ตอนที่ 21
ใหญ่พาปิ่นอนงค์หนีลงมาทางหน้าต่าง เธอกอดไม้เท้าไว้แนบตัว หวานกับน้อยตามมาบอกว่าครองสุขรู้เรื่องหมดแล้วให้รีบหนี ไฟฉายสาดมาที่กลุ่มใหญ่ ครองสุขก้าวเข้ามาจ้องหน้า
“ผีคุณใหญ่หรือ ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่แรกว่าแกมันเจ้าเล่ห์ขนาดไหน”
“คนโง่ย่อมถูกจูงจมูกโดยคนฉลาดเสมอ แต่ตอนนี้ ฉันหมดสนุกที่จะจูงจมูกคุณนายเสียแล้ว มันขี้เกียจ” ใหญ่เยาะกลับ
“เห็นหรือยังจอม ว่ามันเห็นแกกับฉันโง่เหมือนวัวเหมือนควาย โดยเฉพาะนังปิ่น แกทำกับคนที่รักแกได้แสบสันดีเหลือเกินนะ” ครองสุขยุจอม
ปิ่นอนงค์รีบบอกเขาว่าตนไม่ได้คิดร้าย จอมโวยว่าเธอไม่เคยเห็นค่าความรักของตน
“ความรักจะมีค่าต่อเมื่อแกรู้จักใช้สติปัญญาแยกแยะ แต่นี่แกทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ปิ่นไป แกไม่ได้โง่หรอกจอม แต่แกเห็นแก่ตัว แกตั้งใจมองข้ามความถูกต้องทุกอย่างเพื่อให้ตัวเองได้ครอบครองปิ่น” ใหญ่เตือนสติ
“ฟังแล้วความรักของแกสองคนนี่มันช่างถูกต้อง สูงค่าเหลือเกินนะ เอาสิ ถ้าเธอเห็นใจมันก็ปล่อยมันไปเสพสุขด้วยกันเลยจอม” ครองสุขเป่าหู
“ไม่มีวัน ผมไม่ยอมให้ใครมาเหยียบย่ำหัวใจผมอีกแล้ว” จอมสั่งสมุนจับทุกคน
ใหญ่ต่อสู้กับจอมไม่ยอมให้จับ ครองสุขชักปืนออกมาจ่อใหญ่ ปิ่นอนงค์ร้องห้าม อย่าฆ่าใครอีกเลย ถ้าจะฆ่าให้ฆ่าตน ขอตนเป็นศพสุดท้าย ใหญ่ตวาดไม่ต้องไปขอร้อง ถึงใครจับไม่ได้กรรมก็ต้องตามทัน ครองสุขหัวเราะเยาะขึ้นไก ตนจะตัดกรรมเสียเอง กรรมของตนคือใหญ่
จอมแย่งปืนจากครองสุข “ผมขอฆ่ามันด้วยมือผมเอง”
“ไม่นะจอม ถ้าจอมฆ่าคุณใหญ่ เราจะไม่มีวันให้อภัยจอม เราจะเกลียดจอมไปตลอดชีวิต”
“มันจะเป็นไรไปล่ะปิ่น ในเมื่อปิ่นก็ไม่เคยรักเราอยู่แล้ว”
ใหญ่สะบัดตัวออก จอมตบด้วยด้ามปืนลงไปกอง ปิ่นอนงค์ถลาเข้ากอดใหญ่ จอมยิ่งโกรธสั่งสมุนจับพวกผู้หญิงแยกออกไปขังไว้ ตนจะจัดการใหญ่เอง
ในขณะที่ทัศนีย์ถูกผลักเข้ามาขังในห้องทรรศนะ เธอจึงเห็นว่าเขาถูกมัดมือไพล่หลังอยู่ ทรรศนะบอกว่าตนโดนขังเพราะจะไปช่วยปิ่นอนงค์ เธอช่วยแก้มัดให้พี่ชายพร้อมกับบอกว่า
“คุณน้าเป็นฆาตกรฆ่าคุณไพศาล ฆ่าป้าอุ่น ฆ่าไอ้ธีระ ฆ่าทุกคนที่ขวางทาง คุณน้ายึดไร่ไพศาล ที่พี่นะเดินไม่ได้ก็แผนคุณน้าใช่มั้ย”
“ใช่ แต่คุณน้าทำเพื่อพี่ อยากช่วยให้พี่สมหวังกับปิ่น” ทรรศนะให้เข้าใจความหวังดี
“แต่ตอนนี้คุณน้ากำลังจะฆ่าคุณใหญ่ รายต่อไปไม่พ้นปิ่นอนงค์” ทัศนีย์ทำให้เขาเครียด
ระหว่างนั้น ปิ่นอนงค์ถูกมัดมือไพล่หลังอยู่ในโรงเก็บฟาง จอมเดินเข้ามา เธอรีบขอร้องเขาอย่าทำอะไรใหญ่ จอมเจ็บปวดที่เธอห่วงใหญ่ เธอกลับบอกว่า
“ปิ่นห่วงจอม ความโกรธแค้น ความชิงชังที่มีกับใครก็ตาม เราเปลี่ยนแปลงแก้ไขที่ใจเราได้ แต่ความผิดที่ฆ่าคนตาย มันจะติดตัวเราไปตลอดชีวิต ล้างออกยังไงก็ไม่หมด”
จอมมองหน้าเธอนิ่งสักพักก่อนจะเสนอ “เราให้โอกาสปิ่นครั้งสุดท้ายก็ได้ ถ้าปิ่นตกลงทำตามที่เราขอเราจะยอมปล่อยคุณใหญ่ไป”
“ได้ ปล่อยคุณใหญ่ไปเถอะ ปิ่นยอมทุกอย่างที่จอมต้องการ”
“ยอมเป็นเมียเราด้วยงั้นหรือ” จอมกระชากเธอเข้ามาประชิด
“ใช่ แต่จอมจะได้แค่ร่างกายของปิ่น จะไม่มีความรัก ความเป็นเพื่อน ความรู้สึกดีๆมันจะไม่มีอีกต่อไป”
จอมยิ้มอย่างเจ็บปวด “นี่สิ ถึงจะเป็นปิ่นของเรา”
เจิดเข้ามารายงานว่าได้ขุดหลุมที่บึงข้างไร่ไว้แล้ว น้ำมันยางก็เตรียมพร้อม จอมยิ้มสะใจ ปิ่นอนงค์ตกใจขอร้องจอมอย่าทำอะไรใหญ่...ในขณะที่สมุนลากใหญ่มารอที่หน้าโรงเก็บฟาง ใหญ่ต่อสู้แต่โดนรุมจนสะบักสะบอม จอมออกมาสั่งให้หยุด
“พอแค่นี้ ให้มันตายตรงนี้เดี๋ยวตำรวจจะดมกลิ่นมาถึง ฉันจะเอามันไปอำพรางศพเอง แกสองคนไปกับฉัน” จอมชี้สมุนสองคนที่ไม่ใช่เจิดกับก้านให้หิ้วปีกใหญ่ไปที่รถ
ooooooo
และแล้วเสี่ยตงก็ยอมร่วมมือกับปานเทพเป็นพยานเอาผิดครองสุข...เปี๊ยกมาบอกถวิลที่ใหญ่กับปิ่นอนงค์ถูกจับ ถวิลไม่รอช้าวิ่งไปทันที...ในขณะที่ใหญ่ถูกสมุนโยนลงข้างหลุมที่ขุด จอมบอกว่าตนจะคิดบัญชีแค้นเอง เขาเล็งปืนไปที่ใหญ่ แล้วลั่นไก ใหญ่หลับตาได้ยินเสียงปังๆ แต่ไม่รู้สึกเจ็บจึงลืมตาขึ้น
เห็นสมุนทั้งสองถูกยิงที่ขาล้มไปนอนดิ้นทั้งคู่ เขามองด้วยความงง...
จากนั้น จอมก็โทร.รายงานครองสุขว่าจัดการใหญ่เรียบร้อยแล้ว ส่วนปิ่นอนงค์ตนขอทรมานให้สมใจก่อน ครองสุขทำเสียงเยาะ “แหม แสดงว่าฉันรู้ใจเธอสิจอม ฉันสั่งให้ไอ้เจิด ไอ้ก้านมันทรมานนังปิ่นแทนเธอแล้ว รับรองว่า สะใจเธอแน่”
“คุณนายจะทำอะไรปิ่น ฮัลโหลๆ...”จอมตกใจ
“นึกว่าฉันจะหลงแกจนโง่เหรอไอ้จอม เมื่อแกไม่รักฉัน ฉันก็ไม่จำเป็นต้องเอาแกไว้”
เจิดกับก้านเข้ามาจะจัดการปิ่นอนงค์ เธอต่อสู้ใช้ไม้เท้าทิ่มตาก้านและตีเจิด จะวิ่งหนี จอมเปิดประตูเข้ามาร้องบอกให้เธอหมอบลง เขายิงใส่เจิด แล้วดึงปิ่นอนงค์วิ่งหนีออกไปที่รถ แต่ก้านตามมาไล่ยิง โดนกลางหลังจอมล้มลง จอมไล่ให้เธอหนี แต่เธอจะลากเขาไปด้วยให้ได้
“จอมขอโทษ จอมรักปิ่น รีบไปหาคุณใหญ่ที่บึงน้ำข้างไร่ นี่เป็นสิ่งเดียวที่เราให้ปิ่นได้”
ปิ่นอนงค์ตัดสินใจขึ้นรถจะไปหาใหญ่ เจิดออกมายิงใส่เธอ เธอชะงักแต่ยังขับรถออกไปได้...ครองสุขเข้าใจว่าทุกอย่างเป็นตามแผน เธอมาหาลูกๆ ในห้อง เพื่อบอกว่าใหญ่ตายแล้ว ทุกอย่างจะเป็นของพวกเรา ทรรศนะโวยไม่ต้องการ เขาต้องการปิ่นอนงค์ ทัศนีย์ก็หาว่าเธอใจร้าย ตนไม่ต้องการไร่นี้ ไร่ที่มีแต่เลือดแต่ศพ ครองสุขเอ็ดว่าเป็นบ้าอะไรกันไปหมด ทรรศนะจูงมือทัศนีย์จะออกไป พลัน เสียงรถหวอตำรวจดังเข้ามา ทั้งสามคนมองกันเลิ่กลั่ก
ทรรศนะกับทัศนีย์ออกมารับหน้า ตำรวจมาขอเชิญตัวครองสุขไปสอบสวน ปานเทพประคองเสี่ยตงเข้ามา แจ้งข้อหาวางยาพิษ และข้อหาฆ่าคนตาย ครองสุขซึ่งแอบฟังอยู่ตกตะลึง สองพี่น้องบอกว่าครองสุขไม่อยู่ ปานเทพเกลี้ยกล่อมให้ทัศนีย์บอกความจริง ครองสุขหาทางหนี ปลอดเห็นร้องบอกตำรวจ ทรรศนะเข้าขวางอย่าทำอะไรแม่ตน...ครองสุขวิ่งออกมาเจอเจิดกับก้านรายงานว่าจอมทรยศ แต่พวกตนยิงตายแล้ว เธอไม่สนใจหาทางหนี ตำรวจตามมา เจิดกับก้านตกใจยิงสู้กับตำรวจจนตัวตาย ครองสุขขับรถหนีไปได้
ระหว่างนั้น ปิ่นอนงค์ขับรถมาหาใหญ่ที่ริมบึงโดยไม่รู้ว่าตัวเองโดนยิง แต่เริ่มหน้าซีดอ่อนแรง ใช้ไม้เท้าพยุงตัวเดินไปหา เห็นเปี๊ยกกับถวิลประคองใหญ่ เธอยิ้มดีใจแล้วทรุดฮวบลง
“คุณใหญ่ยังไม่ตายจริงๆ ด้วย”
“ฉันไม่เป็นอะไรจอมไม่ได้ฆ่าฉัน” ใหญ่คิดว่าปิ่นอนงค์เหนื่อย
ถวิลเล่าว่าจอมโทร.บอกให้มาช่วยใหญ่ จอมรู้ว่าถูกหลอกใช้ตั้งแต่แรก รู้แม้กระทั่งว่าใหญ่เข้าไปหาเธอแทบทุกคืน และจอมแอบได้ยินสมุนคุยกันว่าครองสุขเป็นคนฆ่าอุ่นเรือน จึงตาสว่าง ปิ่นอนงค์นึกได้รีบบอกให้กลับไปช่วยจอมซึ่งถูกยิง ถวิลห่วงลูกวกกลับไปช่วยใหญ่ขยับเข้ากอดปิ่นอนงค์จึงได้รู้ว่าเธอมีเลือดท่วมตัว
“ปิ่นถูกยิง...ปิ่น ตื่นขึ้นมามองหน้าฉัน ปิ่นๆ” ใหญ่ละล่ำละลัก
“คุณใหญ่ ปิ่นไม่เป็นไร ปิ่นไม่เจ็บเลย คุณใหญ่ไม่ต้องห่วง”
“แข็งใจไว้นะปิ่น เปี๊ยกมาช่วยกัน”
“คุณใหญ่ สัญญากับปิ่นนะคะว่าคุณใหญ่จะไม่ผูกใจเจ็บคุณนาย แม่ปิ่น แล้วก็ศัตรูคุณใหญ่ทุกคน ปิ่นไม่ได้ขอเพื่อแม่หรือคนเหล่านั้น แต่ปิ่นขอเพื่อตัวคุณใหญ่เอง ปิ่นอยากเห็นคุณใหญ่ใช้ชีวิตที่เหลืออย่างมีความสุข” ปิ่นอนงค์อ่อนแรงลงทุกที
“ฉันรับปากเธอได้ทุกอย่าง แต่เธอต้องสัญญากับฉันว่าเธอจะไม่ทิ้งฉัน เธอต้องเข้มแข็ง”
“ไม่ว่าปิ่นจะอยู่ที่ไหน ปิ่นจะจำความรักของคุณใหญ่ไว้ตลอดไป”
“ไม่ปิ่น เราต้องอยู่ด้วยกันจนแก่เฒ่า ฉันไม่ยอมให้เธอจากฉันไปอีกแล้ว” ใหญ่กอดปิ่นอนงค์แน่น เธอมือตก เปี๊ยกตะลึงน้ำตาไหล ใหญ่โกรธแค้น จะไปฆ่าครองสุขให้ได้
ด้านครองสุขขับรถหนีตำรวจมา เจอใหญ่ถือปืนยืนขวาง เธอเข่นเขี้ยว ตามราวีไม่เลิก วันนี้ตนจะแลกชีวิตกับเขา เธอเร่งเครื่องเข้าใส่ แต่เขายิงยาง...ปังๆ รถเธอยางแตกแฉลบลงข้างทาง ครองสุขโกรธมาก ชักปืนคลานออกจากรถ ใหญ่เข้ามาดึงปืนจากมือแล้วจ่อกลับ เธอตกใจพยายามต่อรอง ใหญ่เยาะว่ากลัวตายเป็นเหมือนกันหรือ
“ตำรวจกำลังตามมา ถ้าแกยิงฉัน แกก็ไม่รอดเหมือนกัน”
“ถึงเวลานี้จะติดคุกหรือโดนยิงเป้า ฉันก็ไม่สนอีกแล้ว วันนี้จะเป็นวันที่เราสองคน จบปัญหาทั้งหมดที่แกก่อขึ้น”
ครองสุขโต้ “แน่ใจหรือว่ามันเกิดจากฉัน ลองคิดให้ดี วันที่ฉันเหยียบมาไร่ไพศาล เพราะฉันบ้านแตกสาแหรกขาด หวังพาลูกมาพึ่งใบบุญคุณไพศาล ไม่เคยคิดจะทำร้ายใคร แต่แกแค่เห็นหน้าฉัน ก็ตั้งป้อมเป็นศัตรูรังเกียจฉันกับลูก ความบาดหมางของแกมันเริ่มต้นจากแกก่อน”
“ฉันมันก็แค่เด็กคนนึง ทำไมคุณนายไม่ทำดีกับฉัน กลับทำตัวเป็นนางมารร้าย เสี้ยมให้พ่อเกลียดฉัน”
“ก็แกเป็นเด็กร้ายกาจเอาแต่ใจ คิดแต่จะให้พ่อรักแกคนเดียว ไม่เคยเห็นใจหรือสงสารฉันกับลูก เด็กขี้อิจฉาอย่างแกน่ะหรือจะยอมรับฉันเป็นแม่เลี้ยง”
ใหญ่ดวงตากร้าวมองครองสุข เขายอมรับ แต่เพราะเธอคบชู้ ฆ่าพ่อ และยังฆ่าคนบริสุทธิ์อีกหลายคน กฎหมายจะต้องพิพากษาโทษ เขากระชากมือเธอ ครองสุขยื้อยุด เสียงรถหวอตำรวจมา เขาจึงตีท้ายทอยเธอด้วยด้ามปืนให้สลบและจับนั่งพิงล้อรถก่อนวิ่งหลบไป รถตำรวจมาจอดและลงมาดู รถปลอดแล่นตามมาอีกคัน...
ooooooo
ถวิลกับเปี๊ยก ส่งปิ่นอนงค์กับจอมเข้าโรงพยา-บาล ปานเทพ จินตนา น้อย และหวานตามมา หมอ
บอกอาการจอมพ้นขีดอันตรายแล้ว โชคดีที่กระสุนไม่โดนจุดสำคัญ ทุกคนโล่งอก แต่ด้านปิ่นอนงค์ชีพจรเธอเต้นอ่อนลงทุกที ปลอดวิ่งเข้ามาถามว่าใหญ่เป็นอย่างไรบ้างตนหาไม่เจอ ปานเทพบอกว่า ใหญ่ปลอดภัยแต่คงไม่กล้าปรากฏตัวเพราะยังมีคดีอยู่ ไม่ทันไร ใหญ่วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามา ถามอาการปิ่นอนงค์ หมอตอบว่า
“น่าเป็นห่วงทั้งแม่ทั้งลูก คนเจ็บเสียเลือดไปมาก”
ใหญ่ตกตะลึง หมอบอกท้องได้สองเดือน เธอคงไม่รู้ตัว ตอนนี้ต้องการเลือดกรุ๊ปโอด่วนเพื่อช่วยเธอ ใหญ่จะเข้าไปหาปิ่นอนงค์ พยาบาลห้ามขอช่วยกันหาเลือดจะ
ดีกว่า เมื่อจอมฟื้นขึ้นมา รู้ว่าปิ่นอนงค์อาการหนักต้องการเลือด เขากรุ๊ปเดียวกับเธอ จะลุกไปให้เลือด แต่ลุกไม่ไหว ถวิลปรามว่าให้ไม่ได้เพราะเขาเพิ่งพ้นขีดอันตรายมา
“ชีวิตฉันมันไม่มีค่าอะไร แต่สำหรับปิ่น เธอยังมีลูกอีกคนอยู่ในท้อง” จอมแย้ง
ถวิลตวาด “ใครว่าชีวิตเอ็งไม่มีค่าอะไร เอ็งมีค่ากับไอ้แก่คนนี้นี่ไง ถ้าเอ็งเป็นอะไรไป ข้าก็ไม่รู้จะอยู่ทำไมเหมือนกัน ไอ้ลูกโง่”
“ฉันรักพ่อ แต่ฉันต้องชดใช้ให้ปิ่น ฉันมีส่วนทำให้ป้าอุ่นต้องตาย คุณจินเรียกหมอมาเอาเลือดผมไปให้ปิ่นด้วย” จอมเรียกจินตนา ไม่ทันไรก็หมดสติไป พยาบาลเข้าดูอาการ
วันต่อมา ใหญ่ยังนั่งหมดอาลัยตายอยากหน้าห้องไอซียู บ่นกับปานเทพว่าปิ่นอนงค์ทำเพื่อคนอื่นมาตลอด อรสอางค์เดินเข้ามา “คุณใหญ่คะ อรเลือดกรุ๊ปโอค่ะ เราได้เลือดมาจากกรุงเทพฯด้วย เผื่อว่าเลือดอรคนเดียวไม่พอ”
ทุกคนดีใจมาก ใหญ่ยืนเกาะกระจกหน้าห้อง ภาวนาให้ปิ่นอนงค์ปลอดภัย ถวิลเอาไม้เท้ามามอบให้ บอกว่าเห็นปิ่นอนงค์กอดไว้แน่นตอนมาโรงพยาบาล ใหญ่หยิบมามองน้ำตาไหล
“พ่อไม่เคยรักผม มีแต่ปิ่นเท่านั้นที่รักผม นี่พ่อยังคิดจะมาพรากปิ่นไปจากผมอีก ผมไม่ต้องการอะไรที่เป็นของพ่อ” ใหญ่ปาไม้เท้าไปที่มุมห้อง มันหักสองท่อน มีกระดาษม้วนเป็นไส้อยู่ข้างในยื่นออกมา เขาเข้าไปเก็บมาคลี่อ่าน เป็นลายมือโย้เย้ของไพศาลเขียนตอนป่วย
“ข้าพเจ้า นายไพศาล ธำรงรัตน์ ขอยกทรัพย์สิน อันพึงมีพึงได้ทั้งหมด ทั้งในปัจจุบันและอนาคต อันมีที่ดินสองพันสี่ร้อยยี่สิบไร่ บ้านและเงินในธนาคารให้กับบุตรชาย คนเดียวของข้าพเจ้า คือนายชาลิต ธำรงรัตน์....ใหญ่ลูกรัก นี่คือสิ่งเดียวที่พ่อทำให้ลูกเพื่อเป็นการไถ่โทษ ยกโทษให้พ่อด้วย พ่อรักแกมากกว่าสิ่งใดๆในโลก”
ใหญ่อึ้ง ภาพตอนโดนพ่อตบ ชี้หน้าด่าผุดขึ้นในสมอง ตนกระชากไม้เท้าจากมือพ่อมาปาทิ้ง “เธอไม่ได้โกหกฉันปิ่นอนงค์ พ่อไม่ได้เกลียดชังฉัน พ่อรักฉัน ฉันต่างหากที่เป็นคนโง่”
พลันเสียงสัญญาณชีพจรหยุด เครื่องส่งเสียงร้อง หมอกับพยาบาลกรูเข้าตรวจเช็กอาการปิ่นอนงค์ ใหญ่แทบขาดใจ สักพัก หมอออกมาบอกว่าเสียใจ ใหญ่ถลาเข้าไปกอดปิ่นอนงค์ คร่ำครวญอย่าทิ้งตน เขาเอาไม้เท้าของพ่อมาวางบนตัวเธอ กุมมือเธอรำพัน
“ถ้าวิญญาณพ่อให้อภัยลูกเลวๆคนนี้ ช่วยเมียผมกับหลานของพ่อด้วยเถอะครับ...”
กลางทุ่งดอกไม้ ปิ่นอนงค์เห็นอุ่นเรือนยืนยิ้มอยู่ท่ามกลางหมอกควัน เธอวิ่งเข้าไปกอดแม่ด้วยความดีใจ อุ่นเรือนจูงมือเธอเดินไป เสียงใหญ่ร้องเรียก เธอชะงัก อุ่นเรือนหันมายิ้ม พยักหน้าและปล่อยมือเชิงให้กลับไปหาใหญ่ ปิ่นอนงค์หันหลังวิ่งเร็วรี่
ในห้องไอซียู ใหญ่กอดปิ่นอนงค์ร้องไห้ พร่ำรำพันให้เธออย่าทิ้งเขาไป พลันเสียงเครื่องวัดชีพจรดังขึ้น เขาชะงักเงยหน้ามอง เห็นเส้นกราฟขยับและเธอบีบมือเขาเบาๆ ใหญ่ร้องเรียกหมอด้วยความดีใจ ทุกคนกรูมาออหน้าห้อง...
ขณะที่ครองสุขถูกขังบนโรงพัก ทรรศนะกับทัศนีย์มาเกลี้ยกล่อมให้สารภาพ โทษหนักจะได้เป็นเบา
เธอบอกตนตั้งใจจะยอมรับผิดทุกอย่าง ขอเวลาทำใจ ช่วยประกันตัวออกไปก่อน...ทรรศนะจึงหาทนายมาช่วยประกันตัว ขณะพากันเดินออกมา สวนกับปานเทพที่
พาใหญ่มามอบตัว ใหญ่กับครองสุขเผชิญหน้ากันอีกครั้ง ครองสุขยิ้มเย้ย ใหญ่เตือน
“ใครที่รู้ตัวว่าฆ่าพ่อฉัน ก็ควรรีบสารภาพแต่โดยดี โทษหนักจะได้เบาลง”
“ฉันเห็นแต่ข้อกล่าวหาเลื่อนลอย ไม่ยักจะเห็นหลักฐานสักชิ้น คดีความน่ะเขาสู้กันด้วยหลักฐานไม่ใช่หรือคุณทนายปานเทพ” ครองสุขไม่ได้สำนึกอย่างที่บอกลูกๆ
“คุณนายไม่ต้องห่วง ที่คุณใหญ่มามอบตัว ก็เพื่อเริ่มกระบวนการ รื้อฟื้นการตายของคุณไพศาล ไม่ใช่ป่วยแต่โดนวางยาพิษ รู้สึกว่ายังมีอีกหลายคดีนะที่มีเสี่ยตงเป็นพยาน”
ครองสุขสะดุ้ง แต่กลบเกลื่อน ใครจะเชื่อว่าผู้หญิงตัวเล็กๆอย่างตนจะฆ่าคนได้มากมาย ทรรศนะดึงแขนพาเดินออกไป ปานเทพให้อาจารย์ของตนพาใหญ่เข้ามอบตัว ตนจะตามครองสุข แต่ทัศนีย์รั้งไว้ เธอถามอย่างเศร้าๆว่า แม่ตนต้องติดคุกกี่ปีหรือโดนประหารชีวิต เขาตอบอย่างจริงจังว่า ขึ้นอยู่กับเธอจะยอมรับผิดหรือยังคิดหนี ทัศนีย์น้ำตาคลอ ตนควรทำอย่างไร ตนเป็นลูกแต่ช่วยอะไรไม่ได้ เขาปลอบมีอยู่ทางเดียว อย่าให้ทำผิดไปมากกว่านี้...
ooooooo










