ตอนที่ 13
อัลบั้ม: เคลลี่ ธนะพัฒน์ ประกบ จั๊กจั๋น อคัมย์สิริ ละครพะบู๊ด้วยแม่ไม้มวยไทยใน "คาดเชือก"
ละเมียนคาดคั้นถามบุญสมอย่างต้องการคำตอบ แต่เขายังปากแข็งเก็บซ่อนความรู้สึกไม่กล้าเผยให้เธอรับรู้
“ว่าไง อย่าเอาแต่เงียบสิ ฉันถามว่าตกลงนายไม่ดีพอสำหรับใครจริงๆเหรอ”
“แล้วไอ้บุญสมหมาบ้า ไอ้ปลัดขี้คุก ใครเป็นคนเริ่มพูด”
“แล้วมันจริงอย่างที่ฉันพูดรึเปล่าล่ะ ตั้งแต่เด็กยันโต นายชอบใช้แต่กำลังนำสมอง นายก็เห็นแล้วไม่ใช่เหรอว่าผลมันเป็นยังไง สมองเนี่ยไม่ได้มีไว้ประดับ” พลางจิ้มนิ้วไปที่หน้าผากเขา
“ลองเล่นหัวผมอีกที คราวนี้เจอแน่”
“เจอ...เจออะไร”
“ก็เจอจูบกลางสะพานเนี่ย เอามั้ย”
“นอกจากไม่ใช้สมองแล้ว เดี๋ยวนี้ยังพัฒนาความหื่นอีกเหรอเนี่ย กลับบ้านดีกว่าฉันไม่คุยด้วยแล้ว”
เธอขยับลุกขึ้นบุญสมลุกตาม แต่จังหวะนั้นแผ่นไม้ที่เธอเหยียบกระดกขึ้นทำให้ละเมียนเสียหลักเซ เขารีบคว้าร่างบางเข้ามากอดกระชับไว้ หญิงสาวขยับตัวแต่เขาไม่ยอมคลายวงแขน มิหนำซ้ำยังกระซิบที่ข้างหู
“เดี๋ยว คุณตามผมมาทำไม”
“ก็...ก็เห็นจู่ๆนายก็ทำหน้าเบื่อโลกออกมา ก็...ก็กลัวนายจะโดดน้ำตาย อย่างน้อยตามมาก็ได้เห็นคนตัวใหญ่ แต่ขี้ใจน้อยตัดพ้อตัวเองว่าผมไม่เคยดีพอสำหรับใครก็แล้วกัน” เธอยื่นหน้าล้อเลียน
“แต่ช่างเถอะ พูดไปคุณก็ไม่เข้าใจก็พี่สาวคุณบอกนี่ว่าคุณไม่เคยรักใคร”
“นายรู้ได้ยังไงว่าฉันไม่เคยรักใคร”
“แล้วคุณรักใคร”
บุญสมถามทันควัน ในใจหวังลึกๆในคำตอบ ละเมียนนิ่งอึ้ง ขยับตัวผละจากอ้อมแขนเขาเพื่อกลับบ้าน เมื่อเธอขยับตัวก้าวขาออก ทันใดนั้นไม้กระดานแผ่นที่เหยียบอยู่หักลงทันที ทำให้ขาเธอตกลงไปในร่องครูดไปกับแผ่นไม้ บุญสมรีบรวบร่างบางเข้ามากอดอีกครั้งแล้วถามอย่างเป็นห่วงเมื่อเห็นเลือดที่ขาไหลซึมออกมา
เขาตัดสินใจช้อนร่างละเมียนขึ้นหลังเอาดื้อๆ หญิงสาวดิ้นขลุกขลักพยายามจะลงเดินเอง เขาขู่ให้อยู่นิ่งๆถ้าฤทธิ์มากจะจับเธอโยนลงคลอง คราวนี้คำขู่ของเขาได้ผลเกินคาด
ooooooo
ทองดีหัวเราะกับพ่ออย่างผู้ชนะ คุยโวแค่ร้องไห้กับยอมเสียเลือดนิดหน่อยก็สามารถดึงใจละไมกลับมาได้แล้ว จ่อยยิ้มแฉ่งพูดตามประสาซื่อ ชั่วได้ใจจริงๆ
ทองดีง้างเท้าถีบจ่อยจนกระเด็น บ่นกับพ่ออย่างหงุดหงิดไม่รู้จะเลี้ยงทำไมให้เปลืองข้าวสุก ทองคำว่าอย่างน้อยมันก็ซื่อสัตย์กับเรา จังหวะนั้นสำลีเข้ามารายงานละไมมาหา เขารีบทำสำออยเจ็บแผลเรียกคะแนนสงสารทันที ละไมรบเร้าให้เขาไปหาหมอเกรงแผลเกิดอักเสบ
ทองดีกุมมือแล้วจ้องตาเธอออดอ้อนหมอของเขาอยู่ตรงหน้านี่แล้ว ละไมรีบชักมือกลับเมื่อเห็นธนูในชุดข้าราชการเดินเข้ามาพอดี ทองคำชวนธนูเข้าไปคุยยังห้องอีกด้านหนึ่ง ศรีไพรตรงเข้ากอดแขนแกล้งพูดเสียงดังให้ได้ยิน ตรงนี้ปล่อยให้คู่รักเขาจู๋จี๋กันแล้วดึงแขนพาเขาเดินออก ธนูเหลียวกลับมามองละไม เธอทำไม่รู้ไม่ชี้หันมายิ้มกับทองดีกลบเกลื่อน
ละไมขับรถพาทองดีออกไปข้างนอก โดยทิ้งเบียบ ไว้ที่บ้านของเขา เบียบหิ้วปิ่นโตกวาดตามองไปรอบๆ สำลีเห็นรีบตรงเข้ามาพูดจาแดกดันว่าเป็นหมาหัวเน่าถูกเจ้านายทิ้งขว้าง เบียบโต้กลับทันควัน เจ้านายเปลี่ยนใจไปกินข้าวข้างนอกต่างหากเลยให้นำกับข้าวที่ตั้งใจทำมาให้ทองดีมาให้ขี้ข้าอย่างสำลีกินแทน สำลีเบ้หน้าพูดดูถูกหาว่าเป็นกับข้าวบ้านๆ
“ก้ามกรามเผา ปลาคังผัดฉ่า ต้มยำขาหมู ไข่เจียวปูม้า บ้านพอมั้ยนังสำลี”
สำลีได้ยินถึงกับกลืนน้ำลายเอื้อกลงคอ คราวนี้ขยับเข้าหาเบียบอย่างเป็นมิตร เบียบชำเลืองมองด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะค่อยๆถอดปิ่นโตแล้วเทอาหารลงในชามหมาที่วางอยู่บนพื้น สำลีร้องโวยวายเพราะเสียดายของ
“ก็สำรับของเอ็งไงนังสำลี”
“แต่...แต่นั่นมันชามข้าวหมา”
“ปากหมาๆอย่างเอ็ง กินชามข้าวหมาก็เหมาะแล้วนังสำลี ฮ่าๆ กินให้อร่อยนะนังสำลี โฮ่งๆ ฮ่าๆ”
เทเสร็จก็หิ้วปิ่นโตหันหลังกลับอย่างสะใจ สำลีกำมือแน่นอย่างแค้นเคืองวิ่งตามหมายตบเอาคืนเบียบให้จงได้ แต่พลาดท่าเสียหลักสะดุดเท้าตัวเองหกล้มจนหัวคะมำหน้าทิ่มไปที่ชามข้าวหมาพอดิบพอดี
ooooooo
ละเมียนมาเรียนมวยกับบุญสมที่บ้านครูจรัลเหมือนเช่นเคย วันนี้เขาสอนเธอท่าหนุมานผลาญลงกา แต่ละเมียนพลาดท่าเสียหลักล้มลงก้นจ้ำเบ้า ท่ามกลางความตกใจของกรองแก้ว สตางค์และทองก้อนที่กำลังยืนลุ้นอยู่ด้านหนึ่ง ละเมียนโวยวายที่เขาปล่อยเธอร่วง
“รับมาตั้งหลายครั้งแล้ว มัวแต่รับมัวแต่ประคองก็ไม่รู้จักเจ็บ ไม่รู้จักจำ”
เมื่อสตางค์จะช่วยพยุง เธอบอกปัดแล้วประคองตัวเองลุกขึ้นเดินหนีบุญสมไปแบบงอนๆ กรองแก้วเดินตามมาให้กำลังใจ สตางค์ตรงเข้านวดแขนขาพี่สาวราวประหนึ่งเป็นพี่เลี้ยงนักมวย บุญสมเดินตามมาเช่นกันแต่แทนที่จะเอ่ยปลอบเขากลับตำหนิ แม่ไม้อื่นยังไม่แข็งแต่อยากลองเลยจัดให้จะได้เข็ดเสียที
ละเมียนฉุนซัดหมัดใส่ เขาหลบหลีกอย่างคล่องแคล่ว หญิงสาวไม่ยอมแพ้ยังรุกไล่แต่พลาดท่าเขาทุกครั้งไป ทองก้อนเอ่ยแซวอย่างนี้รับรองมีลูกหัวปีท้ายปีแน่ๆ บุญสมนึกสนุกพูดเล่นมีเมียแบบนี้เห็นทีคงต้องกลั้นใจตาย
“เออ...แล้วอย่ามาขอนะเว้ย!”
“แล้วถ้าไปขอล่ะ”
ยื่นหน้าถามแบบกวนๆ ละเมียนตีลูกนิ่งไม่กล้าตอบ จู่ๆศรีวรรณกับศรีไพรก็โผล่เข้ามาทำลายบรรยากาศ สองพี่น้องออดอ้อนบุญสมให้สอนมวยให้ ทองก้อนหัวเราะขำเมื่อเห็นเสื้อผ้าที่สองศรีพี่น้องใส่มา
“แม่เจ้าโว้ย! นี่เอ็งสองคนจะไปรำแก้บนที่ศาลเจ้าไหนวะเนี่ย”
“ว้าย! ฉันสองคนจะมาเรียนมวย ไม่ได้มารำแก้บน”
“ดีงามล่ะสิ เปิดสอนมวยคาดเชือก ลูกหลานชาวบ้านยังไม่ทันจะมาเรียน แต่จะได้ตุ๊กตาเสียกบาลมาเป็นลูกศิษย์ซะแล้ว”
“กรี๊ด! ฉันสองคนออกจะพริตตี้ พูดอย่างนี้ศรีวรรณกับศรีไพรเสียลุคหมดเลยนะจ๊ะ พี่บุญสม”
บุญสมเหลือบมองเห็นลังไม้หลายลังบรรทุกอยู่เต็มคันรถที่ศรีวรรณกับศรีไพรนั่งมาจึงถามอย่างอยากรู้ สองพี่น้องตอบตามตรงว่าทองดีใช้ให้เอาไปเก็บที่โกดัง
ยอดรีบกลับมารายงานทองดีและทองคำที่บ้านว่าเหยื่อติดกับแล้ว ทองคำชื่นชมในความคิดของลูกชายที่ส่งน้องสาวไปกระตุ้นต่อมอยากรู้ของบุญสมจนได้ผล ทองดียิ้มเหี้ยมความแค้นที่คุกรุ่นมานานถึงเวลาได้ปิดบัญชีเสียที
ooooooo
คืนนี้หลังจวงหลับสนิท บุญสมค่อยๆย่องออกจากห้องตรงไปยังสวนหลังบ้าน เขาคาดเชือกที่หมัดอย่างชำนาญแล้วหยิบขวดระเบิดเพลิงที่พุดกับเผือกเตรียมไว้เอาใส่เป้สะพาย
พุดกับเผือกเป็นห่วงอ้อนวอนขอตามไปด้วย เขาปฏิเสธสั่งทั้งคู่ให้ช่วยดูแลแม่ หากเกิดอะไรขึ้นกับเขาให้รีบไปพบเดชาทันที สองสมุนพูดไม่ออกได้แต่พยักหน้ารับคำ บุญสมสตาร์ตมอเตอร์ไซค์ แต่ต้องชะงักเมื่อ
ละเมียนกระโดดขึ้นนั่งที่เบาะด้านหลัง เขาไล่ให้ลง แต่เธอยืนกรานขอไปด้วย บุญสมตัดสินใจพาเธอไปส่งบ้าน ระหว่างทางเขาเห็นแสงไฟจากหน้ารถปิกอัพสาดฝ่า ความมืดจึงรีบดับไฟหน้ารถเพื่อจอดซุ่มดู ด้านหลังรถคันนั้นเต็มไปด้วยลังไม้ ละเมียนเห็นเขามีท่าทางลังเลจึงกำชับให้รีบตาม
บุญสมดับไฟหน้ารถแล้วขับตามไปห่างๆ กระทั่งรถคันดังกล่าวเคลื่อนมาจอดที่หน้าโกดัง ลูกสมุนจำนวนหนึ่งช่วยกันยกลังไม้เข้าไปเก็บยังด้านในแล้วปิดประตูคล้องกุญแจ ทิ้งให้สมุนยืนเฝ้าอยู่หน้าประตูเพียง 2 คน
บุญสมกับละเมียนออกจากที่ซ่อน ค่อยๆย่องอ้อมมาทางด้านหลังแล้วกระทุ้งศอกใส่สมุนที่ยืนเฝ้าประตูจนทรุดลงกับพื้น บุญสมหยิบค้อนปอนด์ที่วางอยู่บริเวณนั้นทุบกุญแจคล้องประตูออก
เมื่อทั้งคู่เข้ามาด้านใน ประตูโกดังถูกปิดลงทันที บุญสมกับละเมียนสบตากันรับรู้ถึงสถานการณ์ที่เริ่มไม่ปกติ เสือยิ่งพร้อมลูกสมุนออกมายืนจังก้าระเบิดเสียงหัวเราะชอบใจ
“หนูติดจั่น!”
“หนูมันน่ารักไป ต้องบอกว่าหมาบ้าติดกับ แถมครั้งนี้มีหมาบ้าตัวเมียมาด้วยโว้ย” ทองดียืนแสยะยิ้มมองทั้งคู่อย่างสมเพช
ทางด้านเผือกใจคอไม่ดีตัดสินใจบอกพุดให้อยู่เฝ้าจวง ส่วนตนจะไปตามผู้กองเพชรมาช่วย อีกด้านหนึ่งธนูขับรถพาละไมตระเวนหาละเมียนจนอ่อนใจ กระทั่งมาพบรถของผู้กองเพชรเข้าโดยบังเอิญ ละไมใจคอไม่ดีเป็นห่วงน้องเมื่อรู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ภายในโกดัง...บุญสมบอกละเมียนให้อยู่ข้างหลังตนไว้ เมื่อเสือยิ่งเหวี่ยงหมัดเข้าใส่เขาถีบสกัดแล้วดึงมือละเมียนให้วิ่งตามเข้าไปยังด้านใน ยอดวิ่งมาดักหน้าคว้าแขนเธอไว้ หญิงสาวเตะผ่าหมากจนมันจุกตัวงอทรุดลงกับพื้น ทองดีพร้อมสมุนตรงเข้าล้อมกรอบบุญสมกับละเมียน ทั้งสองฝ่ายต่อสู้กันเต็มกำลัง บุญสมหยิบขวดระเบิดเพลิงยื่นให้ละเมียนจุดไฟ เห็นเธอยังลังเลเขาย้ำ
“ให้มันรู้ไปว่าไอ้ทองดีมันจะยอมสำลักควันอยู่ในนี้”
บุญสมรับขวดระเบิดเพลิงจากเธอแล้วโยนเข้าใส่ลังไม้ ทองดีรีบกระโดดเตะขวดระเบิดจนกระเด็นย้อนกลับมาหาทั้งคู่ บุญสมตัดสินใจรวบร่างละเมียนหลบไปได้อย่างฉิวเฉียด ระเบิดเพลิงตกลงพื้นแตกกระจายไฟลุกท่วม
ทองดียืนมองบุญสมอย่างเข่นเขี้ยว มันถอดเสื้อออกกำหมัดแน่นแล้วกระโจนเข้าใส่ทันที ทั้งคู่ต่อสู้กันด้วยเชิงหมัดมวยอย่างไม่มีใครยอมใคร ในขณะที่ละเมียนกำลังต่อสู้กับลูกสมุนอีกกลุ่มหนึ่ง เธอพลาดท่าถูกเตะเข้าชายโครง บุญสมตะโกนเตือนอย่างเป็นห่วงให้อยู่ใกล้เขาเข้าไว้
ระหว่างการต่อสู้ทองดีพลาดท่าเสียหลัก บุญสมฉวยจังหวะนั้นคว้าแขนละเมียนวิ่งไปยังทางเดินอีกด้านหนึ่งแล้วซ่อนตัวอยู่หลังกองสินค้า ทั้งคู่ซุ่มจุดระเบิด เพลิงปาเข้าใส่ลังไม้อีกหลายลังจนไฟลุกโชน สมุนทองคำแตกตื่นตรงเข้าช่วยกันดับไฟที่กำลังลุกลามไปอย่างรวดเร็ว หากแต่ทองดีกลับมองอย่างใจเย็น
เสือยิ่งเดินอ้อมมาทางด้านหลังตรงเข้าล็อกตัวละเมียนไว้ได้ ส่วนทองดีจู่โจมรุกไล่บุญสมแบบเอาเป็น เอาตายด้วยแม่ไม้แปลกๆ จนบุญสมพลาดท่านอนฟุบหมดสภาพ ทองดีหันมากระชากตัวละเมียนจากเสือยิ่งแล้วผลักเธอล้มลงกับพื้น เธอถึงกับร่ำไห้มองไปทั่วร่างเขาที่เต็มไปด้วยบาดแผลและรอยเลือด เสือยิ่งกระแทกเท้าบดขยี้มือบุญสมอย่างเหี้ยมเกรียม
“ข้ารอเวลานี้มานานแล้ว ไอ้บุญสม มึง!”
ละเมียนร้องลั่นเมื่อเห็นเสือยิ่งเตรียมยกเท้ากระทืบใบหน้าเขา แต่จังหวะนั้นประตูโกดังถูกพังเข้ามาพร้อมกับเสียงไซเรนของรถตำรวจ
ooooooo
เช้าวันใหม่ภายโรงพยาบาล บุญสมเริ่มรู้สึกตัวค่อยๆลืมตามองแม่ที่เอาแต่ก้มหน้าร้องไห้อยู่ข้างเตียง เมื่อเห็นลูกฟื้นจวงยิ้มถามทั้งน้ำตา
“บุญสมฟื้นแล้ว เป็นยังไงบ้างลูก”
“ค่อยๆจ้ะพี่บุญ เดี๋ยวอะไหล่จะหลุด”
“หน้าสิ่วหน้าขวาน ยังทะลึ่งยิงมุกอีกนะไอ้เผือก”
ทองก้อนบ่นที่บุญสมชอบหาเรื่อง กรองแก้วรีบปรามพ่อให้หยุดพูด บุญสมหันมาหาเดชาพยายามจะเอ่ยปาก จวงรู้เท่าทันความคิดลูกรีบพูดแทรกว่าเธอ
ไม่ไปไหนทั้งนั้น เดชาบอกบุญสมอย่างหนักใจเขาพร้อมจะช่วยทุกอย่างแต่ไม่สามารถบังคับใครได้ จังหวะนั้นประตูห้องถูกเปิด ผู้กองเพชรกับนายอำเภอปรีชาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก มาถึงนายอำเภอก็ใส่ไม่ยั้ง
“จะอดีตหรือปัจจุบัน จะเป็นไอ้บุญสมวันก่อนหรือเป็นปลัดบุญสมในวันนี้ สิ่งที่แก้ไม่หายคือสันดาน ไอ้...โธ่โว้ย! ขอเกษียณเนียนๆสบายๆหน่อยไม่ได้รึไง ลมจะใส่”
“ปลัด เราเปิดดูของในนั้นทุกลัง ล้วนเป็นตุ๊กตาเป็นของเล่นเด็กทั้งนั้น”
“เป็นไปได้ยังไงครับผู้กอง ข้อมูลที่ได้ทุกคนก็รู้ว่าของในโกดังเป็นยาเสพติด ต้องมีการเคลื่อนย้ายของก่อนที่ผมจะบุกเข้าไปแน่ๆ”
บุญสมมองธนูอย่างไม่ไว้ใจ ธนูรีบออกตัวเขาไม่รู้อะไรเลยแล้วเหลือบมองไปทางพ่อ เดชาตัดบทให้บุญสมนอนพักรักษาตัวให้หายก่อนเรื่องอื่นไว้ค่อยคิดภายหลัง นายอำเภอกระแทกเสียงอย่างหงุดหงิด ให้เขาหาทางเอาตัวรอดให้ดีเพราะการสอบสวนวินัยต้องเข้มข้นขึ้นแน่ๆ
ooooooo
ที่ร้านค้า เบียบใจคอไม่ดีเมื่อเห็นสองพี่น้องกำลังก่อศึกวิวาทะใส่กัน
ละเมียนน้อยใจเมื่อพี่สาวเชื่อทองดีมากกว่าน้องในไส้อย่างเธอ ละไมอ้างหลักฐานทุกอย่างชัดเจน ใครๆก็เห็นว่าของในลังเป็นตุ๊กตาของเล่นเด็ก ละเมียนชี้ไปที่รอยแผลบนใบหน้าตัวเองพลางตัดพ้อ
“แล้วรอยพวกนี้พี่ละไมไม่เห็นรึไง ว่าพวกมันทำอะไรกับน้องสาวพี่บ้าง”
“ก็แกกับปลัดบุญสมบุกรุกที่ของเขา คุณทองดีเขาก็เสียใจ แต่เขาบอกมันมืดมากเขาไม่เห็นว่าใครเป็นใคร รู้แต่ว่ามีคนบุกรุกเขาก็ต้องป้องกัน แล้วแกเจ็บมากรึเปล่า”
ละไมถามด้วยความเป็นห่วง แต่ความน้อยเนื้อต่ำใจของละเมียนมีมากกว่า เธอโวยวายอย่างอัดอั้น
“เรื่องราวที่เกิดขึ้น หนูหลงคิดว่าพี่ละไมตาสว่างแต่ที่ไหนได้ พี่ละไมยังมืดบอดอยู่กับคารมแล้วก็ภาพลวงของคนชั่ว ป๊ากับม้าคงดีใจที่ลูกสาวจะมีสามีที่เป็นโจรฆ่าพ่อแม่ตัวเอง”
ละไมโกรธเผลอเงื้อมือตบหน้าน้องเต็มแรง เธอมองพี่สาวด้วยแววตาตัดพ้อก่อนจะวิ่งร้องไห้กลับเข้าห้อง ละไมเองก็เสียใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ทรุดตัวลงนั่งสะอื้นไห้ สตางค์ตรงเข้าสวมกอดปลอบแม่ เบียบน้ำตาคลอเดินมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอย่างเข้าใจ
ละเมียนเก็บของใส่กระเป๋าตัดสินใจไปตายเอาดาบหน้า ขณะเธอเดินออกมาถึงหน้าร้าน เบียบตกใจตรงเข้ายื้อกระเป๋าท่ามกลางสายตาลุ้นระทึกของบรรดาพ่อค้าแม่ค้า ละไมเดินมาสั่งเสียงเฉียบขาดให้กลับเข้าไปคุยกันในร้าน ละเมียนกระชากกระเป๋าคืนจากเบียบแล้วเดินตามหลังละไมไปอย่างว่าง่าย ในขณะที่เบียบถอนใจอย่างโล่งอก
“ถ้าพี่ทำให้แกเสียใจมากขนาดคับอกคับใจล่ะก็ พี่ขอโทษ หรือถ้ายังไม่หายเจ็บใจล่ะก็จะตบหน้าพี่ให้มันหายแค้นเลยก็ได้”
“หนูไม่ได้ต้องการแก้แค้น หนูแค่อยากให้พี่ละไมฟังเหตุผลของหนูบ้างก็เท่านั้น ไม่ใช่ออกมารับแทนไอ้ทองเก๊ตะพึดตะพือแล้วถ้าเกิดพิสูจน์ได้ว่าหนูเข้าใจผิด หนูจะไปกราบตีนมันทั้งพ่อทั้งลูกให้ถึงบ้านเลย จะแถมไอ้ยอด ไอ้จ่อย หรือลูกสมุนมันทุกคนด้วยก็ได้ ขอแค่พี่ละไมตั้งสติทบทวนให้ดี อย่าหลับหูหลับตาเชื่อมันทั้งหมด หลับข้างลืมข้างก็ยังดี”
“ก็ได้ พี่จะลองลืมตาข้างหนึ่งอย่างที่แกว่า แต่แกต้องสัญญาว่าจะไม่หนีออกจากบ้าน”
“ในเมื่อพี่ละไมจะลืมตาข้างหนึ่ง หนูก็ลูกผู้หญิงพอที่จะสัญญากับพี่เหมือนกัน” สองพี่น้องสบตากันแน่วแน่
ooooooo
ละไมขับรถออกจากบ้านด้วยสีหน้าเคร่งขรึม เริ่มทบทวนถึงเรื่องราวที่ผ่านมาอย่างจริงจัง เสียงของละเมียนดังแว่วเข้ามา
“พี่ละไมหนูเพิ่งนึกได้ ถ้าพี่ละไมอยากจับโกหกไอ้...เอ๊ย! คุณทองดีล่ะก็ พี่ละไมลองถามสตางค์ดูสิ”
“ถามเรื่องอะไร”
“ก็ที่ทำไมอยู่ดีๆนายทองดีมันถึงได้เกิดสนิทสนมรักใคร่กับสตางค์นักหนาไง หนูว่าลึกๆแล้วพี่ละไมสงสัยเหมือนกันนั่นแหละ”
“แล้วแกเคยถามหรือเปล่า”
“ถาม แต่สตางค์ไม่ยอมบอก หนูว่าไอ้ทองดีมันคงขู่เอาไว้”
“ก็แค่เรื่องสันนิษฐาน”
เสียงละเมียนดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทอีก ‘ให้หลับตาข้างหนึ่งแล้วลองลืมตาดูอีกข้างหนึ่ง’ ละไมเม้มปาก ดวงตาแน่วแน่ตัดสินใจทำอะไรบางอย่าง
ละไมขับรถมาเรื่อยๆกระทั่งถึงหน้าโรงเรียนลูกโดยไม่รู้ตัว สตางค์ยืนรออยู่เห็นรถแม่แล้วลังเลไม่แน่ใจว่ามาพร้อมกับทองดีหรือเปล่า ละไมลงไปจูงลูกมาขึ้นรถแล้วเอ่ยถาม
“ไปกินไอศกรีมกันมั้ยลูก”
“ไปกับคุณ...พ่อทองดีหรือเปล่าครับ”
“สตางค์อยากไปหรือเปล่าล่ะ”
สตางค์เงียบเบือนหน้ามองออกไปยังนอกหน้าต่างรถอย่างรู้สึกหวาดกลัว ละไมเดาใจลูกถูกจึงเลิกคาดคั้น
เธอเลี้ยวรถเข้าจอดที่หน้าร้านไอศกรีมในเวลาถัดมา
“มองหาใครลูก”
“เปล่าครับ”
“มีอะไรจะบอกแม่มั้ย”
สตางค์ส่ายหน้า ท่าทางซึมๆไม่ร่าเริงเหมือนก่อน ละไมตัดสินใจถามลูกตรงๆ
“งั้นตอบแม่มา คุณทองดีเคยขู่อะไรลูกไหม”
สตางค์วางช้อนไอศกรีมก้มหน้าลงทันที ละไมเชยคางลูกให้มองหน้าเธอแล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“สตางค์ ลูกต้องเชื่อแม่ ไว้ใจแม่ บอกแม่มาคุณทองดีเคยขู่ลูกหรือเปล่า” เด็กชายพยักหน้าน้ำตาคลอเบ้า ละไมโอบลูกมากระชับไว้ในอ้อมกอดสงสารเขาจับใจ
ooooooo
ค่ำนี้...ธนูกำลังนั่งกินลูกชิ้นอยู่ด้านหนึ่งของตลาด ชิ้นเอ่ยปากแซววันนี้เห็นทีกรองแก้วคงไม่ได้ส่งปิ่นโตมื้อเย็น ปลัดถึงมานั่งกินลูกชิ้นแทนข้าว
ธนูว่ามาส่งบ่อยๆก็ไม่ดีเพราะอาจทำให้คนอื่นเข้าใจผิด ชิ้นหัวเราะแล้วถามหมายถึงละไมหรือ? ธนูไม่ทันตอบชิ้นชี้ให้เขาดู พุดกับเผือกกำลังถูกยอดกับนักสู้ต่างชาติล้อมกรอบอยู่
ยอดออกคำสั่งให้พุดไปพบนายทองคำกับตนเดี๋ยวนี้ พุดถามอย่างสงสัยว่ามีเรื่องอะไร ยอดว่าอยากรู้ก็ต้องไปด้วยตัวเอง
“ไอ้เผือก...เอ็งเอากับข้าวไปให้ป้าจวงกับพี่บุญสมนะ แล้วก็บอกด้วยว่า ฉันลาก่อน”
เผือกทำใจดีสู้เสือถามอย่างไม่เกรงกลัวว่าจะเอาพุดไปไหน ยอดพยักหน้าให้ลูกสมุน พวกมันตรงเข้าหิ้วแขนพุดกับเผือกลากไปยังรถกระบะที่รออยู่ด้านหนึ่ง ธนูเห็นท่าไม่ดีรีบเข้าขวาง ยอดหันมาปรามอย่ายุ่งไม่เช่นนั้นอาจทำให้นายทองคำไม่พอใจ
“ปลัดช่วยด้วย มันจะเอาฉันสองคนไปฆ่า”
“เขาไม่อยากไปก็อย่าบังคับเลยพี่”
“หมายความว่าปลัดจะประกาศตัวเป็นศัตรูกับท่านทองคำ”
“โอ๊ย! ใครจะไปกล้าเพียงแต่ฉันกลัวโดนนินทา... เวลาคนนินทาเยอะๆแล้วผื่นมันขึ้น”
ยอดพยักหน้าส่งสัญญาณให้ลูกสมุนจัดการทันที พวกมันดาหน้าเข้าหาธนูพร้อมกัน ธนูรับรุกอย่างคล่องแคล่ว สองนักสู้ชาวจีนขว้างมีดพุ่งใส่เขา ชิ้นเหวี่ยงถาดวางลูกชิ้นพุ่งขวางมีดไว้ ยอดหงุดหงิดไม่รู้ที่มาของถาด มันพยายามกวาดตามองหาไปโดยรอบ ในขณะที่พุดกับเผือกฉวยโอกาสวิ่งหนีหายออกไปท่ามกลางความมืด
ขณะธนูกำลังตกอยู่ภายในวงล้อมของบรรดาลูกสมุนทองคำ ยอดชักปืนออกมาเอ่ยอย่างผิดหวัง
“เสียใจด้วยนะปลัด ท่านทองคำบอกว่า...ใครขวางให้ยิงทิ้ง ปลัดอยากตายตรงนี้หรือว่าตายที่อื่น”
“มันก็บอกไม่ถูก”
“งั้นฉันเลือกให้ตายตรงนี้เลยละกัน”
“แกไม่มีสิทธิ์จะเลือกที่ตายให้ใคร เพราะแกมันก็แค่ลูกสมุนปลายแถวของคนชั่วอย่างไอ้ทองคำ”
ทุกคนหันไปมองเห็นเป็นบุญสม ที่ด้านหลังมีพุดกับเผือกยืนหายใจหอบอยู่ ยอดเล็งปากกระบอกปืน
หันไปหาบุญสมแทน ธนูใช้ความไวเตะปืนที่มือยอดจนกระสุนปืนลั่นใส่พวกมัน บุญสมกับธนูจับมือกันไล่ยำลูกสมุนและนักสู้ต่างชาติจนแพ้ถอยกลับไปไม่เป็นท่า ธนูหันมาจับคอเสื้อยอดไว้
“ขอโทษนะจ๊ะ พี่ยอดจ๋าราตรีสวัสดิ์” แล้วซัดหมัดใส่หน้ายอดจนสลบเหมือด
ลูกสมุนที่เหลือช่วยกันหามร่างยอดกลับไปหานายทองคำ เสือยิ่งมองสภาพน้องชายที่เกิดจากฝีมือธนูอย่างเคืองแค้น ทองดีถามพ่อเห็นอย่างนี้แล้วยังจะญาติดีกับธนูอีกหรือ ทองคำไม่ตอบคำถามลูกชายแต่เรียกสมุนมาสั่งงานด้วยแววตาเหี้ยมเกรียม
ooooooo
ธนูพักผ่อนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงคนเรียกให้เปิดประตู เขาชะโงกหน้ามองจากทางหน้าต่างเห็นชิ้นยืนอยู่ ชิ้นบอกเผลอเหวี่ยงถาดสกัดมีดพวกมันเลยกลัวนายทองคำตามมาเอาคืน ธนูพยักหน้าอนุญาตแล้วลงไปเปิดประตูให้
ด้านบุญสม เมื่อถึงบ้านรีบสั่งพุดกับเผือกให้ผลัดกันเฝ้าเวรยาม หากมีอะไรผิดปกติให้ไปปลุกเขาทันที จวงเห็นแต่ละคนท่าทางเหมือนมีลับลมคมใน จึงพูดกดดันจนบุญสมยอมเล่าเรื่องที่เกิดขึ้น
“ก็เท่านี้เอง ไม่เห็นน่าจะปิดบัง แม่จะไม่เป็นภาระให้ลูกอีกแล้ว ต่อไปนี้มีอะไรต้องบอกแม่ด้วย จะได้ช่วยกันแก้ไข”
“ผมไม่เคยคิดว่าแม่เป็นภาระ แม่เข้านอนเถอะจ้ะ ผมกับไอ้สองคนนี่จะคอยดูแลความปลอดภัยให้แม่เอง” จวงว่าอยู่ยามกันดึกๆคงหิวเดี๋ยวเธอเตรียมข้าวต้มไว้ให้
ท่ามกลางความเงียบสงัดของค่ำคืน เสือยิ่งพาสมุนจำนวนหนึ่งค่อยๆย่องลัดเลาะออกจากเงามืด แต่ละคนถือถังน้ำมันในมือกำลังเทไปรอบๆบ้าน
ธนูหลับสนิทด้วยความอ่อนเพลียเพราะผ่านการต่อสู้มาเมื่อตอนหัวค่ำ ส่วนชิ้นนอนกรนเสียงดังสนั่นอยู่ริมระเบียง จากเสียงกรนของชิ้นเริ่มเปลี่ยนเป็นสำลักควันแทน ธนูที่อยู่ในห้องสำลักควันเช่นกัน เขาเปิดประตูวิ่งออกมาหาชิ้นตรงระเบียง ทั้งคู่ช่วยกันมองหาทางหนีออกไป
ชิ้นเทน้ำบนผ้าห่มจนเปียกชุ่มแล้วคลุมหน้าตัวเองกับธนูไว้ก่อนที่จะวิ่งฝ่าควันไฟออกไปด้านนอก เสือยิ่งพร้อมสมุนจำนวนหนึ่งยืนถือปืนคุมเชิงอยู่กราดกระสุนเข้าใส่พวกเขาทันที ธนูกับชิ้นรีบหลบกลับเข้าไปใหม่ สองหนุ่มวิ่งฝ่าออกไปอีกด้านหนึ่ง ในขณะที่หลังคาได้ยุบตัวหล่นลงมาพอดี
ชิ้นพาธนูมาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านของเขาในเวลาต่อมา ธนูเป็นห่วงความปลอดภัยของบุญสมกับแม่จึงชวนชิ้นออกไปด้วยกัน
บริเวณสวนหลังบ้านบุญสม พุดกับเผือกกำลังกินข้าวต้มซึ่งจวงทำให้อย่างเอร็ดอร่อย ทองดีพาสมุนย่องเข้ามาทางด้านหลังเงียบๆ แล้วเอาปืนจ่อหัวพุดกับเผือกไว้ บังคับให้บุญสมเอาตำราพยัคฆ์ขาวไปแลกที่บ้านของนายทองคำ
บุญสมมาหาละไมที่ร้านในกลางดึกคืนนั้น ละเมียนเปิดประตูออกมาเห็นเป็นบุญสมก็ถามยียวน ไฟไหม้บ้านหรือถึงได้มาแหกปากตะโกน ละไมยื่นหน้ามาถาม บุญสมเอ่ยปากขอฝากแม่ไว้ที่นี่ ละเมียนไม่ทันมองว่าจวงมาด้วยรีบยกมือไหว้ขอโทษแล้วให้ทุกคนรีบเข้ามาข้างในก่อน เมื่อบุญสมเล่าเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น ละเมียนได้ทีหันมาพูดใส่หน้าพี่สาว
“ได้ยินแล้วใช่มั้ยคุณพี่ละไม ได้ยินแล้วใช่มั้ยว่าไอ้ทองเก๊มันชั่วร้ายแค่ไหน”
“หูฉันไม่ได้หนวก”
“แล้วยังจะมีเยื่อใยกับมันอีก”
ละไมขี้เกียจต่อปากต่อคำกับน้องสาว หันมาบอกบุญสมเธอจะไปบ้านนายทองคำพร้อมกับเขา บุญสมรีบแย้ง ละไมให้เหตุผลอย่างน้อยทองดีก็ต้องรู้สึกเกรงใจเธอบ้างแล้วขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า ละเมียนขอไปด้วยแล้วกลับเข้าห้องเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า จวงเร่งให้ลูกชายรีบไปก่อนที่สองพี่น้องจะลงมา บุญสมรู้ถึงอย่างไรสองคนนั่นก็ต้องตามไปอยู่ดี
“แม่บอกแล้วว่าอย่ามา เห็นมั้ยว่ามันเดือดร้อนกันไปหมดแล้ว”
ละไมอยู่ในชุดทะมัดทะแมงพร้อมกับปืนในมือ เธอสั่งละเมียนให้อยู่บ้านคอยดูแลจวงและทุกคนที่นี่
ละเมียนอดเป็นห่วงไม่ได้ กำชับบุญสมให้ดูแลพี่สาวเธอให้กลับมาอย่างปลอดภัย
“ผมเอาชีวิตผมเป็นประกันเลย” คำพูดของเขา ละเมียนฟังแล้วสะดุดหูอย่างไรชอบกล
ooooooo
ละไมกับบุญสมนั่งรอทองดีอยู่เงียบๆ รอบตัวมีลูกสมุนยืนคุมเชิงอยู่ ทองดีเดินมานั่งลงด้านหลัง มีเสือยิ่งกับเจอร์ราร์ดตามประกบ เขาเอ่ยแล้วปรายตามองบุญสมอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นมาพร้อมละไม
“ไม่ยักรู้ว่า เดี๋ยวนี้คุณมีการ์ดเป็นถึงปลัดอำเภอแล้ว แล้วทำไมถึงต้องเอาปืนมาด้วย นี่บ้านผม...คุณทองดีที่คุณมีอะไรก็เคยเก็บมาฟ้องนะครับ”
“ปลัดบุญสมไม่ใช่การ์ดฉัน ตรงกันข้าม ฉันมาเป็นเพื่อนเขา”
ทองดีหันไปถามเขาเอาตำราพยัคฆ์ขาวมาหรือเปล่า บุญสมไม่ตอบแต่หยิบตำรามาวางไว้ตรงหน้า ทองดีสั่งเสือยิ่งให้หยิบมาดู มันทำท่าขยับ บุญสมรีบคว้าตำรามาถือไว้บอกให้ปล่อยคนของเขามาก่อน
“อย่าบังอาจมาต่อรอง”
“คุณทองดี นึกว่าเห็นแก่ฉันเถอะค่ะ”
“ตกลง คุณกล้าขอ ผมก็กล้าให้ โดยมีข้อแม้ 1 อย่าง”
“อย่า คุณละไม ไม่ต้องรับปากมัน”
“อย่าสะเออะ แฟนเขาจะตกลงกัน แกมันแค่คนอื่น” แล้วหันมาบอกเธอแค่ออกเดตกันวันนี้ ละไมตอบตกลงอย่างไม่ลังเล
พุดกับเผือกนอนสลบไม่ได้สติ ที่หัวมีรอยเลือดแห้งกรัง สมุนทองดีลากทั้งคู่ออกมาโยนลงที่ลานหน้าบ้าน ละไมกับบุญสมจะรีบเข้าไปดู เสือยิ่งกระชากแขนเสื้อบุญสมรั้งไว้ เขาจึงหยิบตำราส่งให้มัน บุญสมบอกละไมต้องพาออกไปทีละคนให้เธอช่วยคุ้มกันให้เขาด้วย เมื่อบุญสมแบกร่างพุดขึ้นบ่า บรรดาสมุนตรงเข้าล้อมกรอบทันที
“หมายความว่ายังไง คุณทองดี”
“จะไม่มีใครออกไปไหนทั้งนั้น ผมมาคิดๆดูแล้ว เราน่าจะแต่งงานกันคืนนี้เลย”
“ฉันดูคุณผิดไปจริงๆ คุณฆ่าพ่อแม่ฉันใช่ไหม”
“จนถึงอย่างนี้แล้ว ก็ลองคิดเอาเองบ้างสิ”
ละไมขยับปืนแต่ช้ากว่าเสือยิ่ง มันกระชากปืนไปจากมือเธอและเอาปืนจ่อหัวเธอไว้ ทันใดนั้นแสงไฟจากสปอตไลต์สาดเข้ามา มีเสียงพูดผ่านโทรโข่งว่าทุกคนได้ถูกล้อมไว้หมดแล้ว เมื่อเสียงปืนดังขึ้น ระเบิดควันถูกปามายังจุดที่ทองดีกับลูกสมุนยืนอยู่ ทุกคนแตกตื่น บุญสมกับละไมฉวยจังหวะชุลมุนรีบพาร่างพุดกับเผือกออกไป
ที่หน้าลานวัด...ผู้กองเพชรพร้อมทุกคนช่วยกันพาร่างพุดกับเผือกลงจากรถบรรทุกของวัดเพื่อมาขึ้น รถปิกอัพอีกคันที่จอดอยู่
ธนูกับผู้กองฝากเด็กวัดไปบอกหลวงพ่อ พรุ่งนี้พวกเขาจะเข้าไปกราบขอบคุณ ละไมกับบุญสมมองร่างพุดกับเผือกที่ยังไม่ได้สติอย่างกังวล ธนูรีบขับรถมุ่งหน้าไปยังโรงพยาบาลทันที
ละไมกลับเข้าบ้านในเวลาต่อมา เธอบอกทุกคนปลอดภัยดีแล้วขอตัวขึ้นไปพัก ละเมียนเห็นท่าทางเหนื่อยล้าของพี่สาวจึงไม่กล้าซักไซ้ เมื่อละไมเข้าห้องก็เอาแต่ร้องไห้เสียใจที่โดนทองดีหลอกลวงมาโดยตลอด
ooooooo
รุ่งเช้าบุญสมหิ้วโจ๊กมาฝากละไมที่ร้าน เขาชะงักเมื่อละเมียนเอ่ยชวนธนูออกไปหาอะไรกินกันข้างนอก จวงเมื่อเห็นหน้าลูกก็รบเร้าขอกลับบ้าน ละไมว่าให้อยู่ที่นี่ปลอดภัยกว่า สตางค์ยืนฟังอยู่เร่งแม่ให้รีบไปส่งเดี๋ยวไปโรงเรียนไม่ทัน บุญสมจึงอาสาไปส่งให้
บุญสมขับรถพาสตางค์ไปส่งโรงเรียนโดยมีละไมนั่งคู่ไปด้วย เมื่อเดินไปส่งเด็กชายเข้าประตูโรงเรียนจนปลอดภัยดีแล้ว ขณะละไมเดินกลับมาที่รถ ศรีไพรรีบขวางแล้วยื่นช่อดอกไม้ของทองดีส่งให้ แต่ถูกเธอปฏิเสธอย่างไม่ไยดี
ทองดีเสียหน้าอุตส่าห์ส่งช่อดอกไม้ไปงอนง้อแล้วกลับไม่ได้ผล แต่แล้วจู่ๆ ละไมกับละเมียนก็มาหาเขาที่หน้าบ้าน ทองดีออกมาพร้อมเสือยิ่งและเจอร์ราร์ด เมื่อเจอหน้าละไมถอดแหวนปาใส่หน้าเขาทันที ทองดี คาดไม่ถึงแต่ยังพยายามง้อขอคืนดี โดยที่ไม่มีใครคาดคิด สองพี่น้องชักปืนที่เตรียมมายิงกราดใส่ทองดีกับพวกด้วยความแค้น แต่กระสุนพลาดเป้า พวกมันคอยหลบพร้อมหาจังหวะ
สองพี่น้องยิงจนหมดกระสุนแต่ไม่โดนสักนัด พวกมันกำลังย่างสามขุมเข้าหา จังหวะนั้นบุญสมขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงพอดี โดยมีธนูตามมาติดๆ บุญสมให้ละเมียนพาพี่สาวหนีออกไปก่อนแต่ละไมไม่ยอม บุญสมกับธนูตรงเข้าต่อสู้กับพวกของทองดี เสือยิ่งฉวยโอกาสเล็งปืนใส่ธนู แต่กระสุนปริศนาพุ่งมาเฉียดมือเสือยิ่งจนได้เลือด เสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันหลายนัด ทุกคนต่างแยกย้ายกันหนีเอาตัวรอด
เมื่อทองดีหนีกลับเข้าบ้านมาได้ก็บ่นกับพ่ออย่างแค้นใจที่ละไมตบหน้าด้วยการเอาแหวนมาคืน ทองคำยุให้ลูกฉุดละไมกับละเมียนมาทำเมียเพื่อเย้ยทั้งธนูและบุญสมให้เจ็บใจเล่น ทองคำยังไม่หายสงสัยเกี่ยวกับกระสุนปริศนาที่ยิงกราดเข้ามา
“มันต้องเป็นคนในพื้นที่ แล้วก็ต้องว่องไวมาก ถึงได้หายตัวไปอย่างรวดเร็ว”
ทองคำนึกอะไรขึ้นมาได้ หันมาสั่งสมุนให้ตามไปเก็บญาติของชูที่ย้ายไปอยู่เสนาให้สิ้นซากจะได้หมดพยานเสียที
ooooooo
หลังจากบ้านพักถูกไฟไหม้ ธนูจำต้องระเห็จมาพักกับชิ้นเป็นการชั่วคราว วันนี้กรองแก้วมาหาเขา เพื่อชวนไปกินข้าวที่บ้าน ธนูปฏิเสธบอกมีธุระ แล้วคว้ามอเตอร์ไซค์ที่ผู้กองเพชรเอามาให้ยืมขี่ออกไป
กรองแก้วกลับมาบ้านอย่างผิดหวัง เห็นละเมียนกับละไมมารอเพื่อขอให้เธอสอนมวย ทีแรกเธอปฏิเสธแม้ละไมจะพยายามหยิบยื่นเงินเป็นค่าสอน แต่แล้วกรองแก้วนึกอะไรขึ้นได้รีบยื่นข้อเสนอ ขอธนูจากละไมเพื่อแลกกับการสอนมวย ละไมชะงักแล้วตอบตกลง กรองแก้วไล่สองพี่น้องให้กลับไปก่อนแล้วค่อยมาเรียนในตอนเย็น ทองก้อนไม่รู้ในสิ่งที่ลูกสาวเรียกร้อง เขาพึมพำกับตัวเองอย่างภูมิใจ
“หายากจริงๆ คนที่ให้ผู้อื่นโดยไม่ต้องการสิ่งตอบแทน ช่างสมกับเป็นลูกของพ่อเหลือเกิน”
ทางด้านทองคำย้อนเกล็ดผู้กองเพชรอย่างเจ็บแสบ ด้วยการแจ้งความจับเขาพร้อมพรรคพวกในข้อหาบุกรุก แต่ทุกคนกลับรอดพ้นจากข้อกล่าวหา เมื่อหลวงพี่พาลูกศิษย์วัดไปเป็นพยานว่าทองดีพร้อมพวกจับตัวพุดกับเผือกไปกักขัง ทองคำจำต้องรีบถอนแจ้งความ อ้างอาจเป็นการเข้าใจผิด
พุดกับเผือกมาหาจวงที่ร้านของละไม เบียบเห็นเข้าก็ตำหนิกลัวคนจะรู้ว่าจวงอยู่ที่นี่ จวงบังคับให้พุดกับเผือกพาเธอกลับบ้าน ละไมรู้รีบเข้าห้าม แต่จวงยังคงยืนกรานเอ่ยอย่างปลง คนเราหนีความตายไปไม่พ้น อยู่ที่ไหนก็ต้องตายเหมือนกันจึงตัดสินใจขอกลับไปตายที่บ้าน ละเมียนจนปัญญาเลยอาสาจะไปส่งให้
ooooooo










