ตอนที่ 9
สำเภางามเกรงว่าเสกขรจะถูกอนัญทิพย์และเจ้านางอื่นๆรังแก จึงให้โหรหลวงหาฤกษ์ยามย้ายเสกขรเข้าไปอยู่ในคุ้มหลวงกับเมืองคุ้ม ริมบึงตามรับใช้นางเช่นเคย ส่วนเจ้านางอื่นๆที่เป็นสนมของเจ้าหลวงยังอยู่ในคุ้มฝ่ายใน
เมื่อสำเภางามรู้ข่าวจากแสงตาว่าเจ้าหลวงมีหมายถึงอนัญทิพย์ว่าจะไปหา นางจึงวางแผนให้ริมบึงสารภาพรักกับเมืองคุ้ม จนในที่สุดนางก็ได้เป็นสนม ซึ่งการกระทำครั้งนี้ก็เพื่อเสกขรนางเหนือหัวที่ริมบึงจงรักภักดีตลอดมา
อนัญทิพย์เฝ้ารอเมืองคุ้มทั้งคืนแต่ไร้วี่แวว บัวไหลโกรธแทนนายเพราะคิดว่าเสกขรดึงตัวเมืองคุ้มไว้ จึงเอาก้อนหินไปขว้างหลังคาคุ้ม ริมบึงรู้เห็นและจะเอาเรื่องแต่เสกขรกลับบอกให้สาวใช้คนสนิทอดทนอดกลั้น
ตองนวล เก็ตถวา และแก้วอากาศต่างก็รอคอยเมืองคุ้มเช่นกัน แต่ทั้งสามเจ้านางก็ผิดหวังเหมือนอนัญทิพย์ แต่งตัวเก้อแล้วกลายเป็นมีปากเสียงกันเองด้วยความริษยาเพราะชิงดีชิงเด่นกัน
หลังจากได้ริมบึงเป็นสนม เมืองคุ้มแต่งตั้งให้เป็นเจ้านางพุ่มเงิน มีหีบหมากเงินเสมอกับตองนวล เก็ตถวา และแก้วอากาศ ทำให้ทุกคนรวมถึงอนัญทิพย์ด้วยไม่พอใจ
ริมบึงไม่ได้ยินดียินร้ายกับตำแหน่งใหม่ ยังคงให้เพ็งเรียกตนอย่างเพื่อนเช่นเดิม ส่วนเสกขรก็ยังเป็นนางเหนือหัวที่ริมบึงเคารพบูชา เสกขรรู้เต็มอกว่าสำเภางามอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้ และริมบึงก็ทำเพื่อตนจึงไม่คิดขุ่นเคือง
สำเภางามรู้ว่าริมบึงภักดีต่อเสกขร แต่ไม่วายดักคอเอาไว้ว่า ความเมตตาของเมืองคุ้มจะไม่ทำให้ริมบึงเปลี่ยนไป
“ข้าเจ้าไม่ใช่คนเช่นนั้น แต่ข้าเจ้าเกรงว่าพระนางเจ้าจักโกรธข้า”
“มีผู้หญิงที่ข้าชิงชังหลายคนอยากใช้ผู้ชายคนเดียวกับข้า ข้ายังยอมได้เลย แล้วเหตุใดข้าจะให้เจ้าใช้ผู้ชายคนเดียวกับข้ามิได้”
สำหรับเสกขรแล้วยอมได้ทั้งที่หัวใจแสนขมขื่น แต่อนัญทิพย์นั้นเล่า นางรับไม่ได้ถึงกับหาโอกาสระรานริมบึง หาว่าหน้าด้าน แต่อย่าหวังว่าจะแย่งเมืองคุ้มไปจากตนได้ อีกทั้งพวกตองนวลก็อิจฉาริษยาริมบึงเช่นกัน
ทุกคนรุมด่าทอจนเรื่องราวบานปลาย สำเภางามต้องออกโรงมากำราบ
คะนองรู้เห็นเรื่องริมบึงแล้วหนักใจ บ่นกับเครือออนว่าเมืองทิพย์จะวุ่นวายหนักขึ้นไปอีก เพราะความริษยาของผู้หญิงร้ายแรง หากมีมากเท่าใดก็ยิ่งขาดสติเท่านั้น โดยเฉพาะเจ้าทิพย์ที่เจ้าคิดเจ้าแค้นไม่ยอมคน
หลังจากคืนนี้เสกขรหลับแล้ว เมืองคุ้มตั้งใจออกไปหาอนัญทิพย์ แต่ถูกริมบึงที่เฝ้าหน้าประตูขัดขวางอีก ทำให้เมืองคุ้มอดถามไม่ได้ว่านางทำแบบนี้เพราะรักตนหรือเพราะมีคนสั่งให้ทำ...ริมบึงหน้าเสีย เสกขรก้าวออกมาพอดี บอกริมบึงให้ปล่อยเมืองคุ้มไป เพราะคงไม่ยุติธรรมที่จะรั้งเขาให้อยู่แต่ที่นี่
เมืองคุ้มลิงโลดไปหาเจ้าทิพย์ที่รอคอยอย่างใจจด ใจจ่อ แม้จะมีสนมหลายคนแต่เมืองคุ้มก็รักอนัญทิพย์เกินหญิงใด ด้านตองนวลที่ผิดหวังคืนแล้วคืนเล่าก็ประกาศกับเก็ตถวาและแก้วอากาศว่าคืนนี้ตนไม่ยอมอีกต่อไป
แล้วมารยาหญิงของตองนวลก็สำเร็จตามใจปรารถนานางออดอ้อนจนเมืองคุ้มโอนอ่อนนอนค้างที่คุ้มของตน
ooooooo
เสกขรตั้งใจนำอาหารไปให้บุรพคามในเช้านี้ ครั้นมาเห็นสภาพพี่ชายที่ยังสติฟั่นเฟือนเพ้อคลั่งก็สงสารและสะเทือนใจ ถามเฟื้อแฝงว่าหมอหลวงปรุงยาให้เจ้าพี่ของตนบ้างหรือไม่
ขณะกำลังซักถามกันอยู่ข้างในนั้น อนัญทิพย์ผ่านหน้าคุ้มพร้อมบัวไหล เห็นเสลี่ยงของเสกขรก็แน่ใจว่านางต้องมาหาพี่ชาย อนัญทิพย์เปลี่ยนใจกะทันหันไม่ไปเฝ้าเจ้าหลวงแต่เข้ามาหาเรื่องสองพี่น้องและสาปแช่งบุรพคามให้ตายในเร็ววัน...
ต่อมาไม่นาน เสกขรกับริมบึงก็ท้องในเวลาไล่เลี่ยกัน เสกขรแพ้มากทำให้หมอหลวงต้องวุ่นวายกับการปรุงยาถวาย อนัญทิพย์ก็ท้องเช่นกัน แต่สั่งบัวไหล
ไม่ให้บอกใคร นางต้องการบอกกับเมืองคุ้มด้วยตัวเอง แต่เมืองคุ้มก็มัวแต่วุ่นวายกับอาการแพ้ท้องของเสกขรจึงไม่ได้มาหา ทำให้อนัญทิพย์ขุ่นเคืองใจเป็นอย่างมาก
สถานการณ์บ้านเมืองไม่สงบเพราะพวกดั้งขอยังรุกรานต่อตีหัวเมืองของเมืองทิพย์ คะนองจึงนำพาทหารออกไปต่อสู้ แต่แล้วคะนองถูกยิงบาดเจ็บกลับมา เมืองคุ้มจึงตัดสินใจรับศึกดั้งขอด้วยตัวเอง
สำเภางามรีบจัดพิธีล้างเคราะห์ให้เมืองคุ้มที่วัดหลวง อนัญทิพย์ ตองนวล เก็ตถวา และแก้วอากาศตามมาแล้วเกิดปะทะฝีปากกันเสียงดังจนทำลายพิธี
ตนบุญเลยยกเลิกพิธีที่หมดความศักดิ์สิทธิ์เสียแล้ว
เมื่อรู้ว่าอนัญทิพย์ท้อง เมืองคุ้มดีใจมากที่ตนจะมีลูกหลายคน จะได้แบ่งกันปกครองหัวเมืองและเมืองประเทศราช แต่อนัญทิพย์ไม่คิดเช่นนั้น เพราะนางต้องการให้ลูกของตนได้เป็นเจ้าหลวงองค์ต่อไปของเมืองทิพย์
ท้าววงษากับขุนเวียงออกอุบายว่าจะสังหารเมืองคุ้มแล้วยกอนัญทิพย์ขึ้นนั่งบัลลังก์ แต่อนัญทิพย์ไม่สนใจเพราะเชื่อว่าลูกในท้องของตนจะเป็นเจ้าหลวงองค์ต่อไป
สองขุนนางผู้จงรักภักดีต่อเจ้าหลวงปิตุลาและอยู่ฝ่ายอนัญทิพย์มาตลอดได้รับคำสั่งให้เป็นทัพหน้าไปต่อตีกับพวกดั้งขอ แต่สองคนไม่ร่วมมือทำศึก ส่งผลให้กองทัพดั้งขอโจมตีทัพเมืองทิพย์จนแตกพ่าย เมืองคุ้มถูกยิงบาดเจ็บแล้วม้าวิ่งเตลิดไปที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง
ที่หมู่บ้านนี้เมืองคุ้มได้พบกับยอดพุ่ม สาวชาวบ้านหน้าตาสะสวย ส่วนท้าววงษาที่แตกทัพหนีไปก็บาดเจ็บสลบอยู่ในทุ่งนาของอุ่นคำ หญิงม่ายผัวตาย อุ่นคำเห็นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็เชื่อว่าเป็นทหารชั้นสูงจากเมืองใดเมืองหนึ่งจึงคิดอุปการะไว้ หวังว่าตนเองจะได้สุขสบายก็คราวนี้
ขณะเดียวกันทางเมืองทิพย์ เสกขรกังวลเป็นห่วงเมืองคุ้ม ให้โหรทำนายดวงชะตาเจ้าหลวงแล้วโหรบอกว่าจะได้ลาภเป็นสัตว์สองเท้า อนัญทิพย์รีบแทรกว่าคงไม่ได้หมายถึงเจ้าหลวงจะมีเมียเพิ่ม สำเภางามยิ้มหยัน พูดเสียงเรียบว่าหากเป็นพระประสงค์ของเจ้าหลวงแล้วอนัญทิพย์ก็ขัดไม่ได้
อนัญทิพย์ไม่พอใจค้อนตากลับก่อนยอกย้อนว่า “ถือยศเป็นพระราชมารดาของเจ้าหลวง แต่ไม่ทำตัวให้น่าไหว้สาแล้ว ก็อย่าเป็นดีกว่า”
สำเภางามผุดลุกขึ้นยืนชี้หน้าอนัญทิพย์อย่างโกรธจัด แต่นางหาได้สะทกสะท้าน เชิดหน้าท้าทายแล้วเดินออกไปพร้อมบัวไหล
เมื่ออยู่กันลำพังสองคนนายบ่าว บัวไหลอดตีความคำทำนายของโหราไม่ได้ว่า
“โบราณว่าลาภจากสัตว์สองเท้า ถ้าไม่ใช่เมียก็คงเป็นบริวาร”
“ขอให้เป็นแค่บริวารเถิด อีบัวไหล กูจะเหยียบให้จมดินเลย”
“แต่ลูกเมียก็ถือเป็นบริวารด้วยนะเจ้าคะ”
“จะเป็นอันใดก็แล้วแต่ หากกูไม่ชอบ กูก็จะไม่ยอมให้มันได้เผยอขึ้นเทียมกูดอก ลำพังเสกขรเทวีก็เหมือนเสี้ยนตำใจกูมากพออยู่แล้ว อย่าหาเสี้ยนอันใหม่มาให้กูอีกเลย”
ooooooo
เฟืองเอาใจตองนวลด้วยการทำแป้งขมิ้นมาให้บำรุงผิวพรรณเพื่อให้ผุดผ่องเปล่งปลั่งเกินใคร งามกว่าเจ้าทิพย์และพระมหาเทวีเจ้า
ตองนวลสนใจให้เฟืองยกมาใกล้แล้วสูดดมกลิ่น แต่แทนที่จะหอมสดชื่นนางกลับโวยวายว่าเหม็นมาก
“อีเฟือง! ทำไมเหม็นเยี่ยงนี้วะ ข้าจะอ้วก เอาออกไปไกลๆข้าเลย”
“นี่แป้งขมิ้นนะเจ้าคะ เหม็นเสียเมื่อใดเจ้าคะ”
“เอาออกไป...กระโถนๆ เอากระโถนมาให้ข้าที”
เฟืองรีบหยิบกระโถนแล้วช่วยลูบหลังให้ตองนวลที่โก่งคออาเจียนสลับกับเสียงบ่น
“ทีหลังอย่าเอามาใกล้ข้าอีกนะ เหม็นจะตาย”
“นอกจากจะเหม็นแล้วเจ้านางยังเวียนหัวมัวตาบ้างหรือไม่เจ้าคะ”
เพียงตองนวลพยักหน้ารับ เฟืองก็ตบเข่าฉาดใหญ่ กระหยิ่มยิ้มย่องพูดโพล่งว่าเจ้านางท้องแน่ๆ
“ท้องเหรอ!” ตองนวลอุทานดวงตาเป็นประกาย จับท้องตัวเองอยู่ไปมาอย่างสาสมใจ
แค่ข้ามวัน เฟืองก็โพนทะนาเรื่องนี้แทบจะทั่วฝ่ายในให้พวกข้าไทรับรู้ข่าวดีของตองนวล
“เจ้านางตองนวลของข้าก็หาน้อยหน้าเจ้านางคุ้มไหนๆไม่” พูดแล้วเหลือบเห็นบัวไหลเดินผ่านมา จึงตะเบ็งเสียงให้ดังขึ้นอีก “โอ้กอ้ากทั้งวัน เจ้านางต้องมีพระโอรสให้เจ้าหลวงแน่ๆ ข้าคงได้อาศัยใบบุญพระกุมารน้อยแน่ๆ”
เฟืองเชิดหน้าหัวเราะสะใจ บัวไหลหันมองแล้วค้อนให้ก่อนคาบข่าวไปบอกนายของตน
อนัญทิพย์รับรู้ด้วยความเจ็บใจ พาลพาโลเอากับบัวไหลด้วยอีกคน
“อีตองนวลมันคงดีใจมากสินะ ก็ดี ให้มันรู้ไปว่าลูกข้าหรือลูกอีเจ้านางองค์ใดมันมีบารมีมากกว่ากันจำใส่หัวไว้ เรื่องเลวๆเยี่ยงนี้ไม่ต้องมาเล่าให้ข้าฟังข้าหาใส่ใจไม่”
บัวไหลนิ่งอึ้ง หน้าเสียไปทันที
ooooooo
ในยามเมืองทิพย์ไม่มีเจ้าหลวงเมืองคุ้ม สำเภางามพยายามผลักดันให้คะนองออกมารับทูตจากต่างเมืองเพื่อสัมพันธไมตรีที่ดี แต่คะนองยังบาดเจ็บจากการศึกไม่สามารถรับทูตได้
อนัญทิพย์ได้ทีเยาะเย้ยสำเภางามว่าเป็นเพราะบารมีของคะนองไม่มากพอ แต่ก็ถูกสำเภางามตอกหน้าว่าเจ้าหลวงปิตุลาพ่อของนางก็เช่นกัน
นอกจากจะทำให้อนัญทิพย์โกรธแทบกระอักแล้ว สำเภางามยังวางแผนให้เสกขรขึ้นมาเป็นเจ้านางหลวงแทนเมืองคุ้ม เช่นเดียวกับท้าววงษากับขุนเวียงที่พยายามหาทางยกอนัญทิพย์ขึ้นเป็นเจ้านางหลวง แต่อนัญทิพย์ยังลังเลไม่ตัดสินใจ
ตองนวลเพิ่งรู้แน่แก่ใจว่าตนเองไม่ได้ท้องหลังจากเกณฑ์หมอหลวงมาตรวจอาการ แต่เฟืองไปโพนทะนาไว้มากมาย ทำให้เสียหน้าอย่างแรงแถมโดนอนัญทิพย์เยาะหยันเข้าให้อีก คราวนี้เฟืองเลยโดนตองนวลด่าเละไม่มีชิ้นดี
ฝ่ายเมืองคุ้มที่คนในเมืองทิพย์ยังไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดียังไง เพลานี้เขารักษาบาดแผลถูกยิงจนเกือบหายเป็นปกติด้วยสมุนไพรจากพ่อของยอดพุ่ม โดยที่สองพ่อลูกยังไม่รู้ว่าเขาคือเจ้าหลวงแห่งเมืองทิพย์ ส่วนท้าววงษาก็ได้อุ่นคำเป็นเมียด้วยความยินยอมพร้อมใจ เพราะฝ่ายหญิงหวังความสบายในวันข้างหน้า
ความใกล้ชิดระหว่างยอดพุ่มกับเมืองคุ้มทำให้สองคนมีใจผูกสมัครรักใคร่กันอย่างรวดเร็ว ที่สุดยอดพุ่มก็เต็มใจเป็นเมียเมืองคุ้ม แต่พ่อรู้เห็นไม่พอใจ ดุด่าแล้ว
จะทำร้ายชายแปลกหน้า แต่พอรู้ว่าเขาคือเจ้าหลวงแห่งเมืองทิพย์ก็ยินดีเป็นที่สุด
บัวไหลรู้ความเคลื่อนไหวรีบมาบอกอนัญทิพย์ว่าท้าววงษากลับถึงเมืองทิพย์แล้ว และวันพรุ่งทุกคนต้องเข้าเฝ้าพระมหาเทวีเจ้าที่คุ้มหลวง ขณะเดียวกันสำเภางามที่เป็นห่วงเมืองคุ้มก็สั่งทหารออกค้นหาอีกครั้ง และส่งสารไปยังเมืองประเทศราชน้อยใหญ่ให้เร่งหาข่าวเจ้าหลวงด้วย
ooooooo
หลังจากคิดใคร่ครวญมาหลายเพลา...ในที่สุดอนัญทิพย์ก็วางแผนกำจัดบุรพคามแล้วโยนความผิดให้ริมบึง โดยใช้บัวไหลแอบเอายาพิษใส่ในอาหารของบุรพคามที่ริมบึงนำไปแทนเสกขรที่ยังไม่หายแพ้ท้อง
เฟืองบังเอิญรู้เห็นการกระทำของบัวไหลจึงนำความกลับมาบอกตองนวล แต่ตองนวลเลือกที่จะเก็บความลับนี้เอาไว้แทนการปากโป้งเพื่อเอาผิดอนัญทิพย์
บุรพคามโดนวางยาตายสมใจอนัญทิพย์ ส่วนริมบึงก็ตกเป็นจำเลย เสกขรยังตัดสินความไม่ได้และเสียใจมากกับการจากไปของพี่ชาย ถึงกับสะอื้นไห้คร่ำครวญอย่างขวัญเสีย สำเภางามเห็นใจแต่ก็อดเตือนไม่ได้ว่าอย่าแสดงความอ่อนแอให้คนอื่นเห็น
“พี่ชายข้าตาย...ผัวก็ไม่รู้ว่ายังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ลูกในท้องข้าอาจจะไม่มีพ่อ หันไปทางใดก็มีแต่ศัตรู นี่มันอะไรกันเจ้าป้า ไม่ใช่เพราะตั่งทองตัวนั้นดอกรึ ตั่งทองเป็นอำนาจที่ผู้คนหมายจะขึ้นไปนั่ง...แล้วเป็นคุณอันใดแก่ข้าบ้างล่ะเจ้าป้า”
“บ้านเมืองไร้เจ้าหลวงไม่ได้ คนเป็นเจ้าเกิดมาพร้อมความรับผิดชอบ ข้าเชื่อว่าพระนางเจ้าแจ้งใจดี”
ฉับพลันเสียงหัวเราะของอนัญทิพย์ดังแทรกขึ้นมาอย่างสาใจ “ตัดสินความมิได้ ก็เลยหลบหน้าหลบตาผู้คนอย่างนั้นรึ”
“หาใช่การของมึงไม่ อีทิพย์ ออกไป”
สำเภางามตวาดแว้ด ริมบึงถลาเข้ามาพอดี ร้องไห้น้ำตานองหน้าตรงไปกราบแทบเท้าเสกขร
“พระมหาเทวีเจ้า ข้าเจ้าหารู้เรื่องใดๆไม่เจ้าค่ะ”
“ริมบึงไม่ต้องร้องไห้ ข้าเชื่อว่าเจ้าบริสุทธิ์”
“นี่หรือผู้ที่จะเป็นเจ้านางหลวง ผู้ได้สิทธิธรรมบนบัลลังก์ตั่งทองตัวนั้น ชังน้ำหน้าตัวเองบ้างไหมเสกขร...ข้าถามว่าเจ้าชังน้ำหน้าตัวเองบ้างไหม”
“เจ้าหมายความว่าอย่างใด”
“หากเจ้ายุติธรรมจริง ก็จับอีริมบึงกับอีพวกข้าไทนี่จำตรุเสียก่อนสิ จะให้มันลอยนวลอยู่ได้อย่างใด”
“อีทิพย์...พระนางเจ้าอย่าฟังคนอย่างอีทิพย์นะเจ้าคะ”
สำเภางามจ้องอนัญทิพย์เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ เสกขรหมดความลังเล ตัดสินความในทันที
“ริมบึง เพ็ง และทุกคน ข้าจะจำตรุเจ้าจนกว่าจะจับได้ว่าการนี้คนชั่วที่อยู่เบื้องหลังคือผู้ใด ผู้ใดทำชั่วย่อมรู้อยู่แก่ใจ คนไม่เห็น ผีก็ต้องเห็น”
ริมบึงก้มหน้าน้ำตาร่วงพรู เพ็งและข้าไทร้องไห้อยู่ข้างหลัง ส่วนอนัญทิพย์ผู้บงการกลับเชิดหน้าไม่สะทกสะท้าน
ooooooo
ตองนวลนั่งสบายอารมณ์อยู่ในคุ้มของตน เฟืองนั่งอยู่ไม่ห่าง ท่าทีกระเหี้ยนกระหือรืออยากรู้เหตุผลที่นายตนไม่กราบทูลพระมหาเทวีเจ้า
“กราบทูลเรื่องใด”
“ก็เรื่องยาพิษ...อีทิพย์จะได้ถูกจำตรุหรือไม่ก็ประหารชีวิต”
“เก็บไว้ถลกหนังหัวมันวันหน้าดีกว่า อีริมบึงก็ถูกจำตรุไปคนหนึ่งแล้ว เพลานี้จัดการกับเสกขรอีกคน หากเจ้าพี่ไม่กลับมา เจ้าคะนองคงได้นั่งเมืองแทน ถึงครานั้นค่อยกราบทูลเจ้าคะนองว่าอีทิพย์มันคิดชั่วอย่างใด”
เฟืองยิ้มชอบใจในความคิดแยบยลของตองนวล ...คืนเดียวกัน สำเภางามตัดสินใจบอกเรื่องสำคัญแก่เสกขรและคะนอง พร้อมกับสำทับด้วยว่า
“การนี้รู้กันเพียงสามคน วันพรุ่งอุปราชหอหน้าจักประกาศแต่งตั้งพระมหาเทวีเจ้าเป็นเจ้านางหลวงแห่งเมืองทิพย์”
“ตรองดูก่อนเถิด ข้ามั่นใจว่าเจ้าพี่ต้องกลับมา รอสักสองวันมิได้หรือเจ้าคะ”
“นั่นสิเจ้าแม่”
“รอให้อีทิพย์กับไอ้พวกทำชั่วเพิ่มขึ้นรึ รู้ไว้เถิดน้ำพิพัฒน์สัตยาศักดิ์สิทธิ์น้อยเกินไปสำหรับพวกมัน”
ผิดคำของสำเภางามเสียที่ไหน! เพียงข้ามคืนอนัญทิพย์ บัวไหล ท้าววงษา และขุนเวียงก็มารวมตัวกันวางแผนทำการใหญ่ที่หน้ากู่ของเจ้าหลวงปิตุลา
“ไอ้บุรพคามตายแล้ว เหลืออีเสกขรคนเดียวเท่านั้น มันต้องตายตกไปตามกัน เจ้าสองคนมีกลศึกอย่างใด บอกข้าหน่อยเถิด”
“เจ้าคะนองคงแต่งตั้งเจ้านางหลวงวันนี้เจ้าข้า”
“แล้วจะรอให้ข้าต้องกราบแทบบาทไหว้สาขอร้องให้มันไว้ชีวิตก่อนรึ”
“หาไม่พระเจ้าข้า รอให้ทุกคนเข้าไปในหอคำก่อน ข้าพระบาทจักนำทหารฝีมือดีไปล้อมหอคำไว้”
“อย่าให้มันเล็ดลอดหนีตายได้สักคนเดียว เมื่อแผ่นดินนี้ไม่มีเจ้าพ่อข้า ไม่มีเจ้าพี่เมืองคุ้ม ข้าก็หาต้องรักผู้ใดและเกรงใจผู้ใดอีกไม่ ข้าจะแก้แค้นให้เจ้าพ่อ ดวงวิญญาณเจ้าพ่อช่วยข้าด้วยเจ้าค่ะ”
ท้าววงษากับขุนเวียงรับคำหนักแน่น พอได้ยินเสียงปี่กลองแตรสังข์ก็เตรียมตัวทำตามคำสั่งอนัญทิพย์ หมายยิงปืนใหญ่ใส่หอคำให้ย่อยยับแล้วยึดอำนาจจากเสกขรที่คะนองกำลังจะประกาศให้นางดำรงตำแหน่งเป็นเจ้านางหลวงแห่งเมืองทิพย์ มีสิทธิ์ขาดในบัลลังก์ทุกประการ
แต่เพียงสิ้นเสียงสถาปนาเสกขรขึ้นเป็นเจ้านางหลวง ขบวนของเมืองคุ้มที่นำโดยแสงเมืองและห่มฟ้าก็ปรากฏ อนัญทิพย์ดีใจมากและไม่ลืมให้บัวไหลรีบไปบอกท้าววงษาว่าอย่าเพิ่งกระทำการใดๆ
เมื่อเผชิญหน้ากันจังๆ อนัญทิพย์สังเกตเห็นหญิงสาวเคียงข้างเมืองคุ้ม จึงถามว่านางผู้นั้นคือใคร
“ยอดพุ่ม เมียพี่เอง”
คำตอบนั้นทำให้อนัญทิพย์ผงะถอยหลัง ผิดหวังจนน้ำตาคลอ ถามเสียงสั่นเพื่อความแน่ใจ
“เมีย...เมียเจ้าพี่หรือเจ้าคะ”
“ยอดพุ่มไหว้สาเจ้านางอนัญทิพย์เสียสิ”
ยอดพุ่มนั่งกับพื้นพนมมือไหว้ แต่อนัญทิพย์สะบัดหน้าหนีด้วยความน้อยใจเมืองคุ้ม น้ำตาแห่งความรักร่วงพรู ต่อว่าเสียงสั่นเครือก่อนผละไปด้วยใจที่แตกสลาย
“ข้าเฝ้ารอเจ้าพี่ทุกลมหายใจ แต่เจ้าพี่หายไปสำเริงสำราญอยู่กับผู้หญิงคนนี้ จักให้ข้ายิ้มระรื่นอยู่รึเจ้าคะ”
ตองนวล แก้วอากาศ และเก็ตถวาชักแถวมาด้วยความดีใจ พอรู้เห็นว่าเมืองคุ้มพาเมียคนใหม่มาด้วย ตองนวลก็แหวแว้ดด่าทอยอดพุ่มอย่างหยาบคาย จนเมืองคุ้มทนไม่ไหวตวาดไล่ไปพ้นหน้า
ooooooo










