ตอนที่ 15
ผู้ช่วยโทนตามมาที่ซากโบราณเห็นนายฮ้อยเคนพยุงนายฮ้อยผีที่หมดสติเดินออกมาจากเทวาลัยก็โวยวายลั่น พามันออกมาทำไม น่าจะฆ่าทิ้งให้สิ้นซาก เขาไม่ตอบได้แต่ถามถึงคนอื่นว่าเป็นอย่างไรกันบ้าง
“ข้อยพาออกไปที่ปลอดภัยแล้ว นายฮ้อย...เป็นหยังถึงบ่ฆ่ามัน”
นายฮ้อยเคนเงียบไม่ตอบ พยุงนายฮ้อยผีเดินจากไป ผู้ช่วยโทนได้แต่มองตามงุนงงสงสัย...
ในขณะเดียวกัน สามผู้เฒ่าเข่ง อ่วมและแต้มช่วยกันประคองคำแก้วในสภาพมีเลือดไหลจากท้องมาที่เกวียนของอาจารย์เม้าโดยมีแสงโสมเดินร้องไห้สะอึกสะอื้นตามมาข้างหลัง
อาจารย์เม้ารีบเข้ามาดูอาการ ครั้นเห็นรอยบาดแผลที่คำแก้วถูกแทงก็มีสีหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัด เฒ่าเข่งสงสัยมีอะไรกันแน่ถึงได้ทำหน้าเหมือนเธอจะไม่รอด แสงโสมไม่พอใจด่าเฒ่าเข่งว่าปากเสีย เอื้อยของตนต้องไม่เป็นอะไรแล้วหันไปขอคำยืนยันจากอาจารย์เม้าซึ่งเอาแต่นิ่งเงียบ
“จารย์เม้า ข้อย...ปวดไปเทิ้งโตแล้ว มัน...มันคือมีอีหยังบ่ฮู้ อยู่ในโตข้อย...ซอยตามอ้ายเคนมาให้ข้อยแน ข้อยสิทนบ่ไหวแล้ว...โอ๊ย” คำแก้วร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด แสงโสมโวยวาย ตกลงเอื้อยของตนเป็นอะไรกันแน่ ทุกคนต้องตะลึงเมื่อได้ยินคำตอบของอาจารย์เม้าว่าคำแก้วไม่ได้ถูกมีดธรรมดาแทง
“แต่ถืกมีดอาคมแทง ตอนนี่คุณไสยเข้าโตคำแก้วแล้ว ข้อยซอยคำแก้วบ่ได้”
คำแก้วรู้ตัวว่าใกล้จะตาย ขอร้องให้อาจารย์เม้าไปตามตัวนายฮ้อยเคนมาหาเธอด้วย...
คนที่คำแก้วเรียกหาพานายฮ้อยผีมุ่งหน้ากลับทัพควาย แต่อาการของเขาไม่ค่อยดีนัก เดินได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องหยุดพัก นายฮ้อยเคนเห็นเขากระหายน้ำส่งกระบอกไม้ไผ่ใส่น้ำให้ดื่ม ผู้ช่วยถึกเห็นเข้าก็ไม่พอใจแอบบ่นกับผู้ช่วยโทน สีโหและบักมืดว่า นายฮ้อยผีเกือบจะฆ่าตนกับสีโห ไม่รู้นายฮ้อยเคนคิดอะไรอยู่ถึงพามันมาด้วย ผู้ช่วยโทนเคยถามแล้วแต่นายฮ้อยเคนไม่ยอมบอกเหตุผล
“บ่ว่าเหตุผลของนายฮ้อยคืออีหยัง คนคือมันก็บ่ควรมีชีวิตอยู่ให้ตามรังควานเฮาอีก” สีโหพูดจบคว้าหน้าไม้ขึ้นมาจะยิงนายฮ้อยผี นายฮ้อยเคนที่นั่งหันหลังให้สั่งโดยไม่หันไปมองให้เขาเอาหน้าไม้ลงถ้าไม่อยากมีเรื่องกับตน สีโหโต้ไม่ยอมแพ้ คนอย่างมันสมควรตาย หรือนายฮ้อยเคนลืมไปแล้วว่าเคยปล่อยเสือคำแสนให้ตำรวจเอาตัวไป สุดท้ายมันย้อนกลับมาฆ่าคำแพงตาย
ผู้ช่วยโทนเห็นด้วย
“นายฮ้อย ความเชื่อของนายฮ้อยในการให้โอกาสคน มันใช้บ่ได้กับทุกคนดอก”
ไม่ว่าผู้ช่วยโทน ผู้ช่วยถึกกับสีโหและบักมืดต้องการจะฆ่านายฮ้อยผีมากแค่ไหน แต่นายฮ้อยเคนไม่อนุญาตให้ทำอย่างนั้นเด็ดขาด ทำให้ทั้งสี่คนไม่มีใครกล้าหือจำต้องทำตามที่เขาสั่ง
ooooooo
เมื่อนายฮ้อยเคนมาถึงที่พักแรมของทัพควายต้องเจอกับข่าวร้ายว่าคำแก้วถูกมีดอาคมแทงและคุณไสยมนต์ดำจากมีดแล่นเข้าตัว จำเป็นต้องทำพิธีไล่คุณไสยออกจากตัว อาจารย์เม้ากับแสงโสมซึ่งดูแลอาการป่วยของคำแก้วจึงต้องปล่อยทั้งคู่เอาไว้ตามลำพัง
ขณะที่นายฮ้อยเคนทำพิธีไล่คุณไสยให้คำแก้ว นายฮ้อยผีถูกจับมัดมือเอาใส่กรงไม้ไผ่โดยมีสองผู้ช่วยโทนกับถึก บักมืดและสีโหนั่งล้อมวงพร้อมอาวุธในมือเตรียมสังหารทันทีหากเขาคิดหนี บักมืดแนะให้ฆ่ามันทิ้งตอนนี้เลย แล้วช่วยกันโกหกนายฮ้อยเคนว่ามันคิดหนี คนอื่นๆเห็นดีด้วย ผู้ช่วยโทนจึงอาสาจะเป็นคนจัดการเอง แล้วยกหน้าไม้ซึ่งลงอาคมไว้ขึ้นมาเล็งใส่นายฮ้อยผี
“มึงฆ่าครอบครัวนายฮ้อย ทำลายชีวิตเพิ่นจนย่อยยับ มึงเป่าหูให้นายฮ้อยไว้ชีวิตมึงได้จังได๋เว่ามา” ผู้ช่วยโทนเห็นนายฮ้อยผีนิ่งเงียบก็ยิ่งไม่พอใจ เตือนว่าตนเองไม่ได้ใจเย็นอย่างนายฮ้อยเคน
“กูบ่ต้องเป่าหูนายฮ้อยเคนดอก เพิ่นเป็นคนดีที่ซุมเจ้าควรเอาโตอย่าง คนจังซี้ล่ะต่อให้ต้องเผชิญหน้ากับความทุกข์ยากปานได๋ก็สิผ่านพ้นไปได้เบิ่ด”
ผู้ช่วยถึกไม่ต้องการฟังนายฮ้อยผีพล่าม บอกให้ผู้ช่วยโทนจัดการมันให้รู้แล้วรู้รอด เขายังไม่ทันจะง้างไกหน้าไม้ นายฮ้อยเคนเข้ามาห้ามเสียก่อนขืนเขาเป็นอะไรไป คำแก้วจะไม่รอด
“หมายความว่าจังได๋นายฮ้อย” ผู้ช่วยโทนมองนายฮ้อยเคนอย่างรอคำตอบ...
ครู่ต่อมานายฮ้อยเคนพยุงนายฮ้อยผีซึ่งไอตลอดเวลามาพบคำแก้วที่นอนหายใจรวยรินพลางเล่าให้ฟังที่เธอตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ก็เพราะถูกมีดอาคมของพวกเสือคำแสนทำคุณไสยเข้าตัว ตอนแรกนายฮ้อยเคนคิดว่าอาคมของตัวเองจะช่วยเธอได้แต่ด้วยความที่ไม่เคยเจอคุณไสยแบบนี้มาก่อนก็เลยไม่รู้จะรับมืออย่างไร นายฮ้อยผีรู้จักคุณไสยนี้ดีเพราะเป็นคนสอนเสือคำแสนเอง นายฮ้อยเคนดีใจถ้าเป็นอย่างนั้นเขาก็ช่วยเธอได้
นายฮ้อยผีพยักหน้าแล้วขยับเข้าไปใกล้ คำแก้วกลับถอยหนีทั้งที่เรี่ยวแรงแทบไม่เหลือ นายฮ้อยเคนต้องปลอบว่าไม่ต้องกลัว นายฮ้อยผีเป็นคนเดียวที่จะช่วยเธอได้ เธอไม่เชื่อว่าคนชั่วๆเยี่ยงมันที่ฆ่าครอบครัวนายฮ้อยเคน อีกทั้งยังตามล่าเรามาตลอดทางจะยอมช่วยเธอ นี่มันคงใช้อาคมเป่าหูเขาถึงไปหลงเชื่อ
ไม่ว่าจะกล่อมอย่างไร คำแก้วยืนกรานไม่ยอมให้นายฮ้อยผีเข้าใกล้ นายฮ้อยเคนจึงตัดสินใจบอกความจริงว่านายฮ้อยผีไม่ได้คิดร้ายกับเธอเพราะเธอเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของเขา เธอถึงกับอึ้ง
“อ้ายเอาอีหยังมาเว่า มันนี่บ่...คือพ่อของข้อย”
นายฮ้อยเคนยืนยันว่าเป็นเรื่องจริง และเพิ่งเข้าใจเหตุผลทำไมเฒ่าโสมถึงพยายามจะเอาตัวเธอไปจากเขาเพราะเธอเป็นลูกสาวของคนที่ฆ่าครอบครัวเขานี่เอง เฒ่าโสมถึงไม่อยากให้เราสองคนอยู่ด้วยกัน
“เป็นไปบ่ได้ อ้ายตั๊วข้อย...ข้อยบ่เซื่อ มันบ่แม่นพ่อข้อย” พูดได้แค่นั้นคำแก้วก็หมดสติ นายฮ้อยผีเตือนนายฮ้อยเคนว่าไม่มีเวลาแล้ว ต้องรีบไล่คุณไสยออกจากตัวเธอก่อนจะสายเกินไป
ooooooo
กาเหว่ากับกะปอมกลับไปยังกระท่อมกลางป่า พบเสือคำแสนนอนแน่นิ่งอยู่ที่พื้นท่ามกลางเครื่องรางของขลังที่กระจัดกระจายเกลื่อนห้อง รีบเข้าไปเขย่าแขนให้รู้สึกตัว ครั้นเขาลืมตาขึ้นมาได้ก็บ่นว่าหิว
“จังซั่นลูกพี่ถ่าข้อยคาวเดียว เดี๋ยวข้อยไปเบิ่งให้ว่ามีหยังเอามาให้ลูกพี่กินได้แน” กะปอมขยับจะไปแต่เสือคำแสนรั้งตัวไว้ ของที่ตนอยากกินไม่ใช่ของแบบเดียวกับที่เขากิน สองสมุนได้แต่มองหน้ากันงงๆ
จากนั้นไม่นาน กะปอมกับกาเหว่าพาตัวหญิงสาวชาวบ้านคนหนึ่งในสภาพถูกมัดมือมัดปากมาโยนลงตรงหน้าเสือคำแสน พลางออกตัวว่ากลัวลูกพี่จะรอนานก็เลยฉุดสาวมาได้แค่คนเดียวแถมหน้าตาก็ไม่สวยสะ ไม่รู้จะแก้ขัดได้หรือเปล่า เสือคำแสนไม่ได้สนใจหน้าตา ได้แค่นี้ก็ดีถมไปแล้ว กาเหว่ากระซิบกับกะปอม
“สงสัยลูกพี่สิเข้าญานฝึกวิชาโดนหลาย เลยหงุดหงิดงุ่นง่านอยากปล่อยของแล้วแก้เก้อกับเฮาว่าหิวว่ะ” พูดจบกาเหว่าหัวเราะชอบใจ แต่ต้องหุบยิ้มแทบไม่ทันเมื่อเห็นสายตากร้าวของลูกพี่ “ข้อยขอโทษ จังซั่นข้อยบ่อยู่กวนเวลาหิวๆโหยๆของลูกพี่แล้ว เฮาสิไปถ่านอกกระท่อมกันเด้อ” กาเหว่าว่าแล้วลากแขนกะปอมออกไป ทิ้งให้เสือคำแสนมองเหยื่อชะตาขาดที่เอาแต่ร้องไห้ด้วยความหิวโหย...
ที่แคร่หน้ากระท่อม กาเหว่ากับกะปอมคิดว่าลูกพี่ต้องการผู้หญิงมานอนด้วยแต่หลอกพวกตนว่าหิวก็พากันหัวเราะขำ ยิ่งได้ยินเสียงหญิงสาวกรีดร้องโหยหวนก่อนจะเงียบไป ทั้งคู่ก็ยิ่งหัวเราะชอบใจ
“คงสมใจลูกพี่อีหลีอีหลอแล้ว คงสิโหยหลาย หน้าตาบ่งามก็ยังบ่จม” กาเหว่าพูดไปหัวเราะไป
“กูชักอยากฮู้แล้วว่าลูกพี่สิจัดหนักจังได๋” กาเหว่าคิดได้ดังนั้นก็ชวนกะปอมแหวกผนังมุงจากแอบดู ต้องตกใจแทบสิ้นสติที่เห็นเสือคำแสนกำลังจกกินเครื่องในของหญิงสาวที่นอนตายอย่างน่าสยดสยอง ใบหน้าของเขาน่าเกลียดน่ากลัวไม่ต่างจากผีปอบ ทั้งคู่กอดกันกลมหวาดกลัวสุดขีด
“ปอบ! เสือคำแสนกลายเป็นปอบไปแล้ว”...
ในเวลาเดียวกัน ทัพควายของสุบินกับพวกเคลื่อนขบวนมาตามถนนลูกรังที่ทั้งร้อนและแห้งแล้ง ทุกคนเริ่มอ่อนล้าและกระหายน้ำเนื่องจากเดินทางมาหลายชั่วโมงแล้วแต่ไม่เจอแหล่งน้ำสักแห่ง ทิดแสงบ่นอุบเมื่อไหร่จะถึงแหล่งน้ำ พวกเราจะได้หยุดพัก สุบินกลับตอบอย่างยียวนว่ามาด้วยกันแท้ๆจะมาถามทำไม
“เห็นแหล่งน้ำหม่องได๋ก็หม่องนั่นล่ะ”
“เอ้า...บักห่านี่ มึงว่ามึงสินำทัพควายซุมกูไปเมืองล่าง ซุมกูก็ตามมึงต้อยๆเดินวนไปวนมาอยู่แถวนี่บ่ได้ไปไสจักเถื่อ แสดงว่ามึงบ่ฮู้ทางแม่นบ่” ทิดแสงต่อว่าฉอดๆ ระหว่างที่สุบินกับทิดแสงถกเถียงกันอยู่ มีลูกดอกพุ่งมาปักที่เกวียนใกล้ๆ ทุกคนต่างชะงัก ยังไม่ทันจะมีใครทำอะไร ลูกดอกอีกนับสิบดอกพุ่งเข้ามาไม่ขาดสาย ชาวทัพควายต่างวิ่งหาที่กำบังกันจ้าละหวั่น
ooooooo
คุณไสยในตัวคำแก้วถูกนายฮ้อยผีทำพิธีไล่ออกหมดแล้ว แต่เนื่องจากความอ่อนเพลียทำให้เธอนอนหลับไม่ฟื้น นายฮ้อยเคนต้องคอยดูแลเช็ดเนื้อตัวหน้าตาให้ ระหว่างนั้นแสงโสมเข้ามาถามว่าเธอเป็นอย่างไรบ้าง
“ดีขึ้นหลาย แต่ยังบ่ตื่น อ้ายก็เลยให้นอนพักไปหลายๆบ่อยากปลุก”
“แสดงว่าอาคมของนายฮ้อยผีซอยเอื้อยได้อีหลี”
นายฮ้อยเคนพยักหน้ารับคำ เห็นสีหน้าไม่สู้ดีนักของคู่สนทนาอดซักไม่ได้มีอะไรในใจหรือเปล่า
“ก็เฮื่องนายฮ้อยผีใช้อาคมไล่คุณไสยซอยชีวิตเอื้อยคำแก้วได้นี่ล่ะนายฮ้อย กำลังเฮ็ดให้หมู่เฮาผิดกันใหญ่โต” เล่าพลางแสงโสมถอนใจเฮือกๆอย่างหนักใจ พลอยทำให้นายฮ้อยเคนเป็นกังวลไปด้วย...
เป็นอย่างที่แสงโสมว่าไม่มีผิดเพี้ยน ชาวทัพควายจับกลุ่มถกกันถึงเรื่องนี้หน้าดำคร่ำเครียด ผู้ช่วยถึกมั่นใจนี่ต้องเป็นแผนชั่วของนายฮ้อยผีที่รู้ตัวว่ากำลังป่วยหนักสู้นายฮ้อยเคนไม่ได้ก็เลยส่งสมุนของเสือคำแสนมาดักเล่นงานคำแก้ว แล้วตัวมันก็ใช้อาคมช่วยเธอไว้เพื่อให้นายฮ้อยเคนตายใจ อาจารย์เม้าติงผู้ช่วยถึกคิดมากไปหรือเปล่า พูดแบบนี้ก็เท่ากับดูถูกว่านายฮ้อยเคนตามเล่ห์เหลี่ยมมันไม่ทัน
“คนมันเจ้าเล่ห์ นายฮ้อยอาจสิพลาดท่าก็ได้ ที่ผ่านมาคนของมันที่เฮาพ้อมาแต่ละคนก็เจ้าเล่ห์เทิ้งนั่น มันก็ต้องฝึกมาจากหัวหน้ามันนี่ล่ะ” เฒ่าอ่วมช่วยเสริม ผู้ช่วยโทนเตือนให้นายฮ้อยเคนรีบจัดการนายฮ้อยผีก่อนที่จะพาเสือคำแสนมาเล่นงานพวกเรา นายฮ้อยเคนยืนยันว่านายฮ้อยผีกลับตัวกลับใจแล้ว ทุกคนเข้าใจผิดไปเอง เฒ่าเข่งไม่เชื่อว่าคนชั่วที่ฆ่าคนมาทั้งชีวิตอยู่ๆจะกลับตัวกลับใจได้
“แม่นอยู่นายฮ้อย แล้วก็อย่าบอกว่าพอใกล้ตายเลยอยากกลับโตกลับใจ ฟังบ่ขึ้น” เฒ่าแต้มเสริม
“ที่นายฮ้อยผีคึดกลับโตกลับใจตอนนี่บ่แม่นว่าป่วยใกล้ตายอย่างเดียวดอก”
“แล้วมีเหตุผลอีหยังล่ะนายฮ้อย บอกพวกข้อยมาโลด เผื่อข้อยสิเซื่อตามนายฮ้อย” สีโหคาดคั้น นายฮ้อยเคนมีสีหน้าหนักใจอย่างเห็นได้ชัดเนื่องจากไม่อยากให้ใครล่วงรู้เรื่องที่คำแก้วเป็นลูกของนายฮ้อยผี...
ด้านคำแก้วลืมตาตื่นขึ้นมาก็ขอร้องให้แสงโสมพาไปหานายฮ้อยผี ฝ่ายหลังพยายามห้ามปราม แต่
เธอไม่ฟังยืนกรานจะคุยกับนายฮ้อยผีให้ได้ แล้วก้าวไปยืนหน้ากรงไม้ไผ่ซึ่งล้อมไว้ด้วยแนวอาคมที่นายฮ้อยเคนทำไว้ไม่ให้คนเข้าใกล้ นายฮ้อยผีเงยหน้าขึ้นมาเห็นคำแก้วก็ร้องทักด้วยความดีใจ
“เจ้าดีขึ้นแล้วอีหลี ข้อยซอยไล่คุณไสยออกจากโตเจ้าเบิ่ดแล้ว อีกบ่จั๊กมื้อเจ้าก็จะกลับมาคือเก่า”
“หุบปาก ตอบเฉพาะคำถามที่ข้อยถามเจ้าเถาะนั่น เว้าความจริงมา”
นายฮ้อยผีเล่าความจริงให้นายฮ้อยเคนฟังหมดแล้ว หากคำแก้วอยากรู้อะไรก็ให้ไปถามเขาได้ เธอไม่เชื่อว่าตัวเองเป็นลูกสาวแท้ๆของคนชั่วอย่างเขา
แสงโสมได้ฟังถึงกับตะลึง นายฮ้อยผีอ้างที่บอกความจริงให้นายฮ้อยเคนรู้ก็ไม่ได้หมายความว่าตนอยากได้ยินเธอเรียกว่าพ่อก่อนจะตายสักหน่อย คำแก้วอยากรู้ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่ เขาแค่อยากไถ่บาปที่เคยก่อกรรมไว้
“ให้เจ้าได้มีชีวิตที่สุขซำบาย บ่ต้องทุกข์ยากอีกต่อไป ซำนั่นก็พอใจแล้ว”
ooooooo
ผู้ช่วยโทนยังคงคาดคั้นให้นายฮ้อยเคนบอกเหตุผลทำไมถึงมั่นใจว่าคนชั่วอย่างนายฮ้อยผีจะกลับตัวกลับใจได้ เขาได้แต่อึกอัก พลันมีเสียงคำแก้ว
ดังขึ้นว่าเหตุผลที่เขามั่นใจอย่างนั้นเพราะนายฮ้อยผีคือพ่อที่แท้จริงของเธอ แล้วขอร้องทุกคนอย่าไปตำหนินายฮ้อยเคนที่ต้องการปกป้องเธอไม่ให้เป็นที่รังเกียจที่มีพ่อเป็นคนชั่ว
“ข้อยเองพอได้ฮู้ก็ยังบ่อยากเชื่อ แต่มันคือความจริงอีหลีและคึดว่าที่อ้ายเคนตั้งใจพานายฮ้อยผีมาก็ย่อนว่าต้องการให้ข้อยเป็นผู้ตัดสินใจ”
“แม่นแล้วคำแก้ว นี่คือชะตาชีวิตเจ้า เจ้าควรเป็นผู้ตัดสินเอง บ่แม่นผู้อื่น”
คำแก้วยิ้มให้นายฮ้อยเคนเหมือนจะยอมรับความจริงแต่ภายใต้รอยยิ้มนั้นกลับมีบางอย่างซ่อนอยู่...
ในเวลาต่อมา นายฮ้อยเคนประคองนายฮ้อยผีที่ไอตลอดเวลาออกจากกรงไม้ไผ่มานั่งข้างกองไฟ
ผู้สูงวัยกว่าขอบใจเขามากที่ช่วยไว้ เขาบอกให้ไปขอบใจคำแก้วจะดีกว่าเพราะเป็นคนช่วยพูดให้ทุกคนยอมไว้ชีวิตนายฮ้อยผี และหากไม่เหลือบ่ากว่าแรงก็อย่าเพิ่งตาย พรุ่งนี้ตำรวจจะมารับตัวไปชดใช้กรรมในคุก
“ตอนที่ฮู้ว่าเจ้านำทัพควายออกเดินทางเถื่อนี่ ข้อยมั่นใจว่าความทุกข์ยาก ความแตกแยกต้องเฮ็ดให้เจ้าทนถูกคุณไสยครอบงำบ่ได้ แต่สุดท้ายเจ้าก็ยังรักษาคุณงามความดี ยังเป็นผู้นำที่แข็งแกร่งได้ เจ้านี่แหละคือนายฮ้อยผู้ยิ่งใหญ่อีหลี” นายฮ้อยผีพูดได้แค่นั้น คำแก้ววิ่งหน้าตื่นเข้ามาแจ้งว่าบุญเพ็งบาดเจ็บกลับมา
“...มาถึงก็เล่าให้ฟังว่าทัพควายที่แยกโตไปถืกโจรปล้น ตอนนี่บ่ฮู้ว่าเป็นตายฮ้ายดีหยังบ่”
นายฮ้อยเคนใจคอไม่ดีเป็นห่วงพรรคพวก แต่ก็ไม่วางใจจะให้คำแก้วอยู่กับนายฮ้อยผีตามลำพัง จึงถอดสร้อยเขียวเสือโปร่งฟ้าให้เธอสวมไว้จะได้แคล้วคลาดจากอาคมทั้งปวง
“อ้าย...แต่เขี้ยวเสือโปร่งฟ้าคุ้มครองอ้ายมาตลอด”
“ตอนนี่อ้ายก็อยากให้คุ้มครองเจ้าจังได๋ล่ะ”
นายฮ้อยเคนยิ้มให้คำแก้วแล้วผละจากไป นายฮ้อยผีเหมือนจะเดาใจเธอออก ในเมื่อเราได้อยู่กันตามลำพังแล้ว มีอะไรคาใจกับตนก็ให้พูดมาได้เลย เธอยอมรับว่าขยะแขยงมากที่ต้องโกหกคนอื่นว่ายอมรับเขาเป็นพ่อทั้งที่อยากเป็นคนจบชีวิตเขาแทนนายฮ้อยเคนด้วยซ้ำ นายฮ้อยผีได้แต่มองเธออึ้ง ไม่คิดว่าความเกลียดชังที่เธอมีต่อตัวเองจะรุนแรงขนาดนี้...
ฝ่ายนายฮ้อยเคนเห็นบุญเพ็งอาการบาดเจ็บดีขึ้น จึงซักถามว่าเกิดอะไรขึ้นกับทัพควาย ได้ความว่าหลังจากผู้ช่วยถึกกับสีโหแยกตัวไป สุบินพาทัพควายหลงทางไปเจอกับพวกเสือเซียง สีโหทักท้วงจะเป็นไปได้อย่างไรในเมื่อเสือเซียงถูกตำรวจจับตัวไปแล้ว บุญเพ็งยืนยันว่าเป็นเสือเซียงจริงๆ พวกตนพยายามต่อสู้เต็มที่แล้วแต่สู้ไม่ได้ ถูกฆ่าตายไปหลายคนจนต้องหนีตายยอมให้พวกมันเอาควายไป
“นายฮ้อยซอยซุมข้อยที่เหลือนำ หลายคนอยากกลับมาหานายฮ้อยแต่ย่านว่านายฮ้อยสิบ่ให้อภัย”
“มาฮู้โตตอนนี่ว่าคนที่ปกป้องได้คือนายฮ้อยผู้เดียวก็สายไปแล้ว นายฮ้อยมีเฮื่องสำคัญกว่า ตามไปซอยบ่ได้ดอก” บักมืดตัดบท นายฮ้อยเคนต้องปรามไม่ให้เขาพูดแบบนี้อีก
“สิเอาจังได๋ล่ะนายฮ้อย” คำถามของอาจารย์เม้าทำให้นายฮ้อยเคนครุ่นคิดหนัก
ooooooo
คำแก้วยังคงคุยเปิดอกกับนายฮ้อยผีอยู่ที่กองไฟหน้ากรงไม้ไผ่
“คั่นเจ้าอยากไถ่บาปที่เคยเฮ็ดไว้กับข้อยอีหลี เป็นหยังตอนนั่นเจ้าถึงบ่ออกมาจัดการบักคำแสนให้ข้อย มาอวดอ้างเอาตอนนี่ว่าเป็นพ่อข้อย อยากยกสมบัติไถ่บาปให้ข้อยตอนนี่เฮ็ดหยัง”
“ตอนนั่นข้อยยังบ่ฮู้ว่าเฒ่าโสมเอาเจ้าไปฝากเลี้ยงไว้ที่สว่างแดนดิน จนเกิดเฮื่องเสือคำแสนแก้แค้นฆ่าเมียนายฮ้อยเคนนั่นล่ะ ข้อยถึงได้ฮู้ว่าเจ้าอยู่หม่องนั่น”
“เจ้าฮู้ แต่เจ้าก็ยังซอยเหลือเสือคำแสน”
“ข้อยบ่ได้ซอยเหลือเสือคำแสน แต่ข้อยหลอกใช้มันให้หลงเชื่อว่าสามารถฆ่านายฮ้อยเคนได้ แล้วข้อยนี่ล่ะที่สิลงมือฆ่ามันให้เจ้าเซื่อว่า ข้อยอยากไถ่บาปให้เจ้า” พูดได้แค่นั้นนายฮ้อยผีไอโขลกๆจนตัวโยน คำแก้วโวยใส่คิดว่าทำแบบนี้แล้วจะทำให้เธอเรียกเขาว่าพ่ออย่างนั้นหรือ
“ข้อยฮู้ว่าคนคือเจ้าบ่มีทางยอมรับดอก ในเมื่อศัตรูที่แท้จริงของเจ้ากับนายฮ้อยเคนคือบักคำแสน ข้อยก็สิซอยจัดการมันให้เอง” พูดจบนายฮ้อยผีค่อยๆยันตัวลุกขึ้น คำแก้วไม่ไว้ใจหันไปคว้ามีดขึ้นมากระชับในมือ...
ระหว่างที่นายฮ้อยเคนกับพวกตกลงใจจะไปช่วยสุบินกับเหล่าทัพควายที่โดนเสือเซียงเล่นงาน แสงโสมประคองคำแก้วเข้ามา นายฮ้อยเคนตกใจถามว่าเกิดอะไรขึ้น ถูกนายฮ้อยผีเล่นงานเอาหรือ
คำแก้วพยักหน้า
“มันหักหลังเฮาแล้วนายฮ้อย” บักมืดโวยวายจะตามไปเอาเรื่อง คำแก้วรีบบอกว่านายฮ้อยผีไม่ได้หักหลัง สีโหไม่เข้าใจถ้าไม่ได้หักหลังแล้วทำไมถึงต้องเล่นงานเธอด้วย คำแก้วไม่ตอบคำถาม หันไปทางนายฮ้อยเคน
“นายฮ้อยผีอยากพิสูจน์โตเอง อยากให้ทุกคนเชื่อว่าการศรัทธาต่อความดี การให้โอกาสคนของอ้ายสามารถเฮ็ดให้คนชั่วกลับโตกลับใจได้อีหลี นายฮ้อยผีก็เลยจะไปฆ่าเสือคำแสนบ่ให้ตามรังควานเฮาอีก”
นายฮ้อยเคนเป็นห่วงนายฮ้อยผีซึ่งป่วยหนักสั่งให้พวกผู้ช่วยกับสีโหช่วยกันออกตามหา แต่ไม่พบแม้เงา...
ไม่ห่างจากกระท่อมที่เสือคำแสนใช้เป็นที่ซ่อนตัว กะปอมกำลังโยนศพหญิงสาวที่ถูกเสือคำแสนควักตับไตไส้พุงไปกินลงไปในหลุม ยังไม่ทันจะฝังกลบ กาเหว่าลากศพหญิงสาวอีกศพหนึ่งเข้ามา กะปอมโวยลั่นศพนี้ยังฝังไม่ทันเสร็จ ลากมาอีกศพแล้วหรือ
“หรือมึงสิให้ลูกพี่ควักไส้จกตับมึงออกมากินล่ะ ถ้ามึงบ่อยากให้เป็นจังซั่นก็ฟ้าวฝังศพอีพวกนี้ให้เสร็จ แล้วก็บ่ต้องกลบดอก กูว่าลูกพี่กลายเป็นปอบไปแล้วจังซี้ คงต้องหาเหยื่อมาให้กินอีกหลาย”
“ขนลุกโว้ย กูยอมใจลูกพี่เลยอีหลี อยากเป็นจอมขมังเวทหลาย ยอมแม้กระทั่งให้คุณไสยเข้าโต เปลี่ยนโตเองให้กลายเป็นปอบก็เอา” กะปอมบ่นไม่ทันขาดคำมีลมพัดกระโชกเข้ามา ทำเอาสองสมุนขวัญหนีดีฝ่อโดดกอดกันกลม ครั้นตั้งสติได้พากันวิ่งหน้าตั้งกลับกระท่อม พร้อมกับร้องเรียกเสือคำแสนเสียงลั่น ลมพัดกระหน่ำหอบเอาฝาเรือนที่ทำด้วยใบจากหลุดกระเด็นเฉียดกาเหว่ากับกะปอมหวุดหวิด
พอทั้งคู่หันกลับไปมองที่กระท่อมอีกครั้งต้องตกใจเมื่อเห็นเสือคำแสนในชุดดำก้าวออกมาด้วยใบหน้าถมึงทึง ทันใดนั้นฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมาใกล้ๆ แสงจากฟ้าแลบทำให้ใบหน้าปกติของเสือคำแสนเปลี่ยนเป็นใบหน้าน่าเกลียดน่ากลัวซ้อนทับใบหน้าเดิม
สองสมุนถึงกับผงะหวาดกลัวสุดขีด
“ลูกพี่...บ่ไหวแล้ว เป็นตาย่านหลาย กู...กูบ่ไหวแล้ว” กะปอมวิ่งหนีไม่คิดชีวิต แต่เสือคำแสนใช้อาคมกระชากร่างกะปอมกลับมาแล้วถูกบีบคอไว้แน่น ขู่ถ้าไม่อยากจะเป็นลูกน้องของตนอีก ตนก็จะควักหัวใจเขาออกมากินให้สิ้นเรื่องสิ้นราว กะปอมยกมือไหว้ปลกๆร้องลั่นว่ากลัวแล้วซ้ำๆอยู่อย่างนั้น กาเหว่ารู้งานทรุดลงคุกเข่ากับพื้นยกมือไหว้ท่วมหัว ปากคอสั่นจะไม่คิดคดทรยศ ไม่คิดหนีเสือคำแสนไปไหนทั้งนั้น
“ตอนนี่กูพร้อมแล้ว กูคือจอมขมังเวทที่ทุกคนต้องย่าน เทิ้งนายฮ้อยผี นายฮ้อยทมิฬ พวกมันต้องย่านกูผู้เดียว” เสือคำแสนเหวี่ยงกะปอมไปกองใกล้ๆกาเหว่าแล้วคว้าหมวกปีกกว้างสีดำมาสวมก่อนจะเดินออกไป
ooooooo
เฒ่าอ่ำ ทิดแสงและสุบินอุตส่าห์หนีไปซ่อนตัวอยู่ในป่าแต่ไม่พ้นมือเสือเซียงกับสมุนที่ตามล่าจนเจอตัว
ในเวลาไล่เลี่ยกัน สามผู้เฒ่า แต้ม เข่งและอ่วมรวมทั้งจ่อยได้รับมอบหมายให้ไปซุ่มดูชุมโจรของเสือเซียง แต่จ่อยเฟอะฟะเดินเหยียบกิ่งไม้ทำให้เกิดเสียงดัง สมุนเฝ้ายามหันขวับมองมาทางต้นเสียงทันที เฒ่าอ่วมสั่งให้จ่อยรับผิดชอบกับความผิดพลาดไม่อย่างนั้นพวกเราจะถูกจับกันหมด เขาจำใจเดินแหวกพุ่มไม้เข้าไปหาสมุนเฝ้ายาม อ้างเดินหลงทางมาแล้วชวนสมุนคุยเพื่อดึงความสนใจ
สมุนฟังจ่อยคุยน้ำไหลไฟดับได้แค่อึดใจก็รำคาญจะยิงทิ้งให้สิ้นซาก จ่อยหน้าเสียหลับตาปี๋คิดว่าตายแน่ แต่สามผู้เฒ่าย่องมาด้านหลังเล่นงานสมุนหลับกลางอากาศ จ่อยถึงกับถอนใจโล่งอก...
จากนั้นไม่นาน ขณะนายฮ้อยเคนกับพวกกำลังซุ่มดูความเคลื่อนไหวของเหล่าโจรอยู่อีกมุมหนึ่ง สีโหเข้ามารายงานว่าพวกผู้เฒ่าจัดการสมุนเฝ้ายามทางโน้นได้แล้ว นายฮ้อยเคนพยักหน้ารับรู้ เท่าที่ตัวเองสังเกตดู พวกโจรแต่ละคนฝีมือไม่ธรรมดา
“มันตั้งใจแหกคุกกลับมาแก้แค้นเฮาแน่” ผู้ช่วยถึกตั้งข้อสังเกต นายฮ้อยเคนเตือนทุกคนให้ระวังตัวดีๆ เพราะตนคงไม่สามารถตามไปใช้อาคมช่วยทุกคนได้ บักมืดรีบเสนอตัวเป็นผู้ติดตามเขา ผู้ช่วยถึกไม่วายแขวะไหนบักมืดคุยว่าเก่งสารพัดวิชาการต่อสู้ จะต้องไปตามก้นนายฮ้อยเคนทำไม
“ของดีมันก็ต้องใช้ยามจำเป็นเถาะนั่นผู้ซอย” บักมืดโต้ไม่ยอมแพ้ นายฮ้อยเคนรำคาญรีบตัดบท
“เอาล่ะๆ บักมืดไปกับข้อย ส่วนผู้ซอยโทนผู้ซอยถึก บักสีโห เจ้าจัดการกับพวกเวรยามทางนั่นแล้วปลอมตัวปะปนเข้าไปหาว่าหมู่เฮาถูกจับโตไว้อยู่ไส”
ผู้ช่วยโทนรับคำแล้วพาสีโหกับผู้ช่วยถึกแยกไป พอไปถึงจุดหมาย ทั้งสามคนย่องเงียบเข้าไปจัดการกับพวกสมุนเฝ้ายามได้ราบคาบ แต่สมุนอีกคนหนึ่งโผล่มาจากไหนไม่รู้เห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ชักปืนจะยิงสีโห
ผู้ช่วยถึกหันมาเห็นพอดีสะบัดมีดสั้นใส่อกสมุนตายคาที่ ทำให้สีโหรอดหวุดหวิด เขาขอบใจผู้ช่วยถึกที่ช่วยชีวิตไว้
“อย่าฟ้าวตามไปอยู่กับบัวเขียวเลยสีโห อยู่ซอยนายฮ้อยกับหมู่เฮาดีกว่า”
สีโหยิ้มรับแล้วตบบ่าผู้ช่วยถึกด้วยความซาบซึ้งใจ จังหวะนั้นผู้ช่วยโทนเข้ามาตามให้ไปดูทางด้านนี้ แล้วพาไปที่กระท่อมหลังหนึ่ง พบหญิงสาวหลายคนถูกจับมัดมือมัดปากกักขังเอาไว้ พอพวกเธอเห็นผู้ชายเข้ามาก็พากันตระหนกตกใจ ผู้ช่วยโทนต้องปลอบให้ใจเย็นๆไม่ต้องกลัว พวกตนไม่ใช่โจร
“ข้อยลอบมาซอยพวกค้าควายของข้อยที่ถืกปล้น” พูดจบผู้ช่วยโทนเข้าไปช่วยกันกับผู้ช่วยถึกและสีโหแก้มัดพวกสาวๆ พลางถามว่าทำไมถึงถูกโจรจับตัวมา หรือจะเอาตัวไปส่งซ่อง หนึ่งในหญิงสาวส่ายหน้า
“ข้อยได้ยินซุมมันคุยกันว่ามันสิส่งข้อยให้ไปเป็นเหยื่อของเสือคำแสน”
สามหนุ่มมองหน้ากันด้วยความแปลกใจ
ooooooo
สมุนของเสือเซียงลากตัวสุบิน เฒ่าอ่ำและทิดแสงในสภาพหน้าตาบวมปูดมาขังรวมไว้กับชาวทัพควายที่ถูกจับตัวได้ก่อนหน้านี้ จันทาถึงกับบ่นอุบนึกว่าสุบินหนีรอดไปขอความช่วยเหลือนายฮ้อยเคนได้แล้ว สุบินโทษว่าเป็นความผิดของเฒ่าอ่ำทำให้ตนต้องถูกจับ คนถูกโยนความผิดให้ไม่พอใจเถียงฉอดๆ
“เซาๆๆ บ่ต้องมาโทษกันเองแล้ว เบิ่งนั่น” ทิดแสงชี้ให้ดูเสือเซียงที่กำลังนั่งลับคมดาบอย่างสบายอารมณ์
“บักห่าเสือเซียงนั่นมันเป็นโจรบ้าไปแล้ว ก่อนซุมเจ้าถูกจับโตมา มันเพิ่งจับข้อยแหกตาให้ทนเบิ่งมันปาดคอคนเป็นๆ มันว่ามันมักหลาย” จันทามองเสือเซียงอย่างสยองขวัญ ระหว่างนั้นนายฮ้อยเคนกับบักมืดย่องเข้ามาเจอสุบินกับพวกถูกจับตัวรวมไว้กับชาวทัพควาย และเห็นเสือเซียงลับดาบจนคมกริบแล้วลองฟันมะพร้าวขาดครึ่งก็พอจะเดาออกว่ามันจะจับคนมาเชือด บักมืดส่ายหน้าแบบนี้ได้ตายกันหมดแน่
“ข้อยบ่ป๋าให้มันฆ่าคนของเฮาดอก” นายฮ้อยเคนยังไม่ทันจะขยับเข้าไปช่วย จ่อยเข้ามารายงานเสียก่อน
“ซุมผู้เฒ่าให้ข้อยมาบอกว่าพ้อควายของหมู่เฮาที่ถืกปล้นมาแล้ว แต่ยังต้อนฝูงควายออกไปบ่ได้ พวกมันต้องฮู้โตก่อนแน่”
“เจ้าฟ้าวกลับไปบอกซุมผู้เฒ่าให้ถ่าสัญญาณบักมืด ถ้าระเบิดดังขึ้นเมื่อได๋ให้ต้อนควายไปจากหม่องนี่ทันที” คำพูดของนายฮ้อยเคนทำให้บักมืดหน้าเสียนี่จะให้ตนเป็นมือระเบิดจริงหรือ เขาพยักหน้าแทนคำตอบ...
หลังจากลับดาบเสร็จ เสือเซียงตรงมาที่กลุ่มของสุบิน เลือกเฒ่าอ่ำเป็นเหยื่อรายแรกทดลองความคมของดาบ เฒ่าอ่ำกลัวตายร้องขอชีวิตเสียงลั่น แถมตะโกนขอให้นายฮ้อยเคนมาช่วย เสือเซียงหัวเราะชอบใจ บอกให้เรียกนายฮ้อยเคนมาได้เลย ตนกำลังรอเอาคืนมันอยู่ แล้วควงดาบเข้าหาเฒ่าอ่ำ ยังไม่ทันจะฟันใส่ สมุนคนหนึ่งกระเด็นเข้ามาสลบเหมือดแทบเท้า โดยมีนายฮ้อยเคน
เดินหน้าเหี้ยมตามเข้ามา
“มึงอยากเอาคืนกูก็มาลงที่กูนี่ บักเซียง ป๋าซุมกูไปได้แล้ว บ่จังซั่นเถื่อนี่มึงกับพวกเทิ้งเบิ่ดสิได้เจ็บโตหลายกว่าเก่าแน่”
“ซุมกูเป็นซุมบ่ย่านความตาย อยากเซาซุมกูมึงก็ต้องฆ่ากูเถาะนั่น บักนายฮ้อยทมิฬ” เสือเซียงท้าทายไม่เกรงกลัว นายฮ้อยเคนชักมีดอาคมขึ้นมาพลางบริกรรมคาถา เกิดลมพัดกระโชกแรงเพราะฤทธิ์เดชอาคมของเขา ทั้งฝุ่นทั้งเศษใบไม้ปลิวว่อน พวกสมุนพากันมองหน้าเลิ่กลั่ก
ขณะที่นายฮ้อยเคนเตรียมจะเล่นงานเสือเซียงกับพวก บักมืดลอบเข้ามาที่กระท่อมของพวกโจรซึ่งใช้เป็นที่เก็บเหล้า มีไหเหล้าวางเรียงรายกันเต็มไปหมด เขาจัดการสมุนเฝ้ายามเรียบร้อยก็เอาแท่งระเบิดยัดไว้ตามผนังกระท่อม จากนั้นก็จุดไฟที่ชนวนระเบิด ก่อนจะวิ่งหนี...
เสือเซียงเห็นเหล่าสมุนพากันกลัวอาคมของนายฮ้อยเคนก็สั่งการเสียงกร้าว
“บ่ต้องไปย่านอาคมมัน พวกเฮามีมากกว่า ฆ่ามันให้เบิ่ด อย่าให้รอดไปได้แม้แต่คนเดียว”
แม้จะกลัวนายฮ้อยเคนแต่ก็ไม่กล้าขัดคำสั่งเสือเซียง เหล่าสมุนพากันดาหน้าเข้าหาศัตรู นายฮ้อยเคนสะบัดมือออกไปเบื้องหน้า แรงอัดกระแทกสมุนล้มกลิ้งล้มหงาย เป็นจังหวะเดียวกับมีเสียงระเบิดที่บักมืดจุดดังขึ้น ยิ่งทำให้สมุนกลัวหัวหดพากันทิ้งอาวุธวิ่งหนี เสือเซียงถูกทิ้งไว้เพียงลำพังก็เกิดกลัวตายขึ้น รีบวิ่งตาม นายฮ้อยเคนเป็นห่วงชาวทัพควายจำต้องปล่อยให้เขากับพวกหนีรอดไปได้
ooooooo










