ตอนที่ 14
ไชยแปลกใจที่จู่ๆดารกาก็หายไป เขาค่อยๆเปิดประตูบ้าน เสียงดังออดแอด ทำให้บรรยากาศดูวังเวง เขามองไปโดยรอบ เห็นโต๊ะหมู่บูชาอสูรถึงกับผงะ
“นี่มันบ้าบออะไรกัน...”
ไชยหันหลังกลับแล้วต้องสะดุ้งเมื่อเจอสดับยืนอยู่ เขาจำได้ว่าคือคนที่ขู่เขาที่โรงพยาบาล ไชยเอ่ยถามว่าเป็นใคร สดับสีหน้าดุดันกล่าวว่า อย่ายุ่งกับดารกา ไชยย้อนถามว่าเกี่ยวข้องอะไรด้วยหรือว่าเป็นพ่อของดารกา แต่สดับยังย้ำคำเดิม...อย่ายุ่งกับดารกา พลันมีแสงสว่างวาบขึ้น ร้อนแรงจนไชยต้องหลับตาเอามือป้อง พอแสงนั้นหายไป ไชยลืมตามองไม่เห็นสดับแล้ว เขาแปลกใจมาก
ไชยเดินกลับออกมาอย่างงงๆ ไม่ทันไรเขาแทบช็อก เมื่อเห็นสดับเดินทะเลาะตบตีมาลีเสียงดังลั่น จน
ชาวบ้านด่ากันขรม
“เฮ้ย...เล่นกลเก่งยังกับเดวิด คอปเปอร์ฟิลด์แน่ะ แล้วน้องดาหายไปไหน...”
ไชยรีบเดินมาขึ้นรถ ลูบหน้าตัวเองอย่างหวาดหวั่น เขาหยิบมือถือมาโทร.หาดารกาว่าอยู่ที่ไหน ดารกาตอบเสียงใสว่าเธออยู่มหาวิทยาลัย กำลังจะเข้าเรียนเคมี ไชยตกใจ
“อยู่มหาวิทยาลัย...น้องดากลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่”
“น้องดาไม่ได้ไปไหนค่ะ เมื่อเช้าพี่ธานีขับรถมาส่ง”
“เป็นไปไม่ได้”
“น้องดาต้องปิดมือถือแล้วค่ะ อาจารย์มาแล้ว” ดารกา วางสายไป
ไชยพยายามโทร.กลับแต่เป็นฝากข้อความ เขาไม่อยากเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง...
ooooooo
หลังจากที่ภวัตไปซาวด์วอร์ด กลับเข้าห้องต้องแปลกใจเมื่อเห็นแจกันดอกกุหลาบวางอยู่อย่างสวยงามบนโต๊ะทำงาน ไม่ทันไรเสียงแนนนี่ดังมาว่าเป็นคนจัดให้เอง ภวัตนิ่วหน้าไม่พูดด้วย นั่งลงทำงานไปอย่างไม่สนใจ แนนนี่เข้ามายืนตรงหน้า พูดอย่างประจบ
“พี่ภวัตชอบมั้ยคะ...เฉยเมยแบบนี้แสดงว่าอาจจะเบื่อกุหลาบ แนนนี่เปลี่ยนให้ใหม่ก็ได้”
แนนนี่ยกมือร่ายคาถาเปลี่ยนกุหลาบเป็นกล้วยไม้ เห็นภวัตยังนิ่ง จึงเสกดอกไม้อื่น
“หรือจะชอบดอกไม้ไทยๆ ดอกพุดซ้อน...ดอกแก้ว ...โมก...จำปี...”
กระถางต้นไม้ต่างๆปรากฏขึ้นเต็มห้องไปหมดจนภวัตสุดจะทนเอ็ดแนนนี่เสียงดัง พลันมีเสียงเคาะประตู แนนนี่รู้ว่าตนควรจะหายตัวไปก่อนเพราะภวัตคงไม่อยากให้ใครเห็น...
บุษบาเปิดประตูเข้ามา ตกตะลึงที่เห็นกระถางต้นไม้เต็มห้อง แต่เข้าใจว่าภวัตคงอยากให้ห้องดูเป็นธรรมชาติ ภวัตเห็นแนนนี่โผล่หน้ามาทางหน้าต่างจึงทำมือไล่ บุษบาหันมาเห็นถามว่าทำอะไร ภวัตแก้ตัวว่าไล่แมลง บุษบายิ้มหวาน
“เป็นธรรมดาค่ะ ที่ไหนมีดอกไม้ ที่นั่นยอมมีแมลง เช่นเดียวกับที่ไหนมีภวัต ที่นั่นย่อมมีบุษ”
เสียงแหวะดังมา บุษบาตกใจว่าเสียงใคร
ภวัตรับสมอ้างว่าเสียงเขากระแอม บุษบาอ้อนขอแบ่งดอกไม้ไปไว้ที่ห้องตนบ้าง ภวัตว่าจะเอาหมดเขาก็ยกให้ บุษบาจึงออกไปตามคนมายก พอบุษบาออกไป ภวัตก็ต่อว่าแนนนี่ทันที
“เห็นมั้ยว่า เธอทำให้พี่เดือดร้อนอีกแล้ว...เมื่อไหร่จะยอมเข้าใจเสียทีว่า...”
“แนนนี่เข้าใจแล้วค่ะ แนนนี่จะเอาต้นไม้พวกนี้ไปให้หมด”
“ดี...เอ๊ย...เดี๋ยวอย่าเพิ่ง” ภวัตนึกได้แต่ห้ามไม่ทัน ดอกไม้หายไปหมดห้องพร้อมแนนนี่
บุษบากลับเข้ามาต้องตกใจ ถามภวัตว่าดอกไม้หายไปไหนหมด ภวัตยิ้มแหยๆบอกเธอว่า เคยได้ยินไหม อย่าเชื่อในสิ่งที่เห็น บุษบาช็อกขอตัวกลับไปที่ห้องทานยา
ทันใดนั้น แนนนี่ปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง
“ความจริงก็น่าสงสารเธอเหมือนกันนะคะ”
“ยังจะมีหน้ามาพูดอีก...แล้วนี่ไม่มีเรียนหรือ” ภวัตส่ายหน้าอย่างระอา
“มีค่ะ แต่แนนนี่รีบมาหาพี่ภวัตก่อน เพราะมีข่าวดีจะบอก เกรดแนนนี่เพิ่งออก แนนนี่ได้เกรด 3 ค่ะ”
“ไม่ใช่สองเทอมรวมกันนะ” ภวัตดักคอ
“เทอมที่แล้วเทอมเดียวค่ะ ยัยพี่ดารู้ผลก่อน รีบเอาไปให้คุณแม่ดู แล้วมาถามผลสอบแนนนี่ต่อหน้าคุณแม่...เขาอยากให้แนนนี่ขายขี้หน้า”
“แนนนี่ คิดบวกเป็นมั้ย”
“คิดลบ คิดคูณ คิดหารก็เป็นค่ะ” แนนนี่กวน ภวัตทำหน้าดุใส่ แนนนี่จ๋อย
ภวัตพยายามบอกว่าดารกาเป็นคนดี และให้แนนนี่เอาผลสอบให้ปัทมนดูเย็นนี้ ท่านจะต้องดีใจมาก แนนนี่ทำตาแป๋วถามภวัตหายโกรธตนแล้วใช่ไหม ภวัตถอนใจก่อนจะยิ้มให้ แนนนี่เกาะแขนเขาประจบให้เขาฉลองให้ตนบ้าง ภวัตถลึงตา ต้องให้ได้เกรดสี่ถึงจะเลี้ยง แนนนี่ร้องว้า...แต่ก็ยิ้มๆ เธอบอกเขาว่าเย็นนี้เจอกันแล้วหายตัวแวบไป ภวัตยิ้มอย่างสุขใจเช่นกัน
ooooooo
ในเมืองเวทมนตร์มีการประชุมว่ามีใครพบเจออสูรหรือยัง บาบาร่ายัดเยียดให้ทาฮิร่ายอมรับ ทาฮิร่าต้องหาข้อแก้ตัวกับท่านผู้นำไป ท่านผู้นำกล่าวกับทุกคนว่า เป็นเพราะอสูรมีองครักษ์คอยคุ้มครองปกปิด เพื่อรอจนกว่าอสูรจะอายุครบ 22 นั่นหมายถึงอีก 3 ปี
“ทาฮิร่าอาจจะพบก่อนก็ได้เจ้าค่ะ แต่ต้องระวังเพราะนางใจอ่อน” บาบาร่าแขวะ
ท่านผู้นำหันมาย้ำกับทาฮิร่าว่าจะทำอย่างนั้นไม่ได้ ทาฮิร่ารับคำ กลับมาบ่นกับชิกเก้นจะทำอย่างไรดี ชิกเก้นย้อนถามว่าจะรอจนกว่าเมืองเวทมนตร์พินาศหรือจะส่งตัวแนนนี่ให้ท่านผู้นำ ทาฮิร่าไม่อาจทำได้สักอย่าง ชิกเก้นถอนใจ เวรก๊ำ...เวรกรรม
ooooooo
ด้วยความเป็นห่วงแนนนี่ ทาฮิร่ามาถอนมนต์สะกดให้ปีเตอร์ เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตรายต่อแนนนี่อีก หลังจากนั้น ปีเตอร์ก็มักได้ยินเสียงเตือนให้คอยระวังหลังตลอดเวลา จนเขาอกสั่นขวัญแขวน...
ทาฮิร่าแวะมาบอกแนนนี่แล้วจะรีบกลับไป แต่หลงลืมคาถาอีก จนหายหัวไปได้ทีละครึ่งตัว ชิกเก้นล่ะอ่อนใจ
แนนนี่รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อจะไปหาภวัต ชิกเก้นตำหนิว่าเป็นมนุษย์ต้องไม่ซักแห้ง ควรอาบน้ำทุกวัน แนนนี่ฮึดฮัดกระฟัดกระเฟียดเข้าห้องน้ำ แล้วต้องชะงักเมื่อเห็นตัวหนังสือภาษาแม่มดบนกระจก เป็นคาถาอสูรพิลาป...
แนนนี่รีบท่องคาถานั้น และทุกบรรทัดที่เธอท่องได้แล้วตัวอักษรนั้นก็จะเลือนหายไป แนนนี่พรวดพราดออกมาบอกชิกเก้น
“ชิกเก้น...แนนนี่เจอคาถาอสูรพิลาป...”
“หา!...ไหน อยู่ไหน คาถานั่นหายไปนานมาแล้วนะ”
“ไม่รู้ แนนนี่เจออยู่ที่กระจก พอแนนนี่ท่องบรรทัดไหนได้ บรรทัดนั้นก็หายไป คาถานี้มันเป็นยังไงหรือชิกเก้น”
“ชิกเก้นก็ไม่แน่ใจ เท่าที่รู้มันกึ่งร้ายกึ่งดี แนนนี่ต้องลองถามแม่มดสาวสามพันปีดู”
แนนนี่พยักหน้าแล้วจะหายตัวไปหาภวัต ชิกเก้นรีบเตือนให้อาบน้ำก่อน แนนนี่จำต้องเข้าไปอาบน้ำ...พอแต่งตัวเดินลงมาข้างล่าง ปัทมน ธานี และดารกานั่งคุยกันอยู่ ดารกาทักแนนนี่ว่ากลับมาเมื่อไหร่ แนนนี่ย่นหน้าใส่ แล้วหันมาขออนุญาตปัทมนไปหาภวัตเพราะนัดกันไว้ ปัทมนเห็นดารกาเศร้าลง จึงจูงมือเดินขึ้นชั้นบน และถามว่าหมู่นี้ไม่ให้ภวัตติวให้แล้วหรือ
“น้องดาพยายามทำความเข้าใจเองค่ะ” ดารกาก้มหน้าตอบ
“น้องดามีเรื่องอะไรกับพี่เขาหรือเปล่า”
“เปล่าค่ะ พี่ภวัตดีกับน้องดามากๆ น้องดาเองก็...เอ้อ รักและก็เคารพพี่ภวัต แต่...”
ปัทมนรีบถามว่าอะไร ดารกาปฏิเสธไม่มีอะไร ปัทมนปลอบว่า “แม่รู้จักน้องดาดี...แม่รู้ว่าน้องดามีอะไรบางอย่างในใจ”
ดารกาเงยหน้าสบตาปัทมน “คุณแม่ขา...น้องดาอยากให้แนนนี่มีความสุข แล้วก็ไม่เกลียดน้องดา
คุณแม่เองก็จะได้สบายใจที่ลูกๆ ไม่ทะเลาะกัน”
“น้องดาก็เลยเสียสละ...” ปัทมนดึงลูกสาวมากอด “น้องดาเป็นเด็กดีเหลือเกิน แล้วแม่ก็ขอบใจน้องดาที่พยายามทำให้แม่กับน้องสบายใจ แต่แม่เป็นคนยุติธรรมนะลูก ถ้าพี่ภวัตเขารักลูก แม่ก็จะสนับสนุนให้เป็นไปตามนั้น แนนนี่จะมาเกเรไม่ได้”
“อย่าเลยค่ะคุณแม่ขา...”
“การเสียสละต้องมีขอบเขต แล้วแม่จะพูดเรื่องนี้กับแนนนี่เอง...”
“น้องดาไม่เป็นไรจริงๆนะคะ ดารกาย้ำเพื่อให้ปัทมนรู้สึกว่าตนเป็นคนดีเหลือเกิน
รัดเกล้าเข้ามาได้ยินการสนทนาเมื่อสักครู่ เปรยกับธานีว่าสงสารดารกา ธานีว่าดารกาเป็นเด็กดีมาตั้งแต่เกิด รัดเกล้าย้อนว่า แนนนี่ก็เกเรมาตั้งแต่เกิดเหมือนกัน ตนไม่เข้าใจว่าทำไมทุกคนต้องตามใจแนนนี่และบีบให้ดารกาเป็นผู้เสียสละ
“ไม่มีใครเขาทำยังงั้นซักหน่อย” ธานีโต้
“พี่ธานีไม่รู้สึกตัวน่ะสิคะ เกล้าเป็นคนนอก เกล้ารู้...”
“เธอจะมารู้ดีกว่าตัวพี่ได้ยังไง จำเรื่องจดหมายนั่นได้มั้ย จดหมายของดารกาที่เกล้าเก็บได้น่ะ...
พูดจริงๆนะ บางครั้งน้องดาก็เหมือนคนเก็บกด”
รัดเกล้าโวยจะไม่เก็บกดได้อย่างไร ไม่ทันจะพูดต่อ เสียงแตรรถดังขึ้น สักพัก ปีเตอร์เข้ามาสวัสดี
ขอพบแนนนี่ รัดเกล้าจึงบอกว่าอยู่บ้านตน ตนจะไปตามให้ ปีเตอร์ขอไปด้วยดีกว่า
ขณะนั้น แนนนี่กำลังคุยอยู่กับภวัต เธอถามถึงอาการของบุษบา ภวัตเอ็ดว่าก่อเรื่องแล้วยังมาถามอีก ไม่ทันไร ปีเตอร์เดินเข้ามาพร้อมรัดเกล้า ภวัตหน้าเสียทันที
“หวัดดีครับพี่หมอภวัต เอ๊ะ...มือแนนนี่ไม่ได้ใส่แหวนทับทิมของปีเตอร์เหรอ”
“แนนนี่ไม่ชอบใส่แหวน กลับไปคุยที่บ้านกันดีกว่า แนนนี่ไปก่อนนะคะแล้วจะมาใหม่”
“ไม่ต้องมาแล้ว” ภวัตเสียงขุ่น
รัดเกล้ามองพี่ชายด้วยความแปลกใจ แนนนี่โต้ว่าตนจะมา รัดเกล้าหันมาถามภวัตว่าโกรธอะไร ภวัตสะบัดเสียงว่าไม่ได้โกรธแต่รำคาญ แล้วเดินตึงๆไป รัดเกล้ามองตามพี่ชายอย่างสงสัยว่าจะชอบแนนนี่เสียแล้ว
ooooooo
ระหว่างที่ปีเตอร์กับแนนนี่เดินออกประตูที่เชื่อมสองบ้านออกมา ผ่านต้นไม้ใหญ่ ปีเตอร์เล่าเรื่องแปลกๆของตนให้เธอฟัง ว่าได้ยินเสียงเตือนให้ระวังหลังอยู่เรื่อย ตั้งแต่เจอนักศึกษาปีสิบมาดึงผม แนนนี่นึกออกทันทีว่าทาฮิร่าถอนมนตร์สะกดให้เขา จึงชวนเข้าไปกินข้าวในบ้าน ทันใดก็มีเสียงกิ่งไม้หักร่วงลงมา แนนนี่เงยหน้ามอง รีบดันปีเตอร์หลบอย่างเฉียดฉิว
“แนนนี่ เหมือนที่ปีเตอร์พูดมั้ย ที่บอกให้ระวัง หลังน่ะ” ปีเตอร์สีหน้าตื่นตระหนก
แนนนี่ขอให้เก็บเรื่องนี้เป็นความลับ ปีเตอร์ตั้งสติได้ขอเป็นบอดีการ์ดให้เธอ แนนนี่กลับบอกว่า เอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ ปีเตอร์เซ็งน้อยใจ...
คืนนั้น แนนนี่ครุ่นคิดนอนไม่หลับ ตัดสินใจมาหาภวัตกลางดึก ภวัตเข้าห้องมาสะดุ้งเมื่อเห็นแนนนี่ยืนยิ้มรออยู่ เขายังเคืองจึงทำเป็นไม่สนใจ เดินไปนั่งโต๊ะทำงาน แนนนี่พยายามพูดเล่นอย่างประจบเอาใจ เขาก็ทำเหมือนไม่มีเธออยู่ในห้อง แล้วเดินมาล้มตัวลงนอน
“พี่ภวัต...แนนนี่ชักจะหมดความอดทนแล้วนะ ถ้าพี่ภวัตไม่ยอมพูด แนนนี่จะร้องตะโกนให้คนมาช่วย” เห็นภวัตยังนอนเฉย แนนนี่จึงร้องขึ้นทันที “ช่วยด้วย ช่วยด้วย...”
ภวัตผุดลุกขึ้นอย่างตกใจ จักรวาลถือปากกาวิ่งออกมาจากห้อง รัดเกล้าคาบแปรงสีฟันวิ่งออกมาเจอกัน ทั้งสองมองไปที่ห้องภวัตแล้วตรงมาเคาะประตูถาม
“ภวัต แกเอาใครมาไว้ในห้อง”
“พี่ภวัตเปิดประตู...”
ภวัตไล่แนนนี่ให้รีบกลับไป แนนนี่บ่นก็เขาไม่ยอมคุยด้วย ภวัตไล่ซ้ำ แนนนี่จึงบอกว่าเดี๋ยวตนจะกลับมาใหม่ ภวัตสั่งห้ามกลับมาอีก แนนนี่หายตัวแวบ ภวัตสำรวจความเรียบร้อยก่อนมาเปิดประตูห้อง รัดเกล้าวิ่งเข้ามาตรวจตราทั่วห้อง ภวัตถามว่าหาอะไร จักรวาลตอบแทน
“ผู้หญิง...พ่อได้ยินเสียงผู้หญิงร้องให้ช่วย”
รัดเกล้าว่าตนก็ได้ยิน ภวัตแก้ตัวว่า เสียงทีวีบ้านอื่นหรือเปล่า ตนก็ได้ยิน จักรวาลว่าไม่น่าจะชัดเจนขนาดนั้น เมื่อไม่มีอะไร จักรวาลกับรัดเกล้าก็กลับออกมา แยกย้ายกันกลับห้อง...
แนนนี่ปรากฏตัวขึ้นในห้องภวัตอีกครั้ง วิ่งไปเอาหูแนบประตูฟังว่าทุกคนไปหมดแล้ว จึงหันมา
“ต้องการอะไร...เธอยังทำให้พี่เดือดร้อนไม่พออีกเรอะ” ภวัตถามอย่างไม่พอใจ
“พี่ภวัตโกรธแนนนี่จริงๆ...ไม่เป็นไรค่ะ แนนนี่จะไม่กวนอีกแล้ว” แนนนี่น้ำตาคลอก่อนจะหายตัวไป ภวัตล้มตัวลงข่มตาให้หลับ
ooooooo
วันรุ่งขึ้น ชิกเก้นมารายงานทาฮิร่าว่า เมื่อคืนแนนนี่นอนร้องไห้ทั้งคืน ทาฮิร่ารีบหายตัวไปหาหลานรัก...ปัทมนเห็นแนนนี่ไม่ลงมาทานข้าวเช้าก็เป็นห่วง ดารกาเปรยว่าหมู่นี้แนนนี่ชอบหลบหน้าตน ปัทมนสบตากับธานีด้วยความสงสารดารกา
ทาฮิร่ามาปลอบแนนนี่ ถามเสียใจเรื่องอะไรนักหนา แนนนี่ร้องไห้อยากรู้ว่าตนเกิดมาได้อย่างไร ทาฮิร่าเล่าว่า ในคืนวันเก้าฉลอง แนนนี่นอนอยู่ในตะกร้า ถูกทิ้งที่หน้าบ้านตน
“งั้นพ่อแม่แนนนี่ก็น่าจะอยู่ในเมืองเวทมนตร์หรือไม่ก็เมืองใกล้เคียง...แนนนี่จะไปสืบดู”
“ดี...เอ๊ยไม่ดี หลานจะไปที่นั่นไม่ได้เด็ดขาด”
“แต่แนนนี่ต้องไปจ้ะ ยายอย่าห้ามเลยนะจ๊ะ”
ทาฮิร่ารู้ว่าห้ามไม่ได้จึงบอกว่า ถ้าแนนนี่ไปตนก็จะไปด้วย เป็นไงเป็นกัน...
พรมาตามลงไปทานข้าว เห็นทาฮิร่าก็ตกใจมาเมื่อไหร่ แนนนี่กับทาฮิร่าลงมาด้วยกัน ทั้งธานีและดารกาต่างแปลกใจเช่นกัน ปัทมนสวัสดีทาฮิร่าแล้วสั่งพรไปทำข้าวต้มมาให้ ทาฮิร่าปฏิเสธแล้วกระซิบ
“คุณปัทมน ฉันมีเรื่องราวต้องคุยกับคุณ”
หลังจากอาหารเช้า เด็กๆออกไปเรียนและทำงาน ทาฮิร่ากับปัทมนนั่งคุยกันตามลำพังในสวน พอปัทมนรู้เรื่องที่แนนนี่จะไปเมืองเวทมนตร์ก็ตกใจเกรงถูกจับ ทาฮิร่าว่านั่นแหละตนถึงอยากให้ปัทมนช่วยหว่านล้อมไม่ให้แนนนี่ไป...
ในขณะเดียวกัน ไชยแวะหาภวัตที่ห้องทำงานเพราะอยากเล่าเรื่องดารกา ท่าทางเขาดูทรุดโทรมจนผิดตา ดารการับรู้ได้แกล้งทำเป็นไม่สบายจนธานีต้องโทร.หาภวัต ว่ากำลังจะพาดารกาไปหา พอไชยรู้ ท่าทางเขาหวาดกลัวไม่ทันได้เล่าอะไรให้ภวัตฟังก็รีบขอตัวกลับออกไป
ภวัตตรวจอาการดารกาแล้วไม่เห็นว่าเป็นอะไร ดารกาขอโทษที่ทำให้ทุกคนเดือดร้อนไปด้วย แล้วเลยถามถึงไชย อยากขอบคุณที่ส่งของขวัญมาให้ ภวัตจึงพาไปพบที่ห้องทำงาน พอไชยเห็นหน้าดารกาก็หวาดกลัวร้องลั่นจนหมดสติไป ธานีแปลกใจ ดารกาแกล้งทำน้ำตาคลอ
“น้องดาไม่เข้าใจ ทำไมพี่ไชยถึงต้องกลัวน้องดามากขนาดนั้น”
ภวัตปลอบคงไม่มีอะไร บุษบามาถึงรีบไปดูแลพี่ชาย ธานีพาดารกากลับไป ภวัตถอนใจอย่างเหนื่อยอ่อน ไม่ทันไร ทาฮิร่าปรากฏตัวขึ้น เธอมาเพื่อบอกเรื่องแนนนี่จะไปตามหาพ่อแม่ที่เมืองเวทมนตร์ ภวัตครุ่นคิดอย่างหนัก
ooooooo










