ตอนที่ 10
พิมภานั่งหน้าเครียดตลอดทางกลับบ้าน เสียความรู้สึกมากที่ฤชวีโกหก ตรีวิญลอบมองด้วยความพอใจแล้วแกล้งถามถึงฤชวี พิมภาสะเทือนใจแต่พยายามสะกดไว้ เสียงมือถือเธอดังขึ้น ภัทรพลโทร.มาบ่นน้องสาว
“ทำไมแกไม่กลับพร้อมคุณต้น สามีกลับถึงบ้านตั้งนานแล้ว แกแผลงฤทธิ์อะไรกับเขาอีกหรือเปล่า”
“คุณต้นเขาถูกคุณย่าเรียกตัวด่วน เขาไม่ได้บอกพี่ภัทรเหรอ...หรือว่าบอกไม่ตรงกัน”
พิมภาบอกว่าใกล้ถึงบ้านแล้วและกดวางสายอย่างเซ็งจัด ตรีวิญแสร้งทำเป็นไม่สนใจแต่แววตาแอบยิ้ม
หลังวางสายจากพิมภา...ภัทรพลติดใจน้ำเสียงประชดประชันของน้อง ซักไซ้จนได้ความว่าฤชวีหนีไปทำธุระสำคัญที่บอกพิมภาไม่ได้เลยเลือกโกหก ภัทรพลส่ายหน้าอย่างเวทนาในความซื่อจนเซ่อของน้องเขยที่คิดว่าการโกหกเป็นการแก้ปัญหา พิมมาลากับภาณุวัฒน์นั่งฟังอยู่นาน อดไม่ได้ถามขึ้น
“ผู้ชายคิดว่าโกหกเป็นการรักษาน้ำใจ ดีกว่าให้รู้ความจริงที่เขาไม่อยากรู้ แล้วอยากรู้มุมมองผู้หญิงบ้างไหมล่ะ”
“ว่ามาสิแม่...ถ้าผู้ชายบอกความจริงจะโกรธไหม” ภาณุวัฒน์ถามนำ
“โกรธ...แต่ยังดีกว่าโกหก เพราะจะทำให้เรื่องบานปลาย โดยเฉพาะถ้ารู้จากคนอื่น แต่ถ้าโชคร้ายสืบรู้เอง...นึกภาพออกไหมว่าจะเป็นยังไง”
ฤชวีรู้ตัวว่าพลาดครั้งใหญ่ แต่ยังไม่ทันแก้ตัว พิมภาก็กลับมาก่อนพร้อมตรีวิญ ฤชวีเซ็งหนักกว่าเดิม จ้องหน้าเธอนิ่งแต่ไม่พูดอะไร พิมภามองตอบอย่างไม่ยอมแพ้ ทุกคนในห้องเครียดจัด ยกเว้นตรีวิญที่ลอบยิ้มอย่างสมใจ
ฤชวีทนความอึดอัดใจไม่ไหว โพล่งขึ้นอย่างเหลืออดกลางดึกคืนนั้น พิมภาตอกกลับอย่างเคืองๆ เรื่องที่เขาแอบไปกับปราสินี ฤชวีเหวอเพราะไม่คิดว่าหญิงสาวจะรู้ พิมภาเห็นว่าชายหนุ่มไม่แก้ตัวก็ยิ่งโกรธ
“บอกไม่ได้ใช่ไหม...โอเคค่ะ เราต่างมีพื้นที่ส่วนตัว มีเรื่องไม่จำเป็นต้องบอกให้อีกฝ่ายรู้”
ฤชวีเห็นท่าไม่ดี ตัดสินใจบอกความจริงแต่พิมภาของขึ้นไม่อยากฟัง ตัดบทแล้วล้มตัวลงนอน ฤชวีถอนใจหนักๆ แล้วนอนหันหลังให้หญิงสาว...ท่าทางเรื่องจะไปกันใหญ่อย่างที่พิมมาลาบอกจริงๆ
พิมภาไปทำงานเช้าวันถัดมาอย่างไม่สดชื่นนักเพราะยังเคืองฤชวี ตรีวิญลอบมองหญิงสาวคร่ำเคร่งกับงานอย่างหลงใหลและหาโอกาสสานสัมพันธ์ พิมภามองออกว่าเจ้านายหนุ่มต้องการอะไร ตัดสินใจพูดตรงๆ
“พิมไม่รู้ว่าเข้าใจถูกไหม แต่พิมแต่งงานและมีสามีแล้ว เรื่องที่คุณจะพูด...พิมคิดว่าไม่สมควร”
พิมภาขอตัวไปทำงานที่ห้อง ตรีวิญตามมายื้อข้อมือเธอไว้ พิมภามองที่มือเขาแล้วแกะออกอย่างสุภาพ
“คุณตรีวิญที่พิมเคยรู้จักไม่เป็นแบบนี้นะคะ กรุณาให้เกียรติพิม และให้เกียรติตัวคุณเองด้วยนะคะ”
พิมภาออกไปแล้ว ตรีวิญมองตามด้วยแววตา กร้าวขึ้น พึมพำกับตัวเองเบาๆ
“คุณเป็นคนทำให้ตัวตนของผมออกมาไงพิมภา...ยังไงผมก็จะไม่ยอมแพ้”
ขณะที่เรื่องของพิมภากับฤชวียังไม่เคลียร์...การะเกตุวางแผนแทรกแซงความสัมพันธ์ด้วยการหาตัวช่วย หญิงสาวโทร.นัดตรีวิญออกมาพบ เล่าเรื่องที่ตัวเองเป็นคู่หมั้นคู่หมายตัวจริงของฤชวี ส่วนพิมภามาทีหลังและหลอกให้แต่งงานด้วย ตรีวิญมองหญิงสาวอย่างประเมิน การะเกตุหมั่นไส้ท่าทางหยิ่งๆ เลยแขวะเสียงหยัน
“ยากไหมคะ...การรักษาภาพให้ดูเป็นคนดีตลอดเวลา ทั้งที่ความจริง...คุณเองก็อยากได้เมียคนอื่นจนตัวสั่น”
ตรีวิญสะอึกแต่ยังเก็บอาการ ขยับจะลุกหนีแต่การะเกตุชิงพูดเสียก่อนว่าพิมภากับฤชวีไม่ใช่สามีภรรยากันจริงๆ ตรีวิญชะงัก มองหญิงสาวด้วยแววตาเปลี่ยนไป การะเกตุได้ทีประกาศว่าต้องการคู่หมั้นคืน ตรีวิญสวนกลับเสียงเรียบ
“คุณเลยคิดใช้ผมเป็นเครื่องมือแยกคุณพิมกับสามีออกจากกัน คุณการะเกตุบังคับผมไม่ได้หรอกครับ”
“ทำไมฉันต้องบังคับคุณให้เหนื่อยล่ะ ในเมื่อคุณก็อยากทำอยู่แล้ว เป็นคนดีแต่ต้องแพ้ คุณอยากเป็นหรือคะ”
การะเกตุมองมาอย่างรู้ทัน ตรีวิญหน้าเครียดคิดหนัก...หรือบางทีเขาจะต้องลองวิธีอื่นดูบ้าง
ooooooo
สถานการณ์ระหว่างฤชวีกับพิมภายังไม่ดีขึ้น ต่างคนต่างทำงานและหลบเลี่ยงกันตลอดเวลา พิมมาลา กับภาณุวัฒน์มองด้วยความอ่อนใจ พยายามกล่อมให้ทั้งสองปรับความเข้าใจกัน
“พ่อเนี่ยนะคุณต้น...ไม่เคยปล่อยให้เรื่องไม่เข้าใจกันเป็นชนวนความบาดหมาง”
“ส่วนแม่ก็ไม่เคยฟังคำพูดใคร นอกจากคำพูดที่ออกจากปากของพ่อ...เข้าใจไหมยายพิม”
สองสามีภรรยากำมะลอพยักหน้าเข้าใจแต่ยังไม่ยอมพูดกัน เตรียมแยกย้ายเข้ามุมของตน พิมมาลากับ ภาณุวัฒน์หนักใจ ภัทรพลส่ายหน้าปลงๆ เตือนพ่อแม่ไม่ให้ ยุ่งเรื่องของผัวเมีย เพราะจะทำให้เรื่องมันวุ่นวายกว่าเดิม
ฝ่ายพิมภา...ไม่อยากเห็นหน้าฤชวี ตัดสินใจไปขับรถเล่นเพื่อระบายความหงุดหงิด ฤชวีตามมาปรับความเข้าใจ กระโจนเข้าขวางรถ พิมภายิงคำถามคาใจเรื่องปราสินีแต่ชายหนุ่มยืนยันว่าบอกไม่ได้ พิมภาเหลืออด เร่งเครื่องเต็มที่พุ่งหาเขา ฤชวีตกใจแต่ยังพอมีสติ หาจังหวะมานั่งบนรถและเอื้อมมือไปบิดกุญแจดับเครื่อง พิมภายื้อยุดจนพลาดท่าหลุดไปดิ้นขลุกขลักในอ้อมแขนชายหนุ่ม ฤชวีกอดแน่นเพื่อปราบพยศและพยายามชี้แจงเสียงอ่อน
“ฟังผมนะคุณพิม...ผมแค่อยากจะรักษาสัญญาที่ให้กับคุณปลาไว้ แต่ผมก็ไม่อยากให้เรื่องนี้ทำให้คุณเข้าใจผิด”
“ทำไมต้องกลัวฉันเข้าใจผิด”
“ก็ผมแคร์ความรู้สึกของคุณพิมนี่ครับ”
พิมภาชะงัก หยุดดิ้นและมองเขาอย่างไม่เชื่อ ฤชวีอมยิ้มชอบใจความเกเรของหญิงสาว สองหนุ่มสาวสบตากันเคลิ้ม เหมือนมีแรงดึงดูดโน้มเข้าหากันจนริมฝีปากทั้งสองเกือบชิด เสียงเคาะกระจกรถดังขึ้น ทั้งคู่ตกใจผละออกจากกันเขินๆ รปภ.คอนโดฯมาดูเหตุการณ์ด้วยแววตากรุ้มกริ่ม พิมภากับฤชวีทำหน้าไม่ถูก อายหนักกว่าเดิม
ooooooo
เช้าวันรุ่งขึ้น...สินีนาฏร้อนใจเรื่องที่ดิน โทร.ถามความคืบหน้าเรื่องฤชวี การะเกตุรายงานแบบขอไปทีและวางสายเซ็งๆ ปราสินีเห็นได้จังหวะ เข้ามาคุยกับเจ้านายสาว ประกาศตัวเป็นเมียของเอกพลและกำลังตั้งท้อง พร้อมยื่นใบนัดตรวจครรภ์เพื่อยืนยัน การะเกตุ ไม่แยแสแล้วตอกกลับว่าเอกพลมายุ่งกับเธอเอง
“ถ้าเธอท้องแบบนี้ แล้วมันยังยุ่งกับคนอื่นอีก...เธอจะอยากได้มันกลับไปทำไม”
ปราสินีพูดไม่ออกเพราะเจ้านายสาวพูดแทงใจดำ การะเกตุแสยะยิ้มแล้วขู่สำทับ
“อย่าสะเออะมายุ่งกับฉันอีก ถ้าไม่อยากอดตายทั้งผัวและเมีย พอจะมีสมองเหลืออยู่บ้างไหมล่ะ มันจะเป็นยังไง ถ้าเด็กตาดำๆต้องพลอยมาอดตายเพราะความโง่ของพ่อแม่มัน”
การะเกตุไล่ผู้ช่วยสาวออกจากห้อง ปราสินีเกรงสายตาและท่าทางร้ายกาจ ผละไปอย่างหัวเสีย การะเกตุมองตามอย่างดูถูก เหลือบเห็นใบนัดแล้วนึกสนุก โทร. ตามเอกพลให้มาพบด่วน!
เวลาเดียวกัน...พิมภาทำงานแต่ใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเพราะติดใจสัญญาระหว่างฤชวีกับปราสินี ส่งเสียงกรี๊ดระบายความเก็บกด นันทิกานต์ ลัลนาและซูซี่มองมาอย่างงงๆ พิมภาบอกว่ากลุ้มเรื่องปราสินีกับฤชวี ผองเพื่อนตาลุกโพลง รวมหัวกันวางแผนเตรียมถล่มปราสินี
ฟากปราสินี...ออกจากบริษัทไปทำธุระให้การะเกตุ เอกพลตามมาขวางและชูใบนัดตรวจครรภ์ให้ดูด้วยท่าทางคุกคาม ปราสินีตัดสินใจอ้อนวอนขอเก็บลูกไว้แต่เอกพลยืนยันให้ไปทำแท้ง สองหนุ่มสาวยื้อยุดกันไปมา ปราสินีพลาดท่าโดนเอกพลตบลงไปกองกับพื้นและตั้งท่าจะเตะซ้ำ พิมภาถลามาช่วย ส่วนเอกพลโดนลัลนา นันทิกานต์ และซูซี่รุมกระทืบประจานต่อหน้าพนักงานคนอื่น พิมภาตะโกนบอกเพื่อนให้ช่วยพาปราสินีไปจากที่นี่ เอกพลอับอายกับสายตาเหยียดหยามและเจ็บหนักเกินกว่าจะตาม ได้แต่มองตามอย่างแค้นจัด
หลังจากนั้น...พวกพิมภาพาปราสินีไปพักที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง พิมภาทำหน้าไม่ถูกเพราะตั้งใจมาเอาเรื่องแต่กลับพบปราสินีโดนทำร้าย ปราสินีอัดอั้นด้วยความรู้สึกผิด ประณามตัวเองและร้องไห้อย่างหนัก พิมภามองหน้านันทิกานต์อย่างปลงๆ บีบไล่ปราสินีแล้วบอกจะอภัยให้เพราะซ้ำเติมเพื่อนไม่ลง
“เพราะแกรักถึงยอมทุกอย่าง แกตามคนเลวๆ อย่างนั้นไม่ทันหรอก ที่จริงฉันต้องขอโทษแกที่ตกนรกแทนฉัน”
“แต่ฉันทรยศพวกแก เรื่องที่ฉันทำไม่ควรได้รับการให้อภัย”
“อภัยให้หรือไม่ เป็นสิทธิ์ของฉัน ศาลลดโทษให้ครึ่งหนึ่ง แต่ต้องทำดีลดโทษด้วยการดูแลหลานฉันให้ดีๆ”
ปราสินีตื้นตันที่เพื่อนให้อภัย ตัดสินใจเล่าเรื่องที่ฤชวีสัญญากับตนไว้ ว่าจะไม่บอกทุกคนที่นารีว่าเธอท้องเพราะกลัวโดนซ้ำเติม พิมภาถึงบางอ้อแต่ยังไม่รู้จะทำยังไงเพราะเหวี่ยงใส่ชายหนุ่มไว้เยอะ ผองเพื่อนช่วยกันกล่อม
“ไม่เชื่อที่ปลาพูดก็ได้นะ แต่ขอให้เชื่อในความสุภาพบุรุษของคุณฤชวีหน่อย”
“เรื่องนั้นฉันเชื่อที่สุด คุณต้นเขาสุภาพบุรุษจะตาย ขนาดฉันเขายังไม่เคย...”
พิมภาหน้าเสียที่เผลอหลุดปาก ผองเพื่อนตาโต ปรึกษากันเสียงขรมว่าเพราะอะไร ตัดสินใจไปถามตัวช่วย
ขณะเดียวกันที่สำนักพิมพ์...ตัวช่วยของพวกพิมภานั่งตรวจต้นฉบับนิยายของฤชวี กิ่งแก้วกับมินท์มองหน้ากันอย่างหนักใจเพราะโครงเรื่องนิยายคล้ายกับเรื่องจริงของฤชวีกับพิมภา ฤชวีนั่งรอฟังผลแต่ใจลอยกังวลเรื่องที่ยังไม่ได้เคลียร์กับพิมภา กิ่งแก้วเสนอให้เพิ่มเนื้อเรื่องตอนท้าย ตอนจบจะได้ซึ้งขึ้น ฤชวียิ้มบางๆ แต่แววตาขมขื่น
“พี่ก็อยากให้มันเป็นแบบนั้น ไม่อยากให้ตอนจบเราต้องแยกกัน แต่คงทำได้แค่ในนิยาย...ก็เราไม่ได้รักกัน”
“อย่ามาอ่อนแอนะต้น ไม่ได้รักอะไร...ก็เห็นๆ อยู่ว่าทุกวันนี้แทบจะขาดกันไม่ได้ อย่าเป็นผู้ชายงี่เง่า!”
กิ่งแก้วแหวขึ้นด้วยความหมั่นไส้ ฤชวีส่งสายตาขอความช่วยเหลือไปทางมินท์แต่ไม่มีผล น้องสาวสุดที่รักกลับยุส่งให้เดินหน้าสู้ถ้าอยากมีความสุข ฤชวีหนักใจเพราะคิดว่าเรื่องไม่น่าจะจบง่ายๆ
หลังฤชวีออกไปไม่นาน...กลุ่มพิมภามาหาและปรึกษาเรื่องคาใจเกี่ยวกับฤชวี กิ่งแก้วกับมินท์ตาโตและยืนยันว่าชายหนุ่มไม่ใช่เกย์ ซูซี่รำคาญท่าทางอ้ำอึ้งของผองเพื่อนตัดสินใจถามไปตรงๆ
“ไม่ใช่จริงๆหรือคะ เพราะแต่งงานมาตั้งนาน น้องพิมยังไม่เคยโดน...”
พิมภาปิดปากซูซี่ด้วยความอาย กิ่งแก้วมองหน้ามินท์ยิ้มๆ และบอกจะช่วยหาวิธี
“แค่อาบน้ำ ทาครีมหอมๆ แค่นี้ก็เสร็จทุกรายแล้วค่ะ”
กิ่งแก้วกับมินท์ทำหน้าเจ้าเล่ห์ ผองเพื่อนสนับสนุนให้ใช้แผนนี้ พิมภาทำหน้าอิดออดแต่ในใจฮึดสู้!
ooooooo
แผนการช่วยให้ฤชวีกับพิมภามีสัมพันธ์ลึกซึ้งกันล่วงมาถึงหูภัทรพล มินท์โทร.มาปรึกษาและขอความร่วมมือ ภัทรพลชอบใจและบอกพ่อกับแม่ให้ช่วยเปิดทาง พิมมาลายินดีแต่ภาณุวัฒน์ลังเลเพราะอาการหวงลูกสาวกำเริบ ฤชวีกลับบ้านพอดี ภัทรพลส่งสัญญาณให้พ่อกับแม่รับมุก
“คุณต้น...คืนนี้ผมจะพาพ่อไปนอนโรงพยาบาลนะ”
ภาณุวัฒน์สะดุ้ง ตั้งท่าจะปฏิเสธแต่โดนสายตาเอาเรื่องของพิมมาลาเลยยอม ภัทรพลยิ้มอย่างสมใจ รีบพาพ่อแม่ออกไปและพูดทิ้งท้ายกับน้องเขย
“คืนนี้อยู่กันสองคน อะไรที่มันคั่งค้างก็จัดการสะสางเคลียร์กันซะนะคุณต้น”
สามคนพ่อแม่ลูกออกไปแล้ว ฤชวีได้แต่มองตามงงๆ
ฝ่ายพิมภา...แม้จะซักซ้อมคิวอย่างดิบดีแต่ก็ยังเกิดอาการลังเล นันทิกานต์ส่ายหน้าให้กับความเรื่องเยอะ มั่นใจว่าเพื่อนสมยอมแน่แต่ไม่ยอมรับความจริงเพราะกลัวพลาด ตัดสินใจถามตรงๆ
“แกรักคุณต้นหรือเปล่าพิม”
“ฉันไม่รู้ รู้แต่ว่าเขาเป็นคนดี...ดีมาก”
“งั้นดีเลย...คืนนี้แกจะได้รู้ว่าคุณต้นเป็นเกย์หรือเปล่า และแกก็จะได้รู้ใจตัวเองด้วย”
พิมภาอึกอัก นันทิกานต์เลยเรียกความมั่นใจและเตือนสติให้เพื่อนถามตัวเองดีๆ
“ถ้าแกไม่เห็นอนาคตร่วมกับเขาก็อย่าทำ แต่ถ้าคิดจะทำ...แกต้องรู้ว่าเดินหน้าแล้วถอยหลังไม่ได้...เข้าใจไหม”
พิมภาคิดหนัก ตรีวิญเข้ามาชวนไปทานข้าวเย็น นันทิกานต์ขัดใจตอบแทนว่าพิมภามีธุระสำคัญกว่าที่บ้านแล้วลากเพื่อนออกไป ตรีวิญรู้ว่านันทิกานต์จงใจแยกหญิงสาวจากเขา มองตามอย่างไม่ยอมแพ้
ขณะที่พิมภาลังเล...ฤชวีตัดสินใจเดินหน้าขอคืนดี ชายหนุ่มนั่งทำงานเงียบๆในห้อง แรงบันดาลใจเริ่มหลั่งไหลเพราะมีความรักต่อหญิงสาวเป็นตัวผลักดัน พิมภากลับบ้านมาเห็นฤชวีอยู่บ้านคนเดียวก็ชะงักนิดๆ นึกหมั่นไส้ทุกคนในบ้านและกลุ่มเพื่อนที่เตรียมการได้ดีเหลือเชื่อ...
แล้วเราจะรอดไหมคืนนี้!
พิมภาเข้าไปเตรียมตัวในห้องน้ำ ยืนมองตัวเองที่หน้ากระจกและเรียกความมั่นใจให้กับตัวเอง ภาพความทรงจำในอดีตที่เคยมีฉากหวานและเรื่องดีๆกับคุณสามีกำมะลอหลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย ความรู้สึกที่มันล้นอยู่ในใจค่อยๆเปิดเผยตัวขึ้น พิมภาสูดลมหายใจลึกเตรียมพร้อมและหยิบขวดครีมเดินออกไป
พิมภาทาครีมรออย่างใจเย็น ฤชวีเปิดประตูมาเห็นแล้วชะงัก มองท่าทางของหญิงสาวแล้วหัวใจกระตุกพิมภา ส่งยิ้มหวานหยาดเยิ้มจนชายหนุ่มหายใจสะดุด กระแอมตั้งสติเพราะเริ่มทำตัวไม่ถูก พิมภาตื่นเต้นไม่แพ้กันแต่พยายามระงับไว้ ตัดสินใจเดินเข้าหาและยื่นมือให้ชายหนุ่ม ทดสอบกลิ่นครีม ฤชวีก้มลงดมด้วยใจสั่นๆ ร้อนรุ่มไปทั้งตัวจนทนไม่ไหว ผลุนผลันคว้าผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำ พิมภาถอนหายใจอย่างเซ็งจัดเพราะเข้าใจว่าตัวเองยั่วเขาไม่ขึ้น
ฤชวีอาบน้ำเสร็จแล้วเอามือกุมที่หัวใจ มองตัวเองในกระจกแล้วพยายามสะกดจิตตัวเองให้ยับยั้งชั่งใจ ไม่ให้เผลอไผลจนทำลายความเชื่อใจของหญิงสาว ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกเรียกสติแล้วตัดสินใจออกจากห้องน้ำ
พิมภาไม่ย่อท้อ รอจนฤชวีออกจากห้องน้ำแล้วลงมือทาครีมต่อ เขามองตามมือหญิงสาวด้วยใจที่เต้นไม่เป็นส่ำ หาเรื่องจัดโน่นนี่เพื่อละสายตาและเบี่ยงเบนความสนใจของตัวเอง พิมภาเห็นชายหนุ่มไม่สนใจก็ฮึดสู้ เดินไปจับมือและอาสาทาครีมให้ ฤชวีสบตากับหญิงสาวอย่างหวาบหวามแล้วในที่สุดก็ทนไม่ไหว ลุกพรวดแล้วถลาเข้าห้องน้ำเพื่อสงบอารมณ์ พิมภาตกใจ ทรุดนั่งที่เตียงแล้วมองตามงงๆ
เวลาเดียวกันที่ร้านอาหารข้างทาง...ลัลนาถามภัทรพลเรื่องพิมภากับฤชวี อยากรู้ว่าครอบครัวเขาคิดยังไงกับแผนการให้ทั้งสองเป็นสามีภรรยากันจริงๆภัทรพลยืนยันว่าไม่มีปัญหาเพราะทั้งบ้านรักฤชวีเป็นทุนแต่ยังติดใจว่าสาวบ้างานอย่างพิมภาจะยั่วใครเป็น ลัลนายิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ บอกว่าไม่ต้องห่วงเพราะพิมภามีครูดี!
เช้าวันถัดมา...เหล่าครูดีก็ถึงกับถอดใจเมื่อพิมภาเล่าเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟัง ตั้งแต่ขั้นตอนยั่วสวาทจนฤชวีผละหนี ปล่อยให้เธอรอจนผล็อยหลับ ตื่นขึ้นอีกทีก็เห็นแต่โน้ตที่เขาทิ้งไว้ว่าจะไปที่สำนักพิมพ์ พิมภาโวยขึ้นอย่างเซ็งสุดขีด
“ฉันไม่มีผลกับความรู้สึกเขาเลยหรือเนี่ย”
“ไอ้พิม...แล้วจังหวะที่ใกล้กันน่ะ แกรังเกียจเขาหรือเปล่า” นันทิกานต์ถามหยั่งเชิง
“ไม่นี่...ไม่เหมือนตอนพี่เอก ตอนนั้นขนลุกและขยะแขยงมาก”
ซูซี่แซวว่าท่าทางพิมภาจะมีใจให้คุณสามีกำมะลอ ชัวร์ ลัลนาวิเคราะห์อาการแล้วเห็นว่าชายหนุ่มน่าจะรู้สึกอะไรบ้าง เพียงแต่พยายามยับยั้งไว้เท่านั้น เสนอแนะให้ใช้วิธีอื่น พิมภาชักหมดกำลังใจเพราะปักใจเชื่อว่าตัวเองไม่มีเสน่ห์ดึงดูดพอ ผองเพื่อนมองท่าทีซึมๆ ของหญิงสาวอย่างเห็นใจแต่ไม่ท้อ...ยังไงก็ต้องช่วยให้สำเร็จ
ooooooo
ปราสินีตัดสินใจเลิกลาจากเอกพลเพราะทนไม่ ไหวที่เขาคิดจะเอาลูกออก หญิงสาวแอบกลับไปเก็บ ของที่คอนโด มองซ้ายมองขวาอย่างระวังแล้วต้องชะงักที่เห็นชายหนุ่มยืนอยู่ที่ด้านหลัง เอกพลแค้นใจไม่หายที่โดนรุมกระทืบต่อหน้าคนทั้งบริษัทเมื่อคราวก่อนถลาไปตบตีจนปราสินีเหลืออด คว้ากรรไกรข้างมือขึ้นขู่
“ถ้าพี่เอกทำปลา พวกพิมจะตามเล่นงานพี่แน่ๆ ลุงพิมเขาใหญ่แค่ไหนพี่ก็รู้ พ่อพิมก็นายตำรวจเก่า เขาไม่ปล่อยพี่ไว้แน่คราวนี้ พี่ฟังไว้เลยนะว่าปลาจะไม่มีวันยอมทำร้ายลูกเด็ดขาด”
เอกพลอึ้งกับท่าทางสู้คน ปราสินีเห็นเอกพลผ่อนท่าทีก็ผลุบเข้าไปหลบในห้อง เอกพลมองตามอย่างโกรธจัดแต่ทำอะไรไม่ได้ เหลือบเห็นกระเป๋าสะพายและมือถือของหญิงสาวแล้วคิดอะไรบางอย่าง...นัยน์ตาวาวอย่างคนมีแผน!
ด้านฤชวี...เลือกเวลาที่คิดว่าพิมภาไปทำงานแล้ว กลับมาบ้านอย่างเนือยๆ ภัทรพลกับพิมมาลานั่งรออยู่แล้วด้วยแววตาอยากรู้อยากเห็น ส่วนภาณุวัฒน์ยังหน้ามุ่ยเพราะอาการหวงลูกสาว ฤชวีมองท่าทีสามคนพ่อแม่ลูกอย่างสงสัย พิมมาลาเป็นคนเปิดฉากถามว่าเมื่อไหร่จะให้พิมภามาสารภาพเรื่องทั้งหมด ฤชวียิ่งงงหนัก
“มีอะไรกันเหรอครับ สารภาพเรื่องอะไรกัน”
“ก็เรื่องแต่งงานหลอกๆ นี่ไง ไหนๆก็ตกร่องปล่องชิ้นกันแล้ว ก็จัดการให้มันถูกต้องไปเลย”
ฤชวีหน้าเหวอ ภัทรพลมองท่าทางน้องเขยแล้วชักสังหรณ์ใจ บอกให้เล่าเรื่องเมื่อคืนให้ฟัง พิมมาลาเซ็งสุดขีดที่แผนล่มแต่ภาณุวัฒน์ดีใจเหมือนเด็กๆที่ ลูกสาวยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง ฤชวีมองครอบครัวภรรยากำมะลออย่างทึ่งๆในความใจถึง แต่ก็แอบปลื้มที่พิมภาลงทุนยั่วเขา ภัทรพลบอกว่าสืบมาแล้วว่าพิมภาเองก็เซ็งไม่แพ้กัน เพราะฉะนั้นน้องเขยต้องเดินหน้า ฤชวีมองภาณุวัฒน์อย่างเกรงๆ แล้วพูดเสียงอ่อนแต่จริงจัง
“ผมขออนุญาตนะครับ...ผมรักคุณพิมครับ อยากดูแลเธอไปตลอดชีวิต”
“จะไม่ทำให้ยายพิมร้องไห้ใช่ไหม”
“ผมสัญญาครับ”
พิมมาลากับภัทรพลมองมาอย่างลุ้นๆ ภาณุวัฒน์ชอบฤชวีอยู่แล้วแต่ยังฟอร์มจัด แกล้งพูดแบบขอไปทีว่าถ้าจีบติดก็จะไม่ขวาง ฤชวีดีใจมากที่ครอบครัวพิมภาเปิดทาง สัญญาอย่างหนักแน่นว่าจะรักและดูแลพิมภาให้ดีที่สุด พิมมาลากับภัทรพลยิ้มให้กันอย่างสมใจ ภาณุวัฒน์อารมณ์ค้างนิดหน่อยแต่รู้ว่าขัดเสียงส่วนใหญ่ไม่ได้ ต้อง ยอมไปโดยปริยาย...เอาไงก็เอา เพื่อความสุขของลูก
เวลาเดียวกันที่บริษัทนารี...นันทิกานต์เคลียร์งานทุกอย่างแล้วลางานครึ่งวันกลับไปหาแม่ที่ต่างจังหวัดทิ้ง พิมภาให้จัดการงานต่างๆ คนเดียว เสียงมือถือเตือนว่ามีข้อความดังขึ้น พิมภากดดูแล้วเห็นว่าเป็นข้อความจากปราสินี บอกว่าปวดท้องมากให้รีบมาช่วย พิมภาเป็นห่วง พยายามโทร.หาแต่ไม่มีคนรับสาย ตัดสินใจออกไปดูอาการเพื่อน ฤชวีโทร.มาหาพอดี ทั้งสองเลยนัดแนะไปเจอกันที่โรงพยาบาล
พิมภามาถึงโรงพยาบาลก่อน เข้าไปเช็กด้านในแล้วไม่เห็นใคร ตัดสินใจโทร.หาปราสินีอีกครั้ง ทันใดนั้น... เอกพลโผล่มาจากด้านหลังแล้วเอามีดจ่อเอว บังคับให้เดินไปที่รถ เสียงมือถือดังขึ้น พิมภาตัดสินใจกระแทกประตูรถใส่จนเอกพลเสียหลัก แล้วกดรับมือถือ ตะโกนเสียงดังลั่นเพื่อขอความช่วยเหลือ เอกพลพุ่งพรวดไปแย่งมือถือและกดวางสาย สะบัดมือใส่หน้าอย่างแรงจนพิมภากระแทกกับรถสลบไป
ฟากฤชวี...ตกใจมากที่ได้ยินเสียงหญิงสาวที่รัก รีบขับรถวนเพื่อตามหา สวนกับรถของเอกพลที่กำลังออกจากโรงพยาบาล ฤชวีมองตามแล้วชะงัก เห็นร่างพิมภานั่งนิ่งหลับตาอยู่ในนั้น รีบหันหัวรถแล้วขับตามทันที
ขณะที่ฤชวีร้อนรนอย่างหนัก...เอกพลมองที่ร่างไร้สติของพิมภาอย่างกระหยิ่มใจและหื่นกระหาย เหลือบมองที่กระจกหลังแล้วเห็นรถของฤชวีแล่นตามมาติดๆ ก็สบถอย่างหัวเสีย สองหนุ่มขับไล่ตามกันไปตั้งแต่บ่ายจดเย็นออกไปทางชานเมือง เอกพลหาทางซิกแซกจนหลุดแต่ฤชวีก็ไม่ย่อท้อ ขับวนตามหาจนเห็นหลังรถเอกพลเลี้ยวเข้าซอยหนึ่ง
เอกพลเลี้ยวรถเข้าไปในซอยแคบและเปลี่ยวด้านใน ฝนที่เริ่มตกหนักทำให้จิตใจชั่วร้ายฮึกเหิม ขยับไปใกล้ พิมภาที่ยังไม่ได้สติแล้วลงมือถอดเสื้อ พิมภารู้สึกตัว กัดและถีบขัดขืนเพื่อป้องกันตัว เอกพลกระชากเสื้อเธออย่างแรงจนขาดวิ่นแล้วต่อยที่ท้องเพื่อให้สงบ พิมภาจุกหมดแรงสู้แต่ยังส่งเสียงกรี๊ดไม่หยุด เอกพลโถมเข้าหาและพยายามข่มขืน ทันใดนั้น...กระจก
ข้างคนขับก็ถูกทุบจนแตก ฤชวีเปิดประตูแล้วกระชากเอกพลลงจากรถ มองสภาพย่ำแย่ของพิมภาแล้วเลือดขึ้นหน้า ต่อยเอกพลไม่ยั้งจนเลือดกบปาก เอกพลคว้าหินข้างมือกระแทกหัวฤชวีแล้ววิ่งหนีไป ฤชวีจะตามแต่พิมภาห้ามไว้ กอดเขาแน่นอย่างหวาดระแวง
ฤชวีพาพิมภามาพักที่โรงแรมข้างทางเพราะหญิงสาวยืนยันไม่กลับบ้าน กลัวพ่อแม่และพี่ชายเป็นห่วงแล้วเรื่องจะบานปลาย ฤชวีหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดให้อย่างอ่อนโยน พิมภาน้ำตาคลอ เล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ยังสั่นเทายกมือแตะที่แผลบนหน้าผากชายหนุ่มอย่างเป็นห่วง ฤชวีจับมือเธอไว้แล้วปลอบเสียงนุ่ม
“คุณไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่กับคุณแล้ว ต่อไปนี้ผมสัญญาว่าจะไม่ยอมให้ใครมาทำร้ายคุณได้”
“คุณสัญญานะว่าจะอยู่ข้างฉัน”
สองหนุ่มสาวโอบกอดด้วยความรักที่มีต่อกันล้นใจ ฤชวีร้องเพลงกล่อมหญิงสาวจนเคลิ้ม พิมภาสบตาเขานิ่ง ฤชวีเหมือนโดนสะกด ค่อยๆก้มหน้าลงประทับจูบ หญิงสาวที่เงยหน้าขึ้นรับอย่างเต็มใจ สองหนุ่มสาวตกอยู่ใน วังวนแห่งรักของกันและกันท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายอยู่ด้านนอก...
ooooooo
พิมภาตื่นขึ้นมาด้วยความรู้สึกที่เปลี่ยนไป ทุกอย่างระหว่างเธอกับคุณสามีกำมะลอไม่เหมือนเดิมแล้ว เธอหันไปมองชายหนุ่มที่ตื่นก่อนและจ้องอยู่แล้วอย่างเขินจัด ฤชวีมีความสุขแต่ไม่อยากแสดงออกมากเพราะเห็นใจหญิงสาวที่วางหน้าไม่ถูก พิมภาเป็นฝ่ายเปิดฉากต่อว่างอนๆ
“เพราะคุณนั่นแหละ ไหนว่าจะกอดเฉยๆไง”
“ผมโกหก...ใครจะไปกอดคนที่เรารักแล้วนอนหลับไปเฉยๆได้”
พิมภาค้อนขวับแต่แอบปลื้ม เฉไฉบอกว่าเหมือนในนิยายน้ำเน่าของชายหนุ่ม ฤชวีย้อนกลับยิ้มๆ
“นิยายผมไม่ได้เขียนเล่าไว้ต่างหากว่าเวลาคนรักกอดกันจะเกิดอะไรขึ้น มันเป็นพื้นที่จินตนาการของคนอ่าน”
“ผู้ชายก็เป็นแบบนี้เหมือนกันหมด”
“แต่เมื่อผู้ชายเจอผู้หญิงที่รักและถูกใจแล้ว เขาก็จะไม่เปลี่ยนใจไปหาคนอื่น ผมรักคุณนะครับคุณพิม”
พิมภาได้ยินคำรักก็สุขล้น ฤชวีรวบตัวพิมภามา กอดไว้ แล้วสารภาพความในใจแบบหมดเปลือก
“ผมพยายามเป็นสุภาพบุรุษอย่างที่สัญญาคุณไว้ แต่ถ้าต้องเสียคุณให้คนอื่น...ผมยอมขี้โกงแบบนี้ดีกว่า”
“แต่เราก็แค่แต่งงานกันหลอกๆ เป็นสามีภรรยากันหลอกๆ”
“ผมก็...ทำให้มันเป็นเรื่องจริงไปหมดแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
ฤชวีส่งสายตาหวานให้จนพิมภาเขินหน้าแดงแถต่อว่าชายหนุ่มที่เจ้าแผนการ ฤชวียิ้มเจ้าเล่ห์แล้วกระชับอ้อมแขนให้แน่นขึ้น ประทับจูบที่หน้าผากหญิงสาวแผ่วเบาแต่สะท้านไปถึงหัวใจ จู่ๆเสียงท้องร้องดังขึ้น ฤชวีชะงัก
พิมภาอายแล้วแกล้งทำเป็นขึงขัง บอกว่าไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่กลางวัน ฤชวียิ้มอย่างเอ็นดูแล้วอาสาไปซื้ออาหารให้ พิมภามองตามอย่างปลื้มๆ...คุณสามีของฉันหล่อและน่ารักที่สุด
ฤชวีหิ้วถุงขนมและกับข้าวออกมาจากร้านเล็กๆ แถวนั้น อดเก็บความปีติไว้ไม่ไหว โทร.หาญาติสาวเพื่อแจ้งข่าวดี กิ่งแก้วอยู่ที่สำนักพิมพ์ กระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจแล้วถามถึงท่าทีของพิมภา ฤชวีบอกว่าดูเงียบๆ แต่ไม่โกรธ กิ่งแก้วยิ้มแก้มปริ ช่วยวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะยังเขินแน่นอน
“แต่กิ่งว่าคุณพิมต้องมีใจกับต้นแน่ๆ ผู้หญิงอย่างคุณพิม...ไม่รักไม่ยอมหรอก แล้วจะเอายังไงต่อ”
“ต้นอยากให้เกียรติคุณพิม อยากเคลียร์ทุกอย่าง อยากให้เรื่องของต้นกับคุณพิมเป็นเรื่องจริงสักที”
กิ่งแก้วยุให้ขอแต่งงานอย่างเป็นทางการ จะได้ถือโอกาสเริ่มต้นความรักด้วยความจริงใจ ฤชวีเห็นด้วยเพราะเป็นความตั้งใจเดิมอยู่แล้ว วางสายญาติสาวแล้วเดินยิ้มกริ่มกลับไปหาพิมภาด้วยแววตาเหมือนคนที่ตัดสินใจแล้ว
ขณะที่ฤชวีวางแผนขอแต่งงาน...พิมภานั่งมองหน้าตัวเองในกระจกแล้วยิ้มคนเดียวเหมือนคนบ้า นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมากับฤชวีพาใจเต้น มั่นใจแล้วว่าหัวใจมีคุณสามีกำมะลอคนนี้เต็มทุกห้อง ฤชวีกลับเข้ามาด้วยท่าทีนิ่งๆแต่ พิมภาไม่ทันสังเกตเพราะมัวตั้งสติ กลัวชายหนุ่มเห็นท่าทางเพ้อๆของตน เสคว้าถุงอาหารมาเปิดออก ฤชวีสูดหายใจลึกเพื่อเรียกความมั่นใจ จับมือหญิงสาวมาสวมแหวนของเล่นให้ที่นิ้วนางข้างซ้าย
“คุณพิมครับ...ผมขอยุติบทบาทละครตบตาของเราซะที ขอให้ผมเป็นสามีตัวจริงของคุณได้ไหมครับ”
พิมภาอึกอักเพราะโดนจู่โจมกะทันหัน แต่ฤชวีเข้าใจว่าหญิงสาวลำบากใจ เสียงมือถือพิมภาดังขึ้น ฤชวีเห็นชื่อตรีวิญก็หน้าเสีย พิมภาไม่อยากรับเพราะเกรงใจ เขาแต่ก็อดไม่ได้เพราะกลัวเป็นเรื่องงาน ตัดสินใจกดรับแล้วหลบไปคุยด้านนอก หญิงสาวนิ่วหน้าที่ได้ยินคำพูดจีบของตรีวิญ ตัดบทและขอวางสายอย่างเย็นชา ฤชวีเห็นท่าทีหญิงสาวแล้วคิดไปเองว่าเธอลังเลเพราะมีคนอื่นในใจ ตัดพ้อด้วยความน้อยใจสุดขีด
“ไม่ว่าผมจะรักคุณมากแค่ไหน คุณก็คงไม่มีวันรักผมได้ใช่ไหมครับ ผมขอโทษครับคุณพิม”
ฤชวีเดินออกไปแล้ว พิมภาขัดใจที่เขาเข้าใจผิด ทั้งๆที่เธอยังไม่ได้พูดอะไรสักคำ!
ฝ่ายตรีวิญวางสายจากพิมภาอย่างหัวเสีย การะเกตุที่นัดชายหนุ่มออกมาพบเพื่อเจรจาเรื่องแผนแยกฤชวีจากพิมภามองมาด้วยแววตาเย้ยหยัน มั่นใจมากว่าชายหนุ่มต้องโดนพิมภาตัดรอนมาแน่
“คืนนี้...พิมภาอาจอยู่กับคนอื่น แต่ไม่ได้หมายความว่า คืนอื่นๆ พิมภาจะอยู่กับคุณไม่ได้นี่คะ”
“เข้าเรื่องเลยดีกว่า คุณนัดผมมาทำไมคุณการะเกตุ”
“ถ้าเรื่องสำคัญที่เป็นความลับระหว่างสองคนแต่อีกฝ่ายกลับเล่าให้บุคคลที่สามฟัง เป็นคุณ...จะโกรธไหม”
ตรีวิญเข้าใจทันทีว่าเป็นแผนการที่การะเกตุแนะนำให้ใช้จัดการฤชวีกับพิมภาให้แตกกัน การะเกตุยิ้มอย่างท้าทายแล้วขอตัวกลับ ตรีวิญทึ่งในความเจ้าแผนการของหญิงสาว คิดหนักก่อนตัดสินใจ
“ผมจะทำทุกอย่าง เพื่อให้คุณมาอยู่ข้างๆ ผม... พิมภา”
ขณะที่ตรีวิญคิดการใหญ่...ฤชวีกับพิมภาอยู่ที่โรงแรมข้างทาง ต่างก็จมอยู่ในความคิดของตัวเอง ฤชวีย้อนนึกถึงตอนที่หญิงสาวคุยโทรศัพท์กับตรีวิญด้วยหัวใจร้าวราน คิดเอาเองว่าเธอไม่รักเพราะมีคนอื่นในใจ ส่วน พิมภาก็หมกตัวอยู่แต่ในห้องพักด้านใน ทบทวนหัวใจตนเองแล้วอมยิ้มกับทุกนาทีที่มีฤชวีอยู่
“ฉันยังไม่กล้าพูดกับคุณตรงๆ...มันเสียฟอร์มเข้าใจไหม”
หญิงสาวพึมพำกับตัวเองแล้วมองเห็นมือถือฤชวีวางอยู่ ตาวาวเหมือนคิดอะไรบางอย่างออก ร้องเพลงอัดใส่ไว้ในมือถือ ยิ้มอย่างมีความหวังว่าเพลงนี้จะบอกความในใจที่มีต่อเขาได้
“เราสองคนเริ่มต้นด้วยการโกหก แต่ฉันจะแก้ไข ทุกอย่าง...งั้นก็ต้องสารภาพกับพ่อแม่น่ะสิ เอาเว้ย...รักต้องสู้!”
พิมภาทิ้งตัวลงเอนหลังอย่างมีความสุข ต่างจากฤชวีที่นั่งพิงกำแพงด้านนอกห้องอย่างหมดหวัง
ooooooo
ฤชวีตื่นเช้ามาก็ไม่เห็นพิมภาที่ห้องแล้ว เหลือแต่โน้ตที่ทิ้งไว้ บอกว่าจะกลับคอนโดไปจัดการเรื่องสำคัญ ชายหนุ่มน้อยใจและเข้าใจไปเองว่าธุระที่ว่าน่าจะเกี่ยวกับตรีวิญ แต่งตัวและรีบขับตามไปดูที่บ้านให้แน่ใจ
ฟากตรีวิญ...ตัดสินใจเริ่มแผนยุแยงตามคำแนะนำของการะเกตุ ตื่นแต่เช้าไปดักรอพิมภาที่คอนโด ฤชวีกลับมาทันเห็นเจ้านายหนุ่มจะตามพิมภาขึ้นห้องก็ของขึ้น ขับรถปาดหน้าไปจอดหน้าตึก ตรีวิญเดินมาหาฤชวีด้วยสีหน้าขรึมๆ บอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วย ฤชวีปฏิเสธโดยไม่มองหน้า แต่ตรีวิญไม่ยอมแพ้ โพล่งเรื่องเด็ดออกไป
“แล้วถ้าเป็นเรื่องที่คุณกับคุณพิมภาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันจริงๆล่ะ พอจะว่างฟังผมแล้วใช่ไหมครับ”
“เรื่องของผมกับคุณพิม คนอื่นไม่เกี่ยว”
“ผมกับคุณพิม...เรารักกัน แต่เพราะติดที่คุณมาขวางทางเรา”
“วิธีแบบนี้มันไม่สกปรกไปหน่อยเหรอครับ พูดเองเออเองคนเดียว”
“ผมรู้นะว่าคุณรักคุณพิม แต่ยังไงก็เป็นเรื่องโกหก เขาอยากเลิกแผนบ้าๆ จะได้เปิดเผยความสัมพันธ์ของเรา คุณพิมไม่ได้อินกับการเป็นสามีภรรยาหลอกๆ กับคุณแล้ว มีแต่คุณที่อินไม่เลิก”
คำพูดของตรีวิญกระแทกใจอย่างจัง ฤชวีถึงกับหน้าถอดสีเพราะถ้าคิดตามเหตุการณ์ที่ผ่านมา เรื่องนี้น่าจะไขข้อข้องใจได้ดีที่สุด พิมภาไม่เคยแสดงว่ารักเขาเพราะมีคนอื่นอยู่แล้วจริงๆ ตรีวิญสะใจที่ยุขึ้น ส่งรอยยิ้มเย้ยหยันเหมือนกับว่าฤชวีโง่มากที่ดูเรื่องนี้ไม่ออก ฤชวีสับสนในหัวใจอย่างหนัก...ยังคิดไม่ออกว่าควรจะจัดการเรื่องนี้ ยังไงดี
ขณะที่ฤชวีเครียดจัด...พิมภาเดินหาของไปทั่วห้อง ร้องบอกให้พิมมาลาช่วยหาทะเบียนสมรสของเธอกับฤชวี
พิมมาลาไปหยิบมาให้จากในห้อง พิมภามองเอกสารสำคัญอย่างชั่งใจแล้วตัดสินใจสารภาพ
“พ่อ แม่ พี่ภัทร...ตั้งแต่เรื่องงานแต่งกับพี่เอกพิมทำให้ทุกคนเสียใจ พิมสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ทำให้ทุกคนผิดหวังอีก แต่พิมก็พลาด...พิมมีเรื่องจะบอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องแต่งงานของพิมกับคุณต้น”
ภัทรพลมองหน้าพ่อแม่อย่างตื่นๆ เพราะยังเข้าใจว่าต้องแกล้งทำเป็นไม่รับรู้เรื่องแต่งงานหลอกๆ เพราะกลัวงานล่มอีก สามคนพ่อแม่ลูกมองหน้ากันแล้วเริ่มตีบทแตกเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ พิมมาลาพยายามบอกปัดให้พูดวันหลัง พิมภาไม่ยอม โพล่งออกไปอย่างเหลืออด
“แต่พิมอึดอัด...ไม่อยากโกหกแล้ว พิมอยู่ในสภาพนี้ กับคุณต้นต่อไปไม่ไหว พิมอยากเริ่มต้นใหม่กับคนที่พิมรัก”
พิมภาหยิบซองใบทะเบียนสมรสแล้วฉีกเอกสารทิ้ง ฤชวีเข้ามาเห็นฉากเด็ดพอดี เข้าใจไปเต็มๆว่าหญิงสาวอยากเลิกกับเขา ตะโกนตัดพ้อด้วยความน้อยใจสุดๆ
“ถ้าต้องการจบความเป็นสามีภรรยากับผม คุณพิมบอกผมดีๆก็ได้นี่ครับ”
ฤชวีเดินหนี พิมภาได้สติ กระโจนไปคว้าแขนเขาไว้แต่โดนแกะออกอย่างไร้เยื่อใย เธอถลาตามเขาไปที่ลานจอดรถ โดยมีพิมมาลา ภาณุวัฒน์ และภัทรพลตามไปดูด้วยความเป็นห่วง หญิงสาวตะโกนเรียกชื่อเขาไปตลอด ทางให้หยุด แต่ฤชวีไม่สนใจ จ้ำอ้าวไปขึ้นรถด้วยท่าทางนิ่งๆ พิมภากระชากประตูเข้าไปนั่งในรถแล้วพยายามอธิบายเรื่องจริงแต่ชายหนุ่มตัดบทไม่ยอมฟัง ตัดพ้ออย่างเคืองๆ
“คุณใจร้ายกว่าที่ผมคิดนะคุณพิม”
“อยู่ๆ มาว่าฉันใจร้ายทำไมคุณต้น ทำไมวันนี้คุณงี่เง่าแบบนี้”
ฤชวีจ้องหน้าพิมภาแล้วบอกให้ลงจากรถ พิมภาได้ยินน้ำเสียงแปลกหูก็อึ้งไปถนัดใจ รู้แน่ว่าคราวนี้ชายหนุ่มโกรธจริง แต่ยังเชิดหน้าเหวี่ยงกลับแล้วลงจากรถไปอย่างกระแทกกระทั้น ฤชวีออกรถทันทีโดยไม่รั้งรอ พิมภาเสียใจมากจนน้ำตานองหน้า ภัทรพลมองเหตุการณ์ตรงหน้างงๆ เช่นเดียวกับพิมมาลาและภาณุวัฒน์ ซักไซ้ที่มาที่ไปจนรู้ว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิด พิมภาอึกอักแต่คิดว่าไม่มีประโยชน์จะปิดบัง
“เอ่อคือ...เมื่อคืนไอ้เอกพลมันจับตัวพิมไป แล้วคุณต้นก็ตามไปช่วย”
“แกก็เลยให้รางวัลเขาที่ตามไปช่วย”
ภัทรพลอดแซวน้องไม่ได้ แต่ก็เสนอตัวจะช่วยสืบให้ พิมมาลาไม่เข้าใจเพราะคิดว่าเรื่องทุกอย่างน่าจะจบลงด้วยดี พิมภาน้อยใจฤชวีที่ไม่ยอมเชื่อใจและอดทน รอฟัง แสร้งทำเป็นไม่แคร์แล้วขอตัวขึ้นห้องเตรียมตัวไปทำงานอย่างหัวเสีย สามคนพ่อแม่ลูกมองตามอย่างเห็นใจ ...มั่นใจว่าพิมภาคิดมากแน่ๆ
พิมภามาทำงานด้วยสีหน้าบอกบุญไม่รับ พยายามกดหาฤชวีเพื่อเคลียร์ปัญหาแต่ชายหนุ่มไม่รับสาย
“ไม่ปิดเครื่องแต่ไม่ยอมรับสาย แบบนี้มันแค้นกว่าอีก ทำไมถึงกล้าทำกับฉันแบบนี้”
นันทิกานต์มองหน้ากับลัลนาและซูซี่ปลงๆ ฟันธงว่าพิมภาต้องมีเรื่องกับฤชวี ส่งเสียงซุบซิบกันอย่างสนุกปาก พิมภาเหล่ตาแล้วแอบเหน็บเพื่อนที่ไม่ช่วยแต่นินทา นันทิกานต์ส่ายหน้าให้ความช่างวีนของเพื่อน ถามกลับยิ้มๆ
“งั้นเข้าประเด็นเลย แกทะเลาะกันเรื่องอะไร”
“ฉันไม่ได้ทะเลาะ คุณต้นต่างหากที่หาเรื่องทะเลาะกับฉัน ไม่รู้โกรธฉันเรื่องอะไรทั้งที่เมื่อคืน...”
สามสาวซี้พิมภาตาโต จินตนาการไกลถึงเรื่องรักแสนหวานของเพื่อน พิมภามองมาอย่างเซ็งๆ แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะทุกอย่างเป็นเรื่องจริง...เพียงแต่ยังไม่รู้ว่าจะ ทำยังไงให้ชายหนุ่มยอมฟังความรู้สึกเธอบ้าง
ooooooo
ฤชวีโกรธและยังไม่พร้อมจะเจอหน้าพิมภา หลบไปอยู่บ้านชุติภาเพราะมั่นใจว่าหญิงสาวไม่กล้า บุกแน่ ชายหนุ่มคิดถึงหญิงสาวทุกลมหายใจเข้าออกแต่ก็ปวดร้าวในอกที่รู้ว่าเธอมีคนอื่น หยิบเครื่องอัด เสียงขึ้นมาพูดความในใจ
“ผมหลงคิดไปว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับเรา...มันอาจมีสักเสี้ยวหนึ่งที่เกิดจากความรักที่เรามีต่อกัน แต่ไม่ใช่เลย...คุณแค่เผลอไป พลาดไปเท่านั้นใช่ไหมครับ”
ขณะเดียวกันที่บ้านพิมภา...ทุกคนในบ้านมองอาการเซื่องซึมของพิมภาอย่างเป็นห่วง ภัทรพลบอกว่า ฤชวีหนีไปอยู่บ้านชุติภา แสดงว่าคงเป็นเรื่องใหญ่ สามคนพ่อแม่ลูกมองหน้ากันเซ็งๆ...นึกว่าจะจบสวยแล้วเชียว
ด้านชุติภา...มองท่าทางเฉยชาและหงุดหงิดของหลานชายอย่างรู้ทัน เดาได้ว่าน่าจะมีปัญหากับพิมภา แกล้งตีหน้าเป็นห่วงเป็นใยตามประสาย่าที่รักหลานมาก ฤชวีกอดย่าเหมือนเป็นเด็กๆ แต่ยังปากหนักไม่ยอมเล่าเรื่องที่ทะเลาะกัน ชุติภาเห็นเป็นโอกาสดีทำให้หลานตายใจ ปลอบประโลมด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“งั้นก็ใจเย็นๆนะ ผัวเมียก็เหมือนลิ้นกับฟัน”
“คุณย่าไม่รังเกียจคุณพิมแล้วเหรอครับ”
“หลายเรื่องที่เกิดขึ้นทำให้ย่ารู้ว่าถ้ารักต้น ก็ต้องรักคนที่ต้นรักด้วย...จริงไหมลูก”
ฤชวียิ้มรับ ปลื้มแทนพิมภาที่คุณย่าไม่ตั้งแง่แล้ว ชุติภาได้จังหวะ ชวนหลานรักไปออกงาน ฤชวีไม่อยากแต่ไม่กล้าขัดใจย่า รับปากแกนๆ ชุติภาลอบยิ้มอย่างสมใจที่หลานชายตกหลุมพราง
หลังจากนั้น...ชุติภาโทร.หาการะเกตุด้วยความตื่นเต้น ที่สามารถหลอกฤชวีไปออกงานด้วยได้ แถมยังเล่าเรื่องที่หลานชายมีปัญหากับพิมภา การะเกตุรับฟังด้วยสีหน้ากระหยิ่มใจ ดีใจมากที่จะได้เปิดตัวคู่กับฤชวีเป็นครั้งแรก
“ในฐานะว่าที่คู่หมั้นคุณต้น เกตุจะไม่ทำให้คุณย่าผิดหวังแน่ค่ะ”
ปราสินีที่นั่งจัดเอกสารอยู่ใกล้ๆ เงี่ยหูฟังสุดฤทธิ์แต่ตีหน้าซื่อไม่ได้ยินอะไร ขณะเดียวกันที่บ้านชุติภา...กิ่งแก้วแอบได้ยินชุติภาคุยโทรศัพท์ รับทราบแผนการทุกอย่างด้วยสีหน้าซีดเผือด ชุติภาผ่านมาเห็นเข้าก็ทำเป็นไม่รู้เรื่องแต่ตบตาคุณย่าจอมเผด็จการไม่ได้ ตัดสินใจขู่ไว้ก่อนเพราะกลัวเสียแผน
“ได้ยินได้รู้อะไรก็เงียบไว้ รู้ใช่ไหมว่าย่าไม่ชอบคนโกหก ถ้าย่าจับได้กิ่งคงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น”
กิ่งแก้วหน้าเจื่อน ก้มหน้าไม่ยอมสบตาแล้วขอตัวไปหามินท์กับฤชวี ชุติภามองตาม มั่นใจมากว่าต้องไม่หลุด
กิ่งแก้วเดินไปหามินท์กับฤชวีที่สวนหลังบ้านด้วยหน้าตาตื่นๆ มินท์กับฤชวีไม่ทันสังเกตเพราะมัวแต่ปรับทุกข์ เรื่องหัวใจกันอยู่ กิ่งแก้วลืมเรื่องเครียดชั่วขณะแล้วพยายามให้กำลังใจญาติหนุ่ม ฤชวีเสียใจจนขาดสติ ปักใจเชื่อว่าทุก อย่างเป็นเรื่องจริง ทั้งเรื่องความสัมพันธ์ลึกซึ้งแต่ชั่วคราว ภาพทะเบียนสมรสถูกฉีกและคำพูดของตรีวิญที่คอยหลอก หลอน กิ่งแก้วค้านว่าไม่น่าเป็นเรื่องจริงแต่ฤชวียังไม่เชื่อ
“แล้วถ้าไม่ใช่ ทำไมคุณพิมถึงบอกเรื่องที่เราเป็นสามีภรรยากำมะลอให้ตรีวิญรู้”
“กิ่งไม่ได้จะว่านะ แต่ต้นได้ยินจากปากคุณพิมหรือเปล่า นายตรีวิญอาจจะแต่งเรื่องขึ้นก็ได้”
กิ่งแก้วเตือนสติให้ไตร่ตรองเรื่องทั้งหมดดีๆ เห็นใจญาติหนุ่มจนเกือบเผลอหลุดปากบอกแผนการของชุติภา แต่ยั้งไว้ทัน ชุติภาที่มายืนแอบฟัง ตัดสินใจปรากฏตัวเพื่อขู่ กิ่งแก้วหลบสายตาแล้วเดินไปคุยเรื่องงานกับมินท์ ชุติภามองตามอย่างไม่ไว้ใจ...กลัวหลานสาวจะปากสว่างแล้วทำให้เสียเรื่อง
ขณะที่ชุติภาหลอกฤชวีไปออกงานสำเร็จ...ตรีวิญดำเนินการตามแผนขั้นต่อไปด้วยการชวนพิมภาไปงานเปิดตัวสินค้าของการะเกตุ พิมภาเห็นเป็นเรื่องงานเลยไม่ปฏิเสธ ขอตัวไปเก็บของที่ห้อง ตรีวิญมองตามอย่างสมใจแล้วกดโทรศัพท์นัดแนะกับการะเกตุ
ooooooo
คู่สามีภรรยากำมะลอไม่รู้ตัวว่าโดนหลอกมา ออกงานเพื่อให้เข้าใจผิดกันมากขึ้น ฤชวีตกใจที่เจอการะเกตุกับสินีนาฏที่งาน เริ่มสังหรณ์ถึงลางร้าย เหลือบ ไปเห็นพิมภาเข้ามากับตรีวิญก็ของขึ้นเพราะแรงหึง ถลาไปเอาเรื่อง ชุติภาตามไปทักทายพิมภาเสียงหยันแล้วลากฤชวีออกไปถ่ายรูปคู่กับการะเกตุ นักข่าวกรูกันเข้ามาแล้วยิงคำถาม
“พาหลานชายกับว่าที่สะใภ้มาออกงานเหรอครับ”
“นานๆ จะจับตัวมาออกงานคู่กันได้ซะทีน่ะค่ะ”
“เอ๊ะ...แต่ภรรยาคุณฤชวีไม่ใช่คนนี้นี่คะ”
“คนนี้แหละค่ะ...ว่าที่หลานสะใภ้ตัวจริงของวงศ์–บริบูรณ์ ส่วนคนที่ฉันไม่ได้ยืนยันก็พวกตัวสำรองเท่านั้นล่ะค่ะ”
ฤชวีตั้งท่าจะค้านแต่ชุติภากระซิบเตือนจนชายหนุ่มต้องเงียบ พิมภาผิดหวังมากที่ชายหนุ่มไม่มีปฏิกิริยาโต้ตอบ ดึงแขนตรีวิญออกไปอย่างหัวเสีย การะเกตุมองตามอย่างสะใจแล้วพุ่งเข้าไปควงแขนฤชวีอย่างออกหน้าออกตา
หลังจากนั้น...ตรีวิญไปส่งพิมภาที่คอนโดฯ ฉวยโอกาสตอนที่สามีภรรยามีเรื่องกัน ขอโอกาสคบอย่างเปิดเผย
“ถ้าเขาดูแลคุณไม่ได้ ให้ผมดูแลคุณได้ไหม ผมชอบคุณนะคุณพิม พิจารณาผมได้ไหม”
“พิมไม่สะดวกใจที่จะทำแบบนั้นค่ะ”
พิมภาอึดอัด...เจ้านายหนุ่มช่างตื๊อและดื้อด้านเอาชนะกว่าที่คิด หญิงสาวลงจากรถนิ่งๆ แต่ไม่พูดอะไร
ฟากฤชวี...ช้ำใจอย่างหนัก แอบหนีออกจากงานมาหากิ่งแก้วกับมินท์ที่สำนักพิมพ์ เขาหน้าเศร้าจนสองสาวห่อเหี่ยวตาม พยายามปลอบไม่ให้คิดมากเพราะน่าจะยังพอมีทางแก้ไข ฤชวีตัดพ้อพิมภาและเปรียบเทียบตัวเองกับตรีวิญด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจ กิ่งแก้วไม่เชื่อว่าคนอย่างพิมภาจะเปลี่ยนใจง่ายๆ วิเคราะห์ให้ญาติหนุ่มฟัง
“แต่กิ่งว่าเรื่องสำคัญแบบนี้คุณพิมไม่น่ายอมบอกคนอื่นง่ายๆนะ เพราะถ้าความแตกคุณพิมจะโดนหนักสุด”
“แสดงว่าคุณพิมแคร์เขามากกว่า”
“ต้นกำลังงี่เง่านะเนี่ย ไม่คุยให้รู้เรื่อง แล้วถ้าจริงๆ คุณพิมไม่ได้บอกล่ะ ไม่เท่ากับต้นโดนปั่นหัวเล่นเหรอ ไหนต้นบอกคุณพิมเป็นอีกครึ่งของชีวิตที่ตามหาไง ขาดเขาแล้วทนได้เหรอ”
กิ่งแก้วกับมินท์มองอย่างลุ้นๆ ฤชวีคิดตามแล้วตัดสินใจ...ยังไงก็ต้องคุยกันให้รู้เรื่อง!
ขณะที่ฤชวีมุ่งมั่นเคลียร์ปัญหา...พิมภานั่งอ่านข่าวสังคมตอนเช้าที่มาทำงานแล้วน้ำตาตก เจ็บลึกในอกที่โดนทรยศ นันทิกานต์หยิบหนังสือพิมพ์มาดูแล้วเห็นภาพคู่ของฤชวีกับการะเกตุ เดินไปหาเพื่อนด้วยความสงสาร พิมภาไม่รอให้เพื่อนถาม ขอร้องช่วยยื่นวันลาให้แล้วผลุนผลันออกไป นันทิกานต์มองหน้าลัลนากับซูซี่อย่างมึนตึ้บ...อะไรมันจะวุ่นวายยุ่งเหยิงขนาดนี้เนี่ย ลัลนาวิเคราะห์สถานการณ์เพื่อนอย่างรู้ดี
“ตามนิสัยพิม...ต้องอาละวาดหรือตามไปเชือดให้รู้เรื่องนะ แต่ถ้ามาแนวน้ำตาร่วง...น่าจะเจ็บ...มากด้วย”
นันทิกานต์เห็นด้วยพร้อมส่งสายตาเซ็งมาให้...
ยังไงก็ต้องรู้ให้ได้ว่าเรื่องมันเป็นแบบนี้ได้ยังไง
พิมภาออกจากบริษัทแล้วมุ่งหน้ากลับบ้านทันที เจอกับฤชวีที่มาดักรอหน้าตึก จึงเดินเลี่ยงเข้าตึกแต่ชายหนุ่มขวางไว้แล้วพยายามถามถึงเรื่องที่คาใจ
“ผมอยากรู้ว่าคุณบอกคุณตรีวิญหรือเปล่า เรื่องที่ผมเป็นสามีกำมะลอของคุณ”
“พูดเรื่องบ้าอะไร ฉันจะบอกหรือไม่บอกแล้วมันเกี่ยวอะไรกับคุณ”
“มันสำคัญกับผมมาก บอกผมนะครับคุณพิม”
“ตอนนี้คงไม่มีอะไรสำคัญเท่าคู่หมั้นของคุณแล้วมั้ง...ฉันไม่ว่าง!”
พิมภาเดินหนีแต่ฤชวีรั้งข้อมือไว้ พิมภาพยายามสลัดแต่ไม่หลุด แหวขึ้นอย่างเหลืออดว่าไม่ได้เป็นคนบอก ฤชวียังไม่ทันได้ตอบโต้อะไร รถกระบะคันหนึ่งแล่นมาจอด ตรีวิญลงจากรถและบงการให้คนขับขนของขึ้นห้อง พิมภากับฤชวีมองมาอย่างแปลกใจ ตรีวิญอธิบายยิ้มๆ ว่าย้ายมาอยู่คอนโดฯนี้แล้ว
“ยินดีที่ได้เป็นเพื่อนบ้านใหม่นะครับ”
ฤชวีมองหน้าพิมภาด้วยความเหวอ...ท่าทางเรื่องมันจะไปกันใหญ่จริงๆด้วย!
ooooooo










