ตอนที่ 9
ไม้มาแอบดูแอบฟังที่หน้าต่าง ย่าขวัญนั่งกับพื้น อลงกรณ์กับโอมก็นั่งพื้นด้วย อลงกรณ์เอ่ยขึ้นว่า
“ความ จริงผมอยากมาพบกับคุณย่าตั้งนานแล้ว แต่หทัยเขาไม่ยอมให้มา เขาบอกว่ามีธุระอะไรเขาจัดการเอง” โอมที่นั่งติดกับอลงกรณ์ก็เอ่ยขึ้นอย่างอ่อนน้อมว่า
“ผมว่าผมเคยเห็นคุณย่าหลายครั้งแล้ว แต่เพราะไม่รู้จักเลยไม่ได้ไหว้คุณย่า”
“โอย...ฉันก็ไม่ใช่คนสลักสำคัญอะไรที่ต้องมานบมาไหว้หรอก”
อลงกรณ์หันไปสอนโอมและแอบยอย่าในทีว่า “เห็นไหมโอม ผู้เฒ่าผู้แก่บ้านเรามักจะถ่อมตัวแบบนี้แหละ น่าเคารพนับถือจริงๆ”
“ยัง ไงผมก็ขอฝากเนื้อฝากตัวกับคุณย่าไว้ด้วยนะครับ นึกว่าผมเป็นเหมือนหลานคุณย่าอีกคนนึง” โอมฝาก เนื้อฝากตัว อลงกรณ์ได้จังหวะยัดเยียดโอมให้เกี่ยวดองกับย่าขวัญว่า
“โอมมันก็ลูกของหทัย ที่เคยเป็นลูกสะใภ้ของคุณย่า”
“คนแก่อย่างฉัน ก็เห็นทุกคนเป็นลูกเป็นหลานทั้งนั้นแหละ” ย่าพูดอย่างมีเมตตา อลงกรณ์ได้จังหวะเร่งโอมว่า
“คุณย่ายอมรับแล้ว กราบคุณย่าซะซิลูก”
“ขอบพระคุณมากครับคุณย่า” โอมคลานเข้าไปกราบตรงหน้าย่าขวัญ ย่าอึ้งไปแต่ก็รับไหว้
ไม้แอบดูแอบฟังอยู่ เขาไม่พอใจกับการกระทำของสองพ่อลูก พึมพำเบาๆ
“มันจะมาไม้ไหนของมัน?!”
ooooooo
เช้าวันต่อมา เป็ดปุ๊กขับรถออกไปทำงาน เชียรเปิดประตูให้รถออกไปจนพ้นแล้ว ก็รีบปิดประตูล็อกกุญแจออกจากบ้านไปทันที
พิกุลไม่สบายใจเรื่องแก้วเมื่อคืนนี้ เช้านี้จึงมาดักพบเป็ดปุ๊ก เล่าให้ฟังว่าแก้วอาจจะเลิกกับโอม เตือนว่า แก้วเลิกกับโอมก็เพื่อหันมาจับไม้ เป็ดปุ๊กถามว่าแล้วไม้ว่ายังไง
“อันนี้พิกุลก็ไม่รู้ค่ะ รู้แต่ว่าต้องรีบบอกให้คุณเป็ดปุ๊กรู้ จะได้ปรับความเข้าใจกับคุณไม้ ไม่งั้นเสร็จคุณแก้วแน่ๆ” เป็ดปุ๊กบอกว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตน ไม้จะเสร็จใครก็เรื่องของเขา “โธ่...คุณเป็ด พิกุลพูดจริงๆนะคะ หนุ่มเจ้าสำราญอย่างคุณโอม เขายังเอาอยู่ คนซื่อๆอย่างคุณไม้จะไปเหลือเหรอคะ”
เป็ดปุ๊กเล่าสิ่งที่ได้เห็นเมื่อคืนให้พิกุลฟังว่าทั้งคู่กินข้าวกันกะหนุงกะหนิง ท่าทางมีความสุขมากเลย บอกพิกุลว่าไม่ต้องห่วงไม้หรอก เขาไม่ใช่เด็กๆแล้ว พูดแล้วขอตัวไปทำงานเพราะขืนช้ารถจะติดมาก
ต่อหน้าพิกุล เป็ดปุ๊กพูดอย่างไม่แคร์ แต่พอขับรถออกมา สีหน้าเธอก็เปลี่ยนไป รู้สึกไม่สบายใจไม่น้อยเหมือนกัน
เมื่อไปถึงห้องทำงาน เป็ดปุ๊กก็ต้องเจอกับแก้วที่มาเสนอจะคืนตำแหน่งให้ อ้างว่าเพราะตัวเองความสามารถไม่พอ ทำงานผิดพลาดบ่อยจนถูกพิมพาตำหนิประจำ เป็ดปุ๊กติงว่าอยู่ดีๆพิมพาจะคืนตำแหน่งให้ตนได้ยังไง
“แก้วจะบอกว่าเป็นความเข้าใจผิด แก้วจัดการได้” แก้วพูดอย่างมั่นใจและอยากคืนตำแหน่งให้มาก แต่พอจะผละไปก็หันมาถามว่า “เออ...มีอีกเรื่องนึง เป็ดกับคุณไม้เลิกกันแล้วใช่ไหม”
“ทำไมต้องเลิก เราไม่เคยมีอะไรกัน” แก้วถามอย่างตื่นเต้นว่าเป็ดไม่เคยคบไม่เคยเป็นแฟนกันหรือ? “ใช่...เขาแค่เป็นคนสวนในหมู่บ้าน”
“งั้นก็โล่งใจไปที คือแก้วกับโอมคงไปกันไม่รอด แล้วแก้วก็เห็นว่า ไม้เป็นผู้ชายที่น่าสนใจ ถ้าเป็ดกับไม้ไม่ได้มีอะไรกัน แก้วก็จะได้สบายใจที่คบหากับไม้เขา”
“ตามสบาย” เป็ดปุ๊กตอบเรียบๆแล้วเดินไปนั่งโต๊ะทำงาน พยายามที่จะไม่ให้ตัวเองสับสนว้าวุ่นใจ ส่วนแก้วเดินตัวปลิวกลับไปนั่งที่โต๊ะอย่างเบิกบานใจมาก
ooooooo
ฝ่ายเชียร พอใส่กุญแจประตูรั้วแล้วก็ไปหานภ พากันเดินไปหาย่าขวัญที่บ้าน ระหว่างเดินไปในสวนที่ไกลพอสมควร เชียรถามนภว่า ย่าขวัญอยู่คนเดียวหรือ
“ย่าอยู่กับแตนครับ น้องสาวพี่ไม้ แต่ไม่ใช่น้องแท้ๆหรอกครับ พ่อแม่เขาเอามาฝากให้ย่าเลี้ยงตั้งแต่เล็กๆบอกจะไปทำงานต่างจังหวัด แล้วก็หายไปเลย”
เชียรเปรยๆว่าคงเหมือนกับไม้ นภบอกว่าไม้แย่กว่า เพราะแตนไม่ได้เจอพ่อแม่เลย ส่วนไม้ยังเห็นกันอยู่แต่เข้าไปหาไม่ได้ กอดเขาไม่ได้ เชียรเห็นด้วยถามว่าแล้วตัวนภล่ะ
“ผมโชคดีกว่าพี่ไม้กับแตนเยอะครับ พ่อแม่ผมยังอยู่ เดือนนึงจะได้เจอกันที ถ้าคิดถึงก็โทร.คุยกันได้”
“ยังไงก็ไม่เหมือนได้อยู่พร้อมหน้ากันหรอก”
พอดีเดินมาถึงบ้านย่าขวัญ เจ้าเอ๋งออกมาต้อนรับ นภส่งเสียงบอกย่า
“คุณย่าครับ อยู่ไหมครับ” ย่าร้องถามมาว่าใครน่ะ “ผมเองครับ นภครับ ลุงเชียรอยากจะคุยกับย่าครับ”
นภร้องบอกก็พอดีเข้าไปเจอกัน เชียรยกมือไหว้ ย่าขวัญรับไหว้ยิ้มแย้มยินดี
เชียรมาคุยเรื่องไม้กับเป็ดปุ๊ก ย่าบอกว่าพอรู้อยู่ เพราะตั้งแต่วันนั้นยังไม่เคยเห็นไม้หัวเราะอีกเลย เชียรบ่นว่าเป็ดปุ๊กดื้อจริงๆ ตนพยายามอธิบายว่าไม้มีเหตุผลของเขาก็ไม่ยอมฟัง ส่วนย่าขวัญก็บ่นว่าไม้ก็หยิ่งเกินไปที่จะอธิบายความรู้สึกของตัวเองกับคนอื่น
“คนนึงไม่ยอมพูด อีกคนก็ไม่ยอมฟัง ถ้าปล่อยไปแบบนี้หวังเกลียดกันจนตาย ผมเสียดายความสัมพันธ์ดีๆที่เขาเริ่มกันไว้น่ะครับ มีวิธีไหนที่จะแก้ปัญหานี้ไหมครับ”
“ก็ต้องให้เขาได้มีโอกาสใกล้ชิดกัน ได้ช่วยเหลือกัน บ่อยๆเข้าก็กลับมาดีกันเองแหละ”
เชียรก็คิดอย่างนั้น แต่ไม่รู้จะทำอย่างไรให้เป็นจริง ย่าขวัญเสนอให้ทำแบบในละครให้หลอกเป็ดปุ๊กไปที่เปลี่ยวๆแล้วมีโจรมาปล้น ไม้มาเจอช่วยไว้ได้เลยกลายเป็นพระเอกไปเลย เชียรติงว่ามุกนี้มันเชยไป ย่าเสนอมุกใหม่ให้ไม้ชวนเป็ดปุ๊กไปพายเรือเล่นแล้วเรือล่ม ไม้ช่วยขึ้นมาแล้วผายปอด?
“เป็ดนี่เขาเป็นนักกีฬาว่ายน้ำมหาลัยนะครับ เคยว่ายข้ามแม่น้ำมาแล้วด้วย” ย่าขวัญยิ้มเจื่อน เชียรเสนอใหม่ว่าให้หาอะไรง่ายๆ ที่เป็ดทำไม่เก่งแต่ไม้ช่วยได้แล้วหาเวลาดีๆให้สองคนได้อยู่กันตามลำพัง
ย่าเองก็คิดไม่ออก บ่นว่ามัวแต่วางแผนกันเลยทำกับข้าวไม่เสร็จ พอดีวันนี้ว่าจะทำปลาทูต้มเค็มด้วย เชียรปรารภว่าขั้นตอนเยอะเหมือนกัน ฉุกคิดอะไรได้ถามย่าว่าไม้ทำต้มเค็มปลาทูเป็นไหม พอย่าขวัญบอกว่าทำได้ ทำอร่อยด้วย เชียรยิ้มออกบอกว่าเป็ดปุ๊กทำไม่เป็นแน่
“หมายความว่าไง”
“ก็เรื่องแผนของเราไงครับ ผมว่า แผนปลาทูต้มเค็มเนี่ย เด็ดที่สุด” เชียรยิ้มกับย่าอย่างมั่นใจ
ooooooo
เลิกงานแล้ว เป็ดปุ๊กกำลังจะถอยรถออกเพื่อกลับ บ้าน เหลือบเห็นแก้วยืนอยู่ใต้ต้นไม้ เธอลดกระจกลงจะ ทัก แล้วก็ต้องชะงักเมื่อเห็นรถกระบะของ ไม้แล่นเข้า มาแก้วลงจากฟุตปาทไปยืนโบกเรียก
พอรถกระบะของไม้เข้าไปจอดเทียบ แก้วเปิดประตูรถก้าวขึ้นไปนั่งคู่แล้วรถของไม้ก็ขับผ่านรถของเป็ดปุ๊กออกไป ทำให้เธอเห็นแก้วพูดคุยกับไม้อย่างสดชื่นแจ่มใส แม้เธอจะบอกตัวเองว่าไม่ใช่เรื่องของเราแต่ใจก็อดร้อนผ่าวๆ ขึ้นมาไม่ได้
เมื่อแก้วพาไม้ไปถึงคอนโดที่เธออยู่ เธอพูดออกตัวขณะพาไม้เข้าไปว่าไม่ได้หรูหราอะไรแค่พออยู่ได้เพราะตนก็ไม่ใช่ไฮโซมาจากไหน ไม้ถามว่าไม่น่ากลัวใช่ไหม แก้วทำเสียงน่าเห็นใจว่า
“สำหรับผู้หญิงตัวคนเดียว บางทีก็รู้สึกเหมือนกัน ก็ได้แต่หวังว่า สักวันจะมีผู้ชายดีๆ มาอยู่เป็นเพื่อนคอยปกป้อง”
“โอมยังไม่ดีพอเหรอ” ไม้ได้ทีถามจนแก้วอึ้ง แต่พอดีเดินมาถึงหน้าห้อง เธอเปิดประตูชวนเขาเข้าไป
แผนอ่อยไม้เริ่มทันทีที่ก้าวเข้าห้องแล้วเธอจึงปิดไฟ พอหันกลับมาไม้ที่ก้าวตามเข้ามาหยุดกึกหน้ากับหน้าเกือบสัมผัสกัน เธอเดินเข้าไปนั่งไขว่ห้างที่เตียง ทอดสะพานอ่อยไม้ว่า ไม่ต้องรีบร้อนตนมีเวลาให้เขาทั้งคืน บอกเขาให้ไปเอาเบียร์เย็นๆ ในตู้เย็นมาดื่มก่อนก็ได้ ตนขอเวลาไปล้างตัวสักครู่
ไม้บอกว่าตนไม่มีเวลาจะให้จัดสวนตรงไหนบอกมาเลย แต่แก้วพยายามจะให้เขาดื่มอะไรก่อน
“คุณแก้ว ผมมาทำงานนะครับ ถ้ายังไม่อยากทำ ผมจะได้กลับ” ไม้ไร้อารมณ์จนแก้วเริ่มหงุดหงิด พาไปดูในห้องน้ำและที่ระเบียง ไม้ลงมือทำงานทันที “ผมวัดไปก่อน แล้วจะออกแบบมาให้คุณดู”
ระหว่างนั้นแก้วมายืนดูที่หน้าห้องน้ำ ไม้วัดพื้นที่ครู่หนึ่งเขาถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยว่า “คุณจะทิ้งโอมจริงๆ หรือ” แก้วบอกว่า เราไปกันไม่ได้ ไม้ดักคอว่า“ไม่ใช่เพราะคุณเพิ่งรู้ว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าของที่ดินหมู่บ้านเหรอ”
แก้วอึ้งไปนิดหนึ่งจึงบอกว่าไม่เกี่ยวหรอก ไม้วัดพื้นที่และจดเสร็จพอดี หันมาบอกเธอว่า
“ที่จริง โอมกับพ่อเขาก็ไม่ใช่จะไม่มีอะไรเหลือหรอกนะ เพราะเขาไม่คิดหยุดที่จะทำธุรกิจ” พูดแล้วเดินออกไปที่ระเบียงเพื่อวัดพื้นที่และวางแผนผังต่อ แก้วตามออกมาถามว่าที่เขาพูดหมายความว่าอย่างไร ไม้จึงเล่าให้ฟังว่า
เมื่อวานโอมกับพ่อเขาไปหาย่าที่บ้าน เอาผลไม้ไปฝาก ตนเชื่อว่าเขาอยากขอซื้อที่ดินของคุณย่าเพื่อทำหมู่บ้านต่อ แต่เมื่อวานยังไม่เห็นพูดเรื่องนี้ ไม้หยุดทำงานหันเผชิญหน้าพูดอย่างตั้งใจให้เธอฟังว่า
“ถ้าเขาคิดจะซื้อขายอย่างปกติ ผมก็คงจะไม่ห่วงอะไร แต่คนอย่างสองพ่อลูกคู่นี้ไม่เคยทำอะไรตรงไปตรงมา” แก้วบอกว่าก็อย่าให้คุณย่าขาย “ผมกลัวเขาจะคิดไม่ดีกับย่าผม ผมอยากจะรู้ว่าจริงๆแล้วเขามีแผนจะทำอะไร และคุณเป็นคนที่จะช่วยผมได้”
“แก้วน่ะเหรอ” เธอทำตาโต ไม้บอกว่าโอมต้องยอมบอกทุกอย่างเธออยู่แล้ว “แล้ว...ถ้าแก้วยอมช่วยคุณ แก้วจะได้อะไร”
“ทุกอย่างที่คุณต้องการ” ไม้ตอบทันทีอย่างหนักแน่น จนแก้วนิ่งไป ทวนคำเชิงถาม “ทุกอย่าง?” พอไม้พยักหน้า เธอก็พยักหน้ารับทันทีเช่นกัน
ooooooo
กลับถึงบ้านเย็นนี้ ระหว่างนั่งกินข้าวเย็นด้วยกัน เป็ดปุ๊กตัดสินใจเล่าเรื่องแก้วมาขอโทษและจะคืนตำแหน่งงานให้ตน เชียรถามว่าอยู่ดีๆ ทำไมแก้วถึงคิดขึ้นมาได้
“เขาแค่อยากได้อะไรบางอย่างที่คิดว่าเป็นของเป็ดน่ะค่ะ คือเขาคิดว่าเป็ดคบกับไม้ เลยยื่นข้อเสนอให้เป็ดยกไม้ให้เขาแลกกับตำแหน่ง” เชียรตกใจถามว่าลูกยอมเขาหรือ “เป็ดจะมีสิทธิ์อะไรไปห้ามเขาคะ เป็ดไม่ได้มีอะไรกับไม้สักหน่อย เป็ดบอกเขาไปว่า สำหรับเป็ด ไม้เป็นแค่คนสวนของหมู่บ้าน”
“โธ่เอ๊ย...ทำไมไปพูดอย่างนั้น”
“ก็ไม้เป็นแค่นั้นสำหรับเป็ดจริงๆนี่คะ” พูดแล้วยิ้มเศร้าๆ ก้มหน้ากินข้าวต่อ เชียรมองที่จานปลาทูต้มเค็มตัดสินใจพูดว่า
“เป็ดรู้ไหม อาหารจานโปรดที่สุดของพ่อคืออะไร” เธอถามว่าน้ำพริกกะปิรึเปล่า “ไม่ใช่...ปลาทูต้มเค็มต่างหาก ตอนแม่ยังอยู่ทำให้พ่อกินบ่อยๆ แต่พอไม่มีแม่แล้ว พ่อก็ไม่ค่อยได้กิน มันหาซื้อยาก ในตลาดเขาก็ไม่ค่อยทำ เพราะขั้นตอนมันเยอะ”
เป็ดปุ๊กเงยหน้าถามพ่อว่า ตั้งใจจะบอกอะไรหรือ เชียรบอกว่าอยากให้เป็ดทำเป็นจะได้ทำให้พ่อกิน เธอรับปากจะหาสูตรจากอินเตอร์เน็ตก่อนแล้วจะหัดทำให้พ่อกิน
“จะไปหัดทำเองทำไม ในเมื่อเรามีครูที่เก่งมากๆอยู่แล้ว พ่ออยากให้ลูกไปหัดทำกับย่าของไม้ได้ไหมล่ะลูก”
เป็ดปุ๊กมองหน้า พ่อลูกสบตากันนิ่ง เธอเริ่มแน่ใจว่าพ่อไม่ได้มีเจตนาแค่ให้ไปหัดทำปลาทูต้มเค็มแน่ คิดอยู่ครู่หนึ่งจึงตัดสินใจบอกว่า “เอาซีคะ เป็ดก็อยากเรียนทำกับข้าวกับคุณย่าอยู่แล้ว”
เชียรยิ้มโล่งใจที่งานยากชิ้นนี้สำเร็จลงได้ เป็ดปุ๊กรับปากพ่อแล้ว พอหันมองไปทางอื่นดวงตาเธอก็มีแววมาดมั่นมากกว่าการที่จะเรียนทำกับข้าวกับย่าขวัญอย่างเดียว
เช้าวันรุ่งขึ้น เชียรกระวีกระวาดมาเปิดประตูให้เป็ดปุ๊กขับรถไปบ้านย่าขวัญเพื่อเรียนการทำปลาทูต้มเค็ม ก่อนรถจะเคลื่อนออกไป เชียรชะโงกไปกำชับที่หน้าต่างรถว่า
“สัญญากับพ่อนะ ว่าจะไม่ไปก่อเรื่องอะไร” เธอบอกว่าตนไม่ใช่เด็กแล้วไม่ต้องห่วง “แล้วเก็บสูตรมาให้ครบล่ะ”
แต่พอเป็ดปุ๊กขับรถไปไม่ทันที่เชียรจะกลับเข้าบ้าน รถของไก่กุ๊กก็ขับมาจอดหน้าบ้าน แมวเมี้ยวกับนกจิ๊บเปิดประตูรถวิ่งมากอดเชียรต่างบอกว่าคิดถึงปู่ที่สุดเลย
“ปู่ก็คิดถึงแมวเมี้ยวกับนกจิ๊บมากเลยนะลูก แล้วทำไมอยู่ดีๆถึงมาหาปู่ได้ล่ะลูก” ถามหลานแล้วเงยหน้าขึ้นเห็นไก่กุ๊กหน้าเศร้าลงจากรถ
ooooooo
เมื่อเข้ามานั่งที่ห้องรับแขกในบ้านแล้ว ไก่กุ๊กเข้าไปกราบเท้าเชียร
“ไก่ขอโทษนะครับพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ไก่ก็รู้สึกผิดตลอด อยากจะมาขอโทษพ่อแต่ก็ไม่กล้า เพราะมันอายที่ทั้งไก่กับเก็จทำตัวโลภมาก อยากได้ของที่ไม่ใช่ของเรา ตอนนี้เราสองคนรู้แล้วล่ะครับ เราไม่ควรทำอย่างนั้น”
เชียรบอกว่าตนไม่ได้คิดถึงมันแล้วและไม่เคยถือโทษโกรธอะไรลูกด้วย ไก่กุ๊กถามว่าแล้วโกรธเก็จหรือเปล่า
“พ่อไม่โกรธใครทั้งนั้นแหละ แค่ลูกพาหลานมาเยี่ยมพ่อแบบนี้ พ่อก็ดีใจมากแล้ว คิดว่าชาตินี้ทั้งชาติจะไม่ได้เจอกันแล้วเสียอีก” เชียรมองแมวเมี้ยวกับนกจิ๊บที่วิ่งไล่เล่นกับยักษ์เบิ้มอย่างสนุกสนานอยู่หน้าบ้านก็ยิ้มอย่างมีความสุข
ไก่กุ๊กขอพาหลานมาเยี่ยมพ่อบ่อยๆ เชียรพยักหน้าดีใจ ถามว่ากินอะไรมาหรือยัง พลางจะลุกไปหาของกินให้ ไก่กุ๊กรีบบอกว่าเดี๋ยวตนไปหาเอง ถ้าไม่มีอะไรกินจริงๆก็จะแสดงฝีมือข้าวผัดไก่ให้กินเอง
เชียรออกไปดูหลานๆเล่นกับยักษ์เบิ้ม ทั้งสองชวนปู่ลงมาเล่นด้วยกัน ต่างแย่งปู่ให้ไปกับตน เชียรเลยให้เป่ายิงฉุบกัน ทั้งปู่ทั้งหลานต่างหยอกล้อกันอย่างสนุกสนานอยู่หน้าสนาม
ไก่กุ๊กแอบดูเห็นพ่อเพลินอยู่กับหลานก็ย่องขึ้นข้างบน มองหาห้องนอนของเชียร พอเจอก็เปิดเข้าไปเปิดลิ้นชักค้นหาสิ่งที่ต้องการอย่างเร็ว
เพียงไม่นาน ไก่กุ๊กก็ลงมาเรียกแมวเมี้ยวกับนกจิ๊บให้รีบกลับ จนเชียรแปลกใจ เด็กๆก็งอแงไม่ยอมกลับ ถูกไก่กุ๊กดุว่าพ่อบอกให้กลับก็กลับสิ บอกเชียรว่าแล้วจะพาหลานมาใหม่วันนี้มีงานด่วนต้องรีบไปทำ
พอออกมาขึ้นรถ ไก่กุ๊กโทร.รายงานเก็จทันที “เก็จเหรอ...ผมได้ทุกอย่างมาแล้ว ไม่คิดเลยว่าพ่อจะทำกับเราสองคนแสบอย่างนี้ เอาเถอะ ค่อยไปคุยกันที่บ้าน ผมไม่อยากคุยต่อหน้าลูก แค่นี้นะ”
เก็จพอใจมากที่ไก่กุ๊กขโมยโฉนดจากเชียรมาได้ บอกว่าตนจะขายบ้านนี้ เรื่องโฉนดที่ยังเป็นชื่อเชียรนั้นไม่ต้องห่วงตนมีวิธี ไก่กุ๊กถามว่ามันผิดกฎหมายหรือเปล่า
“ไม่ต้องถามอะไรมากหรอก คุณมีหน้าที่ทำตามที่ฉันบอกเท่านั้นก็พอ เรื่องอื่นเดี๋ยวฉันกับแม่จัดการเอง”
ไก่กุ๊กนิ่งไปอย่างกังวลใจ
ooooooo
ที่บ้านย่าขวัญ เป็ดปุ๊กกำลังเรียนการทำปลาทูต้มเค็มอย่างใส่ใจ ย่าบอกขั้นตอนการทำอย่างละเอียด บอกว่าการทำปลาทูต้มเค็มนี้ต้องใช้ความอดทนมากเพราะต้องต้มนานถึง 3 วันถึงจะอร่อย
“มันเป็นการฝึกความอดทน ทั้งคนทำ ทั้งคนกิน เขาว่าใครทำปลาทูต้มเค็มเก่งจะเป็นคนใจเย็น แต่บางทีก็ไม่จริงเหมือนกัน” ย่าพูดขำๆพอเป็ดปุ๊กถามว่ายังไงหรือ ย่าตอบทันทีเหมือนรอจังหวะอยู่ว่า “ก็อย่างไม้ไง เขาทำอร่อยมาก ก้างงี้เปื่อยเชียว แต่แทนที่จะเป็นคนใจเย็น กลับใจร้อน...ใจร้อนแล้วก็ใจแข็งด้วย”
ย่าเห็นเป็ดปุ๊กมองตาแป๋วก็เล่าต่อว่า
“หทัยแม่ของไม้นะ เขาทำไม่ถูกที่ปิดเรื่องไม้เป็นความลับ แต่หลายปีหลังจากนั้นเขาก็รู้สึกผิด เขาคิดจะบอกความจริงให้ทุกคนรู้ เขาจะกลับมารับไม้ไปอยู่กับเขา แต่ไม้เองที่ไม่ยอมกลับไป ไม้ไม่ยอมรับว่าเขาเป็นแม่ แล้วหนีออกไปจากบ้านย่าไปเลย วันที่ย่าไปรับไม้กลับมา ไม้ให้ย่าสัญญาว่าจะต้องไม่พูดถึงแม่เขาอีก เขาก็จะไม่พูดถึง เขาให้ถือว่าแม่ของเขา...ตายไปจากโลกนี้แล้ว”
“ทำไมต้องทำถึงขนาดนั้น”
“ก็คงต้องถามเขาเองมั้ง ที่ย่าอยากจะบอกหนูเป็ดก็คือ อย่าไปว่าที่เขาไม่เคยบอกเรื่องแม่เลย เขาไม่ได้โกหก เขาอยากคิดว่าเขาไม่เคยมีแม่ต่างหาก”
ฟังย่าเล่าแล้วเป็ดปุ๊กนิ่งไปนาน แล้วชวนย่า “เป็ดว่า เรามาทำปลาทูต้มเค็มกันต่อเถอะค่ะ”
ย่าขวัญสอนให้เป็ดปุ๊กล้วงไส้ปลาออก ย่าทำให้ดูและให้ทำตาม เป็ดปุ๊กล้วงไส้ปลาออกมาท่าทางแขยงแต่ก็ทำได้จนย่าชมว่าเก่ง ครั้งแรกก็ทำได้เลย ย่าเอาชามมาให้ใส่ไส้ปลาที่ล้วงออกมาบอกว่าเอาไว้ทำไตปลา
นั่งทำปลากันครู่เดียว ย่าเหลือบมองนาฬิกาที่ผนัง บอกเป็ดปุ๊กว่า “ย่าจะให้หนูเป็ดทำปลาไปก่อนนะ หมดนี่เลยเสร็จแล้วจะมาทำเครื่องกัน เดี๋ยวย่าไปตัดอ้อยก่อน” เธอถามว่าตัดมาทำอะไร? “ก็ทำปลาทูต้มเค็มนี่แหละ ต้องเอาอ้อยมาวางรองไว้ก้นหม้อ มันจะได้หอม แล้วปลาไม่ติดหม้อ”
เป็ดปุ๊กถามว่าคุณย่าปลูกอ้อยไว้ด้วยหรือ ย่าบอกว่าปลูกไว้นิดหน่อยที่หลังบ้านให้เธอทำปลาไปก่อนเดี๋ยวย่ามา
ooooooo
พอย่าออกไปไม่นาน ไม้ก็ส่งเสียงเข้ามา ร้องบอกย่าว่า “ไม้มาแล้ว” ไม่ได้ยินเสียงตอบของย่าแต่ได้ยินเสียงกุกกักในครัวเลยเดินไปดู เจอเป็ดปุ๊กอยู่ในครัว ไม้ถามว่ามาทำอะไรเหรอ
พอเป็ดปุ๊กบอกว่ามาเรียนทำปลาทูต้มเค็มกับย่า ไม้ก็ร้อง “อ๋อ...อย่างนี้เอง” เธอถามว่าหมายความว่ายังไง?
“ย่าบอกให้ผมมาหา บอกจะให้ช่วยสอนคนทำปลาทูต้มเค็ม แล้วย่าไปไหนล่ะ” เป็ดปุ๊กบอกว่าไปตัดอ้อย
ไม้เห็นเธอล้วงไส้ปลาทูใส่ในชาม เขาบอกว่าล้วงไส้หมดแล้วก็เอาไปล้างน้ำ เธอสะบัดเสียงใส่ว่าตนมาเรียนกับย่าไม่ใช่เขา ไม้ทำหน้าอ่อนใจถามว่า
“คุณยังไม่เข้าใจเหรอ การที่ย่าไม่อยู่ก็เพื่อจะเปิดโอกาสให้ผมเป็นคนสอนคุณ...อ้อยเนี่ยต้องตัดเตรียมไว้ตั้งแต่แรกไม่ใช่มาตัดตอนนี้ เถอะน่า มาเรียนให้เสร็จๆ ตามใจคนแก่หน่อย”
เป็ดปุ๊กหาว่าเขาพูดเองเออเองเพราะไม่เห็นย่าบอกตนเลย ไม้บอกว่าขืนย่าบอก เธอก็ไม่มาเรียนเพราะเธอเกลียดตน แล้วไม้ก็ใช้ไม้อ่อน เอ่ยขึ้นว่า
“เอางี้...ปกติผมไม่ทำหรอกนะ ผมขอโทษทุกอย่างที่ผมทำผิดต่อคุณ” พูดแล้วยื่นนิ้วก้อยออกไป เป็ดปุ๊กสะบัดหน้า หาว่าเขามองตนเป็นเด็ก ไม้ชักหงุดหงิดถามว่า “จะเอายังไงกันอีกล่ะคุณณณ...ขอโทษก็แล้ว ขอคืนดีก็แล้ว ยังจะอะไรอีก อย่ามีอคตินักเลยน่า”
โดนหาว่ามีอคติ เลยเป็นเรื่องขึ้นมาอีก หาว่าไม้ขอโทษขอคืนดีก็แค่ทำเล่นๆ ไม่ได้รู้ตัวว่าทำผิดจริงๆ เลยใช่ไหม
“ผมทำในสิ่งที่ผมเชื่อ ทำในสิ่งที่ผมอยากทำ ใครจะคิดว่าถูกหรือผิดก็ตามใจ ผมช่วยไม่ได้” ไม้ฉุนขึ้นมา
“รวมทั้งเรื่องแก้วด้วยไหม” ไม้ถามว่าแก้วเกี่ยวอะไรด้วย “ก็ที่ไปกินข้าวกับเขา แล้วก็ไปรับเขาถึงหน้าบริษัทน่ะ อยากจะทำมากเลยใช่ไหม เคยคิดบ้างไหม ว่าคนคนนั้นใส่ร้ายฉัน จนฉันถูกเจ้านายเกลียด แล้วลดตำแหน่งฉัน ทั้งๆที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิดเลย”
ไม้อึ้งไปกับอารมณ์พลุ่งพล่านของเธอจนตัวเองก็สับสน อึดอัด เลยโพล่งไปว่า
“คุณคอยแอบตามผมตลอดเวลาหรือไง ถึงได้รู้ว่าผมไปไหนกับใคร กินข้าวกับใคร”
“ฉันไม่บ้าแอบตามนายหรอก แต่นายนั่นแหละ ที่ชอบทำอะไรประเจิดประเจ้อ อยากอวดว่ามีสาวควงรึไง ปัดโธ่...คนอื่นเขาก็มีเหมือนกัน”
“ยกเว้นคุณ” พูดไปแล้วไม้ก็สะดุ้งเมื่อเสียงแว้ดว่า ว่าไงนะ! แต่เขาก็ยังเล่าต่อได้ไม่สะดุดว่า “ผมจะบอกว่าคนมีอคติ ใจแคบ มองคนอื่นในแง่ร้ายอย่างคุณนี่แหละ ที่ไม่มีวันจะมีใครอยากควง!”
เป็นคำปรามาสที่ทำให้เป็ดปุ๊กทั้งโกรธทั้งอาย คว้าปลาทูได้ก็ปาไม้ไม่ยั้ง ไม้รับไว้จนเต็มมือ ตัวสุดท้ายรับไม่ทันถูกปาเลยตัวเขาไป มันลอยไปโดนหน้าพิกุลที่เดินเข้ามาจังๆ เป็ดปุ๊กรีบขอโทษ ถามว่าเจ็บไหม
“ไม่เจ็บหรอกค่ะ แต่มันคาวไปหน่อย ทะเลาะกันเหรอคะ” ไม้ดุว่าเธอไม่เกี่ยว “พิกุลจะมาบอกคุณไม้ว่าบ่ายๆ ถ้าว่างให้พาคนงานไปตัดต้นไม้ที่ซอย 6 ด้วย”
“ไม่ต้องบ่ายหรอก จะไปทำให้เดี๋ยวนี้เลย ว่างแล้ว” พูดแล้วมองเป็ดปุ๊กฉุนๆ แล้วเดินออกไป เจอย่าขวัญกลับมาพอดี ย่าถามว่ามาแล้วหรือ “กำลังจะกลับแล้วย่า ลูกศิษย์ย่าเขาไม่ยอมให้ผมสอน ไปนะย่า”
“อะไรของมัน” ย่าเกาหัวแกรกๆ พอหันเข้าบ้านก็เห็นเป็ดปุ๊กเดินออกมาอีกคน เธอบอกย่าว่าขอกลับบ้านก่อน “อ้าว...อะไรอีกล่ะ” ย่ายิ่งงง
“อาจารย์พิเศษของคุณย่า ทำเป็ดหมดอารมณ์ค่ะ ไว้วันหลังเป็ดมาเรียนใหม่นะคะ ขอโทษด้วยค่ะ” พูดแล้วยกมือไหว้ลาเลย ย่ารับไหว้ค้างอยู่อย่างนั้น หันไปถามพิกุลว่าไปทำอะไรเขาหรือ พิกุลบอกว่าตนไม่ได้ทำ ถูกปลาทูปาใส่เต็มหน้าด้วยซ้ำ ย่าถามว่า “เขาทะเลาะกันเหรอ”
“ก็คงงั้นล่ะค่ะ แล้วพิกุลพอจะรู้ด้วยว่า ทะเลาะกันเรื่องใคร”
ย่ากับพิกุลพากันไปที่ร้านต้นไม้สวนขวัญ ฝ้ายฟันธงว่าต้องทะเลาะกันเรื่องแก้วแน่ๆ พิกุลเลยเล่าว่าตอนตนเข้าไปก็ได้ยินพูดถึงชื่อแก้วแว่วๆ เหมือนกัน
ย่าขวัญไม่รู้จักแก้ว ถามว่าเป็นใคร ซักไซ้จนรู้ว่าเป็นแฟนของโอม ย่าเอามือทาบอก อุทาน...“แล้วไม้ไปยุ่งกับผู้หญิงคนนี้อีก มันคิดยังไงของมัน เดี๋ยวเหอะ กลับมาย่าจะฟาดให้หลังลายเลย”
เมื่อรู้จากพิกุลว่าแก้วคิดจะจับไม้เพราะเพิ่งรู้ว่าเป็นมหาเศรษฐี ย่าก็ยิ่งเป็นห่วงกลัวเรื่องจะยุ่งกันใหญ่ ถามว่าจะทำอย่างไรดี พิกุลนิ่งไปอึดใจ พอคิดออกก็บอกอย่างตื่นเต้นว่า “พิกุลรู้แล้วค่ะ เรื่องนี้ต้องให้ถึงหูคุณโอม!”
ooooooo
หลังจากแก้วรับปากจะทำงานให้ไม้แล้ว วันนี้เธอไปห้างกับโอม เธอเลือกซื้อเสื้อผ้าของตัวเอง พอจะซื้อโอมชี้ว่าตัวโน้นดอกก็สวยดี เธอเปลี่ยนตามใจเขาทันที แล้วฉอเลาะถามว่าช่วงนี้เขาสบายใจขึ้นแล้วใช่ไหม
พอเห็นโอมอารมณ์ดีขึ้นก็ปะเหลาะถามเรื่องงานว่าเรื่องที่เขาไม่ได้เป็นเจ้าของหมู่บ้านตัวจริง ไม่มีปัญหาแล้วใช่ไหม โอมบอกว่ากำลังหาทางออกอยู่ แก้วยอว่าพ่อเขาเก่งอยู่แล้ว
“พ่อกำลังพยายามสร้างความสัมพันธ์กับย่าของไอ้ไม้ จะหว่านล้อมให้เขายอมขายที่ดินหลังหมู่บ้านให้ จะได้ขยายหมู่บ้านออกไปอีก” แก้วเลียบเคียงว่าถ้าซื้อได้ก็ไม่ต้องห่วงว่าที่ดินจะไม่ใช่ของเขาอีก “แน่นอน! มันต้องเป็นของผมในที่สุด”
แก้วทำเป็นดีใจ แล้วฉุกคิดได้ถามว่าถ้าเขาไม่ยอมขายล่ะ?
“ไม่เห็นยาก คนแก่อยู่บ้านคนเดียว เราก็วางยาให้แกนอนหลับแล้วก็ปั๊มลายนิ้วมือขายที่ให้เราเลย เผลอๆได้ราคาถูกๆด้วย” โอมหัวเราะร่าอย่างย่ามใจ แก้วหัวเราะผสมโรงถามว่าต้องเป็นความคิดเขาแน่ๆเลยใช่ไหม “เรื่องแบบนี้ มันต้องเอาทุกทางแหละ”
แยกจากโอม แก้วไปหาไม้ที่ร้านสวนขวัญทันที ฝ้ายเห็นแก้วมาหาไม้ก็โทร.เม้าท์กับพิกุลทันที พิกุลคุยโทรศัพท์สบายๆเพราะคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียว ด่าแก้วว่าผู้หญิงไร้ยางอาย กลางวันอยู่กับโอม ตกเย็นก็มาหาไม้
โอมเองก็กลับมาที่สำนักงานขาย ได้ยินพิกุลคุยเกี่ยวพันกับแก้วและตนก็แอบฟัง
“ฉันน่ะนะ อยากให้คุณโอมรู้จริงจริ๊งว่าแฟนของตัวเองน่ะ นิสัยยังไง” พูดแล้วหันไปเห็นโอม พิกุลรีบวางสายแล้วทำเป็นก้มหน้าก้มตาทำงาน แต่โอมไม่ยอมปล่อยผ่าน ตรงไปตะคอกถามว่า “พูดโทรศัพท์กับใคร แล้วอะไร แฟนฉันทำไม” พิกุลบอกว่าไม่มีอะไรแค่คุยขำๆ โอมตวาดว่าตนไม่ขำ ด่าพิกุลว่าคนไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ต้องไล่ออก
พิกุลถือโอกาสนี้ตัดพ้อทวงบุญคุณว่าตนอุตส่าห์สอดส่องสอดแนมความประพฤติแฟนเขาให้ยังจะไล่ออกอีก พูดอ่อยว่าแบบนี้ตนก็จะไม่บอกอะไรเด็ดๆให้เขาเหมือนกัน โอมถามว่าเธอรู้อะไรมา
“ก็รู้เรื่องที่คุณแก้วเธอพยายามไปทำตัวสนิทสนมกับคุณไม้น่ะสิคะ นี่สายก็รายงานมาว่าตอนนี้ก็ไปออเซาะฉอเลาะกับคุณไม้ที่ร้านสวนขวัญน่ะค่ะ”
โอมบอกไม่เชื่อแต่ผลุนผลันออกจากสำนักงานขายไปทันที
ooooooo
แก้วกำลังยิ้มหวานเข้าไปหาไม้โน้มหน้าเข้าไปกระซิบจนปากเกือบจูบแก้มไม้ว่า มีข่าวดีมาบอกเรื่องที่ไม้วานให้ทำเมื่อวาน ไม้ทำเป็นยิ้มยินดีชวนไปคุยกันข้างในดีกว่า
เมื่อแก้วเล่าแผนการของโอมให้ไม้ฟัง เขาโมโหมากถามว่าคิดจะทำกันอย่างนั้นเลยหรือ ขอบคุณแก้วที่ช่วยสืบให้ แก้วอ่อยเต็มที่ทั้งเกาะแกะกระแซะไม่หยุด แต่แล้วก็หงุดหงิดเมื่อมือถือดังขึ้น เป็นสายจากโอม เธอบอกว่าเรื่องงาน แล้วขอตัวออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก
โอมถามว่าเธออยู่ไหน แก้วโกหกว่าอยู่บนรถแท็กซี่กำลังจะกลับบ้าน โอมโมโหตวาดว่าโกหกตนทำไม แก้วทำเป็นงอนเสียงแข็งใส่ว่า
“ถ้าโอมจะโทร.มาหาเรื่องแก้วแบบนี้ แก้วไม่คุยด้วยแล้วนะคะ แค่นี้นะ” พูดแล้วตัดสายหันจะเข้าไปหาไม้ พลันก็แทบช็อกเมื่อเห็นโอมลงจากรถที่จอดอยู่หน้าร้าน เดินถือโทรศัพท์ตรงรี่เข้ามาในร้าน!
พิกุลรู้ว่าโอมไปที่ร้านสวนขวัญกลัวจะมีเรื่องราวใหญ่โตจึงโทร.บอกนภให้รีบไปที่นั่น อย่างน้อยถ้าโอมเห็นลูกบ้านก็อาจจะเกรงสายตาบ้าง นภออกมาเจอรถเป็ดปุ๊กกับเชียรผ่านมาพอดีเลยโบกรถให้ช่วยไปส่งที่ร้านสวนขวัญด้วย
โอมเข้าไปเผชิญหน้าแก้ว ถามว่าทำไมต้องโกหกตนด้วย และเธอมาทำอะไรที่นี่ แก้วโกหกว่ามาหาเลือกซื้อต้นไม้ทั้งสองโต้เถียงกันเสียงดัง ไม้เดินออกมาถามว่ามีอะไรกันหรือ โอมมองแก้วขวับตวาดว่าเธอตั้งใจมาหาไม้!
“ใช่...แก้วตั้งใจมาหาคุณไม้ แก้วมาให้เขาช่วยเลือกต้นไม้ให้”
โอมยิ่งโมโหเมื่อรู้ว่าแก้วให้ไม้ไปดูคอนโดมาแล้ว ลากแก้วให้ไปคุยกันข้างนอก แก้วขืนตัวไม่ยอมไป ไม้ทนไม่ได้เข้าขวางบอกว่าแก้วไม่อยากไปก็อย่าบังคับ และตนไม่ยอมให้ใครมาอวดเบ่งกับผู้หญิงในร้านตน โอมอ้างว่าแก้วเป็นแฟนตน
“ก็แค่แฟน ผัวเมียกันยังบังคับกันไม่ได้เลย ไม่มีใครมีสิทธิ์เป็นเจ้าชีวิตใคร โดยเฉพาะคนอย่างนาย!”
“ทำไม! คนอย่างฉันเป็นยังไง!!”
“ฉันรู้ว่านายกับพ่อกำลังคิดจะทำอะไรกับย่า เพื่อให้ได้ที่ดินของย่า อย่าหวังว่านายจะทำสำเร็จ ฉันไม่มีวันยอมหรอก”
โอมหันขวับถามแก้ว “แก้วบอกอะไรมัน!!” แก้วยืนอึ้งพูดไม่ออก
เป็ดปุ๊กขับรถมาถึงหน้าร้านพอดี เชียร นภ รีบลงจากรถไป เจอไม้กับโอมกำลังดุเดือดเลือดพล่านกัน เห็นแก้วหลบไปอยู่ข้างหลังไม้ ไม้ไล่โอมให้กลับไปก่อน โอมบอกว่าตนจะกลับก็ต่อเมื่อมีแก้วไปด้วย แก้วไม่ยอมไป อ้อนวอนไม้ว่าถ้าตนไปก็ต้องถูกโอมทำร้าย
โอมยิ่งโมโหที่ไม้ปกป้องแก้ว เมื่อถูกไม้ไล่ก็พุ่งเข้าชก แต่ถูกไม้ชกจนจุกตามด้วยอัปเปอร์คัตเข้าที่ปลายคางหมดสติไป เป็ดปุ๊กมาเห็นพอดีเธอถลาไปประคองโอม ตะโกน “พอแล้ว จะฆ่ากันให้ตายเลยรึไง!” เธอพยายามเรียกโอมจนเขาลืมตาขึ้น “เป็นยังไงบ้างคะ...ฉันว่าคุณโอมกลับไปก่อนดีกว่าค่ะ อย่าทะเลาะกันเลยไม่มีประโยชน์”
ส่วนแก้วก็เข้าไปหาไม้ ตำหนิโอมว่าใช้ไม่ได้จริงๆ ถามว่าเขาไม่เป็นอะไรใช่ไหม ไม้ไม่ตอบแต่เดินหงุดหงิดเข้าไปหลังร้าน แก้วรีบตามไป ฝ้ายกับดำมองตามอย่างฮึดฮัดหมั่นไส้มาก ฝ้ายพึมพำอย่างรับไม่ได้ว่า
“บ้าเหรอ! ฉันเบื่อพี่ไม้ ไม่พูดอะไรกับคุณเป็ดสักคำ ผู้ชายอะไรซื่อบื้อ!!”
ooooooo
โอมกลับถึงบ้านในสภาพบอบช้ำ หทัยตกใจถามว่าไปโดนอะไรมา โอมฟ้องว่าถูกไม้ชกอวดผู้หญิงคงอยากโชว์ว่าตัวเองใหญ่โตเต็มที่ หทัยถามว่าผู้หญิงที่ไหน โอมไม่บอกแต่อาฆาตไม้ว่า
“ผมไม่ปล่อยมันไว้แน่ ผมแจ้งความให้ตำรวจจับมันเข้าคุก เอาข้อหาพยายามฆ่าเลย พยานเห็นกันเยอะแยะ แล้วคราวนี้แม่ช่วยมันไม่ได้ด้วย”
หทัยไม่สบายใจเตือนสติว่ายังไงก็เป็นพี่น้องกัน แต่โอมไม่ขอนับญาติด้วย หทัยเสนอจะแบ่งเงินค่าที่ดินส่วนของตนให้โอมครึ่งหนึ่งแลกกัน โอมถามว่าแล้วอีกครึ่งล่ะ หทัยบอกว่าจะเก็บไว้ใช้เอง
“แม่เก็บไว้ให้ไอ้ไม้ต่างหาก ยังไงไอ้ไม้มันก็ได้มากกว่าผมใช่ไหมล่ะครับ ครึ่งหมู่บ้านก็เป็นของมัน แล้วมันยังจะได้ครึ่งนึงของแม่อีก” โอมชี้หน้าหทัยอย่างก้าวร้าว “แม่จำไว้นะครับ ผมจะหยุดก็ต่อเมื่อผมได้ส่วนที่เป็นของแม่ทั้งหมด ยังไงผมก็ไม่มีวันยอมปล่อยให้มันได้ทุกอย่างไปหมดหรอก!!”
พูดแล้วโอมเดินหุนหันปึงปังออกไป หทัยมองตามด้วยความกังวลมาก
ooooooo
เก็จหัวเราะร่า เมื่อรู้จากแก้วว่าโอมถูกไม้ต่อย ยุน้องว่า
“น่าจะเป็นโอกาสของแกแล้วล่ะ รุกให้มันสุดๆหน่อย กับคุณโอมยังทำสำเร็จมาแล้ว คุณไม้นี่ก็แค่คนสวน อยู่กับดินกับหญ้า ไม่เคยเจออะไรอย่างแกหรอก ยิ้มหวานๆ ฉอเลาะนิดหน่อย แค่นี้ก็เสร็จแล้ว หรือจะต้องให้ฉันสอนอะไรแกอีก”
“ไม่ต้องหรอก ผู้ชายคนเดียว มันไม่ยากขนาดนั้น”
ระหว่างนั้น ไก่กุ๊กเดินผ่านมาได้ยินสองพี่น้องคุยกัน เขาหลบไปหลังเสาเงี่ยหูฟัง
“งั้นก็รีบๆหน่อย เอาคุณไม้มาเป็นของแกให้ได้ ฉันจะได้สมน้ำหน้านังเป็ดมันที่ต้องเสียทุกอย่างให้แก ทั้งงาน ทั้งผู้ชาย ที่สำคัญเงินหลายๆๆๆล้าน!” สองพี่น้องหัวเราะร่ากันอย่างพออกพอใจ
ไก่กุ๊กนิ่งงัน...ไม่สบายใจกับสิ่งที่ได้ยิน
ooooooo
วันนี้โอมบุกไปหาแก้วถึงที่ทำงาน เจอแก้วเดินคุยมากับพิมพาพอดี เขาตรงเข้าไปดึงแขนแก้วบอกว่าอยากคุยด้วย แม้พิมพาจะบอกว่าเรากำลังคุยงานกันอยู่ก็ไม่สนใจ บอกว่าแป๊บเดียวแล้วลากแก้วไปเลย
โอมลากแก้วไปที่สวนหย่อมบริเวณตึก แก้วพยายามสะบัดแขนขืนตัว โอมไม่ปล่อยบอกว่าต้องการคำอธิบายที่เธอกำลังทิ้งตนไปหาไม้ แก้วพูดหน้าตาเฉยว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ตนมีสิทธิ์ที่จะทำอะไรก็ได้
เมื่อถูกโอมจี้ว่าเธอเอาความลับของตนไปบอกไม้ แก้วบอกว่าเป็นความลับแล้วมาบอกตนทำไม เมื่อไม้ถามตนจึงเล่าให้ฟัง ซ้ำยังพูดอย่างตำหนิว่า
“บอกตามตรงเลยนะ สิ่งที่โอมกับพ่อคิดจะทำ ไม่ใช่สิ่งที่ดีเลย ถ้าแก้วทำให้โอมทำตามแผนไม่ได้ โอมก็คิดแผนใหม่แล้วกัน แค่นี้นะ แก้วต้องกลับไปทำงานแล้ว”
โอมไม่ยอมปล่อย พูดกรอกหูแก้วว่าเธอกำลังคิดผิด เพราะไม้ไม่ใช่คนดี ไม้แอบเข้าไปในบ้านเป็ดปุ๊กหมายข่มขืนมาแล้ว แก้วตัดบทอย่างรำคาญใจว่า ตนดูออกว่าใครเป็นยังไงและถ้าไม้เป็นอย่างที่โอมพูดจริง ตนก็พร้อมจะรับผลของมัน
แก้วสะบัดกลับไป โอมมองตามคำรามแค้น
“นึกว่าฉันแคร์แกนักเหรอ คอยดู! ทั้งแก ทั้งไอ้ไม้ ไม่มีวันมีความสุขหรอก!!”
พอแก้วกลับไปหาพิมพาที่ห้องทำงาน เธอถูกพิมพาตำหนิว่า โอมทำแบบนี้ไม่แคร์ว่าอาชีพการงานของเธอจะเสียหายเลย เธอเป็นหัวหน้าแล้ว ถ้ามีอะไรแบบนี้บ่อยๆ จะส่งผลถึงตำแหน่งของเธอ
แก้วบอกว่าตนเลิกกับโอมแล้ว และถือโอกาสบอกว่าจะขอคืนตำแหน่งหัวหน้าให้เป็ดปุ๊กเพราะเธอชำนาญงานกว่าตน แต่พิมพาไม่เห็นด้วยเพราะเป็ดปุ๊กทำงานนัดลูกค้าแล้วลืมเอกสาร ซ้ำยังแอบหนีไปช็อปปิ้งบ่อยๆ ถามว่าแก้วเป็นคนรายงานเองไม่ใช่หรือ แบบนี้จะปล่อยให้เป็นหัวหน้าได้ยังไง แก้วทำเป็นใจกว้างบอกว่าเราน่าจะให้โอกาสเขา
“พี่รู้ว่าแก้วหวังดีกับเพื่อน แต่พี่ไม่ไว้ใจเขาอีกแล้ว ความจริงไม่ไล่ออกไปเลยก็บุญแค่ไหนแล้ว”
แก้วแอบเจ็บใจที่แผนคืนตำแหน่งให้เป็ดปุ๊กแลกกับไม้ของตนไม่สำเร็จ เมื่อกลับไปเจอเป็ดปุ๊กที่ห้องทำงาน เธอบอกว่าคุยให้แล้วแต่พิมพาไม่ยอม แต่พอเป็ดปุ๊กถามเหตุผล แก้วอึกอักแล้วตัดบทว่า พิมพาบอกว่าขอคิดก่อนแล้วทวงสัญญาว่าตนทำส่วนของตัวเองแล้วเธอก็อย่าลืมทำส่วนของตัวเองด้วยแล้วกัน ยกไม้ให้ตนและอย่ายุ่งกับไม้อีก
“ก็ไม่เคยยุ่งอยู่แล้ว อยากได้เขาก็เอาไปเลย ฉันไม่เกี่ยว”
“เธอนี่น่ารักไม่เปลี่ยนเลย” แก้วยอแล้วเดินเริงร่าไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
เป็ดปุ๊กแอบถอนใจไม่อยากหวังอะไรมาก...
ooooooo
โอมวางแผนจะแกล้งไม้ เขาขับรถกอล์ฟไปจอดหน้าบ้านเป็ดปุ๊กมองไปยังกำแพงที่ไม้เคยปีนข้ามไปมา ยิ้มอย่างสะใจแล้วขับรถออกไป เชียรที่รดน้ำต้นไม้อยู่แปลกใจกับท่าทางแปลกๆของโอม
รุ่งเช้า ขณะเป็ดปุ๊กจะไปทำงาน โอมก็ขับรถกอล์ฟ มาจอด เป็ดปุ๊กจึงเดินไปหา โอมแจ้งว่าทางโครงการอยาก จะติดรั้วกันขโมยให้บ้านเธอ โน้มน้าวใจว่า
“ตอนนี้ทุกบ้านติดกันหมดแล้ว มีแต่บ้านคุณเป็ดปุ๊ก นี่แหละครับที่ยังไม่ติด ทางโครงการก็เลยอยากติดให้เพื่อ กันบุคคลที่ไม่หวังดีปีนเข้าปีนออก”
เชียรพยายามบอกว่ากำแพงนี้ติดกับสวนของไม้กับ คุณย่า คนปีนเข้าออกก็มีแต่ไม้คงไม่มีหัวขโมยที่ไหนหรอก
โอมหว่านล้อมแสดงความห่วงใยและปรารถนาดี แล้วรวบรัดกับเป็ดปุ๊กว่า ถ้าจะติดเดี๋ยวเราไปเลือกรั้วกัน เลย ทางโครงการบริการฟรี เชียรถามเป็ดปุ๊กว่าจะติดจริงๆ หรือ เธอคิดหนักแต่แล้วก็บอกพ่อว่า “ติดก็ได้ค่ะ” โอม รวบรัดนัดพรุ่งนี้จะมารับไปดูเหล็กดัดกันขโมยกันเลย เป็ดปุ๊กรับคำแล้วขอตัวไปทำงาน
เชียรไม่สบายใจ ไปเล่าให้ไม้ฟังที่ร้านสวนขวัญ ไม้คิดเครียดแต่ก็บอกเชียรว่า
“ยังไงคุณเป็ดก็ตัดสินใจแล้ว ก็คงต้องตามนั้น ขอบคุณนะครับที่มาบอก คงถึงเวลาที่ผมต้องเข้าตามตรอกออกทางประตูสักที” ไม้พยายามพูดติดตลก แต่ทั้งตัวเองและเชียรต่างก็ขำไม่ออก
ooooooo
ย่าขวัญหาวิธีใหม่ที่จะให้ไม้ได้ติดต่อสัมพันธ์กับเป็ดปุ๊ก วันนี้ก็ฝากแกงหอยขมกับผัดเผ็ดปลาดุกให้ไม้เอาไปฝากเชียร ไม้เกี่ยงให้ย่าเอาไปให้เอง เพราะ เป็ดปุ๊กคงไม่ชอบที่จะให้ตนปีนกำแพงเข้าไปเลยกำลังจะติดรั้วกั้น
แต่ย่าขวัญไม่ละความพยายาม เช้ามืดวันต่อมา ก็ปีนขึ้นไปหาไม้ที่บ้านต้นไม้ของเขา ไม้ตื่นมาตกใจบ่นว่าย่าปีนขึ้นมาได้ไง เดี๋ยวตกไปแข้งขาหัก ย่าบอกว่า ร้องเรียกแล้วไม่เห็นตื่นเลยใจร้อน ไม้ถามว่าจะให้ตนทำอะไรหรือ
“เอานี่ไปให้บ้านนั้น” ย่าส่งถุงอาหารให้มากมายหลายอย่าง ไม้กำลังจะเกี่ยง ถูกย่าตัดบทว่า “จะเอาไป ให้ยังไงย่าไม่สน แต่เราต้องไปเชิญหนูเป็ดกับพ่อเขามา งานวันเกิดย่าอาทิตย์หน้าด้วย”
“อะไรนะ!!” ไม้หายงัวเงียเป็นปลิดทิ้ง
“รู้ว่าได้ยิน รู้ว่าเข้าใจ ไม่ต้องมาทำหน้างง” ย่า ตัดบทแล้วกลับไปเลย
ไม้มองถุงอาหารคิดหนัก...จะเอาไงดี???
เช้าวันเดียวกัน โอมไปรับเป็ดปุ๊กเพื่อพาไปดูรั้ว แต่เช้า เธอไปกับเขาท่ามกลางความไม่สบายใจของเชียร ระหว่างนั่งรถไปด้วยกันเธอนิ่งเงียบ โอมเอื้อมมาจับมือเธอบอกว่าไม่ต้องคิดมากพร้อมเมื่อไหร่ค่อยติดก็ได้
โอมพยายามโยงไปถึงไม้กับแก้ว บอกว่าไม่ต้องคิดมาก เธอบอกว่าเรื่องคนอื่นตนไม่สนใจอยู่แล้ว แต่ระหว่างรถผ่านหน้าร้านสวนขวัญนั่นเอง โอมเห็นไม้ยืนอยู่ก็ชี้ให้เป็ดปุ๊กดู เธอหันมองสบตากับไม้พอดี แต่รถ ยังไม่ทันผ่านหน้าร้าน แก้วก็เดินออกมาเกาะแขนไม้อย่าง สนิทสนม โอมเห็นแก้วกลับช็อกไปเอง
แก้วออกมาที่ฟุตปาท เห็นโอมกับเป็ดปุ๊กนั่งรถผ่าน ก็ทำเป็นตื่นเต้นชี้ให้ไม้ดู
“อู๊ย...นั่นมันรถโอมนี่ ทำไมอยู่ดีๆนั่งรถไปด้วยกัน หรือว่าเขา...” ไม้ไม่อยากฟังหันเดินกลับเข้าไปในร้าน แก้วมองตามอย่างรู้ทัน ยิ้มร้ายพึมพำ
“คิดจะแก้เผ็ดฉันงั้นเหรอ...เชิญเลย...ผู้ชายพรรค์นั้น ฉันไม่สนหรอก!!”
ooooooo










