สมาชิก

สะใภ้หัวแดง

ตอนที่ 12

เจตรินไม่รอช้ารีบออกจากที่ทำงานตรงไปยังโรงแรมแห่งนั้น พร้อมกับคุยโทรศัพท์กับอิทธิไปด้วย

“อิฐแกอยู่ตรงนั้น อ่านสถานการณ์ออก ถ้ายังไงแกโทร.แจ้งกองปราบได้เลย โอเค ฉันกำลังไป แกต้องรีบหาอีริน่าให้เจอให้ได้ ไม่อย่างนั้นตัดเป็นตัดตายกันเลย” เจตรินวางสาย ไม่วายบ่นอุบ “อีริน่านะอีริน่า ทำไมช่างสรรหาความเดือดร้อนมาให้ตัวเองและคนอื่นได้ตลอดเวลาแบบนี้”...

ขณะที่เจตรินร้อนใจอกแทบไหม้ อีริน่าค่อยๆโผล่มาดูที่โถงหน้าลิฟต์ เห็นอิทธิท่าทางระแวดระวังเดินมาที่ลิฟต์รีบถอยไปแอบ รอจนเขาขึ้นลิฟต์ไปแล้ว เธอถึงออกมายืนดู แปลกใจที่เขาไปชั้นเดียวกับที่ตัวเองจะไป รีบกดลิฟต์ลงมารับ เอื้อแอบมองอยู่ รู้สึกแย่มากๆที่ตัวเองมีส่วนพัวพันกับพวกโจร ทำร้ายผู้บริสุทธิ์...

การที่อีริน่าหายตัวไปเข้าห้องน้ำนานเกินเหตุทำให้เขมชาติเริ่มระแวงหันไปซักเมทินีว่าตอนไปเข้าห้องน้ำกับอารดาเห็นอะไรผิดปกติหรือเห็นใครแปลกหน้าหรือเปล่า เธออยากรู้ว่าเขาหมายถึงพวกไหน ใช่พวกที่เขาเอาเธอไปให้พวกมันทำลายใช่ไหม เขมชาติเอ็ดว่าอย่าพูดมาก

“จริงสิ วันนี้พวกนั้นมาอยู่ที่นี่ มันอาจเจออีริน่าแล้วจับตัวไปแล้ว”

เมทินีตกใจสุดขีด กลัวอีริน่าจะโดนแบบที่ตัวเองโดน ร้องลั่น แล้วทำท่าจะชัก เขมชาติคิดว่าแกล้ง บีบแขนให้เจ็บจะได้เลิกทำ อารดาไม่พอใจ ประคองเพื่อนให้ลุกขึ้นจะพาไปหาหมอ เขมชาติยื้อไว้ สั่งห้ามเธอยุ่งเรื่องผัวเมียคนอื่น เขาจัดการเองได้ แล้วหิ้วเมทินีออกไปทันที อารดาหงุดหงิดหันไปโวยพงษ์ธร

“เพื่อนนายบ้าไปแล้ว ฉันชักจะสงสัยแล้วว่านายเขมกับเมต้องมีอะไรแปลกๆที่ฉันไม่รู้”

พงษ์ธรมองอารดาอย่างสมเพชที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องคนอื่น ภัยกำลังจะมาถึงตัวยังไม่เฉลียวใจ...

ครู่ต่อมา เขมชาติกึ่งจูงกึ่งลากเมทินีผ่านมาทางโถงหน้าลิฟต์ มัวแต่หงุดหงิดกับเธอจึงไม่ทันสังเกตเห็นอีริน่าที่เดินเข้าลิฟต์ แต่เมทินีเห็น เขมชาติรำคาญที่เธอมาจิตหลุดให้ใครต่อใครเห็นตบผัวะไปหนึ่งที แล้วเหวี่ยงลงไปกองกับพื้น เอื้อซึ่งแอบมองอยู่อดสงสารไม่ได้ เขมชาติชักสงสัยว่าเมทินีอาจเป็นต้นเหตุให้อีริน่าหายตัวไป

“นังตัวดี นี่แกแอบบอกอะไรอีริน่าหรือเปล่าวันนั้นมันช่วยแกไว้นี่นา ฉันเห็นนะ” เขมชาติจะเข้าไปซ้ำ

เอื้อทนดูไม่ไหวรีบเข้ามาขัดจังหวะ เขาด่าลั่นว่ามาทำอะไรแถวนี้ ทำไมไม่รอที่รถ เอื้อปดว่ากลัวโดนปล้นแล้วส่งสายตาให้เมทินีเป็นทำนองให้หนีไป เธอไม่รอช้าเผ่นแน่บ เขมชาติจะตาม แต่มีลูกค้าของโรงแรมกลุ่มใหญ่เดินมาบังทางพอดี ถึงกับฟิวส์ขาด พาลเล่นงานเอื้อที่สะเออะเข้ามาไม่รู้จักดูทิศดูทาง

“ผมขอโทษครับ นายนี่เงินครับ” เอื้อส่งกระเป๋าใส่เงินช้าๆเพื่อถ่วงเวลาให้เมทินีหนี

เขมชาติอารมณ์ดีขึ้นทันที ถามว่าเห็นอีริน่าผ่านมาทางนี้บ้างไหม เอื้อโกหกว่าเห็นเธอวิ่งออกไปด้านหลังโรงแรมคนเดียว เขาหลงเชื่อรีบสาวเท้าออกไป โดยมีเอื้อตามไปติดๆ...

ขณะอิทธิซุ่มรออยู่ไม่ไกลจากห้องเป้าหมายนัก ปากก็โทร.รายงานเจตรินไปด้วยว่ายังไม่กล้าเข้าไป จะรอให้ตำรวจมาก่อน แต่อยู่ๆเขาก็ร้องเอะอะว่าเจออีริน่าแล้ว รีบวางสาย ก่อนจะวิ่งไปหา เห็นเธอเคาะประตูห้องนั้นชายหนุ่มร้องห้ามแต่ไม่ทัน อีริน่าถูกกระชากเข้าไปข้างในเสียก่อน เธอไม่กล้าขัดขืนเพราะมิคาอิลกับสมุนเอาปืนจ่อนิโคลัยในสภาพถูกซ้อมสะบักสะบอมไว้

อิทธิพุ่งไปถึงหน้าห้องยังไม่ทันจะพูดอะไร โดนด้ามปืนฟาดหัวถึงกับทรุด มิคาอิลสั่งให้สมุนยึดมือถือเขาลากตัวไปขังในห้องน้ำก่อน แล้วให้ไปเตรียมห้องสำรองของเราที่จองเผื่อไว้ ก่อนจะหันไปขู่อีริน่า ถ้าไม่อยากให้พ่อตายต้องอยู่เงียบๆและทำตามที่เขาบอก จากนั้น เขาลากสองพ่อลูกไปขังไว้ยังห้องพักสำรองแทนที่

ooooooo

เมทินีวิ่งตะโกนขอความช่วยเหลือมาถึงลานจอดรถของโรงแรม เจตรินขับรถเข้ามาเห็นพอดีรีบจอดรับ เขมชาติตามมาทันสาดกระสุนใส่ไม่ยั้งหวังจะสังหารทั้งคู่ให้สิ้นซาก เจตรินตกใจขับรถหนี เป็นจังหวะเดียวกับตำรวจขับรถสวนเข้ามาเจอห่ากระสุนรีบหักรถหลบแล้วโดดลงมายิงต่อสู้ เขมชาติเห็นท่าไม่ดีวิ่งหนีเข้าโรงแรม

เสียงปืนยิงกันดังไปถึงห้องพักสำรองที่นิโคลัยและอีริน่าถูกนำตัวมากักขัง มาเฟียโฉดเริ่มไม่สบายใจสั่งให้สมุนรออีกสักพักแล้วหาทางย้ายสองพ่อลูกไปจากที่นี่ก่อนตำรวจจะแห่กันขึ้นมา พลันมีเสียงมือถือของอิทธิดังขึ้น มิคาอิลสั่งอีริน่ารับสาย ให้บอกว่าเธออยู่กับเจ้าของมือถือ ทุกอย่างเรียบร้อยดี และห้ามตุกติกเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นจะสังหารพ่อของเธอทันที หญิงสาวพูดตามที่เขาบอก เจตรินโล่งอกที่เธอปลอดภัย

“อยู่กับอิฐน่ะดีแล้ว ผมทำธุระเสร็จจะรีบกลับไปรับคุณนะ...ผมขอพูดกับอิฐหน่อยสิ”

อีริน่าอึกอักก่อนจะโกหกว่าอิทธิไปเข้าห้องน้ำ เจตรินไม่ติดใจสงสัยอะไร ถ้าเขากลับมาเมื่อไหร่ให้โทร.หาตนด้วย มิคาอิลดึงมือถือไปจากเธอแล้วตัดสาย เจตรินยังถามไม่ทันจะรู้เรื่องรีบโทร.กลับอีกครั้ง ปรากฏว่ามือถือปิด เขาเพิ่งนึกขึ้นได้หันไปถามเมทินีว่าถูกใครไล่ยิงมา เธอไม่กล้าบอกว่าเป็นเขมชาติ

“...เข้าใจว่าเป็นพวกเดิมค่ะ เมว่าคุณเจตปล่อยเมลงแล้วรีบกลับไปหาอีริน่าเถอะค่ะ”

“ผมต้องหาที่อยู่ใหม่ให้คุณเม คุณต้องอยู่ในที่ที่ปลอดภัย ไม่มีใครตามมาทำร้ายได้”...

ที่ห้องอาหารในโรงแรม พงษ์ธรไม่เห็นเมทินีมากับเขมชาติก็ถามหา ได้ความว่ากลับไปแล้ว อารดาอดถามไม่ได้ว่าเสียงดังเมื่อครู่ใช่เสียงปืนหรือเปล่า เขมชาติยังไม่ทันจะว่าอะไร ตำรวจยกกำลังเข้ามาแจ้งทุกคนว่า

“ไม่มีอะไรครับ เหตุการณ์ปกติ ขอทุกท่านอย่าได้ตื่นตระหนก”

พงษ์ธรเห็นท่าทางเขมชาติไม่ค่อยปกติบอกกับอารดาว่าขอตัวสักครู่ แล้วดึงเขาออกไป พอถึงมุมปลอดคน เขมชาติบอกด้วยน้ำเสียงตื่นๆว่าเมทินีหนีไปกับเจตรินแล้ว เขาไม่น่ายิงพลาด นังนั่นคาบความลับของพวกเราไปด้วย ถ้าเธอเปิดปากเมื่อไหร่เราเป็นอันจบเห่ พงษ์ธรไม่คิดว่าเมทินีจะกล้าพูดอะไรตอนนี้ เนื่องจากกลัวถูกแฉคลิปฉาว เร่งให้เขมชาติรีบตามไปปิดปากก่อนที่เธอจะเล่นงานพวกเรา...

ทางฝ่ายมิคาอิลกับสมุนพานิโคลัยและอีริน่าลอบออกจากโรงแรมสำเร็จ เพื่อกันไม่ให้เจตรินสังสัย มิคาอิลจึงสั่งให้อีริน่าส่งข้อความจากมือถือของอิทธิไปหา เธอเขียนภาษาไทยไม่เป็นจะให้ส่งได้อย่างไร

“ส่งข้อความเป็นภาษาอังกฤษไป พวกมันมีความรู้กันทั้งนั้น” มิคาอิลว่าแล้วยื่นมือถือของอิทธิให้ เมื่อเธอพิมพ์ข้อความเสร็จ เขาอ่านตรวจทานก่อนจะส่งไปให้เจตริน...

หลังจากพาเมทินีไปอยู่ในความดูแลของตำรวจหญิง เจตรินขับรถกลับไปที่โรงแรมเป้าหมายอีกครั้ง ระหว่างนั้นเขาได้รับข้อความจากอิทธิ อดแปลกใจไม่ได้ว่าเพื่อนรักเกิดเพี้ยนอะไรขึ้นมาถึงได้ส่งข้อความมาหาทั้งที่ไม่ค่อยชอบส่ง แถมเป็นภาษาอังกฤษอีกด้วย พลันเจตรินฉุกคิดถึงคำเตือนของเมทินีขึ้นมาได้

“คนพวกนี้อันตรายมาก เล่ห์เหลี่ยมสารพัด  อย่าเชื่อคำพูดของใครง่ายๆนะคะ”

ชายหนุ่มชักใจคอไม่ดี หรือว่าจะเกิดเรื่องกับอิทธิและอีริน่า รีบเร่งความเร็วจนรถแทบจะเหาะได้...

ที่เซฟเฮาส์ของมิคาอิลในเมืองไทย พออีริน่ารู้ว่ามิคาอิลให้สมุนของเขาที่มอสโกจับตัวแม่พริมไว้ก็ต่อรองขอพูดกับท่าน มิคาอิลเห็นเธอพูดดีด้วยยอมทำตามที่ขอ อีริน่าดีใจมากที่ได้พูดกับแม่ กระซิบกระซาบว่ากำลังวางแผนช่วยพ่ออยู่ และอยากให้แม่หาทางหนีไปจากที่นั่น มิคาอิลไม่ค่อยถนัดการใช้ภาษาไทยชักจะหงุดหงิด

“พูดจาให้มันชัดเจนอย่าเอาแต่กระซิบกระซาบเดี๋ยวฉันตัดสาย หรือไม่ฐานกรุณาก็จะเปิดสปีกเกอร์โฟน”

อีริน่าออดอ้อนขอร้องว่าอย่าใจร้ายนักเลย แล้วพูดกับแม่ด้วยเสียงดังขึ้นเล็กน้อย “ค่ะ...แม่พริมจะทำให้พวกมันตายใจ กำลังจะจัดการพวกมันแล้วหนีออกไป โชคดีค่ะแม่พริม” หญิงสาววางสายแล้วยิ้มย่อง มิคาอิลอดทักไม่ได้ทำไมพูดกันสั้นนัก

“แม่พริมกำลังทำกับข้าวให้พวกขี้ข้าหน้าไม่อายของแกกิน พวกมันรอกินอยู่ เดี๋ยวฉันค่อยโทร.ไปใหม่ ถ้าแกไม่ขัดข้อง” นอกจากมิคาอิลจะไม่ขัดข้องแล้วยังชมเปาะว่าพริมทำตัวดีมาก โดยหารู้ไม่ว่ากับข้าวที่เธอทำให้พวกสมุนของเขากินใส่ยานอนหลับลงไปด้วย ไม่กี่อึดใจพวกนั้นก็ตาพร่า ก่อนจะทรุดลงหมดสติ

ooooooo

เมื่อเจตรินมาถึงห้องพักตามที่อิทธิให้ข้อมูลไว้ พบเพื่อนรักที่เพิ่งฟื้นได้สติ ร้อนใจมากถามว่าอีริน่าอยู่ที่ไหน พอรู้ว่าอิทธิทำพลาดปล่อยให้เธอถูกคนร้ายจับตัวไป เขาถึงกับฮึดฮัดจะเอาเรื่อง ก่อนจะตั้งสติได้

“ขอโทษเพื่อน เรามารีบหาทางช่วยอีริน่าให้เร็วที่สุดดีกว่า”

สองเพื่อนซี้ระดมสมองวางแผนกันสักพัก เจตรินตกลงใจจะใช้แผนหนามยอกต้องเอาหนามบ่ง ทำให้มิคาอิลคิดว่าพวกเราโง่ เพราะคนที่ชอบคิดว่าคนอื่นโง่ คนนั้นต่างหากที่โง่ที่สุด

“ตอนนี้พวกมันคงคิดว่าฉันยังไม่ได้เจอแก มันคิดว่าฉันเชื่อตามที่อีริน่าบอกว่าแกอยู่กับเธอ มันไม่เพียงต้องการอีริน่า แต่มันอยากจะฆ่าฉันด้วย ดังนั้น ฉันจะไปให้มันฆ่า” เจตรินพูดจบ หยิบมือถือขึ้นมาส่งข้อความไปยังมือถือของอิทธิที่อยู่กับมิคาอิลซึ่งส่งต่อให้อีริน่าดูอีกทอดหนึ่ง

“ผัวผู้แสนโง่ของเธอส่งข้อความมาให้เธอแล้ว มันอยากเจอเธอกับไอ้สาระแนที่ชื่ออิฐ มันคิดว่าเธออยู่กับไอ้อิฐคนนั้น ฉันมีแผนใหม่แล้ว ฉันจะหลอกฆ่ามัน” มิคาอิลหัวเราะชอบใจ ขณะที่อีริน่าตกใจร้องห้ามเสียงหลง

อึดใจเดียว เจตรินก็ได้รับข้อความตอบกลับถึงกับยิ้มร่าหันไปบอกเพื่อนรักว่าสำเร็จแล้ว เขาแดกดันว่าสำเร็จโทษตัวเองมากกว่า ทำแบบนี้เสี่ยงเกินไป เจตรินขู่ฟ่อ ถ้าอิทธิเปลี่ยนนิสัยกลายเป็นไอ้ตาขาวจะเลิกคบเขาไม่ยอมให้ถูกเลิกคบง่ายๆ ถ้าเพื่อนจะลุยก็ขอลุยด้วยคน...

พักใหญ่อีริน่าถึงโทร.ทางไกลไปหาแม่พริมที่มอสโกอีกครั้งหนึ่ง พอรู้ว่าท่านจัดการพวกสมุนเรียบร้อยบอกให้รีบหนี มิคาอิลจะขอพูดด้วย อีริน่าเกรงแผนการจะแตกรีบตัดสาย อ้างว่าแม่ต้องรีบไปทำกับข้าวให้พวกสมุนเพราะกินจุมากราวกับไม่ได้กินอะไรมาเป็นอาทิตย์

“แกรับปากได้ไหมมิคาอิล ถ้าฉันเป็นอะไรกับแกแล้ว แกต้องปล่อยปาปากับแม่ฉันให้ท่านทั้งสองใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขที่เมืองไทย ส่วนฉันจะกลับมอสโกกับแก”

“หลังจากเรามีความสุขกันคืนนี้ตามที่วางแผนไว้ ฉันจะไปจัดการเรื่องธุรกิจที่พัทยา เราจะได้ไปจากเมืองไทยกันสักที ไปฮันนีมูนกันนะอีริน่าที่รัก” มิคาอิลว่าแล้วลูบไล้แก้มอีริน่าซึ่งแสร้งพยักหน้าให้ แล้วเตือนว่าคนที่เขาทำธุรกิจด้วยที่ชื่อเขมชาติไม่น่าไว้ใจ เพราะชอบคุยอวดคนโน้นคนนี้ไปทั่วว่าค้าขายกับเขาและอาจหักหลัง แย่งธุรกิจไปเป็นของตัวเอง มิคาอิลหลงเชื่อขบกรามแน่น แค้นใจเขมชาติสุดๆ...

ด้านเขมชาติทำตามที่พงษ์ธรแนะไปตามหาเมทินีที่บ้านแต่ไม่พบ สาวใช้ในบ้านก็ไม่รู้ว่าหายไปไหน...

ทางฝ่ายอารดาไม่รู้ว่าเมทินีมีปัญหากับเขมชาติคิดว่าเพื่อนหายไปกับเจตรินเพราะต้องการแย่งชิงเขาไปจากตัวเอง กลับถึงบ้านไอศูรย์ศรินทร์ กระทืบเท้าปังๆ ด้วยความหงุดหงิด ศรินทิพย์ได้ยินเสียงเอะอะออกมาถามว่าเกิดอะไรขึ้น ได้ความว่าเจตรินถูกเพื่อนทรยศของเธองาบไป จังหวะนั้นจีรณัทย์พาจิตรดาราที่หน้าตาบึ้งตึงมีผ้าพันแผลปิดดั้งจมูกเข้ามาในบ้าน แม้แผลที่ดั้งจมูกของเธอยังไม่หายสนิท แต่ปากยังใช้ได้ดีอยู่ แขวะว่าใครจะงาบใครตนไม่สน อย่ามายุ่งกับพงษ์ธรของตนก็แล้วกัน อารดาหมั่นไส้แดกดันคืนให้บ้าง

สองสาวเปิดศึกปะทะคารมกัน ศรินทิพย์กับจีรณัทย์ต้องช่วยกันห้ามปราม จิตรดาราไม่อยากอยู่บ้านเพราะทนเหม็นขี้หน้าคนไม่ไหว โทร.ชวนพงษ์ธรไปเที่ยว ศรินทิพย์ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ...

เมื่อได้อยู่ตามลำพังกับพ่อ อีริน่าบอกข่าวน่ายินดีว่าแม่พริมหนีรอดเงื้อมมือพวกสมุนของมิคาอิลไปได้และอีกไม่นานเธอจะช่วยพ่อไปให้พ้นจากนรกของเขา เช่นกัน นิโคลัยดึงลูกมากอดกำลังจะบอกว่าคุณตากับ

คุณยายของลูกเป็นใคร แต่มิคาอิลเข้ามาขัดจังหวะเสียก่อน...

ทั้งที่มีผู้หญิงคอยปรนเปรอเงินทองให้แต่พงษ์ธรก็มีเงินไม่พอใช้ แบมือขอเงินเขมชาติห้าแสนบาทหน้าตาเฉย เขาโวยวายว่าพงษ์ธรใช้เงินเกินตัว ถ้าอยากได้เงินก็ให้เลือกเอาจะส่งจิตรดาราหรือเชอร์รี่มาแลก ยังไม่ทันขาดคำ จิตรดาราซึ่งดั้งจมูกยังมีผ้าพันแผลปิดผวาเข้ามากอดพงษ์ธรไว้ เขมชาติขอตัวกลับก่อน กำชับหุ้นส่วนอย่าลืมเรื่องสินค้าที่คุยกันเมื่อครู่ พงษ์ธรเอานิ้วชี้ลงมาที่หัวจิตรดาราซึ่งไม่รู้ตัวเป็นทำนองว่าเลือกคนนี้

“ตอนนี้สินค้ามีตำหนิ ฉันไม่รับ รอไว้ให้นาย ซ่อมแซมก่อนค่อยว่ากัน เอาที่มีอยู่ในมือแบบไม่มีตำหนิมาสิจะรอฟังข่าว” เขมชาติหัวเราะในลำคอ ค้อมให้ จิตรดาราแล้วลุกออกไป...

ขณะที่จิตรดารายังไม่รู้ตัวว่ากำลังจะถูกขายเลหลัง เจตรินสวมเสื้อเกราะพร้อมอาวุธครบมือและปืนปากกากับอิทธิในคราบคนบ้า แอบมาดูลาดเลาที่เซฟเฮาส์ของมิคาอิลตามที่ได้รับข้อมูลจากอีริน่า เห็นสมุนหน้าเหี้ยมสองคนของมิคาอิลกำลังยืนยามอยู่ เจตรินรีบสั่งให้ถอยก่อน แล้วเขาจะขับรถย้อนกลับมาที่นี่ตามลำพังเอง ส่วนอิทธิให้ซ่อนตัวรออยู่แถวนี้...

อีกมุมหนึ่งภายในเซฟเฮาส์ มิคาอิลเริ่มบ่นทำไมเจตรินถึงยังไม่โผล่มาสักทีหรือว่ากลัวตาย อีริน่าติงว่าเอาสมุนหน้าตาน่ากลัวขนาดนั้นไปเฝ้าหน้าบ้าน อาจทำให้เจตรินเอะใจทำไมเพื่อนของเขาให้มาพบที่ซ่องโจร มิคาอิลคิดคล้อยตาม รีบสั่งการให้สมุนทั้งคู่หลบไปก่อน รอให้เหยื่อติดกับค่อยกลับมาทำหน้าที่อีกครั้ง ระหว่างนั้นมีข้อความส่งมายังมือถือของอิทธิ  มิคาอิลอ่านไม่ออก สั่งให้อีริน่าอ่านให้ฟัง

“คุณเจตกำลังมา ใกล้จะถึงแล้ว”

มิคาอิลยิ้มร่าเริงที่จะได้ฆ่าเจตริน ขณะที่อีริน่าได้แต่ภาวนาขอให้เขาเฉลียวใจสักนิดว่านี่เป็นกับดัก

ooooooo

แม้จะเบื่อจิตรดาราเต็มที แต่ด้วยความอยากได้เงิน พงษ์ธรจำต้องออดอ้อนเอาใจสารพัด เธอทักท้วงเพิ่งเอาแหวนเพชรไปหนึ่งวงเป็นค่าจ้างจัดการอารดายังไม่เห็นได้เรื่อง มันยังลอยหน้าถากถางเธอไม่เว้นวัน

พงษ์ธรแต่งเรื่องว่าวันนี้มีแผนจะเอาอารดาไปขาย แต่เกิดยิงกันเสียก่อน  ตำรวจแห่กันมาเต็มไปหมด  เขมชาติก็เลยถือโอกาสขอเงินเพิ่ม จิตรดารากดเงินได้แค่สองแสนบาทเท่านั้น เพราะแม่จำกัดวงเงินไว้ พงษ์ธรยิ้มพอใจได้แค่นั้นก็พอแล้วจะได้เอาไปให้เขมชาติ แต่พอจิตรดาราหยิบบัตรเอทีเอ็มขึ้นมา เขากระชากไปจากมือ ขู่ให้บอกรหัสบัตรมาถ้าไม่อยากเจ็บตัว จิตรดาราถึงกับอึ้ง

“พงษ์ ทำไมทำกันอย่างนี้ จิตรักพงษ์นะคะ”

พงษ์ธรไม่สนใจต้องการแค่เงิน เร่งให้บอกรหัสกดเงินมา ถ้าไม่อยากไปนอนหยอดน้ำข้าวต้มแบบเชอร์รี่อีกคนหนึ่ง เธอถึงกับปล่อยโฮ...

ในเวลาเดียวกัน เจตรินขับรถเข้ามาจอดในเซฟเฮาส์ของมิคาอิล แสร้งตีหน้ายิ้มแย้มดีใจที่จะได้เจออีริน่ากับอิทธิ มิคาอิลซึ่งแอบดูอยู่สั่งให้อีริน่าออกไปรับแล้วพาเข้ามาในบ้าน ห้ามทำอะไรให้มีพิรุธเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นหัวพ่อของเธอกระจุยแน่นอน พอเธอคล้อยหลังมิคาอิลรีบโทร.สั่งให้สมุนพาตัวนิโคลัยไปไว้ที่พัทยาก่อน และให้ออกทางประตูหลังบ้าน นิโคลัยพยายามขัดขืนแต่เรี่ยวแรงไม่มีถูกสมุนอัดจนหมอบแล้วลากออกไป

ด้านเจตรินเห็นเมียรักออกมาหาผวาเข้าไปกอดด้วยความดีใจ ตำหนิเพื่อนรักของตัวเองทำไมถึงพาเธอมาหลบในสถานที่ลึกลับแบบนี้ เธออ้างว่าอิทธิเกรงจะมีคนตามเจอ เจตรินทำทีชวนเธอคุยไปเรื่อยเปื่อยเพื่อให้มิคาอิลที่แอบดูอยู่ตายใจ ก่อนจะถามว่าอิทธิอยู่ไหน เขาอยากจะพบ อีริน่าพยายามส่งสายตาเตือนให้เขารู้ตัวว่านี่เป็นกับดัก แต่ดูเหมือนจะไร้ผล จำใจต้องพาเขาเข้าไปในตัวบ้าน...

มิคาอิลเจ้าเล่ห์ตั้งใจจะไม่ให้เจตรินมีชีวิตรอดไปจากที่นี่ สั่งให้สมุนหน้าเหี้ยมสองคนที่เฝ้าอยู่ด้านหน้าเอาระเบิดไปวางในรถของเขาเผื่อเขาหนีรอดออกจากบ้านมาได้ พวกนั้นยังไม่ทันจะวางระเบิด อิทธิเข้ามาขัดขวางเสียก่อน เล่นงานอยู่หมัดแล้วจับทั้งคู่ใส่กุญแจมือ...

แผนตลบหลังของเจตรินได้ผล มิคาอิลหลงเชื่อว่าเขาไม่ล่วงรู้ว่านี่เป็นกับดัก ออกจากที่ซ่อนพร้อมกับสมุนอย่างกระหยิ่มใจ จังหวะที่มิคาอิลสั่งให้สมุนเอาตัวเจตรินไปฆ่า เขาดิ้นหลุด จากนั้นร่วมมือกับอีริน่าเล่นงานพวกสมุนและแย่งปืนไปได้

“อีริน่าไปช่วยปาปา ทางนี้ผมจัดการเอง”

มิคาอิลระดมยิงใส่เจตรินไม่ยั้ง อีริน่าโดดผลักเขาหลบได้ทัน เจตรินส่งปืนให้เธอ แล้วคว้าปืนปากกาของตัวเองขึ้นมายิงใส่พวกคนร้ายก่อนจะหันไปเร่ง

อีริน่าให้รีบไปช่วยนิโคลัย เธอขอบคุณที่เขาคอยห่วงใย เขาเองก็ขอบคุณเธอเช่นกันที่ช่วยชีวิตเขาเอาไว้ แล้วยื่นหน้าไปหอมแก้มเธอหนึ่งฟอด

“โชคดี...ไปได้แล้ว ผมจะค่อยๆตามไป เดี๋ยวอิฐก็คงมาช่วยเรา” เจตรินเห็นเธอมองมาอย่างงงๆ รีบอธิบาย “เรามาด้วยกัน ผมเสี่ยงย้อนศรแกล้งตบตามิคาอิลแล้วก็ได้ผล”

ooooooo

จากนั้น อีริน่าพาเจตรินไปยังห้องกักขังพ่อของเธอพร้อมกับยิงสกัดพวกมิคาอิลไปด้วย จนกระทั่งมาถึงห้องเป้าหมาย เห็นคล้องกุญแจอยู่ เธอยิงปืนใส่จนกระจุย แล้วถีบประตูเข้าไป ปรากฏว่าห้องว่างเปล่า ถึงได้รู้ตัวว่าถูกหลอก มิคาอิลที่ไล่ตามมากับสมุนหัวเราะสะใจ

“ใช่ อีริน่าถูกฉันหลอก ฉันไม่โง่เอาพ่อของเธอมาแลกกับไอ้เจตคนนี้หรอก ฉันต้องได้ทั้งหมด ชีวิตผัวเธอและตัวเธอ วางปืนลงอีริน่า แล้วมาหาฉัน ถ้าไม่ต้องการให้ผัวเธอตาย หรือไม่ก็ยิงมันให้ตายเป็นของขวัญให้สามีในอนาคตของเธอ ถ้าเธอไม่ยิง ฉันยิงเอง” มิคาอิลเหนี่ยวไก แต่กระสุนหมด พลันมีปืนมาจ่อที่ต้นคอเขา

“แต่ปืนกระบอกนี้มีกระสุนเต็ม ฉันจะยิงแกเอง”

มิคาอิลหันมาเห็นอิทธิ ขบกรามแน่นด้วยความเจ็บใจที่ถูกเจตรินตลบหลัง แต่เจ้าพ่อมาเฟียอย่างเขามีหรือจะยอมจนมุมง่ายๆ ขู่อีริน่าถ้าจับเขาส่งตำรวจ พ่อขอเธอไม่รอดแน่ ตอนนี้เขาส่งนิโคลัยไปพัทยา ถ้าอยากได้คืนให้ไปตามตัวที่นั่น เจตรินไม่มีทางเลือกจำต้องปล่อยเขาไป...

ฝ่ายจิตรดาราแค้นใจมากที่อารดาใช้ให้พงษ์ธรมาปอกลอก พอเจอหน้าตรงเข้าไปตบไม่เลี้ยง อารดาไม่ยอมแพ้จะตบคืน ศรินทิพย์ปราดมาขวางไว้ สั่งห้ามแตะต้องลูกสาวของเธอเด็ดขาด อารดาขู่ให้เตรียมตัวเข้าคุกตอนแก่ฐานคอร์รัปชันได้เลย ศรินทิพย์ถึงกับปรี๊ดแตก

“ต๊าย มาขู่กันหรือนี่ ผิดหวังที่ตาเจตไปกับเพื่อนรักตัวเองล่ะสิ เลยมาพาลว่าคนอื่น”

จีรณัทย์ขอร้องให้หยุดเถียงกันได้แล้ว เจตรินกลับมากับอีริน่าแล้ว ทั้งอารดา จิตรดาราและศรินทิพย์

ลืมความโกรธเคืองที่มีต่อกัน หันไปมองสองสามีภรรยาที่ยืนอยู่บนระเบียงหน้าบ้านเป็นตาเดียวกัน เห็นกำลังคุยกันกะหนุงกะหนิง แถมเจตรินดึงอีริน่ามากอดจูบ อารดาทนไม่ได้จะไปถามเจตรินให้รู้เรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น จีรณัทย์ทักท้วงตอนนี้เขาคงไม่ว่างให้ถามอะไรหรอก อารดากับจิตรดารามีปากเสียงกันอีก ศรินทิพย์เหลืออดแหวลั่น

“แล้วนี่จะเถียงกันรอให้กอดจูบกันจนมันตั้งท้องอยู่หน้าบ้านหรือยังไง” ศรินทิพย์พูดจบ ก้าวฉับๆออกไปโดยมีอารดากับจิตรดาราตามไปช่วยกันรุมด่าว่าอีริน่า เจตรินรำคาญรีบจูงมือหญิงคนรักจะหนีขึ้นห้อง

ศรินทิพย์ดึงลูกชายมาโอบกอด แล้วแสร้งดึงอีริน่า

มาหอมแก้ม แถมยังบอกว่ารักทั้งคู่มากมาย ทุกคนงงไปหมดกับท่าทีเดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายของเธอ...

หลังจากเจตรินเสี่ยงตายไปช่วยอีริน่า ทำให้ทั้งคู่รักและเข้าใจกันมากขึ้น เขาเตือนเธอ ถ้าจะไปพัทยาต้องดูแลตัวเองให้ดีๆอย่าไว้ใจใครทั้งนั้น แม้แต่คนที่น่าไว้ใจ แล้วเขาจะแอบตามไปช่วยเธอโดยหลอกให้ทุกคนเข้าใจว่าเขาไม่ได้ไปด้วย แต่เธอต้องเก็บเรื่องไว้เป็นความลับห้ามบอกใครเด็ดขาด อีริน่าซึ้งใจมากที่เขาห่วงใย

“คุณเจตคนนี้รักอีริน่า ห่วงอีริน่ามาตั้งแต่วันแรกที่โดนล้วงกระเป๋าแล้ว เราจะไม่ทะเลาะกันอีก เราจะไม่ให้ใครมาทำให้เราผิดใจกันนะที่รัก” เจตรินดึงอีริน่ามากอดด้วยความรักเต็มหัวใจ

ooooooo

ถึงเวลาต้องเดินทางไปพัทยา เจตรินฝากจีรณัทย์ดูแลอีริน่าแทนเขาด้วย แล้ววานให้เธอชวนกมลกันต์ไปด้วย แต่ห้ามบอกให้ใครรู้ เขาจะจัดที่ให้กมลกันต์พักอยู่กับอิทธิ

“อีกเรื่องหนึ่ง ผมอยากฝากให้พี่กมลกันต์ขอให้คุณลุงกันต์ช่วยตรวจสอบหาข้อมูลของมิคาอิลให้ด้วย”...

ขณะเจตรินวางแผนลับอยู่กับจีรณัทย์ จิตรดารากับศรินทิพย์ก็กำลังวางแผนจะเล่นงานอารดาหลังจาก ร่วมมือกันกำจัดอีริน่าพ้นไปจากไอศูรย์ศรินทร์แล้ว สองแม่ลูกเกลียดอารดาเข้ากระดูกดำ แต่เพื่อแผนการใหญ่ทั้งคู่ยอมสงบศึกชั่วคราว จากนั้น จิตรดารา ศรินทิพย์ อารดากับจีรณัทย์และอีริน่าก็ออกเดินทางไปพัทยาโดยมีหวิน สมร ศรีกับแหววตามไปรับใช้...

ไม่ได้มีแต่อารดา จิตรดาราและอีริน่าเท่านั้นที่เขมชาติและพงษ์ธรหลอกให้ไปพัทยา เชอร์รี่ก็เป็นอีกคนหนึ่งที่โดนหลอก พงษ์ธรอ้างว่าที่พาเธอไปพัทยาเพราะต้องการไถ่โทษที่หุนหันผลันแล่นกับเธอเมื่อวันก่อน...

ในเวลาเดียวกัน ที่แหล่งกบดานของมิคาอิลในพัทยา มิคาอิลซ้อมนิโคลัยไม่ยั้งแก้แค้นที่พริมบังอาจวางยาสลบในอาหารที่ทำให้สมุนของตนในมอสโกกิน และกำชับไม่ให้เขาคิดหนีเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะแกล้งให้ลงแดง นิโคลัยคุยว่าจะเลิกยาเสพติดให้ได้ ถ้าทำไม่ได้จะขอตายดีกว่า

“แกจะตายก่อนฉันได้ลูกสาวแกเป็นเมียไม่ได้ ป่านนี้พวกมันคงพากันมาตามหาแกถึงพัทยากันแล้ว”

นิโคลัยดีใจมาก แต่พยายามเก็บอาการไว้ คิดหาทางจะไปเจอลูกให้ได้...

เจตรินนั่งทำงานอยู่ที่กระทรวง ตอนที่อีริน่าไลน์

มาบอกว่าถึงพัทยาแล้ว จังหวะนั้นเลขาฯหน้าห้องเข้ามารายงานว่ามิคาอิลกับนิโคลัยมาเมืองไทยในฐานะนักท่องเที่ยว แต่ที่แปลกมีผู้หญิงเดินทางมาด้วยอีกสิบคน ทั้ง หมดมาในลักษณะต่างคนต่างมา หลังจากลงเครื่องพวกเธอตรงไปพัทยาทันที แต่พักที่ไหนไม่ทราบ

“ส่วนพวกนั้นคงรอจัดการอะไรบางอย่างแล้วตามไปทีหลัง พวกมันคงไม่โง่ที่จะไปพักในโรงแรมให้จับสังเกตได้ มันอาจใช้ชื่อคนอื่นจองที่พัก น่าจะจองล่วงหน้าจากมอสโก แล้ว...จำไว้ว่าถ้าใครโทร.หาผม บอกว่าผมไปต่างประเทศกับท่านทูตนะ” เจตรินพูดจบลุกออกไป...

ขณะที่เจตรินเตรียมเดินทางมาสมทบกับอิทธิและกมลกันต์ซึ่งมารออยู่ที่ที่พักเรียบร้อยแล้ว มิคาอิล

มองดูหญิงสาวในสังกัดที่พามาจากมอสโกแล้วเป็นปลื้มมากที่เห็นโครงการแลกเปลี่ยนผู้หญิงของตัวเองเจริญรุดหน้า นิโคลัยหวังจะได้เจออีริน่า แต่ให้มาอุดอู้อยู่แต่ในร้านแบบนี้ คงเป็นไปไม่ได้ จึงขออนุญาตมิคาอิลไปเดินเล่นที่ชายหาดอ้างว่าหายใจไม่ออก เขาไม่ขัดข้องหันไปชวนสาวๆไปด้วยกัน โดยมีสมุนตามคุมไปอีกทอดหนึ่ง

ครู่ต่อมา สาวๆพากันทำกิจกรรมบนชายหาดอย่างสนุกสนาน โดยที่นิโคลัยนั่งสำรวจไปรอบบริเวณอยู่กับเก้าอ้ีผ้าใบกับสมุนของมิคาอิล สมุนเกิดอยากกินอาหารทะเล สั่งให้เขารออยู่ตรงนี้ ห้ามไปไหนเด็ดขาด

ooooooo

อีกมุมหนึ่งไม่ห่างกันนัก อีริน่าวิ่งอย่างร่าเริงมาตามชายหาด เห็นสาวๆต่างชาติเล่นกีฬาชายหาดกันอยู่ รู้ว่าเป็นรัสเซียเหมือนกัน เข้าไปทักทาย เดินผ่านด้านหลังเก้าอ้ีผ้าใบที่นิโคลัยนั่งอยู่โดยที่ทั้งคู่ไม่เห็นกัน และกัน จีรณัทย์ซึ่งคอยตามมาเป็นเพื่อนอีริน่าเห็นเรือที่ไปเที่ยวเกาะใกล้ออกจากฝั่ง ตะโกนเรียกเธอให้รีบไป

หญิงสาววิ่งปรู๊ดไปอย่างรวดเร็ว จีรณัทย์ตามไม่ทันตะโกนเรียกเธอให้รอด้วย นิโคลัยได้ยินเสียงคนเรียกชื่ออีริน่า ลุกพรวดขึ้นมอง เห็นลูกสาวตัวเองวิ่งไปขึ้นเรือ ดีใจมาก รีบวิ่งไปหา พลางตะโกนเรียก

“อีริน่า...อีริน่าของปาปามาแล้ว”

เสียงเครื่องยนต์ของเรือกลบเสียงนิโคลัยมิด ทำให้อีริน่าไม่ได้ยิน เขาแทบจะลุยทะเลตามเรือที่ลูกนั่งออกไป แต่แล้วเหลือบเห็นเรืออีกลำหนึ่งแล่นเข้ามา นิโคลัยจ้างเรือลำนั้นให้ตามไป แต่ยังไม่ทันจะก้าวขึ้นเรือ สมุนกับมิคาอิลตามมาทัน โวยวายว่าคิดจะหนีหรือ แล้วชกต่อยเขาอุตลุด คนขับเรือจะเข้ามาห้าม พลอยถูกหางเลขไปด้วย จากนั้นมิคาอิลกับสมุนลากนิโคลัยกลับที่พัก...

ทางฝ่ายพงษ์ธรชั่วได้ใจมาก ตกลงเซ้งเชอร์รี่ให้เขมชาติเพื่อเอาไปขายต่อให้มิคาอิลอีกทอดหนึ่งพอได้ รับเงินจัดแจงจะไปเพื่อเปิดทางให้เขมชาติได้สำรวจสินค้าชิ้นนี้ก่อน เชอร์รี่เข้ามากอดแขนพงษ์ธรไว้จะขอไปด้วย เขาไม่ให้ไป สั่งให้อยู่กับเขมชาติเพราะเขาขายเธอไปแล้ว เชอร์รี่โกรธจัดพุ่งเข้าตบตีจิกข่วนพงษ์ธรอุตลุด

“ไม่นะ จะมาทำกับเชอร์รี่แบบนี้ไม่ได้ เชอร์รี่ไม่ใช่สินค้าของพวกแก”

พงษ์ธรตบสั่งสอนไปหนึ่งที แล้วขยับจะไป เชอร์รี่จะตาม เขมชาติกระชากตัวไว้ ก่อนจะเหวี่ยงไปกองกับพื้น ขู่ถ้าไม่หยุดอาละวาดจะโดนซ้อม เธอถึงกับน้ำตาไหลพราก...

ไม่นานนัก เจตรินตามมาสมทบกับอิทธิและกมลกันต์ ตกลงจะไปสอดแนมที่บ้านพักตากอากาศของไอศูรย์ศรินทร์โดยปลอมเป็นเด็กแว้น และเพื่อไม่ให้ใครจำได้ ทั้งสามคนสวมหมวกกันน็อกอำพรางใบหน้า...

ในเวลาต่อมา ที่บ้านพักตากอากาศของไอศูรย์ศรินทร์ ขณะศรินทิพย์ อารดา และจิตรดาราวางแผนจะแยกจีรณัทย์และอีริน่าออกจากกันเพื่อเปิดทางสะดวกให้พงษ์ธรจัดการอีริน่าได้ง่ายๆ มีเสียงเบิ้ลเครื่องมอเตอร์ไซค์ดังมาจากหน้าบ้าน ศรินทิพย์ไม่พอใจมาก สั่งให้แหววไปจัดการไล่พวกกวนเมืองไปให้พ้น

แหววจำเจตรินไม่ได้ ออกมาด่ากราดที่มาส่งเสียงรบกวน ไล่ตะเพิดสามหนุ่มไปให้พ้น จังหวะนั้น พงษ์ธรขับรถเข้ามาพอดี ร้องถามแหววว่ามีอะไรกัน เจตริน อิทธิและกมลกันต์รวมหัวกันแซวเขาอย่างสนุกสนาน แมงดาได้โล่ไม่สนุกด้วย ชักปืนขึ้นมาขู่ ถ้าไม่ไปจากที่นี่จะยิงทิ้ง เจตรินท้าทาย ถ้าไม่ไปจะทำไม เขาต่อยเปรี้ยง เจตรินชกตอบ พงษ์ธรกลัวถูกรุมยิงปืนขึ้นฟ้า อิทธิหมั่นไส้เตะปืนในมือเขาตกพื้น แล้วเอาส่งให้เจตรินถือไว้

แหววเห็นท่าไม่ดีรีบเผ่นเข้าไปฟ้องศรินทิพย์ว่าว่าที่ลูกเขยของเธอกำลังจะโดนพวกเด็กแว้นเล่นงานจิตรดาราพรวดออกไปทันที ศรินทิพย์ได้แรงยุจากแหววรีบตามลูกสาวไปติดๆ...

เมื่อมาถึงหน้าบ้าน ศรินทิพย์ด่าเจตรินในคราบเด็กแว้นไปถึงบรรพบุรุษที่ไม่รู้จักอบรมสั่งสอน เขาไม่อยากมีเรื่องกับแม่ให้เป็นบาปเป็นกรรม ขอร้องให้ต่างคนต่างอยู่ เธอไม่ยอมทำตาม ออกมายืนเท้าเอวท้าสามหนุ่มเหยงๆให้มาสู้กับคนแก่ แล้วบังคับให้ถอดหมวกกันน็อกจะได้เห็นหน้าเลวๆของพวกเขา...

ทันทีที่อีริน่ากับจีรณัทย์กลับมาถึงชายหาด คนขับเรือลำที่นิโคลัยว่าจ้าง เข้ามาต่อว่าว่าเป็นเพราะอีริน่าทำให้เขาถูกชก หญิงสาวงง ตนเองไปเกี่ยวอะไรด้วย

“ก็ไอ้ผู้ชายต่างชาติมันมาเช่าเรือจะไปตามหนู แล้วก็มีไอ้นักเลงมาลากคอมันไปซ้อม แถมมันดันมาชกฉันลงไปกอง ไอ้บ้าเอ๊ย” คนขับเรือบ่นอุบ อีริน่าเดาออกว่าต้องเป็นพ่อ รีบวิ่งไปทันทีโดยมีจีรณัทย์ตามไปติดๆ...

ศรินทิพย์ยังคงยืนจังก้า มองหน้าลูกชายที่สวมหมวกกันน็อกอย่างเอาเรื่อง พงษ์ธร แหวว อารดาและจิตรดาราพยายามบังคับให้ทั้งสามคนถอดหมวกกันน็อกออก เจตรินเห็นท่าไม่ดี สั่งให้อิทธิกับกมลกันต์ถอย พงษ์ธรไม่ยอมรามือ จะให้ทั้งสามคนมากราบเท้าขอโทษที่ล่วงเกินตนเอง แต่ไม่มีใครยอมทำตาม เขากระชากคอเสื้อเจตริน บังคับให้กราบ อิทธิทนไม่ไหวชกหน้าพงษ์ธรล้มคว่ำ

“คนที่ต้องกราบเท้าขอโทษคือแกไม่ใช่พวกเรา”

ไม่พูดเปล่าอิทธิกับสองหนุ่มเดินเข้าหาพงษ์ธร

อย่างเอาเรื่อง จิตรดาราชวนอารดา ศรินทิพย์และแหววหาไม้มาไล่ตีพวกเด็กแว้นเพื่อช่วยเหลือพงษ์ธร ศรินทิพย์ท่าทางเอาเรื่องกว่าเพื่อน เหวี่ยงไม้ใส่เจตรินโดยไม่รู้ว่าเป็นลูกชายตัวเอง แต่ตีพลาดถึงกับเซจะล้ม เขาถลาไปรับไว้ทัน

“ผมว่าคุณแม่...เอ๊ยคุณหญิงน่าจะไปหายาดมมาดมดีกว่ามาไล่ตีพวกผมนะครับ”

“ไอ้ทะลึ่ง หนอยลามปามมาเรียกฉันว่าแม่ เอ๊ะ! เสียงแกมันคุ้นๆฉันขอดูหน้าแกหน่อยซิ ถอดหมวกกันน็อกออกมา” ศรินทิพย์จะคว้าหมวกกันน็อก เจตรินรีบถอยกรูด จังหวะนั้น อีริน่าวิ่งหน้าตื่น ส่งเสียงเอะอะเข้ามาเพราะคิดว่าพ่อตัวเองถูกรุมทำร้าย

“อะไรกันน่ะ อะไรกัน อย่าทำอะไรปาปาฉันนะ”

สามหนุ่มตกใจ ร้องเรียกอีริน่าพร้อมกันโดยมิได้นัดหมาย ศรินทิพย์หันขวับ ถามเสียงเขียวทำไมรู้จักลูกสะใภ้ของตน สามหนุ่มอึกอักไปไม่เป็น โชคดีที่จีรณัทย์มาช่วยแก้สถานการณ์ไว้ทัน อ้างว่าที่พวกนี้เรียกชื่ออีริน่าถูกเพราะได้ยินเธอตะโกนเรียกชื่อนี้ดังลั่นถนน พงษ์ธรกลัวเรื่องจะบานปลาย กระซิบบอกศรินทิพย์ว่าอย่าโวยวายมากไป เดี๋ยวจะพาลเสียงานใหญ่ เธอรีบตัดบท

“เอาล่ะๆพวกแกไปให้พ้น อีริน่าเข้าบ้านซะ หนูดา ลูกจิตเข้าบ้าน คุณพงษ์ด้วย”

เจตรินโล่งอก เดินผ่านอีริน่าพลางกระซิบว่าเขาเอง หญิงสาวตกใจรีบเอามือปิดปากตัวเองกลัวจะอุทานเสียงดัง เขาเตือนให้ระวังตัว คืนนี้พวกมันลงมือแน่นอน แล้วเดินไปขึ้นมอเตอร์ไซค์ เร่งเครื่องจากไป...

ครู่ต่อมา สามหนุ่มขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดข้างทางห่างจากบ้านพักตากอากาศไอศูรย์ศรินทร์พอสมควร ต่างถอดหมวกกันน็อกออก โล่งใจที่เอาตัวรอดมาได้หวุดหวิด พลันมีเสียงร้องไห้คร่ำครวญของหญิงสาวดังมาจากบ้านแถวนั้น ที่แรกเจตรินไม่สนใจ กลัวจะเป็นเรื่องผัวเมียตีกัน แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ได้...

ขณะที่เจตรินกับพวกออกตามหาบ้านต้นตอเสียงคร่ำครวญ ศรินทิพย์กับอารดาหาวิธีแยกจีรณัทย์ออกจากอีริน่าได้สำเร็จโดยใส่ยาถ่ายในน้ำให้จีรณัทย์ดื่ม ครู่เดียวยาออกฤทธิ์ เธอเข้าห้องน้ำจนหมดเรี่ยวแรงไปเที่ยวกลางคืนไม่ไหว อีริน่าจำต้องไปกับจิตรดารา อารดาและพงษ์ธรโดยไม่มีคนตามประกบ

ooooooo

ที่บ้านต้นตอเสียงคร่ำครวญ หลังเสร็จกิจกับเชอร์รี่แล้ว เขมชาติโทร.แจ้งมิคาอิลให้ส่งคนมารับของได้เลย สินค้าพร้อมส่งแล้ว เธอไม่ต้องการเป็นสินค้าของใครพยายามอ้อนวอนขอร้องเขา อย่าทำแบบนี้

“ไม่มีประโยชน์ที่จะมาขอร้องกัน นี่ยา กินเข้าไปสิ แล้วจะได้จิตใจเบิกบาน”

เชอร์รี่ไม่ยอมกิน เขมชาติบีบปาก เอายายัดใส่ แล้วกรอกน้ำตาม เธอพ่นทั้งยาทั้งน้ำใส่หน้าเขาเต็มๆ เขมชาติโกรธจัดตบเธอหน้าคะมำ ในเมื่อพูดกันดีๆ

ไม่รู้เรื่อง เขาหยิบเข็มฉีดยาเสพติดขึ้นมาจิ้มที่ต้นแขนเชอร์รี่ที่หมดทางต่อสู้ ไม่กี่นาที ยาเริ่มออกฤทธิ์ เธอเลิกดิ้นรน เขมชาติมองอย่างพอใจ

“เดี๋ยวลูกค้าของฉัน เขาจะส่งคนมารับแกไป บาย คนสวย”...

ไม่นานนัก เจตริน อิทธิและกมลกันต์หาบ้านต้นตอเสียงคร่ำครวญเจอ พากันซุ่มดูความเคลื่อนไหวอยู่ด้านนอก อิทธิกระเซ้าเพื่อนรัก ไหนว่ายุ่งเรื่องผัวเมียใคร แล้วชวนเราสองคนมาด้อมๆมองๆบ้านคนอื่นทำไม

“ฉันเคยได้ยินเสียงร้องแบบนี้ของคุณเมมาก่อน ฉันก็เลยสงสัยว่าน่าจะเกิดจากความคับแค้นใจจากคนที่ไม่ใช่สามีที่แท้จริง แต่เป็นแมงดาในคราบสุภาพบุรุษ”

ทันใดนั้น มีรถคันหนึ่งแล่นเข้าไปจอด สมุนของมิคาอิลลงจากรถหันไปถามเอื้อซึ่งเป็นคนขับว่าจะไปด้วยกันไหม เขาส่ายหน้า ก่อนจะลงมายืนข้างรถพลางบ่นอย่างไม่สบายใจนัก

“เพราะเงินตัวเดียว เราถึงกลายเป็นคนสารเลว ใจทรามทำลายผู้หญิงไปแล้วหรือนี่ จะทำยังไงดีถึงจะช่วยเธอคนนั้นได้ ลูกเมียใครก็ไม่รู้”

เจตรินแปลกใจที่เห็นเอื้อคนขับรถคนเก่าของบ้านนิมิตภูวนาถมาเกี่ยวข้องกับที่นี่ด้วย ต้องไม่ใช่เรื่องดีแน่ๆ กมลกันต์อาสาจะไปพูดกับเขาเองจะถามตรงๆว่ารู้ใช่ไหมว่าทำเรื่องไม่ถูกต้อง เจตรินไม่เห็นด้วย เพราะมีแผนสำหรับเรื่องนี้ไว้แล้ว...

ขณะที่เจตริน อิทธิและกมลกันต์กำลังหาทางช่วยสาวนิรนามให้รอดพ้นเงื้อมมือคนโฉดชั่ว พงษ์ธรพาอีริน่า อารดาและจิตรดารามาเจอกับเขมชาติที่ผับสุดฮิตของพัทยา อีริน่าไม่ค่อยชอบที่นี่นัก แต่เมื่อถูกอารดาถามว่าชอบหรือเปล่า เธออยากรู้แผนการของพวกนี้จึงปั้นหน้ายิ้มว่าดูน่าสนุกดี พงษ์ธรกระซิบถามเขมชาติว่าเชอร์รี่เป็นอย่างไรบ้าง ได้ความว่าสภาพยังดีมากๆ ตอนนี้เขาส่งเอื้อกับสมุนของมิคาอิลไปรับตัวเอาไปเก็บไว้รวมกับสาวๆคนอื่นแล้ว พงษ์ธรจัดแจงแบ่งสรรปันส่วน โดยจะยกอารดาให้เขา ส่วนอีริน่าพงษ์ธรขอจัดการเอง

 “แล้วจิตรดาราล่ะ”

“ยังเป็นตัวทำเงินทำทอง เก็บเอาไว้ก่อน จะบีบก็ตายจะคลายก็รอด ยังติดฉันทั้งที่โดนซ้อมไปแล้ว”

“เพราะคลิปที่แกถ่ายไว้แบล็กเมล์ล่ะสิ” สองหนุ่มพากันหัวเราะชอบใจ

ooooooo

ในเวลาไล่เลี่ยกัน เจตรินกับอิทธิแอบย่องเข้าไปด้านหลังเอื้อใช้ไม้ฟาดหัวสลบเหมือดแล้วลากไปแอบหลังพุ่มไม้ สมุนแบกเชอร์รี่ออกมาจากบ้าน สอดส่ายสายตาหาเอื้อ ไม่เห็นอยู่แถวนั้นก็เรียกหา สามหนุ่มออกจากที่ซ่อน เจตรินเล็งปืนใส่สั่งให้สมุนวางผู้หญิงลง

“พี่กมลกันต์ใส่กุญแจมือมันไว้”

สมุนเหมือนจะยอมจำนนเอามือไพล่หลังไว้ ขณะกมลกันต์จะใส่กุญแจมือ เขาผลักเชอร์รี่ที่เมายาใส่แล้ววิ่งหนี อิทธิจะวิ่งตาม เจตรินดึงมือไว้บอกให้ปล่อยมันไปมาช่วยกันดูอาการของสาวนิรนามคนนี้ดีกว่า ส่วนเขาจะโทร.ไปแจ้งตำรวจหญิงให้มารับเธอไปอยู่กับเมทินี...

ให้บังเอิญเหลือเกินที่มิคาอิลพานิโคลัยมาที่ผับแห่งเดียวกับที่อีริน่ามา เพียงแต่อยู่กันคนละมุมไม่เห็นกันมาเฟียจอมโฉดชั่วเตือนนิโคลัย ห้ามทำแบบเมื่อตอนบ่ายอีก ได้ยาเสพติดจนหายอยากไปแล้ว ช่วยทำตัวดีๆด้วย เขารับปากจะทำตัวดีๆ แต่มิคาอิลต้องเลิกซ้อมเขาเหมือนกระสอบทราย

“ถ้าแกไม่ก่อเรื่องให้ฉันปวดหัว”

นิโคลัยพยักหน้ารับคำ แต่ในใจกลับคิดตรงกันข้าม “ถ้าฉันจะก่อเรื่องให้แกปวดหัว แกก็ไม่กล้าฆ่าฉันจนกว่าแกจะได้ตัวอีริน่า หลังจากฉันเจออีริน่าแล้ว ชีวิตจะเป็นอย่างไรก็ไม่สำคัญแล้ว”...

อีกมุมหนึ่งของผับ อารดากระซิบเตือนพงษ์ธรให้เริ่มทำตามแผนได้แล้ว มอมยาอีริน่าแล้วพาไปหลอกฟันที่ไหนก็ได้ พงษ์ธรพยักหน้ารับคำแล้วหันไปบอกเขมชาติอีกทอดหนึ่ง เขาปรายตามองอารดาก่อนถามว่าจะให้ทำอย่างไรกับเธอ พงษ์ธรขอให้ใจเย็นๆก่อน สบโอกาสค่อยจัดการ

“ฉันว่าโอกาสน่าจะอยู่ในช่วงเวลาที่พัทยานี่แหละเหมาะที่สุด”

จิตรดารายื่นหน้ามาถามพงษ์ธรว่าคุยอะไรกัน 

เขาแค่บอกเขมชาติว่าเสียใจมากที่วันก่อนทำไม่ดีกับ

เธอไว้ เขากำลังจะไปเรียนต่อ สัญญาจะกลับมาสู่ขอ

เธอทันทีที่เรียนจบ จิตรดาราไม่เคยโกรธเขาแต่เสียใจ

และกลัวจะมีใครมาแย่งเขาไปจากเธอ พงษ์ธรรับประกันไม่มีใครทำอย่างนั้น

“พงษ์บอกคุณเขมเรื่องอารดาหรือยังคะ”

“มันรับเงินไปแล้ว มันต้องทำตามสัญญา ทูนหัวอย่าวิตก”

ระหว่างนั้นมือถือของอีริน่าสั่นเตือนว่ามีข้อความเข้า เธอรีบขอตัวไปห้องน้ำ อารดาสบตากับพงษ์ธรอย่างรู้กัน แล้วบอกเธอว่าจะเตรียมเครื่องดื่มไว้รอ พออีริน่าคล้อยหลังพงษ์ธรเอายาเสพติดใส่แก้วน้ำส้มคั้นของเธอแล้วคนให้ละลาย...

ทางฝ่ายมิคาอิลถึงกับส่งเสียงเอะอะเมื่อสมุนที่ส่งไปรับเชอร์รี่โทร.มาแจ้งว่าโดนทำร้าย มีพวกเด็กแว้นมาชิงสินค้าไป นิโคลัยไม่ได้สนใจเรื่องที่เขาคุยกับสมุน มัวแต่ภาวนาให้เจอลูกสาวอีกครั้งพร้อมกับมองไปรอบๆ

“แกหนีมาได้ แต่ไอ้เอื้อยังไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย บ้าจริง ถ้าเกิดไอ้แว้นพวกนั้นมันเล่นงานไอ้เอื้อตายต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่ๆ แกกลับไปหาไอ้เอื้อให้เจอ แล้วรีบกลับมาหาฉัน” มิคาอิลสั่งเสร็จวางสาย

ทันใดนั้น นิโคลัยเห็นอีริน่าตรงทางเดินไปห้องน้ำ รีบลุกพรวดจะไปหา มิคาอิลหันมาทุบโครมถึงกับทรุดเอ็ดตะโรลั่น ไหนว่าจะอยู่สงบๆแล้วลุกขึ้นมาทำไม เขาจะไปหาอีริน่า มิคาอิลหาว่าเขาประสาทหลอน สั่งให้นั่งลง นิโคลัยต้องการจะปั่นหัวมาเฟียจอมโฉดพุ่งออกจากโต๊ะ มิคาอิลกับสมุนกระชากกลับมาแล้วรุมชกต่อย

นักท่องราตรีเหลียวมองเป็นตาเดียวกัน มิคาอิลรีบหันไปบอกว่าเพื่อนของเขาเมา จึงต้องเตือนสติไม่ให้ไปรบกวนคนอื่น แล้วกระซิบข้างหูนิโคลัย ถ้าไม่อยากตายโดยไม่ได้สั่งเสียลูกสาวก็อาละวาดได้เลย เขาเห็นว่าป่วนพอแล้วจึงนั่งอย่างสงบ มาเฟียจอมโฉดกับสมุนรีบลากเขาออกจากผับ...

ทางด้านอีริน่าเข้าไปในห้องส้วม หยิบมือถือขึ้นมาอ่านข้อความที่เจตรินส่งมาเตือนให้ระวังตัว อย่าดื่มอย่ากินอะไรที่คนอื่นหยิบยื่นให้ทั้งสิ้น หญิงสาวพยักหน้ากับมือถือ รับปากจะทำตามคำเตือนของเขา แล้วส่งข้อความกลับไปหา

“คุณเจตก็ดูแลตัวเองนะคะ อีริน่าเป็นห่วง อีริน่าอยู่ที่ผับนะคะ มิสยูค่ะ”

เจตรินอ่านข้อความแล้วอดยิ้มไม่ได้ เป็นจังหวะเดียวกับเชอร์รี่ได้สติ มองเขากับอิทธิและกมลกันต์ก่อนจะถอยกรูดด้วยความหวาดกลัว คิดว่าพงษ์ธรกับเขมชาติเอาเธอมาขายให้พวกนี้ เจตรินพยายามอธิบายอย่างใจเย็นว่าพวกตนเป็นคนช่วยเธอให้รอดจากเงื้อมมือพวกค้าผู้หญิงข้ามชาติ อีกสักครู่จะมีตำรวจหญิงมารับตัวเธอไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัย เชอร์รี่ถึงได้เบาใจ คลายความหวาดกลัว

ooooooo

สมุนของมิคาอิลกลับมายังบ้านเกิดเหตุ เจอเอื้อที่เพิ่งฟื้นเดินออกมาจากพุ่มไม้ พอรู้ว่าผู้หญิงหายไป ทำท่าจะไปตามเอาคืน สมุนห้ามไว้เนื่องจากเจ้านาย ไม่ต้องการมีปัญหากับตำรวจที่นี่ แล้วบอกให้เขา

รีบไปที่ผับรอรับนายใครนายมัน เอื้อพยักหน้ารับรู้

“เอ่อ...ใครมาช่วยผู้หญิงหรือว่ามาชิงตัวเอาไปอีกที”

“เท่าที่ฟัง มันว่ามาชิง ไม่ได้มาช่วย” คำพูดของสมุน ทำให้เอื้อไม่ค่อยสบายใจนัก สงสารผู้หญิงคนนั้น...

อีริน่าหายไปพักใหญ่ กลับมาที่โต๊ะอีกที อารดาและจิตรดาราเมาทั้งเหล้าเมาทั้งยาพูดอ้อแอ้ไม่ค่อยรู้เรื่อง เธอขอโทษทุกคนที่หายไปนาน เข้าห้องน้ำเสร็จหาทางกลับโต๊ะไม่ถูกเดินหลงออกไปข้างนอก จิตรดาราด่าสวนทันทีว่าโง่ พงษ์ธรกลัวงานจะกร่อย แก้ตัวแทนแฟนสาวว่าแค่พูดล้อเล่น แล้วส่งแก้วน้ำส้มผสมยาเสพติดให้อีริน่าดื่ม ข้อความเตือนที่เจตรินส่งมาทางมือถือผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของเธอ ทำให้ถือแก้วค้าง

จิตรดาราเชียร์ให้ดื่มเสียงลั่นไปหมด พงษ์ธรเห็นเธอเมาปลิ้น ยัดเยียดให้เขมชาติรีบพาไปที่ฟลอร์เต้นรำ อ้างกับเธอว่าเขาจะไปวางแผนเล่นงานอารดา จิตรดารารับคำ ลุกออกไปกับเขมชาติอย่างทุลักทุเล

“บ๊ายบาย เอาไปต้มยำทำแกงที่ไหนก็ตามใจนะ”

อีริน่าฟังแล้วสะดุ้ง ได้แต่คิดอยู่ในใจทำไมอารดาถึงพูดแบบนั้น แถมพงษ์ธรทำเหมือนไม่ห่วงใยแฟนตัวเอง พงษ์ธรเอ็ดอารดาซึ่งเมาแอ่นไม่แพ้จิตรดาราว่าอย่าพูดจา

บ้าบอให้อีริน่าไขว้เขว

“ขอโทษครับอีริน่า ดาเขาเมาเลยพูดจาเพ้อเจ้อ”

“ดื่ม อีริน่าดื่มเข้าไป ดื่มๆๆๆๆ” อารดาดันแก้วน้ำส้มไปที่ปากอีริน่า พงษ์ธรพยายามกันเอาไว้แต่เธอปัดมือเขาไปโดนแก้วบนโต๊ะล้มระเนระนาด ยกเว้นแก้วน้ำส้มของอีริน่า พงษ์ธรอารมณ์เสียโวยลั่นจะบ้าไปถึงไหน อารดาลุกพรวดแต่กลับโงนเงนจะล้ม เขาต้องจับตัวไว้ อีริน่าอาศัยจังหวะนั้น แอบมั่วนิ่มเทน้ำส้มในแก้วลงบนโต๊ะ พอพงษ์ธรหันมามอง เธอทำเหมือนเพิ่งดื่มน้ำส้มหยดสุดท้าย แล้วชูแก้วให้ดู

“หยดสุดท้ายเลยค่ะ ชื่นใจมาก อร่อยจริงๆ”

พงษ์ธรไม่ติดใจสงสัยอะไร ประคองอารดาให้ลงนั่ง อีริน่าจะช่วยจับ เธอปัดมือ ห้ามมาแตะต้องตัวเธอเด็ดขาดนังลูกโสเภณีข้างถนน อีริน่าทำท่าเมา ด่ากลับให้บ้าง จากนั้น สองสาวเปิดศึกหลังมือ ตบตีกันอุตลุด นักเที่ยวต่างส่งเสียงเชียร์กันลั่นผับ พงษ์ธรถึงกับกุมขมับ...

ขณะจิตรดารากำลังเต้นรำกับเขมชาติแบบมันหลุดโลก ได้ยินเสียงนักเที่ยวตะโกนโหวกเหวกว่าผู้หญิงโต๊ะนั้นตบกันมันส์หยด สงสัยจะแย่งผู้ชายกัน จิตรดาราซึ่งเมาได้ที่ ปรี่เข้าไปขอร่วมวงด้วย เขมชาติจะคว้าตัวแต่ไม่ทัน เธอกระโจนใส่อีริน่ากับอารดาที่กำลังตบตีกันอย่างดุเดือด กลายเป็นมวยหมู่ อีริน่าฝีมือเหนือกว่าสองสาวและที่สำคัญไม่ได้เมาจริง อัดสองสาวลงไปกองกับพื้น พงษ์ธรเห็นไม่เข้าทีรีบสะกิดเขมชาติ

“ฉันจะบ้าตายไอ้เขม นายรีบหิ้วจิตรดาราไปให้พ้นจากตรงนี้ไวๆ ไม่อย่างนั้นพังวายวอด”

เขมชาติเข้าไปอุ้มจิตรดาราตัวลอยออกไปทันที ขณะที่พงษ์ธรกระชากอารดาให้ลุกขึ้น แล้วหันไปชวนอีริน่าที่ทำท่าเมาแอ่นกลับบ้าน

ooooooo

เขมชาติอุ้มจิตรดาราออกมาหน้าผับ กวาดตามองหาเอื้อแต่ไม่เห็น อึดใจ เห็นรถของตัวเองแล่นมาจอด พอเขาเห็นสมุนคนสนิทที่ยื่นหน้าออกมาทักทายถึงกับร้องเอะอะว่าไปโดนอะไรมา

“ผู้หญิงโดนชิงตัวไป ผมโดนทำร้าย ไอ้สมุนมิคาอิลนั่นก็โดน”

จิตรดาราดิ้นหนีเขมชาติทำท่าจะไปขึ้นรถของคนอื่น ปากก็ตะโกนลั่น “ไหนเตียง อยากนอนแล้ว”

“นังบ้า เอาสิอยากนอนเตียงก็เอา ไอ้เอื้อรีบเปิดรถจะพานังนี่ไปนอนเตียง” เขมชาติจับจิตรดารายัดใส่รถ นิกกี้ขับมอเตอร์ไซค์เข้ามาเห็นพอดี ดูท่าก็รู้ว่าเธอเมาไม่ได้สติ สะกดรอยตามรถของเขมชาติไปห่างๆ...

อีกมุมหนึ่งด้านหลังผับ เจตริน อิทธิและกมลกันต์ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหลบๆ ครั้นจะเข้าไปหาอีริน่าข้างในก็ไม่กล้า เพราะถ้าถอดหมวกกันน็อก พงษ์ธรเห็นเข้าต้องจำได้ อิทธิเสนอให้จอดรถไว้ตรงนี้ แล้วเดินเตร่ไปซุ่มดูเหตุการณ์ เจตรินเห็นดีด้วย เผื่อมีอะไรไม่ชอบ มาพากลจะได้ช่วยอีริน่าได้ทัน

ครู่ต่อมา สามหนุ่มซึ่งสวมหมวกกันน็อกเดินเตร่มาถึงหน้าผับถึงกับหยุดกึกเมื่อเห็นพงษ์ธรหิ้วปีกอารดาบ่ายหน้าไปทางลานจอดรถโดยมีอีริน่าเดินเซๆตาม

“ไอ้อิฐ ฉันจะตามไปดูว่ามันจอดรถไว้ที่ไหน แกกับพี่กมลกันต์ไปเอารถมา”

“รถมีสามคันนะแก”

“ทิ้งมันไว้ที่นี่คันหนึ่ง เร็ว...เดี๋ยวจะคลาดกัน” เจตรินสั่งการเสร็จ รีบเดินตามอีริน่า...

ตลอดทางไปที่รถ อารดาโวยวายไม่หยุดปากอยากจะหาที่นอน อีริน่าแกล้งส่งเสียงอ้อแอ้ว่าง่วงนอนแล้วทิ้งตัวทันที เจตรินแอบตามมาด้านหลังปราดเข้าไปประคองไว้ทัน พลางกระซิบบอกทั้งๆที่ใส่หมวกกันน็อกว่า “อีริน่าที่รัก นี่ผมเอง” หญิงสาวตกใจ แต่ไม่กล้าร้องเสียงดัง พงษ์ธรหันมาเอ็ดลั่น

“เฮ้ย เกี่ยวอะไรกับพวกแกด้วย ไปให้พ้น”

“ขอโทษ เห็นทำท่าจะล้มเลยมาช่วย”

พงษ์ธรไล่ตะเพิด ไม่ต้องมาช่วย เจตรินหลบออกมาแต่สายตายังคงจับจ้อง เห็นเขาพยายามจะเอาอีริน่านั่งที่นั่งข้างคนขับ เธอรู้ทัน รีบเปิดประตูหลังทิ้งตัวนอนเหยียดยาวบนเบาะ เขาจึงจับอารดานั่งเบาะหน้าแทนแล้วขึ้นประจำที่นั่งคนขับ เจตรินมองตามรถของพงษ์ธรที่แล่นออกไปอย่างใจคอไม่ดี

“ไอ้อิฐ พี่กมลกันต์ ช้าจริง เดี๋ยวก็ตามไม่ทันหรอก”

อึดใจ รถมอเตอร์ไซค์สองคันแล่นมาจอด กมลกันต์ยกรถให้เจตริน แล้วตัวเองโดดซ้อนท้ายรถอิทธิ ก่อนจะพุ่งตามทิศทางที่รถของพงษ์ธรแล่นไป

ooooooo

ในเวลาต่อมา เอื้อขับรถเข้ามาจอดในบ้านของเขมชาติใกล้หาดพัทยา เขมชาติมองจิตรดาราที่เมาคออ่อนคอพับสีหน้ายิ้มย่อง

“เมาไม่มีสติแถมให้ท่าขนาดนี้ ใครจะอดใจไหว ไอ้พงษ์ ฉันขอผิดสัญญา ของแบบนี้ใครดีใครได้ว่ะ”

จังหวะนั้น นิกกี้ขี่มอเตอร์ไซค์มาจอดหน้าประตูรั้ว เขมชาติมองเขม็ง เดินเข้ามาถามว่ามีอะไร เขาแกล้งถามหาบ้านของคุณสามารถ เขมชาติไม่รู้จัก ไล่ตะเพิดเขาไปให้พ้นๆ นิกกี้ค้อมหัวให้แล้วเร่งเครื่องจากไป

ทันทีที่เขมชาติลากจิตรดาราหายเข้าไปในบ้าน นิกกี้แอบย่องกลับมาที่ประตู้รั้วอีกครั้งหนึ่ง เห็นเอื้อลงจากรถ รีบหลบหลังพุ่มไม้...

มอเตอร์ไซค์ของเจตรินกับของอิทธิที่มีกมลกันต์ซ้อนท้ายสะกดรอยตามรถของพงษ์ธรมาถึงทางแยก แต่กลับคลาดกันเพราะมีรถบรรทุกแล่นมาบัง ไม่รู้ว่าเขาเลี้ยวไปทางซ้ายหรือขวา เจตรินกับอิทธิจำต้องแยกกันตาม...

ในเวลาเดียวกัน ขณะจิตรดารากำลังจะถูกเขมชาติลวนลามมีเสียงร้อง “เฮ้ย” ดังมาจากนอกบ้าน เขาถึงกับสะดุ้งคว้าปืนมากระชับไว้ในมือ

อีกมุมหนึ่งบนระเบียงหน้าบ้าน นิกกี้เอาปืนจี้หลังเอื้อ สั่งให้เขาตะโกนดังๆว่าตำรวจมา ให้เจ้านายของเขารีบหนีไปทางประตูหลังบ้าน เอื้อทำตามอย่างว่าง่าย เขมชาติได้ยินเสียงสมุนคนสนิทร้องเตือนตกใจมากขยับจะหนี จิตรดาราผวามาฉุดแขนไว้เมาหนักคิดว่าเป็นพงษ์ธร เขาผลักเธอกระเด็นแล้วเผ่นแน่บไม่เหลียวหลัง นิกกี้ค่อยๆโผล่หัวขึ้นมาดูทางหน้าต่าง พอใจที่ช่วยจิตรดาราพ้นเงื้อมมือคนชั่วได้ทัน...

ฝ่ายเจตรินเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์มาจนเห็นท้ายรถของพงษ์ธรไวๆ ดีใจมากที่ตามถูกทาง แต่อยู่ๆรถที่แล่นสวนมาขับกินเลนเขาต้องหักมอเตอร์ไซค์หลบ พอตั้งลำจะไปต่อกลับพบว่ารถยางแบน รีบโทร.หาอิทธิ

“ฮัลโหลไอ้อิฐ ฉันมาถูกทางแล้ว แต่ดันยางรถแตก แกรีบมาที่นี่ด่วน ฉันจะวิ่งตามรถอีริน่าไป” เจตรินวางสายแล้ววิ่งไปตามรถของพงษ์ธร...

ไม่นานนัก พงษ์ธรมาถึงบ้านเช่าที่เปิดไว้สำหรับนำตัวสาวๆมาตรวจสอบคุณภาพ หันไปมองอารดาที่นอนหลับสนิทอยู่บนเบาะข้างคนขับสีหน้าพึงพอใจในความสวย เสียดายที่ผ่านมาเขาไม่น่ามองข้ามเธอไป นี่ถ้าไม่ติดว่าต้องจัดการอีริน่าก่อน เขาคงไม่ปล่อยเธอไว้แน่ จังหวะนั้นมีเสียงมือถือของพงษ์ธรดังขึ้น

“ฮัลโหล เฮ้ย ว่าไงนะ บ้า ตำรวจไปบ้านเรา แล้วแกพาจิตรดาราไปที่บ้านทำไม โรงแรมมีตั้งแยะ พุ่มไม้แถวใกล้บ้านก็เต็มไปหมด ทำไมแกไม่เอาเธอไปโยนไว้ที่บ้านของเธอเองวะ ต้องหนีหัวซุกหัวซุน บ้าเอ๊ย งั้นแกมาที่นี่มีเศษแบ่งให้กิน ฉันไม่มีเวลาพล่าม แค่นี้นะ อยากมาก็รีบมา” พงษ์ธรตัดสาย แล้วอุ้มอารดาออกจากรถ

อีริน่าค่อยๆผงกหัวขึ้นมอง รอจนกระทั่งพงษ์ธรอุ้มอารดาหายเข้าบ้าน ลุกขึ้นจะหนีแต่แล้วเปลี่ยนใจ

“ถ้าเราหนี เราก็ไม่รู้ว่ามันจะทำอะไรกับเรา เราก็ไม่ได้สั่งสอนมันกับคุณอารดา” คิดได้อย่างนั้น เธอแกล้งหลับต่อไป สักพักพงษ์ธรกลับมาที่รถเพื่อจะอุ้มอีริน่าเข้าบ้าน จังหวะนั้นเจตรินส่งข้อความมาที่มือถืออีริน่า เพื่อกลบเสียงสั่นเตือนของมือถือ หญิงสาวแกล้งกรนครอกๆ พงษ์ธรถึงกับชะงัก

“หน้าตาสะสวย ทำไมนอนกรนเสียงดัง...น่ารักไปอีกแบบ ช่างโชคดีจริงๆ อารดาก็งาม อีริน่าก็สวย อีริน่าฉันจะกินของสวยๆอย่างเธอช้าๆ” พงษ์ธรหยิบเข็มฉีดยาเสพติดขึ้นมา อีริน่าแอบหรี่ตามองก่อนจะลุกพรวดปัดเข็มกระเด็น แล้วถีบท้องเขาจุกตัวงอ

พงษ์ธรตะลึงที่ถูกเธอตบตาว่าเมา ชักมีดขึ้นมาจะแทงอีริน่าเตะมีดกระเด็น แล้วตามเข้าไปเตะซ้ำล้มคว่ำไม่เป็นท่า เธอเหลือบไปเห็นเข็มฉีดยาตกอยู่ จับมาฉีดเขาแทน แมงดาได้โล่ถึงกับร้องเสียงหลง สักพักก็สิ้นฤทธิ์ เธอถอดเสื้อผ้าเขาออกเหลือบ็อกเซอร์ตัวเดียว เอามีดของเขาเองกรีดยางรถทั้งสี่เส้น ก่อนจะโยนกุญแจรถทิ้ง

“คุณอารดา คุณใจดำทำกับฉันราวกับไม่ใช่คน คุณต้องได้รับการสั่งสอน”

ooooooo

จากนั้น อีริน่าเข้าไปในบ้าน ถอดเสื้อผ้าอารดา ออก แล้วเอาผ้าห่มมาคลุมตัวไว้

“เมาแล้วก็หลับให้สบายนะคะคุณอารดา ฉันไม่อยากทำร้ายอะไรคุณมาก มันบาป ขอแค่เสื้อผ้าของคุณ เอาไปหาที่เก็บให้ใหม่ก็พอแล้ว โชคดีนะคะที่นี่อยู่ใกล้ทะเล ใส่ชุดชั้นในเดินเล่นหาดทราย หาทางกลับบ้านก็ไม่น่าเกลียด”

เจตรินส่งข้อความมาที่มือถือของอีริน่า ถามว่าอยู่ที่ไหน ปลอดภัยดีหรือเปล่า เธอยิ้มหวานให้มือถือแล้วพิมพ์ข้อความไปหาสามีสุดเลิฟ

“ปลอดภัยดีมากค่ะ อีริน่าจะออกมาเดินลัดเลาะแถวข้างถนน แต่ต้องแอบๆหลังต้นไม้นะคะ อีริน่ากลัวคนร้าย ให้คุณเจตกะพริบไฟรถสามทีมาเป็นระยะๆ ถ้าอีริน่าเห็นจะออกมาให้เห็นตัว”

เจตรินอ่านข้อความจากอีริน่าแล้วสบายใจมากที่เธอไม่เป็นอะไร พลันมีแสงไฟจากรถยนต์สาดเข้ามา เขารีบหลบหลังต้นไม้ เห็นรถตู้คันหนึ่งแล่นผ่าน โดยไม่รู้ว่านั่นเป็นรถของเขมชาติกำลังมุ่งหน้าไปที่บ้านหลังนั้น...

ขณะที่อีริน่าเดินลัดเลาะมาตามต้นไม้ริมถนนพร้อมกับเสื้อผ้าหอบหนึ่ง เจตรินส่งข้อความมาหาอีกครั้ง

“อีริน่า เดินย้อนกลับมาทางที่รถแล่นไปบ้านหลังนั้น ระวังตัวให้ดีด้วย รักที่สุด”

หญิงสาวยกมือถือขึ้นมาจุ๊บประหนึ่งว่าเป็นเจตรินตัวเป็นๆ พลันมีนกกลางคืนบินเฉี่ยวหัว เธอตกใจโดดออกมายืนกลางถนน เป็นจังหวะเดียวกับรถตู้ของเขมชาติเลี้ยวเข้าซอยมาพอดี เธอเห็นท่าไม่ดีจะวิ่งหนี เขมชาติสั่งให้เอื้อเอารถไปดักหน้าไว้

“อีริน่าหยุดก่อน เกิดอะไรขึ้น ทำไมมาวิ่งข้างถนนอยู่คนเดียวแบบนี้ คนอื่นหายไปไหนหมด” เขมชาติทำเนียนไม่รู้เรื่อง อีริน่ารู้ทันว่าเสแสร้ง ขอให้หลีกทาง เธอจะกลับบ้าน เขมชาติมั่นใจต้องมีอะไรไม่ชอบมาพากล ชักปืนขึ้นมาทันที อีริน่าไวทายาดเตะปืนกระเด็น

“อย่านึกว่าไม่รู้นะว่าพวกแกกำลังทำความเลวอะไรกัน”

“เกิดอะไรขึ้นกับสองคนนั่น อารดากับพงษ์” 

เขมชาติไม่พูดเปล่าเตะตัดขาจนอีริน่าล้ม

จากนั้นทั้งคู่ต่อสู้กัน ผลัดกันรุกผลัดกันรับ โดยมีเอื้อยืนมองสีหน้าไม่สบายใจ เขมชาติเริ่มพลาดพลั้งถูกอัดลงไปกองกับพื้น ร้องเรียกสมุนคนสนิทลั่น

“ไอ้เอื้อ ยืนเฉยทำไม ทำอะไรสักอย่าง ช่วยฉันจับนั่งนี่”

เอื้อมองไปเห็นไม้ท่อนเขื่อง หยิบมาแอบไว้ด้านหลัง รอจังหวะที่เขมชาติเผลอ รีบส่งไม้ให้อีริน่าซึ่งไม่รอช้าฟาดใส่แมงดาพันธุ์แท้เต็มๆถึงกับลงไปนอนแน่นิ่ง

“ขอบคุณนายเอื้อมาก นายเอื้อเป็นคนดี แล้วทำไมมาสมัครใจอยู่กับคนเลว”

“ผมอยากกลับตัว แต่คงสายไปแล้ว คุณอีริน่าครับ ช่วยผมคิดได้ไหมว่าผมควรทำยังไง ถึงจะรอดพ้นจากความผิดที่ไม่ช่วยเจ้านาย”

อีริน่าเอาไม้ท่อนนั้นฟาดหัวเอื้อทรุดฮวบ แล้วจัดการเจาะยางรถทั้งสี่เส้น ถอดเสื้อผ้าเขมชาติและของเอื้อออกหมดเหลือเพียงชุดชั้นใน ก่อนจะหอบเสื้อผ้าของทุกคนเดินลัดเลาะไปตามต้นไม้ริมถนน

ooooooo

ไม่ห่างจากบ้านเกิดเหตุนัก เจตรินขี่มอเตอร์ไซค์นำรถของอิทธิที่มีกมลกันต์ซ้อนท้ายมาตามถนน โดยรถทั้งสองคันกะพริบไฟหน้าเป็นสัญญาณตามที่นัดไว้กับอีริน่ามาตลอดทาง หลังจากได้รับข้อความล่าสุดจากเธอ เจตรินโบกมือให้อิทธิจอดรถข้างทาง

“อีริน่าส่งข้อความมาบอกว่าข้ามถนนมารอฝั่งเดียวกับเรา ให้สังเกตเสื้อผ้าที่แขวนอยู่ที่กิ่งไม้ฝั่งเดียวกับเรา อีริน่าจะแอบดูเราอยู่ ถ้าใช่ เธอจะออกมา” พูดจบเจตริน ขี่มอเตอร์ไซค์ตรงไปยังจุดหมาย

ไม่นานนัก เจตรินก็เห็นเสื้อผ้าแขวนอยู่บนต้นไม้ริมทาง รีบจอดรถตะโกนเรียกอีริน่าให้ออกจากที่ซ่อน เธอค่อยๆโผล่มาจากหลังพุ่มไม้ สองคนดีใจที่ได้พบกันโผกอดกันแน่น ลืมไปว่าไม่ได้อยู่กันตามลำพัง อิทธิต้องกระแอมทั้งคู่จึงผละจากกันอย่างเขินๆ อีริน่าขอบคุณทุกคนที่มาช่วยเหลือ

“ช่วยที่ไหนกัน อีริน่ารอดมาเองนะครับ เก่งที่สุด” อิทธิมองเธออย่างชื่นชม แล้วถามว่าพวกนั้นอยู่ที่ไหนกันหมด อีริน่าบอกด้วยสีหน้ายิ้มๆว่าหลับอยู่ แล้วเดินไปเก็บเสื้อผ้าที่แขวนบนต้นไม้ ก่อนจะชวนทุกคนกลับ เจตรินอดสงสัยไม่ได้ว่าไปเอาเสื้อผ้าพวกนั้นมาจากไหน เธออ้างว่าซื้อก่อนจะเข้าไปเที่ยวผับ ทุกคนแปลกใจ แต่ไม่ติดใจจะซักอะไรอีก...

ทางด้านจิตรดาราทั้งตกใจทั้งโกรธเมื่อฟื้นคืนสติขึ้นมาแล้วเจอนิกกี้นั่งลอยหน้าอยู่ใกล้ๆ ทุบตีเขาอุตลุด ปากก็ด่าว่าต่างๆนานา คิดว่าเขาขโมยข่มขืนตัวเอง นิกกี้รวบมือเธอไว้

“จิต พูดบ้าๆน่า เราสองคนไม่ต้องขโมยไม่ต้องข่มขืน จำบ่ได้แล้วก๋า ไปกลับบ้าน ผมจะไปส่ง”

หญิงสาวไม่ยอมไปด้วย ยังเคืองไม่หายที่นิกกี้ไปชิงตัวเธอมาจากพงษ์ธร แต่พอได้รู้ว่าที่แท้แล้วเขาช่วยเหลือให้เธอพ้นจากเงื้อมมือชั่วๆของเขมชาติ เธอถึงกับอึ้ง

“ขอบใจที่ช่วย พาฉันไปส่งที่บ้าน แล้วห้ามพูดเรื่องนี้กับใครเด็ดขาด ฉันจะทำเซ่อๆต่อไป ฉันรู้แล้วว่าใครกันที่วางแผนร้ายนี้กับฉัน” จิตรดาราแค้นใจมาก มั่นใจเกินร้อยว่าเป็นอารดา แต่กลับไม่พูดอะไร...

พงษ์ธรรู้สึกตัวตื่นขึ้น พบตัวเองล่อนจ้อนเหลือแต่กางเกงบ็อกเซอร์อยู่ตัวเดียว รีบวิ่งเข้าบ้าน แค้นใจอีริน่ามากอยากจะนำตัวมาแล่เนื้อเอาเกลือทาให้หายแค้น แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นอารดานอนห่มผ้าหลับใหลไม่ได้สติ

“ไม่ได้อีริน่า ได้อารดามาทดแทนก็ยังถือว่าไม่เสียเที่ยว เอาวะ” พงษ์ธรไม่รอช้าสอดตัวเข้าไปในผ้าห่มผืนเดียวกับอารดาทันที...

ขณะที่อารดาตกเป็นเหยื่อสวาทของพงษ์ธร เจตรินขี่มอเตอร์ไซค์มาส่งอีริน่าที่หน้าบ้านพักตากอากาศของไอศูรย์ศรินทร์ ดึงเธอมากอดพลางกระซิบ ถ้าไม่ติดอิทธิกับกมลกันต์ที่จ้องตาแป๋วอยู่ จะกอดจูบเธอให้สมใจ สองหนุ่มเหมือนจะรู้ใจรีบหันหน้าไปทางอื่น เจตรินจูบเธอฟอดใหญ่ อีริน่าสะบัดตัวหนีเข้าบ้านอย่างเขินๆ

อิทธิหันมามองเพื่อนรักก่อนจะยกนิ้วหัวแม่โป้งให้ จากนั้นสามหนุ่มเร่งเครื่องมอเตอร์ไซค์จากไป...

ด้านอีริน่าหอบเสื้อผ้าของพงษ์ธรกับพวกวิ่งเข้าบ้านชนกับแหววที่วิ่งสวนออกมา แหววอดสงสัยไม่ได้ทำไมเธอกลับมาคนเดียว เธออ้างว่าอยากกลับก่อน แล้ววานแหววช่วยเอาเสื้อผ้าไม่พึงประสงค์พวกนี้ไปหน่อย

“ไม่พึงประสงค์แล้วเอามาทำไมคะ”

“เอามาดูทิศทางลม” พูดจบอีริน่ายัดเสื้อหอบนั้นให้ พร้อมกับกระซิบบางอย่าง แหววถึงกับหัวเราะคิกๆ

ooooooo

พงษ์ธรเสร็จกิจกับอารดาแล้วกำลังจะลงจากเตียง ตอนที่เขมชาติเปิดประตูห้องนอนเข้ามาในสภาพสวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว ถึงกับอึ้งที่เขาโดนอีริน่าเล่นงานเช่นกัน เขมชาติคลำหัวตัวเองป้อยๆ

“หัวฉันด้วย มันตีจนสลบเหมือด”

“ฉันก็ไม่น้อยหน้า นังบ้านี่มันเก่งเกินไปแล้ว”

จังหวะนั้น อารดาครางเบาๆเรียกหาเจตรินเพราะคิดว่าคนที่นอนกับตัวเองคือเขา พงษ์ธรชมเธอให้เขมชาติฟังว่านี่เป็นสินค้าชั้นดีเยี่ยม ยินดีส่งต่อให้เพื่อนทดสอบ ส่วนเขาขอกลับก่อน เขมชาติทักท้วงจะไปทั้งๆที่ไม่มีเสื้อผ้าหรือ เขาไม่ได้แวะที่ไหนคงไม่มีปัญหา แล้วอวยพรให้เพื่อนโชคดี เขมชาติรอจนกระทั่งพงษ์ธรลับสายตา จึงเดินไปที่นั่งที่เตียงลูบไล้แก้มอารดาสีหน้าหื่นกระหาย เธอดึงมือเขาไปแนบแก้มยิ้มมีความสุข

“พี่เจตขา ดามีความสุขมากที่สุดค่ะ ในที่สุดความรักของดาก็สมหวัง”

เขมชาติไม่พูดอะไร ก้มลงไปจะจูบ อารดาลืมตามอง พอเห็นหน้าชัดๆถึงกับร้องลั่นไล่เขาไปให้พ้น เขมชาติทำเป็นตัดพ้อเพิ่งมาถึงจะไล่ไปไหน คนที่เพิ่งออกไปคือพงษ์ธร อารดาถึงบางอ้อทันทีว่าเสียท่าให้พงษ์ธรไปเรียบร้อย ขยับจะลุกจากเตียง เขมชาติผลักเธอกลับไปนอนอย่างเดิมแล้วโถมตัวตาม...

อีกมุมหนึ่งนอกตัวบ้าน พงษ์ธรยืนหน้าบอกบุญไม่รับเมื่อเห็นยางรถของตัวเองแบนทั้งสี่เส้น พลันมีเสียงกรีดร้องของอารดาดังลั่น จนเขาต้องเอามือปิดหู อดสมน้ำหน้าเธอไม่ได้ สุดท้ายก็หนีไม่พ้นเขากับเขมชาติ จากนี้ไปจะรีดเงินจากเธอให้สนุกมือ อารามใจลอยถึงเหยื่อรายใหม่ไม่ทันเห็นร่างเกือบเปลือยของเอื้อที่นอนสลบไสลอยู่ สะดุดแทบล้ม เอื้อรู้สึกตัว มองพงษ์ธรที่นุ่งกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวอย่างงงๆพลางชี้นิ้วมาที่เขา

“แกไม่ต้องมาชี้ ดูสารรูปตัวเองก่อนเถอะ”

เอื้อก้มมองตัวเองแล้วแอบขำให้กับความเจ้าเล่ห์ของอีริน่า พงษ์ธรสั่งให้เขาเอากุญแจเขมชาติมาให้เพราะรถตัวเองยางแบน เอื้อชี้ไปที่รถของเจ้านายซึ่งสภาพยางไม่ต่างจากรถของพงษ์ธร...

จนแล้วจนรอด อีริน่าก็ไม่ยอมบอกแหววว่าเสื้อผ้าที่ช่วยกันแขวนโตงเตงอยู่บนต้นไม้หน้าบ้านพักตากอากาศเป็นของใคร ให้เธอรอดูเอาเองตอนที่เจ้าของมาทวงคืน แล้วหัวเราะกันคิกคัก มีเสียงมอเตอร์ไซค์แล่นมาจอดหน้าบ้าน สักพัก จิตรดาราเดินหน้าหงิกเข้ามาเห็นอีริน่าถึงกับก้าวขาค้าง ทั้งตกใจทั้งผิดหวังที่เธอกลับมาอย่างปลอดภัย ไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน...

ศรินทิพย์เองก็รู้สึกแบบเดียวกับลูกสาวคนเล็ก พยายามซักถามอีริน่าว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วอารดา พงษ์ธรและเขมชาติไปไหน เธอโกหกว่าไม่ทราบ ขอตัวกลับห้องไปพักผ่อน ก่อนจะเดินออกไปกับจีรณัทย์ จิตรดาราเองก็ไม่ยอมบอกอะไรแม่เช่นกัน ได้แต่บ่นอยากจะฆ่าอารดา แล้วเดินหนีขึ้นบ้านไปหน้าตาเฉย

ooooooo

ที่บ้านเช่าซึ่งพงษ์ธรเอาไว้สำหรับทดสอบสินค้า อารดาตีอกชกตัวเป็นการใหญ่ที่ต้องเสียตัวให้ผู้ชายถึงสองคนในคืนเดียว ถ้าเจตรินรู้เรื่องนี้ ชีวิตเธอคงป่นปี้ พงษ์ธรปลอบถ้าเธอไม่พูดก็ไม่มีใครรู้ แล้วทวงเงินค่าจ้างที่ให้จัดการกับอีริน่าแม้งานจะไม่สำเร็จ ขู่ถ้าไม่ให้จะเอาคลิปฉาวที่แอบถ่ายเธอกับพวกตนไปโพสต์ให้ว่อนเน็ต

“หน้าตาของดาเห็นถนัดชัดเจน แต่หน้าตาของพวกเราซ่อนกันไว้มิดชิด หรือว่าจะให้ส่งให้เจตไว้ดูเล่น”

อารดาร้องห้ามเสียงหลง เขมชาติแนะให้เธอไปมีอะไรกับเจตรินให้เร็วที่สุด แล้วมัดมือชกอย่าให้เขารอดไปได้ เผื่อท้องขึ้นมาจะได้โบ้ยไปให้เจตรินรับผิดชอบ หากเธอทำให้เจตรินมานอนด้วยไม่ได้ เราสองคนจะช่วยเอง แต่ตอนนี้เธอต้องหาเงินมาจ่ายค่าจ้างให้ก่อน อารดาส่ายหัวดิกไม่ยอมจ่าย สองแมงดาปีกเพชรช่วยกันรุมซ้อม เธอจึงยอมรับปากจะหาเงินมาให้

อีกมุมหนึ่งหน้าบ้าน เอื้อสสดใจมากที่ได้ยินเสียงกรีดร้องของอารดา ทนไม่ไหวต้องเอามืออุดหู...

ขณะที่เวรกรรมติดจรวด ตามเอาคืนอารดาจนตั้งตัวไม่ติด จีรณัทย์ตัดสินใจเปิดเผยความจริงให้อีริน่ารู้ว่าอารดามีเอกสารสำคัญที่จะเอาผิดศรินทิพย์ฐานฮั้วประมูล เพื่อจะแบล็กเมล์ให้เจตรินหย่าขาดจากอีริน่าแล้วไปแต่งงานกับเธอ จะได้ใช้นามสกุลไอศูรย์ศรินทร์เพื่อล้างอาย

“ในฐานะที่อีริน่านามสกุลไอศูรย์ศรินทร์ อีริน่าควรช่วยกันปกป้องตระกูลเราเอาไว้”

“เอกสารนั่นอยู่ที่ไหนคะ”

จีรณัทย์รู้ว่าอารดาเอาติดตัวไว้ตลอดเวลา น่าจะอยู่ในกระเป๋าถือของเธอ และมีเพียงอีริน่าคนเดียวเท่านั้นที่จะขโมยมันมาจากอารดาได้...

นับเป็นโชคดีของตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ กระเป๋าถือของอารดาอยู่รวมกับเสื้อผ้าที่อีริน่ากับแหววช่วยกันโยนขึ้นไปห้อยโตงเตงอยู่บนกิ่งไม้ เพื่ออำพรางไม่ให้ใครเห็นหน้า จีรณัทย์ แหววและอีริน่าสวมผ้าคลุมสีดำใส่หน้ากากผีไปช่วยกันใช้ไม้สอยกระเป๋าถืออารดาที่ค้างอยู่บนยอดไม้...

ดึกสงัดคืนนั้น อารดาใช้ผ้าปูที่นอนห่อตัวเดินมาตามถนนเลียบชายหาดกับเขมชาติ พงษ์ธรและเอื้อซึ่งสวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียว เธอกระตุ้นให้ทุกคนเร่งฝีเท้าขึ้นอีกต้องรีบกลับไปเอากระเป๋าถือคืนจากอีริน่าเพราะในนั้นมีเอกสารแบล็กเมล์ตระกูลไอศูรย์ศรินทร์ให้หมอบราบคาบแก้วต่อเธอ เอื้อไปที่นั่นไม่ได้ ถ้ามีคนเห็นเขาเข้าต้องเกิดเรื่องใหญ่แน่

“ฉันกับไอ้เอื้อจะไปจัดการเรื่องยางรถกับกุญแจรถ ไม่นึกเลยว่าอีริน่าคนนี้จะฤทธิ์เดชมากมาย” เขมชาติพูดจบเดินแยกไปอีกทางหนึ่งกับสมุนคนสนิท...

ศรินทิพย์นอนไม่หลับผุดลุกผุดนั่งเพราะไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมอีริน่าปลอดภัยกลับมาแต่อารดาหายตัวไป คาดคั้นให้จิตรดาราเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เธอไม่มีอะไรจะเล่า แค่อยากจะบอกท่านว่าบางทีเราอาจมองคนผิด ไอ้ที่ว่าร้ายอาจกลายเป็นดี  ไอ้ที่ว่าดีอาจเลวร้ายกว่าที่คิด จังหวะนั้นจิตรดารามองไปนอกหน้าต่างเห็นอะไรบางอย่างอยู่บนยอดไม้ ชี้ชวนให้แม่ไปดู พอเพ่งดูดีๆปรากฏว่าเป็นกระเป๋าถือ ศรินทิพย์งงใครเอาขึ้นไปไว้

“แต่กำลังมีใครพยายามสอยมันให้หล่นจากยอดไม้ค่ะคุณแม่”

สองแม่ลูกมองไล่ไปตามไม้ที่กำลังสอยกระเป๋า ตกใจกรี๊ดสนั่นเสียงราวกับเปรตมาขอส่วนบุญเมื่อเห็นผีในชุดผ้าคลุมสีดำ อีริน่าต้องการแกล้งสองแม่ลูก ส่งเสียงครางอือๆแล้วดัดเสียงให้ฟังดูหลอนๆ

“เปรตที่มาขอส่วนบุญจงฟังเราผู้เป็นเทวดาอารักษ์ต้นไม้และพื้นดินของที่นี่ พวกเจ้าทั้งสองบาปหนามากคิดร้ายต่อคนดีๆอย่างอีริน่า จงสำนึกแล้วเปลี่ยนใจก่อนที่นรกจะส่งอสูรกายไปตะครุบพวกเจ้า หลบไปซะๆ”

สองแม่ลูกตาเหลือกโดดผลุงเดียวขึ้นไปอยู่บนเตียงดึงผ้ามาคลุมโปงกอดกันกลมด้วยความหวาดกลัว...

ในที่สุดอีริน่าก็สอยกระเป๋าถือของอารดาลงมาได้ จีรณัทย์รีบหยิบซองใส่เอกสารในนั้นขึ้นมาเปิดดู แล้วพยักหน้าเป็นทำนองว่านี่คือสิ่งที่ต้องการ อีริน่าบอกให้เธอเก็บเอาไว้ อย่าเพิ่งให้ใครเห็น

“จ้ะ เอาล่ะได้ของแล้ว แหววเอากระเป๋าไปไว้คืนที่ยอดไม้”

อีริน่าสั่งให้แหววลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ให้หมด แล้วชวนจีรณัทย์เข้าบ้าน

ooooooo

เช้ามืดวันถัดมา ขณะเจตริน อิทธิและกมลกันต์ในคราบเด็กแว้นสวมหมวกกันน็อกขี่รถมาดูลาดเลาหน้าบ้านพักตากอากาศของไอศูรย์ศรินทร์ เห็นอารดาในชุดผ้าปูที่นอนกำลังยืนลุ้นพงษ์ธรที่สวมกางเกงบ็อกเซอร์ตัวเดียวให้ปีนต้นไม้หน้าบ้าน แต่ปีนไม่ขึ้น เดี๋ยวหล่นๆอยู่อย่างนั้น สามหนุ่มงงมากทำไมทั้งคู่ถึงแต่งตัวแบบนั้น

“ทำไมเสื้อผ้าสองคนนั้นไปแขวนอยู่บนยอดไม้” อิทธิจ้องไม่วางตา

กมลกันต์จำได้ว่าเมื่อคืนเสื้อผ้าเหล่านี้แขวนอยู่ที่กิ่งไม้ข้างทาง และอีริน่าหอบเอากลับมาด้วย อิทธิกับกมลกันต์เดาได้ไม่ยากว่าเกิดอะไรขึ้นถึงกับขำก๊าก ขณะที่เจตรินบ่นไปส่ายหน้าไป

“อีริน่าร้ายกาจแท้ๆพวกเราไปช่วยสองคนนั่น ก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง”...

ฝ่ายศรินทิพย์กลัวจนขึ้นสมอง เรียกคนในบ้านทั้งหมดมารวมตัวที่ห้องของเธอ แจกดอกไม้ธูปเทียนเพื่อขอขมาเทพารักษ์ที่ปรากฏตัวให้เห็นเมื่อตอนดึก พลันมีเสียงวี้ดว้ายดังมาจากหน้าบ้านพร้อมกับเสียงหมาเห่าทุกคนพากันลุกไปดู เห็นอารดากับพงษ์ธรกำลังถูกหมาไล่ฟัด จิตรดาราไม่รอช้าวิ่งพรวดออกไปทันที...

เจตรินกับพวกในคราบเด็กแว้นเข้ามาเบิ้ลเครื่องมอเตอร์ไซค์ไล่หมาจนวิ่งหนีหางจุกก้น พงษ์ธรกับอารดาจำได้ว่าเป็นพวกที่มาก่อกวนเมื่อวันก่อนก็ไล่ตะเพิด เป็นจังหวะเดียวกับพวกศรินทิพย์กรูกันออกจากบ้านต่างตะลึงกับสภาพของพงษ์ธรและอารดา ศรินทิพย์ซักเป็นการใหญ่ว่าเกิดอะไรขึ้น ทั้งคู่อึกอักแก้ตัวไม่ทัน

“โจรปล้นแน่ๆเลยใช่ไหมคะ” อีริน่าแก้ตัวให้ เจตรินแกล้งว่าโจรบ้าที่ไหนปล้นแต่เสื้อผ้า น่าจะปล้นสวาทมากกว่า อารดาถึงกับสะดุ้ง ศรินทิพย์ไล่พวกเด็กแว้นไปให้พ้นจากบ้านของตน ขณะที่จิตรดาราสั่งให้แหววไปหาเสื้อผ้ามาให้พงษ์ธรสวม เธอไม่รู้จะไปหาที่ไหนให้ ในบ้านพักมีแต่ผ้าถุงกับเสื้อคอกระเช้า

“ผมว่าน่าจะเอาไม้สอยเสื้อบนยอดไม้นั่นคืนมานะครับ ส่วนคุณผู้หญิงก็กลับเข้าบ้านก่อนที่น้องหมาจะหวนมากัดอะไรที่ไม่บังควรนะครับ” เจตรินแนะ

อารดาไม่ยอมไปไหนทั้งนั้น ต้องการกระเป๋าถือ ตัวเองคืน เพราะถูกหมาเลวขโมยไปแขวนบนยอดไม้อีริน่าทำหูทวนลม ยื่นไม้สอยให้ จีรณัทย์ทนอับอายไม่ไหวชวนแม่เข้าบ้าน เจตรินขอตัวกลับเช่นกัน แล้วเดินโฉบมาใกล้อีริน่า แซวว่าเธอนี่แสบจริงๆคิดแผนการแบบนี้ได้อย่างไร หญิงสาวเล่นทีเผลอชกท้องเขาหนึ่งที แถมด่าว่าทะลึ่ง อิทธิกับกมลกันต์หัวเราะชอบใจก่อนจะพากันขี่รถจากไป อารดาขอให้พงษ์ธรช่วยสอยกระเป๋าถือลงมาให้ อีริน่าขยับจะเข้าบ้าน อารดากระชากไหล่ไว้จะเอาเรื่องที่ขโมยกระเป๋าของเธอไป

อีริน่าขู่จะฟ้องเจตรินให้มาสอบสวนทุกคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องที่เธอถูกวางยา อารดากลัวเรื่องจะบานปลายขอร้องอย่าบอกใครทั้งนั้น เธอขอเวลาสักพักจะจัดการเขมชาติกับพงษ์ธรให้ แล้วถามอีริน่าว่ายุ่งกับกระเป๋าของเธอหรือเปล่า อีริน่าโกหกว่าไม่ไดแตะต้อง แล้วเดินเลี่ยงออกมา ในที่สุดพงษ์ธรสอยกระเป๋าถืออารดาลงมาจนได้ เจ้าของรีบเปิดดูปรากฏว่าซองใส่เอกสารหายไป ถึงกับขบกรามแน่นด้วยความแค้น...

เพื่อป้องกันเอกสารหลักฐานการฮั้วประมูลจะถูกเจ้าของขโมยกลับคืน อีริน่าแนะให้จีรณัทย์เผาทิ้ง

ooooooo

สะใภ้หัวแดง

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด