจ่าชิตพากันไปพบพระธุดงค์เพื่อขอคำแนะนำเรื่องการช่วยกินรีที่ถูกงะดินเดควบคุม ไว้ในถ้ำ พะอูอยากไปช่วยพี่สาวแต่จ่าชิตไม่ต้องการ ให้ลูกชายไปเสี่ยงอันตรายจึงขอจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง แม่หมอเห็นด้วยเพราะพะอูยังต้องถือศีลเพื่อให้หลุดพ้นบ่วงกรรม
ไม่ทันขาดคำแม่หมอ...ใบหน้าของพะอูผุดผ่องไร้ร่องรอยความอัปลักษณ์เนื่องจากบำเพ็ญเพียรมาหลายวัน ยังความปลาบปลื้มปีติแก่จ่าชิตอย่างเหลือล้น
“ลูกพ่อ...ตั้งใจนะลูก ลูกกำลังจะพ้นบ่วงกรรมแล้ว”
“ยินดีด้วยนะโยม พะอูกำลังจะเป็นปกติแล้ว”
จ่าชิตก้มกราบพระธุดงค์...แล้วบอกลาลูกชายที่ยังอยู่ในสมาธิ ก่อนนำพาประเดิม หิน และแก้วออกมาจากบริเวณนั้น
ในเวลาเดียวกัน ระรินขับรถมาที่ปางไม้เพียงลำพัง เสี่ยรงค์แปลกใจถามถึงคนขับรถที่ตนเพิ่งหาให้ว่าไปไหน ทำไมไม่ขับมา
“ไม่รู้สิพ่อ เมื่อวานใช้ไปทำธุระจนป่านนี้ยังไม่กลับมาเลย รินเลยขับรถมาดูที่นี่”
“เอ...พ่อไม่เห็นมันนะ”
ไม่ทันที่สองพ่อลูกจะคุยอะไรกันอีก ผู้กอง ศักดาขับรถเข้ามาจอดและบอกข่าวมีชาวบ้านพบศพคนขับรถของระรินถูกเสือขย้ำตายในป่า
“ตายคนเดียวเหรอ”
คำถามของระรินทำให้ศักดาประหลาดใจ ถามเธอ ว่ามีใครไปกับคนขับรถด้วยหรือ ระรินนึกถึงกินรีที่อยาก ให้ตายแต่รีบปฏิเสธกลบเกลื่อน หลังจากนั้นเธอขอตัวไปดูเชลยในห้องคุมขัง เดินวนเวียนมองสารรูปจงใจ ด้วยสายตาดูแคลนก่อนพูดจาหยามหยันไม่ยอมรับเธอเป็นน้อง จงใจโกรธตอบโต้อย่างแสบสันว่าตนก็ไม่อยากเป็นลูกเสี่ยรงค์ คนเลวแบบนี้ไม่เหมาะสมเป็นพ่อของตนสักนิด
“ปากดีนักนะ สงสัยต้องสอนมารยาทเสียหน่อยแล้ว” พูดจบระรินหันไปสั่งเบิ้มเอาตัวจงใจออกมา เสือใจกับสมรักษ์ตั้งท่ากางกั้นแต่โดนเบิ้มสกัดด้วยปืนก็ต้องนิ่ง
ทันทีที่เบิ้มกระชากจงใจออกมา ระรินฟาดหน้าเธอไปสองฉาดโทษฐานปากกล้าด่าพ่อของตน เสี่ยรงค์เข้ามาเห็นพอดี ห้ามระรินทำร้ายน้องสาวอีก ระรินไม่รับปากและเดินจากไปอย่างฉุนเฉียว ฝ่ายเสี่ยรงค์ขยับมาปลอบจงใจ กลับโดนเธอผลักไสตวาดใส่ไม่ยอมรับว่าเขาเป็นพ่อ
ด้านทศกับสมุนคนสนิททั้งสองยังปักหลักอยู่ในปางไม้ ทุกคนไม่คาดคิดว่าลูกเสือลูกโจรอย่างจงใจจะกลายเป็นลูกเสี่ยรงค์ผู้มีอันจะกินไปได้ ซึ่งเรืองกับชินยุยงส่งเสริมให้ทศรวบหัวรวบหางจงใจแล้วเขาจะได้เป็น ลูกเขยเศรษฐีเสียที
“มันไม่ง่ายอย่างนั้นน่ะสิวะ อย่าว่าแต่หน้าข้าเลย กลิ่นข้าน้องจงใจยังไม่อยากได้กลิ่นเลย”
“อะไรกัน...เขาเกลียดพี่ขนาดนั้นเลยเหรอ”
“ถ้าข้าเป็นต้นเหตุให้น้องจงใจบ้านแตก พ่อเสือถูกจับ เอ็งจะเกลียดข้าไหมล่ะ”
ยิ่งพูดทศก็ยิ่งเซ็ง ทำท่าจะลุกหนีสมุน ก็พอดีเสี่ยรงค์เข้ามาเรียกไปคุยกันส่วนตัว...ทศแทบไม่เชื่อหูเมื่อ
ได้ยินเสี่ยรงค์พูดเรื่องขุมสมบัติล้ำค่ากว่า 800 ปีของ กษัตริย์บาเยงโบที่เป็นตำนานมาช้านาน แต่ก็ลองหยั่งเชิง เพื่อจับสังเกตท่าทีของเขา
“เสี่ยนี่มีน้ำใจจริงๆ อุตส่าห์เอาเรื่องนี้มาบอกฉัน แทนที่จะอุบเอาไว้คนเดียว”
“บอกตรงๆนะว่าฉันต้องการทหารรับจ้างเดินทางไปด้วย ฉันรู้ว่าเสือทศกว้างขวางแถวฝั่งโน้น เลยต้องการหุ้นส่วน”
“เราจะแบ่งกันยังไง” ทศตั้งคำถามอย่างเป็นต่อ
“นายกับฉันคนละครึ่ง ส่วนอองไชยเอาดาบไป”
“ตกลง...แต่ฉันขออีกอย่างหนึ่งนอกจากส่วนแบ่ง”
เสี่ยรงค์ทำหน้าฉงน แล้วกลายเป็นหนักใจเมื่อทศยื่นความประสงค์ว่าต้องการจงใจ แต่จะปฏิเสธทันทีทันควันก็ไม่ได้ เพราะเขายังต้องพึ่งไอ้หมอนี่ต่อไป
นอกจากต้องพึ่งทศแล้ว ผู้กองศักดายังแนะนำเสี่ยรงค์ด้วยว่าต้องเอาหมวดสมรักษ์ไปด้วย เพราะเขาเคยเป็นตำรวจตระเวนชายแดนอยู่หลายปี เชี่ยวชาญภูมิประเทศแถบนั้นมาก
“แล้วมันจะไม่ออกฤทธิ์อีกหรือ”
“ไม่หรอก ตราบใดที่เรายังมีคนรักของมัน”
“จงใจ...นี่เราต้องพาจงใจไปด้วยงั้นรึ มันจะไม่ยุ่งยากเหรอ”
“ถ้ามันจำเป็นก็ต้องยอม”
“แล้วเสือใจล่ะ”
“ศาลตัดสินให้ประหารชีวิตไม่ใช่หรือ จริงไหม ท่านพราน” เสี่ยรงค์พูดเป็นนัยๆ ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ไป ทางอองไชย...เป็นอันรู้กันว่ายกให้เขาพิพากษาเสือใจได้โดยสะดวก
ooooooo
จ่าชิตวางแผนส่งประเดิมกลับมารับใช้ภราดรที่อนามัยเหมือนเดิมเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของระรินกับพวกเสี่ยรงค์ เมื่อหมอทราบว่ากินรีถูกจับตัวไปก็มีท่าทีร้อนรนเป็นห่วง ถามประเดิมว่าแจ้งตำรวจหรือยัง
“เรื่องนั้นไม่ต้องเป็นห่วง จ่าชิตกำลังดำเนินการอยู่ครับ”
“แล้วหมวดสมรักษ์ล่ะ”
ประเดิมหน้าเสีย ไม่รู้จะบอกยังไง...เวลาเดียวกันนั้น มะค่านำอาหารมาถวายพระและเผื่อแผ่ถึงพะอู แต่สาวน้อยไม่คิดว่าจะเจอแม่หมอที่นี่ด้วย ขณะสนทนาซัก ถามกันนั้น จู่ๆพะอูมีอาการฮึดฮัดร้อนรนเห็นกินรีถูก คุมขัง ที่แท้งะดินเดนำนิมิตนี้เข้ามาในญาณของเด็กหนุ่มที่กำลังถือศีลอยู่
งะดินเดรบเร้าให้เขามาช่วยพี่สาว แต่พระธุดงค์พยายามสะกดเขาไว้ และบอกให้ตั้งสติ อย่าหลงไปกับภาพลวงตาเพราะกินรียังไม่เป็นอะไร...
บ่ายวันนั้น ระรินแวะมาอนามัยและบอกเล่าให้ภราดรฟังเรื่องที่พ่อของเธอจับหมวดสมรักษ์ไว้โทษฐานที่เขาร่วมมือกับเสือใจยกพวกมาถล่มปางไม้จนราบคาบ และพ่อต้องการให้หมวดช่วยนำทางไปเอาสมบัติกับดาบที่สุสานกษัตริย์บาเยงโบ ซึ่งจะเดินทางกันพรุ่งนี้
“ทำไมรีบร้อนนักล่ะครับ”
“ทำไมคะ หรือว่าหมอไม่อยากไปกับริน”
ภราดรหวนนึกถึงความฝันที่บาเยงโบบอกให้ไปสุสานเพื่อจัดการคำสาปและสิ่งที่ค้างคามากว่า 800 ปี แล้วจากนั้นเขาจะได้ครองรักชั่วนิรันดร...เขาจึงตกปากรับคำระรินด้วยความเต็มใจ
“งั้นหมอก็ไปเตรียมตัวได้แล้ว ถือว่าเราไปพักร้อนก็แล้วกัน ดีกว่าอยู่แถวนี้เดี๋ยวหมอจะใจอ่อนกับนังกินรี”
“นี่คุณไม่รู้เหรอว่ากินรีถูกจับตัวไป”
“อะไรนะ หมอรู้ได้ยังไง”
“ประเดิมมาบอก แต่คงไม่เป็นไรหรอก เพราะตำรวจกำลังติดตามช่วยเหลืออยู่”
“ก็ดีแล้ว ตำรวจเขาคงทำงานกันได้ เตรียมตัวไปล่าสมบัติกันดีกว่า”
ภราดรเออออแล้วโอบกอดระรินราวกับเสน่หาแต่แอบซ่อนแววตาแสนเอือมระอาเอาไว้...ประเดิมแอบฟังอยู่ไม่ไกล พึมพำด้วยความสงสัยว่าสมบัติกับดาบอะไร?
หมวดสมรักษ์กับเสือใจก็แปลกใจเมื่อเสี่ยรงค์มาเล่าเป็นตุเป็นตะเรื่องขุมสมบัติบาเยงโบ และต้องการให้หมวดเดินทางไปด้วย แต่ถ้าเขาไม่ไปตนก็จะไม่รับรองความปลอดภัยของจงใจ
“แกจะทำอะไรฉัน” จงใจเสียงเขียว
“เปล่า...พ่อไม่ทำอะไรลูกหรอก แต่ถ้าเป็นเสือทศล่ะก็ไม่แน่นะ เพราะเขาชอบพอลูกอยู่ไม่ใช่หรือ”
เสือใจฉุนกึก อยากซัดปากเสี่ยรงค์สักหมัด
สองหมัดถ้าไม่ติดว่าถูกมัดมือไว้...สมรักษ์คิดอ่านอย่างรวดเร็วก่อนรับปากตามที่เสี่ยรงค์ต้องการ เท่านี้เสี่ยรงค์ก็ยิ้มร่าแล้วหันขวับมาที่เสือใจ
“สำหรับแกไอ้ใจ...คงต้องอยู่ที่นี่ในหลุมตลอดไป” พูดจบเขาพยักพเยิดส่งซิกให้อองไชยเอาตัวเสือใจ ออกมา...จงใจหน้าซีดหน้าเสีย ร่ำร้องและมองตามพ่อเสือไปจนลับตา
ooooooo
อองไชยลากเสือใจมามัดที่หลักประหารแต่ไม่ทันได้ฆ่าก็มีเสียงเสือคำรามดังลั่นที่ชายป่า เขามั่นใจว่าเป็นเสือสมิงจึงวิ่งตามเสียงไป ทำให้ภราดรที่จับจ้องจะช่วยเหลือเสือใจลงมือได้อย่างง่ายดาย
พะอูพ่ายต่อคาถาอาคมของงะดินเดจนต้องถอดประคำออกจากคอแล้วกลายร่างเป็นเสือวิ่งหายไปในป่าเพื่อไปช่วยกินรีที่ถูกกักขังอยู่ในถ้ำบนเขา พวกจ่าชิตรู้เรื่องจากแม่หมอก็ไม่รอช้ารีบตามไปช่วย แต่พวกเขาไม่อาจต้านความชั่วร้ายของงะดินเดได้ แม้แต่พระธุดงค์ก็เอาไม่อยู่
มีเพียงดาบในสุสานบาเยงโบเท่านั้นที่จะจัดการงะดินเดได้
พวกจ่าชิตรับรู้สิ่งที่พระธุดงค์บอกอย่างแม่นยำ ก่อนที่ร่างของท่านจะสลายหายไปท่ามกลางความตกใจของทุกคน ส่วนพะอูถูกเสือทั้งสิบตัวที่อยู่ในอำนาจของงะดินเดทำร้ายจนขาดใจตาย ยังความโศกเศร้าให้กับทุกคน โดยเฉพาะจ่าชิตที่เพิ่งใกล้ชิดลูกชายได้ไม่นานก็มีอันต้องจากกันชั่วนิรันดร์...
ด้านอองไชยที่ค้นหาเสือสมิงไม่เจอ เขาย้อนกลับมาที่หลักประหารและพบว่าเสือใจหนีไปแล้ว เสี่ยรงค์รับรู้เรื่องนี้ด้วยความแค้นเคือง
“เฮ้อ...ไอ้นี่มันมี 9 ชีวิตหรือไงนะ แต่ช่างเถอะท่านพราน เราไม่มีเวลาแล้ว พรุ่งนี้เราต้องออกเดินทางแต่เช้า ถ้ามันคิดจะตามไปก็เท่ากับไปหาที่ตาย แล้วนี่ท่านพอจะรู้ปริศนาหรือยัง”
อองไชยเอาแผ่นอักขระโบราณที่ได้จากรูปไม้แกะสลักบาเยงโบกับชะเวมะรัตมาต่อกันแล้วอ่านออกเสียง
“ด้วยรักแห่งข้าอันเป็นนิรันดร์ต่อชะเวมะรัต ข้าขอสาบานที่จะติดตามเจ้าไปทุกชาติ ตราบใดที่ศพของข้ายังคงอยู่อย่างสงบนิ่ง...แต่เมื่อแสงแห่งอัญมณีเฉิดฉายดุจเลือดปักษา เมื่อนั้นสุสานข้าจะเปิดและทุกอย่างจะกลายเป็นนิรันดร์...ชั่วฟ้าดินสลาย”
อ่านแล้วอองไชยพยายามตีความ พลันได้ยินเสียงประหลาดและแสงสว่างดั่งดาวตก เขาแหงนมองท้องฟ้าที่เหมือนจะมีอาเพศ อดคิดไม่ได้ว่ามีใครบางคนครอบครองหัวใจเสือตัวที่ 11 แล้ว...
ที่เมืองพุกามเมื่อ 800 ปีที่แล้ว...งะดินเดรวบรวมเสือสมิงได้ทั้ง 11 ตัว และส่งพวกมันเข้าจัดการบาเยงโบเพื่อโค่นล้มยึดบัลลังก์ แต่แผนชั่วของเขาไม่สำเร็จแถมชะเวโบยังถูกจับคุมขังเพื่อรอการประหาร ส่วนงะดินเดหลบหนีไปได้อย่างหวุดหวิด
ooooooo
เช้าแล้ว กองคาราวานของเสี่ยรงค์เตรียมออกเดินทางไปค้นหาขุมทรัพย์โดยมีอองไชยกับหมวดสมรักษ์ทำหน้าที่ผู้นำ และมีทหารรับจ้างจำนวนหนึ่งที่ทศพามาแบกหามสัมภาระ
ขณะที่พวกเสี่ยรงค์ออกเดินทาง กลุ่มของจ่าชิตซึ่งประกอบไปด้วยประเดิม กินรี มะค่า แก้ว และหินก็เตรียมพร้อมแล้วเช่นกัน พวกเขาทิ้งระยะห่างพอสมควรเพื่อไม่ให้ฝ่ายนั้นไหวตัว
ทุกคนเดินทางท่ามกลางแสงแดดแผดร้อน ระรินเหนื่อยล้าอย่างเห็นได้ชัด เกาะภราดรแจเหมือนจะเดินไม่ไหว ผ่านไปพักใหญ่ อองไชยสั่งหยุดขบวนเพราะหมวดสมรักษ์บอกว่าเรากำลังจะข้ามเขตชายแดน ผ่านลำธารข้างหน้าไปจะเป็นหมู่บ้านของกองกำลังอิสระ เสี่ยรงค์รับรู้แล้วถามทศว่าจะเอายังไงต่อ ทศตอบโดยไม่ตรึกตรองว่า ถ้าจำเป็นก็ต้องแลก แต่สมรักษ์กลับพูดอย่างสุขุมว่า
“เราจะผ่านไปโดยที่ไม่เสียเลือดเนื้อ เพราะมันไม่คุ้มที่จะเสี่ยง เราไม่รู้ว่าพวกเขามีกำลังเท่าไหร่”
เสี่ยรงค์กับศักดาตัดสินใจใช้วิธีของสมรักษ์ ทศถึงกับหน้าม้านด้วยความเซ็ง...เวลานั้น กลุ่มของจ่าชิตเดินตามรอยมาอย่างมั่นใจ
“พวกเขามาทางนี้ แสดงว่ามันจะต้องผ่านกองกำลังกลุ่มน้อย”
“แล้วเราจะผ่านไปยังไงล่ะจ่า”
“ตามดูไปก่อน”
“เราน่ะไม่เท่าไหร่ แต่พวกนั้นน่ะสิจะผ่านไปยังไง ฉันชักเป็นห่วงหมอแล้วสิ”
“พวกนั้นต้องเอาตัวรอดได้น่าพี่กินรี...เชื่อฉันสิ” แก้วมั่นใจ...เช่นเดียวกับหินที่เสริมยิ้มๆว่า พวกนั้นมีแต่คนเก่งๆทั้งนั้น โดยเฉพาะทศที่เก่งแต่ปาก
“เลิกพูดเล่นได้แล้วน่า...ไปกันเถอะ” จ่าชิตตัดบท เดินลัดเลาะนำทางทุกคนต่อไป
ooooooo
กองคาราวานของเสี่ยรงค์หยุดพักผ่อนใกล้ลำธาร ระรินนั่งอิงแอบภราดร ท่าทางเธอร้อนและเหนื่อยอ่อน บ่นกระปอดกระแปดว่าไม่น่ามาเลย
“ใจเย็นๆน่าคุณระริน ที่นี่ก็ร่มรื่นดีนะ ถ้าร้อนนัก ผมไปตักน้ำเย็นๆมาให้เช็ดหน้านะครับ”
“ดีเหมือนกันค่ะหมอ”
ภราดรลุกออกไป ส่วนอองไชย สมรักษ์ เสี่ยรงค์ และศักดารุมดูแผนที่เพื่อประเมินว่าต้องใช้เวลาอีกกี่วันกว่าจะถึงจุดหมาย
“คงต้องอีกสัก 4-5 วัน”
“ไม่ได้หรอกหมวด ต้องเร็วกว่านั้น ข้าต้องการให้ไปถึงในวันขึ้น 15 ค่ำ นั่นหมายความว่าอีกสามวันข้าต้องถึงที่นั่น” อองไชยสีหน้าจริงจัง
“งั้นคงต้องไปบอกพวกผู้หญิงแล้วล่ะ” สมรักษ์พูดจบก็ขอตัวไปล้างหน้าล้างตา
ทศ เรือง และชินนั่งห่างออกมา เฝ้ามองทุกคนอย่างระแวดระวัง พร้อมกันนี้ทศก็สั่งสมุนของตนเตรียมอาวุธให้พร้อม หากเกิดอะไรขึ้นเราต้องรอดก่อน
สมรักษ์เดินเฉียดไปหาภราดรที่มาตักน้ำให้ระริน สองหนุ่มตั้งท่าจะคุยบางอย่างกัน แต่ทันใดทศปรากฏตัวและมองพวกเขาด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
“พวกแกคุยอะไรกัน”
“เปล่านี่...ก็แค่ทักกันธรรมดา ผมไปล่ะหมอ เดี๋ยวเสี่ยรงค์จะรอ”
ทศหมั่นไส้ที่หมวดหนุ่มอ้างชื่อเสี่ยรงค์ ก้าวเข้ามาประจันหน้าแสดงท่าทีเหนือกว่า
“อย่าคิดนะว่าแกจะได้จงใจไป เสร็จงานนี้เมื่อไหร่เสี่ยรงค์จะยกจงใจให้ฉันทันที”
หมวดสมรักษ์ชะงักไปนิด แต่สีหน้าบ่งบอกว่ายังไงก็ไม่ยอม...ผละจากศัตรูหัวใจมาแล้ว ทศตรงไปหาจงใจที่นั่งอีกมุม เสือหนุ่มกะลิ้มกะเหลี่ยแทะโลมด้วยการเชยคางเธออย่างเสน่หา
“ว่าไงจ๊ะจงใจ...เอ๊ะ...เรียกจงใจเฉยๆไม่ได้สินะ ต้องเรียกว่าคุณจงใจ ตอนนี้มีพ่อเป็นเศรษฐีแล้วนี่”
“ไปไกลๆเลย คนอย่างแกไม่มีสิทธิ์มาแตะต้องตัวฉัน ไอ้คนเนรคุณ...แกฆ่าพ่อเสือ”
ทศโกรธขึ้ง ขึ้นเสียงใส่จงใจว่าพ่อเสือรนหาที่เองต่างหาก และพรานอองไชยเป็นคนฆ่า ไม่ใช่ตนสักหน่อย จงใจฟังแล้วฮึดฮัดโมโหเข้าทุบตีเขาไม่ยั้ง ทศชักเดือดเงื้อมือจะตบ
“ทำอะไรน่ะเสือทศ” เสียงเสี่ยรงค์ดังขึ้นข้างหลังทำให้ทศหยุดชะงัก ทำเฉไฉไม่รู้ไม่ชี้
เสี่ยรงค์จ้องทศตาวาวแล้วมองไปที่จงใจอย่างเมตตา เรียกเธอให้มาใกล้ๆ แต่เธอไม่ขยับแถมยังกระชากเสียงถามเขาว่า
“แกทำอะไรพ่อฉัน”
“ก็ทำให้หนูมีพ่อแค่คนเดียวน่ะสิ”
“นี่แก...แกฆ่าพ่อฉันแล้วใช่มั้ย” จงใจระเบิดความแค้นด้วยการทุบตีเสี่ยรงค์พัลวัน ทศเห็นดังนั้นรีบเข้ามาดึงเธอออกไป
หมวดสมรักษ์เห็นเหตุการณ์ตลอด พอจงใจทรุดลงนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้น หมวดหนุ่มรีบเดินมาปลอบ โดยมีสายตาคมกร้าวของทศเฝ้ามองด้วยความเจ็บแค้นใจ
ooooooo










