สมาชิก

ดุจตะวันดั่งภูผา

ตอนที่ 14

ระหว่างที่ไทกับโอตี่ต่อสู้กันอย่างดุเดือด อาเพียว กับอาฮวดไม่แพ้คู่ของไทเช่นกัน อาฮวดใช้ความหนุ่มแน่นกว่าทำให้ได้เปรียบเรื่องพละกำลัง สุดท้ายผู้สูงวัยกว่าอย่างอาเพียวก็ไปไม่รอด พ่ายแพ้ให้อาฮวดและถูกสังหารในที่สุด...

ทางด้านไทยังคงต่อสู้กับโอตี่อย่างเอาเป็นเอาตาย จังหวะหนึ่งเขาเสียท่า ถูกโอตี่รุกไล่ด้วยมีดสั้นจนต้องถอยร่น พอตั้งหลักได้ไทโต้กลับ เล่นงานโอตี่อยู่หมัดและฆ่าเขาตายคามือ...

อีกมุมหนึ่งใกล้ท่าเรือ มังกรวิ่งหนีเข้าไปในโกดังเก็บสินค้าต้องชะงักเมื่อได้ยินเสียงบุ๊นตะโกนไล่หลังให้หยุดคุยกันก่อน  เขาหันมองพร้อมกับชักปืนขึ้นมาเตรียม พร้อม พอเห็นบุ๊นตามมาเพียงลำพังก็เบาใจ

“คงไม่มีอะไรต้องคุยกันแล้วมั้งพี่ใหญ่”

“นี่แกกล้ายิงฉันหรือ”

“คนรอบข้างพี่ใหญ่ ฉันก็ยิงทิ้งมาหมดแล้ว ทำไมฉันจะไม่กล้ายิง” มังกรพูดจบ เล็งปืนใส่บุ๊น

“พอเถอะมังกร อย่าก่อกรรมต่อไปเลย”

“กลัวตายขึ้นมาล่ะสิ...นี่หรือบุ๊น พยัคฆ์ผู้ทระนง วันนี้ต้องมาตายน้ำตื้นๆ  ป่านนี้อาซ้อคงกำลังรอพบพี่ใหญ่อยู่แล้ว” มังกรหัวเราะสะใจ บุ๊นแววตากร้าวขึ้นมาทันที

“แกเป็นคนวางระเบิดรถฉัน?”

“ใช่...เสียดายที่อาซ้อต้องมารับเคราะห์แทน...มา... ฉันจะสงเคราะห์ให้ผัวเมียจะได้อยู่ด้วยกันเสียที”

“เอาเลย...ฉันไม่มีอะไรจะต้องห่วงอีกแล้ว” บุ๊นท้าทายอย่างไม่เกรงกลัว ก่อนที่มังกรจะทันเหนี่ยวไกปืน ปลายฟ้าย่องมาทางด้านหลัง ใช้ท่อนไม้ตีเข้าท้ายทอยสลบเหมือด...

ในเวลาต่อมา กำลังตำรวจหลายสิบนายพร้อมด้วยรถพยาบาลมาถึงที่เกิดเหตุ คู่หูของฉัตรสั่งการให้ตำรวจกระจายกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ สมุนของทั้งสองฝ่ายที่ได้รับบาดเจ็บ ถูกหามขึ้นรถพยาบาลที่จอดรออยู่ คู่หูเห็นไทเดินเข้ามาหา ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง

“ยังเป็นพระเอกอยู่” ไทยิ้มกวน

“นั่นสินะ ถ้าฉันมาเร็ว นายจะเป็นพระเอกได้ยังไง” คู่หูหัวเราะชอบใจ จังหวะนั้น ปลายฟ้าประคองบุ๊นมาจากอีกด้านหนึ่ง เห็นไทปลอดภัย ดีใจวิ่งเข้าไปกอด เขาเผลอตัวกอดเธอตอบ บุ๊นมองทั้งคู่สีหน้าเป็นกังวล

“นึกว่าจะไม่ได้เจอกันซะแล้วสิหัวหน้า”

“แช่งฉันหรือยายบ๊อง” ไทหยอกล้อปลายฟ้าทำให้บรรยากาศผ่อนคลายขึ้น

คู่หูคุมตัวมังกรออกมาจากโกดังเก็บสินค้าเข้ามาหาบุ๊นพร้อมกับยื่นซองใส่เอกสารคืนให้ แล้วพามังกรไปที่รถตำรวจ เป็นจังหวะเดียวกับเจ้าหน้าที่จากโรงพยาบาลเข็นศพโอตี่ผ่านมา มังกรใจหายวูบ สะบัดตัวแล้ววิ่งเข้าไปหาร่างไร้วิญญาณของลูกชาย ร้องไห้โฮอย่างไม่อายใคร

“โอตี่...ลูกพ่อ”

ooooooo

หลายวันผ่านไป...

ที่บ้านของบุ๊น ขณะพัดกำลังนอนพักฟื้นอยู่

ในห้อง บุ๊นเข้ามาเยี่ยมเยียน ถามว่าเป็นอย่างไรบ้าง หมอเจ้าของไข้บอกอาการให้รู้แล้วใช่ไหม พัดพยักหน้ารับคำ มองที่ขาของตัวเองสีหน้าเศร้า

“ดูสิว่าใครมาเยี่ยม” บุ๊นหลบไปยืนข้างๆ เผย

ให้เห็นไทยืนถือช่อดอกไม้อยู่ ท่านประธานรู้งานรีบชิ่งออกมา ปล่อยทั้งคู่ให้อยู่กันตามลำพัง ไทยื่นช่อดอกไม้ให้พัดที่เอื้อมมือมากุมมือเขาไว้ด้วยความดีใจ

“ฉันคิดว่าคุณจะไม่มาหาฉันอีกแล้ว”

“ใช่...ผมจะไม่มาหาคุณอีกแล้ว...แต่ผมจะอยู่ดูแลคุณตลอดไป”

“นายจะไม่ทิ้งฉันไปจริงๆนะ” พัดโผกอดไท น้ำตาคลอเบ้าด้วยความปีติ เขากอดเธอตอบ แต่ในใจกลับคิดถึงปลายฟ้าทุกลมหายใจเข้าออก...

หลังจากพูดคุยกับพัดได้สักพัก ไทก็ขอตัวกลับ ระหว่างเดินมาตามทางจะไปที่รถ ไทกวาดตามองไปรอบๆ พื้นที่อันกว้างใหญ่ของบ้านบุ๊น ราวกับไม่เคยเห็นมาก่อน

“ในที่สุดการเดินทางของผมก็มาถึงปลายทาง อะไรทำให้ผมแน่ใจน่ะหรือ เพราะผมมองไม่เห็นว่าผมจะจากที่นี่ไปได้ยังไง...คนดีๆที่แสนบริสุทธิ์คนหนึ่งต้องมารับกรรมที่ผมก่อเอาไว้ เหตุผลแค่นี้ก็เกินพอ

อยู่แล้ว แม้ว่าในใจผมจะโหยหาใครบางคน แต่ก็คงต้องปล่อยให้สายลมพัดผ่านไป” ไทพึมพำอยู่ในใจ สีหน้าหม่นหมอง

ooooooo

ในที่สุดก็ถึงวันสอบชิงทุนไปเรียนต่อต่างประเทศ ไทมารอปลายฟ้าอยู่หน้าคณะตั้งแต่เช้า

สักพัก เธอเดินแบกเชลโล่เข้ามาหาสีหน้าสดชื่น

“ไง...มารอนางเอกหรือ”

“เปล่า...มารอเธอ วันนี้สอบใช่ไหม...ไปออสเตรียให้ได้นะ”

“แน่นอน...แล้วหัวหน้าล่ะ จะไปที่ไหนต่อ” ปลายฟ้ายังคงยิ้มแย้มร่าเริงเหมือนทุกครั้ง ไทหันกลับไปมองตรงที่พัดนั่งรถเข็นรออยู่ ปลายฟ้ามองตามสายตาเขาแล้วถึงกับใจหาย น้ำตาคลอเบ้า เข้าใจดีว่าเขาคงเลือกพัดไทยิ้มให้หญิงที่เขารักหมดหัวใจเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะต้องจากกันโดยไม่รู้ว่าจะได้เจอกันอีกหรือเปล่า

“ขอให้เธอโชคดีนะ...ลาก่อน” ไทตัดใจหันหลัง

จากไป ปลายฟ้ามองตาม ก่อนจะตะโกนไล่หลัง

“หัวหน้า...โชคดีนะ...”

ชายหนุ่มหันมองสบตาปลายฟ้านิ่งงันอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้น ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายไปตามทางของตัว...

เมื่อถึงคิวปลายฟ้าถูกเรียกเข้าห้องสอบ อาจารย์แหม่มอดแปลกใจไม่ได้ ทำไมคราวนี้เธอเลือกเพลงเศร้ามาสอบ ปลายฟ้าอ้างว่าอยากลองเปลี่ยนแนวดูบ้าง

“อืม...ก็ดี...ดูหน้าตาเธอตอนนี้ก็ไม่ต่างจากเพลงเท่าไหร่หรอก...พร้อมแล้วบอกนะ”

หญิงสาวรับคำ แล้วนั่งสมาธิ พยายามทำใจให้สงบ แต่พอนึกถึงภาพไทเดินจากไปพร้อมกับพัด น้ำตาเจ้ากรรมมาจากไหนไม่รู้มาเอ่อขึ้นมา เธอต้องกะพริบตาถี่เพื่อไล่ให้มันไหลกลับ...

ทางด้านไทเงียบขรึมมาตลอดทางขับรถพาพัด

กลับบ้าน เธอสังเกตเห็น อดทักไม่ได้ว่าเป็นอะไรไป เขาส่ายหน้า โกหกว่าไม่ได้เป็นอะไร พัดรู้ดีว่าเขาคิดถึงปลายฟ้า

“หวังว่าปลายฟ้าคงสอบผ่านนะ”

“ครับ” ไทยิ้มออกเมื่อได้ยินชื่อหญิงที่เขารัก...

ที่ห้องสอบชิงทุน ปลายฟ้าสีเชลโล่อย่างตั้งใจ เสียงเพลงบรรเลงออกมาจากส่วนลึกของหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความเศร้า เสียใจที่ต้องสูญเสียคนรัก ทั้งเจ้าหน้าที่ ทั้งนักศึกษาที่รอสอบต่อจากปลายฟ้า รวมทั้งอาจารย์แหม่มต่างทึ่งในความไพเราะกินใจของเสียงเพลง เมื่อปลายฟ้าบรรเลงจบ เรียกเสียงตบมือจากทุกคนลั่นห้อง อาจารย์แหม่มพยักหน้าให้เธออย่างพึงพอใจ

ooooooo

1 เดือนผ่านไป...

ถึงเวลาที่ปลายฟ้าต้องออกเดินทางไปศึกษาต่อยังประเทศออสเตรีย เธอแบกกระเป๋าเดินทางพร้อมกับเชลโล่ตัวเก่งมาที่สนามบินเพียงลำพัง เตรียมเช็กอินตั๋วเครื่องบิน สายตาคอยชะเง้อมองไปรอบๆ หวังจะเห็นเขาคนนั้นมาส่ง แต่มันเป็นได้แค่ความหวัง...

ขณะที่ปลายฟ้ากำลังเหินฟ้าสู่ออสเตรีย ไทในชุดสูทผูกเนกไทที่ปลายฟ้าซื้อให้กำลังเข็นรถเข็นพาพัดไปที่รถ บุ๊นเดินเข้ามาทักทายด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

“เป็นยังไงท่านประธานคนใหม่”

“คุณพ่อน่ะ...ไม่เห็นต้องมาเรียกอย่างนี้เลย” พัดเขินอาย ไทอดยิ้มให้กับสองพ่อลูกคู่นี้ไม่ได้

“ก็มันถึงเวลาที่พ่อต้องวางมือแล้วนี่...จริงไหมฮวด” บุ๊นหันไปพยักพเยิดกับอาฮวดที่ยืนยิ้มอยู่ข้างหลัง

“คุณพ่อจะไปไหนแต่เช้าคะ”

บุ๊นมองไทแวบหนึ่ง ก่อนจะบอกว่าจะไปโอนที่คืนให้ทางราชการ จะได้จบเรื่องกันเสียที แล้วนึกขึ้นได้ว่าไม่เห็นท่านรองประธานคนใหม่อยู่แถวนั้นก็ถามหา ขาดคำพีทในชุดสูทโก้ตามแบบนักบริหาร เข้ามาสมทบ

“ผมพลาดอะไรไปหรือเปล่าครับ” พีทมองพ่อกับพี่สาวสลับกันไปมา

“ไม่หรอก ท่านรองประธาน แต่ถ้าไม่เข้าประชุมก็อาจจะพลาดอะไรดีๆนะ” พัดเย้า ทุกคนต่างยิ้มแย้มมีความสุข ยกเว้นไทที่หน้าหมอง พีทสังเกตเห็น ได้แต่เก็บเอาไว้ในใจ...

ครู่ต่อมา ไทเข็นรถพาพัดไปถึงห้องประชุมโดยมีพีทเดินตามมาไม่ห่าง เลขาฯของพัดมารับช่วงเข็นรถต่อจากไท ท่านประธานคนใหม่เร่งน้องชายให้เข้าประชุมได้แล้ว พีทอยากคุยกับไท จึงบอกให้เธอเข้าไปก่อน ทันทีที่ประตูห้องประชุมปิด ไทถามพีทว่ามีอะไรจะคุยกับตน

“มีคนอยากคุยด้วย” พีทว่าแล้วเปิดคลิปวีดิโอในมือถือของเขายื่นให้ไท “เอ้า...เธอส่งมาเมื่อเช้าก่อนขึ้นเครื่อง...ถ้ามีใครโทร.มารับให้ด้วยนะ” พีทพูดจบ เดินเข้าห้องประชุม ไทไปยืนหลบมุมดูคลิป เห็นภาพปลายฟ้าสีหน้าสดชื่นโดยไม่รู้ว่านั่นเป็นการเสแสร้ง ในใจของเธอปวดร้าวสุดๆ

“หวัดดีหัวหน้า เริ่มต้นชีวิตใหม่อย่างมีความสุขแล้วใช่ไหม ตอนนี้ฉันกำลังจะบินไปถึงปลายฟ้าแล้วนะ ขอบใจสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ขอบใจสำหรับช่วงเวลาที่ดีในชีวิต ฉันไม่รู้ว่าจะได้เจอหัวหน้าอีกเมื่อไหร่...หัวหน้าดูแลตัวเองด้วยนะ รักและเอาใจใส่คุณพัดเธอมากๆ ถึงเธอจะโชคร้ายที่เดินไม่ได้ ก็ยังโชคดีที่มีคนอย่างหัวหน้าอยู่ข้างกายไปตลอดชีวิต...
เฮ้อ...ฉันไม่อยากพูดคำนี้เลย...แต่มันไม่มีคำอื่นดีไปกว่านี้แล้ว...ลาก่อนนะ หัวหน้า”

ไทนัยน์ตาแดงกํ่า รู้สึกเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกที่คอ พยายามกล้ำกลืนความรู้สึกปวดร้าวนั้น

ooooooo

บุ๊นนั่งตกปลาอยู่ที่มุมเดิมซึ่งเคยตกกับมังกรเป็นประจำ เห็นเก้าอี้ตัวที่น้องร่วมสาบานเคยนั่งแล้ว ถึงกับถอนใจเฮือก แม้ความชั่วที่เขาทำจะมีมากมายนัก แต่ก็อดคิดถึงเขาไม่ได้

“ฉันไม่เคยคิดเลยว่าฉันจะต้องมานั่งตกปลาคนเดียว...มังกรเอ๊ย...คนเรามันเปลี่ยนแปลงกันยากจริงๆ...นั่งสิฮวด” บุ๊นเห็นอาฮวดอึกอักไม่กล้า เรียกซํ้าอีกครั้ง เขาจึงลงนั่งได้

“ถ้าพอและหยุดตั้งแต่แรกก็คงไม่มีวันนี้หรอกครับ”

“นั่นสิ...จากเด็กกุ๊ยข้างถนนมายืนบนถนนแห่งเงินตราได้ ก็นับว่าได้ดีอย่างมหาศาลแล้ว...เฮ้อ...นี่ลิลลี่เป็นยังไงบ้าง พอจะได้ข่าวบ้างไหม”

เท่าที่อาฮวดรู้ ลิลลี่ย้ายไปอยู่ต่างประเทศแล้ว คงไม่อยากอยู่สู้หน้าใครต่อใคร บุ๊นนึกถึงเรื่องไทขึ้นมาได้ ถามความเห็นของอาฮวดว่าคิดอย่างไรถ้าเขาจะให้ไทแต่งงานกับพัดกัน สมุนผู้ภักดีนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง

“ถ้ามองในมุมคุณพัดก็น่าจะมีความสุข แต่ถ้ามองในมุมของไท ผมไม่แน่ใจ”

“ฉันสนแค่ลูกสาวฉันเท่านั้น” บุ๊นเสียงแข็งทันที แล้วเหวี่ยงเบ็ดตกปลาออกไป การสนทนาเป็นอันจบ...

ไททำตามสัญญาที่ให้ไว้กับบุ๊นทุกประการ คอยดูแลปรนนิบัติพัดอย่างดี คืนนี้ก็เช่นกัน เขาอุ้มเธอขึ้นจากรถเข็น พาไปนั่งบนเตียงนอนแล้วหยิบยามาให้กิน สีหน้าของพัดสดชื่นแจ่มใส

“ขอบคุณนะ...รู้ไหม เวลาที่มีคุณอยู่ใกล้ๆ ฉันมีความสุขที่สุดเลย” พัดว่าพลางเอื้อมมือไปลูบผมไทอย่างรักใคร่ทะนุถนอม ไทยิ้มเอาใจให้สมกับที่รับปากบุ๊นไว้

“ครับ...พักผ่อนเถอะครับ พรุ่งนี้ต้องตื่นมาออกกำลังแต่เช้า” ไทประคองพัดให้ลงนอน ดึงผ้ามาห่มให้ตรวจดูความเรียบร้อยอีกครั้งก่อนจะออกจากห้อง

ooooooo

ไม่นานนัก ไทเดินมาที่รถมอเตอร์ไซค์ของตนยังไม่ทันจะขึ้นรถ พีทเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน ถามว่ารู้เรื่องหรือยัง ไทงง ไม่เข้าใจว่าเขาพูดเรื่องอะไร

“ก็เรื่องที่ป๊าจะให้นายแต่งงานกับเจ๊พัดไง”

“อาฮวดพูดให้ฟังแล้วครับ” ไทแววตาหมองอย่างเห็นได้ชัด

“แล้วไง...นายปฏิเสธใช่ไหม”

พอพีทรู้ว่าไทไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอของพ่อ โวยลั่นว่าบ้าไปหรือเปล่า แล้วเขาเอาปลายฟ้าไปไว้ที่ไหน

ไทกลับบอกว่าเธอไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับเขา พีทโกรธจัดกระชากคอเสื้อเขาเข้ามาใกล้ ตะคอกใส่

“ไม่เกี่ยวได้ยังไง ปลายฟ้ารักนาย รักจนหมดใจและฉันก็รู้ว่านายก็รักเธอ”

ไทดึงมือพีทออกาจากคอเสื้อตัวเอง “ถามจริงๆ มันเกี่ยวอะไรกับคุณด้วย”

“ฉันรักปลายฟ้า ถึงปลายฟ้าจะไม่รักฉัน...ฉันก็ยังรักเธอ ฉันอยากให้คนที่ฉันรักมีความสุขและคนที่จะทำให้ปลายฟ้ามีความสุขไปตลอดชีวิตก็คือนาย”

“คุณรู้ได้ยังไง”

“เรื่องอื่นฉันอาจจะโง่ แต่เรื่องนี้ฉันว่าฉันฉลาดกว่านายเยอะ”

ไทขอร้องพีทปล่อยเรื่องนี้ให้เป็นไปตามทาง

ของมันจะดีกว่า แล้วขอตัวขึ้นรถขับออกไป พีทมองตามอย่างเซ็งจัด ต้องหาทางทำอะไรสักอย่าง...

ไทไม่ได้กลับบ้านอย่างที่ตั้งใจไว้ แต่มานั่งดื่มเบียร์อยู่ที่ท่าเทียบเรือข้ามเกาะ ที่ซึ่งเคยนัดเจอกับฉัตรเป็นประจำ เขาหวนนึกถึงวันเวลาดีๆที่เคยมีกับปลายฟ้าแล้วอดยิ้มคนเดียวไม่ได้

“เธออยู่ไหนนะยายบ๊อง” ไทพึมพำด้วยความคิดถึง

ooooooo

เช้าวันรุ่งขึ้น ขณะที่พัดนั่งจิบกาแฟรอไทอยู่ที่ระเบียงหน้าบ้าน พีทเข้ามานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม แซวว่ากำลังรอพระเอกมารับหรือ พัดยิ้มแทนคำตอบ สายตายังคงจับจ้องไปทางหน้าบ้านรอการมาของไท สักพัก พระเอกของเธอก็เดินเข้ามาในชุดสูทเรียบร้อยผูกเนกไทเส้นที่ปลายฟ้าซื้อให้

“นี่ไท ไม่มีเนกไทเส้นอื่นเลยหรือ เห็นใส่แต่

เส้นนี้มาทุกวันเลย” พัดกระเซ้า

ไทไม่ตอบได้แต่ยิ้ม แล้วชวนเธอไปเดินเรียกกำลังขา หญิงสาวน้อยใจที่เขาไม่เคยพูดเล่นกับเธอบ้าง ทุกอย่างดูเป็นงานเป็นการไปหมด จะตัดพ้อต่อว่าก็

ไม่กล้า ได้แต่ปล่อยให้เขาเข็นรถเข็นพาเธอออกไป พีทมองตามส่ายหน้าด้วยความเวทนา...

ครู่ต่อมา ไทพาพัดมาหัดเดินที่สนามหญ้าหน้าบ้านโดยใช้วอล์กเกอร์ช่วยพยุง เขาต้องช่วยประคองเธอตลอดเพราะเธอเดินได้หนึ่งก้าวก็ล้ม พีทยืนมองอยู่อีกมุมหนึ่ง ได้แต่ส่ายหน้า ไทเห็นเธอเหงื่อซึม บอกให้พอแค่นี้ก่อน อุ้มเธอมานั่งบนรถเข็น แล้วขอเอาอุปกรณ์ช่วยเดินไปเก็บ พีทรอจนไทพ้นสายตา จึงเดินเข้ามาหาพี่สาว

“ดูท่าทางเจ๊มีความสุขจริงๆนะ”

“แน่นอน ใครได้อยู่ข้างคนที่เรารักมีความสุขทั้งนั้นแหละจ้ะ”

“นั่นมันความคิดของเจ๊...แต่เจ๊ลองคิดถึงนายไทบ้างหรือเปล่า”

“ทำไมหรือ...นายไทเขาเป็นยังไง”

“เดือนกว่ามาเนี่ย เจ๊ไม่รู้สึกอะไรบ้างหรือ...เจ๊

รู้หรือเปล่าว่าทำไมนายไทเขาถึงใส่เนกไทเส้นนั้นทุกวัน ก็ปลายฟ้าซื้อให้เขาไง เจ๊เล่นเอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาผูกมัดไทเขาแบบนี้ วันหนึ่งถ้าเขารู้ขึ้นมาจะเป็นยังไง...เจ๊คิดว่าเจ๊จะนั่งให้เขาดูแลเอาใจแบบนี้ได้ตลอดชีวิตหรือ...เจ๊คิดดูก็แล้วกัน ผมไปทำงานก่อนล่ะ”

พัดมองตามน้องชายเดินจากไป ในใจครุ่นคิดถึงคำพูดเมื่อครู่ของเขา

ooooooo

ในเวลาต่อมา ขณะที่ไทนั่งรอพัดอยู่หน้าห้องทำงานของเธอ บุ๊นเดินผ่านมาเห็นพอดี แวะเข้ามาทักทายถามไถ่ว่าพัดเป็นอย่างไรบ้างเดินได้ดีขึ้นหรือยัง

“ก็พัฒนาขึ้นเรื่อยๆครับ”

“ดี...ฝากด้วยนะ เธอเป็นความหวังเดียวของพัด อย่าทำให้เขาผิดหวังล่ะ”

แม้จะกล้ำกลืนฝืนทนแค่ไหน แต่ไทก็รับคำ จังหวะนั้น เลขาฯหน้าห้องพัดเข้ามาแจ้งไทว่าพัดเชิญให้เข้าไปพบ เขาขอตัวแล้วเดินเข้าไปในห้องทำงานของพัด บุ๊น

มองตามสีหน้าเป็นกังวล รู้ดีว่าชายหนุ่มฝืนทำ แต่เพื่อลูกสาวสุดที่รักแล้ว เขาไม่สนว่าใครจะรู้สึกอย่างไร...

ดึกแล้วพัดยังนอนไม่หลับนั่งเหม่อใจลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง คิดทบทวนเรื่องราวระหว่างตนเองกับไท นึกถึงวันชื่นคืนสุขที่เคยมีด้วยกัน รวมถึงวันที่เขาตัดสัมพันธ์กับเธออย่างไม่มีเยื่อใย มีเสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น พัดตื่นจากภวังค์ หันมาเห็นพ่อเปิดประตูห้องเข้ามา

“เป็นยังไง ยังไม่นอนหรือลูก”

“นอนไม่หลับค่ะ”

“คิดถึงเรื่องนายไทหรือ” บุ๊นราวกับอ่านใจเธอออก

“เขาไม่ได้รักพัดเลยใช่ไหมคะ”

“พ่อทำได้แค่นี้แหละลูก”

“พัดเข้าใจค่ะ ตลอดเวลาที่ผ่านมา พัดคิดว่าพัดมีความสุข แต่จริงๆแล้วไม่ใช่เลยค่ะคุณพ่อ พัดเพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่าความรักไม่ใช่การครอบครอง มันคงถึงเวลาแล้วค่ะคุณพ่อ” อย่างไม่คาดคิด พัดลุกขึ้นจากรถเข็นเดินมาหาบุ๊น ซึ่งมองตาค้างด้วยความตกใจ

“มันไม่มีประโยชน์ที่จะหลอกตัวเองต่อไปแล้วล่ะค่ะ” พัดพูดจบโผกอดพ่อไว้แน่น

“ลูกตัดสินใจถูกแล้วล่ะ” บุ๊นลูบหัวเธอด้วยความรักและสงสาร

ooooooo

ไทมาถึงบ้านบุ๊นแต่เช้าเหมือนที่เคยปฏิบัติ แต่ต้องแปลกใจที่เห็นรถเข็นของพัดว่างเปล่า มีเพียง จดหมายฉบับหนึ่งวางไว้บนที่นั่ง ไทหยิบขึ้นมาอ่าน เป็นจดหมายจากพัด

“ไท...คุณไม่ต้องแปลกใจเมื่อไม่เห็นฉันดังเช่นทุกวัน และก็ไม่ต้องแปลกใจที่ฉันไม่อยู่บนเก้าอี้ตัวนี้   เพราะความจริงแล้วฉันไม่ได้เป็นอะไรและสามารถเดินไปไหน มาไหนได้เหมือนคนปกติทั่วไป

คุณคงคิดว่าฉันหลอกคุณ แต่ไม่ใช่หรอก ฉันหลอกตัวเองต่างหาก หลอกว่าวันหนึ่งคุณคงจะรักฉัน แต่ยิ่งนานวันมันยิ่งห่างเหิน เพราะฉันรู้ว่าในใจของคุณมีแต่ปลายฟ้าเท่านั้น และในใจของปลายฟ้าก็มีแต่คุณคนเดียว...ไปตามหาเธอให้เจอนะ...ลาก่อน...พัด”

บุ๊นเดินออกมาพอดี ไทมองเขาด้วยสายตาเต็มไปด้วยคำถาม “ท่านประธาน...คุณพัด?”

“พัดไม่ได้เป็นอะไรหรอก มันเป็นความคิดโง่ๆของฉันเอง”

“คุณพัดล่ะครับ”

“พัดไปพักผ่อนที่ไหนสักแห่ง...ช่างเถอะ พัดคงจะไม่เจอนายอีกแล้วล่ะ นายเป็นอิสระแล้ว ไปตามทางที่ลูกพัดบอกเถอะ ความสุขของนายรออยู่ที่นั่น”

นี่เป็นครั้งแรกที่ไทได้เห็นแววตาอ่อนโยนจากชายผู้กร้านโลกคนนี้ เขารับคำแล้วหันหลังเดินจากไปโดยไม่แค้นเคืองอะไรสักนิด บุ๊นตะโกนขอบใจไล่หลัง ชายหนุ่มหันมายิ้มให้ ก่อนจะเดินต่อไป

ooooooo

1 ปีผ่านไป...

ไทกลับมาทำงานที่สวนสัตว์อีกครั้ง นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของเขาที่กลับมาทำงานที่เก่า เขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ตลอดเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมา เขาเฝ้ารอความหวังบางอย่าง และไม่รู้ว่ามันอาจจะเป็นการรอไปตลอดชีวิตก็ได้ ขณะที่ไทกำลังมุ่งมั่นกับงานตรงหน้า ธงเข้ามาถามว่าเป็นอย่างไรบ้างเหนื่อยไหม

“นิดหน่อยพี่...ไหนบอกว่าจะมีเด็กมาช่วยฝึกงานไง”

“เดี๋ยวก็มา รับรองว่าช่วยผ่อนแรงไทไปได้เยอะเลยล่ะ” ธงพูดยังไม่ทันขาดคำ มีเด็กกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งเดินเข้ามาหา ไทมองอย่างไม่เชื่อสายตาว่าทำไมได้เด็กฝึกงานมามากมายขนาดนี้

“เอาน่า...รับๆไปเถอะ...ไป พาเด็กๆไปเริ่มงานกันได้แล้ว”

ไทพยักหน้ารับคำ ทั้งหนักใจและพอใจในเวลาเดียวกัน ครู่ต่อมา ไทพาพวกเด็กๆมาที่โรงเลี้ยงช้าง แล้วแจกจ่ายงานให้ทุกคนทำ บางคนก็เก็บกวาดทำความสะอาด บ้างก็ไปช่วยกันให้อาหารช้าง ทุกคนทำงานขยันขันแข็ง แต่มีเด็กผู้หญิงอยู่คนหนึ่งซึ่งยืนหันหลังให้เขากลับนิ่งเฉยไม่ยอมหยิบจับอะไรสักอย่าง ไทเข้าไปสะกิด

“นี่เธอ...ช่วยเพื่อนทำงานสิ”

เด็กสาวคนนั้นค่อยๆหันมามอง ไทต้องตะลึงเมื่อเห็นว่าเป็นปลายฟ้า อยากจะดึงเธอมากอดใจแทบขาดให้สมกับความคิดถึงแต่ไม่กล้า ปลายฟ้ายิ้มกวน ก่อนจะถามเขาว่าทำไมไทถึงกลับมาทำงานที่นี่

“ไม่รู้สิ...ฉันคงไม่อยากเดินทางแล้วมั้ง...แล้วเธอล่ะ”

“ฉันตั้งใจมาหาหัวหน้า ฉันเรียนจบ ได้สิ่งที่ฉันใฝ่ฝันมาตลอดชีวิตแล้ว ฉันก็เลยมาตามหาสิ่งที่ฉันเฝ้ารอมาตลอดชีวิตเหมือนกัน” ปลายฟ้าจ้องตาไทอย่างลึกซึ้ง เขากุมมือเธอไว้ ที่ตนอยู่ที่นี่ก็เพราะคิดว่าวันหนึ่งเธอต้องกลับมา ปลายฟ้าซบหน้ากับไหล่กว้างของไทด้วยความเขินอาย

“หัวหน้าอ่ะ...”

“เมื่อไหร่เธอจะเลิกเรียกฉันว่าหัวหน้าสักทีนะ”

“ไม่ได้หรอก...เป็นหัวหน้าแล้ว...” ปลายฟ้าพูดยังไม่ทันจบ ไทชิงพูดขึ้นก่อนว่า

“ต้องเป็นหัวหน้าตลอดไป...เธอเคยพูดแล้ว...นอกจาก...”

“นอกจาก...เราจะเป็นแฟนกัน” ปลายฟ้ายิ้มเขิน

“อุตส่าห์รอขนาดนี้ ยังไม่ใช่แฟนอีกเหรอ” ไทตัดพ้อ

“ใช่ก็ได้”

ไทดึงปลายฟ้ามากอดไว้แนบอกด้วยความรักเต็มหัวใจ เธอกอดเขาตอบเช่นกัน ไทพบปลายทางของตัวเองแล้ว คงไม่ต้องดิ้นรนขวนขวายออกตามหาอีก

ooooooo

–อวสาน–

ดุจตะวันดั่งภูผา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด