มือปราบเจ้าหัวใจ
ตอนที่ 8
กรัณย์ใช้กล้องจากโทรศัพท์มือถือแอบถ่ายภายในห้องพักของณรงค์ส่งให้คณินทร์ดูว่าไม่พบโมเดลอะไรเลย แม้แต่หนังสือที่กฤติยาภรณ์บอกว่าณรงค์ชอบอ่านก็ไม่มีสักเล่ม จึงฝากคณินทร์สานต่อเรื่องนี้ให้ด้วย
มินตราติดต่อคณินทร์ไม่ได้ตั้งแต่เช้าถึงเย็น ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ว่าเขาไม่สบายหรือเปล่า ขณะเดียวกันคณินทร์ที่ไม่ยอมรับสายจากมินตรา ทั้งที่กำลังว่างอยู่ในหน่วยฯ เขาพะวักพะวนสองจิตสองใจ ทำให้สุจิตราที่อยู่ใกล้สังเกตเห็นและพอเดาได้ จึงเตือนขึ้นลอยๆว่าปล่อยให้คนรักรอไม่ดีแน่
คณินทร์นิ่งฟัง แต่แล้วทำเหมือนไม่สนใจ สุจิตราเลยต้องเข้าประชิดตัวเตือนสติว่า
“ที่ผ่านมาผู้กองแต่งกับงาน แต่ตอนนี้ผู้กองมีผู้หญิงอีกคนพร้อมจะใช้ชีวิตกับผู้กอง อย่าปล่อยให้ความรักหลุดมือนะคะ”
“คุณมินตราเขาแกร่ง เขาดูแลตัวเองได้”
“ผู้หญิงทุกคนต้องการการดูแลและปกป้องค่ะ”
คำพูดของสุจิตราเหมือนจะได้ผล เพราะอีกครู่ต่อมาคณินทร์ก็ขับรถมอเตอร์ไซค์คู่ใจออกไป มุ่งหน้าสู่ศูนย์ดูแลผู้สูงวัยที่มินตราแจ้งมาทางข้อความว่าเธออยู่ที่นั่น แต่คณินทร์ไม่ได้ปรากฏตัว แอบดูเธออยู่ห่างๆ พอเธอกลับออกมาก็ขับรถตามไปส่งถึงบ้าน...
ค่ำนั้น ปรมัตถ์ไปพบวาทิศที่คอนโดและบังเอิญได้เห็นวาทิศคุยโทรศัพท์กับใครคนหนึ่ง แต่ไม่ทันจะรู้ว่าเขาคนนั้นเป็นใครก็โดนบอดี้การ์ดของวาทิศไล่กลับออกมาเสียก่อน
ผู้มีพระคุณของวาทิศนั่นเองที่โทร.มา ท่าทางเขากำลังมีปัญหา บอกว่าพ่อโดนพวกชั่วคุกคามจนไม่อยากอยู่ที่เดิม อยากไปอยู่บ้านใหม่ที่บรรยากาศดีๆ วาทิศรับปากว่าตนจะทำเพื่อพ่อให้ได้!
ด้านไอ้แหลมที่ไว้วางใจจ่าขจรมาก วันนี้พอรู้ว่าวาทิศเรียกประชุมด่วนเรื่องซื้อขายยาเสพติดลอตใหญ่จึงพูดให้จ่าฟังอย่างไม่ปิดบัง เหตุนี้ทำให้คณินทร์รู้ความเคลื่อนไหวจากจ่าขจรที่แอบส่งข่าวมา
คณินทร์รีบหารือเจษฎาและวางแผนจับกุมพวกวาทิศโดยไม่บอกให้ปรมัตถ์รู้ แต่ปรมัตถ์ก็มาล่วงรู้เอาตอนจวนเจียนเวลาปฏิบัติการแถมยังติดต่อวาทิศไม่ได้ด้วย
ผลการปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้คณินทร์เกือบเอาชีวิตไม่รอด เขาโดนไอ้แหลมจับขังในห้องที่มีก๊าซพิษ แถมยังจับตัววาทิศไม่ได้ เพราะวาทิศเหลี่ยมจัดซ้อนแผนเอาตัวรอดด้วยการไม่มาซื้อขายยาเสพติดด้วยตัวเอง แต่เปลี่ยนสถานที่ไปที่อื่นจนประสบผลสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ
ในขณะที่คณินทร์กำลังสูดดมก๊าซพิษจนหมดสติอยู่ในห้อง ปรมัตถ์เข้ามาบอกไอ้แหลมว่าวาทิศสั่งให้ตนมาเก็บศพคณินทร์ ตอนแรกไอ้แหลมไม่ยอม แต่พอรู้ว่าตำรวจกำลังแห่กันมาก็จำยอมถอยหนีไป
เมื่อทีมตำรวจมาถึง ปรมัตถ์ร่วมด้วยช่วยกันช่วยคณินทร์ออกจากห้องนั้นแล้วหามส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนี้ปรมัตถ์ก็โทร.แจ้งมินตรากลางดึกว่าคณินทร์พลาดท่าถูกรมด้วยก๊าซพิษอาการสาหัส
มินตราตกใจและเป็นห่วง สวดมนต์ภาวนาให้คณินทร์รอดชีวิต เขารักอาชีพตำรวจ มุ่งมั่นและอุทิศชีวิตเพื่ออุดมการณ์ เขาไม่เคยคิดทำงานเอาหน้าหรือลาภยศ เขาอยากมีชีวิตเพื่อคนอื่น ขอลมหายใจให้เขาได้ทำหน้าที่ต่อไป...
ooooooo
คำอธิษฐานของมินตราสัมฤทธิผล คณินทร์พ้นขีดอันตราย ทำให้ไอ้แหลมที่รู้ข่าวจากลูกน้องในเช้าวันถัดมาหัวเสียหนัก สงสัยว่าคณินทร์รอดได้ยังไง
จ่าขจรอยู่ในเหตุการณ์คืนนั้นด้วย เขาพยายามไม่ตอบโต้ตำรวจแต่ก็สร้างสถานการณ์ให้ไอ้แหลมไว้วางใจว่าเขาไม่ใช่สายลับจนตัวเองโดนยิงได้รับบาดเจ็บ แล้วกระเสือกกระสนกลับมาหาไอ้แหลมในตอนเช้า ก่อนจะเข้าไปพบวาทิศด้วยกันที่คอนโดฯ
วาทิศกำลังดื่มไวน์ฉลองกับปรมัตถ์ที่เขาซื้อขายยาเสพติดสำเร็จ จ่าขจรมารู้เห็นว่าปรมัตถ์เป็นสายให้วาทิศก็ตกใจมาก ขณะที่ปรมัตถ์ไม่มีท่าทีใดๆ เพราะรู้จากคณินทร์มาก่อนหน้านี้แล้วก่อนปฏิบัติการเมื่อคืน
ไอ้แหลมยังคงไม่ไว้ใจปรมัตถ์ สองคนมีปากเสียงกันทุกครั้งที่เจอ โดยเฉพาะวันนี้ไอ้แหลมเชื่อว่าปรมัตถ์ช่วยเหลือคณินทร์ให้รอดตายภายในห้องที่มีก๊าซพิษ
จ่าขจรเลยร้อนๆหนาวๆ กลัวปรมัตถ์จะซัดทอดเรื่องที่ตนเป็นสายลับให้คณินทร์
แต่ปรมัตถ์ไม่พูดเรื่องนี้ ส่วนไอ้แหลมเอาแต่จะเล่นงานปรมัตถ์ให้ได้ วาทิศไม่ยอมเพราะไว้ใจผู้กอง ทำให้ไอ้แหลมยิ่งเกลียดชังปรมัตถ์และจ้องจับผิดเขาตลอดเวลา
วันเดียวกันนี้ อุมากับจิระตั้งใจมาเยี่ยมคณินทร์ที่โรงพยาบาล แต่ดันมาเห็นภาพสวีตหวานระหว่างคนป่วย กับแฟนสาว สองคนเลยไม่กล้าเข้ามาเป็นก้างขวางคอ
มินตราต่อว่าคณินทร์ที่ก่อนหน้านี้เขาหลบหน้าหลบตาเธอ แต่พอรู้เหตุผลของเขาก็ทำให้หายงอน สองคน กลับมารักกันดูดดื่มยิ่งกว่าเดิม
หลายวันผ่านไป คณินทร์หายเป็นปกติ เขาพามินตราท่องเที่ยวไปตามสถานที่ต่างๆอย่างมีความสุข ก่อนจะกลับเข้ามาทำงานในหน่วยตามปกติ และได้พูดคุย กับปรมัตถ์เรื่องมินตรา
“ฉันขอบใจที่แกให้สติฉันเรื่องมินตรา ตอนแรกฉันคิดจะปล่อยเธอไป เพราะฉันไม่อยากเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่เธอทำให้ฉันรู้ว่าฉันเห็นแก่ตัวที่คิดอย่างนั้น ไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องทิ้งเธอ เพราะเธอรักฉัน เสร็จภารกิจครั้งนี้ฉันจะยังทำงานต่อไป และแต่งงานกับมินตรา”
“ฉันขอแสดงความยินดีกับแกล่วงหน้า” ปรมัตถ์พูดออกไปทั้งที่ลึกๆภายในใจสุดห่อเหี่ยว รู้สึกตัวเองอกหักแล้วจริงๆ
ooooooo
อุมากับจิระแสดงความยินดีกับมินตราที่กำลังจะสมหวังกับคณินทร์ ทั้งที่ความจริงอุมาก็แอบใจแป้วเพราะรู้สึกดีกับคณินทร์อยู่เหมือนกัน...
ส่วนที่ร้านเจ๊สุวันนี้ลูกค้าบางตา จ่าขจรฉวยโอกาสเข้ามาเจอหน้าเมียรัก แต่ไม่ยอมบอกว่าตัวเองไปอยู่ที่ไหนและทำงานอะไร เจ๊สุอยากให้จ่าแวะไปหาโน้ตที่แฟลต จ่าคิดถึงลูกแต่คิดว่าไม่เจอน่าจะดีกว่า จึงทำท่าจะกลับ
จังหวะนี้เองโน้ตเข้ามาเห็นพ่อ เขาอยากให้พ่อสู้กับความจริงที่พ่อบอกว่าไม่ได้ทำผิด ทุกวันนี้ตนกับแม่ถูกชาวบ้านเกลียดชัง พ่อบอกได้ไหมว่าพ่อกำลังทำอะไรอยู่ แต่จ่าขจรไม่ยอมพูดความจริง ได้แต่บอกว่าพ่อรักลูก อีกไม่นานเราสามคนพ่อแม่ลูกจะกลับมาอยู่กันพร้อมหน้า แล้วถึงวันนั้นลูกจะไม่อายใคร
เจ๊สุตาไวเห็นสวาทเดินอยู่ไม่ไกลจากร้าน จึงเร่งจ่าขจรให้รีบไปก่อนจะเป็นเรื่องใหญ่หากสวาทรู้เห็นว่าเขามา
ด้านสุจิตรากับมาโนชลูกทีมของคณินทร์ ความใกล้ชิดทำให้สองคนมีใจให้กัน แต่สุจิตรายังลังเลที่จะสานสัมพันธ์เพราะทั้งเธอและเขาต่างมีอาชีพที่เสี่ยงต่ออันตราย ซึ่งเหตุการณ์คืนก่อนที่บุกจับพวกวาทิศก็ประจักษ์ชัดแล้วว่าความตายอยู่แค่เอื้อมจริงๆ
เหตุการณ์คืนนั้นสุจิตราถูกสมุนไอ้แหลมแทงบาดเจ็บ มาโนชเป็นห่วงเธอแทบแย่ ดูแลและสารภาพรักเธอ แต่สุจิตรากลับตัดใจบอกว่าเราเหมาะที่จะเป็นเพื่อนร่วมงานมากกว่าคู่ชีวิต ทำให้มาโนชต้องกลับไปใช้เวลาไตร่ตรองเรื่องความรักและเรื่องงานให้มากขึ้น
ooooooo
คณินทร์ยังไม่ทิ้งเรื่องณรงค์ที่กรัณย์ให้ตามต่อ วันนี้เขามาที่ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุเพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมจากกฤติยาภรณ์ จนรู้ว่าณรงค์คือคนแก่ขี้เหงาและชอบมโนไปเรื่อย ก็เหมือนคนแก่ทั่วไปที่อยากมีครอบครัว ที่อบอุ่น
ฟังกฤติยาภรณ์แล้วคณินทร์ค่อยคลายความสงสัยในตัวณรงค์ลงบ้าง แต่พอเดินไปคุยกับเจ้าตัวก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมาอีก ณรงค์พูดเหมือนรู้ทันว่าคณินทร์มาสืบข้อมูลของตน แถมยังตบท้ายแปลกๆว่า
“อาชีพคุณมันเสี่ยง คำพระท่านว่าไว้...อย่าประมาท ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน”
คณินทร์เก็บความสงสัยนี้มาเล่าให้มินตราฟัง แต่เธอกลับบอกว่าเขาคิดมากเกินไป ณรงค์คงสร้างเรื่องหรือ พูดตามประสาคนแก่ขี้เหงาเหมือนอย่างที่กฤติยาภรณ์ บอกเขา
“แล้วทำไมคุณตาถึงชอบพูดถึงคุณทุกครั้ง”
“ทุกครั้งที่ฉันมาเยี่ยมคุณยาย ฉันก็คอยเอาใจใส่ดูแลท่านด้วย คุณตาเห็นฉันเหมือนลูกหลานของท่าน คุณตาจึงรักและห่วงฉัน”
“ผมเป็นผู้ชาย ผมว่าไม่ปกติ”
“อย่าบอกนะว่าคุณหึงคุณตา ถ้าคุณหึงคุณอาร์มฉันจะไม่แปลกใจเลย”
พูดชื่ออาร์มหรือปรมัตถ์ขึ้นมา มินตรานึกได้ บอกคณินทร์ว่าวันที่เราถูกไล่ยิงเขาถามเธอว่ามีใครรู้ไหม เราไปที่ไหน วันนั้นเธอบอกปรมัตถ์ไปเพราะเขาโทร.มาพอดี
คณินทร์สงสัยในตัวปรมัตถ์ แต่พยายามไม่ทำให้มินตรากังวล เขาขับรถไปส่งเธอที่บ้านแล้วนัดเจอปรมัตถ์เพื่อสอบถามข้อข้องใจ
“ใช่...ฉันเป็นคนถามคุณมินตรา แล้วไง หรือแกคิดว่าฉันเป็นคนชี้พิกัดให้ไอ้แหลม” ปรมัตถ์ตอบรับและย้อนถามคณินทร์ด้วยน้ำเสียงปกติ
“ฉันไม่เคยคิดอย่างนั้น แกรักมินตรา แกไม่มีทางฆ่าคนที่แกรัก”
“ฉันไม่มีวันฆ่าคนที่ฉันรัก”
“แล้วแกก็ไม่ฆ่าฉัน...เพราะฉันเป็นเพื่อนแก”
“ก็ไม่แน่ เพื่อนกับคนรักไม่เหมือนกัน”
“ระหว่างเพื่อนกับคนรัก ใครสำคัญที่สุด” คณินทร์ตั้งคำถาม...ปรมัตถ์ไม่ตอบ แต่อยากฟังความคิดเห็นของคณินทร์มากกว่า “สำหรับฉันไม่มีอะไรสำคัญกว่าหน้าที่ หน้าที่คือชีวิตของฉัน”
“เพราะแกเป็นคนแบบนี้ ฉันถึงได้แพ้แกทุกเรื่องความคิดของแกไปไกลกว่าฉัน ไม่ว่าจะทำอะไรฉันก็แพ้แก ตอนเรียนแกได้เกรดดีกว่าฉัน แกได้โอกาสดีๆจากท่าน ผบ.ตร. เรื่องความรัก คุณมินตราก็เลือกแก เมื่อไหร่ ฉันจะชนะแกบ้างวะ”
“แกทำสำเร็จแล้ว ถ้าวันนั้นแกไม่ช่วยฉันคงตายไปแล้ว ฉันเป็นหนี้บุญคุณแก”
“อย่าถือเป็นบุญคุณเลย มันเป็นสถานการณ์เฉพาะหน้า ฉันอยากชนะแกด้วยความคิดและความสามารถของฉัน...สักวันฉันต้องชนะแก”
คณินทร์คลายความสงสัย แต่อยากฟังความคิดเห็น ปรมัตถ์ว่าใครเป็นสายให้วาทิศ ต้องมีคนบอกว่าตำรวจวางแผนจับกุม วาทิศถึงปรับแผนไปซื้อยาที่อื่น
“วาทิศตั้งใจใช้ไอ้แหลมเป็นตัวหลอกตั้งแต่แรก เป็นแผนสองของวาทิศ” คำตอบของปรมัตถ์ทำให้คณินทร์นิ่วหน้าแปลกใจ อีกฝ่ายจึงรีบอธิบาย “ฉันก็แค่วิเคราะห์ คนฉลาดอย่างวาทิศไม่เคยใช้แผนเดียว เหมือนที่มันสร้างสถานการณ์หลอกทุกครั้ง แล้วนี่จ่าขจรติดต่อแกมารึยัง”
“ยัง...จ่ายังฝังตัวเก็บข้อมูล”
“ฉันอยากให้แกรีบพาจ่าออกมาด่วน พวกเราซุ่มจับ พวกมันต้องสงสัยว่ามีสายรายงานตำรวจ จ่าอาจตกอยู่ในอันตราย”
“ฉันติดต่อไม่ได้ ฉันต้องรอให้จ่าติดต่อมาเอง”
“ถ้าจ่าประสานมา แกรีบบอกฉัน ฉันอยากช่วย”
คณินทร์พยักหน้ารับ ปรมัตถ์เดินแยกไปที่รถของตน นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ที่เขารายงานผู้กำกับเจษฎาว่าจ่าขจรรู้ว่าตนเป็นสายให้วาทิศ แล้วเจษฎากำชับมาว่าอย่าเพิ่งบอกใคร ตนจะหาทางแก้ปัญหานี้...
ที่แท้ปรมัตถ์ไม่ได้เป็นตำรวจนอกรีตเห็นแก่อามิสสินจ้างอย่างที่วาทิศเข้าใจ แต่เขากำลังทำหน้าที่ตำรวจที่ดีเพื่อปราบปรามถอนรากถอนโคนคนชั่วต่างหาก โดยที่เจษฎารับรู้มาตลอดและคอยให้คำปรึกษา
ooooooo
