สมาชิก

แรงเงา

ตอนที่ 17

มุนินทร์มองรอบห้องประชุมวีไอพีเหมือนหาใครบางคน ลูกศรรู้ทัน บอกว่าวีกิจลาพักร้อนสองสัปดาห์ มุนินทร์ตั้งท่าแก้ตัวแต่ลูกศรไม่สนใจ หันไปยกมือไหว้ปลัดกระทรวง เจนภพกับแจงจิตเพิ่งมาถึง ได้ยินปลัดกระทรวงทักทายมุนินทร์เหมือนรู้จักมานาน

“ผมเคยเป็นประธานแจกทุนการศึกษา เคยให้ทุนหนูมุนินทร์สี่ปีซ้อน”

เจน ภพหน้าเหวอกับข้อมูลใหม่ แจงจิตยิ่งมั่นใจว่าหญิงสาวตรงหน้าไม่ใช่มุตตา ปลัดกระทรวงไม่รู้เรื่อง แสดงความเสียใจกับเจนภพเรื่องนพนภา และแนะนำให้รู้จักมุนินทร์กับลูกศรอย่างเป็นทางการ

“ผู้บริหารจาก บริษัทซีเอ็มซี ที่จะมาวางระบบคอมพิวเตอร์ให้ตึกใหม่...คุณลูกศร พิทักษ์ภูวดล และ คุณมุนินทร์ จงสวัสดิ์ และนี่...ผอ.เจนภพ”

“มุนินทร์ จงสวัสดิ์ค่ะ...เราเคยรู้จักกันบ้างแล้ว แต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีการแนะนำอย่างเป็นทางการ”

เจนภพทำหน้าไม่ถูก มุนินทร์ยิ้มให้อย่างอ่อนหวานแต่แววตามีประกายวาววับ...

เจน ภพแวะไปโรงพยาบาลหลังเลิกงาน อาการ นพนภาโดยรวมดีขึ้นแต่ยังขยับตัวไม่ได้ ต้องมีอินเตอร์–คอมอยู่ข้างเตียงเผื่อฉุกเฉิน หนุ่มใหญ่นั่งมองเมียด้วยแววตา เศร้าหมองและสำนึกผิด บอกเรื่องจะให้เธอรับการรักษา จากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ นพนภามองกลับด้วยสายตาว่างเปล่า ปราศจากการรับรู้หรือความเคลื่อนไหวตอบสนองใดๆ เจนภพสะเทือนใจ น้ำตาไหลเพราะสงสารเมียจับใจ

หลังออกจากโรงพยาบาล เจนภพกลับบ้านไปเล่าเรื่อง เจอมุนินทร์ที่กระทรวงให้วีกิจฟัง อึ้งไม่หายเรื่องตัวตนแท้จริงของหญิงสาว วีกิจรับฟังด้วยใบหน้าเฉยๆ แต่มีแววตาเอ็นดู

“เขาชื่อมุนินทร์ พี่สาวฝาแฝดของตา...ผมรักเขาตั้งแต่เขามาปรากฏตัวเป็นตา...ที่แข็งแกร่งและร้ายที่สุด”

“นี่มันอะไรกัน...เขาสวมรอยมาเป็นตา มาก่อเรื่องล้างแค้น แล้วจู่ๆเขาก็มาขออโหสิกรรมกับฉัน”

“เพราะ เขาไม่เหมือนเราน่ะสิฮะ เขาให้อภัยกับคนที่ทำสิ่งเลวร้ายกับเขาได้ อาภพฮะ...เราสองคนทำผิดกับตาและนินมากมายเหลือเกิน แต่เขาก็ยอมเลิกราและให้อภัยได้”

เจนภพไม่สนใจเรื่องมุนินทร์นักเพราะคาใจเรื่องมุตตา ถ้าพี่สาวฝาแฝดอยู่ที่นี่ แล้วมุตตาอยู่ที่ไหน...

วี กิจเดินทางไปเพชรบูรณ์ในเช้าวันรุ่งขึ้น สร้อยคำไม่เห็นด้วยแต่ก็ห้ามลูกไม่ได้ วีกิจกอดเสื้อแจ๊กเกตที่มุนินทร์ซื้อให้ด้วยใบหน้ามีความหวัง อย่างน้อยการไปเยี่ยมมุตตาครั้งนี้อาจช่วยให้รู้อะไรมากขึ้นเกี่ยวกับ มุนินทร์ สร้อยคำมองตามแผ่นหลังลูกไปด้วยแววตาเหนื่อยใจ...นี่เธอจะได้ลูกสะใภ้เป็น ผู้หญิงใจกล้าคนนั้นจริงๆน่ะหรือ!

ขณะเดียวกัน...มุนินทร์ยกกระเป๋า เดินทางใบเล็กใส่ท้ายรถ ลูกศรตามมาส่งก่อนไปทำงาน บอกว่าจะตามไปกับณัฐดนัยเมื่อถึงงานทำบุญร้อยวัน มุนินทร์พยักหน้ารับแกนๆ ขับรถกลับบ้านที่เพชรบูรณ์อย่างหม่นหมอง

ooooooo

นพนภาอาการ ดีขึ้นเล็กน้อย เริ่มรับรู้อะไรบ้างแต่ยังขยับตัวไม่ได้ เธอนอนฝันร้ายถึงมุตตา น้ำตาไหลพรากกลัวหญิงสาวทำร้าย พร่ำบอกอโหสิกรรมในใจจนค่อยๆสงบลง เนตรนภิศเดินยิ้มร่ามาเกาะปลายเตียง มองสภาพพี่สาวด้วยแววตาสาสมใจ ไม่ทันมองว่า อินเตอร์คอมเปิดอยู่

“ไงคะ...นอนตาปริบๆ คิดอะไรอยู่ ฉันรู้ว่าในหัวพี่คิดอยู่อย่างเดียว คือผัวฉันอยู่ไหน ผัวฉันหายไป!”

นพนภาเบิกตากว้าง มองอย่างไม่เชื่อสายตาเนตร– นภิศยิ้มเหี้ยม พูดแดกดันพี่สาวด้วยน้ำเสียงขมขื่น

“มี แต่นังน้องโง่เง่าไม่เอาไหนเท่านั้นแหละที่คอยเฝ้า เคยจิกหัวใช้มาตั้งแต่เล็กจนโต ก็ยังเป็นนางทาสผู้ภักดีอยู่...แต่วันนี้ถึงวันเลิกทาสแล้วค่ะ”

ขณะเดียวกันที่ห้องพักด้านนอก...นภางค์เข้ามาได้ยินเสียงเนตรนภิศพูดจาถากถางพี่สาว

“แม่ รักแต่พี่เพราะพี่สวย หัวดี ช่วยกิจการเขาให้งอกเงย แม่ดูถูกว่าฉันคืออีโง่ แต่ฉันไม่ได้โง่...รู้ไหม เรื่อง นังมุตตาเริ่มต้นมาจากไหน”

เจนภพกับแจงจิตเข้ามาได้ยินเสียงเนตรนภิศ นภางค์ยกมือห้ามทั้งคู่ไม่ให้พูดหรือทำอะไร

“นัง แจงจิตมาบอกหนูเรื่องผัวพี่จ้องนังมุตตาตาเป็นมัน หนูเตรียมไปบอกพี่ แต่จู่ๆวันนั้นพี่ก็อาละวาดตบฉัน ฉันเลยปิดปากไว้ รอให้ผัวพี่หลอกเคลมนังนั่นจนหนำใจ”

เจนภพลมออกหู แจงจิตเอามือปิดปาก ส่วนนภางค์หน้าแดงเพราะโกรธจัด เสียงเนตรนภิศยังดังต่อไป

“ระหว่าง นั้น ฉันก็ส่งหนูรัชนกเข้าไป ไม่ใช่เป็นสายให้พี่ แต่ให้มันยุแยงนังมุตตาให้จมปลักกับพี่ภพจนถอนตัวไม่ขึ้น แล้วฉันก็ปล่อยคลิปที่สมุย จนพี่ตามไปตบมันมุกกระจายไง...กระจายเหมือนวันที่พี่ตกมาเป็นผักวันนี้ไงคะ”

ทุกคนยืนอึ้ง นพนภาตัวสั่นด้วยความโกรธแต่ทำอะไรไม่ได้ เนตรนภิศเล่าต่ออย่างสนุกปาก

“มัน หายไปแล้วก็กลับมา คราวนี้มันร้ายผิดไปเป็น คนละคน ฉันกับหนูนกเลยคอยเป่าหูพี่มากขึ้น และฉันก็ พบว่าถ้าพี่หึงผัวมากๆ แล้วจะช็อก...ฉันก็เลยให้พี่ได้หึงผัว อีกชุดใหญ่”

สร้อยคำกับแต้ว เข้ามาอีกคู่ ได้ยินเสียงเนตรนภิศเฉลยเรื่องปาร์ตี้หน้ากากและคลิปฉาวล่าสุดของเจนภพว่า เป็นฝีมือเธอเอง โดยมีรัชนกเป็นลูกมือ ปลอมตัวเป็นมุตตาในคลิป เจนภพเลือดขึ้นหน้า กระโจนพรวดถึงประตู นภางค์คว้ามือลูกเขย มองอย่างวางใจเป็นครั้งแรก พยักหน้าส่ง สัญญาณให้เข้าไปพร้อมกัน เนตรนภิศไม่รู้ตัว แฉเรื่อง ตัวเองต่อ

“ตอนที่นังมุตตามันนัดผัวพี่ เพื่อบอกเลิก  ฉันก็แค่ เอาคลิปนังมุตตาปลอมให้พี่ดู  ยัดปืนใส่มือพี่  ขับรถพาไปส่ง ให้ทัน...แค่นั้นกรรมก็ส่งผลของมันแล้ว”

นพนภามองน้อง สาวด้วยแววตาว่างเปล่า ปลงสังเวชให้กับความอิจฉาริษยาของน้อง เนตรนภิศฉุนขาดที่พี่สาวไม่ทุรนทุรายอย่างที่คิด เขย่าตัวพี่สาวอย่างบ้าคลั่ง

“ทำไมนิ่ง ทำไมไม่แค้น ฉันรู้ว่าพี่ได้ยินทุกคำ ได้ยินไหม...เงามันตามทันพี่แล้ว”

“แล้วก็ตามแกด้วยนังนภิศ!”

เนตรนภิศตาเหลือกจับคอเสื้อนพนภาค้าง ทุกคนมองเธอด้วยแววตาขึ้งเคียด โดยเฉพาะนภางค์ เจนภพเหวี่ยงน้องเมียลงกองกับพื้น นภางค์เย้ยหยันลูกสาวด้วยน้ำเสียงที่พยายามบังคับไม่ให้สั่นเพราะความโกรธ

“แม่นภาฉลาดกว่าแกเสมอ ถึงขยับตัวไม่ได้แต่ก็ขยับนิ้วกดอินเตอร์คอมให้แกออกอากาศได้”

เนตรนภิศขยับปากจะแก้ตัว นภางค์เงื้อมือฟาดหน้าลูกสาวฉาดใหญ่ ตวาดไล่เสียงแข็ง เนตรนภิศกรีดร้องเสียงหลง เซซังออกจากห้องทั้งน้ำตาไหลพราก ทุกคนมองตามด้วยความสมเพช!

ooooooo

วีกิจเช็กอินที่โรงแรมในตัวเมืองเพชรบูรณ์ สอบถามไสวรินทร์ พนักงานสาวสวยประจำเคาน์เตอร์ถึงทางไปไร่ดอกไม้ของมุนินทร์ ไสวรินทร์บอกให้ลองถามหมอบีเพื่อนสนิทเจ้าของไร่

วีกิจไปพบหมอบีซึ่งมาที่ร้านขายของที่ระลึกในโรงแรมโดยบังเอิญ สองหนุ่มพูดคุยกันอย่างถูกคอถึงวีรกรรมสมัยเด็กของมุนินทร์กับมุตตา

“นินกับตาเด็กกว่าผมสองปี แต่ไอ้นินมันเรียนเร็ว เลยเรียนชั้นเดียวกับผม แต่มันเรียนเก่งกว่าผม ทั้งดื้อทั้งซน โดดเรียนบ่อยจนครูแทบฆ่ามัน แต่มันไม่ได้โดดไปเล่นๆนะฮะ มันแวบไปรับงานพิเศษ หาเงินตัวเป็นเกลียว”

วีกิจทึ่งแต่ก็เอ็นดูในความแก่นเซี้ยวของมุนินทร์ หมอบีเล่าถึงมุตตา แววตาหม่นลงเล็กน้อย

“กับน้องตา...ผมเคยสนิทกับตามาก พอโดนนินแกล้งก็มาฟ้องผม แต่ผมก็โดนนินมันถล่มกลับ”

“เขาร้ายจะตายฮะ เจ้าคิดเจ้าแค้นเป็นที่สุด”

หมอบีชักสังหรณ์ว่าวีกิจคงไม่ใช่แค่เพื่อนทั่วไปของมุนินทร์ อาสาพาชายหนุ่มไปส่งไร่เพราะอยากดูอาการเพื่อน

อีกด้าน...มุนินทร์มาถึงเพชรบูรณ์ไล่เลี่ยกับวีกิจ บรรยากาศเดิมๆในบ้านทำให้นึกถึงแฝดน้องจับใจ หญิงสาวช่วยแม่ร้อยมาลัย แปลกกับพิณมองอย่างตะลึงลาน ลูกสาวสุดห้าวนั่งหลังขดหลังแข็งทำงานฝีมือ!

“นินเอ๊ย...เหมือนกับน้องอย่างกับพิมพ์เดียว ยิ่งมาร้อยมาลัยแบบนี้”

“โธ่พ่อ...ยิ่งเห็นก็ยิ่งคิดถึงวันที่ตาผูกคอตาย ยายตา ก็ร้อยมาลัยมาขออโหสิกรรมฉันกับแกแบบนี้”

มุนินทร์เลิกคิ้ว พิณเล่าถึงวันสุดท้ายของมุตตา เปรยอย่างปลงๆ ว่าถ้าไม่มัวแต่สนใจเรื่องรินลดาเป็นเอดส์ และท้องไม่มีพ่อ คงเอะใจเรื่องมาลัยขออโหสิกรรมของมุตตา

“ฉันกับพ่อแกน่ะ ห้ามตาไปมาหาสู่ยายริน ตอนนั้นน่ะคิดอยู่แต่ว่ายายรินทำเรื่องงามหน้าขนาดนั้น จะกลับ มาให้พ่อแม่อับอายขายขี้หน้าทำไม...ตายซะยังดีกว่า”

“แม่แค่คิด...หรือว่าแม่พูดออกไปด้วยคะ ถ้าแม่พูดออกไป นั่นคือคำพิพากษา...ให้ตาลงโทษตัวเอง...ตกลงว่าเราทุกคน ช่วยกันลงมือให้ตาตาย”

“นิน...ใจเย็นๆ อดีตมันผ่านไปแล้ว แก้ไขไม่ได้แล้ว แต่เราจะได้ใช้มันเป็นบทเรียนให้เราไม่ทำผิดอีก”

แปลกปลอบลูกสาวเสียงอ่อน พิณน้ำตาไหล สะท้อนใจถึงความปากร้ายของตน โทษตัวเองเสียงสั่น

“ฉันผิดเอง ฉันทำผิดมาตลอด ฉันทำไม่ดีกับตาไว้มาก...กับแกด้วย...นิน”

พิณมองลูกสาวด้วยแววตาสำนึกผิด มุนินทร์ตื้นตัน ไม่เหลือเรื่องคาใจกับแม่อีก เธอคิดถึงแฝดน้อง อธิษฐานขออโหสิกรรมอยู่ในใจ

“ตา...ไม่ว่าตอนนี้ตาจะอยู่ที่ไหน ได้โปรดอโหสิให้พี่อีกคนนะ”

สามคนพ่อแม่ลูกกอดกันแน่นด้วยความซึ้งใจ... หลังจากนี้จะได้อยู่ด้วยกันอย่างเป็นสุขสักที

ooooooo

หลังเหตุการณ์ประจานตัวเองของเนตรนภิศ เจนภพตัดสินใจทำเรื่องเลิกจ้างรัชนกที่กระทรวงเพื่อตัดปัญหา เขามอบหมายให้แจงจิตนำซองขาวไปให้สายลับแอ๊บแบ๊ว รัชนกร้องไห้ตีโพยตีพายอย่างน่าสงสารต่อหน้าฝูงชน แต่เปลี่ยนสีหน้าเป็นยิ้มแย้ม เดินนวยนาดไปหาเจนภพในห้อง หนุ่มใหญ่ชี้แจงเรื่องซองขาวด้วยคำพูดแดกดัน

“ก็ง่ายๆ ผมเชิญคุณออกจากการเป็นลูกจ้างชั่วคราว เพราะคุณทั้งชั่วทั้งคาวคละคลุ้งไปหมด”

“ปากจัดอย่างนี้ เรียนมาจากเมียอัมพาตของคุณแน่เลย ถ้าฉันทำผิด...คุณน่าจะตั้งกรรมการสอบสวนสิคะ”

“คงมีกรรมการที่อยากสอบสวนคุณอยู่หลายคน ถ้าได้เห็นคลิปพวกนี้”

เจนภพเปิดคลิปฉาวล่าสุดของตัวเอง ต่อด้วยคลิปของประสิทธิ์ชัย รัชนกยิ้มเยาะ ไม่สะทกสะท้านแม้แต่น้อย

“ก็แปลว่า...กระทรวงนี้มีแต่ลูกจ้างชายที่คอยพล่าสวาทลูกจ้างหญิงให้ตกเป็นเหยื่อน่ะสิคะ”

“แค่สองคลิปนี้ คณะกรรมการคงไม่มีใครคิดว่าคุณคือสาวแสนซื่อที่ตกเป็นเหยื่อแล้วล่ะ”

“โอเคค่ะ...คุณชนะ...พวกคุณทำลายฝันฉันหมดเลย ฉันกะจะเก็บให้ถึงซีสิบเอ็ดแล้วถึงออก ตอนนี้ได้แค่ซีสี่กระจอกๆ กับซีแปดที่เกือบหมดน้ำยาเท่านั้นเอง”

เจนภพโกรธแต่พยายามระงับไว้ รัชนกผิดคาดที่ยั่วหนุ่มใหญ่ไม่ขึ้น ยักไหล่น้อยๆ แล้วหมุนตัวออกไป

รัชนกปรับสีหน้าเป็นเศร้าโศกเมื่อออกจากห้องเจนภพ ขาเม้าท์ประจำกระทรวงยืนอออยู่ด้วยสายตาอยากรู้อยากเห็น สาวแบ๊วตีบทแตก เดินไปทรุดฮวบต่อหน้าพนักงานหนุ่มๆ ทิพอาภาเหลืออด ถลาไปตบฉาดใหญ่ รัชนกไม่ตอบโต้แต่ส่งสายตาอ้อนไปหาหนุ่มๆ แถวนั้นให้ช่วยประคองไปเก็บของ หลิ่วตามองขาเม้าท์ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ ทุกคนมองตามอย่างทึ่งในฝีมือการแสดง...แค้นใจนิดๆ ที่ไม่เห็นความร้ายกาจของสาวแบ๊วตั้งแต่แรก!

ขณะเดียวกันที่เพชรบูรณ์ หมอบีพาวีกิจมาที่บ้านมุนินทร์...หญิงสาวเห็นรถเพื่อน ออกมาต้อนรับอย่างดีใจ หมอหนุ่มเห็นเพื่อนสาวแล้วนึกถึงมุตตา

“ไม่น่าเชื่อ...แต่ก่อนนายไม่เห็นเหมือนตาเลย แต่เดี๋ยวนี้เหมือนเหลือเกิน”

“เลยจะเปลี่ยนใจจากน้องมาเป็นพี่เหรอ เสียใจนะ...ต้องต่อคิวก่อน”

“เราเลยเอาคิวแรกนายมาส่ง”

วีกิจสวมแจ็กเกตที่มุนินทร์ซื้อให้ลงจากรถ มุนินทร์อ้าปากค้าง หมอบีเดาอาการเพื่อนได้ ขอตัวไปเยี่ยมรินลดา เปิดโอกาสให้เพื่อนอยู่กับชายหนุ่มตามลำพัง วีกิจชวนคุยด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม

“บ้านคุณสวยเหมือนที่ผมวาดภาพไว้เลย”

“อะไรที่วาดหวังไว้ มักดีเกินจริงเสมอล่ะค่ะ”

“ตาอยู่ไหนฮะนี่”

“คุณจะไปพบตาไหมล่ะคะ...ฉันจะพาไปเอง”

วีกิจยังไม่เข้าใจความนัย พิณโผล่มาดูชายหนุ่มแปลกหน้าที่คุยกับลูกสาว มุนินทร์แนะนำว่าเป็นเพื่อนที่ทำงานของมุตตา วีกิจไม่สนใจคำพูดประชดประชัน ทักทายแปลกกับพิณอย่างนอบน้อม

ooooooo

มุนินทร์ยังไม่หายงอน จำใจขับรถพาวีกิจไปหามุตตา ชายหนุ่มทำใจดีสู้เสือ พยายามชวนคุยแต่โดนตอกกลับด้วยคำพูดยอกย้อนจนเหนื่อยใจ หญิงสาวเลี้ยวรถเข้าวัดในหมู่บ้าน ชายหนุ่มลงจากรถงงๆ

“ตามาถือศีลเหรอฮะ”

“ค่ะ...ตอนนี้ตาละเว้นจากบาปทั้งหลายแล้ว”

วีกิจยังไม่เข้าใจ คิดว่ามุตตามาปฏิบัติธรรมที่วัด มุนินทร์พาลัดเลาะบริเวณป่าช้าของวัดที่ดูเหมือนสวนสวยไปยังหลุมศพแฝดน้อง

“นี่ไงคะ เราให้ตาอยู่ตรงนี้ เราฝังตาไว้ที่นี่ครบร้อยวันแล้ว”

วีกิจตัวชา เพิ่งเข้าใจความนัยทุกอย่างที่มุนินทร์พยายามบอก มองดูป้ายไม้ที่มีรูปมุตตาปิดอยู่อย่างสลดใจ มุนินทร์น้ำตารื้น พูดถึงน้องสาวฝาแฝดด้วยน้ำเสียงขมขื่น

“ฉันกลับมาจากอเมริกา กลับมาบ้าน มาหาพ่อ แม่ และตา...แต่ตาไม่ยอมรอฉัน”

“นี่มันเมื่อไหร่กันครับ...เกิดอะไรขึ้นกับตา”

“ตาเพิ่งกลับมาจากกรุงเทพฯ ได้สองวัน ฉันเป็นคนแรกที่เห็นตาผูกคอตายอย่างโดดเดี่ยว แต่ตาไม่ได้จากไปลำพัง ตาตายไปพร้อมกับลูกในท้อง...เลือดเนื้อเชื้อไขของอาคุณ”

วีกิจน้ำตาเอ่อ คุกเข่ากับพื้นช้าๆ นึกถึงวันสุดท้ายที่เห็นมุตตา เขาน่าจะสะกิดใจสายตาแปลกๆของเธอ มุนินทร์สะเทือนใจท่าทีชายหนุ่ม ยิ่งมั่นใจว่าเขารักน้องสาวไม่ใช่เธอ

“ตาเลือกแบบนั้น มันอาจไม่ถูกแต่ตาก็เลือกแล้ว ในขณะที่ฉันเลือกให้ตายังอยู่ และกลับไปทวงความยุติธรรมให้...ฉันพบว่าบางทีสิ่งที่ฉันเลือกอาจจะผิด และสิ่งที่ตาเลือกอาจจะถูกก็ได้”

มุนินทร์ชวนวีกิจกลับ บอกว่าจะมีงานทำบุญร้อยวันให้มุตตาวันรุ่งขึ้นและงานเผาศพวันถัดไป

“ผมจะอยู่จนถึงวันนั้น ขอให้ผมได้ส่งตาเป็นครั้งสุดท้าย”

มุนินทร์เชิดหน้าให้น้ำตาแห้งหาย...สมเพชตัวเองที่หลงรักชายหนุ่มที่มีรักมั่นต่อน้องสาวอย่างถอนตัวไม่ขึ้น...

เวลาเดียวกันนั้นที่กรุงเทพฯ ปริมถือซองสีขาวม่วงปึกใหญ่วิ่งกระหืดกระหอบมาหากลุ่มขาเม้าท์ประจำ กระทรวงบอกว่าเป็นการ์ดเชิญงานฌาปนกิจศพมุตตา ขาเม้าท์แตกตื่นแต่ยังไม่เชื่อว่าเป็นเรื่องจริง เดากันไป ต่างๆนานาว่าเป็นฝีมือของพลพรรครักเมียหลวงเพื่อทำลายชื่อเสียงมุตตา

เจนภพผ่านมาได้ยินขาเม้าท์เต็มสองหู ดึงการ์ดจากมือปริมมาดูแล้วหน้าถอดสี ถามแจงจิตเสียงเครียด

“งานศพมุตตา มีใครล้อเล่นหรือเปล่า”

“ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ หรือว่าคุณนภิศเธอยังไม่หายแค้นคะ”

“ถ้ามีคนแกล้ง...ก็บ้ามากๆ”

เจนภพเครียดจัด ภาวนาให้เป็นแค่เรื่องล้อเล่น เสียงมือถือดังขึ้น วีกิจโทร.มาขอร้องให้ไปเพชรบูรณ์

“ผมอยากให้อาภพมาให้ได้ แค่สองสามชั่วโมงก็ยังดี อย่างน้อยก็มาใส่ดอกไม้จันทน์และขออโหสิกับตา”

เจนภพฟังเรื่องราวทุกอย่างจากวีกิจด้วยใบหน้าซีดเผือด ตัวชา การ์ดร่วงหลุดจากมือ บอกแจงจิตว่ามุตตา ตายแล้วจริงๆ ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น!

ooooooo

คืนนั้น...ต้อง ต่อ และต้อมนั่งเล่นอยู่ในห้องโถง ต้อมร้องไห้คิดถึงแม่ ต้องทำให้ทุกคนแปลกใจด้วยการเดินไปกอดน้อง ต่อขนาบอีกข้าง ปลอบน้องเสียงอ่อนว่าแม่ต้องไม่เป็นอะไร สร้อยคำกับแต้วมองดูภาพสาม พี่น้องด้วยความตื้นตันใจ

“โธ่เอ๋ย...อยากให้คุณนภาได้เห็นจริงๆ”

“หนูสงสารคุณผู้หญิง คนก่อเรื่องจริงๆ คือคุณผู้ชาย แต่ทำไมคุณผู้หญิงต้องมารับกรรม”

“แต้วเอ๊ย...กรรมใครก็ของคนนั้น ไม่มีใครมารับกรรมแทนใครหรอก...คิดเหรอว่าคุณผู้ชายของแกไม่ทุกข์”

“จริงค่ะ...คุณผู้ชายตอนนี้หน้าดำยังกับถูกเสน่ห์...อุ๊ย...มาพอดีเลย”

สร้อยคำมองท่าทีเซื่องซึมของเจนภพอย่างสงสัย หนุ่มใหญ่บอกพี่สะใภ้ว่าจะไปหามุตตาที่เพชรบูรณ์เป็นครั้งสุดท้าย สร้อยคำไม่เอะใจน้ำเสียงแปร่งๆ แอบเคืองเพราะคิดว่าเขาหลงเมียน้อยไม่หาย

“เธอจะตามนายกิจไปหรือ นี่เธอสองคนลุ่มหลงอะไรนักหนากับผู้หญิงคนนี้”

“ใช่ครับ ผมหลง...หลงอยู่กับตัณหาราคะของตัวเองจนทำร้ายคนที่รักผมถึงสองคน เมื่อร้อยวันก่อน ตากลับไปเพชรบูรณ์และฆ่าตัวตายครับ”

“อะไรนะ...แล้วมุตตาที่กลับมาสร้างเรื่องวุ่นวายคือใครล่ะ”

“ผู้หญิงคนนั้นคือพี่สาวฝาแฝดของตา เขาสวมรอยเป็นตากลับมาแก้แค้นให้น้องสาว”

“ทำไมหนูตาต้องทำอย่างนี้ด้วย”

“ตาท้องครับ...ท้องกับผมได้สามเดือน ตาคงหมดทางเลือกจริงๆ เลยเลือกความตายให้เขากับลูก”

สร้อยคำน้ำตาร่วงพรู สงสารมุตตาจับใจ เจนภพสะเทือนใจ พูดถึงมุนินทร์เสียงขื่น

“พี่สาวตาชื่อมุนินทร์ครับ ที่เขาทำมันสาสมแล้ว ผมไม่โทษเขาเลย...ต้องโทษตัวเองที่ทำลายชีวิตไม่รู้กี่คน!”

ooooooo

แม้จะเคลียร์เรื่องคาใจกับพ่อและแม่แล้ว แต่ความทรงจำเลวร้ายที่บึงบัวยังตามหลอกหลอนมุนินทร์อยู่ หญิงสาวไปนั่งเล่นที่บึงบัว ทันเห็นรินลดาที่ท้องโตเดินลุยน้ำอย่างเลื่อนลอย มุนินทร์ตกใจ กระโจนลงน้ำไปช่วย

มุนินทร์แหวกว่ายควานหาเพื่อนด้วยใจร้อนรน กลัวเหตุการณ์ซ้ำรอยเหมือนที่เกิดกับเธอและแฝดน้อง หญิงสาวพยายามเบิ่งตามองรอบๆ ในที่สุดก็สามารถช่วยรินลดาขึ้นมาได้อย่างปลอดภัย กอดเพื่อนไว้อย่างปลอบประโลม รินลดาร้องไห้เสียใจที่ไม่ตาย

“ไม่กลัวติดโรคหรือนิน แม่ฉันติดโรคเพิ่งตายไป”

“แม่เธอหัวใจวายต่างหากริน เธอจะให้ลูกเธอตายไปกับเธอหรือ อีกแค่สองเดือนแกก็จะลืมตาดูโลกแล้วนะ”

“อีกสองเดือนแกก็จะเป็นเด็กที่ติดเอดส์”

“เธอรู้ไหมว่ามีเด็กตั้งเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ที่ไม่ติดโรคจากแม่ที่เป็นเอดส์...เธอจะไม่ให้โอกาสลูกเลยหรือ ...ให้โอกาสลูกและให้โอกาสกับตัวเธอเองเถอะนะริน”

“ให้ฉันสู้กับโชคชะตาหรือ”

“ใช่...ถึงวันหนึ่งเราจะแพ้ แต่อย่างน้อยเราก็ได้สู้”

รินลดาซาบซึ้งในน้ำใจเพื่อน มีกำลังใจที่จะต่อสู้กับโรคร้ายและมีชีวิตอยู่เพื่อลูก มุนินทร์สบายใจมากขึ้น เหมือนได้ไถ่บาปที่ไม่ได้อยู่ข้างมุตตาตอนที่เกิดเรื่อง...

ขณะที่มุนินทร์ได้ผ่อนความรู้สึกผิดในใจ...เจนภพไปเยี่ยมนพนภาเพื่อบอกเรื่องมุตตาผูกคอตาย นพนภาช็อก ความรู้สึกผิดถาโถมจนจุก เจนภพถือช่อดอกลิลลี่มาด้วย บอกว่าจะนำไปเคารพศพมุตตาเป็นครั้งสุดท้าย นพนภามองดอกลิลลี่นิ่ง เจนภพพยายามเดาท่าทางเมีย ดึงลิลลี่จากช่อมาหนึ่งดอก

“คุณอยากขออโหสิกรรมกับตาหรือนภา”

นพนภาแววตาเหมือนตอบรับ เจนภพจับมือเมียทั้งสองข้างประกบดอกลิลลี่ พนมไว้กลางอก

“อโหสิกันเถอะนะนภา อโหสิกรรมกับตาและพี่สาวตาให้หมด...ไม่ใช่เพื่ออะไรหรือใคร แต่เพื่อใจคุณเอง”

นพนภายังขยับตัวไม่ได้ หลับตาส่งกระแสจิตเพื่อขออโหสิกรรม น้ำตาไหลรินจากหางตา เจนภพมองเมียอย่างขอบคุณ ปลื้มใจที่เมียรู้จักการให้อภัย

“ดอกไม้นี่จะเป็นดอกไม้ของเราสองคน...ใส่ลงในไฟที่เผาตา”

นพนภาลืมตาขึ้นคล้ายรับคำ...ปล่อยวางทุกความแค้นที่มีมา

ooooooo

แรงเงา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด