ตอนที่ 11
ท่านหญิงรู้สึกตัวขึ้นชายรุจนั่งเฝ้าอยู่รีบบอก พยาบาลด้วยความดีใจ แต่สายตาที่พร่าเลือน ท่านหญิง จึงยังดูไม่ออกว่าเป็นใครและหลับตาลงอย่างอ่อนเพลีย...
รุ่งขึ้น เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง จึงเห็นพระองค์ฉัตรนั่งอยู่ ท่านดีใจมากผวาเข้าหา
“ดวงใจของพ่อ...หนูเกือบทำให้พ่อจะขาดใจตายตามไปด้วยรู้ไหม”
ที่นอกห้อง ชายรุจยืนดูอยู่ด้วยความปลาบปลื้ม...หมดห่วง
ชายรุจถูกเรียกไปในห้องรับรองของพระองค์ฉัตร เขายืนอย่างสงบเสงี่ยมอยู่หน้าโต๊ะที่พระองค์ฉัตรจิบเครื่องดื่ม พลางเอ่ยขอบใจที่ชายรุจเฝ้าดูแลหญิงแต้วอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย แต่เตือนว่า “เธอรู้ไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องที่เหมาะสม”
“กระหม่อมทราบดีฝ่าบาท”
“หญิงแต้วมีพระคู่หมั้นอยู่แล้ว และจะเข้าพิธีเสกสมรสอีกไม่นาน เธอมาเฝ้าใกล้ชิดแบบนี้อาจจะมีเสียงครหาขึ้นได้...เมื่อหญิงแต้วฟื้นแล้ว คงไม่มีอะไรน่าห่วงอีก เธอก็ควรยุติการกระทำของเธอได้แล้วนับแต่วันนี้”
“แต่ฝ่าพระบาท กระหม่อมขอประทานอนุญาตมา เยี่ยมท่านหญิงในทุกๆเย็นได้ไหม เพราะอย่างไรกระหม่อมถือว่า ที่ท่านหญิงทรงบาดเจ็บถึงขนาดนี้เป็นความผิดพลาดของกระหม่อมเอง กระหม่อมขอรับผิดชอบจนกว่าท่านหญิงจะทรงหายดี” พระองค์ฉัตรมองอย่างแปลกใจความห่วงใยมากมายของชายรุจ
“อย่าทรงวิตกไปเลย กระหม่อมจะมาเยี่ยมโดยไม่แสดงตัวเด็ดขาด โปรดประทานอนุญาตให้กระหม่อมได้ปรนนิบัติท่านหญิงเป็นครั้งสุดท้ายด้วยเถิด”
เมื่อชายรุจสัญญาและอ้อนวอนเช่นนี้ พระองค์ฉัตรจึงพยักหน้า
ooooooo
สองสามวันต่อมา คุณชายทั้งสามอันได้แก่ชายใหญ่ ชายเล็ก และชายพีร์ รวมทั้ง เกษราปกรณ์ อ้ายและเอื้อยก็มาเยี่ยมท่านหญิงพร้อมกัน ชายเล็กกับชายพีร์พากันอ้อนอยากทานขนมฝีมือท่านหญิงอีก
เอื้อยกับอ้ายเห็นขนมไทยวางอยู่อย่างสวยงาม มากมายถามว่านี่ของใครน่าทานทั้งนั้นเลย ชายใหญ่บอกว่าเป็นขนมของเกษราเพราะน้องเกษทำขนมสดๆใหม่ ทุกวัน
“หม่อมฉันทำถวายท่านหญิงโดยเฉพาะเลยเพคะ ลองเสวยจ่ามงกุฎนี้ดูหน่อยเพคะ ท่านหญิงจะทรงติดพระทัย”
พอท่านหญิงลองชิมก็ชมว่าอร่อยจริงๆ ด้วย อ้ายกับเอื้อยอดใจไม่ไหวขอชิมบ้าง ปกรณ์และชายพีร์เลยยื่นมือมาขอชิมด้วยคน...และด้วยคน...ชิมแล้วชมแบบตลกบริโภคเลยได้หัวเราะกันครื้นเครง
“แล้วนี่ คุณชายรุจไม่มาเยี่ยมด้วยเหรอคะ” ท่านหญิงถามขึ้น ทุกคนเงียบกริบ ชายเล็กเลยบอกว่าชายรุจติดงาน ท่านหญิงดูนาฬิกาติงว่านี่เป็นเวลาเลิกงานแล้ว ชายใหญ่จึงช่วยพูดอีกคนว่า
“ช่วงนี้กลับบ้านค่ำทุกวันละกระหม่อม คงต้องรีบเคลียร์งานก่อนจะเดินทางไปสวิต”
ท่านหญิงนิ่งไป ส่วนคนอื่นๆต่างช่วยกันสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นสนุกสนานไม่ให้ผิดสังเกต
แต่เมื่อเกษราเดินเลี่ยงออกมา จึงพบชายรุจยืนอยู่หน้าประตู ถามว่าทำไมไม่เข้าไป ชายรุจบอกว่าตนรออยู่ข้างนอกจะดีกว่า เกษราจึงขอปรึกษาเรื่องของชายรุจกับกระถิน
ooooooo
ทั้งสองเดินไปหามุมสงบนั่งคุยกัน เกษราบอกชายรุจเรื่องกระถินมีคนรักอยู่แล้วคือนายคล้าว ชายรุจบอกว่าตนรู้แล้วท่านหญิงเป็นคนบอกเอง เกษราถามว่าเมื่อเป็นเช่นนี้คุณชายยังจะแต่งงานกับกระถินไหม
“คุณเกษครับ ผมตัดสินใจตั้งแต่กลับมาจากสวิตแล้วว่าผมจะแต่งงานกับคนที่ผมไม่ได้รักไม่ได้ ช่วยบอกน้องกระถินให้สบายใจเถอะนะครับ”
“ฉันก็สบายใจค่ะที่ได้ยินอย่างนั้น เออ...ที่จะให้บอกกระถินนั้น ขอให้คุณชายบอกน้องด้วยตัวเองดีกว่า นะคะ” เมื่อชายรุจรับปาก เกษราเอ่ยอย่างเบาใจก่อนแยกไป “ขอบคุณสำหรับการตัดสินใจ...อ้อ...คุณชายคะ ท่านหญิงรับสั่งถึงคุณชาย อยากให้คุณชายไปเยี่ยมท่านบ้าง”
ที่แท้ชายรุจมาเยี่ยมท่านหญิงทุกเย็น โดยไม่แสดงตัวตามสัญญาที่ให้ไว้กับพระองค์ฉัตร เมื่อท่านหญิงถามอ้ายกับเอื้อยว่าชายรุจไม่มาเลยหรือ ทั้งสองบอกว่า ชายรุจมาแต่ท่านหญิงหลับอยู่
ท่านชายทัศน์มาเยี่ยมท่านหญิงพร้อมดอกไม้สวยช่อใหญ่ แต่ไม่ได้ทำให้ท่านหญิงยินดีขึ้นมาเลย ระหว่างนั้นชายรุจมาเยี่ยมเห็นดอกไม้ช่อใหญ่ของท่านชายทัศน์ ถามอ้ายกับเอื้อยว่ามีใครมาเยี่ยมหรือ สองสาวมองหน้ากันลำบากใจที่จะตอบ พอดีชายรุจได้ยินเสียงคุยกันในห้องท่านหญิง มองเข้าไปเห็นท่านชายยืนคุยอยู่
ได้ยินท่านชายคุยกับหญิงแต้วว่าออกจากโรงพยาบาลเมื่อไรจะจัดงานแต่งงานทันที คราวนี้จะเป็นงานเสกสมรสที่ใหญ่โตที่สุดของพระนครทีเดียว รบเร้าจะให้ท่านหญิงบอกว่าเลิกกับชายรุจและจะมาแต่งงานกับตน ท่านหญิงตอบอย่างเย็นชาว่า ไม่ต้องห่วง เพราะชายรุจไปจากชีวิตตนนานแล้ว ส่วนเรื่องการแต่งงานตนไม่ปฏิเสธ
ชายรุจฟังแล้วเบือนหน้าเดินจากไปอย่างร้าวรานใจ ครู่เดียวพระองค์ฉัตรก็มาถึง แต่พอจะเข้าห้องได้ยินเสียงท่านชายกับหญิงแต้วคุยกันจึงหยุดฟัง
พระองค์ฉัตรได้ยินท่านชายทัศน์กับหญิงแต้วโต้เถียงกันรุนแรง เรื่องท่านชายทัศน์มีหญิงอื่นมากมายไม่เว้นแม้แต่กับสมรที่กรุงเทพฯ ส่วนท่านชายก็หาว่าหญิงแต้วหนีเที่ยวกับชายรุจจนลือกระฉ่อนไปทั้งสวิต ด่าชายรุจว่าเฟลิร์ตกับหญิงแต้วเพื่อยกฐานะของตัวเองที่เป็นแค่ลูกคนใช้เป็นคุณชายก้นครัว
หญิงแต้วโต้ว่าชายรุจไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตนเป็นใครและก็ยอมรับตลอดมาถึงฐานะที่แท้จริงของตัวเอง ไม่เพียงเท่านั้นหญิงแต้วยังยกคำพูดของท่านชายที่บอกสมรว่า ตนต้องแต่งกับหญิงแต้วให้ตายใจก่อนแล้วเราค่อยมาสนุก กันเหมือนเดิม จนท่านชายพูดไม่ออก ครู่หนึ่งจึงเสนอว่า
“ถ้าพี่สัญญากับหญิง ว่าพี่จะเลิกกับผู้หญิงทุกคนที่เคยยุ่งเกี่ยวด้วย หญิงจะยอมรับพี่ได้บ้างไหม”
“ไม่มีประโยชน์ค่ะ ทรงเคยได้ยินคำว่าพรหมลิขิตรึเปล่า ‘รักแท้’ ของหญิงได้ถูกกำหนดไว้แล้วกับคนคนเดียวเท่านั้น”
เมื่อหญิงแต้วยืนยันเช่นนี้ ท่านชายได้แต่ถอนใจอย่างเบื่อหน่ายหมดความอดทนที่จะหว่านล้อมอีก
ส่วนพระองค์ฉัตร ได้ยินการโต้เถียงกันทั้งหมด ถอนใจหนักหน่วงเดินเลี่ยงไป บังเอิญเจออ้ายกับเอื้อยจึงเรียกไปถามความจริงทั้งหมดที่สวิตโดยเฉพาะเรื่องหญิงแต้วกับคุณชายปวรรุจ
ooooooo










