ตอนที่ 18
ภายในงานมอบรางวัลนักธุรกิจคลื่นลูกใหม่ยอดเยี่ยม เทวัญยืนยิ้มหน้าบานเตรียมตัวขึ้นรับรางวัลอันทรงเกียรติ แต่พอเหลือบเห็นกลุ่มของรัตนาที่มีทั้งลุงแปลง โพ แต้ว เขายิ้มเหยียดก่อนเดินเข้าไปพูดจาดูถูกทั้งกลุ่มจนโพทนไม่ได้แทบจะมีเรื่องชกต่อยถ้ารัตนากับแต้วไม่ห้ามไว้เสียก่อน
ผ่านเลยกลุ่มรัตนามาแล้ว เทวัญตรงไปหาเจตนากับวันดี ถามถึงจี๊ดที่ยังไม่เห็นมา เจตนาบอกว่าจี๊ดแวะไปรับใจดีมาด้วยเพราะรถเธอเสีย เทวัญกระตุกวาบด้วยความไม่ไว้วางใจ...
ขณะนั้นจี๊ดกับใจดีอยู่ที่บ้านยอดชาย สองสาวกำลังแสดงเหตุการณ์จำลองเมื่อครั้งที่ยุพาถูกเทวัญไล่ล่าเพื่อฟื้นความจำให้เธอ แต่ทำมาทำไปดันกลายเป็นตลกขบขันเสียจนดิ่งกับยอดชายกลั้นหัวเราะไม่ไหว แถมยุพาก็เอาแต่นั่งมองเฉยไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลย
เมื่อเห็นว่าวิธีของจี๊ดไม่ได้ผล ดิ่งจึงยุติไว้ก่อนแล้วชวนเธอไปงานมอบรางวัลฯ ใจดีเห็นสองคนควงแขนกันไปก็อดคิดถึงโยฮันน์ไม่ได้ ยอดชายแอบสังเกตและพูดขึ้นอย่างรู้ทัน
“คิดถึงฝรั่งเหรอใจดี”
“เขาหายไปหลายวันแล้ว ไม่รู้กลับไปเยอรมันหรือยัง”
“ของแบบนี้ยิ่งวิ่งตามมันจะวิ่งหนี อย่าตาม อย่าคิด เดี๋ยวมันก็มาเอง”
“ใช่ แต่ตอนนี้ขอวิ่งตามเพื่อนไปก่อนนะ” ใจดีวิ่งอ้าวตามจี๊ดกับดิ่งออกไป ยอดชายจึงหันกลับมาดูแลยุพาต่อ...
เมื่อทั้งสามคนมาถึงงานมอบรางวัลฯ ก็แยกกันเข้าไปเพื่อไม่ให้ผิดสังเกต หารู้ไม่ว่ามารศรีแอบมองด้วยความเคียดแค้นดิ่งกับจี๊ดที่หวานกันเหลือเกิน แต่พอเธอจะก้าวตามก็ต้องชะงักเมื่อเห็นทันวิทย์เดินเข้ามา
ทันวิทย์เข้ามาแสดงความยินดีกับพี่ชายพร้อมย้ำว่าตัวเองได้เผาเสื้อตัวนั้นทิ้งไปแล้ว เทวัญโล่งใจเดินยิ้มมาหาจี๊ดแล้วพาเธอไปเผชิญหน้ากับดิ่งอย่างอวดๆ
“ยินดีที่ได้พบกันแบบซึ่งๆหน้าสักที หลังจากที่คุณเอาแต่ทำอะไรลับหลังผมอย่างน่าไม่อาย”
“ยินดีเหมือนกันครับ กับคนที่ชอบทำอะไรลับหลังเหมือนกัน แต่ขอแก้ตัวหน่อยนะ ว่าการกระทำของผมเป็นการกระทำของมนุษย์ที่มีหัวใจ ส่วนคุณมัน...หมาลอบกัด”
ถูกดิ่งศอกกลับรุนแรง เทวัญถึงกับของขึ้นจะเข้าทำ ร้ายดิ่ง แต่จี๊ดขัดขวางจริงจังจนเขาต้องเปลี่ยนท่าทีและน้ำเสียง
“ไม่ต้องห่วงค่ะ พี่ไม่ทำอะไรมันหรอก...พี่จะยืนดูความย่อยยับของมันเฉยๆ”
“พี่เทวัญจะทำอะไร”
“ไม่ต้องกลัวหรอกว่าพี่จะทำอะไร เพราะกลัวไปก็ไม่ช่วยให้มันรอด”
เทวัญควงจี๊ดออกไปหาเจตนาและวันดี ดิ่งไม่เข้าใจคำพูดเทวัญแต่เพื่อความปลอดภัยก็ต้องระวังตัว
อีกมุมหนึ่ง รัตนาเพิ่งทราบว่าตัวเองได้รับอีเมล์จดหมายจากเยอรมัน เธอรีบหาที่ปริ้นต์ทันที ในขณะเดียวกันยอดชายที่บ้านสวนก็ตื่นเต้นยินดีที่จู่ๆความทรงจำของยุพากลับคืนมาทั้งหมดหลังจากเธอเดินสะดุดล้มศีรษะกระแทกพื้น
ขณะดิ่งรับฟังข่าวดีจากยอดชาย เป็นเวลาที่เทวัญกับจี๊ดขึ้นเวทีเพื่อรับมอบรางวัลนักธุรกิจชายหญิงคลื่นลูกใหม่ยอดเยี่ยม เทวัญฉีกยิ้มให้นักข่าวถ่ายรูปคู่กับจี๊ดแล้วเดินมาที่โพเดียม
“ขอบคุณทุกๆท่านที่มาให้กำลังใจและมาร่วมแสดงความยินดีกับรางวัลอันทรงเกียรตินี้...วันนี้เป็นวันที่ผมภูมิใจมากที่สุดครับ เพราะนอกจากผมแล้ว...คุณจิตรวรรณคู่หมั้นของผมก็ได้รับรางวัลนี้ด้วยเช่นกัน เธอเป็นคนสวยและเก่งมาก รางวัลนี้ทำให้ผมมั่นใจที่จะเป็นคู่ชีวิตของเธอได้อย่างสมศักดิ์ศรี”
เสียงปรบมือดังกราว...วันดีสบตาเจตนาที่ยืนนิ่งไม่ได้ยินดีไปกับเทวัญ ยิ่งกลุ่มของโพไม่ต้องพูดถึงทุกคนมองเทวัญ อย่างไม่พอใจ ตรงกันข้ามกับทันวิทย์ที่ยิ้มภูมิใจในตัวพี่ชายมาก
จี๊ดบนเวทีสังเกตเห็นรัตนากับใจดีวิ่งเข้ามาพร้อมโบกจดหมายในมือขึ้นเหนือศีรษะ เทวัญเองก็เห็นแต่ไม่เข้าใจว่าสองคนนั้นพยายามจะทำอะไร
“เชิญคุณจิตรวรรณกล่าวกับแขกผู้มีเกียรติต่อเลยครับ” เทวัญประกาศผ่านไมโครโฟน
“ขอบคุณค่ะพี่เทวัญ...ขอบคุณท่านคณะกรรมการที่เล็งเห็นว่าดิฉันเหมาะสมและคู่ควรกับรางวัลนี้...ดิฉันทำงานหนักค่ะ เพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่าดิฉันทำได้ รางวัลนี้ทำให้ดิฉันมีกำลังใจที่จะทำงานหนักต่อไป เพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจนำเข้ารถยนต์ของเรา แต่ดิฉันคงทำงานต่อไปไม่ได้ถ้ายังมีพวกเหลือบริ้นคอยบ่อนทำลายชีวิต ทั้งชีวิตการงานและเรื่องส่วนตัว”
“น้องจี๊ด...พูดอะไร” เทวัญถามเบาๆ แต่จี๊ดกลับ พูดใส่ไมค์ว่า
“พี่เทวัญถามดิฉันว่าพูดอะไรออกไป...ขออธิบายเพิ่มเติมนะคะ ว่าตัวเหลือบตัวริ้นที่ดิฉันหมายถึงคือพี่เทวัญนั่นแหละค่ะ”
เสียงฮือฮาดังขึ้นด้วยความสงสัย เทวัญรีบแย่งไมค์จากมือจี๊ด บอกกล่าวทุกคนว่าคู่หมั้นของตนคงเหนื่อยจากการทำงานหนัก...แต่จี๊ดรีบดึงไมค์กลับคืนมา
“ดิฉันมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน และขอประกาศไว้ต่อหน้าท่านแขกผู้มีเกียรติทั้งหลายรวมทั้งสื่อมวลชนในที่นี้ว่าดิฉันขอถอนหมั้นจากผู้ชายที่เป็นตัวบ่อนทำลายบริษัทของดิฉัน...คนนี้”
แขกทุกคนวิจารณ์กันเซ็งแซ่ วันดีไม่พอใจจะไปห้ามจี๊ดแต่เจตนาจับมือเธอไว้แน่น และบอกว่ามันถึงเวลาแล้ว
“วันนี้ทุกคนจะได้รู้ความจริงที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากาก เทพบุตรของผู้ชายที่ชื่อเทวัญ...รัตนาเอาจดหมายมาให้ฉัน”
รัตนาทำตามอย่างเร่งด่วน เมื่อจี๊ดได้จดหมายก็โชว์ให้ทุกคนดู
“นี่เป็นจดหมายที่คุณเทวัญส่งให้บริษัทผลิตรถยนต์ของเยอรมันเพื่อขอถอนโมเดิร์นคาร์จากการเป็นผู้จัดจำหน่ายในประเทศไทย ลงชื่อและตำแหน่งของตัวเองชัดเจน ทำให้โมเดิร์นคาร์พลาดโอกาสสำคัญ”
เทวัญคิดอ่านแก้เกมด้วยการเข้าไปแย่งจดหมายจากจี๊ดและแย่งไมค์มาพูดเอง “ใช่! ผมไม่ปฏิเสธ แต่ผมทำเพราะคำสั่งของคุณจิตรวรรณ”
“อะไรนะ!” จี๊ดตะลึงคาดไม่ถึง
“พี่จำเป็นต้องปกป้องศักดิ์ศรีของพี่บ้าง พี่ทนมานานแล้ว...ทุกท่านครับ คุณจิตรวรรณต้องการให้ลักชัวรี่คาร์บริษัทของคุณศยามชู้รักของเธอได้ผลประโยชน์โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของผม ไม่สนใจว่าจะเกิดความเสียหายแก่บริษัทของพ่อแม่บังเกิดเกล้ายังไง นายศยามเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้”
ทุกคนหันไปจับจ้องดิ่งซึ่งยืนอึ้งไม่เชื่อหูกับเกมของเทวัญ รวมทั้งวันดีที่กำลังสับสนเหลือเกิน
“ผมต้องทนเห็นพฤติกรรมอันน่ารังเกียจของคุณจิตรวรรณมานาน วันนี้จะเป็นวันที่ทุกคนจะได้รู้ความจริงภายใต้หน้ากากของผู้หญิงคนนี้เหมือนกัน” เทวัญตอกย้ำและมองจี๊ดอย่างท้าทาย
จี๊ดเจ็บแค้นมาก รู้สึกเสียหน้าเมื่อเห็นสายตาทุกคนมองมาอย่างเหยียดหยาม วันดีทนไม่ไหวสะบัดมือหลุดจากเจตนาพุ่งไปที่ข้างเวที สั่งจี๊ดให้ลงมาจะทนยืนอับอายอยู่ทำไม และเมื่อเธอเห็นดิ่งเข้ามาเรียกจี๊ดก็ยิ่งโมโห ตวาดไล่ดิ่งไปให้พ้น
“ให้จี๊ดยืนอยู่บนนั้นต่อไปเถอะค่ะ” เงาะส่งเสียงเข้ามาพร้อมก้าวขึ้นเวทียืนคั่นกลางระหว่างจี๊ดกับเทวัญ
เทวัญร้อนใจ จ้องเงาะเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ แต่เงาะไม่สนใจ เปิดฉากผ่านไมค์อย่างจริงจัง
“ดิฉันชื่อเงาะ เป็นเพื่อนสนิทที่คบกับคุณจี๊ดมานานและยังทำงานที่โมเดิร์นคาร์ ทำให้รู้จักนิสัยใจคอของผู้หญิงคนนี้ดีว่าเป็นคนยังไง จี๊ดหมั้นกับพี่เทวัญ แต่หัวใจของตัวเองกลับไปอยู่ที่คุณศยาม ดิฉันขอยืนยัน ซึ่งดิฉันไม่แปลกใจเลยที่จี๊ดเป็นอย่างนั้น เพราะพี่เทวัญเป็นคนเลวชาติ ส่วนคุณศยามคือคนที่ช่วยเหลือจี๊ดและคนรอบตัวจี๊ดให้รอดพ้นจากแผนชั่วร้ายทั้งหมดที่ผู้ชายเลวๆคนนี้ทำกับทุกคน”
“ผู้หญิงคนนี้โกหก! เพราะผมไม่คิดจะจริงจังกับผู้หญิงคนนี้ เขาเลยมาทำลายผม” เทวัญตอบโต้
“เหรอ...แต่แกเคยหลอกฉันว่าแกจริงจังกับฉัน...เขาโอนเงินให้ฉันเป็นค่าเลี้ยงดูเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับฉัน และปิดปากไม่ให้ฉันเอาเรื่องที่ฉันเห็นเขาแอบคบกับผู้หญิงคนหนึ่งลับๆไปบอกจี๊ด ฉันก็หลงเชื่อ...จนกระทั่งได้เห็นธาตุแท้ ของเขาว่าชอบทำร้ายผู้หญิง จิตใจโหดเหี้ยม แต่ฉันก็ยังจะทนอยู่ใต้อุ้งเท้าของเขา ทำงานให้เขาตามแต่จะสั่ง เพราะฉันกลัว...กลัวว่าเขาจะฆ่าฉัน เหมือนกับที่เขาพยายามฆ่าเจ๊ยุพา”
เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังต่อเนื่อง เทวัญหน้าซีดเริ่มเลิ่กลั่ก
“เขาสารภาพกับฉันว่าเจ๊ยุพาจะทำให้เขาและฉันต้องลำบาก เมื่อเจ๊ยุพาไม่ตายเขาจึงสั่งให้ฉันสะกดรอยตามจี๊ดและเพื่อนๆ จนเมื่อฉันรู้ว่าเจ๊ยุพาอยู่ที่บ้านของยอดชาย เขายืมมือฉันให้เป็นคนปลิดชีวิตเจ๊ยุพาเพื่อปิดปากไม่ให้มีใครมีชีวิตรอดมาเป็นพยานเอาผิดเขาได้ ซึ่งฉันเกือบจะทำสำเร็จ แต่เพื่อนทุกคนที่รักฉันและให้โอกาสฉันเสมอเข้ามาขวางฉันไม่ให้ฉันต้องกลายเป็นฆาตกรเหมือนแก”
“ใครก็ได้ช่วยแจ้งตำรวจมาจับผู้หญิงคนนี้ด้วย ผู้หญิงคนนี้ถูกใครก็ตามที่เป็นศัตรูกับผมจ้างวานมาให้ใส่ร้ายผม” เทวัญประกาศก้อง
“ไม่มีใครจ้างฉันทั้งนั้น เรียกตำรวจมาจับเลย ฉันไม่กลัว ฉันจะได้เอาหลักฐานทั้งหมดให้ตำรวจเอาผิดแก...ไอ้คนชั่ว!!”
เงาะไม่พูดเปล่าแต่ตบหน้าเทวัญโดยที่เขาไม่ทันตั้งตัว เทวัญแสร้งอึ้งไม่ตอบโต้ มารศรียืนมองจากมุมหนึ่งยิ้มอย่างมีความสุข พึมพำกับตัวเองว่าละครเรื่องนี้สนุกจริงๆ
“เงาะ...แค่พี่ไม่รักเงาะก็ทำกับพี่ได้ถึงขนาดนี้ เหรอ เนี่ยเหรอที่เงาะบอกว่ารักพี่จนยอมทรยศเพื่อนรัก เงาะไม่ได้รักพี่จริง ทำร้ายพี่ทำไม” เทวัญตัดพ้อ
“จนถึงตอนนี้คุณก็ยังพลิกลิ้นปลิ้นปล้อนเอาตัวรอดอย่างไม่ละอายแก่ใจ ไม่เกรงกลัวต่อบาปที่ตัวเองทำเลยสักนิด” จี๊ดระเบิดเสียงอย่างสุดทน
“เพราะพี่ไม่ได้ทำอะไรผิด อย่ามากล่าวหากันลอยๆ”
สิ้นเสียงของเทวัญ...ทันวิทย์เดินขึ้นมาพร้อมเสื้อเปื้อนเลือด เทวัญถึงกับหน้าถอดสี ด่าทอน้องชายทำไมถึงไม่ทำลายมันทิ้ง ทันวิทย์บอกเหตุผลว่าตนทนไม่ไหวพี่ไม่เคยรักษาสัญญา ดิ่งเห็นได้จังหวะตามมาประจานความผิดใหญ่หลวงของเทวัญที่ฆ่าด้วงตายอย่างโหดเหี้ยม
“ไม่จริง...ทุกคนโกหก อย่าไปเชื่อ ผมบริสุทธิ์ ผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
“ถ้าอย่างนั้นคุณก็ต้องไปพิสูจน์ตัวเองในศาล” ยอดชายพายุพาและตำรวจเข้ามาพร้อมหมายจับ
เทวัญหาทางรอดให้ตัวเองด้วยการจับจี๊ดเป็นตัวประกัน ล็อกคอเอาปืนจี้แล้วลากเธอออกไปท่ามกลางเสียงวี้ดว้าย แตกตื่นของผู้คน โพเห็นดังนั้นพุ่งเข้าไปจะล็อกเทวัญ แต่กลับโดนเขายิงสวนจนโพทรุดฮวบ แต้วกับพวกลุงแปลงรีบวิ่งเข้ามาดู ส่วนวันดีตกใจเป็นลมในอ้อมแขนเจตนา
จี๊ดถูกเทวัญลากขึ้นไปบนดาดฟ้า ดิ่งนำทีมตามมาเพื่อช่วยเหลือ จี๊ดเองก็พยายามเกลี้ยกล่อมเทวัญให้มอบตัวแต่เขาดึงดันไม่ยอมท่าเดียว
“เงียบสักที! พี่จะไม่ยอมติดคุกแม้สักวินาทีเดียว รู้ไว้ซะ”
“พี่เทวัญ...พี่อยากได้อยากมีอยากเป็นจนทำได้ ทุกอย่างแม้แต่เรื่องเลวร้ายที่สุดเลยเหรอ อะไรทำให้พี่มองข้ามความรู้สึกผิดชอบชั่วดี”
“ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีไม่เคยทำให้ใครประสบความสำเร็จถึงจุดสูงสุดและกลายเป็นตำนานให้คนพูดถึง”
“แต่สิ่งที่คนพูดถึงคุณคือการประณามและหยามเหยียด ไม่ใช่คำสรรเสริญชื่นชม...เป็นตำนานแห่งความอัปยศที่น้องชายคุณจะต้องแบกรับไปจนตลอดชีวิต หรืออาจจะยาวนานกว่านั้น” ดิ่งสวนทันควัน ทันวิทย์ยืนอยู่ข้างกัน กล่าวกับพี่ชายทั้งน้ำตาเอ่อคลอ
“พี่มีความรู้สึกรักตัวกลัวตาย คนอื่นเขาก็รู้สึกเหมือนกัน ชีวิตพี่หรือชีวิตใครต่างก็มีค่าด้วยกันทั้งนั้น เพราะฉะนั้นได้โปรดอย่าปลิดชีวิตใครอีกเลย”
“เพ้อเจ้อ...ไร้สาระ!!” เทวัญตวาดพลางลากจี๊ดมาประชิดขอบดาดฟ้าเหมือนจะพากระโดดลงไปด้วยกัน
ดิ่งและทุกคนตกใจพากันร้องห้าม พร้อมกันนั้นดิ่งก็พุ่งเข้าใส่เทวัญ แต่ไม่ทันถึงตัว ปืนในมือเทวัญลั่นเปรี้ยง! คาดไม่ถึงว่าจี๊ดจะวิ่งมารับกระสุนแทนดิ่ง ร่างเธอสะดุ้งเฮือกแล้วค่อยๆทรุดลง
ตำรวจตัดสินใจยิงสวน แต่เทวัญกระโดดลงไปข้างล่างซึ่งเป็นระเบียงห้อง กลุ่มตำรวจหาทางจับ ในขณะที่ดิ่งกับพวกยอดชายรีบพาจี๊ดส่งโรงพยาบาล
เทวัญลัดเลาะเร้นกายเข้าไปในห้องหนึ่งของโรงแรมแล้วฉวยชุดแขกอาหรับสวมใส่หนีตำรวจไปได้ แต่มิได้รอดพ้นสายตาของมารศรี
ooooooo
หลายวันผ่านไป จี๊ดอาการดีขึ้นมากแต่เดินเอง ไม่ค่อยถนัดนักเพราะโดนยิงบริเวณสะโพก แต่ถึงแม้เธอ จะยังไม่หายดี ก็ยังอุตส่าห์ให้รัตนาหอบงานมาให้ทำถึงบ้าน
วันนี้ดิ่งมาเจอจี๊ดกำลังรั้นกับรัตนาเรื่องทำงาน เขาไม่พอใจทั้งดุและกำหราบจนเธอเถียงไม่ออก วันดีกับเจตนาแอบมองมายิ้มๆ พอใจที่ดิ่งสยบจี๊ดได้
“ฉันดีใจที่เห็นลูกปลอดภัยและมีความสุขกับคนที่เขารัก” วันดีเอ่ยกับสามี
“ทีนี้เชื่อแล้วใช่ไหมว่านายดิ่งเป็นคนดี และไม่มีข้อโต้แย้งใดๆได้เลยถ้ายัยจี๊ดจะรักผู้ชายแบบนายดิ่ง”
“ค่ะ เขาเอายัยจี๊ดอยู่จริงๆ ขอโทษนะคะที่เคยดื้อดึง เชื่อมั่นในความคิดของตัวเองมากเกินไป”
“ไม่สายเกินไปที่จะตัดคำว่ามากเกินไปออกไปซะ แล้วเพิ่มการฟังคนอื่นให้มากขึ้น ทีนี้มันก็จะพอดีและลงตัว”
“ฉันรู้สึกว่าฉันโชคดีเหลือเกินที่คุณยังรักฉัน และจะไม่ให้อภัยตัวเองเลยถ้าต้องเสียคุณไปจริงๆในวันนั้น”
“ผมก็เป็นคนโชคดีที่มีภรรยาที่รักผมมาก ผมก็จะไม่ให้อภัยตัวเองเหมือนกัน ถ้ายอมปล่อยคุณไป”
วันดีและเจตนากอดกันอย่างเข้าใจและมีความสุข รัตนากำลังจะกลับเดินผ่านมาเห็น เธอยิ้มสบายใจก่อนออกเดินต่อไปสู่เส้นทางชีวิตของตัวเองที่หมายมั่นเอาไว้
ฟากฝั่งนายยอดชายกับศุวิมล กว่าจะลงเอยกันได้ศุวิมลก็ต้องเสียเวลาอธิบายจนน้ำลายแห้งคอว่าที่แท้คำนวณคือเพื่อนสาวและมีแฟนเป็นตัวเป็นตนแล้ว ส่วนเธอรักเขาคนเดียว และไม่เคยง้อใครขนาดนี้มาก่อน
“ผมขอโทษที่คิดเองเออเองจนเข้าใจผิด...แต่ผมก็รักคุณนะ” ยอดชายเอ่ยเสียงหวาน
“ทำไมถึงรัก”
“เพราะคุณแปลกไง”
“คุณยอด!” ศุวิมลเสียงเขียว ยอดชายรีบกลับคำว่าล้อเล่น พร้อมกุมมือเธอ “ดีกันนะ...ผมสัญญา ต่อไปนี้ผมจะไม่คิดเองเออเอง และถ้าเกิดอะไรขึ้นผมจะไม่กลัว ผมจะเดินหน้าลุยสู้เพื่อพิชิตอุปสรรค ผมจะทำให้คุณเดินไป กับผมอย่างมั่นใจและมั่นคง”
“ก็ได้” เธอตอบด้วยท่าทีเขินอาย
“แล้วคุณรับได้เหรอที่ผมมีแต่ตัวกับเงินเก็บไม่เท่าไหร่ แถมยังตกงานอีก”
“ฉันรักคุณที่ตัวคุณ ไม่ใช่ที่ตัวเลขในบัญชีธนาคาร อีกอย่างเงินเดือนฉันก็ไม่ได้ขี้เหร่ ไม่อดตายหรอก”
ยอดชายซาบซึ้งสุดใจ พอเธอกำชับให้เขารีบหางานทำ เขารับปากแข็งขันทันที
“ไม่ต้องห่วง เงินเดือนทุกบาททุกสตางค์ของผม ผมจะให้คุณหมดเลย”
“ให้มันจริงเหอะ” ศุวิมลแกล้งทำตาเขียวใส่ ยอดชายยิ้มรับ ยอมให้หมดทุกอย่างโดยเฉพาะตัวและหัวใจ
ooooooo
ขณะที่คนอื่นกำลังมีความสุขสมหวัง โดยเฉพาะดิ่งกับจี๊ดและยอดชายกับศุวิมล แต่เทวัญกลับมีชีวิตความเป็นอยู่ตกต่ำอย่างที่สุด ต้องอดมื้อกินมื้อ หลบซ่อนตัวในบ้านเช่าซอมซ่อต่างจังหวัด ที่สำคัญเขายังจมอยู่กับความเคียดแค้น รอวันชำระมันทุกคนให้สาสม!
หลังจากดิ่งส่งพ่อไปพักฟื้นร่างกายที่บ้านพักตากอากาศระยะหนึ่ง โดยมีป๊อดคอยดูแลอย่างใกล้ชิด...ถึงวันนี้เหมือนมีปาฏิหาริย์ เศกอาการดีขึ้นมาก เดินเองได้แม้จะยังไม่เต็มร้อย แต่นั่นก็ทำให้ดิ่งกับศุวิมลดีใจเป็นที่สุด ถึงกับตอบแทนป๊อดด้วยการส่งไปเรียนต่อช่างยนต์ที่เยอรมัน
ป๊อดตื่นเต้นที่จะได้ไปเรียนเมืองนอก เขาขอบคุณทุกคนแล้วขอตัวไปโทร.บอกแม่อย่างด่วนจี๋ สวนกับแม่บ้านที่เดินนำเจตนาเข้ามาพอดี สามคนพ่อลูกมองเจตนาอย่างคาดไม่ถึง โดยเฉพาะเศกที่ไม่คิดว่าศัตรูทางธุรกิจของตนจะกล้ามาเยือนถึงถิ่น
แต่การมาครั้งนี้ของเจตนาไม่ได้มีจุดประสงค์อื่นใดเลย นอกจากมาแสดงความยินดีที่เศกอาการดีขึ้นมากจนเกือบเป็นปกติ และมาขอโทษที่เคยเข้าใจเขาผิด ว่าเขาอาจจะมีส่วนรู้เห็นเรื่องที่ตนถูกลอบยิง
“ไม่เป็นไร” เศกยิ้มให้เจตนาอย่างเป็นมิตร
“ลูกชายคุณเป็นคนดีมาก เขาไม่เคยทำให้ผมผิดหวัง ไม่ว่าเขาจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่เลวร้ายมากแค่ไหน เขาก็ยังคงยึดมั่นในหนทางแห่งความดีเอาไว้ได้อย่างน่าชื่นชม”
“อืม...ผมภูมิใจในตัวเขา”
“ได้ข่าวว่าคุณวางมือหมดแล้ว...แล้วให้นายดิ่งดูแลทุกอย่างทั้งหมดอย่างสมบูรณ์” เศกพยักหน้ารับ เจตนาจึงกล่าวต่อด้วยความมั่นใจ “ลักชัวรี่คาร์ภายใต้การนำของดิ่งจะต้องเจริญรุดหน้าและเติบโตอย่างมั่นคงแน่นอน”
“ขอบคุณ”
“ผมมาก็มีเรื่องจะพูดกับคุณแค่นี้ เราคงได้พบกันอีก” เจตนาลุกขึ้นจะกลับ แต่ต้องชะงักเมื่อเศกเอ่ยปากขอหนูจี๊ดมาเป็นลูกสาวของตนอีกคน...
เวลาเดียวกันนั้นเอง หนูจี๊ดกำลังนอนยิ้มสบายใจอยู่ที่บ้าน พอเธอเห็นรัตนาเดินเข้ามาก็รีบหลับตาลงเหมือนว่าหลับ รัตนายิ้มเอ็นดู จัดผ้าห่มคลุมให้อย่างเบามือแล้วทำท่าจะกลับออกไป เผอิญวันดีที่กำลังจะไปงานการกุศลเดินเข้ามาเห็น เธอเรียกรัตนาให้มาช่วยเลือกเข็มกลัดติดเสื้อ จี๊ดแอบมองทั้งคู่ด้วยความปลาบปลื้ม
ตอนแรกรัตนาเกร็งพอสมควรเมื่อต้องอยู่ใกล้วันดี แต่พอวันดีกระเซ้าเธอด้วยรอยยิ้ม อาการเกร็งนั้นค่อยหายไป
“เธอคงกลัวฉันมากเลยสินะ แต่ก็นั่นแหละนะ ฉันร้ายกับเธอไว้เยอะ”
“ค่ะ”
“เธอเป็นคนจริงใจดีนะ...นี่จ้ะ เข็มกลัดสองอันนี้ เธอช่วยฉันเลือกหน่อย ฉันควรจะติดเข็มกลัดอันไหนถึงจะเข้ากับชุดนี้”
รัตนายังไม่เลือกหากแต่ถามวันดีว่าชอบอันไหน พอได้คำตอบ เธอบอกว่าสวยดี แต่ไม่เข้ากับชุด มันดูเยอะไป อีกอันน่าจะดีกว่า เรียบแต่หรู อยู่บนตัวเสื้อได้อย่างสง่างามกลมกลืน แต่ก็มีความโดดเด่นในตัวเอง
วันดีมองเข็มกลัดที่รัตนาเลือกอย่างพึงพอใจ “รู้ไหมว่าเธอมีคุณสมบัติเหมือนกับเข็มกลัดอันนี้...เรียบง่ายแต่ก็งามสง่า อยู่อย่างกลมกลืน แต่ไม่ถูกกลบ เธอโดดเด่นด้วยสิ่งที่เธอเป็น ไม่ใช่สิ่งที่เธอสร้าง...ขอบใจนะ ฉันจะติดเข็มกลัดอันที่เธอเลือก เพราะฉันเชื่อในความจริงใจของเธอ”
วันดีเดินยิ้มออกไป รัตนาดีใจอย่างที่สุดที่วันดีเอ่ยปากชม พลันเสียงแซวของจี๊ดก็ลอยลมมา
“ได้ยินหมดแล้วนะ แหม...ยิ้มไม่หุบเลยน้า...”
รัตนาหันกลับมาด้วยรอยยิ้ม แล้วถือโอกาสจี๊ดอารมณ์ดียื่นซองขาวในมือให้เธอ จี๊ดนึกว่าซองผ้าป่า แต่พอได้ยินรัตนาบอกว่าจดหมายขอลาออกไปศึกษาต่อ เธอถึงกับลุกพรวดด้วยความตกใจ
“ฉันไม่อนุมัติ” จี๊ดเสียงดังฟังชัด
“คุณจี๊ดคะ ฟังดิฉันก่อนนะคะ”
“เธอไป...แล้วใครจะช่วยฉัน ตอนนี้เธอมีความสำคัญกับชีวิตฉัน แล้วจะทิ้งกันไปแบบนี้ได้ยังไง”
“คุณจี๊ดเคยมีความฝันแล้วยังทำไม่สำเร็จหรือเปล่าคะ” จี๊ดเมินหนี แต่รัตนายังพยายามให้เหตุผลต่อไปว่า “ในชีวิตของดิฉันมีความฝันอยู่สองอย่าง...หนึ่งคือทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนบุญคุณของท่านประธาน โดยเฉพาะการได้ช่วยงานท่าน และตอนนี้คุณจี๊ดก็เก่งแล้ว จนสามารถช่วยงานท่านได้ทุกอย่าง คุณจี๊ดทำให้ความฝันของดิฉันเป็นความจริง ตอนนี้คุณจี๊ดช่วยทำให้ความฝันอีกข้อหนึ่งของดิฉันเป็นความจริงด้วยได้ไหมคะ”
“ให้เธอไปเรียนต่อน่ะเหรอ”
“ค่ะ ดิฉันเป็นผู้หญิงตัวคนเดียว ความรู้และประสบการณ์ในโลกกว้างจะช่วยให้ดิฉันมีชีวิตอยู่ได้อย่างมีความสุขและมีค่า มีเป้าหมาย”
จี๊ดทำใจไม่ค่อยได้แต่ก็ยอมรับ ถามเธอว่าคุณพ่อรู้เรื่องนี้หรือยัง?
“ท่านทราบแล้วค่ะ แต่ท่านไม่ตัดสินใจ ให้ดิฉันมาคุยกับคุณจี๊ด”
“จะไปนานแค่ไหน”
“แค่สองปีเท่านั้นค่ะ”
“ฉันไม่ให้เธอไป...ถ้าเธอไม่สัญญาว่าจะกลับมาทำงานกับฉันเหมือนเดิม สัญญาได้ไหมว่าจะกลับมาอยู่กับฉันเหมือนเดิม”
“สัญญาค่ะ ขอบคุณนะคะคุณจี๊ด”
จี๊ดสวมกอดรัตนาด้วยความรักและเคารพ รัตนารู้สึกอบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก...วันดีแอบมองเงียบเชียบ สีหน้าเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ
ooooooo
วันหนึ่ง ทันวิทย์นัดพบจี๊ดที่ร้านอาหาร จี๊ดมากับดิ่งและพูดคุยกับเขาอย่างเป็นกันเอง เมื่อทันวิทย์บอกว่าตนเรียนจบแล้ว และกำลังจะรับปริญญา จี๊ดดีใจด้วยและรับปากจะไปแสดงความยินดีกับเขาในวันนั้น
“ผมรู้ว่าพี่งานยุ่ง ผมคงไม่รบกวน”
“ไม่ได้รบกวนเลย ยังไงพี่ก็รักเธอและคิดว่าเธอเป็นน้องชายของพี่เสมอ” จี๊ดเอ่ยอย่างจริงใจ ส่วนดิ่งแสดงความยินดีและให้กำลังใจสำหรับอนาคตอันสดใสของเขา
ทันวิทย์ได้ฟังถึงกับน้ำตาซึม สะท้อนใจนึกไปถึงพี่ชายที่ตนมีส่วนทำให้เขาต้องพบกับความลำบาก
“ทันวิทย์ อย่าร้องไห้เลย...พี่เทวัญเลือกที่จะเดินทางนั้น เขาก็ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่เขาเลือก”
“เราทำดีแล้ว ที่ไม่สนับสนุนให้พี่ชายถลำลึกไปมากกว่านี้”
สองคนช่วยกันปลอบทำให้ทันวิทย์คลายความเศร้าลงได้บ้าง และส่ายหน้าเมื่อจี๊ดถามว่าพี่เทวัญติดต่อเราบ้างหรือเปล่า
สมควรแก่เวลา สองฝ่ายเตรียมแยกกันตรง
หน้าร้าน จี๊ดอวยพรทันวิทย์ให้โชคดี หากขาดเหลืออะไรบอกได้เลยไม่ต้องเกรงใจ ทันวิทย์ยกมือไหว้จี๊ดและดิ่งก่อนเดินออกไป...พอทั้งคู่จะขึ้นรถ จี๊ดนึกได้ว่าลืมบอกทันวิทย์ให้ไปสมัครงานที่บริษัทของตน จึงเดิน
ย้อนกลับมามองหาแต่ก็ไม่เห็นเขาเสียแล้ว
“ไปไหนของเขานะ เร็วจัง”
“ค่อยโทร.หาเขาก็ได้”
จี๊ดเชื่อดิ่ง เดินกลับไปที่รถด้วยกัน โดยไม่เห็นว่าตรงมุมกำแพงใกล้ๆนั้นทันวิทย์ถูกเทวัญล็อกตัว
มือหนึ่งปิดปาก และอีกมือถือปืนจ่อไว้
จากนั้นเทวัญลากทันวิทย์ไปยังมุมลับตา เขาแย่งเป้ของน้องมาค้นหาเงินและของมีค่าโดยไม่สนว่าน้องจะสอบถามด้วยความเป็นห่วงสักเพียงใด
“กระเป๋าเงินอยู่ไหน เอามาให้ฉันเดี๋ยวนี้”
“พี่ไม่มีทางหนีรอดหรอก สักวันตำรวจก็ต้องตามหาพี่จนเจอ”
เทวัญโกรธตบหน้าน้องชายเต็มแรง “ไหนแกบอกว่าแกรักฉัน แต่แกก็ไปเข้าข้างพวกมัน ไอ้น้องเลว”
“ผมรักพี่ แต่ผมก็จะไม่เข้าข้างคนทำผิด มอบตัวเถอะครับ”
“ฉันไม่ผิด แล้วฉันก็จะรอวันชำระแค้นพวกมัน...และแกด้วย”
เทวัญเล็งปืนใส่ แต่ทันวิทย์ไม่กลัวตายเลยสักนิด แถมมองอย่างท้าทาย ที่สุดพี่ชายก็ทำไม่ลง รีบค้นหาตามตัวน้องจนเจอกระเป๋าเงิน แล้วสำทับกึ่งขู่อีกครั้งก่อนวิ่งหนีหายไปทันที
“อย่าตามมานะ นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้าย หากฉันเห็นหน้าแกอีกครั้ง นั่นหมายถึงฉันจะไม่เหลือความปรานีให้แกอีกแล้ว”
ooooooo










