ตอนที่ 11
อัลบั้ม: 'ซี' สู้ชีวิตเชือดเฉือน 'ปู' 'คนละโลก' สะท้อนสังคม
ในที่สุดก็ถึงวันงานแต่งงานระหว่างทิเบตและนิลปัทม์ โรงแรมศักการะถูกเนรมิตไว้อย่างสวยงาม ผู้คนพากันตื่นเต้น เพราะนี่เป็นงานแต่งงานแรกของเมืองไทยที่มีการถ่ายทอดสดไปทั่วประเทศ ต่างคิดว่าเจ้าบ่าวรักเจ้าสาวมากถึงขนาดลงทุนหลายสิบล้านบาทซื้อเวลาทีวีเพื่อการนี้โดยเฉพาะ
ใกล้ถึงฤกษ์งามยามดีเข้ามาทุกขณะ นิลปัทม์เริ่มนั่งไม่ติดเดินไปเดินมาอยู่ในห้องแต่งตัวรอการมาถึงของเจ้าบ่าวแต่ไร้วี่แวว เธอหยิบมือถือขึ้นมาโทร.หาเขาแต่เครื่องปิด ติดต่อไม่ได้ จังหวะนั้นนิลสีพรวดพราดเข้ามาในห้อง นิลปัทม์คิดว่าแม่จะมาห้ามแต่งงานกับทิเบตรีบดักคอว่าตัวเองไม่มีทางเปลี่ยนใจเด็ดขาด นิลสีตบลูกหน้าหัน เผื่อตัวโง่จะกระเด็นออกไปได้บ้าง
“ผู้ชายคนนั้นเขาไม่ได้รักแก ที่เขาขอแกแต่งงานก็เพราะเขาต้องการเหยียบย่ำหัวใจของฉัน”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับแม่”
“เมื่อสี่ปีที่แล้วพี่ชายแกข่มขืนน้องสาวทิเบต มันเอาเรื่องนี้ไปบอกนักข่าวก็เลยถูกไล่ออก มันตกงานหมดอนาคต แกไม่นึกแปลกใจบ้างเหรอว่าทำไมจู่ๆทิเบตถึงรวยกลับมา มิหนำซ้ำยังมาซื้อกิจการโรงแรมศักการะไปอีก ที่มันทำลงไปทุกอย่างเพราะต้องการแก้แค้น” ไม่ว่านิลสีจะพูดถึงทิเบตในทางไม่ดีอย่างไร นิลปัทม์ยืนกรานจะแต่งงานกับเขา ถ้าแม่ไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้ก็เชิญกลับไปได้ นิลสีโมโหมาก เชิญลูกทำตามใจแต่ถ้าเรื่องที่ตนพูดเป็นความจริงอย่ามาร้องไห้ให้ตนปลอบก็แล้วกัน...
ในเวลาเดียวกันที่บ้านของหมอเถื่อน คลเมขลานั่งดูการถ่ายทอดสดบรรยากาศภายในงานแต่งงานของทิเบตกับนิลปัทม์ทางหน้าจอทีวี เห็นจัดงานอย่างเอิกเกริกก็อดสงสัยไม่ได้ว่าทิเบตคิดจะทำอะไรกันแน่...
ระหว่างที่ทิเบตกับสมุนกำลังขนสินค้าเตรียมจะเอาไปส่งยังสถานที่นัดหมาย โทรุแอบออกมาโทร.แจ้งชัชชัยว่าอีกสองชั่วโมงข้างหน้าจะมีการส่งมอบยาเสพติดที่ผับหรูแห่งหนึ่ง สารวัตรหนุ่มไม่แน่ใจว่าจะเชื่อถือผู้หวังดีนิรนามรายนี้ได้หรือไม่ โทรุรับรองว่าครั้งนี้จะไม่พลาดเหมือนครั้งที่แล้ว
“คุณรู้ได้อย่างไรเรื่องการจับยาครั้งก่อน ทั้งๆที่ไม่ได้มีข่าวออกไป”
“คุณไม่ต้องสงสัยว่าผมรู้ได้อย่างไรเอาเป็นว่าถ้าคุณไม่เชื่อ คุณจะเสียใจ” พูดจบโทรุวางสาย ชัชชัยตัดสินใจโทร.ให้สายของตัวเองเช็กข่าวนี้อีกครั้งว่าเชื่อถือได้หรือไม่
ooooooo
แขกผู้มีเกียรติทั้งไฮโซไฮซ้อมาร่วมงานแต่งงานกันอย่างคับคั่งแต่ยังไม่เห็นวี่แววทั้งเจ้าบ่าวและเจ้าสาว เจ้าหน้าที่จัดงานจึงขึ้นไปตามนิลปัทม์ให้ลงมาได้แล้ว เธอยืนกรานจะไม่ไปไหนทั้งสิ้นจนกว่าทิเบตจะมา
“คุณทิเบตโทร.มาแล้วค่ะท่านบอกว่าท่านติดงานด่วน ตอนนี้กำลังรีบมา ถ้ายังไงให้คุณลงไปรับแขกก่อน”
นิลปัทม์คลายความกังวลรีบเดินตามเจ้าหน้าที่จัดงานลงไปทันที...
หลังเคนอิจิรับคำสั่งทางโทรศัพท์จากทิเบตให้เอาคลิปไปเปิดในงานแต่งงานเสร็จ หันหลังจะกลับเข้าบ้านของหมอเถื่อน ต้องชะงักเมื่อเจอคลเมขลายืนจ้องอยู่ เขาทำเป็นถามกลบเกลื่อนว่าออกมาข้างนอกทำไม
“ฉันคิดว่าฉันพอจะรู้แล้วว่าคุณทิเบตกำลังทำอะไร เขาจะไม่ไปงานแต่งงานใช่ไหม”
“อ่า...คือ ผมไม่ทราบ”
คลเมขลาคาดคั้นให้เคนอิจิบอกแผนการของทิเบตแต่เขาไม่ยอมปริปากพูดอะไรทั้งสิ้น ก็เลยรีบกลับห้องพัก เพื่อโทร.เตือนนิลปัทม์ถึงแผนชั่วนี้ แต่เธอวางมือถือทิ้งไว้ในห้องแต่งตัวไม่ได้เอาติดไปด้วย...
บรรดานักข่าวเริ่มสงสัยทำไมมีเพียงเจ้าสาวเท่านั้นที่มาเดินทักทายแขก พากันยิงคำถามแข่งกันจนแทบจะฟังไม่ได้ศัพท์ว่าเจ้าบ่าวหายไปไหน เธออธิบายว่าเขาติดงานด่วนต้องรีบไปเคลียร์ อีกสักครู่คงจะมาถึง ระหว่างนั้นเคนอิจิเดินขึ้นไปบนเวทีพร้อมกับประกาศผ่านทางไมโครโฟน
“สวัสดีครับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน คุณทิเบตส่งผมมาเป็นตัวแทนเพื่อมอบของขวัญชิ้นพิเศษให้กับคุณนิลปัทม์ ถ้าทุกท่านพร้อมแล้ว เชิญรับชมได้เลยครับ” สิ้นเสียงไฟห้องจัดเลี้ยงดับพรึบ จอโปรเจกเตอร์เลื่อนลงมากลางเวที ท่ามกลางสายตาอยากรู้อยากเห็นของผู้มาร่วมงาน สักพักภาพของทิเบตปรากฏขึ้นที่หน้าจอ
“คุณคงแปลกใจที่เห็นผมถ่ายคลิปตัวเองส่งมาให้คุณ ที่ผมทำแบบนี้เพราะผมไม่สามารถทนเห็นหน้าผู้หญิงที่ทรยศต่อความรักของผมอย่างคุณได้ คุณคงแปลกใจว่าทำไมผมถึงพูดประโยคนี้ เพราะผมรู้มาว่าคุณมีคนอื่น แถมยังมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง คุณคงกำลังเถียงว่าผมเอาอะไรมาพูด แต่ผมมีหลักฐาน”
ภาพของทิเบตหายไปกลายเป็นภาพแอบถ่าย เห็นห้องพักในโรงแรมแห่งหนึ่งมีปุราณกับนิลปัทม์กำลัง แสดงฉากเลิฟซีน ทุกคนตกตะลึงที่เห็นเจ้าสาวเป็นชู้กับพี่เขยตัวเอง นักข่าวพากันห้อมล้อมขอสัมภาษณ์ เธอทนความอับอายไม่ไหววิ่งหนีโดยมีฝูงนักข่าววิ่งตามจนทันกันที่หน้าโรงแรม เธอหันรีหันขวางไม่รู้จะหนีไปทางไหน ทันใดนั้นนิลสีขับรถมาจอดเทียบ ตะโกนเรียกให้เธอขึ้นรถ ก่อนจะขับจากไปอย่างรวดเร็ว...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ณ ผับเป้าหมาย ทิเบต โทรุและสมุนเดินฝ่านักเที่ยวกลางคืนที่กำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนานไปยังห้องลับด้านหลัง โทรุบอกให้ทิเบตเข้าไปก่อน อ้างว่าแม่โทร.หาขอออกไปรับสายข้างนอก เขาพยักหน้ารับรู้ แต่ไม่วายเร่งให้คุยเร็วๆไม่อยากให้ลูกค้ารอนานๆ...
ด้านนิลสีมองทางกระจกส่องหลังไม่เห็นรถของพวกนักข่าวตามมา รีบเบนรถจอดข้างทาง พยายามเขย่าตัวนิลปัทม์ที่ยังช็อกกับเหตุการณ์เมื่อครู่ให้รู้สึกตัว พอได้สติเธอถึงกับปล่อยโฮโผกอดแม่
“เขาหลอกปัทม์ เขาไม่จริงใจกับปัทม์ ปัทม์น่าจะเชื่อแม่ตั้งแต่แรก ปัทม์ไม่น่าหลงกลแต่งงานกับเขาเลยจริงๆ”
นิลสีกอดตอบปลอบใจ บอกให้ลูกร้องไห้ให้เต็มที่ หลังจากวันนี้ไปห้ามร้องไห้ให้กับทิเบตอีก
ooooooo
นับเป็นโชคร้ายของโทรุที่ไพโรจน์มาที่ผับแห่งนี้พอดี ได้ยินเขาโทร.แจ้งตำรวจให้รีบมาที่นี่ ก็ชวนวันชัยหลบมุมแอบดู โทรุวางสายจะกลับเข้าข้างในแต่เจอทิเบตยืนขวางอยู่ถามเสียงเข้มว่าคุยโทรศัพท์กับใคร เขาอ้างว่าคุยกับแม่ ทิเบตไม่เชื่อเพราะเขาเกลียดแม่ตัวเอง โทร.มาเมื่อไหร่ไม่เคยอยากรับสาย
“ถ้านายไม่เชื่อว่าฉันคุยกับแม่ก็ตามใจ เพราะตอนนี้ไม่ว่าฉันจะทำอะไรก็ไม่เคยดีในสายตาของนายอยู่แล้ว นับตั้งแต่วันที่นายรักคลเมขลา นายก็เปลี่ยนไป นายไม่ใช่ทิเบตคนเดิมที่ฉันเคยรู้จัก”
“คิดว่าฉันคนเดียวที่เปลี่ยนไป นายเองก็เหมือนกัน ตลอดเวลาฉันรู้สึกกว่านายกำลังจะเข้ามาแทนที่ฉัน” ทิเบตทิ้งท้ายแล้วกลับเข้าไปในผับ โทรุมองตามด้วยความแค้น
“อีกไม่กี่นาที แกกำลังจะสิ้นชื่อแล้วไอ้ทิเบต” โทรุพึมพำกับตัวเองโดยไม่ล่วงรู้ว่าไพโรจน์กับวันชัยแอบฟังอยู่สงสัยว่าเขากำลังจะหักหลังทิเบต ด้วยความเป็นห่วงลูกชาย ไพโรจน์รีบตามทิเบตเข้าไปข้างใน แต่นักเลงคุมผับไม่ยอมให้เข้า เนื่องจากเขาเป็นเจ้าของผับคู่แข่ง ขณะกำลังฮึ่มๆกันอยู่ตรงทางเข้า ชัชชัยนำกำลังตำรวจมาถึง ไพโรจน์รู้ทันทีว่าจะมาจับทิเบตรีบดึง
วันชัยหลบออกไปอีกทางหนึ่งเพื่อหาทางช่วยลูกชาย
ทางด้านชัชชัยสั่งให้ลูกน้องรออยู่หน้าผับ ตนเองจะเข้าไปดูลาดเลาข้างในก่อน ได้ข่าวจากตนเมื่อไหร่ก็ให้นำกำลังเสริมที่สแตนด์บายอยู่บุกเข้าไปข้างในได้เลย สั่งการเสร็จสารวัตรหนุ่มแกล้งเมาแอ่นเดินไปทางห้องลับด้านหลังผับทำทีมาหาห้องน้ำ สมุนของแก๊งค้ายาต้องหิ้วปีกเขาออกมา ทำให้เขารู้ทันทีว่าห้องนั้นต้องมีบางอย่างไม่ชอบมาพากล โทร.สั่งให้ตำรวจเรียกกำลังเสริมมาทันที
ไพโรจน์กับวันชัยลอบเข้ามาเตือนทิเบตกับพวกได้ทันกาลว่าตำรวจกำลังจะบุกเข้ามาให้ทุกคนหนี ทีแรกทิเบตไม่เชื่อ แต่พอไพโรจน์ชี้ให้เห็นว่าโทรุหายตัวไป ตนกับวันชัยได้ยินเขาโทร.แจ้งตำรวจ ทิเบตนิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกให้สมุนเอาเงินกับยาเสพติดซ่อนไว้ใต้ฝ้าเพดาน ตำรวจไม่มีหลักฐานก็จับพวกเราไม่ได้
พวกแก๊งค้ายาเข้าไปปะปนกับพวกนักเที่ยวทำให้หนีรอดสายตาตำรวจไปได้ ขณะที่ทิเบต ไพโรจน์และ วันชัยหลบออกไปทางด้านหลังผับ เป็นจังหวะเดียวกับชัชชัยนำกำลังเสริมมาถึงพอดี ทิเบตตีหน้าซื่อตาใสเข้าไปทักเหมือนเป็นนักเที่ยวคนหนึ่ง ทั้งตำรวจและชัชชัยไม่ติดใจสงสัยอะไร...
หลังจากตำรวจไปหมดแล้ว ทิเบตจึงนำของออกจากที่ซ่อนและส่งมอบให้กับผู้ซื้อ ทำให้ซาซูเกะพอใจที่งานสำเร็จด้วยดี โทรุรู้ว่าทิเบตหนีรอดเงื้อมมือตำรวจมาได้ก็ยิ่งแค้นเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ ไม่ได้มีแต่โทรุเท่านั้นที่เคียดแค้นทิเบต นิลสี นิลปัทม์และกานนก็แค้นเขาเช่นกัน รวมหัวกันหาทางเล่นงานเขา...
ทันทีที่เจอหน้าทิเบต คลเมขลาปรี่เข้าไปต่อว่าว่าถึงนิลปัทม์จะทำตัวไม่ดีอย่างไร เขาก็ไม่ควรฉีกหน้าเธอต่อหน้าผู้คนแบบนั้น ทิเบตไม่พูดอะไรตรงเข้าสวมกอดเธอไว้ ขอร้องอย่าเพิ่งต่อว่าอะไรตนตอนนี้ ขอกอดเธอนิ่งๆสักพัก คลเมขลาปล่อยให้เขากอดจนสบายใจแล้ว จึงถามว่ามีเรื่องอะไรกันแน่ เขาเล่าเรื่องที่โทรุหักหลังให้ฟัง เธออยากจะสมน้ำหน้าเพราะสิ่งที่เขาโดนเป็นกรรมสนองที่เขาทำกับนิลปัทม์ เขาอ้างว่าไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ทำเพื่อช่วยเธอเอาคืนที่นิลปัทม์เป็นชู้กับปุราณ เธอขอร้องอย่าเอาเธอมาอ้าง เธอไม่เคยอาฆาตสองคนนั่น
“เมื่อไหร่คุณจะเข้าใจอะไรสักที การที่คุณทำดีกับคนที่คิดไม่ดีกับคุณ ยังไงเขาก็ไม่มีวันซาบซึ้งและรู้สึกดีกับคุณเข้าสักวัน” คำพูดของทิเบตทำให้คลเมขลาไม่พอใจ ขืนทุกคนคิดเหมือนเขา โลกนี้คงไม่มีคนดีเหลืออยู่ ทิเบตยืนยันความคิดของตัวเองที่ว่าคนดีก็คือคนโง่ และคนแบบนี้มักจะเป็นฝ่ายแพ้อยู่เสมอ
“เพราะคุณคิดแบบนี้ เราถึงอยู่กันคนละโลกและโลกของเราก็จะไม่มีวันบรรจบกันได้ ฉันทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณครบแล้ว ถึงเวลาที่ฉันจะได้กลับบ้านสักที” คลเมขลาเหนื่อยใจกับความคั่งแค้นของเขาเต็มที
ooooooo
นิลสีต้องการแก้แค้นทิเบตโดยจะใช้ซาซูเกะเป็นเครื่องมือ จึงค้นดูข่าวคราวของเขาจากในเน็ตเพื่อจะได้รู้เรื่องราวเกี่ยวกับเขาให้มากที่สุด แต่พอเห็นศรีวิศาลเดินตรงมาหา เธอรีบปิดหน้าจอไอแพด เขาแสดงความเสียใจด้วยกับเรื่องของนิลปัทม์ แม้เธอจะผิดแต่ทิเบตไม่ควรเอามาประจานแบบนี้
“ลูกสาวฉันไม่ผิด ไอ้ทิเบตมันวางแผนใส่ร้ายยัยปัทม์ ถ้าไม่รู้จริงก็อย่ามาพูดพล่อยๆ” นิลสีด่าจบขยับจะไป แต่ต้องชะงักเมื่อเห็นทิเบตเข้ามาในบ้าน ชี้หน้าด่าว่าหยาบๆคายๆ ทิเบตไม่ได้มาทะเลาะด้วย แค่จะมาหานิลปัทม์เท่านั้น นิลสีโกรธที่เขายังมีหน้ามาขอพบลูกของตนทั้งที่ทำให้เธอต้องอับอายขายขี้หน้าคนทั้งประเทศ เขายิ้มเย้ยว่าคนอย่างนิลสีอายเป็นเหมือนกันหรือ
“ความรู้สึกของคุณตอนนี้คงไม่ต่างจากผมและแม่ของผม ตอนที่คนทั้งประเทศรู้ว่ายัยบุษย์ถูกข่มขืน” ทิเบตจ้องหน้าคู่สนทนาอย่างเอาเรื่องจนอีกฝ่ายไม่กล้าต่อปากต่อคำด้วย ก่อนจะเดินลิ่วไปที่ห้องของนิลปัทม์
นิลสีกับศรีวิศาลพยายามจะขวางไว้แต่ไม่ทันเขาเข้าห้องล็อกประตูหน้าตาเฉย นิลสีตกใจมากทุบประตูปังๆ
“แกอย่าทำอะไรลูกสาวฉันนะ ถ้าแกแตะต้องยัยปัทม์แม้แต่ปลายเล็บ ฉันไม่เอาแกไว้แน่ไอ้ทิเบต”
ชายหนุ่มไม่สนใจคำขู่ ทรุดตัวลงนั่งบนเตียงที่นิลปัทม์หลับอยู่ อึดใจเธอรู้สึกตัวลืมตาขึ้นมาเห็นเขาก็ด่าลั่นว่าคนชั่ว แล้วลุกพรวดจะตบหน้า เขาคว้ามือไว้ทันด่ากลับว่าถ้าเขาชั่วเธอก็สำส่อนไม่เลือกแม้กระทั่งพี่เขยตัวเอง แล้วบอกเหตุผลที่ทำกับเธอแบบนั้นเพราะต้องการแก้แค้นในสิ่งที่น้องสาวของเขาเสียไปทั้งชีวิต
“ผมต้องขอบคุณคุณที่ทำให้ผมคิดแผนนี้ขึ้นมาได้ ความจริงตอนแรกผมกะว่าจะไม่ไปงานแต่งงานของเราแต่เพราะคืนนั้น ผมเห็นคุณขับรถออกจากบ้าน ผมสงสัยว่าคุณไปไหนดึกๆดื่นๆ ก็เลยขับรถตามไป”
จากนั้นเหตุการณ์ในคืนที่เธอไปหาปุราณที่โรงแรมก็พรั่งพรูออกจากปากทิเบตว่าบังเอิญเขาได้ยินพนักงานสองคนของโรงแรมแห่งนั้นคุยกันว่าในห้องที่เธอกับปุราณนัดเจอกัน แอบติดกล้องเอาไว้ เขาก็เลยจ่ายค่าคลิปฉาวของเธอกับปุราณไปห้าหมื่นบาท เขาหวังว่าเรื่องนี้คงจะเป็นบทเรียนราคาแพงของเธอ และมันจะช่วยสอนให้เธอเป็นคนดีมากขึ้น ด่าเสร็จทิเบตลุกออกมา นิลสีกำลังจะเอากุญแจสำรองมาไขประตูห้อง แต่ทิเบตออกมาเสียก่อนเธอรีบเข้าไปถามลูกสาวว่าเขาทำอะไรหรือเปล่า นิลปัทม์ส่ายหน้า
“เขาไม่ได้ทำร้ายร่างกาย แต่ทำร้ายจิตใจปัทม์ค่ะแม่ ทำจนหัวใจของปัทม์แหลกเหลวไปหมดแล้ว”...
ทางฝ่ายทิเบตยังไม่ทันจะไปพ้นบ้านศักการะ รัญจวนโทร.มาตาม ทันทีที่กลับถึงบ้าน บุษย์เตือนเขาว่าแม่รู้ข่าวเขากับนิลปัทม์แล้ว และโกรธเขามากด้วย เป็นอย่างที่น้องสาวเตือนไม่มีผิดเพี้ยน พอท่านเห็นหน้าเขาเท่านั้น ปรี่เข้ามาตบฉาดใหญ่ เผื่อจะเรียกสติและสามัญสำนึกของเขาให้กลับคืนมา เพราะสิ่งที่เขาทำไม่ต่างจากที่กานนทำกับบุษย์เหมือนหลายปีที่แล้ว ท่านไม่เคยสอนให้เขาเป็นปีศาจแบบนี้
“สิ่งที่ผมทำ ไม่ได้รุนแรงเมื่อเทียบกับที่ไอ้กานนมันทำเลยนะครับแม่”
“มันเท่ากันเบต ลูกไม่ให้เกียรติผู้หญิง ถึงลูกจะไม่ได้ย่ำยีเธอทางร่างกาย แต่ลูกย่ำยีเธอทางจิตใจ แม่ไม่อยากให้ลูกเป็นเหมือนพวกนั้น คนที่แยกดีชั่วไม่ออก หยุดได้แล้วนะเบต ถือว่าแม่ขอร้อง เลิกล้างแค้นคนพวกนั้น อย่าลงไปอยู่ระดับเดียวกับพวกเขา รับปากแม่สิเบต”
ทิเบตทำอย่างที่ท่านขอร้องไม่ได้ แม้ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยสักครั้งที่จะขัดใจท่าน บุษย์ได้ยินทุกคำพูดที่ทั้งคู่คุยกัน ขอร้องเขาอย่าทำให้ตัวเองต้องจมอยู่ในความแค้นอีกเลย ทิเบตไม่ฟังยืนยันจะแก้แค้นต่อไป
ooooooo
นิลสีไม่รอช้าเดินตามแผนการยืมมือซาซูเกะล้างแค้นทิเบตโดยขอให้ไพโรจน์ช่วยพาไปพบกับนักธุรกิจชาวญี่ปุ่นรายนี้อ้างว่าสนใจจะร่วมลงทุนด้วย เขาอยากรู้ว่าถ้าช่วยเธอแล้วจะได้อะไรเป็นการตอบแทน
“คิดไว้อยู่แล้วว่าคุณต้องพูดแบบนี้ ฉันมีค่านายหน้าให้ก็แล้วกัน ถ้าคุณแนะนำฉันกับคุณซาซูเกะ”
ไพโรจน์ รีบโทร.แจ้งซาซูเกะทันที เขาเองก็สนใจเช่นกันนัดให้นิลสีไปพบวันพรุ่งนี้ 10 โมงเช้าที่ห้องรับรองภายในคอนโดฯที่พักของเขา โทรุซึ่งยืนฟังอยู่ด้วยทักท้วงว่านิลสีเป็นศัตรูกับทิเบตไม่ใช่หรือ ซาซูเกะไม่สนใจเรื่องส่วนตัวของใคร ธุรกิจก็คือธุรกิจ ใครทำประโยชน์ให้ เขาก็พร้อมจะร่วมลงทุนด้วย...
ทางฝ่ายทิเบตส่งข้อความเรียกโทรุมาพบที่สนามยูโดเพื่อเคลียร์ปัญหาที่เขาหักหลังโทร.แจ้งตำรวจให้มาจับทิเบตขณะจะส่งมอบยาเสพติดที่ผับเมื่อคืนก่อน ทีแรกเขาไม่ยอมรับ แต่สุดท้ายก็สารภาพว่าอยากให้ทิเบตถูกตำรวจจับเพื่อที่ตัวเองจะได้ขึ้นเป็นรองหัวหน้าแก๊งพยัคฆ์ขาวแทนที่
“ถ้าแกต้องการตำแหน่งแค่บอกฉันมาคำเดียว ฉันก็จะบอกพ่อให้”
“ไม่ต้องมาทำเป็นคนดีเพื่อเอาชนะใจฉันฉันไม่หลงกลแกหรอกไอ้ทิเบต ต่อไปนี้แกกับฉันไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไป ฉันจะหาโอกาสทำลายแกทุกวิถีทางระวังตัวเอาไว้ให้ดี” โทรุจ้องทิเบตด้วยสายตาอาฆาตมาดร้าย...
ในเวลาเดียวกัน ขณะคุณหญิงศรีเมืองนอนอยู่บนเตียงในห้องพักฟื้นให้เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลทำกายภาพบำบัด มีเสียงมือถือของท่านดังขึ้น คลเมขลาอาสาจะรับสายแทนให้ แต่ต้องตกใจเมื่อรู้ว่าทางปลายสายเป็นโรงพยาบาลในอเมริกาโทร.มาบอกว่าค่ารักษาพยาบาลของคคนางค์ ศักการะ ซึ่งเป็นแม่ของเธอถึงกำหนดต้องชำระแล้ว เธอวางสายแล้วหันไปบอกเจ้าหน้าที่ว่าขอเวลาเป็นส่วนตัวสักครู่ คลเมขลารอจนเจ้าหน้าที่เดินพ้นประตูห้องพัก เข้ามานั่งข้างเตียงคุณย่าด้วยสีหน้ายังตกตะลึงไม่หาย
“คุณย่ารู้เรื่องคุณแม่มาตลอด ทำไมคุณย่าไม่บอกมอธ” หญิงสาวต่อว่าน้ำตาคลอ คุณหญิงศรีเมืองซึ่งยังพูดไม่ค่อยถนัดนักขอโทษหลานรักด้วยที่ไม่ได้บอก คลเมขลาขอร้องให้ท่านค่อยๆเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง
พลันภาพในอดีตเมื่อผุดขึ้นมาในความคิดคำนึงของคุณหญิงศรีเมือง ตอนนั้นคคนางค์หนีไปจากบ้านศักการะ ท่านจ้างนักสืบให้ตามหาจนเจอ พยายามสอบถามว่าหนีไปทำไม อยู่ๆเธอก็ทรุดฮวบลงไปกองกับพื้น ท่านต้องรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล หลังจากหมอตรวจร่างกายอย่างละเอียดพบว่าคคนางค์เป็นมะเร็งสมองขั้นที่สาม ท่านรับปากจะหาหมอที่ดีที่สุดมารักษาเธอและจะไปบอกคลเมขลาให้รู้ว่าหาเธอเจอแล้ว
“ไม่นะคะ คุณแม่จะบอกมอธไม่ได้ โรคที่นางเป็นอยู่บนความเป็นความตาย นางอาจจะไม่รอด ให้ลูกคิดว่านางหายตัวไปแบบนี้ดีแล้ว ลูกจะได้ไม่มีความหวังว่าแกจะได้อยู่กับแม่ นางขอร้องนะคะคุณแม่”
คุณหญิงศรีเมืองยังจำเหตุการณ์ครั้งนั้นได้ดีเหมือนเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน แล้วเล่าเพิ่มเติมอีกว่า หลังจากวันนั้น ท่านก็พาคคนางค์ไปรักษาตัวที่อเมริกา เธอได้หมอดีที่สุดดูแล แต่ตอนนี้บ้านศักการะของเราไม่ได้มีฐานะการเงินดีเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้วและท่านเองก็ยังไม่สบายอีก คลเมขลาเข้าใจดี จะขอจัดการเรื่องนี้เอง
ooooooo
นิลสีในชุดเปรี้ยวเข็ดฟันมาหาซาซูเกะตามนัด แม้จะมีแผนธุรกิจมาให้เขาดู แต่ดูเหมือนเธอจะพรีเซนต์ตัวเองมากกว่าเอกสารการร่วมทุนเหล่านั้น พอทิเบตรู้เรื่องนี้ก็ทักท้วงซาซูเกะว่าผู้หญิงคนนี้ไม่น่าไว้ใจ ท่านไม่ควรไปข้องแวะด้วย
“ฉันไม่ได้ซื่อจนอ่านใจเธอไม่ออกว่าคิดอะไรอยู่ ฉันรู้ว่าคุณนิลสีต้องมีแผนการบางอย่าง ถ้าเราอยากรู้ก็ต้องเล่นไปตามน้ำ”...
เสร็จจากคุยกับซาซูเกะ ทิเบตต้องรีบกลับบ้านไปต้อนรับการมาถึงของคคนางค์ซึ่งดูทรุดโทรมเนื่องจากอาการป่วยเป็นมะเร็งสมอง เธอขอบคุณรัญจวนมากที่เมตตาให้เธอมาอยู่ที่บ้านหลังนี้ แล้วชมทิเบตว่าดีกับเธอมากจนไม่รู้จะตอบแทนอย่างไร รัญจวนมองลูกชายแวบหนึ่งก่อนจะหันมาทางคคนางค์
“มีอะไรช่วยได้ก็ช่วยกันไปค่ะ เข้าไปในบ้านก่อนดีกว่า”
คคนางค์พยักหน้ารับคำ เคนอิจิช่วยประคองเธอเข้าบ้านโดยมีทิเบตกับรัญจวนเดินตาม...
หลังจากพาคคนางค์ไปพักผ่อนที่ห้องรับรองแขกเรียบร้อย รัญจวนเรียกทิเบตมาถามว่าคิดจะบอกเรื่องคคนางค์ให้คลเมขลารู้หรือเปล่า เขาตั้งใจจะบอกเธออยู่แล้วเพราะคคนางค์กำลังอยู่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต
“เธอโทร.หาผมว่าไม่ต้องการรักษาต่อ เธอไม่อยากตายที่โรงพยาบาล เธออยากกลับมาตายเมืองไทย”
“น่าสงสารทั้งคุณคคนางค์และคุณมอธ”
จังหวะนั้นคลเมขลาทราบจากทางโรงพยาบาลที่อเมริกาว่าทิเบตพาแม่ของเธอออกมาแล้วก็โทร.มาโวยวายว่าเขาคิดจะทำอะไรแม่ของเธอ ถ้าเขาแค้นเธอก็ให้มาลงที่เธอ อย่าทำอะไรท่านซึ่งไม่รู้เรื่องด้วย
“คุณกำลังเข้าใจผิดผมไม่ได้ทำอะไรแม่คุณ ตอนนี้ท่านอยู่ที่บ้านของผม คุณมาหาท่านได้เลย”...
ไม่นานนักคลเมขลามาถึงบ้านของทิเบต เจอเจ้าของบ้านรอท่าอยู่ เขารู้ว่าเธอร้อนใจอยากเจอแม่มากรีบพาไปที่ห้องรับรอง คลเมขลาเห็นสภาพของแม่ซึ่งซูบผอมนอนหลับอยู่บนเตียงถึงกับน้ำตาไหลพราก
“แม่...นี่แม่จริงๆ ทำไมแม่...ถึงได้ดูแย่แบบนี้”
“หมอบอกว่า นี่เป็นช่วงสุดท้ายของแม่คุณแล้ว หมอพยายามที่จะรักษาแม่คุณต่อ แต่ท่านปฏิเสธ ท่านขอกลับเมืองไทย ท่านก็เลยโทร.หาผมเพราะว่าติดต่อคุณหญิงศรีเมืองไม่ได้ ผมทำตามความต้องการของท่าน จึงพาท่านกลับมาหาคุณ” สิ้นเสียงคลเมขลาตกใจแทบล้มทั้งยืน เขาต้องประคองเธอไว้ “คุณต้องเข้มแข็งนะครับ คุณคือกำลังใจที่สำคัญของท่าน” เขาปลอบเธอสักพักก็ปล่อยให้ทั้งคู่ได้อยู่กันตามลำพัง
ผ่านไปพักใหญ่ คคนางค์ค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นคลเมขลารีบปาดน้ำตาทิ้ง สองแม่ลูกโผกอดน้ำตาไหลพรากด้วยความดีใจ คคนางค์ชมทิเบตไม่ขาดปากว่าเป็นคนดีมาก ส่งคนมาดูแลท่านตลอดขณะที่ท่านรักษาตัวอยู่ที่อเมริกา ท่านรู้ว่าคุณหญิงศรีเมืองมีปัญหาด้านการเงิน ทางโรงพยาบาลก็เลยจะให้ท่านออก
“พอคุณทิเบตทราบเรื่อง ก็รีบจัดการเรื่องค่ารักษาพยาบาล แต่แม่รู้ว่าต่อให้ใช้ยาที่ดีที่สุดรักษา แม่ก็ไม่มี ทางหาย แม่ถึงตัดสินใจที่จะกลับมา” คคนางค์เล่าไปพลางน้ำตาไหลไปด้วย “การได้เจอลูกอีกครั้ง มันทำให้แม่หมดความกังวลใจ ถ้าแม่จะต้องตายแม่ก็ตายตาหลับแล้ว”
“มอธไม่ยอมให้แม่จากมอธไปง่ายๆหรอกนะคะ มอธจะดูแลแม่ให้ดีที่สุด”
ooooooo
คลเมขลาออกมาจากห้องพักรับรองแขกเจอทิเบตยืนเหม่ออยู่ เดินเข้าไปกอดจากด้านหลัง ขอบคุณที่เขาช่วยแม่ของเธอไว้ และยังช่วยให้เธอได้พบกับท่านอีกครั้ง เขาหันมาประจันหน้ากับเธอ
“ผมอยากเห็นคุณมีความสุข เพราะตั้งแต่เรารู้จักกันมา ผมแทบไม่เห็นคุณยิ้มเลย”
“แม่ฉันกำลังจะจากไป ฉันคงไม่มีความสุขหรอก”
“มีสิ คุณต้องยิ้มให้แม่คุณเห็น เรามาช่วยกันทำช่วงเวลาสุดท้ายของแม่คุณให้ออกมาดีที่สุด มันจะได้เป็นความทรงจำที่สวยงามเอาไว้ให้คุณคิดถึงเมื่อถึงเวลาที่ท่านจากไป”...
ขณะที่คลเมขลาเห็นด้วยกับแผนการของทิเบต ปุราณที่หมกตัวอยู่ในบ่อนตลอดหลายวันที่ผ่านมาก็กลับถึงบ้านในสภาพหนวดเคราเฟิ้ม นิโลบลเห็นเข้าก็คว้าหนังสือพิมพ์ปาใส่หน้า ตำหนิที่เขาวันๆเอาแต่เข้าบ่อนจนไม่รู้ว่าตัวเองเป็นข่าวฉาวโฉ่ไปทั้งเมือง เขาหยิบหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นขึ้นมาอ่านพาดหัวข่าว
“งานแต่งนิลปัทม์ล่มเพราะเป็นชู้กับพี่เขย...เฮ้ย!” ปุราณว่าแล้วผลุนผลันออกไปทันที ไม่นานนัก เขามาถึงบ้านศักการะ ตรงไปหานิลปัทม์ถึงห้องนอนเพื่อสอบถามว่าทำไมถึงมีคลิปหลุดของเราสองคน
“ฝีมือทิเบต มันต้องการทำลายปัทม์ มันหลอกให้ปัทม์แต่งงานกับมันแล้วมันก็หายหัว ปัทม์เกลียดมัน”
“งั้นตอนนี้เราก็เป็นพวกเดียวกันแล้วสิ เพราะไอ้ทิเบตทำให้มอธหย่ากับผม มันวางแผนทุกอย่างเพราะต้องการให้มอธเป็นของมัน”
นิลปัทม์ชวนปุราณร่วมมือกันเอาคืนทิเบต เขามีแผนการในหัวไว้แล้วเพียงแต่เขาไม่มีเงินมากพอจะจัดการ เธอเสนอให้ลองปรึกษาแม่ของเธอดู เผื่อจะมีช่องทางหาเงินให้ได้...
คลเมขลาอยากอยู่ดูแลใกล้ชิดแม่จนถึงช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิตท่าน จึงขออนุญาตทิเบตย้ายมาอยู่ที่นี่ เขายินดีให้เธอมาอยู่ แต่ไม่วายออกตัวว่าบ้านของเขาไม่ใหญ่โตเหมือนบ้านศักการะ อาจทำให้เธอไม่สะดวกสบาย เธออยู่ได้ ขอแค่ให้ได้อยู่ใกล้ๆแม่เป็นพอ
“ฝากคุณแม่ฉันก่อนนะคะ ฉันจะไปบอกคุณพ่อกับคุณย่า แล้วพรุ่งนี้ฉันจะมา”
ทิเบตเสนอตัวจะไปเป็นเพื่อน เธอปฏิเสธว่าไม่ต้อง เธออยากจัดการทุกอย่างด้วยตัวเอง...
ทางด้านศรีวิศาลถึงกับเข่าอ่อนเมื่อรู้จากลูกว่าคคนางค์ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย จะขอตามไปเยี่ยม คลเมขลาขอร้องว่าอย่าเพิ่ง แม่ยังไม่อยากเจอพ่อตอนนี้ ขอเวลาให้แม่อีกสักหน่อย แล้วเธอจะบอกพ่อเองเมื่อแม่พร้อม ตอนนี้เธอฝากพ่อดูแลคุณย่าแทนเธอไปก่อน เธอขอไปทำหน้าที่ลูกที่ดี
“ไปเถอะลูก ไม่ต้องห่วงทางนี้ พ่อเองก็พยายามทำหน้าที่ลูกอยู่เหมือนกัน”
จากนั้นคลเมขลาเดินไปที่เตียงคนไข้ จับมือคุณหญิงศรีเมืองขึ้นมากุมไว้ พร้อมกับบอกว่าได้เจอกับแม่ของเธอแล้ว ทิเบตพาท่านมารักษาตัวที่นี่ ท่านต้องการกลับมาอยู่เมืองไทยเพื่อใช้ช่วงเวลาสุดท้ายของชีวิต เธอจะขออนุญาต ไปดูแลท่านก่อนที่ท่านจะจากไป คุณหญิงศรีเมืองไม่ขัดข้องดีใจกับเธอด้วยที่ได้เจอแม่
ooooooo
ทิเบตลุกขึ้นมาเก็บกวาดทำความสะอาดบ้านแต่เช้าเพื่อเตรียมต้อนรับการมาอยู่ที่นี่ของคลเมขลาโดยมียงกับต้อยคอยเป็นลูกมือ บุษย์เห็นท่าทางกระตือรือร้นของพี่ชาย เดาได้ไม่ยากว่าเขามีใจให้เธอ ถามอย่างไม่อ้อมค้อมว่าเขารักคลเมขลาใช่ไหม ทิเบตถึงกับสำลักน้ำที่กำลังดื่ม ก่อนจะโวยวายกลบเกลื่อนว่าเธอคิดไปเอง
“บุษย์ไม่ได้คิดเอง พฤติกรรมพี่เบตมันฟ้อง ถ้าพี่เบตจะรักคุณมอธ บุษย์ไม่โกรธนะคะ ถึงแม้เธอจะเป็นศักการะ เพราะบุษย์ว่าพวกศักการะได้ชดใช้ในสิ่งที่ทำกับพวกเราเอาไว้มากพอแล้ว” บุษย์พูดจบลุกออกไป เป็นจังหวะเดียวกับรถของคลเมขลาแล่นเข้ามาจอดในโรงรถ เขากุลีกุจอออกไปต้อนรับ...
คลเมขลาไม่ได้เอามาแต่เสื้อผ้ากับข้าวของเครื่องใช้ เธอยังหยิบอัลบั้มรูปถ่ายสมัยเด็กๆ ที่อยู่กันพร้อมหน้าพ่อแม่ลูกติดมือมานั่งรำลึกถึงความหลังกับแม่อีกด้วย สองแม่ลูกคุยกันไปหัวเราะกันไปอย่างมีความสุข ทิเบตแอบฟังอยู่หน้าประตูห้องรับรองแขก พลอยหัวเราะตามไปด้วย ทั้งคู่ได้ยินเสียงหัวเราะของเขาก็ชะงัก
“ใครอยู่หน้าห้องคะ” คลเมขลาร้องถาม ทิเบตหันหลังจะเดินหนีแต่เธอเปิดประตูห้องออกมาเสียก่อน เขารีบออกตัวว่าไม่ได้ตั้งใจจะแอบฟัง แค่จะมาถามว่าเธออยากได้ของใช้อะไรหรือเปล่า พอดีเขาจะออกไปข้างนอก ขากลับจะได้แวะซื้อมาให้ เธอไม่อยากได้อะไร เขาพยักหน้ารับรู้ แล้วขยับจะไป แต่นึกอะไรขึ้นมาได้
“เวลาที่คุณหัวเราะมันทำให้โลกสดใสมากเลยนะครับ” ทิเบตยิ้มให้ ก่อนจะเดินจากไป คลเมขลาพลอยยิ้มตามไปด้วยคคนางค์เห็นลูกเดินยิ้มแย้มกลับมา อดถามไม่ได้ว่าเธอกับทิเบตเป็นแฟนกันหรือเปล่า
“ทำไมคุณแม่คิดแบบนั้น”
คคนางค์ได้ฟังแต่เรื่องดีๆของคลเมขลาจากปากทิเบตตลอดเวลา ราวกับเขารู้จักเธอเป็นอย่างดี จนทำให้ท่านสบายใจที่รู้ว่าเธอมีความสุข
“ผู้ชายอย่างคุณทิเบตหายาก ถึงเขาจะไม่ค่อยยิ้มทำหน้าจริงจังตลอดเวลา แต่แม่รู้ว่าเขาเป็นคนจิตใจอ่อนโยน ลูกควรคบเอาไว้นานๆ อย่าทำให้เขารู้สึกไม่ดีกับลูกเด็ดขาด”...
ในระหว่างที่คลเมขลาคิดคล้อยตามคำพูดของแม่ นิลสีรับปากจะหาเงินให้ปุราณยี่สิบล้านบาทตามที่ต้องการเพื่อเป็นทุนในการล้างแค้นทิเบต นิลปัทม์สงสัยแม่จะหาเงินมากขนาดนี้มาจากไหน
“คุณซาซูเกะพ่อบุญธรรมของทิเบต เขาตกลงจะทำธุรกิจร่วมกับฉัน เราจะใช้เงินของพ่อบุญธรรมทิเบต โค่นตัวมันเอง แบบนี้สะใจกว่ากันเยอะ” นิลสียิ้มเหี้ยม...
หลังจากได้รับเช็คเงินสดยี่สิบล้านบาทจากซาซูเกะ นิลสีไปเดินช็อปปิ้งในห้างฯหรูเลือกซื้อกระเป๋าแบรนด์เนมอย่างสบายอารมณ์ ให้บังเอิญใจเดียวกับนิโลบลที่มาเดินซื้อกระเป๋าเช่นกัน ทั้งสองคนยื้อแย่งกระเป๋าใบเดียวกันอย่างไม่มีใครยอมใคร แย่งกันไปแย่งกันมาเกิดของขึ้น ลงมือตบตีกันอุตลุด ต่างฝ่ายต่างได้รอยฟกช้ำดำเขียวติดมือกลับบ้าน...
น้องเสือกลับจากโรงเรียนมาเจอพี่นางฟ้ากำลังคุยอยู่กับคุณยายก็วิ่งมากอดด้วยความคิดถึง ก่อนจะถามว่ามาทำไมที่นี่ พอรู้ว่าเธอจะมาอยู่กับเขาที่บ้านหลังนี้ เด็กน้อยโดดตัวลอยด้วยความดีใจ...
ในเวลาไล่เลี่ยกัน ขณะทิเบตกำลังเก็บเอกสารบนโต๊ะทำงานเตรียมจะกลับบ้าน ลลิสาเข้ามาชวนไปหาอะไรกินกัน เขาปฏิเสธว่าไม่ว่าง เธอตัดพ้อที่เขาไม่เคยมีเวลาว่างให้ จังหวะนั้นเคนอิจิเดินเข้ามาในห้อง ทิเบตเสนอแนะหากเธออยากมีคนกินข้าวด้วย เขาจะให้เคนอิจิไปเป็นเพื่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ ลิสาไปกินข้าวคนเดียวก็ได้ ลิสา ชินแล้ว” พูดจบเธอเดินออกจากห้องด้วยความน้อยใจ ทิเบตไม่อยากให้เธออยู่คนเดียว บอกเคนอิจิว่าวันนี้ไม่ต้องขับรถให้เขา ฝากดูแลลลิสาแทนที่ เคนอิจิรับคำแล้วรีบเดินตามเธอไปยังที่จอดรถ เห็นเธอเปิดฝากระโปรงหน้ารถก้มๆเงยๆอยู่ก็ร้องถามว่ารถเป็นอะไร ได้ความว่าสตาร์ตไม่ติด เขาอาสาจะดูให้ หลังจากตรวจเครื่องยนต์อยู่สักพักหนึ่ง ก็หันมาบอกเธอว่าแบตเตอรี่หมด พรุ่งนี้เขาจะให้ช่างมาเปลี่ยนให้ ลลิสาพยักหน้ารับรู้
“ตอนนี้ฉันอยากมีเพื่อนกินข้าวแล้ว ไปได้หรือเปล่า”
ครู่ต่อมา เคนอิจิพาลลิสามานั่งกินข้าวกล่องที่ม้านั่งในสวนสาธารณะริมแม่น้ำ เรื่องที่เธอยกขึ้นมาคุยระหว่างมื้อค่ำไม่พ้นเรื่องของทิเบต ทำให้เธอตระหนักว่าที่เขาดีกับเธอก็แค่เห็นเธอเป็นลูกน้องคนหนึ่งเท่านั้น...
กานนเสพยาจนเห็นภาพหลอนว่าทิเบตตามมาเย้ยหยันถึงห้องนอน เสียงหัวเราะเยาะของศัตรูคู่อาฆาตทำให้กานนทนไม่ไหววิ่งเตลิดออกไปยังถนนมืดมิดนอกบ้าน เขาพยายามวิ่งหนีให้พ้นจากเสียงหัวเราะนั้นจนหมดเรี่ยวแรงทรุดลงไปกองอยู่ริมถนน หญิงสาวใจดีผ่านมาพอดี เข้ามาถามว่าเป็นอะไร แล้วช่วยพยุงไปนั่งพักที่ม้านั่งหน้าร้านสะดวกซื้อซึ่งมีกล้องวงจรปิดติดตั้งอยู่ เธอไม่ล่วงรู้เลยว่าตัวเองกำลังจะกลายเป็นเหยื่อฆาตกรต่อเนื่องรายล่าสุดของกานน...
กว่าทิเบตจะกลับถึงบ้านก็เลยเวลาอาหารค่ำไปมากแล้ว เขาทำงานเพลินยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เที่ยง กระเพาะอาหารเจ้ากรรมทำขายหน้า ส่งเสียงประท้วงดังจ๊อกๆ คลเมขลาได้ยินเสียงท้องของเขาร้อง อาสาทำบะหมี่สูตรของตัวเองให้เขากิน ทิเบตถือโอกาสนี้ขอโทษที่ทำไม่ดีกับเธอและคุณย่าของเธอ ถ้ามีอะไรที่เขาพอจะทำเพื่อชดใช้ความผิด เขายินดีทำทุกอย่าง เธอไม่ต้องการอะไรจากเขาอีก แค่เขาช่วยพาแม่ของเธอกลับมาก็เท่ากับเป็นการชดใช้แล้ว แต่เธอมีเรื่องจะขอร้อง เธออยากให้เขาหยุดจองเวรกับกานนและครอบครัว
“ตกลง ผมจะยุติ แต่...ถ้าเกิดเขาไม่หยุด ผมก็คงต้องป้องกันตัวเอง”
ooooooo
ชัชชัยเพิ่งกลับจากราชการต่างจังหวัด หอบของฝากเข้ามาในบ้านทิเบต เจอคลเมขลาอยู่ที่นั่นด้วย
ก็ตกใจถึงกับทำข้าวของร่วงจากมือ ยิ่งตอนที่นั่งกินมื้อเช้าด้วยกันที่โต๊ะอาหาร เห็นทิเบตคอยตักโน่นตักนี่เอาใจเธอไม่ห่าง สารวัตรหนุ่มแกล้งกระเซ้าว่าวันนี้บรรยากาศที่นี่ดีเหลือเกิน ดูโลกเป็นสีชมพูไปหมด
ทั้งทิเบตและคลเมขลาต่างเขินทำหน้าไม่ถูก ขณะที่รัญจวนกับบุษย์พากันอมยิ้มชอบใจ...
ขณะที่บรรยากาศในบ้านของทิเบตอบอวลไปด้วยความรัก คุณหญิงศรีเมืองอาการดีขึ้นเป็นลำดับ พูดเป็นประโยคได้มากขึ้น แถมยังเดินได้คล่องขึ้นอีกด้วย ทั้งคนป่วยทั้งศรีวิศาลซึ่งเป็นคนเฝ้าไข้ต่างดีใจมาก...
เมื่อได้เงินทุนจากนิลสี ปุราณเดินตามแผนล้างแค้นทิเบตโดยท้าเขาเล่นไพ่และให้ไปเจอกันที่บ่อนหรูกลางกรุงคืนนี้ พลันคำพูดของซาซูเกะที่เรียกทิเบตไปพบเมื่อตอนเช้าผุดขึ้นมาในสมองของเขา ท่านเตือนให้เขาระวังนิลสีเอาไว้เพราะเพิ่งมาเอาเงินจากท่านไปหลายสิบล้านบาท อ้างจะเอาไปลงทุน
“ผมว่าเธออาจจะไม่ได้เอาเงินจำนวนนี้ไปลงทุน”
“นายคิดเหมือนฉัน ฉันว่าเธอเอาไปทำอย่างอื่นซึ่งฉันไม่รู้ว่าอะไร ฉันถึงเรียกนายมาเตือน ถ้าเห็นอะไรไม่ชอบมาพากลเห็นอะไรที่มันจะทำให้ฉันสูญเงินก้อนนี้ นายก็จัดการได้เลย”...
ทิเบตกันเหนียวไว้ก่อนโทร.ชวนคลเมขลาให้ไปบ่อนเป็นเพื่อน เพราะเชื่อว่าแผนการครั้งนี้ต้องไม่ใช่ฝีมือปุราณคนเดียว นิลสีต้องมีเอี่ยวด้วย
“พวกเขาร่วมมือกันเพื่อที่จะกำจัดผม...ผมอยากให้คุณเห็นกับตาจะได้รู้ว่าคนพวกนี้ไม่มีทางหยุด ถึงแม้ผมจะให้อภัยก็ตาม ผมจะให้เคนอิจิไปรับคุณตอนทุ่มตรงที่บ้านแล้วเจอกันครับ”...
กานนเพี้ยนหนักถึงขนาดเอาศพเหยื่อรายล่าสุดกลับมาบ้านด้วย ทิ้งรอยลากเปื้อนโคลนตั้งแต่ประตูเข้าตึกใหญ่เรื่อยไปจนถึงห้องตัวเอง นิลสีพยายามเคาะประตู เรียกให้ลูกมาเปิดรับ เขากลับแง้มประตูแค่ให้ใบหน้ายื่นออกมาได้ เธอเห็นลูกตาแดงๆ ถามว่าเป็นอะไรหรือเปล่า เขาโกหกว่าไม่ได้นอนแล้วปิดประตูล็อก นิลสีชักใจคอไม่ดี เคาะเรียกอีก กานนยกมืออุดหู มองศพเหยื่อสาวใจดีคนนั้นที่ตัวเองเอามาไว้ในห้องด้วยสีหน้าตื่นๆ
นิลสีมีธุระต้องไปจัดการ จึงสั่งให้เตยหอมที่กำลังกวาดพื้นเฝ้ากานนไว้ให้ดีอย่าให้ออกไปไหน ถ้าเห็นอะไรผิดสังเกตให้รีบโทร.แจ้งตนทันที คล้อยหลังนิลสีไม่นานนัก กานนลากกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ที่ตัวเองเอาศพเหยื่อยัดไว้ออกจากห้อง เตยหอมปรี่มาขวางไว้ ขอร้องอย่าออกไปไหน เธอไม่อยากถูกนิลสีดุ
“ถ้าแกไม่หลีก ฉันจะฆ่าแกซะ” คำขู่ของกานน ได้ผล เตยหอมรีบหลีกทางให้แล้วโทร.แจ้งให้นิลสีรับทราบ เธอพยายามกดเบอร์หาลูก แต่เขาไม่ยอมรับสาย เพราะกำลังง่วนอยู่กับการเอากระเป๋าใส่ศพไปทิ้งแม่น้ำ นิลสีเป็นห่วงลูกชาย ส่งกระเป๋าใส่เงินให้ปุราณ บอกว่าคงไปบ่อนด้วยไม่ได้ กานนหายตัวไปต้องไปตามหาเขาก่อน ฝากให้ปุราณกับนิลปัทม์จัดการทิเบตกันตามลำพัง
“ไม่ต้องห่วง คืนนี้จะเป็นจุดจบของไอ้ทิเบต”
ปุราณสีหน้าท่าทางมั่นใจมาก...
เหตุการณ์ไม่เป็นอย่างที่ปุราณกับพวกวางเอาไว้ ทีแรกทิเบตเล่นพนันเสียไปหลายสิบล้านบาทจน คลเมขลาต้องขอร้องให้หยุดเล่น แต่พอถึงเกมถัดมา
ปุราณย่ามใจคิดว่าไพ่ของตัวเองดีกว่าไพ่ของศัตรู พนันชิปหมดหน้าตัก ทิเบตยื่นชิปอันหนึ่งให้คลเมขลาจูบเพื่อเอาฤกษ์เอาชัยแล้วดันชิปที่อยู่ตรงหน้าไปกลางโต๊ะ พอหงายไพ่ ปุราณกับนิลปัทม์ถึงกับหน้าซีด เพราะไพ่ของทิเบตเหนือกว่า เขาชนะพนันกวาดชิปเกลี้ยงโต๊ะ
“บางครั้งความมั่นใจมันก็ฆ่าคนได้ คุณปุราณ ว่าไหม” ทิเบตยิ้มเย้ยแล้วหันไปทางคนแจกไพ่ “ฝากเอา ชิปไปแลกให้ผมด้วย ผมให้ค่าเดินไปแลกหนึ่งแสนบาท”
ooooooo










