ตอนที่ 12
หาญรีบไปที่ห้างโดยไม่รู้ว่าถูกคุณนายและมัทนีสะกดรอยมา
ระหว่าง ที่หาญเดินอ้าวไปหาน้ำผึ้งนั้น อาทิตย์พยายามโทร.จะบอกให้รู้ตัว แต่พอหาญเห็นเป็นสายจากอาทิตย์ก็ตัดทิ้ง พอน้ำผึ้งโทร.มาคร่ำครวญว่าสงสารพี่มันเผาจะขาดใจแล้ว หาญบอกว่ามาจะถึงแล้ว พอวางสายจากน้ำผึ้งอาทิตย์ก็โทร.เข้าถูกหาญตัดสายอีก พลันมือถือก็ดังขึ้นต่อเนื่อง คราวนี้เป็นสายจากคุณนายจำเนียร หาญรีบกดรับ พูดออกตัวว่า
“คุณจำเนียร เอ้อ...ผมลืมโทร.บอกว่ามาถึงมหาวิทยาลัยแล้วนะ สายแล้วขอตัวไปสอนก่อนนะ” พูดแล้วตัดสายเลยเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนอีกตัว แต่มือถือก็ดังขึ้นอีก เป็นสายจากอาทิตย์เตือนให้รู้ว่าถูกคุณนายกับมัทนีตามมา หาญมองหาไม่เห็นก็ด่าหาว่าอาทิตย์หลอก
คุณนายจำเนียรโกรธผิดหวังมากเมื่อจับได้ว่าหาญโกหก มัทนีบอกแม่ว่าพ่ออาจจะมีเหตุผลก็ได้ แล้วรีบพากันตามไป
หาญเดินไปเห็นคุณนายกับมัทนีเข้า ตกใจแทบช็อกรีบหันเดินหนี แต่เจอน้ำผึ้งเข้าพอดี น้ำผึ้งร้องเรียกเสียงดัง
“คุณพ่อคะ!!!”
หาญผงะรีบหันหลังให้น้ำผึ้งแล้วเดินหนีไปอีกทางอย่างเร็ว มัทนีตาไวบอกแม่ “พ่อไปแล้วค่ะแม่” แล้วรีบตามไป
หาญ หนีหูตาเหลือก คิดถึงอาทิตย์ทันที โทร.ให้เขามาช่วยพลางหลบเข้าไปซ่อนในร้านขายเสื้อ แต่เจ้ากรรม! ร้านเสื้อมีทางเข้าออกทางเดียวเท่านั้น พอจะหนีออกไปก็เจอสองแม่ลูกสวนเข้ามาพอดีเลยต้องหลบเข้าไปอีก
อาทิตย์มา จากไหนไม่รู้ดึงหาญหลบไปอีกด้าน สองแม่ลูกมองหาไปตามซอกมุมต่างๆ แต่ก็ถูกแก๊งไก่แจ้หลอกล่อถ่วงเวลาเสียจนงง เปิดทางให้อาทิตย์พาหาญหนีออกไปได้ พอรู้ตัว คุณนายถามโมกข์กับอเนกว่ารวมหัวกับหาญใช่ไหม บอกมาเดี๋ยวนี้ว่าหาญอยู่ที่ไหน!
มัทนีเอะใจว่าไม่เห็นอาทิตย์ ฉุกคิดว่าเขาอาจพาพ่อหนีไป ถามว่า “บอกมา พ่อฉันกับนายอาทิตย์อยู่ไหน!”
พอหนีรอดมาได้แล้ว แทนที่จะขอบใจ หาญกลับเผยวิญญาณเฒ่าสารพัดพิษ หาว่าอาทิตย์เป็นคนบอกคุณนายจำเนียรให้ตามตนมา เพื่อดิสเครดิตตนเพื่อเรียกคะแนนสงสารจากมัทนี ทั้งยังสั่งห้ามเขากลับไปเหยียบที่บ้านตนอีก
อาทิตย์เตือนหาญว่าเขากำลังถูกเด็กหลอกเอาเงิน หาญฉุนขาดตวาดว่า “อย่ามาดูถูกลูกน้ำผึ้งของฉัน”
“ลูก?” อาทิตย์ทวนอย่างสมเพช “ผมขอยื่นคำขาด ให้เลิกติดต่อกับผู้หญิงคนนั้น ไม่งั้นคุณพี่จะต้องเสียใจ”
หาญ ไม่พอใจถามว่าขู่ตนหรือ อาทิตย์บอกว่าตนเลิกกับมัทนีแล้วไม่มีอะไรจะต้องกลัวอีกแล้ว จังหวะนั้นเองน้ำผึ้งวิ่งฝ่าเข้ามาหาหาญ หาญจ้องตาอาทิตย์พูดอย่างวัดใจว่า “แกไม่กล้าทำให้ยัยมัทเสียใจหรอก” อาทิตย์พูดทิ้งท้ายว่าก็ลองดูแล้วผละไป
หาญพาน้ำผึ้งแยกไปอีกทางอย่างไม่ยี่หระสายตาของอาทิตย์ ฟังน้ำผึ้งออดอ้อนฉอเลาะไม่กี่คำก็เอารถไปจำนอง ได้เงินสองแสน พอรับเงินมาก็ส่งต่อให้น้ำผึ้งทันที ถูกอาทิตย์แทรกเข้ามากระชากเงินไป ถามหาญว่า
“ถึงกับเอารถมาค้ำประกันสินเชื่อ พ่อบ้าไปแล้วหรือ”
แม้หาญ และน้ำผึ้งโวยวายจะเอาเงินคืน อาทิตย์ก็ไม่ยอมคืนให้ ทั้งยังขอถ่ายรูปกับน้ำผึ้งและขอดูบัตรประชาชน หาญด่าอาทิตย์ว่าชั่ว ใจร้าย ใจดำขัดขวางการช่วยน้ำผึ้งผู้น่าสงสารของตน แล้วเข้าแย่งเอาเงินคืนแต่อาทิตย์กำไว้แน่น ขณะกำลังยื้อยุดกันนั่นเอง คุณนายจำเนียรกับมัทนีตามมาเจอ น้ำผึ้งฉวยโอกาสขณะทั้งสองกำลังหันไปสนใจสองแม่ลูก แย่งเงินวิ่งหนีไปแต่ถูกอเนก แท่น โทนี่และโมกข์มาดักจับตัวไว้
ooooooo
เมื่อเรื่องบานปลายจนเผชิญหน้ากันเช่นนี้แล้ว อาทิตย์ถามหาญว่าจะพูดเองหรือจะให้ตนพูด หาญนิ่งไปอึดใจเดียวก็ตีหน้าเศร้าขอโทษคุณนายที่โกหกว่าไปบรรยายวิชาศีลธรรม แทนเพื่อนที่มหาวิทยาลัย
“เพราะอะไร คุณมาที่นี่ทำไม แล้วเกี่ยวอะไรกับเด็กผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า” คุณนายถามเครียด
“ผม...รู้จักกับเด็กผู้หญิงคนนี้ เพราะเขาเป็น...เป็น...เด็กไอ้อาทิตย์!”
อาทิตย์ ผงะ เพื่อนๆ อึ้ง ส่วนหาญเล่นละครต่อได้อย่างลื่นไหลว่า อาทิตย์ซุกเด็กไว้ นอกใจมัทนีมาตลอด และที่วันนี้ตนต้องโกหกคุณนายออกมาเพราะสายรายงานว่าอาทิตย์นัดเด็กไว้จะเอา เงินมาให้สองแสน ตนพยายามห้ามแต่อาทิตย์พวกมากกว่าเลยห้ามไม่ได้ชี้กราดไปที่แก๊งไก่แจ้ว่า พวกนี้มาช่วยปกปิดความชั่วของอาทิตย์
เมื่อพวกอาทิตย์พากันโต้แย้งว่าไม่จริง หาญก็ให้ถามน้ำผึ้งดูโดยตัวเองพูดนำว่า
“หนู...หนู พูดออกมาเลย ว่าหนูเป็นแฟนใคร รักใคร อาทิตย์มันบอกหนูใช่ไหมว่ามันยังโสด แต่จริงๆมันแต่งงานแล้ว มันก็แค่หลอกหนู หลอกทุกคน” พูดแล้วแอบกระซิบ “หนีไป...ไป”
“คนหลอกลวง!!!” น้ำผึ้งตะโกนใส่หน้าอาทิตย์แล้ววิ่งหนีไปพร้อมกับเงินสองแสน หาญถามอาทิตย์ว่ามีอะไรจะพูดอีกไหม
“ผม อยากพูดแค่ว่า คุณพี่หาญคือที่สุดของที่สุดเลยครับ ผมจะไม่ปกป้องอะไรคุณพี่อีกแล้ว...มัท...” อาทิตย์ไม่ทันพูดต่อก็ถูกมัทนีตบหน้าถามว่า นี่คือความลับของเขาใช่ไหม เลวที่สุด พออาทิตย์จะชี้แจง ก็ถูกหาญดักคอว่า
“แกจะพูดอะไร คิดจะโบ้ยความผิดให้ฉันเหรอ”
มัทนีเร่งอาทิตย์ให้รีบไปหย่า ตนไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นภรรยาเขาแม้แต่วินาทีเดียว และไม่เชื่อคำพูดของเขาอีกแล้ว คุณนายจำเนียรก็ถล่มซ้ำว่าต่อไปไม่ต้องมายุ่งกับลูกสาวตนอีก สักวันกรรมจะตามสนองเขาแน่
“ปลงเสียเถอะแม่จำเนียร สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม” ว่าแล้วหาญรีบต้อนคุณนายออกไปอย่างโล่งใจ อาทิตย์ได้แต่มองตามทั้งสามไปเซ็งๆ เพื่อนในแก๊งไก่แจ้พากันเข้ามาห้อมล้อม โมกข์ปลอบใจว่า
“ใครไม่เข้าใจ แต่พวกฉันเข้าใจนะโว้ย...แกไม่ใช่คนอย่างนั้น”
ส่วน มัทนี แม้จะได้รับคำปลอบใจจากทั้งพ่อและแม่ แต่เมื่อเธอกลับเข้าห้องนอน มองตรงที่อาทิตย์เคยนอน น้ำตาไหลออกมาเองอย่างสุดที่จะฝืนได้...
ooooooo
หลังจากปล่อยคลิปอาทิตย์กับพลอยให้มัทนีโกรธแล้ว เอกชเยศร์ก็มาที่บ้าน ถูกหาญกับคุณนายจำเนียรไล่ก็ไม่ยอมกลับ ดื้อรั้นขอคุยกับมัทนี
“เอกต้องการอะไร” มัทนีออกมาถาม เอกชเยศร์เสนอว่าเมื่อเธอเลิกกับอาทิตย์แล้วก็มาแต่งงานกับตนเถิด มาเริ่มต้นกันใหม่ ตนไม่ถือสากับความผิดเล็กๆน้อยๆ ของเธอ ทำให้หาญกับคุณนายจำเนียรโมโหไล่ให้ออกไปเลย ถูกเอกชเยศร์ตวาดว่าพวกไม่เกี่ยวอย่าสอด มัทนี จึงบอกเขาว่าตนหย่ากับอาทิตย์จริงแต่จะไม่รักใครอีก จะขออยู่กับพ่อแม่ สำหรับกับเขา เธอยืนยันว่า “เราเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น ถ้าเอกไม่อยากเป็น ก็ไม่เป็นไร ก็อย่ามาเจอกันอีก”
เอกชเยศร์ทำท่าจะตื๊ออีก เลยถูกเจ้าท่วมทุ่งทั้งเห่าทั้งไล่กัดจนต้องวิ่งหนีออกไป แต่ไม่วายขู่หาญกับคุณนายว่า
“เป็นศัตรูกับสื่อ แน่ใจแล้วหรือครับ ที่คุณแม่มีโลโก้ครอบครัวสุขสันต์ ไม่ใช่เพราะสื่ออย่างผมช่วยประโคมข่าวหรือครับ ผมให้คุณให้โทษกับหน้าที่การงานของคุณแม่ได้”
“ตายแล้ว...นี่เธอกล้าขู่ ฉันเหรอ เธอมันบ้าอำนาจ ใช้อำนาจสื่อคุกคาม อยากทำอะไรก็เชิญเลยเพราะคนบ้านนี้มั่นใจว่าไม่เคยทำเรื่องเสียหาย เราไม่มีอะไรต้องกลัว จริงไหมคะคุณหาญ”
หาญตอบตามแบบฉบับว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม แล้วทั้งสองคนก็ช่วยกันไล่ไปให้พ้น คุณนายสั่งโหน่งกับเหน่งว่าต่อไปห้ามคนนี้เข้าบ้านอีกเด็ดขาด
ooooooo
คุณนายลิ้นจี่ดูออกว่าลูกชายไม่สบายใจเรื่องหย่ากับมัทนี เตือนสติว่าเมื่อแต่งงานกันแล้วก็ต้องอดทนให้ถึง ที่สุด บอกอาทิตย์ด้วยความรักว่า อยากให้เขามีความสุข
เมื่อฟังอาทิตย์ที่พยายามทำร่าเริงบอกว่าตนดีใจที่จะได้กลับมาเป็นโสดอีกครั้ง ชีวิตจะได้พบกับความสุขที่แท้จริง คุณนายเขกหัวลูกชาย ถามว่าคิดว่าแม่ดูไม่ออกหรือแล้วหว่านล้อมว่า
“เสียใจก็บอกเสียใจ อยากคืนดีก็ไปง้อ ทำอะไรให้มันง่ายๆ อย่าทำตรงข้ามกับความต้องการที่แท้จริง ชีวิตจะได้แฮปปี้”
อาทิตย์บอกว่าเขาอยากหย่า “ผมก็อยากจะหย่า เราโคตรจะใจตรงกันเลย เนื้อคู่เห็นๆ ก้ากๆๆๆ” อาทิตย์ทำเสียงหัวเราะเดินออกไป คุณนายลิ้นจี่ได้แต่มองตามลูกชายไปอย่างสงสาร...
ooooooo
แล้วเหตุการณ์ที่ทำให้หาญตาสว่างก็มาถึงเมื่อเขาอ่านพบข่าวเกี่ยวกับพี่มันเผาว่า
“เชิญร่วมงานสายใยรัก สายสัมพันธ์ครอบครัวร่วมบริจาคและประมูลของรักของหวงจากศิลปินชื่อดัง มันเผาเอเอฟ” หาญรีบไปงานนี้ด้วยความหวังว่าจะต้องได้พบน้ำผึ้ง ทางสะดวกเมื่อคุณนายไปประชุมและมัทนีไปมูลนิธิ
หาญไปถึงสวนสาธารณะที่จัดงาน เป็นเวลาที่พิธีกรสัมภาษณ์พี่มันเผาพอดี เรื่องกลายเป็นโอละพ่อ เมื่อพี่มันเผาให้สัมภาษณ์ถึงฐานะทางครอบครัวที่มั่นคงจนตัวเองถูกเรียกว่าคุณหนู เพราะคุณพ่อเป็นหมอและคุณแม่เป็นเจ้าของโรงพยาบาลและตัวพี่มันเผาเองก็ไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่เด็ก
หาญมองหาจนเจอน้ำผึ้งเดินอ้าวไปแอบเอามือปิดตาให้ทายว่าเป็นใคร พอดีหนุ่มที่น้ำผึ้งควงมาด้วยเห็นเข้าถามว่าเป็นใคร! พอความแตกน้ำผึ้งก็ดึงหาญแยกออกไปคุย ด่าทอต่อว่าที่มาโดยตนไม่ได้เรียก ไล่ให้กลับไปเสีย หาญถามว่าเธอมีพ่อคนใหม่แล้วใช่ไหมไอ้หนุ่มหน้าปลาดุกนั่นเป็นแฟนใหม่ใช่ไหม น้ำผึ้งถามว่าถ้าใช่แล้วจะทำไม
“พ่อไม่ยอม!!” หาญโวยจับมือน้ำผึ้งไว้ เลยถูกหนุ่มคนนั้นเข้ามาตวาดถามว่าทำอะไรเบบี๋ของตน น้ำผึ้งชี้หาญบอกว่าเป็นคนเลอะเลือน
แต่ในที่สุดน้ำผึ้งก็ถูกฉีกหน้ากากเมื่อบรรดาเสี่ยที่เคยถูกหลอกนำตำรวจมาชี้ให้จับตัว พอหนังสือพิมพ์กรูกันมาทำข่าวบรรดาเสี่ยเหล่านั้น บ้างก็ดึงหมวกหรือสิ่งอื่นใดที่มีอยู่ปิดหน้าตัวเอง มีแต่หาญที่ไม่ได้เตรียมอะไรมาเลย ยืนเงอะงะถูกถ่ายรูปเห็นหน้าจะจะติดไปด้วย
มัทนีไปเยี่ยมนรีกับหลาน นรีถามเรื่องที่เธอจะหย่ากับอาทิตย์ ติงว่ารู้สึกเรื่องมันแปลกๆแล้วให้อเนกเล่าให้ฟัง
อเนกบอกว่าแก๊งตนมีอะไรไม่เคยปิดบังกัน เรื่องน้ำผึ้งที่หาญบอกว่าเป็นเด็กของอาทิตย์นั้นตนไม่เคยได้ยินชื่อด้วยซ้ำ แต่ก็เชื่อว่าอาทิตย์มีอะไรปิดบังเธออยู่และก็ปิดบังพวกตนด้วย แต่เขาไม่ได้ปิดบังเพื่อตัวเองแต่ปิดบังเพื่อเธอ
มัทนีมีอคติกับอาทิตย์จนทนฟังไม่ได้ บอกอเนกว่าตนไม่มีวันเปลี่ยนใจ ตนทนไม่ไหวกับเขาอีกแล้วหยิบกระเป๋าขอกลับเลย แต่ออกไปเจออาทิตย์เข้ามาพอดี เขาพยายามทำร่าเริง แต่ก็สลดเมื่อมัทนีย้ำเตือนว่า “พรุ่งนี้เก้าโมง อย่าสาย!”
ooooooo
ดึกแล้ว หาญเพิ่งกลับถึงบ้านเจอคุณนายจำเนียรนั่งดูทีวีอยู่ หาญเดินสำรวมขอตัวขึ้นข้างบนบอกว่าจะไปสวดมนต์
พอดีทีวีรายงานข่าวจับแก๊งต้มตุ๋นในภาพมีน้ำผึ้งและเพื่อนๆ แต่คนในกลุ่มที่อยู่ในภาพมีหาญยืนเงอะงะอยู่ด้วย หาญรีบหยิบรีโมตปิดทีวี กลัวคุณนายเห็น พอคุณนายถามว่าปิดทำไม หาญแสดงความไม่พอใจแค้นอาทิตย์ที่นอกใจมัทนีมีน้ำผึ้งเป็นกิ๊ก
ครู่เดียวมัทนีกลับมาอย่างเศร้าเหงา คุณนายถามว่าไปไหนมา เธอบอกว่าไปทำงานแล้วเลยไปเยี่ยมนรีด้วย บอกแล้วขอตัวขึ้นไปพัก
“เดี๋ยว เป็นอะไร อย่าบอกนะว่าไปเจอมันที่นั่น เจอนายอาทิตย์ใช่ไหม” คุณนายถาม มัทนีโผเข้ากอดแม่ร้องไห้บอกว่า ตนอยากหย่าให้เร็วที่สุด หาญยืนอึ้งรู้ตัวว่าตนเป็นต้นเหตุทำให้ชีวิตครอบครัวของลูกสาวพังทลาย
คืนนี้ หาญคิดมากจนนอนไม่หลับ ลงมาเจอมัทนีนั่งร้องไห้มืดๆในห้องรับแขก เขายิ่งรู้สึกผิด ถามว่า
“ลูกไม่อยากหย่าพรุ่งนี้หรือเปล่า ลูกไม่ได้อยากหย่า? มัท...พูดกับพ่อตรงๆเถอะ”
“มัท...ไม่อยากให้มันเป็นอย่างนี้ แต่มัทไม่รู้จะทำยังไง มัทอยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์เหมือนพ่อกับแม่ อยากให้นายอาทิตย์เป็นเหมือนพ่อ เขาก็เป็นไม่ได้” หาญบอกว่าเหมือนตนไม่มีสีสันอะไรเลย “ไม่มีสีสันแต่พ่อก็ซื่อสัตย์ รักครอบครัวไม่เคยโกหกคุณแม่ แต่นายอาทิตย์ตรงข้ามทุกอย่าง...ถ้าตอนนั้นมัทเชื่อพ่อ ไม่แต่งงานกับเขาก็คงไม่ต้องเสียใจเหมือนตอนนี้”
มัทนียอมรับว่าตนรักอาทิตย์ แต่เขาก็ไม่เคยทำอะไรที่แสดงว่ารักตนเลย กระนั้นตนก็ยังรักเขา...หาญสะเทือนใจจะยอมรับผิดก็ยังไม่กล้า กลัวถูกลูกเกลียด จึงพูดเลี่ยงๆว่าน่าจะให้โอกาสอาทิตย์สักครั้ง แต่เธอก็ทำใจไม่ได้ยืนยันจะหย่า
เวลาเดียวกัน ลูกน้องเอกชเยศร์เอารูปหาญที่ติดอยู่ในกลุ่มเสี่ยที่ถูกน้ำผึ้งกับพวกต้มตุ๋นหลอกเอาเงิน
“เฮ้ย...นี่มัน...เยี่ยม...เยี่ยมเลย สุดยอดที่สุดไอ้น้องรัก...” เอกชเยศร์โผกอดรุ่นน้องจูบซ้ายจูบขวา พึมพำสะใจ “อยากเป็นศัตรูกับสื่อใช่ไหม หึๆ!!”
ooooooo
รุ่งขึ้น มัทนีเตรียมไปเขตเพื่อหย่าตามนัด คุณนายยิ้มแย้มยินดีแต่ติดจัดรายการจึงไม่อาจไปเป็นเพื่อนลูกได้
แต่หาญเดินงุ่นง่านต่อสู้กับความคิดของตัวเองอย่างหนัก ถามมัทนีว่าจะไปจริงๆหรือ อยากให้คิดพิจารณาอย่างมีสติอีกสักครั้ง แต่มัทนีตัดสินใจแล้วที่จะหย่า
“มัทไปนะคะพ่อ ขอพรพ่อ พ่อเป็นคนที่สมบูรณ์ด้วยศีลธรรม ช่วยอวยพรให้ลูกพ้นจากคนพาลด้วยนะคะ”
มัทนีเข้าไปกราบที่อกหาญ เขาถึงกับสะอึกพูดไม่ออก ลุ้นให้คุณนายห้ามลูก แต่คุณนายยินดีกับการหย่าอยู่แล้ว บอกหาญว่าลูกจะได้พ้นทุกข์พ้นเคราะห์เสียที หาญพูดไม่ออกได้แต่กระวนกระวาย
เมื่อตามคุณนายไปถึงสถานี หาญบอกคุณนายว่า “ผมคิดว่าลูกมัท...ไม่ได้อยากจะหย่า ถ้าผมบอกอะไรคุณ... สัญญาได้ไหมว่าคุณจะไม่โกรธ” แต่หาญไม่ทันบอกอะไร เจ้าหน้าที่ก็มาบอกคุณนายว่าได้เวลาแล้ว คุณนายจึงบอกหาญว่าเอาไว้คุยวันหลังแล้วกัน แล้วเดินแยกไปเข้าห้องส่ง
“เดี๋ยว...มันจะไม่ทันเอาน่ะสิ” หาญกระวนกระวายมาก
เป็นเวลาที่อาทิตย์กับมัทนีไปถึงเขตพอดี อาทิตย์รออยู่แล้วบอกว่าเธอมาช้า มัทนีบอกว่าแค่ห้านาที เขาย้ำว่าก็ถือว่าสาย ต่างฝ่ายต่างวางมาดทำทีว่าอยากจะหย่ากันมาก แต่พอถึงเวลาเซ็นหย่าจริงๆกลับจับปากกาอยู่นานกว่าจะเซ็น
ooooooo
หาญนั่งฟังคุณนายจัดรายการอย่างกระวน กระวาย เป็นวันที่คุณนายเล่าถึงเรื่องราวของผู้ชายที่ก่อนแต่งก็เห็นว่าดี แต่พอแต่งไปแล้วกลายเป็นเสือซ่อนเล็บ
“จะรอวันที่เสือกลับใจ หรือจะตัดใจเดินจากเสือ เชื่อได้ว่า ไม่ว่าจะเลือกอย่างไหน เราก็ปวดใจทั้งนั้น เพราะความรู้สึกได้ให้ไปหมดแล้ว แต่สำหรับดิฉัน ถ้าต้องเลือก ดิฉันจะเลือกถีบหัวส่งไอ้เสือชั่ว!”
หาญนั่งฟังอยู่ข้างนอกถึงกับสะดุ้งเฮือก เสียงคุณนายจำเนียรยังคุยอย่างมีอารมณ์ต่อไปว่า
“ถ้ามันกล้าหลอกเรา แล้วยังไม่รู้จักเชื่องอีก ก็ไม่มีประโยชน์อะไรที่จะอยู่ร่วมกันอีก แล้วดิฉันจะโพนทะนาเรื่องของมันให้ทั่ว ด่าให้อาย ให้มันจมดินไม่มีที่ยืน เพราะผู้ชายพรรค์นี้ ไม่สมควรที่ใครจะเก็บเอามาทำพันธุ์อีกต่อไป”
หาญยิ่งฟังก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่ยังทนฟังคุณนายพูดต่อ...
“ในฐานะที่ดิฉันเป็นแม่ ย่อมต้องปกป้องลูก ไม่มีพ่อแม่ดีๆที่ไหน จะทนเห็นลูกเป็นทุกข์โดยที่ตัวเองไม่ทำอะไรเลยได้ ยิ่งถ้าความทุกข์ของลูก ส่วนหนึ่งก็เกิดจากตัวเราเองด้วย...เราจะทนเห็นชีวิตลูกล่มจมเพราะตัวเราได้หรือ...ไม่มีทาง...ไม่มีพ่อแม่ดีๆที่ไหนทนนิ่งดูดายได้...ผู้ชายที่ดิฉันจะพูดถึง มีอักษรย่อว่า...”
หาญทนไม่ได้ พรวดเข้าไปในห้องส่งบอกเสียงดัง “ผมเอง!!”
คุณนายทั้งตกใจ ทั้งงง หาญสารภาพกับคุณนายว่า “ผมคือคนที่สร้างเรื่องทั้งหมด ผู้หญิงที่คุณเข้าใจว่าเป็นกิ๊กอาทิตย์ จริงๆแล้วเป็นกิ๊กผม...ผม...ผมจะทนปล่อยให้ลูกรับกรรมที่ผมเป็นคนก่อไม่ได้ คุณจำเนียร เรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น คุณกับมัทนีเข้าใจอาทิตย์ผิด...ผมเป็นคนสร้างเรื่องทุกอย่าง ผมคือพ่อไก่แจ้ตัวจริง ส่วนอาทิตย์มันก็แค่พยายามจะปกป้องครอบครัวเราเอาไว้ไม่ให้พังพินาศ มันไม่อยากให้ลูกมัทเสียใจที่มีพ่อเลวทรามต่ำช้าอย่างผม มันถึงต้องโกหกและยอมรับผิดแทนผม อาทิตย์เป็นคนดีมาก เราจะปล่อยให้ลูกของเราหย่ากับคนดีๆอย่างนี้ ไม่ได้ คุณเข้าใจไหม เราต้องไปห้ามลูกของเรา”
ขณะที่คุณนายยังตั้งสติรับไม่ทันนั่นเอง หาญตรงไปที่ไมค์ประกาศว่า
“ใครได้ยินเสียงนี้ แล้วอยู่ใกล้กับเขต ช่วยรีบไปห้ามลูกของพวกเราอย่าให้หย่ากันด้วย ผมยอมรับผิดแล้ว...อย่าทำให้ผมต้องสร้างตราบาปให้กับลูกสุดที่รักของผมอีกเลย” หาญสารภาพหมดเปลือกอย่างสิ้นแรง
“คุณหาญ...คุณพูด...จริงเหรอ...” คุณนายจำเนียรเสียงแผ่วแทบสิ้นแรง หาญยอมรับว่าจริง “ทั้งเด็กน้ำผึ้ง เด็กนก ไม่มีหลวงพ่ออะไรทั้งนั้น ผมไม่ได้ไปหาพระ ผมไปแรดผู้หญิง ผมขอโทษคุณจำเนียร”
“นี่คุณเห็นแก่ตัวถึงขนาดเขี่ยปัญหาของตัวเองไปให้ลูกได้เลยเหรอ...คุณเป็นพ่อคนยังไง คุณมันเลวที่สุด” คุณนายยกมือจะตบ แต่ชะงัก “ไม่...ฉันจะไม่เสียมือตบคนอย่างคุณ ยุติความรุนแรงในครอบครัว คุณมันเลวเกินกว่าจะโดนหลังมือฉัน มันจะแปดเปื้อน!!” คุณนายสะบัดหน้ารีบเดินออกเพื่อจะไปหามัทนี
ooooooo
คุณนายไปถึงพบมัทนีนั่งร้องไห้อยู่ที่ม้าหินด้านหนึ่ง พอเห็นหน้าแม่ก็โผเข้ากอดบอกว่าตนหย่ากับอาทิตย์แล้ว หาญเข้าไปหามัทนีพร่ำเอ่ย “พ่อขอโทษ...พ่อขอโทษ...”
หาญถูกคุณนายด่าว่าทำครอบครัวลูกพังพินาศหมดแล้ว เพราะความมักมากไม่รู้จักพอของเขา มัทนีมองงงๆ ถามว่าพ่อทำอะไร บอกมาสิ พ่อทำอะไรเอาไว้...
ส่วนอาทิตย์หลังจากเซ็นหย่าแล้วก็ว้าวุ่นใจ ในภาวะนี้เอง แก๊งพ่อไก่แจ้นั่งกันมาเต็มรถ ตามมาปลอบใจ อเนกชวนไปสนุกกันให้สุดเหวี่ยงเหมือนสมัยอยู่เมืองนอก ถามว่าจะไปไหม อาทิตย์นิ่ง อเนกบอกว่าไม่ไปก็ต้องไป แล้วดึงขึ้นรถไป พวกเพื่อนๆรุมกอดอาทิตย์แน่น โมกข์บอกว่า
“ขึ้นรถมาเลย มาแต่ตัว ทัวร์นี้เพื่อนจัดให้!”
ooooooo










