ตอนที่ 15
ที่โรงพยาบาล ยี่หวา ยาหยี บุญเลื่อง วสันต์วัลลภา ทุกคนยืนกระสับกระส่ายอยู่หน้าห้องฉุกเฉินด้วยความเป็นห่วงข้าวตู
“ทำไมเข้าไปนานอย่างนี้เนี่ย ข้าวตูจะเป็นอะไรมากรึเปล่ายี่หวา”
“ใจเย็นๆนะคะแม่ ถึงมือหมอแล้ว คงไม่มีอะไรหรอกค่ะ”
“นี่...จะห่วงข้าวตูอย่างเดียวไม่ได้นะยะ ห่วงเรื่องค่ารักษาด้วย บอกก่อนนะว่าฉันมีภาระต้องใช้ ช่วยมากไม่ได้หรอก” วัลลภาเจ๋อขึ้นมา เลยโดนยาหยีตอกหน้า ด้วยความโมโห
“สตางค์แดงเดียวเราก็ไม่อยากได้ของคุณหรอก เก็บเงินไว้ใส่ปากตัวเองตอนตายเถอะ”
“นี่แช่งแม่ฉันเหรอ” วสันต์ทำขึงขังใส่ยาหยี แล้วหันไปที่ยี่หวา “คุณดูน้องคุณนะยี่หวา แม่ผมพูดด้วยดีๆ แต่มาก้าวร้าวไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่อย่างนี้มันใช้ได้เหรอ”
“ก็แล้วแม่คุณเป็นผู้ใหญ่ที่น่านับถือซักแค่ไหนล่ะ คนดีๆเขาคงไม่สอนลูกชายตัวเองให้ไถเงินผู้หญิง แถมจับหลานไปเรียกค่าไถ่หรอก”
วสันต์กับวัลลภาแค้นจัด แต่เถียงไม่ออกสักคำ บุญเลื่องได้ทีกระหน่ำไปอีก
“ที่ข้าวตูต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะคุณย่ามหาภัยกับพ่อเฮงซวยอย่างพวกแกสองคนนี่แหละ ไปให้พ้นหน้าฉันได้แล้ว เซ็นสัญญายกข้าวตูให้เราแล้วไม่ใช่เหรอ ไม่ต้องกลับมาให้ฉันเห็นหน้าอีกนะ”
“ก็ได้ จะเอาอย่างงั้นก็ได้ แล้วอย่ามาด่าว่าผมไม่ดูแลข้าวตูทีหลังล่ะ โดยเฉพาะเวลาที่ข้าวตูร้องหาพ่อขึ้นมา อย่ามาตามผมก็แล้วกัน”
“คงไม่มีวันนั้นอีกแล้วล่ะ เพราะถ้าข้าวตูยังต้องการคุณก็คงไม่หนีคุณออกมาอย่างนี้หรอก คุณไปได้แล้ววสันต์ ไปอยู่กับเงินสิบล้านที่คุณอยากได้มาตลอดนั่นแหละ คนอย่างคุณมันก็เหมาะแล้วที่จะต้องอยู่กับสิ่งไม่มีชีวิตจิตใจอย่างเงินทองพวกนี้ เพราะคนที่มีจิตใจ มีความรู้สึก ไม่มีใครทนความเห็นแก่ตัวของคุณได้หรอก”
วสันต์อึกๆอักๆ โดนยี่หวาด่าซะหน้าเสีย
“อย่าไปฟังมันตาสันต์ มีเงินก็เหมือนมีทุกอย่าง ไม่มีอะไรดีไปกว่าเงินอีกแล้ว...ไป เขาไม่อยากให้เราอยู่ก็ไม่ต้องอยู่...ดี ไม่ต้องเสียเงิน”
วัลลภาลากลูกชายออกไป สวนกับสุดยอดที่เดินเข้ามาหาพวกยี่หวา
“ผมจัดการเรื่องเอกสารเรียบร้อยแล้วนะ ข้าวตูเป็นยังไงบ้าง”
ขาดคำ หมอเปิดประตูออกมาจากห้องฉุกเฉิน
ยี่หวาถลาไปถามอาการข้าวตูทันที
“เท่าที่ดู ตอนนี้ก็น่าจะปลอดภัยแล้วล่ะครับ ผลเอกซเรย์สมองก็ไม่มีอะไรกระทบกระเทือน แต่ยังไงคงต้องให้ค้างดูอาการสักคืนนะครับ”
“ยังไงก็ได้ค่ะหมอ ขอให้ลูกฉันปลอดภัยเท่านั้นพอ”
หลังจากได้คำตอบที่น่าพอใจแล้ว ยาหยีก็เดินออกไปส่งสุดยอด พลางนึกย้อนเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่สุดยอดวิ่งเข้าไปช่วยข้าวตูให้รอดจากการถูกรถชนได้ทันเวลา
“ถ้าไม่ได้คุณช่วยไว้ ข้าวตูคงแย่ไปแล้ว หรือถ้าผิดจังหวะคนที่โดนรถชนก็อาจจะเป็นคุณ”
“แสดงว่าคุณเป็นห่วงผม”
“ฉันก็ห่วงสิ ก็คุณมาช่วยหลานฉันนี่”
“มากกว่านี้ผมก็ทำได้ ข้าวตูก็เหมือนหลานผมคนหนึ่งเหมือนกัน อย่าลืมสิ”
ยาหยีน้ำตารื้น ในใจสองคนเต็มไปด้วยความคิดถึงกันและกัน แต่สิ่งที่ทำได้คือคุยกันห่างๆอย่างเฉยเมย
“ขอบคุณนะสุดยอด ขอบคุณจริงๆ” ยาหยีน้ำตาไหลอย่างกลั้นไม่อยู่ สุดยอดเองก็ไม่ต่างกัน เขาจะเช็ดน้ำตาให้เธอ แต่เธอรีบปาดและเบือนหน้าหนี “ฉันส่งคุณแค่นี้นะ”
“ทำไมที่ผ่านมาคุณต้องคอยหลบหน้าผมด้วยล่ะหยี ถ้าเราเป็นแฟนกันไม่ได้ ก็จะเป็นเพื่อนกันไม่ได้เลยเหรอ”
ยาหยีอึกๆอักๆ ทันใดนั้นลิฟต์เปิดออก พร้อมกับเพิร์ลลี่ที่ก้าวออกมา
เห็นพวกเขาอยู่ด้วยกัน เพิร์ลลี่ของขึ้นทันที “พี่ยอด...รู้มั้ยว่าเพิร์ลลี่ตามหาพี่จนแทบบ้าอยู่แล้ว
นี่ถ้าไม่โทร.จิกคนทั้งบริษัท ก็คงไม่รู้หรอกว่าพี่แอบมาอยู่ที่นี่ แหม...ลักกินขโมยกินมันคงอร่อยดีนะคะ พี่ถึงได้ติดใจไม่ยอมเลิก”
ยาหยีพยายามข่มอารมณ์เต็มที่ พูดเน้นหนักกับสุดยอดว่า “คุณเห็นแล้วใช่ไหมว่าเราเป็นเพื่อนกันไม่ได้หรอก เป็นได้อย่างมากก็แค่คนเคยรู้จักเท่านั้นแหละ”
พูดจบ เธอเดินเลี่ยงกลับไป สุดยอดมองตามอย่างรู้สึกผิดและสงสารยาหยีเหลือเกิน
“มองตาละห้อยเชียวนะ ทำไม แค่นี้ถึงกับจะขาดใจเลยเหรอ เพิร์ลลี่ต่างหากที่เป็นแฟนพี่ ไม่ใช่ยาหยี เข้าใจมั้ย”
เพิร์ลลี่อาละวาดทุบตีเขาไม่ยั้ง สุดยอดยืนเฉยไม่ปัดป้อง แต่พอประตูลิฟต์เปิดออกก็รีบก้าวเข้าไปทันที เพิร์ลลี่ตกใจจะตามแต่ไม่ทัน ได้แต่เต้นเร่าๆด้วยความเจ็บใจ
ooooooo
ที่บ้านในจังหวัดเชียงใหม่...เอนิตานั่งคุยโทรศัพท์กับเพื่อนอย่างออกรส
“นนท์รักลูกจะตาย แค่เอามาเชียงใหม่ซักสี่ห้าวันก็เต้นเป็นเจ้าเข้าแล้ว...แหงล่ะย่ะ ไม่งั้นฉันจะคอนโทรลนนท์อยู่เหรอ...ยัยไข่ตุ๋นน่ะเหรอจะกล้ากับฉัน โดนหวดซักทีสองทีก็ว่านอนสอนง่ายแล้ว”
หารู้ไม่ว่า ไข่ตุ๋นแอบย่องผ่านด้านหลังออกจากบ้านไปแล้ว ไข่ตุ๋นเดินโซซัดโซเซไปในตลาด นานเข้าเริ่มกลัว จะกลับบ้านไปหาแม่ก็จำทางไม่ได้ มองไปทางไหนก็เจอแต่สิ่งที่ไม่คุ้นเคยทั้งนั้น
ขณะนั้นเอง ชายคนหนึ่งถือกระเป๋าผ้าใบใหญ่เดินผ่าน พร้อมกับคุยโทรศัพท์มือถือค่อนข้างดัง
“เห็นใจผมเถอะครับนาย ผมโดนจับตาทุกฝีก้าว กว่าจะหลบมาได้แทบตาย...รับรองครับ ยังไงคืนนี้ก็ถึงกรุงเทพฯแน่ นายส่งคนไปรอรับได้เลยครับ”
ไข่ตุ๋นหูผึ่งทันทีที่ได้ยินว่าจะไปกรุงเทพฯ รีบเดินตามเขาไปจนถึงรถ แล้วขอติดรถกลับบ้านที่กรุงเทพฯด้วย ชายคนนั้นยิ้มเจ้าเล่ห์ก่อนอนุญาตด้วยท่าทีใจดี แถมหยิบตุ๊กตาตัวใหญ่ให้ไข่ตุ๋นนั่งกอดไปด้วย
ooooooo
ตกเย็น เอนิตาเพิ่งรู้ว่าไข่ตุ๋นหายไป เธอหาจนทั่วก็ไม่พบ จึงตัดสินใจโทร.ไปบอกณนนท์
“อะไรนะ ลูกหาย หายได้ยังไง คุณดูแลลูกประสาอะไรนิตา”
เท่งกำลังทำกับข้าว พอได้ยินเสียงณนนท์ก็รีบวิ่งออกจากครัวมาทันที
“นี่คุณยังมาโวยวายใส่ผมอีกเหรอ ลูกทั้งคนนะคุณ ป่านนี้จะเป็นยังไงบ้างก็ไม่รู้...คุณอยู่ที่นั่นแหละ เผื่อลูกจะกลับไปหาคุณ ผมจะตามหาไข่ตุ๋นเอง คุณยุ่งให้น้อยที่สุดน่ะดีแล้ว”
ณนนท์กดวางสาย เท่งถามทันทีว่าไข่ตุ๋นเป็นอะไร?
“ไข่ตุ๋นหนีออกจากบ้านครับพ่อ แล้วพ่อรู้ไหมครับว่านิตาพาไข่ตุ๋นไปหลบที่ไหน เชียงใหม่ครับ เขาพาไข่ตุ๋นไปบ้านเขาที่เชียงใหม่”
“ฮ้า! แล้วนี่เจ้าไข่ตุ๋นจะหนีจากเชียงใหม่มากรุงเทพฯ รึเปล่าเนี่ย เวรกรรมแท้ๆเลย”
เวรแน่ๆ ถ้ารถคันที่ไข่ตุ๋นอาศัยมาโดนตำรวจตรวจจับ เพราะชายคนนั้นไม่ใช่คนดี เขาเป็นนักเลงค้ายาและเป็นลูกน้องของภูมิชาย ทนายความคนเก่งที่มีเบื้องหลังในด้านมืดปิดบังซ่อนเร้นไว้
นับเป็นโชคดีของนักเลงค้ายาเสพติด เพราะเมื่อเจอด่านตำรวจแล้วไข่ตุ๋นเกิดท้องร้องด้วยความหิว ตำรวจสงสารเด็กจึงรีบปล่อยไปโดยไม่ได้ตรวจให้ละเอียด ทั้งๆที่ยาเสพติดถูกซุกซ่อนไว้ในตุ๊กตาตัวที่ไข่ตุ๋นนั่งกอดมาตลอดนั่นเอง
แล้วทันทีที่รถถึงจุดหมายในกรุงเทพฯ เขาก็ปล่อยทิ้งไข่ตุ๋นไว้หน้ามินิมาร์ทพร้อมเงินนิดหน่อยเพื่อให้เด็กหาทางกลับบ้านเอง...
ขณะเดียวกันนั้นที่บ้านเท่ง ณนนท์กำลังโวยวายใส่เอนิตาด้วยความโมโห
“ผมบอกให้คุณรออยู่ที่เชียงใหม่ไง นั่งเครื่องหนีกลับมาแบบนี้ เกิดไข่ตุ๋นย้อนกลับไปที่บ้านจะว่ายังไง”
“ฉันตามหายัยไข่ตุ๋นจนแทบจะพลิกเชียงใหม่อยู่แล้ว ไม่เจอน่ะสิ ถึงได้รีบมาที่นี่”
“ก็ถ้าไม่อุตริพาเจ้าไข่ตุ๋นหนีไป แล้วมันจะเกิดเรื่องไหมล่ะ” เท่งว่าให้
“หนูไม่ได้มาที่นี่เพื่อให้ทุกคนมารุมขย้ำหนูซ้ำนะคะ แค่ยัยไข่ตุ๋นหาย หนูก็เครียดมากพออยู่แล้ว” เอนิตาพูดหน้าง้ำ เท่งส่ายหน้าเอือมๆ หันไปบอกณนนท์ว่า
“พ่อโทร.ไปหาเพื่อนที่เป็นตำรวจ แล้วก็โทร.ไปรายการวิทยุหมดแล้วนะ แต่ยังไม่มีอะไรคืบหน้าเลย คงต้องรอพรุ่งนี้แหละ”
“ส่วนผมก็ประกาศหาไข่ตุ๋นตามเว็บอยู่ ตอนนี้พวกเพื่อนๆกำลังช่วยฟอร์เวิร์ดเมล์ให้ หวังว่าคงได้ผล”
“ขอบคุณนะครับพ่อ ขอบใจมากนายยอด ดึกแล้วพาพ่อไปพักก่อน พี่อยู่รอโทรศัพท์เอง เผื่อจะมีใครรู้เบาะแส”
เท่งกับสุดยอดเดินออกไป...เอนิตาท่าทีร้อนใจ ถามณนนท์ว่าถ้าลูกหายไปเราจะทำยังไงกันดี
“ใจเย็นๆ คงไม่มีอะไรหรอก คุณอยู่รอข่าวไข่ตุ๋นเป็นเพื่อนผมแล้วกัน”
ณนนท์ผละไปเข้าห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์บ้านดังขึ้น เอนิตารับสาย ดีใจมากที่ไข่ตุ๋นโทร.มา เธอพูดคุยกับไข่ตุ๋นครู่เดียวก็รีบร้อนออกไปโดยไม่บอกณนนท์ว่าไปไหน แต่ณนนท์เอะใจสงสัยจึงขับรถตามเธอไป
เอนิตาไปรับไข่ตุ๋นที่หน้ามินิมาร์ท โดยบอกกับลูกว่าจะพากลับไปหาณนนท์ที่บ้าน แต่ความจริงเธอมีแผนบางอย่างอยู่ในใจ
ขณะที่เธอกำลังจะออกรถ ณนนท์ขับรถมาจอดเทียบแล้วลงมาเคาะกระจกจึงเห็นไข่ตุ๋นนั่งอยู่ในนั้น ไข่ตุ๋นเองก็เห็นพ่อจึงร้องลั่นจะลงไปหา แต่เอนิตารีบกดล็อกรถแล้วขับหนีทันที ไม่สนว่าณนนท์จะหัวเสียขนาดไหน
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น ณนนท์มีนัดกับภูมิชายที่ร้านอาหารภายในห้างสรรพสินค้า เขานำเอกสารสำคัญมาให้...ภูมิชายตรวจทานเอกสารทั้งหมดก่อนจะเอาเข้าแฟ้มแล้วเก็บในกระเป๋าเอกสารอีกที
“ได้หลักฐานมาเพิ่มอย่างนี้ ผมยิ่งมั่นใจครับว่าศาลต้องให้คุณดูแลไข่ตุ๋นแน่นอน”
“ขอบคุณคุณภูมิมากนะครับที่ช่วยผม”
“ไม่ต้องขอบคงขอบคุณหรอกครับ หน้าที่ของผมอยู่แล้ว เอ่อ แล้วไม่ทราบว่าคุณณนนท์มีสำเนาหลักฐานพวกนี้เก็บไว้รึเปล่าครับ”
“มีอยู่ชุดเดียวครับ มีเท่าที่ผมรวบรวมได้ ใจจริงผมไม่เคยอยากฟ้องนิตาเลยนะครับ คุณภูมิก็รู้ อีกอย่างหลักฐานพวกนี้ถ้าหลุดไปถึงมือนักข่าวมีหวังมีข่าวเขียนกันสนุกแน่ ฝากคุณภูมิด้วยนะครับ”
“รับรองครับ ทำสำเนาเสร็จผมรีบคืนคุณนนท์ทันที”
เสียงโทรศัพท์มือถือณนนท์ดังขึ้น เขาดูเบอร์ก่อนบอกภูมิชายว่าขอตัวสักครู่ ภูมิชายมองตามด้วยแววตาไม่เป็นมิตร แล้วหันกลับมามองกระเป๋าเอกสารตรงหน้าตัวเองอย่างเจ้าเล่ห์
เมื่อเสร็จธุระแยกกับณนนท์มาแล้ว ภูมิชายเดินถือกระเป๋าเอกสารไปที่รถของตน ขณะกำลังจะเปิดประตูรถ ก็โดนชายคนหนึ่งพุ่งเข้ามาประชิดตัว แล้วใช้มีดจี้ทันที
“อย่าขยับ แล้วก็อย่าแหกปากโวยวายด้วย ถ้าไม่อยากตาย”
ภูมิชายตกใจ รีบยกมือขึ้นพลางขอร้องไม่ให้มันทำร้าย อยากได้อะไรก็เอาไป คนร้ายค้นตัวฉกเอากระเป๋าเงิน และดึงกระเป๋าเอกสารของเขาไปด้วย
“เฮ้ย...ไม่ได้ กระเป๋านั้นมันมีเอกสารสำคัญ ไม่มีค่ากับแกหรอก แกอย่าเอาไปเลย”
“ไม่เชื่อโว้ย” ว่าแล้วคนร้ายจะวิ่งหนี ภูมิชายตัดสินใจพุ่งเข้าใส่พยายามแย่งมีด แต่คนร้ายต่อสู้ขัดขืนแถมชกต่อยภูมิชายจนร่วงก่อนจะวิ่งหนีไป โดยที่กล้องวงจรปิดของห้างฯ เก็บภาพเอาไว้ได้ทั้งหมด
เวลาต่อมา เมื่อณนนท์กับยี่หวาทราบข่าวก็รีบไปเยี่ยมภูมิชายที่โรงพยาบาล
“เป็นยังไงบ้างคะคุณภูมิ” ยี่หวาแสดงความห่วงใย
“ยังไหวครับ แต่เอกสารทั้งหมดของคุณณนนท์ถูกไอ้โจรนั่นมันเอาไปทั้งกระเป๋าเลย...ผมขอโทษ”
“ไม่เป็นไรครับ มันไม่ใช่ความผิดของคุณภูมิสักหน่อย”
“แต่กล้องวงจรปิดของห้างเก็บภาพไว้ได้หมดเลยไม่ใช่เหรอคะ เราอาจจะได้คืนก็ได้นะคะ”
“ครับ ผมก็หวังว่าอย่างนั้น...เอ่อ คุณณนนท์ครับ เรื่องฟ้องร้องขอเวลาผมคิดหน่อยนะครับ ยังไงผมก็จะให้น้องไข่ตุ๋นอยู่ในความดูแลของคุณให้ได้ ผมสัญญา”
“ขอบคุณครับคุณภูมิ” ณนนท์ค่อยใจชื้น แต่ทันใดนั้นเท่งโทร.เข้ามาที่โทรศัพท์มือถือณนนท์ แจ้งข่าวไม่ค่อยดีนัก ณนนท์ถึงกับหน้าเครียดขึ้นทันที
“เกิดอะไรขึ้นคะนนท์” ยี่หวาสงสัย
“เรายังไม่ทันจะฟ้องเลย นิตาก็ชิงฟ้องหย่าผมก่อนแล้ว”
ยี่หวากับภูมิชายตกใจ นึกไม่ถึงว่าเหตุการณ์จะกลับตาลปัตรแบบนี้...พอณนนท์และยี่หวาพากันกลับไปแล้ว ภูมิชายจอมแผนการก็แอบออกมาพบชายคนหนึ่งซึ่งเขาก็คือคนร้ายที่จี้ชิงทรัพย์และเอกสารของภูมิชายไปนั่นเอง และยังเป็นคนเดียวกับนักเลงค้ายาเสพติดที่บังเอิญเจอไข่ตุ๋นแล้วพากลับมากรุงเทพฯ
ที่แท้เหตุการณ์ที่ลานจอดรถเป็นแผนของภูมิชาย เขาลงทุนจ้างลูกน้องมาทำร้ายเพื่อความแนบเนียน
“นี่ค่าจ้างของแก ฉันให้พิเศษ”
“ขอบคุณมากครับนาย แล้วนายได้ของรึยังครับ”
“เรียบร้อยแล้ว แกนี่เก่งนะ โดนตำรวจหมายหัวยังเอาตัวรอดมาส่งของให้ฉันได้อีก แต่เสร็จงานนี้แล้ว แกหลบหน้าไปได้เลยนะ ทั้งเรื่องเก่าเรื่องใหม่ เดี๋ยวจะซวยซะก่อน”
“ครับนาย...แต่ผมไม่เข้าใจเลยครับว่านายจะหาทางล้มคดีให้มันเสียลูกทำไม ถ้าไอ้หมอนั่นเสียลูกไป มันก็ได้แต่งกับผู้หญิงที่นายชอบสบายๆเลยสิครับ”
“แกไม่รู้จักไอ้ณนนท์ดีพอหรอก คนอย่างมันถ้าเสียลูกไปคงสติแตกไม่มีอารมณ์จะไปยุ่งกับผู้หญิงคนไหนหรอก แล้วถึงตอนนั้นฉันก็แค่เข้าไปแทรกกลางแล้วแย่งยี่หวามาก็เท่านั้นเอง”
พูดแล้วภูมิชายก็แสยะยิ้มอย่างมั่นใจ
ooooooo
ที่สตูดิโอ ว่านกับนัท และทีมงานกำลังถ่ายทำรายการ โดยมีสุดยอดเป็นพิธีกร ส่วนยาหยีสาธิตการทำพวงกุญแจ โดยเอารูปภาพเก่าๆมาใส่กรอบ บวกเข้ากับของกระจุกกระจิกตกแต่งจนสวยงาม
“เห็นไหมคะ แค่นี้เราก็ได้พวงกุญแจสวยๆที่มีรูปของเราแล้ว ไม่ยากเลยใช่ไหมคะ”
ยาหยีโชว์พวงกุญแจสวยเก๋ สุดยอดขยับมาดูแล้วถามขึ้นว่า
“แล้วถ้าไม่ใช่รูปเรา แต่เป็นรูปคนสำคัญของเราล่ะครับ อย่างนี้ก็เหมือนเรามีเขาติดตัวตลอดเวลาเลยใช่ไหมครับ”
“ค่ะ แต่ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นไม่สำคัญแล้ว เราก็เอารูปเขาออกได้ เสร็จแล้วก็เอารูปหมารูปแมวอะไรใส่แทน สบายใจกว่าเยอะค่ะ”
“คนเรามันจะถูกลดระดับความสำคัญง่ายอย่างงั้นเลยเหรอครับ” สุดยอดตัดพ้อด้วยความน้อยใจ ยาหยีจ้องหน้าเขาเขม็งก่อนตอบกลับ
“มันก็ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมค่ะ คนบางคนไม่ใช่แค่ไม่สำคัญนะคะ แต่ต้องเรียกว่าของเหลือใช้”
พิธีกรทั้งคู่จ้องหน้ากันเขม็ง ต่างฝ่ายต่างไม่มีใครยอมใคร ว่านเห็นแล้วหนักใจ กลัวจะมีเรื่องกลางรายการ แต่พี่ยิ่งกลับเชียร์ให้ตบกันเลย ตีเข่าเขย่าศอกก็ได้ เรตติ้งจะได้พุ่งๆ
ว่านกับนัทหันไปเหล่พี่ยิ่ง ทำไมไร้ศีลธรรมได้ขนาดนี้...ทันใดนั้น เพิร์ลลี่ในชุดเจ้าสาวสีขาวสุดเก๋ก็เดินนวยนาดเข้ามาส่งเสียงเจื้อยแจ้ว
“อยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาเลยนะคะ ดีจังเลย”
ทุกคนตกใจมองเพิร์ลลี่เป็นตาเดียว นัทตั้งสติได้ก่อนรีบบอกทีมงานอย่าถ่าย อย่าตัดรับเพิร์ลลี่ แต่พี่ยิ่งกระเหี้ยน– กระหือรือให้ตัดรับเลย ถ่ายเข้าไป โอกาสอย่างนี้ไม่มีอีกแล้ว
เพิร์ลลี่เดินเข้ามากอดแขนสุดยอด ทำหน้าแอ๊บสุดๆ “รายการสดด้วยใช่ไหมคะ ดีจังเลย จะได้บอกพร้อมๆกันทั้งประเทศเลยว่าพี่สุดยอดกับเพิร์ลลี่กำลังจะมีข่าวดีค่ะ”
“ทำอะไรน่ะเพิร์ลลี่ หยุดเดี๋ยวนี้นะ” สุดยอดปราม แต่เธอหาได้สนใจ รีบปั้นยิ้มแกล้งตีแขนเขาเบาๆ
“ไม่ต้องอายหรอกค่ะพี่ยอด พี่เป็นคนบอกเองไม่ใช่เหรอคะว่าอยากเซอร์ไพรส์ทุกคน แล้วจะมาเขินอะไรกันตอนนี้ล่ะคะ...ท่านผู้ชมทางบ้านคะ และเหล่าบรรดาแฟนคลับ เพิร์ลลี่กับสุดยอดเรากำลังจะแต่งงานกันค่ะ เป็นเรื่องน่ายินดีใช่ไหมคะ”
พี่ยิ่งชอบใจปรบมือลั่นอยู่คนเดียว ใครจะเป็นยังไงไม่สน ขอเรตติ้งพุ่งไว้ก่อน ฝ่ายเพิร์ลลี่ก็ฉีกยิ้มใส่กล้อง เดินเข้ามาจับมือยาหยี
“หยีจ๊ะ เธอต้องมาเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้ได้นะ ถ้าเธอไม่มาฉันคงเสียใจแย่เลย” แอ๊บเสร็จก็แอบกระซิบข้างหู
ยาหยีเบาๆ “ทีนี้ก็รู้กันทั่วประเทศแล้ว ถ้าเธอยังกล้าแย่ง
พี่ยอดอีก ก็เป็นได้แค่เมียน้อยเท่านั้นล่ะย่ะ อยากกินน้ำใต้ศอกก็ตามใจ”
ยาหยีข่มอารมณ์ ในเมื่ออีกฝ่ายแอ๊บมาตนก็แอ๊บกลับได้เหมือนกัน
“ยินดีด้วยนะจ๊ะเพิร์ลลี่ เธอรอวันนี้มานานแล้ว ขอให้มีความสุขมากๆนะจ๊ะ พี่ยอดก็เหมือนกันนะคะ ขอให้มีความสุขมากๆ นี่พูดจากใจเลยนะคะ” ยาหยีพูดจบก็เดินเลี่ยงออกไป ส่วนเพิร์ลลี่หันกลับมากอดแขนสุดยอด อ้อล้อฉอเลาะ
“พี่ยอดคะ บอกกับแฟนๆหน่อยสิคะ ว่าเราจะแต่งงานกันวันไหน สิคะพี่ยอด ว้าย...นั่นมีเอสเอ็มเอสเข้ามาแสดงความยินดีด้วย ปลื้มค่ะปลื้ม”
สุดยอดอึกๆอักๆ ห่วงยาหยีก็ห่วง แต่ต่อหน้ากล้องแถมเพิร์ลลี่ยังกอดแน่นก็ไม่รู้จะทำยังไง
ยาหยีวิ่งร้องไห้ออกมาหลังสตูดิโอ เธอเสียใจสุดๆ เจ็บจนเกินกว่าจะยั้งอารมณ์เอาไว้ได้ ขณะนั้นเอง พี่ยิ่งถือไมค์นำตากล้องกับทีมงานตามมา โดยมีว่านกับนัทรั้งท้าย
“อยู่นี่ๆ เอานะ ถ่ายเลยนะ” พี่ยิ่งสั่งลูกน้องเสร็จก็เข้าไปสัมภาษณ์ยาหยีทันที “น้องหยีครับ ร้องไห้ขนาดนี้คงเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากเลยใช่ไหมครับ บอกได้ไหมครับ ว่าน้องหยีคิดจะทำอะไรต่อไป”
ยาหยีไม่พอใจพี่ยิ่ง วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา พี่ยิ่งยังจะวิ่งตามไปอีก แต่ว่านกับนัททนไม่ไหวกับความใจร้ายของเจ้านาย ว่านโพล่งขึ้นทันทีว่า
“พอได้แล้วพี่ยิ่ง คุณหยีเสียใจขนาดนี้แล้วพี่ยังคิดสัมภาษณ์อีกเหรอ จะใจร้ายไปถึงไหน”
“เฮ้ย นี่มันงานนะโว้ย แกคิดดูดิว่าเรตติ้งจะพุ่งไปขนาดไหนที่รายการเรามีเรื่องรักสามเส้าฟาดฟันแบบนี้”
“จะเท่าไหร่ก็เหอะ ผีเรตติ้งสิงพี่รึไงถึงได้ทิ้งความเป็นคนไปแบบเนี้ย”
“นี่แกด่าฉันขนาดนี้เลยเหรอไอ้นัท ฉันทำเพื่อพวกเราทุกคนนะโว้ย โบนัสไง แกไม่อยากได้แล้วเหรอ”
“ไม่อยากโว้ย แล้วผมก็ไม่ทำงานกับคนใจดำอย่างพี่แล้วด้วย” นัทดึงบัตรสต๊าฟปาทิ้งลงพื้นก่อนจะเดินหนีไป ว่านก็เช่นกัน ดึงบัตรที่อกเสื้อออกแล้วยัดใส่มือพี่ยิ่ง
“ผมก็เหมือนกัน เชิญพี่บูชาพระเจ้าเรตติ้งของพี่ไปคนเดียวเถอะ”
นัทเดินตามว่านลิ่วไปแล้ว พี่ยิ่งยืนอึ้ง ไม่คิดว่าลูกน้องจะเอาจริง พอหันไปมองทีมงานคนอื่นๆ ต่างคนต่างมองหน้ากันไปมา ก่อนที่พวกทีมงานจะเดินกลับไป ไม่มีใครสนใจเจ้านายสักคน
“เออๆไปเลย ไปให้หมดเลย ฉันทำคนเดียวก็ได้โว้ย ไม่ง้อหรอก” พี่ยิ่งฮึดฮัด แต่สักพักก็หน้าเสีย เริ่มเบะปากจะร้องไห้
ooooooo
ค่ำนั้น สุดยอดขับรถมาส่งเพิร์ลลี่ที่หน้าบ้าน และไม่ยอมลงจากรถแม้เพิร์ลลี่จะพยายามออดอ้อนให้เข้าไปในบ้านก่อน
“พี่ยอดยังโกรธเพิร์ลลี่อยู่อีกเหรอคะ เพิร์ลลี่บอกแล้วไง ว่าเพิร์ลลี่ทำไปเพราะเพิร์ลลี่รักพี่นะคะ”
“ลงไปได้แล้ว พี่จะกลับบ้าน”
“นี่พี่ไล่เพิร์ลลี่เหรอ เพราะนังยาหยีใช่มั้ย พี่ยังรักมันอยู่ใช่มั้ย...ใช่มั้ยๆๆๆ” เพิร์ลลี่โมโหทุบตีเขาพัลวัน สุดยอดทนไม่ไหวโพล่งความในใจออกมาทันที
“ใช่...พี่รักยาหยี แล้วพี่ก็จะรักเขาตลอดไปด้วย”
“แต่พี่กำลังจะแต่งงานกับเพิร์ลลี่แล้วนะ หรือว่าพี่จะเบี้ยว”
“พี่รับปากแล้วพี่ทำแน่ แต่ถึงพี่จะแต่งกับเพิร์ลลี่ มันก็ห้ามความรักที่พี่มีต่อหยีไม่ได้หรอก แล้วพี่ก็จะรักเขาตลอดไปด้วย”
เพิร์ลลี่กรี๊ดลั่น เจ็บใจสุดๆ สุดยอดทนรำคาญไม่ไหวเป็นฝ่ายลงจากรถเดินหนีไป เพิร์ลลี่รีบตามลงมาตะโกนโหวกเหวก
“พี่ยอดจะไปไหน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ พี่ยอดๆๆ”
สุดยอดไม่สน เดินหนีไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมา ปล่อยให้เพิร์ลลี่คลุ้มคลั่งอยู่คนเดียว
ooooooo
เช้านี้ที่สำนักงานทนายความของภูมิชาย...
ณนนท์กับเอนิตานัดมาคุยไกล่เกลี่ยกันต่อหน้าภูมิชาย แต่ทำมาทำไปจะกลายเป็นทะเลาะกันเสียมากกว่า
“คุณทำกับผมขนาดไหน ยังมีหน้ามาฟ้องหย่าผมอีกเหรอนิตา คำว่าละอายใจสะกดเป็นบ้างไหม”
“แล้วทีคุณคิดจะทิ้งฉันไปมีเมียใหม่ล่ะ คุณยังไม่เห็นละอายใจเลย”
“ก็ถ้าคุณทำตัวดี ผมจะเลิกกับคุณไหมล่ะ หรืออยากจะให้ผมบอกว่าคุณทำเรื่องแย่ๆอะไรลงไปบ้าง”
“ที่ฉันมาที่นี่ก็เพราะคุณบอกว่าจะขอเคลียร์ แต่ถ้าจะมาหาเรื่องกัน ฉันไม่คุย คุณเลือกเอาเองแล้วกัน ระหว่างลูกกับนังยี่หวา ถ้าคุณอยากจะเห็นหน้าไข่ตุ๋นอีก ก็ต้องไม่มีมัน”
“คุณแน่ใจเหรอครับว่าจะชนะคดีแน่” ภูมิชายแทรกขึ้น
“ฉันเป็นแม่ จะกี่คดีก็เห็นลูกอยู่กับแม่ทั้งนั้น แล้วฉันจะแพ้ได้ยังไง”
“ใช่ครับ โดยมากแล้วศาลมักจะตัดสินให้ลูกอยู่กับแม่ แต่ไม่ใช่แม่ที่มีคลิปฉาว การเงินมีปัญหาจนต้องให้คุณณนนท์โอนเงินไปให้บ่อยๆ แถมยังเคยต้องสงสัยว่าอัพยาอีกต่างหาก คุณว่าศาลจะให้ลูกอยู่กับแม่อย่างนี้เหรอครับ”
ข้อมูลของภูมิชายทำเอาเอนิตาหน้าเสีย แต่แกล้งโวยกลบเกลื่อน
“นี่ อย่ามามั่วนะ ฉันไม่ได้เป็นแบบนั้นซักหน่อย”
“ถ้าอย่างงั้น เอาไว้ดูหลักฐานในชั้นศาลละกันครับ รับรองว่าแม้แต่ภาพในอดีตตอนเข้าวงการใหม่ๆที่คุณเดินแบบในชุดวันเกิดกลางผับ ผมยังมีเลย”
เอนิตาตกใจมากที่ภูมิชายรู้ลึกรู้จริง เลยรีบคว้ากระเป๋าถือเดินหนีออกจากห้องไปทันที
“พูดแบบนี้จะดีเหรอครับคุณภูมิ ในเมื่อหลักฐานพวกนั้นมันถูกขโมยไปหมดแล้วนี่ครับ”
“เชื่อผมสิครับ ต้องขู่อย่างงี้แหละจะได้กลัว เผลอๆ
อาจจะยอมถอนฟ้องเองด้วยซ้ำ”
ณนนท์พยักหน้าเห็นด้วยกับภูมิชาย ก่อนจะมองตามเอนิตาไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ไม่คิดเลยว่าวันนึงตนกับเอนิตาจะลงเอยกันแบบนี้
ooooooo
ในห้องแต่งตัวสตูดิโอพี่ยิ่ง เพิร์ลลี่แต่งหน้าทำผมเตรียมถ่ายรายการ เสร็จแล้วลุกมาเลือกเสื้อผ้าที่แขวนเรียงรายบนราว
“ชุดนี้สวยจัง...ของเพิร์ลลี่รึเปล่าคะพี่กุ้ง”
“ของน้องเพิร์ลลี่ชุดนี้ค่ะ ชุดนั้นของน้องยาหยี”
“อุ๊ย งั้นเอาคืนไปเลยค่ะ เพิร์ลลี่ไม่ชอบแย่งของใคร กลัวบาปกรรมค่ะ เหมือนพวกชอบแย่งแฟน
ชาวบ้านไงคะ แย่งของเขามาก็ต้องโดนแย่งคืน สุดท้ายก็ต้องมานั่งสะอื้นกลืนน้ำตาให้คนอื่นเขาสมน้ำหน้า จริงมั้ยจ๊ะยาหยี”
ยาหยีฟังแล้วสะอึก แต่นิ่งไว้ไม่อยากมีเรื่อง...เพิร์ลลี่ยิ้มเย้ยก่อนเดินกรีดกรายมาหาช่างแต่งหน้า
“พี่นุ้ยขา...เพิร์ลลี่จองพี่นุ้ยไปแต่งหน้าให้เพิร์ลลี่ในวันแต่งงานนะคะ แต่งให้สวยๆนะคะ เพิร์ลลี่อยากเป็นเจ้าสาวที่สวยแล้วก็มีความสุขที่สุดในโลกจนใครๆต้องอิจฉา”
“ขอโทษนะคะน้องเพิร์ลลี่ พี่ไม่ว่างค่ะ เพราะรับงานแต่งหน้าศพไว้ แต่เอางี้สิ น้องเพิร์ลลี่ตามพี่ไปที่วัด แต่งศพเสร็จพี่จะแต่งให้เพิร์ลลี่ฟรีค่ะ”
“อ๊าย...นังช่างหน้าหนอน ฝีมืออย่างหล่อนก็ได้แค่แต่งหน้าศพเท่านั้นละย่ะ คอยดูนะ ฉันจะฟ้องพี่ยิ่ง”
“เชิญ!” นุ้ยสวนทันควัน...เพิร์ลลี่เจ็บใจ สะบัดหน้าเดินออกไปทางห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
“ถ้าเพิร์ลลี่ไปฟ้องพี่ยิ่งจริงๆ พี่นุ้ยจะไม่เดือดร้อนเหรอคะ” ยาหยีติงด้วยความเป็นห่วง
“พี่ไม่กลัวค่ะ หมั่นไส้มานานแล้วยัยดาราจอมแอ๊บ คอยดูเถ๊อะ แอ๊บแตกวันไหนก็คงโดนสุดยอดทิ้งวันนั้นล่ะค่ะ”
ยาหยีนิ่งไป รู้สึกเหนื่อยใจกับความร้ายกาจของเพิร์ลลี่เสียจริง
ooooooo
อีกมุมหนึ่งในสตูดิโอ พี่ยิ่งซึ่งสำนึกผิดต่อการกระทำของตัวเองแล้วได้นำพานดอกไม้ธูปเทียนมาคุกเข่าขอขมาว่านกับนัท
“ต่อไปนี้พี่จะไม่เห็นแก่เรตติ้งเป็นใหญ่ พี่จะใส่ใจกับจิตใจคนมากกว่าเงิน...กลับมาทำงานเถอะครับน้องนัท น้องว่าน พี่ต้องถ่ายเอง เขียนสคริปต์เอง ทำอะไรเองทุกอย่าง พี่เหนื่อยจะตายอยู่แล้ว ให้อภัยพี่เถอะนะคร้าบ...”
พี่ยิ่งออดอ้อนสำนึกผิดเต็มที่ ว่านกับนัทมองหน้ากันก่อนตอบปฏิเสธด้วยน้ำเสียงหนักแน่น
“ไม่...คนอย่างพี่ ให้อภัยง่ายๆไม่ได้หรอก”
“ใช่ ไม่นานก็กลับมาบ้าเรตติ้งอีกแหละ คนอะไรทำได้ทุกอย่างเพื่อเรตติ้งจนไม่คิดถึงหัวจิตหัวใจคนอื่น”
“ตกลงจะไม่ให้อภัยใช่มั้ย”
“ใช่” สองหนุ่มตอบพร้อมเพรียง
พี่ยิ่งฟังแล้วแทบจะร้องไห้ “ได้ งั้นพี่จะตายให้ดู”
“โอ๊ย ผมไม่เชื่อหรอกว่าคนอย่างพี่จะฆ่าตัวตาย”
“ถึงฆ่าก็ไม่ตาย เพราะคนเห็นแก่ตัวอย่างพี่มันตายยาก”
“ไม่เชื่อใช่มั้ย ข้าจะกระโดดตึกตายเดี๋ยวนี้ล่ะ” พี่ยิ่งวิ่งออกไปจากสตูดิโอ ว่านกับนัทมองหน้ากันเลิ่กลั่ก กลัวแกทำจริงขึ้นมา จึงวิ่งตามออกไป
ที่หน้าห้องแต่งตัว สุดยอดเดินหงอยๆผ่านมา เป็นจังหวะที่ยาหยีออกมาจากข้างใน ทั้งคู่สบตากันนิดหนึ่งก่อนยาหยีจะรีบเดินหนีไป
“หยี...ยาหยี เดี๋ยวก่อน ผมมีเรื่องจะคุยด้วย” สุดยอดก้าวตามมาคว้าแขนยาหยีไว้ เว้าวอนว่ามีเรื่องจะคุยด้วย แต่เธอสะบัดมือออก พูดใส่หน้าเขาว่า
“ยังมีอะไรต้องคุยอีกเหรอ ฉันไม่คิดว่าเราสองคนมีอะไรต้องคุยกันอีกแล้วนะ”
สุดยอดไม่ยอมปล่อยเธอไป สวมกอดเธอไว้แน่น
“มีสิ ผมรักคุณนะหยี...ผมรักคุณ” เขาน้ำตาซึม ยาหยีเองก็กลั้นไม่อยู่ เจ็บปวดไม่แพ้กัน พูดเสียงสั่นเครือว่า
“แต่มันเป็นไปไม่ได้ นายมีคนที่นายต้องรับผิดชอบ”
“ผมจะทำยังไงดีหยี ผมจะทำยังไงดี ช่วยผมหน่อย”
“ไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้น ทำตามหน้าที่ของนายคือแต่งงานกับเพิร์ลลี่ซะ แล้วฉันก็ไปตามทางของฉัน”
“แล้วหน้าที่ของหัวใจที่ผมรักคุณเหลือเกินล่ะ”
“พอเถอะสุดยอด”
“ไม่! ผมไม่หยุด ผมจะสู้”
“มันจะมีประโยชน์อะไร นายอยากให้สังคมประณามฉันว่าเป็นมือที่สามที่ทำให้ให้ผัวเมียเขาเลิกกันรึไง นายคิดได้แค่นี้เองเหรอ”
ยาหยีสะบัดตัวออกจากอ้อมกอดของเขา ปาดน้ำตาแล้วทำท่าจะเดินหนี แต่สุดยอดดึงมือเธอไว้อีก ขอร้องให้ฟังตนก่อน
“ปล่อยฉัน บอกให้ปล่อย”
“ไม่ปล่อย ผมรักคุณนะหยี”
“เราจบกันแล้ว ไม่มีอะไรต้องคุย ปล่อย!” ยาหยีสะบัดเต็มแรง แล้วหันหลังจะวิ่งกลับเข้าสตูดิโอ
ทันใดนั้น พี่ยิ่งวิ่งพรวดออกมาชนยาหยีจนเซไปด้วยกัน พอตั้งหลักได้พี่ยิ่งก็วิ่งตื๋อต่อไป ทำให้ยาหยีกับสุดยอดเป็นงงว่าแกจะรีบร้อนไปไหน จนเมื่อว่านกับนัทที่วิ่งตามมาตะโกนบอกว่าพี่ยิ่งจะฆ่าตัวตาย ทั้งคู่จึงรีบวิ่งตามพี่ยิ่งไปทางบันไดหนีไฟ
พี่ยิ่งวิ่งขึ้นตึกไปอย่างรวดเร็ว โดยมีสุดยอด ยาหยีวิ่งไล่ตามแซงว่านกับนัทที่หอบแฮ่กวิ่งต่อไม่ไหว เมื่อตามไปจนถึงดาดฟ้า สองคนมองหาพี่ยิ่งไปทั่วแต่ไม่พบตัว นอกจากรองเท้าที่หล่นอยู่ตรงขอบระเบียง
สุดยอดตกใจเหลียวหน้าเหลียวหลังแล้วมองลงไปด้านล่าง พลันเสียหลักเท้าลื่นจากขอบระเบียงร่วงวูบลงมาแต่มือคว้าขอบปูนไว้ได้ ยาหยีตกใจมากพุ่งเข้าไปคว้ามือสุดยอดไว้แน่น!
ประตูบันไดหนีไฟปิดสนิท พี่ยิ่งยิ้มกริ่ม ว่านกับนัทวิ่งขึ้นบันไดหอบแฮ่กมาถามเป็นเสียงเดียวกันว่า
“เป็นไงพี่”
“ล็อกเรียบร้อย สำเร็จตามแผน สุดยอดมันก็ได้ปรับความเข้าใจกับน้องหยีสมดังตั้งใจ ทีนี้พวกเอ็งจะยกโทษให้พี่ได้รึยัง”
“ได้ยิ่งกว่าได้อีกครับพี่ มาๆๆ ให้ผมหอมพี่ให้ชื่นใจซักที” ว่านกับนัททำท่าจะหอมแก้มพี่ยิ่งซ้ายขวา แต่ยิ่งผลักออกบอกจะอ้วก...ว่าแล้วก็วิ่งหนีลงบันได ว่านนัทกระดี๊กระด๊าตามประกบ...
บนดาดฟ้า ยาหยีเหงื่อออกเต็มหน้าพยายามดึงมือสุดยอดไว้ สุดยอดเห็นท่าไม่ไหวบอกให้เธอปล่อยเถอะ แต่เธอไม่ยอม ยืนยันจะไม่ปล่อยมือจากเขาเป็นอันขาด
“นายเกาะมือฉันไว้แน่นๆ ฉันจะเรียกคนมาช่วย...ช่วยด้วย ใครก็ได้ช่วยที”
“ไม่มีใครได้ยินหรอก นอกจากใครจะเห็นพี่ยิ่งที่พื้น”
“พี่ยิ่ง...พี่ยิ่งไม่น่าคิดสั้นเลย...ใครก็ได้ช่วยที ช่วยด้วย”
“หยี...ผมรักคุณ ชีวิตนี้ผมรักคุณคนเดียวได้ยินมั้ย”
ยาหยีไม่ตอบ แต่บอกให้เขาโหนขอบปูนไว้ก่อน เธอจะลองตะโกนเรียกคนข้างล่าง พอยาหยีทำท่าจะลุกขึ้นไปดูนอกตึก สุดยอดรีบห้ามทันที
“อย่าดู...ข้างล่าง...พี่ยิ่ง...มันเละมาก หยีจะใจเสียเปล่าๆ จำไว้นะถ้าผมตายไป ผมอยากให้คุณรู้ไว้อย่างหนึ่งว่า...ผมรักคุณ”
สุดยอดอ่อนแรงมือเลื่อนหลุดจากมือยาหยี...ยาหยีช็อกสุดๆ ทรุดตัวลงกับพื้นร่ำไห้แทบขาดใจ
เวลานั้นที่ชั้นล่าง ว่านกับนัทประคองพี่ยิ่งที่เข่าอ่อนเดินไม่ไหวลงมาเจอเพิร์ลลี่เข้าอย่างจัง เพิร์ลลี่ร้อนรนถามหาสุดยอด แต่ก็ไม่ได้รับคำตอบจากทั้งสามคน แถมพี่ยิ่งยังต้อนให้เธอเข้าไปรอสุดยอดในห้องแต่งตัวจนได้
ด้านยาหยีที่บนดาดฟ้า เธอรำพึงรำพันทั้งน้ำตาบอกรักสุดยอด ชาตินี้เธอจะไม่รักใคร จะไม่แต่งงานกับใครอีกตลอดชีวิต เพราะหัวใจรักของเธอเป็นของเขาคนเดียว
“จริงเหรอ คุณรักผมจริงๆเหรอ”
ยาหยีชะงักกับเสียงที่ได้ยิน แล้วกลายเป็นประหลาดใจที่สุดยอดปีนขอบปูนขึ้นมา
“สุดยอด นายยังไม่ตาย” เธอโผเข้ากอดเขาด้วยความดีใจ
“ผมยังไม่ตาย โชคดีมันมีกันสาดรองอยู่”
ยาหยีชะโงกข้ามขอบปูนไปดู ก็เห็นว่ามีกันสาดอยู่จริงอย่างที่เขาบอก “เดี๋ยวก่อน...คุณรู้คุณเห็นตั้งแต่แรกแล้วใช่มั้ยว่าตกลงไปแล้วไม่ตายน่ะ” สุดยอดยิ้มแหะๆ ยาหยีโกรธ ระดมทุบเขาไม่นับ “ไอ้จอมกะล่อน ไอ้จอมเจ้าเล่ห์”
สุดยอดรวบมือยาหยีแล้วดึงเข้ามากอด “ถ้าไม่ทำแบบนี้แล้วผมจะรู้เหรอว่าคุณรักผม คนปากแข็ง ผมรักคุณนะหยี ถึงเราจะคบกันเป็นเวลาเพียงสั้นๆ แต่ผมมั่นใจว่าตลอดชีวิตผมจะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่กับใคร”
“เพิร์ลลี่ก็รักนายไม่แพ้ฉัน เพราะฉะนั้นนายควรจะทำใจให้รักคนที่นายจะต้องแต่งงานด้วยจะดีกว่า เพิร์ลลี่คงเสียใจที่นายไม่รักเธอ” พูดจบเธอผลักเขาออกห่าง แต่สายตาเขายังอาวรณ์ เอ่ยปากขอร้อง
“ผมขอกอดคุณเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย”
ยาหยีน้ำตารื้นเต็มขอบตา พยักหน้าช้าๆแทนคำตอบ
เท่านั้นเอง สุดยอดก็สวมกอดเธอแนบแน่น “ผมจะจำความรู้สึกนี้ไปตลอดชีวิต” เขาก้มลงจะประทับจูบ แต่ทันใดประตูดาดฟ้าเปิดออกขัดจังหวะ พร้อมๆกับเพิร์ลลี่ก้าวออกมา
“พี่ยอด...มาทำอะไรอยู่บนนี้คะ”
เสียงแหลมๆของเพิร์ลลี่ทำให้ทั้งคู่ผละออกจากกันทันที
“ลงไปข้างล่างเถอะค่ะ พี่ยิ่งจะถ่ายรายการแล้ว” เพิร์ลลี่ลากสุดยอดออกไป ยาหยีมองตามหน้าเศร้า น้ำตารินไหลอาบแก้ม...
ooooooo










