นิยายไทยรัฐ
มือเหนือเมฆ
พ่อบ้านใจ๋กับเฉียดวิ่งหนีมาทางด้านข้างโรงสี สมุนของฝ่ายไหนไม่รู้โผล่มายิงใส่ ทั้งคู่ต้องโดดหลบก่อนจะโผล่หัวขึ้นมายิงใส่สมุนตาย จากนั้นต่างวิ่งหนีไปกันคนละทาง โดยเฉียดไปทางริมน้ำ เจอจอมที่วิ่งหนีมาเช่นกัน ต่างฝ่ายต่างจ้องปืนใส่กัน จอมลั่นกระสุนทันที ไม่ได้ยิงเฉียดกระสุนเลยไปด้านหลังถูกสมุนบวรตาย
เฉียดไม่สนใจที่จอมช่วยชีวิตเอาไว้ ยังคงเอาปืนส่องไปที่อดีตเพื่อนรักด้วยสายตากร้าวไม่แพ้กัน
“นายรู้เรื่องที่ลุงแบนตายไหม”
“รู้อยู่ตรงนั้น ทำไมเหรอ” เฉียดไม่คิดจะอธิบายให้มากความแถมยังบอกว่าเขาเป็นคนยิงลุงแบนเอง จอมเลือดขึ้นหน้ายิงใส่ เฉียดยิงสวน จอมหงายหลังตกน้ำจมหายไป เฉียดวิ่งมาดูไม่เห็นแม้แต่เงาของอีกฝ่าย แต่แล้วเขารู้สึกเจ็บที่สีข้างก้มดูเห็นเลือดไหลถึงกับทรุด เสียงหวอรถตำรวจดังใกล้เข้ามา เฉียดจำต้องกัดฟันข่มความเจ็บ วิ่งหนี จากนั้นไม่นาน รถตำรวจนับสิบคันแล่นมาจอดหน้าโรงสี
เหล่าสมุนที่รอดตายพากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง เหลือเพียงศพเกลื่อนบริเวณ จ่าจ้อยขี่มอเตอร์ไซค์ตามมาสมทบ อเนจอนาถกับภาพที่เห็น เดินสำรวจไปรอบๆอย่างระมัดระวัง เห็นปอมนอนตายจมกองเลือดได้แต่ส่ายหน้า ด้วยความสังเวช...
จำปาหลับไปแล้วแต่ต้องตกใจตื่นเมื่อได้ยินเหมือนเสียงเก้าอี้ล้ม รีบลุกออกมาดูต้องตกใจที่เห็นเฉียดนอนจมกองเลือด เธอตะโกนเรียกพ่อบ้านใจ๋สุดเสียงแล้วเข้าไปประคองชายคนรักไว้ในอ้อมกอด
“พี่เฉียด...ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที พี่เฉียด...พี่อย่าเป็นอะไร” จำปาพยายามเขย่าตัวให้เฉียดตื่นแต่ไร้ผล...
ด้านบวรในสภาพเหมือนไปฟัดกับใครมาเดินโซซัดโซเซมาถึงรั้วบ้านพรพรรณ มองซ้ายมองขวาเห็นปลอดคนปีนรั้วเข้าไป ไฟในบ้านยังเปิดอยู่ เขาค่อยๆแง้มประตูเข้าไป พรพรรณเห็นสภาพของเขาถามว่าเกิดอะไรขึ้นเขาเลี่ยงที่จะตอบคำถาม
“พี่...ไม่รู้จะไปไหน”
“ไม่เป็นไรพี่ ฉันเข้าใจ อยู่ที่นี่ก่อน” พรพรรณเข้าไปประคองบวรด้วยความห่วงใย...
อีกฟากหนึ่งของพระนคร บุญตานั่งมองภาพถ่ายหน้าโลงศพของลุงแบนอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย ก่อนจะยกมือขึ้นพนมอธิษฐานให้ลุงแบนช่วยปกป้องคุ้มครองจอมให้ด้วย ยังไม่ทันจะขาดคำ จอมในสภาพตัวเปียกชุ่มมีเลือดไหลเป็นทางเดินมาล้มลงบนศาลา เธอวิ่งไป เขย่าตัวแต่เขาไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
“พี่จอม...พี่จอมอย่าทิ้งบุญตาไปอีกคนนะ...พี่จอม” บุญตาร้องไห้ออกมาอย่างเสียขวัญ
ooooooo
เช้าวันถัดมา สัวกิมรู้เรื่องที่ตองไปช่วยจอมสู้กับพวกบวรและเฉียดก็ไม่พอใจ ตบหน้าหันฐานทำอะไรไม่ปรึกษากันก่อน ถ้าเกิดอะไรขึ้นมันจะเสียมาถึงตน
“ผมเห็นว่าจอมก็เป็นคนของสัวไม่ใช่เหรอครับ” พูดไม่ทันขาดคำ สัวกิมตบบ้องหูเปรี้ยง
“บอกกี่ครั้งว่าไม่ต้องถาม แล้วถ้าไม่ได้สั่งไม่ต้องทำ เลี้ยงเสียข้าวสุกจริงๆ...แล้วมีใครตายบ้าง”
ตองสวนทันที น่าจะถามว่ามีใครรอดมากกว่า สัวกิมโกรธเงื้อมือจะตบอีกแต่คราวนี้ตองคว้ามือไว้ เจ้าพ่อใหญ่ตะลึงคาดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าหือ ตองอ้างไม่อยากให้เจ้านายต้องเจ็บมือแล้วตบๆๆๆหน้าตัวเองแต่สายตาจ้องสัวกิมเขม็ง พลางถามว่าพอใจหรือยัง เขามองตอบหวั่นๆ สั่งให้พอได้แล้ว ตองถึงได้หยุดตบตัวเอง
“ทีหลังไม่ได้สั่งอย่าทำ...หรือเอ็งคิดจะลงจากหลังเสือตามไปบวชเหมือนไอ้จอมมันอีกคน”
“ผมไม่ใช่คนดีขนาดนั้นครับสัว” ระหว่างที่พูด ตองจ้องสัวกิมไม่วางตา
“ดีแล้ว ไอ้จอมมันไม่ได้บวชหรอก เชื่อสิ เดี๋ยวมันก็ต้องกลับมาทำงานให้อั๊วเหมือนเดิม” สัวกิมยิ้มเหี้ยม...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจิมเดินซื้อของอยู่ในตลาดไม่ล่วงรู้เลยว่าสิชลสะกดรอยตามตลอดเวลา...
จอมรู้สึกตัวตื่นขึ้นพบว่าตัวเองอยู่บนกุฏิหลวงพี่ พักตร์ มีหนานคำกับบุญตานั่งมองอยู่ โดยเฉพาะฝ่ายหลังเห็นเขาฟื้นโผกอดด้วยความดีใจ จอมมองแผลที่ไหล่ตัวเองซึ่งได้รับการรักษาเรียบร้อย
“ไหล่หลุด ดีไม่เป็นอะไรมาก กระสุนถากกระดูกไป เอาออกแล้ว” หนานคำรายงาน บุญตาค้อนเขาหนึ่งวง พร้อมกับต่อว่าว่าให้พาจอมไปโรงพยาบาลแต่หนานคำไม่ยอม จอมเห็นดีด้วยขืนพาไปเรื่องถึงตำรวจแน่ บุญตาตัดพ้อน้ำตาคลอเบ้า
“แล้วพี่ไปทำอะไรมา บอกแล้วไง ทำไมพี่ยังทำแบบนี้อีก พี่ไม่สงสารบุญตาเหรอ”
หลวงพี่พักตร์มายืนอยู่หน้าประตูกุฏิเอ่ยขึ้น “เขาถึงเรียกว่ามารผจญไง”
จากนั้นหลวงพี่พักตร์พาจอม บุญตาและหนานคำไปที่โบสถ์ โดยให้จอมซึ่งนั่งหน้าองค์พระประธาน สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ให้มารมาผจญอีก เขาได้แต่อ้ำอึ้งไม่กล้าสัญญา
“จอม เราไม่ใช่เพิ่งจะมาเห็นกันนะ หลวงพี่เห็นจอมมาตั้งแต่เริ่ม จอมไม่ใช่คนแบบนี้ ถ้าไม่เห็นแก่ลุงแบนที่ตายไปแล้ว ก็ให้เห็นแก่คนอยู่ จอมไม่ห่วงโยมพ่อเหรอ” ว่าแล้วหลวงพี่เลื่อนถาดใส่ธูปเทียนกับดอกไม้ให้ “บอกกับพระสิว่าจอมจะเอายังไงกับชีวิตดี”
เจ้าพ่อหนุ่มมองดอกไม้ธูปเทียนแล้วแหงนมองพระประธานองค์ใหญ่ หลวงพี่พักตร์เตือนสติว่าโยมพ่อของจอมแก่มากแล้ว จะอยู่ได้อีกกี่ปี วิญญาณโยมแม่ของเขามองลงมาจะพลอยได้บุญกุศลในครั้งนี้ไปด้วย
“ตัดห่วง ตัดอาฆาต เดินบนหนทางอภัยเป็นทานเถอะจอม”
จอมตัดสินใจเอื้อมมือไปหยิบดอกไม้ธูปเทียนมาจุดไหว้พระประธาน รู้สึกใจสงบขึ้น
ooooooo
ไม่นานนักจอมมาซุ่มดูอยู่ใกล้ๆกับร้านตัดผมของพ่อ เห็นพ่อกำลังตักบาตรพระที่ยืนเรียงแถวอยู่หน้าร้าน เจิมงกๆเงิ่นๆนั่งยองๆพนมมือฟังพระสวดให้พร จอมสงสารพ่อจับใจ รีบเดินเข้าไปแจ้งข่าวดีว่าตัวเองจะมาลาบวช จะให้พ่อไปงานบวชของเขาด้วย เจิมหาว่าจอมหลอกให้ดีใจ เขาทรุดตัวลงกราบเท้าท่าน
“ฉันจะบวชจริงๆ พ่อไปนะ”
เจิมมองลูกที่ทรุดตัวอยู่ตรงหน้า น้ำตาแห่งความปลื้มปีติไหลอาบแก้ม ยืนยันต้องไปงานบวชของเขาแน่นอน จากนั้นสองพ่อลูกกอดกันกลม สิชลแอบมองอยู่ไม่ได้ซาบซึ้งใจอะไรด้วยเลย...
ขณะที่เจิมไม่ล่วงรู้เลยว่ากำลังตกเป็นเป้าสังหารของสิชล พ่อบ้านใจ๋ทำแผลที่ท้องให้เฉียดเสร็จเรียบร้อยก็รายงานจำปาว่าโชคดีที่กระสุนไม่ถูกอวัยวะสำคัญ ถ้าไม่ใช่เพราะคนยิงพลาดเป้าก็เป็นเพราะยิงแม่นมากไม่ต้องการให้ถูกจุดตาย จำปาอยากรู้ว่าเฉียดไปมีเรื่องกับใครกันแน่
“ไว้ถามกันเองแล้วกัน”
จำปามองเฉียดที่ยังนอนไม่ได้สติด้วยความเป็นห่วง...
ระหว่างพรพรรณกำลังนั่งกินข้าวกลางวันอยู่กับบวร แกล้งถามลองเชิงว่ารู้ไหมใครฆ่าลุงแบน หวังว่าคงไม่ใช่เขา บวรย้อนถามแล้วถ้าเป็นเขา เธอจะยังเหมือนเดิมไหม พรพรรณพยักหน้า ตนก็เคยทำผิดอย่างไม่ควรจะมีใครให้อภัยมาเหมือนกัน แต่เขาให้สัญญาได้ไหมว่าจะไม่ทำผิดซ้ำอีก บวรส่ายหน้า
“พี่เป็นสัตว์...สัตว์ไม่สัญญา สัตว์ทำตามสัญชาตญาณเท่านั้น เวลามันเจ็บ มันทำทุกอย่างให้หายเจ็บ พี่ทำทุกอย่างเพื่อให้หายเจ็บ พรเข้าใจพี่นะ”
พรพรรณทักท้วง คนอื่นก็เจ็บเป็น บวรควรจะเข้าใจคนอื่นบ้าง เขาสวนทันที คนกับสัตว์ถึงได้ต่างกันเพราะสัตว์ไม่เคยนึกถึงใจเขาใจเรา เธอได้แต่พยักหน้าไม่พูดอะไรอีก...
หลวงพี่พักตร์มาร่วมงานเผาศพลุงแบนด้วยเนื่องจากรู้จักผู้ตายเป็นการส่วนตัวโดยไม่ลืมทวงถามสัญญาที่จอมให้ไว้กับพระประธานที่วัด เขาออกตัวว่าไม่ได้สัญญา แต่สาบานจะบวชให้พ่อ ให้วิญญาณแม่ ให้ลุงแบนและทุกชีวิตที่เขาเคยล่วงเกิน หลวงพี่พักตร์อาสาจะดูฤกษ์บวชให้ จอมหันมองบุญตาซึ่งไม่ขัดข้องอะไร
“ฉันอนุโมทนาด้วยนะพี่จอม”
พรพรรณขออโหสิกรรมให้จอมด้วยหากเคยทำอะไรไม่ดีต่อเขา ขณะที่จำปาอวยพรให้เขาได้พบทางสว่าง
ooooooo
เมื่อได้วันเวลาที่แน่นอนจากหลวงพี่พักตร์ การ์ดเชิญมางานบวชของจอมถูกแจกจ่ายไปทั่ว สัวกิมก็ได้รับการ์ดเชิญนี้เช่นกัน มองการ์ดในมือแล้วหันไปถามสิชลว่าจัดการไปถึงไหนแล้ว ได้ความว่าเรียบร้อยแล้ว อีกไม่นาน สัวกิมนิ่วหน้าหมายความว่าอย่างไร ตองผ่านมาเห็นสิชลกำลังกระซิบกระซาบกับเจ้านายก็ชะงักฝีเท้า
“อืม...ดี” สัวกิมพยักหน้าสีหน้าพอใจ
“ยังไงซะ เดี๋ยวก็ต้องกลับมาทำงานให้สัวเหมือนคราวแม่มันนั่นแหละ”
“ตอนนี้ สัวเหมือนมีเราคนเดียวแล้วนะ” พูดจบสัวกิมขยำซองการ์ดทิ้ง แล้วเดินออกไปกับสิชล ตองออกจากที่ซ่อนมองตามแปลกใจว่าเจ้านายพูดถึงใคร เข้าไปหยิบซองที่พื้นมาเปิดดู เห็นการ์ดเชิญไปงานบวชจอมก็พอจะเดาเหตุการณ์ได้ ผลุนผลันออกไปทันที...
ในเวลาเดียวกันเจิมถือหมอนกับพานที่เพิ่งซื้อมาเตรียมให้ลูกชายสำหรับงานบวชมาตามถนนมุ่งสู่ร้านตัดผม เพื่อนบ้านเห็นเข้าก็กระเซ้าว่าเห่อไปหรือเปล่า เตรียมของแต่เนิ่นๆเลยหรือ เจิมหัวเราะแก้เขิน
“ซื้อไว้ก่อน เดี๋ยวขาดตลาด” เจิมว่าแล้วเดินต่อไปกระทั่งถึงหน้าร้านตัดผม เห็นถังสังฆทานสีเหลืองวางอยู่ก็ยิ้มดีใจคิดว่าเป็นชาวบ้านฝากข้าวของมาทำบุญ เอาหมอน พานกับของอื่นๆที่เพิ่งซื้อมาเข้าไปเก็บ แล้วจึงออกมายกสังฆทานใบนั้นเข้าไปวางรวมกับข้าวของสำหรับบวชลูก พลางหันไปพูดกับรูปถ่ายของแจ่ม
“ลูกแกมันจะบวชให้ฉันแล้วนะ ยายแจ่ม มารอรับกุศลนะ” เจิมยิ้มกับเมียแล้วเดินเข้าข้างใน...
ทางด้านตองวิ่งหน้าตั้งจะขึ้นไปหาจอมบนกุฏิหลวงพี่พักตร์ หนานคำขวางไว้ขอร้องคนจะบวช มารอย่าผจญดีกว่า มีเรื่องอะไรให้เอาไว้วันหลัง ตองรอไม่ได้ เรื่องนี้สำคัญมาก แล้วขยับจะขึ้นบันได หนานคำไม่ยอมให้ไป ทำให้สองคนเปิดศึกกำปั้นใส่กัน จอมต้องออกมาห้าม ถามว่ามีเรื่องอะไรกัน
“พ่อจอม” ตองละล่ำละลัก “พ่อจอมกำลังอยู่ในอันตราย สัวกิมไม่อยากให้จอมลงจากหลังเสือ เขากำลังจะทำทุกอย่างเพื่อให้จอมกลับไปทำงานด้วย เหมือนคราวแม่จอม”
จอมไม่รอช้ารีบวิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ขับออกไปอย่างรวดเร็ว...
ในขณะที่เจิมกำลังตกอยู่ในอันตราย อัศวินเดินขึ้นมาบนโรงพัก พบว่าจ่าจ้อยกำลังคุยอยู่กับตำรวจหลายนาย พอพวกนั้นหันมาเห็นเขาก็หยุดคุยอย่าง
พร้อมเพียงกันราวกับนัดไว้ อัศวินรู้ทันทีว่าต้องมีเรื่องไม่ชอบมา พากลไม่อย่างนั้นตำรวจกองปราบฯคงไม่มากันมากมายอย่างนี้ จ่าจ้อยรีบลุกมาหา
“จากการเข้าค้นบ้านนายหัวบ้วน พบเอกสารหลายอย่างที่โยงไปถึงการค้าอาวุธที่พาดพิงถึงสารวัตร”
“ผมเป็นผู้ต้องหาหรือผู้ต้องสงสัย”
จ่าจ้อยปฏิเสธว่าไม่ใช่ทั้งสองอย่าง กองปราบฯแค่จะเชิญอัศวินไปสอบสวนหาข้อเท็จจริง สารวัตรชั่วรู้ว่างานนี้คงไม่รอด ออกอุบายขอเข้าห้องน้ำก่อน จ่าจ้อยจะตามประกบ เขายกยศที่เหนือกว่าขึ้นมาข่ม ทำให้จ่าจ้อยไม่กล้าตามเข้าห้องน้ำ ได้แต่ยืนรออยู่ด้านนอก รออยู่พักใหญ่ไม่เห็นเขาออกมาสักทีก็เคาะประตูเรียก
“สารวัตรครับ...สารวัตร” จ่าจ้อยมองตำรวจกองปราบฯที่ยืนอยู่ด้วยกัน ก่อนจะตัดสินใจลองขยับลูกบิดประตูห้องน้ำดูแต่มันล็อก เขาจึงกระแทกประตูเข้าไป ไม่เห็นใครอยู่ในนั้น มีเพียงร่องรอยที่อัศวินปีนหนีออกทางช่องระบายอากาศ จ่าจ้อยเจ็บใจตัวเองที่ยอมให้สารวัตรชั่วเข้าห้องน้ำคนเดียว...
จอมอุตส่าห์บึ่งมอเตอร์ไซค์จะมาเตือนพ่อ ถึงหน้าร้านตัดผมยังไม่ทันจะเอาขาตั้งรถลง เกิดระเบิดดังขึ้นสนั่นหวั่นไหวเสียก่อน เขารีบวิ่งฝ่าควันที่พวยพุ่งเข้าไปข้างใน พบพ่อนอนจมกองเลือด ข้าวของเครื่องใช้สำหรับบวชกระจัดกระจายเกลื่อน จอมรีบประคองพ่อที่หายใจรวยรินไว้
“พ่อ...พ่อๆ” จอมเรียกได้แค่นั้น เจิมก็สิ้นใจตายในอ้อมกอด เขาร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร
ooooooo
ในระหว่างที่สัวกิมกำลังยิ้มกริ่มที่สิชลทำงานสำเร็จ ตองเดินนำอัศวินเข้ามาพบ เจ้าพ่อใหญ่ไม่พอใจสะบัดหลังมือใส่ฐานที่พาคนเข้ามาไม่ถามไถ่กันก่อน ตองเบี่ยงตัวหลบทัน
“ผมเห็นว่าก็เคยมาอยู่”
“ไม่ต้องตกใจ ผมมาดี ไม่ได้มาเอาคืน” อัศวินไม่อยากมีปัญหากับสัวกิมจึงรีบบอกว่าที่แล้วก็ให้แล้วไป สัวกิมอยากรู้ว่าเขามาที่นี่ต้องการอะไรกันแน่ อัศวินเตือนว่าเรารอช้าไม่ได้แล้ว ถ้าสัวกิมอยากตีเหล็กก็ต้องตีตอนร้อน เจ้าพ่อใหญ่สั่งให้ว่ามาได้เลย อัศวินอ้าปากจะพูดแล้วนึกขึ้นได้มองมาทางตองกับสิชล สัวกิมรู้งานแต่กลับไล่ตองออกมาคนเดียว เขาถึงกับเซ็งไม่รู้ว่าทั้งคู่ตกลงเรื่องอะไรกัน...
ขณะที่อัศวินพยายามดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด เฉียดที่เพิ่งรู้สึกตัว เดินไม่ค่อยจะมีเรี่ยวแรงเข้ามาในครัว จำปากำลังทำกับข้าวหันมาเห็นเขาเข้า ต่อว่าว่าลุกขึ้นมาทำไมยังไม่หายดี เขาอ้างว่าหิว
“จริงนะ นั่งก่อน เดี๋ยวจำปาทำอะไรอ่อนๆให้กิน” จำปาประคองเฉียดมานั่งแล้วหันไปเตรียมอาหารให้ เขาเดินมาจับมือเธอไว้ รู้ทั้งรู้ว่าเขาเป็นคนเลว ยังจะรักเขาอยู่อีกหรือ เธอเองก็ไม่ใช่คนดี เลวไม่แพ้เขาเช่นกัน
“ก็ได้นะ เป็นคนเลวที่มีคู่สบายใจกว่าเป็นคนดีแล้วต้องอยู่ลำพัง”
“พี่เฉียดต้องไม่เป็นอะไรนะ ต้องอยู่กับจำปา จำปาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่เฉียด รู้เปล่า” จำปาจับมือเฉียดมาแนบแก้มตัวเองด้วยความรักเต็มหัวใจ...
จ่าจ้อยถึงกับกุมขมับเมื่อเรียกตัวจอมมาให้ปากคำเรื่องการตายของเจิมแต่ไม่ได้อะไรเพราะเขาไม่ให้ความร่วมมือ อ้างไม่รู้ไม่เห็น จ่าจ้อยพยายามคาดคั้นให้เขาให้เบาะแสอะไรบ้างเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น เขากลับตัดบท ถ้าไม่มีอะไรแล้วขอตัวกลับก่อน จ่าจ้อยไม่สามารถกักตัวเขาไว้ได้จำต้องอนุญาตให้ไป จังหวะนั้นบุญตาจ้ำพรวดๆเข้ามาด้วยน้ำตานองหน้า
“พี่จอม ใครทำ...ใครทำลุงเจิม...ทำไม” บุญตา
กอดจอมร้องไห้ เขาได้แต่ลูบหัวลูบหูปลอบเธอ...
ตกค่ำ พรพรรณจุดธูปไหว้พระพุทธรูปบนหิ้งบูชา หันไปเห็นบวรมองอยู่ชวนให้มาไหว้พระด้วยกัน เขาส่ายหน้า พระไม่เคยช่วยอะไรเขา ทำไมต้องไหว้ด้วย พรพรรณพยายามห้ามไม่ให้จาบจ้วงแต่เขาไม่สนใจ
“พระอยู่บนสวรรค์ นรกมีมารอยู่ พี่สนิทกับมารโดยหลักการแล้วมารไม่ควรทำอะไรพี่ ถึงพี่ตกนรกก็เถอะ”
พรพรรณได้แต่หัวเราะฮึๆกับมุกฝืดของเขา แล้วหันไปจะสวดมนต์ต่อ บวรดึงมือที่พนมของเธอออกขอให้เธอร้องเพลงให้ฟัง ทีแรกเธอปฏิเสธอ้างว่าไม่มีดนตรี แต่สุดท้ายทนเสียงรบเร้าของเขาไม่ไหว บวรฟังเพลงไปยิ้มไปมีความสุข
ooooooo
จำปาเลือกซื้ออาหารบำรุงสุขภาพไปพลางยิ้มไปด้วยเมื่อนึกถึงชายคนรัก แต่ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันที่เห็นกานดากับเริงปรี่เข้ามาทัก ไม่ได้เจอกันตั้งนาน ทำเป็นไม่รู้จักไม่ทักทายกันเลยใช่ไหม จำปาได้แต่อึกอัก
“ทำไม กลัวมีคนจำได้ว่าเคยทำงานที่ไหน” เริงแกล้งส่งเสียงดังเพื่อให้อีกฝ่ายได้อาย
“เราต่างคนต่างอยู่เถอะ”
“นี่ถามจริง หล่อนคิดว่าหล่อนจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างคนปกติเขางั้นรึ...หล่อนคิดว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวมาขอหล่อนแต่งงานในบั้นปลายงั้นรึ หล่อนไม่กลัวเหรอว่าเกิดวันหนึ่งเจ้าชายเขารู้ว่าหล่อนเคยทำงานอะไรมา แล้วเขาจะรับหล่อนได้เหรอ” กานดายิ้มหยัน จำปาไม่อยากฟังอะไรจากปากทั้งคู่รีบจ่ายเงินค่าของแล้วขอตัวก่อน
“เธอคงเด็ดจริงๆนะ วันก่อนยังมีคนเอารูปมาถามหาเธออยู่เลย” คำพูดของเริงทำเอาจำปาชะงัก
“เห็นไหม กลัวสิว่าความลับจะแตก ไม่มีผู้ชายที่ไหนเขารับได้หรอก” กานดาปากเสียโดยไม่รู้ว่าเจ้าชายขี่ม้าขาวของจำปากำลังเลือกซื้อแหวนเพชรวงใหญ่ใส่กล่องผูกโบสวยงามเพื่อจะขอเธอแต่งงาน...
ด้านจำปาถามเริงเสียงสั่นใครกันที่มาถามหาตน เริงไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน รู้แค่เขาเอารูปนี้ของจำปามาถาม แล้วยื่นรูปที่ว่าให้ดู จำปารีบพลิกดูด้านหลังมีลายมือตัวเองอยู่ “ให้พี่เฉียด เก็บไว้ดูตอนคิดถึง...จำปา”
“ไม่ได้บอกอะไรเขาไปใช่ไหม ไม่ได้บอกเรื่องของกระดังงาใช่ไหม” จำปาปากคอสั่นแทบจะคุมสติไม่อยู่
“ทำไมจะต้องปิดก็เป็นความจริง” กานดาเห็นจำปาหน้าซีดจะเป็นลมก็ยิ่งสะใจ “ไหมล่ะ ตัวเองยังรับตัวเองไม่ได้แล้วจะให้ใครมารับ กลับไปอยู่ด้วยกันเถอะ”
จำปามือไม้อ่อนถึงกับทำข้าวของร่วงจากมือ แล้ววิ่งไปทันทีราวกับต้องการจะหนีความจริง วิ่งมาได้สักระยะก็ทรุดลงหมดเรี่ยวแรง สิชลโผล่มาจากไหนไม่รู้เข้ามาลากแขน เธอพยายามดิ้นหนี ถูกสมุนชั่วของสัวกิม ตบตีจนหมดทางสู้ก่อนจะลากตัวขึ้นรถขับออกไปโดยไม่มีใครเห็น...
การตายของเจิมเหมือนฟางเส้นสุดท้าย จอมไม่อาจทนนิ่งเฉยต่อไปได้ทั้งที่สาบานกับพระประธานไว้แล้วว่าจะบวช เตรียมปืนสารพัดชนิดจะเอาไปจัดการกับสัวกิม ทั้งหนานคำและตองพยายามทักท้วงให้เขานึกถึงบุญตา เขากลับบอกว่าเตรียมทุกอย่างไว้ให้เธอแล้ว พร้อมกับชูสมุดเงินฝากของธนาคารให้ดู ตองกับหนานคำไม่อยากให้เขาเอาอนาคตมาทิ้งช่วยกันจัดการจอมจนสลบเหมือดแล้วมัดมือมัดเท้าทิ้งเอาไว้ในโบสถ์
จากนั้นทั้งคู่เอาอาวุธทั้งหมดที่จอมใส่กระสุนไว้ติดตัวไปเตรียมลุยกับสัวกิมขั้นเด็ดขาด...
ขณะที่เฉียดชะเง้อคอยาวรอจำปากลับบ้าน พ่อบ้านใจ๋เห็นกล่องแหวนผูกโบสวยงามวางอยู่บนโต๊ะเบื้องหน้าเขา ก็เตือนว่าชีวิตอย่างเราไม่สมควรที่จะมีครอบครัว ตนก็เคยคิดจะออกจากวังวนนี้ แต่ก็อย่างที่เขาเห็น ตนยังอยู่ที่นี่ ไม่ได้ไปไหน
“พ่อบ้านใจ๋ ฉันเตรียมเงินไว้ให้แล้วก้อนหนึ่ง เราต้องทำได้สิ” เฉียดมองพ่อบ้านใจ๋แล้วชะเง้อมองไปหน้าบ้านอย่างใจจดจ่อ ขณะที่อีกฝ่ายได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะผละจากไป...
ที่บ้านของสัวกิม จำปาที่ถูกมัดมือมัดปากแถมโดนซ้อมหน้าตาบวมปูดถูกสิชลผลักลงไปกองกับพื้น สัวกิมมองเธอแวบหนึ่งก่อนจะหันไป
ถามอัศวินแล้วจะทำอย่างไรต่อไป สารวัตรชั่วให้รอเฉียดมาติดกับ รับรองมันไม่ปล่อยให้ผู้หญิงของตัวเองหายไปเฉยๆแน่ สัวกิมทักท้วง ให้ราคาเด็กหนุ่มพวกนี้มากไปหรือเปล่า
“อย่าประมาทพวกมัน ผมต้องหนีหัวซุกหัวซุนแล้วที่สัวต้องคดีนี่ ผมเชื่อว่าไม่ใครก็ใครในพวกมันนี่แหละ ไล่ต้อนเราอยู่” อัศวินพยายามเสี้ยมให้แตกคอกัน สัวกิมเริ่มคล้อยตาม
“งั้นก็ถึงเวลาสั่งสอนไอ้พวกเด็กเมื่อวานซืนแล้วสิ”...
ระหว่างที่ช่วยกันเก็บจานมาล้าง พรพรรณถามบวรว่าเคยคิดจะวางมือจากวงการนี้ไหม แม้จะเคยแต่เขาไม่ยอมรับ โกหกหน้าตาเฉยว่าไม่ พรพรรณสงสัยทำไมถึงไม่เคยคิด
“เส้นบางเส้นข้ามไปแล้ว ไม่มีโอกาสข้ามกลับมาหรอก”
พรพรรณดักคอเป็นเพราะเรื่องลุงแบนใช่ไหม บวรไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้ ก็เลยเปลี่ยนไปคุยเรื่องอื่นแทน...
ฝ่ายจอมค่อยๆรู้สึกตัวลืมตาขึ้น พยายามดิ้นหนีให้พ้นพันธนาการจนเชือกที่มัดอยู่หลุดออกในที่สุด
ooooooo
หนานคำกับตองแบกอาวุธสารพัดชนิดมาถึงหน้าบ้านสัวกิม ตองเอาปืนครกประทับบ่ายิงจรวดใส่ ประตูด้านหน้า เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว แรงระเบิดทำเอาพื้นสั่นสะเทือนมาถึงตัวบ้านด้านใน สัวกิม
ไม่พอใจมากนี่เท่ากับหักหน้ากันเกินไปแล้ว อัศวินได้ทีแดกดัน
“ไงล่ะ ไอ้พวกเด็กเมื่อวานซืนของสัว”
สัวกิมหันไปสั่งขำฆ่าให้หมด หน้าไหนก็ไม่ต้องเว้น ขำเฉยไม่ทำตาม สัวกิมเอาปืนเล็งเขาสลับอัศวินซึ่งพยักหน้าเป็นทำนองให้เขาทำตามที่สัวกิมสั่ง จากนั้นทั้งคู่พากันวิ่งออกไปต้อนรับผู้บุกรุก เหล่าสมุนของสัวกิมดาหน้าเข้าไปจัดการศัตรูกลับถูกตองและหนานคำตอบโต้ด้วยอาวุธหนักจนแตกกระเจิง
อัศวินกับขำวิ่งออกมาจากตัวบ้านระดมยิงใส่ผู้บุกรุกโดยมีสิชลตามมาด้วย ตองขอร้องหนานคำ
อย่าทำอะไรผู้หญิง ฝ่ายหลังยังไม่ว่าอะไร ผนังใกล้กับตองถูกสิชลยิงแตกกระจาย หนานคำส่ายหน้า
“ควรเอาไว้ไหมนั่นน่ะ”
สองผู้บุกรุกปักหลักยิงต่อสู้กับพวกสัวกิมโดยไม่รู้ว่าขำอ้อมมาด้านหลังเล็งปืนจะยิงหนานคำ มีเสียงปืนดังปังขึ้นหนึ่งนัด เขาหันกลับมามองเห็นขำยืนอยู่มีเลือดออกจากปากก่อนจะล้มลงเผยให้เห็นจอมยืนอยู่ด้านหลังอีกที หนานคำพยักหน้าให้ผู้มาใหม่เป็นเชิงขอบใจ
จากนั้นทั้งสามคนเดินหน้าเข้าใส่ศัตรู สังหารสมุนของสัวกิมตายเป็นเบือ อัศวินบอกสิชลว่าสงสัยจะไม่ไหวแล้ว เธอไม่พูดอะไรถอยเข้าตัวบ้าน อัศวินจะถอยตามแต่ถูกจอมยิงเข่าทรุด ทำให้ต้องหนีไปอีกทางหนึ่ง ฝ่ายสิชลรีบเข้าไปเตือนสัวกิมให้ถอยกันก่อน เจ้าพ่อใหญ่ไม่พอใจตบเธอหน้าหัน ตนเป็นใคร พวกนั้นเป็นใครถึงมาบอกให้หนี แต่ต้องชะงักเมื่อเธอบอกว่าเป็นจอมกับพวก...
ที่ด้านนอกยังคงยิงต่อสู้กันอุตลุด แม้สมุนของสัวกิมจะล้มตายไปมากแต่ก็ยังไม่มีคนมาเติมจากด้านนอก หนานคำอาสาจะอยู่ต้านพวกที่เหลือเอง ให้จอมกับตองไปจัดการข้างใน แล้วฝากตองดูแลจอมให้ด้วย เขาพยักหน้าก่อนจะวิ่งตามจอมไป เจ้าพ่อหนุ่มชะงักเมื่อเห็นสัวกิมจับสิชลไว้เป็นโล่มนุษย์ โดยมีจำปาถูกมัดมือมัดปากนอนอยู่ที่พื้นใกล้ๆ ตองตามเข้ามาเห็นหญิงที่ตัวเองหลงรักถูกจับเป็นตัวประกันมองอย่างเป็นกังวล
สัวกิมสั่งให้จอมกับตองวางอาวุธ ทั้งคู่มองตากันชั่งใจจะเอาอย่างไรดี สิชลเร่งรัดให้สองหนุ่มทำตามที่ สัวกิมสั่ง ไม่อย่างนั้นตนถูกฆ่าตายแน่ จอมอยากรู้สัวกิมสั่งฆ่าพ่อแม่ของตนทำไม
“นั่นสินะ ไม่งั้นป่านนี้แกก็คงเป็นแค่ไอ้จิ๊กโก๋กระจอก ไม่มีปัญญาเอาปืนมาส่องหน้าอั๊วอย่างนี้หรอก”
ตองหลงเชื่อว่าสัวกิมจะฆ่าสิชลจริงอย่างที่พูดจึงสั่งให้จอมทิ้งปืน เขาจำใจทำตาม สิชลพอใจที่แผนชั่วได้ผลชักปืนยิงตอง ก่อนจะล้มตองโยนปืนในมือให้จอมรับไปเหนี่ยวไกใส่สัวกิม สิชลผลักจำปาไปขวางทางกระสุนพุ่งเข้าอกเธอทรุด สิชลยิ้มสะใจ รัวกระสุนใส่จอมแต่ตองเอาตัวกันแล้วพุ่งบีบคอสิชลตายคามือ สัวกิมจะยิงจอมแต่ถูกหนานคำที่เพิ่งตามเข้ามายิงใส่ตายสนิท พลางชวนจอมหนีตำรวจกำลังมา
“ฉันต้องพาจำปาไปหาหมอก่อน” พูดจบจอมอุ้มจำปาที่เลือดอาบร่างไปส่งโรงพยาบาล
ooooooo