ตอนที่ 5
เสียงนาฬิกาปลุกทำให้เจตรินกับอีริน่ารู้สึกตัวตื่น เขาเอื้อมมือไปปิดเสียงนาฬิกาขณะที่อีริน่ายังนอนกอดแขนเขาอย่างมีความสุข แต่พอนึกได้ว่าใกล้ชิดเขาเกินไป ลุกพรวด โวยวายว่าเรื่องอะไรมานอนกอดตนแบบนี้
“อ้าว คุณนั่นแหละกอดผม นอนหนุนแขนผมทั้งคืนอีก เหน็บกินหมดแล้ว จะเป็นอัมพาตไหมเนี่ย”
“ไม่ต้องทำเป็นโวยเลย แช่งให้เป็นวันนี้เลย” อีริน่าพูดพลางสำรวจตัวเองว่ามีอะไรสึกหรอหรือเปล่า
“โหยคุณ ตอนหลับน่ะไม่รู้เรื่องกันหรอก ใครจะไปทำอะไรคุณได้ แต่ตอนตื่นนี่ล่ะที่มันจะสปาร์ก”
อีริน่าอายมาก ปาหมอนใส่เจตรินแก้เขิน เขาปากลับ ก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำ แต่แล้วโผล่หน้ามากระเซ้าอีกว่าถ้าใครคิดจะทำอะไรก็น่าจะเป็นเธอมากกว่าเพราะนอนกอดเขาแน่นทั้งคืน อีริน่าเขินจัดเอาหมอนปาเขาอีก แต่ออกแรงมากไปหน่อยถึงกับหน้าคะมำตกเตียง เจตรินขำก๊าก อีริน่าพลอยขำไปด้วย...
วันนี้เป็นวันหยุดงาน เจตรินจึงพาอีริน่าไปบริษัทของศรินทิพย์เพื่อสอนงานให้ ขณะขับรถออกจากบ้านเจอรถของนิกกี้จอดอยู่ริมกำแพงบ้าน เขานึกถึงคำพูดของอิทธิเมื่อคืนวานตอนพาจิตรดารามาส่งว่าให้ลองเปิดใจรับนิกกี้ เพื่อที่น้องสาวใจแตกของเขาจะได้ไม่ต้องไปเที่ยวกับผู้ชายไม่ซ้ำหน้า เจตรินตัดสินใจทำตามคำแนะนำของเพื่อนรัก จอดรถทักทายนิกกี้อย่างมีไมตรีจนอีริน่าอดแปลกใจไม่ได้ว่าทำไมเขาถึงพูดดีกับนายนั่น เธอยังไม่ลืมภาพที่เขานุ่งกางเกงบ็อกเซอร์วิ่งไล่จิตรดาราเมื่อวันแรกที่เธอมาถึงที่นี่
“ยังไงยายจิตก็คบกับเขาอยู่ หากยายจิตมีทางเลือกที่ดีกว่า ค่อยว่ากัน”...
ขณะที่เจตรินไม่ล่วงรู้เลยว่าคนที่ตัวเองญาติดีด้วยเมื่อครู่กำลังจะทำให้บ้านไอศูรย์ศรินทร์ลุกเป็นไฟ นิโคลัยซึ่งอยู่ในมอสโก ประเทศรัสเซีย แอบหนีออกจากบ้านของมาดามแคทเธอรีนเพื่อไปซื้อยามาเสพ ด้วยความอยากยามากทำให้เขาไม่ทันระวังตัว ถูกสมุนสองคนของมิคาอิลล็อกตัวไว้ เขาดิ้นรนขัดขืนถีบสมุนคนหนึ่งกระเด็น สมุนโกรธจะชกหน้าแต่สมุนอีกคนหนึ่งห้ามไว้
“อย่า...มิคาอิลไม่ให้ทำมันเจ็บ เดี๋ยวตรวจคนเข้าเมืองสงสัย” คำพูดของสมุนทำให้นิโคลัยชะงัก ตรวจคนเข้าเมืองมาเกี่ยวอะไรด้วย...
ooooooo
ที่บริษัทของศรินทิพย์ซึ่งตั้งอยู่บนศูนย์การค้าของครอบครัวไอศูรย์ศรินทร์ อีริน่าเอาแต่นั่งใจลอยคิดถึงพ่อกับแม่ เจตรินเรียกก็ไม่ได้ยินจนต้องเข้า
มาสะกิดถามว่าใจลอยไปถึงมอสโกหรือ เธอพยักหน้ารับ เป็นห่วงไปหมดไม่รู้ว่าป่านนี้พ่อกับแม่จะ
เป็นอย่างไรบ้าง อยากติดต่อกับพวกท่านสักครั้ง แต่คงไม่มีหวัง
“ไม่สิ้นหวังหรอกอีริน่า แม่ของอีริน่าบอกว่าท่านจะไปทำงานกับมาดามแคทเธอรีนนี่นา”
“จริงสิคะ เพียงถ้าเราหาเบอร์สถานทูตฝรั่งเศสได้”
เจตรินขอให้ปล่อยเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของเขาจัดการเอง เธอไม่ต้องเป็นกังวล เรามียูริอยู่ทั้งคน อีริน่าขอบคุณเขามาก เจตรินอยากได้มากกว่าคำขอบคุณแล้วมองสบตาเธออย่างลึกซึ้ง เธอเขินไม่รู้จะทำอย่างไร จับมือเขามาบีบพร้อมกับยิ้มหวานให้ เขาไม่อยากได้แค่รอยยิ้มจึงยกมือเธอที่กุมมือเขาไว้ขึ้นมาจูบแทนคำขอบคุณ...
ด้านอารดาถึงกับปรี๊ดแตกที่ไม่มีใครยอมบอกว่าเจตรินพาอีริน่าไปไหนแต่เช้า นายเมฆรู้เรื่องนี้ดี แต่เลือกที่จะโกหกเพราะไม่อยากให้เธอไปวุ่นวาย อารดาขับรถออกจากบ้านอย่างฉุนเฉียว ผ่านรถของนิกกี้ซึ่งยังจอดรอ จิตรดาราอยู่หน้าบ้าน เธอกระแทกเบรก แล้วถอยหลังมาจอดเทียบ
“เด็กเที่ยวอย่างนายมาแต่เช้าอย่างนี้มีอะไรดีๆแน่ใช่ไหม”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ผมแปลกใจที่พี่ดายังไม่ทราบ จิตยังไม่พูดอะไรกับพี่เหรอครับ”
พอรู้ว่าจิตรดารายังไม่พูดอะไร นิกกี้เปิดคลิปแอบ ถ่ายจีรณัทย์กับครอบครัวของกมลกันต์ในมือถือตัวเองให้อารดาดู เธอแนะว่าถ้าจะให้ชนะใจแม่ยายมากกว่านี้ เขาควรจะส่งคนไปซ้อมกมลกันต์...
ในขณะเดียวกัน ที่บ้านของมิคาอิลในกรุงมอสโก นิโคลัยขอร้องมิคาอิลให้คิดถึงความเป็นเพื่อนของเราสองคน เลิกยุ่งกับอีริน่าได้แล้วเธอแต่งงานไปแล้ว เขาเห็น แก่ความเป็นเพื่อน ถึงยอมรับเซ้งอีริน่าทั้งๆที่เป็นของมือสอง แถมราคาตกเมื่อเอาไปเร่ขายบริการ
จังหวะนั้น สมุนเอาเบอร์โทรศัพท์บ้านมาดามแคทเธอรีนมาให้ มิคาอิลสั่งให้เขาต่อสายไปที่นั่นทันที มาดามแคทเธอรีนเป็นคนรับสาย มาเฟียจอมโฉดฝากข้อความ ถึงพริมด้วยว่าสามีของเธอขอลาไปเยี่ยมลูกสาวที่กรุงเทพฯสักพัก มาดามแคทเธอรีนโกรธจนตัวสั่น ขู่จะแจ้งกองตรวจคนเข้าเมือง เขากลับหัวร่อร่า
“โอยกลัวมากเลยครับมาดาม ฝากมาดามบอก พริมอีกอย่างนะครับ ตอนนี้ผมจะปล่อยเธอให้หายใจสบายๆ สักพัก ไว้ผมได้ตัวลูกสาวของเธอแล้ว ผมจะกลับมาจัดการเธอ” มิคาอิลพูดจบวางสายทันที
พริมร้อนใจเข้ามาถามว่าเขาว่าอย่างไรบ้าง มาดาม แคทเธอรีนยังไม่ทันจะตอบอะไร มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง พริมผวาจะไปรับสาย มาดามแคทเธอรีนคิดว่า มิคาอิลโทร.มาอีก จึงร้องห้ามไว้ แต่ความจริงแล้วนั่นเป็นสายทางไกลที่เจตรินโทร.มา อีริน่าเศร้าหนักที่ติดต่อแม่กับพ่อไม่ได้
เนื่องจากมาดามแคทเธอรีนไม่อยากให้มิคาอิลโทร. มาข่มขู่พริมอีก สั่งเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์บ้านตัวเองใหม่ ทันที แล้วบอกพริมให้เตรียมตัวไว้ เธอจะพาไปอยู่ปารีส...
ฝ่ายพริมร้อนใจ กลัวลูกติดต่อมาแล้วไม่เจอ โทร.ไปหายูริขอเบอร์บ้านกับเบอร์มือถือของเจตริน...
ระหว่างที่มาดามแคทเธอรีนวางแผนจะพาพริมหลบภัยไปอยู่ฝรั่งเศส นิกกี้ซึ่งยังจอดรถรอจิตรดาราอยู่หน้า บ้านที่เดิม เชื่อคำแนะนำของอารดา โทร.สั่งการให้สมุนไปจัดการกมลกันต์ซึ่งมีนัดกับจีรณัทย์ที่ศูนย์การค้าของครอบครัวไอศูรย์ศรินทร์ แต่อย่าให้ถึงตาย เอาแค่หยอดน้ำข้าวต้มพอ...
ooooooo
ที่บริษัทของศรินทิพย์ เจตรินยังคงสอนงานให้ อีริน่าซึ่งดูจะไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ เพราะเกิดมา ไม่เคยทำงานแบบนี้มาก่อน เธอถึงกับบ่นอุบทำไมยากนัก เจตรินต้องการให้เธอทำให้ได้ ในฐานะที่เป็นภรรยาของเขา อีริน่าเถียงว่าเป็นภรรยาในนามเท่านั้น ถ้าเจอ ตากับยายของเธอเมื่อไหร่ เราสองคนก็ต้องหย่ากัน
“อย่าพูดเรื่องอนาคต พูดกันเรื่องวันนี้เถิดนะ” เจตรินว่าแล้วดึงอีริน่าเข้ามาใกล้ หญิงสาวกลัวใจตัวเองทำเป็นหิวน้ำ อยากจะดื่มชาไข่มุก ขอตัวลงไปซื้อที่ร้านค้า ด้านล่าง แล้วรีบลุกออกไปทันที...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน จีรณัทย์เตรียมตัวจะออกจากบ้านเพราะนัดกับกมลกันต์เอาไว้ แต่ถูกจิตรดาราเอาคลิป ที่ได้จากนิกกี้มาแฉเสียก่อน ศรินทิพย์โกรธมากที่ลูกสาวไม่เชื่อฟัง ยังแอบไปพบกับพวกศัตรู หนำซ้ำยังเอาที่ดินแปลงสวยแถวถนนรัชดาไปขายให้พวกนั้นอีก ตบลูกหน้าหัน แล้วด่าซ้ำ
“นังลูกสารเลว” เท่านั้นยังไม่สาแก่ใจ ศรินทิพย์เหวี่ยงจีรณัทย์ล้มลงไปกองกับพื้น จิตรดาราจะช่วยพยุงแต่เธอปัดมือออก มีเสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น ศรีรีบรับสาย แต่ตาคอยมองสองแม่ลูกไปด้วย พริมโทร.มาในเวลาไม่เหมาะ อีกทั้งอีริน่าและเจตรินก็ไม่อยู่ เธอจึงรีบตัดบทโดยไม่ได้ซักถามว่าใครโทร.มา
“คุณคะ ดิฉันขอประทานโทษนะคะ อีกสักพักใหญ่ๆกรุณาโทร.มาใหม่นะคะ”
เสียงศรินทิพย์อาละวาดใส่ลูกดังลอดเข้าไปในสาย พริมรู้ทันทีว่าที่บ้านนั้นกำลังมีเรื่อง รีบวางสาย...
ศรินทิพย์แค้นใจไม่หาย ต่อว่าจีรณัทย์อีกว่าคิดจะทำให้แม่ตัวเองอกแตกตายไปอีกคนหรือ รู้ทั้งรู้ว่าพี่สาวของกมลกันต์ฆ่าอาจิรายุ ทำให้พ่อของตัวเองหัวใจวายตาย และเกือบทำให้เธอต้องแท้งจิตรดาราซึ่งคลอดก่อนกำหนด ต้องอยู่ในตู้อบเป็นปี โชคดีที่น้องหัวแข็งถึงรอดมาได้
“แค่นี้มันยังไม่พอให้แกสำนึกใช่ไหมจีรณัทย์ นี่ถึงฉันตายไปต่อหน้าต่อตาแกอีกคนก็คงไม่มีวันทำให้แกสำนึกผิดชอบชั่วดีได้แม้แต่นิดเดียวเลยใช่ไหม” คำพูดของแม่ทำให้จิตรดาราตะลึง เพราะไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อนยิ่งโกรธเกลียดพี่ตัวเองมากขึ้น จีรณัทย์เครียดจัด เริ่มหายใจติดขัด...
ระหว่างที่จีรณัทย์ถูกศรินทิพย์เล่นงาน กมลกันต์โดนสมุนของนิกกี้หลอกให้ออกไปยังมุมปลอดคนของศูนย์การค้า เขาไม่ทั้งระวังตัวถูกพวกนั้นรุมอัดลงไปคลุกฝุ่น อีริน่าผ่านมาเห็นพอดีรีบเข้าไปช่วยเหลือ
ประเคนทั้งหมัดทั้งเข่าใส่พวกนั้นอุตลุด รปภ.ของศูนย์การค้าเห็นคนถูกรุมทำร้าย เป่านกหวีดเรียกพวกของตัวเองให้มาช่วย สมุนของนิกกี้เห็นท่าไม่ดีพากันวิ่งหนี อีริน่าเข้าไปประคองกมลกันต์
“ไปทำแผลที่บริษัทก่อนนะคะ คุณเจตอยู่ที่นั่นค่ะ”
กมลกันต์ยังไม่ทันจะว่าอะไร ศรีสั่งให้แจ๋วโทร.เข้ามือถือของเขาเสียก่อน แจ้งว่าคุณจีคงไปตามนัดไม่ได้เนื่องจากที่บ้านเกิดเรื่องใหญ่ เรื่องที่คุณจีขายที่ดิน เขาร้อนใจมากถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง
“คุณจีโดนหนักเลยค่ะ ตอนนี้คุณเจตกำลังมา”
กมลกันต์วางสายแล้วหันไปบอกอีริน่าว่าจะพาไปส่งบ้านซึ่งกำลังเกิดเรื่องวุ่นๆ ตอนนี้เจตรินล่วงหน้าไปที่นั่นก่อนแล้ว...
ทางฝ่ายพริมพยายามโทร.ทางไกลจากรัสเซียเข้ามือถือเจตริน แต่เขาไม่รับสายเพราะมัวแต่เป็นกังวลเรื่องทางบ้าน เธอถึงกับหน้าเสีย มาดามแคทเธอรีนปลอบว่าไว้ค่อยโทร.ใหม่ เรายังมีเวลาเตือนอีริน่าอีกหลายชั่วโมงกว่ามิคาอิลกับนิโคลัยจะไปถึงกรุงเทพฯ
ooooooo
พอจีรณัทย์อาการทุเลาก็โดนศรินทิพย์อาละวาดใส่อีกครั้ง คราวนี้ถึงกับไล่ออกจากบ้าน และไม่ต้องไปทำงานที่บริษัทอีก แล้วพยายามผลักเธอออกนอกบ้าน เจตรินกลับพอดี คว้าตัวพี่สาวไว้ทัน อารดาเพิ่งมาถึงเช่นกัน เพราะสาวใช้ตัวแสบของเธอโทร.ไปรายงาน แต่เธอแสร้งทำไม่รู้เรื่อง
“เกิดอะไรขึ้นคะคุณแม่ ทำไมเครียดจัง”
เจตรินต่อว่าแม่ว่าทำไมต้องทำรุนแรงกับพี่จีขนาดนี้ด้วย ศรินทิพย์ให้ไปถามนังพี่สาวตัวดีของเขาเอาเอง เจตรินรู้ดีว่าแม่กำลังโกรธ พูดอะไรก็คงไม่ฟัง บอกจิตรดาราให้พาท่านไปพักผ่อนก่อน เธอจะไม่ไปไหนจนกว่าจะเห็นนังลูกเนรคุณไปจากบ้านนี้เสียก่อน จังหวะนั้นกมลกันต์เข้ามากับอีริน่า เห็นจีรณัทย์ในสภาพบอบช้ำ น้ำตานองหน้า ปราดเข้าไปหา ศรินทิพย์ยิ่งโมโห ไล่ตะเพิดทั้งคู่ไปให้พ้นหน้า
กมลกันต์กราบขอโทษท่านสำหรับเรื่องที่เกิดขึ้น สัญญาจะโอนที่ดินคืนให้ ศรินทิพย์ไม่ต้องการฟังอะไรทั้งนั้น ถ้าเขาไม่พานังลูกเนรคุณออกไป จะเอาน้ำร้อนมาสาด กมลกันต์ประคองจีรณัทย์จะพาออกไป เจตรินขอเป็นคนพาพี่สาวไปเอง จะให้ไปพักที่คอนโดฯของบริษัทชั่วคราวก่อน
“ฉันไม่ให้อยู่ อะไรที่เป็นสมบัติของไอศูรย์ศรินทร์ ฉันไม่ให้นังลูกนอกคอกแตะต้องทั้งนั้น”
จีรณัทย์ไม่อยากทำให้แม่ไม่สบายใจอีก จะขอไปตามทางแล้วก้มกราบ เธอไม่รับ ชักเท้าหนี กมลกันต์สงสารหญิงคนรักจับใจ รีบประคองออกจากบ้าน...
เจตรินเป็นห่วงพี่สาวมาก โทร.บอกอิทธิว่าพี่จีถูกคุณแม่ตะเพิดออกจากบ้าน จะขอยืมคอนโดฯของเขาเป็นที่พักให้เธอชั่วคราวก่อน เขาไม่ขัดข้อง ให้พี่จีไปที่นั่นได้เลย...
อารดาใช้โอกาสนี้ทำคะแนนกับศรินทิพย์ ยกน้ำชาร้อนไปเสิร์ฟถึงห้องนอนของเธอ และอาสาจะมานอนเป็นเพื่อนคืนนี้ ปรากฏว่าจิตรดาราเสนอตัวมานอนเป็นเพื่อนแม่ตัดหน้าก่อนแล้ว อารดาแค้นใจมาก หามุมปลอดคนโทร.ไปเร่งให้พงษ์ธรรีบจัดการจิตรดารา เขากำลังอยู่กับเชอร์รี่เหยื่อรายใหม่ จึงไม่สะดวกจะคุยด้วยนัก แต่ก็รับปากว่าจะไม่ทำให้แผนการที่เธอวางไว้เสียหายเด็ดขาด และที่สำคัญเรื่องแบบนี้จะรีบร้อนไม่ได้
“ฉันให้ข้อมูลเด็ดอีกอย่าง คุณหญิงศรินทิพย์ปลดลูกสาวคนโตจากทุกตำแหน่งในบริษัท”
“ก็ถึงทีผู้บริหารอย่างผมต้องแสดงฝีมือล่ะสิ”
เชอร์รี่เห็นพงษ์ธรคุยสายนาน ดึงมือถือไปกรอกเสียงใส่อย่างถือวิสาสะ “พูดพอหรือยัง ผัวเมียเขาจะไปเที่ยวกันแล้ว” เธอทำท่าจะตัดสาย พงษ์ธรดึงมือถือไปพูดต่อไปอย่างไม่ถือสาเพราะกำลังหลงสาวน้อยคนนี้
“แค่นี้ก่อนนะครับ ติดภารกิจหัวใจเสียแล้ว”
“สอนมารยาทให้นังมะม่วงเน่าของนายด้วย” อารดาวางสายอย่างโกรธเกรี้ยว...
พิทักษ์โทร.หาลูกสาวจากแถวตะเข็บชายแดนไทยด้วยความเป็นห่วง พยายามเกลี้ยกล่อมให้เธอกลับไปอยู่บ้านของเรา แต่เธอยืนกรานจะต้องเอาเจตรินมาเป็นของตัวเองให้ได้ เพื่อเสริมหน้าตาในสังคม
ooooooo
ที่คอนโดฯที่พักอันหรูหราของอิทธิซึ่งอยู่ในโครงการอสังหาริมทรัพย์ของตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ อิทธิเดินนำจีรณัทย์และกมลกันต์เข้ามาในห้อง ก่อนจะขอตัวไปเก็บข้าวของของตัวเองสักครู่ แล้วเดินหายเข้าไปข้างใน กมลกันต์สบช่องชวนจีรณัทย์แต่งงาน เธอปฏิเสธทันที เนื่องจากไม่อยากทำให้แม่เสียใจอีก
“แค่คุณเข้าใจ เชื่อใจว่าจีรักคุณและจะไม่มีวันรักคนอื่นอีก แค่นั้นก็พอแล้วสำหรับจี ส่วนเรื่องที่ดิน จีไม่เปลี่ยนใจค่ะ จีเต็มใจขายให้คุณ”
กมลกันต์หวังว่าสักวันหนึ่งแม่ของจีรณัทย์จะให้อภัยครอบครัวของเขา ทุกวันนี้เขาภาวนาให้พี่พรรณวดี
ยังมีชีวิตอยู่และกลับมาเปิดเผยความจริงให้ครอบครัวของเราสองคนหลุดพ้นจากความทุกข์ทรมานใจเสียที...
ระหว่างที่จีรณัทย์ต้องระเห็จออกจากบ้านตัวเอง พริมซึ่งอยู่ที่บ้านมาดามแคทเธอรีนในกรุงมอสโกตัดสินใจจะไม่บอกลูกเรื่องที่มิคาอิลกำลังพานิโคลัยไปกรุงเทพฯ ไม่อยากให้ลูกกลัว และเชื่ออยู่ลึกๆว่านิโคลัยและกฎหมายของประเทศไทยจะปกป้องอีริน่าได้...
ขณะอีริน่ากำลังเก็บเสื้อผ้าและของใช้จำเป็นของจีรณัทย์ตามคำไหว้วานของเจตรินเพื่อจะเอาไปให้เธอที่คอนโดฯที่พักของอิทธิ เจตรินเข้ามาบอกว่าจะไปคุยกับคุณแม่เรื่องพี่จีสักครู่ ให้เธอรออยู่ที่นี่ก่อน อีริน่าแนะนำว่าอย่าเพิ่งไปคุยตอนนี้ แม่ของเขายังไม่หายโกรธ รังแต่จะสร้างปัญหาให้พี่จีเพิ่มขึ้น
“โอ้ ภรรยาเรา มาอยู่กรุงเทพฯได้ไม่เท่าไหร่แก่ขึ้นเยอะ...เอ๊ย เป็นผู้ใหญ่ขึ้น”
อีริน่าทุบแขนเจตรินที่บังอาจมาล้อเลียน เขารวบมือเธอไว้แล้วดึงมากอด เธอรู้สึกใจหวิวๆอย่างบอกไม่ถูกขอร้องให้ปล่อย เขาออดอ้อนขอกอดนิ่งๆอย่างนี้ครู่หนึ่ง แล้วกดศีรษะเธอซบอกตัวเอง
“ขอบคุณนะครับที่แนะนำ คนเราต้องมีคู่เพราะอย่างนี้เอง คู่อะไรก็ไม่ดีเท่าคู่ครอง...เนอะ”
หญิงสาวดิ้นหลุดจากอ้อมกอดแล้วทุบเขาแก้เขิน เจตรินจับมือข้างที่ทุบมาจูบหน้าตาเฉย...
ฝ่ายจิตรดารานั่งมองมือถือของตัวเอง ตัดสินใจไม่ถูกว่าจะเป็นฝ่ายโทร.หาพงษ์ธรก่อนดีหรือเปล่า แต่แล้วความคิดถึงก็เป็นฝ่ายชนะ เสียงมือถือของพงษ์ธรที่วางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น เชอร์รี่ซึ่งกำลังนั่งอิงแอบแนบชิดพงษ์ธรอยู่ในร้านอาหารหรูแห่งหนึ่ง จะคว้ามารับสาย แต่เขามือไว ฉวยได้ก่อน
“อย่าเป็นผู้หญิงนะ หนูเหวี่ยงร้านพังแน่” เชอร์รี่ขู่ พงษ์ธรเห็นเบอร์โชว์ของจิตรดารา รีบออกตัว
“บังเอิญเป็นผู้หญิงจ้ะ แต่รายนี้โทร.มาเรื่องงาน เชอร์รี่ไม่อยากมีแฟนเป็นผู้บริหารบริษัทหมื่นล้านหรือจ๊ะ”
เชอร์รี่อยากให้พงษ์ธรไปทำงานที่บริษัทพ่อของ เธอซึ่งเป็นบริษัทหมื่นล้านเช่นกัน เขาไม่อยากให้ท่านตราหน้าว่ามาเกาะลูกสาวของท่านกิน
“ตอนนี้หนูก็จ่ายเงินเดือนพี่เดือนละแสนบาทอยู่แล้วนี่ พี่ทำงานให้พ่อหนูก็ยังจะได้อีกเยอะ” แล้วส่งกุญแจรถหรูให้ “อ้ะ ให้ยืมรถใช้อีกด้วย หนูไม่อยากนั่งรถกระป๋องของพี่ นั่งแล้วคัน เบาะขึ้นราหรือเปล่าก็ไม่รู้”
ฝ่ายจิตรดาราไม่สบอารมณ์เพราะรอสายนานจนสายตัดไปเอง ลองโทร.อีกครั้ง ถ้าคราวนี้พงษ์ธรไม่รับอีกจะบุกไปถึงบ้านให้รู้แล้วรู้รอด เสียงมือถือของพงษ์ธรดังขึ้นอีกครั้ง เขาขออนุญาตเชอร์รี่รับสายนี้สักครู่ จากนั้นลุกออกมาพอให้พ้นระยะที่เธอจะได้ยิน รับสายแล้วส่งเสียงออดอ้อนทักทาย จิตรดาราที่โกรธเกรี้ยวเมื่อครู่ ได้ยินเสียงหวานรื่นหูของเขาก็หายโกรธ ถามเขาว่าสนใจงานในตำแหน่ง ผู้บริหารบ้างไหม
“ขอบคุณมากครับที่กรุณา แต่ผมรับปากกับอีกบริษัทหนึ่งไว้ครับ ค่อนข้างแน่ว่าจะตกลงกัน นี่ผมกำลังประชุมคุยไฟนอลกับเขาอยู่นี่ละครับ คุณจิตก็โทร.มาพอดี” พงษ์ธรยิ้มกริ่ม หน้าตาสมหวังมาก
“ไม่เอา จิตไม่ให้ทำงานกับเขานะคะ คุณพงษ์ต้องทำที่บริษัทคุณแม่จิต ปฏิเสธทางโน้นไปเลยค่ะ”
“ผมจะเสียหายนะครับ ผมเป็นคนบอกเขาเองว่าผมเลือกบริษัทของเขา คุณจิตอย่าโกรธผมนะครับ ผมขอเวลานิดนึง ผมทำงานระดับนี้ ผมจะให้ชื่อเสียงของผมเสียหายไม่ได้ครับ” พงษ์ธรโกหกเป็นฉากๆ จิตรดาราไม่ยอมให้เขาไปทำงานที่อื่น ถึงขนาดจะให้แม่ซื้อตัวเขา เชอร์รี่ซึ่งนั่งรออยู่นานแล้วเริ่มทนไม่ไหวลุกมาหา
“ขอเวลาผมเคลียร์ตัวเองนะครับ ไม่นานหรอก แค่นี้ก่อนครับผมต้องกลับเข้าประชุมแล้ว” พงษ์ธรตัดสายทันพอดีกับเชอร์รี่เดินมาถึง เขาโอบเอวเธอไว้อย่างเอาอกเอาใจ ก่อนจะประคองกลับโต๊ะ
“เขาสนใจจะให้ผมเป็นผู้บริหารที่บริษัทของเขาครับเชอร์รี่ ผมเลยต้องคุยนานหน่อย ไม่คืนนี้ก็อาจพรุ่งนี้ผมต้องไปคุยกับเขานะครับ”
“หนูบอกแล้วว่าหนูเลี้ยงพี่ได้ พี่อยากได้เดือนละมากกว่าแสนนึงหนูก็ให้ได้นะ หนูไม่อยากให้พี่ห่างหนูเลยสักวินาทีเดียว” เชอร์รี่เสียงเข้มท่าทางเอาจริง
ooooooo
เจตรินหิ้วกระเป๋าใส่เสื้อผ้าของจีรณัทย์ออกจากห้องมากับอีริน่า เป็นจังหวะเดียวกับศรินทิพย์เปิดประตูห้องตัวเองออกมา ต่างฝ่ายต่างชะงัก เจตรินยังไม่ทันจะอ้าปากบอกแม่ว่าจะเอาเสื้อผ้าไปให้พี่สาว ท่านสะบัดหน้ากลับเข้าห้องปิดประตูดังปังเสียก่อน เขาถึงกับอ้าปากค้าง ก่อนจะแตะแขนอีริน่าให้เดินต่อ
อารดาแอบมองอยู่มุมหนึ่งคิดหาทางทำให้ศรินทิพย์เกลียดชังในตัวลูกสะใภ้หัวแดงเพิ่มขึ้น รอจนทั้งคู่ลับสายตา รีบเข้าไปคุยกับศรินทิพย์ว่าถ้ายังต้องการกำจัดอีริน่าไปพ้นจากตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ จะต้องร่วมมือกับเธอช่วยกันทำให้นังนั่นเป็นคนเลวมากๆ ในสายตาเจตรินให้ได้ ศรินทิพย์ยินดีช่วย แต่จะไม่ยอมลงมือเอง
“ไม่ต้องลงมือเองหรอกค่ะ คุณแม่ก็วางตัวเป็นคุณแม่นี่ล่ะค่ะ”...
ในเวลาต่อมา เจตรินกับอีริน่านำกระเป๋าเสื้อผ้ากับกุญแจรถไปให้จีรณัทย์ที่คอนโดฯ ที่พักของอิทธิ แล้วชวนทุกคนไปกินข้าวเย็นด้วยกัน ให้จีรณัทย์เป็นคนเลือกร้าน อิทธิทักท้วงจะต้องออกไปทำไมให้รถติด อยากกินอาหารของภัตตาคารหรูร้านไหนหรือโรงแรมระดับห้าดาวอะไรขอให้บอก จะโทร.สั่งให้
“เป็นเศรษฐีดีตรงนี้เองนะคะ” อีริน่าพูดเรื่อยเปื่อยไม่ได้คิดอะไร ทุกคนพากันเงียบกริบ สักครู่อิทธิร้องลั่น
“โอ๊ย เลือดไหลนองแผ่นดินโดนกัดเนื้อหลุดหายไปเลย”
อีริน่ารีบออกตัวไม่ได้ตั้งใจจะว่าอิทธิ แค่พูดความจริงเท่านั้น...
ทางด้านอารดายังคงเสี้ยมให้ศรินทิพย์ชิงชังอีริน่าไม่หยุดปากว่าเธอชอบหว่านเสน่ห์ให้ผู้ชายไม่เลือกหน้าทั้งนิกกี้ ทั้งกมลกันต์แล้วนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรเอ่ยชื่อนี้
“...ขอโทษค่ะ พอดีดาเห็นตอนมีเรื่อง มันมากับคุณกมลกันต์ค่ะ แล้วยังอาจจะคุณอิฐเพื่อนพี่เจตอีก”
ศรินทิพย์คิดแค้นครอบครัวของกมลกันต์ขึ้นมาอีก วานอารดาช่วยโทร.ไปปั่นหัวพวกนั้น เธอไม่รอช้ารีบโทร.ไปหาคุณหญิงพรรณราย กล่าวหาว่ากมลกันต์ลูกชายของคุณหญิงคิดจะคบชู้กับภรรยาของเจตริน
ขนาดวันนี้ที่บ้านไอศูรย์ศรินทร์มีเรื่องใหญ่โต ผู้หญิงคนนั้นยังควงกมลกันต์เดินหน้าระรื่นเข้ามา ทำแบบนี้เท่ากับย่ำยีเกียรติยศกัน เหมือนที่คนในตระกูลนิมิตภูวนาถของท่านเคยทำกับคนของตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ถึงตายเมื่อหลายสิบปีก่อน และนี่ยังไม่รวมที่ปล้นที่ดินของไอศูรย์ศรินทร์ไปอีกด้วย คุณหญิงพรรณรายทนฟังไม่ไหว ขอร้องให้อารดาหยุดพูด นายพลกันต์เห็นท่าทางภรรยาคู่ใจไม่ค่อยดี คว้าโทรศัพท์มาพูดเสียเอง
“ขอโทษนะครับ ผมขอวางสาย” พูดจบเขาวางสายทันที อารดาหันไปบอกศรินทิพย์ว่าทางนั้นทนฟังไม่ได้วางสายไปแล้ว เธอยิ้มสะใจ ต่อไปคงต้องให้อารดาช่วยเธอโทร.ไปป่วนพวกนั้นอีก แล้วลุกออกจากห้องนอน
“ยัยคุณหญิงศรินทิพย์ วางตัวเองเป็นนางฟ้า อะไรเน่าๆ ล่ะมาให้ฉันออกหน้า คอยดูเถอะ ถึงวันโดนฉันเอาคืนล่ะจะแสบไปถึงนรกเชียว” อารดายิ้มเหี้ยม...
หลังจากฟังคุณหญิงพรรณรายเล่าเรื่องที่อารดาโทร.มาต่อว่า นายพลกันต์ขอร้องให้เธอปล่อยวาง โกรธไปก็เท่านั้น เธอก็รู้ว่ากมลกันต์ไม่มีทางเป็นอย่างที่ผู้หญิงคนนั้นว่า เอาไว้ลูกกลับมาก่อนค่อยถามว่าเรื่องราวเป็นอย่างไรกันแน่ คุณหญิงพรรณรายร้อนใจรอไม่ไหว จะโทร.หาลูกตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย
“อย่าเลยครับ ให้ใจนิ่งก่อนดีกว่า ถามตอนนี้อารมณ์จะมากกว่าสติ”
ooooooo
อิทธิคุยเสียดิบดีว่าจะสั่งอาหารเหลาจากโรงแรมหรูมาให้กิน สุดท้ายได้กินแค่ข้าวไข่เจียวจากร้านอาหารตามสั่งใต้ถุนคอนโดฯ ทุกคนพากันวิพากษ์วิจารณ์อาหารมื้อนี้กันอย่างสนุกสนาน
“ให้ไข่จานละสองฟองเยอะไปไหม ไข่ฟองเดียวก็พอ” จีรณัทย์ว่าประชด ขณะที่อีริน่าพาซื่อ
“ใช่ค่ะ ไข่ไก่ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ไข่แดงขนาดเท่ากันหมด ที่ทำให้ไข่ทั้งสองฟองขนาดต่างกันคือไข่ขาวค่ะ แม่พริมเคยบอกอีริน่าค่ะ”
“คุณแม่ของอีริน่าทำขนมไทยครับพี่กมลกันต์ พวกทองหยิบทองหยอดฝอยทองนะครับ มีสูตรฝอยทองเฉพาะของครอบครัวด้วย” คำพูดของเจตรินเหมือนมีนัยบางอย่างส่งถึงกมลกันต์ซึ่งสะดุดใจไม่น้อย เพราะครอบครัวของเขาก็มีสูตรฝอยทองลับเฉพาะเช่นกัน เขาซักอีริน่าด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สูตรที่ว่าใส่อะไรบ้าง เธอเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน เคยเห็นแม่ใส่มะนาวลงไปในนั้นด้วย กมลกันต์ถึงกับอึ้ง...
เมื่อได้อยู่ลำพังกับเจตริน กมลกันต์ถามว่าเมื่อครู่เขาตั้งใจจะบอกอะไรตน เรื่องแม่ของอีริน่าใช่ไหม
“ใช่ครับ ที่คุณน้าพรรณรายกับพี่กมลกันต์เคยขอให้ผมสืบเรื่องพี่พรรณวดี ว่าจะยังมีชีวิตอยู่หรือเปล่า ผมสงสัยว่าคุณแม่ของอีริน่าอาจจะรู้จักกับพี่พรรณวดีก็ได้ครับ”
กมลกันต์ตื่นเต้นดีใจ มั่นใจว่าถ้าพ่อและแม่ของเขารู้ข่าวนี้ก็คงดีใจเช่นกัน จัดแจงชวนเจตรินไปรัสเซียจะได้ไปพบกับแม่ของอีริน่า เขาอยากรู้ว่าเธอเป็นใครมาจากไหน ทำไมไปอยู่ที่รัสเซีย เจตรินรู้จากคำบอกเล่าของเจ้าตัวว่าเป็นลูกแม่ค้าทำขนมธรรมดาๆคนหนึ่ง แต่เท่าที่เห็นฝีมือทำขนมของเธอแล้วมันไม่ธรรมดา และที่น่าแปลกใจก็คือคุณพริมแม่ของอีริน่าไม่ยอมเล่าเรื่องตากับยายให้ลูกรับรู้
“พี่อยากสืบประวัติคุณพริมคนนี้ เผื่อบางทีความหวังอันน้อยนิดของครอบครัวเราที่ว่าพี่พรรณวดียังไม่ตายจะกลายเป็นจริง เพราะมีคุณพริมช่วยเราสืบหา” ดวงตาของกมลกันต์เป็นประกายอย่างมีความหวัง...
แม้จีรณัทย์จะรู้เรื่องระหว่างเจตรินกับอีริน่ามาบ้างแล้ว แต่พอได้ฟังจากปากอีริน่าเอง เธออดสงสารเด็กสาวคนนี้ไม่ได้ รับปากจะช่วยตามหาตากับยายของเธอให้พบให้เร็วที่สุด
“และพี่อยากจะฝากเธอไว้ พี่ไม่อยากให้เธอกับเจตเลิกรากัน พี่ไม่ต้องการให้ชีวิตของเจตต้องตกอยู่ในความทุกข์เพราะโดนบังคับให้อยู่กับคนที่ตนเองไม่เคยรักไม่อยากรัก แถมคนๆนั้นมีพฤติกรรมน่ารังเกียจ”...
ด้านพงษ์ธรพร่ำรำพันว่าคิดถึงจิตรดารามากแค่ไหนระหว่างที่โทรศัพท์คุยด้วยกัน เธอเองก็คิดถึงเขามากเช่นกัน ชวนไปหาที่เต้นรำกันคืนนี้ จอมเจ้าเล่ห์หันไปมองทางเชอร์รี่เห็นยังหลับใหลอยู่บนเตียง ถึงกับโล่งใจ แม้เขาไม่แน่ใจว่าจะออกไปเจอจิตรดาราได้หรือเปล่า แต่ก็ขอหวานเอาไว้ก่อน
“ดีเลยครับ ขอเวลาผมเช็กงานแป๊บนะครับ แล้วผมจะโทร.บอก ผมไปรับคุณจิตนะครับ” พงษ์ธรหันมองไปทางเชอร์รี่อีกครั้งหนึ่งเพื่อให้แน่ใจว่ายังไม่ตื่น แล้วจูบใส่มือถือ “ส่งจุ๊บมาก่อนนะครับ เดี๋ยวเจอกัน”
จิตรดาราใจแทบละลาย ทุกอย่างรอบตัวเป็นสีชมพูไปหมด...
ขณะที่พงษ์ธรป้อนคำหวานจนจิตรดาราเคลิบเคลิ้ม เจตริน กมลกันต์ อีริน่าและอิทธิต่างเห็นสมควรแก่เวลาจึงชวนกันกลับ จีรณัทย์เดินมาส่งทุกคนที่รถ โดยเจตริน อีริน่าและอิทธิพากันกลับไปก่อน ทิ้งให้คู่รักได้ร่ำลากันตามลำพัง จีรณัทย์ยังมีเรื่องหนึ่งที่คาใจไม่หาย
“ตอนหัวค่ำคุยอะไรกับเจตหรือคะ หน้าตาซีเรียสกันจัง”
“ไปนั่งรถเล่นกันไหม ผมจะเล่าให้ฟัง”
ooooooo
ความหวังที่พงษ์ธรจะได้เจอจิตรดาราคืนนี้เป็นอันแห้ว เพราะเชอร์รี่เกาะติดแจไม่ยอมปล่อย เขาอุตส่าห์แต่งเรื่องว่าจะออกไปหาซื้อของกินมาให้ เธอขอตามไปด้วย จะได้หาอะไรกินทีเดียวเลย เขาไม่กล้าขัดใจ รอจนเชอร์รี่เข้าไปอาบน้ำแต่งตัว รีบโทร.ยกเลิกนัดกับจิตรดาราซึ่งโวยวายลั่นที่เขาปล่อยให้แต่งตัวเก้อ
“พอดีงานไม่เสร็จจริงๆครับ ขอโทษสุดๆเลยนะครับ แต่ผมคงไม่มีงานดึกทุกวันหรอกนะครับ คงต้องมีสักวันเร็วๆนี้ที่เราต้องเจอกันแน่ๆ แล้วผมจะชดเชยทั้งชีวิตให้คุณจิตนะครับ”
จิตรดาราเจอคำหวานของพงษ์ธรเข้าไป ความขุ่นข้องหมองใจมลายสิ้น...
หลังจากได้ฟังกมลกันต์เล่าเรื่องพริมแม่ของอีริน่าที่อาจจะเป็นพรรณวดีพี่สาวของเขาที่หายสาบสูญไปเมื่อเกือบยี่สิบปีก่อน จีรณัทย์ภาวนาขอให้เธอคือพี่พรรณ–วดีจริงๆทุกอย่างจะได้จบเสียที กมลกันต์เองก็ต้องการอย่างนั้นเช่นกัน เพราะไม่อยากเห็นแม่ต้องผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่าทุกครั้งที่ไปรัสเซีย และที่สำคัญครอบครัวของเราสองคนอาจมีโอกาสได้คืนดีกันอีกครั้ง จีรณัทย์เอนศีรษะพิงไหล่ชายคนรัก
“แต่ถึงในที่สุดแล้ว หากคุณแม่ของอีริน่าจะไม่ใช่พี่พรรณวดี และเราสองคนจะหมดหวัง จีก็จะยังรักกมลกันต์คนเดียว”...
ค่ำวันเดียวกัน เจตรินเข้าไปหาแม่ที่ห้องทำงานเพื่อเกลี้ยกล่อมให้ยกโทษให้จีรณัทย์ ท่านยืนกรานไม่มีวันให้อภัยนังลูกเนรคุณเด็ดขาด...
อีกมุมหนึ่งภายในห้องนอนของเจตริน อีริน่าอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย นึกครึ้มขึ้นมา หยิบมือถือของเจตรินมาตั้งแอบๆก่อนจะเปิดโหมดถ่ายวีดิโอเอาไว้ แล้วคว้ารีโมตฯทีวี โดดขึ้นเตียง ทันใดนั้น อารดาเปิดประตูผลัวะเข้ามา บอกอย่างหน้าด้านๆว่านอนในห้องนี้ อีริน่าประกาศลั่นไม่ยอมให้ใครมาแชร์สามีด้วยเด็ดขาด
สองสาวมีปากเสียงกัน อารดาเถียงสู้ไม่ได้ ปรี่เข้าไปจะตบ อีริน่าคว้ามือไว้ แล้วผลักยัยตัวแสบออกนอกห้อง อารดาร้องขอความช่วยเหลือลั่น ศรินทิพย์โผล่พรวดเข้ามาราวกับนัดแนะกันไว้ก่อนแล้ว จะเอาเรื่องอีริน่าที่บังอาจรังแกอารดา เธอปฏิเสธว่าไม่ได้รังแก แค่กันไม่ให้อารดาปีนต้นงิ้ว เพราะหนามของมันแหลมคมมาก
“ไม่จริงค่ะ คุณแม่ขา ดาแค่เดินผ่านหน้าห้อง มันก็ออกมาตบตี มันด่าดาไม่พอ มันด่าไปถึงคุณแม่ด้วยค่ะว่าโง่ ใจดำใจแคบ ไม่ให้อภัยพี่จี”
ทั้งคู่เข้าขากันมาก อารดาหาเรื่องด่าว่าอีริน่า ส่วนศรินทิพย์ไล่ตบตีซ้ำ เธอได้แต่ปัดป้องไม่กล้าตอบโต้ ยัยปรี๊ดแตกเล่นทีเผลอถีบเธอกระเด็นลงไปกองกับพื้น ความเกลียดชังทำให้ศรินทิพย์ขาดความยั้งคิดโดดคร่อม อีริน่าที่พยายามดิ้นหนี อารดาปรี่เข้ามาจับมือเธอกดไว้ ขณะที่ศรินทิพย์ตบซ้ายตบขวาไม่ยั้ง
อีริน่ารวบรวมกำลังดิ้นหลุดจากมืออารดา แล้วดีดตัวลุกขึ้นทำให้ศรินทิพย์ที่นั่งคร่อมอยู่หงายหลัง เป็นจังหวะเดียวกับเจตรินวิ่งหน้าตื่นเข้ามากับแหวว อารดายุให้ศรินทิพย์แสร้งทำบาดเจ็บ แล้วหันไปฟ้องเจตรินว่าอีริน่าบังอาจมาด่าตนกับคุณแม่ เขาไม่เชื่อว่าเธอจะกล้าทำอย่างนั้น
“จริงจ้ะเจต แม่แค่มาห้ามปรามว่าอย่ามาหยาบคายในบ้านผู้ดี มันก็ชี้หน้าด่าแม่” ศรินทิพย์โกหกหน้าตาเฉย สองคนรุมกล่าวหาอีริน่าเป็นชุด เจตรินเชื่อคำโป้ปดของแม่ มองภรรยาในนามของตัวเองด้วยสายตาตำหนิ พร้อมกับต่อว่าว่าทำเกินไปแล้ว ศรินทิพย์แอบยิ้มสะใจ
“บอกให้มันมากราบเท้าขอโทษแม่ แล้วแม่จะให้อภัยมัน แม่ไม่ถือสาหาความลูกโสเภณีไม่มีการอบรม”
อีริน่ายืนนิ่งไม่พูดอะไร เจตรินไม่พอใจเตือนให้เธอมากราบขอโทษแม่ของเขา เธอจำต้องทำตามคำสั่ง ศรินทิพย์แสบได้ใจทำท่าเป็นผู้ใหญ่ใจดีก้มลงไปประคองอีริน่า แต่ปากกระซิบด่าหยาบๆคายๆ เด็กสาวทนไม่ไหววิ่งหนีไปอย่างอัดอั้น เจตรินจะตาม แต่อารดาพยักพเยิดให้ศรินทิพย์แกล้งเจ็บสะโพกร้องโอดโอย เขาชะงักรีบกลับมาดูแม่ แหววสงสารอีริน่าจับใจ รีบตามไปปลอบ เห็นเธอเก็บเสื้อผ้าข้าวของยัดใส่กระเป๋าเดินทาง
“ไม่อยู่แล้วบ้านผู้ดีมีแต่เปลือก แต่หัวใจไร้ความปรานี”
แหววดึงมือไว้ พยายามพูดเตือนสติให้อีริน่าอยู่ที่นี่ต่อไป อย่าทำตัวเป็นนางเอกโบราณ ให้ทำตัวเป็น นางเอกรุ่นใหม่ ใครแหลมมาตบไม่เลี้ยง เหล่านางร้ายทั้งหลายพากันผวา
“เชื่อสิคะ แพ้คนดีไม่มีปัญหา แต่แพ้คนไม่ดีนี่สิ เราจะกลายเป็นคนโง่ค่ะ”
“ขอบใจมากค่ะ หนามยอกต้องเอาหนามบ่ง” อีริน่าฮึดสู้ หันไปตีมือกับแหวว แล้วพากันหัวเราะชอบใจ...
เจตรินยังไม่ละความพยายามที่จะขอร้องแม่ให้อภัยจีรณัทย์ แต่ศรินทิพย์ยังแค้นใจลูกสาวไม่หาย ยืนกรานไม่ว่าชาตินี้ชาติไหนไม่มีวันอภัยให้เด็ดขาด
ooooooo
ทันทีที่กมลกันต์กลับถึงบ้านโดนแม่ซักเป็นการใหญ่ว่าไปยุ่งอะไรกับภรรยาของเจตรินหรือเปล่า หรือที่หน้าตาบวมปูดกลับมาบ้านเพราะมีเรื่องกับเขา ถึงขั้นลงไม้ลงมือกัน ชายหนุ่มทั้งตกใจทั้งขำ ปฏิเสธว่าไม่ได้ มีอะไรกับอีริน่าและไม่คิดจะมี นายพลกันต์เชื่อคำพูดของลูก คุณหญิงพรรณรายค้อนลูกขวับก่อนจะบอกว่า
“เชื่อก็ได้ แล้วหน้าไปโดนอะไรมา”
“อันธพาลรุมครับ เข้าใจว่าจะชิงทรัพย์ แต่อีริน่าช่วยบู๊จนมันหนีหมด”
“ตายจริง เก่งกล้าขนาดนั้นเลยหรือ” คุณหญิงพรรณรายร้องเอะอะ กมลกันต์มีเรื่องของอีริน่าให้ตื่นเต้นกว่านี้อีก เพราะเธออาจจะเป็นลูกสาวของคนที่อาจรู้จักกับพี่พรรณวดีก็ได้ คุณหญิงพรรณรายตื่นเต้นสุดขีดที่มีคนรู้ข่าวคราวของลูกสาวที่หายสาบสูญ ยังไม่ทันจะพูดอะไร เกิดแน่นหน้าอก เป็นลมหมดสติไปตรงนั้น...
เจตรินเดินหามือถือตัวเองทั่วบ้านไม่รู้ไปวางไว้ที่ไหน ศรีเข้ามารายงานว่าเห็นอีริน่าหยิบติดมือไปด้วย แล้วถามอย่างเกรงใจว่าจีรณัทย์เป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ไปอยู่ที่ไหน เขารู้ว่าเธอหมายถึงอะไร
“ไม่ต้องห่วงครับป้าศรี ไม่ต้องกลัวพี่จีจะหนีตามผู้ชาย พี่จีไม่ได้ไปอยู่กับพี่กมลกันต์ครับ”
ศรีโล่งอก เพราะไม่อยากให้จีรณัทย์ตกเป็นขี้ปากชาวบ้าน...
ครู่ต่อมา เจตรินมาถึงห้องนอนตัวเอง ไม่เห็นอีริน่านึกว่าอยู่ในห้องน้ำ เคาะประตูเรียกก็ไม่มีเสียงขานตอบ บ่นขำๆกับตัวเองสงสัยจะหนีไปนอนห้องอื่น เดินไปดูที่แท่นชาร์จมือถือเห็นแต่สายชาร์จไม่พบมือถือ ไปดูที่โต๊ะหัวเตียงก็ไม่เจอ เลิกค้นหา คว้าชุดนอน เดินเข้าห้องน้ำ ทันทีที่ประตูปิด อารดาออกจากที่ซ่อน หรี่ไฟในห้องให้เป็นแสงสลัวๆ แล้วขึ้นไปนอนบนเตียงหันหลังให้ห้องน้ำ ทำเสมือนตัวเองเป็นอีริน่า
ooooooo
ผ่านไปไม่นาน เจตรินออกจากห้องน้ำตรงไปที่เตียงนอนลงข้างๆอีริน่าที่นอนหันหลังให้ ไม่ได้เอะใจเลยว่านั่นไม่ใช่ผู้หญิงที่ตัวเองมีใจให้ แต่เป็นอารดาลูบผมเธออย่างอ่อนโยน อารดาแค้นใจมากแต่ยังคงนอนนิ่ง
“ขอนอนกอดหน่อยนะครับ ไม่ได้กอดคุณ นอนไม่หลับ” เจตรินหลับตาพริ้มหอมผมของเธออย่างรักใคร่ อารดาพลิกตัวมาหา ริมฝีปากของทั้งคู่ชนกันโดยไม่ได้ตั้งใจ ชายหนุ่มยังไม่ทันเห็นว่าเป็นใคร เผลอจะจูบ อารดากลับเป็นฝ่ายจู่โจม กอดเขานัวเนีย เจตรินเอะใจเพราะอีริน่าไม่เคยมีพฤติกรรมแบบนี้ พอเห็นเต็มสองตาถึงกับผงะ รีบผลักเธอออก แต่เธอรัดไว้แน่นยิ่งกว่าหนวดปลาหมึก
“ดารักเจตนะคะ รักมาก เจตอย่าทำร้ายจิตใจดาอีกต่อไปเลยนะคะ” อารดาพยายามปลุกปล้ำจะจูบเขาให้ได้ พลันมีเสียงกระแอมดังขึ้น เธอถึงกับชะงัก เจตรินได้โอกาสโดดผลุงลงจากเตียง เห็นอีริน่ายืนทำหน้าทะเล้นใส่อารดาซึ่งโกรธจัดเนื่องจากถูกขัดจังหวะ พุ่งเข้าใส่อย่างเอาเรื่อง เจตรินเอาตัวเองกันไว้ พร้อมกับขอร้องให้เธอกลับห้องตัวเอง อีริน่าส่งมือถือคืนให้เขาเพราะรู้ว่ากำลังหาอยู่ แล้วหันไปทางอารดา
“ตกลงคุณจะเอาสามีฉันไหม ยังไม่ได้ตกลงราคากันเลย”
“นังเด็กกุ๊ยนรก เจตมันใส่ร้ายดาอีกแล้ว”
อีริน่ามีหลักฐานว่าตัวเองพูดความจริง บอกให้เจตรินเปิดคลิปในมือถือเครื่องนั้นดูว่าใครใส่ร้ายใครกันแน่ อารดาตกใจที่อีริน่าแอบถ่ายคลิปตอนที่เธอเข้ามาหาเรื่องเอาไว้ อ้อนวอนไม่ให้เขาเปิดดู เจตรินต่อรองถ้าเธอยอมกลับห้องก็จะไม่เปิดดู และต้องสัญญาด้วยว่าจะไม่ทำแบบนี้กับเขาอีก เธอดื้อดึงไม่ยอมไป อ้างว่าตัวเองมาก่อนอีริน่า เจตรินขอให้เธอตัดใจ เพราะตอนนี้เขาเป็นสามีของอีริน่าแล้ว
อารดาแค้นมากประกาศลั่น จะไม่ยอมเจ็บคนเดียว แล้วพรวดพราดออกจากห้องปิดประตูโครม เจตรินเพิ่งสังเกตเห็นแก้มสองข้างของอีริน่าเป็นรอยช้ำ ถามว่าใครทำ
“น้ำท่วมปากอีริน่า พูดไม่ออกบอกไม่ได้ ให้ทานไปเถิดค่ะ”
“ขอบใจนะที่มาช่วยทันเวลา ผมขอเวลาดูคลิปนี่หน่อย” เจตรินเปิดมือถือดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พลางถอนใจ “อีริน่า คุณต้องมาเดือดร้อนเพราะผมแท้ๆเลย”...
เจตรินอดเป็นห่วงแม่ไม่ได้ ก่อนจะเข้านอนแวะมาดูที่ห้องทำงาน เห็นท่านหลับฟุบอยู่กับกองเอกสาร จึงปลุกให้ไปนอน แล้วประคองไปส่งที่ห้อง ศรินทิพย์มองลูกชายที่มาคอยดูแลเอาใจใส่ด้วยความซาบซึ้งใจ...
อีริน่าหนีไปนอนอีกห้องหนึ่ง เจตรินตามหาจนเจอ เห็นเธอหลับสนิท ไม่กล้าปลุก ทรุดตัวลงนั่งข้างเตียง คิดถึงเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้น หญิงสาวพลิกตัวพอดี เข่าฟาดโดนศีรษะเขาเต็มๆถึงกับร้องโอ๊ยลั่น เธอตกใจตื่นเห็นอะไรไหวๆอยู่ข้างเตียง ผลักร่างนั้นออกแล้วลุกพรวดเปิดไฟ พอเห็นเจตรินก็ร้องเอะอะว่าเข้ามาทำไม
“เข้ามาอยู่ใกล้ๆ คนเราเวลาจิตตกก็อยากอยู่ใกล้ใครสักคนที่เราสนิทใจ ถึงเขาจะไม่เข้าใจเราก็ตามแต่อย่างน้อยเราก็รู้สึกอุ่นใจ คืนนี้ให้ผมอยู่กับคุณได้ไหม”
เธออยากให้เขาอยู่ด้วยใจแทบขาด แต่ลีลาท่ามากกว่าจะพูดออกมาได้ เจตรินนอนหนุนตัก แล้วจับมือเธอมาวางบนไหล่ตัวเอง หลับตาลงอย่างเหนื่อยล้า...
ด้านคุณหญิงพรรณรายอาการไม่ค่อยดีนัก หมอเจ้าของไข้จะขอตรวจอาการของเธอให้ละเอียดอีกครั้งวันพรุ่งนี้ บางทีอาจจะต้องผ่าตัด นายพลกันต์กับกมลกันต์ถึงกับใจคอไม่ดี
ooooooo
ศรินทิพย์ไม่พอใจที่เห็นเจตรินออกมาจากห้องพักรับรองแขกกับอีริน่า หาว่าเธอมารยา ทำเป็นงอนหนีมาอยู่ห้องนี้เพื่อให้เขาตามง้อ อีริน่าก้มหน้าไม่สบตาด้วย กลัวจะหาว่าท้าทายกลับถูกด่าซ้ำ
“ไม่ต้องมาทำจ๋อย ใครๆก็รู้ทั้งนั้นว่าหล่อนน่ะร้ายแค่ไหน ยัยเด็กกุ๊ยข้างถนน”
เจตรินพยายามขอร้องให้แม่หยุดหาเรื่องอีริน่า ท่านกลับด่าว่าเธอด้วยถ้อยคำรุนแรงและหยาบคายจนหนำใจ แล้วจึงผละจากไป เจตรินขอร้องให้อีริน่าอดทนไว้ อารดาซึ่งแอบฟังอยู่ตลอดยิ้มสะใจ...
แม้จะเป็นวันหยุด แต่ศรินทิพย์จำเป็นต้องเข้าบริษัทเพื่อดูงานส่วนที่จีรณัทย์ทำค้างไว้ อารดาอยากเอาใจ เสนอตัวจะไปส่ง เธอยังไม่ทันตอบรับหรือปฏิเสธ เจตรินเข้ามาช่วยถือแฟ้มเอกสารให้ แล้วอาสาจะไปส่งท่านเอง ศรินทิพย์แอบโล่งใจที่ไม่ต้องไปกับอารดา...
ภายในห้องพักฟื้นของโรงพยาบาล คุณหญิงพรรณรายรู้สึกตัวค่อยๆลืมตาขึ้น นึกถึงเรื่องพรรรณวดีขึ้นมาได้ จัดแจงจะลงจากเตียง กมลกันต์กับนายพลกันต์
ต้องช่วยกันจับตัวไว้ เธออยากเจอลูกสาวที่สาบสูญใจแทบขาด จะให้กมลกันต์พาไปหาอีริน่าแล้วชวนไปรัสเซียด้วยกันเพื่อตามหาลูกสาว
“คุณหมอห้ามคุณแม่เดินทางนะครับ”
คุณหญิงพรรณรายไม่สน ยืนยันจะไปให้ได้ แล้วจะดึงสายน้ำเกลือออก กมลกันต์ขอร้องให้ท่านรักษาตัวให้หายดีก่อน แล้วเขาจะเป็นคนพาไปตามหาพี่พรรณวดีเอง ท่านกลัวจะอยู่ไม่ถึงวันนั้น ในเมื่อตอนนี้มีโอกาสจะเจอลูกสาวที่หายไป อย่าห้ามปรามหรือขัดขวางได้ไหม แล้วบอกให้กมลกันต์โทร.หาเจตรินให้ที
“เดี๋ยวผมโทร.คุยให้ครับ นี่วอร์ดผู้ป่วยโรคหัวใจ คลื่นมือถือจะกวนอุปกรณ์การรักษา จะเป็นอันตรายกับคนไข้ทั้งวอร์ดได้ครับ” กมลกันต์ขยับจะไป คุณหญิงพรรณรายขอไปคุยกับเจตรินด้วย นายพลกันต์ห้ามไว้
“อย่าเลยคุณ ปล่อยให้ลูกคุยเถอะ ถ้าคุณเป็นอะไรไปตอนนี้ ลูกจะเสียใจจนไม่เป็นผู้เป็นคนนะคุณ”...
ที่บริษัทของศรินทิพย์ จังหวะที่เจตรินออกไปนอกห้องทำงาน ศรินทิพย์รีบโทร.หาคุณหญิงอาภา จะนัดลูกสาวของเธอมาให้ลูกชายของตนดูตัว แต่ขอเช็กอะไรบางอย่างก่อนแล้วจะโทร.บอกอีกที คุณหญิงอาภาไม่ขัดข้อง ยินดีจะให้เด็กๆได้เจอกัน
จากนั้น ศรินทิพย์เดินตามแผนการที่วางไว้ ส่งไลน์ไปบอกอารดาว่าจะเข้าโรงพยาบาล แล้วจะบอกอีกครั้งหนึ่งว่าโรงพยาบาลไหน ส่งข้อความเสร็จ เจตรินกลับเข้ามาพอดี เธอแกล้งหายใจไม่ออก ก่อนจะเป็นลมล้มพับ เขาปราดเข้ามารับไว้ทัน...
ขณะที่อารดากำลังกระหยิ่มยิ้มย่องที่ศรินทิพย์ยอมทำตามแผนของเธอ เมทินีโทรศัพท์เข้ามาบอกว่าคุณหญิงพรรณรายช็อกเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อคืน เผื่อว่าที่แม่ผัวของเธอจะอยากรู้ อารดาขอบใจเพื่อนรักที่แจ้งข่าวให้รู้ แล้วถามว่าลลิตาอยู่ด้วยหรือเปล่า เจ้าตัวส่งเสียงแจ๋วๆว่าอยู่ด้วย
“แกสองคนเตรียมพร้อมไว้นะ แล้วฉันจะโทร.มา”...
ผ่านไปไม่นานนัก อารดามาถึงห้องพักฟื้นของศรินทิพย์พร้อมด้วยกระเช้าดอกไม้ เห็นคนแกล้งป่วยนั่งสีหน้ายิ้มแย้มอยู่ที่โซฟา ถามว่าเจตรินไปไหน ได้ความว่าไปทำทะเบียนประวัติคนไข้อยู่
“นังเด็กข้างถนนมันออกไปเที่ยว เข้าทางพอดีเลยค่ะคุณแม่” อารดายิ้มให้ศรินทิพย์อย่างรู้กัน...
ระหว่างที่เจตรินกำลังบ่ายหน้ามายังห้องพักฟื้นของแม่ กมลกันต์โทร.มาบอกว่าแม่ของเขาเข้าโรงพยาบาล ช็อกเรื่องที่เขาบอกว่าอีริน่าอาจเป็นลูกสาวของคนที่พี่ พรรณวดีรู้จัก
“นี่จะไปหาอีริน่าให้ได้ จะพาไปรัสเซียไปหาคุณแม่ของอีริน่า”
เจตรินไม่อยากให้เรื่องบานปลายตัดสินใจโกหกว่ายูริเพิ่งโทร.มาแจ้งว่าพริมไม่ใช่พรรณวดีแน่นอนและไม่รู้จักใครชื่อนั้นด้วย กมลกันต์ถึงกับหน้าเครียด ไม่รู้จะบอกแม่อย่างไร กลัวโรคหัวใจของท่านจะกำเริบอีก เจตรินอาสาจะช่วยพูดให้ แต่ต้องรอให้เสร็จธุระกับแม่ของเขาก่อน...
อารดากำลังเล่าให้ศรินทิพย์ฟังเรื่องที่คุณหญิงพรรณรายช็อกด้วยโรคหัวใจต้องเข้าโรงพยาบาล ตอนที่ปรายตาเห็นเจตรินเดินตรงมาทางนี้ รีบร้องเตือนศรินทิพย์ให้รู้ตัว แล้วปรี่ไปสกัดหน้าประตูเพื่อถ่วงเวลา พอเห็นศรินทิพย์นอนอ่อนระโหยโรยแรงเรียบร้อย จึงเปิดทางให้เจตรินเข้ามา
แต่ต้องชะงักเมื่อสาวสวยนางหนึ่งก้าวเข้ามาพร้อมด้วยกระเช้าดอกไม้ ศรินทิพย์เห็นอรนารีลูกสาวคุณหญิงอาภามาเยี่ยม เผลอยิ้มดีใจ รีบบอกเจตรินไปช่วยรับกระเช้าจากน้องให้ด้วย อารดาถึงกับหน้าหงิก เจ็บใจสุดๆ ที่ถูกซ้อนแผนและรู้ไม่เท่าทันเล่ห์เหลี่ยม
ของยัยแก่สารพัดพิษ ขยับจะออกจากห้อง ศรินทิพย์ร้องเรียกไว้ให้มารู้จักกับอรนารีก่อน เธอทักทายตามมารยาทแล้วขอตัวไปรับโทรศัพท์ โกหกว่ามีสายเรียกเข้า
อารดาโทร.ตามสองเพื่อนซี้ให้ช่วยมาจัดการกับอรนารี มีค่าจ้างเป็นกระเป๋าแบรนด์เนม โดยไม่ล่วงรู้เลยว่า เธอเป็นนักกีฬาเทควันโดสายดำระดับทีมชาติและที่สำคัญเธอเพิ่งรับหมั้นแฟนหนุ่ม ไม่ใช่คู่แข่งแย่งเจตรินอย่างที่อารดาเข้าใจ ดังนั้นเมื่อถูกเมทินีกับลลิตาเข้ามาหาเรื่อง อรนารีจัดการพวกนั้นได้ในพริบตา...
เจตรินไม่พอใจมากที่แม่คิดจะหาผู้หญิงมาให้ทั้งๆที่เขาแต่งงานแล้ว ศรินทิพย์ไม่สน แต่งได้ก็เลิกได้ ยืนยันจะหาลูกผู้ดีมีสกุลมาให้เขาให้ได้ เจตรินทนไม่ไหวขอตัวกลับก่อน ฝากอารดาช่วยดูแลแม่แทนด้วย แล้วจ้ำพรวดๆออกจากห้องพร้อมกับโทร.นัดกมลกันต์ให้มาเจอกันก่อนเพื่อนัดแนะว่าจะพูดอะไรกับคุณหญิงพรรณราย
“ได้เจต พี่จะรอที่สวนหย่อมข้างตึกนะ คุณแม่บ่นทุกๆสามนาทีเลยว่าเมื่อไหร่เจตจะมา”
ooooooo










