ตอนที่ 14
ที่ตลาดชุมชน เป็นเวทีแรกที่แม่เลี้ยงออกหาเสียง ภายใต้สโลแกน “รักบ้านเกิด เชิดชูล้านนา โปรดเลือกแม่เลี้ยงอมรา”
แม่เลี้ยงใส่หมวกปีกกว้าง ขึ้นเวทีโบกมือทักทายชาวบ้านเยี่ยงนักหาเสียงทั้งหลาย แม่เลี้ยงไม่ทันปราศรัย สองผัวเมียที่ผ่านมาเห็นก็โต้เถียงจนตบตีกัน ตาผัวบอกว่า
“เฮาบ่เลือกหรอก คนขี้โกง ทำนาบนหลังคน”
“แต่เฮาเลือกนายกเทศมนตรีหญิงคนแรกของบ้านเฮาโว้ย” แล้วสองผัวเมียก็ตบตีกันเองอุตลุด
ที่ร้านหนานเทือง พีรพงษ์เดินเข้ามาแจกแผ่นพับ มือยื่นแผ่นพับให้ปากก็ขออย่างอ่อนน้อม “เบอร์ 10ครับ”
“ลูกชายผู้แทนวันนี้ นอบน้อมผิดกับเมื่อก่อน ยังกะฟ้ากับเหว” สายพิณเบ้ปาก
“เขาจะมารับใช้ประชาชน ต้องสุภาพหน่อย”หนานเทืองพูดแทรกเบาๆ พลันเสียงแม่เลี้ยงก็ดังผ่านไมค์มาว่า
“นโยบายของเรารถอีแต๋นคันแรก เกษตรกรที่มาซื้อเต็นท์รถ ลดทันทีห้าพันบาท เราจะประกันราคาไข่เป็ดห้าบาททุกฟองค่ะ”
สิ้นเสียงแม่เลี้ยง บัวหอมที่เป็นหน้าม้าก็ปรบมือนำ ทุกคนก็เลยปรบตาม
พีรพงษ์ฉวยโอกาสนี้ แสดงความสนิทสนมความเป็นเจ้าของ คอยซับเหงื่อให้โสภิต เธอเอียนๆเบื่อๆแต่ก็ปั้นหน้ายิ้มตามมารยาท ในหมู่ชาวบ้านที่มาฟังนั้น มีจีรณะปะปนอยู่ด้วย เขาแต่งตัวเป็นชาวสวน บุญมีกับดุ๋ยและไทรประกบอย่างใกล้ชิด จีรณะเห็นพีรพงษ์ใกล้ชิดกับโสภิตก็แทบจะทนไม่ได้ จนบุญมีต้องจับมือเตือนสติ
“อย่า ไอ้จี เดี๋ยวน้าลุยเอง” แล้วเดินออกไปตะโกนขึ้นว่า “ลดแลกแจกแถมแบบนี้ มันก็ซื้อเสียงทางอ้อมชัดๆ พวกเราคิดให้ดี ได้ของถูกก็จริง แต่ภาระหนี้สินที่เหลือใครจะรับผิดชอบ ที่ผ่านมา ถูกนายทุนมันขูดเลือดขูดเนื้อยังไม่เข็ดกันอีกเหรอ”
แม่เลี้ยงจำได้ว่านั่นคือบุญมีที่เคยเป็นลูกหนี้ตน พีรพงษ์สะอึกออกไปตะโกนใส่หน้าว่า
“เฮ้ย! แกว่าใครซื้อเสียงวะ”
“คุณไปถามพ่อคุณดีกว่ามั้ง เรื่องนี้พ่อคุณถนัด” บุญมีสวนทันควัน ดุ๋ยกับไทรนำชาวบ้านโห่ลั่น
พีรพงษ์คำรามจะเล่นงาน โสภิตรีบห้ามไว้ชวนกลับกันดีกว่า แต่แม่เลี้ยงยังเจื้อยแจ้วบนเวทีไม่หยุด...
“พี่น้องหมู่เฮา ขอให้เชื่อนะคะว่าดิฉันตั้งใจมาทำงานรับใช้พี่น้องจริงๆ” บุญมีสวนไปว่ายังไม่ได้ตำแหน่งก็พูดอย่างนี้แหละ ชีพเถียงแทนว่า แม่เลี้ยงอุตส่าห์ยกหนี้ให้ ควรจะสำนึกบุญคุณแม่เลี้ยงบ้าง
“ก็กะมา ถอนทุนคราวนี้ละวะ นึกว่ารู้ไม่ทันเหรอ!” บุญมีโต้ทุกเม็ด ชาวบ้านเห็นด้วยฮือกันขึ้นมา พีรพงษ์ทนไม่ไหวสะบัดจากโสภิตตรงรี่จะเข้าไปหาบุญมี ชีพกับลูกน้องพรวดเข้าสมทบ ชาวบ้านบางส่วนรีบเข้าขวาง
“อย่าตีกัน คนบ้านเดียวกันทั้งนั้น” หนานเทืองรีบเข้าขวาง โสภิตก็จะเข้าไปห้ามแต่ถูกชาวบ้านชนกระเด็นออกมา จีรณะโอบรับไว้ เธอหันมองตะลึง
“ผมบอกแล้วไง เรื่องเรามันไม่จบง่าย” จีรณะพูด
หน้าเกือบสัมผัสกัน แต่เสียงเอะอะโวยวายทำให้โสภิตหันไปมอง พอหันกลับมาอีกที ปรากฏว่าจีรณะหายไปแล้ว
ooooooo
คืน นี้ ขณะพิมพรเข้าไปดูบ็อบบี้ในห้องนอนจับนอนให้สบายห่มผ้าให้ แต่ขณะกำลังจะออกจากห้องนั่นเอง มือถือดังขึ้น เธอกดทิ้งเพราะเห็นเบอร์แปลกๆ แต่อึดใจเดียวก็ดังขึ้นอีก รำคาญเลยกดรับ
เป็นสายจากโธมัสพ่อของบ็อบบี้ เขาดีใจมาก บอกว่า “ผมคิดถึงคุณ คิดถึงลูก จะมาหาคุณเดี๋ยวนี้”
พิมพรปฏิเสธทันทีว่าไม่ได้ เรื่องของเราจบแล้ว โธมัสไม่ยอม เธอจึงตัดปัญหา บอกเขาว่า
“ฉัน แต่งงานใหม่แล้ว อย่ามายุ่งกับเราแม่ลูกอีกเลย” บ๊อบบี้ตื่นขึ้นมาถามอย่างตื่นเต้นว่าเด็ดดี้จะมาหาเราหรือ พิมพรไม่ตอบแต่จับบ็อบบี้ดึงขึ้น “ลุกขึ้นบ็อบบี้ เราต้องไปแล้ว”
แม่เลี้ยงกลับจากหาเสียงอย่างกระปลกกระเปลี้ยเข้ามานั่งแผ่ที่ห้องรับแขก แต่ปากก็ยังก่นด่าพวกบุญมีว่าเป็นพวกถ่วงความเจริญ ชักไม่อยากเป็นนายกเทศมนตรีเสียแล้ว ไม่อยากไหว้พวกนั้นให้เสียมือ
“พวกเขาก็แค่อยากจะมายั่วให้แม่โมโหเท่านั้นแหละ ค่ะ ถ้าแม่เหนื่อยถอนตัวตอนนี้ก็ยังทันนะคะ” โสภิตเสนอ
“โอ๊ย...เรื่องอะไร ลงทุนลงแรงมาจนป่านนี้” แม่เลี้ยงสะบัดเสียงแต่ยังนั่งหมดสภาพอยู่
พิมพรจูงบ็อบบี้ลงมาพร้อมกระเป๋าใบโต เห็นพวงเอาน้ำมาให้แม่เลี้ยงพอดีจึงสั่งให้เอากระเป๋าไปไว้ที่รถให้ด้วย พวงถามว่าจะพาบ็อบบี้ไปแอ่วที่ไหนหรือ แม่เลี้ยงก็ถามว่าจะหอบหิ้วหลานตนไปไหนอีก
พิมพรละล่ำละลักบอกว่าโธมัสตามตนเจอแล้วและจะมาเอาบ็อบบี้กลับไป แม่เลี้ยงถามว่าไหนว่าเลิกกันแล้วเธอจึงยอมรับว่าตนพาลูกหนีเขามา
“แกไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น ถ้ามันเสนอหน้ามาฉันจะจัดการโยนมันออกไปเอง” แม่เลี้ยงเสียงแข็ง
โสภิตติงว่ายังไงเขาก็เป็นพ่อบ็อบบี้ ตัวบ็อบบี้เองก็ร่ำร้องอยากเจอแด๊ดดี้ขอร้องคุณยายอย่าทำอะไรแด๊ดดี้ โสภิตจึงสะกิดบอกพิมพรกับแม่เลี้ยงอย่าพูดเรื่องนี้ต่อหน้าบ็อบบี้เลย แม่เลี้ยงสงสารหลานจึงหยุดพูด
พิมพรพาบ็อบบี้กลับขึ้นไปที่ห้องนอน ขณะเธอเข้าไปอาบน้ำนั้น บ็อบบี้แอบเอามือถือแม่มากดดูเบอร์โทร.เข้า
ooooooo
รุ่งขึ้นบ็อบบี้ขี่จักรยานหนีไปหาจีรณะที่บ้าน ขอให้ครูจีพาไปหาแด๊ดดี้ พลางส่งกระดาษจดที่อยู่ให้
“โรงแรมเวียงนคร แล้วบ็อบบี้ทำไมไม่ให้มามี้พาไป” จีรณะถาม
“มามี้โกรธแด๊ดดี้...บ็อบบี้...บ็อบ...บี้...” หนูน้อยเอามือกุมหน้าอกฟุบไป
เช้าวันเดียวกันแม่เลี้ยงเรียกทนายมาหาแง่มุมทางกฎหมายสู้กับโธมัสเพื่อยื้อหลานไว้เลี้ยงเอง แต่พอรู้ว่าถ้าฟ้องร้องกันจะต้องเสียค่าใช้จ่ายเป็นล้านแม่เลี้ยงก็ลืมเรื่องหลานหันมาด่าพิมพรว่าเกิดมาล้างผลาญตนจริงๆ
โสภิตถามพิมพรว่าคุยกับโธมัสไม่ได้หรือ พิมพรตัดบทว่าตนบอกเขาไปว่าแต่งงานใหม่แล้ว ไม่มีอะไรจะคุยกันอีก
“เราอาจมีทางรอด การมีครอบครัวที่อบอุ่นสมบูรณ์ แบบพ่อ แม่ ลูก คือประโยชน์สูงสุดของเด็ก ในที่นี้หมายความว่าพ่อหรือสามีใหม่ต้องเป็นคนที่น่าเชื่อถือของวงสังคมด้วยนะครับ” ทนายชี้ทางออก
“แม่เลี้ยงเจ้า...คุณบ็อบบี้หายตัวไป พวงตามหาที่ไหนก็บ่มี” พวงวิ่งหน้าตื่นเข้ามาบอก
“โธมัสต้องมาขโมยบ็อบบี้ไปแน่” พิมพรฟันธง
มือถือโสภิตดังขึ้นพอดี เธอดูหน้าจอพึมพำ “คุณจิตรา”
ooooooo
จีรณะพาบ็อบบี้ไปโรงพยาบาล จิตราดูแลอย่างใกล้ชิด เธอปลอบใจพี่ชายว่าบ็อบบี้ถึงมือหมอแล้วไม่ต้องห่วง เดี๋ยวพวกแม่เลี้ยงคงมาถึง แต่จีรณะก็ยังไม่ยอมกลับเชื่อว่าตนช่วยหลานพวกเขา คงไม่ถูกหักหลังส่งตนเข้าตะราง
จิตราติงว่าคนเราจิตใจไม่เหมือนกัน จีรณะขอดูให้แน่ใจก่อนว่าบ็อบบี้ปลอดภัยแล้วตนจะกลับ
บ็อบบี้ไม่ยอมให้หมอตรวจดิ้นรนจะลุกไปหาแด๊ดดี้เพราะนัดกันไว้ จนจีรณะต้องสัญญาว่า ถ้าบ็อบบี้ยอมให้หมอตรวจจะพาไปหาพ่อ ถามว่า “โอเคไหม สัญญาลูกผู้ชาย”
“สัญญาลูกผู้ชาย I BELIEVE YOU” บ็อบบี้กำหมัดชนกันกับจีรณะ และยอมให้หมอครอบออกซิเจนให้ระหว่างนั้น แม่เลี้ยง พิมพร และโสภิตหน้าตาตื่นมาถึง แม่เลี้ยงถามจ๋าที่เป็นพยาบาลว่าหลานตนอยู่ห้องไหน
“เดี๋ยวค่ะ ยังเข้าไปไม่ได้นะคะ ระหว่างรอคุณไปติดต่อห้องพิเศษเอาไว้ดีไหมคะ เสร็จแล้วจะได้ย้ายเข้าไปเลย”
ฟังพยาบาลจ๋าแล้ว โสภิตบอกให้แม่กับพิมพรรออยู่ตรงนี้ก่อนเดี๋ยวตนจะจัดการให้ พอโสภิตเดินไปแม่เลี้ยงถามจ๋าว่าตกลงใครเป็นคนพาบ็อบบี้มาส่งโรงพยาบาล ขณะจ๋าอึกอักนั้น บุรุษพยาบาลก็เข็นเตียงบ็อบบี้ออกมา จีรณะกับบ็อบบี้จับมือกันแน่น จิตราเดินตามมาด้วย
เป็นเรื่องทันที! แม่เลี้ยงโวยวายว่าจีรณะจับตัวหลานตนมา เต้นเร่าๆจะจับจีรณะให้ได้ ไม่ว่าจิตราจะชี้แจงอย่างไรก็ไม่ฟัง ตรงเข้าไปดึงมือจีรณะออกมา แต่บ็อบบี้จับไว้แน่นใช้อีกมือดึงฝาครอบออกซิเจนออกลุกขึ้นกอดจีรณะไว้ บอกว่า
“ครูจีไม่ได้จับบ็อบบี้ บ็อบบี้ขอให้ครูจีพาไปหาพ่อเอง” พิมพรหาว่าโกหก “บ็อบบี้ไม่ได้โกหก มามี้ไม่ยอมให้แด๊ดดี้มาหาบ็อบบี้ บ็อบบี้ก็ต้องให้ครูจีพาไปหาแด๊ดดี้เอง” บ็อบบี้พูดไปหอบไป
จีรณะโมโหท้าว่าถ้าอยากจับตนก็ไปตามตำรวจมาเลย จิตราตัดบทว่าตนต้องพาบ็อบบี้ไปตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วเข็นเตียงไปทันที ทั้งที่จีรณะกับบ็อบบี้ยังจับมือกันแน่น พิมพรวิ่งตาม ส่วนแม่เลี้ยงตีหน้ายักษ์คำราม
“ไอ้จี! แกท้าทายฉัน ได้!!!”
ooooooo
พิมพรวิ่งตามทันจีรณะ เธอพูดออกตัวว่าเขาต้องเดือดร้อนเพราะตนกับบ็อบบี้ จีรณะจึงย้ำเตือนว่า
“เด็กเป็นผ้าขาวเขาไม่เกี่ยวกับเรื่องสกปรกของผู้ใหญ่ เรื่องพ่อของบ็อบบี้ ผมว่าคุณควรให้เขาได้พบกัน”
“คุณไม่เข้าใจฉัน ฉันไม่ได้รักโธมัส ฉันรักคนอื่นแล้ว” พูดแล้วมองหน้าจีรณะนิ่ง จนเขาอึ้ง รีบขอตัวไปรออีกด้านหนึ่ง แล้วเดินไปเลย
แต่พอแยกจากพิมพร ก็มาเจอโสภิตเข้าพอดี
เธอถามเขาว่ามาที่นี่ได้ยังไงลืมไปแล้วหรือว่าตัวเองมีหมายจับติดตัว
“ก็พูดมาตรงๆว่าห่วงผม ผมไม่มีศัตรูที่ไหน ยกเว้นคนในบ้านคุณ ก็ให้มันรู้ไปว่าผมจะทำคุณบูชาโทษโปรดสัตว์ได้บาป!”
จีรณะบอกเธอว่าตนเป็นคนพาบ็อบบี้มาโรงพยาบาลเอง เพราะ... “บ็อบบี้ไปหาผมที่บ้านจะให้ผมพาไปหาพ่อ เพราะพวกคุณกีดกันไม่ให้พ่อลูกพบกัน นึกไม่ถึงว่านอกจากเคี่ยว เค็ม กับคนอื่นแล้ว กับลูกหลานคุณก็ยังใจดำได้ขนาดนี้!”
โสภิตตวาดว่านั่นเป็นเรื่องในครอบครัวตน ไล่เขาไปให้พ้น อย่ามาให้เห็นหน้าอีก จีรณะทำเสียงอ้อนกวนๆว่า
“นานๆได้เห็นหน้าเมียที ผมไม่ไปง่ายๆหรอก”
แต่พอเธอสะบัดออกไปก็เกิดหน้ามืด จีรณะตกใจถามว่าเป็นอะไร จะพาไปหาหมอเพราะเธออาจจะท้องก็ได้ ถูกเธอสวนทันทีว่า “ถึงท้อง คุณก็ไม่ใช่พ่อ รู้ไว้ด้วย!”
“แล้วใคร! ใครที่เป็นพ่อ!!” จีรณะโมโหจับไหล่สองข้างดันเธอเข้าไปชิดผนัง เธอดิ้นจึงดันกันอยู่อย่างนั้น
“ปล่อยแฟนฉันเดี๋ยวนี้!” พีรพงษ์ตวาด ตรงเข้ากระชากจีรณะออกไปต่อยอย่างไม่ให้ตั้งตัว แม่เลี้ยงก็มาผสมโรงด่าจีรณะว่าเป็นไอ้วายร้าย บอกตำรวจให้ลากตัวไปเลย! ตำรวจจะเข้าไปจับจีรณะ พิมพรวิ่งเข้ามาขวางเต็มตัว ร้องบอก
“เดี๋ยวค่ะ พิมขอร้องล่ะแม่ ปล่อยคุณจีเถอะ” แม่เลี้ยงด่าว่าบ้าไปแล้วหรือ “พิมไม่ได้บ้าค่ะ แต่พิมยอมให้คุณจีติดคุกไม่ได้ เพราะคุณจีเป็นสามีของพิม”
ทุกคนตะลึงงัน พิมพรตรงเข้าไปกอดจีรณะกระซิบบอกเขา “นี่เป็นวิธีเดียวที่คุณจะรอด” ถูกแม่เลี้ยงสั่งให้ปล่อยเธอสวนไปทันที “ไม่ค่ะ ถ้าแม่จะจับคุณจี พิมจะยอมเข้าคุกไปกับเขา”
“นังพิม!!” แม่เลี้ยงแค้นแทบกระอักเลือด แต่เมื่อนึกถึงคำแนะนำของทนายที่ว่าถ้าสามีใหม่ของพิมเป็นคนน่าเชื่อถือปัญหาก็จะง่ายขึ้นมาก แม่เลี้ยงจึงตัดสินใจ “ได้! ฉันยินดีจะเจรจาสงบศึกกับ...เธอ...จีรณะ เพื่อลูกและหลานของฉัน”
“ข้อเสนอของแม่เลี้ยงคืออะไรไม่ทราบ” จีรณะถาม
แม่เลี้ยงบอกว่าที่แล้วมาเขาจะมีความสัมพันธ์กับพิมอย่างไรตนไม่รู้แต่ต่อไปนี้ “ฉันจะจ้างให้เธอยอมมาเป็นผัวปลอมๆของยัยพิม เพราะฉันต้องการจะจบปัญหากับผัวฝรั่งของมัน ถ้าเธอตกลง ฉันจะให้คุณพงษ์กับนายยศยอมถอนแจ้งความให้”
เสนอแล้วเห็นจีรณะนิ่ง แม่เลี้ยงถามว่าตกลงว่าไง จีรณะถามถึงค่าจ้าง แม่เลี้ยงกัดฟันถามว่าเขาต้องการเท่าไหร่!
“ค่าจ้างผมจะบอกทีหลัง ถ้าต้องการให้ผมจด ทะเบียนกับคุณพิม ก็จะต้องให้ผมย้ายเข้าไปอยู่ในคุ้มอมราก่อน”
เป็นเงื่อนไขที่ทำเอาแม่เลี้ยงอึ้งสนิทคิดหนัก
จีรณะมองพีรพงษ์กับยศอย่างเป็นต่อ
ooooooo
เมื่อคุณวุฒิรู้ เขาพูดให้พีรพงษ์สบายใจว่า คนดีศรี สังคมแต่เป็นลูกเขยเจ้าแม่เงินกู้ คิดว่ามันเป็นเพราะอะไร?
จิตราก็คิดไม่ตกถามพี่ชายว่าทำแบบนี้เพื่อประชดโสภิตใช่ไหม เขาบอกว่าทำเพื่อไม่ให้บ็อบบี้เตลิดไปมากกว่านี้จิตราติงว่า ทำแบบนี้เท่ากับบ็อบบี้กำลังเป็นเหยื่อของผู้ใหญ่ต่างหาก
“พี่รับรอง บ็อบบี้จะได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้น้อยที่สุด ที่สำคัญพี่ก็ได้เป็นอิสระ ได้มาร่วมงานแต่งงานของจิตกับไอ้ก้องไง”
แต่เมื่อจิตราโทรศัพท์คุยกับผู้กองเกียรติก้อง ผู้กอง เชื่อว่าจีรณะต้องมีแผนอะไรแน่ รับปากว่าจะรีบลงมาหา
ส่วนพิมพรยอมไปพบโธมัส แต่พบเพื่อบอกเขาว่าตนแต่งงานใหม่แล้ว ที่นัดมาก็เพราะอยากจะตกลงกับเขาดีๆ ขณะเดียวกัน จีรณะก็กำลังเล่นอยู่กับบ็อบบี้ที่สวนหย่อมในโรงพยาบาล โธมัสเห็นบ็อบบี้ก็ทำท่าจะไปหา ถูกพิมพรเบรกว่า
“ฉันไม่อยากให้บ็อบบี้สับสน ตอนนี้บ็อบบี้กำลังจะลืมคุณ เขารักคุณจีรณะมาก ขอให้ฉันกับลูกได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะ” โธมัสถามว่าสามีใหม่ของเธอเป็นใคร “คุณจีรณะ ทำงานพัฒนาสังคม ทั้งสอนหนังสือเด็กและดูแลเรื่องป่าไม้ เขาเป็นคนดีมาก เราจดทะเบียนกันถูกต้องตามกฎหมาย ฉันรับรองว่าเขาจะดูแลบ็อบบี้ได้ดี”
“ผมไม่เชื่อว่าใครจะรักบ็อบบี้ได้เท่ากับผม ผมจะจ้างทนายความมาฟ้องเอาลูกคืน!” พูดแล้วผลุนผลันไปเลย
พิมพรใจหาย ส่วนจีรณะพอเห็นโธมัสเดินผละไปเขาก็รู้สึกละอายใจไม่น้อย...
ฝ่ายแม่เลี้ยง เสียดายเงินค่าทนายเป็นล้าน จึงจ้างจีรณะให้ปลอมเป็นสามีพิมพร พอพวงถามก็คาดโทษว่า
“มันเป็นได้แค่ผัวกำมะลอเท่านั้น จำไว้นะ แกต้องคอยกีดกันนังพิม อย่าให้มันกับไอ้จีมีอะไรกันอีกเด็ดขาด ถ้านังพิมมันท้องขึ้นมาเมื่อไหร่ ฉันเอาเรื่องแกแน่”
ooooooo
ที่โต๊ะอาหารคุ้มแม่เลี้ยงคํ่านี้ บรรยากาศบนโต๊ะอึดอัด อึมครึม แม่เลี้ยงพูดกระแนะกระแหนจีรณะจนเขารวบช้อนลุกไปทั้งที่เพิ่งนั่งกิน พูดเหน็บแม่เลี้ยงว่า กินของดีๆ แล้วมันเสาะท้อง ขอออกไปเดินย่อยอาหารหน่อย
ออกไปเดินที่หน้าคุ้ม เจอพีรพงษ์ขับรถมาส่งโสภิตพอดี พีรพงษ์พยายามที่จะจูบเธอ แต่โสภิตบ่ายเบี่ยงอ้างว่ายังไม่ได้อาบนํ้า แต่พีรพงษ์ก็ใช้กำลังจะแต๊ะอั๋งให้ได้
จีรณะเดินไปเคาะกระจกรถ ถูกพีรพงษ์ด่าว่าทำบ้าอะไร จีรณะอ้างว่าตนเป็นเขยใหญ่ของบ้านที่จะต้องตรวจตราดูแลความปลอดภัยของคนในบ้าน เย้ยพีรพงษ์ว่า “ส่วนคุณเมื่อไหร่ยังไม่รู้”
โสภิตเห็นท่าจะมีเรื่องกัน จึงขอให้พีรพงษ์กลับไปเสียอย่ามีเรื่องกับคนไม่เต็มบาทแบบนี้เลย พอพีรพงษ์ขับรถไป จีรณะก็เดินตามเธอไป เธอหันขวับถามว่าต้องการอะไร? ถูกจีรณะย้อนถามว่า “ผมอยากตอบว่าต้องการคุณได้ไหม”
ครั้นเธอถามว่าแม่จ้างเขาเท่าไหร่ถึงได้ยอมขายศักดิ์ศรีขนาดนี้ จีรณะตอบกวนๆ ว่ายังไม่ได้เคาะตัวเลข ขอดูก่อนว่าพี่สาวเธอจะใช้งานตนหนักแค่ไหน
“ถ้าคุณไม่ได้รักพี่พิม ขอร้องอย่า...”
“อย่าอะไร?? อย่าทำเหมือนที่เคยทำกับคุณเหรอ” เขาก้าวเข้าประชิดจ้องลึกเข้าไปในดวงตาจนต่างหวั่นไหว พลันก็สะดุ้งผละจากกันเมื่อพิมพรร้องเรียกจีรณะ โสภิตรีบหลบไปหลังพุ่มไม้ พิมพรถามว่าเขาอยู่กับใครหรือ “เปล่าครับ ไม่มี ผมเห็นเงาอะไรวูบๆ เลยเดินมาดูแต่น่าจะเป็นแมว ไปเถอะครับ” พูดแล้วพาพิมพรออกไป โสภิตมองตามแค้นๆ
ooooooo
ยศย่ามใจเอาจดหมายมาให้นิตยาเซ็นอีกหลายใบ แต่คราวนี้เธอไม่ยอมเซ็นเพราะระแคะระคายเรื่องไม่ชอบมาพากลและเป็นห่วงพ่อ
เมื่อนิตยาไม่ยอมเซ็น ยศจึงพยายามเซ็นปลอมเอง พีรพงษ์มาเจอถามว่าทำอะไรอยู่ ยศบ่นอย่างหัวเสียว่า
“ก็เมียผมน่ะสิครับ เล่นตัวไม่ยอมเซ็นอีกแล้ว มันอ้างว่ามีคนมาเตือน” พีรพงษ์ถามว่ามีใครรู้เรื่องนี้บ้าง “ไม่รู้...แต่ผมว่าอย่าไปใช้มันเลยลายซงลายเซ็นนี่ ผมก็เสียวๆอยู่ กลัวพ่อตาจับได้”
แต่คนเบาปัญญาอย่างยศ พอถูกพีรพงษ์ทั้งขู่ หว่านล้อมและเอาผลประโยชน์มหาศาลล่อก็ยอมตามเคย
ยศไปหาจิตราที่โรงพยาบาลเพื่อขอความช่วยเหลือ ถูกจิตราปฏิเสธซ้ำยังควงผู้กองเกียรติก้องไปกินข้าวกันบอกยศว่าตนกับผู้กองจะแต่งงานกันในอีกไม่นานนี้แล้ว ทำให้ยศถึงกับหมดแรง
ขณะจิตรากับผู้กองทานอาหารกันอยู่นั้น เห็นนิตยาเดินเมาๆ ไปห้องน้ำ และถูกชายสองคนเข้าไปลวนลามเธอ ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อผู้กองเข้าไปช่วย เธอกอดเขาไว้แน่นหลับหูหลับตาร้องไห้รำพัน...
“พี่มนัส...พี่จริงๆด้วย นิตนึกไว้ไม่ผิดถ้านิตเดือดร้อน พี่มนัสจะต้องเข้ามาช่วยนิตแน่นอน ฮือๆๆ”
เมื่อผู้กองกับจิตราเรียกจนเธอได้สติ จึงพาไปนั่งพัก นิตยาร้องไห้คร่ำครวญกับจิตราว่า ตนกำลังตกนรกเพราะไม่ได้แต่งงานกับคนที่ตนรัก ฟ้าดินกำลังลงโทษตนที่แย่งยศจากเธอไป บอกว่ายศยังรักเธออยู่ ตนจะคืนเขาให้เธอ
จิตราปลอบใจว่าเธอกำลังเมา รีบกลับไปเถิด ยศรอเธออยู่ นิตยาบอกว่าตนไม่เคยมีอะไรกับยศ เด็กในท้องก็เป็นลูกของมนัส
วันต่อมานิตยาจึงนัดมนัสมาพบกันที่สวนสาธารณะ พอพบกัน นิตยาไม่ทันพูดอะไร สายพิณก็โผล่ออกมาแสดงตัวเป็นเจ้าเข้าเจ้าของมนัส ทำให้นิตยาทั้งแค้นทั้งเสียใจประกาศตัดขาดกับมนัส พอเธอหนีไป มนัสขอบคุณสายพิณที่ช่วยตน สายพิณทำตาปริบๆ บอกว่า
“ยังไงก็บ่ต้องเกรงใจเน้อ เฮาน่ะเป็นแฟนคุณมนัสจริงๆก็ได้”
มนัสตกใจรีบขอตัวไป สายพิณมองตาละห้อยอย่างแสนเสียดาย...
ส่วนนิตยาพอกลับไปที่รถ นั่งร้องไห้อยู่อึดใจเดียวก็ฮึดขึ้นมาปาดน้ำตาจนแห้ง ยกมือถือโทร.หายศทันที
“พี่ยศ นิตขอค่าเซ็นเอกสาร 5 ล้าน ตกลงไหม!”
ooooooo
ฝ่ายพิมพร เมื่อแม่เลี้ยงยอมให้จีรณะมาเป็นสามีกำมะลอก็เปิดฉากรุกจะเปลี่ยนให้เขาเป็นสามีตัวจริงให้ได้ถึงขั้นเข้าหายั่วยวน
จีรณะรู้ทัน ป้องกันตัวเองและยืนยันกับพิมพรว่าสิ่งที่ตนทำนั้นเป็นเพียงการแสดงตามความต้องการของแม่เลี้ยงเท่านั้น พิมพรอ้อนว่าตนรักเขา จีรณะย้ำเตือนว่า “เราไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรักนะครับ”
พิมพรถามว่าเขาปฏิเสธตนเพราะมีโสภิตใช่ไหม จีรณะตัดโสภิตออกไปบอกว่านี่เป็นเรื่องระหว่างเราและ ขอโทษเธอด้วย พิมพรถึงกับน้ำตาคลอ ฝืนยิ้มบอกว่า “ค่ะ ...พิมจะพยายามเข้าใจ” แล้วเดินผิดหวังกลับห้องตัวเอง
พวงที่ถูกแม่เลี้ยงคาดโทษไว้ เห็นพิมพรเข้าไปหาจีรณะในห้องก็ตาลีตาลานไปบอกโสภิตให้ช่วยไปกีดขวาง
“เขาสองคนไม่ใช่เด็กแล้วพี่พวง เขารู้ว่าอะไรเป็นอะไร” พวงอ้อนวอนว่าถ้าแม่เลี้ยงรู้ว่าเราเห็นแต่ไม่ไปห้าม แม่เลี้ยงต้องเล่นงานตนตายแน่ “ป้าพวงก็บอกว่าอยู่กับภิต ไม่รู้ไม่เห็นสิคะ ภิตนอนก่อนนะคะ”
พูดแล้วปิดประตูเข้าห้องเลย แต่พอพ้นสายตาพวง เธอก็เครียด สับสน...เจ็บปวด
ในที่สุดทนหัวใจตัวเองไม่ได้ เดินไปที่หน้าห้องจีรณะ หยุดต่อสู้กับความคิดของตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องของเรา แต่ก็ถามตัวเองว่าถ้าจีรณะไม่จริงจังกับพิมพรล่ะ แก้ต่างให้ตัวเองว่าตนไม่ได้หึงแต่ทำเพื่อพิมพรต่างหาก
ขณะละล้าละลังนั่นเอง จีรณะโผล่ออกมาถามว่ามาทำอะไรลับๆล่อๆหน้าห้องตน โสภิตตั้งหลักไม่ทัน
อ้างว่าตนมาหาพิมพร ถามว่าพี่พิมอยู่ในห้องใช่ไหม?
จีรณะดึงเธอเข้าห้องปิดประตูล็อก พอเธอโวยวายเขาถามว่าเธอจะมาหาพิมพรไม่ใช่หรือ บอกว่าพิมพรออกไปแล้ว ถามให้เธอต้องตอบว่า “คุณรักนายพงษ์เหรอ?”
“ตอนนี้ความรักไม่จำเป็นสำหรับฉัน” เขาถามอีกว่าแล้วเธอรักใคร “ฉัน...ฉันไม่ได้รักคุณก็แล้วกัน แต่ที่ฉันรู้คือพี่พิมรักคุณมาก ถ้าคุณไม่รักพี่ฉันก็กรุณาอย่าทำเขาเสียใจ” พูดแล้วเดินออกจากห้องไปอย่างไม่แยแส จีรณะฟังแล้วนั่งเซ็ง
ooooooo
คืนนี้ ขณะพีรพงษ์พาโสภิตไปดินเนอร์กันนั้น ลูกน้องเข้ามากระซิบอะไรบางอย่าง เขาหน้าเครียดขึ้นทันที บอกเธอว่าพอดีมีงานด่วนต้องรีบไปเดี๋ยวจะให้ลูกน้องไปส่งเธอแทน
“ภิตไปกับคุณดีกว่าค่ะ ภิตรอได้ ดึกแล้วภิตไม่อยากไปกับคนอื่น” โสภิตหาข้ออ้างเพื่อตามพีรพงษ์ไป เมื่อพาเธอไปถึงหน้าโกดัง โสภิตแกล้งทำเป็นหลับ เขาปล่อยเธอให้นอนในรถ แล้วลงไปพบลูกน้องที่มารับพากันเดินออกไป
พอพีรพงษ์ลงจากรถไป โสภิตก็ลืมตาแป๋วเขม้นมองตามไปอย่างเก็บข้อมูล พีรพงษ์เจอชีพที่มารายงานว่าไม้พะยูงหายไป 30 ท่อนถูกสอดไส้ไม้อื่นเข้าไปแทน พีรพงษ์จะจัดการกับคนไปรับไม้และคนขับรถ ชีพติงว่าสองคนนี้ทำงานให้เราตั้งแต่รุ่นพ่อแล้ว พีรพงษ์จึงยั้งมือบอกว่าเรื่องนี้ตนจะสืบสาวเรื่องราวเอง อาจผิดพลาดจากต้นทางก็ได้
แต่พอพีรพงษ์กลับมาที่รถด้วยอารมณ์หื่นหมายเคลมโสภิตให้สาแก่ใจ ระหว่างทางชีพถามว่าเขาพาโสภิตมาด้วยหรือ ติงว่าเธอไม่น่าไว้ใจ พอไปถึงรถปรากฏว่าโสภิตหายไปแล้ว พีรพงษ์เดือดพล่านสั่งชีพให้ตามตัวมาให้ได้!
พอชีพชักปืนออกมา โสภิตก็เดินกุมท้องออกมาร้องโอดโอยเข้ามาบอกพีรพงษ์ว่าตนกระเพาะอักเสบกำลังจะไปตามเขาพอดีเพราะลืมยาไว้ที่บ้าน พีรพงษ์ประคองเธอขึ้นรถบอกว่าจะรีบพาไปส่งเดี๋ยวนี้เลย
ชีพจับตามองโสภิตอย่างไม่ไว้ใจ
ooooooo
แม่เลี้ยงเห็นชาวบ้านเชื่อถือจีรณะ จึงเสนอให้เขามาเป็นหัวคะแนนให้ตน จีรณะแกล้งเรียกค่าแรงเพิ่มอีกวันละห้าร้อยบาท แม่เลี้ยงใจปล้ำให้วันละพันเลย เขาไม่รับบอกว่าขี้เกียจใช้ดอกทบต้น ขอเอาไว้คิดทีเดียวตอนจบงานก็แล้วกัน
พอพิมพรรู้ก็ไม่พอใจพูดกับโสภิตว่าไม่รู้ใครเอาไอเดียนี้มาให้แม่ เหมือนกับจะกันไม่ให้ตนใกล้ชิดกับจีรณะ โสภิตพูดออกตัวว่าไม่ใช่ตนแน่เพราะตอนนี้ตนมีเวลาสนใจเฉพาะเรื่องของตัวเองกับพีรพงษ์เท่านั้น
“สวัสดีครับแม่เลี้ยง” พีรพงษ์มาถึงพอดี โสภิตทักว่ามาเร็วจัง ชวนรีบไปกันบอกว่าคืนนี้ตนขอดื่มแก้ตัว พีรพงษ์โอบเอวพาโสภิตไปขึ้นรถ แม่เลี้ยงจึงหันมาเร่งจีรณะ บอกว่าไปได้แล้ว ชีพไปรอที่นัดแล้ว จีรณะหันยิ้มให้พิมพร เธอเว้าวอน
“แล้วรีบกลับมาทานข้าวเย็นนะคะ พิมจะรอ”
ooooooo
จีรณะถือโทรโข่งช่วยแม่เลี้ยงหาเสียง แต่แอบถ่ายรูปพวกชีพ กาบ และเส่ง ที่กำลังแจกกล่องโฟมมีเงินซื้อเสียงอยู่ข้างใน ก็ประกาศผ่านโทรโข่งว่าการซื้อสิทธิ์ขายเสียงผิดกฎหมาย
ชีพโมโหปัดโทรโข่งเกือบตกด่าจีรณะว่ามา หาเสียงหรือมาทำลายเสียงกันแน่ ส่วนแม่เลี้ยงก็โฆษณานโยบายประชานิยมเอาเป็นเอาตาย จนคำปันคิดจะเลิกปลูกข้าวโพดมาเลี้ยงเป็ดเพราะแม่เลี้ยงรับซื้อไข่เป็ดในราคาฟองละ 5 บาท ถามจีรณะว่าหรือจะซื้อรถอีแต๋นดีเพราะได้ลดตั้ง 5 พันบาท
จีรณะชี้แจงผลได้ผลเสียระยะยาวจนคำปันถามว่า ตกลงไอ้นโยบายของแม่เลี้ยงมันดีหรือเปล่า
“ดีซิครับ นโยบายนี้ดีอยู่แล้ว เพียงแต่ลุงต้องคิดถึงผลได้ผลเสียที่จะเกิดขึ้นทั้งกับลุงเองและชุมชนของเราให้รอบคอบก่อน คำปันเกาหัวแกรกงงๆ แต่ฟังจีรณะชี้แจงแล้วยิ่งงง
เย็นนี้ พิมพรลงมือทำอาหารสุดฝีมือเตรียมโชว์จีรณะ แต่ปรากฏว่าจีรณะขอลงกลางทาง จึงเหลือแม่เลี้ยงกลับมากินคนเดียว พิมพรถึงกับหมดอารมณ์ไปเลย
จีรณะแยกกับแม่เลี้ยงไปหาจิตราเพื่อถามเรื่องงานแต่งงานว่ามีปัญหาอะไรหรือไม่ จิตราเล่ากำหนดการง่ายๆ ให้ฟังคร่าวๆ แล้วถามพี่ชายด้วยความเป็นห่วงว่าไปอยู่ที่คุ้มแม่เลี้ยงเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่าชีวิตก็ตื่นเต้นดี
“แค่พี่จีไปเป็นลูกเขยแม่เลี้ยง จิตก็ตอบคำถามชาวบ้านไม่ไหวแล้ว นี่พี่จียังไปช่วยแม่เลี้ยงหาเสียงอีก...พี่จี...เรามีกันแค่สองคน พี่จีคิดทำอะไรบอกจิตบ้างได้ไหมคะ”
“บางทีพี่ก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันนะจิต อย่าให้ปัญหาของพี่ไปทำให้จิตกลุ้มใจเลย จิตกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่ดีที่สุด ทำใจให้สบาย ไม่ต้องห่วงพี่”
“ค่ะ...” จิตรารับคำ ทั้งที่ความจริงแล้วก็ยังอดห่วงเขาไม่ได้อยู่ดี
ooooooo
โสภิตพยายามใช้โอกาสที่ใกล้ชิดกับพีรพงษ์สืบเรื่องงานในบริษัทของเขา จนวันนี้สบโอกาสเมื่อเธอถามว่าธุรกิจของเขาคืออะไร เมื่อพีรพงษ์บอกว่าเป็นธุรกิจที่ค่อนข้างเสี่ยง เธอเดาหลายเรื่องจนสุดท้ายถามว่าไม้เถื่อนใช่ไหม
“ลูกค้าผมนัดรับสินค้า จ่ายเงินวันอาทิตย์นี้ ถ้าคุณภิตอยากรู้ว่าสินค้าเราคืออะไร เราไปด้วยกัน แต่ตอนนี้พักเรื่องงานมาจัดการเรื่องหัวใจก่อน” พีรพงษ์จู่โจมเข้านัวเนียโสภิตทันที จีรณะแอบดูอยู่ ทนไม่ไหวเลยยกแจกันทุ่มพื้นแตกเสียงดังพีรพงษ์รีบไปดู โสภิตตามไปด้วย ถูกจีรณะกอดจากข้างหลังเอามือปิดปากลากเข้าไปอีกห้องหนึ่งทันที
โสภิตดิ้นถามจีรณะว่าบ้าหรือถึงกล้าเข้ามาในนี้ พอดีเสียงพีรพงษ์ร้องเรียกโสภิตใกล้เข้ามา โสภิตตัดสินใจเปิดประตูออกไปหาเขาบอกว่าตนคิดว่ามีคนร้ายเข้ามาจึงมาดูแต่ตรวจดูแล้วไม่มี พีรพงษ์ถามว่าแล้วทำไมต้องล็อกประตูด้วย? เธอทำหน้าตายถามว่าประตูล็อกหรือ? ตนไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ตกใจแล้วดึงพีรพงษ์ไปทางอื่น
จีรณะซ่อนอยู่ในห้อง พอโสภิตพาพีรพงษ์ออกไป เขาออกจากที่ซ่อนมางงๆ
ooooooo
การเลือกตั้งนายกเทศมนตรีครั้งนี้ นอกจากแม่เลี้ยงที่ได้เบอร์ 1 แล้ว ยังมีมหาเชียรลงแข่งด้วย มหาได้เบอร์ 3
วันนี้มหาเชียรแห่กลองยาวมาหาเสียง สายพิณบอกพรรคพวกว่ามหาเชียรมาหาเสียงแล้วชวนกันไปกราบท่านกัน
จีรณะเข้าไปทักมหาเชียรถามว่าจำตนได้ไหมมหาหัวเราะร่าถามว่าทำไมจะจำไม่ได้ จีรณะลูกครูเจือแต่ตอนนี้เป็นลูกเขยแม่เลี้ยงอมราไปแล้ว จีรณะฟังแล้วได้แต่ยิ้มเจื่อนๆ อดถามไม่ได้ว่ามหาเชียรคิดอย่างไรถึงมาลง เลือกตั้งกับเขา ตนว่ามันเป็นเรื่องวุ่นวายทางโลกมหาไม่น่าจะมาสนใจกับเรื่องพวกนี้
“การเมืองไม่ได้วุ่นวายอะไรหรอก คนต่างหากที่วุ่นวาย มันเป็นงานที่ต้องการคนเสียสละเพื่อส่วนรวมเห็นประโยชน์ของประชาชนเป็นใหญ่ ถ้าเห็นแก่ตัวและพวกพ้องมากกว่าประเทศชาติเมื่อไหร่ ความฉิบหายก็เกิดเมื่อนั้น”
บรรดามวลหมู่หนานเทืองพากันปรบมือ สายพิณพูดอย่างศรัทธาว่า “ท่านมหาอู้ได้โดนใจแต๊ๆ”
ทีมหาเสียงแม่เลี้ยงผ่านร้านหนานเทือง ถามพีรพงษ์ว่ามหาเชียร โผล่มาจากหลุมไหนเนี่ย พีรพงษ์พูดอย่างดูแคลนว่า
“โอ๊ย...ไม่ต้องห่วงหรอกครับแม่เลี้ยง สารรูปอย่างนั้นจะมาทำอะไรเราได้ อาชีพหลักก็เป็นมัคนายก วันๆก็อาศัยข้าวก้นบาตรประทังชีวิต แม่เลี้ยงอย่าลืมสิครับ ผมสำรวจมันออกมาแล้ว เรานำโด่ง”
ชีพเสนอเก็บมหาตัดคะแนนไปเสียดีไหม พงษ์ไม่เห็นด้วยบอกว่าถ้าฆ่ามหาคนที่น่าสงสัยก็ต้องเป็นแม่เลี้ยงที่เป็นคู่แข่ง แม่เลี้ยงเห็นด้วยชมว่าพีรพงษ์พูดถูก เขาได้โอกาสเสนอว่า
“ผมว่าเราทุ่มเงินอีกหน่อยดีกว่า อีกไม่นานท่านหัวหน้าพรรคก็จ่ายเงินสนับสนุนให้ผู้สมัครอย่างคุณป้าอยู่แล้ว”
“ก็ได้...พ่อพงษ์จะเอาอีกเท่าไหร่” แม่เลี้ยงทุ่มเต็มที่
ooooooo
จีรณะแอบเข้าไปดูเอกสารในห้องทำงานแม่เลี้ยง จับได้ว่าพีรพงษ์โกงเงินหาเสียงของแม่เลี้ยง ทั้งค่าน้ำมันค่ากินอยู่และค่าหัวชาวบ้าน บางหมู่บ้านมีชาวบ้านที่มีสิทธิ์ลงคะแนนแค่สี่หลังคาเรือนแต่ทีมหาเสียงเข้าไปวันละสามสี่เที่ยว
พีรพงษ์ถามว่าเขาเคยเข้าไปดูแล้วหรือ จีรณะยืนยันว่าตนไปมาแล้วทุกหมู่บ้านเพราะต้องทำวิจัย
งานนี้โสภิตปกป้องพีรพงษ์เต็มที่ เพราะกลัวจะกระทบเรื่องที่ตนกำลังสืบว่าบริษัทของพีรพงษ์ทำงานอะไรกันแน่ แก้ต่างให้พีรพงษ์ว่า หมู่บ้านนั้นอาจเป็นที่อยู่ของพวกหัวคะแนนก็ได้เลยต้องเข้าไปบ่อย และแม่ตนก็ไม่เคยซื้อเสียง พวกหัวคะแนนต่างหากที่ทำกัน
จีรณะกับโสภิตโต้เถียงกันหน้าดำหน้าแดง จนแม่เลี้ยงออกมาหย่าศึกว่าเมื่อโสภิตดูแลเรื่องนี้ให้ ตนก็เบาใจแล้วและต่อไปนี้ก็ห้ามจีรณะเข้ามายุ่งในห้องนี้อีกเด็ดขาด
“ขอบคุณมากนะครับ ที่น้องภิตเชื่อใจผมไม่หลงเชื่อคำยุแยงของนายจีรณะ ผมปลื้มมากๆ” พีรพงษ์เอ่ยชื่นใจ
“ผมไม่อยากเชื่อเลยว่าคุณจะเป็นไปได้ขนาดนี้” จีรณะพูดใส่หน้าโสภิตแล้วเดินออกไป แต่ไปยืนดักอยู่มุมหนึ่ง พอโสภิตเดินผ่านเขาพูดขึ้นลอยๆ “ความรักนี่มันทำให้คนตาบอดจริงๆ” เลยโต้เถียงกันอีก จีรณะดึงเธอเข้าไป โสภิตแกล้งเรียก “พี่พิม...พี่พิมคะ” ทำให้จีรณะปล่อยมือทันที
แต่พอพิมพรเดินมาหา ถามโสภิตว่าเรียกตนทำไม เธอกลับบอกพี่สาวหน้าตาเฉยว่า
“ก็สามีพี่เขาเดินตามหาพี่ให้ควั่ก สงสัยจะคิดถึงอยากสวีตกันมากนะคะ อิจฉา...” พูดแล้วเดินลอยชายไป
จีรณะอึ้งไปกับอีกลีลาหนึ่งของโสภิต ส่วนพิมพรมองชายหนุ่มยิ้มปลื้มอยู่ไปมา...
ooooooo










