ตอนที่ 13
อีกมุมหนึ่งไม่ห่างจากหลุมฝังศพฉัตร อาเพียวพาไทมาพบมังกรซึ่งนั่งรออยู่ในรถ เขาชวนชายหนุ่มขึ้น มาคุยกันบนรถก่อน ไทนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจขึ้นรถไปด้วย ครู่ต่อมา รถของมังกรมาจอดริมชายหาดสงบเงียบแห่งหนึ่ง มังกรชวนไทเดินไปตามถนนเลียบหาด จะได้คุยกันตามลำพัง
“ตอนที่พ่อนายถูกลอบยิง นายคงอายุราว 14-15 ปีสินะ”
“ใช่...ผมกำลังจะอายุครบ 15 ปี...อย่ามัวแต่อ้อมค้อม พูดธุระของเรามาดีกว่า” ไทตัดบท
“เทอดกับฉันสนิทกันมาก ฉันเตือนเขาแล้วเรื่องที่ดิน”
“ผมพอจะทราบเรื่องนี้มาบ้าง”
“พี่ใหญ่ต้องการได้ที่ดินผืนนี้มากเพราะสำรวจแล้วว่าข้างใต้มีสายแร่ทองคำ มูลค่ามหาศาล”
ไทเดาเหตุการณ์ต่อมาได้ไม่ยากว่ามังกรกับบุ๊นรวมทั้งนายมนัสจึงวางแผนจะให้พ่อของเขาออกโฉนดที่ดินผืนนี้ให้ มังกรพยักหน้ารับ แล้วเสี้ยมว่าพ่อของไทไม่ยอมทำตามแผน บุ๊นก็เลยสั่งเก็บเพื่อให้คนที่มารับตำแหน่งต่อจากเขาทำเรื่องนี้แทน ไทสงสัยไม่หายว่าใครกันแน่ที่ยิงนายมนัส มังกรยอมรับว่าเป็นคนทำ แต่ใส่ความว่าบุ๊นเป็นผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ชายหนุ่มแค้นใจมากแต่ไม่แสดงออก
“แล้วทำไมท่านประธานถึงมาดูแลครอบครัวของนายมนัส”
“เพราะฉันทำงานพลาด นายมนัสไม่ตาย พี่ใหญ่จึงเก็บนายมนัสเอาไว้เป็นพยาน แล้วใช้แบล็กเมล์ฉันเพื่อจะฮุบโฉนดที่ดินที่ปากช่องไว้คนเดียว”
“แต่ครั้งนี้คุณเป็นคนจัดการ”
“จะให้ฉันทำยังไง พี่ใหญ่ใช้เรื่องนี้กดหัวฉันมาหลายปีแล้ว เพราะโฉนดสามผืนนั่น...ถ้าไม่เชื่อ นายลองไปดูให้เห็นกับตาก่อนก็ได้...ฉันหมดธุระกับนายแล้ว” มังกรเสี้ยมจบ เดินกลับไปขึ้นรถ ไทมองตามสีหน้าครุ่นคิด
ooooooo
หลังจากบุ๊นส่งพัดขึ้นไปพักผ่อนบนห้องของเธอเรียบร้อย จึงลงไปที่ห้องลับ ต้องแปลกใจเมื่อเห็นไทนั่งรออยู่พร้อมปืนของเทอดในมือ เขาสั่งให้บุ๊นปิดประตูห้องแล้วเรียกให้มานั่งที่โซฟา
“จะยิงฉันหรือ” บุ๊นจ้องหน้าไทอย่างไม่เกรงกลัว
“ตอนนี้ยัง...คุณรู้ตั้งนานแล้วสิว่าผมเป็นลูกเพื่อนของคุณ”
บุ๊นยอมรับว่าเป็นความจริง ถึงได้เอาไทมาทำงานด้วย ชายหนุ่มกลับคิดในแง่ลบ ที่บุ๊นทำอย่างนั้นเพราะสำนึกผิดที่เป็นผู้บงการฆ่าพ่อของเขา บุ๊นถึงกับถอนใจ หนักใจ
“ฉันไม่ได้สั่งฆ่าพ่อนาย”
“ไม่มีผู้ต้องหาคนไหนยอมรับสารภาพง่ายๆหรอก น้าฉัตร นายมนัส นายเจียง คนพวกนี้ล่ะ คุณไม่ได้สั่งฆ่าด้วยหรือ” แววตาของไทเต็มไปด้วยความแค้น ปืนในมือจ้องไปที่ศัตรู แม้จะตกอยู่ในสถานการณ์คับขัน แต่บุ๊น กลับเยือกเย็นไม่หวั่นไหว ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงราบเรียบว่า
“เปล่า...แต่ตรงกันข้าม ฉันพยายามปกป้องพวกเขา”
ความแค้นคับอกทำให้ไทเหนี่ยวไกปืน พัดโผล่พรวดมาจากไหนไม่รู้ ใช้ตัวรับกระสุนแทนพ่อ กระสุนเจาะกลางหลังถึงกับทรุดฮวบ ไทตะลึงไม่คิดว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้
อาฮวดได้ยินเสียงปืนวิ่งเข้ามาดู เห็นพัดนอนจม กองเลือด ส่วนไทถือปืนอยู่ในมือ ไม่ต้องถามให้เสียเวลา เขาสาดกระสุนใส่ไททันที ชายหนุ่มตั้งสติได้พุ่งหลบออกทางหน้าต่าง แต่ไม่เร็วพอ กระสุนเข้าที่หน้าอกไม่บาดเจ็บอะไรนัก อาฮวดจะตามแต่บุ๊นห้ามไว้
“ไม่ต้อง...เรียกรถพยาบาลเร็ว” บุ๊นประคองพัดไว้ในอ้อมกอด พลางปลอบให้ทำใจดีๆไว้ รถพยาบาลกำลังมา หญิงสาวหน้าซีดเพราะเสียเลือดมาก ในที่สุดก็หมดสติ
ooooooo
2 วันต่อมา...
ขณะปลายฟ้ากำลังจะไปทำงาน มีใครบางคนสวมผ้าคาดหน้าเดินตามมาด้านหลัง ก่อนจะทันรู้ตัว ชายลึกลับคนนั้นรวบตัวเธอไว้พร้อมกับปิดปากไม่ให้ร้อง แล้วลากเข้าไปในซอกตึก หญิงสาวพยายามดิ้นรนสุดฤทธิ์ ไทต้องรีบดึงผ้าปิดหน้าออก สีหน้าหวาดกลัวของปลายฟ้าเมื่อครู่ เปลี่ยนเป็นดีใจสุดๆ
“หัวหน้าหายไปไหนมา ตอนนี้พวกท่านประธานตามหาหัวหน้ากันให้ควั่ก”
“ฉันรู้แล้ว คุณพัดเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่ตาย แต่ก็พิการเห็นว่าเป็นอัมพาตไปครึ่งตัว เรื่องมันเป็นยังไง”
ไทเล่าทุกอย่างให้ฟังว่าบุ๊นเป็นคนสั่งฆ่าทุกคน ทั้งพ่อของเขาและน้าฉัตร แล้วถามเธอว่ายังทำงานที่บริษัทจ้าวหยางหรือเปล่า ปลายฟ้ายังทำอยู่ พวกนั้นแวะเวียนมาถามหาเขาทุกวันเลย แต่เธอบอกไปว่าไม่รู้ไม่เจอ แล้วนึกขึ้นได้ว่าก่อนน้าฉัตรตาย บอกว่ามีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย แต่ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร ไทพอเดาออกว่าน่าจะเป็นเรื่องในห้องลับของบุ๊น
“เสียดายที่น้าฉัตรจากไปเสียก่อน”
“แต่คู่หูน้าฉัตรน่าจะรู้อะไรบ้างล่ะ...เธอไปทำงานก่อนเถอะ เดี๋ยวเขาจะสงสัยเอา”
ปลายฟ้าเตือนให้ไทระวังตัวด้วย ชายหนุ่มพยักหน้ารับคำ จากนั้น ต่างฝ่ายต่างแยกย้ายกันไป...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ที่บ้านของมังกร โอตี่ไม่ค่อยชอบใจนักที่แผนยืมมือฆ่าคนของพ่อไม่เป็นอย่างที่หวัง เพราะบุ๊นยังหายใจอยู่ มังกรกลับเห็นว่าตอนนี้สภาพของบุ๊นแย่ยิ่งกว่าการตายหลายเท่านัก เพราะลูกสาวสุดที่รักของตัวเองต้องมาพิการแบบนี้
“ลูกชายก็เดี้ยง ลูกสาวก็มาเป็นง่อย...เวรกรรมคงตามทันลุงบุ๊นแล้วสินะ”
“ฉันเชื่อว่าพี่ใหญ่ต้องกำลังเตรียมตัวอยู่”
จังหวะนั้น อาเพียวเอาภาพในมือถือของฉัตรที่ได้จากมือมีดมาให้มังกรดู “ท่านครับ ดูนี่สิ...โทรศัพท์ของไอ้ผู้กองนั่น วันที่มันเข้าไปในบ้านท่านประธานบุ๊น มันคงแอบถ่ายมา”
“นี่พี่ใหญ่คิดจะคืนที่ดินให้หลวงหรือ...ไม่มีทาง... มีใครรู้เรื่องนี้บ้าง” มังกรเสียงเครียด อาเพียวไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่ไทอาจจะรู้แล้วก็ได้ มังกรอยากต่อรองกับไทให้นำโฉนดพร้อมหนังสือโอนที่ดินทั้งสามฉบับมาให้ แต่ยังคิดไม่ออกจะเอาอะไรไปต่อรองด้วย โอตี่นิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะคิดแผนชั่วร้ายบางอย่างขึ้นมาได้
“ก็ไม่น่าจะยากแด๊ดดี้ ถ้าเรามีตัวแฟนมัน”
“ใครกัน”
“ลิลลี่เคยเล่าให้ฟังว่า เลขาใหม่ของพัดเป็นแฟนมัน” โอตี่ยิ้มเจ้าเล่ห์
ooooooo
หลังจากไปรับทรัพย์สินของฉัตรจากเจ้าหน้าที่ชันสูตรศพแล้ว คู่หูของฉัตรหยิบภาพปริ๊นต์โฉนดที่ดินและพินัยกรรมที่ฉัตรแอบถ่ายจากบ้านบุ๊นมานั่งอ่านที่โต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“อย่างนี้นี่เอง มองคนผิดไปถนัด” เขาพึมพำกับตัวเองเบาๆ
เพื่อนตำรวจเข้ามาหาพร้อมกับเปิดโน้ตบุ๊กให้ดู “นี่...เจอตัวผู้ต้องสงสัยที่ฆ่าผู้กองแล้ว...นายคนนี้ยืนเฝ้าผู้กองตั้งแต่เริ่มเข้าร้าน สองคนนี่น่าจะเป็นคนลงมือ”
คู่หูมองในจอโน้ตบุ๊กเห็นภาพนักเลงสองคนที่แทงฉัตรกำลังคุยกับชายไว้ผมเปียคนหนึ่ง เขาจำได้ทันทีว่าคนไว้ผมเปียเป็นสมุนมือขวาของมังกร ขอบใจเพื่อนตำรวจนายนั้น แล้วคว้าซองใส่เอกสารของฉัตรออกไปขึ้นรถขณะกำลังสตาร์ตเครื่อง มีเสียงดังขึ้นที่เบาะหลัง
“ขับไป...ไม่ต้องหันมา”
คู่หูสะดุ้งโหยง เหลือบมองกระจกส่องหลังเห็นเป็นไทถึงกับโล่งอก “ไท...กำลังอยากเจอพอดี”
ไม่นานนัก คู่หูขับรถมาจอดใต้ต้นไม้ร่มรื่นห่างไกลสายตาผู้คน แล้วหยิบภาพปริ๊นต์ของโฉนดที่ดินและพินัยกรรมที่ฉัตรถ่ายไว้ให้ไทดู
“ทำไมบุ๊นต้องยกที่ดินสามแปลงนั้นคืนราชการ” ชายหนุ่มนิ่วหน้าสงสัย
“ก็แสดงว่าเขากลับใจน่ะสิ หรือไม่เขาเอาที่ดินไว้เพื่อไม่อยากให้ใครบางคนคิดชั่วๆเอาสมบัติของบ้านเมืองไปเป็นของตัวเอง”
“หมายความว่ายังไง” ไทมองคู่หูอย่างรอคำตอบ
“บริเวณที่ดินกว่าพันไร่นั้นมีการสำรวจพบสายแร่ทองคำมูลค่ามหาศาล แต่ใครบางคนบิดเบือนข้อเท็จจริงโดยให้นายมนัสเซ็นรายงานเป็นเท็จ ส่วนนายเทอดพ่อของนายอาจจะไม่ยอมเซ็นออกโฉนดจึงต้องถูกเก็บแล้วให้คนที่มารับตำแหน่งใหม่เซ็นแทน ซึ่งดูตามหลักฐานและรูปการแล้วมันจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก...”
“มังกร...โธ่เว้ย” ไททุบรถโครมเจ็บใจที่โดนมังกรเสี้ยมให้ชนกับบุ๊น
“อีกอย่างหนึ่งนะ คนที่สงสัยว่าจะเป็นคนฆ่าพี่ฉัตรคือนายเพียวลูกน้องของนายมังกร คืนวันเกิดเหตุ เขาตามและซุ่มดูพี่ฉัตรจนกระทั่งแยกกับปลายฟ้า”
“ไอ้สารเลว มันคงรู้ว่าน้าฉัตรได้อะไรมา มันจึงตามมาฆ่า”
“ใช่...พี่ฉัตรโทร.หานายไม่ติดเลยยังไม่ได้บอก คงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ นอกจาก...คนที่พี่ฉัตรเจอก่อนตาย”
ไทหน้าเสีย เป็นห่วงปลายฟ้าขึ้นมาทันที สั่งให้คู่หูออกรถ...
ถึงเวลาพักเที่ยง บรรดาพนักงานของบริษัท จ้าวหยางต่างทยอยออกไปกินมื้อกลางวันกัน สมุนของ อาเพียวสองคนมาดักรออยู่หน้าบริษัท พอเห็นปลายฟ้าเดินออกมากับเพื่อน ฉุดขึ้นรถแล้วผลักเพื่อนของเธอกระเด็น จังหวะนั้น ไทกับคู่หูมาถึงพอดี จะขับรถตาม แต่มีกลุ่มพนักงานข้ามถนนขวางทางไว้ ทำให้ตามไม่ทัน
“ไท...เอาไง...ฉันจัดตำรวจตามให้ไหม?”
“ไม่ต้องหรอก ผมจะจัดการเอง”
“นายจะทำยังไง”
“ผมจะไปหาตัวช่วย” ไทเสียงเครียด ส่วนคู่หูมองเขางงๆ
ooooooo
ขณะบุ๊นเข็นรถเข็นให้พัดนั่งมาตามทางเดินในสวนสาธารณะ โดยมีอาฮวดกับบอดี้การ์ดอีกคนหนึ่งยืนเฝ้าระวังอยู่ไม่ห่าง เขาถามลูกสาวว่าเสียใจไหมที่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
“ก็ยังดีกว่าให้ไทเขายิงคุณพ่อ”
“พ่อขอโทษ” บุ๊นรู้สึกผิดที่ลูกต้องมารับกรรมแทน
“คุณพ่อไม่ผิดหรอกค่ะ เพียงแต่นายไทเขาไม่เข้าใจเอง แต่ลูกก็ไม่ได้โกรธเขานะ...”
“เพราะลูกรักเขา” บุ๊นแทรกขึ้นทันทีอย่างรู้ทัน พัดถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะยอมรับหน้าชื่นว่าเป็นความจริง แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ บุ๊นสงสารลูกจับใจไม่รู้จะช่วยอย่างไร แต่แล้วอยู่ๆไทก็ก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ขวางทางไว้ พัดยิ้มดีใจไม่คิดว่าจะได้เจอเขาอีก ผิดกับบุ๊นที่มีสีหน้าราบเรียบ ไม่แสดงความรู้สึกใดๆให้เห็น
“ฉันนึกแล้วว่านายต้องมา”
“ผมขอโทษครับท่านประธาน...ผมไม่ได้ตั้งใจ”
พลันมีเสียงขึ้นนกปืนดังขึ้นด้านหลัง ไทหันมองตามเสียง เห็นอาฮวดถือปืนจ้องอยู่ บุ๊นพยักพเยิดเป็นทำนองให้เขาออกไปก่อน ไม่มีอะไรต้องเป็นห่วง อาฮวดรู้งาน รีบทำตามคำสั่ง
“คุณพัดเป็นยังไงบ้างครับ” ไทมองพัดด้วยสายตาห่วงใย
“ไม่น่าจะเดินได้ไปตลอดชีวิต” บุ๊นตอบคำถามแทนลูก
พัดไม่อยากให้พ่อพูดแบบนี้ พยายามปราม ไทตกใจรู้สึกผิดที่ทำอะไรวู่วาม บุ๊นเดินนำไทออกมาให้ห่างลูกสาว เพราะไม่ต้องการให้ได้ยินเรื่องที่ตนกับไทจะคุยกัน
“คนเรามันมีกรรมไม่เหมือนกัน นายกลับไปเถอะ... ถือเสียว่าเราเลิกแล้วต่อกัน”
“ใครฆ่าพ่อผม” ไทอยากรู้ความจริงจากปากบุ๊นโดยตรง
“ถึงตอนนี้นายยังไม่รู้อีกหรือ...ใช่...ตอนแรกฉันก็ละโมบอยากได้ที่ดินผืนนั้น แต่พอพ่อของนายมาบอกฉันว่าขอถอนตัวและให้เหตุผลที่ฉันต้องคิดทบทวน...เฮ้อ... ฉันไม่น่าหลงผิดที่คิดไปทำลายแผ่นดินที่สร้างฉันขึ้นมาเลย ฉันบอกเรื่องนี้กับมังกร แต่เขาไม่ยอมและฉันก็ไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำ...ฉันจึงต้องเก็บโฉนดเอาไว้ และคิดจะเอาคืนแผ่นดิน” บุ๊นสีหน้ามุ่งมั่น ยิ่งได้รู้ความจริงไทยิ่งรู้สึกผิดต่อเขาและครอบครัว
“ผมขอโทษ”
“ช่างเถอะ เรื่องมันกำลังจะจบแล้ว พรุ่งนี้ก็จะได้รู้กันว่าพยัคฆ์กับมังกร ใครจะอยู่ใครจะไป”
ไทนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่ามังกรจับตัวคนของตนไป บุ๊นไม่สนใจ นั่นมันเรื่องของไทไม่เกี่ยวอะไรกับเขา แต่ถ้าอยากจะให้ช่วย ลูกสาวของเขาต้องการคนดูแลตลอดชีวิต ชายหนุ่มเข้าใจความหมาย
“ถ้าจะทำให้ปลายฟ้าปลอดภัย...ผมจะเป็นคนคนนั้น”
“ขอบใจ...ฉันจะช่วยนาย” บุ๊นยิ้มพอใจ
ooooooo
ภายในห้องเก็บของบ้านมังกร ปลายฟ้าถูกมัดมือไพล่หลังติดอยู่กับเก้าอี้ โดยไม่รู้ว่าตัวเองถูกจับมาทำไม โอตี่เดินเข้ามาพร้อมกับมังกร สั่งให้สมุนที่นั่งเฝ้าแก้มัดเธอออก หญิงสาวอ้อนวอนขอร้องให้โอตี่ปล่อยตนไป
“ได้...แต่แฟนของเธอต้องเอาของมาแลกก่อน”
“นายจับฉันมาเรียกค่าไถ่หรือ...ปล่อยฉันไปเถอะ หัวหน้าไม่มีเงินมากมายหรอก”
โอตี่ยังไม่ทันจะพูดอะไรอีก มีเสียงมือถือของมังกรดังขึ้นเสียก่อน มังกรยิ้มสะใจเมื่อเห็นเบอร์บุ๊นโชว์อยู่หน้าจอ ปล่อยให้เสียงสายเรียกเข้าดังต่ออีกครู่หนึ่งถึงยอมรับสาย
“ในที่สุดพี่ใหญ่ก็ยอมลดตัวโทร.มา”
“ฉันต้องการเด็กผู้หญิงคนนั้นคืน” บุ๊นเสียงกร้าว
“ได้...แหมแต่อยากรู้จังว่าเด็กคนนี้มันสำคัญพอๆ
กับที่ดินหรือเปล่า”
“แน่นอน...ถ้าอยากได้พรุ่งนี้เจอกัน” บุ๊นนัดเวลาและสถานที่เสร็จก็วางสาย มังกรกระหยิ่มใจไม่นึกมาก่อนว่าจะง่ายดายขนาดนี้...
คํ่าวันเดียวกัน ไทกลับถึงที่พัก หยิบปืนไรเฟิลติดกล้องสำหรับซุ่มยิงขึ้นมาทำความสะอาดและดูความเรียบร้อย เตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้ เช่นเดียวกับบุ๊นซึ่งเตรียมเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์และโฉนดที่ดินไว้พร้อม ผู้รับโอนก็คือ นายมังกร แซ่ลี้ นั่นเอง...
ด้านอาฮวดเตรียมพร้อมสำหรับวันพรุ่งนี้เช่นกัน เอานํ้าชารดหน้าป้ายวิญญาณบรรพบุรุษเหมือนเป็นการบอกลาครั้งสุดท้าย บนแท่นบูชาถัดไปมีรูปเรียวตั้งอยู่ เขาหยิบปืนคู่กายสองกระบอกขึ้นมาตรวจดูความเรียบร้อย พรุ่งนี้จะเป็นวันชำระแค้นให้เรียวไปในตัว
ooooooo
ใกล้ถึงเวลานัด มังกรระดมกำลังคนเตรียมพร้อมรับมือบุ๊นกับพวกด้วยท่าทีมั่นใจในชนะของตัวเอง โอตี่สั่งให้สมุนนำตัวปลายฟ้ามาขึ้นรถ โดยมีอาเพียวคอยประกบ ไม่นานนัก ขบวนรถของมังกรมาถึงลานกว้างสำหรับเก็บตู้คอนเทนเนอร์ใกล้ท่าเรือขนถ่ายสินค้า อึดใจเดียว ขบวนรถของบุ๊นก็แล่นเข้ามาจอดประจันหน้ากัน
ทั้งสองฝ่ายเดินเรียงหน้ากระดานมาหยุดตรงที่ว่างกลางลาน ไพร่พลของแต่ละฝ่ายมีไม่ตํ่ากว่า 20 คน มังกร ยิ้มอย่างซึ่งถือไพ่เหนือกว่าเปิดเสื้อให้บุ๊นดูว่าไม่ได้พกอาวุธ
“ฉันก็ไม่มี...กับคนอย่างแกฉันไม่ต้องใช้อาวุธหรอก” บุ๊นเข่นเขี้ยว มังกรถึงกับหน้าชาที่ถูกหยามซึ่งหน้า โอตี่ทนไม่ไหวแดกดันบุ๊นคืนบ้าง
“อ๋อ...อย่างนี้นี่เอง ลูกชายเลยต้องมาเดี้ยง...ลูกสาวก็กลายเป็นง่อย”
“สำหรับแก...โอตี่ ไปอดนมมาก่อนแล้วค่อยมาคุยกับฉัน” บุ๊นปรายตามองโอตี่อย่างเหยียดๆ เขากำหมัดแน่นด้วยความแค้น กวาดตามองสมุนของบุ๊นจนทั่วไม่พบไท แกล้งถามประชด
“คนเก่งของลุง ลาออกไปแล้วหรือ”
“ยังหรอก...จนกว่าเขาจะฆ่าแก” บุ๊นจ้องโอตี่อย่างเอาเรื่อง...
คนที่โอตี่ถามถึง ซุ่มอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ซึ่งเป็นจุดที่มองเห็นครอบคลุมทั่วบริเวณ เล็งปืนไรเฟิลติดกล้อง ส่องทางไกลมายังโอตี่ มังกรและอาเพียว ระหว่างนั้นอาฮวดสังเกตเห็นอาเพียวคอยสอดส่ายสายตามองขึ้นไปบนตู้คอนเทนเนอร์อยู่บ่อยครั้ง มั่นใจว่าฝ่ายตรงข้ามคงจะมีมือปืนซุ่มยิงเหมือนกัน จึงกระซิบใส่วิทยุสื่อสารขนาดเล็กที่ซ่อนไว้เตือนไท
“นายมีเพื่อนแล้ว”
ไทมองสำรวจไปรอบๆพบมือปืนซุ่มยิงซ่อนตัวอยู่ วิทยุแจ้งกลับไปหาอาฮวด “มาสี่คน...ดีจะได้ไม่เหงา...ล่อให้มันเอาปลายฟ้าออกมาลุง” ไทพูดจบเปลี่ยนเป้าหมายมาเล็งพวกมือปืนซุ่มยิงแทน
ooooooo
ขณะที่ไทเตรียมพร้อมอยู่บนตู้คอนเทนเนอร์ ที่กลางลานกว้าง บุ๊นกับมังกรกำลังเจรจาต่อรองกัน โดยจะเอาโฉนดกับเอกสารการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่ปากช่องแลกกับตัวปลายฟ้า บุ๊นโยนซองใส่เอกสารทั้งหมดให้
“เอานังนั่นออกมา” มังกรสั่งการ สมุนรีบพาตัวปลายฟ้าออกมาจากรถแต่ไม่ส่งตัวคืนให้ บุ๊นไม่ค่อยพอใจนัก สั่งเสียงเข้มให้ส่งตัวเธอคืนมา โอตี่ขวางไว้
“คงไม่ง่ายมั้งลุงบุ๊น มันมีของบางอย่างที่พีทต้องเอามาคืนผม นั่นหมายถึงว่าผมต้องได้ของชิ้นนั้นก่อนแล้วนังคุณผู้หญิงคนนี้ก็จะปลอดภัย”
“ของอะไร...ฉันไม่รู้เรื่อง”
“ไอรู้มาว่า พีทเก็บของสิ่งนี้ไว้ที่คนที่มันไว้ใจมากที่สุด” โอตี่ว่าแล้วปรายตามองอาฮวดซึ่งซ่อนจี้กับสร้อยที่ใส่เมมโมรี่การ์ดที่พีททำก๊อบปี้ไว้อีกชุดหนึ่ง เป็นคลิปตอนที่โอตี่ขนยาเสพติด ไทที่มองผ่านกล้องติดปืนไรเฟิลรีบเตือนอาฮวดผ่านทางวิทยุสื่อสารขนาดจิ๋วว่าอย่าให้ของสิ่งนั้นกับโอตี่เด็ดขาด ไม่อย่างนั้นทุกคนจะถูกฆ่า
“ไท...นายจะเอายังไง”
ไทกวาดตาไปเห็นมือปืนซุ่มยิงกำลังเล็งปืนใส่บุ๊น บอกอาฮวดให้คุ้มกันท่านประธาน แล้วรอสัญญาณจากตน มังกรเห็นฝ่ายบุ๊นเงียบไป
“ว่าไงพี่ใหญ่...เอาของให้โอตี่ไปเถอะ จะได้กลับบ้านใครบ้านมัน”
“แล้วถ้าฉันไม่ให้ล่ะ” บุ๊นสีหน้าจริงจัง โอตี่ยักไหล่ไม่ยี่หระ
“งั้นมันคงต้องเป็นความลับตลอดไป” พูดจบโอตี่ส่งสัญญาณ มือปืนที่ซุ่มอยู่ใกล้ที่สุดเตรียมเหนี่ยวไกจะยิงบุ๊น แต่ถูกไทยิงเสียก่อน เมื่อมือปืนคนแรกพลาดคนที่เหลือรับช่วงต่อ แต่ช้าเกินไป ไทเก็บพวกนั้นทีละคนๆอย่างแม่นยำ มือปืนคนสุดท้ายร่วงลงมาที่พื้น
ทำให้โอตี่รู้ว่าทางบุ๊นก็ส่งมือปืนมาคอยซุ่มยิงเช่นกัน
สั่งการทันที
“มันอยู่ข้างบน...ยิง”
สมุนของมังกรส่วนหนึ่งระดมยิงไปยังจุดที่ไทอยู่ แต่ไร้ประโยชน์เพราะอยู่สูงเกินไป พวกที่เหลือตรงเข้าตะลุมบอนกับสมุนของบุ๊น ไทเล็งปืนจะเก็บมังกร อาเพียวรู้ทันดึงปลายฟ้ามาบังเอาไว้ ทำให้เขาไม่กล้ายิง
“ไปกันได้แล้ว” โอตี่ว่าแล้ววิ่งนำมังกร อาเพียวกับปลายฟ้าลัดเลาะไปตามตู้คอนเทนเนอร์ที่วางเรียงรายอยู่ อาฮวดสั่งให้สมุนคุ้มกันบุ๊นไว้ แล้วรีบวิ่งตามโอตี่กับพวก ไททิ้งปืนไรเฟิลแล้วรีบตามไปเช่นกัน
โอตี่เห็นว่าหนีกันไปเป็นกลุ่มแบบนี้จะเป็นเป้าใหญ่ให้โดนเล่นงาน จึงสั่งให้อาเพียวพามังกรหนีไป อีกทางหนึ่ง ส่วนเขาจะเอาตัวปลายฟ้าไปเอง
ooooooo
อาเพียวพามังกรหนีมาทางท่าเรือ เจออาฮวดดักรออยู่ เขาชักปืนจะยิง แต่อาฮวดไวกว่าสะบัดมีดสั้นพุ่งปักมืออย่างแม่นยำปืนหล่นตกพื้น เขาดึงมีดออกแล้วเอาผ้าเช็ดหน้ามาพันห้ามเลือดไว้ อาฮวดย่างสามขุมเข้าหา ขณะที่อาเพียวตั้งท่ารอรับ ก่อนจะร้องบอกเจ้านาย
“ท่าน...หนีไปก่อน”
มังกรกอดซองใส่เอกสารไว้แน่น แล้ววิ่งหนีไปปล่อยให้สมุนคู่ใจเผชิญหน้ากับอาฮวดตามลำพัง ทั้งคู่จ้องหน้าหยั่งเชิงกันครู่เดียว ก็ตรงเข้าต่อสู้กันด้วยเชิงมวย...
ขณะที่อาเพียวกับอาฮวดตรงเข้าห้ำหั่นกันราวกับเป็นศัตรูกันมาแต่ชาติปางก่อน โอตี่ลากตัวปลายฟ้าถูลู่ ถูกังมาที่รถซึ่งจอดหลบไว้ มีเสียงไทดังขึ้นทางด้านหลัง
“ลืมอะไรหรือเปล่า”
โอตี่กับปลายฟ้าหันมองตามเสียงเห็นไทยืนควงกุญแจรถอยู่ ปลายฟ้าดีใจจะวิ่งไปหา โอตี่ดึงมีดที่ซ่อนไว้ในหัวไม้เท้าออกมาจ่อคอเธอไว้ ขู่ไทให้ส่งกุญแจรถมา
“แกนั่นแหละ เดินมาเอาเอง”
“งั้นแกเตรียมพานังนี่ไปทำศัลยกรรมได้เลย” โอตี่ทำท่าจะกดปลายมีดที่แก้มขาวของปลายฟ้าซึ่งร้องลั่นด้วยความหวาดกลัว ไทจนแต้ม ยอมคืนกุญแจให้ แต่แกล้งโยนพลาด จังหวะที่โอตี่จะก้มเก็บ ปลายฟ้าสบช่องสะบัดตัวหลุด แล้ววิ่งหนีไปหาไทที่กอดเธอไว้แน่นด้วยความรักและเป็นห่วง โอตี่ได้กุญแจรถแล้วแต่กลับไม่หนี ตบมือให้ทั้งคู่ด้วยท่าทางยียวนกวนประสาท
“แหม...ซึ้งจริงๆ พระเอกช่วยนางเอกจากผู้ร้าย... แฮปปี้เอ็นดิ้ง...แต่พอดีนี่มันเรื่องจริงโว้ย” พูดจบโอตี่ควงมีดสั้นเข้าหาไทซึ่งผลักปลายฟ้าออกห่างแล้วปัดป้องการโจมตีของเขา
“หนีไปก่อน” ไทตะโกนลั่น
“ไม่...ฉันจะอยู่ช่วยหัวหน้า”
ไทล็อกมือโอตี่ไว้ได้ แล้วร้องบอกปลายฟ้า “ได้... งั้นมาต่อยกับมัน”
หญิงสาวถึงกับหน้าเสีย รู้ว่าถูกประชดประชัน เตือนให้ไทระวังตัวแล้ววิ่งปรู๊ดออกไปทันที ไทกับโอตี่ผลัดกันรุกผลัดกันรับ ไม่มีใครยอมใคร
ooooooo










