สมาชิก

มณีสวาท

ตอนที่ 6

ขณะเดียวกันที่เฮือนภูจำปา...เจ้าอุรคารับรู้เรื่องราวต่างๆอย่างโกรธจัด ไม่เข้าใจว่าทำไมเรื่องระหว่างตน ภุชคินทร์ และสุบรรณ ถึงมีแต่คนอยากยุ่ง ชรายุรับฟังอย่างปลงๆและอธิบายว่าทุกอย่างเป็นสัจธรรมและกฎแห่งกรรม เช่นเดียวกับยมนาที่ปรากฏตัวแล้วถือโอกาสเตือนสติสหายรัก

“ก็ขนาดว่าเขาเปลี่ยนภพชาติไปแล้ว เจ้ายังตามวุ่นวายยึดติด คิดให้เขาเป็นเหมือนเดิมตามที่ต้องการแล้วทำไมเรื่องทุกข์ร้อนจะไม่เกิดกับเจ้า แต่นี่คือสิ่งที่เจ้าเลือกเอง”

เจ้าอุรคาสะอึกแต่เพราะดื้อรั้นจึงไม่ยอมแพ้ ยมนาส่ายหน้าอย่างเหนื่อยใจ ปรามเสียงอ่อน

“ยังมีสิ่งที่งดงามมากมายนักในความเป็นพญานาคีของเจ้า อุรคา...กลับไปทำหน้าที่ของเจ้าดีกว่า”

“ชีวิตข้าไม่มีอะไรงดงามอีก ถ้าไม่มีท่านภุชเคนทร์ ท่านก็รู้ว่าเรารอมานานแค่ไหนกว่าเขาจะเกิดในชาติภพนี้”

“ทิฐิถือดีของเจ้าเคยสร้างทุกข์ให้คนที่เจ้ารักแค่ไหน ถึงวันนี้เจ้ายังตามมาสร้างให้เขาอีก อุรคาเทวี...เจ้าน่าจะรู้ดี อย่างไรเสีย...พญาสุบรรณไม่มีทางปล่อยเจ้าไปแน่ เพราะอดีตกาลเขาก็สาบานจะตามเป็นทาสรักต่อเจ้าเช่นกัน”

เจ้าอุรคาอึ้งไป ลืมความจริงข้อนี้ไปเสียสนิท ชรายุกับยมนามองมาด้วยความเห็นใจระคนอ่อนใจ...

สุบรรณและคณะมาถึงเฮือนภูจำปาไม่นานหลังจากนั้น...นักการเมืองหนุ่มทำท่าลังเลจนนาถสุดาทัก ไพศิษฐ์จะกดกริ่งเพื่อตัดปัญหาแต่ไม่ทันขยับ ประตูเปิดราวกับรู้ล่วงหน้าพร้อมชรายุที่ทักทายอย่างมึนตึงเหมือนเคยบอกว่า เจ้าอุรคารออยู่ข้างใน ทุกคนรีบเดิน ไม่รู้แม้แต่น้อยว่าอากรกับสมศักดิ์ที่แอบสะกดรอยตามสุบรรณมามองตามอย่างมีเลศนัย ทั้งสองได้ยินชื่อเจ้าอุรคาก็จำได้ว่าคือราชนิกุลสาวที่เกือบโดนโจรกรรมเครื่องเพชร มองหน้ากันยิ้มๆ ตั้งใจจะจัดการหญิงสาวและขโมยสมบัติของเธอไปด้วย...

ฟากเจ้าอุรคา...ทักทายทุกคนอย่างเย็นชา บอกปัดตั้งแต่ต้นว่าเฮือนภูจำปาไม่มีสิ่งใดหรือใครที่พวกเขาต้องการหา สุบรรณหน้าเสีย ขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่เพราะแคร์ความรู้สึกของเธอมาก

“ขอโทษนะครับเจ้า เหมือนคนของผมจะสูญหายหลังจากมาที่นี่ ผมเลยอยากขอตรวจดู”

“จะบอกว่าคนของคุณมาบุกรุกบ้านของดิฉันหรือคะ”

ทุกคนเงียบกริบ หน้าเจื่อนเพราะเหมือนโดนตำหนิซึ่งหน้า ไพศิษฐ์โพล่งขึ้นอย่างเหลืออดถึงข้อสันนิษฐานและขอตรวจค้นเฮือนอย่างตรงไปตรงมา เช่นเดียวกับนาถสุดาและอำนาจที่เกลี้ยกล่อมราชนิกุลสาวให้ร่วมมือ สุบรรณมีท่าทีอึดอัด เพราะกลัวหญิงสาวโกรธ ตั้งท่าจะกลับแต่เจ้าอุรคาขัดขึ้นเสียก่อน

“ได้...เพื่อเกียรติของดิฉันเอง ชรายุ...เปิดบ้านให้เขาดูทุกห้องที่เขาต้องการ ไม่เว้นแม้แต่ห้องของข้า”

ชรายุชักสีหน้าไม่พอใจ สะบัดหน้าเดินนำทุกคนไปอย่างเคืองๆ สุบรรณกับนาถสุดาลำบากใจ ต่างจากอำนาจกับไพศิษฐ์ที่เดินดูรอบๆด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ooooooo

ภุชคินทร์ยอมพาเฟื่องวลีมาด้วยเพราะอยากรู้เรื่องเจ้าอุรคา หญิงสาวมองบรรยากาศอึมครึมของทางเข้า เฮือนภูจำปาด้วยสีหน้าแหยงๆ บอกชายหนุ่มว่า เหมือนบ้านผีสิง ภุชคินทร์ชักสีหน้าอย่างรำคาญ เฟื่องวลีรู้สึกตัวว่าพูดมากไปจึงสงบท่าที ปล่อยให้ชายหนุ่มขับรถต่อไป

เวลาเดียวกันภายในเฮือนภูจำปา...ชรายุนำทุกคนค้นหาทุกซอกทุกมุมแต่ไม่มีใครเห็นอะไร ไพศิษฐ์กับ อำนาจมั่นใจว่าสุรินทร์อยู่ที่นี่ ต่างจากสุบรรณกับนาถสุดาที่ร้อนรนอยากกลับ ชรายุมองท่าทีทุกคนแล้วประชด

“ถ้ามี...ก็หาให้เจอ เพราะบางทีคนของคุณอาจถูกซ่อนไว้ข้างๆคุณก็ได้”

อำนาจกับไพศิษฐ์มองชรายุอย่างเคืองๆ เจ้าอุรคาที่แอบมองจากห้องลับ ใช้อิทธิฤทธิ์ร่ายมนต์คลายกำแพงแก้วให้สุรินทร์มองเห็นคนอื่นแต่ไม่มีใครเห็นเขา นักฆ่าหนุ่มที่ยังอ่อนแรงจากการถูกงูรัด เบิกตาโพลงอย่างยินดีเมื่อเห็นเจ้านาย ร้องขอความช่วยเหลือแต่เหมือนตะโกนใส่กำแพง...ไม่มีใครรับรู้และไม่มีใครได้ยิน!

คณะค้นหาวนเวียนในเฮือนอีกพักใหญ่ สุบรรณจึงสั่งให้กลับเพราะเกรงใจเจ้าอุรคา สุรินทร์รวบพลังเฮือกสุดท้าย ตะเบ็งสุดเสียงจนไพศิษฐ์ที่ตั้งท่าเดินออกชะงักหันขวับอย่างสงสัย ชรายุไม่พอใจที่ผู้กองหนุ่มหาเรื่องเจ้านายสาวไม่เลิก ส่วนสุรินทร์นึกรู้ว่าเป็นมนต์วิเศษของเจ้าอุรคา พึมพำบทสวดแก้มนต์แต่ไม่สำเร็จไพศิษฐ์ขอค้นอีกรอบ ชรายุจะเอาเรื่องแต่เจ้าอุรคาห้ามไว้แล้วบอกให้ไปทำงานอื่น สุบรรณขยับไปใกล้ราชนิกุลสาวแล้วพูดเสียงหวาน

“ใจผมรู้ตั้งแต่แรกว่าคนของผมไม่ได้อยู่ที่นี่ แต่ผมมาเพราะคิดถึง อยากเห็นหน้าเจ้า”

“แสดงว่าคุณเห็นแก่ตัวมาก เพราะการมาของคุณทำให้ดิฉันเดือดร้อน แล้วจะให้ดิฉันมองคุณด้วยความรู้สึกดีได้อย่างไรคะ ประตูแห่งสองเรา มันถูกปิดตายไปนานแล้วท่านสุบรรณ”

สุบรรณหน้าซีดเผือด เจ็บปวดหัวใจแต่แววตากร้าวขึ้นไม่ยอมแพ้...ผมต้องทำให้เจ้ารักให้ได้!

ขณะเดียวกันที่หน้าเฮือนภูจำปา...ภุชคินทร์กับเฟื่องวลีมาถึงทันเห็นสมศักดิ์กับอากรพยายามปีนข้ามรั้ว ชายหนุ่มรีบไปขวางแต่โดนซ้อมกลับเสียน่วม เฟื่องวลีร้องเสียงหลงแต่ช่วยอะไรไม่ได้ โดนสองคนร้ายไล่กลับด้วยความรำคาญ เจ้าอุรคารับรู้ว่าภุชคินทร์ตกอยู่ในอันตรายจึงผลุนผลันออกไปช่วย สุบรรณมองตามงงๆ ส่วนสุรินทร์ฉวยโอกาสนี้สวดแก้มนต์ กำแพงแก้วค่อยๆคลายออกเพราะเจ้าของมนต์กำลังร้อนรุ่มเพราะความเป็นห่วง นักฆ่าหนุ่มแสยะยิ้มและพาตัวเองออกไปอย่างรวดเร็ว...อาฆาตพญานาคสาวว่าต้องกลับมาล้างแค้นให้ได้!

สุรินทร์ลากสังขารอ่อนแรงมาที่ด้านนอก เจอกับกองทัพงูจึงร้องด้วยความตกใจ สุบรรณและคณะได้ยินจึงพุ่งไปตามเสียง ในขณะที่สุรินทร์รวบพลังเฮือกสุดท้ายกลายร่างเป็นนินจาแล้วหายตัว ชรายุปรากฏตัวและหัวเราะเสียงหยัน

“ใครที่คิดลบหลู่เจ้าต้องเจอดีทุกคน!”

ooooooo

อากรกับสมศักดิ์ต้องการฆ่าภุชคินทร์เพื่อปิดปาก เจ้าอุรคาปรากฏตัวและเปล่งเสียงทรงอำนาจอย่างโกรธจัด มือปืนทั้งสองมองหน้ากันอึ้งๆแล้วตัดสินใจฉุดหญิงสาว ภุชคินทร์ฮึดสู้ สะบัดตัวออกจากการจับกุมและชกหน้าหนึ่งในสองคนร้ายอย่างแรง คว้าข้อมือหญิงสาวจะพาหนีแต่สมศักดิ์ถลามาขวาง กระชากผมและตบหญิงสาวจนคว่ำ!

ขณะที่เจ้าอุรคากับภุชคินทร์ถูกทำร้ายอย่างหนัก...คณะสุบรรณที่มุ่งหน้าไปช่วยสุรินทร์หันขวับ ได้ยินเสียงร้องของราชนิกุลสาวจากอีกด้าน สุบรรณหมุนตัวกลับทันที อำนาจละล้าละลัง ส่วนนาถสุดาตัดสินใจตามญาติหนุ่มเพราะเป็นห่วงเจ้าอุรคา ผู้กองหนุ่มจำใจตามไปดูแลแฟนสาว อำนาจตัดสินใจไปช่วยสุรินทร์แต่เจอกับชรายุและกองทัพงูระหว่างทางจึงหมุนตัวกลับทางเดิมอย่างเกรงๆ

ฝ่ายเจ้าอุรคาเลือกไม่แสดงอิทธิฤทธิ์เพราะไม่อยากแสดงตัวและอยากลองใจราชนิกุลหนุ่ม ภุชคินทร์ต่อสู้สุดกำลังจนดึงเธอออกมาได้ สมศักดิ์กับอากรไม่ยอมแพ้ ช่วยกันซ้อมชายหนุ่มจนล้มไปกองกับพื้น เจ้าอุรคาตวัดสายตามองอย่างเดือดจัด มือปืนทั้งสองเริ่มหายใจไม่ออกราวกับมีคนบีบคอ นึกรู้ว่าเกิดปรากฏ– การณ์ประหลาดเหมือนตอนปืนขยับเองได้ ตัดสินใจหนีแต่ไม่วายยิงปืนใส่เจ้าอุรคาทิ้งท้าย ภุชคินทร์คว้าร่างเธอมากอดไว้อย่างปกป้อง สองหนุ่มสาวประสานสายตากันด้วยความรู้สึกลึกซึ้งจนชายหนุ่มเหมือนตกอยู่ในภวังค์ พึมพำชื่ออุรคาเทวีออกมาโดยไม่รู้ตัว

สุบรรณตามมาทันและชะงักกับภาพสองหนุ่มสาวตระกองกอดด้วยท่าทีแสนหวาน หึงหวงและแค้นเคืองราชนิกุลหนุ่มเหลือจะกล่าว ส่งเสียงดังเรียกทั้งสองให้ผละจากกันแล้วถลาไปหาเจ้าอุรคาด้วยความเป็นห่วง ราชนิกุลสาวขืนตัวออกและขอบคุณภุชคินทร์อย่างจริงใจ สุบรรณขัดขึ้นว่าตนก็ห่วงเธอมาก แขวะราชนิกุลหนุ่มที่มาถึงถูกเวลาราวกับนัดคนร้ายมาก่อน เจ้าอุรคาตวัดสายตามองด้วยความไม่พอใจ ตอกกลับอย่างไม่ยี่หระ

“คนหนึ่งพูด อีกคนหนึ่งทำให้เห็น ขอบคุณคุณชายมากค่ะที่เสี่ยงชีวิตช่วยดิฉันไว้ ดิฉันซาบซึ้งมากค่ะ”

“ถ้าความซาบซึ้งต้องแลกกับอันตรายของเจ้า ผมคงไม่อยากรับ เพราะผมไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิด ขึ้นกับเจ้า”

“สิ่งที่มันจะเกิด อย่างไรมันก็ต้องเกิด และเมื่อเกิดขึ้นแล้ว ก็ยากที่จะแปรเปลี่ยน”

สุบรรณขบกรามแน่น มองเจ้าอุรคาอย่างปวดร้าวและมองภุชคินทร์ด้วยความริษยา ราชนิกุลหนุ่มขอตัวกลับ ได้ยินเสียงหญิงสาวก้องในโสตประสาท

“ขอบใจมาก ข้ารักท่าน...ภุชเคนทร์”

ชายหนุ่มหันไปมองราชนิกุลสาว รู้สึกได้ถึงแรงดึงดูดประหลาด สุบรรณฮึดฮัด นาถสุดา ไพศิษฐ์ อำนาจ และชรายุที่เพิ่งตามมาถึง มองภาพรักสามเส้าตรงหน้าด้วยความรู้สึกต่างกัน...ไม่รู้จะเห็นใจใครดี!

ooooooo

เฟื่องวลีหนีตายมาถึงบ้าน เล่าทุกอย่างให้แม่ฟังด้วยความตื่นเต้นระคนหวาดกลัว ตัดพ้อภุชคินทร์อย่างน้อยใจที่มีท่าทีเป็นห่วงเจ้าอุรคาจนน่าหมั่นไส้ เฟื่องฟ้าถือโอกาสยุลูกสาวให้เปลี่ยนเป้าหมายจากราชนิกุลหนุ่มเป็นสุบรรณ เฟื่องวลีไม่สนเพราะมุ่งจะเอาชนะใจภุชคินทร์เท่านั้น

ด้านสุบรรณ...ครุ่นคิดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ภาพเจ้าอุรคามองตากับภุชคินทร์ตามหลอกหลอนจนไม่เป็นอันทำอะไร อำนาจพยุงสุรินทร์มาหาก็ไม่สนใจ ตะเพิดไล่ไม่มีใครเข้าหน้าติด สุรินทร์แค้นใจแทบกระอักที่เจ้านายหนุ่มหลงเจ้าอุรคาจนโงหัวไม่ขึ้น เล่าให้อำนาจฟังถึงสิ่งที่เจอในเฮือนภูจำปาและค่อนแคะเจ้านายหนุ่มทำให้เขาของขึ้น ชกหน้าเพื่อนอย่างเหลืออด สองหนุ่มสู้กันดุเดือด และในที่สุดอำนาจเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำ โดนเพื่อนตะคอกซ้ำและส่งสารท้าทาย

“กูจะพิสูจน์ว่ากูกับไอ้สุบรรณ...ใครจะมีบารมีมากกว่ากัน ประกบนายมึงให้ดี สักวันกูจะลากมันมากราบตีนกู”

“ถ้ากูยังอยู่ กูยอมตายเพื่อนาย ข้ามศพกูไปก่อนเถอะไอ้สุรินทร์!”

อำนาจตอกกลับอย่างไม่กลัว สองหนุ่มจ้องกันตาไม่กะพริบ...ไม่มีใครยอมใคร

เวลาเดียวกันที่บ้านพันเอกนรินทร์...นาถสุดาเปรยกับพ่อว่าสุบรรณหลงรักเจ้าอุรคาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น แต่ดูราชนิกุลสาวจะมีใจให้ภุชคินทร์มากกว่า และที่น่ากลัวที่สุดคงเป็นแววตาที่หญิงสาวมองสุบรรณ

“นาถรู้สึกได้...ทุกครั้งที่เข้าใกล้เจ้าอุรคา นาถรู้สึกถึงอำนาจบางอย่างแผ่ซ่านออกมา มันยะเยือกหนาวจับขั้วหัวใจ ยังกับว่าเรากับเจ้าไม่ได้อยู่โลกเดียวกัน คุณพ่อรู้ใช่ไหมคะว่ามันคืออะไร”

“สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น ถึงพ่อจะบอก นาถก็คงไม่เชื่อ พ่ออยากให้นาถพิสูจน์ด้วยตัวเอง”

พันเอกนรินทร์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง บอกลูกสาวให้ทำจิตสำรวมและสงบนิ่งเพื่อเข้าสู่มิติเดียวกับเจ้าอุรคา นาถสุดาทำตามอย่างไม่เกี่ยงงอน...เธอต้องพิสูจน์ให้ได้ว่าเรื่องจริงมันเป็นยังไง

ฝั่งภุชคินทร์...พาร่างสะบักสะบอมกลับวังนาเคนทร์ นารีวรรณทำแผลและถามไถ่ด้วยสีหน้ากังวลใจ หม่อมภาณีหยิบครุฑธิการมาให้ลูกชายพกติดตัว เพราะเชื่อว่าอัญมณีลึกลับจะช่วยคุ้มครองเขาได้ ภุชคินทร์รับมาด้วยใบหน้านิ่งสงบ ครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาตั้งแต่เรื่องราวในตำนานพญานาคี ความฝันเกี่ยวกับครุฑและพญานาค รวมไปถึงท่าทางน่าสงสัยของเจ้าอุรคาที่มีต่อครุฑธิการ ตัดสินใจว่าต้องหาโอกาสถามจากหญิงสาวให้รู้เรื่อง

ฟากเสี่ยทรงยศ...โวยวายใส่ลูกน้องอย่างหัวเสียที่จัดการเจ้าอุรคาไม่สำเร็จ สมศักดิ์กับอากรเล่าเรื่องประหลาด ทั้งเรื่องปืนเคลื่อนไหวเองและอาการเหมือนโดนบีบคอจนเกือบไม่รอด เสี่ยทรงยศหัวเราะเพราะคิดว่าเป็นเรื่องตลก

“อยากรู้เหมือนกัน...คนอย่างเจ้าอุรคาตอนเป็นผีจะสวยแค่ไหน ฉันจะเอามันเป็นเมียตัดหน้าไอ้สุบรรณ”

เสี่ยทรงยศเดินอาดๆออกไปอย่างอารมณ์ดี ลูกน้องทั้งสองมองตามแหยงๆ กลัวเจ้านายเอาชีวิตไปทิ้ง...ขณะเดียวกันที่เฮือนภูจำปา...เจ้าอุรคาแสยะยิ้มน่ากลัว ไม่กลัวแม้แต่น้อยที่เสี่ยใหญ่จะตามมาหาถึงเฮือน ราชนิกุลสาวตะโกนเรียกชรายุมาสั่งความแต่ต้องชะงักเมื่อยมนาปรากฏตัว

“เจ้าไม่เคยใช้สติควบคุมอารมณ์เลย เป็นถึงนาคเทวีแต่กลับลดตัวไปเกลือกกลั้วกับคนใจหยาบ”

เจ้าอุรคาสะอึก โต้กลับว่าเสี่ยใหญ่มักมากต้องโดนสั่งสอนเสียบ้าง ยมนาตอกกลับเสียงเรียบ

“กรรมเขามี ถึงเจ้าไม่ทำอะไร เขาก็ต้องชดใช้มันอยู่ดี โดยเฉพาะ...ชะตาเขาถึงฆาต”

“ขอบคุณยมนาที่ให้สติแก่เรา แต่คงไม่เป็นไรใช่ไหม ถ้าเราจะขอติดตามท่านไปดูจุดจบของมัน”

เจ้าอุรคายิ้มเย็น ดีใจที่เสี่ยทรงยศถึงฆาตเร็วกว่าที่คิด ยมนามองมาอย่างหนักใจที่สหายรักยังไม่สำนึก

ooooooo

โศกนาฏกรรมของเสี่ยทรงยศมาถึงไม่นานหลังจากนั้น รถเขาถูกยิงพรุนทั้งคัน ส่วนตัวเสี่ยใหญ่จมกองเลือดบนที่นั่งคนขับ ไพศิษฐ์กับจ่าชิดตรวจสอบที่เกิดเหตุ มองหน้ากันเครียดๆเมื่อได้ยินจากพยานผู้เห็นเหตุการณ์ว่ามีชายหญิงรูปร่างหน้าตาเหมือนเจ้าอุรคากับชายชุดดำปริศนาปรากฏตัวใกล้ๆ บริเวณนั้น

ไพศิษฐ์เล่าเรื่องเสี่ยทรงยศและการปรากฏตัวของชายหญิงปริศนาให้เพื่อนรักฟังวันถัดมา สองหนุ่มมึนตึ้บ ไม่แน่ใจว่าเจ้าอุรคาเป็นแค่เจ้าหญิงต่างแดนหรือเป็นอย่างอื่นด้วย ภุชคินทร์เล่าเรื่องปรากฏการณ์ประหลาดที่เกิดกับเขา ตั้งแต่เห็นรอยเท้าพญานาคครั้งแรกจนเจอราชนิกุลสาว เพิ่งนึกได้ว่าหญิงสาวที่เห็นในฝันมาตลอดอาจเป็นเจ้าอุรคา

“เธอแต่งตัวแปลกๆเหมือนคนโบราณ ศิษฐ์...ฉันจะกลับไปที่ลำน้ำโขง!”

ภุชคินทร์ผลุนผลันออกไปแล้วเหมือนเพิ่งคิดบางอย่างได้ ไพศิษฐ์มองตามงงๆ...เวลาเดียวกันที่เฮือนภูจำปา...เจ้าอุรคารับรู้ความคิดของภุชคินทร์ด้วยความยินดี

“แม้จะผ่านกี่ภพกี่ชาติ ที่ข้าต้องรอคอยท่าน ข้าก็ยินดี เพราะวันนี้การรอคอยของข้าคงสิ้นสุดเสียที”

สีหน้าเจ้าอุรคาเต็มไปด้วยความหวัง เช่นเดียวกับชรายุที่มองมาอย่างดีใจ แต่ก็กลัวว่าบางทีอาจไม่เป็นดังหวัง

ภุชคินทร์มาถึงลำน้ำโขงในวันถัดมา...เจอกับชาวบ้านบริเวณนั้น สอบถามเรื่องความเชื่อเกี่ยวกับพญานาค ได้ความว่าพญานาคเป็นสัญลักษณ์แห่งความยิ่งใหญ่ ความอุดมสมบูรณ์และความมีวาสนา ใครได้พบเห็นมีแต่จะโชคดี ภุชคินทร์รับฟังด้วยใบหน้าเรียบเฉย แต่ในใจเต็มไปด้วยความสงสัย...เจ้าอุรคา...คุณเป็นใครกันแน่

เวลาเดียวกันที่บ้านไพศิษฐ์...อติศรีทานกลางวันกับนาถสุดาและหลานชายพลางอ่านแมกกาซีน เห็นภาพ เจ้าอุรคาแล้วตาโต บอกนาถสุดาว่าเหมือนกับหญิงสาวที่ให้ไม้แกะสลักพญานาค ผู้กองหนุ่มมองหน้าแฟนสาวแล้วผลุนผลันออกจากบ้านอย่างฉุนเฉียว บอกว่าราชนิกุลสาวเป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมดและอาจทำให้ภุชคินทร์ที่ไปตามหาคำตอบถึงลำน้ำโขงเป็นอันตราย สองหนุ่มสาวเครียดจัด กระโจนขึ้นรถไปตามราชนิกุลหนุ่มทันที

คืนเดียวกันที่ลำน้ำโขง...ภุชคินทร์เดินลุยน้ำ กวักน้ำตะกุยตะกายอย่างบ้าคลั่ง ชาวบ้านบริเวณนั้นมองมาอย่างงงงัน คิดว่าชายหนุ่มแปลกหน้าชาวกรุงสติไม่ดี ทันใดนั้น...ท้องน้ำโขงกระเพื่อมคล้ายงูใหญ่ล้อเล่นกับน้ำ ภุชคินทร์เพ่งมอง เห็นร่างเลือนลางของเจ้าอุรคาปรากฏขึ้นตรงหน้า ในชุดโบราณงดงามแปลกตา ชายหนุ่มเหมือนตกอยู่ในภวังค์ ได้ยินเสียงผู้หญิงคุ้นหูก้องในโสตประสาท

“ท่านอยากรู้ไม่ใช่หรือว่าสิ่งใดเรียกท่านมาที่นี่... หัวใจของท่านเองไงล่ะ กลับร่างเดิมของท่านสิแล้วท่านจะรู้”

ภุชคินทร์มึนงง ไม่เข้าใจว่าร่างเดิมคืออะไร เจ้าอุรคาบอกให้เขายอมสละร่างมนุษย์เพื่อหาคำตอบ ภุชคินทร์ไม่ตอบรับแต่แววตาเต็มไปด้วยความอยากรู้ เจ้าอุรคาจึงเดินระเรื่อยลงกลางน้ำ ภุชคินทร์ก้าวตามราวกับต้องมนต์ ไม่นานนักร่างทั้งสองก็จมลง ทิ้งไว้เพียงรองเท้าของชายหนุ่มที่ลอยอยู่กลางลำน้ำ!

ooooooo

มณีสวาท

ละครแนะนำ

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด