สมาชิก

เพลงรักบ้านนา

ตอนที่ 17

ชาริณีหลบหน้าเศรษฐีบุญช่วยมาเดินที่มุมเปลี่ยวภายในบริเวณบ้าน เธอตกใจเมื่อถูกจ่าสินออกมาจับแขนไว้แน่น จ่าถามอย่างคุกคามว่าเศรษฐีจะให้เธอแต่งงานกับทวน ทั้งที่ทวนไม่ได้รักเธอ เขารู้กันทั้งบ้านนาว่าทวนรักศรีไพร แล้วเธอยังจะยอมแต่งกับทวนหรือ

ชาริณีสั่งให้ปล่อย ยืนยันว่าจะแต่งงานกับทวนเพราะทวนหวังดีกับตน จ่าถามว่าแยกแยะได้แล้วหรือว่าใครหวังดีกับเธอทั้งยังรับรองว่าตนก็หวังดีกับเธอ และถ้าได้เป็นเขยก็จะช่วยเศรษฐีทำมาหากิน

“อย่างน้อยคุณทวนเขาก็ไม่ใช่หมาหิวอย่างแก ฉันจะเลิกยาแล้วลืมเรื่องที่แกเคยทำกับฉัน”

ทันใดนั้น ทวนก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ สั่งจ่านิ่งๆกวนๆว่า ให้ปล่อยชาริณีเสีย เพราะประเด็นไม่ได้อยู่ที่ใครจะเป็นลูกเขยเศรษฐี หากแต่อยู่ที่ชาริณีต้องเลิกยาให้ได้ ถามนิ่งๆแต่น่าเกรงขามว่า

“จะปล่อยชาริณีไป หรือว่า...จะให้ว่าที่เขยขวัญของท่านเศรษฐีคนนี้ ตั้งประเด็นเรื่อง...เรื่องที่...”

จ่าสินจำต้องปล่อยมือชาริณี เธอวิ่งมาหาทวนร้องขอความช่วยเหลือ จ่าสินชี้หน้าทวนพูดอย่างแค้นใจก่อนผละไปว่า

“แกไม่มีวันได้แต่งงานกับชาริณี”

“ช่วยฉันด้วย อย่าให้มันแตะต้องฉัน ฉันเกลียดมัน ขยะแขยงมัน ช่วยด้วย...”

“พูดความจริงกับพ่อของคุณเสีย ก่อนที่งูเห่าตัวนี้มันจะแว้งกัดพวกคุณ” ทวนบอกชาริณีด้วยท่าทีเฉยเมยจนเธอมองตะลึงอึ้ง

ooooooo

เศรษฐีบุญช่วยเตรียมจัดงานแต่งให้ชาริณี

อย่างรวดเร็วใหญ่โต สั่งหลิมกับเลิศให้เกณฑ์แรงงานชาวบ้านมาช่วยกันจัดสถานที่

เลิศกับหลิมรายงานกลัวๆกล้าๆว่าไม่มีใครมา เพราะชาวบ้านนาไม่คบค้าสมาคมกับพวกเราแล้ว ชิงชัยสบถอย่างหัวเสียว่า ยโสนัก ให้มันรู้ไปว่าใครได้รับการ์ดเชิญแล้วไม่มา จะตามไปยิงหัวให้ถึงบ้านทีเดียว

เศรษฐีแววตาสลดลงเมื่อตระหนักถึงสถานะของตัวเองสั่งสมุนว่า ถ้าพวกชาวบ้านไม่มาก็ให้ไปเชิญพวกอำเภอ ชิงชัยบอกว่าตอนนี้พวกอำเภอก็ระวังตัวแจเหมือนกัน

“งั้นก็หลวงตาฉุน...” เศรษฐีสั่งหน้าเครียด

แต่พอชิงชัยกับหลิม และเลิศไปนิมนต์หลวงตา มหาเฉื่อยบอกว่าหลวงตาไม่รับนิมนต์ ถูกชิงชัยเล่นแง่ว่าพระสงฆ์มีหน้าที่ต้องรับนิมนต์ญาติโยมไม่ใช่หรือ มหาเลยหันไปถามหลวงตา หลวงตาบอกว่าคิวไม่ว่าง

“ไอ้ทวนมันเคยเป็นเด็กวัดของหลวงตา มันจะแต่งงานทั้งทีหลวงตาต้องไปประกอบพิธีให้มัน” ชิงชัยจะให้หลวงตาไปให้ได้ หลวงตาเลยให้มหาเปิดสมุดคิวดู มหาเปิดดูแล้วแจ้งว่า

“โน่น...ว่างอีกทีปีหน้าโน่นแน่ะขอรับหลวงตา เอายังงี้...ไปนิมนต์พระวัดอื่น วัดนี้...ไม่ว่าง” มหาตัดบท

เมื่อทั้งหว่านล้อมทั้งเล่นแง่แล้วก็ไม่สามารถนิมนต์หลวงตาไปได้ ชิงชัยพูดอย่างไม่พอใจว่าไม่ว่างหรือไม่รับนิมนต์กันแน่ ไม่มีพระแล้วจะประกอบพิธีได้ยังไง แล้วชวนกันไปวัดอื่น ระหว่างนั้นทอกกับหมอกยืนกอดอกมองพวกชิงชัยลงจากศาลาอย่างชิงชัง ได้ยินหลิมเสนอให้ทวนพาชาริณีหนี ถูกชิงชัยตวาดสวนทันทีว่า

“ไม่ได้ พ่อข้าเป็นคนรวย ทำอะไรต้องใหญ่ แต่งงานก็ต้องตำน้ำพริกละลายแม่น้ำทั้งสายโว้ย”

ทอกกับหมอกเบ้หน้ามองไปทางอื่น ถูกเลิศขู่ว่านี่ถ้าไม่ใช่เรื่องนิมนต์พระละก็ ได้คิดบัญชีแค้นกันแน่ ชิงชัยถามทอกกับหมอกว่า รู้หรือเปล่าว่าลูกพี่ของพวกเขากำลังจะได้เป็นน้องเขยตนแล้ว หลิมสอพลอต่อว่า

“พอเป็นน้องเขย ถึงมันจะหัวแข็งสักแค่ไหน อีกหน่อยก็ต้องสยบยอมคุณชิงชัยกับท่านเศรษฐี”

หมอกกับทอกมองหน้ากันอย่างกังวล ทอกถามว่า ทวนจะแต่งงานกับลูกสาวเศรษฐีบุญช่วยจริงๆหรือเนี่ย!?

ooooooo

พอรู้ว่าทวนจะแต่งงานกับชาริณี เนี้ยวก็แผดเสียงอย่างลืมตัวว่า “ไม่ได้...ไม่ให้แต่ง” ถูกเจ๊กตงถามว่าทำไมจะแต่งไม่ได้ในเมื่อทวนแปรพักตร์ไปเข้ากับเศรษฐีบุญช่วยแล้ว ทอกกับหมอกดักคอว่า

เนี้ยวยังรักทวนอยู่ใช่ไหม ไหนว่าเกลียดทวนแล้วไง

“เนี้ยวไม่ได้รักพี่ทวน เพราะพี่ทวนไม่ได้รักเนี้ยว” เนี้ยวโต้หมอกกับทอก สุมิตรเสนอตัวแทรกเข้ามาว่า แต่สุมิตรรักเนี้ยวตลอดกาลนะจ๊ะ เลยเกือบถูกเจ๊กตงแพ่นกบาล

“เอาละเว้ย อย่าถกเถียงกันเลย มันเป็นเรื่องของไอ้ทวนจะตัดสินใจ ไหนๆ มันจะไปดีแล้ว เราก็อวยพรให้มันเถอะ” มหาเอ่ยขึ้น เจ๊กตงเลยเอะใจถามว่าแล้วหลวงตาท่านว่ายังไง

“ท่านก็ว่า...” มหาเล่าตอนที่ตนไปบอกหลวงตา แล้วทำเสียงเลียนหลวงตาว่า “ปลงซะ ใครจะเป็นยังไงก็ชีวิตของมันเอ็งจะไปยุ่งกับไอ้ทวนมันทำไม”

หมอกกับทอกทนไม่ได้ไปกราบนมัสการหลวงตา ทอก ประกาศไม่ยอมให้ทวนแต่งงานเป็นเขยคนเลวเข้าขั้นอย่างเศรษฐีบุญช่วย เพราะมันชั่วเกินไป ส่วนหมอกก็ขอให้หลวงตาไปเทศน์ให้ทวนได้สำนึกว่าที่ตัวเองกำลังจะทำน่ะ มันผิด

“เรื่องผิดเรื่องถูกใครจะไปตัดสินได้ ผิดของเอ็งอาจจะถูกสำหรับไอ้ทวน...ณ...ขณะนี้” หลวงตาพูดอย่างเยือกเย็นจนทอกบ่นว่าคำเทศนาของหลวงตาลึกจนเข้าไปถึงไหนต่อไหนของตนแล้ว หลวงตาจึงชี้แจงให้กระจ่างไปเลยว่า

“ข้าหมายความว่า...อย่าไปยุ่งก๊ะมัน!”

ส่วนที่บ้านเรือนไทย แสนวิ่งขึ้นเรือนมาเรียกศรีไพรอย่างตื่นเต้น ศรีไพรดักคอว่าถ้าเป็นเรื่องลูกสาวเศรษฐีบุญช่วยกำลังจะได้ลูกเขยละก็...ไม่ต้องบอกเลย เรื่องไร้สาระแบบนั้นตนไม่สนใจ สู้มาสนใจเรื่องไร่นาของเรายังจะดีเสียกว่า

แสนบอกว่าตนเสียความรู้สึก ศรีไพรสอนน้องว่า

“แสน...ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่เป็นไปอย่างที่เราหวังทุกเรื่องหรอก ถือเสียว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เราผิดหวังก็แล้วกัน”

“จ้างให้ก็ไม่ได้แต่ง!” แสนโพล่งออกมาอย่างโกรธแค้น

ooooooo

วันต่อมา หลิมกับเลิศยืนเท่อยู่บนรถเครื่องไฟ ใช้ฮัลโหลป่าวประกาศอย่างผยองว่า ท่านเศรษฐีให้มาป่าวประกาศว่าจะจัดงานแต่งงานให้ยิ่งใหญ่มโหระทึก ขอให้ชาวบ้านเตรียมตัวไปร่วมงาน ใครไม่ไป...อาจถึงฆาต!

มันทั้งสองช่วยกันป่าวร้องให้ชาวบ้านไปงาน ใครหัวแข็งไม่รับคำเชิญอาจมีโทษถึงชีวิต ย้ำว่าอย่าไปมือเปล่าให้เอาซองติดมือไปด้วย พวกมันช่วยกันพูดอย่างคะนองว่า เหรียญไม่เอา ใบยีี่สิบไม่สน ใบละร้อยไม่ต้อง เอาใบละพันเท่านั้น แล้วเวลากินเลี้ยงก็ให้กินแค่อิ่ม ห้ามกินแล้วคาบกลับบ้านด้วย

หมอกกับทอก และแสนช่วยกันจุดประทัดปาใส่ตามด้วยหนังสติ๊กยิงถล่มหลิมกับเลิศจนฝุ่นฟุ้งตลบไปหมด

หลิมกับเลิศกลับถึงบ้านเศรษฐีในสภาพหัวหูมีแต่ฝุ่นและเขม่าไฟ ชิงชัยถามว่าพ่อใช้ให้ไปป่าวประกาศบอกชาวบ้านเรื่องแต่งงานทำไมถึงกลับมาแบบนี้

“ไอ้พวกชาวบ้านน่ะซีครับ นอกจากจะไม่สนไม่รับเชิญ ไม่อะไรสักอย่าง มันยัง...” หลิมพูดไม่ออก

“ดักโจมตีหน่วยประชาสัมพันธ์ของเรา ท่าทางงานนี้คงกร่อย ไม่มีคนมาหรอกครับคุณชิงชัย” เลิศพูดต่อ

ชิงชัยสบถว่า “ได้ยังไงวะ!” เมินก้าวออกมาพูดหน้าซื่อๆว่า

“ได้ซีคุณ เพราะสิทธิโดยชอบธรรมของชาวบ้านนายังมีครบ ใครจะไปจะมา ใครจะสั่งนี่นู่นนั่น มันขึ้นอยู่ที่ความพอใจ” ชิงชัยถามอย่างหาเรื่องว่า ความพอใจ ยังไง? เมินตอบเนิบๆว่า “คือ...ใครใคร่จะไปจะมาก็ไปก็มา แต่ใครใคร่จะไม่...ก็ไม่...”

ooooooo

ทวนร้อนรนกระวนกระวายใจกับข่าวที่พวกเศรษฐีไปป่าวประกาศกับชาวบ้าน วันนี้ไปดักพบศรีไพรที่คลอง รอแล้วรอเล่า ทนไม่ได้ เลยลุกเดินงุ่นง่าน

“เดินเป็นชะมดติดจั่นเชียวนะพ่อไข่ลูกเขยของ

เศรษฐีบุญช่วย” เมินส่งเสียงก่อนเดินออกมา ทวนบอกว่าตนยังไม่ได้...ก็ถูกเมินขัดขึ้นก่อนว่า “เศรษฐีบุญช่วยป่าวประกาศพวกชาวบ้านนารับรู้แล้วว่าจะจัดงานแต่งงานของแกกับชาริณี ถึงขั้นนี้แล้วแกยังจะทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกหรือ”

ทวนทำท่าจะชี้แจงอีก เมินไม่เปิดโอกาส ถามว่า จะแต่งงานกับชาริณีจริงๆหรือ ก็ไหนว่ารักศรีไพรไงล่ะ ทวนฉุน

เลยย้อนเอาว่าแล้วตัวเองล่ะ รักศรีแพรไม่ใช่หรือ

เมินตัดบทว่าเรื่องของตนอย่ามายุ่ง ทวนเอาบ้างบอกเมินไม่ต้องมายุ่งเรื่องของตน เมินโมโหกระชากคอเสื้อทวนเข้าไปกัดฟันกระซิบว่า

“แล้วมีปัญหาไหม เศรษฐีบุญช่วยเตรียมการแต่งงานแล้ว จะมีคนมา ไม่มีคนมา แกก็ต้องแต่ง แต่งงานนะโว้ย มันไม่ใช่เรื่องเล่นหม้อข้าวหม้อแกง”

“แล้วแกล่ะแกเล่นอะไรอยู่ หม้อข้าวหม้อแกงรึไง ทำไมไม่กลับไปอยู่กับศรีแพร ดูแลศรีแพร ไม่ใช่ปล่อยให้ศรีแพรดูแลตัวเอง ดูแลครอบครัวยังงั้น!”

ทวนกับเมินโต้เถียงและจ้องหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร

ooooooo

หลังจากช่วยกันถล่มรถของเศรษฐีที่มาป่าวประกาศเรื่องแต่งงานแล้ว หมอกกับทอกพากันเดินมาส่งแสนที่บ้าน ทอกชมแสนว่า

“ปฏิบัติการเข้มแข็งไม่เห็นแก่หน้าใครยังงี้ ฉันจะรับแกไว้เป็นเด็กของฉัน”

“ใช่ เราจะวางแผนเตรียมก่อกวนพวกไอ้เศรษฐี บุญช่วย” หมอกพูดแล้วลดเสียงลง “ปฏิบัติการนี้จะมีการประชุมกันที่ท้ายป่าช้าอย่าให้ใครรู้เป็นอันขาด”

แสนรับรองว่าจะเก็บไว้เป็นความลับอย่างดีที่สุด ทอกนัดเจอกันที่ป่าช้าคืนนี้ แสนทำหน้าสยองถามว่าที่อื่นไม่ได้หรือ

“ที่ป่าช้าดีที่สุด ที่นั่นสงัดเงียบวังเวง ไม่มีใครกล้าเข้าไปตอนดึกๆเจอกันโว้ยไอ้แสนน้องรัก” หมอกย้ำ

แสนจำต้องรับคำแล้วโบกมือลากัน พอทอกกับหมอกเดินกลับไปแล้ว แสนยิ้มกริ่มอย่างภูมิอกภูมิใจที่ได้เข้าร่วมทีมกับทอก และหมอก แต่พอหมุนตัวจะเข้าบ้านก็สะดุ้งโหยง เมื่อเจอศรีไพรกับศรีแพรมายืนเรียงหน้าถามว่าไปทำอะไรมา

แสนยังมือใหม่กระดูกอ่อนพอเจอเสียงเข้มๆของ

พี่สาวก็ตกใจอึกอักตอบไม่ออก ศรีแพรรู้ทันบอกศรีไพรว่าช่างเถอะน้องไปทำงานมาเหนื่อยๆก็ต้องมีไปเล่นบ้างตามประสาเด็ก ศรีไพรไม่ยอมถามว่าไปเล่นอะไร

“พี่ศรีไพรจะรู้ไปทำไมล่ะ...ว้า...” แสนทำท่าลำบากใจ ศรีไพรชี้หน้าน้องปรามว่า อย่าเล่นซนจนเดือดร้อนถึงพี่ก็แล้วกัน ศรีแพรเข้าไปโอบไหล่แสนอย่างปกป้อง บอกว่า

“แต่ถ้าเดือดร้อนเพราะไอ้คนที่ควรจะเดือดร้อน คงไม่เป็นไรนะ” พูดแล้วยิ้มนัยน์ตาเจ้าเล่ห์

ooooooo

ศรีไพรยังติดใจ ร้อนใจเรื่องแสน เมื่อไปท้องนาด้วยกัน จึงถามศรีแพรว่าไม่สงสัยบ้างหรือว่าแสนไปทำอะไรมา บอกศรีแพรว่า

“บอกตรงๆนะเห็นน้องไปคบกับพวกไอ้ทอก ไอ้หมอกแล้ว ฉันกลัว”

“กลัวอะไร กลัวแสนแสบกับพวกนั้นจะไปป่วนขบวนขันหมากหรือ ข่าวนายทวนจะแต่งงานกับลูกเศรษฐีบุญช่วยยืนยันแล้วว่า ไม่ใช่ข่าวลือเขาจะแต่งงานกันจริงๆ”

ศรีไพรรับว่านี่แหละตนถึงกลัวน้องจะก่อเรื่องเดือดร้อนมาถึงแม่ ศรีแพรพูดอย่างไม่สะทกสะท้านว่ากลัวทำไม ในเมื่อทุกวันนี้ ผืนดินมันก็ร้อนระอุเป็นไฟอยู่แล้ว ศรีไพรฟังแล้วไม่สบายใจถามตื่นๆว่า

“พี่ศรีแพร...ฟังดูเหมือนกับพี่...”

“เปล่า นี่ไม่ใช่การล้างแค้นหรอก เศรษฐีบุญช่วยโจทก์เยอะ ถ้าจะมีคนก่อกวนความสงบสุขของเศรษฐีบุญช่วยกับพวก ก็ไม่เห็นจะแปลก...” ศรีแพรมองไปทางอื่นตาแข็งกร้าวขณะพึมพำ “ฮึ! แปลกตรงไหน!”

“นี่พี่ศรีแพรคิดจะทำอะไร...” ศรีไพรมองพี่สาวด้วยความแปลกใจ

ooooooo

วันนี้ที่บ้านเศรษฐีบุญช่วย หลิม เลิศ และคนงานกำลังช่วยกันแบกต้นกล้วยมาตกแต่งลานหน้าบ้าน โดยมีสไบกับแหว่งยืนดูอยู่บนระเบียง

ทวนเดินมาถามสไบว่าเขาเตรียมอะไรกัน สไบยิ้มเยาะบอกว่าอย่าทำเป็นไม่รู้เลย จะเป็นเขยเศรษฐีอยู่สองวันนี้แล้วยังไม่รู้ตัวอีกหรือ

ถามไปถามมา ทวนถึงกับตกใจตาเหลือกเมื่อรู้ว่าตัวเองจะต้องแต่งงานกับชาริณีจริงๆ อุทาน...

“ตายละวา...”

เมินถูกทวนเรียกไปปรึกษากันที่ริมคลอง ฟังทวนแล้ว เมินทั้งสงสารและสมน้ำหน้าพอกัน บอกว่างานนี้มีแต่ทวนต้องตายเท่านั้นถึงจะหนีรอดจากการเป็นลูกเขย
เศรษฐีบุญช่วยได้ บ่นว่า

“ฉันเตือนๆๆแต่แกกลับบ่ายเบี่ยงพูดแต่เรื่องหม้อข้าวหม้อแกง ทีนี้ทำยังไงล่ะ”

ทวนบอกว่าไม่รู้เหมือนกัน เมินเลยถามอย่างเป็นต่อว่า เพราะอย่างนี้ใช่ไหมถึงได้นัดตนออกมาปรึกษาปัญหาชีวิต

พอถูกเมินเยาะเย้ย ทวนก็ฮึดขึ้นมา ต่างจ้องหน้าจนแทบจะเลิกคุยกัน แต่ในที่สุดเมินก็ถามขึ้นว่า

“ทำไมแกถึงไม่อยากแต่งงานกับชาริณี ฉันเห็นแกออกอาการปกป้องชาริณีจนแทบจะเอาชีวิตเข้าไปแลก”

ทวนบอกว่าตนดูดายไม่ได้ ชาริณีกำลังตกนรก ถูกเมินประชดว่ามิน่าถึงทำตัวเป็นพ่อพระ ทวนยืนยันว่าตนก็แค่อยากช่วยไม่ได้คิดว่าตนจะ...ทวนพูดไม่ออก

เมินถามว่า “แกยังรักศรีไพรอยู่ใช่ไหม” ทวนหันสบตานิ่งอึ้งตอบคำถามของเมินไม่ออก เมินตัดบทว่า “มันขึ้นอยู่ที่ตัวของแกแล้วละตอนนี้ ว่าแกยังรักศรีไพรอยู่หรือเปล่า”

ทวนไม่ตอบ แววตาสลดลง เพราะจริงๆแล้วเขาก็ยังรักศรีไพรอยู่...

ooooooo

หลังอาหารเย็น แสนทำเดินเลี่ยงๆลงเรือนจะหลบไปที่ท้ายป่าช้าตามที่นัดกับหมอก และทอกไว้ ศรีไพรถามว่าจะไปไหน แสนเอามือลูบท้องบอกว่าจะไปเดินผึ่งพุงให้ข้าวเรียงเม็ดสักหน่อยเพราะเคยเห็นพ่อทำแบบนี้

ศรีไพรดักคออย่างรู้ทัน สั่งไม่ให้ไปไหน จนศรีแพรมาบอกว่าเด็กมันต้องออกกำลังเยอะๆมันจะได้โตเร็วๆ แล้วบอกแสนว่าจะไปไหนก็ไป

แสนรีบรับคำ โดดแผล็วลงเรือนไปเลย ศรีไพรห้ามไม่ทัน หันมาบ่นพี่สาวว่า

“พี่ศรีแพร รู้ก็ทั้งรู้ว่าไอ้ทอกกับไอ้หมอกน่ะมันจะหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ พี่ยังปล่อยแสนแสบไปยุ่งกับพวกนั้นอีก”

“ไม่ต้องห่วงหรอก...เพราะคราวนี้ คนที่จะเดือดร้อน ไม่ใช่เรา...” ศรีแพรพูดยิ้มกระหยิ่มในหน้า

ooooooo

หลังจากขนต้นกล้วยมาตกแต่งลานเตรียมจัดงานแต่งอย่างยิ่งใหญ่แล้ว หลิมกับเลิศก็มานั่งดวดเหล้ากันที่แคร่คุยโขมงโฉงเฉงอย่างสบายอกสบายใจว่า

“งานนี้เป็นงานใหญ่ ท่านเศรษฐีสั่งให้เปิดตำนานต้มเหล้า ใช้ภูมิปัญญาชาวบ้านกลั่นออกมาสดๆดีกรีแก่ๆฉลองกันสามวันสามคืนเพราะ...” หลิมเอนตัวเข้าไปกระซิบ “ท่านเศรษฐีเลหลังลูกสาวออกแย้ววววว”

เลิศถามว่ามีใครเห็นหน้าทวนบ้างรึเปล่า หลิมพูดไปหัวเราะไปว่า

“ข้ายังนึกไม่ออกเลยว่ะ ว่ามันจะทำหน้ายังไง พับเผื่อย...อิจฉาไอ้ทวน มันมาอยู่ไม่เท่าไหร่ได้เป็นถึงลูกเขยท่านเศรษฐี...”

“เฮ้ย...” เลิศร้องลั่น กระโดดขึ้นนั่งตักหลิมมองไปข้างแคร่ตาเหลือกพูดไม่ออก หลิมมองลงไปจึงเห็นตัวเงินตัวทองคลานต้วมเตี้ยม...ต้วมเตี้ยมอยู่ที่พื้น

เลิศกับหลิมวิ่งหนีตัวเงินตัวทอง ชนข้าวของที่จัดแต่งสถานที่ไว้ล้มระเนนระนาด

ทอกกับหมอก และแสนแอบดูอยู่ พากันกลั้นเสียงหัวเราะจนตัวสะเทือน ที่ปั่นหลิมกับเลิศจนป่วน วิ่งหนีกันกระเจิง

ooooooo

เศรษฐีบุญช่วยโมโหมากที่มีตัวเงินตัวทองมาโผล่ในขณะที่กำลังจะมีงานมงคล ตะคอกถามว่า

“ใครวะ ใครบังอาจเข้ามาก่อกวนในบ้านของข้า มันไม่เห็นแก่หัวหงอกก็น่าจะเห็นแก่ลูกปืนบ้าง ใครเอาไอ้ตัวนั่นมาปล่อยวะ”

หลิมบอกว่าไม่รู้ ส่วนเลิศบอกว่ามีแต่ร่องรอย แต่จับคนเป็นๆไม่ได้ ชิงชัยคาดว่าคงหลุดมาตอนน้ำท่วมกระมัง

“หลุดเข้ามาเพ่นพ่านในงานมงคลแบบนี้ จะให้ข้าเข้าใจยังไง คนบ้านนาไม่รับเชิญของข้า หลวงตาฉุนไม่รับนิมนต์แต่ไอ้ตัวไม่ได้เชิญ...เ-ือก! ดันมา แล้วข้าจะจัดพิธีแต่งงานได้ยังไง” เศรษฐีหัวเสียมาก

“เลื่อนไปก่อนดีไหมครับท่านเศรษฐี” เมินเสนอ ทั้งเศรษฐี และสไบต่างถามว่าเลื่อนยังไง “เลื่อนไปก่อน แล้วหาฤกษ์ยามใหม่ หลังจากนั้นค่อยเตรียมงานใหม่ ใหญ่ยิ่ง...ยิ่งใหญ่ เยอะแยะ” เมินยกเหตุผลจูงใจเต็มที่

ชิงชัยถามว่าแล้วที่ป่าวประกาศไปแล้วจะทำยังไง เมินบอกว่าให้ออกประกาศฉบับใหม่ก็ได้ เศรษฐีถามอีกว่าทำยังไง เมินอึกอักคิดไม่ทัน พูดถ่วงเวลาว่า “ก็...ประกาศว่า...”

“จะไม่มีการแต่งงานระหว่างผมกับคุณชาริณี” ทวนรีบพูด

เศรษฐีฉุนกึก ส่วนเมินตกใจที่ทวนโพล่งออกไปแบบนั้น ชิงชัยตวาดทวนว่า

“แกกล้าขัดคำสั่งพ่อฉันหรือ”

เศรษฐีโมโหมาก เดินมาหยุดตรงหน้าทวน ถามว่า “ทำไมแกถึงไม่ยอมแต่งงานกับลูกสาวของฉัน”

“เพราะผมไม่ได้รักคุณชาริณี” ทวนตอบอย่างไม่ลังเล ทำเอาเมินตกใจกระซิบว่าบ้าไปแล้วหรือ แต่ทวนก็ยังคงพูดต่ออย่างหนักแน่นว่า “คนจะแต่งงานกัน ต้องรักกัน ผมกับชาริณีไม่เคยรักกันเลยจะแต่งงานกันได้ยังไง”

“รักไม่รักไม่สำคัญโว้ย...แก...จะต้องแต่งงานกับลูกสาวฉัน...พรุ่งนี้...” เศรษฐีประกาศิต

ooooooo

ชาริณีเสียใจมากถามทวนว่าทำไมถึงปฏิเสธพ่อทั้งที่พ่อให้โอกาสเขา ตัดพ้อว่าไม่อยากช่วยตนแล้วหรือ ไหนบอกว่าจะช่วยตนยังไงล่ะ

“คุณต้องช่วยตัวเอง ใครช่วยก็ไม่เหมือนคุณช่วยตัวคุณเองหรอก ผมแต่งงานกับคุณไม่ได้จริงๆมันเป็นเงื่อนไขที่...ที่...มากไปสำหรับผม”

ชาริณีถามว่าเพราะเขายังรักศรีไพรอยู่ใช่ไหมถึงแต่งงานกับตนไม่ได้ ซึ่งทวนก็รับอย่างหนักแน่นว่า

“ผมรักศรีไพร ผมแต่งงานกับผู้หญิงคนไหนไม่ได้ นอกจากศรีไพร”

ชาริณีเสียใจมาก ร้องไห้วิ่งขึ้นเรือนไป ทวนมองตามแม้จะสงสารแต่ก็ไม่มีทางเลือก

ooooooo

ชาริณีหนีไปร้องไห้เสียใจอย่างหนักในห้องนอน เธอลนลานหายาเสพ ไม่นาน สไบก็ก้าวเข้ามากับแหว่ง พูดจริงจังว่า

“นายทวนเขาพูดถูกนะ เขาช่วยคุณไม่ได้ คุณต้องช่วยตัวเอง เขาไม่ได้รักคุณจะแต่งงานกับคุณได้ยังไง แต่ฉันช่วยได้”

ชาริณีมองหน้า ถามว่าช่วยยังไง สไบแบมือให้ดู

“ฉันมีไอ้นี่...ไม่เลิกก็ไม่เห็นเป็นไรเลย พ่อคุณมีของพวกนี้เยอะแยะ คุณเสพมันได้จนตาย!”

“ไม่...”

“อย่าโง่ไปหน่อยเลยน่า นายทวนเขาไม่รักคุณแต่รักไอ้ศรีไพร ไอ้นี่ต่างหากที่รักคุณ”

ชาริณีจ้องมองยาในมือของสไบ ก่อนที่จะยื่นมืออันสั่นเทาไปแตะยานั้น...

ooooooo

เพลงรักบ้านนา

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด