สมาชิก

เจ้าสัวมั่วนิ่ม

เจ้าสัวมั่วนิ่ม
  • แนว:

    โรแมนติก-ดราม่า

  • บทประพันธ์โดย:

    เกตุวดี

  • บทโทรทัศน์โดย:

    ชมนาด

  • กำกับการแสดงโดย:

    วีรภาพ สุภาพไพบูลย์

  • ผลิตโดย:

    บริษัท มากกว่าฝัน จำกัด

  • ช่องออกอากาศ:

    สถานีโทรทัศน์ช่อง 7

  • นักแสดงนำ:

    พงศกร โตสุวรรณ,พัชญา เพียรเสมอ,บารมิตา สาครจันทร์

เรื่องย่อละคร

อดีต เขาคือคนชอบสร้างปัญหาให้กับผู้อื่น แต่แล้วปัญหาที่เขาก่อก็นำพาให้เขารู้ “ความลับ” อันยิ่งใหญ่
แล้วเขาจะทำเช่นไร...ในเมื่อเขาย้อนกลับไปแก้ไขอดีตไม่ได้ และ “ความลับ” นั้นก็พาให้เขามาพบกับหายนะ  โดยมีชีวิตของใครหลายคนเป็นเดิมพัน




เขาคนนั้นคือ พารณ  ภูวนาทนลินรัตน์ (พงศกร โตสุวรรณ) ลูกชายคนเดียวของ เจ้าสัวสมภพ (มนตรี เจนอักษร) ผู้ก่อตั้ง “ภูวนาทนลินกรุ๊ป” เจ้าของธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ตอันดับหนึ่งของเมืองไทย  พารณถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจทำให้เขาเป็นคนที่ไม่เคยกลัวใคร และคิดเสมอว่า ‘ทุกคนต้องกลัวกู’ โดยเฉพาะพวกที่มีฐานะต่ำต้อยกว่า

ดังนั้นพารณจึงไม่ยอมจ่ายเงินค่าเสียหายก้อนใหญ่ตามที่เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวข้างทางที่พารณขับรถแข่งกับคู่อริแล้วเสียหลักพุ่งชนเข้า เมื่อตกลงกันไม่ได้จนเกิดปากเสียงใหญ่โต  พารณก็จบปัญหาด้วยการสั่งให้ ธวัช (ณัฐชนน ภูวนนท์) เพื่อนที่มีทุกอย่างให้ยกเว้นความจริงใจช่วยกันเล่นงานเจ้าของร้าน เพราะ สุธาสินี หรือ แน็ต (พัชญา เพียรเสมอ) นักออกแบบสวยมาห้ามไว้ และเธอก็ช่วยเป็นพยานให้เจ้าของร้านเอาเรื่องพารณให้ถึงที่สุด !

พารณรู้จักกับแน็ตมาตั้งแต่เด็กเพราะครอบครัวรู้จักกัน  แน็ตแอบหลงรักพี่พารณคนแสนดีที่คอยช่วยปลอบใจเธอในวัยเด็ก  จนกระทั่งแน็ตรู้ว่าคำปลอบโยนแสนดีที่เขาพูดออกมานั้นเป็นเพียงคำลวงเพื่อตัดความรำคาญ  แน็ตรู้สึกผิดหวังในตัวพารณมากจึงความรักจึงกลายเป็นความเกลียดชัง  แน็ตจึงไม่ยอมแต่งงานกับเขาตามความต้องการของผู้ใหญ่ แม้รู้ว่าเงินของเขาจะช่วยกอบกู้ร้านจิวเวอร์รี่และช่วยให้ฐานะทางครอบครัวของเธอให้กลับมาร่ำรวยเหมือนเดิม  แน็ตเชื่อว่าความสุขไม่ได้เกิดจากเงินทอง แต่ความสุขเกิดจากการที่เราสามารถยืนได้ด้วยตัวเอง โดยไม่หวังพึ่งพาใคร  ด้วยความคิดที่แตกต่างทำให้แน็ตกับ คุณมาลินี แม่ของเธอจึงมีความคิดที่ขัดแย้งกันอยู่เสมอ

เพราะคุณมาลินีอยากได้ว่าที่เจ้าสัวคนใหม่แห่งภูวนาทกรุ๊ปอย่างพารณเป็นลูกเขยใจแทบขาด ทั้งที่รู้ดีแก่ใจว่าพารณแอบ “กิน” กับ เฟื่องรัตน์ (ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด) หญิงสาววัยกระเต๊าะลูกสาวของ คุณทิพย์ แม่บ้านเก่าแก่ประจำคฤหาสน์ เจ้าสัวรู้ดีเรื่องพารณกับเฟื่องรัตน์ แต่เขาก็แกล้งทำเป็นไม่รู้ เพราะไม่อยากขัดใจลูกชาย และไม่กล้าไล่เฟื่องรัตน์ออกไปจากบ้าน  เพราะเกรงใจคุณทิพย์

ปัญหาทุกเรื่องที่พารณสร้างไว้จะมี ประมุข (คมกฤษณ์ ดวงสุวรรณ์) คอยตามเก็บกวาดให้  ประมุขเป็นหลานชายแท้ๆของเจ้าสัวสมภพที่เกิดจากน้องสาวใฝ่ต่ำที่ไปคว้าโจรมาเป็นสามี ประมุขจึงเกิดมาจากสลัมและมีเพื่อนชื่อ ก้องภพ เมื่อประมุขอายุได้12ปี พ่อแม่ของประมุขก็ถูกโจรด้วยกันยิงตาย  เจ้าสัวจึงรับอุปการะประมุขเพื่อหวังให้เป็นเพื่อนเล่นกันลูกชาย  แต่ประมุขกลายเป็น “ที่รองมือรองเท้า” ของพารณมาตั้งแต่เด็กจนโต  ทุกคนรอบตัวรวมทั้งแน็ตต่างชื่นชมความกตัญญูที่ประมุขมีแต่ครอบครัวนี้  ทั้งที่ความจริงแล้ว...ภายใต้ใบหน้าหล่อซื่อคนดี  ประมุขคือคนจิตใจเลวทราม  เขาทำได้ทุกอย่างเพื่อความต้องการตัวเอง และสิ่งที่เขากำลังคิดทำอยู่ในเวลานี้ คือ ฆ่าพารณ

เหตุเพราะเจ้าสัวมีความคิดที่จะยกตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทให้พารณ  เจ้าสัวคิดว่าการที่มอบตำแหน่งใหญ่ให้พารณ อาจจะทำให้พารณมีความรับผิดชอบและรู้จักโตขึ้น  ประกอบกับพารณดันรู้เรื่องเข้าว่าเขากับ แจ่มจันทร์ (ธัญสินี พรมสุทธิ์) เลขาฯส่วนตัวที่มีความสัมพันธ์กับเขามากกว่าเจ้านายลูกน้องร่วมมือกันยักยอกเงินบริษัทมานานหลายปี  ประมุขต้องรีบปิดปากพารณด้วยการหลอกพาพารณไปต่างจังหวัด  แล้วให้ก้องภพจัดการซ้อมพารณอย่างหนักรวมทั้งตีหัวพารณหลายครั้งจนคิดว่าเขาตายแล้ว หลังจากนั้นก้องภพก็ถอดเสื้อผ้าของพารณออกหมดทั้งตัวเตรียมฝังดิน แต่มีคนส่งเสียงดังผ่านมาแถวนั้น ก้องภพจึงเปลี่ยนใจเผาร่างพารณกับกองเสื้อผ้าแล้วรีบหนีไปโดยไม่ทันได้ดูว่าผลงานชิ้นโบว์แดงของตัวเองเป็นอย่างไร

พารณหายตัวไปนานเกือบสัปดาห์  ก่อนที่ตำรวจจะติดต่อมาว่าพบมีคนไปพบพารณอยู่ในป่า  ตอนนี้เขารักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง  ข่าวนี้สร้างความตกใจให้กับประมุขอย่างที่สุด เพราะถ้าพารณรอดปลอดภัยกลับมา คนที่จะซวยก็คือเขา !

ทว่าเหมือนโชคยังเข้าข้างประมุข เพราะพารณกลับกลายเป็นคนความจำเสื่อม จำเรื่องราวของตัวเขาเองและจำใครไม่ได้เลย  มิหนำซ้ำพารณยังกลับกลายเป็นคนที่มีจิตใจดีขึ้นกว่าเดิมราวฟ้ากับก้นเหว แต่ประมุขก็มีความกลัวว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้  พารณแกล้งทำ ประมุขจึงหาทางพิสูจน์จนเขาเชื่อว่าพารณคนชาติชั่วไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว

เมื่อพารณกลับมาอยู่ในคฤหาสน์  เขาก็เริ่มเรียนรู้ตัวตนของตัวเองมากขึ้นจากสิ่งแวดล้อมและคำบอกเล่าของคนรอบข้าง รวมทั้งแน็ต  แน็ตถูกเจ้าสัวขอร้องให้มาช่วยดูแลพารณชั่วคราว เพราะเจ้าสัวรู้ดีว่าแน็ตคือคนสำคัญของพารณ  ความสุขใจเมื่อได้อยู่ใกล้แน็ตอาจจะทำให้พารณกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม แน็ตก็ยอมมาเพราะเห็นแก่คำว่ามนุษยธรรม  

แล้วพารณก็รู้ว่าเขาเคยเป็นคนนิสัยไม่ดีมากๆ และเคยสร้างความเดือดร้อนไว้กับคนอื่นไว้อย่างมากมาย  อาทิเช่น  ไล่พนักงานวัยชราที่โรงแรมออกเพราะลากกระเป๋าของแขกมาชนขาของเขา พนักงานคนนั้นเลยต้องจำใจไปจี้ปล้นเพื่อหาเงินมารักษาลูกที่ป่วยหนัก  ดังนั้นพารณจึงไปพาลุงคนนั้นกลับเข้ามาทำงาน โดยได้รับความช่วยเหลือจากแน็ต  ทำให้พารณค่อยๆกลายเป็นที่รักของคนรอบตัว

ขณะที่แน็ตก็เริ่มมองพารณในแง่ดีมากขึ้น ความใกล้ชิดสนิทสนมก่อเกิดความรักขึ้นมาอย่างเงียบๆ อาการอินเลิฟไม่รู้ตัวของแน็ตอยู่ในสายตาของประมุข  ประมุขอยากรู้ว่าแน็ตเป็นอะไรจึงไปถามจาก มณียา  (บารมิตา สาครจันทร์)วัยรุ่นสาวจอมขยันที่แน็ตรับเข้ามาช่วยงานทำสวนเป็นพาร์ทไทม์ ประมุขเคยรู้จากแน็ตว่ามณียาทำงานตัวเป็นเกลียวหัวเป็นน็อตเพราะต้องหาเงินไปรักษาพ่อที่ป่วยเป็นพิษสุราเรื้อรัง และรักษาพี่ชายนอนเจ็บเป็นเจ้าชายนิทรามานานหลายเดือน ประมุขจึงเอาเงินล่อให้มณียาช่วยเป็นสายสืบให้เขา มณียารับเงินไว้ แต่ไปฟ้องแน็ต ประมุขจึงไม่เคยได้ความจริงจากมณียาเลย

พารณเห็นว่าเจ้าสัวชรามากแต่ยังต้องทำงานหนัก เขาเริ่มคิดทำงานอย่างจริงจัง จึงขอให้คุณอาวันชัย เลขาฯประจำตัวของเจ้าสัวสมภพเป็นผู้ช่วย และน่าแปลกมากที่พารณเรียนรู้งานได้อย่างเร็ว  มิหนำซ้ำเขายังสามารถวาดแปลนออกแบบรีสอร์ตใหม่ของโรงแรมได้อย่างเป็นมืออาชีพทั้งที่เขาไม่เคยเรียนมา และทุกครั้งที่พารณจับปากกาวาดรูป...เขามักจะเห็นภาพตัวเองนั่งวาดรูปอยู่ที่ใดที่หนึ่ง เห็นตัวเขาอยู่ท่ามกลางเด็กเล็กมอมแมมมากมาย  แต่เขารู้ว่าตัวเขาเกลียดเด็กมาก แล้วภาพเหล่านั้นมันคืออะไร??

เฟื่องรัตน์ยังคงพยายามเข้าไปหาพารณทั้งที่เขาปฎิเสธเธอมาตั้งแต่วันแรกที่เขาออกจากโรงพยาบาล  พารณจึงต้องขอความช่วยเหลือจาก ข้าวปุ้น ลูกชายอารมณ์ดีของ ป้าเม่า แม่ครัวประจำคฤหาสน์มาช่วยเป็นไม้กันหมาให้เข้าไปนอนในห้องเขาทุกคืน ป้าเม่ารู้ถึงพฤติกรรมของเฟื่องรัตน์จึงพูดสั่งสอนเฟื่องรัตน์อย่างตรงไปตรงมาและนำไปเล่าให้คนอื่นฟังตามสไตล์ “ป้าเม่าไม่ได้เม้า ป้าแค่เล่าให้ฟัง”  เฟื่องรัตน์รู้เข้าจึงเกิดสงครามน้ำลายของชะนีสองวัยจนกลายเป็นเรื่องใหญ่โตรู้ไปถึงหูของเจ้าสัว

เจ้าสัวไม่สบายใจเรื่องเฟื่องรัตน์กับพารณ ครั้นจะไล่เฟื่องรัตน์ออกไปจากบ้าน เจ้าสัวก็มีความเกรงใจทิพย์  ดังนั้นเจ้าสัวจึงขอให้พารณแต่งงานกับแน็ต  พารณตกลงเพราะความสนิทสนมที่ผ่านมาทำให้เขารักแน็ต ส่วนแน็ตที่เคยยืนกรานปฎิเสธเพราะรังเกียจพารณ กลับยอมตอบตกลงเพราะแน็ตเคยหลงรักพี่พารณคนแสนดีมาก่อน

ทางด้านประมุขไม่พอใจสุดขีดเรื่องพารณกับแน็ตจะแต่งงานกัน ประกอบกับตอนนั้นพารณเริ่มสงสัยผลงานในบริษัท เขาจึงวางแผนกับก้องภพฆ่าพารณอีกครั้ง ด้วยการให้ก้องภพขับรถไล่ยิงพารณในระว่างที่พารณ แต่รถยางระเบิด รถพลิกคว่ำ พารณได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะ แต่เขาก็ทิ้งรถวิ่งหนีไปจนเจอป้ายโรงเรียน เจอชิงช้าสีแดงใหม่เอี่ยม...ความจำทั้งหมดของพารณกลับคืนมา

เขาจำได้แล้วว่าเขาไม่ใช่พารณ ภูวนาทนลินรัตน์ แต่เขาคือ นายพรต  โอบเอื้อ สถาปนิกหนุ่มผู้มุ่งมั่นทำงานเพื่อสังคม  เขามีหน้าตาเหมือนพารณทุกประการ !

พรตจำได้อีกด้วยว่าในช่วงเย็นของคืนวันเกิดเหตุ  เขากำลังเดินสำรวจพื้นที่โรงเรียนประถมใกล้บ้านเขา เพื่อออกแบบการปรับปรุงโรงเรียนก่อนจะนำเสนอขอทุนจากองค์กรต่างๆ  แล้วเขาก็เจอวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งกำลังยัดเยียดยาเสพติดให้เด็กชายวัยประถม  พรตเข้าไปห้าม ในค่ำวันนั้นเขาจึงถูกพวกแก๊งวัยรุ่นตามรุมกระทืบจนสภาพยับเยิน  พรตวิ่งหนีพวกวัยรุ่นผ่านเสาชิงช้าในโรงเรียน เข้าไปในป่าหลังโรงเรียน แล้วเขาก็เจอ “ใครบางคน” นอนสลบอยู่ท่ามกลางกองไฟ  พรตถอดเสื้อตัวเองออกเอามาตบไฟที่กำลังลุกไหม้ตัวคนนั้น  แล้วเขาคนนั้นก็รู้สึกตัวขึ้นมาในอาการหวาดผวาผลักพรตอย่างแรงแล้ววิ่งหนีหายไป ส่วนพรตหงายหลังล้มหัวฟาดพื้นอย่างแรง เขาจึงนอนสลบอยู่ตรงนั้นก่อนจะมีคนมาพบเข้าและคิดว่าเขาเป็นพารณ

พรตรีบกลับไปยังบ้านของ ลุงฟุ้ง ชายชราขี้เมาที่เก็บเขามาเลี้ยงตั้งแต่เกิด และลุงฟุ้งก็คือพ่อของมณียานั่นเอง  ส่วนพี่ชายที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราที่มณียาดูแลอยู่ก็คือ พารณตัวจริงที่มณียาคิดว่าเป็นพรต  มณียากับลุงฟุ้งแทบช็อคเมื่อเห็นว่ามี “พรตอีกคน”  พรตจึงเล่าความจริงทั้งหมดให้ฟัง

พรตกำลังจะกลับไปที่คฤหาสน์ของเจ้าสัวเพื่อบอกความจริงกับทุกคน  แต่ระหว่างทางคุณอาวันชัย โทรมาบอกพรตว่า...เขาได้หลักฐานมาแล้ว เป็นเอกสารการเงิน คลิปเสียงประมุขเสนอกับหุ้นส่วนในบริษัทว่าถ้า ลูกชายคนเดียวหายตัวไป ในอนาคตเมื่อเจ้าสัวตาย ประมุขจะเป็นคนรับสืบทอดมรดกรวมทั้งกิจการของโรงแรม เขาจะขายหุ้นให้หุ้นส่วนเพิ่มมากขึ้นอีกคนละเท่าตัว โดยแลกกับการที่ทุกคนต้องช่วยกันบีบให้เจ้าสัวยกตำแหน่งประธานกรรมการให้กับเขา  นั่นเท่ากับว่าประมุขคิดจะฮุบทุกอย่างมาเป็นของตัวเองจริงๆ และพรตก็มั่นใจว่าเขากำลังคิดฆ่าเจ้าสัวเหมือนที่ฆ่าพารณ  พรตตัดสินใจจะนำหลักฐานไปกระชากหน้ากากประมุข แต่ทันใดนั้นคุณอาวันชัยก็ถูกคนร้ายลอบยิงเสียชีวิต  หลักฐานทั้งหมดถูกขโมยไปเสียเฉยๆ  พรตแน่ใจว่าเป็นฝีมือของประมุข  พรตไม่ต้องการให้คุณอาวันชัยตายฟรี และไม่ต้องการให้มีใครเดือดร้อนเพราะประมุข  พรตจึงตัดสินใจสวมรอยเป็นพารณต่อไป เพื่อหาหลักฐานมากระชากหน้ากากประมุข

พรตให้เงินมณียาพาพารณไปหาหมอในโรงพยาบาลดีๆ จนกระทั่งพารณรู้สึกตัวขึ้นมาเจอพรตก็ตกใจ ไหนจะสภาพแย่ๆของตัวเองอีก ทำให้พารณกลายเป็นหมาบ้าอาละวาด พรตกับมณียาต้องงัดไม้เด็ดทุกกลเม็ดมาจัดการกับพารณ  พรตอยู่ใกล้พารณไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคนรอบข้างพารณถึงได้เกลียดพารณนัก

พรตเล่าความจริงทุกอย่างให้พารณฟัง และหว่านล้อมให้พารณกลับไปรักษาตัวที่บ้านลุงฟุ้ง โดยขอให้มณียาคอยดูแล  มณียาตกลงเพราะเธอรักพรตมานานแล้ว

พารณอาศัยอยู่ในบ้านไม้เก่าๆของลุงฟุ้ง ในช่วงแรกเขายังเคยชินกับชีวิตลูกคุณหนู จึงทำตัวเรื่องมาก ร่ำร้องจะใช้ชีวิตหรูอยู่สบาย  แต่นานวันเข้า พารณได้เห็นความลำบากในชีวิตของมณียา เด็กสาวตัวเล็กนิดเดียวแต่มีภาระหนักอึ้ง  ไหนจะต้องดูแลเขา เรียนหนังสือ หาเงินมารักษาลุงฟุ้งที่ป่วยเป็นพิษสุราเรื้อรัง  แต่มณียาไม่เคยทำตัวสร้างปัญหาให้ใคร หรือแม้กระทั่งตัวเอง  เธอไม่เคยมานั่งดราม่าเศร้าเคล้าน้ำตาน้อยใจชะตาชีวิตของตัวเอง  หัวใจที่แข็งกระด้างของพารณค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปเพราะมณียา

ทางด้านพรตอยากจะยกเลิกงานแต่งของพารณกับแน็ต  เพราะตอนนี้เขาไม่ใช่ “พารณผู้ชายที่แน็ตประทับใจมาตั้งแต่เด็ก” แล้ว  แต่ว่ายกเลิกงานไม่ทัน พรตต้องเข้าพิธีกับแน็ตด้วยสีหน้าอึดอัดลำบากใจ ทำให้แน็ตรู้สึกไม่ดีเลย มิหนำซ้ำหลังเข้าห้องหอ  พรตไม่แตะต้องตัวแน็ตเลย  แน็ตแปลกใจมากว่าเกิดอะไรขึ้น

แน็ตสังเกตเห็นว่าสามีของเธอกับมณียาดูสนิทสนมกันมาก ทำให้แน็ตคิดไปว่าเขารักมณียา แน็ตจึงไม่พูดกับเขาอีกเลย  พรตเองก็เป็นฝ่ายทำใจแข็งกับแน็ตไม่ได้ จึงคอยตามไปง้อเธอ มิหนำซ้ำยังมีเพื่อนรุ่นพี่สุดหล่อของแน็ต  มายุ่งเกาะแกะกับแน็ต  พรตหึงมาก ทั้งสองทะเลาะกันแล้วเผลอมีอะไรกันด้วยความหวานสุดโรแมนติก

ในวันถัดมาแน็ตคว้าต้นกุหลาบที่ ‘พารณ’ เคยแพ้จนเป็นตุ่มขึ้นทั้งตัวโยนใส่เขา แต่ครั้งนี้เขากลับไม่กลัวและไม่แพ้มันเลย ประกอบกับแน็ตเพิ่งรู้จากเจ้าสัวว่าความจริงแล้วพารณมีแฝด แต่เด็กถูกคนร้ายลักพาตัวไปจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่รู้ชะตากรรม แน็ตจึงเริ่มเอะใจว่าสามีของเธอจะไม่ใช่พารณ

ไม่ใช่แค่แน็ตที่สงสัย เพราะประมุขก็เริ่มสงสัยเรื่องนี้เช่นกัน  เพราะประมุขได้ยินสิ่งที่เจ้าสัวเล่าให้แน็ตฟังเรื่องฝาแฝด  ประมุขคิดทบทวนว่าพารณคนใหม่ที่มีความฉลาดรู้เท่าทันเขา และคอยจับผิดเขาอยู่อย่างในทุกวันนี้อาจจะไม่ใช่ไอ้พารณตัวจริง  และถ้าเป็นเช่นนั้น  คงไม่มีหุ้นส่วนคนไหนยอมให้ ‘พารณตัวปลอม’ อยู่ในตำแหน่งใหญ่เหมือนเดิม

ประมุขรู้จากเฟื่องรัตน์ว่า ‘พารณ’ มีไฝเม็ดใหญ่อยู่ที่เอว ประมุขจึงคิดแผนแฉในงานเลี้ยงใหญ่โตว่า‘พารณ’ ไม่ใช่ตัวจริง แต่เมื่อเปิดเสื้อของ ‘พารณ’ ขึ้นมาปราฎว่ามีไฝอยู่ที่เอวของเขา! แผนแฉของประมุขไม่สำเร็จเพราะพรตรู้เรื่องเข้าเสียก่อน  เขาจึงสลับตัวกับพารณที่รักษาตัวเกือบจะเป็นปกติแล้ว  พรตสั่งพารณไว้ว่าห้ามทำอะไรผลีผลามเด็ดขาด แต่พารณก็ยังกระหน่ำชกหน้าประมุขด้วยความคับแค้น  กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่พรตต้องตามมาแก้ไขในภายหลัง  

ในงานนั้นแน็ตอยู่ในงานด้วย  แน็ตกลับเป็นฝ่ายจำได้ว่าในคืนนั้นที่เธอมีอะไรกับ ‘พารณ’ เธอไม่เห็นไฝอยู่ที่เอวเขาเหมือนอย่างในวันนี้  แน็ตสะกดรอยตามสามีของเธอไปจนถึงบ้านของมณียาแล้วพบพารณกับพรตพร้อมกัน พรตเลยต้องเล่าความจริงทั้งหมดให้แน็ตฟัง รวมทั้งเรื่องความเลวของประมุขด้วย  แน็ตจึงขอเป็นคนหนึ่งที่จะช่วยกระชากหน้ากากของประมุข และเธอก็รู้ดีว่าใครจะเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุด

ก่อนหน้านี้แน็ตเคยช่วยแจ่มจันทร์จากการที่แจ่มจันทร์ถูกประมุขซ้อมจนแท้ง เหตุเพราะแจ่มจันทร์โวยวายเรื่องที่ประมุขเอาเฟื่องรัตน์มาเลี้ยงดูเป็นเมียอีกคน   แน็ตช่วยเหลือแจ่มจันทร์มาจนถึงทุกวันนี้ แน็ตจึงไปกล่อมให้แจ่มจันทร์บอกหลักฐานที่จะเอาผิดคนเลวอย่างประมุข แล้วแจ่มจันทร์ก็ให้ความร่วมมือ

พรตกับแน็ตนำหลักฐานที่แจ่มจันทร์บอกมาไปแจ้งความจับประมุข  ประมุขกับไอ้ก้องภพต้องหนีหัวซุกหัวซุน แล้วพวกมันก็ย้อนกลับมาแก้แค้น “ไอ้แฝดนรก”  หลังจากที่พารณกับพรตกลับไปบอกความจริงให้เจ้าสัวรู้  และเจ้าสัวก็บอกว่าที่ผ่านมาเขาก็รู้แล้วเช่นกัน แต่เขายังไม่พูดออกไปเพราะอยากให้พารณได้เรียนรู้ชีวิตที่ลำบากอยู่กับครอบครัวของมณียา และอยากให้สองพี่น้องได้ช่วยเหลือกัน

ประมุขกำลังจะเล่นงานพารณและพรตพร้อมกัน  แต่แน็ตก็เลือกที่จะเข้าไปปกป้องพรต นั่นก็เป็นการยืนยันให้พรตแน่ใจแล้วว่าแน็ตรักเขาไม่ใช่พารณ แล้วคนที่มาฆ่าประมุขก็คือ แจ่มจันทร์ เพราะเธอยังแค้นที่ประมุขฆ่าลูกเธอตาย

สถานการณ์คลี่คลายลง  ก้องภพกับแจ่มจันทร์ชดใช้กรรมในคุก  เฟื่องรัตน์ไปเริ่มชีวิตใหม่กับสามีฝรั่ง โดยที่เจ้าสัวรับลูกของเฟื่องรัตน์ไว้ในฐานะหลานแท้ๆ  ลุงฟุ้งเสียชีวิตลงเพราะโรคพิษสุราเรื้อรัง  พารณชวนมณียาผู้หญิงที่เปลี่ยนแปลงความคิดและหัวใจของเขาไปเรียนต่อต่างประเทศด้วยกัน  และพารณก็ขอให้เจ้าสัวสมภพมอบตำแหน่งเจ้าสัวคนใหม่ให้กับแฝดพี่ของเขา

นับจากนั้นพรตก็ได้ครองรักกับแน็ตที่กำลังตั้งท้องลูกให้เขา...ในฐานะที่เขาเป็นเจ้าสัวตัวจริง ไม่ใช่   “เจ้าสัวมั่วนิ่ม” อีกต่อไป...ติดตามชมความสนุกละครเรื่อง "เจ้าสัวมั่วนิ่ม" ได้ทุกวันจันทร์–ศุกร์ เวลา 18.50 น. ทางช่อง 7 เริ่มตอนแรก 16 ต.ค. นี้

รายชื่อนักแสดงเรื่อง "เจ้าสัวมั่วนิ่ม"

พงศกร โตสุวรรณ รับบท ฝาแฝด พรต/พารณ

พัชญา เพียรเสมอ รับบท แน็ต สุธาสินี

บารมิตา สาครจันทร์ รับบท มณียา

ธัญสินี พรมสุทธิ์ รับบท แจ่มจันทร์

คมกฤษณ์ ดวงสุวรรณ์ รับบท ประมุข

ภัทรานิษฐ์ คำกำพุด รับบท เฟื่องรัตน์

มนตรี เจนอักษร รับบท เจ้าสัวสมภพ

ณัฐชนน ภูวนนท์ รับบท ธวัช

ละครแนะนำ

ใจขังเจ้า

ข่าวละครวันนี้ดูทั้งหมด