ตอนที่ 11
ถูกรัดเกล้าตอกหน้าจนพูดไม่ออก บุษบาจำต้องปล่อยภวัตไปขึ้นวอร์ดกับพยาบาล แต่ไม่วายบอกว่าตนจะรอทานข้าวกลางวันด้วย ภวัตจะปฏิเสธก็กลัวยืดเยื้ออีก จึงถือชาร์ตเดินไป...บุษบาเข้ามาเยี่ยมธานีถามไถ่ต้องการอะไรเพิ่มไหม ตนยินดีดูแลเป็นพิเศษเพราะธานีเป็นเพื่อนแฟน ธานีทำหน้างงๆบุษบาจึงบอกว่า ตนกับภวัตเป็นแฟนกัน
“ไม่น่างงเลย อ้อ...น้องสาวของคุณ นังเอ๊ย น้องดา กับแนนนี่น่ะค่ะ บุษเข้าใจว่า แกปลื้มหมอภวัตแบบเด็กๆหลงรักดารา แต่ก็อยากให้คุณช่วยเตือนๆแกไว้บ้าง เพราะบุษไม่อยากให้แกผิดหวังเสียใจจนเสียผู้เสียคน”
“อ๋อ...น้องสาวผมไม่บ้าผู้ชายถึงขนาดนั้นหรอกครับ เรื่องนี้คุณบุษน่าจะพูดกับแฟนของคุณเอง”
บุษบาหน้าเสีย แต่ทำยิ้มสู้ “บุษพูดแล้วค่ะ แต่หมอภวัตน่ะใจอ่อน”
“งั้นภวัตก็ทำไม่ถูกที่จะปล่อยให้น้องสาวผมเข้าใจผิด ผมจะพูดกับภวัตเอง”
“อุ๊ย ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง บุษพูดแล้วไม่อยากให้ภวัตต้องรำคาญใจอีก คุณธานีสัญญานะคะว่าจะไม่เล่าให้ภวัตฟัง สัญญานะคะ” ธานีหลับตาลงไม่ตอบ ทำเอาบุษบายุ่งยากใจ...
บาบาร่ากับไทเกอร์เห็นงูถูกทำลาย เชื่อว่าเป็นอสูรแนนนี่ทำ ทั้งสองแอบเข้าไปสำรวจในบ้านทาฮิร่า บาบาร่ามั่นใจว่าต้องเป็นบ้านทาฮิร่า เห็นชอบหายมาจากเมืองเวทมนตร์นานๆ แต่เข้าใจว่า ทาฮิร่าแอบมาจับอสูร เพื่อเอาหน้าคนเดียว บาบาร่ายอมไม่ได้...
ขณะเดียวกัน สดับใช้ให้มาลีเอาผลไม้ไปให้แนนนี่ มาลีถามว่าเชื่อแล้วใช่ไหมว่าแนนนี่เป็นลูก สดับตาแดงวาบ บอกมาลีว่า แนนนี่เป็นลูก แต่อีกคนจะมาทวงอำนาจคืน มาลีงง...มาลีถือถุงผลไม้มาชะเง้อหน้าบ้าน บาบาร่าเข้ามาถามว่ามาหาใคร มาลีตอบว่าเอาผลไม้มาให้แนนนี่ บาบาร่ามองมาลีหัวจดเท้าและว่า แนนนี่อยู่บ้านใหญ่โต มีผลไม้ดีๆกินอยู่แล้ว มาลีรีบบอกว่าแนนนี่เป็นลูกสาว ที่ตนทิ้งให้ปัทมนเลี้ยง บาบาร่า
ตาวาวกับข้อมูลใหม่
สดับนั่งสมาธิหน้าแท่นบูชา ตาแดงวาบ ปีเตอร์ขับรถเข้าซอยมาส่งแนนนี่ พลันเกิดพายุหมุนขึ้น
ตรงหน้าปีเตอร์ตกใจ แนนนี่ร่ายคาถาเกิดแสงสีเหลืองพุ่งปะทะพายุ สลายไปต่อหน้าต่อตาปีเตอร์ เขาหันมองแนนนี่และถามว่าเธอท่องอะไร แนนนี่ทำเป็นไม่รู้ไม่ได้ทำอะไร...เข้ามาในบ้าน ปีเตอร์ถามพรว่าเห็นพายุไหม พรส่ายหน้า แนนนี่สบตาปีเตอร์สะกดให้เขาลืมเรื่องพายุ เธอจะรีบไปเยี่ยมธานี ปีเตอร์อาสาไปส่งแต่เธอกลับบอกว่าไปเองเร็วกว่า ปีเตอร์ถามจะไปอย่างไร
แนนนี่ตอบว่าขี่ไม้กวาดไป ปีเตอร์ขำกลิ้ง แนนนี่จึงมั่วขำไปด้วย
ปีเตอร์กลับไป แนนนี่รีบขึ้นมาบนห้อง พบบาบาร่านั่งไขว่ห้างยิ้มหวานอยู่ เธอแปลกใจ แต่ก็ยกมือไหว้ “สวัสดีค่ะ อาจารย์บาบาร่า...เอ่อ ทราบได้ยังไงคะ ว่าหนูอยู่ที่นี่”
“เพราะเธอเป็นลูกศิษย์ที่เก่งที่สุดของฉัน” บาบาร่ายิ้มหยัน และว่าที่ตามมาเพราะอยากสอนอัจฉริยะอย่างเธอ
“เป็นพระคุณมากค่ะ แต่ว่า...ตอนนี้หนูต้องทุ่มเทให้กับการเรียนในโลกมนุษย์”
“ตกลงหนูเป็นอะไรกันแน่จ๊ะ มนุษย์หรือว่าแม่มด หรือว่าอย่างอื่น”
แนนนี่ตอบอย่างจริงใจว่า ตนอาจเป็นลูกครึ่ง บาบาร่าไม่พอใจ เผอิญได้ยินเสียงโป่งเรียก จึงต้องรีบกลับมาในครัวบ้านจักรวาล เพราะเป็นเวลาอาหารเย็นอีกแล้ว...ทาฮิร่ากับชิกเก้นเห็นบาบาร่าไปแล้วก็ปรากฏตัวออกมา ทั้งสองบอกแนนนี่ว่าอย่าเชื่อและไว้ใจบาบาร่า แนนนี่รับคำขอตัวไปเยี่ยมธานี ว่าแล้วก็หมุนตัวเปลี่ยนชุดเป็นลำลอง ขี่ไม้กวาดออกไปทันที ทาฮิร่าอ้าปากจะตอบ ชิกเก้นประชดว่าไม่ทันแล้ว ป่านนี้แนนนี่ไปถึงโรงพยาบาลแล้ว
มาถึง แนนนี่เจอปัทมนกับจักรวาลมาเยี่ยมธานีอยู่ก่อน ทั้งสองกำลังถามว่ารัดเกล้ามาเยี่ยมบ้างหรือยัง ธานีหลบตาตอบว่ามาแล้ว จักรวาลรู้ทันทีว่าต้องทะเลาะกันอีกแน่ แนนนี่โผล่มา ทุกคนถามว่ามากับใคร พอรู้ว่ามาคนเดียวก็ต่อว่ามันอันตราย
“ขอโทษค่ะ แนนนี่จะไม่ทำอีกแล้ว...” แนนนี่เข้ามามองสำรวจขาธานีครู่หนึ่งก่อนจะเปรยว่า “พรุ่งนี้ก็กลับได้แล้ว”
ธานีถามรู้ได้อย่างไร แนนนี่ตอบรู้ก็แล้วกัน รู้ด้วยว่า ใครเป็นคนทำ ทั้งสามคนถามพร้อมกันว่าใคร แนนนี่บอกว่าบนบ้านมีเพียง ตน ธานี และดารกา ตนไม่ได้ทำธานีกับปัทมนเอ็ดแนนนี่ที่กล่าวหาดารกา แนนนี่ว่าตนไม่ได้พูด ทุกคนคิดไปเอง ปัทมนให้เลิกพูดเรื่องนี้...
ระหว่างทานอาหาร ภวัตคุยเรื่องธานีอาการดีขึ้นมาก รัดเกล้าทำไม่สนใจ เปรยว่ากลับมาคงไม่ซุ่มซ่ามอีก ภวัตเอ็ด
“เราละก็...ไม่รู้จะตั้งหน้าตั้งตาทะเลาะกับเขาไปถึงไหน”
“ก็เหมือนพี่ภวัตกับแนนนี่นั่นแหละ...เกล้าถามจริงๆนะคะ ระหว่างน้องดากับแนนนี่ พี่ภวัตชอบใคร...”
ภวัตอึกอักสักพักก่อนจะตอบว่าไม่ชอบใครเลย อายุยังน้อยทั้งคู่ รัดเกล้าเชียร์ดารกา เพราะเห็นว่ารักภวัตมาตั้งแต่เด็กๆส่วนแนนนี่ ตนเห็นว่าอยากแกล้งเอาชนะดารกามากกว่า และว่าปีเตอร์ดูจะเหมาะสมกันดี ภวัตหงุดหงิดทันที ลุกพรวดขอตัวไปทำงาน รัดเกล้ามองตามงงๆ
ภวัตเดินอยู่ในสวน ดารกามากดกริ่ง ภวัตจึงเปิดประตูรับ เธอนำของขวัญวันเกิดมาให้เขาล่วงหน้า อ้างว่าอาทิตย์หน้ามีสอบกลับมาไม่ได้ ภวัตโยกหัวเธออย่างเอ็นดูอวยพรให้สอบได้เกรด 4 ทุกวิชา โป่งเห็นเหตุการณ์รีบมาเล่าให้แนนนี่ฟัง แนนนี่ไม่พอใจ ลอบเข้ามากลางดึก เพื่อดูว่า ดารกาให้อะไรภวัต พอเห็นว่าเป็นผ้าเช็ดตัวก็ยิ่งขุ่นใจ คว้าติดมือหายตัวกลับไป
“เข้าใจให้นะจ๊ะ คุณน้องดา...ฮึ ให้ผ้าเช็ดตัวจะได้ใกล้ชิดตัวพี่ภวัตที่สุด ไม่มีวันเสียล่ะ” แนนนี่โยนผ้าลงพื้น ร่ายมนตร์จะทำลาย เสียงตะเกียงห้าม
“ช้าก่อน อย่าใจร้ายใจดำนักเลย แนนนี่”
แนนนี่ยิ่งโกรธทำให้ตะเกียงหยุดพูด แล้วร่ายคาถาเผาผ้าเช็ดตัว ตะเกียงตำหนิแนนนี่
“ได้สบายหูนานแน่ เพราะทุกคนที่รู้เรื่องนี้จะไม่มีใครพูดกับแนนนี่...คนเกเรไม่น่ารัก”
แนนนี่ล้มตัวลงนอน ดีดนิ้วดับไฟ ไม่ใส่ใจคำพูดของตะเกียง
ooooooo
วันรุ่งขึ้น ดารกาบอกปัทมนว่าตนเอาของขวัญให้ภวัตแล้ว แนนนี่ฮัมเพลงเยาะๆปัทมนเอ็ดไม่ให้ร้องเพลงบนโต๊ะอาหาร แล้วหันมาถามดารกาทำไม ไม่รอให้ถึงวันเกิดภวัต ดารกาตอบว่า ตนติดสอบ แต่ภวัตสัญญาว่าจะพาตนไปเลี้ยง แนนนี่ตาขุ่นไม่พอใจ
แนนนี่โผล่มาในห้องทำงานภวัตด้วยสีหน้าหงุดหงิด ในเครื่องแบบนักศึกษา ถือไม้กวาดที่ใช้เป็นพาหนะ ภวัตตกใจเล็กน้อยแต่เริ่มจะชิน แนนนี่ต่อว่าให้เขาพาตนไปเลี้ยงบ้าง ภวัตจึงบอกว่าให้สอบได้เกรด 4 อย่างดารกาก่อน แนนนี่เชิดหน้า
“เรื่อง...แนนนี่ไม่อยากได้เกรดซ้ำกับพี่ดา”
“ไม่ต้องมาอ้าง พี่รู้ว่าเราขี้เกียจ”
“อ๋อ แนนนี่ไม่ใช่คนดีอย่างพี่ดา อุตส่าห์เลือกผ้าเช็ดตัว...อุ๊บส์” แนนนี่เอามืออุดปาก
“อ้อ...เราใช่มั้ยที่มาขโมยผ้าเช็ดตัวไป”
แนนนี่โวยว่าตนไม่ใช่ขโมย ภวัตต่อว่าแนนนี่ใจดำ รู้ว่านั่นเป็นของขวัญที่ดารกาให้ตนยังมาขโมยไปอีก แนนนี่โกรธจะเสกผืนใหม่ให้ ภวัตไม่ต้องการ พลั้งปากต่อว่า
“ต่อให้ใช้คาถาอาคมทำให้เหมือนยังไง มันก็ไม่ใช่ผืนเดิม เหมือนใครบางคนที่ไม่ว่ารูปร่างหน้าตาจะเป็นคน ได้รับการอบรมบ่มนิสัยมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยให้เป็นคนดี แต่สันดานก็ยังเป็นอสูรอยู่นั่นเอง” ภวัตไล่แนนนี่กลับบ้าน
แนนนี่หน้าเสียน้อยใจว่าภวัตเข้าข้างดารกา เขาย้อนไม่เคยเห็นดารกาทำให้ใครเดือดร้อน
“ไม่จริง พี่ดาทำให้แนนนี่เดือดร้อนเพราะชอบมาเจ๊าะแจ๊ะกับพี่ภวัต แนนนี่เคยบอกแล้วว่าห้ามผู้หญิงคนไหนมายุ่งกับพี่ภวัต”
“แนนนี่”
“แนนนี่พูดจริง ใช่ แนนนี่เป็นอสูร มีเวทมนตร์คาถาของแม่มด เพราะฉะนั้นใครอย่ามายุ่งกับพี่ภวัตเด็ดขาด พี่ภวัตก็เหมือนกัน พี่ต้องสนใจแนนนี่”
“เหลวไหล...”
“แนนนี่รู้นะว่า พี่ภวัตก็สนใจแนนนี่เหมือนกัน”
“หยุดพูดเรื่องนี้เสียที...” ภวัตพูดไม่ทันจบ มีเสียงเคาะประตู
บุษบาเปิดประตูไม่ได้ร้องเรียก แนนนี่ไม่พอใจ เสกเอาตัวภวัตขี่ไม้กวาดหายไป ภวัตห้อยต่องแต่งร้องบอกแนนนี่ให้เอาเขาลง แนนนี่ดึงภวัตขึ้นซ้อนหลัง ภวัตเผลอกอดเอวแนนนี่แน่น แล้วเขารู้สึกมีความสุข...บุษบาเปิดประตูได้ถลาเข้ามา แปลกใจที่ไม่มีภวัตอยู่ทั้งที่ได้ยินเสียงคุย ไชยหาว่าบุษบาเป็นโรคจิตให้ไปพบจิตแพทย์บ้าง
แนนนี่พาภวัตขี่ไม้กวาดไปบนก้อนเมฆ ภวัต ตื่นตาตื่นใจ แนนนี่รับปากว่าวันหลังจะพาขึ้นมา ดูดาวอีก ภวัตให้พาตนกลับได้แล้ว ตนต้องทำงาน...แนนนี่ส่งภวัตที่ห้องทำงาน เขาไล่ให้เธอรีบไปเรียน แนนนี่ไปแล้ว ภวัตยังยิ้มกริ่มอยู่ริมหน้าต่าง บุษบากลับเข้ามาแปลกใจที่ภวัตอยู่
“เป็นไปไม่ได้ เพราะบุษเข้ามาหาคุณก่อนหน้านี้ แต่คุณไม่อยู่ ที่จริง...บุษได้ยินเสียงคุณเหมือนจะคุยอยู่กับแนนนี่ โอ๊ย...ปวดหัว” บุษบางงเพราะตนคุยอยู่กับไชยหน้าห้อง
ภวัตเข้ามาแตะไหล่บุษบาอย่าคิดมาก และให้นั่งพัก พลันเกิดเสียงโครมขึ้น ภวัตหันมามอง เห็นทาฮิร่านั่งเค้เก้บีบนวดสะโพกโอดโอย บุษบาตกใจว่าเป็นใครมาจากไหน...ภวัตเข้ามาเช็กอาการทาฮิร่าว่ามีกระดูกหักบ้างหรือเปล่า บุษบาออกอาการไม่พอใจบ่นว่าประคารมกับทาฮิร่า ภวัตเกรงจะมีเรื่อง รีบอาสาพาทาฮิร่ากลับเพราะกลัวจะหายตัวไปต่อหน้าบุษบา
“เดี๋ยวกลับมาค่อยคุยกัน...ผมต้องไปส่งคุณยายก่อน ขอตัวนะครับ ไปครับคุณยาย”
“บอกว่าฉันขี่ไม้กวาดกลับเองได้”
“ที่นี่ไม่มีใครเขาขี่ไม้กวาดครับ เขานั่งรถกัน” ภวัต
กระซิบแล้วประคองทาฮิร่าออกไป
บุษบาเต้นเร่าๆไม่พอใจ...ภวัตพาทาฮิร่ามานั่งรถ คาดเบลต์ให้เรียบร้อยพร้อมบอกว่าตนมีเรื่องแนนนี่จะเล่าให้ฟัง ทาฮิร่าชะงัก ฟังเรื่องราวจบ รีบแปลงเป็นนักศึกษาไปยืนรอแนนนี่พักเที่ยง แนนนี่ตกตะลึงที่เห็นเพื่อนนักศึกษากำลังล้อว่าทาฮิร่าเป็นนักศึกษาปีที่สิบ แนนนี่รีบพาทาฮิร่าออกมา ทาฮิร่าถามทำไมต้องขโมยของขวัญของดารกามา แนนนี่ฮึดฮัดที่ภวัตขี้ฟ้อง
ooooooo
ปัทมนกับจักรวาลพาธานีกลับมาบ้าน ทุกคนแปลกใจที่อาการเขาดีขึ้นผิดตา ธานีเองก็แปลกใจตัวเอง เขานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน เหมือนเขาครึ่งหลับครึ่งตื่น...มีใครคนหนึ่งแต่งตัวเหมือนจินนี่เข้ามาหา และแตะบริเวณขาที่หักของเขา พึมพำคาถาแล้วโบกมือไปมา จากนั้นร่างจินนี่ก็หายไป ทุกคนฟังแล้วหาว่าธานีฝันไป ป้าผาด โป่ง และพรพยายามตีความเป็นตัวเลข ปัทมนเอ็ดให้ทุกคนกลับไปทำงาน และว่าคงเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองลูก
บาบาร่าฟังโป่งเล่าแล้วให้เอะใจ ผิดวิสัยของอสูร ที่ทำร้ายธานีแล้วเปลี่ยนใจมาช่วย หรือคิดจะกลบเกลื่อนความผิดกลัวตนจะรู้...แนนนี่กลับมารีบมาดูธานีซึ่งนั่งอยู่ในห้องรับแขก แนนนี่ชมว่าธานีเก่งที่หายเร็วอย่างกับโกหก แสดงว่าต้องมีบุญมาก ธานีโยกหัวแนนนี่อย่างเอ็นดูแล้วถามถึงคะแนนสอบ ปัทมนนึกได้เทอมที่แล้วก็ยังไม่ได้รับจดหมายรายงานผลการเรียน
“อ้าว จริงเหรอคะ ไปรษณีย์ต้องทำหายแน่ๆเลย ใช้ไม่ได้” แนนนี่ทำเป็นฮึดฮัด
“จะหายได้ยังไงในเมื่อลงทะเบียน” ปัทมนแย้ง
“งั้นฉบับของแนนนี่ต้องลืมลง”
“ไปได้น้ำขุ่นๆเลยนะเรา” ธานีสัพยอก
แนนนี่ทำโมเมจะไปตามรัดเกล้ามาเยี่ยมแล้ววิ่งตื๋อออกไป ปัทมนค่อนว่าแก่แดดจริงๆ ธานีหน้าแดง แนนนี่วิ่งออกมา เจอดารกากลับมาพอดี อดไม่ได้ที่จะแขวะ
“ได้ข่าวว่าที่ให้ของขวัญวันเกิดพี่ภวัตก่อนใครเพื่อนเลยหรือคะ”
“ใครบอกเธอ”
“แนนนี่ตาทิพย์...แต่สงสัยว่าพี่ภวัตจะได้ใช้ผ้าเช็ดตัวยั่วสวาทหรือเปล่าน้า...”
ดารกาตกใจเรียกแนนนี่ที่เดินไปให้กลับมา แนนนี่ ไม่สนใจ ออกประตูไปบ้านภวัต เพื่อตามรัดเกล้ามาเยี่ยมธานี...ดารกาเข้ามาขอโทษธานีที่ไม่ได้ไปเยี่ยมที่โรงพยาบาล ธานีปลอบไม่เป็นไร ถึงอย่างไรเธอก็ช่วยพาเขาส่งโรง– พยาบาล และต้องเรียนหนัก แนนนี่โผล่เข้ามาพร้อมรัดเกล้า ขัดขึ้นว่าตนก็เรียนหนักเหมือนกันยังมีเวลาไปเยี่ยม รัดเกล้าตัดบทแขวะธานีทำไมหายเร็ว แนนนี่ปลีกตัวขอไปอาบน้ำ ดารกาทำเป็นจูงแนนนี่ออกไปด้วยราวกับพี่น้องรักกัน
ขึ้นบันไดมาชั้นบน แนนนี่สะบัดแขนออกจากดารกาทันที ดารกาถามว่าโกรธตนเรื่องอะไร แนนนี่ตอบว่าเธอชอบเฟค แล้วเดินหนี ดารกาตามมาขวางหน้า ให้พูดกันให้รู้เรื่อง
“แนนนี่น่ะรู้หมดแล้ว” แนนนี่สะบัดหน้าเดินเฉียดออกไป
“รู้เรื่องอะไร” ดารกาคว้าแขนไว้อีก
“ก็พี่ดามีเรื่องอะไรบ้างล่ะ” แนนนี่ยิ้มเยาะ สะบัดแขนแต่คราวนี้มือดารกาแข็งราวกับเหล็ก สะบัดเท่าไหร่ก็ไม่ออก แนนนี่คำราม “อยากจะลองดีใช่มั้ย ก็ได้...”
แนนนี่ตาเหลืองวาบจ้องที่มือดารกา เกิดเปลวไฟแวบ ดารการ้องโอ๊ย...ปล่อยมือออก แนนนี่เข่นเขี้ยวว่าอย่ามาล้อเล่นกับตนอีก แนนนี่เปิดประตูเข้าห้อง ดารกาตาแดงวาบ เกิดเหวลึกในห้องแนนนี่ เธอตกใจหล่นลงไปจุกหน้านิ่ว พลันพื้นห้องกลับเหมือนเดิม แนนนี่ ประหลาดใจ หันไปมองดารกา ไม่ปรากฏร่างเธอแล้ว แนนนี่มั่นใจว่าดารกาเป็นคนทำ รี่ตามไปเคาะประตูห้องเรียก ดารกาเปิดออกมาถามหน้าตานิ่งๆว่ามีอะไร
“เมื่อกี้ พี่ดาเห็นอะไรผิดปกติหรือเปล่า”
“ไม่เห็นมีอะไรนี่...ทำไมเหรอ”
“เปล่า ไม่มีอะไร” แนนนี่หันหลังกลับ ดารกายิ้มเยาะมุมปาก
กลับเข้ามาในห้อง แนนนี่ร้องเรียกชิกเก้นให้ออกมา ถามว่าเห็นตอนที่ตนเข้ามาหรือเปล่า ชิกเก้นตอบว่าเห็นแนนนี่สะดุดขาตัวเองล้มลง แล้วก็ลุกพรวดออกไป แนนนี่ครุ่นคิด...
คับแค้นใจจนดารกาต้องโทร.นัดภวัตให้เอารถมารับตนหน้าบ้าน ภวัตตกใจที่นํ้าเสียงเธอเหมือนคนร้องไห้ จึงรีบออกไป ดารกาลงมาข้างล่างเจอปัทมน
ถามจะออกไปไหนกลางคํ่ากลางคืน ดารกาโกหกว่า
ภวัตอยากพบ กลับมาจะเล่าให้ฟัง ผ่านห้องรับแขกเจอรัดเกล้ากับธานีคุยกันอยู่ เธอทักทายนิดหน่อยแล้วเลี่ยงออกไป
ดารกาต่อว่าภวัต ว่าแนนนี่รู้เรื่องของขวัญได้อย่างไร ภวัตคิดถึงโป่งเพราะคืนที่ดารกาเอาของขวัญมาให้โป่งเห็น เขาจึงบอกว่าจะไปจัดการเอง แต่ไม่บอกว่าใคร
“น้องดาไม่เข้าใจว่า ทำไมแนนนี่ถึงได้จงเกลียด จงชังน้องดานัก...” ดารกาฟูมฟาย
“คงไม่ใช่อย่างนั้นหรอก...” ภวัตปลอบ
ดารกาจะซื้อของขวัญให้ใหม่ ภวัตว่าอย่าเลย ถึงอย่างไรเขาก็ยังสัญญาว่าจะพาเธอไปเลี้ยง ดารกายิ้มออกโผกอดภวัตขอบคุณ ภวัตลังเลก่อนจะลูบไหล่เธออย่างอ่อนโยน
ooooooo
คืนนั้นแนนนี่โทร.ให้ปีเตอร์มาติวหนังสือในวันพรุ่งนี้ พอดีเห็นรถภวัตมาส่งดารกาก็หงุดหงิดขึ้นมาทันที วีนใส่ปีเตอร์จนเขางงรับอารมณ์ไม่ถูก ปีเตอร์น้อยใจ คิดไปคิดมาโทษตัวเองที่ไม่เคยสารภาพว่ารักแนนนี่ แล้วแนนนี่จะรักษานํ้าใจเขาได้อย่างไร
แนนนี่เข้าไปนอนในตะเกียงแก้ว ทาฮิร่ามาหา แนนนี่โอดโอย “คุณยายขา...คุณยายต้องช่วยแนนนี่หน่อยนะคะ แนนนี่ไม่มีสมาธิท่องหนังสือเลย”
“จะมีได้ไง ก็ในเมื่อเราเข้าไปวุ่นวายกับเขาเสียทุกเรื่อง...รู้ตัวรึเปล่าว่ากำลังจะเดือดร้อน เพราะไอ้ความวุ่นวายของเรานี่แหละ”
“แนนนี่น่ะหรือคะกำลังจะเดือดร้อน ใครที่ไหนจะบังอาจมาทำอะไรแนนนี่”
“อย่าพูดอย่างนั้น” ทาฮิร่าสีหน้าจริงจัง เห็นแนนนี่จะพูดว่าตัวเองเป็นอสูร จึงสั่งให้หยุด
“คุณยาย คุณยายตวาดแนนนี่ คุณยายไม่รักแนนนี่แล้ว...”
“ฟังให้ดีนะ การที่หลานช่วยให้พี่ชายหายเร็วขึ้นมันเป็นการฝืนกฎธรรมชาติ นายคนนั้นเขาจะต้องทุกข์ทรมานกับกรรมเก่าของเขา เพราะฉะนั้นกรรมนั่นจะต้องมาตกที่หลาน”
“จริงหรือคะ...” แนนนี่หน้าเสีย
“เวทมนตร์ของหลานจะเสื่อมไปเป็นระยะเวลาหนึ่ง ระหว่างนี้หลานต้องระวังตัวให้ดี”
“แนนนี่จะทำยังไงดีคะ...แนนนี่กลัว”
“มันยังพอมีทางแก้ แนนนี่จะต้องพยายามทำความดีเพื่อจะล้างความผิดครั้งนี้เข้าใจไหม อย่าเหวี่ยงใส่ใครอีก” ทาฮิร่าลูบหัวแนนนี่อย่างเวทนา แนนนี่รับปากจะพยายาม
ทาฮิร่าออกมาจากตะเกียงแก้ว สั่งชิกเก้นให้ดูแลแนนนี่อย่างดี เพราะเกรงบาบาร่าจะเข้าถึงตัวแนนนี่ได้ง่ายๆ...ธานีเดินผ่านหน้าห้องได้ยินเสียงคุยกันก็แปลกใจ เคาะเรียก ทาฮิร่าเงอะงะว่าคาถาไม่ถูก ชิกเก้นรีบดัดเสียงเป็นแนนนี่ร้องบอกธานีว่าไม่มีอะไรตนซ้อมพูดกับตัวเอง
ทาฮิร่าเหนื่อยอ่อนกลับมาบ้านพัก ตกใจเจอบาบาร่าต่อว่า “เธอรู้ว่าแนนนี่เป็นอสูร เธอคิดจะเอาความดีความชอบคนเดียว โดยไม่แบ่งให้ใคร เธออุตส่าห์มาแฝงตัวในหมู่มวลมนุษย์ก็เพื่อจะจับอสูร แต่ฉันไม่มีวันยอมเด็ดขาด ฉันนี่แหละจะเป็นคนจับอสูรไปให้ท่านผู้นำเอง”
ทาฮิร่าถอนใจเฮือกรับสมอ้างทันที พึมพำว่าตนควรจะดีใจหรือเสียใจดี...หลบจากบาบาร่ามาได้ ทาฮิร่ารีบมาปลุกภวัตกลางดึก เพื่อบอกว่าแนนนี่กำลังตกอยู่ในอันตราย
“ไหนว่าแนนนี่เป็นอสูร...” ภวัตหน่ายใจย้อนถาม
ทาฮิร่าโต้ว่าเป็นแม่มด ภวัตว่าก็พวกเดียวกัน ทาฮิร่าเอ็ด “นี่นายภวิต...”
“ภวัตครับ เมื่อไหร่คุณยายจะเรียกถูกสักที”
“นี่เธอไม่ได้สนใจเลยรึว่า แนนนี่จะมีอันตรายอะไร ฉันบอกให้ก็ได้ แนนนี่ได้ละเมิดกฎธรรมชาติด้วยการช่วยนายธานี ช่วงเวลานี้ดวงชะตาของนายธานีมีเคราะห์หนัก แต่ยังไม่ทันได้ทุกข์ทรมานสักเท่าไหร่ แนนนี่ก็ดั้นไปทำให้หายซะแล้ว เพราะฉะนั้นแนนนี่จึงต้องรับเคราะห์แทน และเป็นเคราะห์ที่เบิ้ลเป็นสองเท่า”
“บอกตามตรงว่าเรื่องของพวกคุณยายเป็นเรื่องที่พิสูจน์ไม่ได้” ภวัตยังไม่อยากเชื่อ
“เธอนี่ดื้อยังกับลา ขนาดฉันกับแนนนี่แสดงให้ดูตั้งหลายอย่าง” ทาฮิร่าเริ่มโมโห
ภวัตหาว่าทาฮิร่ากับแนนนี่เล่นมายากล ทาฮิร่า จึงร่ายคาถาหายตัว แต่ว่าคาถาผิด ยังยืนนิ่ง ภวัตจึงบอกว่าเขาจะเดินไปส่งที่บ้านเอง...ทั้งสองมาถึงหน้าบ้าน ภวัตตอกยํ้าทาฮิร่าว่า วิธีของมนุษย์ดีกว่าของแม่มด
ทาฮิร่าเจ็บใจที่ภวัตพยายามหาข้อมาแย้งไม่เชื่อว่าตนกับแนนนี่เป็นแม่มด แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องพึ่งภวัตดูแลแนนนี่อยู่ดี
ooooooo
วันรุ่งขึ้น บรรยากาศยามเช้าขมุกขมัว แนนนี่ ตื่นมาลื่นล้มในตะเกียงแก้ว ตะเกียงร้องว่าเป็นลางไม่ดี เพราะในนี้เป็นที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับแม่มด ไม่เคยมีใครหกล้มมาก่อน แนนนี่ใจเสีย แต่ไม่อยากเชื่อตะเกียงจึงขอให้ระวังตัว
ภวัตเห็นรถปีเตอร์มาบ้านแนนนี่แต่เช้าก็ขุ่นเคือง ลงมาทานอาหารเช้าด้วยอารมณ์หงุดหงิด รัดเกล้ากับจักรวาลทานไส้กรอกที่บาบาร่าทอดให้ รู้สึกว่าอร่อยมาก จึงให้ภวัตกับรัดเกล้าเอาไปเยี่ยมธานี รัดเกล้าเห็นปีเตอร์อยู่ในสวนกับแนนนี่จึงกระซิบกับภวัต
“เกล้าว่านายปีเตอร์ต้องจีบแนนนี่แน่ๆ”
ภวัตหน้าเครียด ดารกาบอกพรให้ทอดไส้กรอกไปให้ปีเตอร์กับแนนนี่ทาน ปัทมนยิ้มๆเปรยว่า แนนนี่ ตั้งใจจะเอาเกรดสี่มาให้ จึงให้ปีเตอร์มาช่วยติว ภวัตเผลอประชด
“คงได้ละครับ...เอ้อ หมายถึงว่า ถ้าขยันอย่างนี้ก็คงต้องได้นั่นแหละครับ”
พอแนนนี่รู้ว่าภวัตมาจึงรีบวิ่งไปหา ปีเตอร์น้อยใจ พลันมีลมพัดมากระทบพร้อมเสียงบอกให้เขาใจกล้าหน่อย...ปีเตอร์สะดุ้งมองไปรอบๆถามว่าใคร ทุกอย่างรอบตัวดูปกติ
แนนนี่วิ่งมาต่อว่าภวัตที่มาไม่บอกตน ภวัตย้อนถามทำไมต้องบอกในเมื่อตนมาเยี่ยมธานี ปัทมนเอ็ดแนนนี่ให้หยุดก้าวร้าว แนนนี่น้อยใจที่โดนดุต่อหน้าคนอื่น
“เพราะแม่เบื่อความเอาแต่ใจของลูกเต็มทีแล้ว ดูพี่ดาเป็นตัวอย่างสิ ไม่เคยทำให้หนักใจ”
“คุณแม่...คุณแม่ไม่รักแนนนี่”
“ก็ชอบทำฤทธิ์แบบนี้ใครจะไปรัก...” ภวัตค่อนขอดเพราะความหึง
ดารกาตาวาวด้วยความสะใจ ธานีถามแนนนี่อย่างอ่อนโยนว่าหงุดหงิดอะไรมาแต่เช้า หรือว่าโมโหหิว แนนนี่จ้องภวัตประชดว่าใช่ ตนจะกินให้หมดทุกคน แล้วสะบัดหน้าเดินไป ดารการ้องเรียกจะตาม ปัทมนห้ามไว้ บอกว่ายิ่งง้อก็ยิ่งเอาใหญ่ ภวัตหน้าเสียกังวลใจ
แนนนี่วิ่งกลับมาหาปีเตอร์ แต่เหมือนมีหมอกมาปกคลุม เธอชนบางอย่างกระเด็นออกมา จึงร้องเรียกปีเตอร์ว่าอยู่ไหน เสียงอสูรบอกปีเตอร์ให้พาแนนนี่ไปหาตน... ควันหมอกจางหายไป แนนนี่เห็นปีเตอร์นั่งอยู่ที่เดิม แนนนี่นึกถึงคำเตือนของทาฮิร่าเมื่อเช้า รู้สึกใจเสีย ปีเตอร์ถามเป็นอะไรหรือเปล่า แนนนี่ได้สติแก้ตัวไปว่าไม่สบายใจนิดหน่อยให้เขากลับไปก่อน
“ไม่สบายใจแล้วอยู่คนเดียวจะยิ่งไปกันใหญ่ เอาน่า อย่าให้เสียความตั้งใจเลยนะแนนนี่ เราตั้งใจจะดูหนังสือสอบกัน ก็ควรจะทำตามนั้น”
แนนนี่คิดตามแล้วตกลง ปีเตอร์กินไส้กรอกที่พรยกมาให้แล้วบ่นว่าอยากกินของสดๆมากกว่า แนนนี่จึงให้พรไปซื้อก๋วยเตี๋ยวเนื้อสดมาให้ แล้วขอตัวไปเข้าห้องน้ำ ปีเตอร์กรอกตาไปมาแล้วกลายเป็นตาขาวเพียงอย่างเดียว... แนนนี่ยังขุ่นใจ จึงตามไปหาภวัตที่ทำงาน แกล้งให้เขาเข้าห้องไม่ได้ ภวัตรู้ว่าเป็นฝีมือแนนนี่จึงเอ็ดให้เปิด
“ก็พี่ภวัตไม่ยอมหันมาพูดกับแนนนี่ แนนนี่อุตส่าห์มุสาปีเตอร์ว่าปวดท้อง ท้องเสีย แล้วรีบมาหาพี่ภวัต” แนนนี่ กระเง้ากระงอดอยู่ข้างหลังภวัต
“ถ้าต้องลำบากขนาดนั้น ก็ไม่จำเป็นต้องมา”
“แนนนี่จะมา”
“เมื่อไหร่เราจะเลิกก่อกวนเสียที รู้ตัวรึเปล่าว่าเข้าไปที่ไหนก็ทำให้เขาวุ่นวายไปหมด คนแบบนี้พวกผู้ใหญ่เขามักจะเรียกว่า ตัวบ่อนแตก...”
“แนนนี่ไม่เคยเข้าบ่อน แต่แนนนี่อาจทำให้โรงพยาบาลนี้แตกได้ ถ้าพี่ภวัตทำให้แนนนี่ไม่พอใจ”
“เอาเล้ย เรามันเป็นอสูรผู้ยิ่งใหญ่นี่ อยากจะทำอะไรก็เชิญ แต่ก็ขอให้นึกถึงบาปบุญคุณโทษไว้บ้าง คุณยาย ทาฮิร่าเพิ่งจะบอกพี่ว่า เรากำลังมีเคราะห์หนัก...พี่จะไปซาวด์วอร์ดแล้ว ข้องใจอะไร เย็นนี้ค่อยคุยกัน” ภวัตจ้องแนนนี่ให้เปิดประตู แนนนี่หน้างอเสกทุกอย่างเป็นปกติ...
พรยกชามก๋วยเตี๋ยวไปให้ปีเตอร์ เห็นเขาตาขาวโพลนก็ตกใจทิ้งชามวิ่งร้องลั่น ปีเตอร์กลับคืนปกติตามมาถามพรเป็นอะไร พรท่าทางหวาดกลัว ธานีถามหาแนนนี่ ปีเตอร์บอกว่าไปเข้าห้องน้ำนานแล้ว ธานีจึงขึ้นไปดู เคาะประตูเรียก ชิกเก้นร้อนใจที่แนนนี่ยังไม่กลับมา ต้องแกล้งดัดเสียงเป็นแนนนี่ ตอบไปว่าเดี๋ยวจะลงไป...แนนนี่กลับมาด้วยท่าทางเหนื่อยมากเพราะพลังใกล้หมด เธอรีบลงไปหาปีเตอร์ เห็นพรกับป้าผาดช่วยกันเก็บชามที่แตก ปีเตอร์ชวนเธอออกไปหาอะไรทาน พรหวั่นใจรีบไปบอกให้ธานีห้าม แต่ธานีเห็นเป็นเรื่องธรรมดา
ทาฮิร่ากำลังปรุงยาอยู่เมืองเวทมนตร์ เห็นหน้าแนนนี่ลอยขึ้นมาก็เอะใจ รีบมาหาเจอชิกเก้นบอกว่าแนนนี่ติวหนังสืออยู่กับปีเตอร์ในสวน แต่พอทาฮิร่าลงมา พรรายงานว่าแนนนี่ออกไปกับปีเตอร์และเล่าว่าปีเตอร์น่ากลัวมาก ทาฮิร่าหวั่นใจรีบไปหาภวัต ซึ่งกำลังตรวจคนไข้อยู่ ภวัตต่อว่าทาฮิร่าทำให้ตนเสียงาน ทาฮิร่าขัด
ขึ้นว่า แนนนี่แย่แล้ว ถูกอสูรจับตัวไป ภวัตชะงักแต่ไม่เชื่อ ขอตัวทำงานต่อ ทาฮิร่าโกรธพูดใส่ภวัตก่อนจะหายตัวไป
“แสนสงสารแนนนี่ หลงรักภักดีต่อคนที่ไม่มีน้ำใจเล้ย...”
ในขณะที่ปีเตอร์ขับรถพาแนนนี่ผ่านร้านอาหารหลายร้านจนแนนนี่ข้องใจ จะพาตนไปไหน ปีเตอร์ไม่ตอบ แนนนี่จึงแย่งพวงมาลัย ปีเตอร์สะบัดเธออย่างแรงกระแทกประตูรถสลบไป ทาฮิร่าปรึกษากับชิกเก้นและตะเกียงแก้วว่าจะตามหาแนนนี่ได้อย่างไร ชิกเก้นแนะว่าอสูรต้องมีกลิ่นให้ตามกลิ่นอสูรไป ทาฮิร่าดีใจรีบขี่ไม้กวาดตามกลิ่น โดยมีชิกเก้นเกาะท้าย
บริเวณที่เปลี่ยวค่อนข้างน่ากลัว ปีเตอร์จอดรถ ปลุกแนนนี่ให้ตื่นด้วยน้ำเสียงอสูรครอบงำ แนนนี่ตกใจตื่นพยายามว่าคาถาเอาตัวรอดแต่ไม่สำเร็จ เสียงแนนนี่ร้องช่วยด้วยเข้าไปในโสตประสาทภวัต ทำให้เขาไม่สามารถทำงานได้ ภวัตจะออกไปตามหาแนนนี่ บุษบาเข้ามาขัดแล้วเกิดสะดุดล้มขาเจ็บ ภวัตได้โอกาสเรียกพยาบาลมาพาบุษบาไปพบหมอกระดูก แล้วรีบออกไป
ปีเตอร์ดันตัวแนนนี่เข้ามาในบ้านร้างซึ่งอสูรในร่างสดับรออยู่ ทาฮิร่าขี่ไม้กวาดมาเห็นรถปีเตอร์ก็คุ้นๆชิกเก้นว่ากลิ่นฉุนใช่เลย...ภวัตมาบ้านปัทมน ขอขึ้นไปหาเบาะแสบนห้องแนนนี่ พรพาขึ้นไปทั้งที่ยังข้องใจ ภวัตเข้ามาในห้องแนนนี่แล้วล็อกประตู เขามองสำรวจทั่วห้อง
“ห้องอสูร มันน่าจะมีอะไรสักอย่าง...ขอโทษครับในห้องนี้มีอะไรที่พอจะสื่อสารกับผมได้บ้างไหมครับ”
“ฉันเอง...”...ภวัตตกใจเล็กน้อย มองหาที่มาของเสียง
ooooooo










