ตอนที่ 10
สภาพน่ารันทดของวันเฉลิมและความเหลว แหลกของลำยองทำให้แลได้คิดและเริ่มเห็นความสำคัญของการทำมาหากิน ยิ่งเห็นแป้งลอยไปลอยมาไม่ทำงานเป็นชิ้นเป็นอันเลยพาลหัวเสียเพราะเบื่อเต็มที
“มึงนี่ไม่ทำอะไรสักอย่าง ดีแต่ขอเงิน ทำมาหากินบ้างได้ไหม เสียทีที่เกิดมาเป็นลูกผู้ชายนะไอ้แป้ง”
“ทำไมแม่ไม่เบ่งฉันออกมาเป็นลูกผู้หญิงล่ะ จะได้สบายอย่างพี่ลำยอง”
แลโมโหเลยฟาดด้วยทัพพี “กวนประสาทกูนัก รู้อย่างนี้กูเอาขี้เถ้ายัดปากมึงตั้งแต่เล็กๆก็ดี”
ปอยืนมองเมียด่าลูกชายแล้วพลอยอารมณ์เสียตาม อาการหลงๆลืมๆเพราะผลจากการติดเหล้าทำให้เพ้อเจ้อจนทุกคนในบ้านเลิกถือสา สันต์ผ่านมาพอดีและฝากฝังลำยงให้ช่วยดูแลวันเฉลิมเพราะเขาคงไม่ได้มาบ่อยๆ
“ทุกวันนี้แค่ทำมาหากินฉันก็เหนื่อยสายตัวแทบขาดแล้วนะพี่ ฉันไม่รับปากหรอกว่าจะช่วยพี่ได้มากแค่ไหน”
สันต์พยักหน้าเข้าใจดี ลำยงเลยตัดสินใจถามตรงๆ ว่าทำไมถึงยอมให้ลำยองเอาเปรียบเรื่องลูก
“แล้วลำยงจะให้พี่ทำยังไง พ่อแม่ทะเลาะกันต่อหน้าลูก พี่ทำไม่ได้หรอกนะ พี่สงสารลูก”
“พี่ยืนยันอีกทีซิว่าเมียใหม่พี่จะไม่เป็นแม่เลี้ยงใจยักษ์” สันต์ไม่แน่ใจว่าลำยงต้องการบอกอะไร “ถ้าฉันเป็นพี่... ฉันจะพาไอ้วันหนี ไม่ปล่อยให้ทุกข์ทรมานแบบนี้ พี่ลำยองจะโวยวายก็ช่างหัวมัน มันไม่มีปัญญาไปตามหรอก”
สันต์อึ้งไปอึดใจเพราะไม่เคยมีความคิดนี้เลย แป้งอาสาไปชวนวันเฉลิมให้เพราะไม่อยากให้ลำยองสงสัย และดูท่าทางจะสะดวกเพราะเด็กชายอยู่กับน้องสาวตามลำพัง แป้งเข้าไปหาและบอกให้ไปหาสันต์ที่ร้านลำยง
“เขาจะพาเอ็งไปอยู่กับเขา ยายเอ็งก็เห็นด้วย เขาว่าขืนเอ็งอยู่ที่นี่เอ็งก็ไม่มีวันเจริญหรอก”
วันเฉลิมลังเลเพราะห่วงแม่กับน้อง แป้งเลยบอกว่าให้เป็นหน้าที่แลกับลำยงจัดการตามหลัง วันเฉลิมตั้งท่าจะไปเก็บของตามที่แป้งบอก แต่ลำยองโผล่มาจากไหนไม่รู้และสั่งให้ลูกชายหุงข้าว วันเฉลิมหน้าซีดเพราะเกิดมาไม่เคยโกหกแม่ ส่วนแป้งทำหน้าตายไม่รู้ไม่ชี้และบอกว่ามาช่วยหลานทำอาหาร
ฟากสันต์คอยลูกที่บ้านแลด้วยใจจดจ่อ ชดมาคุยเป็นเพื่อนเพราะเห็นใจนายทหารเรือที่ต้องเหนื่อยใจกับพฤติกรรมเมียเก่า สันต์พยายามไม่คิดมากและวางแผนอนาคตของลูกคร่าวๆ ชดเห็นด้วยอย่างยิ่ง
“ไอ้วันมันเป็นเด็กผู้ชาย แทนที่มันจะได้วิ่งเล่นเหมือนเด็กคนอื่นบ้าง แม่มันกลับจิกหัวใช้แทบไม่ได้เห็นเดือนเห็นตะวัน ฉันเห็นด้วยที่พี่จะเอามันไปดูแลเอง”
“ถ้านังลำยองมันเกิดบ้าเลือดขึ้นมา ข้าจะเฉ่งมันเองไอ้สันต์ ไม่ต้องกลัว”
แลพลอยลุ้นไปด้วย หวังสุดใจว่าแป้งจะพาตัววันเฉลิม มาได้สำเร็จ...จะได้หมดเวรหมดกรรมกันสักที!
ขณะเดียวกันที่บ้านลำยอง...วันเฉลิมโกยข้าวของส่วนตัวลงถุง แป้งช่วยหลานแต่ก็อดบ่นไม่ได้
“เอ็งจะเอาอะไรไปหนักหนาวะไอ้วัน เดี๋ยวแม่เอ็งก็ผิดสังเกตหรอก เอาไปแค่บางอย่างพอ” วันเฉลิมยังสงสัยว่าจะแอบออกไปได้ยังไง “เอ็งก็รอจังหวะแม่เอ็งเผลอสิ เวลาเขาเล่นไพ่น่ะเขาไม่สนใจอะไรอยู่แล้ว”
อ้อยร้องไห้จ้าเหมือนรู้ว่าพี่ชายจะหนีหน้า วันเฉลิมละล้าละลัง แป้งต้องกล่อมพักใหญ่กว่าจะยอมออกไป แต่โชคกลับไม่เข้าข้างเพราะลำยองมาเห็นเข้าพอดีและถามว่าจะไปไหนเพราะดูท่าทางเหมือนจะออกไปข้างนอก วันเฉลิมหน้าเสีย ส่วนแป้งกลบเกลื่อนได้แนบเนียน โดยเฉพาะเมื่อถูกลำยองถามว่าขโมยอะไรในห้องหรือเปล่า
“ห้องพี่มีอะไรให้ขโมยวะ มีแต่ขยะเน่าๆเต็มห้อง พาผู้ชายที่ไหนเข้าไปปรึกษาปัญหาชีวิต พี่ไม่อายหรือไงวะ”
ลำยองของขึ้นและจะกระโดดถีบ แป้งหนีไปได้แต่ไม่ลืมส่งสัญญาณให้วันเฉลิมตามหลังไป เมื่อถึงบ้านแลก็แจ้งข่าวดีกับทุกคน สันต์ดีใจมากและควักเงินให้ตอบแทนความดีความชอบแต่แป้งไม่ยอมรับ
“แหม...ฉันไม่ได้เห็นแก่เงินทุกทีไปหรอกน่า ครั้งนี้ ฉันทำเพื่อไอ้วันมัน แค่ได้เห็นมันไปพ้นจากพี่ลำยองก็เห็นลางๆแล้วล่ะว่าอนาคตมันต้องดีกว่าอยู่ที่นี่แน่”
ooooooo
วันเฉลิมไม่ได้ตามแป้งออกไปทันทีเพราะยังมีห่วงเรื่องแม่กับน้อง เด็กชายเหงื่อแตกพลั่กเพราะเกิดมาไม่เคยโกหกแม่ ลำยองไม่ทันสังเกตอาการลับๆล่อๆ ของลูกเพราะปวดท้องจนเดินแทบไม่ไหว วันเฉลิมเห็นอาการแม่เลยลืมทุกอย่างและจะออกไปขอยาธาตุที่ร้านลำยง ลำยองจึงถามถึงอ้อย วันเฉลิมบอกว่าอยู่บนห้อง
“เออ...ขังมันไว้ก่อน เผื่อมีน้ำก๋วยเตี๋ยวเหลือ มึงก็ขอกลับมาด้วย จะได้เอาไว้กินกับข้าว”
วันเฉลิมรับคำแล้ววิ่งออกจากบ้าน ในใจคิดอย่างเดียวว่าต้องเอายามารักษาแม่ให้ได้
ฝั่งบ้านแลได้เฮลั่นเมื่อเห็นวันเฉลิมวิ่งหน้าตื่นมา สันต์ยิ้มออกและไปหาลูกชายด้วยความยินดี เช่นเดียวกับแลที่สั่งเสียหลาน “ไปอยู่กับพ่อ ตั้งใจเรียน วันข้างหน้าจะได้เป็นเจ้าคนนายคน ไม่ต้องลำบากอย่างยายกับน้าๆ เอ็งนะ”
“เอ็งไม่ต้องกลัวแม่เอ็งหรอก นี่เป็นวิธีเดียวที่เอ็งจะพ้นไปจากที่นี่ได้ ถ้าแม่เอ็งมาอาละวาด น้าจะจัดการเอง”
ลำยงช่วยเสริมความมั่นใจ สันต์ขอบใจทุกคนและดึงลูกชายไปขึ้นเรือแต่วันเฉลิมกลับขืนตัว
“พ่อครับ...ผมไปไม่ได้หรอกครับ ถ้าผมไม่อยู่แล้วใครจะหุงข้าวและทำกับข้าวให้แม่กับน้องกิน”
สันต์อึ้งไปอึดใจเพราะนึกไม่ถึง ส่วนลำยงถอนใจเซ็งๆแล้วอธิบายความจริงที่ควรจะเป็น
“ไอ้วัน...เอ็งมันแค่แปดเก้าขวบ เอ็งจะเอาภาระอะไรมาแบกนักหนา พ่อแม่ต้องเป็นฝ่ายห่วงลูกสิ”
แลไม่เข้าใจว่าทำไมต้องคิดมากขนาดนั้น วันเฉลิมบอกว่าแม่ไม่ค่อยสบายและตนมาที่นี่เพื่อขอยาไปให้แม่ แลถึงบางอ้อและคิดว่าคงเป็นอาการอยากเหล้ามากกว่า ส่วนแป้งกลัวหลานเปลี่ยนใจเลยช่วยกล่อมอีกแรง
“ขืนเอ็งอยู่ที่นี่ อย่างเก่งเอ็งก็ได้เรียนแค่ปอเจ็ด แล้วเป็นได้แค่คนงานรับจ้างเขาไปวันๆเหมือนข้านี่ไง”
“ผมทิ้งแม่กับน้องไปไม่ได้หรอกครับ หลวงลุงสอนเอาไว้ว่าคุณค่าของคนอยู่ที่ความกตัญญูต่อพ่อแม่ครับ”
ทุกคนพูดไม่ออก โดยเฉพาะสันต์ถึงกับเบือนหน้าหนี ส่วนลำยงน้ำตาร่วงด้วยความคับแค้นใจ
“ไอ้เด็กโง่...ไอ้เด็กกตัญญูผิดเวลา เอ็งหนอเอ็ง”
ลำยงกับชดผละไปทำงาน สันต์ได้แต่ลูบหัวลูกด้วยความรักและสงสาร วันเฉลิมได้แต่ก้มหน้านิ่งน้ำตาไหลพราก อยากไปกับพ่อใจแทบขาดแต่ทิ้งแม่กับน้องไม่ลง เด็กชายเดินกลับบ้านพร้อมขวดยาธาตุในมือ ในใจนึกถึงนิทานชาดกเรื่องโปรดที่เคยอ่านกับหลวงลุงบ่อยๆ
“ข้าแต่มหาราชเจ้า ข้าพเจ้าเป็นคนเลี้ยงมารดาผู้จักษุมืดมน เมื่อมารดาของข้าพเจ้าเว้นจากข้าพเจ้าแล้ว ก็จักถึงซึ่งความตาย เมื่อข้าพเจ้าต้องพลัดพรากจากมารดาแล้ว ความต้องการด้วยอิสริยศย่อมไม่มีแก่ข้าพเจ้า อนึ่งมารดาของข้าพเจ้าไม่ได้บริโภคอาหารมาเจ็ดวันเช้าวันนี้แล้ว เพราะเหตุพระยาช้างกล่าวดังนี้ ท่านทั้งหลายจงปล่อย นางพญาช้างโดยเร็ว พระยาช้างจงถึงความพร้อมเพรียงด้วยมารดากับญาติทั้งหลายทั้งปวงเถิด”
วันเฉลิมรีบเดินเพราะเป็นห่วงแม่ ลำยองคว้าขวดยา มากรอกเข้าปากทันทีเพราะปวดจนแทบทนไม่ไหว สาวขี้เมาผ่อนลมหายใจยาวเพราะอาการค่อยๆดีขึ้น ครู่ใหญ่ จึงเหลือบตามองลูกและถามถึงน้ำก๋วยเตี๋ยวที่สั่งให้เอามาด้วย
“มึงกินซะ ป้อนนังอ้อยมันด้วย เสียดายว่ะ ลืมบอกให้มึงซื้อเหล้ามาสักขวด”
“แม่ครับ...ผมว่าแม่ปวดท้องเพราะกินเหล้านี่แหละ แม่เลิกกินเถอะนะครับ”
“มึงกลัวกูตายหรือไงไอ้วัน ไม่ได้กินน่ะกูจะตาย ใจสั่นมือสั่นไปหมดแล้ว มึงไม่เห็นหรือไง”
ลำยองตะเกียกตะกายหาเหล้ากินจนได้ สุดท้ายสาวขี้เมาก็นอนแผ่หราบนพื้นห้องโถง วันเฉลิมตื่นมาดูแม่กลางดึกและพยุงไปนอนบนเตียงด้วยความทุลักทุเล ลำยองไม่มีสติ เมื่อเห็นหน้าลูกเลยอดพูดถึงเรื่องที่ฝังใจไม่ได้
“ถ้ากูยอมให้มึงไปอยู่กับพ่อมึงแล้วใครจะหาข้าวให้กูกินนะไอ้วัน มึงนี่ลูกกตัญญูจริงๆเลย”
ลำยองผล็อยหลับไปแล้วเพราะความเมา วันเฉลิมห่มผ้าให้แม่และผละออกไปเงียบๆ
ooooooo
พฤติกรรมเมาหัวราน้ำและข่าวฉาวเรื่องเกือบ ไปคลอดลูกในคุกทำให้วันเฉลิมถูกเพื่อนฝูงมองด้วยสายตาแปลกๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเด็กชายทนไม่ไหวที่ถูกล้อเลยมีเรื่องชกต่อยกับเพื่อนๆ หลวงลุงปิ่นผ่านมาเห็นเลยคว้าไม้เรียวขู่ไล่กลุ่มเด็กอันธพาลและพาวันเฉลิมที่มีแผลฟกช้ำตามตัวไปคุยด้วยที่กุฏิ
“ไอ้ที่หลวงลุงเคยสอนเอ็งไว้ว่าเจอคนพาลให้หนีห่างให้ไกล ไม่ได้อยู่ในหัวเอ็งเลยหรือ”
“ผมพยายามแล้วครับแต่ผมอดทนไม่พอ เขาล้อแม่ผม ล้อผมยังไงก็ได้ แต่ทำไมต้องล้อถึงแม่ด้วย”
“เข้าใจล่ะ...พ่อแม่ใครใครก็รัก ไอ้เรื่องระงับความโกรธมันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่มันไม่ยากจนเอ็งทำไม่ได้หรอก ฝึกเข้าไว้ไอ้วัน ให้ไม่เห็น ไม่ได้ยินและไม่รู้ร้อนรู้หนาว สักวันเอ็งจะเข้มแข็งและไม่สะทกสะท้านต่อคำนินทาว่าร้ายอะไรทั้งนั้น ปากคนพูดเรื่องดีก็เป็นศรีแก่ตัว รู้อย่างนี้แล้วเอ็งจะยอมให้คำพูดแย่ๆมาทำร้ายเอ็งหรือ”
วันเฉลิมนิ่งพลางคิดตาม หลวงลุงปิ่นเลยพาลูกศิษย์ตัวน้อยไปแนะนำกับหลวงพี่ยรรยงพระบวชใหม่ วันเฉลิมยกมือกราบอย่างนอบน้อมจนหลวงพี่ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น
“หลวงพี่ยรรยงท่านลางานราชการมาบวช ท่านเรียน จบมหาวิทยาลัยแล้วไปเรียนต่อเมืองนอกเชียวนะไอ้วัน”
วันเฉลิมมองหลวงพี่ด้วยความทึ่ง อยากมีอนาคตดีๆ แบบนั้นบ้าง หลวงพี่ยรรยงมองมาด้วยความเมตตาและถามสารทุกข์สุกดิบอย่างเป็นกันเอง วันเฉลิมปลื้มใจมากและนั่งสนทนาธรรมและความรู้ต่างๆเป็นนานสองนาน
ขณะเดียวกันที่ร้านก๋วยเตี๋ยวของลำยง...ลำยองเพิ่งกลับจากบ่อนพร้อมทองหยองเต็มตัวเพราะมือขึ้น ถามหาลูกชายคนโตด้วยความโมโหที่ยังไม่มารับน้องกลับบ้าน แลพยายามปลอบให้ใจเย็นแต่ลำยองไม่ฟัง
“ฉันว่ามันมัวเล่นกับเพื่อนมากกว่า ไอ้ลูกคนนี้... มันน่าตีให้เนื้อแตกนัก”
“จะอะไรนักหนา มันไม่รู้จักเล่นกับเด็กคนอื่นสิวะแปลก ใช้งานมันอย่างกับทาส ลูกตัวเองแต่ให้คนอื่นเลี้ยง”
ลำยองไม่พูดมาก ควักแบงก์ร้อยจากกระเป๋าให้แม่และบอกว่าเป็นค่าเลี้ยงดูอ้อยกับเหน่ง
“ฉันข้ามไปเล่นฝั่งนั้นมา บ่อนหรูหรากว่าฝั่งนี้ตั้งเยอะ วันก่อนฉันริบเงินไอ้วันมาได้ มันบอกพ่อมันให้ไว้” แลอยากจะบ้าตายที่ลูกสาวกล้าทำขนาดนี้ “ทำไมล่ะไหนๆ พ่อมันก็ไม่มีปัญญาหาเงินห้าหมื่นให้ฉันแล้ว ฉันก็ต้อง คอยตอดเอาอย่างนี้แหละ ทีให้ลูกล่ะให้ได้ กับฉันล่ะทำขี้เหนียว”
ลำยงทนฟังต่อไปไม่ไหวเลยแขวะเข้าให้ ลำยองไม่สะทกสะท้านแล้วบอกว่าเป็นวิธีหาเงินที่ดีจะตาย แลพูดไม่ออกและตัดสินใจไม่รับเงินเพราะรับไม่ได้ ลำยองไม่เข้าใจและคะยั้นคะยอให้เก็บไว้แต่แลปฏิเสธท่าเดียว
“กี่ร้อยกี่พันกูก็ไม่เอา มึงมันสิ้นคิด มึงไม่รู้ตัวหรือไงว่ามึงน่ะหมดความเป็นคนลงไปทุกทีแล้วอีลำยอง”
ลำยองหน้าชาเหมือนถูกสาดด้วยน้ำแข็งเลยลุกหนี ไม่พอใจที่ถูกด่าทั้งๆที่หาเงินมาให้ แลแทบกลั้นใจตาย ต่างจากปอซึ่งไม่รู้เรื่องอะไร เห็นเงินวางไว้ไม่มีคนหยิบเลย รีบคว้าหมับ
“มึงไม่เอากูเอาเองอีแล กูจะเอาเงินไปซื้อเป็ดพะโล้ กูเบื่อ...หน้ากูจะเป็นก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว”
ด้านวันเฉลิม...นั่งคุยกับหลวงพี่ยรรยงจนเย็นจึงกลับไปถูพื้นให้หลวงลุงปิ่นที่กุฏิ หลวงพี่ยรรยงมองตามด้วยความเอ็นดูและเปรยเบาๆ “หลานหลวงลุงคนนี้ไม่เลว เลยครับ ถ้าได้เรียนสูงๆรับรองไปได้ไกล อ่านหนังสือคล่องแล้วนี่ครับ เมื่อกี้ผมให้แกเลือกหยิบหนังสือของผมไปอ่าน ไม่แน่ใจหรอกว่าแกอ่านเข้าใจหรือเปล่า แต่อายุแปดขวบได้ขนาดนี้ อย่างกับสิบสอง”
“มันโตกว่าตัว หัวมันดีแต่กรรมเก่ามันเยอะ ไม่รู้ว่ามันจะได้เรียนแค่ไหน สิ่งรอบตัวมีแต่ฉุดรั้งมันเอาไว้”
กว่าวันเฉลิมจะได้ออกจากวัดก็เวลาพลบค่ำ เด็กชายแวะรับน้องและเดินกลับบ้านพร้อมลำยงซึ่งอุ้มเหน่งตามมาด้วย ลำยองกับคนขายผลไม้ดองซึ่งมาเช่าห้องลำยองอยู่ตั้งวงกินเหล้าในห้องโถง ฉลองที่วันนี้มือขึ้น วันเฉลิมอุ้มน้องกลับมาก็ไม่สนใจจนลำยงทนไม่ไหวต้องเหน็บให้
“เออ...ดีนะ ลูกเต้าไม่สนใจ ไม่มีเงินซื้อนมให้ลูกแต่มีปัญญาหาเหล้ามากินได้ทุกวัน”
“กูไปกินบนหัวมึงหรือไงอีลำยง เงินกู...ไม่ได้เอาของมึงสักบาท”
ลำยงอยากกรี๊ดใส่หน้าแต่รู้ว่าไม่มีประโยชน์ ลำยองไม่ยี่หระท่าทางไม่พอใจของน้องและตะโกนสั่งลูกชายให้เอากับแกล้มเหล้ามาเพิ่ม วันเฉลิมรีบไปตามคำสั่ง โดยมีลำยงมองตามปลงๆและกลับออกไปด้วยความขัดใจ
“ทุเรศทุรังลงทุกวัน เคยส่องกระจกดูสารรูปตัวเองบ้างหรือเปล่าวะ”
วันเฉลิมปล่อยให้แม่กินเหล้าข้างนอก ส่วนตัวเองพาน้องไปเลี้ยงในห้อง ดึกดื่นถึงได้ออกมาดูแม่ แต่ต้องตะลึงตาค้างเมื่อเห็นคนขายผลไม้ดองนุ่งผ้าขาวม้าออกจากห้องแม่ เด็กชายโตพอจะรู้ว่าเกิดอะไรในห้องเลยตัดสินใจถอยฉากและกลับเข้าห้องเงียบๆ ในใจคิดปลงสังเวชและ
เป็นห่วงแม่ว่าต้องตกอยู่ในวงเวียนบาปกรรมนี้ไปถึงเมื่อไหร่
ooooooo
วันเวลาผ่านไปหลายเดือน...จากเหตุการณ์คนขายฝรั่งดองออกจากห้องลำยองในคืนนั้น จนบัดนี้สาวขี้เมาก็ตั้งท้องลูกคนที่ห้าได้เกือบเก้าเดือนแล้ว ทุกคนพากันเอือมระอาพฤติกรรมเหลวแหลกแต่ไม่รู้จะตักเตือนยังไงเพราะลำยองไม่ฟังแถมด่ากลับอีกต่างหาก ตามประสาคนที่ไม่เคยคิดว่าตัวเองทำผิด
ช่วงเวลาเดียวกันนั้นเอง...ลำดวนซึ่งหายหน้าหายตาไปเกือบปีกลับมาบ้านด้วยสภาพอิดโรยและเดินแทบไม่ไหว ลำยงกับแลตกใจและรีบพาส่งโรงพยาบาล เมื่อกลับถึงบ้านแลก็ถึงกับพูดไม่ออกเมื่อได้ยินลำยงเล่าเรื่องน้องสาว
“ลำดวนมันติดโรคผู้ชายแม่ มันสารภาพกับฉันหมดแล้ว ที่มันหายหน้าหายตาไปนานเพราะไปทำงานอย่างว่า”
แลช็อกไม่อยากจะเชื่อ ลำยงสังเวชใจและบอกว่าน้องสาวรับแขกวันละหลายคน
“ถึงเวลานี้ ไปตำหนิมันก็เปล่าประโยชน์แล้วล่ะแม่ ฉันว่าฉันเข้าใจมันนะ ใครๆก็อยากรวยอยากสบายทั้งนั้น ในเมื่อศักดิ์ศรีมันกินไม่ได้แล้วจะให้ทำยังไง ถ้าจิตใจไม่เข้มแข็งพอมันก็เดินทางผิดได้อย่างนี้แหละ”
ขณะที่ทุกคนในบ้านลำยองมีสภาพแย่ลงเรื่อยๆ วันเฉลิมกลับได้ข่าวดีเพราะสอบได้ที่หนึ่ง สันต์ภูมิใจในตัวลูกชายมากเพราะเรียนได้ที่หนึ่งมาหลายเทอมแล้ว หลวงลุงปิ่นปลื้มไม่แพ้กันและเตือนสติไม่ให้เหลิง ต้องแข่งกับตัวเองไม่ใช่แข่งกับคนอื่น สันต์ลูบหัวลูกด้วยความรักและบอกว่าจะซื้อของเป็นรางวัลให้
“ถ้าผมขอได้ ผมขอนมผงสำหรับทารกให้น้องอ้อย น้องเหน่งได้ไหมครับ”
สันต์กับหลวงลุงมองหน้ากันปลงๆ จนแล้วจนรอดวันเฉลิมก็ทำเพื่อคนอื่น ไม่เคยคิดทำเพื่อตัวเองเลย
ฝ่ายสินกับปั้นทราบเรื่องลำยองท้องลูกคนที่ห้าก็พลอยอึ้งเพราะไม่คิดว่าสาวขี้เมาจะปล่อยตัวขนาดนี้
“ความยับยั้งชั่งใจไม่มีศักดิ์ศรีไม่ต้องพูดถึง นึกอยากจะนอนกับใครก็นอน มันยังเป็นคนหรือเปล่าไม่รู้นะแม่ปั้น”
“แต่ก่อนมันรังเกียจอาชีพพ่อมันอย่างกับอะไรดีนะตาสิน”
“ออกมาเป็นโขยง ปีละคน สุดท้ายก็ไม่พ้นไอ้วันต้องเลี้ยง เวรกรรมอะไรของมันไม่รู้นะแม่ปั้น”
แลกับทุกคนในบ้านก็เครียดเรื่องลำยองตั้งท้องลูกคนที่ห้าไม่ต่างกันเลยเพราะเดาอนาคตได้เลยว่าภาระต้องตกเป็นของวันเฉลิมแน่ แลเจ็บใจเพราะน่าจะให้หมอจับลูกสาวคนโตทำหมันให้รู้แล้วรู้รอดหลังคลอดเหน่งแต่ไม่ทันคิด
“วัดไหนมีน้ำมนต์ดีๆบ้างวะ กูจะขอมาอาบล้างซวย กูจะตัดหางปล่อยวัดอีลำยองแล้ว มันจะเป็นไงก็ช่าง”
“แล้วไอ้ตัวเล็กตัวน้อยที่นอนเรียงแถวกันนั่นล่ะ เวรกรรมไม่ได้เกิดขึ้นเองหรอกนะแม่ เกิดจากเราทำกันทั้งนั้น”
“กูเองใช่ไหมอีลำยง กูเป็นคนสอนให้มันกินเหล้าและยาดอง มันถึงได้กลายเป็นอีขี้เมาอย่างนี้”
“อย่าโทษตัวเองเลยแม่ ยังไงมันก็แก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว ลูกมันออกมาค่อยว่ากัน”
ฟากลำยองไม่สำนึกกับเรื่องที่ตัวเองก่อแถมหาเรื่องระรานผัวคนขายผลไม้ดองอีกต่างหาก
“ค่าห้องมึงก็ไม่เคยจ่าย ค่าเลี้ยงดูมึงก็ไม่เคยคิดจะให้กูบ้างเลย”
“แล้วใครใช้ให้มึงมาเอากูเป็นผัวล่ะ”
ขาดคำสองผัวเมียก็ตบตีกันไม่ยั้ง เสียงเอะอะโวยวายจนวันเฉลิมต้องออกมาห้าม ปานแวะมาพอดีเลยเข้าไปช่วยรุมสะกำผัวพี่สาว สุดท้ายลำยองเลยมีสภาพสะบักสะบอมนอนซมในห้องและกอดขวดเหล้าแน่น วันเฉลิมดูแลแม่ให้เข้านอนและกลับไปที่ห้องตัวเองเงียบๆ แต่ไม่วายต้องสะดุ้งตื่นตอนเช้าเมื่อได้ยินเสียงแม่แหกปากลั่นบ้าน
“มันเอาของกูไปหมดแล้ว โทรภาพกูมันก็ขโมยไป ทองของกู อุตส่าห์เก็บไว้ให้มึงมันก็เอาไปด้วย ไอ้สารเลว”
ลำยองคลั่ง วันเฉลิมต้องรั้งไว้ “ช่างมันเถอะครับแม่ ไม่เป็นไรหรอกครับ”
ลำยองยิ่งดิ้นด้วยความแค้นใจ วันเฉลิมสงสารและกอดแม่แน่นเข้า ไม่อยากให้อาละวาดมากกว่านี้
กว่าจะกล่อมแม่ให้สงบสติอารมณ์วันเฉลิมก็แทบหมดแรง เด็กชายตัดสินใจไปหาหลวงลุงปิ่นที่วัดเลยเจอกับสินที่นั่นด้วย สินเห็นใจลำยองแต่คิดว่าคงทำอะไรไม่ได้แล้ว เช่นเดียวกับหลวงลุงที่สอนให้วันเฉลิมเข้าใจสัจธรรมชีวิต
“สมบัตินอกกาย ไม่ตายก็หาใหม่ได้ แต่แม่เอ็งสิ เจ็บกี่ครั้งก็ไม่เคยจำ บทเรียนน่ะเขามีให้จำ ไม่ใช่ให้ซ้ำเดิม”
วันเฉลิมยังก้มหน้านิ่ง หลวงลุงเลยถามว่าถ้าลำยองได้ของและทองกลับมาจะดีใจไหม
“ต่อให้แม่ได้ทองคืนมา แต่แม่ไม่เลิกกินเหล้าเล่นการพนัน ผมไม่เอาหรอก”
หลวงลุงกับสินมองหน้ากันปลงๆ ขนาดเด็กยังเข้าใจปัญหาแต่ทำไมลำยองกลับคิดไม่ได้สักที!
ooooooo
ลำยองไปบ่นกับแม่ที่บ้านสายวันเดียวกัน แค้นใจไม่หายที่ถูกผัวคนล่าสุดปล้นบ้านจนไม่เหลือสมบัติสักอย่าง แลนั่งฟังด้วยความสมเพชเวทนา พยายามกล่อมให้ลูกสาวคนโตใจเย็นแต่ไม่ได้ผลเช่นเคย
“อีลำยอง...ผัวมึงคนนี้ชื่ออะไรมึงยังไม่รู้เลย แล้วมึงจะเอาปัญญาที่ไหนไปหาตัวมันเจอได้”
ลำยองกระฟัดกระเฟียด ทั้งเจ็บใจและหงุดหงิดเพราะอยากเหล้า แต่แลไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่เตือนสติลูก
“ทำใจซะเถอะมึง ลูกตั้งโขยง อีกไม่นานไอ้ที่อยู่ในท้องก็จะตามออกมาอีก มึงไม่สงสารลูกบ้างเลยหรือไง วันๆมันจะเอาอะไรกิน หัดทำมาหากินอย่างคนอื่นเขาบ้างสิโว้ย”
แลยกข้าวกับน้ำไปให้ลำดวนซึ่งยังนอนซมบนเตียง ปากก็บ่นไปเรื่อยเพราะอยากให้ลำยองกลับตัว
“เลิกเหล้าเข้าบ่อนได้ ทำไมเงินจะไม่เหลือเก็บ เกิดเป็นคนมันต้องคิดให้ได้ มันต้องรู้จักมีน้ำอดน้ำทน มึงเอาแต่ตามใจตัวอย่างนี้มีแต่บรรลัย ถ้าลูกโตแล้วมันถามว่าใครเป็นพ่อ มึงจะบอกมันว่ายังไงมึงคิดบ้างไหม”
จบคำจึงหันมาหาลูกแต่พบแต่ความว่างเปล่า... ลำยองขี้เกียจฟังแม่บ่นและเดินหายไปแล้ว!
เรื่องลำยองถูกผัวยกเค้าบ้านดังกระฉ่อนไปทั่วตลาดในเวลาไม่นาน สมาชิกบ้านสันต์ได้ยินแล้ว ต้องถอนหายใจยาวด้วยความสมเพช หวังลึกๆว่าลำยองจะคิดได้สักทีว่าควรทำตัวให้เป็นผู้เป็นคนกว่านี้
“เรื่องแย่ๆของตัวเองมักมองไม่เห็น ส่องกระจกทุกวันก็เปล่าประโยชน์ เพราะมันเห็นแต่เนื้อหนังมังสาข้างนอก”
สินส่ายหน้าปลงๆ ปั้นถอนใจโล่งอกที่อย่างน้อยก็ไม่ได้เกี่ยวดองอะไรกับลำยองแล้ว แต่สันต์กลับไม่เห็นด้วย
“ไม่หรอกครับ ยังไงมันก็เป็นบาปติดค้างในใจผม เพราะเจ้าวันเหมือนคนรับกรรมทั้งหมดไว้อยู่ดี”
สันต์เป็นห่วงลูกมากเลยแวะเอาเงินไปให้ที่วัด แต่วันเฉลิมไม่ยอมรับเพราะเกรงใจพ่อและอ้างว่ายังมีเหลือ
“เหลือก็เก็บออมสินสิลูก อันนี้พ่อให้ไว้ใหม่ วันจะแบ่งไปซื้อนมซื้อขนมให้น้องพ่อก็ไม่ว่าหรอก” วันเฉลิมถึงเปลี่ยนใจรับเงินไว้ สันต์ลูบหัวลูกด้วยความสงสาร “อาเทวีเขาไม่ค่อยสบาย ช่วงนี้พ่อคงไม่ค่อยได้มาหาวันบ่อยๆ ขาดเหลือยังไงวันไปหาปู่กับย่านะลูก พ่อจะฝากเงินไว้ที่นั่น เข้าใจไหมลูก”
วันเฉลิมรับคำและขอตัวกลับบ้าน หลวงลุงปิ่นมองตามด้วยความสงสารและเปรยกับสันต์เบาๆ
“ไอ้นี่มันปากหนัก เอ็งเชื่อข้าสิสันต์ ต่อให้ลำบากยังไงมันก็ไม่ไปหาปู่ย่ามันหรอก”
ooooooo
วันเฉลิมกลับถึงบ้านตอนเย็น เห็นแม่นอนซึมอยู่กับอ้อยและเหน่งเลยซักถามด้วยความเป็นห่วง ยิ่งได้ยินแม่บอกว่าไม่สบายเลยยิ่งเป็นกังวล วันเฉลิมไม่คิดอะไรมากและยื่นเงินที่สันต์เพิ่งให้มาตรงหน้าแม่ลำยองมีแรงขึ้นมาทันทีและถามว่าเอามาจากไหน วันเฉลิม ดูแลน้องและบอกโดยไม่มองหน้าว่าสันต์ให้มา
ลำยองดีใจจะมีเงินไปซื้อเหล้าและเข้าบ่อน แต่ไม่อยากให้ลูกแตกตื่นเลยหลอกให้ทำกับข้าวอยู่บ้าน ส่วนตัวเองจะไปซื้อยาเพราะรู้สึกไม่ค่อยสบาย แต่จน แล้วจนรอดลำยองก็ไม่ได้กลับบ้านเพราะมัวไปสำเริงสำราญที่บ่อนจนเช้าและแวะไปหาแลกับลำยงที่ร้านก๋วยเตี๋ยวในสภาพหิวโซ
“นี่มึงไปกินนอนในบ่อนอีกแล้วใช่ไหม กูเห็นมึงจ๋อยได้แค่วันเดียว” แลอดด่าไม่ได้
“เกิดเป็นคนมันต้องสู้สิแม่ แม่สอนฉันเอง สู้อย่างอดทน สักวันโชคต้องเข้าข้างบ้างแหละ”
“มึงมันทั้งโง่และบ้า กูไม่คุยกับมึงแล้ว”
แลหันไปวุ่นวายกับการขายก๋วยเตี๋ยวทิ้งลำยองให้นั่งคนเดียว ลำยงเห็นสภาพพี่สาวแล้วอดถามไม่ได้
“ไหนว่าเพิ่งถูกปล้นทองหมดเนื้อหมดตัว แล้วพี่เอาเงินที่ไหนเข้าบ่อน...อย่าบอกนะว่าเงินที่พี่สันต์ให้ไอ้วัน”
“เงินไอ้วันก็เหมือนเงินกูนั่นแหละ”
“พี่ทำได้ยังไงเนี่ย เป็นแม่ประสาอะไร เขาให้ไว้เป็นค่ากับข้าว ค่านมนังอ้อยกับไอ้เหน่ง”
“กูเอาไปต่อทุน จะได้ซื้อทองมาคืนมัน”
“เหม็นน้ำลายเปล่าๆ อย่ามาอ้างเลย คนอย่างพี่ทำอะไรเพื่อคนอื่นเป็นด้วยหรือ”
ลำยองสะบัดหน้ากลับบ้านและพาลลงกับวันเฉลิมด้วยความโมโห แถมคาดคั้นเรื่องเงินจากสันต์ วันเฉลิมน้ำตาคลอแล้วบอกว่าไปเอากับปู่และย่าได้เพราะพ่อฝากเงินไว้ให้ที่นั่น แต่เด็กชายไม่อยากไปถ้าไม่ลำบากจริงๆ
“ไม่มีจะกินขนาดนี้ ยังไม่ลำบากหรือไงวะ มึงไปหาปู่ย่ามึง บอกว่าต้องซื้อหนังสือ จ่ายค่าเทอมหรืออะไรก็ได้” วันเฉลิมพูดไม่ออก ลำยองเลยตวาดซ้ำ “ถ้ามึงไม่ได้เงิน มึงไม่ต้องกลับมาให้กูเห็นหน้าเลยไอ้วัน!”
วันเฉลิมไม่มีทางเลือกเลยต้องไปยืนจดๆจ้องๆหน้าร้านปู่กับย่า สินกับปั้นแปลกใจไม่น้อยเพราะร้อยวันพันปีหลานชายแทบจะไม่เคยมาหาเพราะกลัวลำยองทำโทษ วันเฉลิมตัดสินใจไม่ขอเงินตรงๆเหมือนที่แม่สั่งแต่ขอทำงานบ้านแทน ปั้นกับสินมองหน้ากันงง สังหรณ์ว่าต้องมีบางอย่างผิดปกติ
“เอ็งไม่ต้องทำอะไรทั้งนั้นไอ้วัน มานั่งนี่...มาคุยกับปู่หน่อยสิ แม่เอ็งบังคับให้มาขอเงินใช่ไหม”
วันเฉลิมอ้อมๆแอ้มๆ ไม่อยากบอกเพราะกระดากปาก ปั้นเลยถามว่าทำไมไม่ขอตรงๆ
“ผมไม่กล้าครับ หลวงลุงสอนว่าเงินทองหายาก อยากได้ต้องทำงาน ไม่มีใครอยู่เฉยๆแล้วได้เงินหรอกครับ”
สินส่ายหน้าเซ็งๆ รู้คำตอบทันทีว่าหลานมาทำงานแลกเงิน วันเฉลิมก้มหน้านิ่ง
“เอ็งบอกปู่ว่าเอ็งจะเอาเงินไปซื้อหนังสือปู่ก็ให้เอ็งแล้วไอ้วัน”
“การโกหกเป็นสิ่งไม่ดีครับ ผมไม่กล้าโกหกปู่ครับ”
ปั้นกับสินพูดไม่ออกและตัดสินใจให้หลานไปร้อยบาท คิดในแง่ดีว่าเป็นค่ากินอยู่ของหลาน ส่วนลำยองนั่งรอลูกที่บ้านด้วยความหงุดหงิดเพราะอยากเหล้าเต็มแก่ เมื่อวันเฉลิมกลับมาเลยถลาไปฟาดไม่ยั้งเพราะคิดว่าลูกคงไม่ได้ขอ
“กูนึกแล้วไม่มีผิดว่ามึงต้องไม่ได้มาสักบาท ทำไมมึงไม่รู้จักบีบน้ำตาให้ปู่กับย่ามึงสงสาร”
“แม่ครับ...วันโกหกผู้ใหญ่ไม่ได้หรอกครับ ทำไมเราพูดความจริงไม่ได้ล่ะครับแม่”
“มันเกลียดกู มันคอยแต่จะสมน้ำหน้ากู”
“ปู่กับย่าไม่ได้คิดอย่างนั้นหรอกครับ”
“ไปเจอมันเดี๋ยวเดียว มันหลอกให้มึงมาด่ากู มึงมันลูกอกตัญญู กูเลี้ยงมึงมา มึงไม่เคยนึกถึงหัวอกกูเลย”
ลำยองฟาดลูกจนหมดแรงล้มตัวลงนั่ง วันเฉลิมน้ำตาไหลพรากแต่ไม่วายคลานเอาเงินไปให้แม่ ลำยองไม่ทันมองและเงื้อมือจะตีลูกซ้ำแต่ต้องชะงักเมื่อเห็นเงิน สาวขี้เมาไม่สำนึกและดึงเงินจากมือลูกทันที
“สมน้ำหน้า ปากหนักก็เจ็บตัวฟรี จำไว้นะไอ้วัน สมัยนี้ต้องโกหกตอแหลถึงจะเจริญ ซื่อบื้ออย่างมึง...อดตาย!”
ooooooo
ขณะที่วันเฉลิมร้องไห้ด้วยความเสียใจที่แม่ไม่เคยเห็นความดี สินกับปั้นกลุ้มใจไม่น้อยเพราะคิดว่าเรื่องวันเฉลิมมาทำงานแลกเงินคงไม่จบแค่ครั้งเดียวแน่ ถึงจะสงสารยังไงแต่ก็ไม่อยากให้เงินลำยองง่ายๆ
“อย่าคิดมากเลย ไอ้ร้อยบาทนั่นน่ะ คิดซะว่าเป็นรางวัลไอ้วันที่ไม่โกหก หัวใจมันสะอาดใสแท้ๆแม่ปั้น”
“ได้ไปครั้งหนึ่ง มันคงได้ใจ เดี๋ยวก็ส่งลูกมาขออีก”
“เอาเถอะแม่ปั้น ไอ้วันมันมาขอเราดีกว่ามันไปขอคนอื่นไม่ใช่หรือ”
“นึกถึงหน้าแม่มันฉันก็อดเจ็บใจไม่ได้ เงินให้มันไปจะเป็นค่ากับข้าวสักกี่บาท ไม่พ้นเอาไปละลายในบ่อนหมด”
ฟากลำดวนทนรับสภาพตัวเองไม่ไหว แม้จะอาการดีขึ้นเรื่อยๆแต่กลัวเสียงคนนินทาเพราะเป็นโรคจากการเป็นผู้หญิงหากิน สุดท้ายเลยตัดสินใจหนีออกจากบ้านแเต่ทุกคนตื่นมาเห็นเสียก่อน
“เอ็งพูดอะไรอย่างนั้นวะ ใครๆมันก็เจ็บป่วยกันได้ทั้งนั้นแหละ เอ็งก็ดีขึ้นเยอะแล้ว อีกไม่นานก็หาย”
“แต่ฉันอาย ใครๆก็รู้กันหมดว่าฉันไปทำอะไรถึงได้เป็นอย่างนี้ ฉันทนสู้หน้าใครไม่ไหวพี่ลำยง ปล่อยฉันไปตามทางเถอะ พี่กับแม่จะได้ไม่ต้องอายหรือเป็นขี้ปากใครต่อใคร”
“กูไม่ปล่อยให้มึงไปหรอกอีลำดวน ใครมันจะว่ายังไงมึงก็ลูกกู”
ลำดวนน้ำตาร่วงกอดแม่แน่นด้วยความซาบซึ้งใจ ลำยงเห็นใจน้องแต่อยากให้ยอมรับความจริงแล้วเดินหน้า
“เกิดมาไม่มีใครไม่เคยพลาดหรอกลำดวน พี่กับแม่ไม่อายแล้วเอ็งจะกลัวอะไร แค่อย่าผิดซ้ำก็พอ”
ชดมองเหตุการณ์ตรงหน้าปลงๆแล้วช่วยเมียกล่อม “อยู่ที่นี่แหละลำดวน ช่วยกันทำมาหากิน ไม่ต้องร่ำรวยเป็นเศรษฐีเราก็มีความสุขได้ เพราะเราอยู่อย่างมีศักดิ์ศรีไง”
ลำดวนซาบซึ้งใจมากและกอดแม่กับพี่สาวด้วยความซาบซึ้งใจ มีเพียงปอซึ่งหลงๆลืมๆเพราะผลข้างเคียงจากอาการติดเหล้ามองสามแม่ลูกด้วยความมึนงง...มันจะกอดอะไรกันวะ ว่าแต่อีแล...อีลำดวนมันลูกใคร!
ขณะที่ทุกคนในบ้านมีกำลังที่จะมีชีวิตอยู่มากขึ้น ลำยองอารมณ์ดีไม่แพ้กันเพราะมือขึ้น เล่นได้เงินกับทองคืนมาตั้งมากมาย ลำยงกับแลมองหน้ากันแล้วถามว่าไปเอามาจากไหน
“มันต้องมีได้บ้างล่ะแม่ ใช่จะเสียอย่างเดียว ฉันบอกแม่แล้วไงว่ายังไงฉันก็ต้องหาทองมาคืนไอ้วันให้ได้”
ลำยงอดแขวะไม่ได้ “มันจะอยู่บนคอกับแขนพี่ได้สักกี่วัน ฉันจะคอยดู เผลอๆไม่ทันข้ามวันหรอก”
“มึงอิจฉากูหรือไงอีลำยง มึงน่ะขายขนมขายก๋วยเตี๋ยวมากี่ปี ทองสักสลึงมึงยังไม่มีปัญญาหามาใส่เลย”
“ถ้ามีทองใส่แล้วทำให้ใครๆเดือดร้อน อย่ามีมันดีกว่า ทองน่ะมันวัดคุณค่าความเป็นคนไม่ได้หรอก”
ลำยองของขึ้นและทำท่าจะตบกับน้องสาว แต่ลำยงไม่ยี่หระและก้มหน้าก้มตาทำงาน ลำยองทำอะไรไม่ได้เลยพาลไปลงกับวันเฉลิมซึ่งไปทำการบ้านที่วัดและไม่ได้มารับน้องกลับบ้าน สาวขี้เมาไปตามลูกชายถึงกุฏิ หลวงลุงไม่อยากเชื่อสายตาเพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นโผล่หน้ามาให้เห็น ลำยองไม่สนใจและตั้งหน้าตั้งตาด่าลูกท่าเดียว
“มึงจะขยันเรียนให้ได้อะไรขึ้นมา จบปอสี่มึงก็ต้องไปทำงานโรงงานแล้ว” หลวงลุงเลยเอ็ดว่าคิดอะไรสั้นๆ แต่ลำยองไม่สนโต้กลับ “หนูไม่ได้เป็นพวกหนีโลกอย่างหลวงลุงนี่ ยังต้องทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง น้องมันตั้งหลายคน”
“แล้วเอ็งไม่คิดเหรอว่ามันยุติธรรมกับไอ้วันหรือเปล่า”
“ยุติธรรมอะไร มันเป็นพี่คนโตก็ต้องดูแลน้องและตอบแทนบุญคุณน้ำนมแม่ที่เลี้ยงมันมา” หลวงลุงเถียงไม่ทัน ได้แต่ถอนใจเหนื่อยหน่ายว่าคนอย่างลำยองคงฉุดขึ้นมาเหนือน้ำยากเต็มที “หลวงลุงสบายแล้วนี่ ข้าวปลาก็มีคนหามาให้กินฟรีๆ บ้านช่องก็ไม่ต้องเสียค่าเช่าแล้วยังจะเอาไอ้วันมาเป็นคนใช้กวาดถูอีก ไม่เอา เปรียบกันหรือไง”
หลวงลุงปิ่นอยากจะบ้าตาย วันเฉลิมเห็นท่าไม่ดีเลยรีบเก็บหนังสือลงกระเป๋าและก้มกราบลาหลวงลุง ลำยองสะบัดหน้าเดินนำไปแล้ว วันเฉลิมวิ่งตามต้อยๆ ทิ้งหลวงลุงเลยให้มองตามปลงๆ
“วันเอ๊ย...แม่เอ็งนี่มันอยู่ลึกยิ่งกว่าใต้ตมเสียอีก”
ooooooo
หลังเดินสะบัดออกจากวัด ลำยองลากลูกไปหาสินกับปั้นที่ร้านเพราะอยากได้เงิน มั่นใจว่าปู่กับย่ารักหลานมากพอจะจ่ายเงินให้เหมือนครั้งก่อน “รักไม่ใช่หรือไอ้หลานคนนี้ กูเอามาส่งแล้วไง แต่ไม่ให้ ฟรีนะ ชั่วโมงละร้อยเท่านั้น”
สินกับปั้นตัดใจให้เงินเพราะสงสารและอยากอยู่กับหลาน ลำยองหน้าบานรับเงินมาแล้วไปซื้อเหล้ากิน เมื่อแลรู้วีรกรรมลำยองที่หาเงินด้วยการให้เช่าลูกชายก็ลมแทบจับ แต่ลำยองไม่สำนึกแถมบอกว่าเป็นวิธีที่ดีและง่ายที่สุด!
ฝ่ายสันต์กลับมาบ้านในวันถัดมาจึงแวะมาหาลูกชายด้วยความคิดถึง ลำยองออกมารับหน้าและเริ่มหาเงินกับผัวเก่า สันต์อยากจะบ้าตายกับความคิดอดีตเมีย ไม่รู้เธอเห็นลูกเป็นอะไรถึงได้คิดวิธีหาเงินแบบนี้ได้
“เป็นอะไร...ก็ตัวเงินตัวทองน่ะสิ ฉันเบ่งมันออกมาเจ็บปางตาย มันต้องตอบแทนพระคุณแม่สิ” สันต์กุมขมับและย้อนกลับเคืองๆว่าคิดได้ยังไง “โอ๊ย...แบเบาะเขาก็อุ้มมาขอทานกันแล้ว ถามมันก็ได้ว่าฉันบังคับมันหรือเปล่า มันสมัครใจของมันเอง ไอ้ลูกคนนี้มันรักดี มันรักแม่รักน้อง มันสงสารแม่เพราะมันรู้ว่าพ่อทิ้งแม่ไปมีผู้หญิงใหม่”
สันต์ข่มความโกรธสุดกำลัง ลำยองยิ้มเยาะและตะโกนเรียกลูกชายให้ออกไปกับผัวเก่าแลกกับเงิน
ร้อยบาท สันต์กัดฟันจ่ายเงินเพราะอยากอยู่กับลูก วันเฉลิมเดินตามพ่อต้อยๆ แต่ในใจเป็นห่วงแม่ไม่อยากให้ทำบาป...
เช้าวันถัดมา...วันเฉลิมตื่นไปโรงเรียนและอุ้มอ้อยกับเหน่งไปฝากลำยงที่ร้าน น้าสาวกำลังยุ่งและกลัวดูอ้อยไม่ไหวเพราะซนเหมือนลิงเลยไหว้วานหลานให้ไปฝากปอที่บ้านแทน วันเฉลิมรีบอุ้มน้องไปหาตาและบอกว่าจะมาป้อนข้าวตอนพักกลางวัน ปอเห็นหลานสาวก็นึกสนุกชวนเล่นโน่นนี่ราวกับเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน
ฝั่งลำยอง...ตื่นมาก็ตรงไปที่บ่อน แต่ดวงไม่ดีจึงจะกลับบ้าน หญิงเจ้าของบ่อนเห็นเข้าเลยมาขวางไว้
“โถๆ จะรีบกลับมาทำไมคะลูก ชีวิตน่ะมีทางออกเสมอล่ะค่ะลูกขา ปัญหาน่ะเรื่องเล็ก”
ลำยองจำใจถอดสร้อยทองไปจำนำ ได้เงินมาพันกว่าบาทเพื่อต่อทุน สาวขี้เมาทำท่าจะไปได้ดีเพราะมือชักขึ้น แต่แล้ววงไพ่ก็แตกกระเจิงเพราะหญิงเจ้าของบ่อนโผล่มาพร้อมชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่
“อีลำยอง...มึงคิดว่าคนอื่นเขาโง่หรือไง หน็อย...เอาทองเก๊มาตึ๊งกู คิดว่าจะตบตากูได้หรือไง” ลำยองหน้าซีดไม่รู้เรื่อง แถมถูกชายฉกรรจ์คนคุมบ่อนฉุดกระชากล็อกตัวไปหาหญิงเจ้าของบ่อนซึ่งปาทองใส่หน้าลำยองเต็มแรง “มึงรู้ไหมว่าผัวกูเป็นใคร ถ้ากูไม่แน่จริงกูเปิดบ่อนนี้ไม่ได้หรอกโว้ย ถ้ามึงไม่เอาเงินมาคืนกู มึงก็เตรียมไปนอนในคุกละกัน!”
ooooooo










