ตอนที่ 13
เลือดจากแผลกริ่งที่ดึงธนูไฟออก ทะลักมากขึ้น กริ่งไม่อยากเป็นตัวถ่วงให้เพื่อนๆหนีไม่รอด จึงขอให้ดอนกับยอดหนีไปก่อน ไม่ต้องเป็นห่วงเขา
“ไม่ได้ ธนูดอกนี้ มันควรจะปักที่ร่างผม ไม่ใช่คุณ” ยอดไม่ยอม
“ถ้าจะไปก็ต้องไปด้วยกัน” ดอนบอกแล้วประคองกริ่งคนละข้างกับยอด
บริเวณหน้าถํ้า เคน บัวชุม และตํ่าเดินงุ่นง่านหาทางเข้าไป แต้มนั่งมองอย่างสงบ บัวชุมบ่นว่าเมื่อไหร่ประตูจะเปิดอีกครั้ง
“เรื่องนี้ข้าก็จนปัญญา รู้แต่ว่าข้างในมันอันตราย”
“แล้วตอนนั้นลุงแต้มเข้าไปได้ยังไง” เคนถาม
“ข้ามาหาของป่า แล้วจู่ๆฝนก็ตก ข้าเลยวิ่งหาที่หลบ แต่ข้าเห็นป่าอีกป่าหนึ่ง มันสว่างไสว ฝนไม่ตก ข้าก็เลยลองเดินเข้าไป ผ่านประตูใสแบบที่เห็นเมื่อกี้นี้แหละ”
“ข้างในมันมีอะไร” ตํ่าอยากรู้
“ป่าข้างในหุบเขามรณะ ใบไม้สีสันแปลกตา ข้าเห็นโครงกระดูกพวกนายพรานที่หลงเข้ามาตายเกลื่อนพื้น”
“งูยักษ์ก็อยู่ในหุบเขามรณะใช่มั้ยลุง” ตํ่าถาม
แต้มเอ็ดไม่ให้พูดถึง ตํ่าเผลอพูดอีก “ลืมไป ลุงบอก ถ้าพูดถึงงูยักษ์แล้วมันจะมา”
“ไอ้ตํ่า เอ็งพูดสองครั้งแล้วนะ”
“พูดอะไรสองครั้งจ๊ะลุง พูดว่างูยักษ์เหรอ” พลันงูยักษ์โผล่ออกมาทันที
แต้มบอกทุกคนให้วิ่งหนีโดยเร็ว บัวชุมถามว่าจะไปทางไหนดี ไม่ว่าจะไปทางไหนก็เจองูดักหน้าตลอด แต้มโวยตํ่าเพราะปากไม่ดีแท้ๆ ตํ่าหน้าเหยขอโทษไม่ได้ตั้งใจ บัวชุม เตือนเคน
“เคน มีดที่หลวงพ่อให้มา เอามาใช้สิ”
เคนล้วงมีดอินทรีย์ออกมา ยกมือพนม “ขอพระคุ้มครองพวกเราด้วย”
งูชูหัวขึ้นมาจะฉก เคนปามีดปักกลางหน้า เลือดงูกระฉูดออกมางูเลื้อยหนีเข้าถํ้า เคนวิ่งตาม แต่แต้มห้ามไม่ให้ตาม
“ผมต้องไปครับ ผมต้องเข้าไปช่วยคนอื่นๆ” เคนบอกแต้มแล้ววิ่งเข้าไปในกำแพงวุ้น
แต้ม ตํ่า และบัวชุมมองอย่างตะลึง...
ooooooo
ขณะที่ดอนกับยอดประคองกริ่งวิ่งหนีธนูไฟที่ไล่หลังมา ทั้งสามล้มลง ดอนกับยอดลากกริ่งเข้ามาหลบ ยอดโมโหจะออกไปลุย กริ่งปรามอย่างอ่อนแรง ปล่อยเขาไว้ที่นี่อย่าให้เขาต้องเป็นตัวถ่วงแล้วรีบหนีไป แต่สองคนไม่ยอม พากันออกไปลุยฝ่าธนูไฟที่
ซัมดองยิงมา จนเข้ามายืนเผชิญหน้าด้วย ยอดร้องบอกให้พอได้แล้ว และมาสู้กันซึ่งๆหน้า
ซัมดองหัวเราะแล้วยื่นมือสองข้างออกมาทำท่าบีบคอ ทั้งที่อยู่ห่าง แต่ทั้งยอดและดอนก็เหมือนโดนบีบคออย่างแรง
“ที่หุบเขามรณะ เอ็งมันก็คือมนุษย์ธรรมดา ไม่มีวันสู้ ข้าได้” ซัมดองเหวี่ยงสองคนไปกอง
ทั้งสองพยายามลุกขึ้น ไม่ยอมแพ้ ซัมดองสะบัดมือใส่ ปรากฏลูกไฟพุ่งเข้าหาดอนและยอด ทั้งสองโดดหลบ แต่ไม่ว่าจะวิ่งไปทางไหนก็เจอซัมดองมาขวางหน้า บีบคอพวกเขาไว้ กริ่งพุ่งมาล็อกคอซัมดอง ช่วยให้ดอนกับยอดหลุดไปได้ ซัมดองสะบัดกริ่งออกแล้วปล่อยฝ่ามือไปกระแทกกริ่งลอยลิ่วตกพื้น กริ่งบอบช้ำหนัก กระอักเลือดออกมา ยอดกับดอนคลานเข้าไปหากริ่ง ซัมดองซัดฝ่ามือใส่ทั้งสามคนล้มลง กริ่งหมดสติทันที
“กริ่ง ฟื้นสิกริ่ง...” ยอดเขย่าตัวกริ่ง
ดอนเอามืออังจมูกกริ่งแล้วมองยอดอย่างหน้าเสียยอดร้อง ไม่จริง...ซัมดองหัวเราะร่า
“ซัมดอง แก...ตาย...” ยอดคลั่งแค้น วิ่งเข้าหาซัมดอง อย่างบ้าเลือด
ดอนวิ่งตาม ซัมดองบีบคอทั้งดอนและยอด ไม่ทันไรร่างซัมดอง ดอน และยอดก็เลือนหายไป เหลือกร่ิงนอนแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น
เคนหลุดเข้ามาในกำแพงวุ้น ซึ่งเป็นประตูเข้าหุบเขามรณะ เขาแปลกใจกับสภาพป่าที่แตกต่างจากเมื่อสักครู่ งูยักษ์ยังจ้องเล่นงานเคน มันฉกใส่ เคนต้องโดดหลบ มีดอินทรีย์หลุดจากมือ ดวงตาสวรรค์กลิ้งออกมาจากย่ามเปิดออก มันส่องแสงกระทบตางู ทำให้งูยักษ์ถอย
หนีเข้าป่าไป เคนประหลาดใจ มองลูกแก้ว เห็นภาพกริ่งนอนนิ่ง เขาตกใจรีบเก็บของออกตามหากริ่ง...
ในขณะที่เทอด เดี่ยว และม่านฟ้า ถูกมัดไว้ในรังงู ซึ่ง มีไข่งูยักษ์เรียงรายอยู่ ยักษ์ศุกร์เป็นชายร่างสูงใหญ่ ท่าทางเหมือนปีศาจเดินเข้ามา ม่านฟ้าร้องลั่น
“ปล่อยพวกเราออกจากที่นี่นะ ไอ้ยักษ์บ้า”
“ถ้าซัมดองไม่สั่ง ข้าไม่ปล่อย ฮ่าๆๆ” ยักษ์ศุกร์วางถาดอาหารตรงหน้า “กินซะให้อ้วน ถ้าลูกงูออกมาจากไข่จะได้กินพวกเอ็งเป็นอาหาร ฮ่าๆๆ”
“มัดไว้ยังงี้จะกินได้ไง แก้มัดสิ” เดี่ยวร้องบอก
ยักษ์ศุกร์กลับว่าไม่ต้องใช้มือกินก็ได้ ว่าแล้วก็เดินตึงๆออกไป เทอดค่อยๆเขี่ยเปลือกงูที่แตกหล่นอยู่บนพื้นเข้ามา ใช้ตัดเชือกที่มัดตนเองอยู่จนขาด แล้วไปช่วยเพื่อนๆพากันหนี แต่แล้วทั้งสามก็เจอยักษ์ศุกร์ขวางทาง สามคนผนึกกำลังกันจะล้มยักษ์ศุกร์ให้ได้ แต่ดูท่าจะไม่เป็นผล ม่านฟ้าจึงล่อให้ยักษ์ศุกร์ตามออกมานอกรัง เข้าไปในป่า เทอดมองไปเห็นกิ่งไม้ใหญ่ที่ใกล้หัก จึงส่งสัญญาณบอกเดี่ยว ให้ช่วยม่านฟ้าหลอกล่อยักษ์ศุกร์มายืนใต้ต้นไม้ แล้วเทอดโหนเถาวัลย์ขึ้นไปกระทืบกิ่งไม้ใหญ่นั่น หักลงมาใส่หัว ทำให้ยักษ์ศุกร์สลบและถูกทับอยู่กับพื้น
ooooooo
มีลานพิธีกลางป่าหุบเขามรณะ กระแต บุษกร เจนี่ ชลดา และยูกิ ถูกมัดไว้รวมกัน โดยมีกลุ่มปีศาจของซัมดองควบคุมอยู่...ซัมดองปรากฏตัวขึ้นพร้อมดอนกับยอดซึ่งถูกมัดไว้ เขาสั่งปีศาจให้เอาสองคนไปมัดรวมกับพวกผู้หญิง ยอดกับดอนสบตากร่ิงอย่างเศร้าเสียใจ ไม่รู้จะบอกพวกเธออย่างไรดีเกี่ยวกับการตายของกริ่ง
ซัมดองเดินเข้ามา ยอดถามอย่างกราดเกรี้ยวว่าต้องการอะไร ซัมดองหัวเราะสะใจ
“ฮ่ะๆๆต้องการกำจัดคนอย่างพวกเอ็งไง เสาร์ห้า ฮ่ะๆๆ”
“ฆ่าฉันสิ ฆ่าฉันแล้วเอาชีวิตเพื่อนของฉันคืนมา”
“ใช่ เอาชีวิตกริ่งคืนมา เอาชีวิตฉันไปแทน” ดอนโวยวาย
ยูกิแทบช็อกเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ไม่จริง ไม่จริง คุณกริ่งไม่เป็นอะไรใช่มั้ย”
“ผมขอโทษยูกิ ผมดูแลกริ่งไม่ได้ ผมขอโทษ” ยอดสลดลง
“กริ่งช่วยให้พวกเรารอด แต่ตัวเขาต้องบาดเจ็บ” ดอนสะอื้น
“ฮ่าๆๆคืนเดือนมืดใกล้เข้ามาแล้ว ฮ่าๆๆ” ซัมดองหัวเราะแล้วนั่งบริกรรมคาถา
พวกผู้หญิงน้ำตาไหลรินสะเทือนใจเรื่องกริ่ง เดี่ยว เทอด และม่านฟ้าแอบฟังอยู่หลังพุ่มไม้ พวกเขาไม่อยากเชื่อว่ากริ่งจะตาย ม่านฟ้าสันนิษฐานว่า
“บางทีคุณกริ่งอาจแค่สลบหรือหมดสติ พวกเราน่าจะตามไปพิสูจน์ให้เห็นกับตานะคะ”
“ใช่ อย่างน้อยถ้ากริ่งเป็นอะไรจริง เราก็ต้องเห็นกับตา” เดี่ยวเห็นด้วย
ว่าอย่างไรว่าตามกัน เทอดจึงบอกว่าจะกลับมาช่วยพวกผู้หญิงกับดอนและยอดทีหลัง ม่านฟ้าสนับสนุนเพราะตอนนี้ก็สู้ซัมดองไม่ได้ ทั้งสามจึงหลบกลับไป...
ร่างกริ่งซึ่งนอนอยู่ วิญญาณเขาออกจากร่างมายืนมองร่างตัวเองด้วยความตกใจ เขาพยายามจะกลับเข้าร่างก็ไม่สำเร็จ พลันมีพระธุดงค์ปรากฏตัวขึ้น เรียกให้วิญญาณกริ่งตามไป ซัมดองปรากฏตัวขึ้น มองตามพระธุดงค์และวิญญาณกริ่งอย่างเจ็บใจ สั่งปีศาจให้บังร่างกริ่งไว้ คืนนี้ตนจะทำพิธีเรียกพระในตัวกริ่งออกมาให้ได้ ทันใด...ซัมดองรู้สึกมีคนเดินมา จึงหายตัวแวบ
เคนแกะรอยตามหากริ่งมาถึงจุดนี้ เขาได้ยินเหมือนเสียงสวดมนต์ เคนชะงักตะโกนถาม
“เสียงใคร ใคร...ออกมา”
เมฆบนฟ้าเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว ลมพัดแรง สายฟ้าฟาดลงมา พวกปีศาจปรากฏตัวล้อมเคน เคนใช้ปืนแคนยิงใส่ ปีศาจลงแต่กลับลุกขึ้นมาใหม่ แล้วจะเข้าจับตัวเขา เคนต่อสู้ซัมดองจึงใช้พลังบีบคอเคนไว้
“แกมีดวงตาสวรรค์”
“ดวงตาสวรรค์เป็นของข้า”
“ตายซะเถอะ” ซัมดองเหวี่ยงร่างเคนไปกระแทกต้นไม้
เคนบอบช้ำค่อยลุกขึ้น หยิบมีดอินทรีย์ออกมาขว้าง ตัดร่างปีศาจแล้วพุ่งเข้าใส่ซัมดองแต่ซัมดองหลบทัน มีดวกกลับมาหาเคน ซัมดองพึมพำคาถา สายฟ้าฟาดเปรี้ยง ลมพัดแรง ร่างยักษ์ศุกร์ที่โดนท่อนไม้ทับอยู่ ฟื้นขึ้น ส่งเสียงคำราม พื้นดินสะเทือน ยักษ์ศุกร์วิ่งมาขวางหน้าเคน ซัมดองสั่งให้เอาดวงตาสวรรค์จากเคนมาให้ตน ยักษ์ศุกร์จับร่างเคนยกขึ้น เคนใช้มีดอินทรีย์ฟันมือ ยักษ์ศุกร์ร้องลั่นปล่อยเคนหล่นลง ดวงตาสวรรค์ในย่ามไหลออกมา ซัมดองรีบเข้ามาจะหยิบแต่เทอดโผล่มาแย่งไปก่อน ซัมดองร้องลั่นให้เอาคืนมา
“ผมเก็บได้ก็ต้องเป็นของผมสิ” เทอดกวน
ซัมดองโกรธแค้น พึมพำคาถา เทอดเห็นท่าไม่ดีโยนให้เดี่ยว ยักษ์ศุกร์ตามไปแย่ง เดี่ยวจึงโยนต่อให้ม่านฟ้า แต่ซัมดองคว้ามือม่านฟ้าไว้ ดวงตาสวรรค์จึงกระเด็นตกมาเป็นของซัมดองอย่างง่ายดาย ยักษ์ศุกร์กลับมายืนข้างซัมดอง
“ได้ดวงตาสวรรค์ไปแล้วก็ปล่อยพวกเราเถอะซัมดอง” เทอดต่อรอง
“ราหูอมจันทร์คืนนี้ พวกเอ็งเสาร์ห้าทุกคนต้องไปหาข้าที่ลานประหาร ไม่อย่างนั้น นังผู้หญิงตายแน่ฮ่าๆๆ” พูดจบซัมดองกับยักษ์ศุกร์ก็เลือนหายไป
เดี่ยวถามเทอดจะเอาอย่างไร เทอดให้ไปตามหากริ่งก่อนที่จะมืด ทั้งสามจึงพากันไป...แต่แล้วจนมืดค่ำ พวกเขาก็หาร่างกริ่งไม่พบ เพราะพวกปีศาจบังไว้ เทอดเงยหน้ามองดวงจันทร์เห็นว่าได้เวลาที่ต้องไปลานประหาร ตามที่ซัมดองบอก
“แต่เรายังหาคุณกริ่งไม่เจอ” เดี่ยวท้วง
“ปล่อยฉันกับคุณเคนหาต่อ แล้วคุณสองคนไปเถอะค่ะ ก่อนที่ซัมดองจะทำอะไรลงไป” ม่านฟ้าเสนอ เดี่ยวกับเทอดเห็นตามนั้นเพราะพวกเขาก็เป็นห่วงพวกผู้หญิง
ooooooo
ที่ลานประหาร ดอนกับยอดยังเศร้าสลดใจที่เสียเพื่อนรักอย่างกริ่งไป ยูกิเองก็ร้องไห้ ดอนกับยอดถูกแยกมามัดไว้ที่ต้นไม้ต้นหนึ่ง ส่วนพวกผู้หญิงถูกมัดบนเวที เตรียมการแขวนคอ ซัมดอง มองพระจันทร์ ซึ่งกำลังเริ่มมีปรากฏการณ์จันทร-คราสเกิดขึ้น
“ได้เวลาที่พวกเอ็งต้องตายแล้ว จับมันแขวนคอ”
พวกปีศาจเอาห่วงคล้องคอ เจนนี่ บุษกร ชลดา กระแต และยูกิ ยอดกับดอนร้องขอให้รอเพื่อนๆที่กำลังมา ซัมดองไม่สนใจ สั่งพวกปีศาจเตรียมผลักพวกผู้หญิงลงร่องที่เปิดไว้...เดี่ยวกับเทอดวิ่งเข้ามา
“หยุดนะ...พวกเรามาแล้ว”
ซัมดองสั่งพวกปีศาจจับเทอดกับเดี่ยว เทอดร้องบอกว่าไม่...ต้องปล่อยพวกผู้หญิงก่อนแล้วเขาสองคนจะยอมให้จับ ซัมดองตกลง ให้พวกปีศาจเอาตัวพวกผู้หญิงลงมา
“คราวนี้เอ็งสองคนมาหาข้าเดี๋ยวนี้...ถ้าไม่มา เพื่อนของเอ็งตายแน่”
บุษกรรั้งเดี่ยวไว้ เดี่ยวบอกเธอว่า คืนนี้ซัมดองจะทำพิธีเรียกพระในตัวพวกเขา บุษกรหน้าเสีย “ถ้าเอาพระไป พวกคุณจะเป็นยังไง”
“พระคือชีวิต ถ้าไม่มีพระ เราก็ตาย”
บุษกรกับเพื่อนๆช็อก ชลดาไม่ยอมดึงเทอดไว้ไม่ยอมให้ไป เทอดปลอบแล้วเตือนว่าชีวิตดอนกับยอดอยู่ในมือซัมดอง เขากับเดี่ยวต้องไปช่วย เขาอยากให้พวกเธอหนีไปก่อน ออกไปจากหุบเขามรณะนี้ให้ได้ ชลดาไม่ยอมไปจะสู้เคียงข้างเทอด บุษกรเห็นด้วย
“พวกคุณต้องเชื่อผม หลบไปก่อน อย่าทำให้พวกเราต้องห่วงหน้าพะวงหลัง”
เจนนี่เห็นจริงกับที่เทอดพูด จึงบอกเพื่อนๆว่า ปล่อยพวกผู้ชายไว้ที่นี่ พวกเราหนีไปตั้งหลักแล้วกลับมาตลบหลังจะดีกว่า ชลดาโผกอดเทอด บุษกรกอดเดี่ยวร่ำลา ต่างสัญญาว่าจะกลับมาเจอกัน เทอดร้องบอกซัม ดองให้ปล่อยพวกผู้หญิงหนีไปให้ตลอดรอดฝั่ง แล้วพวกเขาจะยอมทุกอย่าง ซัมดองตกลง พวกผู้หญิงพากันวิ่งหายเข้าไปในป่า
ซัมดองนั่งลงบริกรรมคาถา เทอด เดี่ยว ดอน และยอด ถูกมัดเรียงกันตรงหน้าดวงตาสวรรค์ แสงจากลูกแก้วเรืองรองออกมา...เมื่อนั้น ร่างกริ่งซึ่งถูกปีศาจบดบังไว้ก็ปรากฏขึ้น ทำให้เคนกับม่านฟ้าซึ่งกำลังค้นหา เห็นร่างกริ่งและเหล่าปีศาจ เคนใช้มีดอินทรีย์จัดการเหล่าปีศาจ
ooooooo
หลังจากพวกผู้หญิงหนีออกมา ก็รวมตัวกันปรึกษาจะกลับไปช่วยพวกเสาร์ห้าตอนที่ซัมดองกำลังทำพิธี พลัน ปรากฏร่างพระธุดงค์ขึ้นมา
“โยม อาตมามาช่วย โยมอย่าเข้าไปเลย อันตราย” หลวงพ่อให้ทุกคนตามท่านไป...
ขณะที่ซัมดองกำลังทำพิธีเรียกพระออกจากร่าง
เสาร์ห้า ร่างกริ่งเดินเข้ามา ลักษณะเหมือนโดนมนตร์สะกด พวกเสาร์ห้าต่างดีใจระคนแปลกใจ ซัมดองลืมตาขึ้น
เงยหน้ามองฟ้าเห็นเงาราหูอมจันทร์ เคลื่อนตัวมาบดบังพระจันทร์มืดมิด
“เงาของราหูเต็มดวงแล้ว ฮ่าๆ ได้เวลาแล้ว”
ซัมดองหลับตาบริกรรมคาถา
พวกเสาร์ห้ากระตุกเหมือนโดนมนตร์สะกด พระในตัวลอยขึ้นเหนือหัว ส่องพลังมายังซัมดอง ทำให้เขาเรืองแสงเหมือนซึมซับพลังเหล่านั้น ทันใด ก็มีมีดอินทรีย์ลอยมาจากกริ่ง หมุนคว้างตัดเชือกที่มัดพวกเสาร์ห้า แล้วหมุนคว้างเข้าปักร่างซัมดอง ถึงกับสะดุ้งเฮือก พระทุกองค์กลับสู่ร่างพวกเสาร์ห้า ร่างกริ่งกลายเป็นเคน
“ได้เวลาตายของแกแล้ว ซัมดอง”
ซัมดองทั้งเจ็บทั้งแค้น ดึงมีดออกจากร่างแล้วปา
กลับหมายสังหารเคน แต่เคนยกมือรับมีดไว้อย่างง่ายดาย
ซัมดองตกใจ เขาสูญเสียพลังไปอย่างมากจึงถอยหนี แต่ยังตะโกนเรียกยักษ์ศุกร์ให้ออกมาพร้อมพวกปีศาจ จัดการพวกเสาร์ห้าและเคน...เคนใช้มีดอินทรีย์ปาใส่พวกปีศาจและยักษ์ศุกร์ เปิดทางพาพวกเสาร์ห้าหนีรอดมาได้
กลุ่มผู้หญิงซึ่งเดินตามพระธุดงค์มา พบกริ่งนอนบาดเจ็บอยู่ ยูกิดีใจ โผกอดกริ่ง เขาร้องโอ๊ยเพราะยังเจ็บแผล ยูกิร้องไห้ กริ่งถามว่าร้องทำไม
“พวกเขาบอกว่าคุณตายแล้ว”
“โชคดีที่หลวงพ่อท่านช่วยเอาไว้ ไม่งั้นผมคงไม่รอด”
เจนนี่ถามถึงเคน ม่านฟ้าบอกว่า กริ่งใช้วิชาแปลงร่างให้เคนไปช่วยพวกเสาร์ห้า ชลดาแปลกใจเพราะรู้ว่าในหุบเขามรณะ วิชาอาคมใช้การไม่ได้
“จุดที่พวกโยมยืนตรงนี้ คือปากประตูของหุบเขามรณะ อภิญญาและอำนาจพุทธคุณยังคงอยู่ แต่ถ้าหลุดออกจากบริเวณนี้ ทุกอย่างจะใช้การไม่ได้” หลวงพ่อชี้แจง
“ทุกคนต้องมารวมตัวกันที่นี่ รอเวลาให้ประตูเปิด จะได้หลุดออกจากที่นี่ซะที” กริ่งบอก
แต่บุษกรเป็นห่วงพวกเสาร์ห้า กระแตเห็นเคนพาพวกเสาร์ห้ามาพอดี ทุกคนโผกอดกันตามคู่ของตนอย่างดีใจ หลวงพ่อจึงบอกว่า ได้เวลาที่ตนต้องไปแล้ว ให้ทุกคนรอจนกว่าประตูเวลาจะเปิดออก ว่าแล้วหลวงพ่อก็เลือนหายไป ทุกคนก้มกราบ
ไม่ทันไร พื้นดินก็สะเทือนเนื่องจากการเดินของยักษ์ศุกร์ ทุกคนเตรียมตั้งรับ...ด้าน แต้ม บัวชุม และต่ำ ตกใจตื่นเพราะสะเทือนไปด้วย แต้มได้ยินเสียงเหมือนคนคุยกัน จึงรีบบอกให้ทุกคนหลบ แต่ไม่ทัน เพราะ ดร.วิทยา ฮวง และลูกน้องโผล่มาเสียก่อน
ooooooo










